ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ลงคะแนน, -ลงคะแนน- |
ลงคะแนน | (v) vote, See also: elect, ballot, Example: ในการเลือกตั้ง ส.ข. ครั้งนี้ คนในชุมชนมาลงคะแนนแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น | บัตรลงคะแนน | (n) ballot box | ลงคะแนนเสียง | (v) vote for, See also: elect, cast one's vote, ballot, opt, Syn. ลงคะแนน, โหวต, Example: ผู้ที่รับเงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร เป็นพวกเห็นแก่เงิน, Thai Definition: แสดงความเห็นโดยนับความเห็นของผู้ออกเสียงคนหนึ่งเป็นหนึ่งคะแนน | ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง | (n) elector, See also: qualified voter |
|
| ลงคะแนน | ก. แสดงความเห็นโดยลงเป็นคะแนน. | คูหา | โดยอนุโลมใช้เรียกช่องที่กั้นไว้เป็นสัดส่วนสำหรับใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คูหาลงคะแนนในที่เลือกตั้งสำหรับใช้ในการกาบัตรออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง. | ประชามติ | มติของประชาชนที่รัฐให้สิทธิออกเสียงลงคะแนนรับรองร่างกฎหมายสำคัญที่ได้ผ่านสภานิติบัญญัติแล้ว หรือให้ตัดสินในปัญหาสำคัญในการบริหารประเทศ. (อ. referendum) | ฝักถั่ว | น. การแสดงความอ่อนน้อม อ้อนวอน หรือขอร้องโดยวิธียกมือไหว้ เช่น มืออ่อนเป็นฝักถั่ว, การพลอยยกมือแสดงความเห็นชอบตามเขาไป มักใช้พูดตำหนินักการเมืองในเวลาลงคะแนนเสียง. | ไพ่ไฟ | น. บัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ลงด้วยวิธีการทุจริต | มติพิเศษ | น. มติของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัด ที่ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน. | เลือกตั้ง | ก. เลือกสรรบุคคลให้เป็นผู้แทนหรือให้ดำรงตำแหน่งด้วยการออกเสียงลงคะแนน เช่น เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกตั้งกรรมการ. | สังเกตการณ์ | ก. เฝ้าดูหรือศึกษาเหตุการณ์หรือเรื่องราวพอรู้เรื่อง. น. เรียกผู้เข้าร่วมประชุมที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ว่า ผู้สังเกตการณ์. | โหวต | (โหฺวด) ก. ออกเสียงลงคะแนน. | ออกเสียง | ลงคะแนนเสียง | ออกเสียง | ลงคะแนนเลือกตั้ง |
| poll | ๑. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง๒. การหยั่งเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | poll | ๑. การหยั่งเสียง (ก. ปกครอง)๒. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง (ก. ปกครอง)๓. การลงคะแนนลับ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | pooling place | ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | protest vote | การออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | plural voting | การออกเสียงลงคะแนนได้หลายเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | paradox of voting | ผลการออกเสียงลงคะแนนที่แย้งกันในตัว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | long ballot | การลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | limited vote | การลงคะแนนเสียงแบบจำกัด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | record vote | ๑. การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีเรียกชื่อ๒. การได้คะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | repeater | ผู้เวียนลงคะแนนเลือกตั้ง (หลายครั้ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | show of hands | การลงคะแนนโดยวิธีชูมือ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | secret ballot | การลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | short ballot | การลงคะแนนเลือกตั้งน้อยตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | absentee voting | การลงคะแนนเสียงโดยไม่ต้องไปที่หน่วยเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | absentee voting | การลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | advisory ballot | การลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | alternative vote | การออกเสียงลงคะแนนหลายรอบ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballot, advisory | การลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballot, long | การลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballot, secret | การลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | behaviour, voting | พฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballot | ๑. บัตรเลือกตั้ง๒. การลงคะแนนโดยใช้บัตร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballot | การออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | ballot, short | การลงคะแนนเลือกตั้งน้อยตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ballotage (Fr.) | การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งหลายรอบ (ก. ฝรั่งเศส) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | manageable voter | ผู้ออกเสียงลงคะแนนที่จัดมา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | cross-voting | การลงคะแนนให้ฝ่ายอื่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | cumulative voting | ๑. การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม๒. การทุ่มคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | cumulative voting | การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม, การทุ่มคะแนนเสียง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | challenge, voting | การคัดค้านการออกเสียงลงคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | compulsory voting | การออกเสียงลงคะแนนโดยบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | complimentary vote | การลงคะแนนเพื่อให้เกียรติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | division | ๑. กอง (หน่วยงาน)๒. กองพล๓. การแบ่งพวก (ลงคะแนนเสียง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | division | ๑. กอง, กองพล (ทหาร) (ก. ปกครอง)๒. การแบ่งพวก (ลงคะแนนเสียง) (ก. รัฐธรรมนูญ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | free vote | การลงคะแนนโดยเสรี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | independent voter | ผู้ออกเสียงลงคะแนนอิสระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | vote | ๑. การออกเสียงลงคะแนน๒. การลงมติ, การออกเสียงลงมติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | vote, complimentary | การลงคะแนนเพื่อให้เกียรติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting, absentee | การลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting, compulsory | การออกเสียงลงคะแนนโดยบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting, cumulative | ๑. การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม๒. การทุ่มคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting, cumulative | การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม, การทุ่มคะแนนเสียง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | voting, plural | การออกเสียงลงคะแนนได้หลายเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | vote | ๑. การออกเสียง, การออกเสียงลงคะแนน, การลงคะแนนเสียง๒. การลงมติ, มติ๓. คะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voter, independent | ผู้ออกเสียงลงคะแนนอิสระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voter, manageable | ผู้ออกเสียงลงคะแนนที่จัดมา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting behaviour | พฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | voting by ballot | การลงคะแนนโดยใช้บัตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | voting challenge | การคัดค้านการออกเสียงลงคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | vote, protest | การออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Voting | การลงคะแนนเสียง [TU Subject Heading] | Amendments to the Charter of the United Nations | การแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | negative vote | ลงคะแนนเสียงคัดค้าน [การทูต] | Voting Procedure in the United Nations | วิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต] |
| - I thought we might wanna vote by ballot. | - ผมคิดว่าเราอาจต้องการโหวตโดยการลงคะแนนเสียง 12 Angry Men (1957) | We can, well, discuss it first, then vote on it. That's, of course... that's one way. | เราสามารถดีหารือเกี่ยวกับมันเป็นครั้งแรกแล้วลงคะแนนให้กับมัน ที่แน่นอน ... 12 Angry Men (1957) | And, well, we can vote on it right now. | และดีที่เราสามารถลงคะแนนได้ในขณะนี้ 12 Angry Men (1957) | I think it's customary to take a preliminary vote. | ฉันคิดว่ามันเป็นธรรมเนียมที่จะต้องใช้เวลาการลงคะแนนเบื้องต้น 12 Angry Men (1957) | - OK. Anyone doesn't wanna vote? | - ตกลง ทุกคนไม่ต้องการที่จะออกเสียงลงคะแนน? 12 Angry Men (1957) | All those voting guilty, please raise your hands. | ทุกคนที่ลงคะแนนผิดโปรดยกมือของคุณ 12 Angry Men (1957) | Those voting not guilty? | ผู้ลงคะแนนไม่ผิด? 12 Angry Men (1957) | - So how come you voted not guilty? | - ดังนั้นวิธีที่คุณมาลงคะแนนไม่ผิด? 12 Angry Men (1957) | I have a proposition to make to all of you. I'm going to call for another vote. | ผมมีข้อเสนอที่จะทำให้ทุกท่าน ฉันจะเรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงอีก 12 Angry Men (1957) | I want you eleven men to... vote by secret written ballot. | ฉันต้องการให้คุณสิบเอ็ดคน ... โหวตโดยการลงคะแนนลับเขียน 12 Angry Men (1957) | Excuse me. This was a secret ballot. We all agreed on that, no? | ขอโทษนะ นี่คือการลงคะแนนลับ เราทุกคนเห็นด้วยกับการที่ไม่ได้หรือไม่ 12 Angry Men (1957) | Brother, you really are somethin'. | พี่ชายของคุณเป็นจริง somethin ' คุณลงคะแนนผิดเช่นที่เหลือของเรา 12 Angry Men (1957) | - He didn't change his vote. I did. | - เขาไม่ได้เปลี่ยนการออกเสียงลงคะแนนของเขา ที่ผมทำ 12 Angry Men (1957) | The vote is ten to two. I'm talking! | การออกเสียงลงคะแนนเป็น 10-2 ผมพูด! 12 Angry Men (1957) | The vote is nine to three in favour of guilty. | การออกเสียงลงคะแนนเป็น 9-3 ในความโปรดปรานของความผิด 12 Angry Men (1957) | The vote is now six to six. | การออกเสียงลงคะแนนอยู่ในขณะนี้ 6-6 12 Angry Men (1957) | - I call for another vote. | - ที่ผมเรียกสำหรับการลงคะแนนเสียงอีก 12 Angry Men (1957) | OK, I guess the fastest way is to find out who's voting not guilty. | ตกลงผมคิดว่าวิธีที่เร็วที่สุดคือการหาผู้ที่ลงคะแนนไม่ผิด 12 Angry Men (1957) | All those voting not guilty, please raise your hands. | ทุกคนที่ลงคะแนนไม่ผิดโปรดยกมือของคุณ 12 Angry Men (1957) | Pardon. I vote not guilty. | การให้อภัย ผมออกเสียงลงคะแนนไม่ผิด 12 Angry Men (1957) | The vote is eight to four in favour of guilty. | การออกเสียงลงคะแนนเป็น 8-4 ในความโปรดปรานของความผิด 12 Angry Men (1957) | Maybe... maybe we should take another vote. | บางที ... อาจจะเราควรจะใช้การลงคะแนนเสียงอีก 12 Angry Men (1957) | Anyone doesn't wanna vote? Hey, come on. | ทุกคนไม่ต้องการที่จะออกเสียงลงคะแนน? 12 Angry Men (1957) | - I think we ought to have an open ballot. | - ผมคิดว่าเราควรจะมีการลงคะแนนเสียงเปิด 12 Angry Men (1957) | Oh, that's me. I vote guilty. Two? | โอ้ที่ฉัน ผมลงคะแนนผิด สอง? 12 Angry Men (1957) | Come on, we're hung. Nobody's gonna change his vote. | มาเราไม่แขวน จะไม่มีใครเปลี่ยนการลงคะแนนของเขา 12 Angry Men (1957) | I vote for the Duke's candidate | ฉันลงคะแนนเสียงสำหรับผู้ได้รับเลือกให้เข้าแข่งของท่านดยุค Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Well, I vote us. | ก็ฉันออกเสียงลงคะแนนเรา 2010: The Year We Make Contact (1984) | ... andwashingup andvoting... | ... อาบน้ำด้วยลงคะแนนเสียงด้วย... The Story of Us (1999) | 61 percent of Arcatans voted in favour of publicly discussing whether democracy is even possible with large corporations ...so much wealth and power under law. | 61% ของชาวเมืองอาร์เคตาลงคะแนนเสียงเห็นชอบ ให้มีการประชาพิจารณ์ว่าระบอบประชาธิปไตย สามารถอยู่ร่วมกับบรรษัทขนาดใหญ่ได้หรือไม่ The Corporation (2003) | They also voted to form a committee to ensure democratic control over corporations in Arcata. | ชาวเมืองยังลงคะแนนเสียงตั้งคณะกรรมการ เพื่อควบคุมบรรษัทในเมืองอาร์เคตาไว้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย The Corporation (2003) | You have more votes than I do | ถ้าเราใช้รูปแบบของการคว่ำบาตรและลงคะแนนด้วยดอลลาร์ The Corporation (2003) | I just want to say, Mr. and Mrs., uh, Mr... whatever your name is, I hope this doesn't influence your vote. | ผมแค่อยากจะบอกว่านายและนางเอ่อนาย ... สิ่งที่ชื่อของคุณฉันหวังว่านี้ไม่ได้มีผลต่อการลงคะแนนของคุณ The Birdcage (1996) | I couldn't in good conscience vote for a person who doesn't believe in God. | ฉันไม่สามารถลงคะแนนใน จิตสำนึกที่ดีสำหรับคนที่ ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า Contact (1997) | I didn't vote for you to go because I don't want to lose you. | ฉันไม่ได้ลงคะแนนให้คุณไป เพราะฉันไม่ต้องการที่ จะสูญเสียคุณ Contact (1997) | All right, so are we ready to put it to vote? | สิทธิทั้งหมดเพื่อให้เราพร้อม ที่จะนำไปลงคะแนนได้บ้าง Dante's Peak (1997) | They were just about to vote on it. | พวกเขาเป็นเพียงเกี่ยวกับ การออกเสียงลงคะแนนในนั้น Dante's Peak (1997) | I think you should call... | - เสนอให้ลงคะแนน - สนับสนุน I Heart Huckabees (2004) | Hirose Aki has been selected to play Juliet | เราลงคะแนนกันแล้วนะ และ.. Hirose Aki ถูกเลือก Crying Out Love in the Center of the World (2004) | the many sects of Christianity debated and voted on, well.. | มีตัวแทนของคริสตจักรมากมาย โต้เถียงกันลงคะแนนเสียง The Da Vinci Code (2006) | When the time comes, vote Petrelli. | เมื่อถึงเวลา, อย่าลืมลงคะแนนให้กับปีเตอร์ลิด้วยนะ. Chapter Two 'Don't Look Back' (2006) | I can find more of them. You're the one who needs me. | ทุกคนกำลังไปลงคะแนน Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | You're making a tuna sandwich. | จะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะพาลูกชาย เข้าไปในคูหาลงคะแนนด้วย? Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | Why would I tell you that when I know you could be so much more? | ดังนั้นฉันต้องการให้เธอบอกเครื่องนี้ และทั้งหมดที่นี่ เพื่อลงคะแนนให้นาธาน เพททริลี่ Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | You know what they do to poll numbers. | คุณรู้นี่ว่าเค้าจะมีการลงคะแนนเสียง The Game (2007) | All right, before we vote, | โอเค ก่อนที่เราจะลงคะแนนเสียงกัน Art Isn't Easy (2007) | Let's kick this pig. All in favor of Lynette? | มาลงคะแนนดีกว่า ใครออกเสียงให้ลินเน็ต Art Isn't Easy (2007) | I'm voting no. | ฉันไม่ลงคะแนน American Duos (2007) | I'm voting yes. | ฉันลงคะแนน American Duos (2007) | He votes yes. | เขาลงคะแนน American Duos (2007) |
| บัตรลงคะแนน | [bat long khanaēn] (n, exp) EN: ballot ; voting slip ; ballot paper FR: bulletin de vote [ m ] | จำนวนผู้ออกมาลงคะแนน | [jamnūan phū øk mā long khanaēn] (xp) EN: turnout FR: taux de participation (électorale) [ m ] | การลงคะแนนเสียง | [kān long khanaēnsīeng] (n, exp) EN: voting FR: vote | การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่เพิ่งลงคะแนนเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ | [kān samrūat khwām khithen jāk prachāchon thī phoeng longkhanaēn set sot-sot røn-røn] (xp) EN: exit poll FR: sondage effectué à la sortie des bureaux de vote [ m ] | ลงคะแนน | [longkhanaēn] (v) EN: vote ; ballot ; elect ; cast a ballot FR: voter ; élire ; exprimer son suffrage | ลงคะแนนเลือกตั้ง | [longkhanaēn leūaktang] (v) EN: vote ; ballot FR: voter | ลงคะแนนเสียง | [long khanaēnsīeng] (v, exp) EN: vote for ; elect ; cast one's vote ; ballot ; opt FR: voter pour ; élire ; choisir | ไม่ลงคะแนน | [mai long khanaēn] (v, exp) EN: cast a blank vote FR: voter blanc ; ne pas exprimer de vote | ออกเสียงลงคะแนน | [øksīeng longkhanaēn] (v, exp) FR: voter | ออกไปลงคะแนน | [pai longkhanaēn] (v, exp) EN: go to the polls FR: aller voter ; se rendre aux urnes | ผู้ลงคะแนน | [phū long khanaēn] (n) EN: voter FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ] ; votant [ m ] ; votante [ f ] | ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน | [phū mī sit longkhanaēn] (n, exp) EN: constituent FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ] | ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง | [phū mī sit long khanaēnsīeng leūaktang] (xp) EN: elector ; qualified voter ; constituent FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ] |
| ballot | (n) บัตรลงคะแนน เช่น Use these ballots when students are voting in a mock election or classroom election. |
| abstain | (vi) ไม่ลงคะแนนเสียง, See also: นอนหลับทับสิทธิ์ | ballot | (n) วิธีลงคะแนนเสียงแบบลับ, Syn. election | ballot | (vi) ลงคะแนน, See also: ออกเสียงลงคะแนน, จับสลาก, Syn. vote | ballot box | (n) หีบหรือกล่องใส่บัตรลงคะแนน, Syn. polling place, polling booth | ballot paper | (n) ใบลงคะแนน | ballot for | (phrv) ออกเสียงให้, See also: ลงคะแนนเสียงให้ | casting vote | (n) การลงคะแนนตัดสินโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการประชุมเนื่องจากแต่ละฝ่ายมีคะแนนเท่ากัน | caucus | (n) การประชุมของสมาชิกหรือกลุ่มผู้นำของพรรคการเมืองเพื่อลงคะแนนเลือกหรือวางแผนทางการเมือง | go to the polls | (idm) ลงคะแนนเสียง | show of hands | (idm) ลงคะแนน | plebiscite | (n) การลงคะแนนเสียงชี้ขาดโดยประชาชนทั่วไป, Syn. poll, referendum, vote | poll | (vt) ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, See also: ออกเสียงเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, Syn. ballot | poll | (vi) ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, See also: ออกเสียงเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, Syn. ballot | put in | (phrv) เลือกตั้ง, See also: ลงคะแนนเลือก, Syn. get in | scorecard | (n) บัตรลงคะแนน, See also: บัตรบันทึกคะแนน, บัตรบันทึกผู้เข้าร่วมแข่งขัน | suffrage | (n) การออกเสียงเลือกตั้ง, See also: การลงคะแนนเสียง, Syn. election, vote | suffragette | (n) ผู้หญิงที่ปลุกระดมให้คนอื่นไปลงคะแนนเสียง | vote through | (phrv) ออกเสียงให้ผ่าน, See also: ลงคะแนนเสียงผ่าน, ยอมให้ผ่าน | vote with | (phrv) ออกเสียงเหมือน, See also: ลงคะแนนให้ บางคน / บางกลุ่ม เหมือนกับ | vote | (n) การลงคะแนนเสียง, See also: การออกเสียง, Syn. polling, referendum | vote | (vt) ลงคะแนน, See also: ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง | vote | (vi) ลงคะแนน, See also: ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง | voter | (n) ผู้ออกเสียง, See also: ผู้ลงคะแนนเสียง, Syn. electorate, elector | write-in | (n) การลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ, See also: ทางการเมือง |
| absentee vote | การลงคะแนนของผู้ไม่อยู่ (ทางไปรษณีย์) -absentee voter., n. | abstain | (แอบสเทน') vt. ละเว้น, ไม่ลงคะแนนเสียง, ไม่ฟุ่มเฟือยในการกินและดื่ม, อดเหล้า, สละสิทธิ์ -abstainer n., Syn. forbear, desist | ballot | (แบล'เลิท) n. บัตรเลือกตั้ง, จำนวนผู้ลงคะแนน, รายชื่อคนลงคะแนน vi. ลงคะแนนด้วยบัตรลับ, จับฉลาก, See also: balloter n. | cloture | (โคล'เชอะ) { clotured, cloturing, clotures } n. วิธีการปิดการอภิปรายและให้มีการลงคะแนนเสียงทันที vt., vi. ปิดการอภิปราย | plebiscite | (เพลบ'บิไซทฺ) n. การลงคะแนนเสียงโดยประชาชนทั่วไป, See also: plebiscitary adj. | poll | (โพล) n. การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, รายชื่อผู้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, บุคคลที่ปรากฎในรายชื่อ, การสำรวจความคิดเห็นของคนจำนวนมาก -vi., vi. ได้รับคะแนนเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, สำรวจความคิดเห็น, | votable | (โว'ทะเบิล) adj. ลงคะแนนได้, มีสิทธิเลือกตั้ง, นำไปลงมติได้. | vote | (โวทฺ) n. การออกเสียง, การเลือกตั้ง, คะแนนเสียง, บัตรคะแนนเสียง, สิทธิการออกเสียง, จำนวนคะแนนเสียง, มติ vt., vt. ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง, เลือกตั้ง, ลงมติ, เสนอ | voter | (โว'เทอะ) n. ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง | write-in | (ไรทฺ'อิน) n., adj. การลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ใช่คนเดิมในรายชื่อ |
| ballot | (n) บัตรลงคะแนน, บัตรเลือกตั้ง, การลงคะแนนเสียง | ballot | (vt) ลงคะแนน | constituency | (n) ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้เลือกตั้ง, เขตเลือกตั้ง | franchise | (n) สิทธิลงคะแนนเสียง, สัมปทาน, สิทธิพิเศษ | plebiscite | (n) การลงคะแนนเสียงทั้งประเทศ | poll | (vi) ลงคะแนนเสียง, ออกเสียงเลือกตั้ง | polls | (n) คอกลงคะแนน | tally | (vt) นับ, ลงคะแนน, ตรงกัน | vote | (vi, vt) ลงคะแนนเสียง, ลงมติ, เลือกตั้ง | voter | (n) ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้เลือกตั้ง |
| |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |