มวยไทยชิงแชมป์โลก | [sungice] (vt) มวยไทยชิงแชมป์โลก ศึกการแข่งขันมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ การแข่งขัน มวยไทยชิงแชมป์โลก เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีความสำคัญและน่าตื่นเต้นที่สุดในวงการมวยไทย ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันที่เพื่อความเป็นแชมป์ แต่ยังเป็นที่ตกตามพิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมไทย แทงมวยออนไลน์ ในบทความนี้ เราจะสำรวจความมีเกียรติและประวัติศาสตร์ของมวยไทยชิงแชมป์โลก กับความสนุกอันยิ่งใหญ่ของการแข่งขันกีฬาที่ทุกท่านไม่ควรพลาด เว็บมวยออนไลน์ https://007ufa.bet/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/ |
|
| ความสำคัญ | (n) importance, See also: emphasis, significance, Syn. จุดสำคัญ, Example: จุดมุ่งหมายในการสร้างทางรถไฟนั้นต้องมีการพิจารณาถึงประโยชน์และความสำคัญในด้านการคมนาคม การขนส่งและการเศรษฐกิจ | มีความสำคัญ | (v) be significant, See also: be important, Syn. มีความหมาย, Ant. หมดความสำคัญ, หมดความหมาย, Example: ปัจจุบัน การเก็บบันทึกข้อมูลทางด้านคอมพิวเตอร์มีความสำคัญกับมนุษย์มากขึ้น | ใจความสำคัญ | (n) point, See also: gist, substance, essence, core, idea, Example: ถ้าไม่มีเวลาก็อ่านเฉพาะใจความสำคัญของเรื่องก็ได้, Count Unit: ใจความ, เรื่อง, หัวข้อ, Thai Definition: ส่วนสำคัญของเรื่อง | ให้ความสำคัญ | (v) give precedence (to), See also: place importance (on), give priority (to), see (something) as important, Ant. มองข้าม, Example: กฎหมายประมงฉบับใหม่ของจีนให้ความสำคัญกับการทำประมงด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเป็นหลัก, Thai Definition: เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญ | ให้ความสำคัญ | (v) give precedence (to), See also: place importance (on), give priority (to), see (something) as important, Ant. มองข้าม, Example: กฎหมายประมงฉบับใหม่ของจีนให้ความสำคัญกับการทำประมงด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเป็นหลัก, Thai Definition: เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญ | ลำดับความสำคัญ | (n) order of magnitude, Example: เรามีการจดบันทึกข้อมูลตามลำดับความสำคัญ |
| ข้อคัดย่อ | น. ข้อความที่ย่อแต่ใจความสำคัญ. | ค่าตัว | น. ราคาที่กำหนดขึ้นเพื่อซื้อขายทาสในสมัยโบราณ, ต่อมาหมายถึงราคาที่กำหนดขึ้นตามความสำคัญหรือความสามารถของบุคคล. | จุดยุทธศาสตร์ | น. พื้นที่และสถานที่ตั้งที่มีความสำคัญในทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหารทั้งในยามสงบและยามสงคราม. | ดอกจัน | น. เครื่องหมายมีลักษณะรูปกลม ๆ เป็นจัก ๆ ดังนี้ * เขียนไว้ข้างหน้าหรือหลังข้อความ เพื่อให้เป็นที่สังเกตหรือแสดงความสำคัญของคำหรือข้อความนั้น ๆ. | ตัดประเด็น | ก. ตัดข้อความสำคัญบางเรื่องที่หยิบยกขึ้นพิจารณาออก เช่น คดีนี้ตำรวจตัดประเด็นชู้สาวออก. | ทั้งคน | ว. ใช้ประกอบท้ายคำหรือความ เพื่อเน้นให้เห็นความสำคัญของคำหรือความข้างหน้า เช่น แม่ทั้งคน. | โท | ว. สอง, ชั้นที่ ๒ (ใช้เกี่ยวกับลำดับชั้นหรือขั้นของยศ ตำแหน่ง ความสำคัญ หรือ วิทยฐานะ ตํ่ากว่าเอก สูงกว่าตรี) เช่น ร้อยโท ข้าราชการชั้นโท ปริญญาโท | น้อย ๑ | โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่ด้อยความสำคัญหรือเป็นรอง เช่น ครูน้อย ผู้น้อย, แสดงความรู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดู เช่น เณรน้อย เด็กน้อย น้องน้อย สาวน้อย หนูน้อย. | น้ำหนัก | น. ความหนักของสิ่งต่าง ๆ, ความสำคัญ เหตุผล หรือพยานหลักฐาน เป็นต้น ที่ควรแก่การเชื่อถือ หรือที่จูงใจให้เชื่อถือ. | เน้น | ก. ทำให้หนักแน่นเพื่อให้เห็นความสำคัญ (ใช้แก่กริยาพูด) เช่น เน้นถ้อยเน้นคำ, ลงเสียงหนัก เช่น เน้นเสียง, กดให้แน่น เช่น เน้นเหงือก เน้นฟัน. | เนื้อหา | น. ใจความสำคัญ, ข้อสำคัญ, สาระสำคัญ | ไนโตรเจน | น. ธาตุลำดับที่ ๗ สัญลักษณ์ N เป็นอโลหะ ลักษณะเป็นแก๊ส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ไวต่อปฏิกิริยาเคมี มีปรากฏอยู่ประมาณร้อยละ ๘๐ ในบรรยากาศ ธาตุนี้มีความสำคัญยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต โดยเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีนและกรดนิวคลิอิก. | บทคัดย่อ | น. ข้อความที่ย่อแต่ใจความสำคัญของบทความหรืองานวิจัยเป็นต้น. | ประเด็น | น. ข้อความสำคัญของเรื่องที่แยกหยิบยกขึ้นพิจารณา | ปลายแถว | น. คนที่อยู่ท้ายแถว, โดยปริยายหมายถึง ผู้น้อย, ผู้ที่มีความสำคัญน้อย, หางแถว ก็ว่า. | เฝือ ๒ | เคลือบคลุม, ไม่แจ่มแจ้ง, เช่น ข้อความยังเฝืออยู่, หมดความสำคัญ เช่น มากเสียจนเฝือ, บ่อย ๆ หรือซ้ำ ๆ ซาก ๆ จนทำให้หมดความสำคัญหรือหมดความสนใจ เช่น เรื่องนี้พูดกันจนเฝือ. | พาดหัวข่าว | ก. เก็บความสำคัญของข่าว นำมาตีพิมพ์เป็นหัวเรื่องโดยใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ผิดปรกติเพื่อให้เกิดความสนใจ, เรียกข่าวเช่นนั้น ว่า ข่าวพาดหัว. | พิธีสาร | น. ความตกลงระหว่างประเทศอย่างหนึ่ง ได้แก่ ตราสารอันบรรจุไว้ซึ่งความตกลงที่มีความสำคัญรองลงมาจากสนธิสัญญาและอนุสัญญา โดยมากเป็นพิธีสารต่อท้ายหรือแก้ไขเพิ่มเติมสนธิสัญญาหรืออนุสัญญา. | พิพิธภัณฑ์, พิพิธภัณฑสถาน | (พิพิดทะพัน, -พันทะสะถาน) น. สถานที่เก็บรวบรวมและแสดงสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรมหรือด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา และก่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจ. | มองข้าม | ไม่เห็นความสำคัญ เช่น เขาถูกมองข้ามไป. | มือรอง | น. ผู้มีความสำคัญเป็นคนที่ ๒ รองจากมือแรก, คนที่ลงมือทำเป็นคนที่ ๒ รองจากมือต้น. | ยุทธศาสตร์ | ว. ที่มีความสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหาร ทั้งในยามสงบและยามสงคราม เช่น จุดยุทธศาสตร์. | ละครสังคีต | น. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องและพูดบทของตน การร้องเพลงและการพูดมีความสำคัญเท่ากัน ถ้าตัดส่วนใดออกเนื้อเรื่องจะขาดไป ดนตรีประกอบไพเราะ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น เรื่องวิวาหพระสมุท มิกาโด วั่งตี. | วันมาฆบูชา | น. วันเพ็ญเดือน ๓ เป็นวันทำบุญพิเศษทางพระพุทธศาสนาเพื่อระลึกถึงความสำคัญ ๔ ประการ คือ ๑. วันเพ็ญดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ (ดวงจันทร์เดินมาถึงดาวฤกษ์ชื่อ มฆะ ส่วนในปีที่มีอธิกมาสจะตรงกับวันเพ็ญเดือน ๔) ๒. พระสงฆ์ ๑, ๒๕๐ รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ๓. พระสงฆ์ที่มาประชุมกันในวันนั้นล้วนเป็นผู้ที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยพระองค์เอง ซึ่งเรียกการบวชแบบนี้ว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๔. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น, วันจาตุรงคสันนิบาต ก็เรียก. | สรุป, สรูป | (สะหฺรุบ, สะหฺรูบ) ก. ย่อเอาเฉพาะใจความสำคัญของเรื่องเป็นประเด็น ๆ ไป เช่น สรุปข่าว สรุปสถานการณ์, โบราณใช้ว่า สรวป ก็มี. | สังกรประโยค | (สังกะระปฺระโหฺยก, สังกอระปฺระโหฺยก) น. ประโยคใหญ่ที่มีประโยคเล็กตั้งแต่ ๒ ประโยคขึ้นไปมารวมกัน โดยมีประโยคหลักที่มีใจความสำคัญเพียงประโยคเดียว ส่วนประโยคเล็กทำหน้าที่แต่งหรือประกอบประโยคหลัก. | สารัตถ-, สารัตถะ | (สารัดถะ-) น. เนื้อหาหลัก, ใจความสำคัญ, ความคิดสำคัญของเรื่อง. | หัวข้อ | น. ต้นเรื่อง, ส่วนสำคัญของเรื่องที่แยกออกเป็นส่วน ๆ และกำหนดไว้ตอนต้นเรื่อง, ใจความสำคัญ. | หางแถว | น. คนที่อยู่ท้ายแถว, โดยปริยายหมายถึงผู้น้อย, ผู้ที่มีความสำคัญน้อย, ปลายแถว ก็ว่า. | อเนกรรถประโยค | (อะเนกัดถะปฺระโหฺยก) น. ประโยคใหญ่ที่มีใจความสำคัญอย่างน้อย ๒ ใจความมารวมกัน และใจความนั้น ๆ จะต้องมีลักษณะเป็นประโยคโดยมีสันธานเป็นบทเชื่อมหรือละสันธานไว้ในฐานที่เข้าใจ. | อมความ | ก. เก็บใจความสำคัญ, ใช้ถ้อยคำน้อยแต่เก็บความสำคัญไว้ได้มาก |
| | Investment priority | ลำดับความสำคัญในการลงทุน [เศรษฐศาสตร์] | Safety culture | วัฒนธรรมความปลอดภัย, พฤติกรรมขององค์กรและบุคคลในองค์กร ที่สะท้อนการได้รับการปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ทั้งจากการอบรม การเรียนรู้และการถ่ายทอด จนเกิดเป็นนิสัยและเจตคติที่ให้ความสำคัญต่อการระวังป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ผู้ปฏิบัติงานทางนิวเคลียร์และรังสี ย่อมรู้ดีว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ใดบ้างเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น ต้องติดมาตรปริมาณรับรังสี ต้องใช้เครื่องมือหยิบจับสารกัมมันตรังสี มีวัสดุและอุปกรณ์กำบังรังสีที่พอเพียง รวมทั้งการสวมแว่นตาและหน้ากากกันไอระเหย ให้เหมาะสมตามลักษณะของงาน [นิวเคลียร์] | Convention on Wetlands of International Importance Especially as Waterfowl Habitat, 1971 | อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำ (ค.ศ. 1971) [TU Subject Heading] | Mistake (Criminal law) | ความสำคัญผิด (กฎหมายอาญา) [TU Subject Heading] | Mistake (Law) | ความสำคัญผิด [TU Subject Heading] | Communiqué | คำประกาศทางการหรือแถลงการณ์ทางการ ซึ่งรายงานให้ทราบผลของการประชุม หรือการเจรจาเป็นทางการระหว่างเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาล เช่น ประมุขของรัฐ หัวหน้ารัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูต หรือบุคคลอื่นในระดับนั้น คำแถลงการณ์ที่เรียกว่า Communiqué นี้ไม่มีรูปแบบโดยเฉพาะแต่อย่างใด โดยปกติอะไรที่ได้ตกลงกันไว้ในการเจรจาจะบรรจุไว้ด้วยถ้อยคำกว้างๆ ส่วนอะไรที่มิได้ระบุไว้ในแถลงการณ์มักจะมีความสำคัญยิ่งกว่าถ้อยคำที่เขียน ไว้เสียด้วย [การทูต] | Congress of Vienna | เป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในยุโรป ได้จัดให้มีขึ้นหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน (กันยายน ค.ศ. 1814 ? มิถุนายน ค.ศ. 1815) ประเทศที่ร่วมการประชุมมี ออสเตรีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัฐสันตะปาปา ปรัสเซีย และรัสเซีย ภาระหน้าที่สำคัญของการประชุม คือ การปักปันเขตแดนกันใหม่ และจัดให้ราชวงศ์เก่าแก่กลับฟื้นคืนมาใหม่ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเยอรมนี สหภาพแห่งนอร์เวย์ และสวีเดน สหภาพแห่งเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ พร้อมทั้งกำหนดให้สวิตเซอร์แลนด์ มีฐานะเป็นประเทศเป็นกลางถ้ามองในแง่การทูต ผลสำเร็จสำคัญที่สุดจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาคือ ข้อมติกำหนดลำดับอาวุโสของคณะผู้แทนทางการทูต โดยถือหลักอาวุโสไม่ว่าในตำแหน่งใด แทนที่จะถือตามสถานภาพและความสำคัญของกษัตริย์อย่างแต่ก่อน รวมทั้งจัดประเภทของนักการทูต ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท (ตามระเบียบที่วางขึ้นใหม่ต่อมาในการประชุม ณ Aix-la-Chapelle ได้แก่1) เอกอัครราชทูต (Ambassadors) ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal legates) และหัวหน้าคณะทูตของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncios)2) ผู้แทนทางการทูตผู้มีอำนาจพิเศษ (Envoys Extra-ordinary) และเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม (Ministers Plenipotentiary) อินเตอร์นันสิโอของสมเด็จพระสันตะปาปา3) อัครราชทูตผู้มีถิ่นประจำ (Ministers Resident)4) อุปทูต (Chargé d?affaires)คองเกรสแห่งเวียนนายังวางระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการจัดลำดับ อาวุโสของบุคคลในคณะทูต ซึ่งชาติต่าง ๆ ได้ลงนามรับรองในสนธิสัญญาพาหุภาคีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Great Powers | ประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต] | Heads of State | ผู้แทนที่สำคัญที่สุดของรัฐ หรือประมุขของรัฐ ในบางกรณีอาจทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐ ในการเจริญความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ โดยมีอำนาจเต็มที่จะประกอบการใด ๆ ได้ ประมุขของรัฐนั้นอาจได้แก่ พระจักรพรรดิ (Emperor) พระเจ้าแผ่นดิน (King) พระราชินี (Queen) และประธานาธิบดี (President)ประมุขของรัฐย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเคารพ และการยอมรับนับถือจากประเทศอื่นๆ ในสังคมนานาประเทศ ในแง่พิธีการทูต ผู้ที่เป็นกษัตริย์อาจได้รับเกียรติแตกต่างกับผู้ที่เป็นประธานาธิบดี แต่ความแตกต่างเช่นนี้หามีความสำคัญในแง่กฎหมายอย่างใดไม่ เมื่อประมุขของรัฐเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ตัวประมุขพร้อมด้วยบุคคลในครอบครัวและบริวารทั้งหลาย ตลอดจนถึงทรัพย์สินของประมุขจะไดรับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งในทางแพ่งและอาญาคำว่าประมุขของรัฐอาจหมายถึงหัวหน้าของรัฐบาลก็ได้ เช่น ในกรณีสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ ประมุขของรัฐมิได้เป็นหัวหน้าของรัฐบาล ผู้ที่เป็นหัวหน้าของรัฐบาลได้แก่ นายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ในประเทศที่มีการปกครองในรูปสาธารณรัฐ (Republic) ถือว่าอำนาจอธิปไตยตกอยู่กับประชาชน แม้แต่ตัวประธานาธิบดีของประเทศก็ไม่มีอำนาจอธิปไตย หากแต่เป็นประชาชนพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้เข้าไปบริหารประเทศตามกำหนดระยะเวลาหนึ่งภายใต้ รัฐธรรมนูญ และตัวประธานาธิบดี เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็อาจถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งโดยรัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติได้ เรียกว่า Impeachment [การทูต] | International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] | International Conferences | คือการประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการระหว่าง ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มจากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพิจารณาหาทางระงับปัญหาระหว่างประเทศ การประชุมเช่นนี้บางทีเรียกว่า คองเกรสระหว่างประเทศ แม้จะเรียกต่างกัน แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันที่สำคัญระหว่างสองคำนี้ บ้างมีความเห็นว่า ใช้คำคองเกรส ดูจะมีความสำคัญและมีลักษณะเป็นทางการมากกว่าใช้คำ คอนเฟอเรนซ์ผู้แทนจากประเทศที่ร่วมการประชุมในบางโอกาส ได้แก่บุคคลในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือเอกอัครราชทูต แล้วแต่ว่าการประชุมนั้น ๆ มีความสำคัญระดับใดในการประชุมระหว่างประเทศ แต่เดิมใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสกันมากทั้งสองภาษา มาในภายหลังมักนิยมใช้ภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด ส่วนการประชุมระหว่างประเทศที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้จัด จะใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย และจีน รวม 5 ภาษาตามปกติ มักจะเลือกหัวหน้าคณะผู้แทนของประเทศเจ้าภาพให้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ส่วนเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ของการประชุม ได้แก่ รองประธาน เลขานุการของการประชุม ประธานกรรมการ และผู้บันทึกรายงานสำหรับรายงานการประชุม ข้อมติของที่ประชุมและข้อเสนอแนะนั้น จะรวมเข้าไว้ในเอกสารที่เรียกว่า กรรมสารสุดท้าย (Final Act) ซึ่งผู้แทนประเทศผู้มีอำนาจเต็มจะเป็นผู้ลงนามในเอกสารนั้นในการประชุมครั้ง สุดท้าย [การทูต] | National Holiday | วันชาติ คือสถานเอกอัครราชทูตทีมีอยู่ทั่วโลก จะนิยมฉลองวันชาติของประเทศของตน ส่วนมากจะถือเอาวันครบรอบปีแห่งการประกาศเอกราช หรือวันครบรอบปีของเหตุการณ์ที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของ ประเทศตนเป็นวันชาติ ส่วนในประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ ก็จะยึดเอาวันพระราชสมภพชองกษัตริย์หรือราชินีเป็นวันชาติของประเทศ ในวันชาติ สถานเอกอัครราชทูตจะมีธรรมเนียมจัดงานเลี้ยงรับรอง (Reception) ขึ้นในสถานเอกอัครราชทูตของตนหรือหากเป็นการไม่สะดวกที่จัดงานดังกล่าวขึ้น ในสถานทูต ก็มักไปจัดกัน ณ โรงแรมที่เหมาะสม ในงานเลี้ยงรับรองนี้จะเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประทเศ หัวหน้าคณะทูตข้าราชการในสถานเอกอัครราชทูตอื่น ๆ นักหนังสือพิมพ์ เจ้าหน้าที่สื่อมวลชน บุคคลชั้นนำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม บรรดาคนชาติเดียวกับเอกอัครราชทูตที่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศนั้น ตลอดจนบุคคลสำคัญในสังคม รวมทั้งมิตรสหายของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่สมควรเชิญ [การทูต] | New Diplomacy | การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Notes in Diplomatic Correspondence | หมายถึง หนังสือหรือจดหมายโต้ตอบทางการทูตระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of mission) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้ แทนทางการทูตนั้นประจำอยู่ หรือกับหัวหน้าผู้แทนทางการทูตอีกแห่งหนึ่ง หนังสือทางการทูตนี้ อาจใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3 ก็ได้ หนังสือทางการทูตที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 มักจะเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนกว่าหนังสืออีก ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Note Verbale หรือต้องการจะแทรกความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย หนังสือนี้จะส่งจากหัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือไปถึงหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ ไม่เหมือนกับ Note Verbale กล่าวคือ หนังสือทางการทูตนี้จะต้องระบุสถานที่ตั้ง รวมทั้งลงชื่อของผู้ส่งด้วยตามปกติ ประโยคขึ้นต้นด้วยประโยคแรกในหนังสือจะใช้ข้อความว่า ?have the honour? นอกจากจะมีถึงอุปทูตซึ่งมีฐานะตำแหน่งต่ำกว่าอัครราชทูต ถ้อยคำลงท้ายของหนังสือทางการทูตจะมีรูปแบบเฉพาะ เช่น?Accept, Excellency (หรือ Sir), ในกรณีที่ผู้รับมีตำแหน่งเป็นอุปทูต (Charge d? Affaires) the assurances (หรือ renewed assurances ) of my highest (หรือ high ในกรณีที่เป็นอุปทูต ) consideration?หรือ ?I avail myself of this opportunity to express to your Excellency, the assurances ( หรือ renewed assurances) of my highest consideration ?ถ้อยคำที่ว่า ?renewed assurances ? นั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ส่งหนังสือกับผู้รับหนังสือ ได้มีหนังสือติดต่อทางทูตกันมาก่อนแล้ว ส่วนถ้อยคำว่า ?high consideration ? โดยปกติจะใช้ในหนังสือที่มีไปยังอุปทูต ถ้อยคำ ?highest consideration ? จะใช้เมื่อมีไปถึงเอกอัครราชทูต และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ท้องถิ่นด้วย บางแห่งอาจนิยมใช้แตกต่างออกไป และก็จะเคารพปฏิบัติตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมารยาทส่วนหนังสือที่เรียกว่า Note Verbale หรือ Third person note เป็นหนังสือทางการทูตที่ใช้บ่อยที่สุด หนังสือนี้จะขึ้นต้นด้วยประโยคดังต่อไปนี้?The Ambassador (หรือ The Embassy ) of Thailand presents his (หรือ its ) compliments to the Minster (หรือ Ministry ) of Foreign affairs and has the honour??หนังสือบุรุษที่สาม หรืออาจเรียกว่าหนังสือกลางนี้ ไม่ต้องบอกตำบลสถานที่ ( Address) และไม่ต้องลงชื่อ แต่บางทีในตอนลงท้ายของหนังสือกลางมักใช้คำว่า?The Ambassador avails himself of this opportunity to express to his Excellency the renewed assurances of his highest consideration?มีหนังสือทางการทูตอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Collective note เป็นหนังสือที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลหลายประเทศรวมกันมีไปถึง รัฐบาลแห่งเดียว เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลเหล่านั้นพร้อมใจกันที่จะร้องเรียน หรือต่อว่าร่วมกัน หัวหน้าคณะทูตทั้งหมดอาจร่วมกันลงนามในหนังสือนั้น หรือ อาจจะแยกกันส่งหนังสือซึ่งมีถ้อยคำอย่างเดียวกันไปถึงก็ได้ [การทูต] | Organisation for Security and Cooperation in Europe | องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงในลักษณะรอบด้าน กล่าวคือ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยดำเนินนโยบายป้องกันทางการทูต (preventive diplomacy) มีประเทศสมาชิกจำนวน 55 ประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 ไทยได้สมัครเข้าเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือของ OSCE ในปี พ.ศ. 2543 [การทูต] | Personal Inviolability of Diplomatic Agents | หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต] | Placement | หมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต] | Security Council of the United Nations | คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต] | Trade Facilitation Action Plan | แผนปฏิบัติการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างเอเชีย-ยุโรป " มีการจัดลำดับความสำคัญไว้หลายสาขา เช่น ทางด้าน ทรัพย์สินทางปัญญา E-commerce การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล กระบวนการทางด้านศุลกากร ฯลฯ " [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | wetlands | พื้นที่ชุ่มน้ำ หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต] | Coagulum content | ปริมาณยางจับเป็นก้อน หมายถึง ปริมาณของสารที่ตกค้างอยู่บนตัวกรองสเตนเลสที่ทดสอบ สารเหล่านี้ประกอบด้วยเศษยางจับตัวและสารอื่นที่เจือปนมากับน้ำยาง ค่านี้มีความสำคัญต่อกระบวนการผลิตที่เข้มงวด เช่น ในการผลิตเส้นด้ายยางยืด ถ้าน้ำยางมีค่า coagulum content สูงอาจก่อให้เกิดปัญหาการอุดตันที่ปลายหลอดในระหว่างกระบวนการผลิตได้ [เทคโนโลยียาง] | Dry rubber content | ปริมาณส่วนที่เป็นเนื้อยางทั้งหมดในน้ำยาง ซึ่งได้จากการทำให้น้ำยางจับตัวด้วยกรดแอซิติก ภายใต้การควบคุมสภาพการจับตัวอย่างแน่นอน เป็นค่าบ่งชี้ปริมาณของเนื้อยางจริงๆ ซึ่งมีความสำคัญในการซื้อขาย การนำน้ำยางไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาง เช่น การออกสูตรส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ [เทคโนโลยียาง] | Oscillating disc rheometer | เครื่องมือที่ใช้ในการหาเวลาที่ยางเกิดการคงรูป (หรือหาอัตราเร็วของการเกิด ปฏิกิริยาวัลคาไนเซชัน) โดยวัดค่าความแข็งที่เพิ่มขึ้นของยางคอมพาวด์เมื่อเกิดการวัลคาไนซ์จากการ สั่นของตัววัด (Disc) ภายในช่องวัด (Chamber) เครื่องมือชนิดนี้มีความสำคัญมากต่อโรงงานอุตสาหกรรมยาง เพราะนอกจากเครื่อง ODR จะช่วยบอกระยะเวลาที่ทำให้เกิดยางตายหรือที่เรียกในภาษาเทคนิคว่า “scorch time” แล้ว เครื่องมือนี้ยังบอกระยะเวลาที่เหมาะสมในการอบยางให้คงรูป (optimum cure time)อีกด้วย [เทคโนโลยียาง] | Plasticity number | การวัดค่าพลาสติซิตี้ขึ้นกับความสูงของตัวอย่างทดสอบหลังเกิดการ เปลี่ยนแปลงรูปร่างภายใต้สภาวะที่กำหนด เช่น แรงกด เวลา และอุณหภูมิ ค่าพลาสติซิตี้ของยางจะบอกถึงความนิ่มหรือแข็งของยางยางที่มีค่าพลาสติซิตี้ สูงคือยางแข็ง ยางที่มีค่าพลาสติซิตี้ต่ำคือยางนิ่ม ซึ่งค่าพลาสติซิตี้ของยางมีความสำคัญต่อการแปรรูปยาง เช่น บ่งถึงพลังงานที่ต้องใช้ในการแปรรูปยาง ยางนิ่มจะใช้พลังงานน้อยและจะรับสารเคมีเข้าไปในยางได้รวดเร็ว เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Biological Significances | ความสำคัญทางชีวภาพ [การแพทย์] | Clinical Significance | ความสำคัญทางคลินิค [การแพทย์] | chromosome | โครโมโซม, องค์ประกอบหนึ่งของเซลล์มีลักษณะเป็นท่อนอยู่ในนิวเคลียส ประกอบด้วย DNA และโปรตีน มีความสำคัญในการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | tryptophan | ทริปโตเฟน, กรดอะมิโนที่จำเป็นชนิดหนึ่งของร่างกาย สูตรเคมีคือ C11H12N2O2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | weighted arithmetic mean | ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ำหนัก, ค่าเฉลี่ยเลขคณิตที่ใช้ในกรณีที่ข้อมูลแต่ละค่ามีความสำคัญไม่เท่ากัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | lysine | ไลซีน, กรดอะมิโนที่จำเป็นชนิดหนึ่งของร่างกาย สูตรโมเลกุลคือ C6H14N2O2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Avogadro's hypothesis | สมมติฐานของอาโวกาโดร, สมมติฐานที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรกับจำนวนโมเลกุลของแก๊ส มีใจความสำคัญว่าแก๊สที่มีปริมาตรเท่ากันวัดที่อุณหภูมิและความดันเดียวกันจะมีจำนวนโมเลกุลเท่ากัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | lone pair electrons | อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว, เวเลนซ์อิเล็กตรอนคู่ใดคู่หนึ่งของอะตอมซึ่งไม่ได้มีส่วนในการสร้างพันธะ แต่มีความสำคัญในการทำให้อะตอมนั้น ๆ มีจำนวนอิเล็กตรอนครบตามกฎออกเทต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | pistil | เกสรเพศเมีย, อวัยวะสืบพันธุ์เพศเมียของพืชดอก ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมีย คอเกสรตัวเมียและรังไข่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสืบพันธุ์ของพืชดอก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | ionosphere | ไอโอโนสเฟียร์, ชั้นบรรยากาศถัดขึ้นไปจากมีโซสเฟียร์จนถึงระยะประมาณ 800 กิโลเมตร เป็นชั้นที่มีความสำคัญต่อการสื่อสารระยะไกล ๆ เพราะบรรยากาศชั้นนี้สามารถสะท้อนคลื่นวิทยุทำให้สามารถส่งสัญญาณคลื่นวิทยุได้เป็นระยะพัน ๆ กิโลเมตร อุณหภูมิของอากาศชั้นนี้จะเริ่มสูงขึ้นและเปลี่ยนแ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Importance, Practical | ความสำคัญในทางปฏิบัติ [การแพทย์] | Medical Important | ความสำคัญในทางแพทย์ [การแพทย์] | Megalomania | ความรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจหรือมีความสำคัญ [การแพทย์] | Monoculture | การปลูกพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแต่เพียงชนิด [การแพทย์] |
| My mother's very important to me, just like her words. | แม่ของแม่มีความสำคัญกับแม่มาก เหมือนกับคำสอนของเธอ The Joy Luck Club (1993) | It's of paramount importance, during the sad weeks ahead, the eyes of the W.B.A. remain- | มันเป็นความสำคัญยิ่งในช่วงเศร้าสัปดาห์ข้างหน้าสายตาของ remain - ชอัลเบียน Pulp Fiction (1994) | Come on, fella. He didn't mean you. Let's not be so sensitive. | Come on, หนุ่ม เขาไม่ได้หมายความว่าคุณ ให้ไม่เป็นที่มีความสำคัญเพื่อให้ 12 Angry Men (1957) | Wait a minute. Are you tellin' us he'd lie just so he could be important once? | รอสักครู่ คุณ tellin 'เราว่าเขาต้องการอยู่เพียงเพื่อที่เขาจะมีความสำคัญในครั้งเดียว 12 Angry Men (1957) | He's just sayin' so to be important, right? | เขาก็พูดอย่างมากที่จะมีความสำคัญใช่มั้ย? 12 Angry Men (1957) | And will understand the deep significance of blood well shed. | และจะเข้าใจความสำคัญลึก เลือดดีเพิง แน่นอนฉันไม่ได้คาดหวังให้คุณ Help! (1965) | What's so damned important about a damned cricket pitch? | สิ่งที่ถูกสาปให้ความสำคัญ เกี่ยวกับสนามคริกเก็ตไอ้? How I Won the War (1967) | Do we give your son-in-law something important? | เราจะให้สิ่งที่ลูกชายของสามีของคุณมีความสำคัญอย่างไร The Godfather (1972) | This is dedicated to the late, great Magic Sam. | นี้ซึ่งอุทิศให้ผู้วิเศษมีความสำคัญแต่ตายไปแล้ว แซม The Blues Brothers (1980) | The launch windows are critical for both spacecrafts. | หน้าต่างเปิดตัวมีความสำคัญ สำหรับทั้งยานอวกาศ 2010: The Year We Make Contact (1984) | Accept priority override Alpha. | ยอมรับความสำคัญแทนที่ อัลฟา 2010: The Year We Make Contact (1984) | And, what is more important, he must be seen to be so. | และสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นเขา จะต้องเห็นจะเป็นอย่างนั้น Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984) | Captain Blumburtt was just telling me something of the interesting history of the palace-- the importance it played in the mutiny. | กัปตัน Blumburtt ก็แค่บอกฉัน บางสิ่งบางอย่างของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของ palace-- ความสำคัญมันเล่นในกบฏ Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | No one of consequence. | คนไม่มีความสำคัญอะไร The Princess Bride (1987) | The loser is nothing. | ผู้แพ้ไม่มีความสำคัญ The Princess Bride (1987) | I'm no one to be trifled with. | เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญอะไร The Princess Bride (1987) | Because maybe it matters more. | เพราะมันมีความสำคัญ Casualties of War (1989) | What's so interesting about half an inning that you'd come from Iowa ... to talk to me about it 50 years after it happened? | ช่วงต้นของอินนิ่งนั้นมีความสำคัญอะไรเหรอ จนทำให้คุณต้องเดินทางไกล มาจากไอโอว่า เพื่อคุยกับผม 50 ปีหลังจากที่มันเกิดขึ้น Field of Dreams (1989) | They value their writers. The ones who behave get their own dachas. | พวกเขาให้ความสำคัญกับนักเขียนของพวกเขา คนที่ทำงานได้รับดาชาของตัวเอง The Russia House (1990) | I believe that Yakov is a great and important man, who is trying to restore himself and cannot survive without me. | ผมเชื่อว่ายาโคฟเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและมีความสำคัญ ที่พยายามที่จะเรียกคืนตัวเองและไม่สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องฉัน The Russia House (1990) | Do you realize how important that presentation is? | คุณรู้มั้ย ว่างานจัดแสดงครั้งนี้มีความสำคัญยังไง Mannequin: On the Move (1991) | Irish don't got no respect for life. | พวกไอริส ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับชีวิต. The Young Indiana Jones Chronicles (1992) | Everything that's important in the world is in this bed right now. | ทุกอย่างที่มีความสำคัญต่อโลก เดี๋ยวนี้อยู่บนเตียงนี้แล้ว The Story of Us (1999) | This is just stuff, and it's become more important to you than living. | มันเป็นสิ่งของ แล้วคุณก็ให้ความสำคัญมันมากกว่าชีวิต American Beauty (1999) | But it'd be nice if I was anywhere near as important to him as she is. | แต่มันคงจะดีถ้าเขาให้ความสำคัญกับฉันเหมือนแองเจลล่า American Beauty (1999) | But property is also important. | แต่ทรัพย์สินก็มีความสำคัญ... Bicentennial Man (1999) | Like most things, I am nothing. | เหมือนของทั่วๆ ไป ฉันไม่มีความสำคัญ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Well, that puts you in the majority of one. | งั้นฉันให้ลำดับความสำคัญเธอก่อนแล้วกัน X-Ray (2001) | Their research is of the highest importance. | การวิจัยของพวกเขาเป็นการวิจัยที่มีความสำคัญมาก Resident Evil (2002) | They're already extinct, they just don't know it. | ใกล้จะสูญพันธุ์ เขาไม่เข้าใจความสำคัญ The Time Machine (2002) | Sam looked down on me | พี่เซินจึงไม่ให้ความสำคัญ Infernal Affairs (2002) | You're too important to Umbrella to be at risk. | คุณมีความสำคัญกับอัมเบลร่ามากกว่าจะมาเสี่ยงที่นี่ Resident Evil: Apocalypse (2004) | Yes, is that an important message to you, Bill? | ครับ นั่นเป็นข้อความสำคัญ ของคุณรึเปล่าบิล? Love Actually (2003) | Like the waters of the mighty ocean people also represent tremendous force the understanding of which is the greatest importance to the American way of life. | เช่นเดียวกับคลื่นในมหาสมุทรใหญ่ ประชาชนเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจมหาศาล ความเข้าใจในเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง The Corporation (2003) | This is not to deny the significance of government and politicians but these are the new high priests. | นี่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลและนักการเมือง ไม่มีความสำคัญ แต่ทุนนิยมคือศาสดาสูงสุดองค์ใหม่ The Corporation (2003) | There are many tools for bringing back community. | มีเครื่องมือมากมายในการดึงชุมชนกลับมา แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ The Corporation (2003) | It sounds important So how could I tell you for free? | หา อยากรู้ขนาดนี้ คงเป็นเรื่องสำคัญมากนะ ถ้ามีความสำคัญข้าจะพูกส่งเดจ ได้อย่างไร The Great Jang-Geum (2003) | You risk it all. You put her in front of everything, your future, your life all of it. | เธอมีความสำคัญเหนือสิ่งทั้งปวง อนาคตของคุณ ชีวิตของคุณ... The Girl Next Door (2004) | Duty, obligation, tradition, it all means nothing to you. | ภาะหน้าที่, บุญคุณของชาติ, ขนมธรรมมเนียม-ประเพณี มันไม่มีความสำคัญอะไรเลยเหรอ Mulan 2: The Final War (2004) | - The contents could be very sensitive. | เนื้อหาอาจจะมีความสำคัญมาก Contact (1997) | Don't you understand how important you are to me? | คุณไม่เข้าใจหรอว่าคุณมีความสำคัญแค่ไหนสำหรับฉัน Resident Evil: Apocalypse (2004) | It's why I came here. | ทำไมลายเซ็นถึงมีความสำคัญนัก I Heart Huckabees (2004) | Calm down. The national office recognizes the charter. | สำนักงานใหญ่ เห็นความสำคัญของสาขานี้ I Heart Huckabees (2004) | A document of that importance would ensure the map's survival. | เอกสารนั่นมีความสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนที่จะไม่สูญหาย. National Treasure (2004) | And this time it'd be really fucking great if you acted like you actually gave a shit! | และคราวนี้จะดีมาก ถ้าคุณทำตัวเหมือนจะให้ความสำคัญบ้าง! Crash (2004) | As the lazy toads of summer give way to the crackling of autumn leaves one's mind naturally turns toward the demise of our children's education | ตอนนี้ฤดูร้อนอันแสนอบอุ่นก็ได้จากไป.. ฤดูใบไม้ร่วงก็เข้ามาแทน... เราพ่อแม่ส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญ กับการศึกษาของบุตรหลาน Saving Face (2004) | This competition is very important for me, too. | การแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญต่อผมมาก Spin Kick (2004) | They're important. | มันมีความสำคัญ Nin x Nin: Ninja Hattori-kun, the Movie (2004) | It's not the rules that are important... but one's pledge to keep them. | มันไม่ใช่กฏ สิ่งนั้นมีความสำคัญ... ทว่ามันคือคำมั่นสัญญาในปกป้องพวกเขาไว้ Nin x Nin: Ninja Hattori-kun, the Movie (2004) | ff I wonder if it has any significance. | ฉันสงสัยว่า มันมีความสำคัญอะไรหรือเปล่า Pilot (2004) |
| ข้อความสำคัญ | [khøkhwām samkhan] (n, exp) EN: point | ความสำคัญ | [khwām samkhan] (n) EN: importance ; significance ; priority FR: importance [ f ] | ความสำคัญก่อนหลัง | [khwām samkhan køn lang] (n, exp) EN: priorities FR: priorité [ f ] | ลำดับความสำคัญ | [lamdap khwām samkhan] (n, exp) EN: order of magnitude | มีความสำคัญมาก | [mī khwām samkhan māk] (adv) FR: de grande importance | ตามลำดับความสำคัญ | [tām lamdap khwām samkhan] (adv) EN: in order of priority FR: par ordre d'importance |
| | anticlimax | (n) เหตุการณ์ที่ลดความสำคัญอย่างกะทันหัน | big | (adj) มีความสำคัญหรือมีอิทธิพล, Syn. influential, important | body | (n) ใจความสำคัญของงานเขียน, See also: เนื้อเรื่อง | bulk large | (phrv) มีความสำคัญ, See also: มีบทบาท, เป็นส่วนสำคัญ, Syn. loom large | colossus | (n) สิ่งที่ใหญ่โตหรือมีอำนาจมาก, See also: สิ่งที่มีความสำคัญมาก | core | (n) ใจความสำคัญ, Syn. essential, gist | count | (vi) มีความสำคัญ | count against | (phrv) ไม่มีความสำคัญต่อ, See also: ไม่มีประโยชน์ต่อ, Syn. hold against | count for | (phrv) มีค่า (มาก, น้อย, ไม่มีเลย), See also: มีประโยชน์, มีความสำคัญ, Syn. go for | detract from | (phrv) ทำให้ลดลง (คุณค่า, ความสำคัญ, ผลกระทบ), Syn. take away from, take from | deflate | (vt) ทำให้ความสำคัญลดลง, See also: ทำให้เห็นว่าไม่เหมาะสม, Syn. debase, humiliate, Ant. elevate, raise | depreciable | (adj) ซึ่งลดค่าลง, See also: ซึ่งเสื่อมความสำคัญ, ซึ่งเสื่อมราคา | depreciate | (vt) ลดค่า, See also: ลดความสำคัญ, Syn. deminish, discount, Ant. esteem, like | depreciate | (vi) ลดค่า, See also: ลดความสำคัญ | depreciation | (n) การลดค่า, See also: การลดความสำคัญ, Syn. reduction, decrease, Ant. appreciation | depreciatory | (adj) ซึ่งลดค่าลง, See also: ซึ่งเสื่อมความสำคัญ, ซึ่งเสื่อมราคา | derogate | (vi) ทำให้น้อยลง (คำทางการ), See also: ลดความสำคัญลง, Syn. denigrate, discount, Ant. esteem | detract | (vi) ลดค่า, See also: ลดความสำคัญ, เสื่อมเสีย, Syn. degrade, derograte, Ant. appreciate | detraction | (n) การลดค่า, See also: การลดความสำคัญ, การเสื่อมเสีย, Ant. compliment, praise | devaluation | (n) การลดค่าเงิน, See also: การลดความสำคัญ, Syn. depreciation, cheapening | devalue | (vt) ลดคุณค่า, See also: ลดความสำคัญ, Syn. devaluate, derogate, Ant. appreciate | digest | (n) บทสรุป, See also: งานย่อ, บทสรุปใจความสำคัญ, บทคัดย่อ, Syn. abstract, brief, Ant. amplification | dip into | (phrv) อ่านเฉพาะใจความสำคัญ, Syn. flip through | downgrade | (vt) ลดความสำคัญ, Syn. demote, upgrade | eclipse | (n) การสูญเสียความสำคัญ, See also: การเสียอำนาจ | eclipse | (vt) ทำให้ลดความสำคัญลง, See also: ทำให้อำนาจลดลง | eminence | (n) การมีตำแหน่งสูง, See also: ความสำคัญ, ความยิ่งใหญ่, Syn. distinction, important, prominence | emphasis | (n) ความสำคัญ, Syn. importance, significance, stress | emphasize | (vt) ให้ความสำคัญ, See also: ตอกย้ำ, เน้น, เน้นหนัก, ย้ำ, เน้นย้ำ, Syn. accentuate, highlight, stress | encapsulate | (vt) สรุป, See also: เอาเฉพาะใจความสำคัญ, Syn. abridge, condense, epitomize | enthrone | (vt) ให้ความสำคัญ (ทางวรรณคดี), Syn. elevate, ennoble, exalt | ephemera | (n) สิ่งที่มีอายุสั้นและไม่ค่อยมีความสำคัญมาก, See also: สิ่งที่มีอายุสั้น | epitome | (n) การสรุป (คำทางการ), See also: การสรุปใจความสำคัญ | epitomize | (vt) สรุปเอาเฉพาะใจความสำคัญของงานเขียน (คำทางการ), Syn. abstract, shorten, summarize | epochal | (adj) ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก, Syn. momentous, significant | epoch-making | (adj) ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก, Syn. earthshaking, eventful, world-shaking | eventful | (adj) ซึ่งมีความหมาย (ต่อชีวิตของบางคน), See also: ซึ่งมีความสำคัญ ต่อชีวิตของบางคน, Syn. important, meaningful | everything | (pron) สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด, See also: คนที่สำคัญที่สุด | featured | (adj) ซึ่งให้ความสำคัญ, See also: ซึ่งให้ความสนใจเป็นพิเศษ, Syn. promoted, highlighted | fiddle-faddle | (n) ความไร้สาระ, See also: ความเหลวไหล, สิ่งที่ไม่มีความสำคัญ, Syn. nonsense, foolishness, silliness, Ant. sense, wisdom | finished | (adj) ไม่มีผลอีกต่อไป, See also: ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป, ไม่มีอำนาจอีกต่อไป, Syn. doomed, ruined | fornicate | (vi) มีความสำคัญทางเพศโดยไม่ได้แต่งงาน, See also: ผิดประเวณี | gist | (n) ใจความสำคัญ, See also: ส่วนสำคัญ, แก่น, Syn. essence, significance | has-been | (n) บุคคลที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต แต่ปัจจุบันนี้แทบจะถูกลืม (คำไม่เป็นทางการ), See also: บุคคลที่เคยมีความสำคัญ แต่ปัจจุบันนี้แทบจะถูกลืม | heft | (n) ความสำคัญ | in with | (idm) เป็นเพื่อนกับบางคน, See also: มีอิทธิพลต่อ, มีความสำคัญต่อ | think nothing of | (idm) คิดน้อย, See also: ไม่ใส่ใจ, ไม่เห็นความสำคัญ | impersonal | (adj) ที่ไม่ให้ความสำคัญ, See also: ที่เมินเฉย, Syn. cold, indifferent | import | (n) ความสำคัญ, Syn. significance | importance | (n) ความสำคัญ, Syn. excellence, prominence, significance |
| anticlimax | (แอนทีไคล' แมคซฺ) n. เหตุการณ ์ (ข้อสรุป, บทความ, การพูด, เนื้อหา) ที่สำคัญน้อยกว่าที่คาดหมายอย่างกระทันหัน, การเปลี่ยนความเข้มข้นหรือความสำคัญของเรื่องราวดังกล่าวอย่างทันที. -anticlimac- | apolitical | (เอพะลิท'ทิคัล) adj. ไม่ใช่การเมือง, ไม่มีความสำคัญทางการเมือง, ไม่สนใจการเมือง | basophils | เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีแกรนูล มีจำนวนน้อยมากประมาณ 0-1.6 % มีหน้าที่ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เกี่ยวกับการอักเสบ มีความสำคัญต่อปฏิกริยา antigen antibody คือจะทำให้ basophils แตกออกแล้วปล่อย histamine ออกมา | belittle | (บิลิท'เทิล) { belittled, belittling, belittles } vt. ดูถูก, ดูแคลน, ทำให้ความสำคัญลดน้อยลง, See also: belittler n. ดูbelittle, Syn. deride, Ant. promote | breviary | (บรี'วิเออรี่) n. หนังสือบทสวดมนต์และอธิษฐานทุกวันของศาสนาคาทอลิก, ใจความสำคัญ | caliber | (แคล'ลิเบอะ) n. ขนาดลำกล้องปืน, ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง, ขนาดของสติปัญญาความสามารถหรือความสำคัญ, See also: calibered adj. ดูcaliber calibred adj. ดูcaliber | calibre | (แคล'ลิเบอะ) n. ขนาดลำกล้องปืน, ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง, ขนาดของสติปัญญาความสามารถหรือความสำคัญ, See also: calibered adj. ดูcaliber calibred adj. ดูcaliber | co-ordinate | (โคออร์'ดิเนท) adj. ขนานกัน, ในระดับเดียวกัน, เท่ากัน, ประสานกัน, พร้อมเพรียงกัน n. สิ่งหรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือตำแหน่งเท่ากัน, ระยะพิกัด vt. ทำให้เป็นระดับเดียวกัน, ทำให้เท่ากัน, ทำให้ประสานกัน. vi. เท่ากัน, อยู่ในระดับเดียวกัน, ประสานกัน., See also: c | concernment | (คันเซิร์น'เมินทฺ) n. ความสำคัญ, ความเกี่ยวข้อง, ความสัมพันธ์, ความกังวล, ความเป็นห่วง, สิ่งที่เกี่ยวข้องหรือสนใจ, ความสนใจ, Syn. involvement, worry | consequence | (คอน'ซะเควินซฺ) n. ผลลัพธ์, ผลที่ตามมา, ผลที่เกิดขึ้นภายหลัง, ความสำคัญ -Phr. (in consequence ผลก็คือ), Syn. result, effect, Ant. antecedent, cause | consideration | (คันซิดเดอเร'เชิน) n. การพิจารณา, การครุ่นคิด, สิ่งที่ควรพิจารณา, การชดเชย, ความเห็นใจคนอื่น, ความสำคัญ, ความนับถือ, Syn. thinking | content | (คอน'เทนทฺ) n. ปริมาณความจุ, ความสามารถในการจุ, สิ่งที่บรรจุอยู่, ความสำคัญ, ความหมาย, เนื้อหา, สาระ adj. พอใจ, ซึ่งเห็นด้วย, เต็มใจ. vt. ทำให้พอใจ, พอใจ. | coordinate | (โคออร์'ดิเนท) adj. ขนานกัน, ในระดับเดียวกัน, เท่ากัน, ประสานกัน, พร้อมเพรียงกัน n. สิ่งหรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือตำแหน่งเท่ากัน, ระยะพิกัด vt. ทำให้เป็นระดับเดียวกัน, ทำให้เท่ากัน, ทำให้ประสานกัน. vi. เท่ากัน, อยู่ในระดับเดียวกัน, ประสานกัน., See also: c | digest | (ไดเจสทฺ') v. ย่อย, ช่วยย่อย, เข้าใจ, ไตร่ตรอง, อดทน, จำแนก, แยกแยะ, ทำให้สั้นรัดกุม, สรุป. n. หนังสือประมวลใจความสำคัญ, See also: digester n. ดูdigest digestant n. ดูdigest digestible adj. ดูdigest digestibility n. ดูdigest digestion n. ดูdig | dimension | (ไดเมน'เชิน, ดิ-) n. มิติ, ขนาดกว้างยาวและหนา, ความสำคัญ, ขนาด, , See also: dimensions n., pl. การวัด., Syn. extent | dinky | (ดิง'คี) adj. ซึ่งมีขนาดเล็ก, ซึ่งมีความสำคัญน้อย | emphasis | (เอม'ฟะซิส) n. การเน้น, ความสำคัญ, สิ่งที่มีความสำคัญ, การเน้น คำ, ความเข้มข้น, ความ | emphasise | (เอม'ฟะไซซ) vt. เน้น, ให้ความสำคัญ, เน้นเสียง, เน้นคำ | emphasize | (เอม'ฟะไซซ) vt. เน้น, ให้ความสำคัญ, เน้นเสียง, เน้นคำ | enrich | (เอนริชฺ') vt. ทำให้ร่ำรวย, ทำให้อุดมสมบูรณ์, ประดับ, ตกแต่ง, เพิ่มคุณค่า, เพิ่มความสำคัญ, ทำให้คุณภาพดีขึ้น, See also: enricher n. ดูenrich enrichingly adv. ดูenrich, Syn. improve | everyplace | pron., n. ทุกสิ่ง, ทุกอย่าง, ทั้งหมด, สิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง. | gospel | (กอส'เพิล) n., adj. คำสั่งสอนหรือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์, ลัทธิหรือความเชื่อที่มีความสำคัญมาก. | headship | n. ตำแหน่งผู้นำ, ความสำคัญยิ่งยวด | import | (อิม' พอร์ท) n. สินค้าเข้า, การนำสินค้าเข้าประเทศ, ความหมาย, ความสำคัญ, ผลที่ตามมา. -vt. (อิมพอร์ท') นำสินค้าเข้าประเทศ, นำเข้ามา, แสดงนัย, มีความหมาย, เกี่ยวข้อง, พัวพัน., See also: importability n. importable adj. importer n. | importance | (อิมพอร์' เทินซฺ) n. ความสำคัญ, การวางท่าทาง, Syn. moment, weight | intent | (อินเทนทฺ') n. เจตนา, ความตั้งใจ, ความมุ่งหมาย, จุดประสงค์, ความหมาย, ความสำคัญ. adj. ยึดมั่น, แน่วแน่, มุ่งหมายไว้, ตั้งใจไว้., See also: intently adv. intentness n., Syn. intention | magnate | (แมก'เนท) n. ผู้มีอิทธิพลมาก, ผู้มีความสำคัญมาก, นักธุรกิจที่มีอิทธิพลมาก., See also: magnateship n. | magnitude | (แมก'นิทูด) n. ขนาด, ความใหญ่, ความสำคัญ, ขนาดใหญ่, จำนวน, มิติ, ความสว่างของดาว, ดาวที่ดูด้วยตาเปล่าจากโลก., See also: magnitudinous adj., Syn. size, extent | mark | (มาร์ค) n. คะแนน, เครื่องหมาย, หมาย, แกงได, รอย, จุด, แต้ม, เป้า, เป้าหมาย, สัญลักษณ์, มาตรฐาน, ความสำคัญ, ชื่อเสียง, เส้นเริ่มออกวิ่ง, พรมแดน, หน่วยเงินตราของเยอรมน vt. ทำเครื่องหมาย, ทำรอย, ทำให้เป็นแผลเป็น, เป็นมลทิน, ทำให้เป็นจุด, ชัด, กะ, แสดงให้ปรากฎชัด, เพ่งเล็ง, มุ่งหมาย, บันทึก, ระวัง, สังเกต | matter | (แมท'เทอะ) n. วัตถุ, สสาร, สาระ, เนื้อหา, สิ่งที่อยู่ในช่องว่าง, วัตถุทางกาย, สารเฉพาะอย่าง, สารที่ถูกขับถ่ายออกจากร่างกาย, หนอง, สิ่งตีพิมพ์, สิ่งขีดเขียน, สถานการณ์, สภาวะ, ธุรกิจ, ความสำคัญ, ความลำบาก, เหตุผล, สาเหตุ, สำเนา, แบบ vi. เป็นสิ่งสำคัญมีความหมาย มีหนอง | mean | (มีน) vt. มุ่งหมาย, มีเจตนา, ตั้งใจ, หมายถึง, ทำให้เกิดขึ้น, นำมาซึ่ง, มีความหมายต่อ, มีความสำคัญต่อ. vi. ตั้งใจ, มุ่งหมาย adj. ต่ำต้อย, ชั้นต่ำ, ไม่สำคัญ, ถ่อย, สกปรก, เลว, ใจแคบ, ขี้เหนียว, เห็นแก่ตัว, สร้างความเดือดร้อน, ร้าย, เชี่ยวชาญ, ประทับใจ, ระหว่างกลาง, โดยเฉลี่ย n. ค่าเฉลี่ย | meaning | (มีน'นิง) n. ความหมาย, จุดประสงค์, ความสำคัญ. adj. มีความหมาย, มุ่งหมายไว้, ตั้งใจไว้., See also: meaningly adv. | moment | (โม'เมินทฺ) n. ขณะนั้น, ชั่วครู่, ขณะ, ความสำคัญ, ความสำคัญของขณะนั้น, โอกาส, ผลที่ตามมา, ลักษณะของสิ่งของ (ปรัชญา), Syn. minute, weight, Ant. triviality | note | (โนท) { noted, noting, notes } n. บันทึก (เป็นลายมือ) สั้น ๆ , บันทึก, จดหมาย, หมายเหตุ, สาสน์, สาร, ธนบัตร, ชื่อเสียง, ความเด่น, ความสำคัญ, เสียงดนตรี, เครื่องหมายดนตรี, ทำนองเพลง vi. บันทึก, หมายเหตุ, จดจำ, สังเกต, ใส่เครื่องหมายดนตรี, แสดงดึง, ชี้บ่ง. -Phr. (compare notes แลก เปลี่ยนความคิดเห็น) | outline | (เอาทฺ'ไลนฺ) n. เค้าโครง, รูปร่าง, สัณฐาน, เค้าหน้า, เส้นรอบนอก, ภาพคร่าว ๆ , แผนผังสังเขป, ต้นร่าง. vt. ร่างเค้าโครง, สรุปความ, See also: outlines n., pl. ส่วนที่สำคัญข้อความสำคัญ, Syn. sketch, plan, draw | outweigh | (เอาทฺเว') vt. มีค่าเกิน, มีความสำคัญเกินไป, มีภาระมากเกิน, มีน้ำหนักเกิน, Syn. overshadow | overplay | (โอเวอะเพล') v. แอ๊คท่าเกินไป, ทำเลยเถิด, แสดงเกินความเป็นจริง, ให้ความสำคัญเกินไป. | place | (เพลส) n. สถานที่, บริเวณ, จุดหมาย, ที่, ที่พัก, เขต, ฐานะ, ตำแหน่ง, สภาพ, สถานการณ์, เทศะ, หน้าที่, การงาน, ที่ตั้ง, โอกาสที่เหมาะ. -Phr. (give place to ให้ความสำคัญ, ถูกแทนที่โดย) -Phr. (go places ประสบความสำเร็จ) -Phr. (take place เกิดขึ้น) vt. จัด, วาง, กะ, คาดคะเน, บรรจุ, ใส่, เอาไว้, ฝาก, มอบ, แต่งตั้ง, วินิจฉัย, ปรับเสียง, วางลูก, ส่งกระสุน vi. อยู่ในอันดับ | ponderance | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง | ponderancy | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง | precedence | (เพรส'ซิเดินซฺ) n. การนำก่อน, การนำหน้า, การมาก่อน, ความสำคัญกว่า, สิทธิการนำหน้า, การมีสิทธิก่อน | priority processing | การประมวลผลตามลำดับความสำคัญหมายถึงการประมวลผลไปตามระดับความสำคัญของโปรแกรม (ที่มีการกำหนดไว้ก่อนแล้ว) | pygmy | (พิก'มี) n. ชนผิวดำตัวเล็กในทวีปแอฟริกาแถบเส้นศูนย์สูตร, See also: pygmy n. คนแคระ คนร่างเล็กสิ่งที่มีความสำคัญเล็กน้อย adj. เกี่ยวกับคนแคระดังกล่าว, เล็กมาก, แทบไม่สำคัญ pygmoid adj. pygmyish adj. pygmyism n. | real time processing | การประมวลผลแบบทันทีหมายถึง ระบบการประมวลผลข้อมูลที่ทำในทันทีที่ข้อมูลถูกส่งเข้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาทันทีเพื่อจะได้สั่งการอย่างหนึ่งอย่างใดหรือควบคุมได้ เช่น การประมวลผลของเครื่องถอนเงินด่วนตามธนาคารต่าง ๆ (ATM) ซึ่งให้บริการการฝากถอน ทำให้ผู้ใช้บริการทราบผลในทันที เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์จะตรวจสอบให้ในทันทีว่า รหัสถูกต้องหรือไม่ มีเงินพอหรือไม่ ฯ ถ้ามีพอ ก็สั่งปฏิบัติการ คือจ่ายเงินให้เลย การจองตั๋วเครื่องบิน ก็มีลักษณะเป็นแบบทันทีนี้เช่นกัน ส่วนการประมวลผลที่ไม่ต้องทำทันที เรียกว่า "การประมวลผลเชิงกลุ่ม" (batch processing) หมายถึงการประมวลผลที่ทำต่อเนื่องกันไปตามลำดับ มีระบบปฏิบัติการเป็นตัวควบคุม การประมวลผลแบบนี้ มักจะเป็นงานใหญ่ ๆ จะต้องมีการรวบรวมข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน จึงจะส่งเข้าประมวลผล คอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลให้ตามลำดับก่อนหลัง หรือลำดับความสำคัญ วิธีการนี้ประหยัดกว่า แต่ช้าและไม่ทันใจดู batch processing เปรียบเทียบ | roundup | (เราน์ดฺ'อัพ) n. การไล่ปศุสัตว์มารวมกัน, ผู้ขี่ม้าไล่ปศุสัตว์มารวมกัน, การจับกลุ่ม, การชุมนุม, การสรุป, บทสรุป, สาระ, ใจความสำคัญ, Syn. collect, gather, amass, rally | significance | (ซิกนิฟ'ฟะเคินซฺ) n. ความสำคัญ, ความหมาย, ผลที่ตามมา, ลักษณะที่สำคัญ, การมีความหมาย, Syn. importance, Ant. trifling | signify | (ซิก'นิไฟ) vt. แสดงออก, มีความหมาย, ชี้บ่ง, บอกใบ้, บุ้ย, เป็นลาง, เป็นนิมิต, บอกให้รู้ล่วงหน้า vt. มีความสำคัญ., See also: signifiable adj. | software engineering | วิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นศัพท์ที่เพิ่งนำมาใช้เมื่อไม่นานมานี้ โดยกำหนดให้ถือว่า วิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นส่วนหนึ่งของวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (computer engineering) วิศวกรรมซอฟต์แวร์ นั้นจะเน้นเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการนำซอฟต์แวร์นั้น ๆ ไปทดลองใช้ มุ่งให้ความสำคัญในเรื่องการผลิตซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ชั้นดี รวมทั้งระเบียบวิธีการเขียนโปรแกรม และการบริหารโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ | structural | (สทรัค'เชอะเริล) adj. เกี่ยวกับโครงสร้างหรือการก่อสร้าง, มีความสำคัญ | summary | (ซัม'มะรี) n. สรุป, ใจความสำคัญ, ใจความรวบรัด, บทความย่อ, สาระสำคัญ, จุด สำคัญ. adj. สรุป, รวบรัด, ใจความสำคัญ, โดยสังเขป, รวดเร็ว, โดยตรง., See also: summarily adv. summariness n., Syn. compendium, brief, condensation |
| bigness | (n) ความใหญ่, ความยิ่งใหญ่, ความสำคัญ | consequence | (n) ผลลัพธ์, ผลสืบเนื่อง, ความสำคัญ | digestion | (n) การย่อยอาหาร, การไตร่ตรอง, การเก็บข้อความสำคัญ | digestive | (adj) เกี่ยวกับการย่อย, เกี่ยวกับการเก็บใจความสำคัญ | dimension | (n) ขนาด, มิติ, ความสำคัญ | emphasis | (n) การย้ำ, การเน้น, การให้น้ำหนัก, ความสำคัญ, ความหนักแน่น | emphasize | (vt) ย้ำ, เน้น, ให้น้ำหนัก, ให้ความสำคัญ | graveness | (n) ความเอาการเอางาน, ความขึงขัง, ความสำคัญ, ความรุนแรง, ความร้ายแรง | gravity | (n) ความถ่วง, แรงดึงดูด, ความเอาการเอางาน, ความสำคัญ, ความจริงจัง | greatness | (n) ความสำคัญ, ความยิ่งใหญ่, ความมีชื่อเสียง | import | (n) สินค้าขาเข้า, ความสำคัญ, ผลที่ตามมา, ความหมาย | importance | (n) ความสำคัญ, การวางมาด | keynote | (n) ระดับเสียง, ใจความสำคัญ, จุดสำคัญ, ประเด็นสำคัญ | magnitude | (n) ความสำคัญ, ความใหญ่โต, ขนาด, จำนวน, มิติ | meaning | (n) ความหมาย, นัย, คำแปล, เป้าหมาย, ความสำคัญ | moment | (n) ขณะ, ชั่วครู่, กำหนดเวลา, โอกาส, ความสำคัญ | motif | (n) ใจความสำคัญ, ลักษณะสำคัญ, บรรทัดฐาน, มาตรฐาน | motive | (n) สาเหตุ, ใจความสำคัญ, เหตุผล, แรงดลใจ, เป้าหมาย, เจตนา | point | (n) จุด, ทิศทาง, ข้อ, จุดทศนิยม, ตำแหน่ง, ประเด็น, ใจความสำคัญ | preponderance | (n) ความมากกว่า, ความสำคัญยิ่ง, ความเหนือกว่า | prominence | (n) ความสำคัญ, | roundup | (n) การชุมนุม, การต้อนสัตว์, การล้อมจับ, การสรุป, ใจความสำคัญ | seriousness | (n) ความเครียด, ความเคร่งเครียด, ความร้ายแรง, ความสาหัส, ความสำคัญ | significance | (n) ความหมาย, ความสำคัญ | signification | (n) นัย, ความหมาย, ความสำคัญ, การบ่งชี้, การแจ้งให้ทราบ | weight | (n) น้ำหนัก, การชั่ง, ของหนัก, ภาระ, ความสำคัญ, ลูกตุ้ม, วัตถุ | worth | (n) มูลค่า, ราคา, คุณค่า, ประโยชน์, ทรัพย์สิน, ความสำคัญ |
| Alwayzz | มีความสำคัญกับ Destinyzz มากๆ | dismissive | [dɪsˈmɪs·ɪv] (adj) บางสิ่งบางอย่างหรือบุคคลที่คุณคิดนั้นไม่ได้มีความสำคัญหรือมีค่าพอให้พิจารณา | hierarchy of genres | [ไฮ-รา-คี-ออฟ-เจ็น-เรส] (n) การจัดลำดับคุณค่าของศิลปะ เป็นทฤษฎีการจัดประเภทของศิลปะ (genre) ตามระดับความสำคัญที่ระบุไว้เช่นในการจัดของสมาคมศิลปะแห่งฟลอเรนซ์ และในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยอังเดร เฟลิเบียงแห่งสถาบันศิลปะฝรั่งเศสที่ลำดับเป็นห้าลำดับ: ภาพประวัติศาสตร์และศาสนา, ภาพเหมือน, ภาพชีวิตประจำวัน, ภาพภูมิทัศน์ และภาพนิ่ง (Source: visual-arts-cork.com) | make light of | (phrase) ไม่ให้ความสำคัญ | กิ๊ก | (n) คนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่มีเพื่อนเพศตรงข้ามเพิ่มอีกคนหรือมากกว่าหนึ่งคน ที่ให้ความสำคัญพอๆ กับแฟนแต่ไม่ใช่แฟน |
| 重要 | [じゅうよう, juuyou] (adj) ประเด็นหลัก, ความสำคัญ |
| 重み付け | [おもみづけ, omomizuke] (n) ความสำคัญ, See also: S. ่ี重要性 | 文意 | [ぶんい, bun'i] ใจความสำคัญ (ของประโยคหรือบทความ) | 文意 | [ぶんい, bun'i] ใจความสำคัญ (ของประโยคหรือบทความ) |
| 軽んじる | [かろんじる, karonjiru] TH: ดูถูกหรือไม่ให้ความสำคัญ EN: to look down on |
| denen | (rel, pron) สรรพนามสำหรับนามพหูพจน์รูป Dativ ที่ใช้ในวลีที่เชื่อมกับประโยคหลัก เช่น Wir kümmern uns um die Personen, von denen ihr Geschäft abhängt. เราดูแลผู้คนที่มีความสำคัญต่อธุรกิจของเขาเอง | historisch | (adj) ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เช่น die historische Innenstadt ใจกลางเมืองที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ | Ostern | (n, uniq) |das, pl. Ostern, ส่วนใหญ่ใช้เป็น Pl.| เทศกาลอีสเตอร์ มีความสำคัญทางศาสนาคริสต์ กล่าวคือ เป็นเทศกาลที่ชาวคริสต์ระลึกถึงการฟื้นคืนชีพของพระเยซู นอกจากนี้ Ostern ยังจัดเป็นเทศกาลฉลองความเขียวชอุ่มและความอุดุมสมบูรณ์ที่ฤดูใบไม้ผลินำมาด้วย | absehen | (vi) |sieht ab, sah ab, hat abgesehen, von etw.| มองข้าม, ไม่ให้ความสำคัญ (ใช้ในรูปของ Partizip Perfekt คือ abgesehen von) เช่น Abgesehen von innerer Ruhe und Entspanntheit, bringt die Meditation uns dazu, die Dinge die uns umgeben zu betrachten. ถ้ามองข้ามความสงบภายในและการผ่อนคลายแล้ว การทำสมาธิทำให้เราพิจารณาสิ่งที่อยู่รอบกาย, Deshalb habe ich vom Kauf bei dieser Firma abgesehen. ดังนั้นฉันจึงไม่เคยคิดจะซื้อของจากบริษัทนี้เลย | Schwerpunkt | (n) |der, pl. Schwerpunkte| ความสำคัญ, จุดสำคัญ, สิ่งที่มีความสำคัญ | bedeutend | (adj, adv) มีความสำคัญต่อ, มีความหมายต่อ, ที่มีความจำเป็น เช่น Mit Rücksicht auf meinen Hals musste ich den Vortrag leider bedeutend verkürzen.; Sicher aber ist, dass die Burg im Mittelalter bedeutend größer war als die heutige Anlage. Im Jahr 1525 wurde sie während der Bauernkriege nahezu zerstört. |
| | préférer | (vt) |je préfère, tu préfères, il préfère, nous préférons, vous préférez, ils préfèrent| ชอบมากกว่า, ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก | tenir à qqn | (phrase) ให้ความสำคัญ รักใคร่ ใส่ใจ ในบุคคล(หรือสิ่งของ) นั้นๆ (เป็นสำนวน) |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |