ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*แคลน*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: แคลน, -แคลน-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ขาดแคลน(v) lack of, See also: be short of, be deficient, Syn. ขัดสน, อัตคัด, ขาด, Ant. สมบูรณ์, Example: ในฤดูแล้งภาคอีสานจะขาดแคลนน้ำมาก, Thai Definition: ไม่มีเพียงพอ, มีไม่เต็มที่เพราะขัดสน
คลอนแคลน(v) be unstable, See also: be unsteady, be infirm, Syn. ง่อนแง่น, สั่นคลอน, Ant. หนักแน่น, มั่นคง, Example: เสถียรภาพของรัฐบาลกำลังคลอนแคลน, Thai Definition: ไม่มั่นคง
คลอนแคลน(adj) unstable, See also: unsteady, infirm, Syn. ง่อนแง่น, สั่นคลอน, วอกแว่ก, Ant. หนักแน่น, มั่นคง, Example: คนที่มีสภาพจิตใจคลอนแคลนและขาดความมั่นคงอยู่แล้วตั้งแต่วัยเด็กอาจปรับตัวเข้ากับสังคมยากเมื่อโตขึ้น, Thai Definition: ไม่มั่นคง
ความขาดแคลน(n) lack, See also: shortage, deficiency, Syn. ความขัดสน, ความอัตคัด, Ant. ความอุดมสมบูรณ์, Example: ชาวนาต้องพบกับความขาดแคลนน้ำในหน้าแล้งอยู่เสมอ
ดูถูกดูแคลน(v) look down upon, See also: underestimate, disparage, disdain, slight, insult, snub, affront, Syn. ดูถูก, เหยียดหยาม, Example: เมื่อไหร่พวกเขาถึงจะเลิกดูถูกดูแคลนความคิดความอ่านของเราสักที, Thai Definition: แสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเขาว่าไม่มีความสามารถหรือไม่มีคุณสมบัติที่ดี
ดูหมิ่นดูแคลน(v) insult, See also: underestimate, disparage, disdain, slight, snub, affront, look down upon, scorn, hold in c, Syn. ดูถูก, Example: คนในหมู่บ้านดูหมิ่นดูแคลนครอบครัวที่ขายลูกกินอย่างเขา, Thai Definition: แสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเขาว่าไม่มีความสามารถหรือไม่มีคุณสมบัติที่ดี

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
ขาดแคลนก. ขัดสน, อัตคัด.
คลอนแคลน(-แคฺลน) ว. ง่อนแง่น, ไม่มั่นคง, เช่น ฐานะคลอนแคลน.
แคลน(แคฺลน) ว. ขัดสน, อัตคัด, มักใช้ประกอบคำอื่น เช่น ขาดแคลน = ทั้งขาดทั้งแคลน หมายความว่า อัตคัด, ขัดสน ดูแคลน = ดูหมิ่นเพราะเห็นเขาขัดสน ดูหมิ่นถิ่นแคลน = ดูถูกว่ามีฐานะตํ่าต้อย.
ดูแคลน, ดูถูกดูแคลนก. พูดหรือแสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามผู้อื่นที่ขัดสนหรือยากจนกว่า.
ดูหมิ่น, ดูหมิ่นถิ่นแคลนก. แสดงกิริยาท่าทาง พูด หรือเขียน เป็นเชิงดูถูกว่ามีฐานะตํ่าต้อยหรือไม่ดีจริงไม่เก่งจริงเป็นต้น, หมิ่น ก็ว่า.
ยินแคลนก. รู้สึกลำบาก.
กระง่อนกระแง่นว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, ง่อนแง่น ก็ว่า.
กักตุนก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า, ตุน ก็ว่า.
ขัดสนว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน
ข้าวยากหมากแพงน. ภาวะขาดแคลนอาหาร, ทุพภิกขภัย.
คนพรรค์นั้นน. คนพวกนั้น (มักใช้ในทางดูหมิ่นดูแคลน).
คล่องมือสะดวก, ไม่ขาดแคลน, เช่น เขามีเงินใช้คล่องมืออยู่เสมอ.
ง่อนแง่นว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, กระง่อนกระแง่น ก็ว่า.
ดูชาก. ดูแคลน, ดูถูก, เช่น ตูจะให้สูทั้งหลายฆ่า ว่าผู้ดูชาดูแคลน แหนความเราจงมิด (ลอ).
ตุนก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า เช่น ตุนสินค้า
ทรภิกษ์น. การขาดแคลนอาหาร, ข้าวยากหมากแพง.
ทุพภิกขภัย(ทุบพิกขะไพ) น. ภัยอันเกิดจากข้าวยากหมากแพงหรือการขาดแคลนอาหารในบ้านเมือง.
ทุพภิกขันดร, ทุพภิกขันดรกัป(ทุบพิกขันดอน, ทุบพิกขันดะระกับ) น. ระยะเวลาที่กำหนดไว้ว่าเป็นตอนที่ขาดแคลนอาหาร เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์มีโลภะหนา. (ป.). (ดู อันตรกัป ประกอบ).
นิคมสร้างตนเองน. บริเวณที่ดินของรัฐที่มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเอง เพื่อให้ราษฎรที่ขาดแคลนที่ดินทำกินได้มีที่ตั้งเคหสถานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักแหล่งในที่ดินนั้น.
นิคมสหกรณ์น. บริเวณที่ดินของรัฐที่มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็นนิคมสหกรณ์ เพื่อให้ราษฎรที่ขาดแคลนที่ดินทำกินได้มีที่ตั้งเคหสถานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักแห่งในที่ดินนั้น โดยให้มีการก่อตั้งสหกรณ์ขึ้น.
มิ้ม ๒น. ชื่อผึ้งชนิด Apis florea Fabricius ในวงศ์ Apidae เป็นผึ้งขนาดเล็ก ผึ้งงานลำตัวยาวประมาณ ๘ มิลลิเมตร อาศัยอยู่รวมเป็นฝูง ทำรังเป็นแผ่นเดี่ยว ๆ ตามกิ่งไม้ มักทิ้งรังเมื่อขาดแคลนอาหาร, มิ่ม นิ่ม หรือ นิ้ม ก็เรียก.
ยากไร้ว. ยากจน, ขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง เช่น คนยากไร้.
รองรังว. มีสำรองไว้เผื่อขาดแคลน, มีสำรองไว้ไม่ให้ขาด, เช่น อาหารรองรัง.
แร้นแค้นว. ฝืดเคือง, ขัดสน, ขาดแคลน, เช่น เขามีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นขาดแคลนไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง.
สงฆ์ภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปร่วมกันทำสังฆกรรม แต่จำนวนภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมแต่ละอย่างไม่เท่ากัน คือในสังฆกรรมทั่ว ๆ ไป เช่น ในการสวดพิธีธรรม สวดอภิธัมมัตถสังคหะ ประกอบด้วยภิกษุ ๔ รูป เรียกว่า สงฆ์จตุรวรรค ในการรับกฐิน สวดพระปาติโมกข์ ปวารณากรรม และอุปสมบทในถิ่นที่ขาดแคลนภิกษุ ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๕ รูป เรียกว่า สงฆ์ปัญจวรรค ในการอุปสมบทในถิ่นที่มีภิกษุมาก ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๑๐ รูป เรียกว่า สงฆ์ทสวรรค และในการสวดอัพภานระงับอาบัติสังฆาทิเสส ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๒๐ รูป เรียกว่า สงฆ์วีสติวรรค, ภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมดังกล่าว ถ้ามากกว่าจำนวนที่กำหนดจึงจะใช้ได้ ถ้าขาดจำนวนใช้ไม่ได้.
เสียเชิงชายก. เสียชั้นเชิงที่ผู้ชายพึงมีให้ผู้หญิงดูแคลน เช่น ถูกผู้หญิงหลอกจนขายหน้าอย่างนี้ เสียเชิงชายหมด.
แสยะ(สะแหฺยะ) ก. อาการของปากที่แบะออก แสดงให้รู้ว่า เกลียด เกลียดกลัว เยาะเย้ย หรือ ดูแคลน.
หมิ่น ๑ก. แสดงกิริยาท่าทาง พูด หรือเขียน เป็นเชิงดูถูกว่ามีฐานะต่ำต้อยหรือไม่ดีจริงไม่เก่งจริงเป็นต้น, ดูหมิ่น หรือ ดูหมิ่นถิ่นแคลน ก็ว่า.
แหน ๒(แหนฺ) ก. ปิด เช่น ตูจะให้สูงทั้งหลายฆ่า ว่าผู้ดูชาดูแคลน แหนความเราจงมิด ปิดความเราจงทั่ว (ลอ).
โหด ๑ว. ไร้, ไม่มี, เช่น นกไร้ไม้โหด, ยากไร้ เช่น เพราะเห็นกูโหดหืน แลดูแคลนกูกลใด ด่งงนี้ (ม. คำหลวง มัทรี).
อจล-(อะจะละ-) ว. ไม่หวั่นไหว, ไม่คลอนแคลน, เช่น อจลศรัทธา.
อดอยากก. ไม่มีจะกิน, ขาดแคลนอาหาร, มีไม่พอกิน.
อัตคัด(อัดตะ-) ก. มีน้อย, ขาดแคลน, เช่น อัตคัดผม อัตคัดน้ำ.
เฮ่ออ. คำที่เปล่งออกมาแสดงความดูแคลนหรือไม่เชื่อถือ.

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Depletionการขาดแคลน, Example: การลดลงอย่างต่อเนื่องของน้ำในลำธารหรือน้ำใต้ ดิน หรือแอ่งน้ำ ในอัตรามากกว่าการเติมเข้า การที่มีสิ่งนั้นไม่พอเพียง เช่น การขาดออกซิเจนหรือสารอาหาร [สิ่งแวดล้อม]
freedom from wantสภาพที่ปลอดจากความขาดแคลน [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Order of Precedenceหมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน? [การทูต]
Deficiency of Calcificationการขาดแคลนแคลเซี่ยม [การแพทย์]
Deficiency Symptomอาการขาดแคลน [การแพทย์]
Depletionการขาดแคลน [การแพทย์]
Goitre, Iodine Deficiencyการขาดแคลนไอโอดีนในอาหารอันทำให้ต่อมธัยรอยด์โต [การแพทย์]
Infarctกล้ามเนื้อตาย, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, ตาย, การขาดแคลนเลือดมาเลี้ยง, การตาย, ขาดเลือดเลี้ยง, ขาดเลือดมาเลี้ยง, การขาดเลือดเลี้ยง, เนื้อเยื่อตายจากการขาดเลือด [การแพทย์]
Ischemiaขาดเลือดมาเลี้ยง; การขาดเลือด; การขาดเลือดเฉพาะแห่ง; การขาดเลือดมาเลี้ยง; โลหิตมาเลี้ยงไม่เพียงพอ; ขาดแคลนเลือดไปเลี้ยง; เลือด, ภาวะขาด; ภาวะขาดเลือด [การแพทย์]
Malnutritionโรคขาดอาหาร, ทุโภชนาการ, ทุพโภชนาการ, การขาดอาหาร, การขาดสารอาหาร, การขาดแคลนอาหารแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ, ภาวะทุพโภชนาการ, ขาดอาหาร [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Do not be fooled by its commonplace appearance.อย่าเพิ่งดูแคลนลักษณะดาดๆของมัน Aladdin (1992)
For some odd reason, lost in the mists of time there's an extraordinary shortage of last names in Wales.ด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่หายไปเมื่อเวลาล่วงเลย นามสกุลในเวลส์ขาดแคลนอย่างมาก The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
I don't wish to belittle D'Arnot's contribution... but he was merely a part of an expedition.ฉันไม่ต้องการที่จะมีส่วน ร่วมดูแคลน ดึอาโนท ของ ... แต่เขาก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการเดินทาง Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
You and your playmates, you're running out of friends fast around here.-ผมเข้าใจดี ว่าคุณกับเพื่อน กำลังขาดแคลนเพื่อนเล่นลงทุกวัน Day of the Dead (1985)
I'm short on man power.ผมยิ่งขาดแคลนกำลังพล ห้ามคุณเที่ยวฉีดยาคนของผม Day of the Dead (1985)
Through the war years when we didn't have any meat.นึกถึงตอนช่วงสงคราม ตอนที่เราขาดแคลนเนื้อสัตว์ Dirty Dancing (1987)
There is a wheat shortage.ข้าวสาลีก็ขาดแคลน. Mannequin (1987)
It was your lack of policy that started this mess in the first place!มันเป็นความขาดแคลนนโยบาย ที่จะเริ่มความยุ่งยากในที่แรก Akira (1988)
I just do that for their lack of money.ผมทำเพราะว่าพวกเขาขาดแคลนปัจจัย Rambo III (1988)
We should tell Mother and Cal.เราควรบอกแม่กับแคลนะ Titanic (1997)
Honey, they don't teach Tom Clancy in school.ไม่เอาน่า เขาไม่สอน ทอม แคลนซีย์ ในโรงเรียนหรอก American History X (1998)
And on the home front, report of fuel and food shortages are beginning to mount.ต่อไปเป็นข่าวจากแนวหน้า น้ำมันและอาหารเริ่มจะขาดแคลนหนักขึ้น Malèna (2000)
Citizens of these regions have been alerted to possible severe food shortages and outbreaks of disease.อาจเกิดปัญหา อาหารขาดแคลนและโรคระบาด Malèna (2000)
The prospect that two thirds of the worlds population will have no access to fresh drinking water by 2025 has provoked the initial confrontations in a world wide battle for control over the planets most basic resource.ความเป็นไปได้ที่ประชากร 2 ใน 3 ของโลก จะขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดภายในปี ค.ศ. 2025 กระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าขั้นต้น The Corporation (2003)
Annie.3 ปี ก่อน เหตุการณ์ 11 กันยา , ทอม แคลนซี่ เขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย Yankee White (2003)
He's probably with Cal, that's who he's withเค้าเข้าได้ดีกับแคลนะ, นั่นไงเค้าล่ะ Rice Rhapsody (2004)
I don't mean for this to be disrespectful.นี่ไม่ได้หมายความว่าผมดูหมิ่นดูแคลนคุณนะ Saw (2004)
It was lack of enough vegetables, or something.ดูเหมือนว่าที่นั่น จะขาดแคลนหญ้าหรืออะไรสักอย่าง Match Point (2005)
Scientists attribute this water shortage to the lack of rainfall the last two years.นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าน้ำขาดแคลน เป็นเพราะฝนแล้งมากว่า2ปี V for Vendetta (2005)
- Hatred, racism. - Ku Klux Klan.นอกรีต เหยียดผิว กลุ่มคูคลักซ์แคลน The Da Vinci Code (2006)
Due to the lack of dying techniques in the Chosun era, and the high cost of importing color dyes, common folks had to always wear white, it says.ใขขณะที่การย้อมผ้าเป็นที่ขาดแคลน ไม่มีช่างใน โชซอน และการนำเข้าผ้าย้อม มีราคาสูงอยู่ นั่นจึงทำให้ช่วงหนึ่ง คนทั้งประเทศต้องใส่แต่สีขาว Dasepo Naughty Girls (2006)
And within this next half century those 40% of the people on Earth are gonna face a very serious shortage because of this melting.และภายในครึ่งศตวรรษต่อไป ประชากร 40% บนโลก กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับการขาดแคลนอย่างรุนแรง เพราะการละลายนี้ An Inconvenient Truth (2006)
Back when we could still get sugar... we sold sweet rolls and Castella cakes.ยังไม่ขาดแคลนน้ำตาล เราขายขนม อัมพัน และ คาซึตเทระ ด้วย Letters from Iwo Jima (2006)
We ran into those types at our clothing store as well.เราขาดแคลนข้าวของทำกิน แม้เสื้อผ้าที่เราใส่ก็ไม่เว้น Letters from Iwo Jima (2006)
This resolved the salt problem, and he got his salt.เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเกลือ และทำให้เขาได้เกลือกลับมา Episode #1.43 (2006)
Your Wife Despises Me.ภรรยาคุณดูแคลนฉันนะ Blair Waldorf Must Pie! (2007)
Since we are currently short exactly one interesting patient, we are gonna figure out what really happened to buddy ebsen in 1938.เนื่องจากตอนนี้เรากำลังขาดแคลนคนไข้ที่น่าศึกษาคนนีง เราควรที่จะมาช่วยกันหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับบัดดี้ แอปเซ่น ปี 1938 The Right Stuff (2007)
The town is running low on supplies of everything from gasoline to Botox.ตอนนี้เมืองอยู่ในสภาวะขาดแคลนเสบียง น้ำมัน และโบท็อก The Simpsons Movie (2007)
So Alma found herself married to a man who seemed to despise her.อัลม่าเลยได้รู้ว่า เธอได้แต่งงานกับ ผู้ชายคนที่ดูแคลนเธอตลอดเวลา No Fits, No Fights, No Feuds (2007)
...then you put the new bag in. MAUREEN: Hey!ไอ้บ้าเอ๊ย นั่นกองไฟพวก KKK ใช่มั้ย (KKK คูคลักซ์แคลน องค์การต่อต้านคนผิวดำ) Harold (2008)
Oh! My boys are here.แต่พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กัน Harold (2008)
You know the only reason they hang out with you is 'cause you can buy them beer.พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กัน - แก เราต้องออกไปจากที่นี่ - เอาล่ะ เพื่อน ใจเย็น Harold (2008)
I got to go help my little brother! All right, go ahead.คงไม่มั้ง พวกแคลนวิ่งช้าจะตาย Harold (2008)
Life is small, meager, messy.ชีวิตน่ะเล็กนิดเดียว ขาดแคลน วุ่นวาย Monster Movie (2008)
U.N.O.S. Is a long shot.U.N.O.S.ขาดแคลนอวัยวะอยู่ There's No 'I' in Team (2008)
You might have noticed the lack of nurses.คุณอาจต้องประกาศ ขาดแคลนพยาบาล The Itch (2008)
Food and water is scarce and we are distributing rations, but they're very meagre.อาหารและน้ำ ขาดแคลน พวกเราปันส่วนอาหารให้แต่พวกเขาก็ยังขาดแคลน The Labyrinth of Gedref (2008)
The Republic must be running out of Jedi.สาธารณรัฐ คงขาดแคลนเจไดซินะ Duel of the Droids (2008)
I was brought up to despise the Merryweather but later then I met you and that change everything...ฉันเคยดูแคลนพวกเมอรี่เวธเธอร์ แต่เมื่อได้พบเธอ ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไป... The Secret of Moonacre (2008)
Fuck you. Shit. Isn't that a KKK bonfire?ไอ้บ้าเอ๊ย นั่นกองไฟพวก KKK ใช่มั้ย (KKK คูคลักซ์แคลน องค์การต่อต้านคนผิวดำ) Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
Roldy, dude, I'd never thought I'd say this in a million years... but the Klan really knows how to party.โรลดี้ ฉันไม่เคยคิดว่า ฉันจะพูดแบบนี้ในล้านปีนี้ แต่พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กัน Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
the Klan knows how to party?พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กัน Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
I don't think so. Dude, the Klan is fucking slow.คงไม่มั้ง พวกแคลนวิ่งช้าจะตาย Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
There will never be a shortage of martyrs.แต่ที่ขาดแคลนคือผู้ที่กล้าพลีชีพ Body of Lies (2008)
It's hard not to feel a little insulted by that.ก็เป็นการยากที่จะไม่ให้ถูกดูแคลนต่อเรื่องนี้ Frost/Nixon (2008)
The shortages aren't as bad as everyone thinks.การขาดแคลน ไม่เลวร้าย อย่างที่ทุกคนคิด City of Ember (2008)
London, and Chicago due to the shortages of such basic commodities as fuel, food and drinking water.ลอนดอน และชิคาโก้ เนื่องจากขาดแคลนปัจจัย ในการปะทังชีพ อาทิ เชื้อเพลิง อาหาร และน้ำดื่มสะอาด หลายฝ่ายชี้ประเด็นไปที่ The Day the Earth Stood Still (2008)
Has given way to food riotsอาจทำให้เกิดการประท้วงเนื่องจากภาวะขาดแคลนอาหาร Safe and Sound (2008)
We have forgotten that resources are scarce.เราลืมไปว่าทรัพยากรขาดแคลน Home (2009)
India risks being the country that suffers most from the lack of water in the coming century.อินเดียเป็นประเทศที่เสี่ยงที่สุด ต่อการขาดแคลนน้ำในศตวรรษหน้า Home (2009)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ดูแคลน[dūkhlaēn] (v) EN: insult
ดูหมิ่นดูแคลน[dūmindūkhlaēn] (v) EN: insult
ดูถูกดูแคลน[dūthūkdūkhlaēn] (v) EN: look down upon ; underestimate ; disparage ; disdain ; slight ; insult ; snub ; affront
การขาดแคลน[kān khātkhlaēn] (n) EN: shortage ; lack  FR: pénurie [ f ]
ขาดแคลน[khātkhlaēn] (v) EN: lack of ; be short of ; be deficient  FR: manquer ; faire défaut
ความขาดแคลน[khwām khātkhlaēn] (n) EN: lack ; shortage  FR: manque [ m ] ; pénurie [ f ]
ความขาดแคลนครู[khwām khātkhlaēn khrū] (n, exp) FR: manque de professeurs [ m ] ; pénurie d'enseignants [ f ]

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
affront(n) คำปรามาส, See also: คำดูแคลน, Syn. insult, indignity, offense
affront(vt) ดูถูก, See also: ดูแคลน, ปรามาส, สบประมาท, Syn. offend, insult, provoke
barren(adj) ปราศจากพืชผล, See also: แห้งแล้ง, ขาดแคลน
belittle(vt) ดูถูก, See also: ดูแคลน, เหยียดหยาม
be starved for(phrv) ขาดแคลน, See also: ขาด, อดอยาก, Syn. be started of
catch short(idm) ขาดแคลนสิ่งที่จำเป็น, Syn. take short
fail in(phrv) ขาดแคลน, See also: ขาด
dearth(n) ความขาดแคลน, See also: ความอัตคัด, Syn. poverty, scantiness
deficiency(n) ความขาดแคลน, Syn. insufficiency, scantness, Ant. abundance, surplus
deficient(adj) ขาด, See also: ขาดแคลน, ไม่ครบ, ไม่พอเพียง, Syn. incomplete, inadequate
deprived(adj) ปราศจากสิ่งจำเป็น (เช่น อาหาร เงิน และ อื่นๆ), See also: ขาดแคลน, Syn. dispossed, stripped
despise(vt) เหยียดหยาม, See also: ดูหมิ่น, ดูถูก, ดูแคลน, Syn. abhor, contemn, detest, Ant. love, like
destitute(adj) แร้นแค้น, See also: ยากจน, ขัดสน, ยากไร้, อดอยาก, ขาดแคลน, Syn. insolvent, impoverished, moneyless, Ant. solvent
devoid(adj) ซึ่งขาดแคลนมาก, See also: ปราศจากบางอย่างโดยสิ้นเชิง, Syn. bare, void
drought(n) ความแห้งแล้ง, See also: ความขาดแคลน, Syn. rainlessness, scarcity
famine(n) ภาวะข้าวยากหมากแพง, See also: ความขาดแคลนอาหาร, ความอดอยาก, Syn. scarcity, starvation
go short(phrv) ขาดแคลน, See also: ไม่เพียงพอ
hunger after(phrv) อดอยาก, See also: ขาดแคลน, หิวกระหาย, Syn. starve for, thrist for
hunger for(phrv) อดอยาก, See also: ขาดแคลน, หิวกระหาย, Syn. starve for, thrist for
haemorrhage(n) สภาวะที่ขาดแคลนบุคลากรหรือเงินอย่างรุนแรง
hardship(n) ความทุกข์ยาก, See also: ความยากลำบาก, ความลำบาก, ความขาดแคลน, ความยากจน, Syn. adversity, difficulty
hemorrhage(n) สภาวะที่ขาดแคลนบุคลากรหรือเงินอย่างรุนแรง
in short supply(idm) หายาก, See also: ขาดแคลน
Waste not, want not.(idm) ถ้าเราไม่ใช้ฟุ่มเฟื่อย เราก็จะไม่ขาดแคลนในสิ่งนั้น
insufficiency(n) ความขาดแคลน, See also: ความไม่เพียงพอ, Syn. deficiency, inadequacy, Ant. adequacy, sufficiency
insufficient(adj) ขาดแคลน, See also: ไม่เพียงพอ, Syn. deficient, inadequate, Ant. adequate, sufficient
insulting(adj) ซึ่งดูถูกดูแคลน, See also: ซึ่งสบประมาท, ซึ่งเย้ยหยัน, Syn. abusive, insolent, offensive, Ant. complimentary, respectful
insultingly(adv) อย่างดูถูกดูแคลน, See also: อย่างสบประมาท, อย่างเย้ยหยัน, Syn. abusively, insolently, Ant. complimentarily, resectfully
lack for(phrv) ต้องการ, See also: ขาด, ขาดแคลน, Syn. want for
lack(n) ความขาดแคลน, See also: ความไม่พอเพียง, ความไม่เพียงพอ, Syn. scantness, deficiency, Ant. abundance, surplus
lacking(adj) ขาดแคลน, See also: ไม่เพียงพอ
lean(adj) ฝืดเคือง, See also: ไม่อุดมสมบูรณ์, ขาดแคลน, พร่อง, Syn. sparse, barren, Ant. friutful
manage(vt) จัดการ (โดยเฉพาะกับสถานการณยุ่งยากเพราะขาดแคลนบางสิ่งเช่น ทรัพย์สมบัติ, เงิน), Syn. conduct, carry on
meager(adj) ขาดแคลน, See also: ยากจน, ไม่พอเพียง, มีน้อยมาก, Syn. few, scant, scarce, Ant. many, numerous
meagerly(adv) อย่างขาดแคลน, Syn. scantly, skimpily
meagerness(n) ความขาดแคลน, Syn. scarcity, need, poverty
meagre(adj) ขาดแคลน, Syn. meager, scanty, deficient, insufficient
missing(adj) ขาดแคลน, Syn. lacking, starved
need(n) ความต้องการ, See also: ความจำเป็น, ความขาดแคลน, Syn. poverty, indigence
needy(adj) ขัดสน, See also: ขาดแคลน, อัตคัด, จนมาก, Syn. indigent, penniless
pellagra(n) โรคขาดแคลนสารไนอาซิน, Syn. malnutrition, bulimia nervosa
penuriously(adv) อย่างยากจนที่สุด, See also: อย่างอัตคัด, อย่างขัดสน, อย่างขาดแคลน
poor(adj) ยากจน, See also: ขัดสน, ขาดแคลน, อัตคัด, ยากแค้น, Syn. needy, penniless, scanty, deprived, Ant. wealthy, well-to-do
poorness(n) ความยากจน, See also: ความขาดแคลน, Syn. need, poverty, starvation
poverty(n) ความจน, See also: ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความฝืดเคือง, Syn. beggary, deprivation, need, indigence
privation(n) การขาดแคลนซึ่งสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต, Syn. want, poverty
ramshackle(adj) คลอนแคลน, See also: โยกเยก, โคลงเคลง, Syn. crambling, rickety
rarity(n) สิ่งหายาก, See also: การหาได้ยาก, การขาดแคลน, Syn. rareness, scarcity
run out of(phrv) ไม่มีสำรอง, See also: ขาดแคลน, Syn. be out of, give out
run short(phrv) ขาดแคลน, See also: มีไม่พอ, Syn. run low

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
absence(แอบ' เซินซฺ') n. การไม่อยู่, ระยะเวลาที่ไม่อยู่, การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, การขาดแคลน, Syn. inexistence, nonexistence, Ant. presence, adequacy
absent(adj. แอบ'เซินทฺ vt. แอบเซนทฺ') ไม่อยู่, ขาด, ลาหยุด, ไม่ได้มาร่วมด้วย, ไม่สนใจ, ใจลอย, ขาดแคลน -vt. ทำให้ขาด -absentation, absentness n., Syn. missing, Ant. present
an-(คำเสริมหน้า) ซึ่งหมายถึง ไม่, ปราศจาก, ขาดแคลน, Syn. not, without
avidin(แอฟ'วิดิน) n. โปรตีนชนิดหนึ่งในไข่ขาวเป็นตัวยับยั้งฤทธิของ biotin ทำให้เกิดการขาดแคลน biotin; vitamin H (Cf. egg-white)
aviso(อะเว'โซ) n. ข่าว, คำแนะนำ (dispatch) แคลนวิตามิน -avitaminotic, adj.
avitaminosis(เอไวทะมิโน'ซิส) n. ภาวะขาดแคลนวิตามิน -avitaminotic, adj.
barren(บาร์'เริน) adj. แห้งแล้ง, ปราศจากพืชผล, ไม่ได้ผล, ไม่มีบุตร, เป็นหมัน, ขาดแคลน, ไม่น่าสนใจ, ไร้ความคิด, จืดชืด, Syn. sterile, Ant. fertile, creative
belittle(บิลิท'เทิล) { belittled, belittling, belittles } vt. ดูถูก, ดูแคลน, ทำให้ความสำคัญลดน้อยลง, See also: belittler n. ดูbelittle, Syn. deride, Ant. promote
beriberi(เบอ'รีเบอ'รี) n. โรคเหน็บชา เนื่องจากขาดแคลนวิตามินบี1, See also: beriberic adj. ดูberiberi
clan(แคลน) n. เผ่า, เผ่าพันธุ์, วงศ์, วงศ์ตะกูล, ชาติวงศ์, ครอบครัว, กลุ่มคน, พวก, พ้อง
clandestine(แคลนเดส'ทิน) adj. ลับ ๆ , ลี้ลับ, ส่วนตัว, ไม่เปิดเผย., See also: clandestineness n., Syn. hidden
cretin(ครีท'เทิน, ครี'ทิน) n. คนแคระ (เนื่องจากขาดแคลนน้ำคัดหลั่งจากต่อมไธรอยด์แต่กำเนิด) , โง่, จิตบกพร่อง, See also: cretinoid adj. ดูcretin cretinous adj. ดูcretin
cretinism(เครท'ทินิสซึม) n. โรคเรื้อรังที่เป็นภาวะการขาดแคลนน้ำคัดหลั่งจากต่อมไธรอยด์แต่กำเนิด ทำให้มีร่างแคระและผิดส่วน จิตบกพร่องและโง่
dearth(เดิร์ธ) n. ความขาดแคลน, ความอดหยาก, Syn. scarcity, Ant. abundance
deficiency(ดิฟิช'เชินซี) n. ภาวะที่ขาดแคลน, ความขาดแคลน, ความไม่สมบูรณ์, ความไม่เพียงพอ, ปริมาณที่ขาดแคลน, ส่วนที่ไม่พอ, Syn. lack
deficiency diseaseโรคขาดแคลนธาตุอาหาร
deficient(ดิฟิช'เชินทฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, บกพร่อง, Syn. scarce
deficit(เดฟ'ฟิซิท) n. ปริมาณที่ขาด, จำนวนที่ขาด, การขาดแคลน, การขาดดุล, การขาดทุน
destitution(เดสทิทิว'เชิน) n. การขาดแคลน, ความอดอยาก, ความยากจน., See also: destitute adj.
devoid(ดิวอยดฺ') adj. ขาดแคลน, Syn. lacking
drought(เดราทฺ, เดราธฺ) n. ฤดูแล้ง, การขาดแคลนที่ยาวนาน, ความกระหายน้ำ
drouth(เดราทฺ, เดราธฺ) n. ฤดูแล้ง, การขาดแคลนที่ยาวนาน, ความกระหายน้ำ
fail(เฟล) { failed, failing, fails } vi. ส้มเหลว, ไม่สามารถ, ได้ต่ำกว่ากำหนด, สอบตก, ขาดแคลน, ล้ม, อ่อนกำลัง, เสื่อมถอย, ไม่สามารถชำระหนี้ได้, แตก, หยุด, ใช้การไม่ได้. vt. ไม่สามารถ, ทำให้ผิดหวัง, ได้น้อยกว่าที่กำหนด. -n. ความล้มเหลว. -without fail แน่นอน คำที่มีความหมายเห
failure(เฟ'เลียร์) n. ความล้มเหลว, การสอบตก, การได้ต่ำกว่าที่กำหนด, การขาดแคลน, ความเสื่อมถอย, ภาวะล้มละลาย, ผู้ที่ล้มเหลว, สิ่งที่ล้มเหลว
inanition(อินอะนิซ' เชิน) n. ความขาดแคลน, การขาดอาหาร, การบำรุงเลี้ยงไม่เพียงพอ, ภาวะอ่อนจิต, การด้อยศีลธรรม, ความว่างเปล่า
insufficiency(อินซัฟฟีช'เชินซี) n. ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน.
jejune(จิจูน') adj. ขาดแคลนคุณค่าทางอาหาร, ไม่น่าสนใจ, น่าเบื่อ, ยังไม่เจริญ, เติบโตเต็มที่.
ku klux klan(คู'คลัคซฺ'แคลน) n. องค์การลับในอเมริกาที่มีจุดประสงค์ส่งเสริมความรักชาติอเมริกัน
lack(แลค) { lacked, lacking, lacks } n. การขาดแคลน, ความไม่มี, ความบกพร่อง. v. ขาดแคลน, ขาด, ไม่มี, มีน้อย
lean(ลีน) { leaned/leant, leaned/leant, leaning, leans } vi. เอียง, เอน, ลาด, โน้มเอียง, พาดพิง, พึ่งพา. vt. เอียง, เอน, ทำให้เอียง, ทำให้เอน n. การเอียง, การเอน, ส่วนของเนื้อที่มีเนื้อมากกว่ามัน, ส่วนที่ผอม, ส่วนที่ไม่ค่อยมีเนื้อ adj. ผอม, ไม่ค่อยมีเนื้อ, ไม่ค่อยเต็ม, ไม่อุดมสมบูรณ์, ขาดแคลน, ซึ่งมีสารมีสีมากกว่าน้ำมัน
malnutrition(แมลนิวทริช'เชิน) n. การขาดแคลนโภชนาการ, ภาวะการขาดแคลนอาหาร
meager(มี'เกอะ) adj. ขาดแคลน, น้อย, ไม่พอเพียง, ยากจน, ผอม, See also: meagerness n. meagreness n., Syn. poor, scanty
meagre(มี'เกอะ) adj. ขาดแคลน, น้อย, ไม่พอเพียง, ยากจน, ผอม, See also: meagerness n. meagreness n., Syn. poor, scanty
minus(ไม'นัส) prep., adj. ลบ, ลบออก, ปราศจาก, ไร้, เป็นลบ. n. เครื่องหมาย"-", จำนวนลบ, การขาดแคลน, การสูญเสีย
missing(มิส'ซิง) adj. ขาดแคลน, ไม่มา, ไม่พบ, หายไป, Syn. lost, absent, away, gone
need(นีด) { needed, needing, needs } n. ความจำเป็น, ความต้องการ, สิ่งที่ต้องการ, สิ่งที่ขาดแคลน, ความคับขัน, ความขัดสน if need be ในกรณีจำเป็น vt., vi. มีความจำเป็น, จำเป็น, ต้องการ, ประสงค์., See also: needer n.
oligemia(ออลลิจี'เมีย) n. ภาวะการขาดแคลนโลหิต
pellagra(พะเล'กระ, พะแลก'กระ) n. โรคที่เนื่องจากการขาดแคลนniacinในอาหารการกิน, ทำให้ผิวหนังเป็นจ้ำ ๆ มีสีม่วงและอาการท้องร่วง., See also: pellagrose adj. pellagrous adj.
poor(พัวร์) adj. ยากจน, ขาดแคลน, ขัดสน, เลว, น่าสงสาร, น่าสังเวช, ไม่มีรสชาติ, ไม่ดีพอ, ไม่สมบูรณ์, ไม่สำคัญ. n. คนจน, See also: poorly adv., Syn. needy, indigent, penniless
poverty(พอฟ'เวอที) n. ความยากจน, ความขาดแคลน, ความขัดสน, ความไม่พอเพียง, Syn. indigence, lack
privation(ไพรเว'เชิน) n. การขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพ, การขาดแคลน, ความคับแค้น, การเพิกถอน, Syn. want, need
privative(ไพรเว'ทิฟว) adj. ขาดแคลน, ขัดสน, คับแค้น, ซึ่งถูกถอดถอน., Syn. causing
rickets(ริค'คิทซฺ) n. โรคกระดูกอ่อนมักเป็นกับเด็กเนื่องจากการขาดแคลนวิตามิน-ดีและแคลเซียม
scant(สแคนทฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่พอเพียง, มีน้อย, เกือบไม่มี. vt. ทำให้ขาดแคลน, ทำให้ลดน้อยลง, ทำให้ไม่เพียงพอ, กระทำอย่างไม่เพียงพอ, See also: scantly adv. scantness n., Syn. scanty, meager, sparse, restrict
scanty(สแคน'ที) adj. ขาดแคลน, ไม่พอเพียง, มีน้อย, เกือบไม่พอ., See also: scantily adv. scantiness n., Syn. few, scarce
scarce(สแคสฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, หายาก, ไม่ค่อยพบ -Phr. (make oneself scarce จากไป (โดยเฉพาะอย่างกะทันหัน)) . adv. อย่างขาดแคลน, อย่างไม่เพียงพอ., See also: scarceness n.
scarcely(สแคสฺ'ลี) adv. อย่างขาดแคลน, อย่างไม่เพียงพอ, หายาก, ไม่ค่อยพบ, บอบบาง, เกือบจะไม่, แทบจะไม่, ไม่สู้จะ, Syn. just, barely
scarcity(สแคส'ซิที) n. ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, การมีน้อย, การหายาก
short(ชอร์ท) adj. สั้น, เตี้ย, ต่ำ, ย่อ, ตื้น, ลุ่น, ห้วน, ระยะสั้น, สังเขป, ใกล้, ไม่นาน, ขาดแคลน, ขาด, ไม่ถึง, ไม่พอ, ไม่ดีพอ, อ่อน, น้อย, เปราะ, บอบบาง (เสียง) , ไม่เน้น, short of น้อยกว่า, เลวกว่า, ไม่เพียงพอ adv. กะทันหัน, ทันใดนั้นเอง, ฉับพลัน, สั้น ๆ , ย่อ ๆ , โดยสังเขป, ใกล้, ย่น, ไม่ถึง
shortage(ชอร์ท'ทิจฺ) n. ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, จำนวนที่ไม่เพียงพอ, จำนวนที่ขาด, Syn. deficiency, shortfall, deficit

English-Thai: Nontri Dictionary
barrenness(n) ความแห้งแล้ง, ความขาดแคลน, ความเป็นหมัน
belittle(vt) ดูถูก, ดูแคลน, เหยียดหยาม
dearth(n) ความขาดแคลน, ภาวะข้าวยากหมากแพง, ความอดอยาก
default(n) การผิดสัญญา, การไม่ทำตาม, การละเลย, ความขาดแคลน
default(vt) ผิดสัญญา, ผิดนัด, ไม่ปฏิบัติตาม, ละเลย, เพิกเฉย, ขาดแคลน
deficiency(n) ความขาดแคลน, ข้อบกพร่อง, ความไม่สมบูรณ์
deficient(adj) ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่พอ
deficit(n) ความขาดทุน, จำนวนที่ขาด, การขาดแคลน
destitute(adj) อัตคัด, ขาดแคลน, ยากจน, อดอยาก, ไม่เพียงพอ, สิ้นเนื้อประดาตัว
destitution(n) ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความยากจน, ความอดอยาก
devoid(adj) ขาด, ว่างเปล่า, ไม่มี, ขาดแคลน
famish(vi, vt) อดอยาก, ขาดแคลน, อดตาย
inanition(n) ความว่างเปล่า, ความขาดแคลน, ความอิดโรย
indigent(adj) ยากจน, ขัดสน, ไม่พอใช้, ขาดแคลน
insufficiency(n) ความไม่เพียงพอ, ความไม่พอเพียง, ความขาดแคลน
insufficient(adj) ไม่เพียงพอ, ไม่พอเพียง, ขาดแคลน
lack(n) ความขาดแคลน, ความไม่มี, ความไม่เพียงพอ, ความบกพร่อง
lack(vt) ไม่มี, ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่พอ
lacking(adj) ไม่มี, บกพร่อง, ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ
lean(adj) ผอม, น้อย, ซูบซีด, พร่อง, ขาดแคลน, ฝืดเคือง, ไม่บริบูรณ์
leanness(n) ความผอม, ความขาดแคลน, ความซูบซีด, ความไม่อุดมสมบูรณ์
malnutrition(n) การขาดแคลนอาหาร
meagre(adj) น้อย, ผอม, ขาดแคลน, ไม่พอเพียง
needy(adj) ยากจน, ขาดแคลน, จำเป็น, ซึ่งต้องการมาก
penurious(adj) ขัดสน, อัตคัด, ขาดแคลน, แห้งแล้ง
penury(n) ความขัดสน, ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความแห้งแล้ง
scant(adj) ไม่เพียงพอ, ขาดแคลน, มีน้อย
scant(vt) ตัดทอน, จำกัด, ทำให้ขาดแคลน
scantily(adv) อย่างมีน้อย, อย่างขาดแคลน, อย่างจำกัด
scantiness(n) ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน, ความจำกัด
scanty(adj) น้อยมาก, ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, จำกัด
scarce(adj) หายาก, ไม่เพียงพอ, ไม่ค่อยมี, ขาดแคลน
scarcity(n) การหายาก, ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน
shortage(n) ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, จำนวนที่ขาด
slight(vt) ดูหมิ่น, ดูถูก, ดูแคลน, มองข้าม
slightly(adv) อย่างดูแคลน, อย่างดูถูก
stopgap(n) สิ่งขาดแคลน, สิ่งชดเชย
want(n) ความต้องการ, ความปรารถนา, ความอยาก, ความขาดแคลน
wanting(adj) บกพร่อง, ขาดแคลน, ไม่มี

German-Thai: Longdo Dictionary
Mangel(n) |der, pl. Mängel, an + D| การขาดแคลน(สิ่งที่จำเป็น) เช่น Der Patient leidet unter Mangel an weissen Blutkörperchen. คนไข้ป่วยเนื่องจากขาดเม็ดเลือดขาว

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top