ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ปม, -ปม- |
|
| สปอยล์ | เป็นการเอาจุดเพลิกผัน ปมสำคัญ หรือเอาตอนจบมาเล่าก่อน หรือเอาเรื่องแขกรับเชิญเซอร์ไพรซ์ในงานมาเฉลยก่อน ทำให้คนที่ยังไม่ได้เห็น ยังไม่ได้ดูหรือยังไม่ได้อ่านสูญเสียอารมณ์ลุ้นหรือความตื่นเต้นเร้าใจไปเวลาไปดูหรืออ่านด้วยตัวเอง |
| หงอ | ค. ปราธีน, ปรเปสฺสิย, ทาโสปม, See also: S. หกครั้ง, A. หกเหลี่ยม, R. หกคว่ำ |
| ปม | (n) node, See also: blotch, knob, Syn. ปุ่มปม, ตุ่ม, ปุ่มป่ำ, Example: คางคกมีผิวหนังเป็นปุ่มปมไปทั่ว, Thai Definition: เนื้อที่เป็นปุ่มขึ้นตามตัว | ปม | (n) knot, Syn. ขอดเชือก, ข้อ, ข้อต่อ, แนวต่อ, Example: เขาผูกเชือกเป็นปม, Thai Definition: ขอดของผ้าหรือเชือก | ปม | (n) crux, See also: knot, hitch, catch, clue, Syn. ข้อยุ่งยาก, ข้อปัญหา, เงื่อน, Example: ตำรวจกำลังสืบหาปมฆาตกรรมเจ้าพ่อชื่อดัง, Thai Definition: ข้อยุ่งที่แก้ยาก | ไปมา | (adv) back and forth, See also: to and fro, Syn. ไปๆ มาๆ, Example: เธอผ่านไปมาแถวนี้เป็นประจำ คนแถวนี้รู้จักเธอกันทุกคน, Thai Definition: อย่างวกเวียนมาสู่ที่เดิมเป็นประจำ | ปมจิต | (n) mental complex, Syn. อารมณ์เก็บกด, จิตใต้สำนึก, Example: ปมจิตนี้จะทำให้บุคคลผู้นั้นแสดงออกในด้านความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ในลักษณะที่ซ้ำกันจนเกิดเป็นอุปนิสัยประจำตัว, Thai Definition: อารมณ์และความรู้สึกของบุคคลที่เก็บกดสะสมไว้ในจิตใต้สำนึกมาตั้งแต่ในวัยเด็ก | อุปมา | (v) compare, Syn. เปรียบเทียบ, Example: บุคลิกภาพนั้นอุปมาได้กับเครื่องยนต์ ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างหลายส่วน | อุปมา | (n) simile, See also: metaphor, analogy, Thai Definition: สิ่งหรือข้อความที่ยกมาเปรียบ | ขมวดปม | (v) tie a knot, Example: สถานการณ์ทางการเมืองกำลังขมวดปมไปสู่จุดสิ้นสุด | ปมด้อย | (n) inferiority complex, See also: weak point, Syn. ลักษณะด้อย, Ant. ปมเด่น, Example: ลูกของหญิงโสเภณีมักมีปมด้อยเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก, Thai Definition: ลักษณะความคิด ความรู้สึก อารมณ์ หรือการกระทำของบุคคล ที่แสดงออกถึงความต่ำต้อยกว่าผู้อื่น | ปมเด่น | (n) superiority complex, Syn. ปมเขื่อง, ลักษณะเด่น, ลักษณะพิเศษ, Ant. ปมด้อย, Example: ลักษณะบ้านช่องและความเป็นอยู่ทุกๆ ด้าน ทำให้เกิดปมด้อยหรือปมเด่นได้ | อุปมัย | (n) simile, See also: analogue, comparison, analogy, metaphor, Syn. อุปไมย, อุปมาอุปไมย, Thai Definition: สิ่งหรือข้อความที่พึงเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นเพื่อให้เข้าใจแจ่มแจ้ง | อุปมาน | (n) comparison, See also: analogy, Thai Definition: การเปรียบเทียบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | อุปมาน | (v) infer, See also: induce, Thai Definition: วิธีการสรุปรวบยอดออกมาเป็นหลักจากข้อเท็จจริงหลายๆ ข้อ | คำอุปมา | (n) metaphor, See also: simile, Example: ผู้วิจารณ์ติดใจกับคำอุปมาที่ไม่ทำให้เห็นภาพพจน์เพียงพอในความรู้สึกของผู้วิจารณ์เอง | ปมปัญหา | (n) crux, See also: problem, Syn. ปม, ปัญหา, Example: ปมปัญหานี้ดูเหมือนจะเป็นตัวชูรสวรรณกรรมให้ชวนติดตาม | อัปมงคล | (adj) inauspicious, See also: unfortunate, unfavourable, unpropitious, Syn. อปมงคล, อวมงคล, Ant. ศุภมงคล, Example: การที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีใดก็ตาม ถือว่าเป็นวันอัปมงคล ไม่ควรทำการมงคลใดๆ ในวันนั้น, Thai Definition: ปราศจากมงคล, ไม่เจริญ, เป็นลางร้าย, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | อัปมงคล | (n) unfavourable condition, See also: inauspicious event, unfortunate thing, Syn. อปมงคล, อวมงคล, Ant. ศุภมงคล, Example: ถ้าหมาแอบเข้าบ้าน ต้องเอาน้ำสาดหรือราด เพื่อไล่อัปมงคลออกไป, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | ปมประสาท | (n) site of nerve cells, Thai Definition: ตำแหน่งที่อยู่ของเซลล์ประสาท | ปมสังหาร | (n) clues of murder, Example: ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งให้ตำรวจสรุปประเด็นที่เป็นปมสังหารในคดีนี้ให้เร็วที่สุด, Thai Definition: เงื่อนงำอันเป็นที่มาของฆาตกรรม | ปมเขื่อง | (n) superiority complex, Syn. ปมเด่น, ลักษณะเด่น, ลักษณะพิเศษ, Ant. ปมด้อย, Example: เขาแสดงปมเขื่องอวดคนอื่นๆ, Thai Definition: ลักษณะอารมณ์และความต้องการที่แสดงออกในทางที่เหนือกว่าบุคคลอื่น | เงื่อนปม | (n) condition, See also: agreement, restriction, term, Syn. เงื่อนไข, ประเด็น, ข้อแม้, ข้อจำกัด, Example: หากไม่มีการแก้ไขเงื่อนปมเหล่านั้นจะทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ไม่พอใจ, Count Unit: ข้อ | ไปมาหาสู่ | (v) visit, See also: meet, Example: ครอบครัวผมกับเขาไปมาหาสู่กันเสมอ, Thai Definition: ไปหากันและกัน | กระปมกระปำ | (adj) knotted, See also: jointed, knobbed, knotty, Syn. ปุ่มป่ำ, เป็นปมเป็นก้อน, Ant. เรียบ, Example: ผ้าทอผืนนี้ลายกระปมกระปำ ฉันไม่ชอบเลย | อุปมาโวหาร | (n) figure of speech, See also: metaphor, simile, Thai Definition: สำนวนเขียนที่กล่าวถึงเรื่องราวโดยยกสิ่งต่างๆ ขึ้นมาเปรียบเทียบประกอบ | เป็นปุ่มปม | (adj) gnarled, See also: jagged, knotted, bristly, knotty, uneven, Syn. ตะปุ่มตะป่ำ, ปุ่มป่ำ, Ant. เรียบ, Example: การสึกกร่อนทำให้ยอดเขามีลักษณะเป็นปุ่มปมตลอดแนว, Thai Definition: เป็นปุ่มเป็นปมขรุขระอย่างผิวมะกรูด | กระปมกระเปา | (adj) knobbed, See also: knotty, gnarled, knobby, warty, pimpled, Syn. กระปุ่มกระป่ำ, ขรุขระ, ปุ่มป่ำ, Ant. เรียบ | อุปมาอุปไมย | (n) analogy, See also: comparison, simile, Example: ผู้ที่ได้อ่านหนังสือโบราณจะพบความเปรียบมากมาย ทั้งที่เป็นอุปมาอุปไมย อุปลักษณ์ สาธก, Thai Definition: การเปรียบเทียบกัน | การไปมาหาสู่ | (n) visit, See also: contact, intercourse, associate, touching, meeting, Syn. การเยี่ยมเยียน, การพบปะ, การติดต่อ, Example: ชาวไทยอีสานและชาวลาวเป็น 2 ชนชาติที่ไม่มีอุปสรรคด้านภาษาในการไปมาหาสู่กัน |
| กระปมกระปำ, กระปมกระเปา | ว. ปุ่มป่ำ, ปมเปา, ตะปุ่มตะป่ำ, เป็นปมเป็นก้อน. | ตวัดลิ้น, ตวัดลิ้นไปมา | ก. พูดกลับกลอก. | ปม | น. เนื้อที่เป็นปุ่มขึ้นตามตัว, ขอดของผ้าหรือเชือก, ข้อยุ่งที่แก้ยาก. | ปมเขื่อง, ปมเด่น | น. ลักษณะอารมณ์และความต้องการที่แสดงออกในทางที่เหนือกว่าบุคคลอื่น. | ปมจิต | น. อารมณ์และความรู้สึกของบุคคลที่เก็บกดสะสมไว้ในจิตใต้สำนึกมาตั้งแต่ในวัยเด็ก ปมจิตนี้จะทำให้บุคคลผู้นั้นแสดงออกในด้านความคิด ความรู้สึก และการกระทำในลักษณะที่ซํ้ากันจนเกิดเป็นอุปนิสัยประจำตัว. | ปมด้อย | น. ลักษณะความคิด ความรู้สึก อารมณ์ หรือการกระทำของบุคคล ที่แสดงออกถึงความตํ่าต้อยกว่าผู้อื่น. | ปมประสาท | น. ตำแหน่งที่อยู่ของเซลล์ประสาท. | ปมเปา | ว. ปุ่มที่เกิดตามเนื้อตามตัว. | ปริกัลปมาลา | น. ระเบียบกริยาในไวยากรณ์ที่บอกความคาดหมาย ความกำหนด. | ปาปมุต | ว. ไม่มีใครถือโทษ. | แปม | ก. เปื้อน, กลั้ว, ระคน, มักพูดเข้าคู่กับคำ ปน เป็น แปมปน หรือ ปนแปม. | ไปมาหาสู่ | ก. ไปเยี่ยมเยียน เช่น เขาไปมาหาสู่ญาติที่ต่างจังหวัดบ่อย ๆ. | ศาปมุกติ์ | (สาปะมุก) น. การพ้นจากผลคำแช่ง. | อปมงคล, อัปมงคล | (อะปะ-, อับปะ-) ว. ปราศจากมงคล, ไม่เจริญ, เป็นลางร้าย. | อปมาน | (อะปะ-) น. การดูหมิ่น, การดูถูก. | อยู่ไปมา | ว. อาการที่ทำต่อเนื่องกันหลายหนหรือเรื่อย ๆ ไป เช่น ยิ้มอยู่ไปมา โบกมืออยู่ไปมา. | อัปมงคล | (อับปะ-) ว. ปราศจากมงคล, ไม่เจริญ, เป็นลางร้าย, อปมงคล ก็ว่า. | อุปมา | (อุปะ-, อุบปะ-) น. สิ่งหรือข้อความที่ยกมาเปรียบ, มักใช้เข้าคู่กับ อุปไมย ในประโยคเช่น เรื่องนี้มีอุปมาฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น. | อุปมา | (อุปะ-, อุบปะ-) ก. เปรียบเทียบ. | อุปมาโวหาร | น. สำนวนเขียนที่กล่าวถึงเรื่องราวโดยยกสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาเปรียบเทียบประกอบ. | อุปมาน | (อุปะ-, อุบปะ-) น. การเปรียบเทียบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน. | อุปมาอุปไมย | (อุปะมาอุปะไม, อุบปะมาอุบปะไม) น. การเปรียบเทียบกัน. | กงเกวียนกำเกวียน | ใช้เป็นคำอุปมาหมายความว่า เวรสนองเวร, กรรมสนองกรรม, เช่น ทำแก่เขาอย่างไร ตนหรือลูกหลานเป็นต้นของตนก็อาจจะถูกทำในทำนองเดียวกันอย่างนั้นบ้าง เป็นกงเกวียนกำเกวียน. | กระเกลือก | ก. เกลือกไปมา เช่น กลํ่าตากระเลือก กระเกลือกกลอกตากลม (ลอ). | กระช้อยนางรำ | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Codariocalyx motorius (Houtt.) H. Ohashi ในวงศ์ Leguminosae ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ใบคู่ล่างเล็กกว่าและกระดิกไหวไปมาได้, ช้อยนางรำ ช้อยช่างรำ หรือ นางรำ ก็เรียก. | กระแด้ง | ว. คดไปมา. | กระตุกกระติก | ว. ตุก ๆ ติก ๆ, อาการที่ห้อยแกว่งไปมา. | กระเท่เร่ | ว. เอียงทื่ออยู่, เอียงไปมาก, มักพูดเข้าคู่กับ เอียง เป็น เอียงกระเท่เร่, โดยปริยายหมายความว่า ลำเอียงมาก. | กระบอกสูบ | น. ส่วนของเครื่องจักรเครื่องยนต์ ลักษณะเป็นโพรงรูปกระบอกอยู่ในเสื้อสูบ เป็นช่องสำหรับบังคับให้ลูกสูบเคลื่อนไปมา. | กระบิด | ก. บิดเชือกหรือตอกให้เขม็งจนขอดเป็นปม. | กระวัด | (-หฺวัด) ก. จับด้ามวัตถุแล้วปัดไปมา เช่น เฉวียงหัตถ์กระวัดวรธนู (สรรพสิทธิ์). | กระหมวด ๑ | ก. บิดม้วนแล้วขอดให้เป็นปม, มุ่น. | กลอกกลับ | ก. เปลี่ยนไปมาเชื่อถือไม่ได้ เช่น พูดจากลอกกลับ, กลับกลอก ก็ว่า. | กลับกลอก | ก. เปลี่ยนไปมาเชื่อถือไม่ได้ เช่น พูดจากลับกลอก, กลอกกลับ ก็ว่า. | กล้านักมักบิ่น | ว. กล้าเกินไปมักจะเป็นอันตราย. | กวะแกว่ง | (กฺวะแกฺว่ง) ก. แกว่งไปมา เช่น ช่อช้อยกวะแกว่งไกว (ม. คำหลวง จุลพน). | กวัด | (กฺวัด) ก. จับด้ามวัตถุแล้วปัดไปมา, ใช้เข้าคู่กับคำ แกว่ง เป็น กวัดแกว่ง หรือ แกว่งกวัด หรือใช้เข้าคู่กับคำ ไกว เป็น กวัดไกว. | กวัดแกว่ง | (กฺวัดแกฺว่ง) ก. จับด้ามวัตถุแล้วปัดไปมา เช่น กวัดแกว่งอาวุธ, ไม่อยู่ที่ เช่น จิตกวัดแกว่ง, แกว่งกวัด ก็ว่า. | กวัดไกว | (กฺวัดไกฺว) ก. วัดเหวี่ยงไปมา, ไม่อยู่ที่, เช่น ใบไม้ต้องลมกวัดไกวไปมา. | กว้างขวาง | ก. แผ่ออกไปมาก, ใหญ่โต, เช่น มีเนื้อที่กว้างขวาง | กะหล่ำ | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Brassica oleracea L. ในวงศ์ Cruciferae มีหลายพันธุ์ เช่น กะหลํ่าปลีหรือกะหลํ่าใบ ( B. oleracea L. var. capitataL.) กะหลํ่าดอกหรือกะหลํ่าต้น ( B. oleracea L. var. botrytis L.) กะหลํ่าดาวหรือกะหลํ่าหัวลำต้น [ B. oleracea L. var. gemmifera (DC.) Thell. ] และกะหลํ่าปม ( B. oleracea L. var. gongylodes L .) . | กัมปี | ก. ไหว เช่น อันว่ามหาปรัตพีผืนผไทแท่น แผ่นผเทศมณฑล สกลกัมปี ดุจครวีไหวหว่นนป่นนไปมาเมื่อน้นน (ม. คำหลวง ฉกษัตริย์). | กาลกรรณี, กาลกิณี | (กาละกันนี, กานละกันนี, กาละกินี, กานละกินี) น. เสนียดจัญไร, ลักษณะที่เป็นอัปมงคล. | กินบุญเก่า | ก. ได้รับผลแห่งความดีที่ทำไว้แต่ปางก่อน (มักใช้เป็นสำนวนอุปมาแก่คนที่นอนกินนั่งกินสมบัติเก่า). | กูปรี | (-ปฺรี) น. ชื่อวัวป่าขนาดใหญ่ชนิด Bos sauveli Urbain ในวงศ์ Bovidae เมื่อโตเต็มที่ตัวผู้สีดำ มีเขาขนาดใหญ่ ส่วนปลายบิดชี้ขึ้นข้างบน ใช้เขาขุดดินและแทงต้นไม้ทำให้ปลายแตกเป็นเส้น ๆ ร่นลงไปมองเห็นเป็นพู่ ตัวเมียสีน้ำตาลอมเทาหรือน้ำตาลเข้ม เขาเล็กกว่า ปลายไม่แตกเป็นพู่ มีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณอีสานใต้ตามชายแดนไทย–กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทยที่ใกล้จะสูญพันธุ์, โคไพร ก็เรียก. | เกน ๆ | ว. อาการที่ตะโกนหรือร้องดัง ๆ ใช้ว่า ตะโกนเกน ๆ ร้องเกน ๆ, เช่น มนนก็จรจรัลไปมาในป่า ก็ได้ยินซ่าศับท์ สำนยงพราหมณ์ไห้ ในต้นไม้เกนเกนอยู่น้นน (ม. คำหลวง ชูชก). | เกร่ | (เกฺร่) ก. เดินไปมาในบริเวณไม่ไกลนัก เช่น วัน ๆ ไปเกร่หน้าโรงหนัง | เกลือก ๑ | (เกฺลือก) ก. กลิ้งหรือเสือกตัวไปมา เช่น เกลือกตม เกลือกฝุ่น, เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งทำเช่นนั้นเพื่อให้สิ่งอื่นติด เช่น เอาขนมเกลือกงา. | เกลือกกลิ้ง | ก. กลิ้งหรือเสือกตัวไปมา เช่น นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอน, เกลือก ก็ว่า | เกลือกกลิ้ง | พยายามช่วยตัวเองเท่าที่จะทำได้ เช่น นอนเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความทุรนทุราย, กลิ้งเกลือก ก็ว่า. |
| preganglionic | -ก่อนปมประสาท [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | putto | เปมเทพ, พุตโต [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | postganglionic | -หลังปมประสาท [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | limoniform; lemon-shaped | -รูปมะนาว [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | lemon-shaped; limoniform | -รูปมะนาว [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | rising action; anabasis | การขมวดปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | resolution; dénouement; falling action | การแก้ปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | simile | อุปมา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | suture, buried | การเย็บซ่อนปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sound, to-and-fro | เสียงฟู่ไปมา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | suture, interrupted | การเย็บทีละปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | analogue; analog | เชิงอุปมาน, แอนะล็อก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | analogue; analog | เชิงอุปมาน, แอนะล็อก [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analogy | อุปมา, แนวเทียบ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | amorino | เปมเทพ [ เป-มะ-เทบ ], อะมอริโน [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog; analogue | เชิงอุปมาน, แอนะล็อก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | analog; analogue | เชิงอุปมาน, แอนะล็อก [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog computer | คอมพิวเตอร์เชิงอุปมาน, แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | analog computer | คอมพิวเตอร์เชิงอุปมาน, แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog data | ข้อมูลเชิงอุปมาน, ข้อมูลแอนะล็อก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | anabasis; rising action | การขมวดปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog device | อุปกรณ์แอนะล็อก, อุปกรณ์เชิงอุปมาน [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog image synthesis | การสังเคราะห์ภาพเชิงอุปมาน, การสังเคราะห์ภาพเชิงเส้น [ มีความหมายเหมือนกับ video synthesis ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog network | วงจรข่ายเชิงอุปมาน, วงจรข่ายแอนะล็อก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | analog recording | การบันทึกเสียงเชิงอุปมาน, การบันทึกเสียงเชิงเส้น [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | analog signal | สัญญาณเชิงอุปมาน, สัญญาณแอนะล็อก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | analog signal | สัญญาณเชิงอุปมาน, สัญญาณแอนะล็อก [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | allegory | อุปมานิทัศน์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | allegory | อุปมานิทัศน์ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | buried suture | การเย็บซ่อนปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | macrame | ๑. งานถักปม๒. ชายครุยถักปม [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | mulberry molar; mulberry tooth | ฟันกรามหลายปม [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | mulberry tooth; mulberry molar | ฟันกรามหลายปม [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | multiple neuroma; disease, von Recklinghausen's; neurofibromatosis; neuromatosis | โรคเนื้องอกเส้นประสาททั่วกาย, โรคท้าวแสนปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | complex | ๑. ซับซ้อน๒. ปม (ทางจิต)๓. กลุ่มรวม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | coroniform | -รูปกะบังรอบ, -รูปมงกุฎ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | complication | การผูกปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | datum node | ปมร่วมอ้างอิง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | dénouement; falling action; resolution | การแก้ปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | disease, von Recklinghausen's; neurofibromatosis; neuroma, multiple; neuromatosis | โรคเนื้องอกเส้นประสาททั่วกาย, โรคท้าวแสนปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ganglion | ๑. ปมประสาท [ มีความหมายเหมือนกับ ganglion, nerve ]๒. แกงเกลียน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ganglion, nerve | ปมประสาท [ มีความหมายเหมือนกับ ganglion ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ganglioneuroma | เนื้องอกปมประสาท [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | flexuous | คดไปมา [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | falling action; dénouement; resolution | การแก้ปม [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | epic simile | อุปมาแนวมหากาพย์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | interrupted suture | การเย็บทีละปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | inferiority complex | ปมด้อย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | volkish essence | ปมเด่น (ของชนเยอรมัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | von Recklinghausen's disease; neurofibromatosis; neuroma, multiple; neuromatosis | โรคเนื้องอกเส้นประสาททั่วกาย, โรคท้าวแสนปม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Tape reel | เทปม้วน [เทคโนโลยีการศึกษา] | Tape reel | เทปม้วน [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Node | ๑. บัพ, จุดต่อ, ปม, ข้อ ๒. สถานีเชื่อมโยง, ๑. บัพ, จุดต่อ, ปม, ข้อ ๒. สถานีเชื่อมโยง [คอมพิวเตอร์] | Remote sensing | การสำรวจระยะทางไกล, การบันทึกหรือการได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุ พื้นที่เป้าหมายด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูล (sensor) จากระยะไกล โดยทั่วไปมักจะหมายถึงดาวเทียมถ่ายภาพวัตถุบนพื้นโลกซึ่งจะสามารถวัดสี ความร้อน ความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ บนพื้นผิวโลกได้ [Assistive Technology] | Inferiority complex | ปมด้อย [TU Subject Heading] | Minolta camera | กล้องถ่ายรูปมินอลต้า [TU Subject Heading] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Organization of European Economic Cooperation | คือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Pacific Charter | คือกฎบัตรแปซิฟิค ซึ่งประกาศ ณ กรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ในโอกาสที่มีการตกลงกันทำสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Southeast Asia Defense Treaty-SEATO ) ประเทศที่ลงนามเป็นภาคีในสนธิสัญญา คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาสาระสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า SEATO (ซีโต้) นั้นคือ ทุกประเทศภาคีจะร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมาตรฐานการครอง ชีพสูงขึ้น มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และมีสวัสดิภาพสังคมที่ดี แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดคามสนธิสัญญาคือ บรรดาประเทศภาคีตกลงที่จะป้องกันหรือตอบโต้ความพยายามใด ๆ ที่จะล้มล้างเสรีภาพที่มีอยู่ในเขตสนธิสัญญา หรือทำลายอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งเขตแดนของประเทศภาคี พูดอย่างสั้น ๆ ก็คือฝ่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ต้องการกีดกันมิให้ประเทศฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้าไปมีอำนาจครอบงำดินแดนเขต เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างสงครามเย็น (Cold War ) โดยวิธีรุกรานหรือวิธีอื่นใดก็ตาม [การทูต] | Schengen States | กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปบางประเทศที่ยอมรับกันให้ประชาชนของแต่ละประเทศ สามารถเดินทางไปมาถึงกันและเข้าเมืองได้โดยไม่มีการตรวจลงตราหรือมีการควบ คุมใดๆ ระหว่างกัน และสำหรับประชาชนจากประเทศที่สาม หากได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศหนึ่งประเทศใดในกลุ่มประเทศนี้แล้ว จะสามารถเดินทางต่อไปประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ได้โดยไม่มีการควบคุม สมาชิกประกอบด้วย เบลเยี่ยม เยอรมนี ฝรั่งเศส กรีซ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน [การทูต] | Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact) | สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต] | The Foreign Office | ในสมัยก่อน เมื่อสังคมนานาชาติมีสมาชิกประเทศอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ประมุขของรัฐหรือหัวหน้าของรัฐบาลจะเป็นผู้บริหารกิจการต่างประเทศด้วยตนเอง แต่มาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันนี้ รัฐบาลของประเทศเกือบจะทุกแห่งจะมีสำนักงานในระดับกระทรวงแยกออกต่างหาก เพื่อดำเนินกิจการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักงานนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันใน แต่ละประเทศ เช่นเรียกว่า The Ministry of (หรือ for) Foreign Affairs, The Ministry of External Affairs, The Department of State หรือ The Department of Foreign Affairs หรือ Gaimusho เป็นต้น ส่วนหัวหน้าสำนักงานหรือเจ้ากระทรวงนั้น จะเป็นบุคคลในคณะรัฐมนตรี และเรียกชื่อตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น The Secretary of Foreign Affairs, The Minister of External Affairs, The Secretary of State หรือ Foreign Minister หรือ Foreign Secretary ตัวรัฐมนตรีนี้จะมีผู้ช่วย ซึ่งบางตำแหน่งเรียกว่า ปลัดกระทรวง (Under-Secretaries), ผู้ช่วยปลัดกระทรวง (Assistant Under-Secretaries) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วงาน ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายธุรการ (Home Service) ทำหน้าที่บริหารกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวกันกับกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการติดต่อเกี่ยวข้องกับคณะทูตานุทูต และฝ่ายที่สองเรียกว่า Foreign Service เป็นฝ่ายดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในต่างแดน อันมีสถานทูต สถานกงสุล และสำนักงานอื่น ๆ เป็นตัวแทน ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายการทูตและฝ่ายวิชาการ ซึ่งประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลและสำนักงานระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศไทยเรายังมิได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายดังกล่าวตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวกลาง ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างประเทศ ส่วนหัวหน้าคณะทูตภายในนครหลวงของแต่ละประเทศจะทำการติดต่อใด ๆ ทั้งหมดกับกระทวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับงานภายในกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกรม กอง โดยถือตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ เช่น กรมหรือกองการเอเชีย กรมการแอฟริกา กรมการอเมริกัน กรมการยุโรป และอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีกรมกองอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และด้านการสื่อสารติดต่อ การประชุม การประสานงานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การคลัง การบริการในต่างประเทศ การสารนิเทศ การกฎหมาย การห้องสมุด การหนังสือเดินทาง การบุคลากร การพิธีการทูต การวิจัย การสนธิสัญญา การตรวจลงตรา (Visa) และการสหประชาชาติในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศ ผู้ที่สมัครขอรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีคุณวุฒิตามที่กระทรวง กำหนด เช่น จะต้องผ่านการสอบไล่ ทั้งในภาคปากเปล่า และข้อเขียน ตลอดจนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการสอบไล่ (Board) ซึ่งจะเป็นฝ่ายให้คะแนนบุคลิกและคุณภาพส่วนตัว แล้วนำคะแนนไปบวกกับคะแนนสอบข้อเขียน ในบางแห่งต้องการให้ผู้สมัครสอบเข้ารับการฝึกอบรม และให้อยู่ในระหว่างการทดลองดูความประพฤติ (Probationary period) อีกด้วย [การทูต] | Zigzag | วกเวียนไปมา [การบัญชี] | Marching | ปรากฏการณ์ที่มอดุลัสของยางมีค่าเพิ่มขึ้น เมื่อยางเกิดสภาวะการคงรูปมากกว่าสภาวะที่เหมาะสม (เกิดโอเวอร์เคียว) เนื่องจากเกิดการเชื่อมระหว่างโมเลกุลหรือโครงร่างแหมากขึ้น มักเกิดในยางเอสบีอาร์ (SBR) หรือ ยางบิวทาไดอีน (Butadiene) [เทคโนโลยียาง] | Overcure | สภาวะของยางที่เกิดปฏิกิริยาวัลคาไนเซชันมากกว่าสภาวะที่เหมาะสม (ยางสุก) อาจเกิดจาการใช้เวลาที่นานเกินไปและ/หรืออุณหภูมิสูงเกินไปในการวัลคาไนซ์ และ/หรือมีสารทำให้ยางคงรูปมากเกินไป ซึ่งยางที่ได้มักจะมีสมบัติทางฟิสิกส์ที่ไม่ดี [เทคโนโลยียาง] | Reversion | ปรากฎการณ์ที่มอดุลัสของยางมีค่าลดลงเมื่อยางเกิดสภาวะการคงรูปมากกว่า สภาวะที่เหมาะสม (เกิดโอเวอร์เคียว) เนื่องจากโมเลกุลหรือโครงร่างแหที่เชื่อมระหว่างโมเลกุลเกิดการสลายตัว มักเกิดในยางธรรมชาติ (NR) [เทคโนโลยียาง] | Silicone rubber | ยางซิลิโคนเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งในแกนสายโซ่หลักของโมเลกุล ประกอบด้วยอะตอมของซิลิกอน (Si) และออกซิเจน (O) มีสูตรโครงสร้างทางเคมีเป็นพอลิไซลอกเซน (polysiloxane) ยางซิลิโคนมีหลายเกรด แต่ละเกรดจะแตกต่างกันที่หมู่ R ที่เกาะอยู่บนสายโซ่หลัก ดังนี้ MQ หมู่ R เป็นหมู่เมทิล (CH 3 ) VMQ หมู่ R เป็นหมู่ไวนิล (CH 2 = CH 2) PMQ หมู่ R เป็นหมู่ฟีนิล (C 6 H 5 ) PVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ฟีนิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล FVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ไตรฟลูออโรโพรพิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล แต่เกรดที่ใช้กันมากที่สุดจะเป็นพอลิเมอร์ของไดเมทิลไซลอกเซน (หมู่ R คือ CH 3) หรือที่มีชื่อย่อว่า MQ สมบัติโดยทั่วไปมีค่าความทนต่อแรงดึง ความต้านทานต่อการขัดถู และความต้านทานต่อแรงกระแทกต่ำมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเติมสารตัวเติมเสริมแรงเช่น ซิลิกาเข้าช่วย แต่ยางซิลิโคนทนต่อสภาพอากาศ ออกซิเจน โอโซน แสงแดด และความร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำมากๆ ได้ เนื่องจากยางชนิดนี้มีราคาสูงมาก ดังนั้นการใช้งานจึงจำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ยางชนิดอื่นๆ ได้ เช่น การผลิตชิ้นส่วนของยานอวกาศ เครื่องบิน รถยนต์ ยางโอริง หน้ากากออกซิเจน แป้นกดของโทรศัพท์มือถือ งานทางการแพทย์และเภสัชกรรม เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Two-roll mill | เครื่องผสมยางแบบสองลูกกลิ้งเป็นเครื่องผสมยางระบบเปิดที่ประกอบด้วย ลูกกลิ้ง 2 ลูก หมุนเข้าหากันด้วยความเร็วต่างกัน ทำให้เกิดแรงเฉือนที่จำเป็นต่อการบดผสมยางกับสารเคมียาง ในการผสมยางกับสารเคมียางจะใส่ยางลงช่องระหว่างลูกกลิ้ง ยางจะถูกรีดออกมาเป็นแผ่นรอบลูกกลิ้งด้านหน้า จากนั้นจึงเติมสารเคมียาง โดยผู้ผสมต้องทำการกรีดยางแผ่นและพับไปมาในขณะที่เติมสารเคมีลงไปในยาง ซึ่งยางที่ถูกตัดพับจะถูกใส่กลับไปช่องระหว่างลูกกลิ้ง แรงเฉือนที่เกิดขึ้นจะช่วยให้สารเคมีต่างๆ กระจายตัวเข้ากับเนื้อยางได้ดี เครื่องผสมยางแบบสองลูกกลิ้งใช้ผสมยางในปริมาณไม่มาก เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญและกำลังคนในการผสม [เทคโนโลยียาง] | Undercure | สภาวะของยางที่เกิดปฏิกิริยาวัลคาไนเซชันต่ำกว่าสภาวะที่เหมาะสม (ยางไม่สุก) อาจเกิดจาการใช้เวลาที่สั้นเกินไปและ/หรืออุณหภูมิที่ต่ำเกินไปในการวัลคาไน ซ์ และ/หรือสารทำให้ยางคงรูปมีไม่เพียงพอ ซึ่งยางที่ได้มักจะมีสมบัติทางฟิสิกส์ที่ไม่ดี [เทคโนโลยียาง] | Ambulation | การฝึกเคลื่อนที่ไปมา, ลุกจากเตียง, การให้ลุกจากเตียง [การแพทย์] | Analogy | การอุปมาอุปไมย [การแพทย์] | Analogy, Method of | การอุปมาน [การแพทย์] | Angiomyolipoma | แองจิโอมัยโอไลโปมา [การแพทย์] | Apomorphine | อาโปมอร์ฟิน, อะโพมอร์ฟีน [การแพทย์] | Apomorphine Hydrochloride | อโปมอร์ฟีนไฮโดรคลอไรด์ [การแพทย์] | Baker's Cyst | ก้อนปมหลังเข่า, ก้อนปมข้อพับ, ถุงของเบเคอร์ [การแพทย์] | Ballottement | การลอยขึ้นลง, การใช้ปลายนิ้วมือที่แนบชิดกันจิ้มหรือกดเร็วๆ, ก้อนแข็งกลมและคลอนไปมาได้, การใช้ปลายนิ้วจิ้มหรือกดเร็วๆเพื่อตรวจ [การแพทย์] | Basal Ganglia | ปมประสาทบาซัล, เบซัลแกงเกลีย [การแพทย์] | Basal Ganglia Diseases | ปมประสาทบาซัล, โรค [การแพทย์] | Bead | เป็นเม็ดๆ, ปม [การแพทย์] | Beaded | เป็นปุ่มปม [การแพทย์] | Calcification, Serpiginous | แบบเส้นขาวทึบขรุขระขดไปมา [การแพทย์] | Carpal Ganglion | ก้อนปมที่ข้อมือ [การแพทย์] | Cervical Ganglion | ปมประสาทของคอมดลูก [การแพทย์] | Chaga's Disease | การเสื่อมสลายของเซลล์ปมประสาทในภายหลัง [การแพทย์] | Channels, Sepiginous | ช่องที่คดไปมา [การแพทย์] | Coiled | ขมวดม้วน, ขดตัวไปมา [การแพทย์] | Conflict, Group | ปมด้อยของสมาชิก [การแพทย์] | Convoluted | คดงอ, นิวเคลียสพับไปมา [การแพทย์] | Corona Radiata | ชั้นรูปมงกุฎที่มีเซลล์ขยายตามยาวมาจากถุงน้ำเลี้ยง [การแพทย์] | Corpus Cardiacum | ปมประสาทคอร์ปัสคาร์ดิเอคัม [การแพทย์] | Cranial Ganglia | ปมประสาทสมอง [การแพทย์] | Cysts, Ganglion | โรคก้อนปม [การแพทย์] | Electrons, Delocalized | อิเลกตรอนที่เคลื่อนที่ไปมาได้ [การแพทย์] | Equilibrium, Reversible | ภาวะสมดุลย์ที่กลับไปมาได้ [การแพทย์] | Exposure, Heavy | รับเชื้อเข้าไปมาก [การแพทย์] | Feel Inferior | ปมด้อย [การแพทย์] | Flexible | ดัดไปต่างๆได้, ยืดหยุ่น, งอไปมา [การแพทย์] | Floater | เห็นจุดดำลอยไปมา, จุดดำลอยไปมา [การแพทย์] | Fold, Complex | ลักษณะเป็นรอยพับไปมา [การแพทย์] |
| Ip | ยิปมัน Ip Man 2 (2010) | Ip | ยิปมัน Ip Man 2 (2010) | We'd hang around for a while and then go have sex in Nick's car. | เราอยู่ที่นั่น ซักพักจากนั้น... ...ไปมีเซ็กซ์กันในรถของนิค Basic Instinct (1992) | Why don't you go back there, keep watching. | งั้นกลับไปมองต่อดีมั้ย? The Bodyguard (1992) | Why am I so changed? | ทำไมฉันถึงเปลี่ยนไปมากนัก Wuthering Heights (1992) | He'd rather I came to him. | เขาอยากให้ฉันเป็นฝ่ายไปมากกว่า Wuthering Heights (1992) | How you killed as many people as the other supply clerks in your outfit. | เฮ้ นี่มันไม่ใช่เรื่องจิงใช่มั้ย รูปมันไม่ได้ตัดต่อใช่มั้ย ไม่ใช่น่ะสิ คุณนักสืบ ชั้นดูเป็นคนโกหกรึไง คุณนี่ยังไงนะ Hero (1992) | That's a lot of shit. | [ ผมสัญญาว่าจะทำอุปกรณ์กีฬาให้ดี จัดตั้งกรุ๊ปมิตติ้งกับหญิงโรงเรียนคังซาน; ] [ ลดการบ้านให้น้อยลง... Hero (1992) | You've certainly changed. | เปลี่ยนไปมากเลยนะเนี่ย The Lawnmower Man (1992) | The back. That's it. Can you do it? | ปมอยู่ข้างหลัง แก้ได้มั้ย? The Lawnmower Man (1992) | He said "Goddamnit, where the hell is them new men?" | พูดว่า "ไอ้บ้า มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน" Of Mice and Men (1992) | I don't care how much they want it. | ผมไม่สนว่าพวกเขา ลยากไปมากแค่ไหน Cool Runnings (1993) | Look at the high line in Omega! He bounces off the wall, ricochets like a pinball. | ดูตอนเข้าโค้งสิ เขากระแทกกำแพง กระเด้งไปมาเหมือนลูกพินบอล Cool Runnings (1993) | Their heads are bouncing around. This is amazing. | หัวของพวกเขาสั่นไปมา นี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ Cool Runnings (1993) | That's more like it. We're gonna go grab a bite to eat. You wanna join us? | ค่อยฟังเข้าท่าหน่อย เราจะไปหาอะไรกิน ไปมั้ย? Cool Runnings (1993) | Oh, I've been there, thank you. | ฉันไปมาแล้วจ๊ะ, ขอบคุณ. Hocus Pocus (1993) | Oh, give over, Ma. | โอ้ให้ผ่านไปมา In the Name of the Father (1993) | I wrote it in the dirt, and I fucking pissed on it! | ฉันเขียนในสิ่งสกปรก, และฉันเป็นร่วมเพศในบทสรุปมันมั In the Name of the Father (1993) | I pissed on it... because I did foul the ball. | I บทสรุปมันในนั้น ... เพราะว่าผมทำลูกเหม็น In the Name of the Father (1993) | Don't go sentimental on me now. | อย่าไปมีอารมณ์อ่อนไหวที่ฉันตอนนี้ In the Name of the Father (1993) | Oh, yes, she's lost so much weight you can't see her anymore. | ใช่ เธอน้ำหนักลดลงไปมาก จนคุณมองไม่เห็นเธออีกแล้ว The Joy Luck Club (1993) | Don't kill yourself against the fence, Clara. | ถ้าเธอตายก่อนเธอก็ไม่รู้ว่าต่อไปมีอะไร Schindler's List (1993) | Taking out the garbage, and there it was, just hovering. | เอาขยะออกไปทิ้ง แล้วเห็นมันอยู่นั่น บินร่อนไปมา Squeeze (1993) | It's like... and then they just hang there and hover without making a sound. | ผมชอบมัน (เสียงหอน) แล้วมันก็ค้างอยู่ตรงนั้น อีกทั้งร่อนไปมา โดยไม่มีเสียง Squeeze (1993) | Of doing those manoeuvres. | ยักย้ายไปมาด้วยความเร็วสูง Squeeze (1993) | If you throw me out now, it's like you never opened your door... like you let me die right there in front of it. | ถ้าคุณให้ฉันไปมันก็เหมือน คุณไม่เคยเปิดประตูของคุณ... เหมือนคุณปล่อยให้ฉันตาย ตรงหน้าประตูนั่นแหละ Léon: The Professional (1994) | And you wanna join him? | เธออยากตามเขาไปมั้ย Léon: The Professional (1994) | - Phil-lip Mor-ris. | - ฟิลลิปมอ--RIS Pulp Fiction (1994) | - [ Woman ] Go for it. | - [ ผู้หญิง ] ไปมัน Pulp Fiction (1994) | A few decades before the Europeans | เมื่อ 2-3 ทศวรรษก่อนชาวยุโรปมาถึง Rapa Nui (1994) | You had sex and now you're confused Was it good at least? | อย่างน้อยมันก็ดีสินะ ไปมีเซ็กซ์มาแล้วตอนนี้มาสารภาพ? Wild Reeds (1994) | Maybe he found someone else. | คงจะไปมีคนใหม่มั้ง Wild Reeds (1994) | Tommy took to it pretty well, too. | ทอมมี่เอาไปมันสวยดีเกินไป The Shawshank Redemption (1994) | It's this year's Hula-Hoop. Something like that. | อย่างกับเล่นฮูล่าฮูปมาทั้งปี หรืออะไรทำนองนั้น In the Mouth of Madness (1994) | I'll be fine. All right? Really. | ฉันไม่เป็นไรหรอกจะบอกให้ จริงนะ\ ฉันขอให้เธอไปมีความสุขมากๆ The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | I'm supposed to attach a bracket-y thing to the side things using a bunch of these little worm guys. | ฉันควรจะประกอบ แผ่นด้านหลังเข้ากับด้านข้าง โดยใช้ไอ้ตัวหนอนในรูปมาเชื่อม The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | And try not to let my vulnerability become any kind of a factor here. | อย่าเอาความอ่อนแอ่หรือปมด้อยฉัน มาคิดตอนนี้นะ The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | See, the problem is, though after the concert's over, no matter how great the show was you girls are always looking for the comedian again. | แต่ปัญหาก็คือ... พอจบคอนเสิร์ตแล้วไม่ว่ามันจะดีแค่ไหน ผู้หญิงก็ยังไปมองหาดาวตลกอยู่ดี The One with the Sonogram at the End (1994) | Holy monkey! | ให้ผมแบกไปมั้ย Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Very good. | วันชำระบาปมาถึงแล้ว Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | We lost a lot in the rain, but we still have a chance. | เราเสียดินไปมากกับฝน แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Leave the bank book and the car keys... in the kitchen on your way out! | จะเอายังไง ทิ้งสมุดเช็คกับกุญแจรถ ตอนเธอออกไปด้วย จะไปมั้ย Heat (1995) | Nothing's wrong. Everything's right. | เปล่า ไม่มีอะไร จะไปมั้ย Heat (1995) | Where the hell is he? | ไปมุดหัวอยู่ไหน Heat (1995) | Make a hard knot. | ทำให้ปมอย่างหนัก Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | Oh. He must have changed a lot, then. | งั้นเขาคงจะเปลี่ยนไปมากสินะ Rebecca (1940) | I wonder if I did a very selfish thing in marrying you. | ผมสงสัยว่าผมเห็นเเก่ตัวไปมั้ยที่มาเเต่งงานกับคุณ Rebecca (1940) | I used to listen to him walking up and down, up and down, all night long, night after night, thinking of her, suffering torture because he'd lost her. | ฉันเคยฟังเสียงนายท่านเดินขึ้นลงไปมา คืนเเล้วคืนเล่า เฝ้าคิดถึงแต่คุณนาย ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะท่านสูญเสียคุณนายไป Rebecca (1940) | Yes, the growth was deep-rooted. An operation would have been no earthly use at all. | ครับมะเร็งลุกลามไปมากแล้ว ต่อให้ผ่าตัดก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ Rebecca (1940) | Will everyday life know them again? | พวกเขาจะกลับไปมีชีวิตแล้วหรือ? Night and Fog (1956) |
| อัปมงคล = อปมงคล | [appamongkhon] (adj) EN: inauspicious ; unfortunate ; unfavourable ; unpropitious FR: sinistre ; lugubre | เดินไปมา | [doēn pai mā] (v, exp) FR: aller et venir | จิโปม | [jipōm] (n, exp) EN: Short-tailed Cricket | กะหล่ำปม | [kalam pom] (n, exp) EN: Kohl Rabi | การส่ายไปมา | [kān sāi pai mā] (n, exp) EN: oscillation | คำอุปมา | [kham uppamā] (n) EN: metaphor FR: métaphore [ f ] | เงื่อนปม | [ngeūoen-pom] (n) EN: condition ; agreement ; restriction ; term | อ้อมค้อมไปมา | [ømkhøm pai mā] (v, exp) FR: tourner autour du pot | โอนเอนไปมา | [ōn-ēn pai-mā] (v, exp) EN: totter | ไปมา | [pai-mā] (adv) EN: back and forth ; to and fro | ไปมาหาสู่ | [pai-mā hāsū] (v, exp) EN: visit ; meet | ผู้สัญจรไปมา | [phū sanjøn pai-mā] (n, exp) EN: passers-by | ปม | [pom] (n) EN: blotch ; node ; knob ; protuberance ; bump FR: tache [ f ] ; bouton [ m ] ; grosseur [ f ] ; tumeur [ f ] | ปม | [pom] (n) EN: knot FR: noeud [ m ] | ปม | [pom] (n) EN: crux ; knot ; hitch ; catch ; clue ; crucial reason FR: difficulté [ f ] ; noeud [ m ] ; coeur du problème [ m ] ; point capital [ m ] ; point crucial [ m ] | ปมเชือก | [pom cheūak] (n, exp) FR: noeud [ m ] | ปมเด่น | [pomden] (n, exp) EN: superiority complex FR: complexe de supériorité [ m ] | ปมด้อย | [pomdǿi] (n) EN: inferiority complex ; weak point FR: complexe d'infériorité [ m ] | ปมจิต | [pomjit] (n) EN: mental complex FR: complexe [ m ] ; trait de caractère [ m ] | ปมเขื่อง | [pomkheūang] (n, exp) EN: superiority complex FR: complexe de supériorité [ m ] | ปมกอร์เดียน | [pom kødīen] (n, exp) EN: Gordian knot FR: noeud gordien [ m ] | ปมเงื่อน | [pom ngeūan] (n, exp) EN: problem | ปมปัญหา | [pom panhā] (n, exp) EN: crux ; problem FR: noeud de l'affaire [ m ] | ปมประสาท | [pom prasāt] (n, exp) EN: ganglion ; nerve center ; site of nerve cells FR: ganglion [ m ] ; glande [ f ] (fam.) | ปมสังหาร | [pom sanghān] (n, exp) EN: clues of murder ; murder case | ส่ายไปมา | [sāi pai mā] (v, exp) EN: oscillate | อุปมา | [uppamā] (n) EN: analogue ; comparison ; analogy ; simile ; metaphor ; figure of speech FR: analogie [ f ] ; comparaison [ f ] ; métaphore [ f ] | อุปมา | [uppamā] (v) EN: compare ; liken FR: comparer | อุปมาน | [uppamān] (n) EN: analogue ; comparison ; analogy ; simile ; metaphor FR: induction [ f ] | อุปมาน | [uppamān] (v) EN: infer; induce FR: induire ; inférer | อุปมาอุปไมย | [uppamā-uppamai] (n) EN: metaphor ; analogy ; simile ; comparison FR: métaphore [ f ] | วกเวียนไปมา | [wokwīen pai mā] (v, exp) EN: meander ; use circumlocution ; ramble on |
| | bandy with | (phrv) ทะเลาะกับ, See also: โต้ตอบกันไปมา ด้วยอารมณ์โกรธ | cat-o-nine-tails | (n) แส้เก้าสายขมวดปมใช้ทำโทษนักโทษในอดีต | crisscross | (vi) เคลื่อนที่สลับไปมา | crisscross | (adj) ซึ่งเคลื่อนที่สลับไปมา | crisscross | (vt) ทำให้เคลื่อนที่สลับไปมา | crisscross | (adv) อย่างไปมาสลับกัน | commute into | (phrv) เดินทางไปมา (จากบ้านไปยังอีกสถานที่ในแต่ละวัน), Syn. commute from | commute to | (phrv) เดินทางไปมา (จากบ้านไปยังอีกสถานที่ในแต่ละวัน) | dangle about | (phrv) ห้อยไว้, See also: แกว่งไปมา, Syn. dangle around | dangle around | (phrv) ห้อยไว้, See also: แกว่งไปมา, Syn. dangle about | dangle round | (phrv) ห้อยไว้, See also: แกว่งไปมา, Syn. dangle about | drink off | (phrv) ดื่มเข้าไปมาก | drop off | (phrv) อยู่ต่ำลงไปมากทันที, Syn. drop away, fall off, fall away | embroil in | (phrv) ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของ (สิ่งที่ไม่น่ายินดี), See also: ทำให้เข้าไปมีส่วนร่วมใน | fiddle with | (phrv) ปัดมือหรือส่ายมือเล่นไปมากับ...อย่างไร้จุดมุ่งหมาย, Syn. fidget with | fidget about | (phrv) กระสับกระส่าย, See also: ขยับไปมาอย่างอยู่ไม่สุข | fidget with | (phrv) ขยับเล่น (บางสิ่ง) ไปมากับ...อย่างไร้จุดมุ่งหมาย, Syn. fiddle with | flap about | (phrv) ส่ายไปมาอย่างไร้ทิศทาง, See also: แกว่งไปมาอย่างไร้ทิศทาง, Syn. flap around | flap around | (phrv) ส่ายไปมาอย่างไร้ทิศทาง, See also: แกว่งไปมาอย่างไร้ทิศทาง, Syn. flap about | defect | (n) ข้อบกพร่อง, See also: จุดอ่อน, จุดผิดพลาด, มลทิน, ปมด้อย, ข้อตำหนิ, Syn. flaw, blemish, deficiency, Ant. adequate, strength | enter | (vt) เข้าร่วม, See also: เข้าไปมีส่วนร่วม, เป็นสมาชิก, Syn. enroll, join, take part in | erg | (n) พื้นที่ในทะเลทรายที่มีลมพัดกวาดทำให้ทรายปลิวไปมา โดยเฉพาะในทะเลทรายซาฮาร่า, Syn. desert | figuration | (n) การอุปมาอุปไมย | figurative | (adj) ซึ่งเป็นอุปมาอุปไมย, See also: ซึ่งเปรียบเทียบ, Syn. allegorical, symbolic | figure | (n) การใช้อุปมาอุปมัย, See also: ถ้อยคำสำนวนโวหาร, ความเปรียบ | figure of speech | (n) การใช้อุปมาอุปมัย, See also: การใช้สำนวนโวหาร, การเปรียบเทียบ, สำนวนที่สละสลวย, Syn. comparison, metaphor, simile | flicker | (vi) สั่นไหว, See also: เคลื่อนที่ไปมา, Syn. vibrate, quiver | floating | (adj) ซึ่งไม่อยู่กับที่, See also: ซึ่งเคลื่อนไหวได้, ที่แกว่งไปมา, Syn. movable, fluctuating, free | flop | (vi) ตกหรือห้อยลงมาอย่างไม่เป็นระเบียบ, See also: สะบัดไปมา, แกว่งไปมา | go between | (phrv) เดินทางไปมาระหว่าง | hang about | (phrv) แขว่งไปมาจากหรือรอบส่วนของร่างกาย, Syn. hang around, hang round | hang around | (phrv) แขว่งไปมาจากหรือรอบส่วนของร่างกาย, Syn. hang about, hang round | hang round | (phrv) แขว่งไปมาจากหรือรอบส่วนของร่างกาย, Syn. hang about, hang around | ganglion | (n) ปมประสาท, Syn. nerve center | hangman's knot | (n) ปมแขวนคอ | have come a long way | (idm) ก้าวหน้าไปมาก | walk the floor | (idm) เดินไปมาด้วยความกังวลใจ | ill-omened | (adj) อัปมงคล, See also: เป็นลางร้าย, เป็นลางไม่ดี, ไม่เป็นมงคล, Syn. ill-fated, inauspicious, Ant. auspicious | imagery | (n) การอุปมาอุปไมย, See also: การเปรียบเทียบ, Syn. figurativeness, metaphor | inauspicious | (adj) อัปมงคล, See also: ซึ่งไม่เป็นมงคล, ซึ่งเป็นลางร้าย, Syn. foreboding, ill-omende, Ant. auspicious, rosy | inferiority | (n) ความด้อย, See also: ปมด้อย, Syn. minority, unimportance, imperfection | inferiority complex | (n) ปมด้อย, Syn. Oedipus complex, jealousy | kick about | (phrv) เตะสะเปะสะปะ, See also: เตะไปมา, เตะแบบไร้ทิศทาง, Syn. knock about | kick around | (phrv) เตะสะเปะสะปะ, See also: เตะไปมา, เตะแบบไร้ทิศทาง, Syn. knock about | kick round | (phrv) พยายามพูดวนไปมาเกี่ยวกับ, Syn. kick about | knock about | (phrv) เตะสะเปะสะปะ, See also: เตะไปมา, เตะแบบไร้ทิศทาง, Syn. kick about, knock around | knock around | (phrv) เตะสะเปะสะปะ, See also: เตะไปมา, เตะแบบไร้ทิศทาง, Syn. kick about, knock about | knot together | (phrv) ผูกเป็นปม, See also: ทำเป็นปม | lash about | (phrv) ส่ายไม่หยุด, See also: ส่ายไปมา, Syn. lash around | lash around | (phrv) ส่ายไม่หยุด, See also: ส่ายไปมา, Syn. lash about |
| allusion | (อะลู' เชิน) n. การพาดพิงถึง, การหมายถึง, คำอุปมา, Syn. mention, reference | allusive | (อะลู' ซิฟว) adj. ซึ่งพาดพิงถึงบางอย่าง, ซึ่งอ้างอิง, ซึ่งพูดเป็นนัย, อุปมาอุปไมย. | ambulatory | (แอมบิวละโท' รี) adj. เกี่ยวกับการเดิน, เหมาะสำหรับเดิน, เดินไปมา, แข็งแรงพอที่จะเดินได้แล้ว (ลงจากเตียง) , เปลี่ยนแปลงได้. -n. ระเบียง, ที่เดินเล่นที่มีหลังคา, Syn. walking | anaclisis | (แอนนะไคล' ซิส) n. ขบวนการเลือกแบบหนึ่งทางจิตวิเคราะห์ โดยดูจากปมที่เกี่ยวกับตัณหา (livido) . -anaclitic adj. | analog | (แอน' นะลอก) n. = analogue อะนาล็อก เชิงอุปมานหมายถึง วิธีการเก็บข้อมูลที่ได้จากการวัดในลักษณะต่อเนื่อง เช่น วัดความเร็วของรถยนต์จากการหมุนของวงล้อ ตรงข้ามกับ ดิจิตอล (digital) ซึ่งหมายถึง การเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลข นาฬิกามีใช้ทั้งสองแบบ ซึ่งจะบอกความแตกต่างระหว่างอะนาล็อกและดิจิตอลได้ชัดเจน กล่าวคือ แบบหนึ่งจะแสดงเวลาเป็นตัวเลข ส่วนอีกแบบหนึ่งใช้เข็มสั้นและเข็มยาวเป็นตัวบอกเวลา เรียกว่าแบบอะนาล็อก คอมพิวเตอร์นั้นมีสองชนิด คือชนิดอะนาล็อกและชนิดดิจิตอล แต่คอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักกันนั้นจะเก็บเฉพาะข้อมูลที่เป็นดิจิตอล "เสียง" เป็นข้อมูลที่มีลักษณะเป็นอะนาล็อก เมื่อจะนำเข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์ จะต้องถูกนำไปเปลี่ยนเป็นดิจิตอลก่อน โดยให้ผ่านอุปกรณ์ชนิดหนึ่งเรียกว่า "โมเด็ม" ดู digital เปรียบเทียบ | analogic | (al) (แอนนะลอจ' จิค, -เคิล) adj. คล้ายกัน, เหมือนกัน, อุปมา, เปรียบเหมือน analogism (อะแนล' โลจิสซึม) n. อนุมานหรือการอ้างอิงจากการเปรียบเทียบ -analogist n., -analogistic adj. (reasoning, analogy) | analogize | (อะแนล'โชไจซ) vt., vt. ใช้วิธีการอุปมาเปรียบเทียบในการอธิบายหรือโต้เถียง, ทำการอุปมาในลักษณะเหมือนกัน | analogous | (อะแนล' โลเกิส) adj. เหมือนกัน, คล้ายคลึงกัน, อุปมาเหมือน. -analogousness n., Syn. akin, Ant. unlike | analogue | (แอน' นะลอก) n. ของที่คล้ายกัน, ค่าที่มีความต่อเนื่องกันโดยตลอด, เชิงอุปมาน หมายถึง การแทนปริมาณแดสงจำนวนโดยการวัดในลักษณะต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ความเร็วของรถยนต์ ซึ่งวัดได้จากความเร็วของการหมุนของวงล้ออาจจะแทนได้ด้วยจำนวนเลข ดู digital เปรียบเทียบ | analogy | (อะแนล' โลจี) n. ความคล้ายคลึงกัน, ความเหมือนกัน, ภาวะอุปมาเหมือน, การเปรียบเหมือน, ประสิทธิภาพเหมือนกัน (resemblance) | arbutus | (อาร์บิว'ทัส) n., (pl. -tuses) ชื่อต้นไม้ในยุโรปมีผลสีม่วง (trailling arbutus) | bank switching | การสลับชิปไปมาหมายถึง การสลับไปมาของการใช้ชิปในหน่วยความจำเดิมที่ติดมากับเครื่อง กับหน่วยความจำที่เพิ่มภายหลัง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้รู้สึกเสมือนว่า หน่วยความจำทั้งสองนั้นเป็นหน่วยความจำเดียวกัน เช่น บริษัทไอบีเอ็มผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาขายในตลาดโดยมีหน่วยความจำติดมาภายในตัวเครื่องเพียง 640 เคไบต์ แต่เรานำไปเพิ่มหน่วยความจำเป็นถึง 16 เมกกะไบต์ การที่จะทำให้หน่วยความจำเดิมกับหน่วยความจำที่เพิ่มมาใหม่ทำงานสลับกันไปมาได้ ก็จะต้องอาศัยการสลับชิปไปมานี้ อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ใช้เครื่อง (user) ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นหน้าที่ของช่างฝ่ายเทคนิคที่จะต้องติดตั้งหรือจัดการทำให้ | basic | (เบ'ซิค) 1. adj. เกี่ยวกับฐาน, เกี่ยวกับด่าง 2. เป็นภาษาระดับสูง (high level language) ภาษาหนึ่งใช้ในการเขียนโปรแกรม ภาษาเบสิกนี้เขียนง่าย ๆ เหมาะกับผู้เริ่มต้นเรียน คำว่า BASIC นั้นย่อมาจาก Beginner's All-purpose Symbolic Instruction Code แปลได้ว่า รหัสคำสั่งที่เป็นสัญลักษณ์เอนกประสงค์สำหรับผู้เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ เมื่อเริ่มนำออกใช้ใหม่ ๆ ภาษานี้มีข้อจำกัดมาก ในปัจจุบันแม้จะมีการพัฒนาภาษานี้ไปไกลแล้ว แต่นักทำโปรแกรมทั่วไปมักจะดูถูกว่า เป็นภาษาสำหรับผู้เริ่มต้น และไม่นิยมนำมาใช้ในการเขียนโปรแกรมใหญ่ ๆ ข้อดีของภาษานี้ก็คือ จะทราบที่ผิดและแก้ไขได้ทันที | becket | (เบค'คิท) n. เชือกขนาดสั้นชนิดหนึ่งที่มีปมของเรือ | blasphemous | (แบลส'ฟิมัส) adj. adj. ซึ่งดูหมิ่น, ซึ่งสบประมาทหรือดูหมิ่นศาสนา, หยาบคาย, อัปมงคล | burl | (เบิร์ล) { burled, burling, burls } n. ก้อนเส้นด้าย, จุดด่าง, จุดเงื่อน, ตาไม้, แผ่นไม้ที่มีตาไม้ -v. ขจัดปมผ้าออก | card sorter | เครื่องเรียงบัตร <คำแปล>หมายถึง เครื่องจักรที่ใช้สำหรับเรียงลำดับบัตรที่มีข้อมูลเจาะไว้แล้ว เครื่องนี้จะสามารถอ่านข้อมูลบนบัตรแล้วจัดการเรียงลำดับให้ เช่น ถ้าเป็นจำนวนเลข ก็จะเรียงจากน้อยไปมาก หรือจากมากไปน้อย หรือถ้าเป็นตัวอักษร อาจเรียงตามลำดับตัวอักษรให้ก็ได้ | carrick bend | n. n. ปมเงื่อนเชื่อมต่อเชือกสองเส้น | cat | 1. (แคท) n. แมว, สัตว์ในตระกูลแมว, หญิงที่มีใจอำมหิต, บุคคล 2. (ซีเอที) ย่อมาจาก computer-aided translation แปลว่า การแปลภาษาใช้คอมพิวเตอร์ช่วย หมายถึงการแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย เช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทย การแปลในลักษณะนี้ จะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจำศัพท์ ไวยากรณ์ รวมทั้งบริบท (context) ต่าง ๆ โปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาไปมากแล้วคือโปรแกรมที่แปลจากอังกฤษเป็นฝรั่งเศส และฝรั่งเศสเป็นอังกฤษ (บางตำราว่า CAT ย่อมาจาก computer aided training แปลว่า การอบรมใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) | changeful | (เชน'จฺฟูล) adj. เปลี่ยนแปลง, เปลี่ยนได้ง่าย, เปลี่ยนไปมาก, ไม่แน่นอน, See also: changefulness n., Syn. variable, Ant. certain | commutation | (คอมมิวเท'เชิน) n. การแลกเปลี่ยน, การเปลี่ยนแทนกัน, การเดินทางไปมาตามปกติระหว่างบ้านกับที่ทำงาน, การเปลี่ยนโทษจำคุกให้เป็นโทษอื่นที่เบากว่า, การเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า, เงินชดเชย, Syn. substitution | compare | (คัมแพร์ ') { compared, comparing, compares } vt .เปรียบเทียบ, เทียบเคียง, อุปมา. vi. เทียบได้กับ, สู้ได้, เทียบได้กับ, การเปรียบเทียบ, การเทียบเคียง., See also: comparer n. ดูcompare -Conf. contrast | computer-aided translatio | การแปลใช้คอมพิวเตอร์ช่วยใช้ตัวย่อว่า CAT (อ่านว่า ซีเอที) หมายถึงการแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยใช้คอม พิวเตอร์ช่วย เช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทย การแปลในลักษณะนี้ จะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจำศัพท์ ไวยากรณ์ และบริบท (context) ต่าง ๆ โปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาไปมากแล้วคือโปรแกรมที่แปลจากอังกฤษเป็นฝรั่งเศส และฝรั่งเศสเป็นอังกฤษ | conceit | (คันซีท') { conceited, conceiting, conceits } n. ความหยิ่ง, ความทะนง, ความถือดี, ความคิด, จินตนาการ, ความเพ้อฝัน, ข้ออุปมาแห่งจินตนาการ vt. จินตนาการ, ติดอกติดใจ, Syn. egoism, egotism, self-esteem, notion, Ant. modesty, diffidence | connective tissue | เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อชนิดนี้มีเซลล์น้อยแต่มี matrix มาก เนื้อเยื่อชนิดนี้พบได้ทั่วไปใปมากกว่าเนื้อเยื่อชนิดอื่นทำหน้าที่ให้เนื้อเยื่ออื่นยึดเกาะติดกัน รองรับและห่อหุ้มเนื้อเยื่ออื่น ๆ ช่วยให้อาหารให้แก่เนื่อเยื่อที่เกาะอยู่ ป้องกันและให้ความปลอดภัยแก่ร่างกายโดยทำหน้าที่ซึม ทำลายวัตถุที่แปลกปลอม ยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อทีสึกหรอ แบ่งออกเป็น สองชนิดคือ 1.embryonic 1.1 mesenchyme เจริญมาจากชั้น mesoderm จะพบใน embryo และเจริญขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น connective tissue ชนิดต่าง ๆ 1.2 mucous connective tissue ลักษณะคล้ายเมือกข้นที่ขับจากต่อมน้ำมูก (mucin) มีกลุ่มของอเส้นใยละเอียดสีขาว พบได้ที่สายสะดือเด็กเรียกว่า wharton's jelly 2. adult 2.1 เนื้อเยื่อเกี่ยวพันแท้ 2.2 เลือดและน้ำเหลือง 2.3 กระดูกอ่อน 2.4 กระดูกแข็ง | crank | (แครงคฺ) { cranked, cranking, cranks } n. ข้อเหวี่ยง, ที่หมุน, ด้ามหมุน, คนที่มีนิสัยฉุนเฉียวง่าย, ความคิดที่ประหลาด, คนระห่ำ vt., vi. งอเป็นรูปด้านหมุน, หมุนข้อเหวี่ยง, หมุนมือหมุน, บิดไปมา adv. ไม่แน่นอน, บ้า ๆ บอ ๆ adj. กลิ้งได้ง่าย, พลิกง่าย, คว่ำง่าย, ร่าเริง, มีชีวิตชี | crisscross | (ครีส'ครอส) adj. ไขว้, กากบาท, แกงได้, ซึ่งตัดสลับกัน n. กากบาท, แกงได้, ความยุ่งเหยิง, ความสับสน. vt. เขียนกากบาท, เขียนแกงได้ vi. เคลื่อนสลับไปมา, Syn. crosswise | crown | (เคราน์) n. มงกุฎ, มาลัย, มาลัยสวมศีรษะ, เครื่องประดับสำหรับศีรษะ, เกียรติยศจากผลงานที่ดีเด่น, -Phr. (the Crown ผู้มีอำนาจสูงสุด) , รัฐาธิปัตย์, เหรียญเงินตราที่มีรูปมงกุฎ, กษัตริย์, เหรียญเงินของอังกฤษสมัยก่อนที่เท่ากับ 5 ชิลลิงส์, ส่วนที่โผล่ขึ้นมา, สิ่งประดับบนยอด | curse | (เคิร์ส) n. คำสาปแช่ง, คำแช่งด่า, คำสบถ, ความหายนะ, ภัยภิบัติ, ความอัปมงคล, สิ่งระยำ, คนระยำ, สิ่งที่ร้าย, สิ่งที่ถูกสาปแช่ง, การขับออกจากศาสนา vt. นำความชั่วร้ายหรือความหายนะ vi. สาปแช่ง, สบถ, Syn. exoriate, damn | deep-going | adj. เข้าไปมาก, ลึกล้ำ, ลึกซึ้ง | deeply | adv. ลึกลงไปมาก, มาก, อย่างฉลาดแกมโกง, Syn. profoundly | defect | (ดิเฟคทฺ') { defected, defecting, defects } n. ข้อบกพร่อง, ปมด้อย, ข้อเสียหาย, สิ่งที่ขาดตกบกพร่อง. vi. ละทิ้ง, เอาใจออกห่าง, หนีงาน, หลบหนีออกนอกประเทศ, Syn. flaw-A. strength | demerit | (ดิเมอ'ริท) n. ข้อบกพร่อง, ข้อเสีย, ปมด้อย | dolly | (ดอล'ลี) n. ตุ๊กตา, รถเตี้ยล้อเล็กสำหรับขนของ, รถไฟบนรางแคบ vt. เคลื่อนไปมาด้วยรถเตี้ย. vi. เคลื่อนกล้องถ่ายภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ด้วยรถเตี้ย, Syn. doll | fiddle | (ฟิด'เดิล) n. ซอ, ไวโอลิน -Id. -Phr. (play second fiddle (to) เชื่อฟัง, เป็นมือรองของ) . v. เล่นซอหรือไวโอลิน, ส่ายมือไปมาอย่างหลับหูหลับตา, เสียเวลา., See also: fiddler n., Syn. dawdle | figurate | adj. เกี่ยวกับรูปร่าง, เป็นอุปมาอุปไมย, | figuration | n. การทำเป็นรูปเป็นร่าง, รูปร่าง, เค้าโครง, การอุปมาอุปไมย | figurative | adj. เป็นอุปมาอุปไมย, ซึ่งแสดงเป็นรูปเป็นร่าง., See also: figurativeness n. | figure | (ฟิก'เกอะ) { figured, figuring, figures } n. รูปร่าง, รูปภายนอก, รูปหล่อ, รูปสลัก, ร่าง, ทรวดทรง, ภาพวาด, ตัวเลข, จำนวน, จำนวนเงิน, ราคา, เครื่องหมาย, สัญลักษณ์, รูปแบบ, แบบแผน, อุปมาอุปไมย, แบบระบำ, แบบสำนวน vt. คำนวณ, แสดงออกเป็นรูป, สรุป, วาดภาพ, จินตนาการ, ประเมิน, คิด, คาดคะเน. | flatbed plotter | พล็อตเตอร์แบบระนาบหมายถึงเครื่องวาดที่สามารถวาดบนแผ่นกระดาษที่วางแบน ๆ เรียบ ๆ ได้ ประกอบด้วยก้านซึ่งเคลื่อนที่ไปมาได้ มีหัววาดซึ่งอาจเป็นปากกา ดินสอ หรืออุปกรณืพิเศษอื่น ๆ ติดอยู่ ขนาดของกระดาษที่ใช้มีต่างกันตั้งแต่ 28x43 ซม. จนถึง 2.44x3.66 เมตร อัตราความเร็วของการวาดมีตั้งแต่ 15 ถึง 100 ซม. ต่อวินาที นิยมนำมาใช้วาดแผนที่ กราฟ หรือการแสดงภูมิอากาศ | flitter | (ฟลิท'เทอะ) vt., vi. โฉบ, กระพือปีก, บินไปมาอย่างรวดเร็ว, ทำ ๆ หยุด ๆ , เต้น ๆ หยุด ๆ , สั่นเทา n. ผู้โผ, ผู้โถม, ผู้โฉบ, สิ่งที่บินวับไป, สิ่งที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, Syn. flutter | fluctuate | (ฟลัค'ชุเอท) vi., vt. (ทำให้) ผันแปร, ขึ้น ๆ , ลง ๆ , แกว่งไปมา, เปลี่ยนแปลง, Syn. waver | flutter | (ฟลัท'เทอะ) { fluttered, fluttering, flutters } vi., n. (การ, ทำให้) กระพือปีก, ตีปีก, เคลื่อนไปมาอย่างรวดเร็ว, สั่น, สั่นระริก, ใจสั่น, เต้นไม่สม่ำเสมอ เท้าตบน้ำขึ้น ๆ ลง ๆ โดยไม่งอเข่าvt. กระพือปีก, ตีปีก, ทำให้กระวนกระวายใจ, ทำให้ยุ่งใจ., See also: flutterer n. | flying | (ไฟล'อิง) adj. ซึ่งบิน, เกี่ยวกับการบิน, ล่องลอย, เหมือนบิน, แกว่งไปมา, ปลิว, สะบัด, เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว, แพร่กระจาย, เร่งรีบ, สั้น, ชั่วประเดี๋ยว. n. การบิน. adv. ซึ่งทำได้รวดเร็ว, ไม่เฉไม่เฉียง, Syn. speedily, swiftly | free-swimming | adj. ซึ่งสามารถว่ายไปมาได้, ตรงไปตรงมา, อิสระ, ไม่ยึดมั่น | gad | (แกด) vi. เคลื่อนไปเคลื่อนมาอย่างไม่หยุด, ร่อนเร่, ไป ๆ มา ๆ อย่างไร้จุดหมาย. n. คนที่เร่ร่อนไปมา, ปฏักหรือด้ามแทงสำหรับไล่วัวควาย, เครื่องมือปลายแหลมสำหรับเจาะหาหินแร่. vt. เจาะผ่าด้วยเครื่องมือดังกล่าว, Syn. idle, rove, roam | ganglion | n. ปมประสาท, เนื้องอกเป็นถุงที่เอ็น, ศูนย์กลาง., See also: ganglial, gangliar adj. -pl. ganglia, ganglions | gleeman | (กลี'มัน) n. นักร้องอาชีพที่เที่ยวเดินไปมา | half hitch | ปมเชือกที่แก้หลุดได้ง่าย | halt instruction | คำสั่งให้หยุดเป็นคำสั่งในโปรแกรมที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดปฏิบัติการชั่วคราว และให้รอจนกว่าจะมีคำสั่งให้ไปทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น สั่งให้ไปหยิบม้วนเทปมาใส่ หรือเปลี่ยนจานบันทึกแผ่นที่ต้องการ มีความหมายเหมือน pause instruction |
| analogous | (adj) คล้ายคลึง, เหมือนกัน, อุปมาเหมือน | analogy | (n) ความคล้ายคลึง, การอุปมา, การเปรียบเทียบ | approachable | (adj) ซึ่งเข้าถึงได้, ไปมาสะดวก, พูดง่าย | astir | (adv) เคลื่อนไหวไปมา | calling | (n) อาชีพ, การเรียกร้อง, การเยี่ยมเยียน, การไปมาหาสู่ | clue | (n) ร่องรอย, เงื่อนงำ, เงื่อนไข, เบาะแส, ปม | compare | (vt) เปรียบเทียบ, เทียบเคียง, อุปมา | comparison | (n) การเปรียบเทียบ, การเทียบเคียง, การอุปมา | complex | (n) ความลำเอียง, จิตวิปลาส, ปมด้อย | cruise | (n) การแล่นเรือ, การแล่นไปมา | cruise | (vi) แล่นไปมา, แล่นไปเรื่อยๆ, แล่นเรือเที่ยว | crux | (n) ปมปัญหา, ประเด็นสำคัญ, กางเขน, กากบาท | defect | (n) ความบกพร่อง, ข้อบกพร่อง, ข้อเสีย, ปมด้อย | demerit | (n) ปมด้อย, ข้อเสีย, ข้อบกพร่อง | evil | (n) สิ่งชั่วร้าย, คนชั่วร้าย, ความอัปมงคล, ความเลว, ความชั่ว | figurative | (adj) เป็นอุปมาอุปไมย, เป็นรูปเป็นร่าง | fluctuate | (vi) เปลี่ยนแปลงเสมอ, ขึ้นๆลงๆ, แกว่งไปมา, ผันแปร | fluctuation | (n) ความผันแปร, ความขึ้นๆลงๆ, การแกว่งไปมา | gad | (vi) ขยับตัวไปมา, ทำยุกยิก, เดินไปเดินมา, ร่อนเร่ | hitch | (n) เงื่อน, ปม, การผูก, ความขลุกขลัก, ความยาก, การสะดุด, อุปสรรค | hover | (vi) รวมกันอยู่, บินโฉบ, บินร่อน, ลอย, ส่ายไปมา | imagery | (n) รูปปั้น, รูปภาพ, ความฝัน, อุปมาอุปไมย | induction | (n) การนำเข้ามา, การชักนำ, อุปมาน, การเกณฑ์, กระแสไฟฟ้า | inductive | (adj) นำเข้ามา, มีอิทธิพลต่อ, อุปมาน | kink | (n) ขมวด, ปม, ส่วนโค้ง, ข้อบกพร่อง, รอยด่าง | knot | (n) ปม, เงื่อน, ปัญหา, มวยผม, จุก, ตาไม้ | knot | (vt) ผูกเงื่อน, ขมวดปม, ผูกโบ, ทำจุก, มวยผม | knotty | (adj) มีปมมาก, ยุ่งยาก | knurl | (n) ปม, ปุ่ม, สัน, ตุ่มไม้ | malleable | (adj) บิดไปมาได้, ดัดแปลงได้ง่าย | metaphor | (n) คำเปรียบเทียบ, คำอุปมาอุปไมย | metaphorical | (adj) เชิงเปรียบเทียบ, เชิงอุปมาอุปไมย | node | (n) ปุ่ม, ตาไม้, ปม, รอยโน, ตุ่ม | nodule | (n) ปมเล็ก, ตุ่มเล็กๆ, ปุ่มเล็กๆ | nub | (n) ปม, ตุ่ม, เม็ดเล็กๆ, ใจความ | parable | (n) นิยายเปรียบเทียบ, การอุปมาอุปไมย | peripatetic | (adj) ท่องเที่ยวไป, เดินทางไปมา | personification | (n) ตัวอย่าง, การอุปมา, การสมมุติตัวตน | personify | (vt) อุปมาขึ้น, สมมุติขึ้น, แปลงร่าง | ply | (vi) ขึ้นล่อง, แล่นไปมา | protuberance | (n) โหนก, ปุ่ม, ปม, การบวม | relative | (adj) สัมพันธ์, เกี่ยวข้องกัน, ได้ส่วน, โดยอนุโลม, โดยอุปมา | shortcoming | (n) จุดอ่อน, ข้อบกพร่อง, ปมด้อย, ความล้มเหลว | simile | (n) คำอุปมาอุปไมย, การเปรียบเทียบ | squirm | (vi) ดิ้นรน, บิดตัวไปมา, กระดุกกระดิก | surge | (vi) เป็นระลอก, ขึ้นๆลงๆ, ซัดไปมา, รวน, เซ, กระเพื่อม | swing | (vt) หมุนไปมา, แกว่ง, หัน, แขวน, โล้, ห้อย | trope | (n) คำอุปมา, รูปของภาษา | twine | (n) เชือก, ลวด, การร้อยมาลัย, การถักปม, การฟั่นเป็นเกลียว | twist | (n) การบิด, การปั่น, หัวโค้ง, สกรู, ปม, เส้นไหม |
| earworm | (n) คืออาการที่เรานึกถึงเนื้อเพลงนั้น ๆ วนเวียนอยู่ในหัวไปมา, เพลงติดหู | kohlrabi | (n) กะหล่ำปม | long-toothed | (slang) มันช่างยาวนานเหลือเกิน มันยาวมาก มันนานมาก นานจนหงำเหงือก มาจากคำว่า 'long-in-the-tooth" (คำอุปมานี้มาจากการสังเกตผู้คนว่าพออายุมากขึ้นเหงือกของเขาก็จะร่นลงไป ทำให้เห็นว่าฟันยาวขึ้น) | namedrop | (vi) การอ้างถึงชื่อผู้อื่นในทำนองว่ารู้จักกับผู้นั้น เพื่อสร้างมูลค่าให้ตนเอง, โดยทั่วไปมีความหมายในเชิงลบ. ตัวอย่าง เช่น I know Lisa of Blackpink and she often comes to my house for dinner. ฉันรู้จักลิซ่าแห่งวง Blackpink นะ เขามาทานอาหารเย็นที่บ้านฉันบ่อยๆ | กุลเชษฐ์ | (n) ปุส หรือ อาการมือเลื้อยไปมาอย่างปลาหมึกทะเล | 反 | ตรงข้าม, ใช้ในการเปรียบเทียบ หรืออุปมา |
| 味噌汁 | [みそしる, misoshiru] (n) ซุปมิโซ ของญี่ปุ่น | 欠陥 | [けっかん, kekkan] (n) ข้อบกพร่อง, ปมด้อย, ข้อเสียหาย, สิ่งที่ขาดตกบกพร่อง |
| 通う | [かよう, kayou] (vi) เดินทางไปมาระหว่างบ้านกับสำนักงาน | chocobo | [โจโคโบะ] (n) นกพันธุ์ขนาดใหญ่ในเทพนิยายกรีก โบร๊านโบราณ ! ลักษณะคล้ายกับนกกระจอกเทศแต่คอสั้นและหัวใหญ่ทั่วไปมักมีสีเหลือง นิสัยขี้กลัว ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง นกชนิดนี้เป็นสัตว์สังคม | 階調 | [かいちょう, kaichou] (n) เป็นศัพท์ทางเทคนิค เกี่ยวกับ เรื่องภาพแสงสี มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Gradation ซึ่งคือ การที่แสงสีมันการลดลั่นกันจาก เข้มไปอ่อน อ่อนไปเข้ม หรือ สว่างไปมืด | 比喩 | [ひゆ, hiyu] การพูดเปรียบเทียบ การอุปมาอุปไมย |
| 通行 | [つうこう, tsuukou] TH: ผ่านไปมา | 通行 | [つうこう, tsuukou] TH: การผ่านไปมา EN: passing |
| fest | (adj, adv) แน่น, แข็งแกร่ง เช่น eine feste Beziehung ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น, ein Knoten fest verbinden ผูกปมให้แน่นหนา, See also: A. locker | in die Schule gehen | (phrase) ไปเรียน หรือ ไปโรงเรียน สามารถแปลว่า ไปมหาวิทยาลัยได้ด้วย เช่น 1° a: Wann geht Ihr Sohn in die Schule? = ลูกชายคุณจะเข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ครับ b: wahrscheinlich, nächstes Jahr! = อ๋อ ก็คงจะปีหน้านะ, Syn. zur Schule gehen | schlürfen | (vi, vt) |schlürfte, hat geschlürft, etw (A)| กินมีเสียง เช่น กินซุปแล้วทำเสียงซูด ซูด หรือกินบะหมี่แล้วดูดเส้นเข้าไปมีเสียง |
| changer | (vt) |je change, tu changes, il change, nous changons, vous changez, ils changent| เปลี่ยน , เปลี่ยนแปลง, แลกเปลี่ยน เช่น (1) Le temps va changer. = อากาศเปลี่ยนแปลง (2) Il a beaucoup changé. = เขาเปลี่ยนไปมาก (3) Il a changé en bien. = เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น, เขาดีขึ้น (4) changer des bahts en euros แลกเงินบาทเป็นเงินยูโร, See also: regarder | cuir | (n) |m| หนังสัตว์ที่นำมาทำเป็นเครื่องหนัง โดยทั่วไปมักหมายถึง หนังวัว |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |