ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ขัด, -ขัด- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| | | ขัด | (v) go against, See also: be opposed to, be in contrast to, Syn. ขัดแย้ง, Example: การกระทำของเธอขัดต่อศีลธรรมและประเพณีของเมืองนี้, Thai Definition: ไม่ทำตามหรือฝ่าฝืนสิ่งที่กำหนดไว้ | ขัด | (v) cross, Syn. กลัด, ตรึง, Example: แม่ขัดฝาหม้อข้าวด้วยไม้ไผ่ด้ามยาว, Thai Definition: ทำให้ติดขวางไว้ไม่ให้หลุดออก | ขัด | (v) go against, See also: violate, override, Syn. ขัดแย้ง, Example: ฝ่ายค้านมักขัดกับฝ่ายรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา, Thai Definition: เห็นแย้งกันหรือไม่ลงรอยกัน | ขัด | (v) act immorally, See also: contravene, be incompatible with, be immoral, Syn. ขัดแย้ง, แย้ง, Ant. ยอมตาม, ทำตาม, เห็นด้วย, Example: การกระทำของเธอขัดต่อศีลธรรมและประเพณีของเมืองนี้, Thai Definition: ไม่ทำตามหรือฝ่าฝืนสิ่งที่กำหนดไว้ | ขัด | (v) rub, See also: burnish, wipe, scrub, Syn. ถู, ขูด, ลับ, ขัดเงา, ขัดสี, Example: คนใช้กำลังขัดพื้นด้วยแปรงทองเหลือง, Thai Definition: ถูให้เกลี้ยง, ถูให้ผ่องใสหรือให้ขึ้นเงา | ขัดขา | (v) cross someone's leg, Example: ครูพานักเรียนชั้นอนุบาลไปเข้าเฝือกเพราะถูกเพื่อนขัดขาล้มลง แขนหัก, Thai Definition: ใช้ขาสอดขาคนอื่นให้ล้ม | ขัดขา | (v) oppose, See also: obstruct, impede, hinder, Syn. ขัดขวาง, กีดกัน, ขัดแข้งขัดขา, Ant. อนุญาต, ยอม, Example: ถึงเขาจะเป็นใคร ดิฉันก็เอาผิดได้ และไม่เคยกลัวว่าจะไปขัดขาใคร | ขัดคอ | (v) interrupt, See also: break, Syn. ขัดจังหวะ, Example: เขาชอบขัดคอคนอื่นอยู่เสมอ จนจะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วยแล้ว, Thai Definition: พูดแย้งขวางเข้ามาขณะที่อีกฝ่ายกำลังพูด | ขัดตา | (v) be unpleasant to look at, See also: irritate, Syn. ขัดลูกตา, ขัดนัยน์ตา, ขัดหูขัดตา, Example: กิริยาของเขาขัดตาผู้ใหญ่หัวโบราณมาก, Thai Definition: ดูไม่ถูกตา, ดูไม่เหมาะตา | ขัดถู | (v) polish, See also: burnish, wipe, scrub, rub, Syn. ขัด, ถู, Example: พวกเราช่วยกันขัดถูหม้อไหกันเป็นการใหญ่ เพราะที่บ้านจะมีงานบุญครั้งใหญ่, Thai Definition: เช็ดโดยวิธีใช้สิ่งใดสิ่งหนึ่งไถไปไถมาให้สะอาดจนขึ้นเงา | ขัดบท | (v) interrupt, See also: break, interfere, Syn. ขัดคอ, ขัดจังหวะ, พูดแทรก, Example: ลูกอย่าพึ่งขัดบทได้ไหม แม่ยังพูดไม่จบเลย, Thai Definition: แทรกเข้ามาเมื่อเขายังพูดไม่จบเรื่อง | ขัดสน | (v) lack, See also: be short, be scanty, Syn. ขาดแคลน, อัตคัด, ยากลำบาก, Example: หากคุณเกิดขัดสนขึ้นมา ฉันก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ, Thai Definition: มีความเป็นอยู่อย่างลำบากหรือยากไร้ | ขัดสี | (v) mill, See also: grind or crush in a mill, Example: อาหารที่ให้สังกะสีปานกลางได้แก่ถั่วเมล็ดแห้งและข้าวที่ขัดสีแต่น้อย, Thai Definition: กะเทาะให้เปลือกออกด้วยเครื่องสี | ขัดสี | (v) scrub, See also: rub, scour, Syn. ถูกัน, เสียดสี, Example: ส่วนหนึ่งของเครื่องขัดสีกันจนหลวม | ขัดหู | (v) jar, See also: be unpleasant, be displeasant to listen to, Ant. ลื่นหู, Example: ผมจะเจียมตัวไม่ทำให้พ่อต้องขัดหู ขัดตา หรือขัดใจอีก, Thai Definition: ฟังไม่ถูกหู, ฟังไม่เพราะหู | ขัดหู | (adv) be unpleasing to the ear, See also: sounding discordant, sounding disharmonious, sound unpleasant, Syn. ไม่เข้าหู, Ant. ลื่นหู, Example: หัวหน้าพูดจาขัดหูคนฟังแบบนี้ใครจะชอบ, Thai Definition: อย่างไม่ถูกหู, อย่างไม่เพราะหู | ขัดใจ | (v) offend, See also: dissatisfy, displease, Syn. ขัดเคือง, ไม่พอใจ, Ant. ตามใจ, พอใจ, Example: แม่จำเป็นต้องขัดใจลูกที่ร้องไห้จะเอาของเล่นซึ่งมีราคาแพงมาก, Thai Definition: ไม่ยอมให้ทำตามใจ | ขัดกัน | (v) conflict, See also: contradict, Syn. ทะเลาะ, ขัดแย้ง, ปะทะ, ไม่ลงรอย, Ant. เข้ากันได้, Example: เธอกับเขาขัดกันเป็นประจำ, Thai Definition: ไม่ลงรอยกันหรือมีความเห็นกันไปคนละทาง | ขัดขืน | (v) defy, See also: resist order, disobey, rebel, Syn. ดื้อ, ต่อต้าน, ต่อสู้, Ant. ยอม, ยอมสยบ, ยอมตาม, Example: ถ้าแกขัดขืนแม้แต่นิดเดียวฉันยิงแกแน่, Thai Definition: ไม่ประพฤติตาม, ไม่ทำตาม | ขัดดอก | (v) work or give things in exchange for interest, Example: นุชถูกส่งไปขัดดอกที่บ้านเถ้าแก่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก, Thai Definition: ส่งลูกหรือเมียให้รับใช้แทนส่งดอกเบี้ย | ขัดต่อ | (v) contrary to, See also: be contradictory with, be in conflict with, go against, Syn. ขัดกับ, ตรงข้าม | ขัดยอก | (v) sprain, See also: feel sore, feel stiff, feel pain, Syn. ปวดเมื่อย, เคล็ด, ยอก, Example: เขารู้สึกขัดยอกหลังเวลาที่ต้องขับรถนานๆ, Thai Definition: เคล็ดและรู้สึกเจ็บปวด | ขัดลาภ | (v) make unfortunate, See also: spoil one's fortune, Example: ฉันกำลังจะซื้อหวย เธออย่ามาขัดลาภหน่อยเลย, Thai Definition: ทำให้ไม่ได้รับในสิ่งที่พึงได้, ทำให้ไม่มีโชค | ขัดเงา | (v) polish, See also: burnish, furbish, shine, brighten, wax, Syn. ขัดมัน, Thai Definition: ขัดถูให้เงา, ขัดถูให้วาว | ขัดเบา | (v) be unable to urine, See also: suffer from strangury, have suppression of urine, Example: พ่อรู้สึกขัดเบามาตั้งแต่เมื่อวาน, Thai Definition: ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก | ขัดแตะ | (n) lath, See also: wattle, Syn. ฝาขัดแตะ, Example: ฝาบ้านของบังกะโลนี้ทำเป็นฝาขัดแตะ ดูเข้ากับธรรมชาติที่นี่ดี, Thai Definition: ฝาเรือนที่ทำจากไม้ไผ่ซีกสอดขัดกับลูกตั้ง | ติดขัด | (v) be congested, See also: be jammed, be obstructed, be clogged, be blocked, Syn. ชะงัก, ขัดข้อง, Ant. สะดวก, คล่อง, ราบรื่น, Example: สภาพการจราจรในกรุงเทพมหานคร ติดขัดมากทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น, Thai Definition: ไม่สามารถผ่านได้โดยสะดวกเพราะมีสิ่งขวางเป็นจำนวนมาก เช่น การจราจรติดขัดเพราะมีปริมาณรถมาก เป็นต้น | หินขัด | (n) polished stone, Example: บ้านสมัยใหม่มักปูพื้นด้วยหินขัด | แก้ขัด | (v) use as a makeshift, See also: make do with, put up with, Example: ดินสอชนิดนี้ไม่สู้ดีแต่พอใช้แก้ขัดได้, Thai Definition: แก้ข้อขัดข้องให้ลุล่วงไปชั่วคราว | ขัดขวาง | (v) obstruct, See also: stop, impede, block, thwart, Syn. กีดขวาง, สกัดกั้น, ขวาง, Ant. ปล่อย, Example: เพื่อนๆ ช่วยกันขัดขวางผมไม่ให้ฆ่าตัวตาย, Thai Definition: ทำให้ไม่สะดวก, ทำให้ติดขัด | ขัดข้อง | (v) have trouble, See also: have fault, hitch, Syn. ติดขัด, ขลุกขลัก, ข้องขัด, Example: เครื่องจักรเกิดขัดข้องจึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามเป้าหมาย, Thai Definition: เกิดอาการติดขัดไม่สามารถทำงานต่อไปได้ | ขัดข้อง | (v) dissent, See also: have objections, Syn. ติดขัด, ข้องขัด, Ant. สะดวก, Example: คุณจะขัดข้องไหมคะที่จะช่วยฉันยกของลงไปข้างล่าง, Thai Definition: ไม่ยอมให้ทำ, ไม่ตกลงด้วย | ขัดหนัก | (v) suffer from a constipation, Syn. ท้องผูก, Example: ผมรู้สึกขัดหนักมา 2-3 วันแล้วครับคุณหมอ, Thai Definition: ถ่ายอุจจาระไม่ค่อยออก | ขัดห้าง | (v) build a platform on a tree, Example: ตาสีกำลังขัดห้างก่อนที่จะไปดักสัตว์คืนนี้, Thai Definition: ทำที่พักบนต้นไม้ในป่าชั่วคราว | ขัดเกลา | (v) discipline, See also: train, Syn. อบรม, พร่ำสอน, บ่มนิสัย, Example: คุณป้าขัดเกลาสมศรีจนมีกิริยามารยาทเป็นผู้ดี, Thai Definition: แนะนำพร่ำสอนให้ซึมซาบเข้าไปจนติดเป็นนิสัย | ขัดเขิน | (v) embarrass, See also: shy, be timid, Syn. กระดากอาย, เขิน, สะเทิ้นอาย, อาย, กระดาก, เหนียมอาย, ขวยเขิน, เคอะเขิน, Ant. กล้า, Example: เรไรรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่พบหน้าสัตยา ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบอยู่, Thai Definition: ตะขิดตะขวงใจไม่กล้าพูดหรือไม่กล้าทำเมื่ออยู่ต่อหน้า | ขัดแข็ง | (v) be obstinate, See also: disobey, defy, Syn. ไม่อ่อนน้อม, Ant. อ่อนน้อม, Example: หากเธอยังขัดแข็งเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ ฉันว่ามันไม่เหมาะแน่ๆ, Thai Definition: มีท่าทางกระด้างกระด้างกระเดื่องไม่อ่อนน้อมถ่อมตน | ขัดแค้น | (v) anger, See also: be angry, resent, Syn. โกรธ, แค้นเคือง, ขัดเคือง, โกรธแค้น, Example: ชาวนาขัดแค้นพวกนายทุนที่ชอบเอารัดเอาเปรียบมาก, Thai Definition: รู้สึกโกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย | ขัดแย้ง | (v) oppose, See also: resist, withstand, disagree, be in conflict, Syn. ขัดกัน, แย้งกัน, Ant. เห็นด้วย, Example: ฝ่ายค้านขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลอยู่เสมอเมื่อรัฐสภาเปิดอภิปรายเรื่องงบประมาณ, Thai Definition: ไม่ลงรอยกัน, ไม่เห็นพ้องต้องกัน | เข็มขัด | (n) belt, See also: girdle, Syn. สายรัดเอว, Example: ในยุคนี้ทองกำลังแพงใครมีเข็มขัดทองหรือสร้อยทองเส้นโตๆ แสดงว่าเป็นคนมีฐานะดี, Count Unit: เส้น, Thai Definition: เครื่องคาดเอวชนิดหนึ่ง ทำจากวัสดุต่างๆ กัน เช่น เงิน ทอง หนัง เป็นต้น | ขัดตาทัพ | (v) oppose for a time, Example: รัฐบาลส่งกำลังย่อยไปยังภาคอีสาน เพื่อขัดตาทัพไว้ก่อน, Thai Definition: แก้ไขไปพลางๆ ก่อน, Notes: (ปาก) | ขัดลูกตา | (v) be offensive to the eye, See also: be unpleasant to look at, be an eyesore, offend the eyes, Syn. ขัดตา, ขัดหูขัดตา, ขวางหูขวางตา, Example: การแสดงออกของเขาได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกทำให้ขัดลูกตาของคนมีอายุที่เคยชินกับวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม | ขัดสมาธิ | (v) sit cross-legged, Syn. นั่งขัดสมาธิ, Example: เมื่อขัดสมาธิเรียบร้อยแล้วให้ปล่อยวางอารมณ์, Thai Definition: นั่งคู้เข่าทั้ง 2 ข้างให้แบะลงที่พี้นแล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า | ขัดเคือง | (v) be indignant, See also: be annoy, be angry, resent, infuriate, Syn. ขุ่นใจ, ขุ่นเคือง, เคืองขัด, Example: วิภาขัดเคืองเจ้านายเธอมากที่ไม่ให้สองขั้น, Thai Definition: รู้สึกโกรธเพราะถูกขัดใจ | ฝาขัดแตะ | (n) wall of plaited bamboo strips, See also: partition made of woven bamboo strips, Example: ลักษณะของบ้านพระราชทาน เป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง ฝาขัดแตะ, Count Unit: ฝา, Thai Definition: ฝาบ้านที่ขัดแตะด้วยซีกไม้ไผ่ | ติดๆ ขัดๆ | (adv) repetitiously, See also: not continuously, Syn. ติดขัด, Example: เขาพูดติดๆ ขัดๆ ไม่ได้ความ สงสัยจะตื่นเต้นมากไปหน่อย, Thai Definition: อย่างตะกุกตะกักหรือไม่ต่อเนื่อง | ติดๆ ขัดๆ | (v) have a hitch, See also: be in a trouble, Syn. ติดขัด, Example: งานวันนี้ดูมันติดๆ ขัดๆ ยังไงไม่รู้ คงเป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน, Thai Definition: อาการขัดข้อง ไม่สะดวกราบรื่นหรือไม่ต่อเนื่อง | การขัดกัน | (n) confliction, See also: opposition, Example: การขัดกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มทำให้การทำงานไม่ราบรื่น | การขัดขืน | (n) disobedience, See also: resistance, Ant. การยินยอม, Example: เพราะการขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ผู้ร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม | ขัดคำสั่ง | (v) disobey an order, Syn. ละเมิดคำสั่ง, ฝ่าฝืนคำสั่ง, Ant. ปฏิบัติตามคำสั่ง, ทำตามคำสั่ง, Example: ในครอบครัวทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณปู่แต่เพียงผู้เดียว ทุกคนห้ามขัดคำสั่ง ห้ามเถียง |
| กระดูกขัดมัน | ว. ขี้เหนียวมากอย่างไม่ยอมให้อะไรแก่ใครง่าย ๆ เช่น แม่ค้าคนนี้กระดูกขัดมันเหลือเกิน เราซื้อผลไม้แกตั้งร้อยกว่าบาทขอแถมเงาะลูกหนึ่งก็ไม่ได้ | กระดูกขัดมัน | ให้คะแนนยาก เช่นอาจารย์คนนี้กระดูกขัดมันชะมัดออกข้อสอบก็ยากแล้วยังขี้เหนียวคะแนนอีก. | แก้ขัด | ก. แก้ข้อขัดข้องให้ลุล่วงไปชั่วคราว. | ข้องขัด | ก. ขัดข้อง, ติดขัด. | ขัด ๑ | ก. ให้ติดขวางไว้ไม่ให้หลุดออก เช่น ขัดกระดุม ขัดกลอน | ขัด ๑ | เหน็บ เช่น ขัดกระบี่ | ขัด ๑ | ไม่ทำตาม, ฝ่าฝืน, ขืนไว้, เช่น ขัดคำสั่ง | ขัด ๑ | แย้งกัน, ไม่ลงรอยกัน. | ขัดขวาง | ก. ทำให้ไม่สะดวก, ทำให้ติดขัด. | ขัดข้อง | ก. ไม่ยอมให้ทำ, ไม่ตกลงด้วย, ติดขัด. | ขัดขา | ก. จงใจขัดขวางเพื่อไม่ให้ทำได้สะดวก, ขัดแข้งขัดขา ก็ว่า | ขัดขา | แทนชั่วคราว เป็นการแก้ขัดในการเล่นไพ่เป็นต้น, คานขา หรือ คันขา ก็ว่า. | ขัดขืน | ก. ไม่ประพฤติตาม, ไม่ทำตาม. | ขัดเขมร | ก. ถกเขมร เช่น ทะเลาะกูกำหมัดขัดเขมร (ดึกดำบรรพ์). | ขัดเขิน | ก. กระดากอาย. | ขัดแข็ง | ก. ไม่อ่อนน้อม. | ขัดแข้งขัดขา | ก. จงใจขัดขวางเพื่อไม่ให้ทำได้สะดวก, ขัดขา ก็ว่า. | ขัดคอ | ก. พูดแย้งขวางเข้ามา, ไม่ให้ทำได้โดยสะดวก. | ขัดเคือง | ก. โกรธเพราะถูกขัดใจเป็นต้น. | ขัดแค้น | ก. โกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย. | ขัดจังหวะ | ก. แทรกเข้ามาในระหว่างร้องรำ | ขัดจังหวะ | ขวางเข้ามาเพื่อไม่ให้ทำหรือพูดได้สะดวก. | ขัดใจ | ก. โกรธเพราะทำไม่ถูกใจ, ไม่ยอมให้ทำตามใจ. | ขัดดอก | ก. ส่งลูกเมียหรือข้าคนให้รับใช้แทนส่งดอกเบี้ย. | ขัดตะหมาด | ว. เรียกท่านั่งคู้เข่าทั้ง ๒ ข้างให้แบะลงที่พื้น แล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า ว่า นั่งขัดตะหมาด. | ขัดตา | ก. ดูไม่ถูกตา, ดูไม่เหมาะตา, ขัดนัยน์ตา ขัดลูกตา หรือ ขัดลูกหูลูกตา ก็ว่า. | ขัดตาทัพ | ก. ยกทัพไปตั้งชั่วคราว กันไม่ให้ข้าศึกรุกลํ้าเข้ามา | ขัดตาทัพ | แก้ไขไปพลาง ๆ ก่อน. | ขัดตำนาน | ก. สวดบทนำเป็นทำนองก่อนสวดมนต์. | ขัดแตะ | ก. เรียกรั้วหรือฝาเรือนที่ใช้ไม้รวกหรือไม้ไผ่ผ่าซีกขัดกัน ว่า รั้วขัดแตะ ฝาขัดแตะ, เรียกเรือนที่มีฝาเอาไม้ไผ่ซีกสอดขัดกับลูกตั้ง ว่า เรือนฝาขัดแตะ. | ขัดนัยน์ตา, ขัดลูกตา, ขัดลูกหูลูกตา | ก. ขัดตา. | ขัดบท | ก. แทรกเข้ามาเมื่อเขาพูดยังไม่จบเรื่อง, ใช้เลือนมาเป็น ขัดคอ ก็มี. | ขัดเบา | ก. ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก. | ขัดยอก | ก. เคล็ดและรู้สึกเจ็บปวด. | ขัดแย้ง | ก. ไม่ลงรอยกัน. | ขัดลาภ | ก. ทำให้ไม่ได้รับสิ่งที่จะพึงได้, ทำให้ไม่มีโชค. | ขัดลำ | ก. อาการที่กระสุนปืนค้างติดในลำกล้อง. | ขัดลำกล้อง | ก. ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก (ใช้แก่ผู้ชาย). | ขัดสมาธิ | (ขัดสะหฺมาด) ว. นั่งคู้เข่าทั้ง ๒ ข้างให้แบะลงที่พื้นแล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า, ถ้าเอาขาซ้อนทับกัน เรียกว่า ขัดสมาธิสองชั้น, ถ้าเอาขาขวาทับขาซ้าย เรียกว่า ขัดสมาธิราบ, ถ้าเอาฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้างขึ้นข้างบน เรียกว่า ขัดสมาธิเพชร, ขัดสมาธิราบและขัดสมาธิเพชรนั้น เป็นท่าพระพุทธรูปนั่ง. | ขัดสมาธิ | (ขัดสะหฺมาด) น. ชื่อพระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้ง ๒ วางซ้อนกันบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย. | ขัดหนัก | ก. ถ่ายอุจจาระไม่ค่อยออก. | ขัดห้าง | ก. ทำที่พักบนต้นไม้ในป่าชั่วคราวสำหรับคอยเฝ้าดูเหตุการณ์หรือดักยิงสัตว์เป็นต้น. | ขัดหู | ก. ฟังไม่ถูกหู, ฟังไม่เพราะหู. | ขัด ๒ | ก. ถูให้เกลี้ยง, ถูให้ผ่องใส, ถูให้ขึ้นเงา, เช่น ขัดขี้ไคล ขัดพื้น. | ขัดเกลา | ก. ทำให้เกลี้ยงเกลา, ทำให้เรียบร้อย, อบรมพรํ่าสอน, เช่น ขัดเกลานิสัย. | ขัด ๓ | ก. ไม่ใคร่จะมี, ฝืดเคือง, ไม่คล่อง, ไม่เป็นปรกติ. | ขัดสน | ว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน | ขัดสน | ลำบาก. | ขัด ๔ | ก. คาด เช่น มีพิกัดขัดค่าเป็นราคาน้อยมาก (ม. ร่ายยาว มหาราช). | ขัดจางนาง | น. ชื่อท่ารำแบบหนึ่ง โดยมือทั้งสองตั้งวง ไขว้แขน ระดับอก ลำตัวตั้งตรง หน้าตรง เอียงศีรษะข้างใดก็ได้. |
| processor interrupt | การขัดจังหวะตัวประมวล(ผล) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | partial heart block | ภาวะหัวใจขัดบางส่วน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | perverse verdict | คำตัดสินของลูกขุนที่ขัดต่อข้อกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | programmable interrupt controller (PIC) | ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้ (พีไอซี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | PIC (programmable interrupt controller) | พีไอซี (ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | polished surface denture | ฟันปลอมผิวขัดมัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | paper jam | การติดขัดของกระดาษ, กระดาษติดขัด [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | police obstruction | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | proof by contradiction | การพิสูจน์โดยข้อขัดแย้ง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | labour, obstructed | การคลอดขัดขวาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | lap belt; lap strap | เข็มขัดนิรภัยรัดหน้าตัก [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | lap strap; lap belt | เข็มขัดนิรภัยรัดหน้าตัก [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | rubbing compound; cutting compound | ยาขัดสี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | renvoi (Fr.) | การย้อนส่ง (ตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | resistance | การขัดขืน, การขัดขวาง, การต่อต้าน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | repugnancy | ความขัดกัน (ของข้อความ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | resisting arrest | ขัดขืนการจับกุม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | system failure | ความขัดข้องของระบบ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | system crash | ระบบขัดข้อง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | system crash | ระบบขัดข้อง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | socialization | การขัดเกลาทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | stranguria; strangury | อาการปวดขัดเบา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | strangury; stranguria | อาการปวดขัดเบา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | self-contradiction | ความขัดแย้งในตัว [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | self-diagnostic system | ระบบแสดงปัญหาขัดข้อง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | seat belt; safety belt | เข็มขัดนิรภัย [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | selection against the insurer | การคัดเลือกที่ขัดประโยชน์ มีความหมายเหมือนกับ adverse selection [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | self contradiction | ข้อขัดแย้งในตัว [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | safety belt; seat belt | เข็มขัดนิรภัย [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstructed labour | การคลอดขัดขวาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstructing a police officer | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstructing justice | การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstruction; emphraxis | การขัดขวาง, การอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | offices, incompatible | ตำแหน่งที่มีลักษณะขัดกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstruction | การขัดขวาง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstruction | การขัดขวาง, การกีดขวาง, การกีดกั้น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstruent | ๑. -ขัดขวาง๒. สิ่งอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | adverse | เป็นปรปักษ์, ขัดแย้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | arrest, resisting | ขัดขืนการจับกุม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | automatic interrupt | การขัดจังหวะอัตโนมัติ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | abrade | ๑. ขัด๒. ทำให้สึก [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | abrasion | การสึกเหตุขัดถู [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | abrasion resistance | ความต้านทานการขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | abrasive | สารขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | abrasive | สารขัด [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | abrasive coating | การฉาบสารขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Anticipated operational occurrence | อุบัติการณ์ที่อยู่ในความคาดหมาย, เหตุการณ์ที่เบี่ยงเบนไปจากการทำงานตามปกติของโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งคาดว่าตลอดอายุการใช้งานจะเกิดขึ้นได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ได้มีการออกแบบรองรับเหตุการณ์นี้ไว้แล้วเพื่อความปลอดภัย และป้องกันมิให้ลุกลามเป็นอุบัติเหตุ เช่น หากพลังงานไฟฟ้าที่จ่ายให้แก่เครื่องสูบน้ำของระบบระบายความร้อนเกิดขัดข้อง ระบบไฟฟ้าสำรองก็จะทำงานทันที, Example: [นิวเคลียร์] | Interrupt | ขัดจังหวะ [คอมพิวเตอร์] | Down | ขัดข้อง, ใช้การไม่ได้ [คอมพิวเตอร์] | Nuclear incident | อุบัติการณ์นิวเคลียร์, เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (ดู INES ประกอบ) [นิวเคลียร์] | ขัดสมาธิ | นั่งเอาขาสองข้างขัดกันไขว้กัน, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ขัดสมาส [คำที่มักเขียนผิด] | สะดวก | คล่อง ไม่ติดขัด มักใช้เข้าคู่กับคำ สบาย เป็น สะดวกสบาย, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ สดวก [คำที่มักเขียนผิด] | Combination | การผนวกความรู้, การที่นำความรู้ที่ขัดแจ้งต่่างที่ได้เรียนรู้มา และนำไปสร้างเป็นความรู้ที่ชัดแจ้งใหม่ โดยต่อยอดความรู้เดิมหรือความรู้ใหม่ [การจัดการความรู้] | Arab-Israeli conflict | ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอาหรับ [TU Subject Heading] | Conflict management | การบริหารความขัดแย้ง [TU Subject Heading] | Conflict of interests | ผลประโยชน์ขัดกัน [TU Subject Heading] | Conflict of laws | การขัดกันแห่งกฎหมาย [TU Subject Heading] | Conscientious objection | การปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายที่ขัดต่อมโนธรรม [TU Subject Heading] | Contradiction | ความขัดแย้งกัน [TU Subject Heading] | Culture conflict | ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม [TU Subject Heading] | Electric power failures | การขัดข้องของไฟฟ้ากำลัง [TU Subject Heading] | Grinding and polishing | การลับคมและการขัดมัน [TU Subject Heading] | Grinding machines | เครื่องขัด [TU Subject Heading] | Immoral contracts | สัญญาที่ขัดต่อศีลธรรม [TU Subject Heading] | India-Pakistan Conflict, 1947-1949 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1947-1949 [TU Subject Heading] | India-Pakistan Conflict, 1965 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1965 [TU Subject Heading] | India-Pakistan Conflict, 1971 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1971 [TU Subject Heading] | Interpersonal conflict | ความขัดแย้งระหว่างบุคคล [TU Subject Heading] | Interpersonal conflict in motion pictures | ความขัดแย้งระหว่างบุคคลในภาพยนตร์ [TU Subject Heading] | Low-intensity conflicts (Military science) | ความขัดแย้งแบบลดความรุนแรง (การทหาร) [TU Subject Heading] | Conflict | ข้อขัดแย้ง [เศรษฐศาสตร์] | Pidgin English | ภาษาอังกฤษแก้ขัด [TU Subject Heading] | Pidgin languages | ภาษาแก้ขัด [TU Subject Heading] | Social conflict | ความขัดแย้งทางสังคม [TU Subject Heading] | Social conflict in mass media | ความขัดแย้งทางสังคมในสื่อมวลชน [TU Subject Heading] | Polishing Process | กระบวนการขัดแต่ง, Example: กระบวนการที่ปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้นอีก เช่น การใช้บ่อขัดแต่ง [สิ่งแวดล้อม] | Polishing Pond | บ่อขัดแต่ง, Example: บ่อบำบัดโดยวิธีธรรมชาติ มักใช้ต่อจากบ่อปรับเสถียร หรือสระเติมอากาศ [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Regional Forum | การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) " [การทูต] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Confidence Building Measures | มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เพื่อลดความหวาดระแวง ลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นใจระหว่างสองฝ่ายหรือหลาย ๆ ฝ่าย อันจะเป็นการส่งเสริมการทูตเชิงป้องกัน ทั้งนี้ CBMs เป็นกระบวนการที่สำคัญในกรอบการประชุม ARF [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] | Diplomatic Privileges and Immunities | เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตที่ได้ให้แก่เจ้า หน้าที่ทางการทูต โดยถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนส่วนตัวของประมุขของรัฐ เหตุผลที่ให้มีการคุ้มกันทางการทูต ก็เพราะถือว่ารัฐบาลหนึ่งใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือกีดกันมิให้ผู้แทนของรัฐบาลนั้นปฏิบัติหน้าที่ในความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศนั้นมิได้ ถ้าหากเห็นว่าผู้แทนนั้นมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ก้าวร้าวซึ่งรัฐผู้รับ ไม่อาจรับได้ก็ชอบที่รัฐผู้รับจะขอร้องให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวผู้แทนของตนกลับ ประเทศได้ อนึ่ง การที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับความคุ้มกันจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ เพราะต้องการให้บรรดาผู้แทนทางการทูตเหล่านั้น รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาได้มีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศของเขาอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตมีบทบัญญัตินิยามคำว่า เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตในเรื่องต่างๆ ไว้มากพอสมควร เช่น เรื่องสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต รวมทั้งบรรณสารและเอกสาร เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานของคณะผู้แทน และเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายรวมทั้งการคมนาคมติดต่อ เป็นต้น [การทูต] | Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] | ethnic conflict | ความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์ [การทูต] | Humanitarian Intervention | การแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม " เป็นแนวคิดที่นายโคฟี อันนาน เลขาธิการสหประชาชาติเสนออย่างเป็น ทางการครั้งแรกต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 54 เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมุ่งจะให้สหประชาชาติสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภาย ในประเทศต่าง ๆ ได้โดย คำนึงถึงประเด็นเรื่องมนุษยธรรมเป็นหลัก ขณะนี้ แนวคิดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่ยุติ โดยบางประเทศเห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตยของรัฐ บางประเทศเห็นว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาของมนุษยชาติ ส่วนบางประเทศเห็นว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะต้องอยู่ใต้กรอบหลักเกณฑ์ หรือกรอบกฎหมายบางประการ เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ " [การทูต] | No Objection Certificate | เป็นเอกสารรับรองว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย กระทรวงการต่างประเทศไทยไม่มีข้อขัดข้องสำหรับบุคคลที่จะนำเอกสารนี้ไปใช้ เพื่อสมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาของต่างประเทศตามคำร้องขอของรัฐบาล ปากีสถาน หรือใช้ในการขอเปลี่ยนแปลงสถานะวีซ่าจากประเภทหนึ่งไปยังอีกประเภทหนึ่งตาม ที่ต่างประเทศนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด กรณีนักศึกษาไทยไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกาโดยวีซ่านักเรียน แต่ภายหลังประสงค์จะขอเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงานตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ของสหรัฐอเมริกา [การทูต] | national reconciliation | การปรองดองแห่งชาติ หมายถึง กระบวนการสร้างสันติภาพ และเอกภาพภายในชาติ โดยให้กลุ่มต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกันได้มีส่วนร่วมในการกระบวนการดังกล่าว [การทูต] | Normal Diplomacy | การติดต่อทางการทูตโดยวิถีทางทูตตามปกติ มักจะกระทำกันดังนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการจะหยิบยกปัญหาขึ้นกับอีกรัฐบาลหนึ่ง ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะส่งคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตของ ประเทศตนที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับส่งให้ยกเรื่องนั้นขึ้นเจรจากับรัฐบาล ของประเทศผู้รับ โดยปกติเอกอัครราชทูตจะมีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศผู้รับนั้นก่อน หรือไม่ก็ไปพบกับรัฐมนตรีด้วยตนเอง ณ กระทรวงการต่างประเทศ การเจรจากันอาจทำให้จำเป็นต้องมีการบันทึกของทูตแลกเปลี่ยนกันขึ้น ในรูปบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire ) ในบางกรณี เอกอัครราชทูตจำเป็นต้องไปพูดจา ณ กระทรวงการต่างประเทศ อีกหลายครั้งกว่าจะเสร็จเรื่อง ในระหว่างนั้น เอกอัครราชทูตมีหน้าที่จะต้องรายงานผลการเจรจาแต่ะครั้งไปยังกระทรวงการต่าง ประเทศของตน และบางคราวอาจจะต้องขอคำสั่งเพิ่มเติมอีกเมื่อเกิดกรณีใหม่โดยมิได้คาดหมาย มาก่อนเป็นต้น ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้รับก็จะส่งคำสั่งไปยังเอก อัครราชทูตของตน แนะว่าควรดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเจรจากันกับรัฐบาลของ ประเทศที่ตนประจำอยู่ผลการเจรจาอาจเป็นที่ตกลงกันได้ระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ฝ่าย หรืออาจจะจบลงด้วยภาวะชะงักงัน ( Stalemate ) หรือรัฐบาลทั้งสองอาจจะตกลงกันว่าไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปก่อน จนกว่าจะมีการรื้อฟื้นเจรจากันใหม่ บางคราวปัญหาที่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น อาจกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อไปก็ได้ [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | order at sea | การจัดระเบียบทางทะเล " เช่น ความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือไทย-เวียดนามในการลดความ ขัดแย้งในทะเลระหว่างกัน อาทิ การล่วงล้ำน่านน้ำและลักลอบทำประมง โดยมีมาตรการสำคัญ คือ การลาดตระเวนร่วมในพื้นที่ประชิดกันทางทะเลระหว่างกองทัพเรือทั้งสองฝ่าย เป็นประจำ " [การทูต] | Peacebuilding Commission | คณะกรรมาธิการเสริมสร้างสันติภาพ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2548 เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการเสวริมสร้างสันติภาพในกรอบสหประชาชาติแก่ประเทศ ที่เพิ่งผ่านพ้นความขัดแย้ง รวมทั้งเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างกระบวนการสร้างสันติภาพ (peace enforcement) การรักษาสันติภาพภาพ (peacekeeping) และการเสริมสร้างสันติภาพ (peacebuilding) [การทูต] | peace keeping | การรักษาสันติภาพ " หมายถึง การส่งคณะเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนในนามของสหประชาชาติเข้าไปใน พื้นที่ที่มีความขัดแย้งโดยความยินยอมของ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หรือความตกลงสันติภาพ หรือกระบวนการแก้ไขปัญหาโดยวิถีทาง การเมือง " [การทูต] | peace making | การทำให้เกิดสันติภาพ เป็นการดำเนินการทางการทูตโดยมักใช้วิธีไกล่เกลี่ย และเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี [การทูต] | point of order | ประท้วง หรือขัดจังหวะในระหว่างการประชุม หรือระหว่างการกล่าวถ้อยแถลงในเรื่องผิดข้อบังคับการประชุม [การทูต] |
| It's shoe polish. | ยาขัดรองเท้า Schindler's List (1993) | Hello. Pardon me for interfering, but that's a nice shirt. | ขอโทษที่ขัดจังหวะ... Schindler's List (1993) | Allah forbid you should have any daughters! | พระเจ้าขัดขวางแท้ๆ แกควรมีลูกซะบ้าง! Aladdin (1992) | So, what job's perfect? | รับรองว่าขัดแน่ The Bodyguard (1992) | That will do for the moment. | นั่นพอใช้แก้ขัดได้ Wuthering Heights (1992) | Can't have these godless little creatures at the altar. | ทั้งที่ไม่มีสิ่งใดในโลกหล้าจะขัดพระบัญชา The Lawnmower Man (1992) | Some kind of malfunction. | วงจรขัดข้องมั้ง The Lawnmower Man (1992) | Can I not say a thing without you fucking contradicting me? | ผมไม่ได้พูดสิ่ง โดยที่คุณร่วมเพศขัดแย้งได้หรือไม่ In the Name of the Father (1993) | He's been moved to Scotland, which has impeded my investigation into his case. | เขาถูกย้ายไปยังสก๊อตแลนด์ซึ่งมี ขัดขวางการตรวจสอบข? In the Name of the Father (1993) | I've got the beard, the coat, the boots, the belt... | ฉันมีเครา เสื้อโค้ท รองเท้าบู้ท และเข็มขัด The Nightmare Before Christmas (1993) | I've been unable to remove the stains from your bathtub. | ผมขัดรอยเปื้อนในอ่างไม่ออก Schindler's List (1993) | What are you using, Lisiek ? | แกใช้อะไรขัด Schindler's List (1993) | They're essential ! Essential girls ! [ Sobbing, Gasping ] | นิ้วเล็กๆนี่ใช้ขัดรูเบ้าปลอกกระสุน Schindler's List (1993) | Would all passengers fasten their seat belts as we're about to make... | พวกเรากำลังจะไป รัฐโอเรกอน ที่เกิดเหตุ เวลา 8 โมงเช้า (เสียงนักบิน) # เรียนท่านผู้โดยสาร กรุณารัดเข็มขัดนิรภัยด้วย... Deep Throat (1993) | I don't understand. - Someone at a higher level of power. | ..แต่บางคน ขัดขวางหนทาง ที่ผมจะเข้าถึงข้อมูล Deep Throat (1993) | They've jammed the lock. | เขาขัดล็อกเอาไว้ Junior (1994) | - l'm looking for any... cryogenic disruption to the D.N.A. footprints. | - ด็อกเตอร์เฮซ ให้ช่วยอะไรมั้ย - ฉันกำลังตรวจสอบ ดูว่าจะมีอะไรมาขัดขวางการบ่งบอก ดี เอ็น เอ บ้างไหม Junior (1994) | - wheezing-- | - หายใจขัด Junior (1994) | I'm sorry if I interrupted. | ฉันขอโทษที่มาขัดจังหวะ Junior (1994) | - It's just against the rules. | - มันเป็นเพียงขัดกับกฎระเบียบ Pulp Fiction (1994) | One, two, buckle the shoes Three, four, get out on the floor | หนึ่งสองหัวเข็มขัดรองเท้าสามสี่ได้รับการออกบนพื้น Pulp Fiction (1994) | Well, it's one, two Buckle the shoes | ดีก็หนึ่งสองหัวเข็มขัดรองเท้า Pulp Fiction (1994) | Faster... and stop crossing your feet. | ปีนขึ้นเร็วเท้าอย่าขัดกัน Rapa Nui (1994) | It's called a rock blanket. It's for shaping and polishing rocks. | มันเรียกว่าผ้าห่มหิน มันสำหรับการสร้างและขัดหิน The Shawshank Redemption (1994) | It was the same reason he spent years shaping and polishing those rocks. | มันเป็นเหตุผลเดียวกับที่เขาใช้เวลาหลายปีการสร้างและขัดหินเหล่านั้น The Shawshank Redemption (1994) | May I interject? | ขออาตมาขัดนะ โยม Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | -How hard do ya scrub? | วิธีการที่ยากไม่ขัด ya? Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | You douse and you souse Rub and you sсrub | คุณดับและกดน้ำ และคุณถูขัด Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | I'll strap you in. | ผมจะรัดเข็มขัดให้ The Great Dictator (1940) | Belt too tight. | เข็มขัดมันรู้สึกรัด The Great Dictator (1940) | "We must tighten our belts." | "เราจะต้องรัดเข็มขัดของเราให้แน่น" The Great Dictator (1940) | - So what's the big deal? - Buckle up. | ไม่เห็นยากอะไรเลย รัดเข็มขัด Jumanji (1995) | The rhythm of production will be affected. | สายพานการผลิต อาจถูกขัดจังหวะ The Great Dictator (1940) | Not yet. He's polishing a bald man's head. | ยังเลย เขากำลังขัดเงา หัวเหม่งอยู่ The Great Dictator (1940) | You're a double-dyed democrat! | แกมันขัดต่อคำปฏิญาณ The Great Dictator (1940) | The whole world will know we're fighting! | ทั่วทั้งโลกจะรู้ว่าเราขัดแย้งกัน The Great Dictator (1940) | Wouldn't that rather defeat the purpose? | ฟังดูไม่ขัดกับวัตถุประสงค์เหรอครับ Rebecca (1940) | Giles, you're very much in the way here. Go somewhere else. | ไจลส์คุณนี่ขัดคอเสียจริง ไปที่อื่นไป Rebecca (1940) | Oh, yes. Probably the door jammed, and she couldn't get on deck again. | ครับ แล้วเปิดประตูก็คงจะติดขัด หล่อนเลยออกมาที่ดาดฟ้าเรือไม่ได้ Rebecca (1940) | Take off that pistol belt. | ถอดเข็มขัดปืนออก The Good, the Bad and the Ugly (1966) | - Good lad. Is that a linear belt? | คือว่าเข็มขัดเชิงเส้น? How I Won the War (1967) | No, but we can put you where your decision might prove fatal. | ไม่มี แต่เราสามารถทำให้คุณที่ การตัดสินใจของคุณ อาจพิสูจน์ร้ายแรง ชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการจราจรติดขัด บางคนที่มีผมกับมัน How I Won the War (1967) | Enjoying the lines ? Need some shoe polish ? | เอายาขัดรองเท้ามั้ย Schindler's List (1993) | He's not an officer, for all his voice and his linear belt. | สำหรับเสียงของเขาและเข็มขัด เชิงเส้นของเขา ดังนั้นเขาไม่อาจทำให้การกล่าว สุนทรพจน์ How I Won the War (1967) | -Only for my principles. | มันขัดอุดมการณ์ของฉันนี่ Beneath the Planet of the Apes (1970) | He's a metal polisher. | เขาเป็นช่างขัดโลหะ Schindler's List (1993) | Especially since your interests don't conflict with mine. Thank you. | โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ความสนใจของคุณไม่ขัดแย้งกับเหมือง ขอบคุณ The Godfather (1972) | Governor, may I disturb you for a moment, sir? | - ผู้ว่าฯ ขอผมขัดจังหวะเดี๋ยว - มีอะไร Blazing Saddles (1974) | I'm a metal polisher. | ฉันเป็นช่างขัดโลหะ Schindler's List (1993) | All right, Commissioner, fasten your safety belt! | เอาล่ะ ท่านผู้มีเกียรติ รัดเข็มขัดนิรภัยด้วย! Jaws (1975) |
| หินขัด | [hin khat] (n, exp) EN: polished stone FR: pierre polie [ f ] | หัวเข็มขัด | [hūa khemkhat] (n) EN: buckle FR: boucle (de ceinture/ceinturon) [ f ] | จงใจขัดคำสั่งศาล | [jongjai khat khamsang sān] (v, exp) EN: disobey a court order | แก้ขัด | [kaēkhat] (v) EN: use as a makeshift ; make do with ; put up with FR: dépanner ; tirer d'embarras | การจราจรติดขัด | [kān jarājøn titkhat] (n, exp) EN: traffic jam FR: embouteillage [ m ] | การจงใจขัดคำสั่งศาล | [kān jongjai khat khamsang sān] (n, exp) EN: contumacy | การขัดกัน | [kān khat kan] (n, exp) EN: confliction ; conflict FR: conflit [ m ] | การขัดกันของกฎหมาย | [kān khat kan khøng kotmāi] (n, exp) EN: conflict of laws FR: conflit de lois [ m ] | การขัดขวาง | [kān khatkhwāng] (n) EN: hindrance ; obstruction FR: obstacle [ m ] | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ | [kān khatkhwāng jaonāthī tamrūat] (n, exp) EN: obstruction of a police officer | การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม | [kān khatkhwāng krabūankān yutitham] (n, exp) EN: obstruction of justice FR: obstruction à la justice [ f ] | การขัดถู | [kān khatthū] (n) EN: abrasion [ f ] FR: abrasion [ f ] | ขัด | [khat] (v) EN: scrub ; polish ; wipe ; rub ; burnish ; scrub off ; scrape FR: récurer ; polir ; astiquer | ขัด | [khat] (v) EN: fasten ; attach ; bind FR: attacher | ขัด | [khat] (v) EN: block ; obstruct ; hinder ; stop ; prevent ; create difficulties ; impede ; clog ; chock FR: obstruer ; empêcher ; bloquer ; entraver ; s'opposer ; arrêter ; boucher | ขัด | [khat] (v) EN: oppose ; go against ; deny ; disobey ; violate ; be opposed to ; be in contrast to FR: s'opposer ; aller à l'encontre de ; désobéir ; refuser | ขัดเบา | [khatbao] (v) EN: suffer retention of urine ; be unable to urine | ขัดกัน | [khat kan] (v, exp) EN: conflict FR: s'opposer | ขัดกับ | [khat kap] (adj) EN: incompatible ; contrary to | ขัดใจ | [khatjai] (v) EN: be offended ; offend ; dissatisfy ; displease FR: être offensé ; être outragé ; offenser ; déplaire | ขัดจังหวะ | [khatjangwa] (v) EN: interrupt ; break FR: s'interposer ; interrompre | ขัดกัน | [khat kan] (v, exp) EN: conflict ; contradict FR: contredire | ขัดกัน | [khat kan] (adj) FR: contraire ; contradictoire | ขัดกับ | [khat kap] (x) FR: contraire à ; anti~ | ขัดคำสั่ง | [khat khamsang] (v, exp) EN: disobey an order FR: refuser un ordre ; désobéir aux injonctions | ขัดขืน | [khatkheūn] (v) EN: defy ; resist order ; disobey ; rebel ; prevent ; resist ; hinder FR: contrevenir ; désobéir | ขัดคอ | [khatkhø] (v) EN: interrupt ; break FR: contrarier ; contredire | ขัดข้อง | [khatkhøng] (v) EN: object ; dissent ; have objections FR: objecter ; opposer | ขัดขวาง | [khatkhwāng] (v) EN: obstruct ; stop ; impede ; block ; thwart FR: empêcher ; entraver ; obstruer ; bloquer | ขัดมัน | [khat man] (v, exp) EN: polish ; wax FR: cirer ; vernir | ขัดเงา | [khat-ngao] (v) EN: polish ; burnish ; furbish ; shine ; brighten ; wax FR: polir ; faire briller ; cirer | ขัดพื้น | [khat pheūn] (v, exp) EN: scrub the floors FR: récurer le sol | ขัดพื้นให้สะอาด | [khat pheūn hai sa-āt] (v, exp) EN: scrub the foor FR: récurer le sol | ขัดรองเท้า | [khat røngthāo] (v, exp) EN: polish the shoes ; shine the shoes FR: cirer les chaussures | ขัดสี | [khat sī] (v) EN: mill ; grind or crush in a mill FR: moudre | ขัดสี | [khat sī] (v) EN: scrub ; rub ; scour | ขัดสน | [khatson] (v) EN: be in need ; lack ; be short ; be scanty FR: manquer de ; être dans le besoin | ขัดตา | [khattā] (v) EN: be unpleasant to look at ; be offensive to the eye ; be an eyesore FR: être déplaisant à la vue | ขัดตาทัพ | [khattāthap] (v) EN: oppose for a time | ขัดถู | [khatthū] (v) EN: polish ; burnish ; wipe ; scrub ; rub FR: récurer ; polir ; astiquer | ขัดแย้ง | [khatyaēng] (v) EN: oppose ; contradict ; disagree ; resist ; withstand ; be in conflict FR: contredire ; contester ; s'opposer | ขัดแย้งกับกฎหมาย | [khatyaēng kap kotmāi] (v, exp) EN: come into collision with the law ; be against the law | ขัดแย้งกัน | [khatyaēng kan] (v, exp) FR: être en désaccord ; être en opposition | ขยายเข็มขัด | [khayāi khemkhat] (v, exp) EN: loosen the belt FR: desserrer la ceinture | เข็มขัด | [khemkhat] (n) EN: belt FR: ceinture [ f ] | เข็มขัดนิรภัย | [khemkhat niraphai] (n, exp) EN: seat belt ; safety belt FR: ceinture de sécurité [ f ] | ข้อขัดใจ | [khø khatjai] (n, exp) FR: offense [ f ] ; outrage [ m ] | ข้อขัดข้อง | [khø khatkhøng] (n, exp) EN: objection ; dissent ; obstacle ; hindrance ; trouble ; problems FR: objection [ f ] | ข้อขัดขวาง | [khø khatkhwāng] (n, exp) EN: obstacle ; complication ; objections | ข้อขัดแย้ง | [khø khatyaēng] (n, exp) EN: matter in contention ; point of contention ; matter in dispute ; disagreement |
| workaround | (n, jargon) วิธีแก้แบบขัดตาทัพ | civil disobedience | (n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม | gridlock | (vi,, n) ติดขัด, แออัด, รถติด เช่น On Friday, a gridlocked intersection, blaring horns, and harsh looks resulted from drivers jockeying to merge from two lanes into one for most of the day., See also: traffic jam, Syn. pack | dyslacxia | (n) โรคดิสเล็กเซีย คือ ความบกพร่องในการอ่าน มีปัญหาในการอ่าน อ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง อ่านไม่คล่อง สะกดคำติดขัด ผสมคำไม่ได้ หรืออ่านไม่ได้เลย โดยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของเส้นประสาท | cyber crime | (n) [ cybercrime; cyber-crime; computer crime ] อาชญากรรมไซเบอร์, อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ๑. การกระทำผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือ เช่น ทำลาย เปลี่ยนแปลง หรือขโมยข้อมูล ๒. การทำให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่าย ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทํางานตามปรกติได้ [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] |
| abrade | (vt) ขัด, See also: ขัดถู, Syn. scrub, buff, burnish | abrasive | (n) สารขัด, See also: ผงขัด, Syn. polisher, grinder | against | (prep) ดูขัดแย้งกับ, See also: ดูขัดกับ | against | (prep) ฝืน, See also: ฝ่าฝืน, ขัด, ตรงกันข้ามกับ | angry | (adj) โกรธ, See also: โมโห, เดือด, แค้น, โกรธเคือง, ขุ่นเคือง, ขุ่นข้อง, ขัดเคือง, Syn. enraged, furious, irate, Ant. calm, pleased, restrained | antithesis | (n) การใช้ถ้อยคำขัดแย้งกัน | awkward | (adj) งุ่มง่าม, See also: ติดขัด, ที่ดูไม่คล่องแคล่ว, Syn. clumsy, inept, ungraceful, unskillful | balk | (vi) ขัดขวาง, See also: คัดค้าน, ต้านทาน, หยุดยั้ง, Syn. refuse | bar | (vt) สะกัดกั้น, See also: ขัดขวาง, ต่อต้าน | bar | (vt) ขัดขวาง | belt | (n) เข็มขัด, See also: สายคาดเอว | belt | (vt) คาดเข็มขัด, See also: ใช้สายคาดผูก, Syn. fasten | belt | (vt) ฟาด (ไม่เป็นทางการ), See also: โบยด้วยเข็มขัด, ใช้เข็มขัดตี หวด, โบย, Syn. slap, thump | belted | (adj) ซึ่งคาดเข็มขัด | blockade | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น | blockage | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น, Syn. obstruction | bottleneck | (n) ถนนส่วนที่มีการจราจรติดขัด | break | (vt) ละเมิด, See also: ฝ่า, ฝ่าฝืน, ขัดขืน, ล่วงละเมิด, Syn. disobey | buckle | (n) หัวเข็มขัด | buckle | (vt) ทำให้แน่นด้วยวัสดุคล้ายหัวเข็มขัด, Syn. fasten | buckle | (vi) รัดเข็มขัด | buff | (vt) การขัดเพื่อทำให้พื้นผิวนุ่ม | buff | (vt) ขัดให้เป็นเงา, Syn. shine | buffer | (n) เครื่องขัดเงา | bumbag | (n) กระเป๋าเล็กติดที่เข็มขัดและสวมรอบเอว, See also: fanny pack | burnish | (n) การขัดเงา | burnish | (vt) ขัด, See also: ขัดเงา, ขัดให้วาว, Syn. polish | bar from | (phrv) ห้าม, See also: ขัดขวาง, ห้ามเข้า | barge in | (phrv) ขัดจังหวะอย่างไม่สุภาพ (คำไม่เป็นทางการ) | barge into | (phrv) ขัดคอ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ขัดจังหวะ การพูด | be against | (phrv) ทำผิดต่อ, See also: ปฏิบัติขัดแย้งกับ, Syn. go against | be out | (phrv) หยุดทำงาน (เพราะขัดแย้ง), See also: หยุดงานประท้วง, Syn. bring out | be up against | (phrv) ขัดแย้งกับ, See also: มีปัญหากับ, Syn. bring up against, come up against | belt up | (phrv) รัดเข็มขัด, See also: คาดเข็มขัด, Syn. buckle up, strap in | break in | (phrv) ขัดจังหวะ, Syn. burst in, cut in | break in on | (phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on | break in upon | (phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on | break into | (phrv) ขัดจังหวะ | buckle up | (phrv) รัดเข็มขัด | bung in | (phrv) ขัดจังหวะ (คำไม่เป็นทางการ), See also: พูดแทรก | burst in on | (phrv) รีบขัดจังหวะ, Syn. break in on | butt in | (phrv) พูดขัดจังหวะ | casus belli | (n) เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดสงคราม, See also: ต้นเหตุของความขัดแย้ง | chafe | (n) ความร้อนที่เกิดจากการขัดถู, Syn. heat | chafe | (vt) ถลอกจากการขัดถู | chafe | (vi) ถลอกจากการขัดถู | chafe | (n) รอยถลอกที่เกิดจาการขัดถู | choke | (vi) สำลัก, See also: หายใจขัด, Syn. stifle, suffocate, smother | clash | (vt) ขัดแย้ง | clash | (vi) ขัดแย้ง, Syn. conflict, fail to harmonize |
| abradant | (อะเบรด' ดันท) n. สารขัดถู | abrade | (อะเบรด') vt. ขัด, ถู, ชะ, ครูด, Syn. erode | abrasion | (อะเบร' เชิน) n. บริเวณถลอก, รอยถลอก, รอยขัด, รอยสึก, การถลอก (ขัด, สึก) | abrasive | (อะเบร' ซิฟว) n., adj. สารหรือสิ่งที่ใช้ขัดหรือถูหรือกัดกร่อน, ซึ่งกัดกร่อน | acaroid resin | ยางไม้สีแดงหรือเหลืองที่ใช้ในการทำยาขัดหรือ Lacquers (accroides gum) | age of consent | ขัดอายุอย่างต่ำที่หญิงยินยอมชายได้ในการแต่งงานหรือร่วมเพศ | agon | (แอก' ออน) n., (pl. agones) การแข่งขันที่มีการให้รางวัล, ความขัดแย้ง | antinomy | (แอนทิน' โนมี) n. ความขัดแย้งกันระหว่างกฎหรือหลักการ, คำพูดหรือข้อความที่ขัดกันเอง. -antinoic (al) adj., (contradiction) | argumentative | (อาร์กิวเมนเท'ทิฟว) adj. ชอบโต้เถียง, เกี่ยวกับโต้เถียง, ขัดแย้ง, Syn. disputatious, contentious, Ant. amenable | backing store | หน่วยเก็บหนุนหน่วยเก็บข้อมูล ที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บหนุนนี้แทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยเก็บความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backup storage | backup storage | หน่วยเก็บสำรอง <คำแปล>หมายถึง หน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บสำรองแทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backing store | balk | (บอล์ค) vi., vt. หยุด, ชะงัก, ขัดขวาง, คัดค้าน n. การหยุดยั้ง, ความพ่ายแพ้, ความผิดหวัง, ที่ดินที่ไม่ได้ไถ, ไม้ขนาดใหญ่สำหรับก่อสร้าง, See also: balker n. ดูbalk, Syn. frustrate | belie | (บิไล') { belied, belieing, belies } vt. แสดงให้เห็นว่าไม่จริง, ขัดแย้ง, ไม่ตรงกับ, ใส่ความ, ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด, See also: belier n., Syn. disguise | belt | (เบลทฺ) { belted, belting, belts } n. เข็มขัด, สายคาดเอว, สาย, ทางโค้ง, ทางรถไฟฟ้า, ดื่มอึกใหญ่, การโจมตี, แนว, เทือก vt. รัดเข็มขัด, คาดสาย, ใช้สายคาด, ใช้เข็มขัดหรือสายคาดตี, ตี, ร้อง (เพลง) เสียงดัง, Syn. girdle | blanket | (แบลง'คิท) n. ผ้าห่ม, ผ้าห่มขนสัตว์, ผ้าขนสัตว์, ผ้าไหมพรม, พรม, แผ่นชั้น vt. ห่ม, คลุม, ขัดขวาง, ยุ่ง, ดับไฟ, ติดลม adj. ซึ่งปกคลุม, Syn. coverlet, cover, robe | block | (บลอค) { blocked, blocking, blocks } n. ท่อนไม้, ท่อนหิน, ก้อนใหญ่, ชิ้นใหญ่, ห่อดินระเบิด, แท่นโลหะ, เขียง, แม่พิมพ์, ลูกรอก, ตะแลงแกง, ตึกที่แบ่งออกเป็นส่วน, เครื่องกีดขวาง, ทั้งแถว, ทั้งก้อน, ทั้งปีก, ตึกใหญ่, คฤหาสน์ใหญ่, อุปสรรค, การขัดขวาง, เขตหนึ่งของตัวเมือง, เขตห่างไกลท | blockade | (บลอค'เคด) n. การปิดล้อม, การขัดขวาง vt. ปิดล้อม, Syn. obstruction | blockage | (บลอค'คิจฺ) n. การอุด, การปิดล้อม, การขัดขวาง, ภาวะที่ถูกปิด, ภาวะที่ถูกขัดขวาง | blooey | (บลู'อี) adj. ติดขัด, มีข้อเสีย, ผิดพลาด | blooie | (บลู'อี) adj. ติดขัด, มีข้อเสีย, ผิดพลาด | boot | (บูท) { booted, booting, boots } n. รองเท้าหุ้มข้อเท้า, รองเท้าบู๊ท, เครื่องหุ้มคล้ายปลอก, ฝาครอบป้องกัน, ปลอกหุ้มเบาะ, โครงรถ, เครื่องรัดทรมานข้อเท้า, การเตะ, การถีบ, การปลดออก vt. สวมรองเท้าบู๊ท, เตะ, ถีบ เริ่มต้นใหม่เริ่มเครื่องใหม่หมายถึง การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เริ่มต้นทำงาน (ว่ากันว่า คำ "boot" นี้ มาจากคำว่า "bootstrap" เบื้องหลังการใช้คำ ๆ นี้ อยู่ที่การขู่ว่า ถ้าไม่ทำงานแล้วละก็ โดนรองเท้าบู๊ตแน่ ๆ เลย) การเริ่มเครื่องใหม่นั้น โดยปกติ เมื่อกดสวิตช์เปิดแล้ว คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นทำงานด้วยการอ่านจานบันทึกในหน่วยบันทึก A: ถ้าในหน่วยบันทึก A: ไม่มีจานบันทึก ก็จะไปอ่านจานบันทึก C: (จะไม่สนใจหน่วยบันทึก B: เลย) ถ้ามีจานบันทึกใน A: จานบันทึกนั้นจะต้องมีคำสั่งระบบ (แฟ้มข้อมูล command.com) อยู่ คอมพิวเตอร์จึงจะเริ่มต้นทำงานต่อไปได้ ถ้าจานบันทึกใน A: ไม่มีคำสั่งระบบ จะมีรายงานบนจอภาพว่าเป็น "non-system disk" ในกรณีเช่นนี้ต้องเปลี่ยน แผ่น A: หรือดึงแผ่น A: ออก แล้วเริ่มต้นใหม่จาก หน่วยบันทึก C: (ถ้ามี) อนึ่ง การเริ่มเครื่องใหม่นั้น ทำได้ 2 วิธี วิธีแรกเริ่มด้วยการเปิดสวิตช์ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ได้อธิบายแล้ว เรียกว่า "cold boot" อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เมื่อมีการเปิดเครื่องอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเริ่มเครื่องใหม่ หรือเครื่องเกิดขัดข้องหรือค้าง (hang) ให้ กดแป้น CTRL +ALT +DEL เรียกว่า "warm boot" | boots | (บูทช) n. คนขัดรองเท้า -pl. boots | bottleneck | (บอท'เทิลเนค) n. ทางเข้าที่แคบสถานที่หรือระยะเวลาที่อยู่ในภาวะลำบาก vt. ขัดขวาง vt. อุดตัน, อยู่ในภาวะที่ลำบาก | breathless | adj. ขาดลมหายใจ, ขาดใจตาย, หอบ, ไม่มีลม, ไม่เคลื่อนไหว, อยู่นิ่ง, ทำให้หายใจขัด, See also: breathlessness n. ดูbreathless | buckle | (บัค'เคิล) n. หัวเข็มขัด, กระดุม vt. กลัดแน่น, รัดแน่น, ติดแน่น vt. รัดเข็มขัด, ติดกระดุม, งอ, โค้ง, ยอม, ยอมจำนน, Syn. clip | buffer | (บัฟ'เฟอะ) { buffered, buffering, buffers } n. ตัวกันชน, สารที่สามารถทำให้ทั้งกรดและด่างเป็นกลาง, เครื่องขัดเงา, คนงานขัดเงา vt. ใส่ตัวทำให้กรดหรือด่างเป็นกลาง, ผ่อนคลาย, ปกป้อง, กันชน, Syn. cushion ที่พัก ข้อมูล กันชนบัฟเฟอร์ในกรณีที่อัตราความเร็วในการทำงานของอุปกรณ์บางอย่างมีความเร็วไม่เท่ากัน เป็นต้นว่า เครื่องพิมพ์และหน่วยประมวลผลซึ่งทำงานด้วยความเร็วที่แตกต่างกันมาก คอมพิวเตอร์ประมวลผลเสร็จแล้วจึงต้องส่งผลมารออยู่ที่บัฟเฟอร์ก่อน เพราะเครื่องพิมพ์จะใช้เวลามากกว่าในการพิมพ์ พิมพ์ตามไม่ทัน เราจะพบบ่อย ๆ ว่า แม้ว่าจะสั่งให้หยุดพิมพ์ แต่เครื่องพิมพ์จะไม่หยุดทันที ทั้งนี้เป็นเพราะมีข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งไปรออยู่ที่บัฟเฟอร์แล้ว เครื่องพิมพ์จะต้องพิมพ์จนหมดข้อมูลในบัฟเฟอร์นี้ จึงจะหยุด คอมพิวเตอร์นั้นจะมีที่พักข้อมูลทั้งเมื่อรับข้อมูลเข้าและเมื่อส่งข้อมูลออก อันที่จริง บัฟเฟอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยความจำนั่นเอง | burnish | (เบอร์'นิ?) { burnished, burnishing, burnishes } vt. ขัดเงา, ขัดให้วาว vi. เป็นวาว. n. ความเป็นวาว, ความแวววาว., See also: burnisher n. ดูburnish burnishment n. ดูburnish | buts | (บัทซ) n., pl. ความขัดข้อง, การปฏิเสธ | cabochon | n. หินมีค่าขัดเป็นวาวแต่ยังไม่ได้เจียระไน | card jam | บัตรติดขัดหมายถึง การที่บัตรเกิดสับสนขึ้นภายในเครื่องอ่านบัตร (card reader) ซึ่งอาจเกิดจากการเจาะไม่ตรงรู บัตรยับหรือขาด เมื่อเครื่องอ่านบัตรอ่านมาถึงบัตรนั้นก็จะหยุด เพราะอ่านต่อไปไม่ได้ ดู card reader ประกอบ | cd | abbr. ธาตุ cadmium, แผ่นซีดี ย่อมาจาก compact disk แปลตามตัวอักษรว่า จานบันทึกอัดแน่น มีลักษณะเป็นแผ่นจานกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ซม. ใช้เป็นที่เก็บข้อมูล จานบันทึกนี้มีความจุสูงมาก (ประมาณ 600ล้านตัวอักษร) ปัจจุบันมีอุปกรณ์ใช้อ่านข้อมูลจากจานบันทึกนี้ได้ แต่การบันทึกข้อมูลลง ยังทำไม่ได้ง่าย ๆ ต้องมีเครื่องพิเศษเฉพาะ บันทึกได้ทั้งข้อมูลธรรมดา เพลง ภาพยนตร์ ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มาก เพราะราคาถูก ความจุสูง แต่ยังติดขัดในปัญหาบางประการในเรื่องการบันทึกข้อมูลลง ดู CD ROM ประกอบ 2. ย่อมาจากคำ Change Directory เป็นคำสั่งในระบบดอสที่สั่งให้เข้าไปในสารบบ (directory) ใดสารบบหนึ่ง หรือออกจากสารบบใดสารบบหนึ่ง เช่น C:/>CD <ชื่อสารบบ> \ (หมายความว่าให้เข้าไปในสารบบชื่อนั้น) C:> CD\ (หมายความว่า ให้ออกจากสารบบที่อยู่) | challenge | (แชล'ลินจฺ) v., n. (การ) ท้า, ท้าทาย, ท้าดวล, ขอประลองฝีมือ, เรียกร้อง, แสดงข้อคิดเห็นขัดแย้ง | chape | (เชพ) n. หัวหุ้มโลหะ, ปลอกหนังที่เคลื่อนที่ได้ของสายหนังเข็มขัด | chintz | (ชินทฺซ) n. สิ่งทอผ้าฝ้ายที่มีลายดอกขัดมัน | choke | (โชค) vt. ทำให้หายใจขัด, ทำให้สำลัก, สกัด, กลั้น, จุกแน่น, ดับ, ห้าม, ยับยั้ง vi. สำลัก, ถูกอุด, ถูกสกัด, ตัน -n. การสำลัก, การอุดตัน, See also: choker n., Syn. garrotte | cincture | (ซิง'เซอะ) n. สายเข็มขัด, สายรัด, สายรัดเอว, การโอบ | clash | (แคล?) { clashed, clashing, clashes } vi. เสียงดังกระทบกัน, ปะทะโครม, ขัดแย้ง vt. ชนเสียงดัง n. เสียงดังปะทะ, ความขัดแย้ง, การต่อสู้การต่อต้าน, สงคราม | clasp | (คลาสพฺ) { clasped, clasping, clasps } n. เข็มขัด, กลัด, ขอเกี่ยว, กระดุม, ที่หนีบ, การโอดกอด, การจับมือกัน, การประสานกัน, วงแขน, การพันกันแน่น vt. กลัด, กลัดกระดุม, กอด, กำหนีบ, ยึดติด | clog | (คลอก) { clogged, clogging, clogs } v. ขัดขวาง, เต็มไปด้วย, อุดตัน, ติดเกาะ, ติดกัน, n. สิ่งที่ขัดขวาง, อุปสรรค, รองเท้าส้นไม้., See also: clogginess n. ดูclog cloggy adj. ดูclog, Syn. choke | clot | (คลอท) n. ก้อนเลือดที่แข็งตัว, ก้อนเล็ก ๆ , กลุ่มเล็ก ๆ , คนโง่. vi. จับตัวเป็นก้อน vt. ทำให้จับตัวเป็นก้อน, ปกคลุมไปด้วยก้อนเล็ก ๆ , ทำให้หยุด, ขัดขวาง., See also: clotty adj., Syn. lump | collide | (คะไลดฺ') { collided, colliding, collides } vi. ปะทะกันโครม, ชนกันโครม, ขัดแย้ง, Syn. smash -Conf. knock | collision | (คะลิส'เชิน) n. การปะทะกันโครม, ความขัดแย้ง, , Syn. clash | combat | (v. คัมแบท', n. คอม'แบท) { combated, combating, combats } vt. ต่อสู้, ต่อต้าน, รบกับ vi. ต่อสู้ n. การรบ, การต่อสู้, ความขัดแย้ง, Syn. fight | conflict | (คอน'ฟลิคทฺ) n. การต่อสู้, การเป็นปรปักษ์, การขัดแย้ง, การทะเลาะ, สงคราม, การสู้รบ. vi. ปะทะ, ต่อสู้, ทะเลาะ, See also: conflictingly adv. confliction n. ดูconflict conflictive adj. ดูconflict conflictory adj. ดูconflict คำที่มีความหมายเหมือ | conflict of interest | n. การขัดผลประโยชน์ | conflict of laws | n. การขัดกันของกฎหมาย | contestation | (คอนเทสเท'เชิน) n. การแข่งขัน, ความขัดแย้ง, การโต้เถียง | contradiction | (คอนทระดิค'เชิน) n. การโต้แย้ง, การเถียง, ความขัดแย้ง, ความไม่ลงรอยกัน | contradictory | (คอนทระดิค'ทะรี) adj. ซึ่งขัดแย้ง, ซึ่งไม่ลงรอยกัน, ซึ่งตรงกันข้าม n. ข้อเสนอที่ขัดแย้งกับข้อเสนออื่น. | contraindicate | vt. (ยาชนิดหนึ่ง) ขัดแย้งกับ (ยาอีกชนิดหนึ่ง) โดยทำให้เกิดอาการได้, See also: contraindication n. |
| abrade | (vt) ขูด, ขัด, ถู, ชะ, ครูด, ถลอก | abrasive | (n) สิ่งที่ใช้ขัดถู | adversity | (n) ความขัดสน, ความทุกข์ยาก, ภัยพิบัติ, ความเคราะห์ร้าย | argumentative | (adj) ชอบโต้แย้ง, ชอบโต้เถียง, ชอบเถียง, ชอบขัดแย้ง | attrition | (n) การล้างผลาญ, การขัดสี, การสึกกร่อน | belt | (n) เข็มขัด, สายคาดเอว, แนว, ทิว, เขต, สายพาน | belt | (vt) รัดเข็มขัด | blacking | (n) ยาขัดสีดำ | block | (vt) สกัด, กีดกัน, ขัดขวาง, ต้าน, ปิดล้อม | blockade | (n) การปิดล้อม, การกั้นด่าน, การขัดขวาง | blockade | (vt) กีดกั้น, ปิดล้อม, กั้นด่าน, ขัดขวาง | blockage | (n) การปิดล้อม, การอุด, การขัดขวาง | bootblack | (n) คนขัดรองเท้า | buckle | (n) ขอ, หัวเข็มขัด, ห่วง, กระดุม | buckle | (vt) งอ, โค้ง, คาด(พุง), ผูก(อาน), ติด(กระดุม), รัด(เข็มขัด) | choke | (vt) ทำให้สำลัก, ทำให้หายใจขัด, ทำให้หายใจไม่ออก | cincture | (n) เข็มขัด, สายรัด, สายคาด | cincture | (vt) รัดเข็มขัด | clash | (n) การทะเลาะ, การปะทะ, การขัดแย้ง | clash | (vt) ปะทะกัน, ชนกัน, กระทบกัน, ขัดแย้งกัน, โต้แย้งกัน, ทะเลาะกัน | clog | (n) เครื่องถ่วง, สิ่งที่ขัดขวาง, อุปสรรค | clog | (vt) ขัดขวาง, ถ่วง, ทำให้ตัน, อุด, กีดขวาง | collide | (vt) ชน, กระแทก, ปะทะกัน, ขัดแย้ง, ไม่เห็นด้วย | collision | (n) การปะทะกัน, การกระทบกัน, ความขัดแย้ง | combat | (n) การต่อสู้, การต่อต้าน, การรบ, ความขัดแย้ง | compliant | (adj) ยินยอม, ซึ่งยอมตาม, ไม่ขัดขืน, ว่าง่าย, ซึ่งเชื่อฟัง | comply | (vi) ยินยอม, อนุโลม, เชื่อฟัง, ไม่ขัดขืน, ว่าง่าย | conflict | (vt) ตรงกันข้าม, ปะทะ, ทะเลาะ, ขัดกัน | contradictory | (adj) ซึ่งตรงกันข้าม, ซึ่งขัดแย้ง, ซึ่งไม่ลงรอยกัน | contrariety | (n) สิ่งที่ขัดกัน, ความตรงกันข้าม | contrary | (n) ความขัดกัน, ความตรงกันข้าม, ความดื้อรั้น | controversy | (n) ความขัดแย้ง, การโต้แย้ง, การโต้เถียง, การเถียง, การโต้คารม | counteract | (vt) ตอบโต้, ขัดขวาง, ถ่วง, แก้, ต่อต้าน | cross | (vt) ข้าม, กากบาท, ขีดฆ่า, ผสมข้ามพันธุ์, ไขว้, ขัดขวาง, ต่อต้าน | CROSS-cross-legged | (adj) ซึ่งนั่งไขว้ขา, ซึ่งนั่งไขว่ห้าง, ซึ่งนั่งขัดสมาธิ | debar | (vt) กั้น, กีดกั้น, ขัดขวาง, ห้าม, ยับยั้ง | defiance | (n) การยั่ว, การขัดขืน, การท้า, การต่อต้าน | defy | (vt) ท้าทาย, ฝ่าฝืน, ดื้อดึง, ต้านทาน, ขัดขืน, เป็นปรปักษ์ | deter | (vt) ขัดขวาง, กีดกั้น, กีดขวาง, ยับยั้ง, ป้องกัน | difficult | (adj) ยาก, ยุ่งยาก, ลำบาก, มีอุปสรรค, ขัดสน | disobedient | (adj) ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ดื้อแพ่ง, ขัดขืน, ไม่เชื่อฟัง | disobey | (vt) ไม่เชื่อฟัง, ขัดขืน, ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ดื้อแพ่ง | disoblige | (vt) ไม่ยอมตาม, ขัดขืน, ดื้อ | dissension | (n) การทะเลาะ, การวิวาท, ความขัดแย้ง, ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน | dissent | (n) ความขัดแย้ง, ความแตกแยก, ความไม่เห็นด้วย, ความแตกร้าว | dissent | (vi) ไม่เห็นด้วย, คัดค้าน, ขัดแย้ง, แตกร้าว, ทะเลาะ, ไม่ลงรอยกัน | dissenter | (n) ผู้คัดค้าน, ผู้ขัดแย้ง, ผู้ไม่เห็นด้วย | dissidence | (n) ความขัดแย้ง, การไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน | expostulate | (vt) ขัดแย้ง, ทัดทาน, ว่ากล่าว, ตักเตือน, เตือน | expostulation | (n) การขัดแย้ง, การทัดทาน, การว่ากล่าว, การตักเตือน |
| | 障害 | [しょうがい, shougai] (vt) ขัดข้อง, มีปัญหา |
| 故障 | [こしょう, koshou] การชำรุดเสียหาย ความขัดข้อง สิ่งกีดกันหรือปัญหาที่ทำให้หยุดชะงัก | 矛盾 | [むじゅん, mujun] ขัดแย้ง ไปด้วยกันไม่ได้ ขัดกัน | 摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก | 摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก | 摩耗 | [まもう, mamou] (n) การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก | 争い | [あらそい, arasoi] โต้เถียง, ขัดแย้ง, โต้แย้ง, ทะเลาะ |
| 遮る | [さえぎる, saegiru] TH: ขัด EN: to intercept | 磨く | [みがく, migaku] TH: ขัดเงา EN: to polish | 妨げる | [さまたげる, samatageru] TH: ขัดขวาง EN: to prevent | 割込む | [わりこむ, warikomu] TH: แทรก ขัดจังหวะ ขัดคอ EN: to interrupt |
| Es ist doch gut. | มันก็ดีออกนี่ หรือ แต่มันดีนะ(ดีจริง ไม่ประชด), doch ใช้เสริมเพื่อขัดกับประโยคหรือบทสนทนาก่อนหน้านั้น อาจแปลว่า แต่ | jedoch | (konj) แต่ (เป็นคำที่ไพเราะกว่า aber มักใช้ในภาษาเขียน ใช้บ่งสิ่งที่ขัดแย้งกัน) เช่น Er wollte seine Eltern besuchen, tat jedoch nicht. เขาอยากไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้ทำ, See also: doch, Syn. aber | verhindern | (vt) |verhinderte, hat verhindert| ขัดขวาง, ป้องกัน, ยับยั้ง | putzen | (vt) |putzte, hat geputzt| ทำความสะอาด ขัดถู | Kampf | (n) |der, pl. Kämpfe| ความขัดแย้ง, See also: der Konflikt | seltsamerweise | (adv) แปลกที่, ที่ขัดแย้งกัน | Wiederstand leisten | ต่อต้าน, ขัดขวาง, สกัดกั้น, See also: wiederstehen | Panne | (n) |die, pl. Pannen| ข้อผิดพลาดหรือความขัดข้องทางเทคนิค เช่น Bei dem Empfang gab es mehrere Pannen: erst funktionierte das Mikrofon des Redners nicht, und dann kam der Dolmetscher auch noch zu spät. = ระหว่างพิธีต้อนรับมีความขัดข้องทางเทคนิคเกิดขึ้นมากมาย ตอนแรกไมโครโฟนของพิธีกรไม่ทำงาน และล่าม(นักแปล)ยังมาสายอีกด้วย | wachstumhemmend | (adj) ที่ไม่เอื้อ, ยับยั้ง, ขัดขวาง ต่อการเจริญเติบโต, See also: A. wachstumfördernd | wenn | ถ้า, เมื่อ(บ่งเงื่อนไข) เช่น Ich besuche dich wenn du nichts dagegen hast. ฉันจะไปหาเธอถ้าเธอไม่มีอะไรขัดข้องนะ | blockieren | (vt) |blockierte, hat blockiert| ขัดขวาง, See also: durchkreuzen, stören
S. verhindern | reiben | (vt) |rieb, hat gerieben| ขัดถู, ขยี้ เช่น Ich habe mir die Augen gerieben und genau hingeschaut. ฉันขยี้ตาตัวเองแล้วก็มองไปที่นั่นอย่างละเอียดถี่ถ้วน |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |