ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เป็นอัน, -เป็นอัน- |
|
| เป็นอันดี | (adv) very well, Syn. อย่างดี, Example: ชาวบ้านเข้าใจธรรมชาติของวัสดุเหล่านี้เป็นอันดี ทำให้รู้เทคนิควิธีใช้วัสดุเหล่านั้นในงานหัตถกรรม, Thai Definition: อย่างที่เป็นไปในทางที่ต้องการ, น่าพอใจ | เป็นอันขาด | (adv) absolutely, See also: definitely, surely, certainly, Syn. เด็ดขาด, Example: พนักงานทุกคนได้รับคำสั่งห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้คนภายนอกรู้เป็นอันขาด, Thai Definition: อย่างเด็ดขาด (ใช้กับประโยคปฏิเสธ) | เป็นอันมาก | (adv) greatly, See also: considerably, enormously, hugely, vastly, tremendously, Syn. เป็นอย่างมาก, มากมาย, Example: ขั้นตอนการลบโปรแกรมแบบเก่าทำให้สิ้นเปลืองเวลาเป็นอันมาก น่าจะคิดหาวิธีใหม่ได้แล้ว, Thai Definition: อย่างมากมาย | เป็นอันว่า | (conj) regard as, See also: count as, Syn. สรุปว่า, Example: หลังจากที่อบให้ผิวเรียบสนิทแล้วก็เป็นอันว่าเราได้วัตถุดิบที่พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการปั้มรูปร่างแผ่นดิสก์, Thai Definition: เป็นคำเชื่อมแสดงการสรุปเหตุการณ์ที่จะเกิดตามมา | เป็นอันตราย | (v) be bad, See also: be harmful, be hazardous, be dangerous, Syn. เป็นโทษ, Ant. เป็นคุณ, เป็นประโยชน์, Example: สิ่งเสพย์ติดทุกชนิดเป็นอันตรายต่อร่างกาย, Thai Definition: ทำให้ถึงแก่ความตายหรือพินาศ, ให้โทษถึงชีวิต | ไม่เป็นอันตราย | (v) be harmless, See also: be safe, Syn. ปลอดภัย, Ant. เป็นอันตราย, Example: เราขอเสนอวิธีควบคุมน้ำหนัก ดูแลสุขภาพ ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100 % ไม่เป็นอันตราย ประกันคุณภาพ, Thai Definition: ไม่มีอันตราย | เป็นชิ้นเป็นอัน | (adv) substantially, See also: tangibly, considerably, Syn. เป็นล่ำเป็นสัน, เป็นจริงเป็นจัง, เป็นเรื่องเป็นราว, Example: เขาไม่ได้เรียนจบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาเลย | เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | (adv) in unison, See also: be of one mind, unanimously, Syn. เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, Ant. แตกแยก, Example: ถ้าพวกเรารวมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ก็จะสามารถเอาชนะปัญหาทุกอย่างได้, Thai Definition: อย่างพร้อมเพรียงกัน, อย่างเป็นไปในทางเดียวกัน | เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | (v) be united, Syn. เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, Ant. แตกแยก, Example: ถ้าคนไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เชื่อว่าไม่นานสถานการณ์ก็คงจะดีขึ้น, Thai Definition: พร้อมเพรียงกัน, เป็นไปในทางเดียวกัน | ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว | (n) unity, See also: harmony, concord, uniformity, Syn. ความสามัคคี, ความกลมเกลียว, ความสามัคคีปรองดอง, Ant. ความแตกแยก, Example: ทีมวอลเลย์บอลของเราชนะเพราะเรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน |
| เป็นชิ้นเป็นอัน | ว. เป็นสาระ, เป็นเรื่องเป็นราว, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน. | เป็นอัน | ก. รวมความว่า, แสดงว่า, เช่น เป็นอันยุติ, เป็นอันว่า ก็ใช้ | เป็นอัน | ถ้าใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่เป็นอัน หมายความว่า ทำได้ไม่เต็มที่ เช่น ไม่เป็นอันกิน ไม่เป็นอันนอน. | เป็นอันขาด | ว. ใช้ในประโยคปฏิเสธ หมายความว่า แน่นอน, แน่แท้. | เป็นอันมาก | ว. มากหลาย, ถมไป. | เป็นอันว่า | ก. รวมความว่า, แสดงว่า, เช่น เป็นอันว่ายุติ, เป็นอัน ก็ใช้. | ไม่เป็นอัน | ว. ใช้นำหน้ากริยามีความหมายไปในลักษณะที่ไม่สะดวก เช่น ไม่เป็นอันกิน ไม่เป็นอันนอน. | กกุธภัณฑ์ | (กะกุดทะ-) น. สัญลักษณ์สำคัญแห่งความเป็นพระมหากษัตริย์ คือ ๑. พระมหาพิชัยมงกุฎ ๒. พระแสงขรรค์ชัยศรี ๓. ธารพระกรชัยพฤกษ์ ๔. วาลวีชนี (พัดกับแส้) ๕. ฉลองพระบาท รวมเรียกว่าเบญจราชกกุธภัณฑ์ ทั้งนี้ บางสมัยใช้เครื่องราชกกุธภัณฑ์แตกต่างกัน เช่น ใช้ฉัตรแทนพระมหาพิชัยมงกุฎ.(ป. กกุธ ว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฺฑ ว่า <br><center><img src="picture/26_bor_ben-ja-rach-kud-thun.jpg"></center><br> ของใช้; ระบุไว้ในอภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๓๕๘ ว่า พระขรรค์ ฉัตร อุณหิส ฉลองพระบาท วาลวีชนี คือ มีฉัตรแทนธารพระกร; ในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๒ มีทั้งฉัตรและธารพระกร พระแสงขรรค์ พระแสงดาบ วาลวีชนี พระมหาพิชัยมงกุฎ และฉลองพระบาท รวมเป็น ๗ สิ่ง.วาลวีชนี ที่ปรากฏวัตถุเป็นพัดกับแส้จามรีนั้น แต่ก่อนเป็นพัดใบตาลอย่างที่เรียกว่า พัชนีฝักมะขาม ต่อมาท่านเห็นควรเป็นแส้จามรีจะถูกกว่า เพราะศัพท์ว่าวาลวีชนี หมายความเป็นแส้ขนโคชนิดหนึ่ง จึงสร้างแส้จามรีขึ้น แต่ก็ไม่อาจเลิกพัดใบตาลของเก่า เป็นอันรวมไว้ทั้ง ๒ อย่างในเครื่องที่เรียกว่า วาลวีชนี). | กระแจะ ๓ | น. ชื่อรูปปลอกเหล็กสำหรับจับช้างดุ ทางปลายสัณฐานปากเปิดอย่างคีมคีบเบ้าทองเหลือง มีกำลังหดตัวให้ปลายจดเข้าหากันได้ ที่ริมปากมีงาแซงทำด้วยเหล็กปลายแหลมข้างละอัน ที่โคนปลอกมีที่สำหรับสวมคันไม้ไผ่ที่ทะลวงให้กลวง ร้อยเชือกซึ่งผูกจากปลอกลอดออกมาจากคันไม้ ใช้สำหรับพุ่งเข้าไปเกาะขาช้างข้างใดข้างหนึ่งไว้ เมื่อเกาะได้แล้ว โรยปลายไปผูกกับขอนไม้ไว้เพื่อช้างจะได้ลาก ช้างกำลังดุก็ลากไป งาแซงก็จะฝังลึกเข้าไปทุกทีจนไม่สามารถจะก้าวขาได้ ก็เป็นอันจับได้ | กระท่อนกระแท่น | ว. ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน, ไม่ครบถ้วน. | กระเบื้องถ้วยกะลาแตก | น. เศษภาชนะดินเผาที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย, โดยปริยายหมายถึงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ชำรุดหรือขาดชุดหมดราคา. | กลมเกลียว | (-เกฺลียว) ว. ที่เข้ากันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. | กล้านักมักบิ่น | ว. กล้าเกินไปมักจะเป็นอันตราย. | กินน้ำตาต่างข้าว | ก. ร้องไห้เศร้าโศกจนไม่เป็นอันกิน. | ขายทอดตลาด | น. การขายทรัพย์สินที่กระทำโดยเปิดเผยแก่บุคคลทั่วไปด้วยวิธีเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสู้ราคากัน ผู้ใดให้ราคาสูงสุดและผู้ทอดตลาดแสดงความตกลงด้วยเคาะไม้หรือด้วยกิริยาอย่างอื่นตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด การซื้อขายนั้นย่อมเป็นอันสมบูรณ์. | ขู่เข็ญ | แสดงกิริยาหรือวาจาให้ผู้อื่นต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้นั้น หรือของบุคคลที่สาม. | เขียว ๓ | น. ชื่องูสีเขียวหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ เช่น เขียวพระอินทร์ (<i> Chrysopelea ornata</i> Shaw) ในวงศ์ Colubridae ลำตัวเรียวยาว อาศัยตามต้นไม้และชายคาบ้านเรือน ออกหากินเวลากลางวัน มีพิษอ่อนมาก, เขียวหางไหม้ท้องเหลือง (<i> Trimeresurus albolabris</i> Gray) ในวงศ์ Viperidae ลำตัวอ้วนสั้น หางแดง ออกหากินเวลากลางคืน มีพิษอ่อนแต่เป็นอันตราย. | เขียวหางไหม้ | น. ชื่องูเขียวหลายชนิดในวงศ์ Viperidae ลำตัวอ้วนสั้น หัวโต คอเล็ก หลายชนิดปลายหางสีแดงหรือสีน้ำตาลซึ่งมีทั้งสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลไหม้ ทุกชนิดออกหากินเวลากลางคืน มักมีนิสัยดุ มีพิษอ่อนแต่เป็นอันตราย เช่น เขียวหางไหม้ท้องเขียว (<i> Trimeresurus</i> <i> popeorum</i> Smith) ปาล์ม (<i> T. wiroti</i> Trutnau). | คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย | น. คนเดียวทำอะไรก็อาจเป็นอันตรายได้ ถ้ามีเพื่อนร่วมคิดร่วมปรึกษาก็จะดีขึ้น. | ควบ ๑ | ก. เอารวมเข้าเป็นอันเดียวกันหรือเข้าคู่กัน เช่น ควบเชือก ควบด้าย สอบควบ กินยาควบกัน. | ควายเขาเกก | โดยปริยายหมายถึงคนที่เป็นอันธพาลเกะกะเกเร, วัวเขาเกก ก็ว่า. | เจือปน | ก. เอาส่วนน้อยประสมลงในส่วนมากเพื่อให้ระคนปนเป็นอันเดียวกัน. | เด็ด | ว. ทีเดียว, เป็นอันขาด, เช่น ดีเด็ด ไม่เอาเด็ด. | เดียวกัน | ว. รวมเป็นหนึ่ง ไม่แบ่งแยกกัน เช่น เป็นอันเดียวกัน, เหมือนกัน เช่น หัวอกเดียวกัน ใจเดียวกัน. | ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ | ก. ตกอยู่ในที่คับขันอย่างไรก็ไม่เป็นอันตราย เช่น คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้, เป็นคำเปรียบเทียบ หมายความว่า ตกอยู่ที่ใดก็ไม่สูญหาย เช่น ของหลวงตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้. | ตกเป็นพับ | ก. เป็นอันจบกันไป. | แตกแตน | ก. แตกกระจาย, แตกไม่เป็นชิ้นเป็นอัน. | นักสราช | ตำแหน่งนายขมังธนูอยู่หน้าเรือพระที่นั่ง เพื่อยิงผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นอันตรายต่อพระเจ้าแผ่นดิน ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค. | น้ำหนึ่งใจเดียวกัน | ว. มีความคิดเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. | เบี้ยหัวแตก, เบี้ยหัวแหลก | น. เงินที่ได้มาไม่เป็นกอบเป็นกำแล้วใช้จ่ายหมดไปโดยไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน. | ปน | ก. ประสมกัน เช่น ข้าวเจ้าปนข้าวเหนียว, แกมกัน เช่น พูดไทยปนฝรั่ง, รวมกัน เช่น อย่าเอาผ้านุ่งกับเสื้อซักปนกัน, ถ้าเอาส่วนน้อยประสมลงในส่วนมากเพื่อให้ระคนปนเป็นอันเดียวกัน เรียกว่า เจือปน, ถ้าเป็นในลักษณะที่ปนกันทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งดีและชั่ว เรียกว่า คละปน. | ประกอบ | ประสมหรือปรุงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ประกอบยา | ปลดหนี้ | ก. การที่เจ้าหนี้ยกหนี้ให้แก่ลูกหนี้ อันเป็นเหตุให้หนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไป. | เป็นกอบเป็นกำ | ว. เป็นผลดี, เป็นชิ้นเป็นอัน เช่น ทำให้เป็นกอบเป็นกำ, เป็นก้อนใหญ่ ทำประโยชน์ต่อไปได้ดี เช่น ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ. | เป็นจริงเป็นจัง | ว. เป็นหลักฐานมั่นคง, เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นลํ่าเป็นสัน. | เป็นต้น ๑ | ว. เริ่มแรก, เป็นอันดับแรก, เป็นส่วนเบื้องต้น, เช่น อริยสัจ ๔ มีทุกข์เป็นต้น. | เป็นเนื้อเป็นหนัง | ว. เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นกอบเป็นกำ. | เป็นล่ำเป็นสัน | ว. เป็นหลักฐานมั่นคง, เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นจริงเป็นจัง. | เปรียบเทียบ | น. การที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดค่าปรับผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่กฎหมายกำหนดให้เปรียบเทียบปรับได้ เมื่อผู้กระทำผิดยินยอมเสียค่าปรับแล้ว คดีอาญาเป็นอันเลิกกัน. | แปลงหนี้ใหม่ | น. การที่คู่กรณีได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ เช่น เปลี่ยนตัวลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ เปลี่ยนวัตถุแห่งหนี้ เมื่อแปลงหนี้ใหม่แล้วหนี้เดิมเป็นอันระงับ. | ผงะ | (ผะหฺงะ) ก. แสดงอาการชะงักงันและถอยไปข้างหลังเล็กน้อยเมื่อประสบเหตุการณ์ประจันหน้าที่เป็นอันตราย น่าขยะแขยง หรือน่ากลัวเป็นต้น โดยกะทันหันไม่ทันรู้ตัวหรือคาดหมายมาก่อน. | ฝาน | ก. ตัด เฉือน แฉลบให้เป็นแผ่นหรือเป็นชิ้นเป็นอัน เช่น ฝานกล้วย ฝานบวบ ฝานมะม่วง. | พร้อมใจ | ก. ร่วมใจ, มีน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, เช่น เขาพร้อมใจกันทำงาน. | พร้อมเพรียง | ว. ครบถ้วน, ร่วมใจกัน, เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, เช่น ช่วยกันทำงานอย่างพร้อมเพรียง. | พิษ, พิษ- | (พิดสะ-, พิด-) น. สิ่งที่ร้ายเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือให้ความเดือดร้อนแก่จิตใจ | พิษ, พิษ- | สิ่งที่ร้ายเป็นอันตราย เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ตาย เจ็บปวด หรือพิการได้ บางอย่างเกิดจากแร่ เช่นสารหนู, บางอย่างเกิดจากต้นไม้ เช่นต้นแสลงใจ, บางอย่างเกิดจากสัตว์ เช่นงู. | ฟาก ๑ | น. ลำไม้ไผ่เป็นต้นที่ผ่าแล้วสับให้แตกออกเป็นอันเล็ก ๆ แต่ไม่ขาดจากกัน แล้วแบคว่ำออกเป็นแผ่น โดยมากใช้ปูเป็นพื้นเรือน เรียกว่า ฟากสับ, ส่วนที่ทำเป็นซี่แล้วใช้หวายหรือเถาวัลย์ถักให้ติดกันเป็นผืน เรียกว่า ฟากซี่ หรือ ซี่ฟาก. | มรณภัย | (มะระนะไพ, มอระนะไพ) น. ความรู้สึกกลัวต่อความตาย, ภัยที่เป็นอันตรายถึงตาย. | ไม้กลัด | ไม้ไผ่เหลาเป็นอันเล็ก ๆ ปลายเรียวโคนใหญ่ ใช้ขัดมุ่นผมจุกเด็ก. | ร่วม | ก. มีส่วนรวมอยู่ด้วยกัน เช่น ร่วมกิน ร่วมนอน, มีส่วนรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ร่วมใจ ร่วมสามัคคี, มีส่วนรวมในที่แห่งเดียวกัน เช่น ร่วมโรงเรียน ร่วมบ้าน ร่วมห้อง ร่วมหอ, มีส่วนรวมในภาวะหรือสถานะเดียวกัน เช่น เพื่อนร่วมชาติ มีศัตรูร่วมกัน ทำบุญร่วมญาติ ร่วมเป็นร่วมตาย ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมชะตากรรม. |
| consolidation | การรวมเข้าเป็นอันเดียวกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | impracticable | ไม่สามารถจะทำได้, ไม่เป็นอันจะทำได้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | integration | บูรณาการ, การรวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| pollution | มลพิษ, มลภาวะ, มลพิษ - พิษเกิดจากความมัวหมองหรือความสกปรก <p>มลภาวะ - ความมัวหมอง หรือความสกปรก ไม่แสดงว่ามีพิษ เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดความเสียหาย น้ำตามลำคลองหรืออากาศโดยทั่ว ๆ ไปก็สกปรกแต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหาย [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Neutron bomb | ลูกระเบิดนิวตรอน, ลูกระเบิดไฮโดรเจนขนาดเล็ก ออกแบบเป็นพิเศษให้มีผลทำลายน้อยที่สุดจากแรงระเบิดและความร้อนในวงจำกัดรัศมีสองร้อยถึงสามร้อยเมตร แต่มีผลในวงกว้างทำให้สิ่งมีชีวิตถึงตายได้จากอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมมา ลูกระเบิดนิวตรอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายรถถังและกองทหารในสนามรบโดยไม่เป็นอันตรายต่อตัวเมืองและย่านชุมชนที่อยู่ห่างออกไป <br>(ดู H-bomb ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Irradiated food | อาหารฉายรังสี, อาหารที่ผ่านการฉายรังสีด้วยปริมาณรังสีที่เหมาะสม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดสารกัมมันตรังสี หรือมีรังสีตกค้างแต่ประการใด จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อาหารที่ผ่านการฉายรังสีเพื่อการพาณิชย์ภายในประเทศจะต้องมีฉลากแสดงข้อความ และเครื่องหมายว่าผ่านการฉายรังสีแล้ว พร้อมทั้งระบุวัตถุประสงค์ของการฉายรังสี ชื่อ ที่ตั้ง ของผู้ผลิต และผู้ฉายรังสี วัน เดือน ปี ที่ฉายรังสี, Example: [นิวเคลียร์] | integration | บูรณาการ, การรวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, บูรณาการ มี ๒ ความหมาย <p>ความหมายที่ ๑ คือ ทำให้เป็นเนื้อเดียวกันโดยรวมหรือผสมผสานส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น การสอนภาษาแบบบูรณาการ หมายถึง การรวมทักษะการพูด ฟัง อ่าน เขียน ไว้ในวิชาเดียวกัน, หลักสูตรแบบบูรณาการสำหรับภิกษุสามเณร เป็นหลักสูตรที่รวมหลักสูตรธรรมศึกษา บาลีศึกษา และสามัญศึกษา ให้เป็นหลักสูตรเดียว <p>ความหมายที่ ๒ หมายถึงเชื่อมหรือประสานกับสิ่งอื่นหรือหน่วยงานอื่น เช่น โรงเรียนหลายแห่งบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ที่มีรากฐานจากความเป็นไทยและนำไปสู่การ พัฒนาประเทศที่ยั่งยืน [การจัดการความรู้] | International Convention for the Unification of Certain Rules of Law Relating to Bills of Lading (1924) | อนุสัญญาว่าด้วยการทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันซึ่งกฎเกณฑ์บางประการที่เกี่ยวกับใบตราส่ง (ค.ศ. 1924) [TU Subject Heading] | Phytotoxins | พิษที่เป็นอันตรายต่อพืช [TU Subject Heading] | Hazardous Waste Management | การจัดการของเสียที่เป็นอันตราย, Example: กิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและการจัดการของเสียที่เป็นอันตราย ได้แก่ การลดปริมาณ (Minimization) การวิเคราะห์ (Analysis) การคัดแยก (Segregation) การเก็บรวบรวม (Storage) การเก็บขน (Collection) การขนส่ง (Transportation) การขนถ่าย (Transfer) การบำบัด (treatment) การกำจัด (Disposal) รวมทั้งการนำกลับมาใช้ประโยชน์ (Recycling) ตลอดจนกิจรรมอื่นที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาของเสียที่เป็นอันตราย [สิ่งแวดล้อม] | Hazardous Waste | ของเสียที่เป็นอันตราย, ของเสียเสี่ยงอันตราย, Example: สารหรือวัตถุใดที่ไม่ใช้หรือใช้ไม่ได้ ซึ่งถูกปล่อยจากชุมชน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรมและการบริการ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่มี ส่วนประกอบหรือที่เจือปนด้วยสารไวไฟ สารกัดกร่อน สารเกิดปฏิกิริยาได้ง่าย วัตถุระเบิด สารพิษ สารกัมมันตรังสี และ/หรือสิ่งที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตมนุษย์ สัตว์ พืช ทรัพย์อื่น และสิ่งแวดล้อม [สิ่งแวดล้อม] | Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy | ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต] | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] | North Atlanitc Treaty Organization | องค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] | Political Offenses | ความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม [การทูต] | Presentation of Credentials | หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต] | Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact) | สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต] | the motion is rejected (lost) | ญัตติเป็นอันตกไป [การทูต] | irradiated food | อาหารฉายรังสี, คือ อาหารที่ผ่านกระบวนการฉายรังสีด้วยปริมาณรังสีที่เหมาะสม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดสารกัมมันตรังสี หรือมีรังสีตกค้างแต่ประการใดจึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อาหารที่ผ่านการฉายรังสีเพื่อการพาณิชย์ภายในประเทศ จะต้องมีฉลากแสดงข้อความ และเครื่องหมายว่าผ่านการฉายรังสีแล้ว พร้อมทั้งระบุวัตถุประสงค์ของการฉายรังสี ชื่อ ที่ตั้งของผู้ผลิต ผู้ฉายรังสีและวันเดือนปีที่ฉายรังสี [พลังงาน] | Antioxidant | สารเคมีที่เติมลงไปในยางเพื่อจับอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยา ของออกซิเจนในอากาศกับยาง (ที่มีพันธะคู่) หรือทำให้ไฮโดรเพอร์ออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาแตกตัวต่อไปเป็นส่วนที่ ไม่เป็นอันตรายต่อการเสื่อมสภาพของยาง ทำให้ยางมีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น [เทคโนโลยียาง] | Consistence, Unitary and Internally | ลักษณะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน [การแพทย์] | Delinquent Act | การกระทำเป็นอันธพาล [การแพทย์] | Dose, Minimumtoxic | ปริมาณที่ต่ำที่สุดที่เป็นอันตรายต่อสัตว์แต่ละชนิด [การแพทย์] | Dose, Toxic | ปริมาณที่เป็นอันตราย [การแพทย์] | Environmental Hazards | สภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย, พิษภัยที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม [การแพทย์] | aflatoxin | อะฟลาทอกซิน, สารมีพิษจากราแอสเพอจิลลัสฟลาวัส มักพบตามเมล็ดข้าวโพด ถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง เป็นต้น คนที่บริโภคสารนี้ในปริมาณมากอาจเป็นโรคมะเร็งในตับ หรือเป็นอันตรายถึงตายได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | pentyl alcohol [ amyl alcohol ] | เพนทิลแอลกอฮอล์, แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง สูตรเคมีคือ CH3(CH2)3CH2OH ไม่มีสี เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า amyl alcohol [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | food additives | สารปรุงแต่งอาหาร, สารที่ใส่ในอาหารเพื่อการถนอมอาหารหรือทำให้อาหารน่ารับประทาน สารเหล่านี้บางชนิดไม่มีประโยชน์และอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สารปรุงแต่งที่นิยมใส่ เช่น ผงชูรส เกลือแกง น้ำส้มสายชู สารกันบูด สี และกลิ่นต่าง ๆ ที่ใช้ผสมอาหาร เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | three-pin plug | ปลั๊ก 3 ขา, ปลั๊กที่ประกอบด้วยสายไฟฟ้า 3 สาย โดย 2 สายแรกต่อกับสายไฟฟ้าที่จะนำกระแสเข้ามาสู่อุปกรณ์ไฟฟ้านั้น อีกสายหนึ่งที่เหลือต่อจากอุปกรณ์นั้นลงสู่ดิน เพื่อว่าเมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วจะได้ผ่านลงสู่ดิน โดยไม่ทำให้ผู้ที่กำลังใช้อุปกรณ์นั้นเป็นอันตราย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | noise pollution | มลพิษทางเสียง, เสียงรบกวนที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ถ้าระดับความเข้มของเสียงเกิน 80 เดซิเบล อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | sand bar | สันดอนทราย, พืดสันทรายใต้น้ำบริเวณปากแม่น้ำ เกิดจากกระแสน้ำพัดพาดินทรายมาตกทับถมรวมกันเกิดเป็นพืดยาว เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | cancer | มะเร็ง, กลุ่มเซลล์หรือเนี้อเยื่อในร่างกายซึ่งแบ่งตัวเจริญเติบโตอย่างผิดปกติโดยไม่มีการควบคุมกลายเป็นเนื้อร้ายซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | toxin | ทอกซิน, สารที่สร้างขึ้นโดยเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะเป็นอันตรายหรือเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตอื่น เช่น ทอกซินของเชื้อบาดทะยัก ทอกซินของเห็ดพิษ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | pollution | มลพิษ, สภาพหรือสารที่ก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งแวดล้อม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Goods, Dangerous | สินค้าที่เป็นอันตราย [การแพทย์] | Integration | การปฏิบัติร่วมกัน, การผสมผสาน, การรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, ผสมผสานข้อมูล, บูรณการ, ผสมผสาน, บูรณาการ, การรวม [การแพทย์] | Kernicterus | อาการตัวเหลืองจัด; ตัวเหลืองและเป็นอันตรายต่อสมอง; ตัวเหลืองในทารกแรกเกิด; ย้อมเนื้อสมอง; เคอร์นิกเตอรัส, โรค; เคอร์นิกเตอรัส [การแพทย์] | Lethal Effects | เป็นอันตรายต่อชีวิต [การแพทย์] |
| Hey, if I were as rich as you, I could afford some manners | เฮ้ ถ้าข้าร่ำรวยเหมือนท่านล่ะก็ ข้าจะไม่แสดงมารยาทแบบนี้เป็นอันขาด Aladdin (1992) | Now you will never again see the light of day! | ตอนนี้ เจ้าจะไม่ได้เห็นแสงของวันใหม่อีกเป็นอันขาด! Aladdin (1992) | The Crown wants to know if I'm a danger to myself or others. | ฏีกาต้องการจะรู้ว่า ฉันเป็นอันตรายต่อตัวเองหรือคนอื่นรึเปล่า Basic Instinct (1992) | Then she is a danger to herself. | ถ้าอย่างนั้น เธอก็เป็นอันตรายต่อตัวเธอเอง Basic Instinct (1992) | It could be dangerous with the baby due. | มันอาจเป็นอันตรายได้ กับเด็กที่กำลังจะเกิด Wuthering Heights (1992) | The potentials for human advancement are endless! | การพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เป็นอันจบสิ้นกันแล้ว! The Lawnmower Man (1992) | Even with all these new abilities, there are dangers. | แม้ความสามารถพวกนี้อาจเป็นอันตราย The Lawnmower Man (1992) | I think you're hallucinating. Nobody's gonna harm your father. | ฉันคิดว่าคุณ hallucinating Nobody 's gonna พ่อของคุณเป็นอันตรายต่อ In the Name of the Father (1993) | He's not gonna harm your father. | เขาไม่เป็นอันตรายต่อคุณพ่อของคุณไง In the Name of the Father (1993) | What harm could it do? | สิ่งที่เป็นอันตรายต่อมันจะทำอย่างไร In the Name of the Father (1993) | I'm just sayin' it's fuckin' dangerous to have a race car in the fuckin' red. | ฉันแค่ sayin 'ก็ไอ้ที่เป็นอันตรายที่จะมีรถแข่งใน fuckin' สีแดง Pulp Fiction (1994) | I'm no longer a danger to society. | ฉันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคม The Shawshank Redemption (1994) | But I suppose if it makes her happy... it is harmless enough. | แต่ผมว่ามันคงทำให้ท่านมีความสุข มันไม่เป็นอันตรายนี่ Don Juan DeMarco (1994) | The newest, and presumably posthumous, work... of Sutter Cane continues to sit at number one... on the best-seller list. | ผลงานล่าสุดหลังการเสียชีวิตอย่างฉับพลัน ของซัทเตอร์ เคนยังขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง ของตารางหนังสือขายดี In the Mouth of Madness (1994) | A harmless old peddler woman! | หญิงเร่ขายที่ไม่เป็นอันตราย เก่า! Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | Well, now that's settled. You may pour me out some coffee. | งั้นเป็นอันว่าตกลงล่ะนะ คุณช่วยรินกาแฟให้ผมหน่อยสิ Rebecca (1940) | - Don't go there again, do you hear? | - อย่าได้เข้าไปในนั้นอีกเป็นอันขาด - ทําไมล่ะคะ Rebecca (1940) | You heard what we did. The kid's a dangerous killer. | คุณได้ยินสิ่งที่เราทำ เด็กเป็นนักฆ่าที่เป็นอันตราย 12 Angry Men (1957) | How pleased I was when I heard that I was going to lead you on this dangerous and important task. | วิธียินดีที่ฉันเป็น เมื่อฉันได้ยินมาว่าฉันจะนำคุณ ในงานที่เป็นอันตรายและที่ สำคัญนี้ How I Won the War (1967) | They wouldn't be friendly long if I was involved in drugs instead of gambling, which they regard as a harmless vice, but drugs is a dirty business. | พวกเขาจะไม่เป็นมิตรนานถ้าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแทนการเล่นการพนัน ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นรองไม่เป็นอันตราย แต่ยาเสพติดเป็นธุรกิจที่สกปรก The Godfather (1972) | But your business is...a little dangerous. | แต่ธุรกิจของคุณเป็นอันตรายน้อย ... The Godfather (1972) | It's still dangerous... | ก็ยังคงเป็นอันตราย ... The Godfather (1972) | They can change the course of events and people's lives, but only to do harm. | สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์และ ชีวิตผู้คน, ในทางที่เป็นอันตรายเท่านั้น. Suspiria (1977) | - Considered extremely dangerous. | เอลวุด บลูส พิจารณาอย่างสุดขีดซึ่งเป็นอันตราย กระเพนเฟืวเรอ The Blues Brothers (1980) | You've got yourself a deal. | งั้นเป็นอันตกลง The Road Warrior (1981) | Isn't that supposed to be dangerous? | ไม่ควรที่จะเป็นอันตรายไหม First Blood (1982) | Blair, have you seen Fuchs ? | ฉันไม่อยากทำตัวเป็นอันตรายกับทุกคน มันจะได้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน The Thing (1982) | Quan Zhen Sect's martial arts is the leader of all martial arts in the world. | วิชาของสำนักช้วนจิน ก็เป็นอันดับหนึ่ง Return of the Condor Heroes (1983) | I'm laughing that Great-grand Teacher Wang Chong Yang was Number One in martial arts. | ข้าขำที่ว่าท่านปรมาจารย์เฮ้งเต็งเอี๊ยงเป็นอันดับหนึ่งในด้านวรยุทธ. Return of the Condor Heroes (1983) | Great-grand Teacher spent so much effort to become the world's Number One in martial arts. | ท่านปรมาจารย์ทุ่มเทความพยายามเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า. Return of the Condor Heroes (1983) | He can't handle any more stress right now. | ซึ่งเป็นอันตรายกับพวกเรา เขารับความกดดันไม่ไหวแล้ว Day of the Dead (1985) | I'll wind up his thinking first. | ให้เขาคิดได้เป็นอันดับแรก Return to Oz (1985) | I am not going to put shoe polish on my face, thank you. | ฉันไม่เอายาขัดรองเท้า ไม่ว่ายี่ห้อไหน ๆ ทาหน้าเป็นอันขาด ขอบใจ. Mannequin (1987) | Military men always consider the risks first. | การทหารพิจารณาถึงเรื่องอันตรายมาก่อนเป็นอันดับแรก Akira (1988) | Freedom of thepress is now in jeopardy! | อิสรภาพแห่งการถูกกดดัน ตอนนี้เป็นอันตราย! Akira (1988) | The bodies are weak and uncoordinated but are capable of inflicting damage on people and property. | 'ศพพวกนี้อ่อนแอ และเคลื่อนไหวสับสน' 'แต่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนได้' Night of the Living Dead (1990) | This is dangerous for you. You must believe in what you are doing. | นี้เป็นอันตรายสำหรับคุณ คุณต้องเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังทำ The Russia House (1990) | And if the enemy turns out to be a friend, where's the harm? | และถ้าศัตรูจะออกมาเป็นเพื่อนที่เป็นอันตรายหรือไม่ The Russia House (1990) | - You is a danger to society. | - นายเป็นอันตรายต่อสังคมนี้. The Young Indiana Jones Chronicles (1992) | - I see. Lieutenant, I want this room sealed off. Second containment from here on in is off-limits. | หมวด สั่งปิดห้องนี้ ห้ามใครเข้าเป็นอันขาด Event Horizon (1997) | They won't harm you. They're a sign the woods are healthy. | พวกเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อคุณ พวกเขาเป็นสัญญาณป่ามีสุขภาพดี Princess Mononoke (1997) | You helped us. We don't want to harm you. | คุณช่วยให้เรา เราไม่ได้ตรวจต้องการที่จะเป็นอันตรายต่อคุณ Princess Mononoke (1997) | Don't you do anything! | ห้ามทำอะไรเป็นอันขาด As Good as It Gets (1997) | When we reach India, we will head for the Himalayas... and the ninth highest peak on Earth, Nanga Parbat. | พอถึงอินเดีย ก็จะตรงไป ที่เทือกเขาหิมาลัย และต่อไปที่ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก นังการ์ปาบัต Seven Years in Tibet (1997) | You will never behave like that again, Rose, do you understand? | ห้ามทำตัวแบบนั้นอีกเป็นอันขาด Titanic (1997) | Do not let go of my hand. | อย่าปล่อยมือผมเป็นอันขาด Titanic (1997) | And never let go of that promise. | ห้ามผิดคำพูดเป็นอันขาดด้วย Titanic (1997) | I wondered if it was like one I ran into. | ฉันสงสัยว่ามันจะเป็นอันเดียวกับ ที่ฉันเคยพบโดยบังเอิญ Pi (1998) | - I'll never be with anyone. | และจะไม่กลับไปคบอีกเป็นอันขาด Show Me Love (1998) | It was the one we had used... | เราจำได้ว่าเป็นอันเดียวกันกับที่เราเคยใช้ไปแล้ว ... The Story of Us (1999) |
| ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | [khwām pen an neung an dīokan] (xp) EN: unity ; solidarity | ไม่เป็นอันตราย | [mai pen antarāi] (adj) EN: harmless FR: sans danger | เป็นอันดี | [pen-andī] (x) EN: very well ; duly ; without any hitch FR: comme prévu ; sans surprise | เป็นอันขาด | [pen-ankhāt] (adv) EN: absolutely ; definitely ; surely ; certainly ; under any circumstances FR: absolument ; certainement ; sans faute | เป็นอันมาก | [pen-anmāk] (adv) EN: greatly ; considerably ; enormously ; hugely ; vastly ; tremendously FR: extrêmement ; grandement ; énormément ; considérablement | เป็นชิ้นเป็นอัน | [pen chin pen an] (adv) EN: substantially ; tangibly ; considerably |
| snail mail | (n, jargon) จดหมายที่ถูกส่งทางไปรษณีย์ปกติ (เพื่อไม่ให้สับสนกับ E-mail ถ้าใช้คำว่า mail เฉยๆ ในยุคนี้อาจไม่ชัดเจนว่าเป็นอันไหน) snail แปลตามตัวคือหอยทาก ซึ่งเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เป็นการบ่งชี้กลายๆ ว่า ไม่เร็วเหมือน E-mail | tributyltin | (n, name) สารประกอบเคมีชนิดหนึ่งที่ใช้ผสมในสีทาใต้ท้องเรือกันเพรียงเรือและสาหร่ายต่างๆมาเกาะ แต่สารนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม |
| abusive | (adj) ซึ่งเป็นอันตราย | adverse | (adj) ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. harmful | another | (adj) ที่ไม่ใช่อันเดียวกัน, See also: ที่เป็นอันอื่น, Syn. some other, distinct | bad | (adj) เลว, See also: ชั่ว, เลวทราม, ชั่วช้า, แย่, ไม่ดี, เลวร้าย, เป็นอันตราย, Syn. wicked, immoral, Ant. moral | be down for | (phrv) เข้ามาเป็นอันดับที่ (การแข่งขัน), See also: มีชื่อเข้ามา, ติดอันดับ, Syn. enter for | boil up | (phrv) เป็นอันตรายยิ่งขึ้น (คำไม่เป็นทางการ) | childproof | (adj) ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก | circumstantial | (adj) ที่ไม่ได้สำคัญเป็นอันดับแรก, Syn. incidental, secondary | combine | (vi) รวมกัน, See also: รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, Syn. unite, coalesce, blend, mix, join, couple, consolidate, fuse, merge, concentrate, incorporate, organise, organize, Ant. separate, divide | Curiosity killed the cat | (idm) การสอดรู้สอดเห็นเป็นอันตราย | disagree with | (phrv) เป็นอันตรายต่อสุขภาพของ | eat into | (phrv) ทำร้าย, See also: เป็นอันตรายกับ, มีผลร้ายกับ | damageable | (adj) ซึ่งทำให้เสียหาย, See also: เกี่ยวกับผลร้าย, ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. hurtable, harmful, injurious | damaging | (adj) ซึ่งทำให้เสียหาย, See also: เกี่ยวกับผลร้าย, ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. hurtable, harmful, injurious | dangerous | (adj) ซึ่งเป็นอันตราย, See also: ไม่ปลอดภัย, เป็นภัย, อยู่ในระหว่างอันตราย, Syn. perilous, unsafe, hazardous | dangerously | (adv) อย่างเป็นอันตราย, See also: อย่างไม่ปลอดภัย, อย่างเป็นภัย, Syn. perilously;hazardously | deadly | (adj) เป็นอันตรายถึงตายได้, See also: เหมือนตาย, Syn. destrucitve, mortal | deleterious | (adj) เป็นอันตราย (คำทางการ), See also: เป็นภัย, เป็นผลร้าย, Syn. corrosive, wasting, Ant. beneficial, useful | disservice | (n) การกระทำที่เป็นอันตราย, See also: การเสียประโยชน์, Syn. injury, harm | effluvium | (n) กลิ่นเหม็น, See also: ไอระเหยที่เป็นอันตราย, Syn. emanation, exhalation | endanger | (vt) ทำให้อยู่ในอันตราย, See also: ทำให้เป็นอันตราย, Syn. hazard, imperil, jeopardize, Ant. preserve;protect | enemy | (n) สิ่งที่เป็นภัย, See also: สิ่งที่เป็นอันตราย | evil | (n) สิ่งที่ชั่วร้าย, See also: สิ่งไม่ดี, สิ่งที่เป็นอันตราย, Syn. wickedness | first | (n) คนหรือของที่เป็นอันดับที่หนึ่ง, Ant. last | firstling | (n) สิ่งที่มาเป็นอันดับแรก, See also: สิ่งที่มาก่อนสิ่งอื่น | following | (adj) ถัดไป, See also: ต่อมา, ที่ตามมาทีหลัง, ถัดมา, เป็นอันดับต่อมา, Syn. next, later, subsequent | go a long way towards | (idm) ช่วยเหลือในการทำบางสิ่งเป็นอันมาก, Syn. go far | go far towards | (idm) ช่วยเหลือในการทำบางสิ่งเป็นอันมาก, Syn. go far | grass snake | (n) งูเล็กที่ไม่เป็นอันตราย | harmful | (adj) ซึ่งให้โทษ, See also: ซึ่งเป็นโทษ, อันตราย, ซึ่งเป็นอันตราย, ซึ่งมุ่งร้าย, Syn. damaging, hurtful, injurious, Ant. beneficial, healthful, useful | harmfully | (adv) อย่างเป็นอันตราย, See also: อย่างเป็นภัย, อย่างให้โทษ, Syn. damagingly, hurtfully, injuriously, Ant. beneficially, healthfully, usefully | harmless | (adj) ซึ่งไม่เป็นอันตราย, See also: ปลอดภัย | harmless | (adj) ไม่มีภัย, See also: ไม่เป็นอันตราย, ไม่เป็นพิษเป็นภัย, Syn. benign, innocent, Ant. dangerous, harmful, injurious | harmlessness | (n) ความไม่เป็นอันตราย, See also: ความไม่เป็นพิษเป็นภัย, Syn. innocence, innocuousness, Ant. damage, danger, harmfulness | harmonious | (adj) ซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, See also: ซึ่งกลมเกลียวกัน, Syn. concordant, compatible, congruous, Ant. discordant, incompatible, unharmonious | harmoniously | (adv) อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, See also: อย่างกลมเกลียวกัน, Syn. concordantly, compatible, congruousconcordant, compatibly, congruously, Ant. discordantly, incompatibly, unharmoniously | hazard | (n) สิ่งที่เป็นอันตราย, Syn. danger, peril, risk, Ant. safeguard, safety | hazardous | (adj) ซึ่งเป็นอันตราย, See also: ที่เป็นอันตราย, Syn. dangerous, perilous, risky, Ant. safe, secure, unhazardous | hazardously | (adv) อย่างเป็นอันตราย, Syn. dangerously, perilously, riskily, Ant. safely, securely, unhazardously | hoist with one's own petard | (idm) โดนกรรมสนอง, See also: เป็นอันตรายจากการกระทำของตนเองที่มุ่งหวังทำลายผู้อื่น | out on a limb | (idm) เสี่ยง, See also: เป็นอันตราย | ill | (n) สิ่งที่เป็นอันตราย, See also: ความยุ่งยาก, ปัญหา | illy | (adj) เป็นอันตราย, See also: เป็นปัญหา | imperil | (vt) ทำให้ตกอยู่ในอันตราย, See also: ทำให้เป็นอันตราย, Syn. endanger, hazard, jeopardize | injurious | (adj) ซึ่งเป็นอันตราย, See also: อย่างร้ายกาจ, Syn. damaging, detrimental, harmful | keep someone out of harm's way | (idm) อยู่ในที่ปลอดภัย, See also: ทำสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย, Syn. be out of | jeopardize | (vt) ทำให้เป็นอันตราย, See also: ทำให้เสี่ยงต่อ, Syn. risk, imperil, endanger, Ant. protect, shield, safeguard | lot | (adv) มาก (จำนวน, ปริมาณ, ระดับ), See also: เป็นอันมาก, Syn. a great amount | malarious | (adj) ซึ่งเป็นพิษ, See also: ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. harmful, fetid, unwholesome, noxious | maleficent | (adj) ชั่วร้าย, See also: เป็นอันตราย, ซึ่งกระทำชั่ว, Syn. harmful, hurtful, malefic, Ant. beneficent |
| black | (แบลค) { blacked, blacking, blacks } adj. ด่า, สีดำ, สวมเสื้อสีดำ, เกี่ยวกับนิโกร, เปื้อน, ผิวดำ, มุ่งร้าย, เป็นอันตราย, แห้งแล้ง, มลทิน, ด่างพร้อย, มืดมน, นิโกร, อารมณ์เสีย, ไม่ใส่ครีม (กาแฟ) n. คนผิวดำ, จุดดำ, เครื่องดำ, เครื่องไว้ทุกข์, ตาฟกช้ำ, สารสีดำ, ม้าดำ, เสื้อสีดำ vt. ท | bully | (บูล'ลี) { bullied, bullying, bullies } n. คนพาล, แมงดา, คนลวง, เนื้อวัวกระป๋อง vt. ขู่, ขู่เข็ญ, คุกคาม, ทำให้กลัว vt. เป็นอันธพาล, รังแก. adj. ดีมาก, ดีเลิศ, ร่าเริง. interj. ดี, ทำได้ดี, เอาเลย | compromise | (คอม'พระไมซ) n. การประนีประนอม, การยอมรับ, การตกลงกันได้, สิ่งที่เป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆ vt. ประนีประนอม, ยอม, เป็นอันตราย, เป็นภัยต่อ, พัวพัน. vi. ประนีประนอม, อ่อนข้อให้อย่างเสียเกียรติ, See also: compromiser n. ดูcompromise, Syn. arra | damaging | (แดม'มิจจิง) adj. ซึ่งทำให้เสียหาย, ซึ่งเป็นภัยกับ, เป็นอันตราย | deadly | (เดด'ลี) adj. เป็นอันตรายถึงตายได้, เหมือนตาย, เดินพอ, แม่นยำที่สุด, น่าเบื่อที่สุด -adv. คล้ายตาย, เหลือเกิน, อย่างยิ่ง, See also: deadliness n. ดูdeadly, Syn. mortal, fatal, -A.safe | deleterious | (เดลลิเทีย'เรียส) adj. ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ, เป็นอันตราย, เป็นภัย., See also: deleteriousness n. ดูdeleterious | destructive | (ดิสทรัค'ทิฟว) adj. ซึ่งเป็นการทำลาย, ชอบทำลาย, เป็นอันตราย, เป็นภัย, Syn. ruinous | detrimental | (ดีทระเมน'เทิล) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย n. ผู้ที่เป็นอันตราย, Syn. hurtful | electronic mail | ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ใช้ตัวย่อว่า e-mail หมายถึงการสื่อสารหรือการส่งข้อความ โน้ต หรือบันทึกออกจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ผ่านไปเข้าเครื่องปลายทาง (terminal) หรือเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยส่งผ่านทางระบบเครือข่าย (network) ผู้ส่งจะต้องมีเลขที่อยู่ (e-mail address) ของผู้รับ และผู้รับก็สามารถเปิดคอมพิวเตอร์เรียกข่าวสารนั้นออกมาดูเมื่อใดก็ได้ โดยปกติ จะไม่มีการพิมพ์ข้อความหรือข่าวสารนั้นลงแผ่นกระดาษ นับว่าเป็นการประหยัดกระดาษไปได้ส่วนหนึ่ง โดยทั่วไป ถือกันว่าเป็นงานส่วนหนึ่งของสำนักงานอัตโนมัติ (office automation) ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอันมาก | evil | (อี'เวิล) adj., n. (สิ่งที่, ความ) ชั่ว, ไม่ดี, ร้าย, เลว, โชคร้าย, ไม่เป็นมงคล, บาป, อกุศล, เป็นภัย, เป็นอันตราย, เกี่ยวกับอารมณ์ร้าย, -Phr. (the evil one ซาตาน, ปีศาจ), See also: evilness n. ดูevil, Syn. wicked | fatal | (เฟ'เทิล) adj. ซึ่งทำให้ตายได้, ถึงตาย, ร้ายกาจ, เป็นอันตราย, เคราะห์ร้าย, สำคัญมาก, เป็นเรื่องโชคชะตา, See also: fatalness n., Syn. deadly, lethal | first | (เฟิร์สทฺ) adj. แรก, ที่หนึ่ง, adv. ก่อน, เป็นครั้งแรก, เป็นอันดับแรก, ข้อที่ 1, สมัครใจ. | harmful | adj. เป็นอันตราย., See also: harmfulness n., Syn. hurtful, injurious, Ant. beneficial | harmless | adj. ไม่มีภัย, ไม่เป็นอันตราย, ไม่ได้รับบาดเจ็บ., See also: harmlessness n., Syn. innoxious | hazard | (แฮซ'เซิร์ด) n. อันตราย, การเสี่ยง, สิ่งที่เป็นอันตราย, สิ่งที่ทำให้เกิดความลำบาก, ความไม่แน่นอน, เหตุบังเอิญ, อุบัติเหตุ, สิ่งกีดขวางในสนามกอล์ฟ vt. ทำให้เสี่ยง, เสี่ยง, ทำให้ประสบอันตราย, Syn. risk, danger, peril | hurtful | (เฮิร์ท'ฟูล) adj. ซึ่งทำให้ได้รับบาดแผล, เป็นอันตราย, ซึ่งทำให้เสียหาย., See also: hurtfully adv. hurtfulness n., Syn. injurious, harmful | imperil | (อิมเพอ' ริล) vt. เป็นอันตรายต่อ, ทำให้เกิดอันตราย, เป็นภัยต่อ., See also: imperilment n. | inimical | (อินิม'มิเคิล) adj. ไม่เป็นมิตร, เป็นปฏิปักษ์, มีเจตนาร้าย, เป็นอันตราย., See also: inimically adv. inimicalness. inimicality n., Syn. inimicable, hostile, Ant. friendly | integrity | (อินเทก'กริที) n. การยึดถือหลักคุณธรรม, ความซื่อสัตย์, ความสมบูรณ์, ความมั่นคง, ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, Syn. honesty, wholeness | jeopardise | (เจพ'เพอไดซ) vt. เป็นอันตรายต่อ, เป็นภัยต่อ, ทำร่าย, ทำอันตราย., Syn. endanger | jeopardize | (เจพ'เพอไดซ) vt. เป็นอันตรายต่อ, เป็นภัยต่อ, ทำร่าย, ทำอันตราย., Syn. endanger | lethal | (ลี'เธิล) adj. เกี่ยวกับความตาย, ทำให้ตาย, เป็นอันตรายถึงตาย, ถึงตาย, ร้ายแรง., See also: lethality n. ดูlethal, Syn. fatal | malaria | (มะแล'เรีย) n. มาลาเรีย, ไข้จับสั่น, ไข้มาลาเรีย, ไข้ป่า, อากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ., See also: malarial, malarian, malarious adj. | malevolent | (มะเลฟ'ะเลินทฺ) adj. มุ่งร้าย, เป็นอันตราย, ชั่ว, เลว, เป็นภัย, See also: malevolently adv., Syn. hostile | menace | (เมน'นิสฺ) n. สิ่งที่คุกคาม, การคุกคาม, อันตราย, ภยันตราย. v. คุกคาม, ขู่, เป็นภัย, เป็นอันตราย., See also: menacer n. menacingly adv. | mischievous | (มิส'ชะเวิส) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย, ซุกซน., See also: mischievousness n., Syn. troublesome | monadelphous | (มอนนะเดล'ฟัส) adj. (เกสรตัวผู้) ซึ่งรวมเข้าเป็นอันเดียว | nocuous | (นอค'คิวอัส) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย, See also: nocuousness n. | noisome | (นอย'เซิม) adj. รุกราน, น่ารังเกียจ, เป็นภัย, เป็นอันตราย, เป็นพิษ., See also: noisomeness n., Syn. noxious, bad | noxious | (นอค'เชิส) adj. เป็นอันตราย, เป็นพิษเป็นภัย, Syn. baneful | pernicious | (เพอนิซ'เชิส) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย, ถึงตาย, ร้ายแรง, ร้ายกาจ, See also: perniciousness n. | piecemeal | (พีสฺ'มีล) adv., adj. เป็นชิ้น ๆ , เป็นเศษ ๆ , เป็นอัน ๆ, Syn. piece by piece | primacy | (ไพร'มะซี) n. ความเป็นอันดับหนึ่ง, ฐานะสูงสุดหรือสำคัญที่สุด, อำนาจหน้าที่ของbishop, Syn. supremacy | primary key | กุญแจหลักในการสั่งให้เรียง (sort) ข้อความหรือตัวเลข จะต้องมีการกำหนดว่าจะเรียงตามอะไร เช่น ตามตัวอักษร ตามความมากน้อย ตามอายุ ฯ ตัวกำหนดนี้เรียกว่า กุญแจ (key) ตัวกำหนดที่สำคัญเป็นอันดับแรก เรียกว่า " กุญแจหลัก" ส่วนตัวสำคัญรองลงมา ก็เรียกว่า "กุญแจรอง" เช่นกำหนดให้เรียงตามตัวอักษร และอายุ ตัวอักษรจะเป็นกุญแจหลัก คือให้เรียงตามตัวอักษรก่อน เมื่อตัวอักษรซ้ำกัน จึงเรียงตามอายุ อายุก็เป็นกุญแจรอง ดู secondary key ประกอบ | rascality | (แรสแคล'ลิที) n.ความพาล, นิสัยพาล, การกระทำที่เป็นอันธพาลหรือสารเลว | scalable font | แบบอักษรที่กำหนดขนาดได้หมายถึง แบบตัวอักษรที่จะสามารถลดหรือขยายขนาดให้เป็นเท่าใดก็ได้ (กำหนดเป็นจุดหรือ point) และไม่ว่าจะกำหนดขนาดเท่าใด ก็จะดูสวยเหมือนกันหมด (ถ้าเป็นแบบอักษรบิตแมป คอมพิวเตอร์จะต้องเก็บตัวอักษรไว้ทุกขนาด ซึ่งจะเปลืองเนื้อที่เก็บเป็นอันมาก | secondary key | กุญแจรองในการสั่งค้นหาหรือเรียงลำดับข้อมูล จะต้องมีการกำหนดว่าจะใช้ตัวอักษรใด ข้อความใดเป็นตัวกำหนด ที่เรียกว่า " กุญแจ " (key) ตัวที่สำคัญเป็นอันดับแรก เรียกว่า "กุญแจหลัก" (primary key) ส่วนตัวสำคัญรองลงมา ก็เรียกว่า " กุญแจรอง " (secondary key) เช่น กำหนดให้อายุ 20 ปี เป็นกุญแจหลัก และเป็นชาย เป็นกุญแจรอง ดังนี้ก็หมายความว่า ต้องการหาชายที่มี 20 ปี เป็นต้น ดู primary key เปรียบเทียบ | side effect | n. ผลข้างเคียงของยา (โดยเฉพาะผลที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย), Syn. side-effect | singleness | (ซิง'เกิลนิส) n. ความเป็นเอกเทศ, การเป็นอันหนึ่งอันเดียว, ความโดดเดี่ยว, ความเจาะจง | suicidal | (ซูอิไซ'เดิล) adj. เป็นการฆ่าตัวตาย, เป็นอันตรายต่อชีวิต, ทำให้ฆ่าตัวตาย, เป็นการฆ่าตัวเอง., See also: suicidally adv. | ugly | (อัก'ลี) adj. น่าเกลียด, อัปลักษณ์, ไม่น่าดู, ไม่เป็นที่ถูกใจ, ผิดศีลธรรม, ร้ายกาจ, เป็นอันตราย, ไม่เป็นมงคล. adj. มีอารมณ์เดือดดาล, ฉุนเฉียว., See also: uglily adv. ugliness n., Syn. unsightly, shocking | unharmed | (อัน'ฮาร์มดฺ) adj. ไม่ได้รับบาดเจ็บ, ไม่เป็นอันตราย, Syn. safe | unitize | (ยู'นิไทซ) vt. ทำให้รวมกัน, ทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, | unsanitary | (อันแซน'นิทะรี) adj. ไม่ถูกสุขอนามัย, เป็นอันตรายต่อสุขภาพ, Syn. unclean | unwholesome | (อันโฮล'เซิม) adj. มีสุขภาพไม่ดี, เป็นอันตรายต่อกายหรือจิตใจ, เสื่อมเสียศีลธรรม., See also: unwholesomeness n. -S.unhealthy |
| dangerous | (adj) มีอันตราย, ไม่ปลอดภัย, เป็นภัย, เป็นอันตราย, น่ากลัว | deleterious | (adj) เป็นอันตราย, เป็นภัย | destructive | (adj) ชอบทำลาย, ชอบล้างผลาญ, เป็นภัย, เป็นอันตราย | detrimental | (adj) เป็นอันตราย, ได้รับบาดเจ็บ, เป็นภัย | endanger | (vt) ทำให้เป็นภัย, ทำให้เป็นอันตราย | fatal | (adj) เกี่ยวกับเคราะห์กรรม, ร้ายแรง, ถึงตาย, เป็นอันตราย, ร้ายกาจ | fatally | (adv) อย่างเป็นอันตรายถึงชีวิต, ตามโชคชะตา, ตามพรหมลิขิต | first | (adv) เป็นครั้งแรก, ที่หนึ่ง, ก่อน, เป็นอันดับแรก, แรกเริ่ม | fragmentary | (adj) ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน, ไม่ครบถ้วน, กระท่อนกระแท่น, ขาดวิ่น, เป็นเสี่ยงๆ | harmful | (adj) เป็นอันตราย, เป็นภัย, ร้ายกาจ | hurt | (vi) บาดเจ็บ, เสียหาย, เป็นอันตราย, ทำอันตราย | hurtful | (adj) ซึ่งทำให้บาดเจ็บ, ซึ่งเป็นอันตราย | imperil | (vt) ทำให้อยู่ในอันตราย, เป็นอันตรายต่อ, เป็นภัยต่อ | injurious | (adj) เป็นอันตราย, บาดเจ็บ, ร้าวราน, เสียหาย | intact | (adj) ไม่ถูกแตะต้อง, ไม่บุบสลาย, ไม่เป็นอันตราย, ครบถ้วน | integrate | (vt) รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียว, เป็นตัว, รวบรวม | jeopardize | (vt) เสี่ยงอันตราย, เสี่ยงภัย, เป็นอันตรายต่อ | menace | (vt) ขู่, เป็นอันตราย, คุกคาม | mischievous | (adj) แกล้ง, เป็นอันตราย, ซน, ประสงค์ร้าย | never | (adv) ไม่เคย, ไม่เลย, ไม่แน่นอน, ไม่เป็นอันขาด | noisome | (adj) น่ารังเกียจ, เหม็น, เป็นอันตราย, เป็นพิษ | noxious | (adj) มีพิษ, เป็นอันตราย, เป็นภัย | oneness | (n) เอกภาพ, ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว | pernicious | (adj) ร้ายแรง, เป็นอันตราย, เสียหาย, ถึงตาย | poisonous | (adj) เป็นพิษ, เป็นอันตราย, ร้ายแรง | primacy | (n) ความแรกเริ่ม, ความเป็นอันดับหนึ่ง | serial | (adj) เป็นตอน, เป็นอันดับ, ต่อเนื่องกัน, ติดต่อกัน | unification | (n) ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | unify | (vt) รวมกัน, ทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว | unity | (n) ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว, ความสามัคคีกัน, เอกภาพ | unsafe | (adj) ไม่ปลอดภัย, เป็นอันตราย |
| atomicity | (n) ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | Cyst aspiration | เป็นขั้นตอนที่ใช้ในการระบายน้ำของเหลวจากถุงเต้านม. ส่วนใหญ่ของซีสต์ที่ไม่เป็นอันตราย (ไม่เป็นมะเร็ง) | darnel | พืชตระกูลหญ้าจำพวก Lolium temulentum พบในทุ่งข้าวสาลี เป็นพืชมีพิษที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ | Duct Ectasia | เป็นสภาพเต้านมที่ไม่เป็นอันตราย (ไม่ใช่มะเร็ง) ที่เกิดขึ้นเมื่อท่อน้ำนมในขยายเต้านมและผนังข้น ซึ่งอาจทำให้ท่อที่จะกลายเป็นที่ถูกบล็อกและนำไปสู่การสร้างของเหลว | endangered | (adj) เป็นอันตราย, ถูกคุกคาม | Hepatorenal Syndrome | กลุ่มอาการโรคไตเนื่องจากโรคตับ เป็นภาวะทางการแพทย์อย่างหนึ่งซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ทำให้ผู้ป่วยโรคตับแข็งหรือตับวายเต็มขั้นมีการทำงานของไตเสื่อมลงอย่างเฉียบพลัน โรคนี้มักเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ การรักษาอื่นๆ เช่นการฟอกเลือด อาจช่วยชะลอการดำเนินโรคได้ | Klebsiella pneumoniae (K. pneumoniae) | เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ปกติอยู่ในลำไส้ของคนและในอุจจาระ. แบคทีเรียเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายเมื่อพวกมันอยู่ในลำไส้ของคุณ. แต่ถ้าพวกมันแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายของคน, พวกเขาสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง. ความเสี่ยงจะสูงขึ้นถ้าคุณป่วย. | nitpick | ทำให้เป็นอันตรายอย่างแรงสูง | nitpick | ทำให้เป็นอันตรายอย่างแรงสูง | nitpicking | (n) สิ่งที่เป็นอันตรายอย่างแรงสูง | RoHS | (abbrev) การกำจัดสารที่เป็นอันตรายบางประเภทในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ |
| 統一 | [とういつ, touitsu] (n) เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน | 結局 | [けっきょく, kekkyoku] ในที่สุด ท้ายที่สุด ผลสุดท้าย(เป็นอันว่า) |
| | |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |