ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: สัญชาต, -สัญชาต- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ 华为 | [Huá wèi, ㄏㄨㄚˊ ㄨㄟˋ, 华 为] (n) บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี บริษัทสัญชาติจีนผลิตอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเซินเจิ้น |
| 소녀시대 | [โซ นยอ ชิ แด] (n, uniq) ศิลปินกลุ่มหญิงสัญชาติเกาหลีใต้จากสังกัดค่าย SM Entertainment มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย แทยอน, เจสสิก้า, ซันนี่, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และ ซอฮยอน เริ่มต้นเปิดตัวเข้าสู่วงการเพลงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัว Into the New World (다시 만난 세계, Dasi Mannan Segye) ในรายการเพลง Inkigayo ทางสถานีโทรทัศน์ SBS, See also: R. Girls' Generation Image: |
|
| สัญชาติ | (n) nationality, Syn. เชื้อชาติ, ชนชาติ | สัญชาติ | (n) nationality, See also: citizenship, Syn. ชนชาติ, เชื้อสาย, Example: เมื่อวานนี้ตำรวจน้ำสามารถจับกุมโจรสลัดสัญชาติเวียดนามได้แล้วถึง 69 คนพร้อมด้วยเรือ 7ลำ, Thai Definition: สถานะตามกฎหมายของบุคคลที่แสดงว่าเป็นพลเมืองหรือคนในบังคับของประเทศใดประเทศหนึ่ง, Notes: (กฎหมาย) | สัญชาตญาณ | (n) instinct, Syn. สัญชาตเวค, Example: มนุษย์จะไม่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นจากสัญชาตญาณบางอย่างได้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้กระทำสิ่งที่ตนต้องการกระทำ, Thai Definition: ความรู้ที่มีมาแต่กำเนิดของคนและสัตว์ ทำให้มีความรู้สึกและกระทำได้เองโดยไม่ต้องมีใครสั่งสอน | สัญชาติญาณ | (n) instinct | โอนสัญชาติ | (v) change the nationality, Syn. เปลี่ยนสัญชาติ, Example: เขาโอนสัญชาติเป็นอมริกันตามพ่อแม่บุญธรรม | โดยสัญชาตญาณ | (adv) instinctively, Syn. ตามสัญชาตญาณ, Example: พฤติการณ์ของมนุษย์ไม่ได้เป็นไปโดยสัญชาตญาณ แต่เป็นไปโดยมีระเบียบแบบแผน, Thai Definition: อย่างมีมาแต่กำเนิด, อย่างมีความรู้สึกและกระทำได้เองโดยไม่ต้องมีใครสั่งสอน |
| แปลงสัญชาติ | ก. เปลี่ยนจากสัญชาติเดิมไปเป็นสัญชาติอื่น, โบราณใช้ว่า แปลงชาติ. | สัญชาต- | (-ชาตะ-, -ชาดตะ-) ว. เกิดเอง เช่น สัญชาตสระ ว่า สระที่เกิดเอง. | สัญชาตญาณ | (-ชาดตะ-) น. ความรู้ที่มีมาแต่กำเนิดของคนและสัตว์ ทำให้มีความรู้สึกและกระทำได้เองโดยไม่ต้องมีใครสั่งสอน เช่น สัญชาตญาณในการป้องกันตัว สัญชาตญาณในการรวมหมู่, สัญชาตเวค ก็ว่า. | สัญชาติ | (-ชาด) น. ความเกิด, การเป็นขึ้น, ความอยู่ในบังคับ คืออยู่ในความปกครองของประเทศชาติเดียวกัน เช่น ฝรั่งถือสัญชาติไทย, โดยปริยายหมายความว่า สันดาน เช่น สัญชาติพาล สัญชาติคางคก ยางหัวไม่ตกก็ไม่รู้สึก. (ป. สญฺชาติ ว่า ความเกิด, การเป็นขึ้น) | สัญชาติ | สถานะตามกฎหมายของบุคคลที่แสดงว่าเป็นพลเมืองหรือคนในบังคับของประเทศใดประเทศหนึ่ง. | ชาติพันธุ์ | (ชาดติพัน) น. กลุ่มที่มีพันธะเกี่ยวข้องกัน และที่แสดงเอกลักษณ์ออกมา โดยการผูกพันลักษณาการของเชื้อชาติและสัญชาติเข้าด้วยกัน. | ญ | (ยอ) พยัญชนะตัวที่ ๑๓ เรียกว่า ญอ หญิง เป็นอักษรต่ำ ใช้เป็นพยัญชนะต้น และเป็นตัวสะกดในมาตรากนหรือแม่กน เช่น ปัญญา สัญชาติ ผจญ โคโลญ. | ใบสำคัญทหารกองเกิน | น. เอกสารที่นายอำเภอออกให้แก่ชายที่มีสัญชาติไทยและมีอายุย่างเข้า ๑๘ ปี ที่ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน เพื่อแสดงว่าได้ไปลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว. | แปลงชาติ | ก. แปลงสัญชาติ. | สูติบัตร | น. เอกสารที่แสดงถึงสัญชาติ วัน เดือน ปี เวลา สถานที่เกิด และชื่อบิดามารดาของบุคคล โดยนายทะเบียนเป็นผู้ออกให้. | โอนชาติ | ก. แปลงสัญชาติ. |
| | Inventor's Country Code | รหัสสัญชาติผู้ประดิษฐ์ [ทรัพย์สินทางปัญญา] | Applicant's Country Code | รหัสประเทศสัญชาติผู้ขอรับสิทธิบัตร [ทรัพย์สินทางปัญญา] | Citizenship ; Nationality | สัญชาติ [TU Subject Heading] | Instinct | สัญชาตญาณ [TU Subject Heading] | Instinct (Philosophy) | สัญชาตญาณ (ปรัชญา) [TU Subject Heading] | Naturalization | การโอนสัญชาติ [TU Subject Heading] | Statelessness | ความไร้สัญชาติ [TU Subject Heading] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Convention on the Rights of the Child | อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้รับการรับรองจากสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2532 โดยอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2533 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็ก (บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี) เพื่อให้ได้รับการศึกษา การดูแล ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือกระทำทารุณกรรม ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่เป็นภาคีอนุสัญญาฯ แล้ว 191 ประเทศ คงเหลือโซมาเลียและสหรัฐอเมริกาที่ยังมิได้ให้สัตยาบัน ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กด้วยการภาคยานุวัติ อนุสัญญาฯ มีผลปังคับใช้กับประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2535 ขณะนี้ไทยยังคงมีข้อสงวน 2 ข้อ คือ ข้อ 7 เรื่องสัญชาติ และ ข้อ 22 เรื่องการให้สถานะเป็นผู้ลี้ภัย [การทูต] | Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] | emergency certificate | เอกสารเดินทางฉุกเฉิน เอกสารเดินทางที่ออกให้แก่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง เด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยในความดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและทำหนังสือเดินทางสูญหาย รวมทั้งเด็กต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งไม่มีสถานทูต/สถานกงสุลของคนชาตินั้นในประเทศไทย [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | jus sanguinis (ภาษาลาติน) | กฎหมายที่กำหนดสัญชาติตามหลักสายโลหิต [การทูต] | Jus Soli | คือหลักความเชื่อถือซึ่งหลายประเทศยึดถืออยู่ คือบุคคลชาติใดก็ตาม ถือกำเนิด ณ ที่ไหนก็ได้สัญชาติของที่นั้น คนสวีเดนที่เกิดในประเทศไทยจะถือว่าได้สัญชาติไทยไปในตัวผิดกับหลักความ เชื่อถืออีกอันหนึ่งเรียกว่า Jus Sanguinis ซึ่งให้ถือสัญชาติของบุคคลตามสัญชาติของบิดามารดาของบุคคลนั้น ไม่ถือตามสถานที่เกิด [การทูต] | jus soli (ภาษาลาติน) | กฎหมายที่กำหนดสัญชาติตามหลักดินแดน [การทูต] | loss of nationality | การเสียสัญชาติ [การทูต] | naturalization | การแปลงสัญชาติ [การทูต] | Passport | หนังสือเดินทาง คือเอกสารทางราชการที่ใช้แสดงตัวและสัญชาติ ซึ่งทางราชการออกให้แก่บุคคลที่จะเดินทางไป หรือพำนักอยู่ชั่วคราวในต่างประเทศเมื่อสมัยก่อนสงครามโลกทั้งสองครั้ง ประเทศต่าง ๆ มิได้ขอให้คนต่างด้าวที่จะเข้าไปในประเทศของตนต้องมีหนังสือเดินทาง มีการเริ่มใช้หนังสือเดินทางอย่างแพร่หลายก็ในระยะหลังสงครามดังกล่าว ทุกวันนี้ ประเทศส่วนมากในโลกต่างต้องการให้คนต่างด้าวที่จะเดินทางเข้าไปในดินแดนของ ตนมีหนังสือเดินทางซึ่งได้รับการตรวจลงตรา (Visa) โดยถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของตนเสียก่อน อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ประเทศส่วนมากได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของตนในต่าง ประเทศเป็นผู้ออกหนังสือเดินทางได้ด้วยหนังสือเดินทางที่ใช้กันในปัจจุบันมี อยู่หลายประเภทอันได้แก่1. หนังสือเดินทางทูต (Diplomatic passports ) ออกให้แก่ผู้ที่มีตำแหน่งเอกอัครราชทูต อัครราชทูต เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่มีตำแหน่งทางการทูต รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาเหล่านั้น2. หนังสือเดินทางพิเศษ (Special passports) ออกให้ แก่ข้าราชการที่ไม่มีสถานะทางการทูต และบุคคลในครอบครัวของเขาเหล่านั้น3. หนังสือเดินทางธรรมดา ( Regular passports ) ออกให้แก่บุคคลธรรมดา (Private persons) ซึ่งมีสิทธิจะขอหนังสือเดินทางดังกล่าวได้ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของ ประเทศของตนมีบางประเทศได้ออกหนังสือเดินทางประเภทอื่น นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นด้วยเหตุผลเฉพาะ เช่น ภายใต้ระบบของสหรัฐอเมริกา มีการออกหนังสือเดินทางที่เรียกว่า1. หนังสือเดินทางบริการ (Service passports) ออกให้แก่คนอเมริกัน หรือชนชาติที่สวามิภักดิ์ต่อสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในต่างประเทศ2. หนังสือเดินทางบุคคลในครอบครัว (Dependent passports) ออกให้แก่บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางนี้ในกรณีที่เดินทางไปชั่วคราว หรือพำนักอยู่นาน ๆ ในต่างประเทศในฐานะที่เป็นบุคคลในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือพลเรือนอเมริกันที่ยังรับราชการอยู่นอกเขตประเทศสหรัฐอเมริกา [การทูต] | recovery of nationality | การกลับคืนสัญชาติ [การทูต] | renunciation of nationality | การสละสัญชาติ [การทูต] | retain nationality | คงสัญชาติ [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Id | อิด, สัญชาตญาณ [การแพทย์] | Instinct | สัญชาตญาณ [การแพทย์] | Instinct, Aggressive | สัญชาตญาณแห่งความก้าวร้าวหรือการทำลาย [การแพทย์] | Instinct, Basic | สัญชาตญาณมูลฐาน [การแพทย์] | Instinct, Death | สัญชาตญาณแห่งความก้าวร้าวหรือการทำลาย, สัญชาตญานแห่งความตาย [การแพทย์] | Instinct, Life and Death | สัญชาตญานดำรงชีพและสัญชาตญาณแห่งความตาย [การแพทย์] | Instinct, Mating | สัญชาตญาณเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ [การแพทย์] | Instinct, Survival | สัญชาตญานการธำรงชีพ [การแพทย์] | Instinctual Process | กระบวนการทางสัญชาตญาณ [การแพทย์] | Libido | ความรู้สึกทางเพศ, สัญชาตญาณการสร้างความสุขให้ตัวเองและเพื่อสืบพัน, ความต้องการทางเพศ, แรงดันทางเพศ, ความใคร่ทางเพศ [การแพทย์] |
| The basic instincts. | สัญชาติญาณดิบ Basic Instinct (1992) | They want his primal rage centers fully stimulated. | พวกเขาต้องการทดสอบ สัญชาติญาณดิบของมัน The Lawnmower Man (1992) | How will I ever cope?" You know... I think we have to dispense with the myth... that some are born with the maternal instinct... and others are not. | "ฉันจะรับมืออย่างไรดี " รู้ไหม ฉันว่าเรามาแชร์ความคิดเรื่องตำนาน ที่ว่าผู้หญิงบางคนเกิดมามีสัญชาติญาณความเป็นแม่ Junior (1994) | And if self-preservation is an instinct you possess, you'd better fuckin' do it and do it quick. | และหากเก็บรักษาด้วยตนเองเป็นสัญชาตญาณที่คุณมี, คุณควรที่จะ fuckin 'ทำมันและทำมันได้อย่างรวดเร็ว Pulp Fiction (1994) | That is all you have to say? What is my nationality? | นี่ใช่ไหมที่คุณต้องพูด คุณอยากรู้สัญชาติผมใช่ไหม Don Juan DeMarco (1994) | But I have instincts. | แต่สัญชาตญาณมันบอก Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | I dare you! | ...เขาต้องฆ่าคุณแล้ว ขอเตือนไว้ก่อนนะว่า ฉันมีสัญชาตญาณของแมวป่า Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | It's working on instinct, a deep, dark, primordial instinct. | แต่มันทำงานด้วยสัญชาตญาณ สัญชาตญาณดิบ Day of the Dead (1985) | I have the instinct of a cat. | ปราดเปรียว ว่องไว ฉันมีสัญชาตญาณแมว An American Tail (1986) | An un-accounted for specimen. While I was busy obsessing about an eyelash, your instincts took us into the right direction. | เป็นตัวอย่างที่แปลกมากนะครับ ขนตานั้นทำให้เราหัวปั่น สัญชาติญาณของคุณก็พาเรามาถูกทาง Gattaca (1997) | It's like an expression of rage... by people who feel neglected and turned away by the system. | เป็นเหมือนกับการแสดงออก / เวลาที่เราโกรธ... การแสดงออกของคนที่รู้สึกถูกทอดทิ้ง / และหันหลังกลับไปตามสัญชาติญาณ American History X (1998) | Pretty intuitive call on the baby. Think so? | สัญชาตญานบอกฉันว่าเด็กคนนี้เป็นอย่างนั้น City of Angels (1998) | He didn't have a country, he didn't even have a birth date. | เขาเป็นคนไร้สัญชาติ ไม่มีกระทั่งวันเกิด ไม่มีญาติมิตร The Legend of 1900 (1998) | It was instinct. | สัญชาตญาณน่ะ Dark Harbor (1998) | I've been seeing a lot of instinct lately. | ผมเห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับสัญชาตญาณมาเยอะครับ Dark Harbor (1998) | But you have great instincts. | แต่คุณมีสัญชาตญาณที่ดี Dark Harbor (1998) | Just feel. | แค่ใช้ความรู้สึก ใช้สัญชาตญาณของเธอ Pi (1998) | The computer has a sense of its own silicon nature and it prints out its ingredients. | ในตัวตนเอง คอมพิวเตอร์มีสัญชาตญาณ ของความเป็นซิลิคอน จึงพิมพ์ส่วนประกอบของตัวเองออกมา Pi (1998) | You have good instincts for things like that? | คุณมีสัญชาตญาณเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เหรอ Unbreakable (2000) | Maybe it's based on something as simple as instinct. | มันอาจมีพื้นฐานมาจากสัญชาตญาณ เขาอาจไม่ได้พกอาวุธอะไรเลย Unbreakable (2000) | You followed your intuition today... and you were right on target. | วันนี้คุณทำตาม\สัญชาตญาณ แล้วก็ตรงตามเป้าเสียด้วย Legally Blonde (2001) | Well, you got the instincts for it. | คุณมีสัญชาตญาณนะ Frailty (2001) | A cop's gotta have good instincts. | ตำรวจต้องมีสัญชาตญาณดี Frailty (2001) | You know what mine are telling me now? | รู้มั้ยสัญชาตญาณบอกผมว่าไง ? Frailty (2001) | - I've been freed. - No, you're a slave to your instincts. | ฉันก็แค่เป็นอิสระ ไม่ใช่หรอก นายกำลังตกอยู่ในอำนาจของสัญชาตญาณ Metamorphosis (2001) | I don't know. I like his instincts. | ผมไม่ทราบว่า ฉันชอบสัญชาตญาณของเขา Showtime (2002) | Well, my finely honed instincts are telling me that he probably escaped through here. | สัญชาติญาณอันเฉียบของฉัน บอกว่า... เขาจะต้องหนีออกทางนี้แน่ Inspector Gadget 2 (2003) | Now I'm humiliated, so your work is done here. | สัญชาติญาณที่แท้จริงของผมถูกคุณปลุกขึ้นมาแล้ว Latter Days (2003) | Like it's damn near instinctive. | สัญชาตญาณก็เช่นกัน Ghost in the Shell (1995) | Heightened speed, strength, agility, the same killer instincts. | ความเร็ว, ความแข็งแกร่ง และ ความคล่องตัว ที่ถูกทำให้สูงขึ้น สัญชาตญาณนักฆ่าเหมือนกัน Resident Evil: Apocalypse (2004) | So you get your sense of absolute certainty from him, do you? | คุณได้สัญชาตญาณมาจากเขาใช่ไม๊ ? National Treasure (2004) | So I followed my instincts. | ชั้นก็เลยทำตามสัญชาตญาณ Mean Girls (2004) | - Instinct. | - สัญชาตญาณ Saw (2004) | - Instinct? | - สัญชาติญาณนี่นะ? Saw (2004) | My instincts are always right | สัญชาติญาณฉันไม่เคยพลาด Windstruck (2004) | Birds only have sexual instincts. | นกอย่างฉันก็มีแค่สัญชาติญาณ สืบพันธุ์เท่านั้นแหละน่า Full House (2004) | Sexual instincts. | สัญชาติญาณสืบพันธุ์ Full House (2004) | - It's a mother's instinct. | - สัญชาตญาณความเป็นแม่ไง Robots (2005) | - Instinct? He left us a note: | - สัญชาติญาณเหรอ เขาทิ้งโน้ตไว้ต่างหาก Robots (2005) | You know what I'm saying. It's an animal thing. | นายก็รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร สัญชาตญาณสัตว์ไง The Perfect Man (2005) | KDH is Swiss-Canadian. So why are we involved? | KDH เป็นสัญชาติครึ่งสวิส-แคนาดา ทำไมเราต้องไปยุ่ง? The Constant Gardener (2005) | He's a natural athlete. | เขาเป็นนักกีฬาโดยสัญชาตญาณ The Longest Yard (2005) | - I'm naturally competitive. | -ผมชอบชนะตามสัญชาติญาณ Match Point (2005) | - Reflex, I guess. - Why is that? | สัญชาตญาณละมั้ง \ ทำไมเหรอครับ Red Eye (2005) | Whenever a professional driver takes a right turn on a track, he intuitively sticks to the left side so that his line can hit the apex. | เวลาพวกนักขับมือโปรเข้าดิฟท์เข้าโค้งเนี่ยเขาจะพยามเข้าโค้งด้านในเพื่อทำเวลาให้ดี พวกเขาจะใช้สัญชาตญาณเพื่อ เป็นผู้นำได้ในที่สุด Initial D (2005) | A personality that, in our sessions, came to call itself the Phoenix. | ส่วนอีกด้านหนึ่งจะกระทำโดยสัญชาตญาณ ทั้งความกระหาย ความสุข และความรุนแรง X-Men: The Last Stand (2006) | - She isn't flying any. | - ไม่มีธงบอกสัญชาติ Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006) | Say, buddy, not to cast aspersions on your survival instincts or nothing, but haven't mammoths pretty much gone extinct? | พูดเถอะ เพื่อน ไม่ได้กล่าวหาสัญชาตญาณ การเอาชีวิตรอด หรืออะไรหรอก แต่ไม่มี แมมมอท มากเท่าไหร่ที่สูญพันธ์ Ice Age: The Meltdown (2006) | Justjump in and trust your instincts. | แค่กระโดดไป และเชื่อสัญชาติญาณ Ice Age: The Meltdown (2006) | Trust your instincts. Attack the water. | เชื่อสัญชาติญาณ สู้กับน้ำ Ice Age: The Meltdown (2006) |
| โดยสัญชาตญาณ | [dōi sanchāttayān] (adv) EN: instinctively FR: par instinct ; instinctivement | การแปลงสัญชาติ | [kān plaēng sanchāt] (n, exp) EN: naturalization FR: naturalisation [ f ] | กฎหมายที่กำหนดสัญชาติตามดินแดน | [kotmāi thī kamnot sanchāt tām dindaēn] (n, exp) EN: jus soli | กฎหมายที่กำหนดสัญชาติตามสายโลหิต | [kotmāi thī kamnot sanchāt tām sāi lōhit] (n, exp) EN: jus sanguinis | หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติ | [nangseū samkhan kān plaēng sanchāt] (n, exp) EN: certificate of naturalization FR: certificat de naturalisation [ m ] | หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย | [nangseū samkhan kān plaēng sanchāt pen Thai] (n, exp) FR: certificat de naturalisation thaïlandaise [ m ] | โอนสัญชาติ | [ōn sanchāt] (v, exp) EN: change the nationality FR: changer de nationalité | แปลงสัญชาติ | [plaēng sanchāt] (v, exp) EN: naturalize | สัญชาติ | [sanchāt] (n) EN: nationality ; citizenship FR: nationalité [ f ] ; citoyenneté [ f ] | สัญชาต- | [sanchāt-] (pref, (adj)) EN: natural FR: inné ; instinctif ; naturel ; spontané | สัญชาตญาณ | [sanchāttayān] (n) EN: instinct ; intuition FR: instinct [ m ] ; intuition [ f ] | สัญชาตญาณดิบ | [sanchāttayān dip] (n, exp) EN: instinct animal FR: instinct animal [ m ] | สัญชาตญาณมืด | [sanchāttayān meūt] (n, exp) EN: raw instinct FR: instinct brut [ m ] | สัญชาติไทย | [sanchāt thai] (n, exp) EN: Thai citizenship FR: nationalité thaïlandaise [ f ] ; citoyenneté thaïlandaise [ f ] | ถอนสัญชาติ | [thøn sanchāt] (v, exp) EN: expatriate | ถูกถอนสัญชาติ | [thūk thøn sanchāt] (v, exp) EN: be expatriated |
| instinct | (adj) มีชีวิตชีวา, See also: เต็มไปด้วยความมั่นใจ, โดยสัญชาตญาณ | instinct | (n) สัญชาตญาณ, See also: ปฐมฌาน | instinctive | (adj) เกี่ยวกับสัญชาตญาณ, See also: เกี่ยวกับนิสัยดั้งเดิม, ที่เกิดขึ้นทันทีทันใดโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการคิด | intuition | (n) การหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นในใจ, See also: การหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณ, Syn. instinct, perception, insight | intuitive | (adj) โดยสัญชาตญาณ, See also: โดยการหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นเอง, Syn. instinctive, innate | nationalise | (vt) โอนชาติ, See also: โอนสัญชาติ, แปลงสัญชาติ, ให้สัญชาติ | nationality | (n) สัญชาติ, See also: ชนชาติ, สัญชาติ, เชื้อชาติ, ประเทศ | nationalize | (vt) โอนชาติ, See also: โอนสัญชาติ, แปลงสัญชาติ, ให้สัญชาติ | native | (adj) ตามธรรมชาติ, See also: ตามสัญชาตญาณ, สันดาน, Syn. inborn, innate, connate, congenital, Ant. unnatural | naturalisation | (n) การแสดงสัญชาติ, Syn. adoption, acculturation | naturalise | (vi) แปลงสัญชาติ, See also: โอนสัญชาติ, ให้สัญชาติ, ให้สิทธิการเป็นพลเมือง, Syn. citizenship, acclimate, accustom | naturalise | (vt) แปลงสัญชาติ, See also: โอนสัญชาติ, ให้สัญชาติ, ให้สิทธิการเป็นพลเมือง | naturalization | (n) การแสดงสัญชาติ, Syn. adoption, acculturation | naturalize | (vi) แปลงสัญชาติ, See also: โอนสัญชาติ, ให้สัญชาติ, ให้สิทธิการเป็นพลเมือง, Syn. citizenship, acclimate, accustom | naturalize | (vt) แปลงสัญชาติ, See also: โอนสัญชาติ, ให้สัญชาติ, ให้สิทธิการเป็นพลเมือง | primaeval | (adj) ที่เกิดขึ้นโดยสัญชาติญาณ | primeval | (adj) ที่เกิดขึ้นโดยสัญชาติญาณ | self-preservation | (n) สัญชาตญาณการเอาตัวรอด, See also: ความสามารถในการรักษาตัวรอด, สัญชาตญาณในการรักษาตัวรอด, การรักษาตัวรอด, Syn. selfishness, self-defense | spontaneous | (adj) ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ, See also: เป็นไปเอง, ซึ่งเกิดขึ้นเอง, โดยสัญชาตญาณ, Syn. natural, unconscious, unplanned, instinctive, Ant. studied, cautious | stateless | (n) ไร้สัญชาติ |
| appetence | (แอพ' พิเทินซฺ) n. ความอยากอย่างมากตามธรรมชาติ, แนวโน้มของสัญชาตญาณ, การดึงดูด, ความสัมพรรค, การติดนิสัย (intense desire) | citizenship | (ซิท'ทิเซินชิพ) n. ฐานะประชากร, สัญชาติ, คุณธรรมของประชากร | civic | (ซิฟ'วิค) adj. (เกี่ยวกับ) เมือง (นคร, กรุง) , เทศบาล, สัญชาติ, พลเรือน (พลเมือง, ประชากร) , ที่เป็นประโยชน์แก่เมือง | expatriate | (เอคซฺเพ'ทริเอท) vt., adj., n. (ซึ่งถูก) เนรเทศ, (ซึ่ง) อพยพไปอยู่ต่างประเทศ, (ซึ่ง) สละสัญชาติเดิม n. ผู้อพยพไปอยู่ต่างประเทศ, ผู้ถูกเนรเทศ., See also: expatriation n., Syn. banish | instinct | (อิน'สทิงคทฺ) n. สัญชาตญาณ adj. มีชีวิตชีวา, เต็มไปด้วยความมั่นใจ, Syn. tendency, impulse | instinctive | (อินสทิงคฺ'ทิฟว) adj. เกี่ยวกับสัญชาตญาณ, เกี่ยวกับนิสัยดั้งเดิม., See also: instinctively adv., Syn. inborn, innate | intuition | (อินทูอิช'เชิน) n. การรู้โดยสัญชาตญาณ, การรู้โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองในใจ, การหยั่งรู้ความเข้าใจอันซาบซึ้ง, ความสามารถในการเข้าใจโดยสัญชาตญาณ, สหัชญาณ., See also: intuitional adj. intuitionly adv., Syn. feeling, sixth se | intuitive | (อินทู'อิทิฟว) adj. โดยสัญชาตญาณ, โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองในใจ, โดยสหัชญาณ, โดยการหยั่งรู้., See also: intuitiveness n., Syn. deluge | jus sanguines | ถือสัญชาติตามผู้ให้กำเนิด | jus soli | ถือสัญชาติของประเทศในที่เขาเกิด | nationalise | (แนช'ช ะเนิลไลซ) vt. ทำให้เป็นของชาติ, ให้สัญชาติแก่, ทำให้เป็นประเทศหนึ่ง. vi. กลายเป็นของชาต', See also: nationalisation n. nationalization n. | nationality | (แนช'ชะแนล'ลิที) n. สัญชาติ | nationalize | (แนช'ช ะเนิลไลซ) vt. ทำให้เป็นของชาติ, ให้สัญชาติแก่, ทำให้เป็นประเทศหนึ่ง. vi. กลายเป็นของชาต', See also: nationalisation n. nationalization n. | naturalise | (แนช'เชอเริลไลซ) v. ให้สัญชาติ, โอนสัญชาติ, ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม, See also: naturalisation n. naturalization n. | naturalisze | (แนช'เชอเริลไลซ) v. ให้สัญชาติ, โอนสัญชาติ, ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม, See also: naturalisation n. naturalization n. | registry | (เรจ'จิสทรี) n. การลงทะเบียน, การจดทะเบียน, การขึ้นทะเบียน, สำนักงานทะเบียน, สำนักงานจดทะเบียน, สัญชาติเรือสินค้าที่จดทะเบียนไว้, สมุดจดทะเบียน, รายละเอียดของทะเบียนที่จดไว้ | self-preservation | (เซลฟฺ'เพรสเซอเว'เชิน) n. การรักษาตัวรอด, ความสามารถในการรักษาตัวรอด, สัญชาตญาณในการรักษาตัวรอด, สัญชาตญาณใน การป้องกันตัว | sex | (เซคซฺ) n. เพศ, สัญชาตญาณทางเพศ, ความสนใจทางเพศ, ความรู้สึกทางเพศ, กาม, เรื่องประเวณี, การร่วมเพศ, การร่วมประเวณี vt. ตรวจดูเพศ (โดยเฉพาะของลูกไก่แรกเกิด) , เพิ่มความรู้สึกทางเพศ, แบ่งเพศ., See also: sexless adj. | spontaneous | (สพอนเท'เนียส) adj. เกิดขึ้นโดยตัวของมันเอง, เกิดขึ้นเอง, เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ, โดยสัญชาตญาณ, จากภายใน, โดยทันที., See also: spontaneousness n., Syn. instinctive, involuntary, natural | stateless | (สเทท'ลิส) adj. ไร้สัญชาติ | visceral | (วิส'เซอเริล) adj. เกี่ยวกับหรือมีผลต่ออวัยวะภายใน, เป็นสัญชาตญาณ. |
| | counterintuitive | (n) การโต้ตอบตามสัญชาตญาณ | girls' generation | [เกิล'ส เจเนอเรชั่น] (name, uniq) ศิลปินกลุ่มหญิงสัญชาติเกาหลีใต้จากสังกัดค่าย SM Entertainment มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย แทยอน, เจสสิก้า, ซันนี่, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และ ซอฮยอน เริ่มต้นเปิดตัวเข้าสู่วงการเพลงเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัว Into the New World (다시 만난 세계, Dasi Mannan Segye) ในรายการเพลง Inkigayo ทางสถานีโทรทัศน์ SBS | Inclusive Education | (n) การศึกษาแบบเรียนร่วม การจัดการศึกษาให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ เช่น คนพิการ คนด้อยโอกาส คนไร้สัญชาติ คนอพยพ โดยคำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน หรือระบบการศึกษาแบบปกติ มีจุดมุงหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ และการยอมรับความแตกต่าง ความสามารถระหว่างบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบศักยภาพของตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข | SNSD | [โซ นยอ ชิ แด] (abbrev, uniq) ศิลปินกลุ่มหญิงสัญชาติเกาหลีใต้จากสังกัดค่าย SM Entertainment มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย แทยอน, เจสสิก้า, ซันนี่, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และ ซอฮยอน เริ่มต้นเปิดตัวเข้าสู่วงการเพลงเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัว Into the New World (다시 만난 세계, Dasi Mannan Segye) ในรายการเพลง Inkigayo ทางสถานีโทรทัศน์ SBS, See also: 소녀시대, Syn. Girls' Generation | War Ensign | ธงชัยสมรภูมิ เป็นธงที่ถูกชักไว้บนเรือรบเพื่อแสดงสัญชาติของเรือรบ อาจมีการชักธงนี้ไว้บนบกในดินแดนที่กองทัพเจ้าของธงยึดครองอยู่ อาทิ เมื่อเยอรมนีเข้ายึดกรุงปารีสในปี ค.ศ. 1940 มีการชักธงชัยสมรภูมิเยอรมันไว้บนยอดหอไอเฟลเพื่อสื่อว่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพเยอรมัน |
| 国籍 | [こくせき, kokuseki] (n) สัญชาติ |
| 人 | [じん, jin] (n) ชาว คน (เขียนต่อท้ายชื่อประเทศ มีความหมายว่าสัญชาติ) | 人 | [じん, jin] (n) ชาว, คน (เขียนต่อท้ายชื่อประเทศ มีความหมายว่าสัญชาติ) | 人 | [じん, jin, jin , jin] (n) ชาว, คน (เขียนต่อท้ายชื่อประเทศ มีความหมายว่า "สัญชาติ") |
| thailändisch | (adj) ที่เกี่ยวกับประเทศไทย เช่น die thailändische Nationalität สัญชาติไทย, See also: Thailand |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |