ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*จอย*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จอย, -จอย-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N[มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961)

Longdo Dictionary ภาษา ไทยภาคใต้ (TH-SOUTH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ได้แรงอก[dai rang ok] (vt) สมใจอยาก , พอใจมาก

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
สมใจอยาก(v) satisfy, See also: have one's wish gratified, satisfy one's wish, fulfill one's aspiration, be satisfied, Syn. สมใจนึก, สมใจคิด, Example: เขาได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมใจอยากแล้วในสมัยนี้, Thai Definition: ได้ผลดังที่ตั้งใจไว้, ได้ผลดังที่ต้องการ

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากน. ที่อยู่แม้จะคับแคบก็อยู่ได้ถ้าสบายใจ แต่ถ้าอึดอัดใจ ที่อยู่จะกว้างขวางใหญ่โตอย่างไรก็อยู่ไม่ได้.
บันจอยก. บรรจง.
กระตือรือร้นก. รีบร้อน, เร่งรีบ, ขมีขมัน, มีใจฝักใฝ่มาก, ใส่ใจอยากจะทำ.
กระหายเลือดว. พอใจอยากเห็นเลือดตกยางออก, เหี้ยมโหด.
ก่อการร้ายน. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อบุคคล ต่อทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะ หรือต่อทรัพย์สินของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใดหรือต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ โดยผู้กระทำมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ.
กองทัพน้อยน. หน่วยทหารที่ประกอบด้วยทหารหลายกองพล มีจำนวนไม่แน่นอน เป็นการจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีแม่ทัพน้อยเป็นผู้บังคับบัญชา.
โกรธ(โกฺรด) ก. ขุ่นเคืองใจอย่างแรง, ไม่พอใจอย่างรุนแรง, ราชาศัพท์ว่า ทรงพระโกรธ เช่น ก็จะทรงพระโกรธดั่งเพลิงกาล (อิเหนา).
ขัดแค้นก. โกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย.
เข้าเงียบก. ประพฤติสงบจิตใจอยู่ในที่สงัดตามลัทธิคริสต์ศาสนา.
เข้าถึงก. เข้าใจอย่างซาบซึ้ง เช่น เข้าถึงบท เข้าถึงวรรณคดี, เข้าใกล้ชิดสนิทสนมเพื่อจะได้รู้ซึ้งถึงชีวิตจิตใจและความต้องการเป็นต้น เช่น เข้าถึงประชาชน.
คันไฟน. ชื่อมดชนิด Solenopsis geminata (Fabricius) ในวงศ์ Formicidae ลำตัวยาวประมาณ ๕ มิลลิเมตร สีน้ำตาลแดง หัวค่อนข้างโต ทำรังอยู่ตามพื้นดิน โดยเฉพาะดินร่วนหรือดินทราย รังอาจอยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง ๐.๕ เมตร มีอวัยวะสำหรับต่อยปล่อยกรดทำให้คัน ปวดแสบปวดร้อน และเป็นตุ่มแดงใหญ่.
แค้นก. โกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย เช่น แค้นใจ แค้นเคือง.
จุดบอดน. บริเวณที่เครื่องมือสื่อสารรับสัญญาณได้ไม่ชัด, บริเวณหลังลูกตาที่ไม่รับแสง, บริเวณที่ควรจะมองเห็นแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น ทางโค้งนี้มีจุดบอด ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบ่อย ๆ, จุดของปัญหาที่ไม่สามารถตัดสินใจหรือแยกแยะได้อย่างชัดเจนอาจจะเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เป็นต้น, โดยปริยายหมายถึงสภาวะที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้.
เจ็บแสบก. รู้สึกเจ็บใจอย่างเผ็ดร้อน.
ใจเติบมีใจอยากให้มากไว้หรือใหญ่โตไว้.
ใจเร็วว. ตกลงใจอย่างรวดเร็วโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ.
ช็อกน. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที.
ช่ำใจว. มากพอสมกับที่ใจอยาก เช่น เที่ยวเสียช่ำใจ.
ช่ำปอดว. มากพอสมกับที่ใจอยาก เช่น นอนเสียช่ำปอด.
ซาบซึ้งว. อาการที่รู้สึกจับใจอย่างลึกซึ้ง, อาการที่รู้สึกปีติปลาบปลื้มมาก.
ตราบ(ตฺราบ) สัน. จนถึง, เมื่อ, เช่น ยังมีลมหายใจอยู่ตราบใด ก็ถือว่ายังมีชีวิตอยู่ตราบนั้น.
ตาเป็นมันว. อาการที่จับตามองจ้องดูสิ่งที่ต้องใจอย่างจดจ่อ.
ติดใจก. ชอบ, ฝังอยู่ในใจ, เช่น เขาพูดดีคนเลยติดใจอยากจะฟังอีก, ติดอกติดใจ ก็ว่า
ติดใจข้องใจ, สงสัย, เช่น อธิบายเท่าไรก็ยังติดใจอยู่.
ตึงตัวว. แก้ไขให้คลายความลำบากหรือความคับแค้นได้ยาก เช่น เศรษฐกิจอยู่ในภาวะตึงตัว.
ทะลุปรุโปร่งว. อาการที่เห็นหรือเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งโดยตลอด.
น้ำตาตกในเศร้าโศกเสียใจอย่างมาก แต่ไม่แสดงให้ปรากฏ.
ประท้วงก. กระทำการหรือแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการคัดค้านเพราะไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจอย่างยิ่ง เช่น อดข้าวประท้วง เขียนหนังสือประท้วง.
ประพจน์ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธซึ่งเป็นข้อความจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จะมีความหมายกำกวมไม่ได้. (อ. proposition).
ประหวัดก. หวนคิดเพราะผูกใจอยู่.
ปอด ๑น. อวัยวะทำหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจอยู่ภายในร่างกายของคนหรือสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเป็นส่วนมาก
ปาณี ๒ว. มีลมหายใจอยู่, ยังเป็นอยู่.
เปิดอกก. บอกความในใจอย่างไม่ปิดบัง, พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีลับลมคมใน.
เผด็จการน. การใช้อำนาจบริหารเด็ดขาด, เรียกลัทธิหรือแบบการปกครองที่ผู้นำคนเดียวหรือบุคคลกลุ่มเดียวใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดในการบริหารประเทศ ว่า ลัทธิเผด็จการ, เรียกผู้ใช้อำนาจเช่นนั้น ว่า ผู้เผด็จการ.
แผลเก่าน. ความเจ็บชํ้าที่ฝังใจอยู่ไม่รู้ลืม.
พะอืดพะอมโดยปริยายหมายความว่า ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี, ไม่กล้าที่จะตัดสินใจเด็ดขาดลงไป, กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็ว่า.
ฟูมฟายน้ำตาก. เอามือทั้ง ๒ ข้างเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบหน้าเพราะความเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก.
มหาธาตุเรียกพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ว่า มหาธาตุ เช่น เอาทั้งพืชพระศรีมหาโพธิอันพระพุทธเจ้าเราเสด็จอยู่ใต้ต้นและผจญพลขุนมาราธิราช ได้ปราบแก่สัพพัญญุตญาณเป็นพระพุทธมาปลูกเบื้องหลังพระมหาธาตุนี้ (ศิลาจารึกนครชุม), เรียกวัดที่มีพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ว่า วัดมหาธาตุบ้าง วัดพระศรีมหาธาตุบ้าง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุบ้าง.
มาตรแม้น(มาด-) สัน. หากว่า, แม้ว่า, เช่น มาตรแม้นดวงใจอยากได้คู่.
มุ่งมั่น .ตั้งใจอย่างแน่วแน่ เช่น เขามุ่งมั่นในการทำความดี.
ไร ๑น. ชื่อสัตว์ขาปล้องหลายชนิดหลายสกุล ในอันดับ Acarina มีขา ๘ ขา ขนาดเล็กเท่าหัวเข็มหมุดหรือเล็กกว่า ลักษณะคล้ายพวกเห็บแต่ต่างกันที่ไม่มีหนามเล็ก ๆ คลุมรอบปาก และแผ่นแข็งของรูหายใจอยู่บริเวณด้านข้างของลำตัวเรียงกันไม่เลยโคนขาคู่ที่ ๔ ชนิดดูดกินเลือดสัตว์ เช่น ไรไก่ ชนิด Dermanyssus gallinae (De Geer) ในวงศ์ Dermanyssidae ชนิดที่อยู่ตามผิวหน้าคน ได้แก่ชนิด Demodex folliculorum (Simen) และชนิดที่ทำให้เกิดขี้เรื้อนเปียกในสุนัข คือ ชนิด D. canisLeydis ทั้ง ๒ ชนิดอยู่ในวงศ์ Dermodicidae ชนิดที่ทำลายพืช เช่น ไรสนิม ชนิด Phyllocoptruta oleivora (Ashmead) ในวงศ์ Eriophyidae ทำลายผลส้ม ชนิดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ในคน เช่น ไรฝุ่น ชนิด Dermatophagoides pteronyssinus (Trouessart) ในวงศ์ Pyroglyphidae.
ล้นหลามว. มากมายเหลือประมาณ เช่น ประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างล้นหลาม.
ลองใจก. พิสูจน์ว่าจะมีนํ้าใจอย่างที่คาดหมายไว้หรือไม่ เช่น เอาแหวนวางไว้ลองใจคนใช้ว่าจะซื่อสัตย์หรือไม่.
ล้างสมองก. ทำให้บุคคลเปลี่ยนความคิดเห็นหรือความเชื่อถือของตนโดยเฉพาะในลัทธิการเมือง สังคม หรือศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง และยอมรับความคิดเห็นหรือความเชื่อใหม่โดยใช้วิธีการต่าง ๆ รวมทั้งอาจมีการทรมานจิตใจอย่างรุนแรง.
ลิงโลดก. อาการตื่นเต้นดีใจอย่างมาก เช่น เด็ก ๆ ลิงโลดเมื่อเห็นขนม พอยิงประตูฟุตบอลได้เขาก็ลิงโลด, ตื่นเต้นดีใจมากเพราะสมปรารถนาในอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เขารู้สึกลิงโลดใจที่สอบได้ที่ ๑.
เล็งผลเลิศก. คาดหวังเฉพาะผลได้หรือผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม.
วงการน. กลุ่มบุคคลที่มีอาชีพหรือความสนใจอย่างเดียวหรือในแนวเดียวกัน เช่น วงการธุรกิจ วงการบันเทิง วงการครู.
สองจิตสองใจว. ลังเล, ตัดสินใจไม่ได้, เช่น จะไปเชียงใหม่ดีหรือไม่ไปดี ยังสองจิตสองใจอยู่.
สะใจว. หนำใจ, สาแก่ใจ, สมใจอยาก, เช่น อยากกินหูฉลามมานานแล้ว วันนี้ต้องกินให้สะใจเสียที เขาโมโหน้องมาก เลยตีเสียสะใจ.
สู้รบตบมือก. ต่อสู้, ทะเลาะวิวาท, เช่น เราจะเอากำลังที่ไหนไปสู้รบตบมือกับคนมีอำนาจอย่างเขา เขาไม่ยอมสู้รบตบมือด้วย.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
power, concurrentอำนาจอย่างเดียวกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
levocardia; sinistrocardiaหัวใจอยู่ซ้าย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
sinistrocardia; levocardiaหัวใจอยู่ซ้าย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
jurisdiction, concurrentเขตอำนาจอย่างเดียวกัน, องค์อำนาจอย่างเดียวกัน (ที่แต่ละฝ่ายต่างมี) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
concurrent jurisdictionเขตอำนาจอย่างเดียวกัน, องค์อำนาจอย่างเดียวกัน (ที่แต่ละฝ่ายต่างมี) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
concurrent powerอำนาจอย่างเดียวกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
dextrocardiaหัวใจอยู่ขวา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
eupnea; eupnoeaการหายใจปรกติ, การหายใจอย่างสบาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
eupnoea; eupneaการหายใจปรกติ, การหายใจอย่างสบาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
viable childทารกที่อาจอยู่รอด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
utmost good faithความสุจริตใจอย่างยิ่ง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
uberrima fidesความสุจริตใจอย่างยิ่ง มีความหมายเหมือนกับ utmost good faith [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Conjoint analysis (Marketing)การวิเคราะห์คอนจอยท์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Task related monitoringการเฝ้าสังเกตตามภารกิจ, การตรวจติดตามปริมาณรังสีที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อให้ได้ข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนสำหรับการบริหารจัดการในการปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเป็นการเฝ้าสังเกตรายบุคคล หรือ การเฝ้าสังเกตสถานปฏิบัติการ [นิวเคลียร์]
Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategyยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต]
Diplomatist หรือ Diplomatใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Organization of European Economic Cooperationคือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต]
Recall of Diplomatsการเรียกตัวนักการทูตกลับประเทศของตน คือ ผู้แทนทางการทูตอาจถูกรัฐบาลของตนริเริ่มเรียกตัวกลับประเทศได้ด้วยเหตุผล ต่าง ๆ เช่น ผู้แทนทางการทูตนั้นขอลาออก หรือลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ หรือถูกโยกย้ายไปประจำอีกแห่งหนึ่ง หรือเกิดความไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ถ้าหากรัฐบาลปรารถนาจะเรียกหัว หน้าคณะผู้แทนทางการทูตกลับโดยถาวรเนื่องจากไม่พอใจในตัวเขา โดยมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน คือ รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทูตผู้นั้นทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเสีย มากกว่าที่จะใช้วิธีสั่งปลด อันเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่ามากนอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตหรือเอกอัครราชทูตอาจถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับตามคำ ขอร้องของรัฐบาลประเทศผู้รับ เนื่องจากกระทำตนไม่เป็นที่พึงปราถนาของประเทศผู้รับ (Persona non grata) ก็ได้ ตามปกติ คำขอร้องจากรัฐผู้รับขอให้เรียกตัวกลับนั้น มักได้รับการตอบสนองโดยดีในทันทีจากรัฐผู้ส่ง แต่ถ้าหากรัฐผู้ส่งปฏิเสธคำขอร้องดังกล่าวนั้น รัฐผู้รับอาจขับให้ออก (Dismiss) จากประเทศก็ได้ [การทูต]
United Nations Universityมหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต]
wetlandsพื้นที่ชุ่มน้ำ หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต]
Air Hungerขาดอากาศ, การหายใจอย่างมาก, การหายใจเฮือก, หายใจเฮือก [การแพทย์]
Airway Obstruction, Acuteการอุดกั้นทางหายใจอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์]
Anxiety Attacks, Acuteความกระวนกระวายใจอย่างมากเพราะประสาทเครียด [การแพทย์]
Anxiety, Severeการกังวลอึดอัดใจอย่างรุนแรง [การแพทย์]
Anxiety, Severeการกังวลอึดอัดใจอย่างรุนแรง [การแพทย์]
Decision Making, Professionalการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด [การแพทย์]
Formal Testการตรวจอย่างมีแบบแผน [การแพทย์]
proposition [ statement ]ประพจน์, ข้อความที่เป็นจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น โดยอาจอยู่ในรูปประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธก็ได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
communication devicesอุปกรณ์การสื่อสาร, ทำหน้าที่รับและส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งและรับข้อมูลโดยมีการส่งผ่านทางสื่อกลางดังที่กล่าวมาแล้ว สัญญาณที่ส่งออกไปอาจอยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือแบบแอนะล็อก ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับสื่อกลางที่ใช้ในการเชื่อมต่อ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Metropolitan Area Network( MAN)เครือข่ายนครหลวง หรือแมน, เครือข่ายที่ใช้เชื่อมโยงแลนที่อยู่ห่างไกลออกไป เช่นการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างสำนักงานที่อาจอยู่คนละอาคารและมีระยะทางไกลกัน การเชื่อมต่อเครือข่ายชนิดนี้อาจใช้สายไฟเบอร์ออพติก หรือบางครั้งอาจใช้ไมโครเวฟเชื่อมต่อ เครือข่ายแบบนี้ที่ใช้ในสถานศึกษามีชื่อเรียก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Office Automation( OA)ระบบสำนักงานอัตโนมัติ, ระบบงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ประยุกต์และระบบเครือข่าย ช่วยในงานที่เกี่ยวกับเอกสาร การโอนย้ายแลกเปลี่ยนไฟล์ การควบคุมเอกสารและส่งเอกสารไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการส่งอีเมล ผู้ใช้งานอาจอยู่ภายในอาคารเดียวกันหรืออยู่คนละเมืองก็ได้ การส่งข้อมู [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
display cardการ์ดแสดงผล, อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิทัลมาเป็นสัญญาณที่ส่งไปที่จอภาพ การ์ดแสดงผลอาจอยู่ในรูปแบบการ์ดหรืออาจติดตั้งมาบนเมนบอร์ดแล้ว [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
voice over IP (VoIP)วอยซ์โอเวอร์ไอพี, การใช้งานโทรศัพท์โดยผ่านอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ตเทเลโฟนี ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อเข้ากับคู่สนทนาที่อาจอยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรือพื้นที่ห่างไกลออกไป โดยเสียงของผู้สนทนาจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปของสัญญาณดิจิทัลแล้วส่งผ่านอินเทอร์เน็ตไปถ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Gratification, Immediateความพึงพอใจอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์]
Informal Testsการตรวจอย่างคร่าวๆ [การแพทย์]
Myocardial Infarction, Acuteกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนตายเฉียบพลัน, อินฟาร์คชั่นของหัวใจอย่างเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างปัจจุบัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดเฉียบพลัน, โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลัน, [การแพทย์]

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
จอยท์เวนเจอร์[jøi-wēnjoē] (n) EN: joint venture  FR: joint venture [ f ] (anglic.) ; joint-venture [ f ] (anglic.)
ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม[prasop khwām samret yāng ngotngām] (v, exp) EN: be crowned with complete success

English-Thai: Longdo Dictionary
grok(vt, jargon) ดื่มด่ำ, เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง [ เริ่มใช้โดย Robert A. Heinlein ในนิยายเรื่อง Stranger in a Strange Land. ]
constitutional court(org) ศาลรัฐธรรมนูญ ของประเทศไทยมีชื่อเต็มว่า The Constitutional Court of The Kingdom of Thailand มีโฮมเพจอยู่ที่ http://www.concourt.or.th/
to be on the top of the worldเป็นสำนวนแปลได้สองแบบ คือ มีความสุขอย่างล้นหลาม มีความสุขที่สุด หรือประสบความสำเร็จอย่างสูง

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
backslap(vi) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง, Syn. be jovial
backslap(vt) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง
be satisfy with(phrv) พึงพอใจอย่างยิ่งกับ
caprice(n) การเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. whim, vagary, notion
capricious(adj) ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. changeable, whimsical
coast(vi) สำเร็จอย่างง่ายดาย
consummation(n) ความสำเร็จจากการทำบางสิ่งจนลุล่วง, See also: การทำให้สำเร็จอย่างสมบูรณ์, ผลหรือผลสรุปที่สมบูรณ์แบบ
contempt(n) การดูถูก, See also: ความรู้สึกรังเกียจอย่างมาก, Syn. disdain, scorn
crying(adj) ที่ควรให้ความสนใจ, See also: ที่ควรให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน, Syn. urgent, pressing
do something the hard way(idm) ทำสำเร็จอย่างเหนื่อยยากหรือยุ่งยาก
dumbfound(vt) ทำให้ประหลาดใจอย่างมาก, See also: ทำให้แปลกใจอย่างมาก, ทำให้ตะลึงงัน, Syn. astound, amaze, awe
effectual(adj) ที่ได้ผลตามที่ตั้งใจ, See also: ได้ผล, ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้, Syn. efficient, qualified
expedient(n) วิธีที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว, Syn. expediency
get onto(phrv) เข้าใจอย่างถ่องแท้
go from(phrv) เพิ่ม (อำนาจ, ชื่อเสียง, ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว)
go over(phrv) ตรวจตรา, See also: สำรวจ, ตรวจอย่างละเอียด, Syn. go through, look over, run over
have at(idm) สนใจอย่างจริงจัง
grasp(n) ความสามารถในการเข้าใจ, See also: การเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง
heartbreak(n) อาการไข้ใจ, See also: อาการอกหัก, ความเสียใจอย่างมาก, Syn. grief, heartache, sorrow
heartsick(adj) เป็นไข้ใจ, See also: เสียใจอย่างมาก, ที่ผิดหวังอย่างแรง, Syn. dejected, sick-at-heart, despondent, dispirited
get the once-over(idm) โดนมองสำรวจอย่างเร็ว
high-flyer(idm) คนทะเยอทะยาน, See also: คนที่อยากประสบความสำเร็จอย่างมาก
hit the bull's-eye(idm) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม (คำไม่เป็นทางการ)
sail through something(idm) ง่ายๆ, See also: ผ่านมาง่ายๆ, ทำได้สำเร็จอย่างง่ายๆ
to one's heart's content(idm) จนพอใจ, See also: ตามอำเภอใจ, ตามใจอยาก
inly(adv) ไปข้างใน (วรรณคดี), See also: อย่างสนิทสนม, ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง, Syn. inwardly, intimately, inside
lie in(phrv) นอนขี้เกียจอยู่บเตียงในตอนเช้า, See also: หลับอย่างเกียจคร้านบนเตียง, Syn. sleep in
look up and down(idm) สำรวจอย่างละเอียด (ด้วยตา)
mind-bending(adj) ซึ่งมีผลต่อจิตใจอย่างมาก
nonplus(vt) ทำให้ประหลาดใจอย่างที่สุด, Syn. baffle, perplex, puzzle
no-win(adj) ซึ่งจบลงอย่างเลวร้ายไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
once-over(n) การมองสำรวจอย่างรวดเร็ว
plumb(vt) เข้าใจอย่างลึกซึ้ง, Syn. fathom
rapture(n) ความปิติยินดีอย่างยิ่ง, See also: ความดีใจล้นเหลือ, ความพึงพอใจอย่างมาก, Syn. happiness, pleasure, satisfaction
resolution(n) การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด, See also: ความตั้งใจอย่างแน่วแน่, Syn. determination, firmness, purpose
rhapsodic(adj) ที่เต็มไปด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น (ภาษาหรืออารมณ์), See also: ที่เต็มไปด้วยความปีติอย่างเหลือล้น, Syn. enthusiastic, ecstatic
rhapsodical(adj) ที่เต็มไปด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น (ภาษาหรืออารมณ์), See also: ที่เต็มไปด้วยความปีติอย่างเหลือล้น, Syn. enthusiastic, ecstatic
romp(vi) ประสบความสำเร็จอย่างง่ายๆ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ชนะการแข่งขันอย่างง่ายดาย, Syn. win easily
face like a bulldog chewing a wasp(sl) ไม่มีความน่าดึงดูด, See also: ที่ไม่น่าสนใจอย่างมาก
yucky(sl) น่ารังเกียจ, See also: ไม่น่าพึงใจอย่างมาก
sate(vt) ทำให้พอใจอย่างเต็มที่, See also: ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้อิ่มอกอิ่มใจ, ทำให้เอือมระอา
self-determination(n) อำนาจในการตัดสินใจอย่างอิสระ, See also: การกำหนดใจตนเอง, การตัดสินใจด้วยตัวเอง, Syn. free will, independence, freedom, liberty
sift(vt) วินิจฉัย, See also: ตรวจอย่างละเอียด, กลั่นกรอง, คัดเลือก, Syn. investigate, scrutinize, Ant. disregard
skyrocket(vi) ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
skyrocket(vt) ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างฉับพลัน
soak in(phrv) ทำให้หมกมุ่นกับ, See also: ทำให้สนใจอยู่กับ, ทำให้ง่วนอยู่กับ, Syn. absorb in
take someone's breath away(idm) ทำให้ประหลาดใจอย่างมาก
uncontrollable(n) สิ่งที่ไม่อาจอยู่ภายใต้การควบคุม, See also: สิ่งที่ควบคุมไม่ได้
upstart(n) ผู้ที่ร่ำรวยหรือมีอำนาจอย่างรวดเร็ว, Syn. parvenu, nouveau riche
wow(vt) ทำให้ตื่นเต้นยินดีอย่างมาก (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้ประทับใจอย่างมาก, Syn. delight, impress

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
adjoin(อะจอยน์') vt., vi. ประชิดกับ, ติดกับ, ข้างเคียงกับ, Syn. border
adjoining(อะจอย' นิง) adj. ซึ่งอยู่ประชิดกัน
animism(แอน' นิมิสซึม) n. ความเชื่อถือที่ว่ามีวิญญาณในธรรมชาติและจักรวาล, ความเชื่อว่าวิญญาณอาจอยู่แยกต่างหากจากร่างกาย, ความเชื่อถือว่าวิญญาณเป็นส่วนสำคัญของชีวิตและสุขภาพที่ดี, ความเชื่อในเรื่องวิญญาณ -animist n. -animistic adj.
application(แอพพลิเค'เชิน) n. การสมัคร, ความเกี่ยวข้อง, ความมีประโยชน์, การใช้, การร้องขอ, คำร้องขอ, ใบสมัคร, ความสนใจอย่างใกล้ชิด, การประยุกต์, โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับรูปแบบหนึ่งรูปแบบใด, Syn. administration, utility, request
conjoin(คันจอย') { conjoined, conjoining, conjoins } vt., vi. รวมกัน, เชื่อมกัน, ประสานกัน., See also: conjoinedly adv. conjoiner n., Syn. connect, join, attach, unite
conjoint(คันจอยทฺ') adj. ซึ่งรวมกัน, ซึ่งเชื่อมกัน, ซึ่งประสานกัน, See also: conjointness n.
copacetic(โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง
copasetic(โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง
copesetic(โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง
coup(คู) n. การดำเนินการอย่างกะทันหัน, การกระทำที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก, รัฐประหาร -pl. coups
dawn(ดอน) { dawned, dawning, dawns } n. อรุณ, รุ่งอรุณ, การเริ่มต้น, การเริ่มปรากฎขึ้น, การเข้าใจอย่างกะทันหัน vi. เริ่มทอแสง, เริ่มมองเห็นได้, เริ่มปรากฎขึ้นในใจครั้งแรก -S.beginning
ecstatic(เอคสแทท'ทิค) adj. ซึ่งดีใจอย่างเหลือล้น, ซึ่งปลาบปลื้มอย่างเหลือล้น. n. ผู้ที่ดีใจอย่างเหลือล้น, See also: ecstatics n. ความปลาบปลื้มอย่างมาก, Syn. exultant
enjoy(เอนจอย') { enjoyed, enjoying, enjoys } v. ชอบ, พอใจ, สนุก, สำราญใจ.
enjoyment(เอนจอย'เมินทฺ) n. ความสนุกสนาน, ความเพลิดเพลิน, แหล่งหรือสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลินหรือสนุกสนาน, Syn. pleasure
facinorous(ฟะชิน' เนอรัส) adj. ร้ายกาจอย่างน่ากลัว
heartsickadj. เป็นไข้ใจ, เสียใจอย่างมาก, ช้ำใจมาก., See also: heartsickeningly adj. heartsickness n.
indecisive(อินดีไซ' ซิฟว) adj. ไม่เด็ดขาด, ซึ่งตัดสินใจอย่างไม่เด็ดขาด, ลังเล, ไม่ชัดเจน
insight(อิน'ไซทฺ) n. การเข้าใจอย่าถ่องแท้, การเข้าใจอย่างลึกซึ้ง, การมองทะลุ, Syn. judgment
join(จอยนฺ) { joined, joining, joins } vt., vi., n. (การ) เชื่อม, ติด, ต่อ, ร่วม, Syn. connect, merge, unite
joinder(จอย'เดอะ) n. การร่วมกัน, การร่วมมือกัน, การร่วมฟ้อง, การเชื่อมต่อกัน
joiner(จอย'เนอะ) n. ผู้ร่วม, สิ่งร่วม, ผู้เชื่อมต่อ, ช่างไม้, สิ่งเชื่อมต่อ
joinery(จอย'เนอรี) n. ศิลปกรเชื่อมต่อ, วิชาช่างไม้
joint(จอยทฺ) { jointed, jointing, joints } n. ข้อต่อ, รอยต่อ, หัวต่อ, เดือย, ปล้อง, ข้อ, ตาไม้, ส่วนตอ, ตะเข็บ, ที่บรรจบ adj. ร่วมกัน, สัมพันธ์กัน, ในเวลาเดียวกัน, เชื่อม vt., vi. เชื่อมกัน, ต่อกัน, Syn. juncture
jointly(จอยทฺ'ลี) adv. ร่วมกัน, พร้อมกัน, Syn. together
jointure(จอยน'เซอ) n. ทรัพย์สินของสามีที่ตายซึ่งภรรยาหม้ายมีสิทธิ์จะได้รับ
joist(จอยซฺทฺ) { joisted, joisting, joists } n. ตงรองพื้น, รอดรองพื้น, รอดตง, กระทง. vt. ตีตงรองพื้น, ตีรอดรองพื้น
joy(จอย) { joyed, joying, joys } n. ความปีติยินดี, สิ่งที่ทำให้ดีอกดีใจ, ความสุขสบาย. vi. รู้สึกปีติยินดี, ดีใจ, เบิกบานใจ, Syn. ecstasy
joyful(จอย'ฟูล) adj. ปีติยินดี, ปลื้มปีติ, ดีอกดีใจ, เบิกบานใจ, รื่นเริง, ซึ่งทำให้มีความสุข., See also: joyfulness n. ดูjoyful
joyless(จอย'ลิส) adj. ไม่มีความสุข, ไม่รื่นเริง, เศร้า, หดหู่ใจ, หม่นหมอง
joyous(จอย'เอิส) adj. เบิกบานใจ, ปลื้มปีติ, ดีอกดีใจ, รื่นเริง., See also: joyousness n., Syn. merry, festive
misjoinder(มิสจอย'เดอะ) n. การเข้าร่วมด้วย
muddle(มัด'เดิล) vt. ทำให้ยุ่ง, ทำให้สับสน, ทำให้มึน, ผสมเหล้า, ทำให้ขุ่น, ทำเหลวไหล. vi. คิดฟุ้งซ่าน, มั่ว, กระทำเหลวไหล, muddle through ประสบความสำเร็จอย่างไม่ได้พยายามเต็มที่. n. ภาวะยุ่งเหยิง, ภาวะสับสน, , See also: muddleness n. muddlement n. muddligly
realisation(รีอะไลเซ'เชิน) n. การทำให้เป็นจริง, การเข้าใจอย่างแท้จริง, การสำนึก, การเปลี่ยนให้เป็นเงินสดหรือเงิน, ได้รับกำไรหรือรายได้สำหรับตนเอง, การขายได้เงิน, ความสมปรารถนา, Syn. understanding
realization(รีอะไลเซ'เชิน) n. การทำให้เป็นจริง, การเข้าใจอย่างแท้จริง, การสำนึก, การเปลี่ยนให้เป็นเงินสดหรือเงิน, ได้รับกำไรหรือรายได้สำหรับตนเอง, การขายได้เงิน, ความสมปรารถนา, Syn. understanding
rejoice(รีจอยซฺ') vi. ดีใจ, ยินดี, ปลื้มปีติ, รื่นเริง vt. ทำให้ดีใจ, ทำให้ยินดี, ทำให้ปลื้มปีติ, See also: rejoiceful adj., Syn. delight, gladden
rejoicing(รีจอย'ซิง) n. ความดีใจ, ความยินดี, ความปลื้มปีติยินดี, ความรื่นเริง, See also: rejoicingly adv., Syn. exultation, jubilation
rejoin(รีจอยน์') vt., vj. รวมกันอีก, กลับมารวมกันอีก, ผนึกกันใหม่, ตอบ, โต้ตอบ, โต้แย้ง, แก้ฟ้อง, Syn. reunite
rejoinder(รีจอย'เดอะ) n. การโต้ตอบ, คำโต้ตอบ, การโต้แย้ง, คำโต้แย้ง, Syn. reply, riposte
remorse(รีมอร์ส') n. ความสำนึกผิด, ความเสียใจอย่างมากต่อความผิดที่ได้กระทำไป, ความเห็นอกเห็นใจ, Syn. compunction, sorrow
repugnance(รีพัก'เนินซฺ) n. การต่อต้าน, การคัดค้าน, การเป็นปฏิปักษ์, ความรังเกียจอย่างแรง, ความเกลียดชัง, ความรู้สึกสะอิดสะเอียน, Syn. repugnancy, aversion
repugnant(รีพัก'เนินทฺ) adj. ต่อต้าน, คัดค้าน, เป็นปฏิปักษ์, รังเกียจอย่างแรง, สะอิดสะเอียน, Syn. repulsive
romp(รอมพฺ) vi., n. (การ) เล่นอึกทึกครึกโครม, วิ่งเล่น, เล่นอย่างครื้นเครง, กระทำอย่างรวดเร็ว, การประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและง่ายดาย, See also: romper n. rompingly adv., Syn. play, gambol, sport
rubicon(รู'บะคอน) n. ชื่อแม่น้ำในภาคเหนือของอิตาลี -Phr. (cross (pass) the Rubicon ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว)
sate(เซท) vt. ทำให้พอใจอย่างเต็มที่, ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้อิ่มอกอิ่มใจ, ทำให้เบื่อหน่าย, กริยาช่อง 2 และ 3 ของ sit
satiate(เซ'ชีเอท) vt. ทำให้พอใจอย่างยิ่ง, ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้น่าเบื่อ, ทำให้เอียน. adj. พอใจยิ่ง, อิ่มอกอิ่มใจ, เต็มอิ่ม, See also: satiation n., Syn. surfeit, satisfy, gratify, suffice
satiated(เซ'ชีเอทิด) adj. เต็มอิ่ม, อิ่มแปล้, อิ่มจนเอียน, พอใจอย่างยิ่ง
scan(สแคน) vt., vi. ตรวจอย่างละเอียด, มองกวาด, ดูผ่าน ๆ ตา, วิเคราะห์เสียงสัมผัสของบทกวี, อ่านบทกวีโดยพิจารณาเสียงสัมผัส, (โทรทัศน์, เรดาร์) กวาดภาพ ปรากฎภาพ., See also: scannable adj. scanner n., Syn. inspect, scrutinize, peruse, glan
shock(ชอค) n. การกระทบกระแทกอย่างกะทันหัน, อาการสะเทือน, อาการสะเทือนทางใจอย่างกะทันหัน, อาการตื่นตะลึง, ความสะดุ้งตกใจ, อาการสั่นกระตุก, อาการเป็นลม, อาการแน่นิ่งไปอย่างกระทันหัน. vt. ทำให้ตะลึงงัน, ทำให้สะดุ้งตกใจ, เขย่าขวัญ, ทำให้สะเทือน, กระทบอย่างแรง, ตีอย่างแรง. vi.ตะลึงงัน, สดุ้งตกใจ
shook-up(ชูค'อัพ) adj. ถูกกระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง
sift(ซิฟทฺ) vt. ร่อน, ตรวจอย่างละเอียด, สอบถามอย่างละเอียด, เลือกพันธุ์, คัดเลือก. vi. ร่อน., See also: sifter n., Syn. sieve, analyze

English-Thai: Nontri Dictionary
ironic(adj) พูดอย่างใจอย่าง, แดกดัน, เยาะเย้ย
ironical(adj) พูดอย่างใจอย่าง, แดกดัน, เยาะเย้ย
irony(n) การพูดอย่างใจอย่าง, คำประชดประชัน

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
flabbergasted(adj) แปลกใจและตกใจอย่างมาก
satiated(n, vt) อิ่มอกอิ่มใจอย่างเต็มที่, ทำให้เสพย์สุขอย่างเต็มที่, ทำให้เกิดความอาเจียน, อิ่มหนำสำราญ, เสพสุขอย่างเต็มที่, เอียนเพราะมากเกินไป n. การพอใจอย่างเต็มที่, การเกิดความเบื่อหน่าย, การเสพสุขอย่างเต็มที่ slang. อิ่มที่ได้ killing, See also: repletion, Syn. filled to
satiated(n, adj) 1) มีความต้องการ....อีกไม่เพียงพอ 2) อิ่มแปล้ , เต็มอิ่ม , พอใจอย่างยิ่ง 3) ความมีมากจนเกินความต้องการ, See also: surfeit, fullly, A. unsatisfied, Syn. satistfied

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
極める[きわめる, kiwameru] TH: สำรวจอย่างถี่ถ้วน  EN: to investigate thoroughly
判る[わかる, wakaru] TH: เข้าใจอย่างถ่องแท้  EN: to understand

German-Thai: Longdo Dictionary
Lappen|der, pl. Lappen| วัสดุจากผ้า หรือ หนัง สำหรับเช็ดทำความสะอาด, ผ้าขี้ริ้ว เช่น Joy wischt den Fleck auf dem Tisch mit einem Lappen auf. = จอยเช็ดซับรอยเปื้อนบนโต๊ะออกด้วยผ้าขี้ริ้ว
bewusst(adj) ที่รู้ตัว, ที่มีสติ, ที่ตื่นตัว, ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top