ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ห่วง, -ห่วง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ | ห่วง | (n) ring, See also: hoop, loop, Example: หล่อนเห็นชายสามสี่คนแบกโซ่และห่วงเหล็กตรงเข้ามา, Count Unit: ห่วง, Thai Definition: เครื่องคล้อง, ของที่เป็นวง | ห่วง | (v) be concerned with/about, See also: think a lot about, worry about, Syn. พะวง, กังวล, Ant. เบาใจ, หายกังวล, หมดห่วง, คลายกังวล, Example: แม่กระทิงมักจะห่วงลูกมากกว่าพ่อ, Thai Definition: ผูกพัน, เป็นกังวล, พะวง | ห่วงใย | (v) worry, See also: feel anxious about, concern about, Syn. กังวล, Ant. หมดห่วง, หายห่วง, Example: เธอห่วงใยและเอาใจใส่ผมยิ่งกว่าตัวเธอเสียอีก, Thai Definition: มีใจพะวงอยู่, มีทุกข์กังวลอยู่ | ความห่วงใย | (n) worry, See also: care, anxiety, concern, Syn. ความห่วง, ความกังวล, Example: แม่ทุกคนมีความห่วงใยในลูกของตนเสมอ, Thai Definition: การที่มีใจกังวลอยู่, การที่มีทุกข์กังวลอยู่ | ห่วงหาอาทร | (v) be concerned with, See also: be concerned about, be anxious about, worry about, Syn. ห่วงใย, Example: พ่อแม่ห่วงหาอาทรลูกอยู่เสมอ | น่าเป็นห่วง | (v) be worried, See also: be showing anxiety, be anxious, be concerned, be fearful, Syn. น่าวิตก, น่ากังวล, น่าห่วง, Ant. ไร้ห่วง, ไร้กังวล, Example: อาการป่วยของคนไข้น่าเป็นห่วงมาก ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด, Thai Definition: น่ากลัวว่าจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น | น่าเป็นห่วง | (adj) worried, See also: concerned, anxious, suspense, nervous, worrisome, Syn. น่าวิตก, น่ากังวล, น่าห่วง, Ant. ไร้ห่วง, ไร้กังวล, Thai Definition: น่ากลัวว่าจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น | ความเป็นห่วง | (n) worry, See also: anxiety, distress, care, Syn. ความห่วง, ความเป็นห่วงเป็นใย, Ant. การปล่อยปละละเลย, การเพิกเฉย, Example: พ่อแม่มักมีความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของลูก | ห่วงหน้าพะวงหลัง | (v) be worried, See also: be anxious, feel anxiety, bother, Syn. ห่วงหน้าห่วงหลัง, Example: สื่อมวลชนไทยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนมากนัก เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนในภูมิภาคนี้, Thai Definition: พะวงใจ หรือกังวลใจไปหมดทุกเรื่อง, ไม่สามารถวางใจได้ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม, Notes: (สำนวน) | ห่วงหน้าห่วงหลัง | (v) worry, See also: be anxious, feel anxiety, Syn. ห่วงหน้าพะวงหลัง, Example: เธอไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลังหรอก ไปเที่ยวให้สนุกเถอะ, Thai Definition: พะวงใจ หรือกังวลใจไปหมดทุกเรื่อง, ไม่สามารถวางใจได้ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม |
| เป็นห่วง | ก. กังวลถึง. | โยนห่วง | น. ชื่อการพนันชนิดหนึ่งใช้ห่วงโยนลงไปคล้องหลักที่ปักอยู่บนแป้น. | ห่วง | น. เครื่องคล้อง เช่น ห่วงประตู, ของที่เป็นวง. | ห่วง | ก. ผูกพัน, กังวลถึง, มีใจพะวงอยู่. | ห่วงคล้องคอ | น. ความรับผิดชอบที่ผูกพันอยู่. | ห่วงใย | ก. มีใจพะวงอยู่, มีทุกข์กังวลอยู่. | ห่วงหน้าพะวงหลัง, ห่วงหน้าห่วงหลัง | ก. พะว้าพะวัง. | ห้วง | น. ช่วง, ระยะ, ตอน. | ห้วงน้ำ | น. ทะเลหรือแม่นํ้าตอนที่กว้างใหญ่. | หาห่วงมาคล้องคอ | ก. รนหาภาระผูกพันมาใส่ตน. | หายห่วง | ก. ไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว, ไม่ต้องกังวลถึงอีกแล้ว, เช่น คนนี้มีความสามารถเชื่อถือได้ เมื่อมอบงานให้แล้ว หายห่วงได้เลย | หายห่วง | นานมากเช่น ใช้ให้ไปซื้อของตั้งแต่เช้า ไปเสียหายห่วงเลย, มาก เช่น เขาวิ่งทิ้งคู่แข่งหายห่วงเลย. | ก้น | ส่วนล่างของภาชนะ เช่น ก้นหม้อ, ส่วนสุดของห้วงหรือแอ่ง เช่น ก้นบ่อ ก้นเหว ก้นคลอง, ตรงข้ามกับ ปาก | กระจัง ๒ | น. ชื่อปลานํ้ากร่อยชนิด Periophthalmodon schlosseri (Pallas) ในวงศ์ Gobiidae พบในบริเวณป่าชายเลน รูปร่าง การเคลื่อนไหว และความสามารถขึ้นมาพ้นนํ้าได้คล้ายปลาจุมพรวดซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า มีครีบอกเป็นกล้ามเนื้อใช้ต่างตีน ช่วยครีบหาง ทำรูลึกอยู่ในเลน เคลื่อนไหวได้รวดเร็วบนผิวเลนและผิวนํ้า ปีนเกาะบนที่ชันและกระโจนเป็นห้วง ๆ ได้ ขนาดยาวได้ถึง ๒๗ เซนติเมตร, กะจัง ก็เรียก. | กระทรวง ๑ | (-ซวง) น. หมู่, พวก, เช่น ทุกหมวดทุกกระทรวงทรง ฤทธิเรื้อง (ยอพระเกียรติกรุงธน), ชนิด, อย่าง, เช่น อนึ่งนั้นอุเบกขาว่าเพ่งเฉย คือแหวกเลยสุขทุกข์อาลัยห่วง ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขสิ้นทั้งปวง สามกระทรวงนี้เป็นชื่อเวทนา (ปกีรณำพจนาดถ์), แบบ, อย่าง, กระบวน, เช่น ส่วนองค์พระอัยกาก็ทรงพาหนะหัสดินทร กรินทรราชเป็นทัพหลวงตามกระทรวงพยุหยาตรา (ม. ร่ายยาว มหาราช), โดยสมควรแก่กระทรวงแล้วส่งไป (สามดวง), ผจญคนกลิ้งกลอกกลับหลอกลวง เอากระทรวงสัตย์ซื่อให้เสื่อมเท็จ (สุ. สอนเด็ก). | กระวิน ๑ | น. ห่วงที่เกี่ยวกันสำหรับโยงสัปคับช้าง, ห่วงติดกับบังเหียน หรือเหล็กผ่าปากม้า, ประวิน ก็ใช้. | กว่า | (กฺว่า) สัน. ก่อน, ยังไม่ทัน, เช่น กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้, มักใช้เข้าคู่กับคำ จะ...ก็ เป็น กว่าจะ...ก็ หรือ กว่า...จะ...ก็, โบราณใช้ว่า ยิ่ง ก็มี เช่น ใจกว่าห้วงอรรณพ (ม. คำหลวง นครกัณฑ์). | กะ ๔ | น. ชื่อเงื่อนชนิดหนึ่ง ใช้สำหรับผูกเรือเพื่อคล้องกับที่ยึดหรือเสายึดเรือ เป็นเงื่อนที่แน่นแต่แก้ออกง่าย, ถ้าผูกเงื่อนชนิดทำห่วงไว้ก่อน เรียกว่า กะห่วง. | กังวล | ก. ห่วงใย, มีใจพะวงอยู่. | กำดัด | ก. พะวง, ห่วงใย, ขวนขวาย, เช่น ฤๅสองศุขารมย ชวนชายชํไม้เมิลป่า พระวงวิ่งวาศนาเด็กกำดัดเล่น (ม. คำหลวง มัทรี) | กุญแจมือ | น. ห่วงเหล็กมีกุญแจไข สำหรับเจ้าหน้าที่ใช้ใส่ข้อมือผู้ต้องหา. | โกลน | (โกฺลน) น. ห่วงที่ห้อยลงมาจากอานม้า ๒ ข้างสำหรับสอดเท้ายันในเวลาขึ้นหรือขี่ | ขอรับ ๑ | น. โลหะทำเป็นห่วงสำหรับรับขอสับ มักติดที่ประตูหน้าต่าง. | ขันสาคร | น. ขันขนาดใหญ่ทำด้วยโลหะผสม ได้แก่ สัมฤทธิ์ ทองเหลือง ตัวขันเป็นทรงลูกมะนาวตัด ก้นขันมีเชิง ข้างขันทำเป็นรูปหน้าสิงโตปากคาบห่วงซึ่งใช้เป็นหูหิ้วข้างละหู ใช้บรรจุน้ำสำหรับทำน้ำมนต์ หรือสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ใช้อาบ. | ขื่อผี | น. ชื่อกำไลที่ทำด้วยเงินหรือทองเกลี้ยง ๆ หัวท้ายรีดเป็นลวด ทำเป็นห่วงสอดไขว้กันเพื่อรูดเข้าออกได้, กำไลคู่ผี ก็เรียก. | เขน ๑ | น. เครื่องปิดป้องศัสตราวุธ รูปกลมคล้ายกระทะ ทำด้วยโลหะ ด้านหลังมีห่วงสำหรับสอดแขนและมือจับ มักใช้คู่กับดาบหรือหอก. | จะปิ้ง | แผ่นโลหะที่ติดฝาหีบสำหรับปิดรูกุญแจ, ใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น จะปิ้งหูกลอง จะปิ้งห่วงประตู. (ม.) | จะปิ้งเรือ | น. แผ่นโลหะโดยมากทำเป็นรูปดอกจัน สำหรับตรึงที่โคนห่วงร้อยโซ่ผูกเรือ. | จาม ๒ | ก. อาการของลมที่พุ่งออกมาทางจมูกและปาก มักจะเป็นห้วง ๆ ในทันทีทันใดโดยไม่ตั้งใจ เพราะเกิดระคายเคืองในจมูก | จี้ ๑ | น. เครื่องประดับมีรูปเหลี่ยม กลม หรือรี มักทำด้วยทองคำประดับเพชรพลอยเป็นต้น มีห่วงที่กรอบสำหรับห้อยคอ. | ใจจดใจจ่อ | ว. มุ่งอยู่, เป็นห่วงอยู่. | ชนัก | เครื่องผูกคอช้างทำด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมา เพื่อให้คนที่ขี่คอใช้หัวแม่เท้าคีบกันตก. | ชรลอง, ชระลอง, ชระล่อง | (ชะระ-) ก. ล่อง เช่น ผู้ชระลองล่วงห้วงมหรรณพ (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). น. ทางล่อง, ซอกเขา, ลำธาร. | ชลธาร | น. สายน้ำ, ห้วงน้ำ, เช่น ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร (โลกนิติ). | ชลาลัย | น. น้ำ, ห้วงน้ำ, เช่น ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย (กาพย์เห่เรือ), น้ำใจนางเปรียบอย่างชลาลัย ไม่เลือกไหลห้วยหนองคลองละหาน (กากี). | ชลาสินธุ์ | น. ห้วงน้ำ เช่น ข้าเป็นไรแทรกขนสุบรรณบิน เร็วรีบยิ่งมหาวายุพัด กวักกวัดปีกข้ามชลาสินธุ์ (กากี), สายน้ำ เช่น พระเหลือบเล็งชลาสินธุ์ ในวารินทะเลวน ก็เห็นรูปอสุรกล ซึ่งกลายแกล้งเป็นสีดา (พากย์นางลอย). | ชโลทร | (ชะโลทอน) น. แม่นํ้า, ทะเล, ห้วงนํ้า, ท้องนํ้า. | โซ่ ๒ | น. โลหะมีเหล็กเป็นต้นลักษณะเป็นห่วงหรือวงรีที่เกี่ยวกันเป็นข้อ ๆ เป็นสายยาวสำหรับผูกล่ามแทนเชือก. | โซงโขดง | (-ขะโดง) น. ทรงผมของหญิงไทยสมัยโบราณ ซึ่งรวบเข้าไปเกล้าไว้บนขม่อมเป็นห่วงยาว ๆ โดยมากมีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวม, โองโขดง ก็ว่า. | ด้วง ๓ | น. ชื่อเครื่องดักสัตว์ชนิดหนึ่ง ทำด้วยกระบอกไม้ไผ่ยาวประมาณ ๕-๖ เซนติเมตร มีคันยาวประมาณ ๑ เมตร มีสายห่วงติดกับกระบอกส่วนล่าง โยงไปผูกติดกับปลายคัน มีไม้คํ้าอันหนึ่งเพื่อให้คันโก่ง กับไม้ลิ้นพาดปากกระบอกอีกอันหนึ่งทำหน้าที่เสมือนไก สำหรับดักแย้เป็นต้น. | ดิ่ง | น. โลหะรูปทรงกรวยหงาย มีห่วงผูกเชือก ใช้วัดความลึกของน้ำ ตรวจสอบเสาหรือกำแพงเป็นต้นว่าตั้งตรงหรือไม่ เช่น ทิ้งดิ่งวัดความลึกของแม่น้ำ, ลูกดิ่ง ก็เรียก | ตรวน | (ตฺรวน) น. เครื่องจองจำนักโทษชนิดหนึ่ง เป็นห่วงเหล็ก มีโซ่ล่ามถึงกัน ใช้สวมขานักโทษ. | ทรทึง | (ทอระ-) ก. คอยท่า, ห่วงใย | ทรรทึง | (ทัน-) ก. คอยท่า, ห่วงใย | ทะเล | น. ห้วงนํ้าเค็มที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่ามหาสมุทร. | ทะเลสาบ | น. ห้วงนํ้าใหญ่ที่มีแผ่นดินล้อมรอบ มี ๒ ชนิด คือ ทะเลสาบนํ้าจืด และทะเลสาบนํ้าเค็ม. | ทังวล, ทังวี้ทังวล | ก. กังวล, ห่วงใย, เช่น เป็นทังวี้ทังวลวุ่นวาย (คาวี). | ทาม ๑ | น. อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายเข็มขัด ปลาย ๒ ข้างเป็นห่วงคาดอยู่ที่ต้นคอของวัวหรือควาย ปลายนั้นมีเชือกขึ้นไปผูกปลายตะโกกหรือแอกทั้ง ๒ ข้าง, เชือกหนังทำเป็นบ่วงสำหรับคล้องคอช้างที่จับใหม่ แล้วโยงมาผูกกับคอช้างต่อ, สายเชือกหรือหนังที่รั้งพวงมาลัยสวมคอม้าไปผูกกับรถ. | ทำงน | ก. ห่วงใย, ยุ่งใจ. | ทำวน | ก. ห่วงใย, วุ่นวายใจ. |
|
| | Knowledge value chain | ห่วงโซ่ความรู้ [การจัดการความรู้] | Radioecology | นิเวศวิทยารังสี, การศึกษาผลกระทบของสารกัมมันตรังสีที่มีในธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นต่อระบบนิเวศ สารกัมมันตรังสีอาจมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและสมบัติทางเคมีของตัวมันเอง และมีวัฏจักรการเคลื่อนย้ายในระบบนิเวศภายในกลุ่มหรือระหว่างกลุ่มของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต (หิน ดิน น้ำ และอากาศ) ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ กัน เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิต ส่งผลกระทบทางชีววิทยาและการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ [นิวเคลียร์] | Intrauterine devices | ห่วงอนามัย [TU Subject Heading] | Closed Loop | การเวียนกลับมาใช้, ห่วงปิด, Example: การนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตโดย ตรงและป้องกัน มิให้ของเสียรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Troika | กลุ่มผู้ประสานงานของอาเซียน " เป็นข้อเสนอของไทยในการประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการ ณ กรุงมะนิลา เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ผู้นำประเทศ/รัฐบาลอาเซียน เป็นกลไกเฉพาะกิจในระดับรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อาเซียนสามารถแก้ไขและร่วมมือกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทันท่วงทีและใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ และในเรื่องที่อาเซียนมีความห่วงกังวลร่วมกันว่ามี แนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนจะปฏิบัติงานโดยยึดหลักการที่สำคัญของอาเซียน คือ หลักฉันทามติ และการไม่แทรกแซงกิจการภายใน กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ ประเทศที่เป็นประธานคณะกรรมการประจำของ อาเซียนในปัจจุบัน อดีต และอนาคต " [การทูต] | Eisenhower Doctrine | ลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | persons of concern | บุคคลในความห่วงใย หมายถึง ผู้หนีภัยจากการประหัตประหารที่มิได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัย หรือผู้พลัดถิ่น แต่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จะดูแลช่วยเหลือโดยมีสถานะพิเศษตามที่ได้ตกลงกับประเทศผู้รับ [การทูต] | Anxious Behavior, Over | ความห่วงกังวลจนเกินปกติ [การแพทย์] | Capillary Loop | ห่วงหลอดเลือดฝอย, ห่วงหลอดเลือดฝอย [การแพทย์] | Capillary Loop, Terminal | ห่วงหลอดเลือดฝอยส่วนปลาย [การแพทย์] | Contraceptive Devices | คุมกำเนิด, ห่วง;วัตถุคุมกำเนิด [การแพทย์] | Expulsion | การหลุดของห่วง [การแพทย์] | Expulsion Rate | อัตราการหลุด, อันตรายที่ห่วงจะหลุดเอง [การแพทย์] | Fallope Rings | ห่วงรัดท่อนำไข่ [การแพทย์] | Food Chain | ลูกโซ่อาหาร, ห่วงลูกโซ่อาหาร, ห่วงโซ่อาหาร [การแพทย์] | food web | สายใยอาหาร, ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศหนึ่ง ๆ ที่มีการถ่ายทอดพลังงานที่ประกอบด้วยหลายห่วงโซ่อาหาร ดังแผนภาพ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Insertion | ใส่ห่วง [การแพทย์] | Insertion of IUD | การใส่ห่วง [การแพทย์] | Insertion, Immediate Postpartal | ใส่ห่วงทันทีหลังคลอด [การแพทย์] | Inter-Uterine Devices | ห่วงคุมกำเนิด [การแพทย์] | Interchain | ระหว่างห่วงโซ่ [การแพทย์] | Intrachain | ในระหว่างห่วงโซ่เดียวกัน [การแพทย์] | Intrauterine Contraceptive Devices | ห่วงอนามัย, ห่วงมดลูก [การแพทย์] | Intrauterine Devices | ห่วงอนามัย [การแพทย์] | IUD Selection | การเลือกห่วงอนามัย [การแพทย์] | IUD, Inert | ห่วงคุมกำเนิดชนิดธรรมดา, ห่วงอนามัยชนิดธรรมดา [การแพทย์] | IUDs, Active | ห่วงคุมกำเนิดชนิดผนวกโลหะหรือฮอร์โมน [การแพทย์] | IUDs, Hormonal Releasing | ห่วงคุมกำเนิดบรรจุฮอร์โมน [การแพทย์] | IUDs, Medicated | ห่วงคุมกำเนิดผนวกโลหะหรือฮอร์โมน [การแพทย์] | IUDs, Metal Releasing | ห่วงคุมกำเนิดผนวกโลหะ [การแพทย์] | IUDs, Non-Medicated | ห่วงคุมกำเนิดชนิดธรรมดา [การแพทย์] | Global value chain | ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก, Example: ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก (Global Value Chain หรือ GVC) ห่วงโซ่ที่แสดงการเชื่อมโยงขั้นตอนในการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและออกแบบ การผลิตและการจำหน่าย จนถึงมือผู้บริโภคในที่สุด (value chain) โดยที่การสร้างมูลค่าเพิ่มในแต่ละขั้นตอนจะถูกกระจายไปยังประเทศต่างๆ ตามความถนัดและ/หรือความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของแต่ละประเทศทั่วโลก [เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ] | Loops | มัดหวาย (ของลายนิ้วมือ), ห่วง, ลูป, วง, เส้นโค้งแต่ปลายตีบเข้า [การแพทย์] | Loops, Bacteriological | ห่วงฆ่าเชื้อ [การแพทย์] | Loops, Lippes | ห่วงอนามัยชนิดเก่า, ห่วงอนามัยลิปปิสลูป [การแพทย์] |
| Don't worry. Everything will be fine. - Everything will be fine. | ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะดี ทุกอย่างจะดี... Aladdin (1992) | Don't worry, Abu. | ไม่ต้องห่วงอาบู ข้าจะไม่ไปเจอเธออีก Aladdin (1992) | Don't worry. | ไม่ต้องห่วง Basic Instinct (1992) | Listen, I'm concerned about how our session ended today. | ฟังนะ ผมเป็นห่วงเกี่ยวกับ การนัดพบของเราที่มันสิ้นสุดลงวันนี้ Basic Instinct (1992) | I'm a little concerned I haven't heard from you. | ผมห่วงนิดหน่อย คุณไม่ติดต่อมาเลย Basic Instinct (1992) | I'll be all right. Don't worry. | ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง Basic Instinct (1992) | I hope Detective Washburn isn't giving you cause for concern? | ผมหวังว่านักสืบวอชเบิร์นไม่ได้ จุดชนวนคุณสำหรับ... ...ให้น่าเป็นห่วง? Basic Instinct (1992) | - So the main thing is when I go out. | - ที่ต้องห่วงคือตอนออกข้างนอก The Bodyguard (1992) | You think I speak from wicked selfishness? | เธอคิดว่าพี่พูดเช่นนี้ เพราะความห่วงแหนในตัวเขาหรือ Wuthering Heights (1992) | You shouldn't grouch a few yards of earth when you've taken all my land. | ไม่เห็นต้องห่วงแหนที่ดิน เล็กๆน้อยๆ ในเมื่อคุณได้ที่ดินของดิฉันไปเสียหมด Wuthering Heights (1992) | When I was a kid, I thought I was gonna be this fantastic, heroic human being. | เค้าก้อยังคงเป็นเสมือนเพื่อนคนนึงของผม ผมก้อค่อนข้างเป็นห่วง Hero (1992) | You the guys that Bunny called? | ฉันเป็นห่วงอนาคตของเขา Hero (1992) | You don't want him to grow up soft, do you? It's tough out there. | แกเป็นคนเดียวที่ห่วงใยชั้นมาตลอด ชั้นจะฆ่าแกได้ไง Hero (1992) | They found his shoe right beside the plane crash. | อย่าห่วงเลย Hero (1992) | -... if it wasn't for the money. -Go back. | ผู้ที่ซึ่งเป็นห่วงคนที่ไม่น่าจะห่วง Hero (1992) | It's OK. I'm right here with you. | ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ที่นี่กับเธอ The Lawnmower Man (1992) | Well... don't worry, Jobe. | เอาล่ะ.. ไม่ต้องห่วงนะ โจ๊บ The Lawnmower Man (1992) | Yeah, I will. Don't worry. | เดี๋ยวถามให้ ไม่ต้องห่วง Of Mice and Men (1992) | Don't worry, I'm not going to tell anyone. | ไม่ต้องห่วง ฉันไม่บอกใครหรอก The Cement Garden (1993) | - I don't want you to worry about lookin' good out there. | - นายไม่ต้องห่วงว่าจะดูดีมั้ย Cool Runnings (1993) | I was worried about the Austrian team's safety in that last big 180 degree whiparound. | ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของทีมออสเตรีย ในโค้งสุดท้าย ที่ต้องเลี้ยว 180 องศา Cool Runnings (1993) | Well, if you were worried about them, what are you thinking about our last and next team? | ถ้าคุณเป็นห่วงทีมนั้น แล้วคิดยังไงกับทีมต่อไปล่ะ? Cool Runnings (1993) | Don't worry. I've done this before once. | ไม่ต้องห่วง ผมเคยขับมาแล้ว ครั้งนึง Jumanji (1995) | - Don't worry. | - ไม่ต้องห่วง. Hocus Pocus (1993) | - Don't worry, Binx! I've got you! | - ไม่ต้องห่วง, บินซ์ ฉันจะช่วยเธอเอง! Hocus Pocus (1993) | This girl not have concerning for us. | เด็กคนนี้ไม่ได้มีความเป็นห่วงเรา The Joy Luck Club (1993) | We not concerning this girl. | เราก็ไม่เป็นห่วงเด็กคนนี้ The Joy Luck Club (1993) | Don't worry. Everything's fine. | ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี The Joy Luck Club (1993) | Rewrites are free, of course. I'm just as concerned about making it perfect as you are. | แน่นอน การเขียนใหม่ฟรี ฉันแค่เป็นห่วง เรื่องการทำให้มันสมบูรณ์อย่างที่เธอเป็น The Joy Luck Club (1993) | You don't need to have another worry about Christmas this year. | นายไม่ต้องการอย่างอื่นแล้วหละ ไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับคริสต์มัสปีนี้หรอก The Nightmare Before Christmas (1993) | I needn't be alarmed. | ไม่ต้องห่วง Schindler's List (1993) | You're buying them ? You're paying him for each of these names ? If you were still working for me, I'd expect you to talk me out of it. | ถ้าห่วงฉันก็พูดให้ฉันเปลี่ยนใจที Schindler's List (1993) | If you could feel for one minute the sense of absolute joy and connection... that carrying your baby brings, you would understand. | ถ้านายได้รู้สึกถึงห่วงที่มีต่อกันสักนาทีนึง ว่าการมีเด็กมันเป็นอย่างไร นายก็คงจะเข้าใจ Junior (1994) | I'm glad you came. I started to wonder if I'd ever see you again. | ผมดีใจที่พบคุณ ผมกำลังห่วงว่าผมจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว Junior (1994) | - Don't worry, baby. | - ไม่ต้องห่วง Léon: The Professional (1994) | Don't worry about it. We'll do ten for twelve. | ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจ่ายสิบได้สิบสองเลย Léon: The Professional (1994) | You're saying that so I won't worry. | คุณพูดเหมือนกับว่าฉันไม่ห่วง Léon: The Professional (1994) | - I was so worried. | - ฉันเป็นห่วงมาก Pulp Fiction (1994) | We've come for the tree. Are you crazy? | ไม่ต้องห่วงเรามาตัดต้นไม่เท่านั้น Rapa Nui (1994) | Don't worry. I won't rape you. | ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ขืนใจครู Wild Reeds (1994) | Don't worry. We'll leave soon. | อย่าห่วง เดี๋ยวเราจะไปแล้ว Wild Reeds (1994) | Don't worry. Cold water does the trick. | อย่าห่วงเลย น้ำมันเย็นน่ะ Wild Reeds (1994) | I'm not worried. I'm flattered. | ฉันไม่เป็นห่วงแล้ว ฉันรู้สึกดีใจนะ Wild Reeds (1994) | We'll worry about style later. We'll start from square 1. | เรื่องรูปแบบค่อยห่วงทีหลัง เราจะเริ่มจากฉากที่ 1 Wild Reeds (1994) | If you don't care about graduating, leave. | ถ้าเธอไม่ห่วง เรื่องสำเร็จการศึกษา ไปสิ Wild Reeds (1994) | What you think of yourself interests me. | ซึ่งมันทำให้ฉันเป็นห่วง Wild Reeds (1994) | Why are you interested? | ทำไมคุณถึงเป็นห่วง? Wild Reeds (1994) | Luckily, the doctors say it's not serious. | โชคดีที่หมอบอก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง Wild Reeds (1994) | You can't care about everyone. | คุณเป็นห่วงทุกคนไม่ได้ Wild Reeds (1994) | I'm sorry. I'm nervous. | ขอโทษ ฉันเป็นห่วง Wild Reeds (1994) |
| ห้วง | [hūang] (n) EN: period ; section ; stage ; interval FR: période f ] ; phase [ f ] ; partie [ f ] ; région [ f ] | ห่วง | [huang] (n) EN: ring ; hoop; loop ; snare ; hula hoop ; lariat ; link in a chain FR: boucle [ f ] ; anneau [ m ] ; cerceau [ m ] ; chaînon [ m ] | ห่วง | [huang] (v) EN: be concerned with ; be concerned about ; be anxious about ; worry about FR: être concerné par ; s'en faire | ห่วงหาอาทร | [huang hā-āthøn] (v, exp) EN: be concerned with | ห่วงเหล็ก | [huang lek] (n, exp) EN: iron hoop | ห่วงหน้าห่วงหลัง | [huang nā huang lang] (v, exp) EN: worry | ห่วงหน้าพะวงหลัง | [huang nā phawong lang] (v, exp) EN: be worried | ห่วงประตู | [huangpratū] (n) EN: basket FR: panier [ m ] | ห่วงโซ่ | [huangsō] (n, exp) EN: chain FR: chaîne [ f ] | ห่วงโซ่อาหาร | [huangsō āhān] (n, exp) EN: food chain FR: chaîne alimentaire [ f ] | ห่วงโซ่อาหารแบบบริโภค | [huangsō āhān baēp børiphōk] (n, exp) EN: grazing food chain | ห่วงโซ่อาหารแบบย่อยสลาย | [huangsō āhān baēp yǿisalāi] (n, exp) EN: detritus food chain | ห่วงโซ่อุปทาน | [huangsō uppathān] (n, exp) EN: supply chain | ห่วงใย | [huangyai] (v) EN: worry ; feel anxious about ; concern about FR: se préoccuper ; se soucier | ความห่วงใย | [khwām huangyai] (n) EN: worry ; care ; anxiety ; concern FR: souci [ m ] ; préoccupation [ f ] | น่าเป็นห่วง | [nā pen huang] (adj) EN: worried ; concerned ; anxious ; suspense ; nervous ; worrisome FR: inquiétant ; préoccupant | เป็นห่วง | [pen huang] (v, exp) EN: be anxious about FR: se soucier de ; s'en soucier | ตาข่ายห่วงประตู | [tākhāi huangpratū] (n, exp) EN: basket net |
| | anxiety | (n) ความวิตกกังวล, See also: ความกังวล, ความวิตก, ความห่วงใย, Syn. worry, concern, uneasiness, Ant. relief | attentive | (adj) ใส่ใจ, See also: เป็นห่วงเป็นใย, Syn. observant, mindful, intent | backboard | (n) กระดานด้านหลังห่วงในกีฬาบาสเก็ตบอล, Syn. board | basket | (n) ห่วงของกีฬาบาสเกตบอล | bootstrap | (n) ห่วงหลังรองเท้าบูต | bother about | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยในเรื่อง, Syn. bother with | bother with | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยในเรื่อง, Syn. bother about | care | (n) ความห่วงใย, Syn. concern, close attention | care | (vt) ห่วงใย, Syn. concern | care | (vi) ห่วงใย | caring | (adj) ที่ห่วงใยผู้อื่น, Syn. affection, kindness, Ant. dislike | couldn't care less | (idm) ไม่ต้องสนใจ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ไม่ต้องห่วง | devour with | (phrv) ห่วงใย, See also: กังวล | fear for | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยเกี่ยวกับ | exercise | (vt) ทำให้เป็นห่วง (คำทางการ), See also: ทำให้กังวล | frog | (n) ห่วงถัก, See also: กระดุมห่วง, รังดุมเสื้อ | get beyond | (phrv) เลิกสนใจ, See also: เลิกห่วงใย, ไม่ต้องดูแล, Syn. go past | hoop | (n) ห่วง, See also: บ่วง, วง, Syn. circle, loop, ring | have a lot on one's mind | (idm) มีหลายอย่างที่ต้องห่วงกังวล | house-proud | (idm) ความห่วงใยมากเกินไป (คำไม่เป็นทางการ) | never fear | (idm) อย่ากังวล, See also: อย่าห่วงเลย, มั่นใจได้ | never mind | (idm) ไม่ต้องห่วง, See also: ลืมซะเถอะ, ไม่ต้องสนใจ | no problem | (idm) ไม่ต้องห่วง (คำสแลง), See also: ไม่ต้องวิตก, ไม่ต้องกังวล | no sweat | (idm) ไม่ต้องห่วง (คำสแลง), See also: ไม่ต้องวิตก, ไม่ต้องกังวล | life buoy | (n) ห่วงชูชีพ | lockstitch | (n) วิธีการเย็บด้ายคู่เป็นห่วงเล็กๆ | loop | (vt) ทำให้เป็นห่วง, See also: ผูกเป็นห่วง, Syn. knot, encircle | loop | (vi) ผูกเป็นห่วง, See also: กลายเป็นห่วง, Syn. spiral | loop | (n) ห่วง, See also: บ่วง, ขมวด, Syn. circle, spiral, ring | loop | (n) ห่วงคุมกำเนิดที่ใส่เข้าไปในช่องคลอด, Syn. contraceptive device | noose | (n) ห่วงหรือบ่วง, See also: แร้ว, Syn. gin, loop, snare | noose | (vt) ทำบ่วงหรือห่วง, Syn. fasten, fix, secure | nose ring | (n) ห่วงสำหรับใส่จมูก | picot | (n) ห่วงเล็กๆ ของสิ่งที่เย็บปักถักร้อย | quoit | (n) กีฬาโยนห่วง | quoit | (n) ห่วงที่ใช้โยนในกีฬาโยนห่วง | quoit | (vt) โยนห่วง, See also: ขว้างห่วง, เล่นกีฬาโยนห่วง | quoiter | (n) ผู้เล่นกีฬาโยนห่วง | reck | (vi) ระมัดระวัง, See also: ห่วงใย | reck | (vt) ระมัดระวัง, See also: ห่วงใย | ring | (n) ห่วง, See also: ล้อ, Syn. hoop: loop | ring | (vt) ใส่ห่วง, See also: ใส่ปลอก, สนตะพาย, Syn. girdle | ringtoss | (n) เกมโยนห่วง, Syn. hoopla | beeswax | (sl) ภาระ, See also: ความวิตกกังวล, ความห่วงใย | no sweat | (sl) ไม่ต้องห่วง, See also: อย่ากังวล | serviette ring | (n) ห่วงยึดผ้าเช็ดปาก | shackle | (n) กุญแจมือ, See also: โซ่ตรวน, ตรวน, ห่วงกุญแจ, เครื่องพันธนาการ, สิ่งที่ใช้ผูกหรือมัด, สายโซ่, สายยู, Syn. fetter, handcuff, restraint | sling | (n) ห่วงเชือก สายหนัง หรือโซ่สำหรับดึงรั้งของหนัก | sling | (n) ห่วงเชือกสำหรับเหวี่ยงก้อนหิน (อาวุธ), See also: ห่วงหนังสติ๊ก, Syn. beany, slingshot | snaffle | (n) สายห่วงรัดปากม้า |
| alas | (อะลาส', อะแลส') interj. อนิจจา, โถ, (คำอุทานแสดงความเสียใจ, ความสงสาร, ความเป็นห่วง) (too bad lamentation) | angst | (อางสทฺ') n. ความเป็นทุกข์, ความเป็นห่วง, ความกังวล, Syn. anxiety | ankh | (แองค) n. กางเขนที่เป็นรูปห่วงข้างบน เป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดของชีวิตหรือชีวิตนิรันดร์ | ansate cross | กางเขนที่ส่วนที่เป็นห่วงตอนบน | anxiety | (แองไซ'อิที) n. ความกังวล, ความห่วงใย, ความกลุ้มใจ, ความเป็นทุกข์, ความกระตือ รือร้น, เรื่องน่าห่วง, Syn. concern, worry | anxious | (แอง'เชิส) adj. ห่วงใย, น่าห่วง, กังวลใจ, เป็นทุกข์. -anxiousness n. | apathetic | (แอพพะเธท'ทิค) adj. มีหรือแสดงอารมณ์เล็กน้อยหรือไม่มีอารมณ์, สนใจหรือมีความเป็นห่วงน้อย., Syn. unfeeling, indifferent, Ant. concerned, caring, moving | apathy | (แอพ'พะธี) n. การไร้อารมณ์, ความไม่สนใจ, ความไม่ เป็นห่วง, Syn. unconcern | armillary | (อาร์'มิลลารี) adj. ประกอบด้วยหรือมีรูปเป็นห่วงหรือวงแหวน, เกี่ยวกับกำไลมือ | attentive | (อะเทน'ทิฟว) adj. ซึ่งให้ความสนใจ, สนใจ, ระมัดระวัง, เป็นห่วง, มีมารยาท, เอาอกเอาใจ, Syn. alert, thoughtful | bight | (ไบทฺ) n. ส่วนเวิ้ง, อ่าวเล็ก ๆ , ห่วงเชือก vt. เอาเชือกมาผูกเป็นห่วง, ใช้ห่วงเชือกผูกมัดไว้ | buoy | (บอย) { buoyed, buoying, buoys } n. ทุ่น, ทุ่นลอยน้ำ, ห่วงชูชีพ vt. ทำให้ลอยน้ำ, ทำให้ไม่จม, สนับสนุน, ค้ำจุน, ให้กำลังใจ vi. ลอย | care | (แคร์) { cared, caring, cares } vt., n. (การ) เอาใจใส่, ระมัดระวัง, ดูแล, เป็นห่วง, อยากได้, ชอบ, รัก, Syn. attention | catenate | (แคท'ทะเนท) vt. ห่วงลูกโซ่ | concern | (คันเซิร์น') { concerned, concerning, concerns } vt. เกี่ยวกับ, พัวพัน, กังวล, เป็นห่วง n. ความเกี่ยวพัน, ความพัวพัน, ความเป็นห่วง, ความสนใจ, ธุระ, ธุรกิจ, บริษัท, Syn. affect, involve, pertain | concerned | (คันเซิร์นดฺ') adj. ที่เกี่ยวข้อง, ซึ่งเป็นที่สนใจ, ซึ่งเป็นห่วง, See also: concernedness n. ดูconcerned, Syn. involved, anxious, Ant. free, clear | concernment | (คันเซิร์น'เมินทฺ) n. ความสำคัญ, ความเกี่ยวข้อง, ความสัมพันธ์, ความกังวล, ความเป็นห่วง, สิ่งที่เกี่ยวข้องหรือสนใจ, ความสนใจ, Syn. involvement, worry | cowboy | (คาว'บอย) n. โคบาล, คนที่ดูแลและเลี้ยงวัวบนหลังม้า (โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา) , คนที่มีความชำนาญในการขี่ม้า, เหวี่ยงห่วงจับวัว, คนขับรถเร็วแบบบ้าระห่ำ | croquet | (โครเค') n. กีฬาชนิดหนึ่งบนลานหญ้าใช้ตะลุมพุก (mallets) ตีลูกไม้ลอดห่วง (wire-wickets) vt., n. (การ) ตีลูกบอลคนอื่น เพื่อกระทบลูกบอลคนอื่นกระเด็นไป | exercise | (เอค'เซอไซซ) v., n. (การ) ออกกำลังกาย, ฝึกหัด, การฝึกฝน, ปฏิบัติ, ดำเนินการ, เป็นห่วง, ทำให้เป็นห่วง., See also: exercisable adj. exerciser n. | garland | (การ์'แลนดฺ) n. มาลัย, พวงมาลัย, สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และเกียรติยศ, ห่วง. vt. สวมพวงมาลัย, ประดับด้วยพวงมาลัย, Syn. wreath, festoon, laurel | grommet | (กรอม'มิท) n. ห่วง, วงแหวน | gudgeon | (กัด'เจิน) n. ปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่ง, เหยื่อ, เครื่องล่อลวง, วงแหวนสำหรับร้อยสลัก, ห่วงร้อยสลัก สลัก, หมุด, ปลอกสวมหางเสือ -vt, ล่อลวง โกง, Syn. dupe, cheat | hackamore | n. ห่วงผูกศีรษะม้าอย่างง่าย ๆ แบบหนึ่ง | hank | (แฮงคฺ) n. ใยด้าย, ด้าย, ไหม, ด้ายที่ยุ่ง, ขด, ม้วน, ความได้เปรียบ, ห่วงใบเรือ. vt. ยึดด้วยห่วงใบเรือ, Syn. skein, coil, knot | hoop | (ฮูพ) n., vt. (ใส่) ขอบตะแกรง, เหล็กพืด, ห่วงเหล็ก, วัตถุที่เป็นวงแหวน, ห่วงบาสเกตบอล, ล้อมรอบ, Syn. ring, band | hung-up | (ฮัง'อัพ) adj. เต็มไปด้วยปัญหาที่ยุ่งยาก, เป็นห่วง, กังวลใจ, Syn. detained | impersonality | (อิมเพอซะแนล' ลิที) n. การขาดลักษณะของมนุษย์, การไม่มีอารมณ์เกี่ยวข้อง, การขาดความห่วงต่อความต้องการของแต่ละบุคคล, การขาดผู้ติดต่อหรือผู้จัดการ, การขาดบุคลิกภาพ | life buoy | n. ห่วงชูชีพ | life preserver | ห่วงชูชีพ (ทำให้คนลอยน้ำ) | light-hearted | (ไลทฺ'ฮาร์'ทิด) adj. เบิกบานใจ, ร่าเริง, ไม่มีอะไรเป็นห่วง., See also: light-heartedness n. ดูlight-hearted, Syn. lighthearted | link | (ลิงคฺ) { linked, linking, links } n. สิ่งเชื่อมต่อ, การเชื่อม, ข้อต่อ, ข้อลูกโซ่, ห่วงเชื่อม, เครื่องประสาน, เครื่องเกี่ยวดอง, หน่วยสื่อสาร, กระดุมหรือที่หนีบของแขนเสื้อเชิ้ต, หน่วยความยาว7.92 นิ้ว (หน่วยวัด) , ส่วนที่เป็นโค้งเว้าของแม่น้ำลำธาร. vt., vi. เชื่อม, ต่อ, ประสาน | loop | (ลูพ) n. ห่วง, ขมวด, วง, บ่วง, รูห่วง, การตีลังกา, วงจรปิดของไฟฟ้าหรือแม่เหล็ก, ทางวงแหวน, ทางหลบรถ, เส้นกลับ, การกลับ, รูกำแพง, รูเล็ก ๆ หรือแคบ ๆ vt. กลายเป็นห่วง, ทำเป็นห่วง, ทำให้เคลื่อนที่เป็นรูปวงแหวน. vi. ทำให้เป็นห่วง, กลายเป็นห่วง -Phr. (the Loop ย่านธุรกิจในกรุงชิคาโก, ห่วงคุมกำเนิดที่ใช้ใส่เข่าไปในช่องคลอด | love | (ลัฟว) { loved, loving, loves } n. ความรัก, ความชอบมาก, ความใคร่, ความต้องการทางเพศ, เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ , กามเทพ (CupidหรือEros) , ความเป็นห่วง, สิ่งที่ชอบ, ความรักของพระผู้เป็นเจ้า. v. รัก, ชอบมาก, ต้องการ, ได้ประโยชน์มากจาก, สมสู่, สังวาส. -Phr. (for the love of เพื่อ โดยคำนึงถึง) | lug | (ลัก) { lugged, lugging, lugs } vt., vi. ลาก, ดึง, ฉุดคร่า, ดึงดัน, ดึงลาก. n. การลาก, การฉุดคร่า, หู, ใบหู, ส่วนที่โผล่ออกมา, ห่วงหนังของเครื่องบังเหียนม้า, คนงุ่มง่าม, คนทั่วไป | mind | (ไมน์ดฺ) n. จิต, ใจ, จิตใจ, จริต, ความคิด, ปัญญา, เหตุผล, ข้อคิดเห็น, ความตั้งใจ, สติสัมปชัญญะ, ความจำ -Phr. (bear (keep) in mind จำ) -Phr. (make in one's mind ตัดสินใจ) . -Phr. (out of one's mind บ้า, วิกลจริต) v. ใส่ใจ, สนใจ, ระวัง, เชื่อฟัง, ดูแล, เป็นห่วง, คัดค้าน, สังเกต, จำได้ | noose | (นูส) n. ห่วง, บ่วง, ห่วงดัก, แร้ว vt. ดักหรือจับด้วยห่วง, ทำห่วง, ทำบ่วง, Syn. loop | pall-mall | (เพล'เมล) n. เกมตีลูกไม้เข้าห่วงเล็กที่ปลายทางวิ่ง, ทางวิ่งดังกล่าว | parrel | n. ห่วงโยงชนิดหนึ่งบนเรือ., Syn. parral | quoit | (ควออิท') n. กีฬาโยนห่วงให้สวมหลักปัก, ห่วงที่ใช้โยนดังกล่าว. vt. โยน, ขว้าง. vt. เล่นกีฬาดังกล่าว, See also: quoiter n. | ring | (ริง) { rang, rung, ringing, rings } n. วงแหวน, แหวน, ล้อ, ห่วง, วงปีของต้นไม้, ทางวงกลม, สนามวัวแข่ง, สนามมวย, สนามมวยปล้ำ, การต่อยมวย, การแข่งขัน, สังเวียน, วงการ, กลุ่ม, คณะ, ปอยผมที่ขดเป็นวง, สียงกริ่ง, เสียงกระดิ่ง, เสียงโทรศัพท์, เสียงกังวาน, การโทรศัพท์ -v. ล้อมวง, กลายเป็นวงแหวน | rodeo | (โร'ดีโอ) n. การแสดงความสามารถในการขี่ม้าและใช้ห่วงเชือกคล้องวัว, การต้อนจับปศุสัตว์, คอกสำหรับจับปศุสัตว์, การแสดงความสามารถในการขี่รถจักรยานยนต์ pl. rodeos | serviette ring | n. ห่วงยึดผ้าเช็ดปาก | shackle | (แชค'เคิล) n. กุญแจมือ, โซ่ตรวน, ตรวน, ห่วงกุญแจ, ห่วง, เครื่องพันธนาการ, การผูก, การมัด, สิ่งผูกมัด, สายโซ่สมอเรือ, สายยู, อุปสรรค, สิ่งกีดขวาง. vt. ใส่กุญแจมือ, ใส่โซ่ตรวน, กีดขวาง, ผูกมัด., See also: shackler n. | sling | (สลิง) { slung, slung, slinging, slings } n. ห่วงเชือกสำหรับเหวี่ยงก้อนหิน, หนังสติ๊ก, ห่วงแขวนของ, สายสะพายปืน, สายโยง, สายผ้ายึดแขนหรือส่วนของร่างกายที่รับบาดเจ็บ, สาแหรก (สำหรับการโยงหรือหาบ) , เชือกแขวนเรือเล็ก vt. เหวี่ยง, ขว้าง, โยง, โยงขึ้น, แขวน, แกว่ง, ห้อย, ชักรอก | snaffle | (สแนฟ'เฟิล) n. สายห่วงเหล็กขวางปากม้า. vt. ใส่สายห่วงเหล็กขวางปากม้า, ควบคุมสายห่วงเหล็กดังกล่าว | snare | (สแนร์) n. กับดัก, แร้ว, จั่น, บ่วง, ห่วง, หลุมพราง, ห่วงลาดสำหรับตัดเอาเนื้องอกหรือเนื้อปูดออก, ถบโลหะขึงกลองแต๊ก vt. ดักสัตว์ด้วยแร้ว (จั่น, บ่วง, ห่วง, หลุมพราง) , ล่อจับ, ดัก, หลอก, ใส่ร้าย, ป้ายสี., See also: snarer n. snaringly adv. | solicitous | (ซะลิส'ซิทัส) adj. เป็นห่วง, กังวล, ร้อนใจ, กระวนกระวาย, อยาก, ต้องการมาก, ระมัดระวัง, พิถีพิถัน, See also: solicitously adv. solicitousness n., Syn. caring, concerned | solicitude | (ซะลิส'ซิทูด) n. ความเป็นห่วง, ความกังวลใจ, ความร้อนใจ, ความกระวนกระวาย, ความ่อยาก, ความต้องการมาก, เรื่องที่เป็นห่วง | stirrup | (สเทอ'อัพ) n. โกลน, ห่วงเหล็กสำหรับเหยียบ, เชือกโกลน, สายโกลน, กระดูกโกลนในช่องหู (หรือ stapes) , โครงค้ำ |
| anxiety | (n) ความกังวล, ความกระวนกระวาย, ความกระตือรือร้น, ความห่วงใย | anxious | (adj) กระวนกระวาย, ห่วงใย, ร้อนใจ, กระตือรือร้น | attentive | (adj) สนใจ, เอาใจใส่, เป็นห่วง | attentively | (adv) อย่างตั้งอกตั้งใจ, อย่างเอาใจใส่, อย่างสนใจ, อย่างเป็นห่วง | bight | (n) คุ้งน้ำ, ส่วนเวิ้ง, ห่วงเชือก | buckle | (n) ขอ, หัวเข็มขัด, ห่วง, กระดุม | buoy | (n) ทุ่น, ห่วงชูชีพ | care | (vi) เป็นห่วง, ดูแล, เอาใจใส่, ระวังรักษา, กังวล, รัก, ชอบ | coil | (n) ขดลวด, ห่วงคุมกำเนิด | concern | (n) ความเป็นห่วง, ความกังวล, ธุระ, ห้างร้าน, บริษัท | concern | (vt) เกี่ยวข้อง, พัวพัน, ทำให้สนใจ, ทำให้เป็นห่วง, ทำให้เป็นกังวล | concerned | (adj) เป็นห่วง, เป็นกังวล, เกี่ยวข้อง, เอาธุระ | hasp | (n) กลอน, สายยู, ห่วง, หู, สลักประตู, บานพับ | hasp | (vt) ใส่กลอน, ลงกลอน, คล้องสายยู, คล้องห่วง, ใส่สลัก | hook | (n) ขอ, เบ็ด, เคียว, ห่วง, หลุมพราง | hoop | (n) ลูกล้อ, ห่วง, บ่วง, สุ่มกระโปรง | LIFE life buoy | (n) ห่วงชูชีพ | LIFE life preserver | (n) เข็มขัดชูชีพ, เข็มขัดนิรภัย, ห่วงชูชีพ | link | (n) เครื่องเชื่อม, ห่วง, ข้อลูกโซ่, เครื่องประสาน, เครื่องต่อ | loop | (n) รูปบ่วง, ห่วง, วง, ขมวด | loop | (vt) ทำเป็นบ่วง, ผูกห่วง, เวียน, ทำเป็นวง | noose | (n) บ่วง, ห่วง, แร้ว | noose | (vt) ผูกห่วง, ทำบ่วง | quoit | (n) ห่วงโยน | rope | (n) ห่วงเชือก, เชือก, พวง | rope | (vt) กั้นเชือก, ผูกเชือก, คล้องเชือก, ทำให้เป็นห่วง | shackle | (n) กุญแจมือ, ตรวน, ห่วง, สายยู, โซ่ | thimble | (n) ปลอกนิ้ว, ปลอกสำหรับรับห่วงเชือก | unbuckle | (vt) ปลดห่วง, ปลดเข็มขัด, แก้เงื่อน | uncouple | (vt) แยกจากกัน, ปลดห่วง, ทำให้หลุด | worry | (vi) กลุ้มใจ, กังวลใจ, เป็นห่วง, เป็นทุกข์, หนักใจ | worry | (vt) รบกวน, ทำให้กลุ้มใจ, ทำให้เป็นห่วง, กัด, ฉีก, ลาก, ดึง |
| | 無関心 | [むかんしん, mukanshin] (adj) (แอพพะเธท'ทิค) adj. มีหรือแสดงอารมณ์เล็กน้อยหรือไม่มีอารมณ์, สนใจหรือมีความเป็นห่วงน้อย., S. unfeeling, indifferent ###A. concerned, caring, moving) | 心配 | [しんぱい, shinpai] (n) (เวอ'รี) vi., vt., n. (ทำให้) (ความ) เป็นห่วง, กังวล, หนักใจ, เป็นทุกข์, รบกวน, กัด, ฉีก, ทำให้เปลี่ยนตำแหน่ง, ลาก, ดึง, สาเหตุที่ทำให้ลำบากใจหรือกังวล -Phr. (worry along, worry through ก้าวหน้าหรือประสบความสำเร็จด้วยความพยายามแม้จะลำบาก), S. . worrier n. |
| frei | (adj, adv) เป็นอิสระ, ว่าง, ไม่ขึ้นกับใคร เช่น Keine Sorge, er ist schon frei von Fieber. ไม่ต้องห่วง เขาไม่มีไข้แล้ว, Ist hier noch frei? ที่ตรงนี้ว่างไหมคะ, Lass den Vogel frei. Im Käfig lebt er nicht wohl. ปล่อยนกเป็นอิสระเถิด ในกรงมันไม่สบายหรอก | Ordner | (n) |der, pl. Ordner| แฟ้มใส่เอกสารที่มีห่วงยึด | Versorgungskette | (n) |die, pl. Versorgungsketten| โซ่อุปทาน, ห่วงโซ่อาหาร |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |