ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*มิตร*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: มิตร, -มิตร-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary อังกฤษ (EN) - ไทย (TH)
xoxo(slang) คำลงท้ายจดหมายหรือข้อความ ที่แสดงถึงความรัก, ความจริงใจ, ​ หรือ มิตรภาพ โดยสัญญลักษณ์ x และ o หมายถึงการจูบและกอด, See also: Hugs and kisses

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
มิตรปฏิรูปก์(n) เพื่อนไม่แท้, เพื่อนปลอม, คนที่แสร้งเป็นมิตร

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
มิตร(n) friend, See also: ally, companion, associate, buddy, fellow, Syn. เกลอ, สหาย, มิตรสหาย, เพื่อน, เพื่อนเกลอ, Ant. ศัตรู, Example: บางคนเราจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา และมีแนวโน้มที่จะผูกมิตรกัน, Count Unit: คน, Thai Definition: เพื่อนรักใคร่คุ้นเคย, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
ฉันมิตร(adv) as friends, See also: like friends, like one's friend, Example: สัมพันธภาพระหว่างสยามและญี่ปุ่นดำเนินไปอย่างฉันมิตร เรามีการค้าขายกันอย่างราบรื่น, Thai Definition: มีความเป็นมิตร
มิตรจิต(n) friendliness, See also: geniality, Syn. ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ, ความรักใคร่, ความประนีประนอม, Example: เธอไม่มีมิตรจิตกับเขาเสียเลย
มิตรจิต(n) friendliness, See also: geniality, Syn. ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ, ความรักใคร่, ความประนีประนอม, Example: เธอไม่มีมิตรจิตกับเขาเสียเลย
มิตรภาพ(n) friendship, See also: friendliness, cordiality, companionship, Example: การที่มีความคิดเห็นคล้ายคลึงกันจะเป็นพื้นฐานแห่งมิตรภาพ, Thai Definition: ความเป็นเพื่อน, Notes: (สันสกฤต)
มิตรแท้(n) true friend, See also: good friend, Syn. เพื่อนแท้, เพื่อนยาก, Example: มิตรแท้ย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ, Count Unit: คน
ญาติมิตร(n) kindred, See also: kin, kinfolk, relatives and friends, Example: แม่เตรียมข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงดูญาติมิตร ที่จะมาเยี่ยมเยียนในวันสงกรานต์, Count Unit: คน, Thai Definition: เพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง
พันธมิตร(n) alliance, See also: ally, association, partnership, coalition, Syn. ผู้ส่งเสริม, ผู้ช่วยเหลือ, แนวร่วม, Ant. ศัตรู, Example: แบงก์ขนาดกลางและเล็กโดนกดดันให้ดิ้นรนแสวงหาพันธมิตรจากต่างชาติมาร่วมลงทุน
พันธมิตร(n) alliance, See also: ally, association, partnership, coalition, Ant. ศัตรู, Example: สหรัฐไม่ค่อยให้ความสำคัญประเทศไทยสักเท่าไร แม้จะเป็นพันธมิตรร่วมรบในสงครามเวียดนาม, Thai Definition: ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่จะช่วยเหลือกันตามสนธิสัญญาที่ทำไว้เพื่อร่วมรบหรือเพื่อการป้องกันร่วมกัน
มิตรสหาย(n) friends, See also: company, Syn. มิตร, สหาย, เพื่อน, เพื่อนพ้อง, เพื่อนฝูง, Example: บางครั้งนักการเมืองก็พร้อมจะสละมิตรสหายได้เพื่อแลกกับอำนาจและผลประโยชน์, Count Unit: คน, Thai Definition: เพื่อนผู้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่ชอบพอรักใครหรือรู้ใจกัน
มิ่งมิตร(n) beloved woman, See also: lover, sweetheart, Syn. เมียรัก, Example: ผมเลือกไม่ผิดเลยที่ได้เขามาเป็นมิ่งมิตร, Count Unit: คน
มิ่งมิตร(n) valued friend, See also: bosom friend, close friend, Syn. เพื่อนรัก, เพื่อนสนิท, Example: ไม่มีใครเป็นมิ่งมิตรที่ดีได้เท่าเธอ, Count Unit: คน
มิ่งมิตร(n) beloved woman, See also: lover, sweetheart, Syn. เมียรัก, Example: ผมเลือกไม่ผิดเลยที่ได้เขามาเป็นมิ่งมิตร, Count Unit: คน
มิ่งมิตร(n) valued friend, See also: bosom friend, close friend, Syn. เพื่อนรัก, เพื่อนสนิท, Example: ไม่มีใครเป็นมิ่งมิตรที่ดีได้เท่าเธอ, Count Unit: คน
เป็นมิตร(v) be friendly, See also: be on friendly terms, be friends, Example: หากครูเป็นมิตรกับศิษย์ได้ก็จะทำให้บรรยากาศในการเรียนดีมาก, Thai Definition: เป็นเพื่อนรักใคร่คุ้นเคย
ปัจจามิตร(n) foe, See also: enemy, adversary, Syn. ศัตรู, ข้าศึก, ปัจนึก, Ant. มิตร, เพื่อน, Example: ทัศนะของคนไทยต่อพม่าในฐานะปัจจามิตรมีพัฒนาการอย่างสืบเนื่องจนฝั่งรากลึกในสังคมไทย
สร้างมิตร(v) make friends, See also: socialize, Syn. ผูกมิตร, สร้างสัมพันธ์, ผูกสัมพันธ์, Ant. สร้างศัตรู, Example: พรรคของเราสร้างมิตรทางการเมืองมาตลอด
กัลยาณมิตร(n) true friend, See also: good friend, Syn. มิตรแท้, เพื่อนแท้, Example: โดยทั่วไปบุคคลย่อมต้องการกัลยาณมิตรไว้เป็นที่พึ่งและเป็นกำลังใจที่ดี, Count Unit: คน
สัมพันธมิตร(n) ally, Syn. แนวร่วม, พันธมิตร
สัมพันธมิตร(n) ally, See also: alliance, Example: ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นสัมพันธมิตรที่ดีต่อกัน, Thai Definition: ประเทศที่ตกลงร่วมมือและช่วยเหลือกันและกัน
ความเป็นมิตร(n) friendship, See also: companionship, fellowship, Syn. มิตรภาพ, ความเป็นเพื่อน, Ant. ความเป็นศัตรู, ความเป็นอริ, Example: ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยทีท่าปราศจากความเป็นมิตร
ฝ่ายพันธมิตร(n) Allied, See also: alliance, Aliies, Syn. กลุ่มพันธมิตร, ฝ่ายสัมพันธมิตร, Ant. ฝ่ายอักษะ, Example: เพราะกองทัพญี่ปุ่นแพ้สงคราม จึงต้องเสียค่าปรับปฏิกรณ์สงครามให้แก่ฝ่ายพันธมิตร
มิตรจิตมิตรใจ(n) friendly feelings, See also: cordiality, friendliness, sympathy, Syn. น้ำใจ, Thai Definition: ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน, Notes: (สำนวน)
ไร้ญาติขาดมิตร(v) have no kith and kin, See also: find oneself in a forlorn position, Example: ป้าช่วยนั้นดูเหมือนจะไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครไว้พึ่งพายามเจ็บป่วย, Thai Definition: ไม่มีญาติพี่น้อง หรือไม่มีเพื่อนฝูงที่สามารถให้ความช่วยเหลือและพึ่งพาได้
ฝ่ายสัมพันธมิตร(n) the Allies, See also: Allied side, Ant. ฝ่ายอักษะ, Example: ขบวนการเสรีไทยหันไปให้การสนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรร่วมขับไล่กองทหารญี่ปุ่นออกจากประเทศไทย, Count Unit: ฝ่าย, Thai Definition: กลุ่มประเทศ 26 ประเทศ ที่ร่วมกันต่อสู้กับฝ่ายอักษะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
กัลยาณมิตร(กันละยานะมิด) น. ชื่อเพลงไทยประเภทโหมโรงเสภา อัตรา ๓ ชั้น แต่งขึ้นจากเพลงหน้าพาทย์ชื่อชำนาญ.
คู่มิตรน. ผู้ที่มีชะตาถูกกัน เป็นมิตรกัน, ผู้ที่รักใคร่กัน ไม่เป็นภัยแก่กัน ตรงข้ามกับ คู่ศัตรู.
ญาติมิตร(ยาด-) น. ญาติและเพื่อนฝูง.
ญาติมิตร(ยาด-) ก. ร่วมวงเล่นไพ่ตอง เช่น ไปญาติมิตรกัน.
ตัดญาติขาดมิตรก. ตัดขาดจากกัน.
ปัจจามิตรน. ข้าศึก, ศัตรู.
พันธมิตรน. ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่จะช่วยเหลือกันตามสนธิสัญญาที่ทำไว้ เพื่อร่วมรบหรือเพื่อการป้องกันร่วมกัน.
มิ่งมิตรน. เพื่อนรัก, เมียรัก.
มิตร, มิตร-(มิด, มิดตฺระ-) น. เพื่อนรักใคร่คุ้นเคย เช่น มิตรแท้ มิตรเทียม ฉันมิตร.
มิตรจิตน. ความมีนํ้าใจเอื้อเฟื้อเสมือนเพื่อนรัก, ความรักใคร่ประนีประนอมฐานเพื่อนรัก, เช่น มีมิตรจิตต่อกัน.
มิตรจิตมิตรใจน. ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เช่น ต่างก็มีมิตรจิตมิตรใจต่อกัน.
มิตรภาพน. ความเป็นเพื่อน เช่น มิตรภาพระหว่างเขาทั้งสอง.
มิตรสหาย(มิด-) น. เพื่อนฝูง.
สัมพันธมิตรน. เรียกกลุ่มประเทศอันประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ที่รวมเป็นแกนร่วมรบกับกลุ่มประเทศฝ่ายอักษะในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ว่า ฝ่ายสัมพันธมิตร.
มิตร(อะมิด) ว. ไม่ใช่เพื่อน.
มิตร(อะมิด) น. ข้าศึก, ศัตรู.
กบเต้นกลางสระบัวน. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า หมายชิดมิตรเชือนไม่เหมือนหมาย.
กัลยาณ-(กันละยานะ-) ว. งาม, ดี, ใช้เป็นส่วนหน้าของสมาส เช่น กัลยาณคุณ = คุณอันงาม กัลยาณธรรม = ธรรมอันดี กัลยาณมิตร = มิตรดี.
เกลือเป็นหนอนน. ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้าน คิดคดทรยศ, ไส้เป็นหนอน ก็ว่า.
ไกรสิทธิ(ไกฺรสิด) น. ราชสีห์ เช่น สูจงนฤมิตรเป็นราชไกรสิทธิ (ม. คำหลวง มัทรี).
คุณ ๒น. อาถรรพณ์ คือ พิธีทำร้ายต่ออมิตร โดยเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าในตัวหรือฝังรูปฝังรอย เรียกกันว่า กระทำคุณ, ผู้ถูกกระทำ เรียกว่า ถูกคุณ, คุณไสย ก็ว่า.
คุณไสยน. อาถรรพณ์ คือ พิธีทำร้ายต่ออมิตร โดยเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าในตัวหรือฝังรูปฝังรอย เรียกกันว่า กระทำคุณไสย, ผู้ถูกกระทำ เรียกว่า ถูกคุณไสย, คุณ ก็ว่า
คู่ศัตรูน. ผู้ที่มีชะตาไม่ถูกกัน เป็นศัตรูกัน, ผู้ที่เป็นภัยแก่กัน, ตรงข้ามกับ คู่มิตร.
จอดรัก เช่น มิตรใจเรียมจอดเจ้า จักคิด ถึงฤๅ (นิ. นรินทร์).
ดวงเดือนประดับดาวน. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า เจ็บจิตมิตรหมางค้างเขินขวย เวียนวนหลงลมงมงงงวย ฉาบฉวยรวยเร่อเธอถูกทาง.
เด็ดดอกไม่ไว้ขั้วก. ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด, มักใช้เข้าคู่กับ เด็ดบัวไม่ไว้ใย ว่า เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว เด็ดบัวไม่ไว้ใย.
เด็ดบัวไม่ไว้ใยก. ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด, มักใช้เข้าคู่กับ เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว ว่า เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว เด็ดบัวไม่ไว้ใย.
เด็ดปลีไม่มีใยก. ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด, เด็ดบัวไม่ไว้ใย ก็ว่า.
ตรึก ๒(ตฺรึก) ก. หมด, สิ้น, เปลือง, น้อย, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่ตรึก, มิตรึก, หมายความว่า มาก, เช่น จึงองค์มิสาระปันหยี จึงตอบว่าข้าจะให้ไก่ดีดี ของเรามีไม่ตรึกอย่าร้อนใจ (อิเหนา), ท่านก็ไม่ขัดสนจนพราย มากมายตามพรูอยู่มิตรึก แรกรักจะรำพันให้ครั่นครึก (ขุนช้างขุนแผน), ฤๅจะใคร่ได้เมียสาวสาว ขาวขาวดี ดีมีไม่ตรึก (มณีพิชัย).
ตัวเปล่าเล่าเปลือยว. ยังไม่มีครอบครัว เช่น เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยนะ, ตัวเปล่า ก็ว่า, ไร้ญาติขาดมิตร เช่น เขาเป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือย.
ทิศ ๖น. ทิศที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบุคคล มี ทิศเบื้องหน้าหรือบูรพทิศ ได้แก่ บิดามารดากับบุตร ทิศเบื้องขวาหรือทักษิณทิศ ได้แก่ ครูอาจารย์กับศิษย์ ทิศเบื้องหลังหรือปัจฉิมทิศ ได้แก่ สามีกับภรรยา ทิศเบื้องซ้ายหรืออุตรทิศ ได้แก่ มิตร ทิศเบื้องบนหรือปุริมทิศ ได้แก่ สมณพราหมณ์กับศาสนิกชน และทิศเบื้องล่างหรือเหฏฐิมทิศ ได้แก่ นายกับบ่าวหรือผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา.
โทธก(-ทก) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ บทหนึ่งมี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๑๑ พยางค์ กำหนดด้วย ภะคณะ ภะคณะ ภะคณะ และครุ ๒ พยางค์ ตามลำดับเหมือนกันทุกบาท (ตามแบบว่า โทธกมิจฺฉติ เจ ภภภาคา) ตัวอย่างว่า มิตรคณาทุรพาละทุพลมี นามก็กระลี หินะชาติ ประกาศภิปราย (ชุมนุมตำรากลอน).
นกสองหัวน. คนที่ทำตัวฝักใฝ่เข้าด้วยทั้ง ๒ ฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรกันโดยหวังประโยชน์เพื่อตน.
บาป, บาป-(บาบ, บาบปะ-) ว. ชั่ว, มัวหมอง, เช่น บาปมิตร = มิตรชั่ว.
ปฏิรูป, ปฏิรูป-เทียม, ไม่แท้, เช่น มิตรปฏิรูป.
ผู้ชายพายเรือน. ผู้ชายทั่วไป เช่น ผู้ชายพายเรืออยู่เต็มไป (ขุนช้างขุนแผน), ผู้ชายรายเรือ ก็ว่า เช่น ดิฉันเป็นผู้หญิงสาว ไม่เหมือนผู้ชายรายเรือ (มิตรสภา).
ผูกก. เอาเชือกเป็นต้นสอดคล้องกันให้เกิดเป็นเงื่อน เพื่อทำให้มั่นหรือติดต่อกันในตัวหรือกับสิ่งอื่น เช่น ผูกเชือก ผูกลวด ผูกโบ, ติดต่อหรือติดพันกันแน่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ผูกใจ ผูกโกรธ ผูกมิตร, ประกอบเข้า เช่น ผูกประโยค ผูกปริศนา ผูกลาย, ติดพันกันด้วยเรื่องสิทธิและหน้าที่ตามที่ตกลงกัน เช่น ผูกตลาด ผูกท่า
ฝังรอยน. วิธีทำคุณอย่างหนึ่ง โดยเอารอยตีนของอมิตรมาเสกคาถาอาคม แล้วนำไปฝังที่ใต้บันไดเรือน ป่าช้า หรือทางสามแพร่ง, มักใช้เข้าคู่กับคำ ฝังรูป เป็น ฝังรูปฝังรอย.
ฝังรูปน. วิธีทำคุณอย่างหนึ่ง โดยปั้นรูปสมมุติของอมิตรขึ้นด้วยขี้ผึ้งหรือดินเหนียวจากป่าช้า เสกคาถาอาคม แล้วนำไปฝังที่ใต้บันไดเรือน ป่าช้า หรือทางสามแพร่ง, มักใช้เข้าคู่กับคำ ฝังรอย เป็น ฝังรูปฝังรอย.
สองตาก็ไม่แล, สองตาก็ไม่อยากแลคำที่แสดงอาการว่าไม่แยแสหรือตัดรอนไม่เป็นมิตรไมตรีกันอีกต่อไป.
สองฝักสองฝ่ายว. ที่ทำตัวเข้าด้วยทั้ง ๒ ข้าง ซึ่งมักไม่เป็นมิตรกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน เช่น ประเทศเล็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้ มักต้องทำตัวสองฝักสองฝ่ายกับประเทศใหญ่เพื่อความอยู่รอดของตน.
สัขยะ(สักขะยะ) น. มิตรภาพ, ความสนิทสนมกัน, ความรักใคร่กัน.
สันถวไมตรีน. ความเป็นมิตรสนิทสนมกัน เช่น ต้อนรับด้วยสันถวไมตรี ทูตสันถวไมตรี.
สัมพันธไมตรีน. ความเกี่ยวข้องผูกพันกันฉันมิตร เช่น ประเทศไทยมีสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน.
สายสัมพันธ์น. ความผูกพันกันมาช้านาน, ความเกี่ยวข้องเป็นมิตรไมตรีกันมานาน, เช่น ไทยกับจีนมีสายสัมพันธ์อันดีมาหลายร้อยปีแล้ว.
สารถีชักรถชื่อเพลงยาวกลบทแบบหนึ่ง ตัวอย่างว่า สงสารกายหมายมิตร์คิดสงสาร ประมาณจิตร์ผิดเพราะเชื่อเหลือประมาณ เสียดายการที่คิดเปล่าเศร้าเสียดาย (จารึกวัดโพธิ์).
เสียดแทงว. อาการที่กล่าวให้เจ็บใจด้วยความริษยาเป็นต้น เช่น วาจาเสียดแทงย่อมทำลายมิตร.
เสื่อมคลายว. น้อยลง, ลดลง, เช่น มิตรภาพเสื่อมคลายลงเพราะต่างฝ่ายต่างเอาเปรียบกัน.
ไส้เป็นหนอนน. ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้าน คิดคดทรยศ, เกลือเป็นหนอน ก็ว่า.
เหนียวแน่นแน่นแฟ้น เช่น มิตรภาพระหว่างประเทศทั้งสองนี้เหนียวแน่นมาก.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
synthermal-ร่วมอุณหภูมิ, -อุณหภูมิตรงกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
allyพันธมิตร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
allyพันธมิตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
allianceความเป็นพันธมิตร, พันธไมตรี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
alliance๑. พันธไมตรี, ความเป็นพันธมิตร (ก. ระหว่างประเทศ)๒. ความเกี่ยวดอง (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
amiable actionการกระทำฉันมิตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
amicable numbersจำนวนเชิงมิตร [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
co-belligerencyการเป็นพันธมิตรในสงคราม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
friendly suitคดีความฉันมิตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Hostile Takeoverการเข้าครอบครองกิจการอย่างไม่เป็นมิตร [ธุรกิจ]
Coalitionsการรวมตัวเป็นพันธมิตร [TU Subject Heading]
Friendshipความเป็นมิตร [TU Subject Heading]
Friendship in artมิตรภาพในศิลปะ [TU Subject Heading]
Thai-Myanmar Friendship Bridgeสะพานมิตรภาพไทย-พม่า [TU Subject Heading]
Australia New Zealand Army Corps Dayวันที่ระลึกทหารผ่านศึกออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2458 หน่วยปฏิบัติการร่วมของกองทัพบกออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ยกพลขึ้นบกบนคาบ สมุทรกาลิโปลี (Gallipoli) ช่องแคบดาร์ดาแนล (Dardanelles) ประเทศตุรกีเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือให้กับฝ่ายสัมพันธมิตรไปสู่ทะเลดำใน สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ทหารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทั้งสองประเทศจึงถือเอาวันที่ 25 เมษายนของทุก ๆ ปี เป็นวันที่ระลึกและจัดพิธีไว้อาลัยแก่ทหารผ่านศึกในสมรภูมิครั้งนั้นและทหาร ผ่านศึกที่เสียชีวิตในสมรภูมิอื่น ๆ ด้วย [การทูต]
Break of Diplomatic Relationsการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต]
concert of nationsความปรองดองระหว่างชาติ หลักการและแนวคิดเรื่องความปรองดองระหว่างชาติเกิดขึ้นในยุโรป ระหว่าง พ.ศ. 2357-2358 ซึ่งเรียกว่า Concert of Europe หรือบางครั้งเรียกว่า Concert of Allies โดยการรวมตัวของกลุ่มรัฐพันธมิตรที่ต่อต้านการขยายอำนาจของฝรั่งเศส คือ รัสเซีย ออสเตรีย ปรัสเซีย และอังกฤษ ได้รวมตัวกันเป็นระบบแห่งยุโรป (European system) หรือระบบแห่งมหาอำนาจในยุโรป ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสและสเปนได้เข้าร่วมในระบบความปรองดองแห่งยุโรปด้วย นอกจากนี้การเกิดระบบความปรองดองแห่งยุโรปซึ่งมีระบบการประชุมคองเกรส ระหว่างชาติมหาอำนาจเป็นกลไกสำคัญนั้น ยังเป็นการแสดงถึง "มหาอำนาจแห่งปฐมลำดับ" (The powers of the first order) และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเรียกชื่อที่ระบุคำว่ามหาอำนาจ (The first expression of the idea of the Great Powers) อย่างไรก็ตาม ระบบความปรองดองแห่งยุโรปได้ล่มสลายลงในปี พ.ศ. 2365 [การทูต]
Consulข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต]
Diplomatic Expressionsถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต]
Functions of Diplomatic Missionภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของคณะผู้แทนทางการทูต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หน้าที่ที่ปฏิบัติเป็นประจำของผู้แทนทางการทูตนั้น ได้แก่ หน้าที่การเจรจา การสังเกต และการคุ้มครอง อย่างไรก็ดี มีบางประเทศได้มอบอำนาจให้ผู้แทนทางการทูตของตนปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล และกิจกรรมเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญใด ๆ กับการทูตเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 3 ว่า1. นอกจากประการอื่นแล้ว การหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูตประกอบด้วยก. ทำหน้าที่แทนรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับข. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่งและของคนชาติของรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดอันกฎหมายระหว่างประเทศได้อนุญาตให้ค. เจรจากับรัฐบาลของรัฐผู้รับง. สืบเสาะให้แน่ด้วยวิถีทางทั้งมวลอันชอบด้วยกฎหมายถึงสถาวะและพัฒนาการในรัฐ ผู้รับ แล้วรายงานไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่งจ. ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ2. ไม่มีข้อความในอนุสัญญานี้ ที่จะหมายความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้คณะผู้แทนทางการทูตปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล [การทูต]
Good Offices และ Mediationวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต]
Goodwill Representativeผู้แทนสันถวไมตรี " หมายถึง การแต่งตั้งบุคคลที่มีพื้นฐานความรู้ ความประพฤติ และ บุคลิกที่เหมาะสมในการเป็นผู้แทนของประเทศ ให้ไปเยือนต่างประเทศ เพื่ออัธยาศัยไมตรี หรือผูกมิตรกับอีกประเทศหนึ่ง โดยสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ " [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Government in Exileรัฐบาลพลัดถิ่น คือระหว่างที่สงครามยังดำเนินอยู่ ประเทศคู่สงครามหนึ่งอาจถูกกองทัพของประเทศฝ่ายศัตรูเข้ายึดครอง ในสถานการณ์เช่นนั้น ตัวหัวหน้าของรัฐบาลหรือรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกยึดครองอำนาจอาจไปตั้ง รรัฐบาลขึ้นชั่วคราวในดินแดนของประเทศพันธมิตรหนึ่ง ซึ่งยินยอมให้ทำเช่นนั้น รัฐบาลที่ตั้งขึ้นเป็นการชั่วคราวดังกล่าวเรียกว่า รัฐบาลพลัดถิ่น ตราบใดที่รัฐบาลพลัดถิ่นได้รับการรับรองฐานะเป็นตัวแทนของประเทศตน ย่อมดำเนินกิจการหน้าที่ของประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ ได้ รัฐบาลพลัดถิ่นจะยังคงสถานภาพของตนไว้ตราบเท่าที่ยังไม่มีความพยายามต่อไป ที่จะยึดเอาดินแดนของตนที่ข้าศึกครองอยู่กลับคืนมาให้ได้ ตัวอย่างของรัฐบาลพลัดถิ่นที่เคยมีมาแล้วคือ รัฐบาลของประเทศโปแลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีซ และยูโกสลาเวีย ซึ่งได้ไปตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เมื่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่ดินแดนของประเทศเหล่านี้ได้ถูกกองทัพของเยอรมนีเข้ายึดครอง [การทูต]
Marshall Planแผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต]
Major Non-NATO Allyพันธมิตรหลักนอกสนธิสัญญานาโต [การทูต]
National Holidayวันชาติ คือสถานเอกอัครราชทูตทีมีอยู่ทั่วโลก จะนิยมฉลองวันชาติของประเทศของตน ส่วนมากจะถือเอาวันครบรอบปีแห่งการประกาศเอกราช หรือวันครบรอบปีของเหตุการณ์ที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของ ประเทศตนเป็นวันชาติ ส่วนในประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ ก็จะยึดเอาวันพระราชสมภพชองกษัตริย์หรือราชินีเป็นวันชาติของประเทศ ในวันชาติ สถานเอกอัครราชทูตจะมีธรรมเนียมจัดงานเลี้ยงรับรอง (Reception) ขึ้นในสถานเอกอัครราชทูตของตนหรือหากเป็นการไม่สะดวกที่จัดงานดังกล่าวขึ้น ในสถานทูต ก็มักไปจัดกัน ณ โรงแรมที่เหมาะสม ในงานเลี้ยงรับรองนี้จะเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประทเศ หัวหน้าคณะทูตข้าราชการในสถานเอกอัครราชทูตอื่น ๆ นักหนังสือพิมพ์ เจ้าหน้าที่สื่อมวลชน บุคคลชั้นนำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม บรรดาคนชาติเดียวกับเอกอัครราชทูตที่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศนั้น ตลอดจนบุคคลสำคัญในสังคม รวมทั้งมิตรสหายของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่สมควรเชิญ [การทูต]
North Atlanitc Treaty Organizationองค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
Reciprocity of Rank of Envoysหมายถึง การถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันในเรื่องตำแหน่งของทูต กล่าวคือ ประเทศทั้งหลายถือธรรมเนียมปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนทูตที่มีตำแหน่งเท่าเทียม กัน ดังนั้น หากประเทศหนึ่งส่งทูตไปประจำอีกประเทศหนึ่ง ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประเทศนั้นก็คาดว่าประเทศผู้รับย่อมจะให้ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน โดยส่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของตนไปประจำที่ประเทศผู้ส่งด้วย พึงสังเกตว่าการถ้อยทีถ้อยปฏิบัติกันเช่นนี้มิใช่เป็นระเบียบข้อบังคับของ กฏหมายระหว่างประเทศ หากเป็นการแสดงไมตรีจิตมิตรภาพต่อกันระหว่างประเทศทั้งหลายมากกว่า [การทูต]
retortionการตอบโต้การกระทำของรัฐอื่นซึ่งมิได้เป็นความผิดในทาง กฎหมายระหว่างประเทศ แต่มีลักษณะที่ไม่เป็นมิตร [การทูต]
Thai Cornerมุมหนังสือไทย " เป็นโครงการบริจาคหนังสือ ตำราเรียนภาษาไทย รวมทั้งศิลปวัตถุของไทย หรือศูนย์วัฒนธรรมไทยเพื่อการเผยแพร่ภาษาไทยและศิลปวัฒน- ธรรมไทยให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศ โดยอาจใช้สถานที่ในห้องสมุดสาธารณะ หรือในมหาวิทยาลัยของต่างประเทศ หรือในสถานทูตสถานกงสุลไทยโดยจัดตั้งเป็นมุมเฉพาะสำหรับจัดวางหนังสือไทยให้ ชาวต่างชาติได้อ่านหรือศึกษาภาษาไทย บางแห่งอาจเรียกชื่อว่า Thai Collection ก็ได้ " [การทูต]
Unfriendly Actการกระทำที่ไม่เป็นมิตร กล่าวคือ เมื่อรัฐหนึ่งประกาศว่า จะถือว่าการปฏิบัติบางอย่างของอีกประเทศหนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร นั่นหมายความว่า เป็นการเตือนว่าการกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ [การทูต]
reduceใช้น้อย, ลดการใช้, ลดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดขยะหรือมลพิษน้อย เช่น หลีกเลี่ยงการเลือกซื้อสินค้าชนิดที่ใช้ครั้งเดียว ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานต่ำ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มหลายชั้น เลือกซื้อสินค้าหรื [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I know you didn't like him, but, for my sake, you must be friends now.ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบเขา แต่ขอเถอะคะ เห็นแก่ฉัน คุณสองคนต้องเป็นมิตรต่อกัน Wuthering Heights (1992)
Do you think I'm going to accept friendship from you now?คิดว่าดิฉันจะยอมรับ มิตรภาพจากคุณ ในตอนนี้ดอกหรือ Wuthering Heights (1992)
You should be friends with your cousin.เธอควรเป็น มิตรกับญาติตัวเองนะ Wuthering Heights (1992)
This guy will do anything for her. But they're allies.ผู้ชายคนนี้จะยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่พวกเขาเป็นพันธมิตรกัน The Joy Luck Club (1993)
General Jodl... signed the "Act of Unconditional Surrender"... of all German land, sea and air forces in Europe... to the Allied Expeditionary Force, and simultaneously to the Soviet High Command.กองทัพเยอรมัน ทั้งบก เรือ อากาศ ยอมจำนนต่อทัพสัมพันธมิตร และ... ...กองบก.สูงสุดโซเวียต Schindler's List (1993)
We're associates of your business partner, Marsellus Wallace.เราร่วมงานของพันธมิตรทางธุรกิจของคุณ Marsellus วอลเลซ Pulp Fiction (1994)
You do remember your business partner, don't you?คุณไม่จำเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของคุณทำไม่ได้คุณ? Pulp Fiction (1994)
I thought so.ดังนั้นผมคิดว่า คุณจำได้พันธมิตรทางธุรกิจของคุณ Marsellus วอลเลซ Pulp Fiction (1994)
- Just take it to a friendly place, that's all!- เพียงแค่เอามันไปยังสถานที่ที่เป็นมิตรที่ทุกคน! Pulp Fiction (1994)
Marsellus ain't got no friendly places in the Valley.Marsellus จะไม่ได้ไม่สถานที่ที่เป็นมิตรในหุบเขา Pulp Fiction (1994)
- I'm calling my partner in Toluca Lake.- ฉันโทรพันธมิตรของฉันในโตลูกาทะเลสาบ Pulp Fiction (1994)
I would if I could, but the signs are neither good nor bad. - We should look again later.ข้าอยากบอก แต่นิมิตรไม่ดีไม่ร้ายต้องดูอีกทีวันหลัง Rapa Nui (1994)
Just some pointers. You know, for old time's sake. Why?สอนข้าฝึกทีเถอะ ช่วยแนะนำเพื่อมิตรภาพเก่าก่อน Rapa Nui (1994)
Bartolo, Pierre must remain, for his comrades and ourselves, what he is: a hero.O.A.S. คือ กองกำลังติดอาวุธลับเพื่อต่อต้านการแยกประเทศแอลจีเรีย บาร์โตโล่ ปิแอร์ สำหรับมิตรสหายและพวกเราเขาคือ: Wild Reeds (1994)
Super. Take care, now.หัวหน้าเผ่าบอกว่า "คุณเป็นมิตรของวาชูตู" Ace Ventura: When Nature Calls (1995)
This will cement the friendship between our Phooey and the Dictator of Bacteria.มิตรภาพแน่นหนาดั่งปูนซีเมนต์ ระหว่าง ผู้นำสวะๆ กับ แบคทีเรีย ผู้มาเยือน The Great Dictator (1940)
I don't get this treatment in my own joint!ผมไม่ได้รับการปฏิบัติ ในฐานะมิตร The Great Dictator (1940)
I'll be your friend, your companion. I'll be happy with that.ฉันจะเป็นเพื่อน เป็นมิตรคู่ใจของคุณ แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว Rebecca (1940)
When the Allies open the doors...เมื่อฝ่ายพันธมิตรเปิดรั้วเหล่านี้ Night and Fog (1956)
Friendly little argument.อาร์กิวเมนต์น้อยที่เป็นมิตร 12 Angry Men (1957)
And of their mating too, and of their friendliness with each other, and their play.และการผสมพันธุ์ของมันมาก ด้วย และเป็นมิตรของมันกับแต่ละ อื่น ๆ และการเล่นของมัน The Old Man and the Sea (1958)
We are going for a friendly walk with the police down by the river.พวกเราจะไปเดินเล่นที่คือมิตร กับตำรวจลงแม่น้ำ โอดูที่ว่า Help! (1965)
Well, Clapper, is your good lady wife a willing partner to this hoggins?ก็คแลปเปอเป็นภรรยาที่ก็ของ คุณผู้หญิง พันธมิตรยินดีที่จะกามกิจนี้ หรือไม่? How I Won the War (1967)
On the approach of a friendly aircraft, the bearer stands in a prominent position and displays the triangle thus.เกี่ยวกับวิธีการของเครื่องบิน มิตร ผู้ถือยืนอยู่ในตำแหน่งที่โดด เด่น และแสดงรูปสามเหลี่ยมจึง How I Won the War (1967)
You don't offer friendship. You don't even think to call me Godfather.คุณไม่ได้มีมิตรภาพ คุณไม่ได้คิดที่จะโทรห​​าฉันเจ้าพ่อ The Godfather (1972)
If you'd come in friendship, the scum that ruined your daughter would be suffering this very day.หากคุณต้องการมาในมิตรภาพ ฝาที่ทำลายลูกสาวของคุณจะได้รับความทุกข์ทรมานวันนี้มาก The Godfather (1972)
This friend would give his friendship to Mr. Woltz, if Mr. Woltz would grant us a favor.เพื่อนคนนี้จะทำให้มิตรภาพของเขากับนาย Woltz, ถ้านาย Woltz จะให้เราโปรดปราน The Godfather (1972)
They wouldn't be friendly long if I was involved in drugs instead of gambling, which they regard as a harmless vice, but drugs is a dirty business.พวกเขาจะไม่เป็นมิตรนานถ้าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแทนการเล่นการพนัน ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นรองไม่เป็นอันตราย แต่ยาเสพติดเป็นธุรกิจที่สกปรก The Godfather (1972)
"Amity," as you know, means "friendship.""อามิตี้" อยางที่รู้กัน เเปลว่า "มิตรภาพ" Jaws (1975)
Gear is our ally...the gasoline will be ours.ความกลัวคือพันธมิตรของเรา น้ำมันจะเป็นของเรา The Road Warrior (1981)
Well, look, John, we can't have you running around out there, wasting friendly civilians.ก็ ดูสิ จอห์น เราไม่สามาร มีคุณ วิ่งไปรอบๆออกที่นั้น การสูญเสียพลเรือนที่เป็นมิตร First Blood (1982)
- There are no friendly civilians. - I'm your friend, Johnny.ไม่มีพลเรือนที่เป็นมิตร ผมคือเพื่อนของคุณ จอห์นนี่ First Blood (1982)
We have come to crown victory with friendship.เรามามอบชัยชนะอย่างฉันท์มิตร Gandhi (1982)
they're our allies. oh! we're Americans!เป็นพันธมิตรของเรา เราเป็นชาวอเมริกัน! ดร.ฮัดลีย์ Spies Like Us (1985)
Egg's away!แต่มิตรภาพของพวกเราไม่มีวันสิ้นสุด Full House (1987)
You seem a decent fellow. I hate to kill you.เหมือนนายเป็นมิตรแท้ ข้าไม่อยากฆ่านาย The Princess Bride (1987)
You seem a decent fellow. I hate to die.เหมือนนายเป็นมิตรแท้ ข้าไม่ปรารถนาที่จะตาย The Princess Bride (1987)
And Roberts and I eventually became friends.โรเบิร์ตกับข้ากลายเป็นมิตรกัน The Princess Bride (1987)
Fish, friends, dragonflies...ปลา มิตรสหาย แมลงปอ Ginî piggu: Manhôru no naka no ningyo (1988)
Even those who would be our allies would not understand.แม้ผู้ที่จะเป็นพันธมิตรของเราจะไม่เข้าใจ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
Some say that the path from inner turmoil begins with a friendly ear.บางคนบอกว่าเส้นทางจากความวุ่นวายภายใน ... ... เริ่มต้นด้วยการเป็นมิตรกับหู Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
He made them partners.เขาสร้างพันธมิตร Goodfellas (1990)
Everybody wanted to be nice to him.ทุกคนเป็นมิตรกับเขา Goodfellas (1990)
With respect, Rinpoche... if your intention is to stop the Chinese from recruiting political allies... then demanding that they stop trying to bribe monks... is not the most effective tactic.ด้วยความเคารพ ท่านรินโปเช หากความตั้งใจของท่านคือการ หยุดยั้งไม่ให้จีนรวบรวมพันธมิตรการเมือง การรับสั่งให้พวกนั้นหยุด ให้สินบนพระสงฆ์ Seven Years in Tibet (1997)
Thank you for your friendship. Heinrich."ขอบคุณสำหรับมิตรภาพนะ ไฮน์ริช" Seven Years in Tibet (1997)
And having safely returned to the shore... may they be joyfully reunited with their relatives.และเดินทางกลับฝั่ง ด้วยความปลอดภัย ให้ได้พบปะสังสรรค์ กับครอบครัวและญาติมิตร Seven Years in Tibet (1997)
He didn't have a country, he didn't even have a birth date.เขาเป็นคนไร้สัญชาติ ไม่มีกระทั่งวันเกิด ไม่มีญาติมิตร The Legend of 1900 (1998)
Comrades, students, revolutionary companions-in-arms...สหายทุกท่าน นักเรียนทุกคน และมิตรของพรรคประชาชน The Red Violin (1998)
A crowd of faces... friends and family, enemies, lovers.มิตรสหาย ครอบครัว ศัตรู หรือ คู่รัก The Red Violin (1998)
Maybe you should pick it up a bit, dear.บางที คุณควรจะผูกมิตรซักหน่อยก็ดีนะ Dark Harbor (1998)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ฉันมิตร[chan mit] (adv) EN: as friends ; like friends
ฝ่ายพันธมิตร[fāi phanthamit] (n) EN: ally ; alliance ; allies
แกงจืดรวมมิตร[kaēng jeūt rūam mit] (xp) EN: ruam mit soup
การแข่งขันเพื่อมิตรภาพ[kān khaengkhan pheūa mittraphāp] (n, exp) EN: friendly match  FR: rencontre amicale [ f ]
การตกลงกันฉันมิตร[kān toklong kan chan mit] (n, exp) EN: amicable agreement ; entente cordiale
ความไม่เป็นมิตร[khwām mai pen mit] (n, exp) EN: hostility ; animosity ; resentment
ความเป็นมิตร[khwām pen mit] (n, exp) EN: friendship ; companionship ; fellowship  FR: amitié [ f ]
มิตร[mit] (n) EN: friend ; companion ; fellow  FR: ami [ m ] ; amie [ f ] ; copain [ m ] (fam.) ; copine [ f ] (fam.) ; camarade [ m, f ] ; compagnon [ m ] ; pote [ m ] (fam.)
มิตรไมตรี[mitmaitrī] (n) EN: hospitality
มิตรจิต[mittrajit] (n) EN: friendliness ; geniality  FR: bonté [ f ] ; bienveillance [ f ]
มิตรจิตมิตรใจ[mittrajit-mittrajai] (n) EN: friendly feelings ; cordiality ; friendliness ; sympathy  FR: sympathie [ f ]
มิตรภาพ[mittraphāp] (n) EN: friendship ; cordiality ; friendliness ; companionship  FR: amitié [ f ]
เป็นมิตร[pen mit] (v) EN: be friendly ; be on friendly terms ; be friends
เป็นมิตร[pen mit] (adj) FR: amical ; cordial
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม[pen mit kap singwaētløm] (adj) EN: eco-friendly ; environment-friendly ; environmentally-friendly ; non-polluting ; ecologically sound
เป็นพันธมิตร[pen phanthamit] (n) EN: ally  FR: allié [ m ]
พันธมิตร[phanthamit] (n) EN: alliance ; association ; partnership ; coalition  FR: alliance [ f ] ; partenariat [ m ] ; coalition [ f ]
พันธมิตร[phanthamit] (n) EN: ally  FR: allié [ m[
พันธมิตร[Phanthamit] (org) EN: the Alliance (PAD)  FR: l'Alliance (PAD)
พันธมิตรฝ่ายเหนือ[Phanthamit Fāi Neūa] (org) EN: Northern Alliance
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย[Phanthamit Prachāchon Pheūa Prachāthippatai] (org) EN: People's Alliance for Democracy (PAD)  FR: Alliance du Peuple pour la Démocratie (PAD)
ผูกมิตร[phūkmit] (v) EN: befriend ; make friends  FR: se lier d'amitié
ประเทศพันธมิตร[prathēt phanthamit] (n, exp) EN: allied country  FR: pays allié [ m ] ; pays ami [ m ]
รวมมิตร[rūam mit] (n, exp) FR: assortiment [ m ] ; mélange [ m ]
สัมพันธมิตร[samphanthamit] (n) EN: ally ; alliance  FR: allié [ m ] ; alliance [ f ]
สร้างมิตร[sāng mit] (v, exp) EN: make friends ; socialize  FR: se faire des amis
สะพานมิตรภาพ[Saphān Mittraphāp] (n, prop) EN: Friendship Bridge  FR: pont de l'Amitié [ m ]
สพรั่ง กัลยาณมิตร (เปย, บิ๊กเปย)[Saphrang Kanlayānamit (Poēi, Bik Poēi)] (n, prop) EN: Saprang Kalayanamitr  FR: Saprang Kalayanamitr
ส่งเสริมมิตรภาพ[songsoēm mittraphāp] (v, exp) EN: improve frienship ; promote friendship
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก[Susān Thahān Samphanthamit Døn Rrak] (n, prop) EN: Kanchanaburi War Cemetery ; Don Rak United Nation Cemetery ; Don Rak War Cemetery
ทหารสัมพันธมิตร[Thahān Samphanthamit] (n, prop) EN: Allied forces  FR: Forces alliées [ fpl ] ; Alliés [ mpl ]
วัดไตรมิตร[wat Traimit] (n, prop) EN: Wat Traimit ; Temple of the Golden Buddha  FR: wat Traimit ; temple du Bouddha d'or [ m ]
อย่างเป็นมิตร[yāng pen mit] (adv) EN: friendly  FR: amicalement
ญาติมิตร[yāt-mit] (n, exp) EN: kindred ; kin ; kinfolk (old) ; relatives and friends  FR: famille [ f ] ; parents et amis [ mpl ]

English-Thai: Longdo Dictionary
condescension(n) การกระทำที่แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำเชื่อว่าตนเองสำคัญหรือฉลาดกว่าผู้อื่น เช่น He gave us very friendly advice without a trace of condescension. เขาให้คำแนะนำที่เป็นมิตรมากๆ กับพวกเรา โดยไม่ได้มีท่าทีว่าเขาคิดว่าตนเองสำคัญหรือฉลาดกว่าเราแต่อย่างใด
hostile takeovers(n) การซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร
schmoozer(n) คนที่ชอบ schmooze, ชอบพูดคุยกับผู้อื่นในลักษณะคุยเก่ง, ร่าเริง, หรือเป็นมิตรมากๆ
schmooze(vi) การพูดคุยกับผู้อื่นในลักษณะคุยเก่ง, ร่าเริง, หรือเป็นมิตรมากๆ เช่น ในงานเลี้ยง เดิมคำนี้มักจะมีความหมายในเชิงลบ สื่อถึงคนที่คุยเก่ง แต่อาจเพื่อหาประโยชน์บางอย่างให้ตัวเอง แต่ในปัจจุบันก็มีความหมายในทางกลางๆ ไม่ได้เชิงลบเสมอไป ดูบทความอธิบายคำว่า schmooze ที่ https://dict-blog.longdo.com/whats-all-this-schmoozing-about-in-english/

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
adversary(n) คู่ต่อสู้, See also: อมิตร, ข้าศึก, คู่ปรปักษ์, คู่อาฆาต, ปรปักษ์, ศัตรู, Syn. enemy, opponent
agreeable(adj) เป็นมิตร
alliance(n) สหพันธ์, See also: สมาพันธ์, องค์กร, พันธมิตร, Syn. union, league, federation
allied(adj) ซึ่งเป็นพันธมิตรกันโดยสนธิสัญญา
amiable(adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง
amiably(adv) อย่างเป็นมิตร
amicable(adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, Syn. peaceable, friendly, neighborly
amity(n) มิตรภาพ, See also: สัมพันธไมตรี, ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร, Syn. friendship
approachable(adj) ที่เข้าถึงได้ง่าย, See also: ที่เป็นมิตร, ที่สนิทได้ง่าย, Syn. friendly, receptive, sanction
alienate from(phrv) ทำให้เหินห่าง, See also: ทำให้แตกแยก, เมินหมาง, ไม่เป็นมิตร
ally to(phrv) เป็นพันธมิตรกับ
ally with(phrv) เป็นพันธมิตรกับ, See also: เข้าร่วมกับ
augur ill(phrv) เป็นลางร้าย, See also: เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี, เป็นนิมิตร้าย, Syn. bode ill
bantering(adj) ซึ่งหยอกเล่นอย่างเป็นมิตร
befriend(vt) ผูกมิตร, See also: เป็นมิตร, ตีสนิท, ทำตัวเป็นเพื่อนกับ, ตีสนิท, เข้ากับ
bluff(adj) เป็นมิตรแต่พูดตรงโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น, See also: เป็นมิตรแต่โผงผาง, Syn. outspoken
bonhomie(n) ความมีมิตรไมตรี
brush-off(n) การทำท่าทีไม่สนใจ (อย่างไม่เป็นมิตรและไม่สุภาพ)
camaraderie(n) ความเป็นมิตร, See also: ความสัมพันธ์ที่ดี, Syn. companionship, intimacy
chap(n) ผู้ชาย (ไม่เป็นทางการ), See also: มิตร, Syn. man, boy, fellow
chilly(adj) เย็นชา, See also: ไม่เป็นมิตร, Syn. unfriendly, hostile
coalition(n) การรวมเป็นหนึ่งเดียว, See also: การร่วมกัน, การร่วมมือกัน, การประสานกัน, สัมพันธมิตร, Syn. partnership, league, cooperation, combination, solidification
combination(n) พันธมิตร, See also: กลุ่มคน, Syn. association, federation, league, coalition, cartel, combine, monopoly, bloc, cabal, conspiracy, union, alliance, organisation, organization
conciliate(vt) ทำให้เป็นมิตร, Syn. pacify, make friendly
conciliatory(adj) มีแนวโน้มที่เป็นมิตร, Syn. friendly
concord(n) ความเป็นมิตรภาพกัน, See also: ความกลมเกลียว, Syn. friendship
cool(adj) เย็นชา, See also: ซึ่งไร้ความรู้สึก, ซึ่งไม่เป็นมิตร, Syn. unfriendly
cordial(adj) ที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร, Syn. genial, warm, welcoming
chum up(phrv) เข้ากันได้ดี, See also: เป็นมิตรกับ, Syn. pal up
cotton up to(phrv) เริ่มเป็นมิตรกับ (คำไม่เป็นทางการ)
cross swords with(phrv) เริ่มแตกแยก (ทางความคิด, มิตรภาพฯลฯ) กับ, See also: ขัดแย้ง, แตกแยก
fraternize with(phrv) เป็นมิตรกับ, See also: สนิทสนมกับ, มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ
disagreeable(adj) หยาบคาย, See also: ไม่เป็นมิตร, Syn. unpleasant
endogamy(n) การแต่งงานของคนที่อยู่ในเผ่าเดียวกัน, See also: การแต่งงานในหมู่ญาติมิตร
fellowship(n) สัมพันธภาพ, See also: มิตรภาพ, ความเป็นมิตร, การคบหาสมาคม, Syn. comradeship, sociability, intimacy, Ant. enmity, unsociability
fireside(adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, Syn. friendly
foe(n) ศัตรู, See also: ข้าศึก, ปรปักษ์, อมิตร, อริ, Syn. enemy, opponent, adversary, Ant. friend, ally
forbidding(adj) ที่ไม่เป็นมิตร, See also: ดูน่ากลัว, ดูอันตราย, Syn. threatening, hostile, Ant. friendly
friend(n) มิตร, See also: เพื่อน, สหาย, เกลอ, มิตรสหาย, พวกพ้อง, Syn. companion, comrade, Ant. anemy, foe
friendliness(n) ความเป็นมิตร, See also: ความมีไมตรี, ความเป็นกันเอง, ความเป็นเพื่อน, Syn. amiability, cordiality, kindliness, Ant. hostility, inimicality, unfriendliness
friendly(adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, เหมือนเป็นเพื่อน, Syn. amiable, cordial, kindly, Ant. hostile, inimical, unfriendly
friendly(adv) อย่างเป็นมิตร, See also: อย่างเป็นกันเอง, อย่างเพื่อน
friendship(n) มิตรภาพ, See also: ความเป็นมิตร, ความเป็นเพื่อน, ความสัมพันธ์อย่างเพื่อน, Syn. camaraderie, companionship, fellowship, Ant. enmity, hostility
frosty(adj) ซึ่งไม่เป็นมิตร, See also: เย็นชา
get along(phrv) เป็นเพื่อนกันได้, See also: เป็นมิตร, เข้ากันได้ดี, Syn. get along with, get on, get on with
get along with(phrv) เข้ากันได้ดี, See also: เป็นมิตรกันดีกับ, Syn. get along, get on with, go on
get in with(phrv) คุ้นเคยกับ, See also: เป็นมิตรกับ มักเป็นคนมีตำแหน่งสูงหรือมีอำนาจ, Syn. be in with, keep in with
get on with(phrv) เป็นมิตรกับ, See also: เข้ากันได้กับ, Syn. get along with, get on
get on(phrv) เป็นมิตรกับ, See also: เป็นเพื่อนกับ, Syn. get along, get along with
go on(phrv) เข้ากันได้, See also: เป็นมิตรกัน, Syn. get along, get along with

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
aafabbr. Allied Air Forces. (กองทัพอากาศพันธมิตร) Army Air Forces กองบินทหารบก
affable(แอฟ' ฟะเบิล) adj. เป็นมิตร, ง่าย , กรุณา
alliance(อะไล' เอินซฺ) n. พันธมิตร, สันนิบาต, การแต่งงาน, ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการแต่งงาน, สหพันธ์, ข้อตกลงระหว่างประเทศ, Syn. fusion, union -A.difference, disparity
allied(อะไลดฺ', แอล' ไลดฺ) adj. เป็นพันธมิตรกันโดยสนธิสัญญา, ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน, มาจากที่เดียวกัน, มีแหล่งกำเนิดเดียวกัน, Syn. united
allies(แอล' ไลซ, อะไลซ') n. พหูพจน์ของ ally, พันธมิตร -Allies ชาติพันธมิตร, สมาชิกสนธิสัญญานาโต้ (NATO)
ally(vt, vi. อะไล', -n. แอล' ไล, อะไล') ผูกพัน, เข้าข้าง, เป็นพันธมิตร, พันธมิตร, ประเทศพันธมิตร, พรรคพวก, ผู้ช่วย, สิ่งที่เกี่ยวดองกัน. -alliable adj., Syn. confederate, partner-A. enemy
amicable(แอม' มิคะเบิล) adj. เป็นมิตร, ฉันมิตร, รักใคร่กัน, มีไมตรีจิต. -amicability, amicableness n., Syn. friendly
amity(แอม' มิที) n. มิตรภาพ, สัมพันธไมตรี, ไมตรีจิต, Syn. friendship, Ant. hostility
antisocial(แอนทีโซ' เชียล) adj. ต่อต้านสังคม, เบื่อหน่ายสังคม, เป็นปฏิปักษ์ หรือไม่เป็นมิตรกับผู้อื่น. -antisocialistic adj.
antogonistic(แอนแทก' โกนิสทิค) adj. ซึ่งต่อต้าน, เป็นปรปักษ์, ไม่เป็นมิตร, Syn. hostile, opposed, Ant. supportive, harmonious
association(อะโซชีเอ'เชิน) n. สมาคม, บริษัท, การร่วมกัน, ความสัมพันธ์, สันนิบาตพันธมิตร, สหภาพ, การเชื่อมติดกัน, ความคิดเห็นร่วมกัน, กลุ่มของพืชที่อยู่ร่วมกัน, เกมฟุตบอล, การสังสรรค์, Syn. fellowship, organization, link
auld lang syne(ออลด'ฺ แลง ไซน์') อดีตกาล (โดยเฉพาะที่สดชื่น) , มิตรภาพที่เก่าแก่
auspice(ออ'สพิสฺ) n., (pl. auspices) ความอุปถัมภ์, สุภมงคลสมัย, ฤกษ์ดี, การทำนาย (ตามลักษณะการบินของนก) , นิมิตร (patronage)
axis(แอค' ซิส) n., (pl. axes) แกน, เพลา, เส้นศูนย์กลาง, สัมพันธมิตร, แนวหลักในการพัฒ-นาหรือเคลื่อนที่, กระดูกสันหลังที่คอ (ชิ้นที่ 2) , อักษะ (เยอรมัน ญี่ปุ่นและอิตาลีในสงครามโลกครั้งที่ 2) , ชื่อกวางในอินเดียและลังกา, Syn. coalition
bad bloodn. ความเป็นศัตรู, ความไม่เป็นมิตร
bonhomie(บอน'ฮะมี) n. มิตร ไมตรี, ความร่าเริงชื่นบาน
camaraderie(คามะรา'ดะรี) n. มิตรภาพที่ดี
chilliness(ชิล'ลิเนส) n. ความเมินเฉย, ความเย็นชา, ความไม่เป็นมิตร
chummy(ชัม'มี) adj. สนิทสนม, มีมิตรไมตรีจิตเป็นมิตร, เป็นเพื่อนกัน, See also: chumminess n.
coalition(โคอะลิช'เชิน) n. การร่วมกัน, การร่วมมือกัน, สัมพันธมิตร, รัฐบาลผสม, การประสานกัน., See also: coalitionist, coalitoiner n., Syn. alliance
combination(คอมบะเน'เชิน) n. การรวมกัน, จำนวนสิ่งของที่รวมกัน, พันธมิตร, รหัสตัวเลขหรืออักษรของกุญแจที่ไขด้วยการหมุนตัวเลข หรือหมุนอักษรดังกล่าว, การจัดเป็นกลุ่ม -Phr. (in combination with ร่วมกับ), Syn. combining, joining, blend
companion(คัมแพน'เยิน) { companioned, companioning, companions } n. เพื่อน, สหาย, มิตร, เพื่อนร่วมงาน, สิ่งเปรียบเทียบ, คู่มือ, ผู้ที่เป็นเพื่อนเฝ้าดูคนไข้, อัศวินตำแหน่งต่ำสุด, ชื่อดาว, ที่ครอบบันไดในตัวเรือ, บันไดในตัวเรือ vt. เป็นเพื่อน, Syn. frien
comrade(คอม'ริด, คอม'เรด) n. สหาย, เพื่อน, มิตรสนิท, เพื่อนสมาชิกหรือพรรค, สมาชิกพรรค คอมมิวนิสต์, Syn. friend, companion
concord(คอน'คอร์ด) n. ความสอดคล้องกัน, การปรองดองกัน, การลงรอยกัน, สัญญา, ข้อตกลง, ความสงบ, มิตรภาพ, เสียงที่กลมกลืนกัน, Syn. accord, agreement, treaty, Ant. discord
confederate(คันเฟด'เดอริท) adj. ซึ่งรวมกันในรูปสหพันธ์ สันนิบาต หรืออื่น ๆ, See also: Confederate เกี่ยวกับกลุ่ม 11 รัฐภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่แยกตัวออกเป็นอิสระในปี ค.ศ.1860-61 n. พันธมิตร, ผู้สมรู้ ร่วมคิด. vt., vi. รวมกันเป็นกลุ่ม คำที่มีความหมายเหมือน
confederation(คันเฟดดะเร'เชิน) n. การร่วมกลุ่ม, ภาวะที่ถูกรวมกลุ่ม, สันนิบาตหรือพันธมิตร, กลุ่มรัฐที่รวมกัน, The Confederation การรวมกลุ่ม13 รัฐแรกเริ่มของสหรัฐตามสนธิสัญญา Articles of Confederation 1781-1789, See also: confederationism, confederationist, confederal
connection(คะเนค'เชิน) n. การเชื่อมต่อ, การเชื่อมผนึก, ความสัมพันธ์, พันธะ, วงศ์วานวงศ์ญาติมิตร, ญาติ, การสังวาส, Syn. juncture, union, associate
cordial(คอร์'เดียล) adj. ด้วยความรักใคร่, ด้วยมิตรไมตรีจิต, ด้วยน้ำใสใจจริง, อบอุ่น, สนิทสนม. n. ยาบำรุงหัวใจ, เหล้าหวานหอมที่เจือปนเครื่องเทศ, ยากระตุ้น., See also: cordialness n., Syn. warm, sincere, Ant. cool, cold
federal(เฟด'เดอเริล) adj. สหพันธ์, สหรัฐ, สมาพันธรัฐ, สันนิบาต, พันธมิตร, กลาง
federation(เฟดเดอเร'เชิน) n. การรวมเข้าเป็นสหรัฐหรือสมาพันธรัฐ, กลุ่มการเมือง (สหรัฐ, สมาพันธรัฐ, สหพันธ์, สันนิบาต, พันธมิตรหรืออื่น ๆ), Syn. league
fellowship(เฟล'โลชิพ) n. ตำแหน่งผู้วิจัยในมหาวิทยาลัย, ตำแหน่งสมาชิกของสมาคมวิชาการ, ความสัมพันธ์ของมนุษย์, มิตรภาพ, การคบหา, ความเป็นมิตร, สมาคมของบุคคลที่มีอาชีพ, รสนิยม, บริษัท, กลุ่มนักวิจัยในมหาวิทยาลัย. vt. รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมหรือกลุ่ม. vi. ร่วมเป็นสมาชิกของสมาค
forbidding(ฟอร์บิด'ดิง) adj. ไม่เป็นมิตร, น่ากลัว, อันตราย, มีภัยคุกคาม., See also: forbiddingly adv. forbiddingness n.
foretoken(ฟอร์'โทเคิน) n. การเตือนล่วงหน้า, ลาง, นิมิตร. vt. เป็นลางบอก
francophiladj. ซึ่งเป็นมิตรหรือชอบฝรั่งเศส
francophileadj. ซึ่งเป็นมิตรหรือชอบฝรั่งเศส
fremd(เฟรมดฺ) adj. ต่างถิ่น, แปลก, ไม่เป็นมิตร
friend(เฟรนดฺ) n. เพื่อน, สหาย, มิตร, พวกพ้อง, ผู้สนับสนุน, ผู้ช่วยเหลือ, คนคุ้นเคย, สมาชิกของกลุ่มหรือสมาคมเดียวกัน. -Phr. (make friends with คบเป็นเพื่อนกับ) . vt. ทำให้เป็นเพื่อน, See also: friendless adj. friendlessness n. -S...
friendly(เฟรนดฺ'ลี) adj., adv. เป็นมิตร, กรุณา, ให้ความช่วยเหลือ, ให้ความสนับสนุน, เหมาะ -friendlily adv., See also: friendliness n., Syn. helpful, kind
friendship(เฟรนดฺ'ชิพ) n. มิตรภาพ
genial(จี'เนียล, เจน'เยิล) adj. ใจดี, เห็นใจคนอื่น, ร่าเริง, มีมิตรไมตรีจิต, เบิกบานใจ, มีลักษณะของอัจฉริยบุรุษ, เกี่ยวกับคาง, See also: genialness n., Syn. cordial, lively
geniality(จีนีแอล'ลิที) n. ความใจดี, ความเห็นอกเห็นใจคนอื่น, ความร่าเริงเบิกบานใจ, ความมีมิตรไมตรีจิต, Syn. cheerfulness, kindliness -A.cheerlessness
get(เกท) { got, gotten, getting, gets } vt. ได้, ได้มา, ได้รับ, เอา, ไปเอามา vi. มาถึง, บรรลุ -Phr. (get along จัดการ, ก้าวหน้า, ตกลง, เป็นมิตร) .
heartily(ฮาร์ท'ทิลี) adv. อย่างจริงใจ, อย่างแท้จริง, ด้วยมิตรไมตรีจิต, อย่างยิ่ง, โดยสิ้นเชิง, อย่างเอร็ดอร่อย, Syn. cordially, sincerely
hearty(ฮาร์ท'ที) adj. อบอุ่นใจ, มีมิตรไมตรีจิต, ร่าเริง, จริงใจ, แท้จริง, เต็มใจ, กระตือรือร้น, แข็งแรง, รุนแรง, มากมาย, อุดมสมบูรณ์. n. คนกล้า, คนดี, สหาย., See also: heartily adv. heartiness n., Syn. genial, cordial, Ant. cool, weak, mild
homely(โฮม'ลี) adj. ไม่สวย, ไม่ดึงดูดใจ, ธรรมดา ๆ , เป็นมิตรมาก., See also: homeliness n., Syn. unpretentious
hospitable(ฮอส'พิทะเบิล) adj. มีมิตรไมตรีจิต, มีอัธยาศัย, ชอบต้อนรับแขก, ตอนรับขับสู่, เมตตากรุณา, ต้อนรับความคิดใหม่ ๆ, See also: hospitably adv., Syn. cordial, receptive
hospitality(ฮอสพิแทล'ลิที) n. ความมีมิตรไมตรีจิต, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, Syn. welcome, conviviality, cordiality
hostile(ฮอส'ไทลฺ, ฮอส'เทิล) adj. เป็นปรปักษ์, ต่อต้าน, มีเจตนาร้าย, เป็นศัตรู, ไม่เป็นมิตร, ไม่รับแขก, See also: hostility adv., Syn. contrary, antagonistic
hostility(ฮอลทิล'ลิที) n. ความเป็นปรปักษ์, การมีเจตนาร้าย, การเป็นศัตรู, การไม่เป็นมิตร., See also: hostilities n. สงคราม, การทำสงคราม, Syn. enmity, animosity
inimical(อินิม'มิเคิล) adj. ไม่เป็นมิตร, เป็นปฏิปักษ์, มีเจตนาร้าย, เป็นอันตราย., See also: inimically adv. inimicalness. inimicality n., Syn. inimicable, hostile, Ant. friendly

English-Thai: Nontri Dictionary
affection(n) ความรัก, ความเสน่หา, ความชอบ, ความเป็นมิตร, อารมณ์
alliance(n) พันธมิตร, การเกี่ยวดอง, การผูกพัน, การเกี่ยวพัน
allied(adj) เป็นพันธมิตรกัน, เกี่ยวพันกัน, เกี่ยวดองกัน
ally(n) พันธมิตร, พรรคพวก, พวกพ้อง
amicable(adj) กลมเกลียวกัน, เป็นมิตร, ฉันมิตร, รักใคร่กัน
amity(n) มิตรภาพ, สัมพันธภาพ, สัมพันธไมตรี, สันติภาพ
associate(n) มิตรสหาย, เพื่อนฝูง, พรรคพวก, ผู้ร่วมงาน, ภาคี
backyard(n) ความเป็นศัตรู, ความเกลียดชัง, ความไม่เป็นมิตร
chillness(n) ความเย็นชา, ความเฉยเมย, ความเยือกเย็น, ความไม่เป็นมิตร
chummy(adj) สนิทสนม, เป็นเพื่อนกัน, เป็นมิตร
coalition(n) การประสานกัน, การรวมกัน, การร่วมมือกัน, รัฐบาลผสม, สัมพันธมิตร
combination(n) การรวมกัน, การจัดกลุ่ม, พันธมิตร
companion(n) เพื่อน, สหาย, มิตร, เพื่อนร่วมงาน, สิ่งที่ไปด้วยกัน
companionship(n) มิตรภาพ, ไมตรีจิต, สัมพันธไมตรี
comrade(n) เพื่อน, สหาย, มิตร
comradeship(n) ความเป็นเพื่อน, มิตรภาพ
confederate(n) ผู้สมรู้ร่วมคิด, สัมพันธมิตร, พันธมิตร
confederation(n) การร่วมมือกัน, สหภาพ, สมาพันธ์, สันนิบาต, พันธมิตร
cordial(adj) เต็มใจ, จริงใจ, ด้วยน้ำใสใจจริง, ด้วยมิตรไมตรีจิต, ฉันมิตร
cordiality(n) มิตรภาพ, ความจริงใจ, ไมตรีจิต, น้ำใสใจจริง
disaffected(adj) ไม่เป็นมิตร, ไม่ซื่อสัตย์, ไม่พอใจ, เหินห่าง
disaffection(n) ความไม่เป็นมิตร, ความไม่ซื่อสัตย์, ความไม่พอใจ, ความเหินห่าง, ความบาดหมาง
federal(adj) เกี่ยวกับสหพันธ์, เกี่ยวกับสันนิบาต, เกี่ยวกับพันธมิตร
federate(adj) ซึ่งรวมเป็นสหพันธ์, ซึ่งเป็นพันธมิตร, ซึ่งเป็นสหพันธรัฐ
fellow(n) มิตรสหาย, เพื่อน, ภาคีสมาชิก, มนุษย์, นักวิจัยในมหาวิทยาลัย
fellowship(n) มิตรภาพ, ความสัมพันธ์, การคบหาสมาคม, ทุนเรียนในมหาวิทยาลัย
friend(n) เพื่อน, เกลอ, สหาย, มิตร, พรรคพวก, ผู้ช่วยเหลือ
friendliness(n) มิตรภาพ, ไมตรีจิต, มิตรไมตรี, มิตรจิตมิตรใจ
friendly(adj) ฉันเพื่อน, ฉันมิตร, เป็นมิตร
friendship(n) มิตรภาพ, มิตรไมตรีจิต, ความสัมพันธ์ฉันเพื่อน
genial(adj) ร่าเริง, เบิกบาน, ใจดี, มีมิตรไมตรีจิต
hostile(adj) เป็นศัตรู, มุ่งร้าย, เกลียดชัง, ไม่เป็นมิตร
hostility(n) ความเป็นศัตรู, ความไม่เป็นมิตร, ความมุ่งร้าย, ความเกลียดชัง
league(n) สมาคม, สันนิบาต, สหพันธ์, คณะ, พันธมิตร, ความยาวสามไมล์
league(vt) รวมกันเป็นสันนิบาต, รวมกลุ่ม, เป็นพันธมิตร
neighbourly(adj) ฉันเพื่อนบ้าน, มีมิตรไมตรีจิต
PEN pen pal(n) มิตรสัมพันธ์, เพื่อนทางจดหมาย
regard(n) ความเอาใจใส่, การมองดู, ความนับถือ, มิตรภาพ, การพิจารณา
social(adj) ชอบสมาคม, ในวงสังคม, เป็นกันเอง, ฉันมิตร
sodality(n) ความเป็นเพื่อนกัน, ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, มิตรไมตรีจิต
unfriendly(adj) ไม่เป็นมิตร, มุ่งร้าย

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
collegiality(n) วิทยามิตร
contingent onที่ทำตัวเข้าด้วยกันทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมักไม่เป็นมิตรกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน, Syn. dependent on
goodwill[กู้ดวิล] (n) กระชับมิตร, See also: benevolence, brotherhood, charity, cordiality, cordialness, fellowship, fr, Syn. amity
identification, friend or foe(n) ระบบพิสูจน์ฝ่ายว่าเป็นมิตรหรือศัตรู

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
愛想[あいそう, aisou] 1.อัธยาศัย 2.ท่าทีเป็นมิตร 3.การต้อนรับขับสู้
市民民主化同盟[しみんみんしゅかどうめい, shiminminshukadoumei] (n) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People's Alliance for Democracy, See also: S. PAD
市民民主化同盟[しみんみんしゅかどうめい, shiminminshukadoumei] (n) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People's Alliance for Democracy), See also: S. PAD
同盟[どうめい, doumei] (n) พันธมิตร

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
連立[れんりつ, renritsu] TH: พันธมิตร

German-Thai: Longdo Dictionary
feindlich(adj) ไม่เป็นมิตร, ทำตัวเป็นศัตรู
Freundschaft(n) |die, pl. Freundschaften| สัมพันธภาพ, มิตรภาพ, ความสัมพันธ์ฉันเพื่อน เช่น eine Freundschaft beenden
eisig(adj) ที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง, ที่ไม่เป็นมิตร เช่น ein eisiger Blick สายตาที่ไม่เป็นมิตร, Syn. unfreundlich
freundlich(adj) เป็นมิตร, เป็นกันเอง, มีน้ำใจ, See also: A. unfreundlich, Syn. nett

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
*reundlich { adj } | freundlicher | am freundlichsten*(adj) เป็นมิตร

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top