ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ปราย, -ปราย- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ สก๊อย | [สะ-ก๊อย] (n, slang) วัยรุ่นหญิงที่มักนั่งท้ายมอเตอร์ไซค์ของเด็กแว้น มักใส่เสื้อยืดรัดติ้ว หรือไม่ก็สายเดี่ยว เสื้อกล้าม เกาะอก ชอบใส่กางเกงขาสั้นเอวต่ำ มักผัดหน้าให้ขาววอก และจะผูกผมเป็น 2 ข้าง ส่วนริมฝีปากจะแดงระเรื่อ เครื่องประดับชิ้นสำคัญ คือ หวี และการใช้โทรศัพท์มือถือและน้ำยาอุทัยทิพย์ที่ใช้ทาปากให้แดงอยู่เสมอ ส่วนใหญ่บริเวณน่องขาของสก๊อยมักมีรอยท่อไอเสียดาด และรอยแผลเป็นประปรายตามแข้งขาเนื่องจากอุบัติเหตุ |
|
| ปราย | (v) sow, See also: strew, scatter, throw, scatter, disseminate, cast, Syn. ซัด, หว่าน, สาด, Example: เมื่อคืนเป็นฝนห่าแรกที่ปรายลงมาเมื่อเดือนห้ากำลังจะสิ้น | ปรายตา | (v) glance, See also: cast one's eyes, keep an eye on, Syn. เหลือบมอง, ลอบมอง, ชำเลือง, Example: เขาแอบปรายตามองลูกค้าของร้านหนังสือแห่งนี้ที่กำลังเลือกดูเล่มโน้นเล่มนี้ | ประปราย | (adv) sparsely, See also: thinly, slightly, lightly, Syn. ห่างๆ, เรี่ยราย, เล็กน้อย, กระจาย, นิดหน่อย, Example: ขอบสระมีต้นไม้เล็กและต้นหญ้าขึ้นอยู่ประปราย, Thai Definition: มีกระจายอยู่ห่างๆ | อภิปราย | (v) debate, See also: discuss, contend, Example: ถ้าครูห้ามเด็กคุยในห้องเรียน เด็กก็เลยไม่ตอบคำถามไม่อภิปรายในห้องเรียน, Thai Definition: พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น, Notes: (สันสกฤต) | เปรยปราย | (v) make a general speech; speak promiscuously, See also: greet, Example: หล่อนเป็นคนเข้าสังคมเก่ง เปรยปรายกับคนทั้งงานได้ตั้งแต่เริ่มงานจนงานเลิก, Thai Definition: กล่าวทักทายทั่วไป ไม่จำเพาะใคร | โปรยปราย | (v) spread, See also: sprinkle, scatter, strew, disseminate, Syn. โปรย, โรย, Example: ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นครึ้มเล็กน้อยและมีละอองฝนโปรยปรายลงมา, Thai Definition: ตกลงมาเป็นเม็ดๆ กระจายทั่วไป | ผู้อภิปราย | (n) debater, Example: การอภิปรายเรื่องภาวะเศรษฐกิจไทยมีผู้อภิปราย 5 คน, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ที่พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น, Notes: (สันสกฤต) | ผู้ร่วมอภิปราย | (n) panelist, Example: การอภิปรายเกี่ยวกับการปฎิรูปการศึกษามีผู้ร่วมอภิปราย 4 ท่าน, Count Unit: คน, ท่าน, Thai Definition: ผู้เข้าร่วมพูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น |
| กระสุนปราย | น. ลูกตะกั่วหรือลูกเหล็กเล็ก ๆ สำหรับยัดใส่ในลำกล้องปืนครั้งละหลายลูก เมื่อยิงไปครั้งหนึ่ง ๆ ลูกจะกระจายไป, กระสุนปืนชนิดที่มีลูกตะกั่วหรือลูกเหล็กเล็ก ๆ หลาย ๆ ลูกผสมปนอยู่กับดินปืนในนัดเดียวกัน เวลายิงจะกระจายออก, (ปาก) ลูกปราย. | การเปิดอภิปรายทั่วไป | น. กลไกที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมฝ่ายบริหาร เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือฝ่ายบริหารจะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปที่คณะรัฐมนตรีร้องขอให้มีขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากสมาชิกสภา. | ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป | น. มาตรการสำคัญอย่างหนึ่งของระบบรัฐสภาที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมและตรวจสอบฝ่ายบริหาร และฝ่ายบริหารใช้ประโยชน์จากฝ่ายนิติบัญญัติในการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายนิติบัญญัติ. | ทองปราย | น. ปืนคาบศิลาอย่างโบราณ ลำกล้องทำด้วยทองเหลือง ปากบาน ยิงด้วยกระสุนลูกปราย เช่น ล้วนถือทองปรายทุกคน (รามเกียรติ์ ร. ๑). | ประปราย | (-ปฺราย) ว. มีกระจายอยู่ห่าง ๆ เช่น ผมหงอกประปราย ผลไม้ติดประปราย, มีห่าง ๆ เป็นระยะ ๆ, เรี่ยราย, เล็กน้อย, เช่น ยิงกันประปราย. | ปราย | (ปฺราย) ก. ซัด, หว่าน, สาดให้กระจายไป, เช่น ปรายข้าวตอกดอกไม้, มักใช้เข้าคู่กับคำ โปรย เป็น โปรยปราย. | เปรยปราย | (-ปฺราย) ก. พูดทักทายทั่วไปไม่จำเพาะใคร. | เปรียบปราย, เปรียบเปรย | (-ปฺราย, -เปฺรย) ว. อาการที่พูดว่ากระทบกระเทียบไม่เจาะจง. | โปรยปราย | (-ปฺราย) ว. หว่านล้อม (ใช้แก่กริยาพูด) | โปรยปราย | หว่านไปทั่ว ๆ. | ลูกปราย | น. กระสุนปราย. | สัมปรายภพ, สัมปรายิกภพ | (-ปะรายะ-, -ปะราย-, -ปะรายิกะ-) น. ภพหน้า. | อภิปราย | (อะพิปฺราย) ก. พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น. | กระ ๓ | น. จุดดำ ๆ หรือจุดน้ำตาลขึ้นประปรายที่ผิวกายคน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ, ประ ก็ว่า. | กระลูน | น. ความเศร้าโศก. ว. น่ากรุณา, น่าสงสาร, เช่น อ่อนจิตสวามีอันพูนกระลูนนุกูลภรรยายิ่งยอดกว่าอันภิปราย (สรรพสิทธิ์), เขียนเป็น กระลู่น์ ก็มี. | กา ๒ | น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Morulius chrysophekadion (Bleeker) ในวงศ์ Cyprinidae ปากงุ้มตํ่า ตาเล็ก ตลอดทั้งหัว ตัว และครีบมีสีม่วงเข้มถึงดำทึบ ครีบหลังเป็นแผนใหญ่ เฉพาะเกล็ดมีจุดสีเหลืองประปราย ขนาดยาวได้ถึง ๖๐ เซนติเมตร, เพี้ย ก็เรียก. | ขี้ควาย | น. ชื่อปลาทะเลชนิด Trachicephalus uranoscopus (Bloch & Schneider) ในวงศ์ Scorpaenidae ตัวแบนข้างเล็กน้อย หัวสั้น ปากกว้างเชิดขึ้น ลำตัวมีรอยด่างสีนํ้าตาล มักมีจุดขาวประปราย ขอบครีบเป็นสีดำคลํ้า เงี่ยงมีพิษ ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินหรือหมกตัวอยู่ตามพื้นท้องทะเล ขนาดยาวได้ถึง ๑๒ เซนติเมตร, ขี้ขุย ก็เรียก. | เชย ๒ | ก. โปรยปรายลงมา ในคำว่า ฝนเชย | ได้น้ำได้เนื้อ | ก. มีเนื้อหาสาระ เช่น การอภิปรายครั้งนี้ได้น้ำได้เนื้อดี. | ทุตวิลัมพิตมาลา | (ทุตะวิลำพิตะ-) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ กำหนดด้วย ๔ คณะ คือ น ภ ภ ร (ตามแบบว่า ทุตวิลมฺพิตมาห นภา ภรา) ตัวอย่างว่า ชินกถาคณนา วนิดาประมาณ พฤศติเพธพิสดาร อดิเรกภิปราย. | โทธก | (-ทก) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ บทหนึ่งมี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๑๑ พยางค์ กำหนดด้วย ภะคณะ ภะคณะ ภะคณะ และครุ ๒ พยางค์ ตามลำดับเหมือนกันทุกบาท (ตามแบบว่า โทธกมิจฺฉติ เจ ภภภาคา) ตัวอย่างว่า มิตรคณาทุรพาละทุพลมี นามก็กระลี หินะชาติ ประกาศภิปราย (ชุมนุมตำรากลอน). | บรรลาย ๑ | (บัน-) ก. ปราย, โปรย, เช่น หยั่งหยาดวลาหกบรรลาย (อุเทน). | ประชุมโต๊ะกลม | น. การประชุมปรึกษาหารือหรืออภิปราย ซึ่งจัดที่นั่งล้อมกันเป็นวงกลม ไม่มีประธาน ทุกคนมีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นเท่าเทียมกัน. | ปรึกษา | (ปฺรึกสา) ก. หารือ, ขอความเห็นแนะนำ, พิจารณาหารือกัน, พิจารณาอภิปรายกัน เช่น ประชุมปรึกษา, พิจารณาร่างคำพิพากษา เช่น ผู้ปรึกษา (ในทางศาล). | ผการาย | น. เรียกต้นหมากที่เพิ่งออกดอกประปราย. | ฝนชะช่อมะม่วง | น. ฝนที่ตกเล็กน้อยประปรายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงออกช่อพอดี, ฝนชะลาน ก็เรียก. | พร้อย | (พฺร้อย) ว. ประไปทั่ว, ลายกระเป็นจุดประปราย, วาว, พราย, เช่น ลายพร้อย ด่างพร้อย. | พลอมแพลม | (พฺลอมแพฺลม) ว. วาบแวบ, ผลุบโผล่, ประปราย, ไม่สมํ่าเสมอ, เช่น หญ้าขึ้นพลอมแพลม. | ลูกกรด | ชื่อกระสุนชนิดหนึ่ง เล็กกว่ากระสุนทั่ว ๆ ไป ปลอกทำด้วยโลหะ หัวกระสุนทำด้วยตะกั่ว มีลูกปรายและดินปืนอยู่ข้างใน มีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก. | ลูกซอง | น. ชื่อปืนชนิดหนึ่ง ลูกมีปลอกทำด้วยกระดาษแข็ง ไม่มีหัวกระสุน มีลูกปรายหลายลูกอยู่ภายใน มีดินปืนอยู่ตรงกลาง และมีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก. | ลูกปืน | น. ลูกตะกั่วหรือเหล็กเป็นต้นที่ยัดใส่ในลำกล้องปืนแล้วยิง, กระสุนที่บรรจุในลำกล้องปืนสำหรับยิง ประกอบด้วยปลอกโลหะ ตรงปลายด้านหนึ่งมีหัวกระสุนโลหะ ถ้าเป็นปืนลูกซอง ปลอกทำด้วยกระดาษแข็ง ไม่มีหัวกระสุน แต่มีลูกปรายหลายลูกอยู่ภายใน ทั้ง ๒ ชนิดมีดินปืนอยู่ตรงกลางและมีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก, กระสุนปืน | สมเหตุสมผล | ว. มีเหตุผลสมควร, มีเหตุผลรับกัน, เช่น คำชี้แจงของเขาสมเหตุสมผล เขาอภิปรายได้สมเหตุสมผล. | หยิม ๆ | ว. อาการที่ฝนตกพรำประปราย. |
| pro forma amendment | ญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | panel | ๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ๓. บัญชีรายชื่อ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | panel | ๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ (ผู้พิพากษาหรือลูกขุน)๓. บัญชีรายชื่อ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | puberulous | มีขนประปราย [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | recognition | ๑. การรับรอง (รัฐ, รัฐบาลใหม่)๒. การอนุญาตให้อภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | rostrum | แท่นอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | argument | ๑. สังเขปเรื่อง๒. บทอภิปราย [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | Address, Debate on the | การอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | argumentum ad | บทอภิปรายแบบอ้าง [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | amendment, pro forma | ญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | adjournment of the debate | การเลื่อนการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | moderator | ผู้ดำเนินการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | moderator | ผู้ดำเนินการอภิปราย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | catching the Speaker's eye | สบตาประธานสภา (เพื่อขออภิปราย) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | closure | การปิดอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | closure | การปิดอภิปราย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | debate | การอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | Debate on the Address | การอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | debate, adjournment of the | การเลื่อนการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | debate, general | การเปิดอภิปรายทั่วไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | guillotine | ๑. วิธีการจำกัดเวลาอภิปรายร่างกฎหมาย (ของสภาสามัญอังกฤษ)๒. เครื่องประหารชีวิต (ของฝรั่งเศส) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | general debate | การเปิดอภิปรายทั่วไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | general debate | การเปิดอภิปรายทั่วไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | floor | ๑. สิทธิที่จะอภิปราย (ในสภา)๒. ที่อภิปราย (ในสภา) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | filibuster | การอภิปรายประวิงเวลา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | interpellation | ๑. การจำกัดเวลาความรับผิด (ก. แพ่ง)๒. การเปิดอภิปรายทั่วไป (ก. รัฐธรรมนูญ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | kangaroo closure | การปิดอภิปรายอย่างรวบรัด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | kangaroo closure | การปิดอภิปรายอย่างรวบรัด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Proceedings | เอกสารเสนอหรือแถลงในการประชุม รายงานสรุปผลการอภิปราย รายงานกิจการหรือธุรกิจเกี่ยวกับการประชุม, Example: <p>Proceedings คือ เอกสารหรือหนังสือที่รวบรวมบทความวิจัย บทคัดย่อ หรือเอกสารนำเสนอในการประชุมวิชาการหรือวิชาชีพ ที่จัดขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยสมาคม หน่วยงาน หรือองค์กร จัดให้มีการประชุม เพื่อเป็นการพบปะระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาชีพ ในสาขาวิชาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และความร่วมมือกัน มีการนำเสนอผลการค้นคว้าวิจัยใหม่ในที่ประชุม <p>รายงานการประชุมที่เผยแพร่เป็นรูปเล่ม (Proceedings) ดำเนินการตีพิมพ์ผลงานฉบับสมบูรณ์เผยแพร่หลังการประชุม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ <p>1. การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (International Conference) <p>2. การประชุมวิชาการระดับชาติ (National Conference) [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Discussion | อภิปราย [TU Subject Heading] | No confidence motions | อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล [TU Subject Heading] | Council for Security and Cooperation in the Asia-Pacific | ชมรมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันเอกชนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2536 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (Institute of Security and International Studies : ISIS) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันก่อตั้งร่วมกับสถาบันอื่น ๆ จากประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก CSCAP เป็นกลไกที่ไม่ใช่เป็นทางการ เพื่อให้นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในฐานะส่วนตัวและบุคคลอื่นได้อภิปรายปัญหาทางการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | intervention | 1. การเข้าแทรกแซง 2. การเข้าร่วมอภิปราย การเข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลง (ใช้ในกรณีการประชุมพหุภาคี) [การทูต] | Biasing the Discussion | ความลำเอียงในการอภิปราย [การแพทย์] | Case Discussion | การอภิปรายเกี่ยวกับรายตัวอย่าง [การแพทย์] | Case Report Review | การสรุปรายงานเฉพาะกรณี [การแพทย์] | Discharge Summary | สรุปผลเมื่อผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล, สรุปรายงาน, สรุปผลเมื่อผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล [การแพทย์] | Discussion | การอภิปราย, อภิปราย, วิจารณ์ผล, วิจารณ์ [การแพทย์] | Discussion, Lecture | การใช้วิธีอภิปราย [การแพทย์] | Discussion, Panel | การอภิปรายหมู่, การอภิปรายเป็นคณะ [การแพทย์] | Endemic | ระบาดเป็นแห่ง, ท้องถิ่นที่มีโรค, ประจำท้องถิ่น, ประจำถิ่น, โรคเรื้อรังประจำถิ่น, เกิดประปรายประจำ, การระบาด [การแพทย์] | Snow pellets (soft hail) | ลูกปรายหิมะ [อุตุนิยมวิทยา] | Ice pellets | ลูกปรายน้ำแข็ง [อุตุนิยมวิทยา] | granite | หินแกรนิต, หินอัคนีชนิดหนึ่งประกอบด้วยแร่ควอรตซ์และเฟลด์สปาร์เป็นส่วนใหญ่ มีแร่อื่น ๆ เช่น แร่ไมกา ปนอยู่ด้วย ผลึกของแร่แต่ละชนิดเกาะก่ายกัน มีลักษณะเป็นดอก ๆ ประปราย และมีเนื้อหยาบ เปลือกโลกประกอบด้วยหินชนิดนี้เป็นส่วนใหญ่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Group Discussion | วิธิอภิปรายกลุ่ม, [การแพทย์] |
| Mommy! Mommy! | นี่ ดูฝนที่โปรยปรายลงมาสิ Hero (1992) | Do you want to continue this theological discussion in a car... or in a jailhouse with the cops? | คุณต้องการที่จะดำเนินการต่อไปนี้การอภิปรายเทววิทยาในรถ ... หรือในเรือนจำกับตำรวจได้หรือไม่ Pulp Fiction (1994) | The sun rose from the sea, and the old man could see other boats... ... low on the water and well in toward the shore, spread out across the current. | ดวงอาทิตย์ขึ้นประปรายจาก ทะเล และคนเก่าจะได้เห็นเรือลำอื่น ๆ ต่ำในน้ำและได้ดีในที่มีต่อ The Old Man and the Sea (1958) | No more meetings, discussions, or Sollozzo tricks. | การประชุมไม่มีการอภิปรายหรือเทคนิค Sollozzo The Godfather (1972) | Signora Vaccari will tell us another story to stimulate us for another skirmish | เพลง มาดาม Vaccari จะบอก us another เรื่องราว... ...เพื่อการกระตุ้นที่เรา for another การต่อสู้กันประปราย Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | -This show is taped, isn't it? | อัดเทปรายการใช่มั้ยครับ Oh, God! (1977) | This discussion isn't over yet! | การอภิปรายนี้ยังไม่จบ! Akira (1988) | Pittsburgh? You have to go see your parole officer tomorrow. | พิตต์สเบิร์กเหรอ แต่พรุ่งนี้เช้า เธอต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บล Goodfellas (1990) | I'm supposed to report to a Mr. James. | ผมต้องไปรายงานตัวกับ คุณเจมส์ อ่ะครับ Mannequin: On the Move (1991) | Each one was forged meticulously by the craftsmen of High Mountain! | เราต้องไปรายงานนายท่าน One Piece: Wan pîsu (1999) | Go home and check in. | -กลับบ้านแล้วไปรายงานตัวซะ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | There has been a fierce discussion between ruling party members... following the Prime Minister's off-color remarks... at a reception yesterday. | มีการอภิปรายอย่างดุเดือด ระหว่างสมาชิก... ติดตามนายกรัฐมนตรี กล่าววิพากษ์วิจารณ์... ถึงการต้อนรับเมื่อวานนี้. Visitor Q (2001) | Call the prosecutor | ไปรายงานอัยการ Bad Guy (2001) | I'm guessing you already went to the school board and asked them to suspend me. | ฉันเดาว่านายคงเดินไปรายงานให้ พวกบอร์ดผู้บริหารของโรงเรียนรับทราบแล้วมั๊ง Hothead (2001) | Well, better go check in with the chief. | ควรจะเข้าไปรายงานตัวกับ หัวหน้าดีกว่า Inspector Gadget 2 (2003) | Come on and let it snow Come on and let it... This is shit, isn't it? | จงปล่อยให้หิมะโปรยปราย ห่วยแตกไปเลยใช่มั้ย? Love Actually (2003) | "Come on and let it snow." Ouch. | ปล่อยให้หิมะโปรยปราย Love Actually (2003) | (Joins in with rich, deep voice) When the snow lay round about | เมื่อหิมะเริ่มโปรยปราย Love Actually (2003) | The lawyer called to remind you you have to go sign on Monday. | ทนายโทรมาเตื่อนคุณ คุณต้องไปรายงานตัววันจันทร์ 21 Grams (2003) | The data initially were trivial anecdotal but gradually a body of data started accumulating to the extent that we now know that the synthetic chemicals which have permeated our workplace our consumer products our air our water produced cancer and also birth defects | ข้อมูลในตอนแรกยังประปรายและดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ค่อย ๆ สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่าสารเคมีสังเคราะห์ The Corporation (2003) | Report to the Imperial Palace. | - ถูกต้อง. รีบเข้าไปรายงานตัวที่พระราชวังด้วย Mulan 2: The Final War (2004) | Months of debate finally reached a conclusion last week as 10 candidates were selected by the I.M.C representing a cross section of political and religious views. | ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เดือนของการอภิปรายถึงที่สุด สรุปสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 10 Contact (1997) | All members of the police and fire department on leave or off duty shall report immediately to their precincts or company command. | เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานดับเพลิงทุกคน ที่ไม่ได้ประจำการอยู่ในตอนนี้ ให้กลับเข้าไปรายงานตัว ยังหน่วยงานต้นสังกัดโดยทันที Sky Captain and the World of Tomorrow (2004) | Wizard Jenkins must report to the palace immediately. That is all. | พ่อมดเจนกินส์ต้องไปรายงานตัวที่ปราสาททันที เท่านี้ละครับ Howl's Moving Castle (2004) | Please inform Mister Pendragon, that all witches and wizards are required to report for duty at the palace. | กรุณาบอกมิสเตอร์เพนดรากอนด้วยว่า แม่มดและพ่อมดทุกคน จะต้องไปรายงานตัวที่พระราชวังครับ Howl's Moving Castle (2004) | They said you have to report to the palace. | เขาบอกว่าอาจารย์ต้องไปรายงานตัวที่วัง Howl's Moving Castle (2004) | Hey, aren't you supposed to report to the king too? | เฮ้! แล้วนายไม่ไปรายงานตัวกับราชาหรือไง Howl's Moving Castle (2004) | I can't run much longer though, I have to report to the palace. | ผมคงหนีต่อไปได้อีกไม่นาน คงต้องไปรายงานตัวที่ปราสาทแล้ว Howl's Moving Castle (2004) | I must report to the palace whenever summoned. | ผมต้องไปรายงานตัวที่ปราสาทเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเรียกตัว Howl's Moving Castle (2004) | Why don't you go to the palace for me? | ทำไมคุณไม่ไปรายงานตัวที่ปราสาทแทนผมล่ะ! Howl's Moving Castle (2004) | All junior girls report to the gymnasium immediately! | เด็กผู้หญิงทุกคนไปรายงานตัว ที่โรงยิมเดี๋ยวนี้ ! Mean Girls (2004) | You have to report to the university tomorrow, right? | เธอต้องไปรายงานตัวที่มหาลัย พรุ่งนี้แล้วไม่ใช่เหรอ Rice Rhapsody (2004) | Will the angel even give me a backward glance? | วอนนางฟ้า ปรายตามอง? Nobody Knows (2004) | Let's meet on the first day of snow fall | พบกันในวันแรกที่หิมะโปรยปราย The Guy Was Cool (2004) | - That's not true | คงเป็นเพราะ... . โปสการ์ดบ้าๆที่ฉันส่งไปรายการวิทยุนั่น Crying Out Love in the Center of the World (2004) | And then, go on and live your life | โปรยปรายไปกับสายลมที่อูลูรู แล้วจากนั้น Crying Out Love in the Center of the World (2004) | Things just got out of hand. | มันบานปรายเกินกว่าจะควบคุมมันได้ Mr. Monk Meets the Godfather (2004) | Along with the snow came a most unexpected visitor. | พร้อมกับหิมะโปรยปราย ผู้ไม่คาดหวังมาเยือน Memoirs of a Geisha (2005) | - A policy is not up to debate! | - นโยบายไม่ใช่เรื่องต้องอภิปราย Æon Flux (2005) | I'm debating it. | ผมกำลังอภิปรายมัน Æon Flux (2005) | Todo es blanco yo se que nevo anoche | ทุกๆอย่างดูขาวโพลนไปหมดเช่นเดิม ฉันรู้ว่าหิมะจะโปรยปรายลงมาอีกในคืนนี้ March of the Penguins (2005) | I must report to Eckheart-sama. | ชั้นต้องไปรายงานเธอ Fullmetal Alchemist the Movie: Conqueror of Shamballa (2005) | But Vaako will most likely report you as dead. | วาโก้คงกลับไปรายงานว่าเจ้าตายแล้ว The Chronicles of Riddick (2004) | Well, I think I'll report on the evening's frivolities. | เออ.. ผมว่าผมจะไปรายงานผลของค่ำคืนนี้ เจ้งกับเจ้ง Casino Royale (2006) | So if you know where she is, you better start talking, or else I'm gonna get the health department down here, and take a closer look at what you're serving as mushu pork. | ถ้าเธอรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน รีบ ๆ บอกมาซะ ไม่งั้นฉันจะไปรายงานกรมอนามัยให้มาที่นี่ แล้วตรวจดูว่าเธอเอาอะไรทำเป็น หมูผัด Listen to the Rain on the Roof (2006) | We have to report to the doc headquarters. | เราต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ Otis (2006) | Yes, sir. I'm a quality control operator. I'm monitoring the call. | ใช่ค่ะท่าน ฉันต้องรักษาคุณภาพการให้บริการ ฉันต้องตรวจสอบสายปรายทางค่ะ Mr. Monk and the Other Detective (2005) | Please report that we are here again. | ไปรายงานท่านอีกครั้ง Episode #1.42 (2006) | -He's in giving his report to Beckman. | - ไปรายงานตัวกับเบ็คแมน Chuck Versus the Nemesis (2007) | Chairman wants me to see how you're doing, then report to him. | ท่านประธานต้องการทราบว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ผมต้องไปรายงานให้ท่านทราบครับ Flowers for My Life (2007) |
| อภิปราย | [aphiprāi] (n) EN: discussion FR: débat [ m ] ; discussion [ f ] | อภิปราย | [aphiprāi] (v) EN: debate ; discuss ; contend ; discuss ; talk over ; argue FR: débattre ; discuter ; délibérer | อภิปรายทั่วไป | [aphiprāi thūapai] (n, exp) EN: general debate FR: débat général [ m ] | การอภิปราย | [kān aphiprāi] (n) EN: discussion FR: discussion [ f ] ; débat [ m ] | การอภิปรายเจาะลึก | [kān aphiprāi jǿ leuk] (n, exp) EN: in-depth discussion FR: discussion approfondie [ f ] | การอภิปรายคู่ขนาน | [kān aphiprāi khūkhanān] (n, exp) EN: parallel discussion FR: discussions parallèles [ fpl ] | การอภิปรายไม่ไว้วางใจ | [kān aphiprāi mai waiwāngjai] (n, exp) EN: debate of no-confidence ; censure debate | การอภิปรายผู้ชำนาญพิเศษ | [kān aphiprāi phūchamnān phisēt] (n, exp) EN: panel discussion | การอภิปรายสาธารณะ | [kān aphiprāi sāthārana] (n, exp) EN: forum FR: débat public [ m ] ; forum [ m ] | การชุมนุมอภิปราย | [kān chumnum aphiprāi] (n, exp) EN: symposium | การเลื่อนการอภิปราย | [kān leūoen kān aphiprāi] (n, exp) EN: adjournment of the debate | คณะอภิปราย | [khana aphiprāi] (n, exp) EN: colloquium | กลุ่มอภิปราย | [klum aphiprāi] (n, exp) EN: discussion group FR: groupe de discussion [ m ] | ผู้ร่วมอภิปราย | [phū ruam aphiprāi] (n, exp) EN: panelist | ปิดอภิปราย | [pit aphiprāi] (v, exp) EN: close a debate FR: clore un débat ; terminer un débat | ประปราย | [praprāi] (adj) EN: sparsely ; thinly ; slightly ; lightly ; scant ; not much ; occasional | โปรยปราย | [prōiprāi] (v) EN: rain lightly ; spread FR: pleuvoir légèrement | รายการอภิปราย | [rāikān aphiprāi] (n, exp) EN: item for discussion FR: sujet de discussion [ m ] |
| argue | (vt) ให้เหตุผล, See also: อ้างเหตุผล, อภิปราย | argue against | (phrv) ถกเถียงเพื่อต่อต้าน, See also: อภิปรายแย้ง, อภิปรายต่อต้าน | argue for | (phrv) ถกเถียงเรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง | bat around | (phrv) พิจารณาอย่างถี่ถ้วน (คำไม่เป็นทางการ), See also: อภิปรายอย่างละเอียด | cause | (n) หัวเรื่องของการอภิปราย, Syn. subject of discussion | debate about | (phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่องอย่างเป็นทางการ, Syn. debate on | debate on | (phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่อง...อย่างเป็นทางการ, Syn. debate about | debate upon | (phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่อง...อย่างเป็นทางการ, Syn. debate about | debate with | (phrv) อภิปรายกับ, Syn. debate about | discourse on | (phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง | discourse upon | (phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง | discuss with | (phrv) อภิปรายกับ | debate | (n) การโต้วาที, See also: การอภิปราย, การโต้แย้ง, การถกเถียง, Syn. argument, contention, controversy, discussion, dispute, disputation | debate | (vt) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute | debate | (vi) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute | debater | (n) ผู้อภิปราย, See also: ผู้โต้แย้ง, Syn. arguer, talker | deliberative | (adj) เกี่ยวกับการอภิปราย (ทางการเมือง), See also: เป็นผลของการอภิปราย | dialog | (n) การอภิปราย, See also: การสนทนา | dialog | (vi) สนทนา, See also: อภิปราย | dialogue | (n) การสนทนา (คำทางการ), See also: การอภิปราย, Syn. dialog | dialogue | (vi) สนทนา, See also: อภิปราย | discuss | (vt) สนทนา, See also: แลกเปลี่ยนความเห็น, ปรึกษาหารือ, อภิปราย, ถกเถียง, ถกปัญหา, Syn. consult, analyze, criticize, confabulate | discussion | (n) การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar | drizzle | (n) ฝนตกปรอยปราย, Syn. mist, drip | forensic | (adj) เกี่ยวกับการโต้แย้งถกเถียง, See also: เกี่ยวกับการเกี่ยวกับการอภิปราย | forum | (n) ที่สำหรับอภิปราย, See also: ที่แสดงความคิดเห็น | intersperse among | (phrv) ทำให้กระจายไปท่ามกลาง, See also: โปรยท่ามกลาง, โปรยปรายระหว่าง, Syn. intersperse between | intersperse between | (phrv) ทำให้กระจายไปท่ามกลาง, See also: โปรยท่ามกลาง, โปรยปรายระหว่าง, Syn. intersperse among | interlocutory | (adj) ซึ่งมีลักษณะของการสนทนา, See also: ซึ่งมีลักษณะของการอภิปราย | moot | (vt) เสนอความคิดหรือหัวข้อเพื่อการอภิปราย (มักใช้รูป passive voice), Syn. broach, raise, propose, Ant. repress, conceal | moot | (n) การอภิปราย, See also: การโต้แย้ง, การโต้เถียง, Syn. debate, argument, discussion | motion | (n) ญัตติ, See also: เรื่อง, ข้อเสนอเพื่อการอภิปรายในที่ประชุม, Syn. offer, submission | Order Paper | (n) รายการหัวข้อที่อภิปรายในรัฐสภาแต่ละวัน | panel | (n) คณะผู้อภิปรายทางการเมือง, Syn. committee, group | panelist | (n) ผู้ร่วมอภิปราย, See also: สมาชิกในกลุ่มผู้อภิปราย, Syn. discussant, participants | politicise | (vt) อภิปรายเรื่องการเมือง | politicize | (vt) อภิปรายเรื่องการเมือง | proposition | (n) ญัตติ, See also: หัวข้อที่นำมาอภิปราย, Syn. statement, theorem | sparge | (n) ประปราย | sprinkling | (n) ปริมาณโปรยปราย, See also: จำนวนที่พรมลงมา | symposium | (n) การประชุมสัมมนา, See also: การประชุมอภิปราย, Syn. conference, parley, discussion | talk | (vt) อภิปรายกันในเรื่อง, See also: พิจารณากันในเรื่อง, ถกเรื่อง, พูดถึงเรื่อง, Syn. discuss | talk | (n) การอภิปราย, See also: การพิจารณา, การถกเรื่อง, Syn. discussion | thin | (adj) น้อย, See also: เบาบาง, มีประปราย, Syn. sparse |
| argue | (อาร์'กิว) vt., vi. ถกเถียง, เถียง, โต้คารม, อ้างเหตุผล, อภิปราย, พูดให้ยอม, โต้แย้งพิสูจน์ว่า, แสดงให้เห็นว่า-arguer n., Syn. debate | argumentation | (อาร์กิวเมนเท'เชิน) n. ขบวนการโต้เถียงการให้เหตุผล, การอภิปราย, การถกเถียง, บทความเชิงอภิปราย, ข้อพิสูจน์, ข้อสรุป, ข้ออนุมาน, Syn. discussion | bull session | n. การอภิปรายกลุ่ม | canvass | (แคน'เวิส) { canvassed, canvassing, canvasses } vt., vi., n. (การ) ตรวจสอบอย่างละเอียด, หาเสียง, ออกเที่ยวชักชวน, อภิปรายอย่างละเอียด, วิจารณ์อย่างรุนแรง, See also: canvasser n. ดู canvass, Syn. examine, survey | cloture | (โคล'เชอะ) { clotured, cloturing, clotures } n. วิธีการปิดการอภิปรายและให้มีการลงคะแนนเสียงทันที vt., vi. ปิดการอภิปราย | colloquium | (คะโล'เควียม) n. การประชุม หรือปรึกษาหารืออย่าง ๆ ไม่เป็นทางการ, การอภิปรายกลุ่ม | confabulate | (คันแฟบ'บิวเลท) vi. คุยกันเล่น, สนทนา, อภิปราย, See also: confabulator n. | confabulation | (คันแฟบบิวเล'เชิน) n. การคุยกันเล่น, การสนทนา, การอภิปราย., See also: confabulatory adj., Syn. conversation | controvert | (คอน'ทระเวิร์ท) vt. โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย., See also: controverter n. ดูcontrovert controvertible adj. ดูcontrovert, Syn. oppose, deny | debate | (ดิเบท') { debated, debating, debates } vt., n. (การ) ถกเถียง, อภิปราย, พิจารณา, ชิงชัย, ต่อสู้, Syn. argue | discourse | (ดิส'คอร์ส) v., n. (การ) สนทนา, บรรยาย อภิปราย., See also: discourser n. ดูdiscourse, Syn. confer | discuss | (ดิสคัส') { discussed, discussing, discusses } vt. อภิปราย, โต้ตอบ, สาธยาย., See also: discusser n. ดูdiscuss, Syn. debate, argue | discussant | (ดิสคัส'เซินทฺ) n. ผู้อภิปราย, ผู้ร่วมการอภิปราย | discussion | (ดิสคัส'เชิน) n. การอภิปราย, การโต้แย้งหาเหตุผล | disputant | (ดิสพิว'เทินทฺ) n.ผู้โต้เถียง, ผู้โต้แย้ง, ผู้อภิปราย. -adj. ซึ่งโต้เถียง, ซึ่งโต้แย้ง | disputation | n. การโต้เถียง, การอภิปราย, การทะเลาะ, Syn. dispute | drizzle | (ดริซ'เซิล) { drizzled, drizzling, drizzles } vt., vi., n. ฝนตกประปราย, ฝนตกพรำ, See also: drizzly adv. | fire fight | n. การรบอย่างประปราย | flak | (แฟลคฺ) n. การยิงปืนต่อสู้อากาศยาน, การวิจารณ์ที่รบกวน, การต่อต้านที่รบกวน, การโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อน, การอภิปรายอย่างเผ็ดร้อน., Syn. flack | floor | (ฟลอร์) n. พื้น, พื้นห้อง, กัน (ทะเล, ถ้ำ, น้ำ) , ชั้นอาคาร, ชั้นต่ำสุด, ชั้นพื้นฐาน vt. ปูพื้น, ทำให้ล้มลง, ทำให้สับสน, ทำให้งง. -Phr. (take the floor อภิปราย), Syn. level, stage | flurry | (เฟลอ'รี) n. หิมะที่ตกปรอย ๆ , ฝนตกลงมาอย่างประปราย, ความตื่นเต้นหรืองงงวยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน, ความเกรียวกราว, ความหวั่นไหวของตลาดหุ้น, ลมที่พัดมาอย่างกะทันหัน. vt. ทำให้ยุ่งใจ, ทำให้ตื่นเต้น, Syn. fluster | forum | (ฟอ'รัม) n. สภา, ที่ประชุมสำหรับการอภิปราย, ศาล, ศาลกลางเมือง, วิธีการอภิปรายปัญหา, -Phr. (the Forum ตลาดหรือสนามกว้างของเมืองโบราณสมัยโบราณ), Syn. assembly, meeing -pl. forums, fora | genie | (จีนี) ย่อมาจาก General Electric Network for Information Exchange เป็นบริการตามสายซึ่งจัดไว้สำหรับการคัดลอกโปรแกรม การเล่นเกม การอภิปรายปัญหาแบบรายการสัมนาโต๊ะกลมไว้ให้ แต่ไม่ฟรี จีนีมีขนาดหรือมีสมรรถนะต่ำกว่า Compuserve แต่ก็มีค่าบริการถูกกว่า ดู Compuserve, internet และ network ประกอบ | moot | (มูท) adj. น่าสงสัย, ไม่จริง, เป็นสมมุติฐาน vt. ถกเถียง n. ศาลากลาง, การถกเถียง, การอภิปราย, Syn. debatable, academic | panelist | (แพน'นะลิสท) n. สมาชิกของกลุ่มผู้อภิปราย | panell discussion | n. การอภิปรายหมู่ต่อหน้าชุมชน ในรายการโทรทัศน์ หรือวิทย | pellet | (เพล'ลิท) n. ก้อนกลมเล็ก ๆ , ลูกกลม, ลูกหิน, ลูกปืน, เม็ดขี้สัตว์, ลูกปราย, ยาเม็ดกลม vt. ปั้นเป็นลูกกลม, ยิงหรือปาด้วยลูกกลม., See also: pelletize vt. ทำให้เป็นลูกกลม, Syn. ball, sphere, drop | question | (เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถาม, See also: questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. beyond all question ไม่ต้องสงสัย -Phr. out of the question เป็นไปไม่ได้ | seminar | (เซม'มะนาร์) n. กลุ่มสัมมนา, สัมมนา, การประชุมสัมมนา, วิชาประเภทสัมมนา, การประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและอภิปราย | skirmish | (สเคอ'มิช) vi., n. (การ) ต่อสู้กันประปราย, ต่อสู้กันระหว่างกลุ่มเล็ก ๆ | sprinkle | (สพริง'เคิล) vt., vi., n. (การ) พรม, โปรย, โรย, หว่าน, (ฝน) ลงประปราย, ฉีดให้เปียก., สิ่งที่ใช้พรม (โรย, โปรย) , การหว่าน, ฝนที่ลงประปราย, จำนวนเล็กน้อย | theme | (ธีม) n. หัวข้อการอภิปราย, หัวข้อในการสนทนา, หัวข้อหนังสือ, เรื่องของหนังสือ, ใจความ, สาระสำคัญ, แก่นสาร, หัวข้อความเรียง, แกนคำศัพท์, แนวบทเพลง., Syn. topic, subject | tribune | (ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์, See also: tribuneship n. | ventilate | (เวน'ทะเลท) vt. ระบายลม, ระบายอากาศ, ทำให้มีอากาศเข้าได้, เปิดเผย, เปิดให้ตรวจสอบ, เปิดอภิปราย, แสดงออก, แสดงข้อคิดเห็น., See also: ventilable adj. ventilative adj. |
| controvert | (vi, vt) แย้งกัน, โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย | debate | (n) การถกเถียง, การอภิปราย, การโต้แย้ง, การโต้วาที | debate | (vt) ถกเถียง, โต้แย้ง, ต่อต้าน, ชิงชัย, โต้วาที, อภิปราย | debater | (n) ผู้ถกเถียง, ผู้อภิปราย, ผู้โต้วาที | discourse | (n) การสนทนา, การบรรยาย, การอภิปราย, การพูด, ปาฐกถา | discourse | (vi) สนทนา, บรรยาย, อภิปราย, พูด, ปาฐกถา | discuss | (vt) อภิปราย, สาธยาย, พิจารณา, โต้เถียง, โต้ตอบ, สนทนา | discussion | (n) การอภิปราย, การพิจารณา, การสนทนา, การโต้เถียง, การโต้ตอบ | disputation | (n) การโต้เถียง, การโต้แย้ง, การถกปัญหา, การอภิปราย | dispute | (vt) โต้เถียง, แย้ง, ค้าน, ทะเลาะ, ต่อต้าน, อภิปราย | disseminate | (vt) แจกจ่าย, โปรยปราย, เผยแพร่, แพร่กระจาย | drizzle | (vi) ฝนปรอย, ฝนตกพรำ, ฝนตกประปราย | intersperse | (vt) ทำให้กระจายไปทั่ว, โปรยปราย | pellet | (n) ลูกปราย, ยาเม็ดเล็กๆ, ลูกปืน, ลูกหิน | rain | (vi) โปรยปราย, ฝนตก | shower | (vi) ตกปรอยๆ, โปรยปราย, อาบน้ำฝักบัว | showery | (adj) ซึ่งโปรยปราย | skirmish | (n) การประดาบ, การรบกันประปราย, การโต้เถียงเล็กน้อย | skirmish | (vi) ประดาบ, รบกันประปราย, โต้เถียงเล็กน้อย | sporadic | (adj) เป็นพักๆ, ประปราย, เป็นระยะๆ, กระจัดกระจาย | sprinkle | (n) การพรม, จำนวนน้อย, การโปรย, การหว่าน, ฝนโปรยปราย | tribune | (n) ผู้พิทักษ์ประชากร, เวทีอภิปราย |
| at a glance | (phrase) ปรายตา, ชำเลืองมอง, มองผ่าน ๆ ก็เข้าใจ | bankai | (vi, vt) บังไค (ตราสวัสดิกะ) สัญลักษณ์ที่ใช้ในสมัยสงครามโลก ถูกคิดค้นขึ้นโดยฮิตเลอร์ หรือ คำที่ใช้ในการ ปลดปล่อยพลังของเหล่ายมฑูต ในการ์ตูนเรื่อง Bleach Ex: ปลดปล่อยสวัสดิกะ - จงโปรยปรายเซมบงซากุระคาเงโยชิ หรือ บังไค เซมบซากุระคาเงโยชิ นั่นเอง Image: | cluster munitions | (n) ระเบิดลูกปราย | cluster munitions | (n) ระเบิดลูกปราย |
| 内閣不信任案 | [ないかくふしんにんあん, naikakufushinnin'an] (n) ญัตติเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี |
| 議論 | [ぎろん, giron] (n) การอภิปราย การโต้แย้ง การถกเถียง | 言論 | [げんろん, genron] (n) [ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar | 言論 | [げんろん, genron] (n) [ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar | 疑問 | [ぎもん, gimon] (n) (เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถาม, S. . questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. (beyond (all) question ไม่ต้องสงสัย) -Phr. (out of the question เป็นไปไม่ได้) |
| Aufmerksamkeit | (n) |die, pl. Aufmerksamkeiten| ความสนใจ, ความเอาใจใส่ เช่น Vielen Dank für Ihre Aufmerksamkeit! ขอบคุณมากสำหรับความสนใจของคุณ หรือ ขอบคุณมากที่คุณตั้งใจฟัง (มักใช้หลังจากผู้พูดจบการอภิปราย) | sich versprechen | (vt) |versprach sich, hat sich versprochen| พูดผิด เช่น Der Redner war sehr nervös und hat sich dauernd versprochen. ผู้พูดอภิปรายตื่นเต้นเกินไป และพูดผิดตลอดเวลา | Auseinandersetzung | (n) |die, pl. Auseinandersetzungen, über eine Sache| การอภิปรายถกเถียง, การโต้แย้ง, การเถียงกัน, See also: Streit, Syn. Diskussion |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |