ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ขาด, -ขาด- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ hemothorax | (n) เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด อาจเกิดจากอุบัติเหตุซี่โครงหักแล้วมีการฉีกขาดของหลอดเลือดintercostal artery หรือเกิดจากการฉีกขาดของเอออร์ตา |
|
| ขาดหุ้น | (vt) บ้าๆบอๆ, สติไม่ดี, ไม่เต็มบาท |
| ขาด | (v) torn, See also: worn out, be ragged, Syn. ฉีกขาด, Example: เสื้อเขาขาดเป็นริ้วๆ เพราะโดนคนร้ายเอามีดฟัน, Thai Definition: แยกออกจากกันเพราะถูกดึง ตัด หรือ ฉีก เป็นต้น | ขาด | (v) miss, See also: absent, Syn. ไม่มา, Example: สมศักดิ์ขาดโรงเรียนไปหลายวัน เพราะเป็นไข้หวัด, Thai Definition: ไม่มาตามกำหนด เช่น ขาดเรียน ขาดประชุม | ขาด | (v) lack of, See also: be short of, have a shortage of, be deficient, Syn. ขาดแคลน, อัตคัด, Example: โรงงานของเรายังขาดวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตสินค้าอีกมาก, Thai Definition: ไม่มีเพียงพอ, มีไม่เต็มที่เพราะขัดสน | ขาดคำ | (adv) hardly had one spoken, See also: no sooner said (than done), Syn. ขาดปาก, Example: ครูพูดยังไม่ทันขาดคำเธอก็ตกลงมาจากต้นไม้, Thai Definition: สุดคำพูด, จบคำพูด | ขาดใจ | (v) stop breathing, See also: die, pass away, Syn. สิ้นใจ, ตาย, สิ้นลม, สิ้นชีวิต, Example: คนไข้ขาดใจไปแล้วเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว, Thai Definition: ไม่เป็นอยู่ต่อไป, สิ้นสภาพของการมีชีวิต | คงขาด | (v) lack, See also: be deficient, Syn. ยังขาด, Example: ปีนี้ฝนไม่ค่อยตกผลผลิตคงขาดไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว, Thai Definition: มีไม่เพียงพอกับความต้องการ | คำขาด | (n) ultimatum, See also: finality, Example: พนักงานยื่นคำขาดแก่ผู้บริหารเรื่องการขึ้นเงินเดือน, Thai Definition: คำที่พูดออกไปแล้วไม่เปลี่ยนแปลง, ข้อเสนอเด็ดขาด, ข้อเสนอที่ยื่นให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามโดยเด็ดขาด | กินขาด | (v) be superior, See also: be much better, be much superior, Example: คะแนนของเขากินขาดฝ่ายตรงข้าม, Thai Definition: เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด, ดีกว่ามาก, เหนือกว่ามาก, ชนะเด็ดขาด, Notes: (ปาก) | ขาดกัน | (v) be separated, Syn. เลิกรา, จบกัน, จบสิ้นกัน, เลิกกัน, Example: ฉันขอให้เราขาดกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป, Thai Definition: เลิกหรือแยกออกจากกันเพราะไม่มีความสัมพันธ์หลงเหลืออยู่ | ขาดค่า | (v) be worthless, See also: be useless, be valueless, Syn. หมดราคา, ไร้ค่า, Example: หินพวกนี้คงขาดค่าถ้าไม่มีใครค้นพบแล้วจับมาตีราคาว่าเป็นของเก่าแก่, Thai Definition: ไม่มีความหมายอะไรหรือไม่มีค่าหลงเหลืออยู่ | ขาดค่า | (v) be worthless, See also: be valueless, be without worth/value, Syn. หมดค่า, ไร้ค่า, ไม่มีค่า, Ant. มีค่า, Example: หนังสือเหล่านี้คงขาดค่าถ้าไม่มีใครสนใจอ่าน, Thai Definition: ไม่มีความหมายอะไรหรือไม่มีค่าหลงเหลืออยู่ | ขาดงาน | (v) absence from work, See also: absence from duty, Example: พนักงานส่งของขาดงานติดกันมา 3 วันแล้ว ไม่โทรศัพท์มาแจ้งด้วย, Thai Definition: ไม่มาทำงาน | ขาดดุล | (v) run deficit, See also: be imbalanced, Syn. เสียดุล, เสียดุลการค้า, ขาดดุลการค้า, Ant. เกินดุล, Example: ประเทศไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเกณฑ์สูง 7 - 8 % ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2536, Thai Definition: มูลค่าของสินค้าที่นำเข้าสูงกว่ามูลค่าของสินค้าที่ส่งออก | ขาดตอน | (v) discontinue, See also: be disconnected, Syn. ชะงัก, หยุด, ขาดช่วง, Ant. ดำเนินต่อไป, ต่อเนื่องกันไป, Example: เป็นเพราะไฟดับ หนังก็เลยขาดตอนไป, Thai Definition: เกิดการหยุดชะงักกลางคันทำให้ไม่ปะติดปะต่อกัน | ขาดตัว | (adv) at the fixed price, Example: เสื้อตัวนี้แม่ค้าขายขาดตัว 200 บาทเท่านั้น, Thai Definition: จำกัดราคาตายตัว | ขาดตัว | (adv) at the lowest price, See also: at a fix price, Example: เสื้อตัวนี้แม่ค้าขายขาดตัว 200 บาทเท่านั้น, Thai Definition: จำกัดราคาตายตัว | ขาดทุน | (v) lose money, See also: lose, lose one's capital, Ant. กำไร, Example: นักลงทุนขาดทุนจากการเล่นหุ้นไปมาก เนื่องจากช่วงนี้หุ้นตก, Thai Definition: ได้น้อยกว่าต้นทุน | ขาดปาก | (adv) completely, Syn. ขาดคำ, Example: แม่พูดยังไม่ทันขาดปากนิดก็ตกลงมาจากบันไดเสียแล้ว, Thai Definition: สุดคำพูด, จบคำพูด | ขาดมือ | (v) run out of, See also: be out of stock, be wanting, be short of hands, Syn. หมด, Example: เงินของเขาขาดมือมา 3 อาทิตย์แล้ว, Thai Definition: ไม่มีหรือไม่ผ่านเข้ามาให้ใช้เป็นการชั่วคราว | ขาดลอย | (adv) definitely, See also: overwhelmingly, absolutely, Syn. เด็ดขาด, Example: คราวนี้ผมเอาชนะคู่แข่งทุกคนอย่างขาดลอย, Thai Definition: อย่างเด็ดขาด, อย่างทิ้งห่างคู่ต่อสู้ | ขาดสติ | (v) lose one's senses, See also: be mad, lose one's mind, be senseless, be insane, Syn. ไม่มีสติ, ไร้สติ, Ant. มีสติ, Example: เขาคงขาดสติเลยคิดทำอะไรได้ร้ายแรงขนาดนั้น, Thai Definition: ไม่รู้สึกผิดชอบหรือไม่รู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไร | ขาดสอบ | (v) absent from examination, Example: นักศึกษาขาดสอบกันมากเพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ไปตามๆ กัน, Thai Definition: ไม่มาสอบตามวันเวลาที่กำหนด | ขาดหาย | (v) lose, See also: be missing, Syn. หาย, สูญหาย, Example: ความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูกในครอบครัวของเขาขาดหายไปตั้งแต่เขาจำความได้ | ขายขาด | (v) sell outright, Example: เขาขายขาดสินค้าของเขาทุกชิ้น, Thai Definition: ขายออกไปโดยไม่รับซื้อคืน | ชี้ขาด | (v) judge, See also: arbitrate, make a final decision, decide, rule, Syn. ตัดสิน, พิจารณา, พิพากษา, วินิจฉัย, Example: คำตัดสินของศาลชี้ขาดว่าจำเลยสมควรถูกประหารชีวิต | ตัดขาด | (v) cut, See also: divide, bisect, dissect, Example: โลหะกระจกเศษแก้วตัดผ่านผิวหนังมักมีเลือดออกมากเพราะเส้นเลือดถูกตัดขาด, Thai Definition: ตัดให้ขาดออกจากกัน | ตัดขาด | (v) break off, See also: break up, sever, separate, put an end to, Syn. ทิ้ง, เลิก, เลิกคบ, ตัดความสัมพันธ์, ตัดมิตรภาพ, Example: พ่อตัดขาดลูกชายที่ไม่เอาถ่าน, Thai Definition: เลิกติดต่อคบหากัน | ตัดขาด | (v) cut, See also: divide, bisect, dissect, Example: โลหะกระจกเศษแก้วตัดผ่านผิวหนังมักมีเลือดออกมากเพราะเส้นเลือดถูกตัดขาด, Thai Definition: ตัดให้ขาดออกจากกัน | ตัดขาด | (v) break off, See also: break up, sever, separate, put an end to, Syn. ทิ้ง, เลิก, เลิกคบ, ตัดความสัมพันธ์, ตัดมิตรภาพ, Example: พ่อตัดขาดลูกชายที่ไม่เอาถ่าน, Thai Definition: เลิกติดต่อคบหากัน | หัวขาด | (adj) headless, Syn. ไม่มีหัว, Example: มีตุ๊กตาหัวขาดวางอยู่บนพื้นหญ้าหน้าบ้าน | หัวขาด | (adj) headless, See also: beheaded, Example: มีตุ๊กตาหัวขาดวางอยู่บนพื้นหญ้าหน้าบ้าน, Thai Definition: ที่ไม่มีหัว | หายขาด | (v) completely cured, See also: entirely cured, Syn. หายสนิท, Ant. เรื้อรัง, Example: โรคของเธอไม่มีวันหายขาด | เขาดิน | (n) Dusit zoo, Example: ประชาชนเห็นภาพนายกพาครอบครัวไปเที่ยวเขาดิน, Thai Definition: ชื่อสวนสัตว์ปิดแห่งหนึ่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร | ขาดคราว | (v) be unavailable at the particular time, Thai Definition: ไม่มีในคราวนั้น | ขาดช่วง | (v) cease, See also: pause, stop, discontinue, suspend, Syn. ทิ้งช่วง, Example: การสงครามของไทยกับพม่าขาดช่วงมาตั้งแต่สิ้นรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรราช | ขาดตลาด | (v) be lack of, See also: be out of stock, be in short supply, Syn. ขาดแคลน, Ant. เต็มตลาด, Example: ตอนนี้น้ำตาลทรายขาดตลาดเพราะพ่อค้ากักตุนไว้, Thai Definition: ไม่มีขายในท้องตลาด | ขาดระยะ | (v) broken off, Syn. ขาดตอน, ขาดช่วง, Example: รถโดยสารสาธารณะขาดระยะและแน่นมาก ทำให้คนหันมาใช้บริการรถตู้กันมาก, Thai Definition: ไม่ต่อเนื่องกัน, ไม่ติดต่อกัน | ขาดลุ่ย | (v) be worn out, See also: be ragged, be torn, Example: คอเสื้อเชิ้ตของเขาขาดลุ่ย, Thai Definition: คลายออกเป็นเส้นๆ | ขาดวิ่น | (v) be ragged, See also: torn, Syn. ขาด, ขาดลุ่ย, Example: เธอฉีกเสื้อเขาขาดวิ่นหมด เพราะโมโหที่เขาไปมีเมียน้อย, Thai Definition: ฉีกขาดเป็นริ้วหรือลุ่ยออกกะรุ่งกะริ่งไม่เหลือชิ้นดี | ขาดอายุ | (v) expire, See also: terminate, Syn. หมดอายุ, เกินกำหนด, เกินอายุ, Example: สัญญาฉบับนี้ขาดอายุไปนานแล้ว, Thai Definition: หมดเวลาที่กำหนดไว้ | ขาดเงิน | (v) lack of money, See also: be short of money, Example: โครงการนี้ขาดเงินจึงยังไม่คืบหน้าไปไหนเสียที, Thai Definition: ไม่มีเงินที่จะใช้ให้เพียงพอกับรายจ่าย | ขาดเม็ด | (v) stop (for rain), Syn. หยุดตก, หายสนิท, Example: พอฝนขาดเม็ดเขาก็รีบออกไปทันที, Thai Definition: อาการที่หยุดหรือหายสนิท, Notes: ใช้กับฝน | ขาดแคลน | (v) lack of, See also: be short of, be deficient, Syn. ขัดสน, อัตคัด, ขาด, Ant. สมบูรณ์, Example: ในฤดูแล้งภาคอีสานจะขาดแคลนน้ำมาก, Thai Definition: ไม่มีเพียงพอ, มีไม่เต็มที่เพราะขัดสน | ชะตาขาด | (v) be destined to die, Example: หนุ่มจยย.ชะตาขาด ขี่รถอยู่ดีๆ ตายคาที่ด้วยกระสุนปริศนา, Thai Definition: เกิดเหตุร้ายแรงถึงชีวิต | หย่าขาด | (v) divorce, See also: dissolve a marriage, annul, Syn. หย่า, หย่าร้าง, Example: ศาลพิพากษาให้หย่าขาดได้ตามคำฟ้องของผู้เป็นภรรยา, Thai Definition: เลิกเป็นผัวเมียกัน | เด็ดขาด | (v) be decisive, See also: be resolute, be firm, be determined, be resolved, be absolute, Syn. เด็ดเดี่ยว, เข้มแข็ง, แน่วแน่, เฉียบขาด, เคร่งครัด, Ant. โลเล, Example: ทหารต้องเด็ดขาด | เด็ดขาด | (adv) absolutely, See also: resolutely, firmly, decisively, Syn. เด็ดเดี่ยว, แน่นอน, แน่วแน่, เฉียบขาด, เคร่งครัด, Example: เขาตั้งใจจะเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด | ใจจะขาด | (v) be dying for something, See also: be dying to do something, Example: ผมใจจะขาดอยู่แล้วเพราะคิดถึงคุณเหลือเกิน, Thai Definition: เกิดความรู้สึกทางใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนจะขาดใจ | ขาดทักษะ | (v) be without expertise, See also: be lacking skill, have no skills, Ant. มีทักษะ, ชำนาญ, เชี่ยวชาญ, มีความสามารถ, Example: ผู้ที่เรียนคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่มีเครื่อง จะทำให้ขาดการฝึกฝน และขาดทักษะในการใช้ ได้, Thai Definition: ไม่มีความชำนาญ, ขาดความชำนาญ | ขาดทักษะ | (v) be without expertise, See also: be lacking skill, have no skills, Ant. มีทักษะ, ชำนาญ, เชี่ยวชาญ, มีความสามารถ, Example: ผู้ที่เรียนคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่มีเครื่อง จะทำให้ขาดการฝึกฝน และขาดทักษะในการใช้ ได้, Thai Definition: ไม่มีความชำนาญ, ขาดความชำนาญ |
| กินขาด | ว. ดีกว่ามาก, เหนือกว่ามาก, ชนะเด็ดขาด. | ขาด | ก. แยกออกจากกันเพราะถูกดึง ตัด หรือฉีก เป็นต้น เช่น เชือกขาด แขนขาด ผ้าขาด | ขาด | ควรจะมีแต่ไม่มี เช่น เศรษฐีขาดไฟ | ขาด | มีไม่ครบ, มีไม่เต็ม, เช่น ขาดคุณสมบัติ | ขาด | ไม่ครบ, บกพร่อง, เช่น ศีลขาด | ขาด | ไม่เต็มตามจำนวน เช่น นับเงินขาด | ขาด | ไม่มาตามกำหนด เช่น ขาดเรียน ขาดประชุม. | ขาดกัน | ก. แยกจากกัน ไม่คบค้าสมาคมกันต่อไป เช่น แม้นมิยกพลไกรไปช่วย ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี อย่าดูทั้งเปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย (อิเหนา). | ขาดคราว | ก. ไม่มีไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง. | ขาดคอช้าง | ก. ถูกฟันตายบนคอช้างเมื่อเวลาชนช้างกัน, ขาดหัวช้าง ก็เรียก. | ขาดค่า | ก. จำกัดราคาตายตัว. | ขาดคำ, ขาดปาก | ก. ทันทีที่สุดคำพูด, ทันทีที่จบคำพูด. | ขาดแคลน | ก. ขัดสน, อัตคัด. | ขาดใจ | ก. สิ้นใจ, ตาย | ขาดใจ | โดยปริยายหมายความว่า ยอด, มาก, เช่น สุดสวาทขาดใจ. | ขาดตกบกพร่อง | ก. ไม่ครบ, ไม่บริบูรณ์, ยังไม่เรียบร้อย. | ขาดตลาด | ก. ไม่มีขายในท้องตลาดอย่างที่เคยมี. | ขาดตอน | ก. ขาดระยะกัน, ไม่ติดต่อกัน. | ขาดตัว | ว. จำกัดราคาคงที่ไม่เพิ่มไม่ลด, จำกัดราคาตายตัว. | ขาดทุน | ก. ได้น้อยกว่าต้นทุน. | ขาดน้ำใจ | ก. ไม่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่. | ขาดมือ | ก. เคยมีแล้วหมดไป, ไม่มีเป็นการชั่วคราว. | ขาดเม็ด | ก. หายสนิท, หยุดตก, (ใช้แก่ฝน). | ขาดลอย | ก. สูญไปโดยไม่มีหวังว่าจะได้คืน เช่น ว่าวขาดลอย, เด็ดขาด เช่น ชนะขาดลอย. | ขาดหัวช้าง | ก. ถูกฟันตายบนคอช้างเมื่อเวลาชนช้างกัน เช่น ผู้ใดชนช้างมีชัยและข้าศึกขาดหัวช้าง (กฎมนเทียรบาลในกฎ. ราชบุรี), ขาดคอช้าง ก็เรียก. | ขาดเหลือ | ก. ไม่ครบตามที่ควรมี เช่น ถ้ามีสิ่งใดขาดเหลือ ก็ขอให้บอก. | ขาดอายุ | ก. พ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ใบขับขี่ขาดอายุ. | ขายขาด | ก. ขายไม่รับคืน. | คงขาด | ว. ยังขาด. | คอขาดบาดตาย | ว. ร้ายแรงถึงอาจต้องสูญเสียชีวิตได้. | คำขาด | น. คำบอกกล่าวอย่างเด็ดขาดครั้งที่สุดให้ปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่มีการผ่อนผัน เช่น ยื่นคำขาดให้ผู้เช่าออกไปจากบ้านเช่าภายใน ๓ วัน, ข้อเสนอเด็ดขาด, ข้อเสนอที่ยื่นให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามโดยเด็ดขาด เช่น เขายื่นคำขาดให้เธอปฏิบัติตาม. | ฆ่าไม่ตายขายไม่ขาด | ก. ตัดเยื่อใยไม่ขาด (มักใช้แก่พ่อแม่ที่รักลูกมากถึงจะโกรธจะเกลียดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด). | งานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฎร์ไม่ให้เสีย | ทำงานไม่บกพร่องทั้งงานส่วนรวมและส่วนตัว, ใช้เพี้ยนว่า งานหลวงไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เสีย ก็มี. | ใจขาด | ว. จนสุดความสามารถ เช่น สู้ใจขาด. | เฉียบขาด | ว. เด็ดขาด. | ชะตาขาด | ก. ถึงที่ตาย เช่น เขาคงชะตาขาด เดินอยู่ดี ๆ รถก็พุ่งเข้ามาชนตาย. | ชี้ขาด | ก. สั่งเด็ดขาด, วินิจฉัยเด็ดขาด. | เด็ดขาด | ว. เฉียบขาด, ไม่เปลี่ยนแปลง, ว่าอย่างใดทำอย่างนั้น, ถึงที่สุด. | เดือนขาด | น. เดือนทางจันทรคติที่มี ๒๙ วัน คือเดือนคี่ วันสิ้นเดือนตรงกับวันแรม ๑๔ คํ่า, คู่กับ เดือนเต็ม. | ตัดขาด | ก. เลิกติดต่อคบหากัน. | ตัดญาติขาดมิตร | ก. ตัดขาดจากกัน. | นักโทษเด็ดขาด | น. บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด. | บ้านแตกสาแหรกขาด | น. สภาพที่ต้องกระจัดกระจายพลัดพรากกันเพราะเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขึ้นในครอบครัวหรือในบ้านเมือง. | ประจุขาด | น. เรียกวิธีกล่าวคำลาสึกจากพระ. | เป็นอันขาด | ว. ใช้ในประโยคปฏิเสธ หมายความว่า แน่นอน, แน่แท้. | ผูกขาด | ก. สงวนสิทธิไว้แต่ผู้เดียว. | เผื่อขาดเผื่อเหลือ, เผื่อเหลือเผื่อขาด | ว. ที่เตรียมไว้เผื่อขาดหรือไม่พอ. | ฝีหัวขาด | น. ชื่อฝีชนิดหนึ่ง เมื่อแรกขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ แล้วจึงเป็นฝี. | เรือขาดหางเสือ | น. คนที่ขาดสติสัมปชัญญะ, ครอบครัวที่ขาดผู้ดูแลรับผิดชอบ, การงานที่ขาดหัวหน้า. | ว่าวขาดลอย | ก. จากไปไม่กลับ, ว่าวขาดลมลอย ก็ว่า เช่น จะจากเจ้าเหมือนดังว่าวขาดลมลอย อย่าหมายคอยเลยว่าเมียจะเป็นตัว (ขุนช้างขุนแผน). |
| partial incapacity | การขาดความสามารถบางส่วน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | parathyroprival; parathyroprivic; parathyroprivous | ๑. -ถูกตัดต่อมพาราไทรอยด์๒. -ขาดต่อมพาราไทรอยด์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parathyroprivia | ๑. ภาวะถูกตัดต่อมพาราไทรอยด์๒. ภาวะขาดต่อมพาราไทรอยด์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parathyroprivic; parathyroprival; parathyroprivous | ๑. -ถูกตัดต่อมพาราไทรอยด์๒. -ขาดต่อมพาราไทรอยด์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parathyroprivous; parathyroprival; parathyroprivic | ๑. -ถูกตัดต่อมพาราไทรอยด์๒. -ขาดต่อมพาราไทรอยด์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pregnancy amenorrhea | ภาวะขาดระดูระหว่างตั้งครรภ์ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | parliamentary absenteeism | การขาดประชุมรัฐสภาเป็นอาจิณ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | post-partum amenorrhea | ภาวะขาดระดูหลังคลอด [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | pancreoprivic | -ขาดตับอ่อน, ไร้ตับอ่อน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | peremptory rule | กฎที่ตายตัว, กฎที่เด็ดขาด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | political disability | การขาดคุณสมบัติทางการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | peremptory | ที่แน่นอน, เด็ดขาด, โดยสิ้นเชิง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | power, exclusive | อำนาจสิทธิ์ขาดจำเพาะ, อำนาจสิทธิ์ขาดแต่ผู้เดียว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | preliminary injunction | คำสั่งก่อนชี้ขาดตัดสินคดี [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | pronouncement | คำแถลง, คำชี้ขาด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | phosphopenia | ภาวะขาดฟอสฟอรัส [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | polyopsony | การผูกขาดการซื้อ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | paralysis, ischaemic; paralysis, ischemic | อัมพาตเหตุขาดเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | paralysis, ischemic; paralysis, ischaemic | อัมพาตเหตุขาดเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | polypoly | การผูกขาดการขาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | lack of evidence | ขาดพยานหลักฐาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | lacerable | -ฉีกขาดได้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | lacerated wound | บาดแผลฉีกขาด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | laceration | ๑. การฉีกขาด๒. แผลฉีกขาด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | lapse | ขาดอายุ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | “losses to extinction” basis | หลักยกยอดขาดทุน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | lacuna | ข้อความที่ขาดไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | laws, anti-trust | กฎหมายป้องกันการผูกขาด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | lapsation profit | กำไรจากกรมธรรม์ขาดอายุ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | rhegma | ส่วนขาด, ส่วนแตก, ส่วนหัก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rule out | ไม่พิจารณา, ชี้ขาด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ruling | คำวินิจฉัยชี้ขาด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | reduzate | ตะกอนขาดออกซิเจน [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | syndrome, femoral hypoplasia-unusual facies | กลุ่มอาการต้นขาด้อยเจริญร่วมใบหน้าประหลาด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | symptom, withdrawal; symptom, abstinence | อาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | symptoms, abstinence; symptoms, withdrawal; syndrome, abstinence; syndrome, withdrawal; withdrawal; withdrawal, substance | กลุ่มอาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | symptoms, withdrawal; symptoms, abstinence; syndrome, abstinence; syndrome, withdrawal; withdrawal; withdrawal, substance | กลุ่มอาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | syndrome, abstinence; symptoms, abstinence; symptoms, withdrawal; syndrome, withdrawal; withdrawal; withdrawal, substance | กลุ่มอาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | short delivery | การส่งมอบขาดจำนวน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | stud extractor | เครื่องมือถอนสลักขาด [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | symptom, abstinence; symptom, withdrawal | อาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | stomatitis scorbutica | ปากอักเสบเหตุขาดวิตามินซี [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | syndrome, withdrawal; symptoms, abstinence; symptoms, withdrawal; syndrome, abstinence; withdrawal; withdrawal, substance | กลุ่มอาการขาดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | shock, hypoglycaemic; shock, hypoglycemic | ช็อกเหตุเลือดขาดน้ำตาล [ มีความหมายเหมือนกับ shock, insulin ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | shock, hypoglycemic; shock, hypoglycaemic | ช็อกเหตุเลือดขาดน้ำตาล [ มีความหมายเหมือนกับ shock, insulin ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | special verdict | คำชี้ขาดพิเศษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | syllogism, categorical | ตรรกบทเด็ดขาด, ปรัตถานุมานเด็ดขาด [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | sideropenia | ภาวะขาดเหล็ก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sideropenic | -ขาดเหล็ก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | spermacrasia | ภาวะขาดตัวอสุจิ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Out of print | ขาดตลาด [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | ทักษิโณทก | นํ้าที่หลั่งในเวลาทําทานเพื่ออุทิศผลให้แก่ผู้ตาย, นํ้าที่หลั่งลงเป็นการแสดงว่ามอบให้เป็นสิทธิ์ขาด, นํ้ากรวด คือนํ้าที่ใช้แทนสิ่งของที่ให้ซึ่งใหญ่โตหรือไม่มีรูปที่จะหยิบยกให้ได้ เช่นวัด ศาลา บุญกุศล เป็นต้น [ศัพท์พระราชพิธี] | Financial loss | ผลขาดทุนทางการเงิน [เศรษฐศาสตร์] | Deficit | การขาดดุล [เศรษฐศาสตร์] | Deficit financing | การชดเชยการขาดดุล [เศรษฐศาสตร์] | Antitrust law | กฎหมายป้องกันการผูกขาด [เศรษฐศาสตร์] | Antitrust legislation | การตรากฎหมายป้องกันการผูกขาด [เศรษฐศาสตร์] | Industrial trust | การรวมกันผูกขาดทางอุตสาหกรรม [เศรษฐศาสตร์] | Compensatory financing | การให้กู้เพื่อทดแทน, การให้กู้เพื่อทดแทน (การขาดดุลการชำระเงิน) [เศรษฐศาสตร์] | Oligopoly | การผูกขาดโดยผู้ขายน้อยราย [เศรษฐศาสตร์] | Radicidation | การฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี, การฉายรังสีอาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารด้วยปริมาณรังสีต่ำกว่า 10 กิโลเกรย์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคชนิดที่ไม่สร้างสปอร์ เช่น ซาลโมเนลลา ชิเกลลา อี.โคไล เชื้อโรคเหล่านี้เป็นต้นเหตุทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรง ปวดท้อง ขาดน้ำ อาเจียน และเป็นไข้ อาหารที่ผ่านการฉายรังสีเพื่อฆ่าเชื้อโรค เช่น แหนม กุ้งแช่แข็ง ขากบแช่แข็ง เนื้อไก่แช่แข็ง การฆ่าเชื้อโรคด้วยวิธีนี้เทียบได้กับการพาสเจอไรซ์ <br>(ดู food irradiation ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Point mutation | การกลายเฉพาะจุด, การกลายที่เกิดจากการแทนที่คู่เบสหนึ่งโดยอีกคู่เบสหนึ่ง หรือจากนิวคลีโอไทด์จำนวนเล็กน้อยเพิ่มขึ้นมาหรือขาดหายไป, Example: [นิวเคลียร์] | ทยอย | หย่อยๆ กันไปไม่ขาดระยะ อาการที่ไปหรือมาทีละน้อย, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ทะยอย [คำที่มักเขียนผิด] | Absenteeism (Labor) | การขาดงาน (แรงงาน) [TU Subject Heading] | Anemia, Iron-deficiency | เลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก [TU Subject Heading] | Antitrust law | กฎหมายป้องกันการผูกขาด [TU Subject Heading] | Budget deficits | งบประมาณขาดดุล [TU Subject Heading] | Convention on the Recognition and Enforcement of Foreign Arbitral Award (1958) | อนุสัญญาว่าด้วยการยอมรับและใช้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ (ค.ศ. 1958) [TU Subject Heading] | Default (Law) | การขาดนัด (กฎหมาย) [TU Subject Heading] | Deficiency diseases | โรคขาดสารอาหาร [TU Subject Heading] | Dried skim milk | นมผงขาดมันเนย [TU Subject Heading] | Fatherless families | ครอบครัวที่ขาดบิดา [TU Subject Heading] | Grievance arbitration | การชี้ขาดข้อร้องทุกข์ [TU Subject Heading] | Immunologic dificiency syndromes | กลุ่มอาการขาดภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading] | Income tax deductions for losses | การนำผลขาดทุนมาหักลดหย่อนภาษี [TU Subject Heading] | Judgments by default | การพิจารณาโดยขาดนัด [TU Subject Heading] | Deficit | การขาดทุนสะสม [เศรษฐศาสตร์] | Missing observations (Statistics) | ค่าสังเกตที่ขาดหายไป (สถิติ) [TU Subject Heading] | Monopolies | การค้าผูกขาด [TU Subject Heading] | Motherless families | ครอบครัวที่ขาดมารดา [TU Subject Heading] | Myocardial ischemia | กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด [TU Subject Heading] | Oligopolies | การค้าผูกขาดโดยผู้ขายน้อยราย [TU Subject Heading] | Anoxic | แอน็อกซิก, พอดีขาดอากาศ, Example: ภาวการณ์ที่ใช้สำหรับกระบวนการกำจัดไนโตรเจน และฟอสฟอรัสทางชีววิทยา การย่อยไม่ได้อยู่ภายใต้ภาวะแอนแอโรบิก แต่เป็นรูปแบบดัดแปลงอย่างหนึ่ง ทางแอโรบิก [สิ่งแวดล้อม] | Depletion | การขาดแคลน, Example: การลดลงอย่างต่อเนื่องของน้ำในลำธารหรือน้ำใต้ ดิน หรือแอ่งน้ำ ในอัตรามากกว่าการเติมเข้า การที่มีสิ่งนั้นไม่พอเพียง เช่น การขาดออกซิเจนหรือสารอาหาร [สิ่งแวดล้อม] | Oxygen Deficiency | การขาดออกซิเจน, Example: ปริมาณออกซิเจนที่ต้องการเพิ่ม เพื่อให้น้ำมีคุณภาพที่เหมาะสม [สิ่งแวดล้อม] | Monopoly | การผูกขาด, Example: อุตสาหกรรมใดที่มีหน่วยธุรกิจเพียงหน่วยเดียว ในท้องตลาดเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการในท้องตลาด เรียกได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการผูกขาด การผูกขาดอาจยืนยงอยู่ได้ ในช่วงเวลาที่ห้ามหน่วยธุรกิจอื่นเข้ามาดำเนินการ โดยรัฐอาจสงวนสิทธิ การผลิตไว้เองหรือมอบหมายให้หน [สิ่งแวดล้อม] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Certificate of Identity (C.I.) | หนังสือสำคัญประจำตัว จะออกให้แก่คนไทยในต่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดย รีบด่วน หากแต่ไม่มีหนังสือเดินทาง เพราะสูญหายหรือปล่อยให้ขาดอายุนาน แต่ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะต่ออายุหรือออกหนังสือเดินทางให้ใหม่ [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | Conciliation | การไกล่เกลี่ย คือ กระบวนการของการส่งเรื่องกรณีพิพาทไปให้คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจเป็นทางการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาข้อเท็จจริง แล้วเสนอรายงาน ซึ่งประกอบด้วยข้อเสนอแนะในอันที่จะระงับกรณีพิพาทนั้น อย่างไรก็ดี ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการนี้ไม่มีผลบังคับแก่คู่พิพาทแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับคำวินิจฉัยในการตัดสินชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (Arbitration) [การทูต] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | food security | ความมั่นคงทางด้านอาหาร หมายถึง การที่ประชากรโลกมีอาหารเพียงพอกับความต้องการ (availibility) มีเสถียรภาพ (stability) และสามารถเข้าถึงได้ (accessibility) แนวความคิดเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรองปฏิญญากรุงโรม ของที่ประชุมสุดยอด อาหารโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะขจัดความหิวโหย และลดปัญหาทุโภชนาการของประชากรโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนประชากรที่ขาดอาหารให้เหลือครึ่งหนึ่งจากที่มี อยู่ในปัจจุบัน ภายในปี พ.ศ. 2558 [การทูต] | Foreign Policy | นโยบายต่างประเทศ คือแผนการดำเนินการในกิจการระหว่างประเทศ ซึ่งผู้กำหนดนโยบายในคณะรัฐบาลเป็นผู้จัดขึ้น ในประเทศที่มีรัฐบาลประชาธิปไตยในรูปรัฐสภา ผู้ที่จะชี้ขาดเรื่องนโยบายต่างประเทศได้แก่คณะรัฐมนตรี อันมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ และจะได้รับความเห็นชอบจากผู้แทนของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้ง ส่วนรัฐบาลประชาธิปไตยในรูปประธานาธิบดี ตัวประธานาธิบดีเองซึ่งโดยปกติแล้วจะได้รับคำแนะนำจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ และบุคคลชั้นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติ จะเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างประเทศ [การทูต] | freedom from want | สภาพที่ปลอดจากความขาดแคลน [การทูต] | Good Offices และ Mediation | วิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | jus cogens | กฎเกณฑ์ทั่วไปแห่งกฎหมายระหว่างประเทศที่มีลักษณะ เป็นกฎหมายเด็ดขาดซึ่งจะละเมิดมิได้ [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | New Diplomacy | การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] |
| Hey, if I were as rich as you, I could afford some manners | เฮ้ ถ้าข้าร่ำรวยเหมือนท่านล่ะก็ ข้าจะไม่แสดงมารยาทแบบนี้เป็นอันขาด Aladdin (1992) | Now you will never again see the light of day! | ตอนนี้ เจ้าจะไม่ได้เห็นแสงของวันใหม่อีกเป็นอันขาด! Aladdin (1992) | He didn't seem to think you'd want to talk to him. | เขาดูไม่เหมือนจะคิดว่า คุณอยากพูดกับเขา Basic Instinct (1992) | The veins on his arms bulged as he roughly drew her onto him. | เส้นเลือดบนแขนของเขานูน เมื่อตอนที่เขาดึงเธอเข้าสู่เขา Basic Instinct (1992) | That I was seeing him too. | ว่าฉันก็คบเขาด้วยเหมือนกัน Basic Instinct (1992) | Look, this "Dirtiest Cop in London," it doesn't mention him by name. | ฟังนะ "ตำรวจที่ฉาวที่สุดในลอนดอน" มันไม่ได้กล่าวถึงเขาด้วยชื่อ Basic Instinct (1992) | It's almost like you killed them yourself. | มันเกือบจะเหมือนว่า คุณฆ่าพวกเขาด้วยตัวคุณเอง Basic Instinct (1992) | I'm sure the number of nuts writing fan letters jumps whenever Rachel's on a magazine. | นิคกี้ บอกเขาด้วยเรื่องที่มี จม.บ้าๆ จากแฟนมาเรื่อย ทุกครั้งที่ราเชลขึ้นปกหนังสือ The Bodyguard (1992) | We shouldn't be begging this guy for his services. | เดี๋ยวฟาร์เมอร์! ทำไมต้องง้อเขาด้วย The Bodyguard (1992) | When your time is up it's up. | ถ้าถึงคราวชะตาขาด.. ก็ต้องตาย The Bodyguard (1992) | - Won't be the same without you. | แด่ขาดคุณก็ไม่เหมือนเดิมแฮะ The Bodyguard (1992) | And, Lord, whatever dangerous endeavors we may take let them never be without your sanctuary. | ..หากเราผู้ใดในที่นี้ ต้องเผชิญอันตราย.. ขอให้พระองค์ทรงคุ้มครองเขาด้วย The Bodyguard (1992) | They looked after me for three months. | พวกเขาดูแลฉันอยู่ สามเดือน Wuthering Heights (1992) | He's a fierce, pitiless, wolfish man. | เขาดุดัน ไร้ความเมตตา เป็นชายที่คล้ายสุนัขป่า Wuthering Heights (1992) | He drank himself into oblivion, leaving Hareton, his son and heir, to try to wake some love in Heathcliff's embittered heart. | เขาดื่มเหล้าจนกระทั่งตัวตาย ทิ้งให้แฮร์ตัน ลูกชายและทายาท อยู่ในการดูแลของฮีธคลิฟฟ์ ผู้ซึ่งไร้ความรักในจิตใจ Wuthering Heights (1992) | So I asked the man to save my father. | เงินเก็บผมมี 1000 ล้านวอน ยังขาดอีกประมาน 6-7 แสนวอน Hero (1992) | As the project supervisor and the government liaison... it was my responsibility... to use the strongest measures available. | ในฐานะหัวหน้าโครงการ และผู้ประสานงานของรัฐบาล มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน ที่จะใช้มาตรการเด็ดขาด The Lawnmower Man (1992) | This is something... and we haven't had something for a while. | มันมีบางสิ่งที่ขาดไป.. ..ถ้าเพียงแต่เรารู้ล่ะก็.. The Lawnmower Man (1992) | Mr. Director, without Angelo, there is no Project Five. | ผู้อำนวยการครับ ถ้าขาดแอนเจโล โครงการที่ห้าคงดำเนินไม่ได้ The Lawnmower Man (1992) | Precisely why we feel it's time for you to guide his efforts... in a specific direction. | ไม่คิดว่าถึงเวลาที่เรา จะให้เขาดำเนินงานวิจัย.. ..ในเป้าหมายใหม่หรือ? The Lawnmower Man (1992) | God, he smells good. | พระเจ้า เขาดูดีมาก The Lawnmower Man (1992) | But his insights seem... twisted. | แต่สภาพเขาดู หมกมุ่น The Lawnmower Man (1992) | The main frame will be totally isolated... in less than two minutes. | มันกำลังตัดขาดจากการเชื่อมต่อของเรา ในอีกไม่ถึงสองนาทีนี้ The Lawnmower Man (1992) | - Yeah, him too. | - ใช่ เขาด้วย Of Mice and Men (1992) | - Don't you even look at her. | - อย่ามองเธอเด็ดขาด Of Mice and Men (1992) | He's just cool. | เขาดูเท่จัง เนอะ The Cement Garden (1993) | You're one Jamaican short. | พวกนายขาดไปคนนึง Cool Runnings (1993) | Winning a bobsled race is about - the push start. | จะชนะบ๊อบสเลด ขาดสิ่งนี้ไม่ได้ การเข็นสตาร์ท Cool Runnings (1993) | I'm certainly not gonna allow you to embarrass ours. | ผมไม่ยอมให้คุณมาทำความเสื่อมเสีย กับประเทศเราเด็ดขาด Cool Runnings (1993) | We're only short about 19, 000 bucks. | เราขาดแค่ 19, 000 เอง Cool Runnings (1993) | Where's all the missing pieces? | ของทุกชิ้นที่ขาดหายไปอยู่ที่ไหน In the Name of the Father (1993) | - It's your lack of faith. | - - It 's ของคุณขาดความเชื่อ In the Name of the Father (1993) | Lack of faith? | การขาดความเชื่อ? In the Name of the Father (1993) | - He's good. | - - เขาดี In the Name of the Father (1993) | You know, he looks more like you every day. | คุณจะรู้ว่าเขาดู เป็นเหมือนคุณทุกวัน In the Name of the Father (1993) | They are very glad... | พวกเขาดีใจมากๆ... The Joy Luck Club (1993) | I'm never gonna play chess again. | หนูจะไม่มีวันเล่นหมากรุกอีกเด็ดขาด The Joy Luck Club (1993) | Go to fancy barber with torn-up jeans. | ไปร้านตัดผมหรูๆกับกางเกงยีนส์ขาดๆ The Joy Luck Club (1993) | You know, Lindo, all this needs is a little soy sauce. | รู้ไหมครับ คุณลินโด สิ่งที่จานนี้ขาดไปก็คือใส่ซีอิ้วไปอีกนิดหน่อย The Joy Luck Club (1993) | He's very nice to me. | เขาดีกับหนูมากๆ The Joy Luck Club (1993) | My mother did this with her whole heart, even though my grandmother had disowned her. | แม่ของฉันทำแบบนี้ด้วยหัวใจทั้งหมดของเธอ ถึงแม้คุณยายของฉันจะตัดขาดกับเธอแล้วก็ตาม The Joy Luck Club (1993) | I picked some things for them. | พ่อเลือกของเอาไว้ให้พวกเขาด้วย The Joy Luck Club (1993) | And in their place there seems to be good feeling all around | ในเมืองของเขาดูเหมือนจะมีความสุขอยู่ในทุกที่ The Nightmare Before Christmas (1993) | Kidnap the Sandy Claws Beat him with a stick | ลักพาตัว แซนดี้ คลอว์ส ตีเขาด้วยไม้ The Nightmare Before Christmas (1993) | Treat him nicely. - Got it. | -ทำกับเขาดี ๆ/N-รับทราบ The Nightmare Before Christmas (1993) | I might just split a seam now if I don't die laughing'first | ฉันอยากจะฉีกตะเข็บนี่ใจจะขาด ถ้าฉันไม่ขำกลิ้งไปก่อน The Nightmare Before Christmas (1993) | Bring them over a round of drinks. | เอาอะไรให้เขาดื่มหน่อย Schindler's List (1993) | They've taken good care of us. And they do volunteer for theirjobs. | พวกเขาดูแลเราอย่างดี และพวกเขาใช้วิธีเลือกอาสาสมัครทำงาน Squeeze (1993) | You could've shown him a picture of a flying hamburger and he would have said that's what he saw. | ถ้าคุณเป็นเสาหิน อะไรรึ ? คุณคงให้พวกเขาดู ภาพ แฮมเบอร์เกอร์บิน... . Squeeze (1993) | He's fine. He's getting much better now. | เขาสบายดี ตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว Squeeze (1993) |
| อำนาจเด็ดขาด | [amnāt detkhāt] (n, exp) EN: absolute power FR: pouvoir absolu [ m ] | อำนาจสิทธิขาด | [amnāt sitthi khāt] (n, exp) EN: absolute power FR: pouvoir absolu [ m ] | อาชญาบัตรผูกขาด | [ātyābat phūkkhāt] (n, exp) EN: exclusive prospecting license for minerals | บัญชีกำไรขาดทุน | [banchī kamrai-khātthun] (n, exp) EN: profit and loss account | บ้านแตกสาแหรกขาด | [bān taēk sāraēk khāt] (n, exp) EN: broken family | ชนะขาดลอย | [chana khātløi] (v, exp) EN: achieve a decisive victory ; landslide victory | ชนะขาดทิ้งห่าง | [chana khāt thing hāng] (v, exp) FR: gagner haut la main | เฉียบขาด | [chīepkhāt] (adj) EN: resolute ; determined ; absolute ; decisive FR: strict ; rigoureux | เฉียบขาด | [chīepkhāt] (adv) EN: resolutely ; decisively ; absolutely ; unequivocally ; sharply FR: résolument ; rigoureusement | ชี้ขาด | [chīkhāt] (v) EN: judge ; arbitrate ; make a final decision ; decide ; rule FR: arbitrer ; juger | เด็ดขาด | [detkhāt] (v) EN: be decisive ; be resolute ; be firm ; be determined ; be resolved ; be absolute FR: être résolu ; être déterminé | เด็ดขาด | [detkhāt] (adj) EN: absolute ; perfect ; categorical FR: crucial ; décisif ; absolu ; sans partage | เด็ดขาด | [detkhāt] (adv) EN: absolutely ; resolutely ; firmly ; decisively ; perfectly ; strictly ; definitely ; positively FR: absolument ; résolument ; fermement ; strictement ; formellement ; rigoureusement | เดือนขาด | [deūoen khāt] (n, exp) EN: lunar month with only 29 days FR: mois lunaire de 29 jours [ m ] | โดยเด็ดขาด | [dōi detkhāt] (adv) EN: strictly | ดุลการชำระเงินขาดดุล | [dun kān chamra ngoen khātdun] (n, exp) EN: balance of payments deficit | ฟิวส์ขาด | [fiu khāt] (n, exp) FR: le fusible a sauté | ฝนขาดเม็ด | [fon khātmet] (v, exp) EN: stop raining | หายขาด | [hāikhāt] (v) EN: be completely cured ; be entirely cured FR: être complètement rétabli ; être guéri | ห้ามเด็ดขาด | [hām detkhāt] (v, exp) EN: be strictly prohibited (to) | ห้ามเด็ดขาด | [hām detkhāt] (adj) EN: absolutely forbidden FR: strictement interdit ; formellement interdit ; rigoureusement interdit | หัวขาด | [hūakhāt] (adj) EN: headless ; beheaded FR: décapité | จำนวนเงินที่ขาด | [jamnūan ngoen thī khāt] (n, exp) EN: deficit | กรรมการชี้ขาด | [kammakān chīkhāt] (n, exp) EN: referee ; umpire ; arbiter ; arbitrator | กำไรและขาดทุน | [kamrai lae khātthun] (n, exp) EN: profit and loss ; profit & loss | การชี้ขาด | [kān chīkhāt] (n) EN: arbitration | การชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน | [kān chīkhāt khøphiphāt raēng-ngān] (n, exp) EN: arbitration | การขาด | [kān khāt] (n) EN: absence ; lack ; depletion FR: absence [ f ] ; manque [ m ] ; défaut [ m ] | การขาดอาหาร | [kān khāt āhān] (n) EN: malnutrition FR: malnutrition [ f ] | การขาดดุล | [kān khātdun] (n, exp) EN: deficit FR: déficit [ m ] | การขาดดุลการค้า | [kān khātdun kānkhā] (n, exp) EN: trade deficit ; balance-of-trade deficit | การขาดดุลภาพ | [kān khātdun phāp] (n, exp) EN: disequilibrium | การขาดจากการสมรส | [kān khāt jāk kān somrot] (n, exp) EN: dissolution of marriage | การขาดแคลน | [kān khātkhlaēn] (n) EN: shortage ; lack FR: pénurie [ f ] | การขาดความสามารถ | [kān khāt khwāmsāmāt] (n, exp) EN: disability | การขาดความสนใจ | [kān khāt khwām sonjai] (n, exp) EN: indifference FR: indifférence [ f ] | การขาดนัดพิจารณา | [kān khāt nat phijāranā] (n) EN: default | การขาดงาน | [kān khāt ngān] (n, exp) EN: work absenteeism ; absenteeism FR: absentéisme au travail [ m ] | การขาดงานเป็นอาจิณ | [kān khāt ngān pen ājin] (n, exp) EN: absenteeism FR: absentéisme [ m ] | การขาดประสิทธิภาพ | [kān khāt prasitthiphāp] (n, exp) EN: inefficiency | การขาดประสบการณ์ | [kān khāt prasopkān] (n, exp) EN: inexperience FR: inexpérience [ f ] | การขาดทุน | [kānkhāt thun] (n, exp) EN: loss ; losing ; losing one's capital ; losing in business | การขาดทุนจากหนี้สูญ | [kānkhāt thun jāk nī sūn] (n, exp) EN: bad debt losses | การพิพากษาในกรณีจำเลยขาดนัดพิจารณา | [kān phiphāksā nai karanī jamloēi khāt nat phijāranā] (n, exp) EN: judgement by default | การผูกขาด | [kān phūkkhāt] (n) EN: monopolization ; monopoly FR: monopole [ m ] | กัดขาด | [katkhāt] (v) EN: bite off | ขายขาด | [khāikhāt] (v) EN: sell outright ; sell unconditionally ; sell with no right of refund/exchange | คำชี้ขาด | [khamchīkhāt] (n) EN: writ | คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ | [khamchīkhāt khøng anuyātōtulākān] (n, exp) EN: arbitration award | คำขาด | [khamkhāt] (n) EN: ultimatum ; final terms ; final demand FR: ultimatum [ m ] |
| hooky | (n, jargon) |Amer.| การโดดเรียน, การขาดเรียน, Syn. truant Brit. | matter of life and death | (phrase) เรื่องคอขาดบาดตาย | cerebral infraction | (n, phrase) อาการสมองตายเนื่องจากขาดเลือดหล่อเลี้ยง | helpless | (adj) ไร้ที่พึ่ง, ขาดที่พึ่งพา | asphyxiation | (n) อาการขาดอากาศหายใจ, See also: asphyxiate | essential | (adj) จำเป็นที่สุด, ซึ่งขาดเสียมิได้, เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ, เป็นเนื้อแท้, เป็นปัจจัยพื้นฐาน, เกี่ยวกับตัวยาสำคัญ, เกี่ยวกับหัวน้ำหอม, เป็นธรรมชาติ, ซึ่งเกิดขึ้นเอง | accumulated deficit | (n) ขาดทุนสะสม เช่น The accumulated deficit will have to be funded in one of three ways: through higher premiums, reductions in costs, or a transfer from the general fund. | income statement | (n) งบกำไรขาดทุน เช่น This is a sample form of Income Statement, showing income and expenses for a given period of business operations. | core value | (n) ค่านิยมหรือความเชื่อหลัก (อันเป็นสิ่งที่ดีงาม) ขององค์การ หากไม่มีองค์การจะไม่สามารถคงอยู่ได้ เช่น core value ของธนาคาร คือ ความซื่อสัตย์ ถ้าขาดไปจะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน, We conduct our business guided by the following core values to serve our customers. | amputee | (n, slang) คนเพี้ยนที่ผิดปกติแขนขาขาด เช่น We provide motorcycle modifications for amputees and modified artificial limbs for amputee motorcyclists. | profit and loss statement | (n) งบกำไรขาดทุน เช่น Can anyone direct me to a place where I can get a sample Profit and Loss statement for tax purposes?, Syn. financial statement | with a grain of salt | (phrase) ด้วยความระมัดระวัง, ฟังหูไว้หู, เช่น You'd better take his words with a grain of salt. คุณควรจะฟังเขาด้วยความระมัดระวัง ฟังหูไว้หู มีที่มาจากในสมัยโบราณ เกลือเป็นส่วนผสมของยาแก้พิษ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของยาพิษที่เสพเข้าไปได้ | leverage | (n) การลงทุนโดยใช้วิธียืมเงินผู้อื่นหรือใช้เทคนิค เช่น futures, options มาช่วย ทำให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติ เช่น เพิ่มเป็น 10 เท่าตัว (ซึ่งในกรณีที่ขาดทุนก็จะขาดทุนมากกว่าปกติเช่นกัน) |
| abrupt | (adj) ซึ่งขาดตอน, See also: ซึ่งไม่ติดต่อกัน | absence | (n) การขาด, See also: การไม่อยู่, Syn. nonexistence, nonattendance, Ant. presence, attendance | absent | (adj) ขาด, See also: ไม่มา, Syn. away, missing, gone, out, Ant. here, present | absent | (vt) ทำให้ขาด, See also: ไม่เข้าร่วม | absentee | (n) ผู้ที่ไม่มา, See also: ผู้ที่ไม่เข้าร่วมประชุม, ผู้ขาดการประชุม | antitrust | (adj) ที่ต่อต้านการผูกขาด | apart | (adv) เป็นชิ้น ๆ (ขาด), See also: เป็นส่วนๆ, Syn. asunder, to pieces, to bits | apathy | (n) การขาดความกระตือรือร้น, See also: การขาดความสนใจ, Syn. unconcern, indifference | arbiter | (n) ผู้ตัดสิน, See also: ผู้ชี้ขาด, Syn. umpire, arbitretor, judge | arbitrate | (vt) ขอให้ตัดสินโดยมีผู้ชี้ขาด, See also: เสนอให้ตัดสินโดยมีผู้ชี้ขาด | arbitrate | (vt) ตัดสิน, See also: ชี้ขาด, ยุติการโต้แย้ง | arbitrate | (vi) เป็นผู้ตัดสิน, See also: ชี้ขาด, ยุติการโต้แย้ง, Syn. settle peacefully, smooth out | autocrat | (n) ผู้มีอำนาจเด็ดขาด, See also: ผู้ปกครองที่มีอำนาจเด็ดขาด, Syn. dictator, despot, absolute ruler | autocratic | (adj) ที่มีอำนาจเด็ดขาด, Syn. dictatorial, tyrannical, authoritarian | absent from | (phrv) ไม่มา, See also: ไม่เข้าร่วม, ขาด เรียน, ประชุมหรืออื่นๆ | absent without leave | (idm) ขาดงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, See also: ปลดประจำการโดยไม่ขออนุญาต ทางทหาร, ไม่ได้อยู่ร่วมโดยไม่ได้รับอนุญาต | arbitrate between | (phrv) ตัดสินชี้ขาดระหว่าง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินระหว่าง | arbitrate for | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. sue for | arbitrate in | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. adjudicate in | arbitrate on | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. adjudicate on | AWOL | (idm) ขาดงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (คำย่อจาก absent without leave), See also: ปลดประจำการโดยไม่ขออนุญาต ทางทหาร, ไม่ได้อยู่ร่วมโดยไม่ได้รับอนุญาต | barren | (adj) ปราศจากพืชผล, See also: แห้งแล้ง, ขาดแคลน | Big Brother | (n) ผู้นำ, See also: ผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาด, Syn. head, master | bland | (adj) ขาดรสชาติ, See also: ไม่มีรสชาติ, Syn. tasteless, Ant. flavorful, tasty | blind | (adj) (ความเชื่อ, การกระทำ) ที่ขาดเหตุผล, Syn. unreasoning, irrational | blind | (adj) ขาดการเตรียมพร้อม | blow | (vt) ระเบิด, See also: ขาด, ไหม้, Syn. explode | blubber | (vt) พูดขณะร้องไห้ ทำให้คำพูดขาดเป็นช่วงๆ | broken | (adj) ขาด, See also: ไม่ครบ, ไม่สมบูรณ์, Syn. imperfect | broken family | (n) บ้านแตกสาแหรกขาด, See also: ครอบครัวแตกแยก | be away | (phrv) ขาด, See also: ขาดเรียน, ไม่เข้าร่วม, Syn. keep away | be done for | (phrv) ขาดเเล้ว (ผ้า), See also: เก่ามากแล้ว | be out of | (phrv) หมด, See also: ขาด, ไม่มี, Syn. give out, run out, run out of | be starved for | (phrv) ขาดแคลน, See also: ขาด, อดอยาก, Syn. be started of | bite off | (phrv) กัดขาด, See also: งับจนขาด | callow | (adj) ที่เด็กและขาดประสบการณ์, Syn. inexperienced, immature | canyon | (n) หุบเขาลึก (มักจะมีสายน้ำไหลระหว่างหุบเขาด้วย), Syn. valley, gully, gorge | chasm | (n) ช่องว่าง, See also: ช่วงที่ขาดตอน, ความแตกต่างทางความคิดหรือความรู้สึก, Syn. gap | coarse | (adj) ขาดรสนิยม, See also: ธรรมดาๆ, Syn. base, common, tasteless | coarseness | (n) การขาดรสนิยม, See also: ความธรรมดา, Syn. commonness, grossness, vulgarity | comatose | (adj) เฉื่อยชา, See also: ขาดความว่องไว, ไร้พลัง, เซื่องซึม, Syn. torpid, lethargic | corner | (n) การผูกขาด | corner | (vt) ผูกขาด, See also: ควบคุม | cut | (n) การขาดเรียน | cut | (vt) ขาดเรียน (คำไม่เป็นทางการ) | cut off | (phrv) ทำให้ถูกตัดขาด, See also: ทำให้อยู่โดดเดี่ยว, ทำให้ขาดการติดต่อ | catch short | (idm) ขาดแคลนสิ่งที่จำเป็น, Syn. take short | cave in | (phrv) ล้มเหลว, See also: พังทลาย, พัง, ล้มละลาย, ล่มจม, ขาดทุน, Syn. fail | chop about | (phrv) ทำให้ฉีกขาด | cut about | (phrv) ทำให้ฉีกขาด (หลายแห่ง) |
| a mensa et thoro | (เอเมน' ซะ เอทโธ' โร) เกี่ยวกับการหย่าร้างที่ไม่ให้สามี และภรรยาอยู่ร่วมกันและพันธะการสมรสยังไม่ขาดจากกัน | abasia | (อะเบ' เชีย) การที่ไม่สามารถจะเดินได้เพราะขาดการประสานกันของกล้ามเนื้อ | abjure | (แอบจัวร์') vt. สละ, บอกเลิก, สาบานว่าจะตัดขาด, เลิก -abjuration n. | abrupt | (อะบรัพทฺ') adj. ทันใด, ทันที, ปัจจุบันทันด่วน, ฉุกเฉิน, คับขัน, ฉับพลัน, หยาบ, หยาบคาย, ไม่ติดต่อกัน, ขาดตอนกัน, Syn. precipitate, sudden, Ant. expected, smooth | absence | (แอบ' เซินซฺ') n. การไม่อยู่, ระยะเวลาที่ไม่อยู่, การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, การขาดแคลน, Syn. inexistence, nonexistence, Ant. presence, adequacy | absent | (adj. แอบ'เซินทฺ vt. แอบเซนทฺ') ไม่อยู่, ขาด, ลาหยุด, ไม่ได้มาร่วมด้วย, ไม่สนใจ, ใจลอย, ขาดแคลน -vt. ทำให้ขาด -absentation, absentness n., Syn. missing, Ant. present | absolute | (แอบ' โซลูท) adj. สมบูรณ์, เด็ดขาด, เผด็จการ, อย่างแท้จริง, ล้วน, สุทธิ, จริง | acacicosis | ภาวะที่ขาดแคลเซียม | acapnia | การขาดคาร์บอนไดออกไซด์อย่างสิ้นเชิงในโลหิต | acholuria | การขาดสี bile pigment ในปัสสาวะ | achromacyte | เม็ดเลือดแดงที่มีสีซีดเนื่องจากการขาด haemogolbin | acolyte | (แอค' โคไลทฺ) n. เด็กผู้ช่วยขาดหลวงทำพิธี, พระในนิกายดรมันคาทอลิก | addison' s disease | โรคที่เนื่องจากการขาด adrenocortical hormones | adjudge | (อะจัดจฺ') vt. (ศาล) สั่ง, ตัดสินใจ, ชี้ขาด, ตัดสินใจ, Syn. decide, assign, decree | adjudicate | (อะจู' ดิเคท) vt., vi. (ศาล) สั่งตัดสินใจให้, พิจารณาลงโทษ, ชี้ขาด, Syn. adjudge | alb | (แอลบ) n. เสื้อคลุมแขนยาวขาดบาทหลวง abbr. albumin | alpha test | การทดสอบรอบแรกหมายถึง การนำเอาโปรแกรมสำเร็จที่เขียนเสร็จใหม่ ๆ ไปให้ "กลุ่มลูกค้าประจำ" ทดลองใช้ดูก่อน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ให้ช่วยเป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นให้ เพื่อจะดูว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นใช้ได้ดีหรือไม่ ยังขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง หรือมีปัญหาในเรื่องใด โดยปกติแล้ว การทดลองนำไปใช้ครั้งแรกนี้ จะยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขอีกมาก โปรแกรมดังกล่าวจะมีข้อความบ่งบอกไว้ว่า เป็น alpha version หมายความว่า รุ่นทดสอบรอบแรก ดู beta version ประกอบ | alpha version | รุ่นทดสอบรอบแรกหมายถึง การนำเอาโปรแกรมสำเร็จที่เขียนเสร็จใหม่ ๆ ไปให้ "กลุ่มลูกค้าประจำ" ทดลองใช้ดูก่อน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ให้ช่วยเป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นให้ เพื่อจะดูว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นใช้ได้ดีหรือไม่ ยังขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง หรือมีปัญหาในเรื่องใด โดยปกติแล้ว การทดลองนำไปใช้ครั้งแรกนี้ จะยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขอีกมาก โปรแกรมดังกล่าวจะต้องมีข้อความบ่งบอกไว้ว่าเป็นรุ่นทดสอบรอบแรก มีความหมายเหมือน alpha testดู beta version ประกอบ | altitude sickness | โรคความสูงซึ่งมีอาการคลื่นเหียน อาเจียน หายใจแรงเนื่องจากขาดอ็อกซิเจน | always | (ออล' เวย์ซ) adv. ตลอดเวลา, ตลอดไป, เป็นประจำ, โดยไม่มีการยกเว้น, โดยไม่มีเงื่อนไข, ตายตัว, เด็ดขาด, Syn. eternally, perpetually | ametropia | (แอมมิโทร' เพีย) n. ภาวะผิดปกติของตาที่มีภาพไม่ตกที่เรตินา เนื่องจากตาขาดอำนาจหักเหทำให้สายตาสั้นหรือสายตายาวหรือไม่ชัด. -ametropic adj. -ametrope n. | amyosthenia | กล้ามเนื้อขาดกำลัง | an- | (คำเสริมหน้า) ซึ่งหมายถึง ไม่, ปราศจาก, ขาดแคลน, Syn. not, without | antidiuretic hormone | อาจเรียกว่า vasopressin กระตุ้นให้ไตดูดซึมน้ำกลับไว้ในร่างกาย เป็นผลให้ปัสสาวะมีน้อยลง ถ้าขาดฮอร์โมนนี้ทำให้เกิดโรคเบาจืด ทำให้ปัสสาวะมาก กระหายน้ำมาก | antihero | (แอนทีฮี' โร) n., (pl. -heroes) พระเอกที่ขาดบุคลิกลักษณะที่จะเป็นพระเอกได้เพียงพอ. -antiheroic adj. | antitrust | (แอนทีทรัส'ทฺ) adj. ต่อต้านการผูกขาด (ธุรกิจการค้า) (opposed to monopolies) | apheresis | (อะเฟอ'รีซิส) n. การขาดอักษรหรือขาดเสียงตอนเริ่มต้นคำ เช่น account เป็น count. -apheretic adj. | aphesis | (แอฟ' ฟีซิส) n. สระหรือพยางค์แรกขาดหายไป. - aphetic adj. | apocopate | (อะพอด'คะเพท) vt. ทำให้สั้นโดยการขาดอักษรหรือพยางค์ท้ายของคำ (shorten) | apocope | (อะพอค'โคพี) n. อักษรหรือพยางค์ตัวสุดท้ายขาดหายไป. -apocopic adj. | apodeictic | (แอพพะดิค'ทิค) adj. ไม่เป็นที่สงสัย, ยืนยันอย่างเด็ดขาด, ไม่สามารถโต้แย้งได้ (incontestable) | arbiter | (อาร์'บิเทอะ) n. ผู้ตัดสิน, ตุลาการ, คนชี้ขาด, ผู้กำชะตาชีวิต, อนุญาโตตุลาการ (judge) | arbitrate | (อาร์'บิเทรท) vt., vi. ตัดสิน (โดยอนุญาโตตุลาการ) , เสนอให้ตัดสินโดยมีผู้ชี้ขาด (อนุญาโตตุลาการ) . -arbitrable adj., -arbitrator n. (judge, mediate, intercede) | arbitration | (อาร์บิเทร'เชิน) n. การตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ, การชี้ขาด, การตัดสิน. | aristocracy | (แอริสทอค'คระซี) n. พวกคนชั้นสูง, พวกขุนนาง, คณาธิปไตย, การปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ, การปกครองของขุนนาง, Syn. gentry, nobility, Ant. proletariat | aristocratic | (อะริสโทแครท'ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับการปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ (คณาธิปไตย) , มีลักษณะของคนชั้นสูง | aristocratical | (อะริสโทแครท'ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับการปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ (คณาธิปไตย) , มีลักษณะของคนชั้นสูง | astringent | (แอสทริน'เจินทฺ) adj. หดตัว, รัดแน่น, สมาน, เฉียบขาด, เข้มงวด, รุนแรง -n. ยาฝาดสมาน, ยาสมานแผล, ยาห้ามเลือด. -astringency n., Syn. contractile, constrictive | astrophysics | (แอสโทรฟิซ'ซิคซฺ) n. สาขาดาราศาสตร์ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติทางฟิสิคส์ของนพเคราะห์และดวงดาวอื่น ๆ -astrophysical adj. -astrophysicaist n. | atavism | (แอท'ทะวิสซึม) n. การปรากฎลักษณะของบรรพบุรุษที่ขาดหายไปบางชั่วคน, สัตว์หรือพืชที่มีลักษณะดังกล่าว, การกลับคืนมาของลักษณะดังกล่าว. -atavist n. (reversion to an earlier type) | autocracy | (ออทอค'คระซี) n. อัตตาธิปไตย, เอกาธิปไตย, ผู้มีอำนาจเด็ดขาด, การปกครองโดยผู้มีอำนาจเด็ดขาด, ราชาธิปไตยแบบกษัตริย์ที่มีอำนาจเด็ดขาด, ระบบเผด็จการ. autocratic (al) adj. | autocrat | (ออ'โทแครท) ผู้ปกครองด้วยอำนาจเด็ดขาด, เผด็จการ (tyrant, authoritarian) | avidin | (แอฟ'วิดิน) n. โปรตีนชนิดหนึ่งในไข่ขาวเป็นตัวยับยั้งฤทธิของ biotin ทำให้เกิดการขาดแคลน biotin; vitamin H (Cf. egg-white) | avitaminosis | (เอไวทะมิโน'ซิส) n. ภาวะขาดแคลนวิตามิน -avitaminotic, adj. | avulsion | (อะวัล' เชิน) n. การฉีกขาด, การเคลื่อนย้ายไปสู่ที่อื่นอย่างฉับพลัน, การดึงออกจากกัน (a tearing away) | barren | (บาร์'เริน) adj. แห้งแล้ง, ปราศจากพืชผล, ไม่ได้ผล, ไม่มีบุตร, เป็นหมัน, ขาดแคลน, ไม่น่าสนใจ, ไร้ความคิด, จืดชืด, Syn. sterile, Ant. fertile, creative | beriberi | (เบอ'รีเบอ'รี) n. โรคเหน็บชา เนื่องจากขาดแคลนวิตามินบี1, See also: beriberic adj. ดูberiberi | blackdamp | n. เหมืองที่ขาดอากาศออกซิเจน, Syn. chokedamp | bland | (แบลนดฺ) adj. นิ่มนวล, อ่อนโยน, บรรเทา, ไม่ระคายเคือง, ไม่กระตุ้น, ไร้อารมณ์, อุเบกขา, ขาดรสชาติ, ธรรมดา ๆ, See also: blandness n., Syn. mild | blip | (บลิพ) n. ตำแหน่งแสงบนจอเรดาร์ที่แสดงตำแหน่งวัตถุในรัศมีเรดาร์, เสียงสั้นที่ดังชัด, สัญลักษณ์, เสียงขาดหายไประหว่างรายการโทรทัศน์, การหยุดในระยะเวลาสั้น -v. สับสวิตช์ออกและเข้าอย่างรวดเร็ว, ลบคำหรือข้อความหรือเสียงที่ไม่ต้องการออก -S... |
| absence | (n) การไม่มา, การไม่อยู่, การขาดประชุม, การไม่มี | absent | (adj) ไม่มา, ไม่อยู่, ขาดประชุม, ไม่มี | absentee | (n) ผู้ที่ขาดไป, ผู้ที่ไม่อยู่ | adjudge | (vt) พิพากษา, ตัดสิน, ชี้ขาด | amateur | (n) มือสมัครเล่น, ผู้ขาดความชำนาญ | arbiter | (n) ผู้ตัดสิน, ตุลาการ, ผู้ชี้ขาด | arbitrament | (n) อำนาจชี้ขาด, การตัดสิน, คำตัดสิน | arbitrate | (vt) ตัดสิน, ชี้ขาด | arbitration | (n) การชี้ขาด, การตัดสิน, อำนาจชี้ขาด | arbitrator | (n) ผู้ชี้ขาด, ผู้ตัดสิน | asunder | (adv) ขาดสะบั้น, กระจายออก, แยกจากกัน | autocrat | (n) ผู้มีอำนาจเด็ดขาด | autocratic | (adj) เผด็จการ, มีอำนาจเด็ดขาด | barrenness | (n) ความแห้งแล้ง, ความขาดแคลน, ความเป็นหมัน | categorical | (adj) ไม่มีเงื่อนไข, แน่ชัด, เด็ดขาด | CLEAN-clean-cut | (adj) สะอาด, หมดจด, เฉียบขาด, มั่นคง | continual | (adj) บ่อยๆ, ไม่ขาดสาย, ตลอดไป, เรื่อยไป, ต่อเนื่อง, เป็นประจำ | continuous | (adj) ติดต่อกัน, สืบเนื่องกัน, ต่อเนื่องกัน, ไม่ขาดสาย | cut | (n) การตัด, การหั่น, การฟัน, การลดราคา, การขาดเรียน | dearth | (n) ความขาดแคลน, ภาวะข้าวยากหมากแพง, ความอดอยาก | decide | (vi, vt) ตัดสินใจ, ชี้ขาด, ตกลงใจ | decided | (adj) เด็ดเดี่ยว, แน่วแน่, เด็ดขาด, แน่นอน, ไม่มีปัญหา, ไม่เป็นอื่น | decisive | (adj) อย่างเด็ดขาด, อย่างแน่นอน, อย่างมั่นใจ, ซึ่งชี้ขาด, แน่วแน่ | default | (n) การผิดสัญญา, การไม่ทำตาม, การละเลย, ความขาดแคลน | default | (vt) ผิดสัญญา, ผิดนัด, ไม่ปฏิบัติตาม, ละเลย, เพิกเฉย, ขาดแคลน | defective | (adj) บกพร่อง, ขาด, พิการ, ไม่สมบูรณ์, ไม่ปกติ, เสีย | deficiency | (n) ความขาดแคลน, ข้อบกพร่อง, ความไม่สมบูรณ์ | deficient | (adj) ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่พอ | deficit | (n) ความขาดทุน, จำนวนที่ขาด, การขาดแคลน | definite | (adj) มีเขตจำกัด, แน่นอน, ชัดเจน, เด็ดขาด, ยืนยัน | despotic | (adj) ซึ่งใช้อำนาจเด็ดขาด, ซึ่งกดขี่, เผด็จการ, ตามอำเภอใจ | destitute | (adj) อัตคัด, ขาดแคลน, ยากจน, อดอยาก, ไม่เพียงพอ, สิ้นเนื้อประดาตัว | destitution | (n) ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความยากจน, ความอดอยาก | determinate | (adj) ซึ่งตัดสินใจแล้ว, แน่นอน, เด็ดขาด, ตามที่กำหนดไว้ | devoid | (adj) ขาด, ว่างเปล่า, ไม่มี, ขาดแคลน | dictatorial | (adj) เกี่ยวกับเผด็จการ, เด็ดขาด, หยิ่งยโส, ชอบใช้อำนาจ | direct | (adj) โดยตรง, แน่นอน, ไม่มีทางเลี่ยง, เด็ดขาด | disconnect | (vt) ตัดขาด, แยกจากกัน, เลิก, ปลด | discontinuous | (adj) ไม่ต่อเนื่อง, ไม่สม่ำเสมอ, ไม่ตลอด, ขาดตอน | disjoin | (vt) รื้อ, ถอดออก, ทำให้ขาดจากกัน | disjoint | (vt) ไม่ปะติปะต่อ, ทำให้เคลื่อน, ทำให้ขาดกัน | disqualify | (vt) ทำให้เสียสิทธ์, ตัดสิทธิ์, ห้าม, ทำให้ขาดคุณสมบัติ | divorce | (n) การหย่า, การตัดขาด, การแยกทาง | divorce | (vt) หย่าร้าง, ฟ้องหย่า, ตัดขาด, แยกทางกัน | doom | (n) คำพิพากษา, คำตัดสิน, เคราะห์กรรม, ความหายนะ, ความตาย, ชะตาขาด | exclusive | (adj) พิเศษ, เฉพาะตัว, แต่ผู้เดียว, ซึ่งผูกขาด, เว้นไว้แต่ | failing | (pre) ถ้าไม่มี, ถ้าไม่ได้, ขาดไป | famish | (vi, vt) อดอยาก, ขาดแคลน, อดตาย | finally | (adv) ในที่สุด, เด็ดขาด, ในบั้นปลาย, ในตอนท้าย | find | (vi, vt) พบ, หา, ค้น, สืบหา, ประสบ, สืบสวน, ตัดสิน, ชี้ขาด, รู้, ทราบ, สำนึก |
| Abiotic factors | (n) ปัจจัยที่ไม่มีชีวิต ได้แก่ ความแห้งแล้ง ความหนาวเย็น แสงแดดเผา การขาดสารอาหาร ค่าความเป็นกรดด่างไม่สมดุล เป็นต้น | abseiling | (n, vi, vt) เทคนิคการปีนป่ายลงเขาด้วยเชือก ( * w *m Power by iiiita also RYUTAZA) | absenteeism | ความจริงของการขาดงานหรือขาดเรียนโดยปราศจากเหตุผลที่ดี (Oxford advanced learner) | Acute Compartment syndromes | เกิดขึ้นเมื่อความดันเนื้อเยื่อภายในช่องกล้ามเนื้อปิดเกินความดันระบบและผลในกล้ามเนื้อและการขาดเลือดของเส้นประสาท มันมักจะเกิดขึ้นในภายหลังกับเหตุการณ์ที่บาดเจ็บ, ส่วนใหญ่มักจะแตกหัก | anti-trust laws | (n) กฎหมายการป้องกันการผูกขาดทางการค้า | award | (n) คำตัดสินชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (ศัพท์กฎหมาย) | award | ตัดสินชี้ขาด | Chaaim | [ชา ไอม์] (slang) ขาดความรับผิดชอบ, See also: unzuverlässig, unvorsichtig, A. verantwortlich, Syn. unverantwortlich | code switching | (n) (ศัพท์เฉพาะทฤษฎีการแปล) การถ่ายความหมายของคำจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงบริบท ผลงานแปลจึงขาดความพลิ้ว ลีลา และอรรถรส ดังเช่นการแปลด้วยซอฟแวร์แปล | cyanosis | ภาวะผิวคล้ำเขียวเนื่องจากขาดออกซิเจน | exclusivity | (n) การผูกขาด | fallback | (n) บุคคลหรือสิ่งที่เป็นทางเผื่อเลือก สำหรับกรณีตัวเลือกหลักนั้นขาดหายหรือไม่สามารถใช้การได้ | financial statement | (n) งบกำไรขาดทุน, Syn. profit and loss statement | impulsiveness | (n) ลักษณะหุนหันพลันแล่น ขาดความยับยั้งชั่งใจในการทำอะไรต่าง ๆ | in view of | (n) ในแง่, มองในแง่, ด้วยเหตุของ, จากการที่.... เช่น จากการที่ขาดมาตรการ เราต้องเพิ่มความเข้มงวด, See also: considering | infarction | [อิน ฟาร์ค ชั่น] (n) เป็นการตายของเนื้อเยื่อ (necrosis)เนื่องจากบริเวรที่เกิดปัญหามีเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอหรือไม่มีเลือดไปเลี้ยงเลยทำให้เกีดเป็นบริเวณเนื้อตาย อาจเกีดจากการอุดตัน การแตกของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยง ซึ่งรอยโรคที่เกิดจากพภาวะดังกล่าวเรียกว่า an infarct (มาจากภาษาลาตินคำว่า infartus "อุดตัน.) ตัวอย่าง cerebral infarction "เนื้อสมองตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง" | joy ride | (คำแสลง) การขับรถเพื่อการสนุกสนานโดยขาดความระมัดระวัง, การขับรถที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ(มักเป็นรถที่ขโมยมา) | Microischemia | โรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเป็นคําที่ใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง.การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายบริเวณสีขาวของสมองและไขสันหลังเป็นบริเวณที่มีใยประสาทอยู่เป็นจำนวนมาก - เนื้อเยื่อสมองที่มีเส้นใยประสาทและทําหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังส่วนอื่น ๆ ของสมอง | nine-to-five | (adj) (informal) งานที่ต้องทำตามหน้าที่ (สะท้อนหรือแสดงให้เห็นว่าขาดความตั้งใจที่จะทำงานนอกเหนือกรอบเวลาที่กำหนด หรือทำแบบไม่เต็มที่); ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม: ถ้าคุณมีทัศนคติในการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม คุณไม่มีทางได้เลื่อนขั้นแน่ | outburst | ระเบิดอารมณ์, ฟิวส์ขาด | placenta previa | (n) ภาวะรกเกาะต่ำ หมายถึง รกของทารกนั้นมาเกาะอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูกใกล้กับปากมดลูก ในบางกรณีจะคลุมปิดปากมดลูกไว้บางส่วน หรือบางกรณีคลุมปิดปากมดลูกไว้จนมิดขวางทางคลอดของทารกเอาไว้ ปัญหาที่ตามมาคือเมื่อมีการยืดขยายของปากมดลูกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดนั้น ก็จะทำให้รกลอกตัวออก ทำให้มีเลือดออก มารดาอาจได้รับอันตรายจากการเสียเลือดมากและทารกอาจขาดอ็อกซิเจนได้, Syn. ภาวะรกเกาะต่ำ Image: | RSV | (abbrev) ไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจตั้งแต่ส่วนบนจนถึงส่วนล่าง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ (Acute bronchiolitis) และอาจทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อได้ (Pneumonia) โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กที่มีโรคประจำตัว คลอดก่อนกำหนด ฯลฯ อาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัด คือ มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล แต่จะมีไอมาก เสมหะเยอะและเหนียวข้น หายใจหอบเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม อาจมีเสียหงายใจดังวี๊ดๆ ซึม ไม่กินน้ำ หงุดหงิด กระวุนกระวาย มีสีเขียวคล้ำบริเวณริมฝีปาก หรือ ปลายมือปลายเท้า เนื่องจากร่างกายขาดออกซิเจน หากมีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ ที่มา: เอกสารแผ่นพับจากโรงเรียนอนุบาลชนานันท์ เรียบเรียงโดยก้านแก้ว จากการสัมภาษณ์ เรืออากาศเอกแพทย์หญิงหฤทัย กมลาภรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี | short-handed | [ชอร์ท แฮนดด] (adj) ขาดคนช่วยงาน, ขาดคนงาน, ขาดผู้ช่วย | shorthanded | (adj) ซึ่งขาดกำลังคน | Sims position | ตําแหน่งซิมส์เป็นตําแหน่งมาตรฐานที่ผู้ป่วยอยู่ทางด้านซ้ายของพวกเขาด้วยสะโพกขวาและหัวเข่างอ แขนส่วนล่างอยู่ด้านหลังต้นขางอ หัวเข่าซ้ายเอียงเล็กน้อย แขนขวาอยู่ในตําแหน่งที่สะดวกสบายต่อหน้าร่างกายแขนขวาวางอยู่ด้านหลังร่างกาย เรียกอีกอย่างว่าตําแหน่ง "ด้าน" | เกรียน | (n) เกรียน ในสมัยก่อนหมายถึงเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้น ประถม ถึง มัธยม แต่ในปัจจุบัน การกล่าวคำว่าเกรียนหมายถึง ผู้ใช้ อารมณ์ในการตัดสินปัญหา มากกว่าที่จะใช้ เหตุและผล ขาดความยั้งคิด และทำตัวเดือดร้อนให้แก่คนรอบข้าง มักพบได้ใน เด็ก ประถม ขึ้นไป |
| 必須 | [ひっす, hissu] (adj) จำเป็น, ขาดไม่ได้ | 断水 | [だんすい, dansui] (n) น้ำ (เช่นน้ำประปา)ไม่ไหล, การขาดน้ำ | 欠陥 | [けっかん, kekkan] (n) ข้อบกพร่อง, ปมด้อย, ข้อเสียหาย, สิ่งที่ขาดตกบกพร่อง | 赤字 | [あかじ, akaji] (n) ขาดทุน |
| 勤怠 | [きんたい, kintai] (n) การสายลาขาด (เป็นศัพท์ที่เกียวข้องในการทำงาน)<BR>, See also: R. 勤惰 | 断つ | [たつ, tatsu] ตัด ตัดขาด เลิก ละเว้น ปลิด(ชีพ) | 実権 | [じっけん, jikken] สิทธิ์ขาด อำนาจที่แท้จริง | 絶対 | [ぜったい, zettai, zettai , zettai] (adj) สมบูรณ์, เด็ดขาด, เผด็จการ, อย่างแท้จริง, ล้วน, สุทธิ, จริง | 肺気腫 | [はいきしゅ, haikishu] (n) อาการผิดปกติอย่างเรื้อรังของปอดโดยที่ถุงลมโป่งพองและขาดการยืดหยุ่น, ภาวะพองลมในเนื้อเยื่อหรือถุงลม, , See also: S. emphysema, R. emphysema Image: | 欠品 | [けっぴん, keppin] (n) สินค้าขาด, ขาดส่ง | 皆勤賞 | [かいきんしょう, kaikinshou] รางวัลคนที่มาไม่เคยขาด | 損益計算書 | [そんえきけいさんしょ, son'ekikeisansho] งบกำไรขาดทุน | 無断欠勤 | [むだんけっきん, mudankekkin] การขาดงานโดยไม่ได้รับอนุญาต | 看破 | [かんぱ, kanpa] (exp) อ่านขาด, มองทะลุปรุโปร่ง | 欠席 | [けっせき, kesseki] (n, vi) การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, |
| 過不足 | [かふそく, kafusoku] TH: ขาดหรือเกิน มักใช้ในรูปปฏิเสธ ไม่ขาดไม่เกิน พอดี EN: excess or deficiency | 満ちる | [みちる, michiru] TH: ขาดอายุ EN: to expire | 抜ける | [ぬける, nukeru] TH: ขาดหายไป EN: to be missing | 欠ける | [かける, kakeru] TH: ขาด EN: to be lacking |
| deshalb | (adv) ดังนั้น เช่น Er ist sehr nett zu allen Leuten, und ist deshalb sehr beliebt. เขาดีต่อทุกคน ดังนั้นเขาจึงเป็นที่ชื่นชอบ, See also: darum, deswegen, Syn. daher | verdächtig | (adj, adv) ที่น่าสงสัย เช่น Er sieht verdächtig aus. เขาดูท่าทางน่าสงสัย | besorgt | (adj, adv) กลุ้มใจ เช่น Heute sieht er besorgt aus. วันนี้เขาดูท่าทางกลุ้มใจ, See also: Related: unglücklich, Syn. betrübt | körperbehindert | (adj) พิการทางร่างกาย, ไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้เนื่องจากอวัยวะส่วนบางส่วนของร่างกายขาดหายไป | aussehen | (vi) |sieht aus, sah aus, hat ausgesehen| ดูเหมือนว่า, ดูเหมือนจะ, ดู(เช่น ดูดี, ดูสดชื่น, ดูเศร้า) เช่น Er sieht heute sehr besorgt aus. วันนี้เขาดูมีความกังวลใจพิกลนะ | Wort | (n) |das, pl. Wörter| คำ, คำศัพท์ (คำเดี่ยวที่ไม่ได้สอดคล้องกัน) เช่น Wieviele Wörter fehlen dir noch in dem Kreuzworrätsel. เธอยังขาดอีกกี่คำในปริศนาอักษรไขว้ | atemlos | (adj) หอบ, ขาดลมหายใจ, See also: nach Luft ringen, Syn. keuchen | konkret | (adj, adv) ชัดแจ้ง, ซึ่งเห็นประจักษ์, เป็นรูปธรรม เช่น Ich will euch ganz konkret sagen, wo es bei uns fehlt. ฉันอยากบอกพวกเธอให้ชัดแจ้งว่า พวกเราขาดอะไรที่ไหน | zerreißen | (vt) |zerriss, hat zerrissen, etw.(A)/jmdn.| ฉีก, ทำให้เป็นชิ้นๆ เช่น Der Vermieter hat unseren Mietvertrag zerrissen. เจ้าของบ้านเช่าฉีกสัญญาเช่าของเราขาดเป็นชิ้นๆ, See also: Related: zerstören | verschlafen | (vt) |verschläft, verschlief, hat verschlafen| นอนตื่นสาย เช่น Der Student hat immer verschlafen und Vorlesungen versäumt. นักศึกษาคนนี้นอนตื่นสายและขาดเรียนเสมอ | ausgehen | (vi) |geht aus, ging aus, ist ausgegangen| ดับ, ทำให้สิ้น, ยกเลิก, ยุติ เช่น Nachdem er mich viel geschumpfen hatte, ging mir die Geduld aus. หลังจากที่เขาด่าฉันซะมากมาย ความอดทนของฉันก็มลายหายไป | Mangel | (n) |der, pl. Mängel, an + D| การขาดแคลน(สิ่งที่จำเป็น) เช่น Der Patient leidet unter Mangel an weissen Blutkörperchen. คนไข้ป่วยเนื่องจากขาดเม็ดเลือดขาว |
| Chaaim | [ชา ไอม์] (slang) ขาดความรับผิดชอบ, See also: unzuverlässig, unvorsichtig, A. verantwortlich, Syn. unverantwortlich | unbedingt | (adv) สมบูรณ์, เด็ดขาด, เผด็จการ, อย่างแท้จริง, ล้วน, สุทธิ, จริง |
| changer | (vt) |je change, tu changes, il change, nous changons, vous changez, ils changent| เปลี่ยน , เปลี่ยนแปลง, แลกเปลี่ยน เช่น (1) Le temps va changer. = อากาศเปลี่ยนแปลง (2) Il a beaucoup changé. = เขาเปลี่ยนไปมาก (3) Il a changé en bien. = เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น, เขาดีขึ้น (4) changer des bahts en euros แลกเงินบาทเป็นเงินยูโร, See also: regarder |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |