ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ฝน, -ฝน- |
One day, Father Khwan Khao brought Khwan Khao to leave with Grandpa. | วันหนึ่งคุณพ่อของขวัญข้าวพาขวัญข้าวมาฝากไว้กับคุณปู่ เพราะคุณพ่อต้องไปขับรถส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพมหานคร วันนี้คุณปู่พาขวัญข้าว มาดูข้าวที่คุณปู่ได้ปลูกไว้ จนถึงเย็นฝนก็ตกลงมา ขวัญข้าวจึงพูดว่าคุณปู่ตะรีบเข้าบ้านเดี๋ยวไม่สบาย คุณปู่จึงพูดว่าฝนไม่ได้ทำให้ไม่สบายหรอก แต่ต้องไปอาบน้ำ ตอนกลางคืนฝนก็ตกหนักมาก จนขวัญข้าวนอนไม่หลับ ขวัญข้าวตื่นมาให้คุณปู่เล่านิทานให้ฟังปู่เล่านิทานให้ฟังก็ได้ปู่ตอบ มีอยู่วันหนึ่งในดินเเดนแห้งเเร้งทุกคนไม่มีน้ำดื่ม จนกระทั่งวันหนึ่งมีจอบตกลงมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนจึงหยิบจอบมาเพื่อขุด แต่ในดินแดนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนจึงเลิกขุด เเต่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขุดไปเรื่อยๆจากที่ขุด1ไร่กลายเป็น2ไร่จากที่ขุด2ไร่กลายเป็น4ไร่ จนเด็กผู้ชายคนนั้นก็ล้มลง จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา ทุกคนจึงมีชีวิตอยู่ พอคูณปู่เล่าเสร็จคุณปู่หันไปไหว้รูปในหลวงรัชกาลที่่9 วันต่อมาโรงเรียนของขวัญข้าวมีกิจกรรมขายของ ขวัญข้าวจึงทำวุ้นมะพร้าวจากสีธรรมชาติ จอมขายมะม่วงกวน วันต่อมาคุณพ่อของขวัญข้าวมาหาขวัญข้าว แล้วทุกคนจึงเปิดโครงการ"ของขวัญจากดิน" เพราะทุกอย่างที่นำมาขายล้วนแต่ปลูกมาจากดbo |
|
| ฌาณ | (n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย |
| ฝน | (n) rain, Syn. พรรษา, วสันต์, วรุณ, พิรุณ, วรรษ, พรรษ, Example: คนโบราณมีความเชื่อว่าหากทำอะไรวิตถารหรือสัปดนแล้วฝนจะตก เช่น แห่นางแมว, Count Unit: เม็ด, ห่า, Thai Definition: น้ำที่ตกลงมาจากเมฆเป็นเม็ดๆ | ฝน | (v) sharpen, See also: whet, rub, Syn. ขัด, เหลา, ตะไบ, ลับ, ขูด, Example: นายพรานกำลังฝนหินให้มีปลายแหลมคมเพื่อใช้เป็นอาวุธล่าสัตว์, Thai Definition: ทำให้แหลม, ทำให้คม | ฝน | (v) grind, Syn. บด, ตำ, ถู, โขลก, Example: ผู้ปรุงยาสมุนไพรสมัยก่อนมักใช้วิธีฝนยาเพื่อให้ยาละเอียด, Thai Definition: ทำให้ละเอียด, ทำให้เป็นผง | ขอฝน | (v) pray for rainfall, Example: ในประเพณีแห่นางแมวชาวบ้านจะขอฟ้าขอฝน ด้วยเหตุที่ฝนมาล่าช้ากว่าปกติ จึงต้องทำพิธีแห่นางแมว เพื่อให้ฝนเทลงมา | ฝนตก | (n) rain, Example: ถ้าเรานั่งอยู่ในห้องแล้วสงสัยว่าข้างนอกมีฝนตกหรือไม่ เราจะต้องยื่นมือออกไปรองน้ำฝนดู, Thai Definition: ฝนที่โปรยเม็ดลงมา | กันฝน | (adj) rainproof, Example: ทุกวันนี้ เราต้องนำร่มกันฝนติดตัวไปทุกวันเพราะฤดูกาลในบ้านเราปรวนแปรไป | ตากฝน | (v) be exposed to the rain | ติดฝน | (v) catch in the rain, Example: เธอกลับบ้านสายเพราะติดฝนอยู่ที่ทำงาน, Thai Definition: ไม่อาจเคลื่อนย้ายไปที่ไหนได้เพราะฝนตก | น้ำฝน | (n) rain water, See also: rain, Example: ชาวบ้านในชนบทที่ขาดแคลนน้ำมักจะรองน้ำฝนไว้ใช้ดื่มกิน, Thai Definition: น้ำจากเมฆที่ตกลงมาแล้วรองไว้ใช้ดื่มกิน | ป่าฝน | (n) rainforest, See also: tropical forest, Example: ปัญหาการขาดแคลนน้ำอาจเป็นผลเนื่องมาจากการโค่นทำลายป่าฝนในเขตศูนย์สูตร, Count Unit: แห่ง, ที่ | ป่าฝน | (n) rainforest, See also: tropical forest, Example: ปัญหาการขาดแคลนน้ำอาจเป็นผลเนื่องมาจากการโค่นทำลายป่าฝนในเขตศูนย์สูตร, Count Unit: แห่ง, ที่ | ฝนกรด | (n) acid rain, Example: สาธารณสุขต้องให้ความรู้แก่ชาวบ้านถึงพิษภัยของการบริโภคฝนกรด, Thai Definition: น้ำในอากาศที่กลั่นตัวลงสู่พื้นดิน ปนเปื้อนสารเคมีซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูงที่กระจายอยู่ในบรรยากาศ ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นกรด ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ | ฝนฟ้า | (n) rain, Syn. ฝน, Example: พิธีไสยศาสตร์เพื่อบังคับธรรมชาติซึ่งสมมติให้มีตัวตนเป็นผีสางเทวดาต้องอำนวยฝนฟ้าให้แก่ตนจะได้ไม่ต้องอดตาย | ฝึกฝน | (v) train, See also: practise, drill, Syn. ฝึกปรือ, ฝึก, Example: นักวิชาการและนักปฏิบัติการที่ดีจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองให้มีคุณสมบัติเพียงพอ, Thai Definition: ขวนขวายหาความรู้ให้ชำนาญ | ฤดูฝน | (n) rainy season, Syn. หน้าฝน, Example: ในประเทศไทยจะพบผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากในฤดูฝน, Count Unit: ฤดู | สายฝน | (n) rain, See also: rainfall, Syn. ฝน | สายฝน | (n) falling rain, Example: เขามองจากจุดที่ยืนไปยังถนนใหญ่ที่พร่าเลือนด้วยสายฝน, Thai Definition: ฝนที่ตกลงมา | เมฆฝน | (n) nimbus, See also: rain cloud, Example: เมฆฝนตั้งเค้าครึ้มทึม และสายลมก็กรรโชกเข้ามาในห้องเป็นครั้งคราว, Thai Definition: เมฆลอยต่ำที่จะละลายตัวลงมาเป็นน้ำ | ท้ายฝน | (n) end of rainy season, Syn. ปลายฤดูฝน, Ant. ต้นฝน, Example: ช่วงออกพรรษาถือเป็นช่วงท้ายฝน | ฝนปรอย | (n) drizzle, Example: วันนี้ฉันไม่ได้ออกไปไหนเลยเพราะข้างนอกมีฝนปรอยลงมาทั้งวัน, Thai Definition: ฝนที่ตกเป็นระยะๆ ไม่หนาเม็ด | ฝนหลวง | (n) artificial rain, Syn. ฝนเทียม, Example: ปีนี้คงต้องมีฝนหลวงให้ชาวนา เพราะปีนี้แล้งเหลือเกิน, Thai Definition: ฝนเทียมพระราชทาน | ฝนแล้ง | (n) drought, See also: rain-shortage, dry spell, Example: ถ้าปีใดฝนขาดช่วงหรือฝนแล้ง พืชผลเสียหาย รายได้ของเกษตรกรก็น้อยลงไปด้วย, Thai Definition: ภาวะไร้ฝน | พายุฝน | (n) rainstorm, Example: กระท่อมหลังน้อยแค่นี้จะไปทนแรงของพายุฝนได้อย่างไร, Thai Definition: ฝนตกที่มีลมพัดแรงปนมาด้วย | หน้าฝน | (n) rainy season, Syn. ฤดูฝน, Example: เมื่อถึงหน้าฝนชาวบ้านต่างพากันรองน้ำใส่โอ่งใบใหญ่ เพื่อเก็บไว้กิน และใช้ตลอดทั้งปี | หยาดฝน | (n) raindrop, Example: หยาดฝนจากชายคาหยดเยาะลงร่องน้ำหน้าบ้าน, Thai Definition: เม็ดฝน หรือน้ำค้างที่ไหลยืดหยดลง | เม็ดฝน | (n) raindrops, Syn. หยาดฝน | ฝนชะลาน | (n) rain washing away the mango inflorescence, See also: January rain, Syn. ฝนชะช่อมะม่วง, Thai Definition: ฝนที่ตกชะช่อมะม่วง, ฝนที่ตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ | ฝนดาวตก | (n) meteor shower, Example: นักดาราศาสตร์แจ้งว่าจะเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่ประเทศไทยเร็วๆ นี้, Thai Definition: เทหวัตถุแข็งจากอวกาศ เมื่อเกิดเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ จะแลดูสว่างพุ่งเป็นทางเข้าสู่ผิวโลกเป็นปรอยๆ คล้ายสายฝน | ฝนเทียม | (n) artificial rain, Syn. ฝนหลวง, Example: การโปรยสารเคมีทำฝนเทียมทำให้อากาศสกปรก, Thai Definition: ฝนที่เกิดจากกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ | ละอองฝน | (n) drizzle, See also: droplets of rain, mist of rain, Example: วันนี้โดนละอองฝนตอนวิ่งไปขึ้นรถ เลยมีอาการจาม และน้ำมูกไหล, Thai Definition: ฝนที่ตกลงมาเป็นฝอย | เสื้อฝน | (n) raincoat, See also: waterproof, Syn. เสื้อกันฝน, Example: พี่ว่าเราจะเปียกกันหมดนะเพราะพี่รีบจนลืมเอาเสื้อฝนใส่ตะกร้ามา, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เสื้อที่สวมทับเพื่อป้องกันไม่ให้เปียกฝน, Notes: (ปาก) | การฝึกฝน | (n) training, See also: drill, Syn. การฝึกหัด, การฝึกอบรม, Example: ทหารได้รับการฝึกฝนในการบินผาดโผน, Thai Definition: การเพียรฝึก, การพยายามฝึก | ฝนลงเม็ด | (v) rain, See also: (rain) fall, Syn. ฝนตก, Example: อย่าให้ลูกออกไปเล่นข้างนอกนะ มีฝนลงเม็ดแล้ว | เสื้อกันฝน | (n) raincoat, See also: waterproof, Syn. เสื้อฝน, Example: เป้สำหรับเดินป่า ควรใช้ชนิดที่ใส่ของจำเป็นได้หลายอย่าง เช่น ไฟฉาย เสื้อกันฝน เต๊นท์ ถุงนอน เปลสนาม, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เสื้อที่สวมใส่แล้วสามารถป้องกันไม่ให้เปียกน้ำฝนได้ | ทันน้ำทันฝน | (adv) in time for the flood season and rainy season, See also: in time for tide or rain, Syn. ทันฤดูกาล, Example: ชาวนาเร่งปลูกข้าวให้ทันน้ำทันฝน, Thai Definition: ให้ทันหน้าน้ำหน้าฝน, ให้ทันฤดูกาล | ที่ปัดน้ำฝน | (n) wiper, See also: windshield wiper | ปริมาณน้ำฝน | (n) rainfall, Example: ภาคอีสานมีปริมาณน้ำฝนมาก แต่ดินเป็นดินทรายจึงเก็บน้ำไม่อยู่, Count Unit: ลูกบาศก์เมตร, Thai Definition: ความมากน้อยของจำนวนน้ำฝน | ฝนชะช่อมะม่วง | (n) rain of January-March period when mango trees produce clusters of inflorescence, Syn. ฝนชะลาน, Example: ฝนชะช่อมะม่วงจะตกในฤดูที่มะม่วงกำลังออกช่อ, Thai Definition: ฝนที่ตกเล็กน้อยประปรายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงออกช่อพอดี | พลอยฟ้าพลอยฝน | (v) get someone into trouble, See also: be involved (in), Example: เขาไม่ได้หนีโรงเรียนแต่ก็พลอยฟ้าพลอยฝนถูกทำโทษไปด้วย, Thai Definition: ไม่ได้เกี่ยวข้องก็เป็นตามไปด้วย | ครึ้มฟ้าครึ้มฝน | (v) be very cloudy, Syn. ครึ้มฝน, Ant. โล่ง, ปลอดโปร่ง, Example: กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าพรุ่งนี้จะครึ้มฟ้าครึ้มฝน, Thai Definition: ท้องฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน |
| จาบฝน | น. ชื่อนกขนาดเล็ก ในวงศ์ Alaudidae รูปร่างอ้วนป้อม สีน้ำตาลเหลือง มีลายจุดที่คอและอก หางสั้น เสียงร้องไพเราะ อยู่ตามทุ่งโล่ง กินแมลงและเมล็ดพืช ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ จาบฝนเสียงใส ( Mirafra javanica Horsfield) จาบฝนปีกแดง ( M. assamica Horsfield) และจาบฝนเสียงสวรรค์ ( Alaula gulgula Franklin). | ทันน้ำทันฝน | ว. ให้ทันหน้าน้ำหน้าฝน, ให้ทันฤดูกาล. | ท้ายฝน | น. ปลายฤดูฝน. | น้ำสั่งฟ้า ปลาสั่งฝน | สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย, ทำการอันใดที่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อไว้อาลัยก่อนจากไป, ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง ก็ว่า. | ฝน ๑ | น. นํ้าที่ตกลงมาจากเมฆเป็นเม็ด ๆ | ฝน ๑ | ลักษณนามใช้นับอายุ หมายความว่า รอบปี, ขวบปี, เช่น ควาย ๓ ฝน คือ ควายที่มีอายุ ๓ ปี เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมา ๑๘ ฝน. | ฝนชะช่อมะม่วง | น. ฝนที่ตกเล็กน้อยประปรายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงออกช่อพอดี, ฝนชะลาน ก็เรียก. | ฝนชะลาน | น. ฝนชะช่อมะม่วง ชาวนาเรียกว่า ฝนชะลาน เพราะมักตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ. | ฝนซู่ | น. ฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาซู่ใหญ่เพียงครู่เดียวแล้วหยุด, ฝนไล่ช้าง ก็เรียก. | ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า | การทำอะไร ๆ จะให้ถูกใจคนทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้. | ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า | ว. ทำอย่างไร ๆ ก็ไม่ถูกใจสักอย่าง. | ฝนตกขี้หมูไหล | ก. พลอยเหลวไหลไปด้วยกัน, มักใช้เข้าคู่กับ คนจัญไรมาพบกัน ว่า ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน. | ฝนตกไม่ทั่วฟ้า | ก. ให้หรือแจกจ่ายอะไรไม่ทั่วถึงกัน. | ฝนตกไม่มีเค้า | น. เรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่มีวี่แววหรือไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน. | ฝนตกอย่าเชื่อดาว | ก. อย่าไว้วางใจใครหรืออะไรจนเกินไป, มักใช้เข้าคู่กับ มีเมียสาวอย่าเชื่อแม่ยาย ว่า ฝนตกอย่าเชื่อดาว มีเมียสาวอย่าเชื่อแม่ยาย. | ฝนทอง | น. เครื่องหมายรูปสระ เป็นรูปรอยขีดเดียวดังนี้ ่ สำหรับเขียนบนสระ อิ เป็นสระ อี | ฝนทอง | ชื่อขนมชนิดหนึ่ง. | ฝนเทียม | น. ฝนที่เกิดจากกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ เช่นโดยการโปรยนํ้าแข็งแห้งในอากาศ. | ฝนไล่ช้าง | น. ฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาซู่ใหญ่เพียงครู่เดียวแล้วหยุด, ฝนซู่ ก็เรียก. | ฝนสั่งฟ้า | น. ฝนที่ตกหนักตอนปลายฤดูฝน. | ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง | สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย, ทำการอันใดที่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อไว้อาลัยก่อนจากไป, นํ้าสั่งฟ้า ปลาสั่งฝน ก็ว่า. | ฝนหลวง | น. ฝนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำขึ้นเพื่อบรรเทาความแห้งแล้ง. | ฝนห่าแก้ว | น. ฝนลูกเห็บขนาดเล็ก เช่น ฝนห่าแก้วตกแล้วพ้นไป ฝนห่าใหญ่เทลงเทลง. | ฝน ๒ | ก. ถู เช่น ฝนยา | ฝน ๒ | ลับ เช่น ฝนมีด. | ฝนทั่งให้เป็นเข็ม | ก. เพียรพยายามสุดความสามารถจนกว่าจะสำเร็จผล. | ฝนแสนห่า ๑ | น. วิธีเขียนหนังสืออย่างหนึ่งใช้ตัวเลขแทนตัวหนังสือ | ฝนแสนห่า ๑ | ชื่อดอกไม้ไฟชนิดหนึ่งมีประกายไฟพุ่งออกมาคล้ายไฟพะเนียง แต่หมุนรอบตัว. | ฝนแสนห่า ๒ | น. ชื่อไม้เถาชนิด Argyreia capitiformis (Poir.) Ooststr. ในวงศ์ Convolvulaceae เถามียางขาว ใบออกสลับกัน โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอกใหญ่ สีม่วงแดงหรือสีชมพูลักษณะคล้ายดอกผักบุ้ง. | ฝนแสนห่า ๒ | ชื่อไม้เถาชนิด Myxopyrum smilacifolium Blume subsp. smilacifoliumในวงศ์ Oleaceae เถาไม่มียาง ใบออกตรงข้ามกัน ดอกเล็กมาก สีเหลืองอ่อน เนื้อไม้ใช้ทำยาได้. | ฝนแสนห่า ๒ | ดู อบเชย. | ฝึกฝน | ก. เพียรฝึก, พยายามฝึก, เช่น ฝึกฝนตนเองให้ชำนาญในการเย็บปักถักร้อย. | พยับฝน | น. ครึ้มฝน. | พลอยฟ้าพลอยฝน | ว. ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่ก็ร่วมรับเคราะห์ไปกับเขาด้วย. | ไม้ฝนทอง | น. เครื่องหมายสระ รูปดังนี้ ่สำหรับเขียนบนพินทุ อิ เป็น สระอี, ไม้เสียบหนู ก็เรียก. | สู้แดดสู้ฝน | ก. ทนแดดทนฝน. | หินฝนทอง | น. ชื่อขนมอย่างหนึ่ง. | อ้าวฝน | ว. ร้อนระงมก่อนฝนตก. | กรก, กรก- | (กะหฺรก, กะระกะ-) น. ลูกเห็บ เช่น กรกวรรษ ว่า ฝนลูกเห็บ. | กร่อม ๑, กร่อม ๆ | ว. ช้า ๆ เงื่อง ๆ แต่ทำเรื่อยไป (มักใช้แก่การเดิน พายเรือ หรือลุยนํ้า) เช่น เดินกร่อม ๆ กรำฝนฟ้า พายเรือกร่อม ๆ. | กระแจะ ๒ | น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Naringi crenulata (Roxb.) Nicolson ในวงศ์ Rutaceae ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ต้นและกิ่งมีหนามเปลือกขรุขระสีเทา ดอกเล็กสีขาวเป็นช่อสั้น ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลิ่นหอมอ่อน ท่อนไม้ฝนกับนํ้าใช้เป็นเครื่องประทิ่นผิว รากใช้ทำยา, กะแจะ ขะแจะ ตุมตัง หรือ พญายา ก็เรียก. | กระโจมทอง | น. เครื่องกันแดดและฝนเปิดโล่ง ๔ ด้าน อยู่บนสัปคับหลังช้างพระที่นั่ง เขียนลายปิดทองรดน้ำ. | กระแชง ๑ | น. เครื่องบังแดดฝน โดยนำใบเตยหรือใบจากเป็นต้นมาเย็บเป็นแผง, ลักษณนามว่า ผืน (เทียบ ม. กระชัง ว่า แผงสำหรับคลุมเรือหรือรถ เย็บด้วยใบไม้) | กระดานชนวน | น. แผ่นหินชนวนหน้าเรียบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เข้ากรอบไม้ ใช้เขียนด้วยดินสอหินซึ่งทำด้วยหินชนวนตัดและฝนเป็นแท่ง สำหรับฝึกเขียนหนังสือในสมัยก่อน. | กระดูกอึ่ง | น. ชื่อไม้พุ่ม ๓ ชนิดในสกุล Dendrolobium และ Dicerma วงศ์ Leguminosae คือ ชนิด D. triangulare (Retz.) Schindl. มักขึ้นในที่โล่งตํ่าซึ่งชุ่มแฉะในฤดูฝน ฝักเล็กแบนคอดกิ่วเป็นข้อ ๆ ใช้ทำยาได้, ขมิ้นนาง ขมิ้นลิง ลูกประคำผี หน้านวล เหนียวหมา หรือ อีเหนียว ก็เรียก | กระบูนเลือด | น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง หัวและต้นดั่งขมิ้นอ้อย ต้นและใบเขียว หัวขนาดหัวเผือก กลมเกลี้ยงเป็นมัน มีปล้องห่าง ๆ เนื้อขาว ฉุนร้อน ถ้าเคี้ยวจะทำให้ฟันโยก เชื่อกันว่าใช้ฝนกับนํ้าปูนใสหรือต้มเสียก่อนก็ได้ กินแก้ดานเลือด ดานลม และกระชับมดลูกให้แห้งสนิท. | กระสุนพระอินทร์ | น. ชื่อกิ้งกือในสกุล Sphaerotherium วงศ์ Sphaerotheriidae ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร หัวแบนเล็ก ลำตัวโค้งนูน มี ๑๓ ปล้อง ผิวลำตัวเรียบมัน ด้านหลังสีน้ำตาล ดำ ครีม หรือเขียว เมื่อถูกกระทบจะม้วนเข้าสอดกับปล้องสุดท้ายจนกลมคล้ายลูกกระสุนดินปั้น พบชุกชุมช่วงต้นฤดูฝนตามพื้นที่สูงที่มีใบไม้ทับถมและชุ่มชื้น, ปักษ์ใต้เรียก มวนชิด. | กรำ | (กฺรำ) ว. ตรำ, ฝ่า, สู้ทนลำบาก, เช่น กรำแดด กรำฝน, เคี่ยวเข็ญเย็นคํ่ากรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย (พระราชนิพนธ์ ร. ๖). | กลด ๑ | (กฺลด) น. เครื่องกั้นกันแดดหรือฝน ลักษณะคล้ายร่มขนาดใหญ่ ขอบมีระบาย คันยาว ใช้ถือกั้นเจ้านาย, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบ ว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด. | กลาง | (กฺลาง) น. ส่วนที่ไม่ค่อนไปข้างใดข้างหนึ่ง, โดยปริยายหมายความว่า ในที่หรือเวลาระหว่าง เช่น กลางฝน กลางทาง |
| | Acid rain | ฝนกรด, Example: น้ำฝนที่มีค่า pH ต่ำกว่า 5.6 สาเหตุของฝนกรดคือ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และ ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในเครื่องยนต์และโรงงานต่างๆ แล้วถูกปล่อยสู่บรรยากาศ และเกิดการทำปฏิกิริยากับน้ำ ออกซิเจน และสารเคมีอื่นๆ ก่อให้เกิดสารประกอบที่เป็นกรดซัลฟิวริกและกรดไนตริก ซึ่งมีแสงอาทิตย์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเหล่านี้ให้มากขึ้น [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Rain-making | ฝนเทียม [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Drought | ฝนแล้ง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Rain gauge | เครื่องวัดน้ำฝน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Rain-water (Water supply) | น้ำฝน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | ไต้ฝุ่น | ชื่อพายุหมุนที่มีกำลังแรงจัด ทำให้มีฝนตกหนักมาก เกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกและในทะเลจีน มีความเร็วลมใกล้บริเวณศูนย์กลางตั้งแต่ 64 นอต หรือ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ใต้ฝุ่น [คำที่มักเขียนผิด] | Acid rain | ฝนกรด [TU Subject Heading] | Rain and rainfall | ฝน [TU Subject Heading] | Rain-making | ฝนเทียม [TU Subject Heading] | Rain-making rites | พิธีขอฝน [TU Subject Heading] | Rain-water (Water-supply) | น้ำฝน [TU Subject Heading] | Rainfall frequencies | ความถี่ของฝน [TU Subject Heading] | Rainfall intensity duration frequencies | ความถี่ความแรงของฝน [TU Subject Heading] | Rainfall probabilities | พยากรณ์ฝน [TU Subject Heading] | Storm sewers | ท่อระบายน้ำฝน [TU Subject Heading] | Rain Drop | เม็ดฝน, Example: ดู Rain - ฝน [สิ่งแวดล้อม] | Isomer | เส้นเปอร์เซ็นต์ฝนเท่า หรือเส้นไอโซเมอร์, Example: เส้นฝนเท่ารายเดือน หรือรายฤดูซึ่งระบุตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์ของ ฝนรายปี [สิ่งแวดล้อม] | Isohyet | เส้นน้ำฝนเท่า หรือเส้นไอโซไฮท์, Example: เส้นที่ลากผ่านจุดต่าง ๆ บนแผนที่ (ตำบลที่ต่าง ๆ กัน) ซึ่งมีปริมาณ ฝนตกเท่ากันในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ละเส้นแสดงปริมาณน้ำฝนแตกต่างกัน เส้นเหล่านี้เขียนเป็นวงปิดเสมอ [สิ่งแวดล้อม] | Rain | ฝน หรือน้ำฝน หรือพิรุณ, Example: น้ำฟ้าในลักษณะของหยดน้ำซึ่งมีขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลางโตกว่า 0.5 ม.ม. (0.02 นิ้ว) แต่ถ้าฝนตกกระจายเป็นบริเวณกว้างขนาดของเม็ดฝน อาจมีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 0.5 มม. [สิ่งแวดล้อม] | Freezing Rain | ฝนเยือกแข็ง, Example: ฝนซึ่งตกลงมาในรูปของ ๆ เหลว แต่จะเกิดการแข็งตัวเมื่อกระทบพื้นดิน วัตถุบนผิวโลก หรือเครื่องบินขณะบินอยู่กลางอากาศ [สิ่งแวดล้อม] | Agent Orange | ฝนเหลือง, Example: ฝนเหลืองเป็นสารกำจัดวัชพืช ซึ่งทางการทหารของสหรัฐอเมริกา ใช้ในสงครามเวียตนาม เพื่อฉีดพ่นทำให้ใบไม้ร่วงเป็นบริเวณกว้าง ระหว่างการสู้รบกับเวียตกง นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจต่อผลกระทบทางนิเวศวิทยาของสารดังกล่าว อย่างไรก็ตามผลที่มีต่อสุขภาพอนามัยของชาวเวียตนามได้รับความสนใจมากกว่า ผนเหลืองเป็นสารกำจัดวัชพืชประเภทออร์กโนคลอรีน (organochlorine) ซึ่งมีสาร TCDD (tetra chlorodibenzo-para dioxin) เล็กน้อยเจือปนอยู่ [สิ่งแวดล้อม] | Frontal Rain | ฝนแนวปะทะ, Example: น้ำฟ้า หรือฝนที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศซึ่งลอยตัวขึ้นตาม บริเวณแนวปะทะของกระแสอากาศ [สิ่งแวดล้อม] | Mud Rain | ฝนโคลน, Example: น้ำฝนที่มีละอองของดินทราย หรือผงฝุ่นปนอยู่จนทำให้ฝนที่ตกลงมา มีสีคล้ายโคลน ฝุ่นละอองดังกล่าวนี้อาจมาจากถิ่นที่อยู่ไกล ๆ แล้ว ปลิวมากับลม [สิ่งแวดล้อม] | Acid Rain | ฝนกรด, Example: ฝนกรดเป็นมลพิษประเภทหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจาก การชะล้างกรดซัลฟูริค และกรดไนตริกเจือจางจากบรรยากาศ มักจะเกิดขึ้นเฉพาะที่หรือเป็นแห่งๆ มากกว่าที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก ฝนกรดไม่ได้เกิดกับฝนอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงหิมะ หมอก ลูกเห็บ ก๊าซและฝุ่น ฝนกรดมีผลเสียคือทำลายสมดุลของธรรมชาติ รบกวนระบบนิเวศน์ ทำลายป่าไม้ พืชและการเพาะปลูก ตลอดจนทำลายสิ่งมีชีวิตในน้ำ โดยการเปลี่ยนแปลงสมดุลทางเคมีของทะเลสาบและแม่น้ำ นอกจากนี้ยังทำให้อาคารบ้านเรือนผุพัง [สิ่งแวดล้อม] | Mangoshower | ฝนชะช่อมะม่วง หรือฝนชะลาน, Example: ฝนชะช่อมะม่วงนี้เป็นคำเรียกชื่อฝนที่ตกนอกฤดู ฝน คือตกในเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ต้นไม้ต่าง ๆ กำลังออกช่อโดยเฉพาะมะม่วง กล่าวกันว่าเมื่อฝนเช่นนี้ตกลงมาใน ระยะที่มะม่วงออกช่อ จะทำให้มะม่วงติดผลและมีผลดก ชาวนาเรียก ฝนนี้ว่า "ฝนชะลาน" (harvest time or January rain) เพราะตกในระยะที่จะทำนวดข้าวบนลาน ในทางอุตุนิยมวิทยาเป็นฝนที่เกิดจากปรกฎการณ์อุตุนิยมวิทยาชนิดเหนึ่งเรียก ว่า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออก (easterly wave) (สนิท เวสารัชชนันท์, 2516) [สิ่งแวดล้อม] | Supercooled Rain | ฝนซุปเปอร์คูล หรือฝนเย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง, Example: ฝนที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และเมื่อตกลงมากระทบกับพื้นดินหรือวัตถุใด จะทำให้เกิดมีน้ำแข็งลักษณะหนาและใสเคลือบบนสิ่งนั้น [สิ่งแวดล้อม] | Rain Shower | ฝนซู่ หรือฝนไล่ช้าง, Example: ฝนซู่ (แต่ก่อนเรียกว่าฝนโปรย) คือหยาดน้ำฟ้า หรือฝนตกหนักโดยกระทันหันในระยะเวลาสั้น ๆ มีเสียงดัง เกิดจากเมฆที่ก่อตัวขึ้นโดย กระแสอากาศไหลในทางตั้ง (convective clouds) เม็ดฝน หรือ เม็ดของน้ำฟ้าโดยปกติมีขนาดโตกว่าน้ำฟ้า หรือน้ำฝนชนิดอื่น ฝนซู่ มักตกและหยุดอย่างฉับพลันและมีการเปลี่ยนแปลงความแรงของฝนอย่างรวดเร็ว ลักษณะท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดครื้มน่ากลัวอย่างรวดเร็วเพราะเมฆคิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus) และกลับกลายเป็นแจ่มใสในช่วงเวลาสั้นๆ ภายหลังฝนตก [สิ่งแวดล้อม] | Thundery Shower | ฝนซู่ฟ้าคะนอง, Example: ฝนตกลงมาแบบฝนซู่โดยมีปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้องเกิดขึ้นด้วย [สิ่งแวดล้อม] | Local Rainfall | ฝนท้องถิ่น หรือฝนเฉพาะแห่งหรือบางแห่ง, Example: น้ำฟ้า หรือฝนที่ตกในบริเวณเล็ก ๆ และตกเฉพาะแห่ง ดังนั้น จึงเป็นน้ำฟ้าหรือฝนที่ตกจากเมฆที่ผ่านไป และตกชั่วระยะที่เมฆนั้นลอยผ่าน [สิ่งแวดล้อม] | Cyclonic Rain | ฝนพายุหมุน หรือฝนพายุไซโคลน, Example: น้ำฟ้า หรือฝนที่เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของพายุหมุน [สิ่งแวดล้อม] | Thundery Rain | ฝนฟ้าคะนอง, Example: น้ำฟ้าซึ่งอาจเป็นฝน ลูกเห็บ หิมะ ฯลฯ ตกลงมาเป็นครั้งคราว หรือ ตกเป็นระยะๆ ประเดี๋ยวแรงประเดี๋ยวเบา โดยมากจะมีฟ้าแลบ หรือ ฟ้าคะนองด้วยแต่ไม่เสมอไป [สิ่งแวดล้อม] | Orographic Rain | ฝนภูเขา, Example: น้ำฟ้า หรือฝนที่เกิดจากอากาศลอยตัวขึ้นเมื่อพัดข้ามที่สูง ๆ เช่น ภูเขา หรือสิ่งกีดขวางซึ่งทำหน้าที่คล้ายทิวเขา [สิ่งแวดล้อม] | Monsoon Rain | ฝนมรสุม, Example: ฝนที่เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุม (monsoon trough) [สิ่งแวดล้อม] | Drizzle | ฝนละออง หรือฝนหยิม, Example: หยาดน้ำฝนที่เป็นเม็ดมีขนาดเล็กละเอียดเป็น ละออง หรือเป็นฝอยบาง ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 0.5 ม.ม. (0.02 นิ้ว) ตกค่อนข้างสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นเม็ดเล็กละเอียด และอยู่ใกล้ชิดกันมากสามารถลอยปลิวไป มาตามกระแสลมได้ และมักตกจากเมฆสเตรตัสชั้นต่ำ จึงทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี แตกต่างจากหมอกตรงที่ฝนละอองนี้จะตกจากท้องฟ้าลงสู่ดิน [สิ่งแวดล้อม] | Freezing Drizzle | ฝนละอองเยือกแข็ง, Example: เม็ดฝนละอองซึ่งจะแข็งตัวเมื่อกระทบพื้นดิน วัตถุบนผิวโลก หรือ เครื่องบินขณะบินอยู่กลางอากาศ [สิ่งแวดล้อม] | Sulphur Rain | ฝนสีเหลือง หรือฝนกำมะถัน, Example: ฝนที่มีละอองของฝุ่นสีเหลืองผสมอยู่ จนทำให้น้ำฝนที่ตกลงมามีสีเหลือง คล้ายกำมะถัน ฝุ่นละอองสีเหลืองนี้เกิดจากละอองเกษรดอกไม้ หรือ จากฝุ่นที่มีสีเหลือง ฯลฯ [สิ่งแวดล้อม] | Blood Rain | ฝนสีแดงเรื่อ หรือฝนสีสนิม, Example: ฝนที่มีละอองของฝุ่นสีแดงผสมอยู่ จนทำให้น้ำฝนที่ตกลงมามีสีแดง คล้ายเลือด เกิดขึ้นจากเม็ดฝนที่กระแสลมภายในก้อนเมฆหอบกลับ ขึ้นสู่เบื้องบนก่อนตกลงถึงพื้นดินและได้ซับเอาฝุ่นละอองสีแดง เข้าไปในเม็ดฝน ฝุ่นละอองสีแดงนี้เกิดจากละอองเกษรดอกไม้ หรือ จากฝุ่นที่มีเหล็กอ๊อกไซด์สีแดงปนอยู่ ฯลฯ น้ำฝนที่มีสีแดงจะอ่อนหรือเข้มแล้วแต่ปริมาณฝุ่นที่ปนอยู่ [สิ่งแวดล้อม] | Rain Shadow | พื้นที่อับฝน หรือเงาฝน, Example: บริเวณที่อยู่ด้านหลังภูเขาหรือทิวเขา ซึ่งมีฝนตกน้อยกว่าบริเวณด้านหน้า ซึ่งเป็นด้านรับลม หรือพื้นที่ทางด้านปลายลมซึ่งมีค่าปริมาณฝนเฉลี่ย น้อยกว่าพื้นที่ทางด้านต้นลม เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติ เช่น มียอดเขาสูงกั้นขวางทิศทางลมที่พาเอาฝนมาตก (พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, 2516) [สิ่งแวดล้อม] | Political Appointee | หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง คือ ผู้ที่มิได้มีอาชีพทางการทูตโดยแท้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูต ซึ่งต่างกับนักการทูตอาชีพ (Career diplomat) ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพโซเวียต ธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปจะแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่มีอาชีพนักการทูตแท้ ๆ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและอัครราชทูต อย่างไรก็ดี เฉพาะในกรณีพิเศษจริง ๆ เท่านั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลจากภายนอก และบุคคลจากภายนอกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตได้รับผลสำเร็จในการ ปฏิบัติหน้าที่ก็มีอยู่หลายราย ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แฮโรลด์ นิโคลสัน ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือเรื่องการทูตของท่านว่า ในประเทศใหญ่ ๆ เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้นักการทูตอาชีพเท่านั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ เพราะได้ผ่านการศึกษาและฝึกฝนในวิชาการทูตมาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเอกอัครราชทูตที่แต่งตั้งจากคนภายนอกจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ในการเขียนรายงานไปยังรัฐบาล เช่น รายงานการเมือง เขาอาจมุ่งแต่จะอวดความเฉียบแหลมของเขาเอง และร้อยกรองคำอย่างไพเราะเพราะพริ้ง มากกว่าที่จะมุ่งเสนอรายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและมีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | Ethylene propylene diene rubber | ยาง EPDM เป็นยางสังเคราะห์ที่พัฒนามาจากยาง EPM โดยเติมมอนอเมอร์ตัวที่สาม คือ ไดอีน ลงไปเล็กน้อยในระหว่างการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน ทำให้ยางที่ได้มีส่วนที่ไม่อิ่มตัว (พันธะคู่) อยู่ในสายโซ่โมเลกุล ยางชนิดนี้จึงสามารถคงรูปได้ด้วยกำมะถัน แต่ไดอีนที่เติมลงไปไม่ได้ไปแทรกอยู่ที่สายโซ่หลักของโมเลกุล ดังนั้นสายโซ่หลักก็ยังคงเหมือนเดิมหรือไม่มีผลต่อสายโซ่หลักมากนัก จึงทำให้ยาง EPDM ยังคงมีสมบัติเด่นในเรื่องการทนทานต่อการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากความร้อน แสงแดด ออกซิเจน โอโซน สารเคมี กรด ด่างได้ดีมาก และมีความยืดหยุ่นตัวได้ดีที่อุณหภูมิต่ำเมื่อเทียบกับ ยางธรรมชาติ มักใช้ทำผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ภายนอกเนื่องจากทนต่อสภาพอากาศได้ดีและใช้ผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ยางขอบกระจก ยางปัดน้ำฝน ท่อยางของหม้อน้ำรถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เป็นฉนวนหุ้มสายเคเบิล สายพานลำเลียง แผ่นยางกันน้ำ แผ่นยางมุงหลังคา [เทคโนโลยียาง] | Equatorial Rain Belt | แถบที่มีฝนตกชุก [การแพทย์] | Exercise Training | การฝึกฝนออกกำลังกาย [การแพทย์] | Freezing rain | ฝนเยือกแข็ง [อุตุนิยมวิทยา] | Rain drop | เม็ดฝน [อุตุนิยมวิทยา] | Drizzle | ฝนละออง หรือ ฝนหยิม [อุตุนิยมวิทยา] | Drizzle drop | เม็ดฝนละออง [อุตุนิยมวิทยา] | Shower | ฝนซู่หรือฝนไล่ช้าง [อุตุนิยมวิทยา] | Rain shower | ฝนซู่ หรือ ฝนไล่ช้าง [อุตุนิยมวิทยา] | Frontal rain | ฝนแนวปะทะ [อุตุนิยมวิทยา] |
| Boy. Some rain. | ฝนตกหนักเนอะ 21 Grams (2003) | Rain! | ฝนตก Faith Like Potatoes (2006) | Mommy! Mommy! | นี่ ดูฝนที่โปรยปรายลงมาสิ Hero (1992) | When it rains in the winter, we'll just say "The hell with going to work," | ตอนที่ฝนตกในฤดูหนาว เราจะไม่ไปทำงาน Of Mice and Men (1992) | and we'll just build a fire in the stove, and we'll just sit there and we'll listen to the rain. | เราจะจุดไฟเตาผิง แล้วนั่งตรงนั้น... ฟังเสียงสายฝน Of Mice and Men (1992) | You know that rain water's supposed to be the cleanest water there is? | รู้ไหมว่าน้ำที่สะอาดที่สุดคือน้ำฝนที่ตกลงมา The Cement Garden (1993) | The security of gravity and the cleanliness of rain: | ท่ามกลางการร่วงหล่นของสายฝนสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง The Cement Garden (1993) | The burning rain of death! | ฝนกรด แห่งความตาย! Hocus Pocus (1993) | I summon the burning rain of death. | ฉันจะเรียกฝนกรด แห่งความตาย. Hocus Pocus (1993) | - Burning rain of death. | - ฝนกรดแห่งความตาย. Hocus Pocus (1993) | - Burning rain of death. | - ฝนกรดแห่งความตาย. Hocus Pocus (1993) | It's the burning rain of death! | มันเป็นฝนกรดแห่งความตาย! Hocus Pocus (1993) | That's the first time I saw you, under a raining shower of sparks. | นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันมองเธอ ภายใต้ฝักบัวอาบน้ำฝนข? In the Name of the Father (1993) | I'm standing out in the rain, ringing the bell for 15 minutes. | ผมยืนอยู่กลางฝน กดกริ่งมาตั้ง 15 นาทีแล้วนะ The Joy Luck Club (1993) | Kids need to be shaped into something, right? | เด็กต้องการแบบอย่างเพื่อฝึกฝน จริงมั้ย Léon: The Professional (1994) | - I'll take a rain check. | - ฉันจะใช้เวลาตรวจสอบฝน Pulp Fiction (1994) | Well, a little rain never hurt anybody. | แค่ฝนตกนิดหน่อย ไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ Jumanji (1995) | The rain stopped, so I'll go. | พอฝนหยุดตก ฉันจะกลับ Wild Reeds (1994) | [ SINGING ] Raindrops on roses And whiskers on kittens | ฝนตกมาใส่กุหลาบ แล้วก็หยดมาใส่ลูกแมว The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | -Better than rain. | ดีกว่าฝนตกนะ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | But it's going to rain later. | แต่อีกเดี๋ยวฝนก็จะตก The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | You said it would rain. | คุณ คุณบอกว่าฝนจะตก The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Awful mud slides on nights like these. | โคลนไหลลื่นน่าดูฝนตกแบบนี้ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | I'm not one for runnin' around in the rain. | ฉันไม่ใช่คนชอบวิ่งตากฝนนัก The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | I like to stay snug in a warm bed and just stare at it. | ฉันชอบนอนอยู่บนเตียงอุ่น ๆ และมองไปที่ฝน The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Everythin' looks better when it's wet, don't you think? | ทุกอย่างดูดีขึ้นเมื่อเปียกฝน ว่ามั้ย The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | If it's rainin' here, it's rainin' more there. | ถ้าที่นี่ฝนตก ที่นั่นยิ่งตกมากกว่า The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | The roads are probably bad with the rain. | ถนนเปียกฝนคงไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | -It was the rain that defeated every invader. | เพราะฝนต่างหากที่ปราบผู้บุกรุกทุกสมัย The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | -Anson! Yes, simple rain. | ใช่ ฝนธรรมดาๆ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | It started rainin' Thursday night and it rained all Friday mornin'. | ฝนเริ่มตกเมื่อคืนวันพฤหัส และตกตลอดเช้าวันศุกร์ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | It seemed that the rain would never stop. | ดูเหมือนฝนไม่มีท่าจะหยุด The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | It stopped rainin' and, miracle of miracles Morgan the Goat talked to Reverend Jones. | ฝนหยุดแล้ว และปาฏิหาริย์เหนือปาฏิหาริย์ มอร์แกน คนเลี้ยงแพะ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | It stopped rainin'. | ฝนหยุดตกแล้ว The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | We lost a lot in the rain, but we still have a chance. | เราเสียดินไปมากกับฝน แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | When it rains, you get wet. | ฝนตกเราก็ต้องเปียก Heat (1995) | Perhaps you're right. Not such a good morning after all. | บางทีคุณอาจถูก มันอาจเป็นฟ้าหลังฝน The Great Dictator (1940) | Oh, well, it stopped raining anyway. | โอ้ก็ก็หยุดฝนตกล่ะค่ะ Pinocchio (1940) | Hello. It's starting to rain. We'd better hurry up. | ฝนลงเม็ดเเล้ว เราต้องรีบกันเเล้วล่ะ Rebecca (1940) | Looks as though we might have a shower. But you won't mind that, will you? | - ฝนตกแล้ว สงสัยจะต้องเปียกโชก คุณไม่ว่าอะไรใช่มั้ย Rebecca (1940) | There's a heap of mackintoshes in the flower room. | มีเสื้อกันฝนอยู่เยอะเเยะที่ห้องดอกไม้ Rebecca (1940) | It started raining. | ฝนก็เริ่มโปรยลงมา Rebecca (1940) | - It's gonna rain. | - มันจะมีฝนตก 12 Angry Men (1957) | Oh, boy. Look at that rain. There goes your ball game. | โอ้เด็ก ดูฝนตกที่ มีเกมลูกของคุณไป 12 Angry Men (1957) | Swami, it's raining on your... | สวามีมีฝนตกบน หลังจากที่พวกเขา Help! (1965) | Like rain it was. | เหมือนฝนมันเป็น How I Won the War (1967) | More for a laugh, I said "We should have us gas capes on. | เราควรจะมีเราเสื้อคลุมก๊าซ มีฝนตกกระสุน How I Won the War (1967) | That was when we lost Charles Black from a raindrop. | จากน้ำฝน How I Won the War (1967) | I said "We should have us umbrellas and gas capes, boys. | ฉันบอกว่าเราควรจะมีเราร่ม และเสื้อคลุมก๊าซเด็กชาย มีฝน ตกกระสุน How I Won the War (1967) | I'd jump into the River Mersey, but it looks like rain. | ฉันกระโดดลงไปในแม่น้ำ เมอร์สี แค่ดูเหมือนว่าฝน Yellow Submarine (1968) |
| บริเวณแถบฝน | [børiwēn thaēp fon] (n, exp) EN: rainbands | ฝึกฝน | [feukfon] (v) EN: train ; practise ; drill | ฝน | [fon] (n) EN: rain FR: pluie [ f ] | ฝน | [fon] (v) EN: sharpen ; grind ; whet | ฝนชะช่อมะม่วง | [fonchachømamūng] (n) EN: rain of January-March period when mango trees produce clusters of inflorescence | ฝนชะลาน | [fonchalān] (n) EN: rain washing away the mango inflorescence | ฝนชุก | [fon chuk] (v, exp) EN: be rainy, ; be wet | ฝนดาวตก | [fon dāotok] (n, exp) EN: meteor shower FR: pluie de météorites [ f ] | ฝนฟ้า | [fon fā] (n, exp) EN: rain ; weather | ฝนฟ้าอากาศ | [fon fā akāt] (n, exp) EN: weather | ฝนจะตก | [fon ja tok] (xp) FR: il va pleuvoir ; la pluie va arriver | ฝนขาดเม็ด | [fon khātmet] (v, exp) EN: stop raining | ฝนขวาน | [fon khwān] (v, exp) EN: grind an axe | ฝนกรด | [fon krot] (n, exp) EN: acid rain FR: pluie acide [ f ] | ฝนแล้ง | [fonlaēng] (n) EN: drought ; rain-shortage ; dry spell ; lack of rain ; drought condition ; no rain ; little rain FR: sécheresse [ f ] ; aridité [ f ] | ฝนแล้ง | [fonlaēng] (v) EN: be dry ; have a dry spell | ฝนไล่ช้าง | [fonlaichāng] (n) EN: heavy brief and abrupt rain | ฝนเหล็ก | [fon lek] (n, exp) EN: rain of bombs | ฝนเหลือง | [fon leūang] (n, exp) EN: yellow rain | ฝนลงเม็ด | [fon long met] (v, exp) EN: start to rain ; rain | ฝนหลวง | [fon lūang] (n, exp) EN: artificial rain FR: pluie artificielle [ f ] | ฝนมีด | [fon mīt] (v, exp) EN: whet a knife ; sharpen a knife | ฝนพันปี | [fon phanpī] (n, exp) EN: endless heavy rain | ฝนพรำ | [fon phram] (v, exp) EN: shower | ฝนโปรย | [fon prōi] (n, exp) FR: bruiner ; il bruine | ฝนปรอย | [fon prøi] (v, exp) EN: drizzle FR: bruiner ; il bruine | ฝนสั่งฟ้า | [fon sang fā] (n, exp) EN: last rain of the rainy season | ฝนสาด | [fon sāt] (v) EN: rain in | ฝนซู่ | [fonsū] (n) EN: heavy brief and abrupt rain FR: pluie battante [ f ] ; drache [ f ] (Belg.) | ฝนตะไบ | [fon tabai] (v, exp) EN: use a file to rub something smooth/sharp | ฝนตั้งเค้า | [fon tangkhao] (v, exp) EN: look like rain | ฝนแท่งหมึกจีน | [fon thaeng meuk Jīn] (v, exp) EN: rub an ink stick | ฝนเทียม | [fon thīem] (n, exp) EN: artificial rain FR: pluie artificielle [ f ] | ฝนทิ้งช่วง | [fon thing chūang] (x) EN: have a dry spell | ฝนทอง | [fonthøng] (n) EN: vowel mark –่ FR: signe vocalique –่ | ฝนตก | [fontok] (n) EN: rain FR: pluie [ f ] ; flotte [ f ] (fam.) | ฝนตก | [fontok] (v) EN: rain ; it is raining FR: pleuvoir ; il pleut ; flotter (fam.) | ฝนตกแล้ว | [fontok laēo] (v, exp) EN: it's starting raining FR: il commence à pleuvoir | ฝนตกไม่ทั่วฟ้า | [fontok mai thūa fā] (xp) EN: It does not rain everywhere at once ; There is bound to be some discrimination and favoritism | ฝนตกหนัก | [fontok nak] (n, exp) EN: heavy rain ; heavy rainfall ; downpour FR: fortes pluies [ fpl ] | ฝนตกหนัก | [fontok nak] (v, exp) EN: rain heavily ; rain cats and dogs ; rain hard FR: pleuvoir abondamment ; pleuvoir des cordes ; il pleut à verse ; il tombe des cordes | ฝนตกพรำ ๆ | [fontok phram-phram] (n, exp) EN: light rain ; steady rain | ฝนตกพรำ ๆ | [fontok phram-phram] (v, exp) EN: drizzle ; be drizzling | ฝนตกปรอย ๆ | [fontok prøi-prøi] (v, exp) EN: drizzle FR: bruiner | ฝนตกหยิม ๆ | [fontok yim-yim] (v, exp) EN: drizzle FR: bruiner | หินฝนทอง | [hin fon thøng] (n, exp) EN: touch stone ; Thai sweet | กำบังฝน | [kambang fon] (v, exp) EN: shelter from the rain ; keep off the rain FR: protéger de la pluie | การฝึกฝน | [kān feukfon] (n) EN: training ; drill | กันฝน | [kanfon] (adj) EN: rainproof FR: imperméable | ครึ้มฟ้าครึ้มฝน | [khreum fā khreum fon] (xp) EN: be very cloudy FR: le temps est maussade ; le ciel est couvert |
| barista | (n) นักชงกาแฟเอสเปรสโซ ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อชงกาแฟเอสเปรสโซ, See also: espresso | internship | (n) การฝึกงาน, ช่วงเวลาที่ได้ฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญ เช่น A successful internship can help pave the way toward possible full-time employment opportunities after graduation. | nimbo | ฝน, น้ำ (เป็น prefix ของเมฆที่สามารถก่อตัวให้เกิดฝนได้) เช่น The low, gray clouds that fill the skies are Nimbo stratus. | gloriosa lily | [กลอริโอซา ลิลี่] (n) ดองดึง, ก้ามปู เป็น ดอกไม้สกุลลิลลี่(Liliaceae, Lily Family) มีหัวใด้ดิน มี 6 กลีบ ดอกอ่อนสีเขียว พอบานจะเป็นสีเหลืองปลายกลีบเป็นสีแดง และเมื่อใกล้โรยจะเป็นสีแดงเข้ม และจะกลายเป็นฝักในที่สุด มีเกษรเพศผู้และเมียแยกกัน ออกดอกช่วงฤดูฝน Image: | rain check | [เรน เชค] (n,, idiom, (สำนวน)) เลื่อนไปก่อน ไว้ค่อยทำในอนาคต เช่น Can I have a rain check? ขอเลื่อนไปวันหลังได้ไหม คำนี้มีที่มาจากการแข่งขันกีฬาในสมัยก่อน ซึ่งหากฝนตกหรืออากาศไม่ดี ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ ผู้เข้าชมสามารถขอรับหางตั๋ว หรือ คูปองกระดาษ (เรียกว่า rain check) เพื่อในครั้งต่อไปที่มา จะได้สามารถแสดงหางตั๋วนี้ และเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย |
| accomplishment | (n) ทักษะ (ส่วนใหญ่ใช้ในรูปพหูพจน์), See also: ความสามารถพิเศษที่ฝึกฝน | acid rain | (n) ฝนกรด, See also: ฝนที่ปนเปื้อนด้วยมลพิษทางเคมี ซึ่งเกิดจากมลพิษทางอากาศ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์หรื | anesthetist | (n) ผู้ที่ถูกฝึกฝนในการใช้ยาชา | buildup | (n) การเตรียมการ, See also: การฝึกฝน | be rained out | (idm) เลื่อนเพราะฝนตก | beat against | (phrv) ฟาด, See also: ตีซ้ำๆที่, กระแทก, ฝนกระทบ, Syn. knock against | cagoule | (n) เสื้อแจ๊คเกตมีหมวกคลุมหัวและสามารถกันลมและฝนได้ | cloudburst | (n) ฝนที่ตกหนักอย่างกะทันหัน, Syn. deluge, rain, downpour | cultivate | (vt) ฝึกฝน, See also: ให้การศึกษา, ปลูกฝัง, Syn. nurture, educate, teach | coach for | (phrv) ฝึกฝนมาเพื่อ | drizzle down | (phrv) (ฝน) ตกพรำๆ, See also: ตกปรอยๆ | deluge | (vt) ท่วมท้น, See also: ล้นหลาม, ตกหนัก ฝน, Syn. flood, inundate, soak, rain cats and dogs, Ant. sprinkle | deluge | (n) ฝนตกหนัก, Syn. downpour, rain | discipline | (n) การฝึกฝน, Syn. self-control, moderation, Ant. immoderation | discipline | (vt) อบรม, See also: ฝึกฝน, Syn. train, coach, tutor | downpour | (n) ฝนห่าใหญ่, See also: ฝนตกหนักมาก, พายุฝน, Syn. rain, shower, rainstorm | drench | (vt) ตกหนัก (ฝน) | drill | (n) การฝึกฝน, See also: การฝึกหัด, Syn. practice, rehearsal | drill | (vt) ฝึกฝน, See also: หัด, ฝึก, ฝึกหัด, ฝึกปรือ | drizzle | (vi) (ฝน) ตกปรอยๆ, See also: ตกพรำๆ, Syn. drop, sprinkle, spray | drizzle | (n) ฝนตกปรอยปราย, Syn. mist, drip | esquire | (n) เด็กรับใช้ประจำอัศวิน (ซึ่งกำลังฝึกฝนที่จะเป็นอัศวินเองในอนาคต) | experienced | (adj) ซึ่งได้รับการฝึกฝน, See also: ซึ่งมีประสบการณ์, ชำนาญ, ช่ำชอง, เชี่ยวชาญ, ชำนิชำนาญ, โชกโชน, ซึ่งจัดเจน, Syn. skillful | flurry | (n) ปริมาณฝนหรือหิมะที่ตกลงมาเล็กน้อยในเวลาสั้นๆ, Syn. gust, squall | get into | (phrv) เริ่มเรียนรู้หรือฝึกฝน, Syn. be in, keep in | gabardine | (n) ผ้าแกเบอร์ดีน, See also: ผ้าเนื้อแน่นหยาบใช้ทำเสื้อกันฝนหรือเสื้อกันหนาว, Syn. homespun, difful | gabardine | (n) เสื้อกันฝน, See also: เสื้อกันหนาวที่ทำจากผ้าแกเบอร์ดีน, Syn. mackintosh, slicker | gaberdine | (n) ผ้าแกเบอร์ดีน, See also: ผ้าเนื้อแน่นหยาบใช้ทำเสื้อกันฝน / เสื้อกันหนาว, Syn. homespun | gaberdine | (n) เสื้อกันฝนหรือเสื้อกันหนาวซึ่งทำด้วยผ้าแกเบอร์ดีน, See also: เสื้อคลุมยาวและหลวมแบบที่ชาวยิวสวม, Syn. mackintosh, slicker | grinder | (n) เครื่องบด, See also: เครื่องปั่น, เครื่องโม่, คนฝน, คนบด, Syn. blender, mill | out of practice | (idm) แสดงไม่ดีเพราะขาดการฝึกฝน, See also: ไม่ได้ฝึกฝน, ไม่ได้ซ้อม | Practice makes perfect. | (idm) ฝึกฝนบ่อยๆ ทำให้เก่งได้, See also: คนเราไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด | rain cats and dogs | (idm) (ฝน) ตกหนัก | rain or shine | (idm) ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก (คำไม่เป็นทางการ) | The heavens opened | (idm) ฝนตกหนักมาก | keep in training | (idm) ฝึกฝน (เพื่อการกีฬาหรือการแข่งขัน), Syn. get into | keep one's hand in | (idm) หมั่นฝึกฝน, Syn. get in | lash down | (phrv) กระหน่ำลงมา (เช่น ฝน), See also: เทลงมา | journeyman | (n) ช่างที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี | lash | (vt) กระทบอย่างแรง (คลื่น, ฝน), See also: สาด, ซัด, Syn. beat | lash | (n) การกระทบอย่างแรงของคลื่นหรือสายฝน, See also: การซัด, การสาด, Syn. beat, impact | learn | (vt) ท่องจำ, See also: ท่อง, ฝึกฝน, Syn. memorize | light | (adj) เบาๆ อ่อนๆ (ลม, ฝน), Syn. soft, gentle, Ant. heavy | lowering | (adj) มืดครึ้ม (ท้องฟ้า), See also: เหมือนฝนจะตก, Syn. dark, threatening, overcast, cloudy, gloomy, Ant. clear | mackintosh | (n) เสื้อกันฝน, Syn. raincoat | meteor | (n) ดาวตก, See also: ฝนดาวตก, ผีพุ่งไต้, Syn. falling star, shooting star, meteorite | nimbus | (n) เมฆฝน | patter | (n) เสียงเปาะแปะ (คล้ายเสียงฝนตก), Syn. tapping, patting, sound | pluvial | (adj) เกี่ยวกับฝน, See also: เกิดขึ้นจากฝน | poncho | (n) ผ้าคลุมที่มีรูตรงกลางสำหรับสวมที่ศีรษะมักใช้เป็นเสื้อกันฝน, Syn. cape, cloak, shawl |
| cataract | (แคท'ทะแรคทฺ) n. น้ำตกขนาดใหญ่, การไหลเชี่ยวของน้ำ, ฝนที่เทกระหน่ำลงมา, น้ำป่า, แก่งในแม่น้ำ, ต้อกระจก | catchpit | บ่อหรือท่อที่ใช้รับน้ำฝน | cloudburst | n. ฝนที่ตกอย่างหนักมากและกะทันหันปานฟ้ารั่ว, พายุฝน | deluge | (เดล'ลิวจฺ) n. อุทกภัย, น้ำท่วม, ฝนที่ห่าลงมาพักใหญ่, การไหลทะลัก -Phr. (the Deluge n. น้ำท่วมโลกสมัยNoahvt. ท่วม), Syn. flood | discipline | (ดิส'ซะพลิน) n. วินัย, ระเบียบวินัย, การฝึกฝน, การลงโทษ, สาขาวิชา, ศิลปปฎิบัติ, วินัยทางศาสนา vt. ฝึกฝน, ทำให้มีวินัย, ลงโทษ, แก้ไข., See also: discipliner n., Syn. order | downpour | (ดาว'พอร์) n. ฝนที่เทลงอย่างมากและกะทันหัน, ฝนห่าใหญ่, Syn. heavy rain | dribble | (ดริบ'เบิล) { dribbled, dribbling, dribbles } vi., n. (การ) หยุด, ไหลริน, ไหลหยด, ค่อย ๆ เคลื่อน, ค่อย ๆ หายไป, จำนวนหรือปริมาณเล็กน้อย, ฝนลงเล็กน้อย, ฝนตกปรอย ๆ | drill | (ดรีล) { drilled, drilling, drills } n. สว่าน, เครื่องเจาะ vt., vi. เจาะไซ, ยิงทะลุ, ฝึกฝน. vi. เจาะรู, ฝึกฝน, See also: drillable adj. ดูdrill driller n., Syn. exercise, practice, bore, tteach | drilling | (ดริล'ลิง) n. การเจาะ, ผู้เจาะ, การฝึกฝน, ผู้ฝึกฝน | drillmaster | n. ผู้ฝึกฝน, ครูฝึก, ทหารครูฝึก | drizzle | (ดริซ'เซิล) { drizzled, drizzling, drizzles } vt., vi., n. ฝนตกประปราย, ฝนตกพรำ, See also: drizzly adv. | droughty | (เดรา'ที) adj. แห้งแล้ง, ไร้ฝน, กระหายน้ำ, See also: droughtiness n., Syn. dry | educate | (เอด'จุเคท) vt. ให้การศึกษา, สั่งสอน, อบรม, ฝึกฝน, ให้ความรู้ vi. อบรม, สั่งสอน | education | (เอดจุเค, 'เชิน) n. การศึกษา, การสั่งสอน, การฝึกฝน, คุรุศาสตร์, ศึกษาศาสตร์, See also: educational adj. ดูeducation, Syn. schooling, training | exercise | (เอค'เซอไซซ) v., n. (การ) ออกกำลังกาย, ฝึกหัด, การฝึกฝน, ปฏิบัติ, ดำเนินการ, เป็นห่วง, ทำให้เป็นห่วง., See also: exercisable adj. exerciser n. | exposition | (เอคซฺพะซิส'เชิน) n. การแสดงออก, นิทรรศการ, การเปิดเผย, การออกจากที่กำบัง, การผึ่งแดดผึ่งฝนหรือผึ่งลม. | fag | (แฟก) { fagged, fagging, fags } vt.ทำให้หมดกำลัง, บีบบังคับให้รับใช้, ฝนให้กร่อนหรือสึก. vi. หมดกำลัง, เมื่อยล้า, ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ. -n. งานหนัก, ความเหน็ดเหนื่อย, บุหรี่, ผู้รักร่วมเพศชาย, มัดฟืน | fence | (เฟนซฺ) { fenced, fencing, fences } n. รั้ว, เครื่องกั้น, คอกล้อม, พะเนียด, ศิลปะหรือกีฬาฟันดาบ, ความชำนาญในการโต้แย้ง, บุคคลผู้รับและจำหน่ายของโจร, สถานที่รับและจำหน่ายของโจร. -Phr. (sit on the fence เป็นกลาง, ไม่เข้าข้างฝ่ายใด) . vi. เล่นหรือฝึกฝนการฟันดาบ, ล้อมรั้ว, | fencer | n. ผู้ล้อมรั้ว, ผู้ฟันดาบ, นักดาบ, ม้าที่ได้รับการฝึกฝนกระโดดข้ามรั้ว, นักวิ่งกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, ผู้มีอาชีพซ่อมแซมและสร้างรั้ว | flurry | (เฟลอ'รี) n. หิมะที่ตกปรอย ๆ , ฝนตกลงมาอย่างประปราย, ความตื่นเต้นหรืองงงวยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน, ความเกรียวกราว, ความหวั่นไหวของตลาดหุ้น, ลมที่พัดมาอย่างกะทันหัน. vt. ทำให้ยุ่งใจ, ทำให้ตื่นเต้น, Syn. fluster | gabardeen | (แกบ'บะดีน) ผ้าเนื้อแน่นหยาบใช้ทำเสื้อกันฝนชนิดหนึ่ง, เสื้อผ้าหยาบหลวมที่ทำด้วยผ้าดังกล่าวที่คนยิวสวมใส่ | garbadine | (แกบ'บะดีน) ผ้าเนื้อแน่นหยาบใช้ทำเสื้อกันฝนชนิดหนึ่ง, เสื้อผ้าหยาบหลวมที่ทำด้วยผ้าดังกล่าวที่คนยิวสวมใส่ | gargoyle | (การ์'กอยล์) n. หัวรูปสัตว์ประหลาดที่เป็นปากท่อต่อจากรางน้ำฝน หัวรูปสัตว์ประหลาด, See also: gargoyled adj. | grind | (ไกรดฺ) { ground, grinding, grinds } vt., vi., n. (การ) ฝน, บด, โม่, ถูอย่างแรง, บรรเลงเพลงดังลั่น, กดขี่, เคี่ยวเข็ญ, รบกวน, เสียงฝน, งานหนัก, นักเรียนที่ขยันมากผิดปกติ, ระบำส่ายตะโพก., See also: grindable adj. grindingly adv., Syn. cr | grinder | (ไกร'เดอะ) n. คนบด, คนฝน, เครื่องบด, เครื่องฝน, ฟันกราม | grinding wheel | ล้อฝน | gusty | (กัส'ที) adj. เกี่ยวกับลมแรง-ฝน-ไฟหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเป็นพัก ๆ , พูดพล่าม, รุนแรง, อย่างยิ่ง, มีรสชาติ, เอร็ดอร่อย, See also: gustily adv. gustiness n., Syn. fitful | hail | (เฮล) vt. ต้อนรับ, ทักทาย, เรียก, โห่ร้องอวยชัยแก่. vi. เรียก, ร้องเชิญ, ลูกเห็บลง n.การร้องเรียก, การร้องเชิญ, การต้อนรับ, การทักทาย, การตกของลูกเห็บ, ฝนมีลูกเห็บ, ห่ากระสุนหรืออื่น ๆ interj. คำอุทานแสดงการต้อนรับ, การร้องเรียกหรือร้องเชิญ คำที่มีความหมายเหมือนกั | havelock | n. หมวกแก๊ปกันแดดกันฝนชนิดหนึ่ง | learning | (เลิร์น'นิง) n. การเรียนรู้, การศึกษา, ความรู้, การปรับบุคลิกภาพจากการปฏิบัติฝึกฝนหรือประสบการณ์, Syn. education | lowering | (โล'เออริง) adj. มืดฟ้า, อากาศทำท่าจะมีฝน, ขมวดคิ้ว, บูดบึ้ง, หดหู่ใจ, โกรธ., Syn. louring, dark | mackintosh | (แมค'คินทอช) n. เสื้อฝนชนิดหนึ่งที่ทำด้วยผ้ายาง, ผ้าดังกล่าว, Syn. macintosh. | mist | (มิสทฺ) n. หมอก, สิ่งที่คล้ายหมอก, ความพร่ามัว. vi. พร่ามัว, ฝนตกเป็นเม็ดเล็กมาก. vt. ทำให้พร่ามัว, Syn. fog, haze | mold | (โมลดฺ) n. รา, ขี้รา, เชื้อรามแม่พิมพ์, สิ่งที่เป็นรูปร่างจากแม่พิมพ์, รูปแบบ, ตัวอย่าง, ดินร่วน, ดิน, พื้นดิน vt. เกิดเชื้อรา, ก่อเป็นรูปร่างขึ้นจากแม่พิมพ์, ก่อร่างหล่อขึ้น, ฝึกฝน, See also: moldability n. moldable adj., Syn. m | molder | (โมล'เดอะ) vi. เป็นฝุ่นเนื่องจากการเน่าเปื่อย, ผุพัง. vt. ทำให้ผุพัง n. ผู้พิมพ์แบบ, ผู้ปั้น, ผู้หล่อ, ผู้ฝึกฝน | molding | (โมล'ดิง) n. การพิมพ์แบบ, การปั้น, การหล่อ, การฝึกฝน, สิ่งที่หล่อขึ้น, สิ่งที่พิมพ์ขึ้น, คิ้วที่หล่อบนผนังหรือมุมตึก | monsoon | (มอนซูน') n. ลมมรสุม, ลมฝน, ฤดูลมมรสุม, | mould | (โมลดฺ) n. รา, ขี้รา, เชื้อรามแม่พิมพ์, สิ่งที่เป็นรูปร่างจากแม่พิมพ์, รูปแบบ, ตัวอย่าง, ดินร่วน, ดิน, พื้นดิน vt. เกิดเชื้อรา, ก่อเป็นรูปร่างขึ้นจากแม่พิมพ์, ก่อร่างหล่อขึ้น, ฝึกฝน, See also: moldability n. moldable adj. | moulder | (โมล'เดอะ) vi. เป็นฝุ่นเนื่องจากการเน่าเปื่อย, ผุพัง. vt. ทำให้ผุพัง n. ผู้พิมพ์แบบ, ผู้ปั้น, ผู้หล่อ, ผู้ฝึกฝน | moulding | (โมล'ดิง) n. การพิมพ์แบบ, การปั้น, การหล่อ, การฝึกฝน, สิ่งที่หล่อขึ้น, สิ่งที่พิมพ์ขึ้น, คิ้วที่หล่อบนผนังหรือมุมตึก | nimbo- | Pref. เมฆฝน, ทรงกลดรอบพระเศียร | nurture | (เนอ'เชอะ) vt. อุปถัมภ์, เลี้ยง, บำรุง, ทะนุถนอม, ฝึกฝน, ให้การศึกษา n. อาหาร, เครื่องบำรุง, การบำรุง, See also: nurturable adj. nurturer n., Syn. feed, raise | pelt | (เพลทฺ) vt. ระดมยิง, ระดมขว้าง, โจมตีอย่างดุเดือด, วิ่ง, ต่อยหรือตีอย่างดุเดือด, ฝนตกอย่างกระหน่ำ, ลอกหนัง n. การต่อย, การยิง, การตี, การพัดอย่างดุเดือด, การตกอย่างกระหน่ำ, การกระหน่ำ, หนังสัตว์, ผิวหนัง, Syn. strike, beat, rush, speed | pour | (พอ, พอร์) vt., vi., n. (การ) เท, ริน, ราด, หลั่ง, กรอก, ระบาย, ปล่อยออก, (ฝน) ตกลงมาอย่างแรง., See also: pourability n. pourable adj. pourer n. pouringly adv. | precipitate | (พรีซิพ'พิเทท) vt. เร่งให้เกิดขึ้น, ทำให้ตกตะกอน, ทำให้ฝนตก, ผลัก, ส่ง, ทุ่ม, โยน. vi. ตกตะกอน, (ฝน) ตก, ถลำเข้าสู่. adj. พุ่งลง, รีบด่วน, หุนหัน, ใจร้อน. n. ตะกอน, See also: precipitateness n. precipitative adj. precipitator n. | precipitation | (พรีซิพ'พิเท'เชิน) n. การเร่งให้เกิดขึ้น, การตกตะกอน, การถลำเข้าสู่, การพุ่ง, การถลำ, ความใจร้อน, ความเร่งรีบ, ความหุนหันพลันแล่น, ตะกอน, ผลิตผลการรวมตัวกันของไอน้ำในอากาศ (ฝน, หิมะ, ลูกเห็บ, น้ำค้าง) , ปริมาณที่รวมตัวกันดังกล่าว | rain | (เรน) n. ฝน, น้ำฝน vi. ฝนตก, ตกลงมาคล้ายฝน. vt. ส่งลงมา, ทำให้ตกลงมาเป็นจำนวนมาก, ให้อย่างมากมาย, เสนอให้อย่างมากมาย, -Phr. (rain cats and dogs ฝนตกลงมาอย่างหนักหรือไม่ขาดสาย), See also: rains n. ฤดูฝน, หน้าฝน, การหลั่งไหลลงมาอย่างแรง | rain gage | n. เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน, มาตรวัดน้ำฝน | rain gauge | n. เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน, มาตรวัดน้ำฝน | rain shower | n. ฝนที่สาดลงมาเพียงชั่วครู่ |
| cultivate | (vt) เพาะปลูก, ศึกษา, ฝึกฝน, อบรม, ปลูกฝัง | discipline | (n) ระเบียบข้อบังคับ, ระเบียบวินัย, การลงโทษ, การฝึกฝน | discipline | (vt) ทำให้มีวินัย, บังคับ, ลงโทษ, ฝึกฝน, ฝึกหัด | downpour | (n) ฝนตกหนัก, ฝนห่าใหญ่ | dribble | (n) การไหลริน, ฝนปรอย | drill | (n) การฝึกฝน, สิ่ว, สว่าน, เครื่องเจาะ, เครื่องไข, ช่องว่างในเมล็ด | drill | (vt) ฝึกฝน, ไช, เจาะรู, ยิงทะลุ | drizzle | (n) ฝนปรอย, ฝนพรำ | drizzle | (vi) ฝนปรอย, ฝนตกพรำ, ฝนตกประปราย | drought | (n) ความแห้งแล้ง, ความกระหายน้ำ, สภาวะไร้ฝน | educate | (vt) สอน, อบรม, ฝึกฝน, ให้การศึกษา, ให้ความรู้ | exercise | (n) แบบฝึกหัด, การบ้าน, การออกกำลังกาย, การฝึกหัด, การฝึกฝน | exercise | (vi, vt) ใช้, ฝึกหัด, ฝึกฝน, ฝึก, ปฏิบัติ, ออกกำลังกาย | flurry | (n) สายฝนอ่อน, ความอลหม่าน, ความวุ่นวาย, ความเกรียวกราว | gargoyle | (n) รางน้ำฝนรูปสัตว์ | grind | (vt) โม่, ป่น, บด, ลับ(มีด), ขบ(ฟัน), เจียระไน, ฝน, ถู | gutter | (n) รางน้ำฝน, ท้องร่อง, ท่อ, ร่องน้ำ | mackintosh | (n) เสื้อฝน | monsoon | (n) ลมมรสุม, ฤดูฝน, ฤดูมรสุม | rain | (n) ฝน | rain | (vi) โปรยปราย, ฝนตก | raincloud | (n) เมฆฝน | raincoat | (n) เสื้อฝน, เสื้อกันฝน | raindrop | (n) น้ำฝน, หยดฝน | rainfall | (n) ปริมาณน้ำฝน | rainmaking | (n) การทำฝนเทียม, การขอฝน | rains | (n) หน้าฝน, ฤดูฝน, วสันต์ฤดู | rainstorm | (n) พายุฝน | rainy | (adj) มีฝนชุก, เปียกฝน | sharpen | (vt) ฝน, เหลา, ทำให้แหลม, ทำให้คม | sharpener | (n) ผู้ฝน, ผู้ลับ, เครื่องเหลา, กบเหลาดินสอ | shower | (n) ฝักบัว, ห่าฝน, จำนวนมากมาย, การโปรย | sleet | (n) หิมะฝน, ฝนลูกเห็บ | soppy | (adj) โชก, ชุ่ม, มีฝนมาก | sprinkle | (n) การพรม, จำนวนน้อย, การโปรย, การหว่าน, ฝนโปรยปราย | squall | (n) เสียงดัง, พายุ, ฝนไล่ช้าง, ความโกลาหล | thunderstorm | (n) พายุฝนฟ้าคะนอง | train | (vi, vt) ฝึกฝน, อบรม, สั่งสอน, ดัด, เล็ง, จัดการ, ฝึกหัด | training | (n) การฝึกหัด, การอบรม, การฝึกฝน, การศึกษา | waterproof | (n) สัมภาระที่น้ำเข้าไม่ได้, เสื้อกันฝน, ผ้าน้ำมัน | weather | (vt) ตากฝน, ตากลม, ผุกร่อน | WEATHER-weather-beaten | (adj) คล้ำแดดคล้ำฝน, สึกกร่อน | wet | (adj) เปียก, โชก, แฉะ, มีฝนมาก | whet | (vt) ลับให้คม, ทำให้แหลมขึ้น, ฝน |
| climate | (n) climate = ลักษณะภูมิอากาศของพื้นที่ในระยะยาวนานหลายฤดู หรือหลายปี หรือหลายศัตวรรษ ซึ่งรวมถึงอุณหภูมิ ปริมาณฝน ลม ความชื้น ความกดดัน การแผ่รังสืของพระอาทิตย์ whether = ลักษณะอากาศในพื้นที่เป็นหลายๆชั่วโมงหรือหลายๆวัน ซึ่งรวมถึงอุณหภูมิ ปริมาณฝน ลม ความชื้น ความกดดัน การแผ่รังสืของพระอาทิตย์ | Hedge | (n, vi) [ Linguistics: Pragmatics ] n. คำบ่งชี้ความไม่แน่ใจ คำบ่งชี้การพูดออกตัว การพูดออกตัว โดยใช้ คำ วลี หรือประพจน์เพื่อป้องกันตัวของผู้พูดในกรณีที่พูดผิด ไม่มั่นใจ เช่น วันนี้ฝนอาจจะตก คำว่า อาจจะ คือ hedge ชนิดหนึ่งที่บ่งชี้ว่าผู้พูดมีความไม่มั่นใจ มีความกำกวม ซึ่งฝนจะตกหรือไม่ตกผู้พูดก็ไม่ได้พูดผิด เพราะคำว่า อาจจะ มีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด 50/50 v. พูดออกตัว พูดกำกวม พูดป้องกันตัว, See also: softener, downtoner, understatement, weakener, tentativeness, stance m, Syn. mitigator | rainforest | [เรนฟอร์เรส] (n) ป่าที่มีฝนตกชุกและมีไม้ยืนต้นจำนวนมากปกคลุมพื้นป่า | semiarid | (adj) ที่ที่มีฝนตกน้อย | southwester | หมวกกันน้ำแบบหนึ่ง ทำจากหนังเคลือบมัน และมีปีกด้านหลังคลุมท้ายทอย ออกแบบเพื่อกันลมและฝน | thundershower | (n) พายุฝนฟ้าคะนองที่ตกปรอย ๆ สั้น ๆ | weathering | (n, vt, adj, adv) การผุกร่อน (ตามสภาพดินฟ้าอากาศ) [ โยธา ] ; ลาดน้ำไหล, พื้นลาดเอียงระบายน้ำฝน [ ช่างก่อสร้าง ] ; การเปลี่ยนสภาพโดยลมฟ้าอากาศ[ ป่าไม้ ] |
| スコール | [すこーる, suko-ru] (n) เสียงดัง, พายุ, ฝนไล่ช้าง, ความโกลาหล | 梅雨 | [つゆ, tsuyu] (n) ฤดูฝน (ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ย่างเข้าฤดูร้อนของญี่ปุ่น) | 降る | [ふる, furu] (vt) (ฝน, หิมะ)ตก | 雨季 | [うき, uki] (n) ฤดูฝน |
| 人工降雨 | [じんこうこうう, jinkoukouu] (n) ฝนเทียม | テルテル坊主 | [てるてるぼうず, teruterubouzu] (n) ตุ๊กตาไล่ฝน | 春雨 | [はるさめ, harusame] (n) ฝนในฤดูใบไม้ผลิ | 雨宿り | [あめやどり, ameyadori] (n) ที่หลบฝน | 練習 | [れんしゅう, renshuu] ฝึกฝน, ฝึก | 練習 | [れんしゅう, renshuu] ฝึกฝน, ฝึก |
| 極める | [きわめる, kiwameru] TH: ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ EN: to master | みぞれ | [みぞれ, mizore] TH: ฝนปนหิมะ หิมะที่ตกลงมาและกลายเป็นฝน | 晴れる | [はれる, hareru] TH: ฝนหยุดตก | にわか雨 | [にわかあめ, niwakaame] TH: ฝนตกที่ตกแรงชั่วครู่แล้วหยุดตก EN: a (sudden) shower | 霙 | [みぞれ, mizore] TH: ฝนปนหิมะ หิมะที่ตกลงมาและกลายเป็นฝน EN: sleet | 漏る | [もる, moru] TH: (น้ำฝน)รั่ว EN: to leak | 雨水 | [うすい, usui] TH: น้ำฝน EN: rain water |
| regnen | (vt) |regnete, hat geregnet| Es regnet. ฝนตก, See also: der Regen | Regen | (n) |der, nur Sg.| ฝน, See also: regnen vt. | Regenzeit | (n) |die| ฤดูฝน | Regenschirm | (n) |der, pl. Regenschirme| ร่มกันฝน | etw. führen zu etw. | นำไปสู่, ก่อให้เกิด เช่น Starker Regen können zur Überschwemmung führen. ฝนที่ตกหนักสามารถนำไปสู่น้ำท่วมได้, Syn. verursachen | jederzeit | (adv) เป็นไปได้ในทุกโอกาส เช่น Es kann jederzeit regnen. ฝนอาจตกได้ตลอดเวลา, Syn. jeden Augenblick | üben | (vi, vt) |übte, hat geübt| ฝึก, ฝึกฝน เช่น Gehst du heute Karate üben? วันนี้เธอไปฝึกคาราเต้หรือไม่ | Scheibenwischer | (n) |der, pl. Scheibenwischer| ที่ปัดน้ำฝนของรถยนต์ | Bauer | (n) |der, pl. Bauern| ชาวนา, เกษตรกร เช่น Bauern freuen sich auf Regen. เกษตรกรยินดีกับการมาของฝน |
| | |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |