Search result for

*dip*

   
Languages
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: dip, -dip-
Some results are hidden.
configure
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
dip(n) การจุ่ม, See also: การแช่, Syn. dip, dive, plunge, Ant. rise, ascent
dip(n) การตกลง, See also: การลดลง, Syn. drop, sag, slip
dip(n) ความเอียงลาด
dip(vt) จุ่ม, See also: แช่, จม, Syn. plunge, sink, collapse, droop, Ant. surface, emerge
dip(n) นักล้วงกระเป๋า (คำสแลง), See also: คนล้วงกระเป๋า
dip(vt) ลดลง, See also: ลดธงลง, ก้มลง, ลดค่าลง, ลดต่ำลง, Syn. decrease, fall, drop, slump, Ant. increase, rise
dip(vt) เอียง, See also: ลาด, Syn. fall, slide, slope, Ant. rise, soar
dip in(phrv) จุ่ม, See also: แช่
dipper(n) กระบวย, See also: ที่ตัก, Syn. scoop
diploma(n) อนุปริญญา, See also: ประกาศนียบัตร, ใบประกาศนียบัตร, Syn. graduation certificate, parchment, honor
Oedipal(adj) เกี่ยวกับ Oedipus complex
dip into(phrv) จิ้ม, Syn. dunk in
dip into(phrv) แช่
dip into(phrv) ว่ายน้ำระยะสั้น
dip into(phrv) จมลงใน
dip into(phrv) พลิกดูลวกๆ, See also: ดูคร่าวๆ, ดูเผินๆ, Syn. look into
dip into(phrv) ใช้เงินที่เก็บสะสมมา
dip into(phrv) อ่านเฉพาะใจความสำคัญ, Syn. flip through
diplomat(n) นักการทูต, See also: เอกอัครราชทูต, ทูต, ผู้ที่ต่อรองอย่างมีชั้นเชิง, ผู้ชำนาญในการคบค้าสมาคม, Syn. diplomatist, envoy representative
dipstick(sl) โง่, See also: งี่เง่า
diphthong(n) การออกเสียงสระควบ, See also: การออกเสียงอักษรควร, Syn. triphthong, voice
diphthong(n) อักษรควบ, See also: สระควบ
diplomacy(n) การทูต, See also: การต่างประเทศ, ศิลปะการทูต, Syn. tact, address, savoir, faire, Ant. tactlessness, crudeness
diplomacy(n) ความเชี่ยวชาญในการคบค้าสมาคม, See also: ทักษะในการเจรจาต่อรอง, Syn. tact, artfulness statesmanship, Ant. tactlessness, crudeness
diplomate(n) ผู้ได้รับประกาศนียบัตร, Syn. graduate
lucky dip(idm) สถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก
diphtheria(n) โรคคอตีบ
diplomatic(adj) เกี่ยวกับการทูต, See also: เกี่ยวกับการเจรจาต่อรอง, Syn. polite, statesmanlike, wise, Ant. direct, blunt
diplomatist(n) ทูต
serendipity(n) การมีโชคในการค้นพบสิ่งต้องการโดยบังเอิญ
serendipitous(adj) ซึ่งมีโชคดีในการพบสิ่งต้องการโดยบังเอิญ, Syn. accidental, helpful, lucky
diplomatically(adv) อย่างมีชั้นเชิง
Oedipus complex(n) การที่เด็กผู้ชายมีความรักแม่แต่ไม่ชอบพ่อ

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
adipose(แอค' ดิโพส) adj. ซึ่งคล้ายหรือประกอบด้วยไขมัน. -n. ไชสัตว์. -adiposeness, adiposity, adiposis n. (fatty)
amphidiploid(แอมไฟดิพ' ลอยดฺ) n. พืชที่มีจำนวนโครโมโซมรวมสองพันธุ์พ่อและแม่
anadiplosis(แอนนะไดโพล' ซิส) n. การซ้ำคำของอนุประโยคหรือประโยค
corps diplomatique(คอดิพลอยมะทิค) n., Fr. คณะทูต
dip(ดิพ) { dipped, dipping, dips } vt., n. (การ) จุ่ม, แช่, จ่อม, จม, ลด, ตัก, เอียง, ล้วง, ล้วงความ, พลิกอ่าน.
dipartiteadj. เกี่ยวกับการแบ่งออกเป็นสองส่วน
diphoresis(ไดอะฟะรี'ซิส) adj. ซึ่งขับเหงื่อ
diphtheria(ดิฟเธีย'เรีย) n. โรคคอตีบ . - diphtherial adj. ดูdiphtheria
diphthong(ดิฟ'ธอง) n. เสียงสระควบ, เสียงสระคู่, เสียงสระกล้ำ, ตัวสระควบ, See also: diphthongal adj. ดูdiphthong
diplegia(ไดพลี'เจีย) n. อัมพาตในส่วนเดียวกันทั้งสองข้างของร่างกาย -diplegic, adj.
diplo-Pref. คู่
diploid(ดิพ'พลอยด์) adj. คู่2เท่า, ซ้ำ
diploma(ดิโพล'มะ) n., อนุปริญญา, ประกาศนียบัตร, ในอนุญาต, หนังสือสำคัญ vt. ให้ diploma
diplomacy(ดิพโพล'มะซี) n. การทูต, ศิลปะการทูต
diplomat(ดิพ'ละแมท) n. นักการทูต
diplomate(ดิพ'ละเมท) n. ผู้ได้รับประกาศนียบัตร, ผู้ได้รับอนุปริญญา
diplomatic(ดิพละแมท'ทิค) adj. เกี่ยวกับการทูต, Syn. adep
diplomatic agentn. ทูต
diplomatic corpsn. คณะทูตานุทูต
diplopia(ดิโพล'เพีย) n. การเห็นภาพซ้อน. -diplopic adj.
dipper(ดิพ'เพอะ) n. ผู้จุ่ม, กระบวย, สิ่งที่ใช้จุ่ม, รางน้ำยาล้างฟิล์ม, นกที่ดำน้ำเก่ง, ชื่อกลุ่มดาว (Big Dipper, Little Dipper)
dippy(ดิพ'พี) adj. บ้า. โง่, สติเฟื่อง, Syn. silly, unreasonable
dipt(ดิพทฺ) v. กิริยาช่อง 3 ของ dip
diptera(ดิพ'เทอระ) n. ประเภทแมลงที่มีปีกคู่
dipterousadj. เกี่ยวกับแมลงที่มีปีกคู่ เช่นยุง แมลงวัน

English-Thai: Nontri Dictionary
dip(vt) จมน้ำ, จุ่มน้ำ, แช่น้ำ, ตัก, ล้าง, ลดต่ำลง
diphtheria(n) โรคคอตีบ
diphthong(n) เสียงควบกล้ำ, เสียงกล้ำ, เสียงสระคู่, เสียงสระควบ
diploma(n) ปริญญาบัตร, ประกาศนียบัตร, อนุปริญญา, หนังสือสำคัญ
diplomacy(n) การทูต, ศิลปะการทูต
diplomat(n) ทูต, นักการทูต, ทูตานุทูต
diplomatic(adj) เกี่ยวกับการทูต, ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทูต
dipper(n) กระบวยตักน้ำ

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
polydipsiaอาการดื่มน้ำมากเรื้อรัง, อาการกระหายน้ำมากเรื้อรัง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
postdiphtheric; postdiphtheritic-ภายหลังเป็นโรคคอตีบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
postdiphtheritic; postdiphtheric-ภายหลังเป็นโรคคอตีบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pine-dipterocarp forestป่าเต็งรังผสมสนเขา [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
panniculus adiposus; tissue, subcutaneous fattyเนื้อเยื่อไขมันใต้หนัง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
privilege, diplomaticเอกสิทธิ์ทางทูต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pseudiphtheriaโรคคอตีบลวง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pediphalanxกระดูกนิ้วเท้า [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
lipolysis; adipolysisการสลายไขมัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
low beam; dipped headlight; lower beamไฟต่ำ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
rising diphthongสระประสมเน้นเสียงหลัง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
shirt-sleeve diplomacyการทูตอย่างไม่เป็นทางการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
secundiparityการเคยคลอดสองครั้ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
secundiparous-เคยคลอดสองครั้ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
secundiparaหญิงเคยคลอดสองครั้ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
subcutaneous fatty tissue; panniculus adiposusเนื้อเยื่อไขมันใต้หนัง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
oligodipsia; hypodipsiaอาการไม่กระหายน้ำ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
oil-level indicator; dipstickก้านวัดน้ำมันเครื่อง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
opening diphthongสระประสมเลื่อนลง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
agent, diplomaticตัวแทนทางทูต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipocyteเซลล์ไขมัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipolysis; lipolysisการสลายไขมัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipose๑. ไขมัน (ในเซลล์)๒. มีลักษณะไขมัน๓. อ้วน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipose tissue; tissue, fattyเนื้อเยื่อไขมัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adiposisการมีไขมันเกิน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adiposis hepaticaไขมันจุกตับ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipositas cordisไขมันจุกหัวใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adiposity; hyperadiposis; hyperadiposityภาวะเนื้อเยื่อไขมันมาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
adipsiaอาการเบื่อน้ำ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
apparent dipมุมเทปรากฏ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
anadiplosisการทวนคำ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
alternation of generations; digenesis; diplobiontic life cycle; diplohaplontic life cycle; heterogenesis; heterogony; metagenesisวัฏจักรชีวิตแบบสลับ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
big stick diplomacyการทูตแบบใช้แสนยานุภาพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
metagenesis; alternation of generations; digenesis; diplobiontic life cycle; diplohaplontic life cycle; heterogenesis; heterogonyวัฏจักรชีวิตแบบสลับ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
coercive diplomacyการทูตแบบบีบบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
co rps, diplomatic; corps diplomatique (Fr.)คณะทูตานุทูต [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
closing diphthongสระประสมเลื่อนขึ้น [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
consequent stream; dip streamธารน้ำตามแนวเท [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
conference diplomacyการทูตแบบประชุม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
corps diplomatique (Fr.); corps, diplomaticคณะทูตานุทูต [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
corps, diplomaticคณะทูตานุทูต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
diplobiontic life cycle; alternation of generations; digenesis; diplohaplontic life cycle; heterogenesis; heterogony; metagenesisวัฏจักรชีวิตแบบสลับ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
diplocoriaสภาพรูม่านตาแฝด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
diplohaplontic life cycle; alternation of generations; digenesis; diplobiontic life cycle; heterogenesis; heterogony; metagenesisวัฏจักรชีวิตแบบสลับ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
diploidมีโครโมโซมสองชุด [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
diplomaประกาศนียบัตรชั้นสูง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
diplomacyการทูต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
diplomacy, big stickการทูตแบบใช้แสนยานุภาพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
diplomacy, coerciveการทูตแบบบีบบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
diplomacy, gunboatการทูตแบบใช้นาวิกานุภาพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Diplomacyการฑูต [เศรษฐศาสตร์]
Dichloro Diphenyl Trichloroethaneดีดีที, Example: เป็นสารเคมีที่มีการนำมาใช้ในการป้องกันโรคมาลาเรีย ในปี ค.ศ. 1910 และมีการนำมาใช้ในทางการเกษตรในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1945 ดีดีทีมีการแพร่กระจายและตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้นาน ดีดีทีเป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษปานกลาง โดยค่า LD50 ในหนูทดลองได้รับพิษทางปาก เท่ากับ 11010 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ประเทศไทยได้ห้ามการนำเข้าดีดีทีมาใช้ในทางการเกษตรตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2526 [สิ่งแวดล้อม]
Adipose tissueเนื้อเยื่อไขมัน [TU Subject Heading]
Diphosphonatesดิพฟอสโฟเนต [TU Subject Heading]
Diphtheriaคอตีบ [TU Subject Heading]
Diplomacyการทูต [TU Subject Heading]
Diplomatic and consular serviceสถานทูตและสถานกงสุล [TU Subject Heading]
Diplomatic and consular service, Americanสถานทูตและสถานกงสุลอเมริกัน [TU Subject Heading]
Diplomatic and consular service, Thaiสถานทูตและสถานกงสุลไทย [TU Subject Heading]
Diplomatic etiquetteพิธีการทูต [TU Subject Heading]
Diplomatic privileges and immunitiesเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต [TU Subject Heading]
Diplomatic protectionความคุ้มครองทางการทูต [TU Subject Heading]
Diplomaticsเอกสารทางการทูต [TU Subject Heading]
Diplomatsทูต [TU Subject Heading]
Dips (Appetizers)เครื่องจิ้ม [TU Subject Heading]
Dipteocarpus alatusยางนา [TU Subject Heading]
Dipterocarpaceaeดิปเทอโรคาร์พาซี [TU Subject Heading]
Dipterocarpusดิปเทอโรคาร์พัส [TU Subject Heading]
Dipyroneไดพัยโรน [TU Subject Heading]
Nicardipineนิคาร์ดิปีน [TU Subject Heading]
Nifedipineนิฟิดิปีน [TU Subject Heading]
Dichloro Diphenyl Trichloroethane, DDTดีดีที, Example: ดีดีทีมีการนำมาใช้ในการป้องกันโรคมาลาเรีย ในปี ค.ศ. 1934 และมีการนำมาใช้ในทางการเกษตรในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1945 ดีดีทีมีการแพร่กระจายและตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้นาน ดีดีทีเป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษปานกลาง โดยค่า LD50 ในหนูทดลองได้รับพิษทางปาก เท่ากับ 11010 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ประเทศไทยได้ห้ามการนำเข้าดีดีทีมาใช้ในทางการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2526 [สิ่งแวดล้อม]
Deciduous Dipterocarp Forestป่าแพะ ป่าแดง ป่าโคก หรือป่าเต็งรัง, Example: ป่าผลัดใบประเภทหนึ่ง พบมากทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่าชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปทั้งที่ราบและที่เขาสูง ดินมักเป็นทราย และลูกรังซึ่งมีสีค่อนข้างแดง บางแห่งจึงเรียกว่าป่าแดง ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่าชนิดนี้มักขึ้นอยู่ในที่ เป็นลูกเนินที่เรียกกันว่าโคก มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กขึ้นปะปนกัน แต่ไม่แน่นทึบ เพราะดินในป่าชนิดนี้มีความอุดมสมบูรณ์น้อยมาก พันธุ์ไม้ในป่าจึงเป็นพวกที่ทนทานความแห้งแล้งได้ดี โดยมีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อไม้จะแข็งและเปลือกจะหนามาก พันธุ์ไม้ในป่าจึงเป็นพวกที่ทนทานต่อไฟป่าซึ่งเกิดขึ้นทุกปี ธรรมชาติจึงออกแบบให้พันธุไม้ในป่าชนิดนี้มีกำลังแตกหน่อสูง โดยการให้ถูกไฟไหม้เสียก่อน เพราะเมล็ดพันธุ์ไม้จำพวก Dipterocarp จะมีน้ำมันปนอยู่ เมื่อทิ้งไว้นาน น้ำมันในเมล็ดจะทำให้อัตราการงอกต่ำ พันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่ ไม้เต็ง รัง เหียง พลวง กราด เป็นต้น ส่วนพื้นล่างของป่าจะไม่รกทึบมีหญ้าชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป ดดยเฉพาะหย้าเพ็ด และไผ่ชนิดต่างๆ [สิ่งแวดล้อม]
Act on Diplomatic Privileges and Immunities B.E. 2527พระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางทูต พ.ศ. 2527 [การทูต]
Break of Diplomatic Relationsการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต]
Commencement of the Functions of the Head of Diplomatic Missionการเริ่มต้นรับหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้แทนทางการ ทูต กล่าวคือ เมื่อหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตเดินทางไปถึงนครหลวงของประเทศผู้รับแล้ว ควรรีบแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า ตนได้เดินทางมาถึงแล้วและขอนัดเยี่ยมคารวะ ตามปกติกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมพิธีการทูตจะดำเนินการตระเตรียมให้หัวหน้าคณะ ผู้แทนทางการทูตได้เข้ายื่นสารตราตั้งต่อไประหว่างนั้น หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตจะต้องไม่ไปพบเยี่ยมผู้ใดเป็นทางการ จนกว่าจะได้ยื่นสารตราตั้งเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี หัวหน้าคณะผู้แทนอาจขอพบเป็นการภายในกับหัวหน้าของคณะทูตานุทูต (Dean หรือ Doyen of the Diplomatic Corps) ได้ เพื่อขอทราบพิธีการปฏิบัติในการเข้ายื่นสารตราตั้งต่อประมุขของประเทศผู้รับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนา ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 13 ว่า1. พึงถือได้ว่าหัวหน้าคณะผู้แทนได้เข้ารับภารกิจหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้งหรือเมื่อตนได้บอกกล่าวการมาถึงของตน พร้อมทั้งได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของ รัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกันในแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป2. ลำดับของการยื่นสารตราตั้ง หรือสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง จะได้พิจารณากำหนดตามวันและเวลาของการมาถึงของหัวหน้าคณะผู้แทน [การทูต]
Conduct of Diplomatic Mission Towards the Receiving Stateในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง [การทูต]
Conference Diplomacyกระบวนการเจรจาระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลในรูปของการ ประชุม แทนที่จะกระทำโดยวิถีทางการทูตตามปกติ คือ โดยทางเอกอัครราชทูต หรือผู้แทนทางการทูตถาวร การประชุมแบบหนึ่งซึ่งเรียกว่า การประชุมโต๊ะกลม เพื่อทำหน้าที่ระงับปัญหาระหว่างประเทศนั้น เริ่มนิยมกระทำกันหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การประชุมระหว่างประเทศนี้จะประกอบด้วยคณะผู้แทน ซึ่งมีหัวหน้าคณะที่ได้รับมอบอำนาจเต็ม และรัฐบาลของประเทศที่ร่วมประชุมเป็นผู้ส่งไป ในเรื่องนี้มีความเห็นแตกต่างกันอยู่บ้าง บ้างเห็นว่า ควรเป็นการประชุมทางการทูตตามประเพณีที่กระทำกันโดยใช้ผู้เชี่ยวชาญโดยอาชีพ ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางการทูตตามปกติมากกว่า [การทูต]
Corps Diplomatique หรือ Diplomatic Corpsคณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวง (Capital) ของประเทศ ซึ่งจะมีหัวหน้าคณะทูตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทางการทูตใน คณะทูต เจ้าหน้าที่ทางการทูตในคณะทูตนั้นจะประกอบไปด้วย อัครราชทูต (Minister) อัครราชทูตที่ปรึกษา (Minister Counselor) และที่ปรึกษา (Counselor) ซึ่งอาจจะมีคนเดียวหรือหลายคน นอกจากนี้ มีเลขานุการทางการทูตอีกหลายคน คือ เลขานุการเอก โท ตรี และตามปกติยังมีผู้ช่วยทูต (Attaché) อีกหลายคนซึ่งมีฐานะทางการทูต (Diplomatic status) คือผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร (บก เรือ และอากาศ) ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ (Commercial Attaché) ผู้ช่วยทูตฝ่ายการแถลงข่าว (Press Attaché) และผู้ช่วยฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งกระทรวงทบวงกรมของรัฐบาล (นอกจากกระทรวงการต่างประเทศ) เป็นฝ่ายแต่งตั้งข้าราชการของตนไปประจำในคณะทูต รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งมีฐานะทางการทูตด้วยในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูต (Head หรือ Dean of the Diplomatic Corps) จะได้แก่ผู้แทนทางการทูตอาวุโสที่ได้ประจำการอยู่ในประเทศนั้นเป็นเวลานาน ที่สุด ยกเว้นแต่ในบางประเทศ จะถือเอกอัครราชทูตผู้แทนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncio) เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูตตลอดไป โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอาวุโสแต่อย่างใด เช่น ฟิลิปปินส์ [การทูต]
Cultural Diplomacyการทูตวัฒนธรรม หมายถึง กิจกรรมด้านวัฒนธรรมในกรอบกว้าง ทั้งภาษา ความคิด อุดมการณ์ ทัศนคติ ประเพณี วิทยาการความรู้ การกีฬาและวิถีชีวิต (ไม่เพียงแต่การส่งคณะนาฏศิลป์ไปแสดงในต่างประเทศเท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อ ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยใช้แนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในลักษณะซึมลึกเพื่อให้เข้าถึงประชาชน [การทูต]
Dean (of the Diplomatic Corps)คณบดีคณะทูต เอกอัครราชทูตที่อาวุโสที่สุด (ยื่นสาส์นตราตั้งก่อนผู้อื่น) ในประเทศนั้น ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้แทนของคณะทูตานุทูต (ในกรณีที่รัฐผู้รับนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก สมณทูตวาติกันจะดำรงตำแหน่งคณบดีทูต) [การทูต]
Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corpsหัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต]
Departure of Diplomatic Agentsการออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต]
Diplomacyการทูต, Example: คำว่าการทูต มีหลายท่านได้ให้คำอธิบายความหมายแตกต่างกัน บางท่านเห็นว่าการทูตเป็นศิลปะหรือศาสตร์ หรือวิธีปฏิบัติขั้นการเจรจากันระหว่างรัฐ บ้างว่า เป็นการจัดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยวิธีการเจรจา ซึ่งจะกระทำโดยเอกอัครราชทูต หรือผู้แทนการทูตเป็นส่วนใหญ่หนังสือ ?Satow?s A Guide to Diplomatic Practice? ซึ่งเรียบเรียงแก้ไขใหม่เป็นครั้งที่ 4 โดย Sir Neville Bland ได้กล่าวว่า การทูต (Diplomacy) คือการนำเอาสติปัญญา (Intelligence) และปฏิภาณ (Tact) ออกใช้ในการเจรจาเป็นทางการระหว่างรัฐบาลของรัฐเอกราชด้วยกัน หรือหากจะกล่าวโดยสรุปก็หมายถึงการที่รัฐต่อรัฐยกเอาเรื่องต่าง ๆ ขึ้นเจรจากันอย่างเอาจริงเอาจังโดยสันติวิธีนั่นเองวิธีการที่รัฐหันมาใช้ การเจรจากันเพื่อทำความตกลงในเรื่องต่าง ๆ นั้นได้เริ่มกระทำกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันในระยะหลัง ๆ ก่อนที่อาณาจักรจะล่มสลาย นัยว่าจักรพรรดิทั้งหลายของอาณาจักรจะล่มสลาย นัยว่าจักรพรรดิทั้งหลายของอาณาจักรไบซานเตอุม (Byzanteum) ในสมัยนั้นมีชื่อโด่งดังว่าเป็นบรมครูหรือปรมาจารย์ในการเจรจาทีเดียว แต่การทูตได้กลายเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง ก็ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา ในตอนที่รัฐต่างๆ ของอิตาลีได้เริ่มแต่งตั้งเอกอัครราชทูตไปประจำเป็นการถาวร แต่ในสมัยนั้นก็ยังไม่มีการกำหนดสถานภาพและระเบียบข้อบังคับของอาชีพการทูต แต่อย่างใด จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 19 คือใน ค.ศ. 1815 จึงได้มีการทำความตกลงกันระหว่างประเทศกำหนดสถานภาพและกฎข้อบังคับขึ้นเป็น กิจลักษณะ คือหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน รัฐต่าง ๆ ที่เข้าร่มประชุมกัน ณ กรุงเวียนนา หรือเรียกว่าคองเกรสแห่งเวียนนา ได้ตกลงจัดจำแนกผู้แทนทางการทูตรวมทั้งจัดลำดับอาวุโสขึ้น เพื่อให้รัฐทั้งหลายได้ยึดถือเป็นหลักปฏิบัติ จะเห็นได้ว่าในทุกวันนี้ การทูตได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง หรือสาขาหนึ่งของระบบการปกครองประเทศในทุกประเทศ ซึ่งทวีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในโลกปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างสงครามเย็น (Cold War) ต่างเพียรพยายามใช้การทูตทุกวิถีทางเพื่อระงับปัญหาหรือข้อพิพาท โดยมิให้เกิดสงครามเบ็ดเสร็จ (Total War) ซึ่งเป็นหนทางสุดท้ายขึ้น เป็นต้นมีข้อน่าสังเกตว่า แต่เดิมรัฐต่าง ๆ จะใช้วิธีการเจรจาระหว่างรัฐบาลตามปกติ โดยผ่านทางผู้แทนทางการทูตถาวรหรือเอกอัครราชทูต ต่อมาหลังจากเสร็จสงครามโลกครั้งแรกเกิดความนิยมใช้วิธีระงับปัญหาระหว่าง ประเทศโดยการประชุมโต๊ะกลมมากขึ้น (Round table conferences) ในการประชุมระหว่างประเทศเช่นนี้ รัฐบาลของประเทศที่ร่วมการประชุมจะส่งคนของตนไปร่วมประชุมในฐานะผู้แทนผู้ ได้รับมอบอำนาจเต็มและให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนในการเจรจา แทนที่จะเป็นเอกอัครราชทูตดังแต่ก่อน อย่างไรก็ดี วิธีการประชุมเช่นนี้ยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่สองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าควรจะใช้วิธีการประชุมแก้ปัญหาระหว่างประเทศโดยวิถีทางการ ทูตตามปกติ โดยให้เอกอัครราชทูตเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน เพราะถือว่าเอกอัครราชทูตเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพการทูตอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งสนับสนุนการประชุมโต๊ะกลม หรือที่เรียกว่า Diplomacy by Conferenceในสมัยปัจจุบัน วิธีเจรจาทางการทูตที่ใช้ปฏิบัติกันมีอยู่หลายวิธี วิธีแรกคือ การเจรจาทางการทูตตามปกติ ซึ่งปฏิบัติกันตลอดมาจนเป็นธรรมเนียม (Normal หรือ Traditional Diplomacy) ในกรณีนี้ เอกอัครราชทูตจะเป็นตัวแทนของประเทศของตนเจรจากับกระทรวงการต่างประเทศของ รัฐผู้รับประการที่สอง คือ การทูตด้วยวิธีการประชุม (Conference Diplomacy) ซึ่งคณะผู้แทนเจรจาจะมีบุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจเต็มเป็นหัวหน้าคณะ และส่งไปจากประเทศที่ร่วมการประชุมประการที่สาม ได้แก่ วิธีที่เรียกว่า การทูตส่วนบุคคล (Personal Diplomacy) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐสองแห่งหรือมากกว่านั้น จะทำการเจรจากันโดยตรง เพื่อระงับหรือทำความตกลงในเรื่องบางเรื่องที่มีผลประโยชน์ร่วมกันประการที่ สี่ คือ การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) โดยประมุขของรัฐบาลหรือของรัฐจะไปร่วมประชุมกันเพื่อหาทางระงับปัญหาของตน ประการสุดท้าย ได้แก่ การทูตโดยทางองค์กรนิติบัญญัติหรือรัฐสภา (Parliamentary Diplomacy) คือให้นำปัญหาไปพิจารณากันในการประชุมปรึกษา เช่น การประชุมขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งนักเขียนเกี่ยวกับวิชาการทูตบางท่านเรียกว่า การทูตโดยคะแนนเสียง (Diplomacy by ballot)อย่างไรก็ตาม มีผู้ทรงคุณความรู้ด้านการทูตบางท่านเห็นว่า ยังมีวิธีการเจรจาทางการทูตอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า การทูตสื่อมวลชน (Diplomacy by News Conference) ในกรณีนี้ ประมุขของรัฐหรือของรัฐบาลประเทศหนึ่งจะแถลงนโยบายของประเทศตนต่อที่ประชุม สื่อมวลชน เกี่ยวกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นกับอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งโดยปกติย่อมจะแถลงโดยวิถีทางการทูตตามปกติให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบได้ แต่กลับหันไปใช้วิธีแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบโดยการแถลงต่อที่ประชุมสื่อมวล ชนเท่ากับแจ้งให้ทราบโดยทางอ้อม [การทูต]
Diplomacy for the Peoplesการทูตเพื่อประชาชน หมายถึง การดำเนินนโยบายต่างประเทศหรือกิจกรรมทางการทูต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาชน เช่น โครงการส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปช่วยรักษาพยาบาลชาวกัมพูชา [การทูต]
diplomatic agentตัวแทนทางทูต คือ หัวหน้าของคณะผู้แทน หรือบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทน [การทูต]
diplomatic clearance numberหมายเลขการอนุญาตให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งของประเทศหนึ่ง ๆ ผ่านเข้าไปในอาณาเขตของอีกประเทศหนึ่งได้โดยเหตุผลทางการทูต อาทิ อากาศยานเฉพาะกิจ เรือที่ใช้ในการสงคราม ฯลฯ [การทูต]
diplomatic corpsคณะทูตานุทูต หมายถึง กลุ่มเอกอัครราชทูต กงสุล และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งภริยาและเจ้าหน้าที่ทางการทูตที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ [การทูต]
diplomatic courierผู้ถือสารทางทูต [การทูต]
Diplomatic Expressionsถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต]
diplomatic identity cardบัตรประจำตัวคณะผู้แทนทางทูต [การทูต]
Diplomatic Illnessนักการทูตแสร้งทำเป็นป่วย ใช้เป็นข้อแก้ตัวในการที่ไม่ไปร่วมพิธี ร่วมประชุม หรือร่วมงานสังคม เพื่อมิให้เป็นการแสลงน้ำใจโดยมิสมควรแก่ผู้เชิญ [การทูต]
Diplomatic Languageภาษาการทูต ในสมัยโบราณจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 รัฐทั้งหลายในสมัยนั้นได้นิยมใช้ภาษาละตินเป็นภาษาการทูตและก็เป็นภาษาเดียว ที่ใช้กันในยุโรปภาคกลางและภาคตะวันตก ต่อมาในราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทนภาษาละตินเป็นภาษาการทูต และใช้กันตลอดมาจนถึงสมัยสงครามโลกครั้งแรก หลังจากเสร็จสงครามโลกครั้งแรกจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐต่างๆ เริ่มนิยมใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังไม่มีการรับรองเป็นทางการกันว่าให้ใช้ภาษาใดเป็นภาษาทางการทูตใน องค์กรทั้งหมดของสหประชาชาติยกเว้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ใช้ 5 ภาษาเป็นภาษาราชการ คือ ภาษาจีน รัสเซีย สเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส ดังนั้น ในการประชุมใด ๆ ณ องค์การสหประชาชาติ หากมีการแถลงเป็นภาษาหนึ่ง ก็จะมีการแปลเป็นอีก 4 ภาษาเกือบพร้อมกันในทันที (Simultaneous Translation) สำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เพียงสองภาษา [การทูต]
diplomatic pouchถุงเมล์ทูต [การทูต]
Diplomatic Pouchถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต]
Diplomatic Privilege of Accommodationมาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต]
Diplomatic Privileges and Immunitiesเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตที่ได้ให้แก่เจ้า หน้าที่ทางการทูต โดยถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนส่วนตัวของประมุขของรัฐ เหตุผลที่ให้มีการคุ้มกันทางการทูต ก็เพราะถือว่ารัฐบาลหนึ่งใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือกีดกันมิให้ผู้แทนของรัฐบาลนั้นปฏิบัติหน้าที่ในความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศนั้นมิได้ ถ้าหากเห็นว่าผู้แทนนั้นมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ก้าวร้าวซึ่งรัฐผู้รับ ไม่อาจรับได้ก็ชอบที่รัฐผู้รับจะขอร้องให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวผู้แทนของตนกลับ ประเทศได้ อนึ่ง การที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับความคุ้มกันจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ เพราะต้องการให้บรรดาผู้แทนทางการทูตเหล่านั้น รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาได้มีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศของเขาอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตมีบทบัญญัตินิยามคำว่า เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตในเรื่องต่างๆ ไว้มากพอสมควร เช่น เรื่องสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต รวมทั้งบรรณสารและเอกสาร เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานของคณะผู้แทน และเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายรวมทั้งการคมนาคมติดต่อ เป็นต้น [การทูต]
Diplomatist หรือ Diplomatใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต]
Duration of Diplomatic Privileges and Immunitiesระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต]
Diplomatic Secretariesตำแหน่งเลขานุการทางการทูตในสถานเอกอัครราชทูต ตำแหน่งเลขานุการทางการทูตจะมีอยู่ 3 ระดับ คือ เลขานุการเอก เลขานุการโท และเลขานุการตรี ทั้งสามระดับอยู่รองลงมาจากตำแหน่งที่ปรึกษา (Counselor) ระดับทั้งหมดนี้มีฐานะทางการทูต มีเอกสิทธิ และความคุ้มกันทางการทูตทั้งมวล และชื่อจะปรากฎอยู่ในสมุดเอกสารรายชื่อบุคคลในคณะทูตตำแหน่งเลขานุการทางการ ทูตเหล่านี้ อย่าไปปนกับตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของเอกอัครราชทูต ซึ่งแม้จะมีฐานะสำคัญในสถานเอกอัครราชทูต แต่ไม่มีสถานภาพทางการทูตแต่อย่างใด รวมทั้งตำแหน่งเลขานุการ ซึ่งทำหน้าที่เสมียนจดชวเลขและพิมพ์ดีด [การทูต]

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
dipole(n) คู่ที่เท่ากันหรือตรงข้ามของอีเล็คตรอน ที่มีระยะห่างคั่นเป็นทางสั้นๆ
dipthong(n, adj) สระซ้อนรวมกันอ่านออกเสียงเดี่ยว
diptychงานศิลปะแบบหนึ่งที่ประกอบด้วยแผ่นแกะสลักสองแผ่นซึ่งสามารถพับได้, กระดานเขียนโบราณ มีสองแผ่น สามารถพับได้, สมุดที่หน้าหนึ่งจารึกชื่อคนตาย อีกหน้าคือนักบวชและผู้มีพระคุณในโบสถ์ที่ล่วงลับไปแล้ว
oedipus complex(n) เด็กชายที่ติดแม่ คนติดแม่ เด็กที่รักแม่จนเกินพอดี

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Are we out of bean dip?Haben wir noch Bohnendip? The ACM Kid (1983)
What's it gonna look like in the fall when you apply to the CPA program, and they see that you barely squeaked by in Intro Accounting?Was ist, wenn du dich für das Wirtschaftsprüferdiplom bewirbst, und die merken, wie knapp du in Buchführung durchgekommen bist? Pilot (2014)
When I was 14, my mother had diphtheria.Als ich 14 war, hatte meine Mutter Diphtherie. Echo (2014)
- Yeah. - The bean dip?- Der Bohnen-Dip? A Fox, a Rabbit, and a Cabbage (2014)
Weezy's making her famous five-bean dip.Weezy macht ihren berühmte Fünf Bohnen-Dip. A Fox, a Rabbit, and a Cabbage (2014)
Oh, hey, should I make the artichoke dip or the cheese dip?- Soll ich den Artischocken- oder den Käse-Dip machen? S U C K (2014)
Frank says undercover cop trying to pull you into a sting, and I'm going with either foreign diplomat or Pilates guru.Frank, eine verdeckte Ermittlerin. Und ich tippe auf Diplomatin oder Pilates-Guru. Stuck (2014)
- I brought the dip. - Nice.- Ich habe den Dip mitgebracht. Wish You Were Here (2014)
Diplomacy.Diplomatie. Liege Lord (2014)
Need the diploma to get promoted, right?So so, ein Diplom für die Karriere. The Fool (2014)
But every conversation I have with a noble or diplomat ends the same way.Ob Edelmann oder Diplomat, alle sagen denselben Satz. Toy Soldiers (2014)
I'm getting that stupid diploma I said I didn't care about.Ich bekomme das dumme Diplom, von dem ich behauptet hatte, es wäre mir egal. And the First Degree (2014)
You can do more than get that diploma, Max.Du kannst mehr tun, als das Diplom zu bekommen, Max. And the First Degree (2014)
Okay, Max, maybe don't say anything else, or they'll take your diploma back.Okay, Max, vielleicht sagst du jetzt besser nichts mehr, oder sie nehmen dir das Diplom wieder ab. And the First Degree (2014)
You were so close to getting your diploma.Du warst so kurz davor dein Diplom zu bekommen. And the First Degree (2014)
Angelina's eating cheese puffs dipped in Vaseline.Angelina isst diese Käsebällchen und dippt sie dabei in Vaseline. Charlie and the Houseful of Hookers (2014)
Did you ever consider a career in diplomacy?Hast du jemals eine Karriere als Diplomat in Betracht gezogen? Episode #2.5 (2014)
Heal the battle wounds of Wuchang, Jingim... as a diplomat making peace.Heile die Schlachtwunden von Wuchang als Diplomat, der Frieden schließt. The Fourth Step (2014)
Warrior and diplomat.Krieger und Diplomat. The Fourth Step (2014)
And this offer will enrage him, but I've shown his council, army and people that I'm a diplomat until the bitter end.Das Angebot wird ihn erzürnen, zeigt aber Rat, Armee und Volk, dass ich Diplomat bin, bis zum bitteren Ende. Rendering (2014)
Turns out our parents didn't go off on some diplomatic mission like everyone thought.Scheint, als seien unsere Eltern nicht wegen einer diplomatischen Sache unterwegs gewesen, so wie alle dachten. A Tale of Two Sisters (2014)
Third, by misrepresenting yourself and your intentions, you're in violation of all international diplomatic statutes.Drittens, falsche eigene Vorstellung und deiner Absichten, du hast alle internationalen diplomatischen Statuten verletzt. Population 25 (2014)
We don't have to cancel our party, and you need to dip faster to keep up with my stirring.Wir müssen die Party nicht absagen, und du musst schneller dippen um mit mir schrittzuhalten. Smoke and Mirrors (2014)
[ Sniffs ] Ibuprofen diphenhydramine.Ibuprofen Diphenhydramine. Look Before You Leap (2014)
He is one of our best diplomats, but business has he not learn.Er ist einer unserer besten Diplomaten. Aber Geschäfte sind nicht sein Ding. Foreign Affairs (2014)
You always did excel at diplomacy.Du wärst ein guter Diplomat geworden. Every Mother's Son (2014)
Well, then let me send diplomats.- Senden wir Diplomaten. No Exit (2014)
I have diplomatic immunity.Ich habe diplomatische Immunität. Quicksand (2014)
They confirm you have diplomatic status.Sie bestätigen Ihren Diplomatenstatus. Quicksand (2014)
I haven't gotten my teacher's degree yet.Ich habe noch nicht mal mein Lehrer-Diplom. Chapter One (2014)
Where did you get your degree from, the University of Dumb-ass?Woher haben Sie Ihr Diplom, von der Spasten-Universität? Chapter One (2014)
Or that, you know, you don't have your teaching degree or that I haven't established my career, or that we have debts, or whatever other reasons we have for waiting.Oder dass du dein Lehrer-Diplom nicht hast, dass ich meine Karriere noch nicht im Griff habe, oder dass wir Schulden haben, oder welchen Grund wir auch immer haben zu warten. Chapter One (2014)
He's brilliant but impolitic.Er ist genial aber undiplomatisch. Single Point of Failure (2014)
I'm gonna revoke my diplomatic immunity.Ich werde meine diplomatische Immunität aufheben. Toil and Till (2014)
I was just trying to be diplomatic.Ich wollte es nur etwas diplomatischer ausdrücken. Poor Little Lambs (2014)
We're trying to mitigate a major diplomatic crisis here.Wir versuchen, eine große diplomatische Krise zu entschärfen. Iconoclast (2014)
It's created a diplomatic shitstorm for the State Department.Das hat einen diplomatischen Shitstorm für das State Department ausgelöst. Iconoclast (2014)
Diplomacy is dead.Die Diplomatie ist am Ende. Hashshashin (2014)
Then I do not suggest a career in the Diplomatic.Dann solltest du keine Diplomatin werden. Episode #5.8 (2014)
We even do not have diplomatic relations with these countries. And for what?Dahin gibt es nicht mal diplomatische Beziehungen. Labyrinth of Lies (2014)
Injected viruses, typhus, tuberculosis, diphtheria.Dass er ihnen Viren spritzt, Typhus, TBC, Diphtherie. Labyrinth of Lies (2014)
I'm on a diplomatic mission, part of a semi-permanent envoy.Ich bin auf einer diplomatischen Mission, sozusagen ein semi-permanenter Diplomat. The Snow Queen (2014)
We shall see to it that your diplomatic mission here is over.Wir werden dafür sorgen, dass Eure diplomatische Vertretung hier vorbei ist. The Snow Queen (2014)
I'm the one with the business degree, and you have to trust me on this.Ich bin diejenige mit dem Diplom, und du musst mir hier vertrauen. And a Loan for Christmas (2014)
"I just want to sit at home, watch golf, and eat my 10-layer dip."Ich will nur zu Hause sitzen, Golf schauen und meinen 10-Schichten-Dip essen." Halloween 3: AwesomeLand (2014)
A Harvard law diploma, summa cum laude, Order of the Coif.Ein Harvard Jura-Diplom, summa cum laude, den Order of the Coif. This Is Rome (2014)
President's decided to break off diplomatic relations.Der Präsident beendet die diplomatischen Beziehungen. Krieg Nicht Lieb (2014)
I'm an official of the German diplomatic mission...Ich bin Funktionärin der deutschen, diplomatischen Gesandtschaft... Krieg Nicht Lieb (2014)
This won't be a... bunch of kids looking to stir up a fight... but a diplomatic mission to make contact with the Grounders' commander... and negotiate for peace.Das wird nicht so sein, wie ein paar Kinder, die darauf aus sind, einen Kampf anzuzetteln... sondern eine diplomatische Mission, um den Commander der Erdlinge zu kontaktieren, und Frieden zu erreichen. Reapercussions (2014)
I'm looking at your diploma, thinking I could have got into your Alma mater when I was seven.Wenn ich mir Ihr Diplom anschaue, denke ich, ich hätte mit sieben an Ihrer Uni studieren können. True Colors (2014)

ตัวอย่างประโยคจาก Tanaka JP-EN Corpus
dipThat country broke off diplomatic relations with the neighboring countries.
dipI have three brothers; one is pilot, another a diplomat and the other a carpenter.
dipThe principal presented each of the graduates with diploma.
dipThe two countries do not have diplomatic relations.
dipFinally, Oedipus replied.
dipThose words are mere diplomatic niceties.
dipEach boy has received his diploma.
dipHe is not a businessman but a diplomat.
dipThe conference drew 150 diplomats.
dipYou would make a good diplomat.
dipI think it might be of use if you could add how to output the diphthongs (with small ya yu yo) and geminate consonants (with small tsu).
dipDiplomatic relations have not yet been established between Japan and North Korea.
dipI am no match for him in diplomatic shrewdness.
dipHe was a poet and diplomat.
dipSkillful diplomacy helps to avert war.
dipThe noted diplomat readily participated in the committee.
dipThe bird dipped its head into the water.
dipYou can find the Big Dipper easily.
dipHe dipped his spoon into the soup.
dipOedipus thought for a long while.
dipOedipus had answered the riddle correctly!
dipThe road dips suddenly.
dipA good diplomat is a person who practices the technique of letting someone else let the cat out of the bag.
dipEnglish is useful in diplomacy and tourism.
dipThe Norwegian diplomat mediated the secret negotiations that produced the historic document.
dipHe has spent most of his time as a career diplomat.
dipJapan has diplomatic relations with China.
dipI dipped into his book.
dipJapan has been urged to alter her diplomatic policies.
dipHe was a famous poet and a competent diplomat.
dipDiplomacy is to do and say, The nastiest thing in the nicest way.
dipThe man, Oedipus, trembled.
dipA good diplomat is a person who practises the technique of letting someone else let the cat out of the bag.
dipKim means to be a diplomat in the future.
dipThat country broke off diplomatic relations with the United States.
dipHe is a diplomat at the American Embassy.
dipThe Japanese onsen is a nice place for skinny-dipping.
dipThe international situation had become so tense, it would require proficient diplomats to handle it with kid gloves.
dipEach student received his diploma in turn.
dipDiplomatic dialogue helped put an end the conflict.
dipOur diplomacy and strategy ran in clear contradiction to each other.
dipDiplomats are allowed various privileges.
dipAt the time, Japan was faced with a host of diplomatic problems.
dipYou're just being diplomatic.
dipDiplomatic dialogue helped put an end to the conflict.
dipFreud developed the love-hate relationship between parents and child as the Oedipus complex.
dipHe has spent most of his working life as a diplomat.
dipThe dip burned my tongue.
dipI poured the wine in a plastic bag and then dipped it in ice water.
dipInternational problems must be solved by diplomacy, not war.

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
วงการทูต(n) diplomatic circles, Syn. แวดวงทูต, Example: แขกที่มาอวยพรคู่บ่าวสาวมีแต่ผู้ที่อยู่ในวงการทูตทั้งนั้น, Count Unit: วงการ, Thai Definition: หน่วยงานและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทูต
ดีดีที(n) DDT, See also: Dichloro Diphenyl Trichloroethane, Syn. สารฆ่าแมลงดีดีที
สระประสม(n) diphthong, Ant. สระเดี่ยว, Example: ภาษาไทยมีสระประสม 2 ชนิด คือ สระประสมสองส่วน และสระประสมสามส่วน, Thai Definition: สระที่เกิดขึ้นจากการประสมสระเดี่ยว 2 ตัวขึ้นไปเข้าด้วยกัน, การออกเสียงสระสองเสียงต่อเนื่องกัน โดยการเลื่อนลิ้นไปยังตำแหน่งที่ต่างกัน
ประกาศนียบัตรชั้นสูง(n) diploma, Example: มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดรับสมัครนักศึกษารอบเพิ่มเติมประจำปีการศึกษา 2541 ในระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง, Count Unit: ใบ, Thai Definition: เอกสารแสดงคุณวุฒิ ในระดับอุดมศึกษา
มันเปลว(n) soft fatty tissue, See also: adipose tissue, Thai Definition: มันหยุ่นที่ไม่ติดกับเนื้อ
ยอ(n) square dip net, See also: kind of fish-trap, Example: ชาวประมงใช้ยอจับปลาเพื่อทุ่นแรง, Thai Definition: เครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง เป็นร่างแหสี่เหลี่ยมมีคันสำหรับยก
สวิง(n) dip-net, See also: hand-net, spoon-net, Example: ชาวนาหาปลาโดยใช้เครื่องมือที่ใช้มาแต่โบราณกาลเช่น ลอบ เบ็ด แห สวิง ยอ เป็นต้น, Count Unit: ปาก, Thai Definition: เครื่องช้อนปลาชนิดหนึ่ง ถักเป็นร่างแห ลักษณะเป็นถุง มักใช้ไม้หรือหวายทำขอบปาก
อักษรกล้ำ(n) diphthong, Syn. อักษรควบกล้ำ, Example: ลักษณะดังที่ท่านเจ้าคุณเล่ามานี้คือการเรียนรู้เรื่องอักษรกล้ำ เครื่องหมายวรรณยุกต์ ตลอดจนเครื่องหมายหนังสือ, Count Unit: ตัว
ขัน(n) bowl, See also: water dipper, Syn. ขันน้ำ, Example: แม่เตรียมข้าวสารใส่ขันไว้ตักบาตรอาหารแห้งในวันปีใหม่, Count Unit: ใบ, ลูก, Thai Definition: ภาชนะสำหรับตักหรือใส่น้ำ
คดข้าว(v) dip out rice, See also: take out, ladle, Example: น้องคนเล็กคดข้าวใส่จานให้สมาชิกในครอบครัวจนครบทุกคน, Thai Definition: ตักเอาข้าวสุกออกมาจากภาชนะที่ใส่
คด(v) ladle, See also: dip up, dish up, Syn. ตัก, Example: แม่ครัวคดข้าวจากหม้อแล้วส่งให้เด็กๆ ที่ยืนรออยู่, Thai Definition: ตักข้าวสุกออกจากหม้อหรือภาชนะอื่นๆ
คันโพง(n) basket-dipper with a long handle, See also: long spout of watering pot, Count Unit: คัน, Thai Definition: เครื่องสำหรับตักน้ำหรือโพงน้ำ มีคันยาวที่ปลาย มีเชือกผูกโพงเพื่อให้แข็งแรง
คอตีบ(n) diphtheria, Example: ระยะหลังนี้มีแนวโน้มว่าโรคคอตีบจะเป็นในเด็กโตมากขึ้น, Thai Definition: โรคติดต่ออันตรายชนิดหนึ่งเกิดแก่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน
เครื่องช่วยฟัง(n) audiphone, See also: hearing aid, Example: เครื่องช่วยฟังจะช่วยขยายเสียงพูดหรือเสียงสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเด็กที่มีปัญหาทางด้านการฟัง, Count Unit: เครื่อง
พระราชไมตรี(n) friendly relations, See also: diplomatic relations, Example: เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระราชไมตรีตอบรับคำเชิญของกระทรวงการต่างประเทศของไทย, Thai Definition: ความเป็นเพื่อน, ความหวังดีต่อกัน, Notes: (ราชา)
ฟาย(v) dip with hand, See also: scoop with hand, Example: เขาฟายน้ำจากลำธารขึ้นมาลบหน้าเพิ่มความสดชื่น, Thai Definition: เอาอุ้งมือตัก
มุมเท(n) angle of dip, See also: magnetic dip, slope, Count Unit: มุม, Thai Definition: มุมระหว่างแนวทิศของสนามแท้ของแม่เหล็กโลกกับแนวระดับ
อาบยาพิษ(adj) dipped in poison, Example: หลักฐานของการฆาตกรรมที่เหลือให้เห็นก็มีเพียงลูกดอกหน้าไม้อาบยาพิษโบราณ ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
อักษรสาสน์(n) diplomatic letter, Syn. อักษรสาสน, Count Unit: ฉบับ, Thai Definition: จดหมายของประธานาธิบดีหรือประมุขของประเทศ ซึ่งมีชื่อเป็นอย่างอื่นที่ใช้ในการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ
ตัก(v) scoop, See also: dip, draw, fetch, get, ladle, Syn. ช้อน, Example: ทุกเช้าก่อนที่เด็กชายจะไปโรงเรียนเขาต้องตักน้ำจากบ่อมาไว้ในตุ่มให้ตายายใช้, Thai Definition: เอาภาชนะช้อนสิ่งของขึ้นจากที่เดิม
ตะแบง(n) Dipterocarpus intricatus Dyer, See also: family of rubber tree, Syn. ต้นสะแบง, ต้นกราด, ยางกราด, เหียงกราด, ต้นตะแบง, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Dipterocarpus intricatus Dyer ในวงศ์ Dipterocarpaceae ขึ้นในป่าเต็งรัง ต้นมียางเหนียว เจาะเอาน้ำมันยางได้
น้ำจิ้ม(n) sauce, See also: dip, Syn. น้ำปรุงรส, Example: ที่ร้านลืมให้น้ำจิ้มมา ฉันเลยต้องเดินกลับไปอีกรอบ, Thai Definition: น้ำผสมเครื่องเทศบางอย่าง โดยมากมีรสเปรี้ยวเค็มหวาน
ยาง(n) Dipterocarpus, Syn. ต้นยาง, Thai Definition: ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่หลายชนิดในสกุล Dipterocarpus วงศ์ Dipterocarpaceae เช่น ยางนา (D. alatus Roxb.) ยางแดง (D. turbinatus Gaertn. f.)
ประกาศนียบัตร(n) certificate, See also: diploma, testimonial, Syn. ใบสุทธิ, วุฒิบัตร, ใบรับรอง, Example: เขาเรียนจบระดับปวส. โดยมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้, Thai Definition: เอกสารแสดงคุณวุฒิ ตามปกติต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา
ชุบ(v) dip, See also: soak, immerse, douse, Syn. จุ่ม, จ่อม, แช่, Example: แม่เอาผ้าชุบน้ำก่อนถูพื้น, Thai Definition: เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งจุ่มลงไปในน้ำหรือของเหลวอื่นๆ เพื่อให้เปียก ให้กล้า ให้แข็ง
กดน้ำ(v) duck, See also: push down into the water, dive, dip, souse, Example: พลการชันสูตรศพพบว่าหญิงสาวถูกจับกดน้ำจนเสียชีวิตคาอ่างน้ำ, Thai Definition: ใช้กำลังกดให้มิดลงไปในน้ำ, Notes: (ปาก)
กระบวย(n) dipper, See also: scoop, coconutshell ladle, Example: เขาใช้กระบวยตักน้ำใส่ตุ่ม, Count Unit: อัน, Thai Definition: ภาชนะสำหรับตักน้ำ เดิมทำด้วยกะลามะพร้าว มีด้ามถือ
การทูต(n) diplomacy, See also: statecraft, statesmanship, foreign affairs, external affairs, Example: เขาชอบใช้วิธีการทูตในการเจรจาหว่านล้อมและสร้างพันธมิตรทางการค้า
คลุ้ง(n) Dipterocarpus tuberculatus, Syn. พลวง, ตึง, ต้นคลุ้ง, Example: ลุงเอาใบคลุ้งมามวนยาแล้วจุดสูบอย่างสบายใจ, Thai Definition: ชื่อไม้ต้นชนิด Dipterocarpus tuberculatus Roxb. ในวงศ์ Dipterocarpaceae ใบใหญ่ ใช้ห่อยาสูบและมุงหลังคา
ควบกล้ำ(adj) diphthong, Example: เด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่ออกเสียงควบกล้ำแล้ว, Thai Definition: ลักษณะของอักษรหรือเสียงที่เข้ากันหรือกลืนกัน
จวัก(n) dipper, See also: ladle, scoop, Syn. ตวัก, จ่า, กระจ่า, Count Unit: อัน, Thai Definition: เครื่องใช้ตักข้าวและแกง ทำด้วยกะลามะพร้าว มีด้าม รูปคล้ายทัพพี
จิ้ม(v) dip, See also: plunge, dunk, Syn. จุ่ม, จุ้ม, Example: เราใช้ผลอ่อน ใบอ่อนของมะม่วงเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก
จุ่ม(v) dip, See also: douse, immerse, soak, Syn. จุ้ม, จิ้ม, Example: ถ้าเราเอามือเย็นๆ จุ่มลงไปในน้ำเย็นจะรู้สึกว่าน้ำอุ่น, Thai Definition: เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งจิ้มลงไปในของเหลวแล้วรีบยกขึ้น
จุ้ม(v) steep, See also: immerse, soak, dip, douse, Syn. ชุบ, จุ่ม, Example: หากคุณนำผ้าจุ้มในน้ำยาปรับผ้านุ่มก่อนตากจะทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมมากขึ้น, Thai Definition: เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งทิ่มหรือชุบลงไปในของเหลว
จุ่มน้ำ(v) dip into water, See also: dunk into water, put into water, douse, Example: ก่อนจะก่ออิฐต้องนำอิฐไปจุ่มน้ำหรือราดน้ำให้เปียกชุ่มเสียก่อน
ดีดีที(n) D.D.T., See also: Dichloro Diphenyl Trichloroethane, Syn. ยาฆ่าแมลง, Example: สารดีดีทีมีส่วนผสมของสารหนูและสารปรอท, Thai Definition: ชื่อสารประกอบเคมี มีชื่อเต็มว่า Dichloro Diphenyl Trichloroethane ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว ใช้ประโยชน์เป็นสารอย่างแรงในการฆ่าแมลง
ทูต(n) ambassador, See also: diplomat, envoy, representative, minister, Syn. นักการทูต, ราชทูต, ทูตา, Example: ประเทศไทยส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ, Count Unit: คน, ท่าน, Thai Definition: ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนไปยังต่างประเทศ เพื่อเจรจาหรือเจริญสันถวไมตรีเป็นทางราชการ, Notes: (บาลี)
ทูตานุทูต(n) diplomat, See also: envoy, representative, minister, ambassador, diplomatic body, diplomatic corps, Syn. ตัวแทน, Count Unit: ท่าน, คน , กลุ่ม, คณะ, Thai Definition: ทูตใหญ่น้อย, คณะทูต, Notes: (บาลี)
นักการทูต(n) diplomat, See also: ambassador, emissary, envoy, consul, minister, statesman, Example: พ่อของฉวีวรรณเป็นนักการทูตที่มีความสามารถมานานมาก, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ชำนาญการทูต
วุฒิบัตร(n) diploma, Example: รางวัลที่หนึ่งจะได้รับทุนการศึกษาและวุฒิบัตร, Thai Definition: เอกสารแสดงความรู้, เอกสารแสดงวุฒิ
อนุปริญญา(n) diploma, Example: งานตำแหน่งนี้รับผู้จบอนุปริญญาขึ้นไป, Thai Definition: ชั้นความรู้ขั้นมหาวิทยาลัยรองจากปริญญาตรี ซึ่งประสาทให้แก่ผู้ที่สอบไล่ได้ตามหลักสูตรที่กำหนดไว้
คณะฑูต(n) diplomatic corps, See also: diplomatic mission, Example: นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
คณะฑูต(n) diplomatic corps, See also: diplomatic mission, Example: นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
เท(v) slope, See also: tilt, lean, incline, dip, Syn. เอียง, ตะแคง, Ant. ตรง, Example: พื้นเรือลำนี้เทไปด้านหน้า, Thai Definition: เอียงหรือตะแคงไปข้างหนึ่ง
คณะฑูต(n) diplomatic corps, See also: diplomatic mission, Example: นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
เท(adj) incline, See also: lean, dip, slope, Syn. เอียง, ตะแคง, Ant. ตรง, Example: ทางเดินไปอาคารหลังนั้นเป็นพื้นเท ต้องเดินอย่างระมัดระวัง, Thai Definition: ลักษณะที่เอียงหรือตะแคงไปข้างหนึ่ง

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
อักษรกล้ำ[aksøn klam] (n, exp) EN: diphthong  FR: diphtongue [ f ]
อมรเบิกฟ้า[amøn boēk fā] (n, exp) EN: Rose dipladenia
อนุปริญญา[anuparinyā] (n) EN: diploma  FR: diplôme [ m ] ; certificat [ m ]
ใบสุทธิ[baisutthi] (n) EN: graduation certificate ; school-leaving certificate ; diploma ; testimonial ; certificate of honourable dismissal   FR: attestation [ f ] ; certificat [ m ]
บัณฑิต[bandit] (n) EN: graduate  FR: licencié [ m ] ; diplômé [ m ]
แช่[chaē] (v) EN: steep ; soak ; immerse ; dip  FR: macérer ; tremper ; immerger
ชั้นเชิง[chanchoēng] (n) EN: artifice ; tactics ; means ; stratagem ; trick ; tact ; strategy ; trickery ; finesse ; craftiness ; diplomatic skill  FR: stratagème [ m ] ; moyen [ m ] ; artifice [ m ] ; finesse [ f ]
ช้อน[chøn] (v) EN: take up ; scoop ; dip  FR: puiser ; retirer
ชุบ[chup] (v) EN: soak ; immerse ; dip ; steep ; put in a bathe ; douse  FR: plonger ; tremper ; immerger
โดยวิถีทางการทูต[dōi withīthāng kānthūt] (xp) EN: through the diplomatic channel  FR: par voie diplomatique
จิ้ม[jim] (v) EN: dip ; plunge ; dunk  FR: plonger ; tremper
จิ้มหมึก[jim meuk] (v) EN: dip in ink  FR: tremper dans l'encre
จบการศึกษา[jop kānseuksā] (v, exp) EN: graduate  FR: être diplômé ; obtenir son diplôme ; terminer ses études ; sortir de l'université ; sortir de l'école
จุ่ม[jum] (v) EN: dip ; douse ; immerse ; soak ; steep  FR: plonger ; tremper
จุ่มน้ำ[jum nām] (v, exp) EN: dip into water ; dunk into water ; put into water ; douse  FR: plonger dans l'eau ; tremper dans l'eau
จุ่มน้ำหมึก[jum nāmmeuk] (v, exp) EN: dip in ink  FR: tremper dans l'encre
การปฏิบัติหน้าที่ทางการทูต[kān patibat nāthī thāng kānthūt] (n, exp) EN: performance of diplomatic acts
การปฏิบัติหน้าที่ทางทูต[kān patibat nāthī thāng thūt] (n, exp) EN: performance of diplomatic acts
การประชุมทางการทูต[kān prachum thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic conference  FR: conférence diplomatique [ f ]
การทูต[kānthūt] (n) EN: diplomacy ; statecraft ; statesmanship ; foreign affairs ; external affairs  FR: diplomatie [ f ]
ไข้การเมือง[khai kān meūang] (n, exp) EN: diplomatic illness ; political illness  FR: maladie diplomatique [ f ]
ไข้คอตีบ[khai khø tīp] (n) EN: dipheria  FR: diphtérie [ f ]
ไขมัน[khaiman] (n) EN: fat ; adipose tissue  FR: graisse [ f ] ; tissu adipeux [ m ]
ขัน[khan] (n) EN: dipping bowl ; water dipper
คณะผู้แทนทางทูต[khana phūthaēn thāng thūt] (n, exp) EN: diplomatic mission  FR: mission diplomatique [ f ]
คณะทูต[khanathūt] (n) EN: diplomatic corps  FR: mission diplomatique [ f ] ; légation [ f ] ; corps diplomatique [ m ]
ข้าราชการสถานทูต[khārātchakān sathānthūt] (n) EN: diplomat  FR: diplomate [ m, f ]
ขัตติยะ สวัสดิผล, พล.ต. ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง)[Khattiya Sawatdiphon] (n, prop) EN: Maj-Gen Khattiya Sawasdipol (Seh Daeng, Sae Daeng)
คด[khot] (v) EN: ladle ; dip up ; dish up
คอตีบ[khøtīp] (n) EN: diphtheria
เครื่องช่วยฟัง[khreūang chūay fang] (n, exp) EN: audiphone  FR: appareil auditif [ m ] ; prothèse auditive [ f ]
ความสัมพันธ์ทางการทูต[khwām samphan thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic relations  FR: relations diplomatiques [ fpl ]
กดน้ำ[kot nām] (v, exp) EN: duck ; push down into the water ; dive ; dip ; souse
กระบวย[krabūay] (n) EN: dipper ; scoop ; coconut shell ladle  FR: louche [ f ]
ลิ้นทูต[lin thūt] (adj) EN: diplomatic
มุมเท[mum thē] (n, exp) EN: angle of dip ; magnetic dip ; slope  FR: angle d'inclinaison [ m ]
นักการทูต[nakkānthūt] (n) EN: diplomat ; ambassador ; emissary ; envoy ; consul ; minister ; statesman  FR: diplomate [ m, f ]
น้ำจิ้ม[nāmjim] (n) EN: sauce ; dip
เนื้อเยื่อไขมัน[neūayeūa khaiman] (n, exp) EN: adipose tissue  FR: tissu adipeux [ m ]
นกมุดน้ำ[nok mūt nām] (n) EN: dipper
นกมุดน้ำ[nok mūt nām] (n, exp) EN: Brown Dipper  FR: Cincle de Pallas [ m ] ; Cincle brun [ m ] ; Cincle fuligineux [ m ]
เปรียญ[parīen] (n) EN: graduate of theology  FR: diplômé en théologie [ m ]
เปรียญธรรม[parīen tham] (n, exp) EN: graduation in Buddhist theology ; the highest level of Buddhist dhamma  FR: diplômé en théologie bouddhique [ m ]
ปริญญา[parinyā] (n) EN: academic degree ; degree  FR: diplôme universitaire [ m ] ; titre universitaire [ m ] ; maîtrise [ f ]
ป่าเต็งรัง[pā tengrang] (n, exp) EN: dry dipterocarp forest
เป็นไขมัน[pen khaiman] (adj) FR: adipeux
พิธีการทางการทูต[phithīkān thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic protocol  FR: protocole diplomatique [ m ]
พิธีการทูต[phithīkān thūt] (n) EN: diplomatic protocol  FR: protocole diplomatique [ m ]
พระราชไมตรี[phrarātchamaitrī] (n) EN: friendly relations; diplomatic relations  FR: relation amicale [ f ]
ผู้สำเร็จการศึกษา[phū samret kānseuksā] (n, exp) EN: graduate  FR: diplômé [ m ]

CMU English Pronouncing Dictionary Dictionary [with local updates]
dip
dips
dippy
dipole
dipped
dippel
dipper
dipple
adipose
dipalma
dipaola
dipaolo
diperna
dipiero
dipinto
dipirro
diploma
dippers
dipping
dippold
diprima
dipshit
oedipal
oedipus
dipanjan
dipiazza
dipiazza
dipierro
dipietro
diplomas
diplomat
dipstick
mediplex
diphthong
diplomacy
diplomats
dippolito
dipasquale
dipasquale
diphtheria
diplomat's
diplomatic
diplomats'
nifedipine
nifedipine
serendipity
undiplomatic
serendipitous
diplomatically
undiplomatically

Oxford Advanced Learners Dictionary (pronunciation guide only)
Dip
dip
dips
Dip Ed
dipped
dipper
Oedipus
adipose
diploma
dippers
dipping
diptych
diplomas
diplomat
dipstick
diptychs
diphthong
diplomacy
diplomats
dipsticks
diphtheria
diphthongs
diplomatic
dipsomania
diplomatist
dipsomaniac
serendipity
diplomatists
dipsomaniacs
undiplomatic
diplomatically
undiplomatically
Corps Diplomatique

WordNet (3.0)
adenosine diphosphate(n) an ester of adenosine that is converted to ATP for energy storage, Syn. ADP
adipose(adj) composed of animal fat
adipose tissue(n) a kind of body tissue containing stored fat that serves as a source of energy; it also cushions and insulates vital organs, Syn. fatty tissue, fat
adiposity(n) having the property of containing fat, Syn. adiposeness, fattiness
amlodipine besylate(n) a vasodilator (trade name Norvasc) taken in tablet form; prescribed for hypertension and angina pectoris, Syn. Norvasc
amphidiploid(n) (genetics) an organism or cell having a diploid set of chromosomes from each parent
amphidiploidy(n) the condition of being amphidiploid
anadiplosis(n) repetition of the final words of a sentence or line at the beginning of the next, Syn. reduplication
bean dip(n) a dip made of cooked beans
big dipper(n) a group of seven bright stars in the constellation Ursa Major, Syn. Wagon, Wain, Charles's Wain, Plough, Dipper
bureau of diplomatic security(n) the bureau in the State Department that is responsible for the security of diplomats and embassies overseas, Syn. DS
cercidiphyllaceae(n) one genus, Syn. family Cercidiphyllaceae
cercidiphyllum(n) one species: katsura tree, Syn. genus Cercidiphyllum
chaetodipterus(n) a genus of Ephippidae, Syn. genus Chaetodipterus
cheese dip(n) a dip made of cheeses
clam dip(n) a dip made of clams and soft cream cheese
corynebacterium diphtheriae(n) a species of bacterium that causes diphtheria, Syn. Klebs-Loeffler bacillus, C. diphtheriae
cydippida(n) ctenophores having two long pinnate tentacles, Syn. order Cydippida, order Cydippidea, order Cydippea, Cydippidea, Cydippea
dichlorodiphenyltrichloroethane(n) an insecticide that is also toxic to animals and humans; banned in the United States since 1972, Syn. DDT
dip(n) a depression in an otherwise level surface
dip(n) (physics) the angle that a magnetic needle makes with the plane of the horizon, Syn. magnetic dip, magnetic inclination, angle of dip, inclination
dip(n) tasty mixture or liquid into which bite-sized foods are dipped
dip(n) a brief immersion
dip(n) a candle that is made by repeated dipping in a pool of wax or tallow
dip(n) a brief swim in water, Syn. plunge
dip(n) a gymnastic exercise on the parallel bars in which the body is lowered and raised by bending and straightening the arms
dip(v) go down momentarily
dip(v) stain an object by immersing it in a liquid
dip(v) take a small amount from
dip(v) lower briefly
dip(v) appear to move downward, Syn. sink
dip(v) slope downwards
dip(v) dip into a liquid, Syn. duck, douse
dip(v) place (candle wicks) into hot, liquid wax
dip(v) immerse in a disinfectant solution
dip(v) plunge (one's hand or a receptacle) into a container
dip(v) scoop up by plunging one's hand or a ladle below the surface
diphenhydramine(n) antihistamine (trade name Benadryl) used to treat allergic reactions involving the nasal passages (hay fever) and also to treat motion sickness, Syn. Benadryl
diphenylbutyl piperidine(n) a group of antipsychotic drugs used mainly in the treatment of schizophrenia
diphenylhydantoin(n) an anticonvulsant drug (trade name Dilantin) used to treat epilepsy and that is not a sedative, Syn. phenytoin, Dilantin
diphtheria(n) acute contagious infection caused by the bacterium Corynebacterium diphtheriae; marked by the formation of a false membrane in the throat and other air passages causing difficulty in breathing
diphthong(n) a vowel sound that starts near the articulatory position for one vowel and moves toward the position for another
diphthongize(v) change from a simple vowel to a diphthong, Syn. diphthongise
diphylla(n) vampire bats, Syn. genus Diphylla
dip into(v) read selectively; read only certain passages from a text
diplegia(n) paralysis of corresponding parts on both sides of the body
diplococcus(n) Gram-positive bacteria usually occurring in pairs
diplodocus(n) a huge quadrupedal herbivore with long neck and tail; of late Jurassic in western North America
diploic vein(n) one of the veins serving the spongy part of the cranial bones, Syn. vena diploica
diploid(n) (genetics) an organism or cell having the normal amount of DNA per cell; i.e., two sets of chromosomes or twice the haploid number

The Collaborative International Dictionary of English (GCIDE) v.0.53
Adipescent

a. [ L. adeps, adipis, fat + -escent. ] Becoming fatty. [ 1913 Webster ]

Adipic

a. [ L. adeps, adipis, fat. ] (Chem.) Pertaining to, or derived from, fatty or oily substances; -- applied to certain acids obtained from fats by the action of nitric acid. [ 1913 Webster ]

adipic acid

an aliphatic dicarboxylic acid (HO.CO.(CH2)4.CO.OH), containing six carbon atoms in a linear chain. It is found in beet juice. It is used in the manufacture of synthetic plastics such as Nylon, as well as other products. [ PJC ]

Adipocerate

v. t. To convert into adipocere. [ 1913 Webster ]

Adipoceration

n. The act or process of changing into adipocere. [ 1913 Webster ]

Adipocere

n. [ L. adeps, adipis, fat + cera wax: cf. F. adipocere. ] A soft, unctuous, or waxy substance, of a light brown color, into which the fat and muscle tissue of dead bodies sometimes are converted, by long immersion in water or by burial in moist places. It is a result of fatty degeneration. [ 1913 Webster ]

Adipoceriform

a. [ Adipocere + -form. ] Having the form or appearance of adipocere; as, an adipoceriform tumor. [ 1913 Webster ]

Adipocerous

a. Like adipocere. [ 1913 Webster ]

adipogenous

a. [ See Adipose; -genous. ] (Med.) Producing fat. AS [ Webster 1913 Suppl. ]

adipolysis

‖n. [ NL.; L. adeps, adipis, fat + Gr. ly`sis a loosing. ] (Physiol.) The digestion of fats. [ Webster 1913 Suppl. ]

Adipolytic

a. [ L. adeps, adipis, fat + Gr. &unr_; to loose. ] (Chem.) Hydrolyzing fats; converting neutral fats into glycerin and free fatty acids, esp. by the action of an enzyme; as, adipolytic action. Contrast saponify, to hydrolyze fat by the action of an alkali. [ Webster 1913 Suppl. ]

adipoma

‖n.; L. pl. adipomata /plu>. [ NL. See adipose; -oma. ] (Med.) An obsolete term for lipoma. -- Ad`i*pom"a*tous a. [AS]

Adipose

n. (Physiol.) The fat present in the cells of adipose tissue, composed mainly of varying mixtures of tripalmitin, tristearin, and triolein. It solidifies after death. [ Webster 1913 Suppl. ]

Adipose

a. [ L. adeps, adipis, fat, grease. ] Of or pertaining to animal fat; fatty. [ 1913 Webster ]


Adipose fin (Zool.), a soft boneless fin. --
Adipose tissue (Anat.), that form of animal tissue which forms or contains fat.
[ 1913 Webster ]

Adiposity

{ } n. The state of being fat; fatness. [ 1913 Webster ]

Variants: Adiposeness
Adipous

a. Fatty; adipose. [ R. ] [ 1913 Webster ]

Adipsia

n. [ Gr. 'a`dipsos not thirsty; 'a priv. + di`psa thirst. ] (Med.) Absence of thirst. [ 1913 Webster + AS ]

Variants: Adipsy
Adipsous

a. [ Gr. 'a`dipsos; 'a priv. + di`psa, thirst. ] Quenching thirst, as certain fruits. [ 1913 Webster ]

Anadiplosis

‖n. [ L., fr. Gr. &unr_;; &unr_; + &unr_; to double, &unr_;, &unr_;, twofold, double. ] (Rhet.) A repetition of the last word or any prominent word in a sentence or clause, at the beginning of the next, with an adjunct idea; as, “He retained his virtues amidst all his misfortunes -- misfortunes which no prudence could foresee or prevent.” [ 1913 Webster ]

Antidiphtheritic

a. (Med.) Destructive to, or hindering the growth of, diphtheria bacilli. -- n. An antidiphtheritic agent. [ Webster 1913 Suppl. ]

Audiphone

n. [ L. audire to hear + Gr. &unr_; sound. ] An instrument which, placed against the teeth, conveys sound to the auditory nerve and enables the deaf to hear more or less distinctly; a dentiphone. [ 1913 Webster ]

Cydippidea

n. an order of ctenophores having two long pinnate tentacles.
Syn. -- order Cydippida, Cydippidea, order Cydippidea, Cydippea, order Cydippea. [ WordNet 1.5 ]

Variants: Cydippida
Dandiprat

n. [ Dandy + brat child. ] 1. A little fellow; -- in sport or contempt. “A dandiprat hop-thumb.” Stanyhurst. [ 1913 Webster ]

2. A small coin. [ 1913 Webster ]

Henry VII. stamped a small coin called dandiprats. Camden. [ 1913 Webster ]

Dip

v. t. [ imp. & p. p. Dipped r Dipt (&unr_;); p. pr. & vb. n. Dipping. ] [ OE. dippen, duppen, AS. dyppan; akin to Dan. dyppe, Sw. doppa, and to AS. d&unr_;pan to baptize, OS. d&unr_;pian, D. doopen, G. taufen, Sw. döpa, Goth. daupjan, Lith. dubus deep, hollow, OSlav. dupl&unr_; hollow, and to E. dive. Cf. Deep, Dive. ] 1. To plunge or immerse; especially, to put for a moment into a liquid; to insert into a fluid and withdraw again. [ 1913 Webster ]

The priest shall dip his finger in the blood. Lev. iv. 6. [ 1913 Webster ]

[ Wat'ry fowl ] now dip their pinions in the briny deep. Pope. [ 1913 Webster ]

While the prime swallow dips his wing. Tennyson. [ 1913 Webster ]

2. To immerse for baptism; to baptize by immersion. Book of Common Prayer. Fuller. [ 1913 Webster ]

3. To wet, as if by immersing; to moisten. [ Poetic ] [ 1913 Webster ]

A cold shuddering dew
Dips me all o'er. Milton. [ 1913 Webster ]

4. To plunge or engage thoroughly in any affair. [ 1913 Webster ]

He was . . . dipt in the rebellion of the Commons. Dryden. [ 1913 Webster ]

5. To take out, by dipping a dipper, ladle, or other receptacle, into a fluid and removing a part; -- often with out; as, to dip water from a boiler; to dip out water. [ 1913 Webster ]

6. To engage as a pledge; to mortgage. [ Obs. ] [ 1913 Webster ]

Live on the use and never dip thy lands. Dryden. [ 1913 Webster ]


Dipped candle, a candle made by repeatedly dipping a wick in melted tallow. --
To dip snuff, to take snuff by rubbing it on the gums and teeth. [ Southern U. S. ] --
To dip the colors (Naut.), to lower the colors and return them to place; -- a form of naval salute.
[ 1913 Webster ]

Dip

v. i. 1. To immerse one's self; to become plunged in a liquid; to sink. [ 1913 Webster ]

The sun's rim dips; the stars rush out. Coleridge. [ 1913 Webster ]

2. To perform the action of plunging some receptacle, as a dipper, ladle. etc.; into a liquid or a soft substance and removing a part. [ 1913 Webster ]

Whoever dips too deep will find death in the pot. L'Estrange. [ 1913 Webster ]

3. To pierce; to penetrate; -- followed by in or into. [ 1913 Webster ]

When I dipt into the future. Tennyson. [ 1913 Webster ]

4. To enter slightly or cursorily; to engage one's self desultorily or by the way; to partake limitedly; -- followed by in or into. “Dipped into a multitude of books.” Macaulay. [ 1913 Webster ]

5. To incline downward from the plane of the horizon; as, strata of rock dip. [ 1913 Webster ]

6. To dip snuff. [ Southern U.S. ] [ 1913 Webster ]

Dip

n. 1. The action of dipping or plunging for a moment into a liquid. “The dip of oars in unison.” Glover. [ 1913 Webster ]

2. Inclination downward; direction below a horizontal line; slope; pitch. [ 1913 Webster ]

3. a hollow or depression in a surface, especially in the ground. [ PJC ]

4. A liquid, as a sauce or gravy, served at table with a ladle or spoon. [ Local, U.S. ] Bartlett. [ 1913 Webster ]

5. A dipped candle. [ Colloq. ] Marryat. [ 1913 Webster ]

6. A gymnastic exercise on the parallel bars in which the performer, resting on his hands, lets his arms bend and his body sink until his chin is level with the bars, and then raises himself by straightening his arms. [ Webster 1913 Suppl. ]

7. In the turpentine industry, the viscid exudation, which is dipped out from incisions in the trees; as, virgin dip (the runnings of the first year), yellow dip (the runnings of subsequent years). [ Webster 1913 Suppl. ]

8. (Aëronautics) A sudden drop followed by a climb, usually to avoid obstacles or as the result of getting into an airhole. [ Webster 1913 Suppl. ]

9. a liquid, in which objects are soaked by dipping; e.g., a parasiticide or insecticide solution into which animals are dipped (see sheep-dip). [ PJC ]

10. a sauce into which foods are dipped to enhance the flavor; e. g., an onion dip made from sour cream and dried onions, into which potato chips are dipped. [ PJC ]

11. a pickpocket. [ slang ] [ PJC ]


Dip of the horizon (Astron.), the angular depression of the seen or visible horizon below the true or natural horizon; the angle at the eye of an observer between a horizontal line and a tangent drawn from the eye to the surface of the ocean. --
Dip of the needle, or
Magnetic dip
, the angle formed, in a vertical plane, by a freely suspended magnetic needle, or the line of magnetic force, with a horizontal line; -- called also inclination. --
Dip of a stratum (Geol.), its greatest angle of inclination to the horizon, or that of a line perpendicular to its direction or strike; -- called also the pitch.
[ 1913 Webster ]

Dipaschal

a. [ Pref. di- + paschal. ] Including two passovers. Carpenter. [ 1913 Webster ]

Dipchick

n. (Zool.) See Dabchick. [ 1913 Webster ]

Dipetalous

a. [ Pref. di- + petalous. ] (Bot.) Having two petals; two-petaled. [ 1913 Webster ]

Diphenyl

n. [ Pref. di- + phenyl. ] (Chem.) A white crystalline substance, C6H5.C6H5, obtained by leading benzene through a heated iron tube. It consists of two benzene or phenyl radicals united. [ 1913 Webster ]

Diphtheria

n. [ NL., fr. Gr. &unr_; leather (hence taken in the sense of membrane): cf. &unr_; to make soft, L. depsere to knead. ] (Med.) A very dangerous contagious disease in which the air passages, and especially the throat, become coated with a false membrane, produced by the solidification of an inflammatory exudation. Cf. Group.

Diphtheric

{ } a. Relating to diphtheria; diphtheritic. [ 1913 Webster ]

Variants: Diphtherial
Diphtheritic

a. (Med.) 1. Pertaining to, or connected with, diphtheria. [ 1913 Webster ]

2. Having characteristics resembling those of diphtheria; as, diphtheritic inflammation of the bladder. [ 1913 Webster ]

Diphthong

v. t. To form or pronounce as a diphthong; diphthongize. [ R. ] [ 1913 Webster ]

Diphthong

n. [ L. diphthongus, Gr. &unr_;; di- = di`s- twice + &unr_; voice, sound, fr. &unr_; to utter a sound: cf. F. diphthongue. ] (Orthoëpy) (a) A coalition or union of two vowel sounds pronounced in one syllable; as, ou in out, oi in noise; -- called a proper diphthong. (b) A vowel digraph; a union of two vowels in the same syllable, only one of them being sounded; as, ai in rain, eo in people; -- called an improper diphthong. [ 1913 Webster ]

Diphthongal

a. Relating or belonging to a diphthong; having the nature of a diphthong. -- Diph*thon"gal*ly, adv. [1913 Webster]

Diphthongalize

v. t. To make into a diphthong; to pronounce as a diphthong. [ 1913 Webster ]

Diphthongation

n. See Diphthongization. [ 1913 Webster ]

Diphthongic

a. Of the nature of diphthong; diphthongal. H. Sweet. [ 1913 Webster ]

Diphthongization

n. The act of changing into a diphthong. H. Sweet. [ 1913 Webster ]

Diphthongize

v. t. & i. To change into a diphthong, as by affixing another vowel to a simple vowel. “The diphthongized long vowels.” H. Sweet. [ 1913 Webster ]

Diphycercal

a. [ Gr. difyh`s double (di- = di`s- twice + fy`ein to produce) + ke`rkos tail. ] (Anat.) Having the tail fin divided into two equal parts by the notochord, or end of the vertebral column; protocercal. See Protocercal. [ 1913 Webster ]

Diphygenic

a. [ Gr. difyh`s of double form + -genic. ] (Zool.) Having two modes of embryonic development. [ 1913 Webster ]

Diphyllous

a. [ Gr. di- = di`s- twice + fy`llon leaf: cf. F. diphylle. ] (Bot.) Having two leaves, as a calyx, etc. [ 1913 Webster ]

Diphyodont

a. [ Gr. &unr_; double (di- = di`s- twice + &unr_; to produce) + 'odoy`s, 'odo`ntos, tooth. ] (Anat.) Having two successive sets of teeth (deciduous and permanent), one succeeding the other; as, a diphyodont mammal; diphyodont dentition; -- opposed to monophyodont. -- n. An animal having two successive sets of teeth. [ 1913 Webster ]

Diphyozooid

n. [ Gr. &unr_; of double from + E. zooid. ] (Zool.) One of the free-swimming sexual zooids of Siphonophora. [ 1913 Webster ]

Diplanar

a. [ Pref. di- + plane. ] (Math.) Of or pertaining to two planes. [ 1913 Webster ]

Dipleidoscope

n. [ Gr. &unr_; double + &unr_; image + -scope. ] (Astron.) An instrument for determining the time of apparent noon. It consists of two mirrors and a plane glass disposed in the form of a prism, so that, by the reflections of the sun's rays from their surfaces, two images are presented to the eye, moving in opposite directions, and coinciding at the instant the sun's center is on the meridian. [ 1913 Webster ]

Diplex

a. [ Pref. di- + -plex, as in duplex. ] (Teleg.) Pertaining to the sending of two messages in the same direction at the same time. Diplex and contraplex are the two varieties of duplex. [ Webster 1913 Suppl. ]

Diploblastic

a. [ Gr. &unr_; doublet + -blast + -ic. ] (Biol.) Characterizing the ovum when it has two primary germinal layers. [ 1913 Webster ]

Chinese-English: CC-CEDICT Dictionary
承认[chéng rèn, ㄔㄥˊ ㄖㄣˋ,   /  ] to admit; to concede; to recognize; recognition (diplomatic, artistic etc); to acknowledge #1,783 [Add to Longdo]
[fù, ㄈㄨˋ, / ] to repeat; to double; to overlap; complex (not simple); compound; composite; double; diplo-; duplicate; overlapping; to duplicate #2,449 [Add to Longdo]
外交[wài jiāo, ㄨㄞˋ ㄐㄧㄠ,  ] diplomacy; diplomatic; foreign affairs #3,500 [Add to Longdo]
使命[shǐ mìng, ㄕˇ ㄇㄧㄥˋ, 使 ] a (diplomatic or other) mission #6,681 [Add to Longdo]
使馆[shǐ guǎn, ㄕˇ ㄍㄨㄢˇ, 使  / 使 ] consulate; diplomatic mission #10,947 [Add to Longdo]
文凭[wén píng, ㄨㄣˊ ㄆㄧㄥˊ,   /  ] diploma #12,981 [Add to Longdo]
通行证[tōng xíng zhèng, ㄊㄨㄥ ㄒㄧㄥˊ ㄓㄥˋ,    /   ] a pass (authorization through a checkpoint); a laissez-passer or safe conduct; to authenticate; to confirm name and password on a website; fig. a condition giving access to benefits (e.g. a diploma as a pass to a career) #14,417 [Add to Longdo]
[zhàn, ㄓㄢˋ, ] to dip in (ink, sauce etc) #14,634 [Add to Longdo]
外交官[wài jiāo guān, ㄨㄞˋ ㄐㄧㄠ ㄍㄨㄢ,   ] diplomat #15,177 [Add to Longdo]
代办[dài bàn, ㄉㄞˋ ㄅㄢˋ,   /  ] to act for sb else; to act on sb's behalf; an agent; a diplomatic representative; a chargé d'affaires #15,952 [Add to Longdo]
建交[jiàn jiāo, ㄐㄧㄢˋ ㄐㄧㄠ,  ] to establish diplomatic relations #16,823 [Add to Longdo]
潘基文[Pān Jī wén, ㄆㄢ ㄐㄧ ㄨㄣˊ,   ] Ban Ki Moon (1944-), Korean diplomat, UN secretary general from 2006 #20,438 [Add to Longdo]
正常化[zhèng cháng huà, ㄓㄥˋ ㄔㄤˊ ㄏㄨㄚˋ,   ] normalization (of diplomatic relations etc) #20,668 [Add to Longdo]
使节[shǐ jié, ㄕˇ ㄐㄧㄝˊ, 使  / 使 ] (diplomatic) envoy #21,609 [Add to Longdo]
[piáo, ㄆㄧㄠˊ, ] dipper; ladle #22,703 [Add to Longdo]
李鸿章[Lǐ Hóng zhāng, ㄌㄧˇ ㄏㄨㄥˊ ㄓㄤ,  鸿  /   ] Li Hung-chang or Li Hongzhang (1823-1901), Qing dynasty general, politician and diplomat #23,260 [Add to Longdo]
奖状[jiǎng zhuàng, ㄐㄧㄤˇ ㄓㄨㄤˋ,   /  ] certificate (of prize, degree, diploma etc) #25,120 [Add to Longdo]
斗牛[dòu niú, ㄉㄡˋ ㄋㄧㄡˊ,   /  ] bullfighting; (astr.) Big Dipper and Altair #25,343 [Add to Longdo]
照会[zhào huì, ㄓㄠˋ ㄏㄨㄟˋ,   /  ] a diplomatic note; letter of understanding or concern exchanged between governments #27,848 [Add to Longdo]
参赞[cān zàn, ㄘㄢ ㄗㄢˋ,   /  ] diplomatic officer; attache #28,558 [Add to Longdo]
北斗[běi dǒu, ㄅㄟˇ ㄉㄡˇ,  ] Great Bear; Big Dipper #28,939 [Add to Longdo]
邦交[bāng jiāo, ㄅㄤ ㄐㄧㄠ,  ] relations between two countries; diplomatic relations #30,118 [Add to Longdo]
唐家璇[Táng Jiā xuán, ㄊㄤˊ ㄐㄧㄚ ㄒㄩㄢˊ,   ] Tang Jiaxuan (1938-), politican and diplomat #30,305 [Add to Longdo]
偶然性[ǒu rán xìng, ㄡˇ ㄖㄢˊ ㄒㄧㄥˋ,   ] chance; fortuity; serendipity #32,506 [Add to Longdo]
公使[gōng shǐ, ㄍㄨㄥ ㄕˇ,  使] minister; diplomat performing ambassadorial role in Qing times, before regular diplomatic relations #33,603 [Add to Longdo]
倾角[qīng jiǎo, ㄑㄧㄥ ㄐㄧㄠˇ,   /  ] dip; angle of dip (inclination of a geological plane down from horizontal); tilt (inclination of ship from vertical) #34,858 [Add to Longdo]
[cuì, ㄘㄨㄟˋ, ] dip into water; to temper #34,961 [Add to Longdo]
染指[rǎn zhǐ, ㄖㄢˇ ㄓˇ,  ] to dip a finger (成语 saw); fig. to get one's finger in the pie; to get a share of the action; abbr. for 染指於鼎|染指于鼎 #35,480 [Add to Longdo]
出使[chū shǐ, ㄔㄨ ㄕˇ,  使] to go abroad as ambassador; to be sent on a diplomatic mission #36,767 [Add to Longdo]
涉猎[shè liè, ㄕㄜˋ ㄌㄧㄝˋ,   /  ] to skim (through a book); to read cursorily; to dip into #37,718 [Add to Longdo]
鲁肃[Lǔ Sù, ㄌㄨˇ ㄙㄨˋ,   /  ] Lu Su or Lu Zijing 魯子敬|鲁子敬 (172-217), statesman, diplomat and strategist of Eastern Wu 東吳|东吴 #43,947 [Add to Longdo]
使团[shǐ tuán, ㄕˇ ㄊㄨㄢˊ, 使  / 使 ] diplomatic mission #45,500 [Add to Longdo]
开阳[Kāi yáng, ㄎㄞ ㄧㄤˊ,   /  ] (N) Kaiyang (place in Guizhou); zeta Ursae Majoris in the Big Dipper #47,040 [Add to Longdo]
断交[duàn jiāo, ㄉㄨㄢˋ ㄐㄧㄠ,   /  ] break off diplomatic relations #50,767 [Add to Longdo]
外交家[wài jiāo jiā, ㄨㄞˋ ㄐㄧㄠ ㄐㄧㄚ,   ] a diplomat #51,183 [Add to Longdo]
北斗星[běi dǒu xīng, ㄅㄟˇ ㄉㄡˇ ㄒㄧㄥ,   ] the Big Dipper; the Plow #51,864 [Add to Longdo]
国书[guó shū, ㄍㄨㄛˊ ㄕㄨ,   /  ] credentials (of a diplomat); documents exchanged between nations; national or dynastic history book #56,631 [Add to Longdo]
白喉[bái hóu, ㄅㄞˊ ㄏㄡˊ,  ] diphtheria #58,438 [Add to Longdo]
杨洁篪[Yáng Jié chí, ㄧㄤˊ ㄐㄧㄝˊ ㄔˊ,    /   ] Yang Jiechi (1950-), Chinese politician and diplomat, foreign minister of PRC from 2008 #58,464 [Add to Longdo]
乔冠华[Qiáo Guān huà, ㄑㄧㄠˊ ㄍㄨㄢ ㄏㄨㄚˋ,    /   ] Qiao Guanhua (1913-1973), PRC politician and diplomat #58,548 [Add to Longdo]
北斗七星[běi dǒu qī xīng, ㄅㄟˇ ㄉㄡˇ ㄑㄧ ㄒㄧㄥ,    ] Ursa Major; Great Bear; Big Dipper #69,311 [Add to Longdo]
曾纪泽[Zēng Jì zé, ㄗㄥ ㄐㄧˋ ㄗㄜˊ,    /   ] Cang Jize or Tseng Chi-tse (1839-1890), pioneer diplomat of late Qing, serve as imperial commissioner (ambassador) to UK, France and Russia #70,408 [Add to Longdo]
萧万长[Xiāo Wàn cháng, ㄒㄧㄠ ㄨㄢˋ ㄔㄤˊ,    /   ] Vincent C. Siew (1939-), Taiwanese diplomat and Kuomintang politician, prime minister 1997-2000, vice-president from 2008 #70,624 [Add to Longdo]
双球菌[shuāng qiú jūn, ㄕㄨㄤ ㄑㄧㄡˊ ㄐㄩㄣ,    /   ] diplococcus #72,826 [Add to Longdo]
复交[fù jiāo, ㄈㄨˋ ㄐㄧㄠ,   /  ] to reopen diplomatic relations #73,063 [Add to Longdo]
通牒[tōng dié, ㄊㄨㄥ ㄉㄧㄝˊ,  ] diplomatic note #75,506 [Add to Longdo]
班超[Bān Chāo, ㄅㄢ ㄔㄠ,  ] Ban Chao (33-102), noted Han diplomat and military man #78,936 [Add to Longdo]
唐绍仪[Táng Shào yí, ㄊㄤˊ ㄕㄠˋ ㄧˊ,    /   ] Tang Shaoyi (1862-1939), politician and diplomat #79,269 [Add to Longdo]
金成[Jīn Chéng, ㄐㄧㄣ ㄔㄥˊ,   /  ] Sung KIM, US diplomat and director of US State Department's Korea office #79,728 [Add to Longdo]
滴滴涕[dī dī tì, ㄉㄧ ㄉㄧ ㄊㄧˋ,   ] DDT; dichlorodiphenyltrichloroethane #82,169 [Add to Longdo]

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
外交官[がいこうかん, gaikoukan] TH: ผู้เจรจาทางการทูต  EN: diplomat
外交[がいこう, gaikou] TH: การฑูตระหว่างประเทศ  EN: diplomacy

German-English: TU-Chemnitz DING Dictionary
Abblendschalter { m }dip switch [Add to Longdo]
Abgangszeugnis { n }leaving certificate; diploma [ Am. ] [Add to Longdo]
Abiturzeugnis { n }"Abitur" certificate; GCE A-levels [ Br. ]; graduation diploma [ Am. ] [Add to Longdo]
Abschlussfeier { f } (mit Diplomverleih an Universitäten)commencement [Add to Longdo]
Abschlusszeugnis { n } | Abschlusszeugnis einer High Schooldiploma [ Am. ] | high school diploma [Add to Longdo]
Agronom { m }; Agronomin { f }; Diplomlandwirt { m } [ agro. ]agronomist [Add to Longdo]
Alkoholsucht { f }; Trunksucht { f }dipsomania [Add to Longdo]
Alkoholsüchtige { m, f }; Alkoholsüchtiger; Trunksüchtige { m, f }; Trunksüchtigerdipsomaniac [Add to Longdo]
diplomatische Auswirkungen [ pol. ]diplomatic fallout [Add to Longdo]
Beschichtung { f }dip [Add to Longdo]
diplomatische Beziehungen | diplomatische Beziehungen aufnehmen | diplomatische Beziehungen abbrechendiplomatic relations | to establish diplomatic relations | to break off diplomatic relations [Add to Longdo]
einen Blick werfen in; sich flüchtig befassen mitto dip into [Add to Longdo]
Demarche { f }; Protestnote { f }; diplomatisches Manöver [ pol. ]démarche; demarche [Add to Longdo]
Dip { m }; Soße { f }; Tunke { f }dip [ Am. ] [Add to Longdo]
Diphtherie { f }diphtheria [Add to Longdo]
Diphthong { m }; Zwielaut { m }diphthong [Add to Longdo]
Diplom { n } | Diplome { pl }diploma | diplomas [Add to Longdo]
Diplomarbeit { f }diploma thesis; degree dissertation; final year project [Add to Longdo]
Diplomand { m }student about to take his diploma [Add to Longdo]
Diplomandin { f }student about to take her diploma [Add to Longdo]
Diplomat { m }; Diplomatin { f } | Diplomaten { pl }diplomate | diplomates [Add to Longdo]
Diplomatenkoffer { m }executive briefcase [Add to Longdo]
Diplomatie { f }diplomacy [Add to Longdo]
Diplomingenieur { m }graduate engineer [Add to Longdo]
Diplomkaufmann { m } (Dipl.-Kfm.)business graduate; MBA [Add to Longdo]
Diplomprüfung { f }diploma examination [Add to Longdo]
Dipol { n }dipole [Add to Longdo]
Dipol { n }; Zweibiteinheit { f }doublet [Add to Longdo]
Farbbad { n }; Tauchbad { n }dip [Add to Longdo]
Fettgewebe { n } [ anat. ]adipose tissue [Add to Longdo]
Fetthaltigkeit { f }adiposity [Add to Longdo]
Fettsucht { f }adiposeness [Add to Longdo]
Gesellenbrief { m }apprenticeship diploma [Add to Longdo]
Kelle { f } | Kellen { pl }dipper | dippers [Add to Longdo]
Körperfett { n }adipose [Add to Longdo]
Kontaktende { n } [ electr. ] | Kontaktenden { pl }dip | dips [Add to Longdo]
Kuriergepäck { n }diplomatic bag [Add to Longdo]
Leiter { m } (Leiterin { f }) einer diplomatischen Vertretung; Botschafter { m }; Botschafterin { f }; Generalkonsul { m }head of mission (HOM; HoM) [Add to Longdo]
Meister { m }; Handwerksmeister { m } | seinen Meister machenmaster; master craftman | to take one's master craftman's diploma [Add to Longdo]
Meisterbrief { m }master craftman's diploma; master craftman's certificate [Add to Longdo]
Messstab { m }dipstick [Add to Longdo]
Neigung { f }; Gefälle { n }; Senkung { f }dip [Add to Longdo]
Ödipus { m }oedipus [Add to Longdo]
Schöpflöffel { m }dipper; ladle [Add to Longdo]
Spürsinn { m }; glücklicher Zufall; mehr Glück als Verstand; zufällige Entdeckung { f }serendipity [Add to Longdo]
Tasche { f } | tief in die Tasche greifen | in die eigene Tasche arbeitenpocket | to dip into one's purse (pocket) | to line one's pocket [Add to Longdo]
Taschendieb { m }dip [Add to Longdo]
Tauchlöten { n }dip soldering; dip brazing [Add to Longdo]
Tauchlötkontakt { m }dip-solder contact [Add to Longdo]
Urkundenlehre { f }diplomatics [Add to Longdo]

Japanese-English: EDICT Dictionary
[けい, kei] (n) (uk) Japanese Judas tree (Cercidiphyllum japonicum); (P) #2,647 [Add to Longdo]
外交[がいこう, gaikou] (n) diplomacy; (P) #2,737 [Add to Longdo]
[とます, tomasu] (n) (1) (obs) to (measure of volume, approx. 18 litres); (2) (See 枡形) square bearing block (at the top of a pillar); (3) (See 二十八宿) Chinese "Dipper" constellation (one of the 28 mansions); (P) #2,785 [Add to Longdo]
北斗[ほくと, hokuto] (n) (abbr) (See 北斗七星) Big Dipper (constellation); The Plough #7,328 [Add to Longdo]
傾斜[けいしゃ, keisha] (n, vs) inclination; slant; slope; bevel; list; dip; (P) #7,857 [Add to Longdo]
[ふく, fuku] (n, pref) (1) diplo-; double; (n) (2) (abbr) (See 複試合) doubles (tennis, etc.); (3) (abbr) (See 複勝式) place betting (in horse racing, etc.) #10,381 [Add to Longdo]
[しる(P);つゆ, shiru (P); tsuyu] (n) (1) juice; sap; (2) soup; broth; (3) (つゆ only) (dipping) sauce; (P) #10,966 [Add to Longdo]
ちり[chiri] (n) (See ちり鍋) dish of fish (meat, etc.), tofu, vegetables boiled together and served with ponzu dipping sauce #11,275 [Add to Longdo]
国交[こっこう, kokkou] (n) diplomatic relations; (P) #11,592 [Add to Longdo]
脂質[ししつ, shishitsu] (n) lipid; fats; adipose #18,394 [Add to Longdo]
ADP[エーディーピー, e-dei-pi-] (n) (See アデノシン二燐酸) adenosine diphosphate; ADP [Add to Longdo]
DDT[ディーディーティー, dei-dei-tei-] (n) dichlorodiphenyl-trichloro-ethane; DDT [Add to Longdo]
くさや[kusaya] (n) horse mackerel dipped in salt water and dried in the sun [Add to Longdo]
ざる蕎麦;笊蕎麦;ザル蕎麦;笊そば[ざるそば(ざる蕎麦;笊蕎麦;笊そば);ザルそば(ザル蕎麦), zarusoba ( zaru soba ; sou soba ; sou soba ); zaru soba ( zaru soba )] (n) (uk) zaru soba (soba served on a bamboo draining basket with dipping sauce) [Add to Longdo]
しゃぶしゃぶ[shabushabu] (adv, n) (1) shabu-shabu (thinly sliced meat boiled quickly with vegetables, and dipped in sauce); (2) sound of this dish being prepared; (P) [Add to Longdo]
ちり鍋[ちりなべ, chirinabe] (n) dish of fish (meat, etc.), tofu, vegetables boiled together and served with ponzu dipping sauce; pot used to cook such a dish [Add to Longdo]
つけ麺;付け麺[つけめん, tsukemen] (n) cold Chinese noodles accompanied by soup for dipping [Add to Longdo]
ぴくっと[pikutto] (adv) with a twitch (e.g. an eyebrow); with a dip; with a bob; with a flutter [Add to Longdo]
ぴくり[pikuri] (adv-to, adv) (on-mim) (See ぴくっと) with a twitch (e.g. an eyebrow); with a dip; with a bob; with a flutter [Add to Longdo]
アジピン酸[アジピンさん, ajipin san] (n) adipic acid [Add to Longdo]
アディポネクチン[adeiponekuchin] (n) adiponectin [Add to Longdo]
アデノシン二リン酸;アデノシン二燐酸[アデノシンにリンさん(アデノシン二リン酸);アデノシンにりんさん(アデノシン二燐酸), adenoshin ni rin san ( adenoshin ni rin san ); adenoshin nirinsan ( adenoshin ni ri] (n) adenosine diphosphate; ADP [Add to Longdo]
アメリカンドッグ[amerikandoggu] (n) corn dog (frankfurter on a stick dipped in batter and deep-fried) (wasei [Add to Longdo]
ウエストアフリカンスペードフィッシュ[uesutoafurikansupe-dofisshu] (n) West African spadefish (Chaetodipterus lippei, species of Eastern Atlantic spadefish found from Senegal to Angola) [Add to Longdo]
エディプスコンプレックス[edeipusukonpurekkusu] (n) Oedipus complex; sexual attraction to one's mother [Add to Longdo]
オイディプス[oideipusu] (n) Oedipus; (P) [Add to Longdo]
カツラ科;桂科[カツラか(カツラ科);かつらか(桂科), katsura ka ( katsura ka ); katsuraka ( katsura ka )] (n) (See 桂・かつら) Cercidiphyllaceae (monotypic plant family containing the Japanese Judas trees) [Add to Longdo]
カンガルー鼠[カンガルーねずみ;カンガルーネズミ, kangaru-nezumi ; kangaru-nezumi] (n) (uk) kangaroo rat (of North America; any rodent of genus Dipodomys) [Add to Longdo]
クロロジフェニルアルシン[kurorojifeniruarushin] (n) chlorodiphenylarsine [Add to Longdo]
グリグリ[guriguri] (adv, n, vs) (1) (on-mim) grinding against; rubbing with turning movements (e.g. shoulders); (2) hard lump under the skin (e.g. an adipous tumor or lymph node tumor); (3) big and round eyes; googly eyes; (4) rattling sound [Add to Longdo]
シャトル外交[シャトルがいこう, shatoru gaikou] (n) shuttle diplomacy [Add to Longdo]
シロガネツバメウオ[shiroganetsubameuo] (n) Atlantic spadefish (Chaetodipterus faber, species of Western Atlantic spadefish) [Add to Longdo]
シロガネツバメウオ属[シロガネツバメウオぞく, shiroganetsubameuo zoku] (n) Chaetodipterus (genus of 3 species of spadefishes in the family Ephippidae) [Add to Longdo]
ジフェニール[jifeni-ru] (n) diphenyl [Add to Longdo]
ジフェニル[jifeniru] (n) diphenyl [Add to Longdo]
ジフェニルアミン[jifeniruamin] (n) diphenylamine [Add to Longdo]
ジフテリア;ジフテリヤ;ジフトリア[jifuteria ; jifuteriya ; jifutoria] (n) diphtheria [Add to Longdo]
ジフテリア菌[ジフテリアきん, jifuteria kin] (n) Corynebacterium diphtheriae (bacterium that causes diphtheria) [Add to Longdo]
ジペプチド[jipepuchido] (n) dipeptide [Add to Longdo]
ジホスフィン[jihosufin] (n) { chem } (See リン化水素・2) diphosphine; diphosphane; P2H4 [Add to Longdo]
セレンディピティ[serendeipitei] (n) serendipity [Add to Longdo]
セレンディピティー[serendeipitei-] (n) serendipity [Add to Longdo]
ダイトクベニハゼ[daitokubenihaze] (n) Trimma caudipunctatum (species of goby found in Japan and Palau) [Add to Longdo]
ダイポール;ダイポル[daipo-ru ; daiporu] (n) dipole [Add to Longdo]
ダイポールアンテナ[daipo-ruantena] (n) dipole antenna [Add to Longdo]
ツートンドクロミス;チョコレートディップクロミス[tsu-tondokuromisu ; chokore-todeippukuromisu] (n) chocolatedip chromis (Chromis dimidiata); half-and-half chromis; twotone chromis [Add to Longdo]
ディップ[deippu] (n) (1) dip; (2) { comp } dual inline package; DIP [Add to Longdo]
ディップスイッチ[deippusuicchi] (n) { comp } DIP switch; Dual In-line Package switch [Add to Longdo]
ディップスティック[deippusuteikku] (n) dip stick [Add to Longdo]
ディプスイッチ[deipusuicchi] (n) { comp } dip switch [Add to Longdo]

Japanese-English: COMPDICT Dictionary
ディップ[でいっぷ, deippu] dip, DIP (Dual Inline Package) [Add to Longdo]
ディプスイッチ[でいぷすいっち, deipusuicchi] dip switch [Add to Longdo]
デュアルインラインパッケージ[でゆあるいんらいんぱっけーじ, deyuaruinrainpakke-ji] dual inline package (DIP) [Add to Longdo]
ハンディフォン[はんでいふぉん, handeifon] handiphone (PHP), mobile telephone [Add to Longdo]
ディップスイッチ[でいっぷすいっち, deippusuicchi] DIP switch [Add to Longdo]

Japanese-German: JDDICT Dictionary
免状[めんじょう, menjou] Diplom, Erlaubnisschein [Add to Longdo]
国交[こっこう, kokkou] diplomatische_Beziehungen [Add to Longdo]
外交[がいこう, gaikou] Aussenpolitik, Diplomatie [Add to Longdo]
外交官[がいこうかん, gaikoukan] Diplomat [Add to Longdo]

add this word


You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit


Are you satisfied with the result?



Discussions

About our ads
We know you don’t love ads. But we need ads to keep Longdo Dictionary FREE for users. Thanks for your understanding! Click here to find out more.
Go to Top