Search result for

*เจต*

   
Languages
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เจต, -เจต-
Some results are hidden.
configure
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
เจต(n) mind, See also: thought, Syn. ใจ, Thai Definition: สิ่งที่คิด, Notes: (บาลี)
เจตนา(v) intend, See also: aim, mean, propose, object to, Syn. ตั้งใจ, มุ่งหมาย, จงใจ, Example: ในชีวิตนี้ข้าพเจ้าไม่เคยมีเจตนาจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือขุ่นเคืองใจเลย, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
เจตคติ(n) attitude, See also: impression, opinion, point of view, Syn. ทัศนคติ, ทรรศนะ, Example: จริยศึกษาเป็นกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งปลูกฝังเจตคติหรือคุณธรรมลง ในจิตใจของผู้เรียน, Thai Definition: ท่าทีหรือความรู้สึกของบุคคลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เจตภูต(n) spirit, See also: soul, ghost, phantom, Example: เขาทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของเจตภูตและวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในที่ต่างๆ ว่ามีจริงหรือไม่, Thai Definition: วิญญาณที่สิงอยู่ในตัวคน กล่าวกันว่าออกจากร่างได้ในเวลานอนหลับ
เจตจำนง(n) intention, See also: intent, purpose, aim, Syn. ความตั้งใจ, ความมุ่งหมาย, ความจงใจ, เจตนารมณ์, Example: ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF
โดยเจตนา(adv) intentionally, See also: deliberately, Syn. โดยตั้งใจ, โดยจงใจ, Ant. โดยบังเอิญ, Example: จำเลยทำผิดโดยเจตนา
กุศลเจตนา(n) virtuous intention, See also: good intention, goodwill, Example: ราษฎรผู้มีกุศลเจตนา ได้พร้อมใจกันจัดงานเลี้ยงฉลอง 100 ปี พระยาอนุมานราชธน, Thai Definition: ความหวังดี
ตั้งเจตนา(v) intend, See also: have in mind, plan, aim, mean, purpose, Syn. ตั้งใจ, ตั้งเป้าหมาย, Example: เขาตั้งเจตนาไว้อย่างมุ่งมั่นว่าจะจับคนร้ายกลุ่มนี้ให้ได้, Thai Definition: ตั้งใจหรือมุ่งหมายไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เจตนารมณ์(n) intention, See also: aim, purpose, Syn. ความมุ่งหมาย, เจตนา, ความตั้งใจ, จุดหมาย, เป้าหมาย, Example: การปกครองในระบอบประชาธิปไตยการทำงานของรัฐจะต้องสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ ประชาชน
แสดงเจตนา(v) intent to, See also: aim at, stretch out for, Syn. บอกเจตนา, แสดงเจตจำนง
แสดงเจตนา(v) disclose one's intention, See also: show one's hand / cards, tip one's hand, declare one's intention, Syn. แสดงความประสงค์, แสดงเจตจำนง, Example: เขามิได้แสดงเจตนาร้ายต่อข้าพเจ้า, Thai Definition: แสดงให้ทราบถึงความต้องการ หรือความประสงค์
อกุศลเจตนา(n) malice, See also: sinful intention, evil intention, ill intent, vicious intent, Example: เพราะเขามีอกุศลเจตนาตลอดเวลา เขาจึงไม่มีความสุข, Count Unit: กุศลเจตนา, Thai Definition: ความตั้งใจเป็นบาป, ความคิดชั่ว, เจตนาชั่ว, เจตนาไม่ดี, Notes: (สันสกฤต)
โดยมีเจตนา(adv) intentionally, See also: deliberately, on purpose, willfully, Example: เขานำความลับของผู้อื่นมาเปิดเผยโดยมีเจตนา เพราะอยากกลั่นแกล้งไม่ให้ได้ดีไปกว่าตน
แสดงเจตจำนง(v) aim at, See also: purpose, intent, Syn. บอกเจตนา, แสดงเจตนา
โดยไม่เจตนา(adv) unintentionally, See also: inadvertently, accidentally, Syn. โดยไม่ได้เจตนา, Example: เรยถูกส่งตัวเข้าคุกด้วยข้อหาขับรถชนคนตายโดยไม่เจตนา
การแสดงเจตนา(n) declaration of intention, See also: disclosing one's intention, intention representation, Syn. การแสดงความตั้งใจ, การแสดงความจงใจ, การแสดงความมุ่งหมาย, Example: การแสดงเจตนาของผู้เขียนเรื่องนี้ แสดงด้วยถ้อยคำพูดที่ไม่ปรุงแต่งให้สวยงามนัก เพื่อแสดงให้เห็นภาพชัดเจน
เจตนาบริสุทธิ์(n) honest intention, Syn. เจตนาดี, Ant. เจตนาร้าย, Example: การสร้างพระด้วยวัตถุประสงค์ดี เจตนาบริสุทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของอานิสงส์ทำให้เกิดผลอัศจรรย์แก่ผู้ที่มีไว้ครอบครอง
เจตนาไม่บริสุทธิ์(n) bad faith, Syn. เจตนาร้าย, Ant. เจตนาบริสุทธิ์

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
กระทำโดยเจตนาก. กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น.
เจต, เจต-(เจด, เจตะ-, เจดตะ-) น. สิ่งที่คิด, ใจ.
เจตคติ(เจตะ-) น. ท่าทีหรือความรู้สึกของบุคคลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง.
เจตจำนง(เจด-) น. ความตั้งใจมุ่งหมาย, ความจงใจ.
เจตภูต(เจดตะพูด) น. สภาพเป็นผู้คิดอ่าน คือ มนัส, ที่เรียกในภาษาสันสกฤตว่า “อาตมัน” เรียกในภาษาบาลีว่า “อัตตา” ก็มี “ชีโว” ก็มี, มีอยู่ในลัทธิว่า “ในโลกนี้ไม่มีอะไรสูญ แม้คนและสัตว์ตายแล้ว ร่างกายเท่านั้นทรุดโทรมไป ส่วนเจตภูตเป็นธรรมชาติไม่สูญ ย่อมถือปฏิสนธิในกำเนิดอื่นสืบไป”, ลัทธินี้ทางพระพุทธศาสนาจัดเป็นสัสตทิฐิ แปลว่า ความเห็นว่าเที่ยง, ตามสามัญที่เข้าใจกัน เจตภูต คือวิญญาณที่สิงอยู่ในตัวคน กล่าวกันว่าออกจากร่างได้ในเวลานอนหลับ.
เจตนา(เจดตะนา) ก. ตั้งใจ, จงใจ, มุ่งหมาย.
เจตนา(เจดตะนา) น. ความตั้งใจ, ความจงใจ, ความมุ่งหมาย.
เจตนารมณ์น. ความมุ่งหมาย.
เจตพังคี(เจดตะ-) น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Cladogynos orientalis Zipp. et Span. ในวงศ์ Euphorbiaceae ท้องใบขาว รากใช้ทำยาได้.
เจตมูลเพลิง(เจดตะ-) น. ชื่อไม้พุ่มขนาดเล็กหลายชนิดในสกุล Plumbago วงศ์ Plumbaginaceae เช่น เจตมูลเพลิงแดง ( P. indica L.) ดอกสีแดง และ เจตมูลเพลิงขาว ( P. zeylanica L.) ดอกสีขาว, รากของทั้ง ๒ ชนิด มีรสเผ็ดร้อน ใช้ทำยาได้.
เจตมูลเพลิงฝรั่งดู พยับหมอก ๒.
เจตสิก(เจตะ-, เจดตะ-) น. อารมณ์ที่เกิดกับใจ.
เจตสิก(เจตะ-, เจดตะ-) ว. เป็นไปในจิต เช่น สุขหรือทุกข์ที่เกิดในจิต.
เจติย-(-ติยะ-) น. เจดีย์.
โดยเจตนาดู กระทำโดยเจตนา.
ไถยเจตนาน. เจตนาในทางเป็นขโมย, ความตั้งใจจะขโมย.
สัญเจตนา(-เจดตะนา) น. ความตั้งใจ, ความจงใจ.
อกุศล-เจตนา(อะกุสนละเจดตะนา) น. ความตั้งใจเป็นบาป, ความคิดชั่ว.
กระทำโดยประมาทก. กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่.
กลบไต๋ก. ปกปิดไพ่ตัวสำคัญไว้ไม่ให้คู่แข่งรู้, ปกปิดกลเม็ด ทีเด็ด ความลับ หรือเจตนาไว้, อุบไต๋ ก็ว่า.
การเมืองว. มีเงื่อนงำ, มีการกระทำอันมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่, เช่น ป่วยการเมือง.
ของขบเคี้ยวน. ของกินเล่นที่ไม่เจตนากินให้อิ่ม.
ครอบครองยึดถือทรัพย์สินไว้โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน อันทำให้บุคคลได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง ทั้งนี้จะยึดถือไว้เองหรือบุคคลอื่นยึดถือไว้ให้ก็ได้.
ครอบครองปรปักษ์ก. ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น.
ความมุ่งหมายน. ความตั้งใจ, เจตนา, เช่น ถนนสายนี้สร้างขึ้นด้วยความมุ่งหมายเพื่อย่นระยะทาง.
คำบอกกล่าวน. ข้อความที่บุคคลฝ่ายหนึ่งแจ้งเป็นหนังสือ หรือแจ้งด้วยวาจา ไปยังบุคคลอีกฝ่ายหนึ่ง แสดงเจตนาที่จะใช้สิทธิ สงวนสิทธิ หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คำบอกกล่าวสนองในการทำสัญญา คำบอกกล่าวเลิกสัญญา คำบอกกล่าวว่าจะบังคับจำนอง.
คำมั่นน. การแสดงเจตนาที่บุคคลหนึ่งให้ไว้กับอีกบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจงหรือให้ไว้กับบุคคลอื่นเป็นการทั่วไปว่าจะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คำมั่นจะซื้อหรือขาย คำมั่นว่าจะให้รางวัล.
คำร้องทุกข์น. การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตามซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ.
คำสนองน. การแสดงเจตนาของบุคคลฝ่ายหนึ่งตกลงรับคำเสนอของบุคคลอีกฝ่ายหนึ่ง อันเป็นผลให้เกิดมีความผูกพันเป็นสัญญาขึ้นตามกฎหมาย. (ดู คำเสนอ ประกอบ).
คำเสนอน. การแสดงเจตนาว่าจะกระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่บุคคลฝ่ายหนึ่งแจ้งต่อบุคคลอีกฝ่ายหนึ่ง. (ดู คำสนอง ประกอบ).
จงใจก. ตั้งใจ, หมายใจ, เจตนา.
จตุกาลธาตุ(-กาละทาด) น. พิกัดตัวยาประเภทหนึ่งในตำรายาไทย จำกัดจำนวนตัวยาแก้ธาตุตามเวลาไว้ ๔ อย่าง คือ เหง้าว่านน้ำ รากเจตมูลเพลิง รากแคแตร รากพนมสวรรค์.
จัก ๒คำช่วยกริยาบอกกาลภายหน้า แสดงเจตจำนง เช่น จักกิน จักนอน.
เจ็ดตะคลี(-คฺลี) น. ผ้าลายอย่างดีชนิดหนึ่ง, เขียนเป็น เจตตะคลี หรือ เจ็ตคลี ก็มี.
โฉบเจตนาไปที่ใดที่หนึ่ง เช่น โฉบไปหน้าโรงเรียน.
ตบเท้าก. อาการเดินแถวเป็นจังหวะพร้อม ๆ กัน โดยกระแทกตีนกับพื้นแรง ๆ ของทหารหรือตำรวจเป็นต้น เรียกว่า เดินตบเท้า, (ปาก) อาการที่ทหารหรือตำรวจรวมกลุ่มกันไปแสดงเจตนารมณ์อย่างเดียวกัน.
ตรีปิตตผล(-ปิดตะผน) น. พิกัดตัวยาประเภทหนึ่งในตำรายาไทย จำกัดจำนวนตัวยาอันมีสรรพคุณแก้ดี ๓ อย่าง คือ รากเจตมูลเพลิงเทศ รากผักแพวแดง รากกะเพราแดง.
ตีความใช้หรือปรับให้เข้าใจเจตนาและความมุ่งหมายเพื่อความถูกต้องเป็นต้น
ไต๋น. กลเม็ด, ทีเด็ด, ความลับ, เจตนาแท้จริงซึ่งซ่อนเร้นไว้
ถากถางก. ค่อนว่า, มีเจตนาว่าให้เจ็บใจ.
ถีบทางก. เดินตรวจตรา เช่น นั่นแหละมึงจึ่งจะรู้จักฝีมือกูผู้ชื่อเจตบุตรพราน อันได้ถีบทางตระเวนด่านนี้แล (ม. ร่ายยาว ชูชก).
ทำแท้งก. รีดลูก, มีเจตนาทำให้ทารกออกจากครรภ์มารดาก่อนกำหนดและตาย.
นิติกรรมอำพรางน. นิติกรรมอันหนึ่งที่ทำขึ้นด้วยเจตนาลวง เพื่อปิดบังนิติกรรมอีกอันหนึ่งที่ทำขึ้นด้วยเจตนาอันแท้จริง ซึ่งกฎหมายให้บังคับตามกฎหมายเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรางนั้น.
บริสุทธิ์ใจว. มีความจริงใจ, มีใจใสสะอาด, ไม่มีเจตนาอื่นเคลือบแฝง, เช่น ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ.
บังหน้าก. นำชื่อบุคคลเป็นต้นมาอ้างเพื่อประโยชน์ตนโดยเจตนาให้ผู้อื่นหลงผิด
เบญจกูลน. เครื่องยา ๕ อย่าง คือ ขิง ดีปลี ช้าพลู สะค้าน เจตมูลเพลิง.
ปริยายเจตนากระทำที่มิได้แสดงออกอย่างชัดแจ้งแต่อนุมานได้จากพฤติกรรมที่แสดงออก.
เป้าหมายความมุ่งหมายเจาะจงให้ได้ตามเจตนา เช่น การขายข้าวในปีนี้มีเป้าหมายให้ได้เกินหกแสนตัน.
โป๊ว. เปลือยหรือค่อนข้างเปลือย เช่น รูปโป๊, มีเจตนาเปิดเผยอวัยวะบางส่วนที่ควรปกปิด เช่น แต่งตัวโป๊.
ผัสสาหารน. อาหารคือผัสสะ หมายเอาการประจวบกันแห่งอายตนะภายใน อายตนะภายนอก และวิญญาณ เป็นปัจจัยแห่งเจตสิกอันจะพึงเกิดโดยวิถีมีเวทนาเป็นต้น เป็นประการหนึ่งในอาหารทั้ง ๔ (อีก ๓ อย่าง คือ กวลิงการาหาร อาหารคือคำข้าว มโนสัญเจตนาหาร อาหารคือมโนสัญเจตนา และวิญญาณาหาร อาหารคือวิญญาณ).

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
possession, corporealการครอบครองทรัพย์ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
premeditated designเจตนาฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
law, spirit ofเจตนารมณ์ของกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
letter of intentหนังสือแสดงเจตนารมณ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
legislative intentความมุ่งหมายของกฎหมาย, เจตนารมณ์ของกฎหมาย [ ดู intendment of law และ spirit of law ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ratio legis est anima legis (L.)เหตุผลในการตรากฎหมาย คือเจตนารมณ์ของกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
reformationการแก้ไขให้ตรงกับเจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
real intentionเจตนาอันแท้จริง [ ดู true intention ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
spirit of lawเจตนารมณ์ของกฎหมาย [ ดู intendment of law และ legislative intent ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
spiritualismเจตนิยม [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
survey of knowledge, attitude and practice (KAP survey)การสำรวจความรู้ เจตคติหรือทัศนคติ และการปฏิบัติ (การสำรวจ เคเอพี) [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
spiritเจตนารมณ์, ความมุ่งหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
animus (L.)เจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
animus et factum (L.)เจตนาประกอบกับการกระทำ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
aesthetic attitudeสุนทรียเจตคติ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
attitude๑. ท่าทรงตัว๒. เจตคติ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
attitudeเจตคติ, ทัศนคติ, ท่าที [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
attitude, aestheticสุนทรียเจตคติ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
bad motiveเจตนาร้าย, เจตนาทุจริต [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
badges of fraudสิ่งที่ส่อเจตนาฉ้อฉล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manifestoคำแถลงอุดมการณ์, คำประกาศเจตนา [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manifest intentionเจตนาโดยชัดแจ้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manifestation of intentionการแสดงเจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manifestoคำประกาศเจตนา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
mens rea (L.)เจตนาร้าย [ ดู criminal intent ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
maliceเจตนาร้าย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
maliceเจตนาร้าย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malice aforethoughtเจตนาร้ายโดยไตร่ตรองมาก่อน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malice in factเจตนาร้ายที่ชัดแจ้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malice in lawเจตนาร้ายตามกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manslaughterการทำให้คนตายโดยไม่เจตนา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
manslaughterการทำให้คนตายโดยไม่เจตนา [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
manslaughterการทำให้คนตายโดยไม่เจตนาฆ่า [ ดู homicide และ murder ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malicious accusationการกล่าวหาโดยเจตนาร้าย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malicious injuryการทำร้ายร่างกายโดยเจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malicious killingการฆ่าคนโดยเจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
criminal intentเจตนาทางอาญา [ ดู mens rea ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
cy-prés (Fr.)ที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง (ในเจตนา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
corporeal possessionการครอบครองทรัพย์ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
constructionการตีความตามเจตนารมณ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
constructionการตีความตามเจตนารมณ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
declaration of associationการแสดงเจตนาก่อตั้งบริษัท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
declaration of disinheritanceการแสดงเจตนาตัดมิให้รับมรดก [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
declaration of intentionการแสดงเจตนา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
donative intentเจตนาให้ (โดยเสน่หา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
general willเจตจำนงร่วม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
guilty mindเจตนาร้าย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
free willเจตจำนงเสรี [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
furandi animus (L.)การมีเจตนาลักทรัพย์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
express maliceเจตนาร้ายที่ชัดแจ้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Attitudeเจตคติ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Attitudeเจตคติ [เศรษฐศาสตร์]
Contaminationการเปื้อนสารกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสีทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ หรือเปรอะเปื้อนที่พื้นผิววัสดุ อุปกรณ์ ร่างกาย และหรือบริเวณที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ [นิวเคลียร์]
Safety cultureวัฒนธรรมความปลอดภัย, พฤติกรรมขององค์กรและบุคคลในองค์กร ที่สะท้อนการได้รับการปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ทั้งจากการอบรม การเรียนรู้และการถ่ายทอด จนเกิดเป็นนิสัยและเจตคติที่ให้ความสำคัญต่อการระวังป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ผู้ปฏิบัติงานทางนิวเคลียร์และรังสี ย่อมรู้ดีว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ใดบ้างเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น ต้องติดมาตรปริมาณรับรังสี ต้องใช้เครื่องมือหยิบจับสารกัมมันตรังสี มีวัสดุและอุปกรณ์กำบังรังสีที่พอเพียง รวมทั้งการสวมแว่นตาและหน้ากากกันไอระเหย ให้เหมาะสมตามลักษณะของงาน [นิวเคลียร์]
Radioactive contaminationการเปื้อนสารกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสีทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ หรือเปรอะเปื้อนที่พื้นผิววัสดุ อุปกรณ์ ร่างกาย และหรือบริเวณที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้, Example: [นิวเคลียร์]
Nuclear incidentอุบัติการณ์นิวเคลียร์, เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (ดู INES ประกอบ) [นิวเคลียร์]
Nuclear accidentอุบัติเหตุนิวเคลียร์, เหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นในโรงงานนิวเคลียร์โดยไม่เจตนา รวมถึงความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางนิวเคลียร์ หรือของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย ทำให้มีการปลดปล่อย หรือ เกือบมีการปลดปล่อยสารกัมมันตรังสี ออกสู่สิ่งแวดล้อม (ดู INES ประกอบ) [นิวเคลียร์]
Criminal intentเจตนาทางอาญา [TU Subject Heading]
Declaration of intentionเจตนา (กฎหมาย) [TU Subject Heading]
Intentionเจตนา [TU Subject Heading]
Letters of intentหนังสือแสดงเจตจำนง [TU Subject Heading]
Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategyยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต]
Bangkok Declaration : Global Dialogue and Dynamic Engagementปฏิญญากรุงเทพ : การหารือและการมีส่วนร่วมอย่างมีพลวัตของประชาคมโลก " หนึ่งในสองของเอกสารผลการประชุมอังค์ถัด ครั้งที่ 10 ที่แสดงฉันทามติของประเทศสมาชิกอังค์ถัด 190 ประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบของกระแสโลกาภิวัตน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งแสดงเจตนารมณ์ร่วมทางการเมืองของประเทศสมาชิกอังค์ถัดที่จะร่วมมือ กันดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อทำให้สมาชิกทั้งหมด โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ได้รับประโยชน์จากกระบวนการโลกาภิวัตน์ในด้านการค้า การเงิน การลงทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม อีกทั้งเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบของกระบวนการโลกาภิวัตน์ได้ แม้ปฏิญญากรุงเทพจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็เป็นเอกสารที่มีผลผูกพันทางการเมือง เป็นสัญญาประชาคมที่ทุกประเทศสมาชิกอังค์ถัดมีพันธะที่จะต้องปฏิบัติตามแนว นโยบายที่ได้ร่วมกันแถลงไว้ในเอกสารดังกล่าว และเอกสารนี้สามารถใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการเจรจาหารือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศในเรื่องของการเงิน การค้า การลงทุน และการพัฒนาได้ " [การทูต]
declarationปฏิญญา มีความหมาย 3 อย่าง คือ (1) ความตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะผูกพัน (2) ปฏิญญาฝ่ายเดียว ซึ่งก่อสิทธิและหน้าที่ให้แก่ประเทศอื่น และ (3) ปฏิญญาซึ่งรัฐหนึ่งแถลงให้รัฐอื่นทราบความเห็นและเจตนาของตนในเรื่องบาง เรื่อง [การทูต]
Declarationคำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต]
Diplomatic Expressionsถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต]
Diplomatic Pouchถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต]
Eisenhower Doctrineลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ [การทูต]
Enhanced Interactionการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ " การส่งเสริมปฏิสัมพันธ์เป็นคำที่เสนอโดย นายอาลี อาลาตัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ในที่ประชุม AMM ครั้งที่ 31 ณ กรุงมะนิลา ซึ่งในด้านสารัตถะมีความหมายเช่นเดียวกับนโยบาย Flexible Engagement แต่เป็นคำที่อาเซียนส่วนใหญ่เห็นว่า มีความ เหมาะสมที่จะใช้สื่อเจตนารมณ์ของอาเซียนในการยกระดับความร่วมมือที่เพิ่มพูน และเปิดกว้างระหว่างกัน " [การทูต]
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articlesการยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต]
Freedom of Communicationเสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต]
Genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต]
North Atlanitc Treaty Organizationองค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Pacific Settlement of International Disputesหมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต]
Regional Code of Conduct in The South China Seaแนวทางปฏิบัติระดับภูมิภาคในทะเลจีนใต้ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศในบริเวณทะเลจีนใต้ที่จะรักษา สันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
World Food Summitการประชุมสุดยอดอาหารโลก " จัดโดย FAO ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2539 เป็นการประชุมระดับผู้นำรัฐบาล เพื่อสร้างเจตนารมณ์ด้าน การเมือง และข้อผูกพันระหว่างประเทศให้เกิดความมั่นคงด้านอาหาร และการขจัดปัญหาความหิวโหยสำหรับประชากรโลก " [การทูต]
Abortion, Inducedการทำให้แท้ง, การทำแท้ง, การทำแท้งโดยเจตนา, การแท้งที่เกิดจากการกระทำ, แท้งจากการกระทำ [การแพทย์]
Affectiveท่าทีความรู้สึกนึกคิดและเจตคติ, เจตคติ, ด้านความรู้สึก [การแพทย์]
Affective Domainเจตคติพิสัย, พฤติกรรมด้านทัศนคติ [การแพทย์]
Attitudeท่าที, ท่าทรงตัว, ทัศนคติ, เจตนคติ, ท่าทาง, เจตคติ, อากัปกริยา [การแพทย์]
Attitude to Deathทัศนคติต่อการตาย, เจตคติต่อความตาย [การแพทย์]
Attitude to Healthเจตคติต่อสุขภาพ [การแพทย์]
Characterizationการแสดงออกของเจตคติ [การแพทย์]
Defusionเจตคติต่อตนเอง [การแพทย์]
scientific attitudeเจตคติทางวิทยาศาสตร์, ลักษณะของการคิดและปฏิบัติแบบนักวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจที่จะคิดและค้นคว้าทำความเข้าใจในปัญหาต่าง ๆ อยู่เสมอ ความละเอียดถี่ถ้วน มานะบากบั่นในการทำงาน ซื่อสัตย์ในการคิดและปฏิบัติ ไม่เชื่อสิ่งใดอย่างง่าย ๆ โดยไม่มีเหตุผล ใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Melanoma, Superficial Spreadingไฝมะเร็งชนิดพาเจตอยด์ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
A wraith?เจตภูติ? Excalibur (2008)
It begins on a dark night where a dark man waits, with a dark purpose.มันเริ่มต้นในค่ำคืนที่มืดมิด ที่ซึ่งชายผู้ชั่วร้ายได้รอคอยพร้อมกับเจตนาอันชั่วร้าย Aladdin (1992)
You actually went into a burning aeroplane?มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาคนที่มีเจตนาจะหลบหนี Hero (1992)
It's something far more deliberate and insidious.มันเป็นอะไรที่เจตนามาก และทำอย่างลับๆ Squeeze (1993)
He knew the gods' will. Will Makemake descend on us?ท่านหัวหน้าพูดถูก ท่านรู้เจตนารมณ์ของเทพเจ้า Rapa Nui (1994)
Why are you busting my balls?เจตนาจะตามราวีหรือไง? Wild Reeds (1994)
Obtuse. Is it deliberate?ป้าน มันเป็นเจตนา? The Shawshank Redemption (1994)
Five years in Folsom off a knock-back to involuntary manslaughter.5 ปีที่ฟอลซั่มฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา Heat (1995)
Mrs. Danvers, it has been suggested that Mrs. De Winter was deliberately murdered.คุณนายแดนเวอร์ส มันได้มีการนําเสนอเป็นนัยๆ ว่า คุณนายเดอ วินเทอร์ถูกฆาตกรรมโดยเจตนา Rebecca (1940)
We have not yet decided on the winner's prize for the best bottomเราไม่มียังรางวัลของผู้ชนะ on the เด็ดขาด ... ...ด้วยเจตนาที่ดีที่สุดข้างล่าง Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
Despite the best intentions of the best of you you must, in the nature of things, humiliate us to control us.แม้ว่าคุณจะมีเจตนาที่ดี แต่คุณก็กดขี่เราเพื่อควบคุมเรา Gandhi (1982)
I want you to put it where nobody can find it without a deliberate search.ฉันต้องการให้คุณที่จะนำมันที่ ไม่มีใคร สามารถค้นหาได้โดยไม่ต้องมี การค้นหาโดยเจตนา 2010: The Year We Make Contact (1984)
In that case, may I suggest we adjourn to the study for coffee and brandy, at which point I believe our unknown host will reveal his intentions.ในกรณีนี้ ผมแนะนำว่าให้เราไปที่ห้องหนังสือ จิบกาแฟและบรั่นดี สำหรับกาแฟและบรั่นดี และเราจะได้เข้าใจว่า เจ้าภาพมีเจตนาจะบอกอะไรกับเรา Clue (1985)
- I'm sorry. I never meant to lie.- หนูขอโทษค่ะ หนูไม่มีเจตนาจะโกหก Dirty Dancing (1987)
Steven, I'm sorry. I never meant to hurt you.สตีเว่น ฉันเสียใจนะ ฉันไม่มีเจตนาให้คุณเจ็บ Punchline (1988)
For I am king... ordained by God!โดยเจตน์จำนงค์ของพระเจ้า The Man in the Iron Mask (1998)
And into this Ring he poured his cruelty, his malice and his will to dominate all life.เขาบรรจุความโฉดชั่วของตนลงไป ด้วยเจตนารมณ์ที่จะเป็นจ้าวแห่งทุกชีวิต The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
And the Ring of Power has a will of its own.และแหวนแห่งอำนาจ ก็มีเจตนาของมันเอง The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
First of all I would like to point out... that not only is there no proof in this case... but there is a complete lack of mens rea... which by definition tells us there can be no crime... without a vicious will.ก่อนอื่น ดิฉันอยากจะชี้แจงว่า คดีนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีหลักฐาน แต่ยังไร้ซึ่งเจตนาร้าย Legally Blonde (2001)
I am aware of the meaning of mens rea.ดิฉันทราบความหมายของเจตาร้าย Legally Blonde (2001)
We know what it means.เรารู้เจตนาของมัน The Pianist (2002)
To show you our goodwill, you should vote one of you to be allowed to go in town daily and bring 3 kilos of potatoe...yeah?เพื่อแสดงเจตนาที่ดีของเรา คุณควรเลือกตัวแทนหนึ่งคน เราจะยอมให้เขาเข้าไปในเมืองทุกวัน The Pianist (2002)
I'm sorry... I'm not trying to pry.ขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะสอดรู้สอดเห็นครับ Latter Days (2003)
And that was intended to prevent the states from taking away life liberty or property from black people as they had done for so much of our history.เจตนารมณ์คือป้องกันไม่ให้มลรัฐต่าง ๆ ปล้นเอาชีวิต อิสรภาพหรือทรัพย์สินไปจากคนผิวดำ The Corporation (2003)
In the achievement of those objectives there isn't any question of malevolence or of will.ในการบรรลุเป้าหมายนี้ มันไม่เกี่ยวกับเจตนาร้ายหรือความตั้งใจ The Corporation (2003)
It's better that they make some public profession than the opposite.การประกาศเจตนารมณ์ต่อสาธารณะ มันก็ดีกว่าไม่ทำ The Corporation (2003)
Yeah, so was the president. Are you going to accuse him?ผมเจตนายั่วคุณ เพื่อดูปฏิกริยา Yankee White (2003)
Section 6 must be up to something.แผนก 6 อาจจะเจตนาทำอะไรบางอย่าง.. Ghost in the Shell (1995)
The sex of the perpetrator isn't known and remains undetermined.เพศของเจ้านักเชิดหุ่นนั่นไม่มีใครรู้ รวมทั้งเจตนาที่แท้จริงของมันด้วย Ghost in the Shell (1995)
Fulfil your dark purpose and seal the fate of the Czar and his family once and for all.เติมเต็มเจตนารมณ์ที่มืดมนของเจ้า แล้วปิดผนึกโชคชะตาของ พระเจ้าซาร์และครอบครัว ครั้งเดียวและตลอดไป Anastasia (1997)
Your Majesty, I intend you no harm.ฝ่าพระบาท หม่อมฉันไม่ได้มีเจตนาจะมุ่งร้าย Anastasia (1997)
Or that your experience is the result of being the unwitting star in the farewell performance of one S.R. Hadden?คุณกลับบ้านโดยไม่ต้อง ฉีกเดียวของหลักฐาน? หรือว่าประสบการณ์ ของคุณเป็นผลมาจากการที่ ดาวเจตนาในการปฏิบัติ งานอำลาของหนึ่ง Contact (1997)
I thought you should know before you start questioning his motives.ขอเรียนให้ทราบก่อนที่ท่านจะเคลือบแคลงเจตนาเขา The Day After Tomorrow (2004)
I don't think it's doing it on purpose.รูปปั้นคงไม่ได้เจตนา Around the World in 80 Days (2004)
Drugs, armed robbery, manslaughter...ยา โจรปล้นติดอาวุธ ฆ่าคนไม่เจตนา The Woodsman (2004)
Of all the words written here about freedom, there's a line here that's at the heart of all the others.จากความคิดที่รวมตัวกันเป็นอเมริกา... ...อยู่ที่นี่. เจตนารมณ์เพื่อทุกคน. National Treasure (2004)
- He was up to something.- นี่เป็นบัญชีของเขาเองนะ เขามีเจตนาจะทำอะไรบางอย่าง The Bourne Supremacy (2004)
What would his motive be?บางทีเขาอาจจะเจตนา? Nin x Nin: Ninja Hattori-kun, the Movie (2004)
Feds found a note, uh, more like a manifesto.เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเจอจดหมาย เอ่อ มากกว่าคำประกาศเจตนาเสียอีก Mr. Monk and the Blackout (2004)
She was killed on the loading dock, and I think it might have been premeditated.เธอถูกฆ่าในโกดังของห้าง แล้วฉันคิดว่า เป็นการเจตนาฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน Mr. Monk and the Employee of the Month (2004)
Yeah, but he didn't aim it. He didn't hit anything.ใช่ แต่เขาไม่ได้เจตนา เขาไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ Mr. Monk and the Panic Room (2004)
Tiberias knows more than the Christian should about Saladin's intentions!ซาลาดินจะบุกมาที่อาณาจักรนี้ ! ไทบิเรียสรู้มากกว่าพวกคริสเตียน เรื่องเจตนาของซาลาดิน! Kingdom of Heaven (2005)
But I know her to be incapable of wilfully deceiving anyone.แต่พี่ไม่คิดว่าหล่อนจะสามารถ ทำร้ายใคร โดยเจตนาได้หรอก Pride & Prejudice (2005)
My primary directive is to protect the students of this institution... and all, indeed all mankind... from the menace that is another Stifler.เจตนาที่ผมตั้งไว้ อย่างแรกคือปกป้องนักศึกษาของสถาบัน และทั้งหมดนี้ แท้จริงแล้วผมใจดีมากนะ สำหรับสิ่งแย่ๆที่จะเกิดขึ้นกับคุณ สตีฟเลอร์ตัวแสบ American Pie Presents: Band Camp (2005)
It was not a raid with intention to save Hae Mo-Su.ผู้บุกรุกไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปช่วยแฮโมซู Episode #1.9 (2006)
- What do you want? - I want you to be what you are.แบบที่ธรรมชาติเจตนา X-Men: The Last Stand (2006)
Yes, I have. And I have given him an angel to do his will.ใช่แล้วล่ะ และผมได้ส่งเทพไปให้ท่านใช้สอยตามเจตนารมณ์ The Da Vinci Code (2006)
When it's an accident, they call it manslaughter.ถ้ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เค้าจะเรียกว่าการฆ่าโดยไม่เจตนา Monster House (2006)
I understand your good intentionsข้าเข้าใจเจตนาดีของท่าน Fearless (2006)
I live on Summersisle, a tiny place in Puget Sound.ฉันอยู่ที่ซัมเมอร์สไอล์ เกาะเล็กๆในพิวเจตซาวด์ The Wicker Man (2006)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
อกุศลเจตนา[akusonlajēttanā] (n) EN: malice ; sinful intention ; evil intention ; ill intent ; vicious intent
อัลฟาเจต[Alfā Jēt] (tm) EN: Alpha Jet  FR: Alpha Jet [ m ]
โดยเจตนา[dōi jēttanā] (adv) EN: intentionally ; deliberately  FR: exprès ; intentionnellement ; délibérément ; avec préméditation
โดยไม่เจตนา[dōi mai jēttanā] (adv) EN: unintentionally
โดยไม่มีเจตนา[dōi mai mī jēttanā] (adv) EN: unintentionally  FR: involontairement ; sans intention
เจตจำนง[jētjamnong] (n) EN: intention ; intent ; purpose ; aim ; object ; will ; wish ; aspiration  FR: détermination [ f ] ; volonté [ f ] ; aspiration [ f ] ; intention [ f ] ; volition [ f ]
เจตจำนงเสรี[jētjamnong sērī] (n, exp) EN: free will  FR: libre arbitre [ m ]
เจตนา[jēttanā] (n) EN: intention ; intent ; purpose ; aim ; object ; motive ; will ; volition ; spirit ; ideal ; objective  FR: intention [ f ] ; volonté [ f ] ; détermination [ f ] ; volition [ f ] ; dessein [ m ] ; objet [ m ] ; but [ m ]
เจตนา[jēttanā] (v) EN: intend ; manifest intention ; mean to
เจตนาดี[jēttanā dī] (n, exp) EN: good intentions ; goodwill ; honest intention  FR: bonnes intentions [ fpl ]
เจตนาร้าย[jēttanā rāi] (n, exp) EN: evil intentions ; ill-will  FR: mauvaises intentions [ fpl ] ; intention malveillante [ f ]
เจตนาร้าย[jēttanā rāi] (x) EN: with malice ; with evil intent ; malicious
เจตนารมณ์[jēttanārom] (n) EN: intention ; intent ; purpose ; aim ; object ; spirit  FR: intention [ f ] ; volonté [ f ] ; esprit [ m ] ; idée [ f ] ; objet [ m ] ; but [ m ] ; dessein [ m ] ; projet [ m ]
เจตนารมณ์[jēttanārom] (v) EN: intend ; manifest intention
เจตนารมณ์ของกฎหมาย[jēttanārom khøng kotmāi] (n, exp) EN: spirit of the law  FR: esprit de la loi [ m ]
เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ[jēttanārom ratthathammanūn] (n, exp) EN: spirit of the constitution  FR: esprit de la constitution [ m ]
เจตนาทางอาญา[jēttanā thāng āyā] (n, exp) EN: criminal intent
เจตนาทุจริต[jēttanā thutjarit] (n, exp) EN: bad faith
การฆ่าคนโดยเจตนา[kān khā khon dōi jēttanā] (n, exp) EN: malicious killing
การประกาศเจตจำนง[kān prakāt jētjamnong] (n, exp) EN: declaration of intent  FR: déclaration d'intention [ f ]
การแสดงเจตนา[kān sadaēng jettanā] (n, exp) EN: declaration of intention ; disclosing one's intention ; intention representation  FR: déclaration d'intention [ f ]
ฆ่าคนตายโดยเจตนา[khā khon tāi dōi jēttanā] (v, exp) FR: assassiner ; tuer avec préméditation
มีเจตนาร้าย[mī jēttanā rāi] (adj) EN: hateful
แปลเจตนา[plaē jēttanā] (v, exp) EN: read s.o.'s intentions  FR: deviner les intentions de qqn
แสดงเจตนา[sadaēng jettanā] (v, exp) EN: intent to ; aim at ; stretch out for
แสดงเจตนา[sadaēng jettanā] (v, exp) EN: disclose one's intention ; show one's hand / cards ; tip one's hand ; declare one's intention  FR: déclarer ses intentions ; manifester son intention ; jouer cartes sur table
โทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา[thōt thān khā khon tāi dōi jēttanā] (n, exp) EN: conviction for homicid

English-Thai: Longdo Dictionary
unsharp mask(name) คือกระบวนการทำภาพถ่ายให้คมชัดขึ้น โดยการนำฟิล์มของภาพ ไปถ่ายสำเนาใส่ฟิล์มอีกแผ่นหนึ่งโดยเจตนาให้ได้ภาพที่เบลอ (unsharp) กว่าเดิม ภาพบนฟิล์มที่ทำสำเนาขึ้นมาใหม่นี้ จะแตกต่างจากภาพบนฟิล์มเดิม ณ บริเวณภาพที่มีรายละเอียด (เนื่องจากถูกทำให้เบลอ) แต่จะเหมือนเดิม ณ บริเวณภาพที่เป็นสีพื้น (ไม่มีรายละเอียด การทำเบลอไม่มีผลต่อภาพ) จากนั้นจึงเอาฟิล์มทั้งสองมาทาบเข้าด้วยกัน ภาพที่ได้เมื่อมองผ่านฟิล์มทั้งสอง บริเวณที่มีรายละเอียดจะถูกเน้นให้เห็นรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น คือ ทำให้ภาพดูคมชัดขึ้น

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
accidental(adj) โดยบังเอิญ, See also: เป็นการบังเอิญ, โดยไม่ได้ตั้งใจ, เป็นเหตุบังเอิญ, โดยไม่ได้คาดคิด, ซึ่งไม่ได้เจตนา, Syn. chance, fortuitous, unintentional
aim(vi) ตั้งใจ, See also: เจตนา, วางแผน, Syn. propose, strive, endeavor
by choice(idm) โดยจงใจ, See also: อย่างเจตนา
catty(adj) ที่มีเจตนาร้าย (คำไม่เป็นทางการ), Syn. malicious, spiteful
carve up(phrv) เจตนาทำร้าย (คำสแลง), See also: ตั้งใจทำให้บาดเจ็บ, Syn. cut up, slit up
designedly(adv) โดยตั้งใจ, See also: โดยจงใจ, อย่างเจตนา, Syn. advisedly, voluntarily
fortuitous(adj) โดยบังเอิญ, See also: ซึ่งไม่เจตนา, Syn. accidental, coincidental, unintentional, Ant. expected, intentional, planned
give away(phrv) เผย, See also: เล่าความลับ โดยเจตนาและไม่เจตนา
hateful(adj) ซึ่งมีเจตนาร้าย, See also: ซึ่งมุ่งร้าย, Syn. malevolent, spiteful
method in one's madness(idm) มีจุดประสงค์ในสิ่งที่ทำ, See also: มีเจตนาในสิ่งที่ทำ
show good faith(idm) แสดงเจตนาดี
show one's hand(idm) เปิดเผยเจตนา, See also: แสดงเจตนา
ill feeling(n) ความไม่เป็นมิตร, See also: การมีเจตนาไม่ดี, ความเป็นปฏิปักษ์, Syn. animosity, resentment
ill-disposed(adj) ซึ่งไม่เป็นมิตร, See also: ซึ่งมีเจตนาไม่ดี, Syn. hostile, unfriendly, unkind, Ant. friendly, kind
intended(adj) ี่ซึ่งมีเจตนา, See also: ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อ
intent(n) เจตนา (คำทางการ), See also: ความตั้งใจ, จุดประสงค์, Syn. aim, intention, purpose
intention(n) ความตั้งใจ, See also: ความมุ่งหมาย, เจตนา, จุดมุ่งหมาย, เจตจำนง, Syn. aim, objective, purpose
intentionally(adv) โดยตั้งใจ, See also: อย่างตั้งใจ, อย่างจงใจ, โดยเจตนา, Syn. deliberately, intendedly, voluntarily, Ant. unintentionally
mean by(phrv) เจตนา, See also: มุ่งหมาย, ตั้งใจด้วย, ทำให้เกิดด้วย
mean well(phrv) เจตนาดี (แต่มักไม่เป็นไปตามนั้น)
malignancy(n) การปองร้าย, See also: เจตนาร้าย, การประสงค์ร้าย, ความมุ่งร้าย
mean well(idm) มีเจตนาดี
mean(vt) มีเจตนา, See also: ตั้งใจ, มุ่งหมาย, Syn. intend
outguess(vt) เดาท่าทีหรือเจตนา, Syn. anticipate, predict
overtly(adv) อย่างไม่ปกปิด, See also: อย่างเปิดเผย, โดยเจตนา, Syn. apparently, clearly
poisonous(adj) ซึ่งส่อเจตนาร้าย, See also: ซึ่งมุ่งร้าย, ซึ่งคิดปองร้าย, Syn. vicious
poison-pen(adj) มีเจตนาร้าย, See also: ต้องการทำลายชื่อเสียง มักเป็นข้อเขียนที่ไม่ปรากฏนาม
prepense(adj) ที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า, See also: ที่วางแผนไว้ล่วงหน้า, มีเจตนา, Syn. premeditated
saboteur(n) ผู้ก่อวินาศกรรม, See also: ผู้บ่อนทำลาย, ผู้ทำลายทรัพย์สินโดยเจตนา, Syn. destroyer, terrorist
spirit(n) เจตนา, See also: ความมุ่งมั่น, Syn. enthusiasm, will
spite(n) เจตนาร้าย, See also: ประสงค์ร้าย, Syn. malice, malevolence
spiteful(adj) มีเจตนาร้าย, See also: อาฆาตพยาบาท, Syn. malicious, vindictive
unwitting(adj) ไม่ได้ตั้งใจ, See also: ไม่ได้เจตนา, Syn. inadvertent, unintentional, accidental, Ant. intentional
voluntary(adj) ด้วยความตั้งใจ, See also: โดยเจตนา, Syn. volunteer, willing, Ant. involuntary
volunteer(n) อาสาสมัคร, See also: ผู้สมัคร, ผู้กระทำโดยใจสมัคร, ทหารอาสาสมัคร, ผู้กระทำโดยเจตนา, พืชตามธรรมชาติ, Ant. conscript
well-intentioned(adj) ซึ่งเจตนาดี (แต่มักจะก่อให้เกิดผลที่ไม่ค่อยดีตามมา), Syn. well-meaning
well-meaning(adj) ซึ่งมีเจตนาดี (แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม), See also: ซึ่งหวังดี, Syn. well-intentioned
wilful(adj) ซึ่งจงใจ (ด้วยเจตนาไม่ดีหรือต้องการทำร้ายผู้อื่น), See also: ซึ่งเจตนา, Syn. deliberate, intentional, voluntary, Ant. unintentional, involuntary
willed(adj) ซึ่งมีความตั้งใจ, See also: ซึ่งมีเจตนา
witting(adj) ซึ่งมีเจตนา, See also: ซึ่งตั้งใจ, Syn. deliberate, intentional, Ant. unintentional
wittingly(adv) อย่างเจตนา, Ant. unwittingly

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
animus(แอน' นิมัส) n. ความเป็นปรปักษ์, ความเกลียด, เจตจำนง, Syn. animosity
attitude(แอท'ทิทูด) n. ท่าทาง, กิริยาท่าทาง, การวางตัว, ทัศนคติ, ท่าในการบิน, ท่าที, เจตคติ, Syn. manner, mood, behaviour
conscious(คอน'เชิส) adj. ซึ่งมีจิตสำนึก, มีสติ, มีเจตนา, พิชาน, Syn. sensible, aware
contemplation(คอนเทมเพล'เชิน) n. การใคร่ครวญ, การไตร่ตรอง, การพิจารณาอย่างระมัดระวัง, เจตนา, ความมุ่งหมาย, การอธิษฐาน, การเข้าญาน, Syn. thought
cue(คิว) { cued, cuing, cues } n. ผมเปีย, ไม้แทงบิลเลียด, แถวคน, คำแนะนำ, คำบอกบท, สิ่งกระตุ้น, บท, เจตนารมณ์ vt. ถักเป็นผมเปีย, ใช้ไม้แทงบิลเลียดตี, บอกบท, บอกเป็นนัย, สอดแทรก, นำทาง
deliberate(ดิลิบ'บะเรท) adj. รอบคอบ, สุขุม, ใคร่ครวญ, ระมัดระวัง, โดยเจตนา, See also: deliberateness n., Syn. think
deliberation(ดิลิบบะเร'เชิน) n. ความสุขุม, ความรอบคอบ, เจตนา, การพิจารณาหารือ, การปรึกษา, ความเชื่องช้า, Syn. thought, Ant. haste
despiteous(ดิสพิท'เทียส) adj. มุ่งร้าย, มีเจตนาร้าย, Syn. malicious
drift(ดริฟทฺ) vi., vt., n. (การ) ล่องลอย, เลื่อนลอย, ลอยไปทับกันเป็นกอง, พเนจร, ระเหเร่ร่อน, เบี่ยงเบนจากทิศทางเดิมการพเนจร, สิ่งที่ล่องลอย, ความโน้มน้าว, ความหมาย, เจตนา, , See also: driftingly adv. ดูdrift, Syn. float, mound, wander
enmity(เอน'มิที) n. ความเป็นปฏิปักษ์, ความเกลียด, ความมีเจตนาเป็นอริ
hostile(ฮอส'ไทลฺ, ฮอส'เทิล) adj. เป็นปรปักษ์, ต่อต้าน, มีเจตนาร้าย, เป็นศัตรู, ไม่เป็นมิตร, ไม่รับแขก, See also: hostility adv., Syn. contrary, antagonistic
hostility(ฮอลทิล'ลิที) n. ความเป็นปรปักษ์, การมีเจตนาร้าย, การเป็นศัตรู, การไม่เป็นมิตร., See also: hostilities n. สงคราม, การทำสงคราม, Syn. enmity, animosity
ill willความมุ่งร้าย, เจตนาร้าย, ความเป็นปฏิปักษ์, Syn. animosity
ill-feeling(อิลฟิล'ลิง) adj. มุ่งร้าย, มีเจตนาไม่ดี, มีใจเป็นปฏิปักษ์, Syn. ugly
ill-natured(อิล'เน'เชอร์ดฺ) adj. มีอารมณ์ไม่ดี, มีเจตนาร้าย, ขุ่นหมอง., See also: ill-naturedly adv.
inimical(อินิม'มิเคิล) adj. ไม่เป็นมิตร, เป็นปฏิปักษ์, มีเจตนาร้าย, เป็นอันตราย., See also: inimically adv. inimicalness. inimicality n., Syn. inimicable, hostile, Ant. friendly
intend(อินเทนดฺ') vt., vi. ตั้งใจ, ปรารถนา, มีเจตนา, มุ่งหมาย, มีความหมาย., See also: intender n., Syn. propose
intended(อินเทน'ดิด) adj. ซึ่งมีเจตนา, ตั้งใจว่า, มุ่งหมายไว้, หมั้นหมาย. n. คู่หมั้น.
intent(อินเทนทฺ') n. เจตนา, ความตั้งใจ, ความมุ่งหมาย, จุดประสงค์, ความหมาย, ความสำคัญ. adj. ยึดมั่น, แน่วแน่, มุ่งหมายไว้, ตั้งใจไว้., See also: intently adv. intentness n., Syn. intention
intention(อินเทน'เชิน) n. เจตนา, ความตั้งใจ, เป้าหมาย, See also: intentional adj. ซึ่งมีเจตนาเกี่ยวกับความตั้งใจ ความมุ่งหมาย, เป้าหมาย
malefic(มะเลฟ'ฟิค) adj. ชั่วร้าย, มีเจตนาร้าย, มีผลร้าย
malign(มะไลนฺ') vt. กล่าวร้าย, กล่าวหา, ใส่ร้าย, ทำให้เสียชื่อเสียง. adj. มีผลร้าย, ร้าย, มีเจตนาร้าย, เป็นภัย., See also: maligner n. malignly adv., Syn. defame, slander
malignant(มะลิก'เนินทฺ) adj. ร้าย, มีภัย, มีเจตนาร้าย, อันตรายมาก, ถึงตาย, มักทำให้ตายได้., See also: malignantly adv., Syn. spiteful, vile
mean(มีน) vt. มุ่งหมาย, มีเจตนา, ตั้งใจ, หมายถึง, ทำให้เกิดขึ้น, นำมาซึ่ง, มีความหมายต่อ, มีความสำคัญต่อ. vi. ตั้งใจ, มุ่งหมาย adj. ต่ำต้อย, ชั้นต่ำ, ไม่สำคัญ, ถ่อย, สกปรก, เลว, ใจแคบ, ขี้เหนียว, เห็นแก่ตัว, สร้างความเดือดร้อน, ร้าย, เชี่ยวชาญ, ประทับใจ, ระหว่างกลาง, โดยเฉลี่ย n. ค่าเฉลี่ย
oblige(อะไบลจฺ) { obliged, obliging, obliges } vt. บังคับ, บีบบังคับ, เกณฑ์, ขอให้ทำ, ผูกมัด, ทำบุญคุณให้, กรุณา, ทำให้เป็นหนี้, vi. ช่วยเหลือ, กระทำเพื่อแสดงเจตนาที่ดี., See also: obligedly adv. obligedness n. obliger n., Syn. gratif
plumbago(พลัมเบ'โก) n. ตะกั่วดำ, =graphite (ดู) , ต้นเจตมูลเพลิง
prepense(พรีเพนซฺ') adj. ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า, วางแผนไว้ล่วงหน้า, มีเจตนา
providential(พรอฟวิเดน'เชิล) adj. เกี่ยวกับหรือมาจากพระผู้เป็นเจ้า, เป็นเจตจำนงของพระผู้เป็นเจ้า, Syn. opportune
purpose(เพอ'เพิส) n. วัตถุประสงค์, ความมุ่งประสงค์, เป้าหมาย, ความมุ่งหมาย, ผล, ผลประ-โยชน์, เจตนา, vt. มุ่งประสงค์, ประสงค์, ตั้งเป้าหมาย, มีเจตนา, ตั้งใจเด็ดเดี่ยว. vi. มุ่งประสงค์., See also: purposeful adj. purposely adj., Syn. inte
reflex(รี'เฟลคซฺ) n., adj. ปฏิกิริยาโต้ตอบที่ไม่เจตนาต่อสิ่งกระตุ้น, การสะท้อนกลับ, ภาพสะท้อน, สิ่งที่สะท้อนกลับ vt. (รีเฟลคซฺ) ทำให้สะท้อนกลับ, หันกลับ, หมุนกลับ, พับกลับ, See also: reflexly adv., Syn. reponse
sabotage(แซบ'บะทาจฺ) vt., n. (การ) ก่อวินาศกรรม, ทำลาย, ทำลายโดยเจตนาก่อกวน., Syn. disable
saboteur(แซบบะเทอ') n. ผู้ก่อวินาศกรรม, ผู้ทำลายโดยเจตนาก่อกวน
spirit(สพิ'ริท) n. จิตใจ, วิญญาณ, ใจ, ญาณ, เจตนา, หัวใจ, ความในใจ, อารมณ์, ความเด็ดเดี่ยว, ความมุ่งมั่น, ความองอาจ, ภูติผีปีศาจ, หัวน้ำหอม, ของเหลวระเหยที่ได้จากการกลั่น, สารละลายแอลกอฮอล์, แอลกอฮอล์ vt. เร้าใจ, ปลุกใจ, กระตุ้น, ให้กำลังใจ, ลักพาไปอย่างลึกลับ adj. เกี่ยวกับของเหลวระเหยที่ได้จากการกลั่น, เกี่ยวกับสารละลายแอลกอฮอลล์
spite(สไพทฺ) n. เจตนาร้าย, ความมุ่งร้าย, ความโกรธเคือง, ความอาฆาตแค้น vt. กระทำด้วยเจตนาร้าย กลั่นแกล้ง ทำให้โกรธ รบกวน, -Phr. (in spite of ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่า ทั้ง ๆ ที่เป็น โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น)
spitefuladj. มีเจตนาร้าย, มุ่งร้าย, อาฆาตแค้น.
view(วิว) n. ภาพ, ทิวทัศน์, ทัศนวิสัย, ทรรศนะ, สายตา, การมอง, การสังเกต, ข้อคิดเห็น, ทัศนคติ, จุดประสงค์, เจตนา, จุดมุ่งหมาย, การสำรวจทั่วไป, -Phr. (in view ภายในแนวสายตา ภายใต้การพิจารณา) -Phr. (in view of เมื่อพิจารณาถึงในเรื่องเกี่ยวกับ) vt. ดู, มอง, สังเกต, สำรวจ, ตรวจสอบ
vindicative(วินดิค'คะทิฟว) adj. แก้แค้น, แก้เผ็ด, แค้น, อาฆาต, พยาบาท, มีเจตนาร้าย, เป็นการทำโทษ., See also: vindicativeness n.
voluntary(วอล'เลินทะรี) adj. สมัครใจ, ตั้งใจ, โดยเจตนา, โดยอาสาสมัคร, อิสระ, มีอิสระในการเลือก, เกิดขึ้นเอง, โดยธรรมชาติ. n. กิจกรรมอาสาสมัคร, ดนตรีโหมโรง., See also: voluntarily adv. voluntaryism n. voluntaryist n., Syn. optional, f
well-disposed(เวล'ดิสโพซดฺ) adj. เห็นอกเห็นใจผู้อื่น, หวังดี, มีเจตนาดี, มีอารมณ์ดี, มีนิสัยดี
well-intentioned(เวล'อินเทน'เชินดฺ) adj. มีความหมายดี, เจตนาดี, หวังดี, Syn. wellmeaning
well-meaning(เวล'มี'นิง) adj. มีความหมายดี, มีเจตนาดี, หวังด'
white(ไวทฺ) adj. ขาว, หงอก, ขาวบริสุทธิ์, สีเผือก, ผิวขาว, สีเงิน, ขาวหิมะ, มีหิมะ, ไร้สี, โปร่งใส, ว่างเปล่า, สวมเสื้อขาว, โชคดี, ไม่ได้เขียนอะไร, สะอาด, มีเจตนาดี, ซื่อตรง, ยุติธรรม, ไร้เดียงสา, (กาแฟ) ใส่นมหรือครีม n. สีขาว, ความขาว, ผิวขาว, สิ่งที่มีสีขาว, ไข่ขาว, แอลบิวเมน
wicked(วิค'คิด) adj. โหดร้าย, ชั่วช้า, เลวทราม, มีเจตนาร้าย, คุกคาม, น่ารังเกียจ, ไร้เหตุผล, ชั้นหนึ่ง, ยอดเยี่ยม, See also: wickedly adv.
wilful(วิล'ฟูล) adj. จงใจ, มีเจตนา, โดยสมัครใจ, ดื้อรั้น, หัวแข็ง, See also: willfulness n., Syn. willful.
willed(วิลดฺ) adj. มีความตั้งใจ, มีเจตนา
willful(วิล'ฟูล) adj. สมัครใจ, มีเจตนา, ตั้งใจ, ดื้อรั้น, หัวแข็ง, See also: willfulness n., Syn. willful.
willing(วิล'ลิง) adj. เต็มใจ, ตั้งใจ, มีเจตนา, สมัครใจ, ยินดี, See also: willingly adv. willingness n., Syn. obliging, agreeable
willless(วิล'ลิส) adj. ไม่มีตั้งใจ, ไม่เจตนา, ไม่ตกลงใจ., See also: willlessness n.
witting(วิท'ทิง) adj. รู้, รู้ดี, รู้ตัว, ตระหนัก, มีเจตนา n. ความรู้, See also: wittingly adv.
wraith(เรธ) n. เจตภูต, ภูติผีปีศาจ, ภาพลวงตา, See also: wraithlike adj., Syn. specter, ghost

English-Thai: Nontri Dictionary
deliberate(adj) โดยเจตนา, โดยจงใจ, โดยตั้งใจ, รอบคอบ, สุขุม
deliberately(adv) อย่างมีเจตนา, อย่างจงใจ, อย่างตั้งใจ
deliberation(n) การตรึกตรอง, การปรึกษาหารือ, การใคร่ครวญ, เจตนา, ความสุขุมรอบคอบ
design(vt) ออกแบบ, คิด, กำหนด, เตรียมแผนการ, มุ่งหมาย, เจตนา
designedly(adv) โดยวางแผนไว้แล้ว, โดยเจตนา, โดยระบุไว้แล้ว
expressly(adv) อย่างด่วน, โดยเจตนา, โดยแจ่มแจ้ง, เป็นพิเศษ, อย่างชัดแจ้ง
fortuitous(adj) โดยบังเอิญ, โดยไม่เจตนา, โชคดี
ILL-ill-natured(adj) มีอารมณ์ไม่ดี, ขุ่นข้องหมองใจ, มีเจตนาร้าย
intend(vi, vt) ตั้งใจ, มุ่งหมาย, เจตนา, ปรารถนา
intent(vt) ตั้งใจ, เจตนา, มุ่งมั่น, จดจ่อ, ขะมักเขม้น
intention(n) ความตั้งใจ, เจตนา, ความมุ่งหมาย
intentional(adj) โดยเจตนา, โดยจงใจ, ซึ่งตั้งใจ
meaning(adj) มีความหมาย, ตั้งใจ, มุ่งหมาย, มีเจตนา
motive(n) สาเหตุ, ใจความสำคัญ, เหตุผล, แรงดลใจ, เป้าหมาย, เจตนา
purpose(n) จุดประสงค์, ความประสงค์, เจตนา, ผลประโยชน์, เป้าหมาย
purposely(adv) โดยเจตนา, โดยมีจุดมุ่งหมาย, โดยมีเป้าหมาย
spiteful(adj) มุ่งร้าย, อาฆาตแค้น, มีเจตนาร้าย
studied(adj) รอบคอบ, โดยเจตนา, ระมัดระวัง, มีการศึกษา
unwittingly(adv) โดยไม่รู้, โดยไม่เจตนา
view(vt) มองดู, สังเกต, พิจารณา, ตรวจดู, เจตนา
vindictive(adj) พยาบาท, แก้แค้น, อาฆาต, มีเจตนาร้าย
voluntary(adj) สมัครใจ, โดยเจตนา, จงใจ, เกิดขึ้นเอง
wilful(adj) เอาแต่ใจตนเอง, ดื้อรั้น, จงใจ, โดยเจตนา
wittingly(adv) โดยเจตนา, ทั้งรู้ๆ, อย่างรู้ตัว
wraith(n) ปีศาจ, ภูตผี, วิญญาณ, เจตภูต, ภาพลวงตา

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
declared(adj) ที่แสดงเจตนารมย์
euthanize(vt) การุณยฆาต หรือ ปรานีฆาต การทำให้บุคคลหรือสัตว์เสียชีวิตอย่างสงบโดยเจตนา
intentionality(n) ความตั้งใจ, เจตนา
synlynn[ซินลินน์] ผู้ที่มีความมุ่งมั่น, ผู้มีเจตจำนงค์, ผู้ไม่ย่อท้อ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
志向[しこう, shikou] ตั้งใจ เจตนา จงใจ

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
悪気[わるぎ, warugi] TH: เจตนาร้าย  EN: ill-will
本意[ほんい, hon'i] TH: เจตนาที่แท้จริง  EN: one's real intent

German-Thai: Longdo Dictionary
absichtlich(adj, adv) โดยเจตนา, Syn. mit Absicht

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
*nblick { m }; Ansicht { f }; Sicht { f }; Blick { m }; Aus*n. ภาพ, ทิวทัศน์, ทัศนวิสัย, ทรรศนะ, สายตา, การมอง, การสังเกต, ข้อคิดเห็น, ทัศนคติ, จุดประสงค์, เจตนา, จุดมุ่งหมาย, การสำรวจทั่วไป, -Phr. (in view ภายในแนวสายตา ภายใต้การพิจารณา) -Phr. (in view of เมื่อพิจารณาถึงในเรื่องเกี่ยวกับ) vt. ดู, มอง, สังเกต, สำรวจ, ตรวจสอบ

add this word


You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit


Are you satisfied with the result?



Discussions

About our ads
We know you don’t love ads. But we need ads to keep Longdo Dictionary FREE for users. Thanks for your understanding! Click here to find out more.
Go to Top