“Demure” : The word redefines elegance and confidence in 2024 (เรียนภาษาอังกฤษ in English) “Demure” เป็นคำศัพท์ที่ได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ Tiktok ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่หันมาให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย ความมั่นใจ และความใส่ใจในรายละเอียดทั้งในรูปลักษณ์และพฤติกรรม โดยคำนี้ได้รับการนิยามใหม่จากความหมายดั้งเดิมที่เกี่ยวกับความสุภาพถ่อมตัวและความสงวนท่าที ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามที่มาพร้อมความมั่นใจอย่างมีชั้นเชิงในโลกที่เต็มไปด้วยความโดดเด่นฉูดฉาด การเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเทรนด์ในโซเชียลมีเดียและทัศนคติของสังคมที่พัฒนาไป ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับในรูปแบบการแสดงตัวตนที่แฝงด้วยความลึกซึ้งและงดงามในปัจจุบัน The word “demure” was selected as Dictionary.com’s 2024 Word of...
ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*เผชิญ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เผชิญ, -เผชิญ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
pepper with(vt) เผชิญกับ

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N[มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961)

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
เผชิญ(v) confront, See also: face, brave, meet, Syn. ประเชิญ, ชนกัน, ปะทะกัน, ต่อกัน, Example: พม่ากำลังเผชิญกับปัญหาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง, Notes: (เขมร)
เผชิญภัย(v) face danger, See also: face calamity or disaster, confront with danger, Syn. ผจญภัย, Example: ่พวกเรารู้ว่าทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายจึงเตรียมตัวเผชิญภัยไว้ล่วงหน้าแล้ว, Thai Definition: เจออันตรายเฉพาะหน้า, กล้าเสี่ยงภัยโดยรู้ว่าจะมีอันตราย
เผชิญภัย(v) face danger, See also: confront with danger, meet with the danger, Syn. ประสบภัย, Example: พวกเราพร้อมที่จะเผชิญภัยกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า, Thai Definition: เจออันตรายเฉพาะหน้า, กล้าเสี่ยงภัยโดยรู้ว่าจะมีอันตราย
กล้าเผชิญ(v) brave, See also: confront, dare, Syn. กล้าหาญ, กล้า, Ant. ขี้ขลาด, Example: เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับและกล้าเผชิญกับบทลงโทษ
เผชิญหน้า(v) face, See also: meet, encounter, confront, Syn. ประจันหน้า, Example: พวกเรากำลังจะเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย เพื่อชี้แจงจุดประสงค์ให้ฟัง, Thai Definition: พบเจอกันหรือปะทะกันซึ่งๆ หน้า
เผชิญความจริง(v) confront the truth, See also: face reality, Syn. สู้กับความจริง, Example: ผู้ที่ปรับตัวได้ดีจะเผชิญความจริงอย่างกล้าหาญ โดยไม่พยายามบิดเบือนความจริงต่อผู้อื่น, Thai Definition: ยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
เผชิญ(ผะเชิน) ก. ประเชิญ, ชนกัน, ปะทะกัน, ต่อกัน.
เผชิญภัยก. เจออันตรายเฉพาะหน้า, กล้าเสี่ยงภัยโดยรู้ว่าจะมีอันตราย.
เผชิญหน้าก. เจอกันซึ่งหน้า (ใช้แก่ผู้ที่ไม่ชอบหน้ากัน).
กำลังใจน. สภาพของจิตใจที่มีความเชื่อมั่นและกระตือรือร้นพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ทุกอย่าง.
เข้าหน้าก. เผชิญหน้า เช่น ไม่กล้าเข้าหน้า.
ตายดาบหน้าก. เสี่ยงหนีเหตุการณ์ร้ายปัจจุบันไปเผชิญชีวิตข้างหน้า, มีทิฐิมานะที่จะต่อสู้กับเคราะห์กรรมเอาข้างหน้า, เสี่ยงทำไปก่อน แล้วค่อยคิดแก้เหตุการณ์ภายหลัง.
ประจันประชัน, ประเชิญ, เผชิญ, เช่น หันหน้าประจันกัน
ประจันหน้าก. เผชิญหน้ากัน, อยู่ต่อหน้ากัน.
ไปตายดาบหน้า, ไปตายเอาดาบหน้าก. ยอมไปเผชิญกับความทุกข์และความลำบากข้างหน้า.
รอหน้าก. เข้าหน้า, เผชิญหน้า, (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น รอหน้าไม่ติด ไม่อยู่รอหน้า.
รับหน้าก. เผชิญหน้า, รอหน้า, เช่น ส่งเด็กไปรับหน้าเจ้าหนี้ไว้ก่อน.
ลัดเลาะก. หลีกเลี่ยงเพื่อไปให้เร็วขึ้นหรือเพื่อไม่ให้เผชิญกับสิ่งกีดขวาง เช่น เดินลัดเลาะไปตามตลิ่ง เดินทางลัดเลาะหลบข้าศึก, เลาะลัด ก็ว่า.
เลาะลัดก. หลีกเลี่ยงเพื่อไปให้เร็วขึ้นหรือเพื่อไม่ให้เผชิญกับสิ่งกีดขวาง เช่น เดินเลาะลัดไปตามตลิ่ง เดินทางเลาะลัดหลบข้าศึก, ลัดเลาะ ก็ว่า.
สู้หน้าก. รอหน้า, เผชิญหน้า, เช่น เขาทำผิด เลยไม่กล้าสู้หน้าฉัน.
เสี่ยง ๒ก. ลองเผชิญดู, ลองทำดูในสิ่งที่อาจให้ผลได้ ๒ ทาง คือ ดีหรือไม่ดี แต่หวังว่าจะได้ผลทางดี เช่น งานนี้ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต้องเสี่ยงทำดู.
หน้าซีกของกายที่ตรงข้ามกับหลัง, ด้านของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับสายตาของเราหรือด้านที่เผชิญหน้ากับสายตาของเรา เช่น เขาวิ่งอยู่หน้าฉัน จึงเห็นแต่หลังเขาไว ๆ
หลบหน้า, หลบหน้าหลบตาก. หลบไปไม่เผชิญหน้า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
rencounterการปะทะ, การเผชิญหน้า [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
commission to examine witnessesคณะผู้เดินเผชิญสืบพยาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
inspection by judgeการเผชิญสืบ, การตรวจสอบโดยศาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
viewing the sceneการเดินเผชิญสืบ (โดยศาล) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
take evidence out of courtเดินเผชิญสืบพยาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Interpersonel Confrontationการเผชิญหน้าระหว่างบุคคล [TU Subject Heading]
Reality therapyการบำบัดแบบการเผชิญความจริง [TU Subject Heading]
Sightings and encountersการมองเห็นและการเผชิญหน้า [TU Subject Heading]
Flexible Engagementความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่น " ความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่นเป็นข้อเสนอของ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่เสนอในการประชุมรัฐมนตรีต่าง ประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting : AMM) ครั้งที่ 31 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีการหารือและแลก เปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้างและเป็นกันเองในเรื่องหรือประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันหรือที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความ มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของนานาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันสืบเนื่องจากการที่อาเซียนมีสมาชิกครบ 10 ประเทศ และอยู่ในภาวะที่เผชิญปัญหาท้าทายต่าง ๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวพันกัน " [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Look West Policyนโยบายมองตะวันตก (ของไทย) เป็นแนวความคิดที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในทางการ เมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยสอดคล้องกับความเป็นจริงของยุคหลังสงครามเย็น ประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา [การทูต]
Millennium Summitการประชุมสุดยอดแห่งสหัสวรรษ การประชุมสุดยอดของประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลที่จัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2543 (ค.ศ. 2000) เพื่อให้ผู้นำประเทศต่าง ๆ เสนอข้อคิดเห็นต่อการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของสหประชาชาติในศตวรรษที่ 21 ให้สามารถเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงและสิ่งท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ [ ที่ประชุมยืนยันพันธกรณีร่วมกันที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สหประชา ชาติในการดำเนินการเรื่องสำคัญของมนุษยชาติ ดังระบุไว้ในปฏิญญาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Declaration) ] [การทูต]
The New Partnership for Africa?s Developmentหุ้นส่วนใหม่เพื่อการพัฒนาแอฟริกา เป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแอฟริกา มีวัตถุประสงค์ในการ ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศแอฟริกา การขจัดความยากจนและการขจัดความเสียเปรียบของประเทศแอฟริกาในยุคโลกาภิวัตน์ NEPAD พัฒนามาจากการประชุม สุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ซึ่งในการประชุมนี้ ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ประธานาธิบดีไนจีเรีย และประธานาธิบดี แอลจีเรียได้เสนอต่อที่ประชุม ขอให้กลุ่มประเทศเหนือและประเทศใต้ร่วมกันแก้ปัญหาที่ทั้งสองกลุ่มประเทศ เผชิญอยู่ บนพื้นฐานของ ผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเน้นการพัฒนาประเทศที่ยากจน เช่น ประเทศ ในภูมิภาคแอฟริกา ต่อมาบรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศแอฟริกาได้ร่วมกันกำหนดแผนพัฒนาแอฟริกาสำหรับ ใช้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศพัฒนาแล้วในเวทีการประชุมระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เรียกว่า New Africa Initiative (NAI) ที่ประชุมองค์การเอกภาพแอฟริกา หรือ OAU (ซึ่งต่อมากลายเป็น African Union ? AU) ได้เห็นชอบต่อแผน NAI ดังกล่าวในเดือนกรกฎาคม 2544 ผู้นำของประเทศแอฟริกาได้นำเสนอ NAI ต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 เมื่อปี พ.ศ. 2544 และได้รับการปรับปรุงแก้ไขจนเป็น NEPAD ในปัจจุบัน [การทูต]
Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact)สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต]
Confrontationเผชิญความจริง [การแพทย์]
Coping Mechanismsวิธีการปรับตนเมื่อเผชิญปัญหา [การแพทย์]
ความขัดแย้งความขัดแย้ง, สภาวะหรือเหตุการณ์ที่ทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกมีความขัดแย้งในตนเอง เมื่อถึงเวลาที่เผชิญแล้ว บุคคลนั้นเกิดความลำบากใจ หนักใจ หรืออึดอัดใจในการตัดสินใจ ตกลงใจที่จะเลือกกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความขัดแย้งแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. ความขัดแย้งในใจที่บุคคลจะต้องต [สุขภาพจิต]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Especially the subsequent encounters with the police or the powers that be.โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายหลังการเผชิญกับ ตำรวจหรืออำนาจ Basic Instinct (1992)
You can run but you can't hide.หนีน่ะหนีได้ แต่ซักวันก็ต้องเผชิญกับมัน The Bodyguard (1992)
And, Lord, whatever dangerous endeavors we may take let them never be without your sanctuary...หากเราผู้ใดในที่นี้ ต้องเผชิญอันตราย.. ขอให้พระองค์ทรงคุ้มครองเขาด้วย The Bodyguard (1992)
Another encounter between you and Mr. Edgar would probably kill her.การเผชิญหน้าอีกครั้งระหว่าง คุณและคุณเอ็ดการ์ คงจะฆ่าหล่อนเป็นแน่แท้ Wuthering Heights (1992)
They can't afford to face it.พวกเขาไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับมัน In the Name of the Father (1993)
We had to confront the chief prison officer, Barker.เราต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้า เจ้าหน้าที่เรือนจำ Barker In the Name of the Father (1993)
You are exposing yourself and Agent Scully to unnecessary risk.คุณนำตัวของคุณ และ Agent Scully ไปเผชิญกับอันตราย ที่ไม่จำเป็น Squeeze (1993)
Your granddad was facing death.คุณปู่ของคุณได้รับการเผชิญหน้ากับความตาย Pulp Fiction (1994)
If you don't open that case, I'm gonna unload in your fucking face.หากคุณไม่ได้เปิดกรณีที่ฉันจะยกเลิกการโหลดในการเผชิญกับการร่วมเพศของคุณ Pulp Fiction (1994)
Later, I drove to his house to confront them.ต่อมาผมขับรถไปที่บ้านของเขาเพื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา The Shawshank Redemption (1994)
Mr. Dufresne, describe the confrontation you had with your wife the night she was murdered.นาย Dufresne, อธิบายการเผชิญหน้าที่คุณมีกับภรรยาของคุณในคืนที่เธอถูกฆ่าตาย The Shawshank Redemption (1994)
Face the wall.เผชิญกับผนัง The Shawshank Redemption (1994)
Turn around and face the Warden.เปิดไปรอบ ๆ และเผชิญหน้ากับผู้คุม The Shawshank Redemption (1994)
There's a harsh truth to face.มีความจริงที่รุนแรงจะเผชิญกับความเป็น The Shawshank Redemption (1994)
Now that we've been face to face... if I'm there and I gotta put you away...เราได้มาเผชิญหน้ากันแล้ว ถ้าผมอยู่ตรงนี้และต้องเก็บคุณ Heat (1995)
We've been face to face, yeah.เราเคยนั่งเผชิญหน้ากัน ใช่ Heat (1995)
Son, you're gonna have to face him sooner or later.ลูกต้องเผชิญหน้าเขาไม่ช้าก็เร็ว Jumanji (1995)
Look, if you're afraid of something, you've got to stand and face it.ถ้าลูกกลัวอะไร ให้ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับมัน Jumanji (1995)
- I want you to know I am proud of you.-แต่พ่อภูมิใจในตัวลูกที่กล้าเผชิญหน้า Jumanji (1995)
I wish you'd go home. You ought not to be here through all this.ผมหวังว่าคุณจะกลับบ้านไปซะ คุณไม่น่าจะต้องเผชิญกับเรื่องทั้งหมดนี้ Rebecca (1940)
The inmates once again take up their driving obsession:แล้วเหล่านักโทษก็ต้องเผชิญ กับการท้าทายความอยู่รอด Night and Fog (1956)
You are faced with a grave responsibility. Thank you, gentlemen.คุณจะต้องเผชิญกับความรับผิดชอบหลุมฝังศพ ขอขอบคุณคุณสุภาพบุรุษ 12 Angry Men (1957)
But my father told me... you should always face what you're afraid of.แต่พ่อสอนไว้ว่า... ...เราต้องเผชิญหน้า กันสิ่งที่เรากลัว Jumanji (1995)
Us in our vest are exposed to all manner of nastiness.เราอยู่ในเสื้อยืดของเราที่นี่ครับ กำลังเผชิญกับลักษณะของ ความขุ่นเคือง How I Won the War (1967)
I'll square it with Mom, that you're not seeing her before you leave and...ฉันจะเผชิญหน้ากับแม่ว่าคุณไม่ได้เห็นเธอก่อนที่จะออกและ ... The Godfather (1972)
And there I was face to face with a 6-year-old kid!แล้วฉันก็เผชิญหน้า ...กับเด็ก 6 ขวบ Blazing Saddles (1974)
How could they face the world if they didn't believe they were protected?มันจะเผชิญกับโลกได้ยังไง ถ้าไม่เชื่อมั่นว่าหนามปกป้องมัน The Little Prince (1974)
What we are dealing with here is a perfect engine, an eating machine.ที่เรากําลังเผชิญอยู่นี่ คือเครื่องจักรจอมเขมือบ Jaws (1975)
All right, now we know what we're up against.เอาละ ตอนนี้เรารู้แล้ว ว่าเราเผชิญอยู่กับอะไร Airplane! (1980)
Can't push him too hard. Might break. Remember who you're dealing with.กดดันเขามากเกินไปไม่ได้ อาจพัง จำไว้สิว่าคุณกำลังเผชิญอยู่กับใคร Airplane! (1980)
After nine years and hundreds of millions of miles, we are about to come face to face with the monolith.หลังจากเก้าปีและร้อย ล้านไมล์เรากำลังจะมา เผชิญหน้ากับหินใหญ่ก้อนเดียว 2010: The Year We Make Contact (1984)
Come back and face me like a man.มาเผชิญหน้ากันอย่างลูกผู้ชาย Jumanji (1995)
As each week passes, I have to face up to the fact... that the poor man must have perished in the attempt.ขณะที่ในแต่ละสัปดาห์ผ่าน ไปฉันต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ... ว่าคนยากจนจะต้องมี การเสียชีวิตในความพยายาม Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
Y...you look very confident but...you must deal with vampires.คุณ.. คุณดู หน่วยก้านดีก็จริงอยู่ แต่ในเมื่อต้อง เผชิญหน้ากับแวมไพร์ Vampire Hunter D (1985)
Every five years, the best fighters in its ranks would face each other in full contact with one winner emerging as the superior warrior the champion.ทุกห้าปีนักสู้ที่ดีที่สุดในการจัดอันดับของ ... ... จะต้องเผชิญซึ่งกันและกันในการติดต่อแบบเต็ม ... ... กับหนึ่งผู้ชนะเกิดขึ้นเป็นนักรบที่ดีกว่า ... Bloodsport (1988)
Well, he who finds the Grail must face the final challenge.คือว่า, คนที่พบจอกศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ท้าทาย ครั้งสุดท้าย. Indiana Jones and the Last Crusade (1989)
When we get to Alexandretta, we will face three challenges.เมื่อเราไปถึง อเล็กซานเดรตต้า, เราต้องเผชิญกับสิ่งที่ท้าทาย 3 อย่าง Indiana Jones and the Last Crusade (1989)
You are unique among your brothers for you choose to face this enemy alone.คุณจะไม่ซ้ำกันในหมู่พี่น้องของคุณ ... ... สำหรับคุณเลือกที่จะเผชิญกับศัตรูนี้เพียงอย่างเดียว Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
But as you face it, do not forget them.แต่เป็นคุณเผชิญหน้ากับมันอย่าลืมพวกเขา Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
An unknown which they can't bear to face their greatest fear.ไม่รู้จักที่พวกเขาไม่สามารถทนที่จะเผชิญหน้ากับ ... ... ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
Now you face The Shredder.ตอนนี้คุณต้องเผชิญ ... Shredder ... Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
Face about all this.เผชิญหน้าเข้าไว้ Mannequin: On the Move (1991)
- Ah come on, let's get real... - Hey, I mean, it's one guy. It's just one guy.เกินไป เผชิญความจริงดีกว่าน่า ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง โบลิโทนอฟพูดถูก The Jackal (1997)
Nago fled. I will stay here and face my death.Nago หนี ผมจะอยู่ที่นี่และต้องเผชิญกับความตายของฉัน Princess Mononoke (1997)
You learn to take life as it comes at you.ต้องเผชิญชีวิตให้ได้ทุกรูปแบบ Titanic (1997)
You should be glad you're not someone who has it easy who has no problems, because those people are often uninteresting.ลูกน่าจะถภูมิใจนะ \ ลูกไม่ใช่คนที่จะได้อะไรมาง่ายๆ คนที่ไม่เคยเผชิญปัญหา เพราะคนพวกนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด Show Me Love (1998)
And you come face to face with the truth that it's impossible...และเธอก็พยายามเผชิญหน้ากับ ความจริงว่า มันเป็นไปไม่ได้... The Story of Us (1999)
Yeah, we were tired, but I think we were afraid that if we faced each other, there'd be nothing there.ใช่ เราพยายามอยู่ แต่ ฉันคิดว่า เรากลัว... ... ว่า ถ้าเราต้องการเผชิญหน้า มันจะไม่เหลืออะไร The Story of Us (1999)
Still she came, unaware of the suspicion that preceded her.เธอมาอย่างเงียบๆ โดยไม่ตระหนักถึง ความเคลือบแคลงที่เธอต้องเผชิญ Anna and the King (1999)
And one way that a royal family maintains its control in the face of war and disease is to have as many children as possible.และทางเดียวที่พระบรมวงศานุวงศ์ จะยังคงครองราชย์อยู่ต่อไปได้ จากการเผชิญหน้ากับสงครามและโรคภัยไข้เจ็บก็คือ การมีพระราชทายาทให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ Anna and the King (1999)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การเผชิญความเครียด[kān phachoēn khwām khrīet] (n, exp) EN: stress resistance ; stress coping
การสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า[kān samphāt baēp phachoēn nā] (n, exp) EN: face-to-face interview
เผชิญ[phachoēn] (v) EN: face ; confront ; be faced with ; be confronted with ; brave ; meet  FR: affronter ; faire face à ; se confronter à ; braver ; lutter contre
เผชิญดู[phachoēn dū] (v, exp) EN: risk
เผชิญความจริง[phachoēn khwāmjing] (v, exp) EN: confront the truth
เผชิญความเครียด[phachoēn khwām khrīet] (v, exp) FR: affronter le stress
เผชิญภัย[phachoēn phai] (v, exp) EN: face danger  FR: affronter le danger
เผชิญหน้า[phachoēn nā] (x) EN: face
เผชิญหน้ากัน[phachoēn nā kan] (v, exp) EN: confront

English-Thai: Longdo Dictionary
conventional warfare(phrase) การยุทธตามรูปแบบ, การทำสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการทหาร ซึ่งแต่ละชนชาติจะเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
breast(vt) เผชิญหน้า
brace up to(phrv) เตรียมใจ, See also: พร้อมเผชิญ
brave it out(phrv) เผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ, See also: กล้าเผชิญ, Syn. bluff out, brazen out
brazen it out(phrv) เผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ, See also: กล้าเผชิญ, Syn. bluff out, brave out
bring down(phrv) ทำให้เผชิญกับความจริง, See also: ทำให้กล้าเผชิญ
bring someone down to earth with a bang(idm) เผชิญความจริง, Syn. come down
bring someone down to earth with a bump(idm) เผชิญความจริง, Syn. come down
confront(vt) เผชิญหน้า, Syn. face, stand up to
confrontal(n) การเผชิญหน้า, Syn. confrontation
confrontation(n) การเผชิญหน้า, Syn. confrontal
confront with(phrv) เผชิญกับ, See also: พบกับ
cross a bridge when one comes to it(idm) จงแก้ไขเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา
face onto(phrv) หันไปเผชิญกับ, See also: ตั้งตรงข้ามกับ, Syn. back onto
face out(phrv) กล้าเผชิญกับ, See also: จัดการกับ อย่างกล้าหาญ
face up to(phrv) เผชิญหน้ากับ, See also: ประจันกับ, เผชิญกับ, ยอมรับทำไปอย่างไม่ย่อท้อ, Syn. shape up to, square up to
face with(phrv) ทำให้พบกับ (สิ่งเลวร้าย, สิ่งยุ่งยาก), See also: เผชิญกับ สิ่งเลวร้าย, สิ่งยุ่งยาก
dare(vi) กล้า, See also: กล้าเผชิญ, กล้าเผชิญหน้า, กล้าเสี่ยง, อาจหาญ, ท้าทาย, บังอาจ, Syn. venture, brave, challenge
dare(n) ความกล้าหาญ, See also: การกล้าเผชิญ, ความท้าทาย, Syn. challenge
encounter(vt) เผชิญหน้า, See also: พบกัน, เจอกัน, Syn. confront, face, meet
face(vt) เผชิญหน้า, See also: เผชิญ, พบ, เจอ, Syn. confront
face-off(n) การเผชิญหน้า (คำไม่เป็นทางการ), See also: การโต้เถียงหรือการต่อสู้, Syn. confrontation
face-to-face(idm) เผชิญหน้ากัน, See also: ต่อหน้า
front(vt) เผชิญหน้า, See also: หันหน้าเข้าหา
front(vi) เผชิญหน้า, See also: หันหน้าเข้าหา
go before(phrv) อยู่ต่อหน้า, See also: เผชิญหน้า, Syn. bring before
greet with(phrv) เผชิญหน้ากับ
moment of truth(idm) ช่วงที่ต้องเผชิญกับความจริง
one's days are numbered(idm) พบกับความหายนะ (คำไม่เป็นทางการ), See also: เผชิญกับความตาย
take the bull by the horns(idm) เผชิญกับสิ่งท้าทาย
jib at(phrv) คัดค้าน, See also: ไม่อยากเผชิญกับ, ไม่เห็นด้วยกับ, Syn. balk at
keep one's chin(idm) ยังร่าเริงแม้เผชิญกับปัญหา
keep one's pecker up(idm) ยังร่าเริงแม้เผชิญกับปัญหา, Syn. cheer up
look someone in the eyes(idm) เผชิญกับ...อย่างไม่เกรงกลัว, See also: เผชิญกับ...อย่างไม่ละอาย
look someone in the face(idm) เผชิญกับ...อย่างไม่เกรงกลัว, See also: เผชิญกับ...อย่างไม่ละอาย
look towards(phrv) หันไปทาง, See also: เผชิญหน้ากับ, ประจันหน้ากับ, Syn. look to
look(vi) เผชิญหน้า, See also: เผชิญหน้า, Syn. face, front
meet with(phrv) เผชิญกับ, See also: มีประสบการณ์เกี่ยวกับ
pull round(phrv) เผชิญกับ, See also: หันกลับ, Syn. bring about
reckon with(phrv) เผชิญหน้ากับ, See also: จัดการกับ, Syn. deal with
run away from(phrv) เลี่ยงการเผชิญกับ
run up against(phrv) พบ, See also: ประสบ, เผชิญ ปัญหา, Syn. happen on
in-your-face(sl) กล้าเผชิญหน้า
queer street(sl) อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก, See also: เผชิญกับปัญหา
showdown(n) การเผชิญหน้า (กับฝ่ายตรงข้าม), See also: การประจันหน้า กับฝ่ายตรงข้าม, Syn. confrontation, unfolding
shape up to(phrv) เผชิญกับ, See also: เผชิญหน้ากับ, Syn. face up to, square up to
sit down under(phrv) เผชิญกับ, See also: ทนทุกข์ทรมานจาก สิ่งที่ไม่ดี โดยไม่บ่นหรือต่อต้าน, Syn. lie down under
spoil for(phrv) ทำให้เสีย, See also: ทำให้ยุ่งยากเมื่อเผชิญกับ
steel against(phrv) ทำให้เผชิญกับ
steel for(phrv) เตรียมพร้อมสำหรับ, See also: เตรียมเผชิญ, Syn. immerse in, soak in, submerge in
suffer from(phrv) ทุกข์ทรมานจาก, See also: ทุกข์ยากจาก, เผชิญกับ, Syn. suffer with, complain of

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
accost(อะคอสทฺ', อะโคสทฺ') vt., n. เผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ, เข้าไปทัก, ชักชวนลูกค้า, การต้อนรับ, Syn. greet, salute, approach
affront(อะเฟรินทฺ') vt. ทำให้โกรธ, สบประมาท, เผชิญหน้า. -n. การสบประมาท, การดูถูก
bide(ไบดฺ) { boded, bided, biding, bides } v. อดทน, ทน, เผชิญ, ขึ้นอยู่กับ, ยังคง, รอคอย -Phr. (bide one's time คอยโอกาสที่ดี), See also: bider n. ดูbide, Syn. endure, bear
breast(เบรสทฺ) { breasted, breasting, breasts } n. หน้าอก, เต้านม, ทรวงอก, น้ำใจ, อารมณ์, เชิงกำแพง, ส่วนที่นูนออกคล้ายเต้านม vt. เอาอกทาบกับเชือก, เผชิญ, ฝ่าไปข้างหน้า -S.bust
brush(บรัช) { brushed, brushing, brushes } n. แปรง, พู่กัน, หนวดเครารุงรัง, หางหยาบใหญ่ ของสัตว์ (เช่นสุนัขจิ้งจอก) , การเผชิญหน้ากับ, พุ่มไม้หนา, ส่วนที่เป็นพู่ -v. ปัด, ทา, กวาดด้วยแปรง, สัมผัสเบา -Phr. (brush aside ไม่สนใจ, กวาดล้าง) -Phr. (brush away ปัดออก, แปรงออก) -S.broo
confront(คันฟรันทฺ') { confronted, confronting, confronts } vt. เผชิญหน้ากับ, พบกับ, นำมาร่วมกันเพื่อตรวจสอบหรือเปรียบเทียบ, See also: confrontment n. confronter n., Syn. oppose, face, meet, Ant. avoid, shun
cowardice(คาว'วัดดิซฺ) n. ความขี้ขลาด, การไร้ความกล้าที่จะเผชิญกับอันตราย ความลำบาก การต่อต้านหรืออื่น ๆ, Syn. poltroon, Ant. daredevil
dare(แดร์) { dared, daring, dared } vt., n. (การ) กล้าทำ, กล้าเผชิญหน้า, หาญ, ท้าทาย
encounter(เอนเคา'เทอะ) vt. เผชิญหน้า, พบ, ประสบ, ปะทะ., See also: encounterer n.
envisage(เอนวิซ'ซิจฺ) vt. คิด, มองเห็น, เผชิญหน้า, จ้องหน้า., See also: envisagement n. ดูenvisage, Syn. conceive
face(เฟส) { faced, facing, faces } n. ใบหน้า, หน้า, โฉม, รูปโฉม, หน้าตา, ด้านหน้า, ความหน้าด้าน, ความทะลึ่ง, การแสแสร้ง, ชื่อเสียง, ผิวหน้า, การเผชิญหน้า, ส่วนหน้ากว้าง vt. หันหน้าไปทาง, เผชิญหน้าโดยตรง, เผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับ, หงาย (ไพ่) -Phr. (in one's face โดยตรง) vi. หันหน
front(ฟรันทฺ) n., adj., interj. หน้า, ข้างหน้า, ด้านหน้า -v. หันหน้าไปทาง, เผชิญหน้า, รับมือ, ต่อต้าน, Syn. anterior, face
grip(กริพ) n. การจับ, การยึด, การกำ, กำลังยึดจับ, ความสามารถในการเข้าใจ, วิธีการจับมือ, เครื่องยึด, เครื่องหนีบ, เครื่องดาม, ความเจ็บปวดอย่างกะทันหัน, อาการปวดเกร็ง, ไข้หวัดใหญ่, ภาพยนตร์, โทรทัศน์. -come to grips with เผชิญ, พบ. vi. ยึดมั่น, เข้าใจ., See also: grip
look(ลุค) { looked, looking, looks } vi. ดู, มอง, เห็น, เพ่ง, สนใจ, ชำเลือง, โน้มเอียง, ปรากฎ, ดูเหมือน, เผชิญหน้า vt. ดู, มอง, ปรากฎ, แสดงออก, ระวัง, พิจารณา, ตรวจสอบ. n. การดู, การมอง, การเห็น, การชำเลือง, การค้นหา, ลักษณะ. -Phr. (look after คอยจ้องดู, ดูแล) -Phr. (look down on (upon) ดูถูกเฟหยีหยาม)
match(แมชฺ) n. ไม้ขีดไฟ, คู่ปรับ, ผู้ที่เท่าเทียม, การสมรส, การเข้าคู่กัน, เกมกีฬา, การแข่งขัน, การเข้าแข่งขัน. v. เท่าเทียม, เป็นคู่ปรับ, ปรับตัว, เหมาะกับ, ต่อต้าน, เผชิญคู่ปรับ, สมรส, เข้าคู่, เข้าชุด., See also: matchable adj. matcher n.
meet(มีท) { met, met, meeting, meets } v. พบ, ประสบ, เผชิญ, กลายเป็น, ทำให้คุ้นเคยกับ, บรรจบ, สบตา, ขัดแย้ง, ต่อต้าน, ต้องใจ, ตกลง. n. การชุมนุม, การประชุม, ผู้ชุมนุม, สถานที่ชุมนุม adj. เหมาะสม, สมควร ., See also: meetly adv. meetness n.
showdown(โช'เดาน์) n. การเปิดไฟในการเล่นไพ่โป๊กเกอร์, การแบไต๋, การ เผชิญหน้าเพื่อปะลองครั้งสุดท้าย
stand(สแทนดฺ) { stood, stood, standing, stands } vi., vt., n. (ทำให้) (การ) ยืน, ยืนตรง, ตั้ง, ตั้งอยู่, ติดอยู่, ค้างอยู่, ยืนหยัด, ทนฝ่า, มีผลต่อไป, เป็นม้าพันธุ์, เผชิญ, อดทน, เลี้ยงดู, ปฎิบัติหน้าที่, จุดยืน, ตำแหน่ง, พยานในศาล, แท่นพูด, บัลลังก์, ที่จอดรถ, แผงหนังสือพิมพ์, แผง, แผงลอย,
vis-?, See also: vis วี'ซะ วี' adv., adj. เผชิญหน้า. prep. สัมพันธ์กัน, เปรียบเทียบกับ, เผชิญหน้ากับ, ต่อต้าน. n. ผู้ที่เผชิญหน้ากับผู้อื่น, ผู้ที่อยู่ตรงข้ามกัน, รถม้าที่มีที่นั่งที่หันเข้าหากัน
whirl(เวิร์ล) vi. vt., n. (ทำให้, การ) หมุนเวียน, หมุนรอบ, ปั่น, วน, เวียน, วง, หมุนกลับอย่างฉับพลัน, เผชิญหน้าอย่างรวดเร็ว, รู้สึกวิงเวียนศีรษะ, สิ่งที่หมุนเวียนอย่างรวดเร็ว, น้ำวน, ความโกลาหล, การสับสนวุ่นวาย, ความยุ่งเหยิง, See also: whirler n. whirlingly adv.

English-Thai: Nontri Dictionary
bide(vi, vt) รอคอย, คอย, ขึ้นอยู่กับ, อดทน, ทน, เผชิญ
brave(vt) กล้าเผชิญ, ไม่เกรงกลัว, อดทน, เสี่ยงอันตราย
confront(vt) เผชิญหน้า, พบกับ, นำมายัน
encounter(n) การเผชิญหน้า, การต่อสู้, การปะทะกัน, การประจัญหน้า
encounter(vt) เผชิญหน้า, ประจัญหน้า, ปะทะกัน, พบกัน
face(n) หน้า, โฉมหน้า, ผิวหน้า, ชื่อเสียง, การเผชิญหน้า
face(vt) เผชิญหน้า, หันหน้าไปทาง, หงาย(ไพ่), เหลียว, ฉาบ
front(vt) เผชิญหน้า, , รับมือ, ต่อต้าน
KNIGHT-knight-errant(n) อัศวินที่เที่ยวเผชิญภัย
look(vi) มองดู, เพ่ง, ดูเหมือน, ดูคล้าย, สนใจ, หันหน้า, เผชิญหน้า
meet(vt) พบ, ต้อนรับ, บรรจบ, เผชิญ, ร่วม, ประชุม
stand(vt) ตั้ง, ตั้งตรง, หยุด, ยึด, อยู่ในฐานะ, อดทน, เผชิญ

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
対立[たいりつ, tairitsu] TH: เผชิญหน้ากัน
臨む[のぞむ, nozomu] TH: เผชิญหน้ากับ  EN: to face

German-Thai: Longdo Dictionary
dortที่โน่น เช่น Wir haben einen Urlaub in Thailand gemacht. Dort haben wir 40 Grad erlebt. เราไปพักร้อนที่เมืองไทยมา ที่นั่นเราได้เผชิญความร้อนถึงสี่สิบองศา

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top