ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ถก, -ถก- |
ถก | (v) pull out, Example: คนสวนถกหญ้าที่ขึ้นมาปกคลุมต้นไม้, Thai Definition: ทึ้งให้หลุดออก | ถก | (v) roll up, See also: hold up, pull up, Example: เขาถกกางเกงของเขาขึ้นมาแล้วจึงถกแขนเสื้อขึ้น, Thai Definition: ดึงรั้งให้สูงขึ้นอย่างถกผ้านุ่ง ถกแขนเสื้อ, ดึงให้หลุดออกมา | ถก | (v) discuss, See also: debate, argue, dispute, Example: เรื่องนี้ผมอยากเอามาถกกันดู ดูว่ามันจะกลายเป็นภาษาสำหรับอนาคตของเราจริงหรือ, Thai Definition: ยกขึ้นมาพิจารณากันด้วยเหตุผล | แถก | (v) shave, See also: shape roughly, Syn. ถาก, Example: ผมมัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือ พอเงยหน้ามองกระจกปรากฏว่าช่างแถกผมไปครึ่งหัวแล้ว, Thai Definition: โกนผมพอให้เสร็จๆ ไป | แถก | (v) jump around, See also: struggle, Syn. ไถ, Example: สารพัดปลาน้ำจืดขึ้นมาบนบกแถกไปบนพื้นและร่องน้ำ เพื่อไปหาน้ำบ่อใหม่, Thai Definition: ไถครูดไป | ถกล | (v) build, See also: construct, set up, erect, Syn. ก่อสร้าง, ตั้ง, Notes: (เขมร) | ถกล | (v) ิbe beautiful, Syn. งาม, ดำกล, Notes: (เขมร) | ถกผ้า | (v) roll up (clothing), See also: hold up, Example: ในแถบนี้น้ำท่วมเสียจนชาวบ้านต้องถกผ้าเดินลุยน้ำ, Thai Definition: ดึงผ้านุ่งให้สูงพ้นเข่า | มัตถก | (n) summit, See also: top, extreme, Syn. ยอด, ที่สุด, มัตถกะ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | มัตถก | (n) head, See also: the crown, Syn. หัว, กระหม่อม, ศีรษะ, มัตถกะ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | มัตถก | (n) head, See also: crown, Syn. หัว, กระหม่อม, ศีรษะ, มัตถกะ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | มัตถก | (n) summit, See also: top, extreme, Syn. ยอด, ที่สุด, มัตถกะ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | เถกิง | (adj) great, See also: famous, celebrated, noble, high, elevated, prosperous, Syn. ดำเกิง, สูงศักดิ์, รุ่งเรือง, กึกก้อง, ลั่นลือ | ไถกลบ | (v) plough up and over, See also: plough for a second time, Thai Definition: ไถให้ดินปิดทับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หว่านลงไป เมื่อไถแปรเสร็จแล้ว (ใช้แก่การทำนาหว่าน) | ถกเขมร | (v) pull up one's the panung, See also: in preparation for a task, hitch up a wrap-around cloth in the form of breech clout, metho, Syn. ขัดเขมร, Example: พวกผู้ชายเอาผ้าขาวม้ามาถกเขมรก่อนกระโจนลงคลอง, Thai Definition: นุ่งผ้าโจงกระเบน ดึงชายให้สูงร่นขึ้นไปเหนือเข่า | ถกปัญหา | (v) discuss, See also: debate, dispute, argue, Syn. ถกเถียง, Example: ผู้สัมนากำลังถกปัญหาที่เป็นประเด็นสำคัญในการสัมนา, Thai Definition: ยกประเด็นขึ้นมาพิจารณา | ถกเถียง | (v) dispute, Syn. โต้เถียง, โต้แย้ง, Example: คนงานก่อสร้างกลุ่มของทอนรวมหัวกันที่ร้านข้าวเหนียวส้มตำ ถกเถียงกันเรื่องที่ตั้งและขนาดของไร่, Thai Definition: ยกเอาขึ้นมาพูดโต้แย้งกัน | รถกระบะ | (n) pick-up, See also: pick-up truck, Syn. รถปิคอัพ, Example: เขาผลุนผลันลงมาขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้าน, Count Unit: คัน, Thai Definition: รถบรรทุกขนาดเล็กที่ต่อตัวถังอย่างกระบะ | หัตถกิจ | (n) manufacture, Syn. การฝีมือ, การช่าง, Example: งานชิ้นนี้ต้องอาศัยช่างที่มีความรู้ด้านหัตถกิจมาช่วย, Thai Definition: การทำด้วยฝีมือ, การช่าง | หัตถกิจ | (n) handicraft, See also: manufacture, manual labour, Syn. การฝีมือ, การช่าง, Example: งานชิ้นนี้ต้องอาศัยช่างที่มีความรู้ด้านหัตถกิจมาช่วย, Thai Definition: การทำด้วยฝีมือ | อรรถกถา | (n) exegesis, See also: commentary, Example: เขาชอบอ่านอรรถกถาเหล่านั้นก่อนนอนทุกคืน, Thai Definition: คัมภีร์ที่อธิบายความพระบาลี, คัมภีร์ที่ไขความพระไตรปิฎก | หัตถกรรม | (n) handicraft, Example: ชนบทเป็นแหล่งผลิตของหัตถกรรมที่ทรงคุณค่า, Thai Definition: งานที่เกิดขึ้นจากการทำด้วยมือที่ไม่ใช่เครื่องจักร, Notes: (บาลี) | โอสถกรรม | (n) medicine, Syn. อายุรศาสตร์, Thai Definition: การแพทย์แผนกใช้ยา, การรักษาไข้ด้วยวิธีใช้ยา | รถกระเช้า | (n) cabin | อุโบสถกรรม | (n) giving a recitation, Thai Definition: การทำอุโบสถ | อรรถกถาจารย์ | (n) exegete, See also: commentator, Example: เขาเป็นเพียงอรรถกถาจารย์แต่งแก้และขยายความจากปรัชญาของเฮเกลเท่านั้น, Thai Definition: อาจารย์ผู้แต่งอรรถกถา |
|
| ขะแถก | ก. กระแทก, กระทบโดยแรง, กระทุ้ง, เช่น ขะแถกแทงทอท่ยว เขาส้ยมส่ยวยงงมี (ม. คำหลวง มหาราช). | ถก | ก. ดึงรั้งให้สูงขึ้นอย่างถกผ้านุ่งถกแขนเสื้อ, ดึงให้หลุดลอกออกมาอย่างถกหนังหัว | ถก | จั่วไพ่ที่กำลังรอกินด้วยตัวเอง, ถ้าจั่วไพ่ขึ้นมาเข้าเศียรที่กำลังรอกินด้วยตัวเอง เรียกว่า ถกเศียร, ถลก ก็ว่า | ถก | ทึ้งให้หลุดออก เช่น ถกหญ้า ถกเถาวัลย์ | ถก | โดยปริยายหมายความว่า ยกเอาขึ้นมาพิจารณากันด้วยเหตุผล เช่น ถกปัญหา. | ถกเขมร | ก. นุ่งผ้าโจงกระเบนดึงชายให้สูงร่นขึ้นไปเหนือเข่า, ขัดเขมร ก็ว่า. | ถกเถียง | ก. ยกเอาขึ้นมาพูดโต้แย้งกัน. | ถกล | (ถะกน) ก. ก่อสร้าง, ตั้ง, ตั้งขึ้น, ตั้งไว้, เช่น ปางถกลกำแพงพระ พิศณุโลกย แล้วแฮ (ยวนพ่าย) | ถกล | งาม เช่น ถือทวนถกลเถกองงา อังกุสอ่าองกาย (ม. คำหลวง มหาราช), ใช้แผลงเป็น ดำกล ก็มี. | เถกิง | (ถะเกิง) ว. สูงศักดิ์, รุ่งเรือง, กึกก้อง, ลือลั่น, ใช้แผลงเป็น ดำเกิง ก็มี. | แถก | ก. ถ่าง, กาง, เช่น ปลาแถกเหงือก | แถก | เสือกไป, ไถไป, ดิ้นรน, เช่น บพิตรพณเกล้า ข้าเห็นพราหมณ์เถ้าแถกมาถึง ชาวกาลึงคราษฎร์ฦๅ (ม. คำหลวง กุมาร) | แถก | ถาก, ปาด | แถก | กัดถลาก ๆ เช่น หมาแถกเอา | แถก | แทะด้วยหน้าฟัน เช่น หมาแถกกะลามะพร้าว | แถก | โกนผมโดยใช้มีดกดลงอย่างแรงและลากไปเป็นทางยาวอย่างไม่ประณีต ในคำว่า แถกผม | แถก | กระเสือกกระสน เช่น ปลาช่อนก็ดิ้นแถกโผล่ขึ้นมาอาศัยอยู่ในหนองน้ำนั้นต่อไปใหม่ (สารคดีชีวิตสัตว์ของนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล). | แถกขวัญ | ก. ทำลายขวัญ, ทำให้กลัว, เช่น นกเอ๋ยนกแสก จับจ้องร้องแจ๊กเพียงแถกขวัญ (กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า พระยาอุปกิตศิลปสาร). | ไถกลบ | ก. ไถให้ดินปิดทับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หว่านลงไปเมื่อไถแปรเสร็จแล้ว (ใช้แก่การทำนาหว่าน). | ปลาหมอแถกเหงือก | ก. กระเสือกกระสนดิ้นรน. | โปตถกะ | (โปดถะกะ) น. หนังสือที่เขียนหรือจาร, คัมภีร์หนังสือ, เล่มหนังสือ. | มัตถกะ | (มัดถะกะ) น. หัว, กระหม่อม | มัตถกะ | ยอด, ที่สุด. | รถกระบะ | น. รถชนิดหนึ่งใช้บรรทุกสิ่งของ ทำตัวถังเป็นรูปอย่างกระบะ. | รถกุดัง | น. รถบรรทุกชนิดหนึ่ง เดิมใช้บรรทุกสินค้าจากกุดังเก็บสินค้าที่ท่าเรือ ปัจจุบันใช้บรรทุกสินค้าเป็นต้น. | ศิลปหัตถกรรม | น. ศิลปวัตถุที่เป็นผลงานประเภทศิลปะประยุกต์ มีจุดประสงค์และความต้องการในด้านประโยชน์ใช้สอย เช่น งานโลหะ งานถักทอ งานเย็บปักถักร้อย. | หัตถกรรม | น. งานช่างที่ทำด้วยมือ โดยถือประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก. | หัตถการ, หัตถกิจ | น. การทำด้วยฝีมือ, การช่าง. | อรรถกถา | (อัดถะกะถา) น. คัมภีร์ที่อธิบายความพระบาลี, คัมภีร์ที่ไขความพระไตรปิฎก. | อรรถกถาจารย์ | น. อาจารย์ผู้แต่งอรรถกถา. | อรรถกร | (อัดถะกอน) ว. ให้ประโยชน์, เป็นประโยชน์. | อรรถกวี | (อัดถะกะวี) น. กวีผู้มีความสามารถในการแต่งร้อยกรองตามความเป็นจริง. | อุโบสถกรรม | (อุโบสดถะกำ) น. การทำอุโบสถ. | โอสถกรรม | น. การแพทย์แผนกใช้ยา, การรักษาไข้ด้วยวิธีใช้ยา. | กรรมฐาน | (กำมะถาน) น. ที่ตั้งแห่งการงาน หมายเอาอุบายทางใจ มี ๒ ประการ คือ สมถกรรมฐาน เป็นอุบายสงบใจ และวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอุบายเรืองปัญญา. | กระจัด ๒ | ว. กระจะ, จะจะ, ชัดเจน, เช่น ฝ่ายล่ามบอกออกอรรถกระจัดแจ้ง (อภัย). | กระชาก | ก. ดึงเข้ามาโดยเร็วและแรง เช่น กระชากผม, โดยปริยายหมายความว่า กระตุกโดยแรง เช่น ออกรถกระชาก, พูดกระแทกเสียงดังห้วน ๆ ในความว่า พูดกระชากเสียง, มักใช้เข้าคู่กับคำ กระโชก เป็น กระโชกกระชาก. | กระบะ | ชื่อรถชนิดหนึ่งใช้บรรทุกสิ่งของ ทำตัวถังเป็นรูปอย่างกระบะ เรียกว่า รถกระบะ. | กระเบน | บริเวณปลายกระดูกสันหลังช้าง เหนือโคนหาง เช่น ผูกกระเบนสักหลาดถกล สัปทนแดงกางกั้ง (กฐินพยุห). | กระยา | น. เครื่อง, สิ่งของ, เครื่องกิน, เช่น เทียนธูปแลประทีปชวาลา เครื่องโภชนกระยา สังเวยประดับทุกพรรณ (ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของเก่า ครั้งกรุงเก่า), เขียนเป็น กรยา ก็มี เช่น พระไพรดมานโฉม นุบพิตรแลงผอง มนตรอัญสดุดิยฮอง กรยานุถกลทาบ (ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของเก่า ขุนเทพกะวีแต่ง). | กรับเสภา | น. กรับชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้แก่นเช่นไม้ชิงชัน มี ๔ ด้าน ด้านหนึ่งโค้งสำหรับกระทบให้เกิดเสียง ยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร หนาประมาณ ๕ เซนติเมตร ลบเหลี่ยมเล็กน้อยเพื่อมิให้บาดมือและให้สามารถกลิ้งตัวกระทบกันได้สะดวก ใช้ขยับประกอบในการขับเสภา โดยผู้ขับเสภาจะต้องใช้กรับ ๒ คู่ ประคองไว้ในอุ้งมือข้างละคู่ ขณะที่ขับเสภาก็ขยับกรับแต่ละคู่ให้กระทบกันให้สอดคล้องกับท่วงทำนองขับ, กรับขยับ ก็ว่า. | กรางเกรียง | ว. เสียงอย่างเดียวกับกราง เช่น ก้องกงรถก้องกรางเกรียง (พากย์; สุธน). | กฤษฎาธาร | (กฺริดสะดาทาน) น. พระที่นั่งที่ทำขึ้นสำหรับเกียรติยศ เช่น พระมหาพิชัยราชรถกฤษฎาธาร (เรื่องพระบรมศพ). | กวี | (กะวี) น. ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการประพันธ์บทกลอน จำแนกเป็น ๔ คือ ๑. จินตกวี แต่งโดยความนึกคิด ๒. สุตกวี แต่งโดยได้ฟังมา ๓. อรรถกวี แต่งตามความเป็นจริง ๔. ปฏิภาณกวี แต่งโดยฉับพลันทันที. | กสิณ | (กะสิน) น. สมถกรรมฐานหมวดหนึ่งที่กำหนดอารมณ์โดยอาศัยธาตุ ๔ คือ ปฐวี (ดิน) อาโป (นํ้า) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม), วรรณะ (สี) ๔ คือ นีล (สีเขียวคราม) ปีต (สีเหลือง) โลหิต (สีแดง) โอทาต (สีขาว), อากาศ (ที่ว่าง) และ อาโลก (แสงสว่าง) รวมเป็น ๑๐ อย่าง โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในการกำหนดอารมณ์ให้เหมาะกับจริตของผู้ที่จะเจริญกรรมฐาน. | กังก้า | ว. จังก้า, ลักษณะยืนถ่างขาตั้งท่าเตรียมสู้ เช่น ถกเขมรกังก้าเรียกข้าไทย (ขุนช้างขุนแผน-แจ้ง). | กัด ๓ | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด Betta splendens Regan ในวงศ์ Osphronemidae ขนาดยาวได้ถึง ๖.๕ เซนติเมตร ทำรังเป็นหวอดที่ผิวนํ้า ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมีย มีสีสวยงาม สามารถกางครีบและแผ่นปิดเหงือก เปล่งสีลำตัวให้เข้มขึ้น ในขณะต่อสู้มักกัดกัน จึงเรียกว่า ปลากัด. | กาฐ | (กาด) น. ไม้ฟืน เช่น คือโกยกาฐอันกองแลนองธรณิภาค กลาดกล่นถกลหลาก อนันต์ (สรรพสิทธิ์) | กิน | โดยปริยายหมายความว่า เปลือง เช่น กินเงิน กินเวลา, ทำให้หมดเปลือง เช่น รถกินนํ้ามัน หลอดไฟชนิดนี้กินไฟมาก | กินทาง | ว. ลํ้าทาง (ใช้แก่ยวดยาน) เช่น ขับรถกินทาง. |
| | Ionizing radiation | รังสีชนิดก่อไอออน, รังสีหรืออนุภาคใดๆ ที่สามารถก่อให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมในตัวกลางที่ผ่านไป เช่น รังสีแอลฟา รังสีบีตา รังสีแกมมา รังสีเอกซ์ อนุภาคนิวตรอน อิเล็กตรอนที่มีความเร็วสูง โปรตอนที่มีความเร็วสูง รังสีเหล่านี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต <br>(ดู beta particle ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Banana leaf craft | งานหัตถกรรมใบตอง [TU Subject Heading] | Handicraft | ศิลปหัตถกรรม [TU Subject Heading] | Handicraft industries | อุตสาหกรรมสินค้าหัตถกรรม [TU Subject Heading] | Isuzu Dargon truck | รถกระบะอีซูซุ ดาร์กอน [TU Subject Heading] | Miniature craft | หัตถกรรมย่อส่วน [TU Subject Heading] | Nettiatthakath | เนตติอรรถกถา [TU Subject Heading] | Pickup trucks | รถกระบะ [TU Subject Heading] | Plam frond weaving | หัตถกรรมใบลาน [TU Subject Heading] | Plastics craft | หัตถกรรมพลาสติก [TU Subject Heading] | Polymer olay craft | หัตถกรรมดินเหนียวโพลิมอร์ [TU Subject Heading] | Pottery craft | หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา [TU Subject Heading] | String craft | หัตถกรรมเชือก [TU Subject Heading] | Surgical procedures, Operative | ศัลยศาสตร์หัตถการ [TU Subject Heading] | Textile crafts | งานหัตถกรรมผ้า [TU Subject Heading] | Toyota Tiger truck | รถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์ [TU Subject Heading] | Water hyacinth craft | หัตถกรรมผักตบชวา [TU Subject Heading] | Wax craft | หัตถกรรมขี้ผึ้ง [TU Subject Heading] | Hoist Truck | รถกว้านถังขยะ [สิ่งแวดล้อม] | Hoist Truck System | ระบบรถกว้านถังขยะ, Example: ระบบรวบรวมขยะโดยใช้รถกว้านยกถังขยะจากจุด กำเนิดขยะไปยัง สถานีขนถ่ายขยะหรือสถานีกำจัดขยะ [สิ่งแวดล้อม] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Humanitarian Intervention | การแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม " เป็นแนวคิดที่นายโคฟี อันนาน เลขาธิการสหประชาชาติเสนออย่างเป็น ทางการครั้งแรกต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 54 เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมุ่งจะให้สหประชาชาติสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภาย ในประเทศต่าง ๆ ได้โดย คำนึงถึงประเด็นเรื่องมนุษยธรรมเป็นหลัก ขณะนี้ แนวคิดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่ยุติ โดยบางประเทศเห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตยของรัฐ บางประเทศเห็นว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาของมนุษยชาติ ส่วนบางประเทศเห็นว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะต้องอยู่ใต้กรอบหลักเกณฑ์ หรือกรอบกฎหมายบางประการ เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ " [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | ionisingradiation | รังสีชนิดก่อไอออน, คือ พลังงานในรูปแม่เหล็กไฟฟ้า หรืออนุภาครังสีใดๆ ที่สามารถก่อให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ ทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมในตัวกลางที่ผ่านไป เช่น รังสีแอลฟา รังสีบีตา รังสีแกมมา รังสีเอกซ์ อนุภาคนิวตรอน อิเล็กตรอนที่มีความเร็วสูง โปรตรอนที่มีความเร็วสูง รังสีชนิดนี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต [พลังงาน] | source | ต้นกำเนิดรังสี (แหล่งกำเนิดรังสี), หมายถึง วัสดุหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่สามารถก่อให้เกิดการแผ่รังสีชนิดที่ก่อไอออนออกมา ไม่ว่าจะเป็นการแผ่รังสีด้วยการแปลงนิวเคลียสของตัวเองหรือด้วยวิธีอื่นๆ ตัวอย่างเช่น สารกัมมันตรังสีและเครื่องกำเนิดรังสีชนิดต่างๆ [พลังงาน] | Compression set | รูปร่างและมิติของยางที่ได้กลับคืนมาหลังจากนำแรงกดออกไป ซึ่งจะบอกถึง ความสามารถของยางในการรักษาสมบัติความยืดหยุ่นหลังจากยางได้รับแรงกดเป็น ระยะเวลาหนึ่ง คำนวณเป็นร้อยละของปริมาณที่ไม่สามารถกลับคืนรูปร่างเดิมได้ มาตรฐานการทดสอบ เช่น ISO 815, ASTM D395 [เทคโนโลยียาง] | Elastomer | พอลิเมอร์ที่มีสมบัติยืดหยุ่นคล้ายยาง สามารถเปลี่ยนรูปร่างและมิติได้เมื่อรับแรงกระทำ และเมื่อนำแรงกระทำนั้นออก อิลาสโตเมอร์ก็จะสามารถกลับคืนสู่รูปร่างและมิติเดิมได้ [เทคโนโลยียาง] | Permanent set | การเสียสภาพถาวรหลังจากชิ้นงานถูกดึงยืดตามเวลาที่กำหนดและปล่อยออก ชิ้นงานนั้นไม่สามารถกลับคืนสู่ความยาวเดิมได้ โดยมีส่วนที่ยืดยาวออกมามากกว่าความยาวก่อนการดึงยืด ความยาวส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้คำนวณเป็นร้อยละของความยาวเดิม [เทคโนโลยียาง] | Dentistry, Operative | ทันตกรรมหัตถการ, ทันตแพทยศาสตร์หัตถการ [การแพทย์] | Doll's Eye Sign Positive | ลูกตาทั้งสองสามารถกลอกไปทางด้านตรงข้ามได้ [การแพทย์] | Embryotomy, Decapitation | สูติศาสตร์หัตถการการทำลายทารก [การแพทย์] | Embryotomy, Decapitation | สูติศาสตร์หัตถการทำลายทารก [การแพทย์] | Fetus, Destructive Operation on the | สูติศาสตร์หัตถการทำลายทารก [การแพทย์] | conditioning | การเรียนรู้แบบมีเงื่อนไข, พฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า 2 ชนิดอย่างมีเงื่อนไข คือเมื่อมีสิ่งเร้าแท้จริงและสิ่งเร้าไม่แท้จริง เร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งแม้จะไม่มีสิ่งเร้าแท้จริงอยู่ด้วย สิ่งเร้าไม่แท้จริงก็สามารถกระตุ้นให้สัตว์นั้น ๆ ตอบสนองได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | detergent | สารซักฟอก, สารสังเคราะห์ชนิดหนึ่งใช้สำหรับการซักล้าง สามารถกำจัดสิ่งสกปรกและชำระล้างไขมันได้ดีทั้งในน้ำอ่อนและน้ำกระด้าง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | unstable equilibrium | สมดุลไม่เสถียร, สมดุลของวัตถุที่เมื่อออกแรงกระทำให้วัตถุเอียงจากเดิมแล้ว ศูนย์กลางมวลของวัตถุเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ในที่ต่ำกว่าเดิม พลังงานศักย์ของวัตถุจะลดลง วัตถุจะล้ม และไม่สามารถกลับมาวางตัวในลักษณะเดิม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Irreversible | เสียไปเลย, เปลี่ยนกลับไม่ได้, ไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้, การเกิดชนิดไม่กลับหลัง, ชนิดที่ไม่หาย, ไม่มีการย้อนกลับ, กลับคืนสู่สภาวะปกติไม่ได้, แบบถาวร, ไม่ทวนกลับ [การแพทย์] |
| I've come so far I can't go back to where I used to be! -A whole new world! | ไม่สามารถกลับไปที่ซึ่งเคยอยู่ได้ โลกใหม่นี้ Aladdin (1992) | What! ? - He gave you your power, he can take it away! | อะไรนะ เขาให้พลังแก เขาก็สามารถกำจัดแกได้ Aladdin (1992) | And there's some hurts you don't just get over. | และก็มีความเจ็บปวดบางอย่าง ที่คุณไม่สามารถก้าวผ่านมันได้ Basic Instinct (1992) | Pump it! | ขึ้นรถกันเถอะ! Hocus Pocus (1993) | When can I go back to Belfast? | เมื่อผมสามารถกลับไปที่เบลฟาส? In the Name of the Father (1993) | We will have to risk regret. | ผมจะนั่งรถกินลมกับคุณ Schindler's List (1993) | - Under my skin - Thank you. Under my skin | ขอบคุณ ท่านเจ้าชาย ราชรถกำลังจะออกแล้ว Junior (1994) | Now. Get in the car. Come on. | ขึ้นรถกันเถอะ มา Junior (1994) | Waiting on the bell to ring so I can go home | รอระฆังให้แหวนดังนั้นฉันสามารถกลับบ้านได้ Pulp Fiction (1994) | Walk out the door, get in the car, go home, jerk off, and that's all you gonna do. | เดินออกจากประตูที่ได้รับในรถกลับบ้านเหวี่ยงออกไปและนั่นคือทั้งหมดที่คุณจะทำ Pulp Fiction (1994) | - Can I have a ride home? | ขอติดรถกลับบ้านได้มั้ยคะ? Jumanji (1995) | - But I can't go back to sleep. | - แต่ฉันไม่สามารถกลับไปนอน Pulp Fiction (1994) | What happened after you argued with your wife? | สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณถกเถียงกันอยู่กับภรรยาของคุณ The Shawshank Redemption (1994) | I got back in the car, and I drove home to sleep it off. | ผมได้กลับอยู่ในรถและผมขับรถกลับบ้านไปนอนมันออก The Shawshank Redemption (1994) | "So this means we get the car back..." | นี่ก็หมายความว่าต้องเอารถกลับ Don Juan DeMarco (1994) | Have a nice bus ride home. | หารถกลับบ้านดีๆแล้วกัน In the Mouth of Madness (1994) | Yellow pickup truck out of Whittier a day before yesterday. | รถกระบะเหลืองจากวิททีเอ้อร์วานซืน Heat (1995) | Same for the scrap yard. | ป่าช้ารถก็เหมือนกัน Heat (1995) | Let's go to the garage. | ไปอู่รถกันเถอะ Heat (1995) | - Maybe you can still smell it on me. | - บางทีคุณอาจจะยังคงสามารถกลิ่นมันอยู่ที่ผม 12 Angry Men (1957) | It's the only alibi the boy offered, and he couldn't back it up with any details. | มันเป็นข้อแก้ตัวเพียงเด็กที่นำเสนอและเขาไม่สามารถกลับขึ้นกับรายละเอียดใด ๆ 12 Angry Men (1957) | I don't think I can eat an entire one. " | ฉันไม่คิดว่าฉันสามารถกินทั้ง หนึ่ง The Old Man and the Sea (1958) | If I should fail to return from the unknown, the whole future of our civilization may be yours to preserve or destroy. | ถ้าฉันไม่สามารถกลับจากนิรเเดน อนาคตความศิวิไลซ์ของพวกเรา อยู่ที่เธอจะอนุรักษ์หรือทําลายมัน Beneath the Planet of the Apes (1970) | How long do you think it will be before I can come back? | นานแค่ไหนคุณคิดว่ามันจะเป็นก่อนที่ผมจะสามารถกลับมา? The Godfather (1972) | Did Santino say when I can go back? | ไม่ตือบอกว่าเมื่อผมสามารถกลับไป? The Godfather (1972) | There's a dead truck with New Hampshire plates in front of my store. | มีรถกระบะทะเบียนนิวเเฮมเชียร์ จอดเสียบังหน้าร้านผมอยู่ Jaws (1975) | Do away with me, so that I can be with my mother | ยกเลิกฉัน, ดังนั้น that I สามารถกับแม่ของฉัน Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Say: "I can't eat rice with my fingers like this" | พูด: "ฉันไม่สามารถกินข้าวมี นิ้วมืออย่างนี้" Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Up here. -Let's go for a ride. | บนนี้ ไปนั่งรถกันดีกว่า Oh, God! (1977) | -I just rode with him in my car. | เปล่า ผมเพิ่งขับรถกับท่านในรถผม Oh, God! (1977) | They were jumpin' on the car and making these weird sounds. | มันมาขย่มรถกับทำเสียงพิลึกๆ Phantasm (1979) | Why don't you and me hit the road for a couple of weeks? | เราไปหาขับรถกินลมสักอาทิตย์สองอาทิตย์เป็นไง Phantasm (1979) | We'll be all right if we can just get back on the express way. | เราจะไม่เป็นอะไรถ้าเราสามารถกลับสู่ทางด่วนได้ The Blues Brothers (1980) | You got some place I can eat around here? | คุณมีสถานที่ที่ผมสามารถกินได้ไหม First Blood (1982) | Keep moving, my dogs can eat and run at the same time! | ให้ย้าย สุนัขของผมสามารถกินและวิ่งในเวลาเดียวกัน! First Blood (1982) | And while you're at it, could you please check out a black spot on Jupiter that has been detected by satellite telescope. | และในขณะที่คุณกำลังที่จะให้ คุณสามารถกรุณา ตรวจสอบจุดสีดำบนดาว พฤหัสบดีที่มี ถูกตรวจพบโดยกล้อง โทรทรรศน์ดาวเทียม 2010: The Year We Make Contact (1984) | I can't eat this. | ฉันไม่สามารถกินนี้ Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | You're not gonna drive home, are you? | คุณคงไม่ขับรถกลับบ้านใช่ไหม? Clue (1985) | He won't be driving home, Officer. I promise you that. | เขาจะไม่ขับรถกลับบ้านครับคุณตำรวจ ผมสัญญาเลย Clue (1985) | Then you got to qualify and prove to them you can step onto the runway and not get killed. | แล้วคุณจะต้องมีคุณสมบัติและพิสูจน์ให้พวกเขา ... ... คุณสามารถก้าวขึ้นไปบนทางวิ่งและไม่ได้รับการฆ่า Bloodsport (1988) | Damn, and my motor coils were just getting warmed up... | แย่ล่ะ รถกู พึ่งเริ่มอุ่นเครื่องเอง Akira (1988) | The future doesn't proceed along a single course. | อนาคตไม่สามารถกำหนดได้ ด้วยเส้นทางยาวเพียงเส้นเดียว Akira (1988) | - Yes? - I-I... | คนพวกเดิมถกเถียงกันเรื่องเดิม ๆ Big (1988) | You have to go away for a long time... many years... before you can come back and find your people. | เธอต้องไปซะ ให้นานๆ เลย... หลายๆ ปี... ก่อนที่เธอจะสามารถกลับมา และค้นหาคนของเธอ. Cinema Paradiso (1988) | I could've turned this place into a garage. Why didn't you? | - ผมทำที่นี่เป็นโรงรถก็ได้ Punchline (1988) | nobody can jump this. | ไม่มีใครสามารถกระโดดข้ามได้. Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | Truck's on empty. | รถกำลังจะน้ำมันหมด Night of the Living Dead (1990) | Truck. Outside. Out of gas. | รถกระบะของผม น้ำมันจะหมด Night of the Living Dead (1990) | - A truck! The gas pump is locked. | - รถกระบะ ปั๊มน้ำมันล๊อกอยู่ Night of the Living Dead (1990) | Her daddy's got trucks, she's been driving since she was little. | พ่อเธอมีรถกระบะ เธอขับรถเป็นตั้งแต่เด็กแล้ว Night of the Living Dead (1990) |
| อรรถกถา | [atthakathā] (n) EN: commentary ; exegesis | อรรถกถาจารย์ | [atthakathājān] (n) EN: commentator ; exegete FR: exégète [ m ] ; commentateur [ m ] | อรรถกวี | [atthakawī] (n) EN: writer of non-fiction | หัตถกรรม | [hatthakam] (n) EN: handicraft ; manufacture FR: artisanat [ m ] | การถกเถียง | [kān thokthīeng] (n) EN: controversy | การถกเถียงกัน | [kān thokthīeng kan] (n, exp) EN: controversy | งานหัตถกรรม | [ngān hatthakam] (n) EN: handicraft ; manufacture FR: artisanat [ m ] | รถกระบะ | [rot kraba] (n) EN: pick-up ; pickup ; pick-up truck FR: pick-up [ n ] (anglic.) | รถกระเช้า | [rot krachāo] (n) EN: cableway ; cable car ; cabin FR: téléphérique [ m ] | รถลากจูงและรถกึ่งพ่วง | [rotlāk jūng lae rot keung phūang] (n, exp) EN: semi-trailer | ศิลปหัตถกรรม | [sinlapahatthakam] (n) EN: handicrafts | ถก | [thok] (v) EN: pull up ; roll up ; hitch up ; raise ; push up FR: relever ; retrousser | ถก | [thok] (v) EN: discuss | ถกแขนเสื้อ | [thok khaēn seūa] (v, exp) EN: push up one's sleeves ; roll up one's sleeves FR: retrousser ses manches | ถกปัญหา | [thok panhā] (v) EN: discuss FR: discuter | ถกเถียง | [thokthīeng] (v) EN: dispute ; argue ; discuss |
| dissemination | (n) การเปิดประเด็นเพื่อการถกเถียงและโต้แย้งอย่างกว้างขวาง | unrecoverable | (adj) ไม่สามารถกู้คืนได้, ไม่สามารถเอากลับคืนได้, ไม่สามารถรักษาได้, See also: recover, Syn. irrecoverable | nimbo | ฝน, น้ำ (เป็น prefix ของเมฆที่สามารถก่อตัวให้เกิดฝนได้) เช่น The low, gray clouds that fill the skies are Nimbo stratus. | exegete | (n) อรรถกถาจารย์ - ผู้เขียนหนังสืออธิบายข้อพระคัมภีร์ของศาสนาต่างๆ เช่นหนังสืออธิบายข้อพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ หรือหนังสืออธิบายข้อพระธรรมเบญจบรรณ หรือหนังสืออธิบายพระไตรปิฏก หรือหนังสืออธิบายคัมภีร์พระเวท หรือหนังสืออธิบายคัมภีร์อัลกุรอ่านก็ได้ทั้งนั้น, Syn. commentator | rumble strip | (n) เส้นจราจรที่ตีขวางบนถนนเป็นแถบๆ ใช้สำหรับเตือนคนขับรถถึงลักษณะสภาพถนนที่เปลี่ยนไป หรือให้ระวัง (เช่น เตือนเมื่อถึงทางเลี้ยว, เตือนเมื่อถึงทางลาด) เส้นนี้ทำงานโดยอาศัยแรงกระแทกของล้อรถกับเส้นจารจรที่ตีไว้บนถนน ทำให้เกิดเสียงเมื่อรถวิ่งผ่านและการสั่นสะเทือนบนตัวรถ |
| argue against | (phrv) ถกเถียงเพื่อต่อต้าน, See also: อภิปรายแย้ง, อภิปรายต่อต้าน | argue for | (phrv) ถกเถียงเรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง | argue out | (phrv) โต้เถียงเรื่อง, See also: ถกเถียงเรื่อง | argue over | (phrv) ทะเลาะกันเรื่อง, See also: ถกเถียงเรื่อง, โต้เถียงเรื่อง, Syn. argue about | bellyful | (n) ปริมาณอาหารที่คนคนหนึ่งสามารถกินได้ | brainstorm | (n) การถกเถียงอย่างเปิดเผย | brainstorm | (vi) ถกเถียงอย่างเปิดเผยเพื่อแก้ปัญหา, Syn. confer | brainstorm | (adj) เกี่ยวกับการถกเถียงอย่างเปิดเผยเพื่อแก้ปัญหา | buildable | (adj) ที่สามารถก่อสร้างได้ | cagoule | (n) เสื้อแจ๊คเกตมีหมวกคลุมหัวและสามารถกันลมและฝนได้ | contentious | (adj) ซึ่งโต้เถียงกัน, See also: ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกัน, Syn. quarrelsom, argumentative | continent | (adj) ที่สามารถกลั้น (ปัสสาวะหรืออุจจาระ) | drive back | (phrv) ขับรถกลับ, See also: ทำให้ขับกลับ | debatable | (adj) ซึ่งโต้แย้งได้, See also: ซึ่งยังถกเถียงกันอยู่, Syn. arguable, questionable, disputable | debate | (n) การโต้วาที, See also: การอภิปราย, การโต้แย้ง, การถกเถียง, Syn. argument, contention, controversy, discussion, dispute, disputation | debate | (vt) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute | debate | (vi) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute | discuss | (vt) สนทนา, See also: แลกเปลี่ยนความเห็น, ปรึกษาหารือ, อภิปราย, ถกเถียง, ถกปัญหา, Syn. consult, analyze, criticize, confabulate | disputable | (adj) ที่โต้แย้งได้, See also: ที่ถกเถียงได้ | dispute | (vt) โต้เถียง, See also: ทะเลาะ, โต้แย้ง, ถกเถียง, คัดค้าน, ขัดคอ, Syn. challenge, antagonize, argue, Ant. support, agree | dispute | (vi) โต้เถียง, See also: ทะเลาะ, โต้แย้ง, ถกเถียง, คัดค้าน, ขัดคอ, ไม่เห็นด้วย, Syn. challenge, antagonize, argue, Ant. support, agree | esculent | (n) สิ่งที่สามารถกินได้โดยเฉพาะพืชผัก (คำทางการ) | exchange | (n) การโต้เถียง, See also: การถกเถียง, Syn. argument, discussion | forensic | (adj) เกี่ยวกับการโต้แย้งถกเถียง, See also: เกี่ยวกับการเกี่ยวกับการอภิปราย | incapacitate for | (phrv) ทำให้ไม่สามารถกระทำ, See also: ทำให้ขาดความสามารถในเรื่อง, ทำให้ไม่มีคุณสมบัติ, Syn. incapacitate from | incapacitate from | (phrv) ทำให้ไม่สามารถกระทำ, See also: ทำให้ขาดความสามารถในเรื่อง, ทำให้ไม่มีคุณสมบัติ, Syn. incapacitate for | handicraft | (n) หัตถกรรม, See also: งานฝีมือ, Syn. craft, handiwork | handicraftsman | (n) ช่างฝีมือ, See also: ช่างหัตถกรรม, Syn. craftsman | handiwork | (n) งานหัตถกรรม, Syn. craft, handicraft | matter of opinion | (idm) เรื่องที่ถกเถียงกันได้, See also: สิ่งที่คิดต่างกันได้ | not move a muscle | (idm) ไม่สามารถกระดิกตัวได้, See also: เขยื้อนตัวไม่ไหว, ไม่ขยับเขยื้อน | reach an agreement (with someone) | (idm) เห็นด้วยหลังจากถกเถียงมานาน, See also: ยอมรับความเห็น | kosher | (adj) ที่สามารถกินได้ (ตามกฎของยิว) | moot | (vi) ถกเถียง (คำทางการ), See also: โต้แย้ง, Syn. debate, argue, discuss, dispute | open | (adj) ที่ถกเถียงกันได้, Syn. arguable, unresolved, moot | palaver | (vi) เจรจา, See also: ถกเถียง, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, Syn. confer | pick-up | (n) รถกระบะ, See also: รถบรรทุกเล็ก | plow | (vt) ไถดิน, See also: ไถกลับหน้าดินเพื่อการเพาะปลูก | plow | (vi) ไถดิน, See also: ไถกลับหน้าดินเพื่อการเพาะปลูก | plough up | (phrv) ไถกลับดินขึ้นมา, See also: ไถเปิดพลิกดิน, Syn. turn over, turn up | run back | (phrv) วิ่งกลับ, See also: ขับรถกลับ อย่างเร็ว, รีบกลับ | troad hog | (sl) คนขับรถกินเลน | set-to | (n) การถกเถียงอย่างรุนแรง, See also: การต่อสู้ดิ้นรน, Syn. bout, dispute, fight | stand above | (phrv) เก่งกว่า, See also: สามารถกว่า | talk | (vt) อภิปรายกันในเรื่อง, See also: พิจารณากันในเรื่อง, ถกเรื่อง, พูดถึงเรื่อง, Syn. discuss | talk | (n) การอภิปราย, See also: การพิจารณา, การถกเรื่อง, Syn. discussion | tenable | (adj) ที่สามารถกระทำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง | touching | (adj) ที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ | truck | (n) รถบรรทุก, See also: รถสิบล้อ, รถกุดัง, รถดัมพ์ | thrash out | (phrv) ถก (หาคำตอบ) ให้กับ, See also: ยกขึ้นมาพิจารณาเพื่อหาคำตอบให้กับ, Syn. hash out |
| argue | (อาร์'กิว) vt., vi. ถกเถียง, เถียง, โต้คารม, อ้างเหตุผล, อภิปราย, พูดให้ยอม, โต้แย้งพิสูจน์ว่า, แสดงให้เห็นว่า-arguer n., Syn. debate | argumentation | (อาร์กิวเมนเท'เชิน) n. ขบวนการโต้เถียงการให้เหตุผล, การอภิปราย, การถกเถียง, บทความเชิงอภิปราย, ข้อพิสูจน์, ข้อสรุป, ข้ออนุมาน, Syn. discussion | arts and crafts | ศิลปะหัตถกรรม | atm. | abbr. 1. atmosphere, atmospheric 2. (เอทีเอ็ม) ย่อมาจาก automatic teller machine แปลว่า เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ เป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ของคอมพิวเตอร์ของธนาคารที่ลูกค้าสามารถกดรหัสติดต่อกับธนาคารเพื่อใช้บริการบางอย่าง เช่น ฝากหรือถอนเงิน ได้ ในกรุงเทพ เครื่องเอทีเอ็ม นี้จะเห็นได้อยู่ทั่วไป เพราะได้รับความนิยมมาก ในปัจจุบัน เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่าการเดินทางไปธนาคาร แล้วยังต้องรอรับบริการจากพนักงาน การสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องเอทีเอ็ม และคอมพิวเตอร์ของธนาคาร จะใช้ผ่านทางสายโทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่ | automatic teller machine | เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ <คำแปล>นิยมใช้ตัวย่อว่า ATM หมายถึง เครื่องปลายทาง (terminal) ของคอมพิวเตอร์ของธนาคารที่ลูกค้าสามารถกดรหัสติดต่อกับธนาคารเพื่อใช้บริการบางอย่าง เช่น ฝากหรือถอนเงินได้ ในกรุงเทพ เครื่องเอทีเอ็ม นี้จะเห็นได้อยู่ทั่วไป เพราะได้รับความนิยมมาก ในปัจจุบัน เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่าการเดินทางไปธนาคาร แล้วยังต้องรอรับบริการจากพนักงาน การสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องเอทีเอ็ม และคอมพิวเตอร์ของธนาคาร จะใช้ผ่านทางสายโทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่ | belabor | (บิเล'เบอะ) { belabored, belaboured, belaboring, belabouring, belabors, belabours } vt. ถกเถียง, พูดมากเกินไปเกี่ยวกับ, กล่าวหา, เหยียดหยาม, ตีแรง | belabour | (บิเล'เบอะ) { belabored, belaboured, belaboring, belabouring, belabors, belabours } vt. ถกเถียง, พูดมากเกินไปเกี่ยวกับ, กล่าวหา, เหยียดหยาม, ตีแรง | blowup | (โบล'อัพ) n. การระเบิด, การถกเถียงอย่างรุนแรง, อารมณ์ระเบิด, การขยายออก, Syn. explosion | brainstorming | n. การถกเถียงอย่างเปิดเผยเพื่อแก้ปัญหา | debatable | (ดิเบ'ทะเบิล) adj. เป็นที่ถกเถียงกัน, เป็นปัญหา | debate | (ดิเบท') { debated, debating, debates } vt., n. (การ) ถกเถียง, อภิปราย, พิจารณา, ชิงชัย, ต่อสู้, Syn. argue | disquisition | n. การตรวจสอบและถกเถียงเกี่ยวกับปริญญานิพนธ์ | expatiate | (เอคซฺเพ'ชิเอท) vt. ขยายความ, สาธก, ถก, ท่องเที่ยว, เดินเตร่. -expatiation n., Syn. expand | field length | ความยาวเขตข้อมูลหมายถึงขนาดความยาวของเขตข้อมูล (field) ที่สามารถกำหนดได้ เช่นเขตข้อมูล "ชื่อ" อาจใช้ความยาวถึงขนาด 30 ตัวอักขระ ส่วนเขตข้อมูล "อายุ" อาจใช้เพียง 2 ตัวอักขระ เป็นต้น แฟ้มข้อมูล (file) แต่ละแฟ้มจะต้องกำหนดเขตข้อมูลที่ใช้ชื่อเดียวกันให้ยาวเท่ากัน เช่น ถ้าเป็นเขตข้อมูล "ชื่อ" ไม่ว่าจะชื่อสั้นหรือยาวเพียงใด ก็ต้องใช้เนื้อที่ 30 ตัว อักขระหมดทั้งแฟ้ม | footer | ข้อความท้ายหน้าหมายถึง ข้อความที่พิมพ์ไว้ส่วนล่างของหน้ากระดาษทุกหน้า (อาจเป็นเลขหน้า ก็ได้) โปรแกรมประมวลผลคำต่าง ๆ จะเตรียมจัดในเรื่องนี้ไว้ให้ทุกโปรแกรม แม้โปรแกรมตาราง จัดการ ก็สามารถกำหนดให้มีข้อความใด ๆ ที่หัวกระดาษ (header) และ ที่ท้ายหน้า (footer) ได้ดู header เปรียบเทียบ | handcraft | (แฮนด'คราฟทฺ) n. ศิลปหัตถกรรม, สิ่งที่ทำขึ้นด้วยมือ | handicraft | (แฮน'ดีคราฟทฺ) n. การฝีมือ, หัตถกรรม., See also: handicraftship n., Syn. handcraft. | handicraftsman | n. ช่างการฝีมือ, ช่างหัตถกรรม, Syn. craftsman | handiwork | n. งานหัตถกรรม, การฝีมือ, ช่างฝีมือ, Syn. craft | handwork | n. หัตถกรรม, See also: handworker, n. | hidden file | แฟ้มที่ซ่อนไว้ในระบบดอส และวินโดว์ จะมีแฟ้มข้อมูลบางประเภทที่ไม่ปรากฏขึ้นบนจอให้เห็นเมื่อใช้คำสั่ง DIR หรือ โปรแกรม File Manager ของวินโดว์ 3.1 หรือ Windows Explorer ของวินโดว์95 โปรแกรมสำเร็จหลายโปรแกรมจะมีแฟ้มข้อมูลประเภทนี้เพื่อกันมิให้มีการคัดลอก) อย่างไรก็ตาม การที่จะให้แฟ้มข้อมูลใดเป็นแฟ้มประเภทนี้ เราสามารถกำหนดได้โดยใช้คำสั่ง ตัวอย่างแฟ้มที่ซ่อนไว้ของโปรแกรมระบบดอส คือ IO.SYS และ MSDOS.SYS เป็นต้น | inarguable | (อินอาร์' กิวอะเบิล) adj. ซึ่งถกเถียงไม่ได้, ซึ่งแย้งไม่ได้., See also: inarguably adv. | issue | (อิช'ชิว) n. การปล่อยออกมา, การออกคำสั่ง, การตีพิมพ์ออกมา, สิ่งที่ปล่อยออก, สิ่งตีพิมพ์, จำนวนหรือปริมาณที่ปล่อยออกมาแต่ละครั้ง, ฉบับ, ชุด, คราว, ปัญหา, ผลที่เกิดขึ้น, บุตร, ทายาท, ทางออก, ผลผลิต, ผลกำไร. -Phr. (at issue ที่กำลังเป็นปัญหา ที่กำลังถกเถียงกัน) vt., vi. ไหล | kilo instructions per sec | พันคำสั่งต่อวินาทีใช้ตัวย่อว่า KIPS เป็นหน่วยวัดความเร็วในการทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยวัดเป็นจำนวนคำสั่ง (หน่วยเป็นพัน) ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถกระทำการ (execute) ได้ใน 1 วินาที เช่น คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ทำงานได้ 50 กิปส์ หมายความว่า ทำงานได้เร็วห้าหมื่นคำสั่งในหนึ่งวินาที ปัจจุบัน นิยมใช้หน่วยวัดเป็นมิปส์หรือ MIPS (ล้านคำสั่งต่อวินาที) เพราะคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นมาก | kilt | (คิลทฺ) n. กระโปรงสั้นพับจีบสำหรับผู้ชายสก๊อตนุ่ง, กระโปรงสั้นตาหมากรุกทั่วไป. vt. ถกกระโปรงขึ้น, พับเป็นรอยจีบตรง, เคลื่อนอย่างคล่องแคล่ว | kips | (กิปส์) ย่อมาจาก kilo instructions per second พันคำสั่งวินาที เป็นหน่วยวัดความเร็วในการทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยวัดเป็นจำนวนคำสั่ง (หน่วยเป็นพัน) ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถกระทำการ (execute) ได้ใน 1 วินาที เช่นคอมพิวเตอร์นี้ทำงานได้ 50 กิปส์ หมายความว่า ทำงานได้เร็วห้าหมื่นคำสั่งในหนึ่งวินาที ปัจจุบัน นิยมใช้หน่วยวัดเป็นมิปส์หรือ MIPS (ล้านคำสั่งต่อวินาที) เพราะคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นมากดู MIPS เปรียบเทียบ | litigious | (ลิทิจ'เจิส) adj. เกี่ยวกับการฟ้องร้อง, เกี่ยวกับการดำเนินคดี, ชอบฟ้องร้อง, ชอบโต้แย้ง, ชอบถกเถียง., See also: litigiousness n. ดูlitigious litigiosity n. ดูlitigious, Syn. quarrelsome | manual | (แมน'นวล) adj. เกี่ยวกับมือ, ด้วยมือ, ทำด้วยมือ, เกี่ยวกับหัตถกรรม, เกี่ยวกับคู่มือ. n. สมุดคู่มือ, See also: manually adv. | mill | (มิล) n. โรงเครื่องจักรเครื่องกล, โรงงาน, โรงสี, โรงโม่, โรงบดวัตถุ, เครื่องบด, โรงประกอบหัตถกรรม, หน่วยงานที่ผลิตสิ่งใด ๆ ขึ้นเป็นจำนวนมาก . vt. บด, โม่, ต่อสู้, เอาชนะ, ตี, ชก, ต่อย. -Phr. (through the mill ผ่านความยากลำบาก), See also: millable adj. | millwright | (มิล'ไรทฺ) n. ช่างทำเครื่องบดวัตถุ, ช่างโรงงานประกอบหัตถกรรม | moot | (มูท) adj. น่าสงสัย, ไม่จริง, เป็นสมมุติฐาน vt. ถกเถียง n. ศาลากลาง, การถกเถียง, การอภิปราย, Syn. debatable, academic | multisync monitor | จอภาพหลายคลื่นแสงหมายถึง จอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถกวาดคลื่นแสงในอัตราที่แตกต่างกัน | plough | (เพลา) n. ไถ, เครื่องไถ, เครื่องกวาดหรือไถหิมะ, ดาวไถ vi. ไถกวาด, ไส, ปราบให้เรียบ, แล่นฝ่าผิวน้ำ., See also: ploughable adj. plowable adj. plougher n. plower n. | plow | (เพลา) n. ไถ, เครื่องไถ, เครื่องกวาดหรือไถหิมะ, ดาวไถ vi. ไถกวาด, ไส, ปราบให้เรียบ, แล่นฝ่าผิวน้ำ., See also: ploughable adj. plowable adj. plougher n. plower n. | proportional pitch | ช่องไฟปรับสัดส่วนหมายถึง การที่เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์สามารถกำหนดให้ตัวอักขระแต่ละตัวใช้เนื้อที่ตามสัดส่วน เป็นต้นว่า ตัว i ย่อมจะไม่ใช้เนื้อที่มากเท่ากับตัว m หรือตัว w | quarrel | (ควอ'เริล) { quarrel (l) ed, quarrel (l) ing, quarrels } vi., n. (การ) ทะเลาะ, วิวาท, ถกเถียงด้วยความโกรธ, บ่น, โทษ, จับผิด, See also: quarreler, quarreller n., Syn. argument | save as | หมายถึง การสั่งเก็บแฟ้มข้อมูลโดยต้องมีการกำหนดชื่อ ถ้ามีชื่อเก่าอยู่แล้ว จะใช้ชื่อเดิมหรือกำหนดชื่อใหม่ก็ได้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนที่เก็บ (path) หรือเปลี่ยนรูปแบบการเก็บ (format) ก็ต้องใช้คำสั่ง save as (แทนที่จะใช้ save) บางโปรแกรมผู้ใช้สามารถกำหนดรูปแบบการเก็บได้ด้วย เช่น โปรแกรม Excel จะเก็บเป็นแฟ้มข้อความธรรมดา (text) หรือ เป็นตารางจัดการ (work sheet) ฯ ก็ได้ โปรแกรม PageMaker ก็ให้เลือกเก็บเป็น "ต้นแบบ" หรือ เก็บเป็นแฟ้มเข้อมูลธรรมดาก็ได้ดู save เปรียบเทียบ | special character | อักขระพิเศษแต่เดิมใช้หมายถึงอักขระที่เป็นเครื่องหมายต่าง ๆ เช่น + - * / $ = , " " ฯลฯ รวมทั้งสระ วรรณยุกต์ ในภาษาไทย บางทีเรียกรวม ๆ ว่า เครื่องหมายวรรคตอนก็ได้ นอกจากนั้น ยังหมายรวมถึงตัวอักขระที่ไม่สามารถกดได้จากแป้นพิมพ์ แต่อาจใช้เทคนิคบางอย่างทำให้พิมพ์ออกมาได้ เช่น ถ้าเป็นเครื่องแมคอินทอช การกดแป้น Shift+ALT+K จะได้ภาพลูกแอปเปิลแหว่ง (สัญลักษณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ยี่ห้อแอปเปิล) ถ้าใช้แบบอักษรชื่อ Symbol | tab | n. ส่วนที่โผล่ออก, ชาย, แถบ, สายประดับ, เศษผ้า, เศษกระดาษ, ปุ่ม, ป้าย, แผ่นโลหะเล็ก ๆ , หัวหุ้มโลหะที่ปลายเชือกผูกรองเท้า, เครื่องหมายติดปกเสื้อของนายทหาร vt. ทำให้มีtab (ดู) -Phr. (keep tab (s) on คอยดูแล) , จุดตั้งระยะหมายถึง ตำแหน่งที่อยู่ห่างกันเป็นระยะ ๆ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดไว้ด้วยโปรแกรม ปกติมักจะกำหนดไว้ให้ห่างกันประมาณ .5 นิ้ว แต่เราสามารถกำหนดใหม่ได้ ใช้มากในโปรแกรมประเภทประมวลผลคำ (word processing) หมายถึง ถ้ากดแป้นตั้งระยะ (แป้น Tab) ครั้งหนึ่ง ตัวชี้ตำแหน่งก็จะเลื่อนไประยะหนึ่ง การกำหนดจุดตั้งระยะนั้น อาจกำหนดเลยไปถึงการสั่งชิดซ้าย ชิดขวา ตรงกลาง หรือเป็นตัวเลข ก็ได้, Syn. flap, strip, tag | teller machine | เครื่องฝากถอนเงินเป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ใช้สามารถกดรหัสเพื่อฝากหรือถอน ฯ หรือติดต่อกับธนาคารเพื่อสั่งใช้บริการบางอย่างของธนาคารได้ เป็นต้นว่า ถามยอดเงินคงเหลือ โอนข้ามบัญชี ฯ เป็นระบบการทำงานแบบที่เรียกว่า ระบบทำงานแบบทันที (real time pro- cessing) โดยปกติ การสื่อสารข้อมูลจะผ่านทางสายโทรศัพท์ เครื่องฝากถอนเงินนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่ารอรับบริการจากพนักงานบางทีเรียก ATM หรือ automatic teller machine | tram | (แทรม) n. รถราง, รถไฟที่มีราง, รถรางเหมือง, รถกระเช้า. vt., vi. ขนส่งด้วยรถดังกล่าว, See also: tramless adj., Syn. streetcar, tramway | tram line | n. เส้นทางเดินของรถราง, สายห้อยรถกระเช้า | truck | (ทรัค) n. รถบรรทุก, รถกุดัง, รถไถ, ของเสีย, ของสัพเพเหระ, ธุรกิจ, การค้า vt., vi. ขนย้ายสินค้าด้วยรถบรรทุก, ขับรถสินค้า, แลกเปลี่ยน, ค้าขาย, Syn. transport | vex | (เวคซฺ) vt. ทำให้ระคายเคือง, รบกวน, ก่อกวน, ทำให้ทุกข์, ทำให้กลุ้มใจ, ทำให้หัวเสีย, ถกเถียง, ทะเลาะ., See also: vexingly adv. vexer n. | vga | วีจีเอ <คำอ่าน>ย่อมาจาก video graphics array (หนังสือบางเล่มว่า video gate array) ที่แปลว่า ขบวนปรับภาพแบบวีดิทัศน์ หมายถึง มาตรฐานที่กำหนดไว้สำหรับจอภาพสี จอภาพชนิดนี้สามารถแสดงสีได้ถึง 256 สีในเวลาเดียวกัน พัฒนามาจากจอภาพรุ่นเก่า ที่เรียกว่า ซีจีเอ (CGA) และ อีจีเอ (EGA) จอวีจีเอนี้ให้ภาพที่คมชัดกว่า แสดงภาพได้แม่นตรงกว่า ความละเอียด (reso- lution) ของจอนั้นสามารถกำหนดได้สูงถึง 640 x 480 จุด (pixels) ในปัจจุบัน ยิ่งพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ คือกำหนดความคมชัดได้สูงถึง 1, 024 x 768 จุด เรียกว่า SVGA หรือ super VGA นั่นเองดู CGA, EGA, SVGA ประกอบ | video graphics array | ขบวนปรับภาพแบบวีดิทัศน์ใช้ตัวย่อว่า VGA (อ่านว่า วีจีเอ) หมายถึง มาตรฐานที่กำหนดไว้สำหรับจอภาพสี จอภาพชนิดนี้สามารถแสดงสีได้ถึง 256 สีในเวลาเดียวกัน พัฒนามาจากจอภาพรุ่นเก่า ที่เรียกว่า ซีจีเอ (CGA) และ อีจีเอ (EGA) จอวีจีเอนี้ให้ภาพที่คมชัดกว่า แสดงภาพได้แม่นตรงกว่า ความละเอียด (resolution) ของจอนั้นสามารถกำหนดได้สูงถึง 640 x 480 จุด (pixels) ในปัจจุบัน ยิ่งพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ คือกำหนดความคมชัดได้สูงถึง 1, 024 x 768 จุด เรียกว่า SVGA หรือ super VGA นั่นเอง | visual programming | การทำโปรแกรมด้วยภาพหมายถึง การเขียนโปรแกรมให้ผู้ที่ใช้โปรแกรมสำเร็จ สามารถกำหนดรายการคำสั่ง (menu) ต่าง ๆ ได้เอง โดยอาจจะคัดลอกของเก่ามาตัด-ปะ ใหม่ อาจเลือกใช้ Visual BASIC ของบริษัทไมโครซอฟต์ หรือ Object Version ของบริษัทบอร์แลนด์ ก็ได้ | vitreous | (วี'เทรียส) adj. เกี่ยวกับหรือคล้ายแก้ว, สามารถกลายเป็นแก้ว., See also: vitreousness n. vitreosity n. | web | (เวบ) n. ใยแมงมุม, ใย, พังผืดที่อยู่ระหว่างนิ้วเท้าของกบ ค้างคาวและสัตว์อื่น ๆ บางชนิด, ม้วนกรดาษขนาดใหญ่, ชุด, ร่างแห, ข่ายงาน vt. vi. คลุมด้วยสิ่งดังกล่าว, ทำให้เป็นสิ่งดังกล่าว เว็บเป็นคำเรียกสั้น ๆ ของเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web) ซึ่งหมายถึงสถานที่รวมของกลุ่มคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลเตรียมพร้อมไว้ให้ผู้คนอ่านผ่านทางอินเตอร์เน็ต (Internet) โดยใช้ภาษา เอชทีทีพี (HTTP หรือ Hypertext Tranfer Protocol) ทุกหน้าจะมีทั้งเนื้อหาเรื่องราวต่าง ๆ มีเมนูพร้อมที่จะให้เราสั่งงาน มีคำหลายคำที่มีแถบสีซึ่งเราสามารถกดเมาส์ถามหารายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องนั้นต่อ ซึ่งอาจเป็นการเรียกหาจากแหล่งเดียวกัน หรือจากแหล่งคอมพิวเตอร์อื่นได้ทั่วโลกดู internet, HTML ประกอบ, See also: weblike adj., Syn. trap, network | world wide web | เวิลด์ไวด์เว็บนิยมใช้ตัวย่อ WWW (อ่านว่าดับบลิวดับบลิวดับบลิว) หมายถึงสถานที่รวมของกลุ่มคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลเตรียมพร้อมไว้ให้ผู้คนอ่านผ่านทางอินเตอร์เน็ต (Internet) โดยใช้ภาษา เอชทีทีพี (HTTP หรือ Hypertext Tranfer Protocol) ทุกหน้าจะมีทั้งเนื้อหาเรื่องราวต่าง ๆ มีเมนูพร้อมที่จะให้เราสั่งงาน มีคำหลายคำที่มีแถบสีซึ่งเราสามารถกดเมาส์ถามหารายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องนั้นต่อ ซึ่งอาจเป็นการเรียกหาจากแหล่งเดียวกัน หรือจากแหล่งคอมพิวเตอร์อื่นได้ทั่วโลกดู internet, HTML ประกอบ |
| argue | (vi, vt) โต้แย้ง, เถียง, ถกเถียง, โต้เถียง, โต้คารม | argument | (n) การโต้แย้ง, การโต้เถียง, การโต้คารม, การถกเถียง | blowup | (n) การระเบิด, การขยายออก, การถกเถียงอย่างแรง | debatable | (adj) ซึ่งยังไม่ตกลงกัน, เป็นปัญหา, เป็นที่ถกเถียงกัน | debate | (n) การถกเถียง, การอภิปราย, การโต้แย้ง, การโต้วาที | debate | (vt) ถกเถียง, โต้แย้ง, ต่อต้าน, ชิงชัย, โต้วาที, อภิปราย | debater | (n) ผู้ถกเถียง, ผู้อภิปราย, ผู้โต้วาที | disputant | (n) ผู้โต้แย้ง, ผู้ถกเถียง, ผู้โต้เถียง | disputation | (n) การโต้เถียง, การโต้แย้ง, การถกปัญหา, การอภิปราย | disquisition | (n) การถกเถียง, การตรวจสอบ, การค้นคว้า, การบรรยาย, ปาฐกถา | dissertation | (n) การสนทนา, การถกปัญหา, การบรรยาย, การเขียนตำรา, วิทยานิพนธ์ | flexible | (adj) บิดงอได้, สามารถดัดได้, สามารถกลิ้งได้, พลิกแพลงได้ | gird | (vt) คาดเข็มขัด, เคียนพุง, ล้อมรอบ, พัน, ถก(เขมร), ผูก, มัด, รัด | handcraft | (n) การช่าง, การฝีมือ, วิชาช่าง, งานช่าง, งานฝีมือ, งานหัตถกรรม | handicraft | (n) การช่าง, การฝีมือ, วิชาช่าง, งานช่าง, งานฝีมือ, งานหัตถกรรม | handiwork | (n) งานฝีมือ, ฝีมือ, งานหัตถกรรม, ช่างฝีมือ | manufacture | (n) หัตถกรรม, การประดิษฐ์, การสร้าง, การผลิต | moot | (adj) เป็นที่สงสัย, เป็นที่ถกเถียง, เป็นทฤษฎี | moot | (vi, vt) โต้เถียง, เสนอปัญหา, ถกเถียง, ดำริ | polemic | (n) การโต้เถียง, การถกเถียง, การทะเลาะ, การโต้แย้ง | polemical | (adj) โต้เถียง, ถกเถียง, ทะเลาะ, โต้แย้ง | quarrel | (vi) วิวาท, ทะเลาะ, ถกเถียง | tram | (n) รถราง, รถกระเช้า, รถขนแร่ | truck | (n) รถบรรทุก, รถสินค้า, รถไถ, รถกุดัง, รถเข็น, ตู้สินค้ารถไฟ | wrangle | (n) การทะเลาะวิวาท, การโต้เถียง, การถกเถียง | wrangle | (vi) ทะเลาะวิวาท, โต้เถียง, ถกเถียง | wrecker | (n) ผู้ทำลาย, คนรื้อถอน, คนกู้เรือ, รถกู้ภัย |
| *ผงชูรส* | (n) เป็นชื่อกลางที่ใช้เรียก โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) วัตถุเจือปนอาหารประเภท วัตถุปรุงแต่งรสอาหารมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น มีประโยชน์ในการเป็นสารเพิ่มรสชาติอาหาร (Flavor Enhancer) ทำให้อาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น โดยช่วยเพิ่มรสชาติของรสชาติพื้นฐาน 4 รสที่เรารู้จักกันดีคือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสขม ให้เด่นชัดมากขึ้น ในการศึกษาทางเภสัชวิทยาเกี่ยวกับรสชาติพบว่าผงชูรสสามารถกระตุ้น Glutamate Receptor แล้วทำให้เกิดรสชาติเฉพาะตัวที่เรียกว่ารสอูมามิ (Umami) ซึ่งเป็นรสที่ 5 ที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากรสชาติพื้นฐานทั้ง 4 | beamforming | (uniq) เทดโนโลยีการส่งสัญญานผ่าน air interface โดยสามารถกำหนดความแรงและทิศทางของสัญญานไปยังฝั่งรับได้ | contest | (vt) ถกเถียง, โต้แย้ง, See also: dispute, Syn. argue | Host range | (n) ช่วงของพืชที่เชื้อโรคหรือปริสิตสามารถก่อให้เกิดโรคได้ |
| 議論 | [ぎろん, giron] (n) การอภิปราย การโต้แย้ง การถกเถียง |
| 争議 | [そうぎ, sougi] TH: การถกเถียง EN: dispute |
| Diskussion | (n) |die, pl. Diskussionen| การหารือ, ถกประเด็น | ganz | (adv, adj) ทั้งหมด, ไม่เหลือเศษ เช่น Kannst du den Kuchen ganz aufessen? เธอสามารถกินขนมเค้กหมดทั้งชิ้นได้ไหม, Eine ganze Flasche Wein bitte! ขอไวน์ทั้งขวดครับ, Syn. völlig | man kann das essen | คนสามารถกินสิ่งนี้ได้ | diskutieren | (vi) |diskutierte, hat diskutiert, mit jmdm. über etw.(A)| ถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นหรือปัญหาใดๆ เช่น Der Chef diskutiert gern über die Politik. เจ้านายชอบถกเถียงเรื่องการเมือง | argumentieren | (vi) |argumentierte, hat argumentiert, gegen/für etw.| โต้เถียง, ให้เหตุผล, ถกเถียง | Auseinandersetzung | (n) |die, pl. Auseinandersetzungen, über eine Sache| การอภิปรายถกเถียง, การโต้แย้ง, การเถียงกัน, See also: Streit, Syn. Diskussion | umstritten | (adj) ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เช่น Neubauten in Schweinheim sind umstritten. Bürger fürchten zusätzliche Belastungen durch die Erweiterung des Reha-Zentrums und das "Haus am Stadtwald"., Syn. fraglich |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |