ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ปอย*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ปอย, -ปอย-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทยภาคอีสานตอนเหนือ (TH-NE-N) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
จิไปอยู่โคราชดาจะไปอยู่โคราชด้วย
จิไปอยู่โคราชดา(vt) จะไปอยู่โคราชด้วย

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
บังกล้อง[บัง-กล้อง] (n) เป็นชื่อ ที่ เรียกแทน บุคคล ที่ มีคุณสมบัติ คือ กาก เกรียน เพี้ยน หลุดโลก มักชอบทำอะไร เพี้ยนๆ ไม่เหมือนคนอื่น ชอบการ fag เป็นชีวิตจิตใจ คติประจำใจ คือ สเต็ปอยู่ในไต
สปอยล์เป็นการเอาจุดเพลิกผัน ปมสำคัญ หรือเอาตอนจบมาเล่าก่อน หรือเอาเรื่องแขกรับเชิญเซอร์ไพรซ์ในงานมาเฉลยก่อน ทำให้คนที่ยังไม่ได้เห็น ยังไม่ได้ดูหรือยังไม่ได้อ่านสูญเสียอารมณ์ลุ้นหรือความตื่นเต้นเร้าใจไปเวลาไปดูหรืออ่านด้วยตัวเอง

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ปอย(n) tuft, See also: bunch, a lock of hair, wisp, Syn. กระจุก, Example: ทรงผมยอดนิยมของคุณผู้ชายยุคก่อนจะต้องมีผมปอยหนึ่งตกหน้าผาก, Count Unit: ปอย, กระจุก, Thai Definition: กลุ่มก้อนหรือกระจุกเล็กๆ ของสิ่งที่เป็นเส้น เป็นฝอยอย่างเส้นด้าย หญ้า ผม หรือขนเช่น ขนนก ผม เป็นต้น
ปอยผม(n) lock (of hair), See also: tuft or strand of hair, wisp, Example: ขณะที่บรรยายไปเธอก็เผลอเอามือเขี่ยปอยผมตลอด, Count Unit: ปอย, กระจุก, Thai Definition: กระจุกหรือกลุ่มผม
ปอยผม(n) lock (of hair), See also: tuft or strand of hair, wisp, Example: ขณะที่บรรยายไปเธอก็เผลอเอามือเขี่ยปอยผมตลอด, Count Unit: ปอย, กระจุก, Thai Definition: กระจุกหรือกลุ่มผม

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
ปอย ๑น. กลุ่มก้อนหรือกระจุกเล็ก ๆ ของสิ่งที่เป็นเส้นเป็นฝอยอย่างเส้นด้าย หญ้า ผม หรือขน เช่น ปอยผม, ลักษณนามเรียกกระจุกหรือกลุ่มก้อนของสิ่งเช่นนั้น เช่น ผมปอยหนึ่ง ผม ๒ ปอย.
ปอย ๒น. งานพิธีต่าง ๆ, ถ้างานใหญ่ เช่นประเพณีฉลองการสร้างถาวรวัตถุของวัด เรียกว่า ปอยหลวง, ถ้างานเล็ก เช่นงานบวช เรียกว่า ปอยน้อย.
ไปอย่างน้ำขุ่น ๆก. พูดแก้ตัวหลบเลี่ยงไปอย่างข้าง ๆ คู ๆ.
กระจับ ๑วัตถุที่มีรูปอย่างฝักกระจับสำหรับยันคางศพที่บรรจุโกศ
กระโจม ๑น. สิ่งที่ตามปรกติมียอดเป็นลอมอย่างซุ้ม ใช้เป็นเครื่องกำบังแดดลมเป็นต้น, โจม ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึง สิ่งที่รวมกันเข้าเป็นลอม เช่น กระโจมปืน หรือสิ่งที่ผูกรวบยอดให้รวมกัน เช่น ปากผูกกระโจม หรือผ้าที่ทำเป็นลอมเพื่อเข้าไปอยู่ให้เหงื่อออก เช่น เข้ากระโจม.
กระชุก ๒น. ภาชนะสานรูปอย่างฟักผ่าตามยาว ใช้วางในเกวียน สำหรับใส่ข้าวเปลือกเป็นต้น, สามชุก ก็เรียก.
กระดืบก. อาการที่ค่อย ๆ คืบไปอย่างหนอน.
กระบะชื่อรถชนิดหนึ่งใช้บรรทุกสิ่งของ ทำตัวถังเป็นรูปอย่างกระบะ เรียกว่า รถกระบะ.
กระพือก. เอาสิ่งที่เป็นผืนแผ่นบาง ๆ โบกขึ้นลง, พัดหรือโบกด้วยอาการเช่นนั้น, โดยปริยายหมายถึงแพร่กระจาย เช่น ข่าวนี้กระพือไปอย่างรวดเร็ว.
กร่ำ ๑(กฺรํ่า) น. ที่ล่อปลาให้เข้าไปอยู่ ใช้ไม้ปักตามชายฝั่งลำแม่นํ้า ให้มีลักษณะกลมบ้างรีบ้าง เมื่อเวลาจะจับก็เอาเฝือกหรืออวนล้อม แล้วเอาไม้นั้นออก, เขียนเป็น กลํ่า ก็มี.
กลับหลังหันก. หมุนตัวกลับให้ด้านหลังไปอยู่แทนในตำแหน่งด้านหน้า.
กะเตง ๆว. ลักษณะที่ไปอย่างไม่เรียบร้อยคล้ายกับมีของถ่วงอยู่ข้างหนึ่ง เช่น อุ้มลูกกะเตง ๆ พายเรือกะเตง ๆ, กะเตงเรง ก็ว่า, ลักษณะที่ไปอย่างเรื่อยเปื่อย เช่น วัน ๆ ได้แต่กะเตง ๆ ไปโน่นไปนี่.
กะพรวดกะพราด(-พฺรวด-พฺราด) ว. พรวดพราด, อาการที่เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ยับยั้ง.
กะเร่อกะร่าว. อาการที่แต่งกายรุ่มร่ามเกินพอดี เช่น เขาแต่งตัวกะเร่อกะร่าผิดกาลเทศะ, ซุ่มซ่าม เช่น เขาเดินกะเร่อกะร่าออกไปกลางถนนเลยถูกรถชน, เซ่อซ่า เช่น เขากะเร่อกะร่าเข้าไปอยู่กับพวกเล่นการพนันเลยถูกจับไปด้วย, เก้งก้าง เช่น เขาเป็นคนท่าทางกะเร่อกะร่า, กะเล่อกะล่า เร่อร่า หรือ เล่อล่า ก็ว่า.
กะลาซอน. กะลามะพร้าวที่มีปุ่มนูนเป็นรูปสามเส้า ใช้สำหรับทำซอสามสาย, เรียกลักษณะของหัวกะโหลกศีรษะที่เป็นรูปอย่างนั้น.
เกี้ยวประทีปน. ซุ้มไฟทำเป็นรูปอย่างเกี้ยว.
โกร่ง ๑ภาชนะรูปอย่างกล่องมีลิ้น ใช้ตามบ่อนเบี้ยสำหรับใส่อีแปะ.
ขอมดำดินน. คนที่ปรากฏตัวขึ้นทันทีอย่างไม่คาดฝันหรือหายไปอย่างรวดเร็วไม่ทันได้สังเกต.
ขับไล่ไสส่งก. ไล่ไปอย่างไม่มีเยื่อใย, ขับไสไล่ส่ง ก็ว่า.
ขึ้นบ้านใหม่น. งานฉลองการเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่.
เข้ากระโจมก. เข้าไปอยู่ในผ้าที่ทำเป็นกระโจมเพื่ออบให้เหงื่อออก, เข้าไปอบควันยาในกระโจม.
เข้าวัดเข้าวาก. ไปวัดเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรม, ไปอยู่ที่วัดเพื่อปฏิบัติธรรม, ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม.
คร่า(คฺร่า) ก. ฉุดลากไปอย่างไม่ปรานี เช่น ถ้าเจรจาถึง ๒ ครั้งไซ้ให้คร่ามือออกไปจากพระโรงแลให้ห้ามเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สามดวง), ท่านให้มาว่ากล่าวร้องฟ้องณะโรงสานตามกระบินเมืองอย่าให้ตีด่าฉุดคร่าเอาโดยกำลังเองศักอันเลย (สามดวง)
คลอ(คฺลอ) ก. เคียงคู่กันไปอย่างคู่รักหรืออย่างสนิทสนม
คลานกิริยาที่เดินไปอย่างช้า ๆ ของสัตว์บางชนิด เช่น เต่า จระเข้, เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ เช่น รถยนต์ค่อย ๆ คลานไป.
ควบม้าก. อาการที่คนขี่หลังม้ากระตุ้นให้ม้าวิ่งไปอย่างเร็ว.
คว้าง ๆว. อาการที่ลอยหรือหมุนไปอย่างรวดเร็ว.
โค้งว. ลักษณะของเส้นหรือสิ่งที่มีรูปอย่างส่วนหนึ่งของวงกลม เช่น ทางโค้ง.
งอว. ลักษณะที่มีส่วนปลายหักโค้งเข้าหาตัวมันเองเช่นรูปอย่างขอ
จรดพระกรรไกรกรรบิด, จรดพระกรรไตรกรรบิดก. ใช้กรรไกรขริบปอยผมเล็กน้อย เป็นการเริ่มในพระราชพิธีโสกันต์และเกศากันต์.
จอก ๑น. ภาชนะเล็ก ๆ รูปอย่างขัน ถ้าใช้สำหรับตักนํ้าโดยลอยอยู่ในขันใหญ่เรียก จอกลอย, ถ้าใช้ใส่หมากในเชี่ยนหมากเรียก จอกหมาก
แฉ่งน. เครื่องตีประกอบจังหวะทำด้วยโลหะ รูปอย่างม้าล่อ.
โฉบก. โผลงมาคว้าเอาสิ่งของไป (ใช้แก่นก) เช่น กาโฉบลูกไก่, ฉวยเอาไปอย่างรวดเร็ว เช่น เด็กโฉบมะม่วงนอกรั้วไปเสียแล้ว
ช่วงชัยน. การเล่นพื้นเมืองอย่างหนึ่ง นิยมเล่นในเทศกาล เช่นสงกรานต์ มีผู้เล่นหลายคน แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ชายฝ่ายหนึ่ง หญิงฝ่ายหนึ่ง ยืนหันหน้าเข้าหากัน ห่างพอที่จะใช้ลูกช่วงที่ทำด้วยผ้าขาวม้าเป็นต้นม้วนเป็นลูกกลม ๆ ผูกให้แน่นโยนหรือปาใส่กัน ถ้าฝ่ายใดรับได้แล้วปาไปถูกคนใดคนหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายที่ถูกปาเป็นฝ่ายแพ้ มี ๓ ชนิด คือ ช่วงรำ ผู้แพ้ต้องออกไปรำ ช่วงใช้ ผู้แพ้ต้องไปอยู่อีกข้างหนึ่ง และช่วงขี้ข้า ผู้แพ้ต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งขี่หลัง.
ช่วงชิงก. แย่งชิง เช่น จะมาช่วงชิงนางอย่างผลไม้ ที่จะได้นางไปอย่าสงกา (อิเหนา).
ชวาลาน. เครื่องตามไฟชนิดหนึ่ง ทำด้วยทองเหลือง มีรูปอย่างหม้อขนาดย่อม ๆ สำหรับใส่น้ำมัน มีพวยต่อออกมาข้าง ๆ ๒ พวยบ้าง ๓ พวยบ้าง ใส่ด้ายดิบเป็นไส้ ใช้จุดไฟ และประกอบกับแกนรับหม้อใส่น้ำมันตั้งบนถาด ใช้ได้ทั้งตั้งและแขวน เช่น ถับถึงคฤหาสน์หอทอง ชวาลาเรืองรองรยับด้วยรัตนรัศมี (สรรพสิทธิ์).
ช่อฟ้าน. ชื่อตัวไม้เครื่องประกอบกรอบหน้าบัน รูปอย่างครุฑ มีอกใหญ่ คอเรียว ศีรษะเล็ก ปากเป็นจะงอย หงอนยาวเรียว ติดตั้งอยู่ตอนปลายสุดหน้าบัน.
ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ไม่ว่าผู้มีอำนาจจะว่าอย่างใด ผู้น้อยก็ต้องคล้อยตามไปอย่างนั้นเพราะกลัวหรือประจบ.
ชุบตัวก. เอาตัวจุ่มลงไปในของเหลวเพื่อให้ติดสิ่งนั้นอย่างพระสังข์ชุบตัวให้เป็นทอง, เอาตัวเข้าไปในกองไฟเพื่อเปลี่ยนรูปอย่างท้าวสันนุราชชุบตัวในกองไฟเพื่อให้กลับเป็นหนุ่มใหม่
ซั้งน. ที่ล่อปลาให้เข้าไปอยู่ ใช้ไม้ปักตามชายฝั่งลำแม่นํ้า เป็นรูปกลมบ้างรีบ้าง ภายในสุมด้วยกิ่งไม้เพื่อล่อปลาให้เข้าอาศัย เมื่อเวลาจะจับปลาก็เอาเฝือกหรืออวนล้อมแล้วเอาไม้ที่สุมนั้นออก, กรํ่า หรือ กลํ่า ก็ว่า.
ซัดเซก. ไปอย่างไม่มีจุดหมาย, มักใช้เข้าคู่กับคำ พเนจร เป็น ซัดเซพเนจร.
ซิกแซ็กน. เรียกกรรไกรตัดผ้าให้มีรูปอย่างฟันปลา ว่า กรรไกรซิกแซ็ก, เรียกการเย็บผ้าด้วยด้ายให้มีรูปอย่างฟันปลา ว่า การเย็บซิกแซ็ก.
ซีป่ายน. ชื่อกองทหารแบบอังกฤษกองหนึ่งในรัชกาลที่ ๔ เอาแบบมาจากทหารซีปอยของกองทัพอังกฤษในอินเดีย.
เซ่อซ่าก. เข้าไปอย่างผิดกาลเทศะเพราะเผลอหรือไม่รู้ เช่น เขาเดินเซ่อซ่าเข้าไปในห้องน้ำผู้หญิง, เร่อร่า, เล่อล่า, กะเร่อกะร่า หรือ กะเล่อกะล่า ก็ว่า.
โซซัดโซเซก. ไปหรือมาอย่างอ่อนแรงอ่อนกำลัง เช่น โซซัดโซเซกลับบ้าน, ไปอย่างไม่มีจุดหมาย เช่น ตั้งแต่ตกงานเขาก็เที่ยวโซซัดโซเซอยู่นาน.
ดอกจอกชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิให้เหลว ปรุงให้มีรสเค็มหวานเล็กน้อย ใช้พิมพ์รูปอย่างดอกจอกจุ่มให้แป้งติด แล้วเอาไปทอด
ดันใช้เป็นคำไม่สุภาพหมายถึงขืนทำ เช่น กางเกงคับยังดันสวมเข้าไปได้, ทำสิ่งที่ไม่น่าจะทำ เช่น ดันขึ้นไปอยู่บนยอดไม้.
ดุ่ย, ดุ่ย ๆว. เรื่อย ๆ ไปโดยไม่มีจุดหมาย เช่น ไปดุ่ย ๆ ทำดุ่ย ๆ ไปอย่างนั้นเอง.
ตะกรุมตะกราม(-กฺรุม-กฺราม) ก. กิริยาที่ทำไปอย่างผลีผลาม ไม่สำรวมในการบริโภคเป็นต้น.
ตะพัด ๑ว. อาการที่เคลื่อนไหวเรื่อยไปอย่างรวดเร็วดุจกระแสนํ้าไหล, สะพัด ก็ว่า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
retrodisplacementการกระจัดไปอยู่หลัง [ มีความหมายเหมือนกับ retroposition ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
retroposition๑. ตำแหน่งอยู่หลัง๒. การกระจัดไปอยู่หลัง [ มีความหมายเหมือนกับ retrodisplacement ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
spoilerสปอยเลอร์ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
migratory divorceการหย่าโดยวิธีย้ายภูมิลำเนาชั่วคราว (ไปอยู่ในประเทศอื่น) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
continuous deformationการแปลงรูปอย่างต่อเนื่อง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
divorce, migratoryการหย่าโดยวิธีย้ายภูมิลำเนาชั่วคราว (ไปอยู่ในประเทศอื่น) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
floccule; tuftกลุ่ม, กระจุก, ปอย, ขด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
expatriation๑. การถูกขับออกจากบ้านเมือง๒. การถูกถอนสัญชาติ๓. การสละสัญชาติ๔. การออกไปอยู่นอกประเทศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
exile๑. การเนรเทศ๒. การลี้ภัย๓. การออกไปอยู่ต่างถิ่น๔. ผู้พลัดถิ่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
tuft; flocculeกลุ่ม, กระจุก, ปอย, ขด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Innovationนวัตกรรม, นวัตกรรม หรือนวกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดย มีหลักการที่สำคัญอยู่ 3 ประการ ที่จัดเป็นหลักพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรือไม่ คือ <ul><li>สิ่งนั้นควรเป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมกับกาลสมัยมาใช้ในวงการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ</li><li>ได้ผ่านการทดลอง การปรับปรุงพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับกับอย่างแพร่หลาย</li><li>ได้มีการนำมาปฏิบัติจริงในวงการนั้น</li></ul> [เทคโนโลยีการศึกษา]
มณฑปเรือนยอดขนาดใหญ่มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือเป็นรูปตัด มุม หรือย่อไม้แปด ย่อไม้สิบสอง ยอดหลังคาเป็นทรงจอมแห, ใช้ว่า มรฑป ก็มี. (ป., ส.); ขันนํ้าเย็นของพระเจ้าแผ่นดินที่มีฝาเป็นรูปอย่างมณฑป เรียกว่า พระมณฑป [ศัพท์พระราชพิธี]
Blast waveคลื่นแรงผลักดันฉับพลัน, คลื่นกระแทกที่แพร่ไปในอากาศ หรือ คลื่นที่มีความดันเพิ่มขึ้นซึ่งกำหนดได้แน่ชัด กระจายผ่านตัวกลางที่แวดล้อมอยู่ออกไปอย่างรวดเร็วจากศูนย์กลางของระเบิด หรือปรากฏการณ์ของแรงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน [นิวเคลียร์]
Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corpsหัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต]
Duration of Diplomatic Privileges and Immunitiesระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต]
Final Actกรรมสารสุดท้าย คือคำแถลงหรือคำสรุปอย่างเป็นทางการจากเรื่องราวการ ประชุม คำแถลงนี้จะระบุสนธิสัญญาและอนุสัญญาที่ได้มีการลงนามกันอันเป็นผลจากการ ประชุม และในบางกรณีจะผนวกความเห็นหรือข้อเสนอแนะหรือความปรารถนาจากที่ประชุมไว้ ด้วย ผู้แทนที่มีอำนาจเต็มเท่านั้นจะเป็นผู้ลงนามในกรรมสารสุดท้าย ในตอนสุดท้ายของการประชุม [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
International Trade Organizationองค์การการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับความตกลงทั้วไปว่าด้วยภาษี ศุลกากรและการค้าระหว่างประเทศ วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ ต้องการขยายการค้าของโลกให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยให้มีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น ขจัดการกีดกันการค้า หรือพยายามลดให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การตั้งข้อจำกัดโควต้า เป็นต้น ตัดทอนภาษีศุลกากรทั่วโลกให้ต่ำลง ดูแลตลาดวัตถุดิบให้เป็นไปอย่างยุติธรรม และพยายามควบคุมด้านการค้าของการร่วมมือกันทางธุรกิจ (Cartels) จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดคือ ป้องกันมิให้กลับไปสู่การดำเนินการทางการค้าที่ตัดราคากันอย่างหั่นแหลก เหมือนเมื่อระยะปี ค.ศ. 1930 ถึง 1939 นั่นเองอย่างไรก็ดี ตั้งแต่มีการปฏิบัติใช้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้ามาจนบัด นี้ ก็ได้รับผลสำเร็จตามแนววัตถุประสงค์อย่างมากมาย เช่น มีประเทศสมาชิกหลายสิบประเทศลดภาษีศุลกากรและรักษาระดับภาษีอย่างมีเสรีภาพ แต่ละปี ประเทศสมาชิกจะได้ยินได้ฟังเสียงร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้า ละเมิดกฎเกณฑ์ของความตกลงทั่วไป แล้วเสียงร้องเรียนดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงและดัดแปลงข้อกำหนดของความตกลงทั่วไป ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา [การทูต]
Marshall Planแผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
State Peace and Development Councilสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ เป็นองค์กรปกครองสูงสุดของพม่าในปัจจุบัน เดิมมีชื่อว่าสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ (SLORC - State Law and Order Restoration Council) อันเป็น กลุ่มทหารพม่าที่เข้ายึดอำนาจการปกครองในวันที่ 18 กันยายน 2531 ภายหลังจากที่ประชาชนชาวพม่าได้ออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลภายใต้การนำของ พรรคโครงการสังคมนิยมพม่า การเข้ายึดอำนาจรัฐในครั้งนั้นเป็นไปอย่างนองเลือดและคณะทหารดังกล่าวได้ให้ สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 27 พฤษภาคม 2533 SLORC กลับปฏิเสธที่จะมอบอำนาจการปกครองให้แก่พรรค National League for Democracy (NLD) และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2540 SLORC ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น SPDC [การทูต]
Hydrogenated acrylonitrile-butadiene rubberยางไฮโดรจิเนตอะไครโลไนไทรล์บิวทาไดอีน หรือยาง HNBR เป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งได้จากการเกิดปฏิกิริยาไฮโดรจิเนชัน (Hydrogenation) ของยาง NBR สมบัติของยาง HNBR มีความทนทานต่อการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากความร้อน รังสีที่มีพลังงานสูง และโอโซนสูงมาก ใกล้เคียงกับยาง EPDM และเนื่องจากมี CN อยู่ในโมเลกุลทำให้ยางชนิดนี้ทนต่อน้ำมันได้ดี ยาง HNBR มีสมบัติทั่วไปอยู่ระหว่างยาง NBR และยางฟลูออโรคาร์บอน เนื่องจากยางชนิดนี้มีราคาสูง จึงนิยมใช้ยาง HNBR แทนยาง NBR เฉพาะกรณีที่ต้องการใช้งานในสภาวะที่รุนแรงหรือที่อุณหภูมิสูงเท่านั้น นอกจากนี้ยางชนิดนี้ยังมีข้อดีเหนือกว่ายางฟลูออโรคาร์บอน คือ มีความทนทานต่อสารตัวเติมที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เช่น สารประกอบเอมีน ได้ดี จึงนิยมใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในแท่นขุดเจาะน้ำมัน [เทคโนโลยียาง]
Reclaimed rubberยางรีเคลมได้มาจากการนำเอาผลิตภัณฑ์ยางเก่าที่ใช้แล้ว เช่น ยางล้อรถยนต์ ยางในรถยนต์ หรือยางคงรูปที่เป็นของเสียซึ่งเกิดระหว่างกระบวนการผลิต มาผ่านกรรมวิธีโดยความร้อนและเคมี ยางจะเกิดการดีพอลิเมอไรซ์ (depolymerize) เปลี่ยนจากสภาพคงรูป (vulcanized) และมีความยืดหยุ่น (elasticity ) กลับคืนไปสู่สถานะแรกเริ่ม คือ ไม่มีความคงรูป (unvulcanised) และไม่มีความยืดหยุ่น (plasticity )* ได้เป็นยางรีเคลมที่มีลักษณะกึ่งของแข็งและของเหลว (paste-like ) ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก ปกติจะใช้ยางรีเคลมผสมกับยางธรรมชาติสำหรับผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่คำนึงถึงความ แข็งแรงและความ ทนทานมากนัก *Plasticity คือ ความโน้มเอียงของวัสดุที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปอย่างถาวรเมื่อได้รับ แรงกระทำ [เทคโนโลยียาง]
Bronchial Intubationท่อไปอยู่ในหลอดลม [การแพทย์]
Equation, Poiseuilleสมการปอยส์อิลเล่ [การแพทย์]
Erythropoietinอิริโทรปอยอีติน, อีริโทรปอยอีติน, สาร, อีริย์โธรโปอิเอติน, อีริโธรพอยอีติน [การแพทย์]
Fluids, Interstitialไอออนชนิดต่างๆภายนอกเซลล์, ของเหลวระหว่างเซล, น้ำระหว่างเซลล์, ของเหลวระหว่างเซลล์, น้ำในหลอดเลือดออกไปอยู่ในเนื้อเยื่อ [การแพทย์]
ความผิดปกติทางจิตความผิดปกติทางจิต, อาการที่แสดงออกที่ผิดแปลก ทำให้การปรับตัวหรือสัมพันธภาพหรือความรับผิดชอบหรือชีวิตประจำวันที่เคยมี เสียไป หรือแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างผิดปกติ ซึ่งสามารถแสดงออกหลายด้านไล่เรียงตั้งแต่สิ่งที่สังเกตยากที่สุด คือ ความคิด ความรู้สึก การรับรู้ อารมณ์ หรือพฤติกรรม [สุขภาพจิต]
developmentการเจริญเติบโต, การเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างมีระเบียบในสิ่งมีชีวิต เป็นผลให้เนื้อเยื่อมีความซับซ้อนมากขึ้น หรือสมบูรณ์ขึ้นทั้งในด้านโครงสร้างและหน้าที่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
phagocytosisฟาโกไซโทซิส, กระบวนการที่เม็ดเลือดขาวทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมโดยการใช้เยื่อหุ้มเซลล์โอบล้อมเชื้อโรคไว้จนในที่สุดเชื้อโรคนั้นหลุดเข้าไปอยู่ในเซลล์และถูกย่อยทำลาย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
terminal sideด้านสิ้นสุด, ในการวัดมุมถ้าส่วนของเส้นตรง AP หมุมรอบจุด A ไปอยู่ในแนว AQ สิ่งที่เกิดขึ้นเรียกว่ามุม และเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องกับมุมดังนี้ เรียกจุด A ว่า จุดยอดมุม   เรียก  AP ว่า  ด้านเริ่มต้น      เรียก AQ ว่า ด้านสิ้นสุด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
rectangular hyperbolaไฮเพอร์โบลามุมฉาก, ไฮเพอร์โบลาชนิดหนึ่งซึ่งมีสมการทั่ว ๆ ไปอยู่ในรูป x2 - y2 = a2 หรือ y2 - x2 = a2  [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
flywheelล้อตุนกำลัง, แผ่นโลหะกลมที่ยึดติดอยู่กับเพลาของเครื่องกล  ช่วยทำให้การหมุนของเครื่องกลเป็นไปอย่างสม่ำเสมอไม่กระตุก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
cycleรอบ, วง, วัฏจักร, ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินติดต่อกันไปอย่างมีระเบียบจนจบลง ณ จุดเริ่มต้นนั้นอีก  เช่น รอบของการแกว่งของลูกตุ้มนาฬิกา วงชีวิตของกบวัฏจักรของน้ำ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
liguleลิกิวล์, ส่วนของกาบใบที่งอกยื่นออกตรงรอยต่อระหว่างกาบใบกับแผ่นใบ  มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ประกบติดอยู่กับลำต้นของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีหน้าที่กั้นน้ำหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปอยู่ระหว่างกาบใบและลำต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
plasticityสภาพพลาสติก, สมบัติของวัสดุที่เมื่อถูกแรงกระทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อแรงหยุดกระทำ วัสดุนั้นจะเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างถาวร โดยผิววัสดุไม่มีการฉีกขาดหรือแตกหัก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Intubation, Esophagealท่อไปอยู่ในหลอดอาหาร [การแพทย์]
Lipoidosisไลปอยโดซิส; ลิปอยโดซิส; ลิปอยโดซิส, โรค [การแพทย์]
Metastasis, Distanceแพร่กระจายไปอยู่ในบริเวณที่ห่างไกลออกไปจากก้อน [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I can't believe it. I just don't believe it.ข้าไปอยากจะเชื่อเลย Aladdin (1992)
Ali, where have you been?อาลี เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาน่ะ Aladdin (1992)
That's risky. You could end up in prison.นั่นมันเสี่ยง คุณอาจจะไปอยู่ในคุกก็ได้นะ Basic Instinct (1992)
What happens when you don't take risks?อะไรเกิดขึ้นเมื่อ คุณไม่เข้าไปอยู่ในภาวะความเสี่ยง? Basic Instinct (1992)
We used to get in his car and ride around listening to 911 calls on his scanner then speed over.เราเคยเข้าไปอยู่ในรถเขา และขับไปทั่ว... ...ฟัง 911 จาก วิทยุของเขา ...และเขาก็เร่งความเร็วขึ้น Basic Instinct (1992)
How did it end up in the rubbish?แล้วมันไปอยู่ในถังขยะได้ยังไง? Basic Instinct (1992)
If you say she did, and that got her put on a psych ward stopped her from killing again, wouldn't that be worth it?ถ้าคุณบอกว่าเธอทำ เธอจะต้องไปอยู่ โรงพยาบาลบ้า... ...และนั่นจะเป็นการหยุดเธอไม่ให้ฆ่าใครได้อีก มันไม่คุ้มเหรอ? Basic Instinct (1992)
Like going to another planet.เหมือนได้ไปอยู่อีกดาวหนึ่ง The Lawnmower Man (1992)
I could go off in them hills there and find a cave.ไปอยู่บนภูเขานั่น หาถ้ำสักถ้ำ Of Mice and Men (1992)
Suppose I went in with you fellas.สมมุติฉันขอไปอยู่ด้วยกับพวกนายล่ะ Of Mice and Men (1992)
You two could get her started. I'd work and make up the rest.แล้วลุงกับเลนนี่ก็เข้าไปอยู่ ฉันก็หางานทำเก็บเงินที่เหลือ Of Mice and Men (1992)
We're gonna do it, goddamnit. We can fix up that little old place and live there.เราจะทำมัน ให้ตายสิ เราจะปรับปรุ่งที่เล็ก ๆ เก่า ๆ นั่น แล้วเราจะไปอยู่ที่นั่น Of Mice and Men (1992)
They'd take you to the booby hatch and lock you up with a collar, like a dog.เขาจะพานายไปอยู่โรงพยาบาลบ้า เอาปลอกคอล่ามนายเหมือนหมา Of Mice and Men (1992)
We'll be there before you know it.เราจะไปอยู่ที่นั่น ก่อนที่ลุงจะรู้ตัวซะอีก Of Mice and Men (1992)
It's just that they want me to go into hospital just to... give them a chance to get to the bottom of whatever it is I've got.ก็แค่... แม่จะต้องไปอยู่โรงพยาบาล เพื่อที่... The Cement Garden (1993)
For years I waited for my life to end so I could be reunited with my family.หลายปีที่ผ่านมาฉันเฝ้ารอให้ชีวิตฉันจบลง เพื่อที่ฉันจะได้ไปอยู่กับครอบครัว. Hocus Pocus (1993)
Where's all the missing pieces?ของทุกชิ้นที่ขาดหายไปอยู่ที่ไหน In the Name of the Father (1993)
All right, mate. You're with us.ใช่, คู่ครอง คุณไปอยู่กับเรา In the Name of the Father (1993)
We're with you, Gerry!เราไปอยู่กับคุณ, Gerry! In the Name of the Father (1993)
We're with you all the way, mate!เราไปอยู่กับคุณตลอดทาง, เพื่อน! In the Name of the Father (1993)
She looks so skinny.ฉันจะต้องไปอยู่ที่บ้านของผู้หญิงพวกนั้น The Joy Luck Club (1993)
Who would want such a dirty daughter-in-law?ใครเขาจะไปอยากได้ลูกสะใภ้สกปรกกัน The Joy Luck Club (1993)
Otherwise when you go to Huang Tai Tai's, she will disapprove of you.ไม่อย่างนั้นเวลาที่ลูกไปอยู่บ้านของฮวงไท่ไท่แล้ว เธอจะไม่พอใจลูกเอานะ The Joy Luck Club (1993)
And then one day, my mother said our whole family was moving to the south.แล้วในวันหนึ่ง แม่ฉันบอกว่าครอบครัวของเราจะย้ายไปอยู่ทางใต้ The Joy Luck Club (1993)
Where are my grandsons?หลานฉันไปอยู่ที่ไหน The Joy Luck Club (1993)
- You already at the beauty parlor?- ลูกไปอยู่ที่ร้านเสริมสวยแล้วเหรอ ยังเหรอ The Joy Luck Club (1993)
When I went to live with my mother, ตอนที่แม่ไปอยู่กับแม่ของแม่ The Joy Luck Club (1993)
I told her the rest so fast, as if it would hurt her less.แม่เล่าเรื่องที่เหลือไปอย่างเร็วที่สุด ราวกับว่าให้มันทำให้แม่ของแม่เจ็บปวดน้อยที่สุด The Joy Luck Club (1993)
To the head of the team, Zero!ไปอยู่ด้านหน้าเลย ซีโร่! The Nightmare Before Christmas (1993)
I'll just find myself out in the woods.หนูไม่รู้ว่า ออกไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร Deep Throat (1993)
Detective Miles and I won't let anything happen to you.พ่อจะพาหนูไปอยู่ที่ที่ปลอดภัย Deep Throat (1993)
Can you explain your whereabouts over the past four months?คุณบอกได้ไหมว่า ไปอยู่ไหน ระหว่าง สี่เดือนที่แล้ว ? Squeeze (1993)
Going, going, always going... and one day, gone.ไป ไป ไปอยู่นั่นแหละ พอสักวัน ก็ตายจากไป Junior (1994)
I left with the greatest guy on Earth.ฉันไปอยู่กับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก Léon: The Professional (1994)
Then... after seven years, I was sent home to my family and... now...จากนั้น ... หลังจากเจ็ดปีที่ผมถูกส่งกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวของฉันและ ... ตอนนี้ ... Pulp Fiction (1994)
Give me one of them cigarettes you got up there, and I'll tell you all about it.ให้ฉันหนึ่งของพวกเขาสูบบุหรี่ที่คุณได้ไปอยู่ที่นั่นและฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับมัน Pulp Fiction (1994)
Say, some untimely tragic death. Death?หรือแทนเขาถ้าเขาเป็นอะไรไป เช่นตายไปอย่างกระทันหัน Rapa Nui (1994)
I mean, do you think she'd go behind your back, try to hamstring you?ผมหมายถึงว่าคุณคิดว่าเธอจะไปอยู่ข้างหลังคุณพยายามที่จะร้อยหวายคุณ? The Shawshank Redemption (1994)
They transferred him to a minimum-security hospital upstate.พวกเขาย้ายเขาไปอย่างน้อยการรักษาความปลอดภัยที่โรงพยาบาลตอนเหนือของรัฐ The Shawshank Redemption (1994)
Where'd you go?นายไปอยูที่ไหนนะ In the Mouth of Madness (1994)
They'd almost have to keep you in here... once they'd seen these, wouldn't they, John?คุณเกือบจะเข้าไปอยู่ในทุกที่ ที่มีไม้กางเขนอยู่ใช่มั้ยจอห์น In the Mouth of Madness (1994)
So you're saying the man went someplace fictional?คุณกำลังจะบอกว่า เขาไปอยู่ในที่ที่อ้างไว้ในหนังสือเหรอ In the Mouth of Madness (1994)
Oh, I've been trying to.ผมก็พยายามไปอยู่ In the Mouth of Madness (1994)
This incredible epidemic of random mass killing... has spread to every country in the civilized world.มันแพร่ระบาดไปอย่างเหลือเชื่อ มีการฆ่ากันอย่างโจ่งแจ้ง แผ่ขยายไปทั่วประเทศในโลกอันศิวิไลซ์ In the Mouth of Madness (1994)
Leetch spots Messier in the crease. Here's the pass.แม็คลิชส่งกลับไปอย่างรวดเร็ว ไปให้... The One with George Stephanopoulos (1994)
Yeah, well, it's a Mercedes if I move back home.ใช่ รถเบนซ์หนึ่งคันถ้าฉันกลับไปอยู่บ้าน The One with the East German Laundry Detergent (1994)
Get over there!ไปอยู่ทางโน้น Heat (1995)
You better get in there and stay in there.รีบเข้าไปอยู่ในนั้นเฉย ๆ เลย Heat (1995)
Just wait till I'm living in a building named after me.แล้วพ่อยังจะให้ผมไปอยู่หอพัก ที่มีชื่อตามผมอีกต่างหาก Jumanji (1995)
- Good. Why don't you live in it? - I did!ดี ทำไมพ่อไม่ไปอยู่ซะเองล่ะ? Jumanji (1995)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ปอย[pøi] (n) EN: tuft ; tassel ; lock  FR: épi [ m ] ; touffe [ f ]
ปอยผม[pøi phom] (n, exp) EN: lock (of hair)
สปอยเลอร์[sapøiloē] (n) EN: spoiler  FR: spoiler [ m ]
สปอยเลอร์ท้าย[sapøiloē thāi] (n, exp) EN: rear spoiler  FR: aileron arrière [ m ]

English-Thai: Longdo Dictionary
deploy(vt) แปรแถวตอนเป็นแถวหน้ากระดาน(ทางทหาร), เคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธไปอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะต่อสู้ (ทางทหาร), การตั้งแถวเตรียมตัวออกรบ, จัดเพื่อใช้งาน
narcolepsy(n) ชื่อโรคชนิดหนึ่ง อาการของโรคคือผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการหลับได้ ในแต่ละวันผู้ป่วยอาจจะรู้สึกง่วงมากจนต้องหลับไปอย่างกระทันหันได้หลายๆครั้ง ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ninds.nih.gov/disorders/narcolepsy/narcolepsy.htm http://med.stanford.edu/school/Psychiatry/narcolepsy/

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
backstage(adv) อยู่ (หรือไป) หลังเวที, See also: อยู่ หรือไป หลังฉาก, ถอยไปอยู่หลังฉาก, Syn. offstage
bob(n) สิ่งที่ห้อยอยู่และเด้งขึ้นเด้งลงเช่น ปอยผม
bugger about(phrv) ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างไร้ประโยชน์ (คำสแลงและคำต้องห้าม), Syn. mess about
bugger around(phrv) ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างไร้ประโยชน์ (คำสแลงและคำต้องห้าม), Syn. mess about
bum about(phrv) ใช้เวลาหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์ (คำสแลง), See also: สูญเวลาเปล่า, Syn. bum around
bum around(phrv) ใช้เวลาหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์ (คำสแลง), See also: สูญเวลาเปล่า, Syn. bum about
burgeon out(phrv) แพร่ออกไป, See also: กระจาย, ขยายไปอย่างเร็ว
cut along(phrv) ไปอย่างเร็ว (คำไม่เป็นทางการ), Syn. cut off
cut off(phrv) ไปอย่างรวดเร็ว
cut out(phrv) (รถยนต์) แล่นตัดออกไปอย่างเร็ว
dash away(phrv) รีบไป, See also: ผละไปอย่างเร่งรีบ, Syn. dash off, tear away, tear off
drift along(phrv) ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย, See also: แล่นไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย
drift away(phrv) ถูกพัดหรือพาให้ห่างออกไปอย่างช้าๆ (โดยลม, กระแสน้ำ), Syn. drift off
drift off(phrv) ถูกพัดหรือพาให้ห่างออกไปอย่างชาๆ (โดยลม, กระแสน้ำ), See also: พาไป, Syn. drift away
drive between(phrv) ขับไปอยู่ระหว่าง, See also: ทำให้ขับไปอยู่ระหว่าง
face up to(phrv) เผชิญหน้ากับ, See also: ประจันกับ, เผชิญกับ, ยอมรับทำไปอย่างไม่ย่อท้อ, Syn. shape up to, square up to
fade away(phrv) ทำให้หายไปอย่างลับๆ, See also: ทำให้หายไปอย่างเงียบๆ, Syn. fade out
fall beneath(phrv) ตกไปอยู่ข้างใต้ (บางสิ่ง), Syn. fall under
fall between(phrv) ตกไปอยู่ระหว่าง, See also: อยู่ระหว่าง
fling away(phrv) ออกไปอย่างอารมณ์เสีย, See also: หงุดหงิดออกไป
fling up(idm) เคลื่อนไปอย่างเร็ว, Syn. kick up
fly by(phrv) (เวลา) ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, Syn. go by, go on, go past, pass by, run on, wear on, wear out
force down(phrv) ผลักหรือดันลงไปอย่างแรง, Syn. push down, ram down, stuff down, thrust down
forge ahead(phrv) เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคง, See also: เคลื่อนไปอย่าเร็ว
frivol away(idm) ใช้(เงินหรือเวลา)หมดไปอย่างไม่คุ้มค่า, Syn. idle away
dash(n) การโผเข้าไปอย่างรวดเร็ว, See also: การเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว, การพุ่งไปข้างหน้า, การถลาเข้าใส่, การโถมเข้าใส่, Syn. bolt, dart, run, rush, speed, sprint
dash(vt) โผเข้าไปอย่างรวดเร็ว, See also: เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว, โถม, ถลา, ปราด, ปรี่, พุ่งชน, พุ่งไปอย่างเร็ว, Syn. bolt, bound, dart, race, run, rush, scoot, scud, speed, Ant. linger
deploy(vt) เคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธไปอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะต่อสู้ (ทางทหาร), See also: เข้าแถวเรียงหน้ากระดาน, Syn. array, mobilize
deployment(n) การเคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธไปอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะต่อสู้ (ทางทหาร), See also: การเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน, Syn. stretching, spread
engraft(vt) ฝังลงไปอย่างถาวร, Syn. implant, imbue
evanescent(adj) หายไปอย่างรวดเร็ว, Syn. ephemeral, fleeting, transient
fade out(phrv) ค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ, See also: ภาพหรือเสียงค่อยๆ เลือนหายไป, Syn. disappear gradually
fiddle-faddle(vi) ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า, See also: ชักช้า, เถลไถล, เรื่อยเปื่อย
flash(vi) วูบผ่านไปอย่างรวดเร็ว, See also: ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
fleet(vi) เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว, See also: บินไปอย่างรวดเร็ว, Syn. fly
flit(vi) ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช่น เวลา
flow(vi) ลื่นไหล, See also: ไหลคล่อง, ดำเนินไปอย่างราบรื่น, Syn. move, pass
fly(vi) ผ่านไปอย่างรวดเร็ว (เวลา, ฤดูกาล), See also: ล่วง, Syn. pass, elaspe, glide
fly(vi) พุ่งไปอย่างรวดเร็ว, See also: ปราด, โผ, รีบเร่ง, แล่น, Syn. rush, dash, hurry, Ant. delay, slow
futz(vi) ใช้เวลาหมดไปอย่างไร้ประโยชน์
gad about(phrv) ท่องไปทั่ว, See also: เดินทางไปอย่างไร้จุดหมาย, Syn. gad around, gallivant about
gad around(phrv) ท่องไปทั่ว, See also: เดินทางไปอย่างไร้จุดหมาย, Syn. gad about, gallivant about
go adrift(phrv) ล่องลอยไปอย่างอิสระ, See also: ลอยออกไป
go astray(phrv) เดินเตร็ดเตร่ไป, See also: ท่องเที่ยวไป, เดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย, Syn. lead astray
go badly(phrv) ไม่สำเร็จ, See also: ดำเนินไปอย่างแย่ๆหรือไม่ดี, Ant. go well
go below(phrv) ลงไปอยู่ชั้นล่างของเรือ (ทางการแล่นเรือ), Syn. be below, send below, take below
go over to(phrv) ย้ายไปเข้าข้าง, See also: เปลี่ยนไปจงรักภักดีกับ, ย้ายพรรคไปอยู่กับ, Syn. bring round, go across to
gulp back(phrv) กินอย่างมูมมาม, See also: กลืนลงไปอย่างรวดเร็วและตะกละตะกลาม, Syn. gulp down
gulp down(phrv) กินอย่างมูมมาม, See also: กลืนลงไปอย่างรวดเร็วและตะกละตะกลาม, Syn. gulp back
hurry away(phrv) รีบหนี, See also: วิ่งหนี, จากไปอย่างรวดเร็ว, Syn. hurry off

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
absentee landlordเจ้าของที่ดินที่ไปอยู่ที่อื่น
barge(บาร์จฺ) n. เรือท้องแบน, เรือบรรทุก vt. ใช้เรือบรรทุกหรือขนส่ง vi. เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ ชนกัน, ถลา, โผล่พรวดเข้าไป, Syn. boat
bundle(บัน'เดิล) { bundled, bundling, bundles } n. มัด, ห่อ, พวง, กลุ่ม, กอง, เงินจำนวนมาก. vt. มัดเข้าด้วยกัน, ส่งไปอย่างเร่งรีบ, รีบไล่ไป. vi. รีบจากไป, รีบไป, นอนบนเตียงเดียวกัน -Phr. (bundle up ใส่เสื้อผ้าให้อุ่น), See also: bundler n.
bush telegraphn. ข่าวที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
carriage returnปัดแคร่แป้นปัดแคร่ใช้ตัวย่อว่า CR ในทางคอมพิวเตอร์ ถือเป็นตัวอักขระตัวหนึ่งที่มองไม่เห็น ใช้เมื่อสิ้นสุดการพิมพ์แต่ละบรรทัด และทำให้ตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) ลงไปอยู่เป็นตำแหน่งแรกของบรรทัดถัดลงมา โดยปกติ จะกำหนดให้กดแป้น <RETURN> หรือ <ENTER>
circular shiftการเลื่อนเป็นวงหมายถึง การเลื่อนบิต (bit) ที่อยู่ปลายด้านหนึ่งไปอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งในเรจิสเตอร์ (register) เดียวกัน ในการเลื่อนแบบนี้ บิตจะไม่หายไปไหน มีความหมายเหมือน cyclic shiftดู shift ประกอบ
cowlick(คาว'ลิค) n. ปอยผมที่ยื่นออกทางทิศทางต่างจากผมส่วนอื่น
cyclic shiftหมายถึง การเลื่อนบิต (bit) ที่อยู่ปลายด้านหนึ่งไปอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งในเรจิสเตอร์ (register) เดียวกัน ในการเลื่อนแบบนี้ บิตจะไม่หายไปไหน มีความหมายเหมือน circular shiftดู shift ประกอบ
dart(ดาร์ท) { darted, darting, darts } n. หลาว, ลูกดอก, การพุ่งเข้าไปอย่างฉับพลัน, เกมขว้างลูกดอกเข้าเป้า, เหล็กต่อยของแมลง v. พุ่งเข้าอย่างฉับพลัน, โผ, โถม, ขว้าง, See also: dartingly adv. ดูdart dartingness n. ดูdart, Syn. spurt
dartle(ดาร์ท'เทิล) { dartled, dartling, dartles } vt., vi. โถมเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง, ยิงเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง, ฉายแสงเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
dash(แดช) { dashed, dashing, dashes } vt. กระแทก, ทุบแตก, ชน, สาดอย่างแรง, ผสมหรือเจือปน, ทำลาย, ทำให้หดหู่ใจ, ทำให้ยุ่งเหยิง, ทำให้เสร็จโดยเร็ว vi. กระแทก, ชน, โถมเข้าไป, พุ่งเข้าชน, พุ่งไปอย่างรวดเร็ว n. การสาดน้ำ, เสียงสาดน้ำ, ปริมาณน้อย ๆ ที่ผสมเข้าสิ่งอื่น, เครื่องหมาย (๛) , ข
decamp(ดิแคมพฺ') vi. ออกจากค่าย, จากไปอย่างรวดเร็ว, See also: decampment n., Syn. escape
dispatch(ดิสแพทชฺ') vt., vi., n. (การ) ส่ง, ส่งไปอย่างรวดเร็ว, ฆ่า, รีบทำ, จัดการอย่างรวดเร็ว, ข่าวด่วน., Syn. despatch
eloign(อิลอยน') vt. ย้ายตัวเองไปอยู่ที่ไกล., See also: eloigner n. ดูeloign eloiner n. ดูeloign eloignment n. ดูeloign eloinment n. ดูeloign
eloin(อิลอยน') vt. ย้ายตัวเองไปอยู่ที่ไกล., See also: eloigner n. ดูeloign eloiner n. ดูeloign eloignment n. ดูeloign eloinment n. ดูeloign
emigrant(เอม'มะเกรินทฺ) adj., n. (ผู้) ซึ่งอพยพไปอยู่ต่างถิ่น, ซึ่งย้ายไปอยู่ต่างถิ่น
emigrate(เอม'มะเกรท) vi. อพยพไปอยู่นอกประเทศ หรือถิ่น, See also: emigrative adj. ดูemigrate
emigration(เอมมะเกร'เชิน) n. การอพยพไปอยู่นอกประเทศหรือถิ่น, กลุ่มผู้อพยพ, การย้ายถิ่น
expatriate(เอคซฺเพ'ทริเอท) vt., adj., n. (ซึ่งถูก) เนรเทศ, (ซึ่ง) อพยพไปอยู่ต่างประเทศ, (ซึ่ง) สละสัญชาติเดิม n. ผู้อพยพไปอยู่ต่างประเทศ, ผู้ถูกเนรเทศ., See also: expatriation n., Syn. banish
feeze(ฟีซ', เฟซ) n. ความกังวล, การพุ่งออกไปอย่างรุนแรง, การชนอย่างแรง, การปะทะกันอย่างแรง
fleet(ฟลีท) n. กองเรือรบ, กองทัพเรือ, กองเรือ, กองบิน, ขบวนรถยนต์ adj. รวดเร็ว vi. เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว, บิน, บินผ่านไปอย่างรวดเร็ว, บินหายไป, เปลี่ยนทิศทาง, เปลี่ยนตำแหน่ง, หายวับไป, ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว, ปล่อยเชือก. vt. ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว, เปลี่ยนทิศทาง, เปลี่
fleeting(ฟลีท'ทิง) adj. ซึ่งหายวับไป, ซึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว, ชั่วคราว, ประเดี๋ยวเดียว., See also: fleetingness n., Syn. transient
flight(ไฟลทฺ) n. การบิน, กองบินน้อย, ขั้นบันได, การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว, การหายวับ, การเจริญอย่างรวดเร็ว, การหนี, การจากไปอย่างเร่งรีบ. -Phr. (take flight, take to flight ล่าถอย, หนี)
flighty(ไฟล'ที) adj. เปลี่ยนใจง่าย, เหลาะแหละ, ไม่แน่นอน, ไม่รับผิดชอบ, จิตฟุ้งซ่าน, ไม่เต็มบาท, ซึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว. -flightily adv., See also: flightiness n., Syn. unstable
flit(ฟลิท) { flitted, flitting, flits } vi. โผ, โถม, โฉบ, บินวับไป, ผ่านไปแวบเดียว, ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, จากไป, ตาย, ย้ายถิ่น, โยกย้าย vt. ขจัด, เอาออก. n. การเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว, การวับไป, รักร่วมเพศชาย, Syn. dart, whisk, flitter, flutter
flitter(ฟลิท'เทอะ) vt., vi. โฉบ, กระพือปีก, บินไปมาอย่างรวดเร็ว, ทำ ๆ หยุด ๆ , เต้น ๆ หยุด ๆ , สั่นเทา n. ผู้โผ, ผู้โถม, ผู้โฉบ, สิ่งที่บินวับไป, สิ่งที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, Syn. flutter
flow(โฟล) vi. ไหล, ไหลเวียน, ออกจาก, หลั่ง, มีประจำเดือน, ดำเนินไปอย่างราบรื่นและติดต่อกัน, เต็มไปด้วย, ขึ้น, ปลิว, ปลิวสะบัด, โบกสะบัด vt. ทำให้ไหล, ท่วม, ไหลบ่า. n. การไหล, การไหลเวียน, สิ่งที่ไหล, กระแสน้ำ, การไหลบ่า, การหลั่ง, การมีประจำเดือน, การเคลื่อนตัวของพลังงาน, ลูกศรช
gallop(แกล'ลัพ) vi. ความบ้า, วิ่งควบ, วิ่งกระโดดอย่างรวดเร็วเหมือนม้า. vt. ทำให้ม้าวิ่งควบ. n. ท่าวิ่งควบของม้า ยกขาทั้ง4ขึ้นควบแต่ละครั้ง) , การวิ่งในท่าดังกล่าว, การไปอย่างรวดเร็ว., See also: galloper n., Syn. trot, run
hairpiecen. วิกผม, ปอยผม
hightailvi. จากไปอย่างรวดเร็ง, ถอยอย่างรวดเร็ว
hobble(ฮอบ'เบิล) vi., vt. (ทำให้) เดินขาเป๋, เดินกระโผลกกะเผลก, ดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่น. n. ที่ผูกม้าหรือสัตว์อื่น, สถานการณ์ที่ไม่ราบรื่น., See also: hobbler n. hobblingly adv., Syn. walk lamely
hurry(เฮอ'รี) vi., vt., n. (ความ, ทำให้) รีบเร่ง, รีบร้อน, เร่งด่วน, จากไปอย่างรวดเร็ว, See also: hurriedly adv. hurriedness n., Syn. rush, hasten, move
hurtle(เฮฮ'เทิล) v., n. (การ) พุ่ง, เคลื่อนไปอย่างรวดเร็วมาก, เบียดและผลักอุตลุด, กระทบ, ชน., Syn. charge, rush, crash
immigrant(อิม'มะเกรินทฺ) n. ผู้อพยพเข้าประเทศ adj. เกี่ยวกับการอพยพเข้าไปอยู่ในประเทศหรือถิ่นใหม่
infest(อินเฟสทฺ') vt. รังควาญ, รบกวน, ยุ่มย่ามและรังควาญ, เข้าไปอยู่เต็ม., See also: infestation n. infester n., Syn. beset, overrun
jump(จัมพฺ) { jumped, jumping, jumps } vi., n. (การ) กระโดด, กระดก, โลดเต้น, ไปอย่างรวดเร็ว, จู่โจม n. การกระโดด, สิ่งกีดขวาง, การกระโดดร่ม, การขึ้นพรวดขึ้นอย่างกะทันหัน (เช่นราคา) , การเปลี่ยนอย่างกะทันหัน, การกระโดดแข่งขัน adj. (ดนตรีแจ๊ช) เล่นจังหวะเขย่า, adv. แน่ชัด, แม่นยำ
light 3(ไลทฺ) { lighted, lighting, lights } vi. ลง, ลงจากรถ, ลงจากม้า, ลงมาเกาะ, ลงเดิน, ปรากฎขึ้นอย่างบังเอิญ. -Phr. (light into โจมตีกล่าวโจมตี) -Phr. (light out จากไปอย่างรวดเร็ว)
local variableตัวแปรเฉพาะที่เป็นคำที่นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใช้อธิบายถึงข้อมูลที่แยกออกไปอยู่ในบางส่วนบางตอนของโปรแกรม เช่น อาจเป็นตัวแปลที่อยู่เฉพาะในโปรแกรมย่อยเท่านั้น
lock(ลอค) { locked, locking, locks } n. กุญแจ, เครื่องมือที่ให้ปิด, เครื่องกัก, เครื่องกัน, นกสับ, การติดขัด, ห้องปิดอากาศ, ช่องระหว่างประตูน้ำ, กระจุกผม, ปอยผม., See also: locks ผมที่ศีรษะ, ปอยขน, ปอยฝ้ายหรือเส้นใย -Phr. lock, stock, and barrel ทั้งสิ้น ทั้งหมด สมบู
lost(ลอสทฺ) adj. สูญหายไป, เสียไป, ไม่พบ, หาย, สูญเสียเปล่า, แพ้, ถูกทำลาย, พินาศ, หมกมุ่น, ไม่มีคนรู้, ไร้ความหวัง. Id. (Get lost! หลีกไปอย่ารบกวน.) vt., vi. กริยาช่อง 2 และ 3 ของ lose
migrant(ไม'เกรินทฺ) adj. ซึ่งอพยพหรือย้ายถิ่น n. ผู้อพยพไปอยู่ที่อื่น, สัตว์หรือสิ่งที่ย้ายถิ่น, Syn. migrating, migratory
orphanกำพร้า, บรรทัดรั้งท้ายเป็นศัพท์ที่ใช้ในโปรแกรมประมวลผลคำ (word processing) หมายถึง บรรทัดสุดท้ายของย่อหน้า ที่ถูกแยกจากส่วนที่เหลือทั้งหมดไปอยู่คนละหน้า (ถ้าเป็นบรรทัดแรกของย่อหน้า จะเรียกว่า "widow") โปรแกรมประมวลผลคำ หรือโปรแกรมจัดพิมพ์ มักจะมีคำสั่งเฉพาะในเรื่องนี้ โดยผู้ใช้สามารถสั่งให้นำไปรวมกับส่วนที่เหลือของย่อหน้าให้ได้ ดู widow เปรียบเทียบ
page up keyเป็นแป้นหนึ่งบนแผงแป้นอักขระ จะมีตัวอักษรย่อ PgUp อยู่บนแป้น ทำหน้าที่ตรงข้ามกับแป้น PgDn การกดแป้นนี้ทำให้ตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) ขึ้นไปอยู่บรรทัดบนของจอภาพ หรือบรรทัดแรกของแฟ้มเอกสารเลย (ขึ้นอยู่กับโปรแกรม) ดู Pg Dn key เปรียบเทียบ
prance(แพรนซฺ, พรานซฺ) vi., n. (การ) (ม้า) ชูขาหน้าขึ้นทั้ง2ขา, ขี่ม้าอย่างสบาย, ไปอย่างแคล่วคล่อง, การขี่ม้าเดินโอ้อวด., See also: prancer n. prancingly adv.
program checkชุดคำสั่งตรวจสอบหมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่มีเก็บไว้ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่คอยตรวจสอบการวิ่ง (run) ชุดคำสั่ง ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
puff(พัฟ) n. กลุ่มควัน (หมอก, ไอ) , การพ่น, เสียงพ่น, สิ่งที่พ่นออก, ปุย, ปอย, ก้อนนูน, แป้งหรือปุยผัดหน้า, ผ้าห่ม, บทความสั้น ๆ ที่เป็นการยกยอ vi. พ่นควัน, พัดเป็นพัก ๆ , หอบ, ฮือ, พองตัว, โป่งออก vt. เป่า, พัด, ผาย, สูบ, สูด, อวดดี, ยกย่อง, ทำให้เป็นปุย., See also: puffingly
railroad(เรล'โรด) n. ทางรถไฟ, บริษัททางรถไฟ, ระบบทางรถไฟ vt. ขนส่งทางรถไฟ, จัดให้มีทางรถไฟ, สร้างทางรถไฟ, ส่งไปอย่างเร็ว ๆ ลวก ๆ , ทำให้ผ่านไปอย่างเร็ว ๆ ลวก ๆ , ตัดสินคดีอย่างเร่งรีบและลวก ๆ, Syn. rush, push, force
rasterแรสเตอร์ <คำอ่าน>หมายถึง การที่ลำแสงอิเล็กตรอนผ่านวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วส่งเข้าสู่จอภาพเช่นเดียวกับที่ใช้ในการกราดภาพ (scan) คือการยิงลำแสงอิเล็กตรอนให้ผ่านภาพไปอย่างต่อเนื่องทีละเส้น แล้วส่งขึ้นบนจอภาพ ตั้งแต่บรรทัดบนสุดจนถึงล่างสุด เราจะมองเห็นเส้นใหม่ก่อนที่เส้นเก่าจะหายไป เส้นที่มองเห็นนี้จะรวมกันเป็นภาพที่เราต้องการ เรียกว่าภาพ "แรสเตอร์"
resort(รีซอร์ท') vt. อาศัย, พึ่ง, ใช้, ใช้วิธี, ใช้มาตรการ, ไป, มักไป n. สถานที่ที่ผู้คนไปกันบ่อย, ที่มั่วสุม, ที่มีชื่อเสียง, การไปอยู่เสมอ, การอาศัย, การใช้มาตรการอันใดอันหนึ่ง, สิ่งที่ขอความช่วยเหลือ, ผู้ที่ถูกขอความช่วยเหลือ, Syn. go, use, employ
ring(ริง) { rang, rung, ringing, rings } n. วงแหวน, แหวน, ล้อ, ห่วง, วงปีของต้นไม้, ทางวงกลม, สนามวัวแข่ง, สนามมวย, สนามมวยปล้ำ, การต่อยมวย, การแข่งขัน, สังเวียน, วงการ, กลุ่ม, คณะ, ปอยผมที่ขดเป็นวง, สียงกริ่ง, เสียงกระดิ่ง, เสียงโทรศัพท์, เสียงกังวาน, การโทรศัพท์ -v. ล้อมวง, กลายเป็นวงแหวน

English-Thai: Nontri Dictionary
expatriate(vt) ย้ายภูมิลำเนา, เนรเทศ, อพยพไปอยู่ต่างประเทศ
hairpiece(n) ปอยผม, วิกผม
preoccupy(vt) เข้าไปอยู่ก่อน, เข้ายึดก่อน, เข้าครอบครองก่อน
puff(n) ผ้าปะแป้ง, กระจุก, ปอย, กลุ่มควัน, ปุย
ringlet(n) ปอยผม, วงเล็ก, ลอนผม
tress(n) ปอยผม, จุกผม
tuft(n) ช่อ, พู่, ปอย, ปุย, พุ่ม, หนวดใต้คาง, กระจุก
wisp(n) กระจุก, ช่อ, ปอย, หยิบมือ, กำมือ

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
adventist(n) ผู้ที่รอคอยการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ (เพื่อรับพวกเขาไปอยู่กับพระองค์บนสวรรค์ ตามพระสัญญาที่พระองค์ได้ให้ไว้ใน พระธรรมยอห์น 14:1-3 ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล)
Image:
flv(uniq) FLV หรือ Flash VDO คือ สกุลของไฟล์ VDO ที่นิยมกันมากในเวปคลิปอย่าง YouTube.com, Video.Google.com เป็นต้น คิดค้นโดยบริษัท Adobe ข้อดีของไฟล์สกุลนี้คือ มีขนาดเล็กมาก ทำให้คล่องตัว และสะดวกต่อการใช้งานแบบ Streaming หารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> http://en.wikipedia.org/wiki/Flash_Video
Image:
Fringe(n) ผมม้า, ปอยผมที่ปรกหน้าผาก
in full swing(adj) ดำเนินไปอย่างแข็งขันเต็มที่ที่สุด
trek(n) การเดินทางที่เป็นไปอย่างช้าๆ หรือด้วยความลำบาก
tuft[ทัฟท] (n) กระจุก, ปอย(เชือก, ผม, หญ้า)

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
打ち込む[うちこむ, uchikomu] TH: พุ่งตัวลงไปอย่างแรง  EN: to smash
引越す[ひきこす, hikikosu] TH: การย้ายบ้านไปอยู่แห่งใหม่  EN: to move (house)

German-Thai: Longdo Dictionary
flüchtig(adj) ซึ่งหายวับไป, ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, ประเดี๋ยวเดียว เช่น Sie kannte ihn flüchtig. หล่อนรู้จักเขาแค่ประเดี๋ยวเดียว

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
quasistable(adj) ซึ่งมีความมั่นคงที่ไม่แน่นอน , เกี่ยวกับภาวะหรือสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง หรือถูกทำลายในที่สุดแต่มีเสถียรภาพพอควร เนื่องจากการปลี่ยรแปลงนั้นเป็นไปอย่างช้าๆ, Syn. metastable

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top