มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ กา ๕ | ก. ทำเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท, ทำเครื่องหมายไว้ให้สังเกตได้ เช่น ดูเฉพาะที่กาไว้. | ขนาด ๑ | (ขะหฺนาด) น. ลักษณะของรูปที่กำหนดสังเกตได้ว่าใหญ่ เล็ก สั้น ยาว หนัก หรือ เบา เท่านั้นเท่านี้ เช่น ขนาดใหญ่ ขนาดยาว ขนาด ๒ x ๑ เมตร | เส้นลึก | อาการที่เก็บความรู้สึกได้ดีจนยากที่จะสังเกตได้ว่าพอใจหรือไม่พอใจสิ่งใด เช่น เขาจับเส้นเจ้านายไม่ถูก เพราะเป็นคนเส้นลึกมาก. |
|
| Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Great Powers | ประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต] | fact | ข้อเท็จจริง, หลักฐานหรือประจักษ์พยานต่าง ๆ ที่เป็นจริง ซึ่งสามารถสังเกตได้โดยทางตรงคือการใช้อวัยวะสัมผัสหรือโดยทางอ้อมคือการใช้เครื่องวัด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| You suffer. I see it day by day. | เจ้าทรมาน ข้าสังเกตได้ทุกวัน The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | I noticed that she didn't say "go, go, gadget." | ฉันสังเกตได้ว่าเธอไม่พูดว่า "ไป ไป แก็ดเจ็ท" Inspector Gadget 2 (2003) | Anyone would've noticed. | ใครๆก็สังเกตได้ทั้งนั้นแหละ A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) | ...you might notice that. | ...คุณคงสังเกตได้ Alpha Dog (2006) | - I never noticed them. - How could you not? | ไม่เคยสังเกตเลย ไม่สังเกตได้ไง The Fourth Man in the Fire (2008) | You will note that the rotary movement Gives the impression of a three-Dimensional tunnel, | คุณจะสังเกตได้ว่าการเคลื่อนไหวแบบหมุนเวียนนี้ รอยพิมพ์ของอุโมงที่เป็นสามมิติ The Ghost Network (2008) | We women, we notice things that men do not notice. | พวกเราเป็นผู้หญิง เราสังเกตุมากกว่าผู้ชายจะสังเกตได้ The No. 1 Ladies' Detective Agency (2008) | You'll gonna notice there's no trace of the steroid in blood or bladder. | คุณจะสังเกตได้ว่าไม่มีร่องรอย ของสเตียรอยด์ในเลือดหรือกระเพาะปัสสาวะ Pathology (2008) | Any particular place in the woods? | มีที่พอจะสังเกตได้มั้ยล่ะ ป่าของเธอน่ะ Nothing But the Blood (2009) | BUT PERFECT FOR THIS LOCATION. | ที่แคบ ๆ แบบนี้เขาคงไม่สามารถเทน้ำมันไปทั่ว โดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ House on Fire (2009) | She's gonna notice if they're gone. that's not cool. | เธอจะสังเกตได้ถ้ามันหายไป มันไม่เจ๋งหรอกนะ You're Undead to Me (2009) | I noticed on the MRI that the victim's patellas were fractured. | สังเกตได้จาก MRI ว่ากระดูกสะบ้าของผู้ตายมรอยแตก The X in the File (2010) | With the date, time and location clearly marked? I did. All invitations go out. | โดยมีวันที่ เวลา และสถานที่ที่สังเกตได้ง่ายนะ ฉันทำแล้วนะคะ บัตรเชิญถูกส่งไปหมด Dr. Estrangeloved (2010) | Maybe you get noticed. Maybe you don't. | บางทีก็สังเกตได้ บางทีก็ไม่ Fite Nite (2010) | So if we are going to break everyone out, we must remain unobserved, we cannot let them raise the alarm. | ดังนั้นถ้าเราจะให้ทุกคนออกไป เราควรจะไม่ให้ใครสังเกตได้ เราไม่สามารถให้พวกมั่นลั่นระฆัง The Coming of Arthur: Part Two (2010) | Well, the sheriff's a mook, but still... you'd think he'd notice this many missing folks. | นายอำเภอ งี่เง่าก็จริงนะ แต่นี่ เขาน่าจะสังเกตได้แล้ว ถ้าคนหายไปมากขนาดนี้ Mommy Dearest (2011) | Well, we're not used to being noticed. | พวกเราไม่ชอบให้ถูกสังเกตได้ Intro to Political Science (2011) | She can hide in plain sight. | เธอสามารถหลบซ่อนจากการสังเกตได้ The Next Seduction (2011) | I can see it in your face. | พี่สังเกตได้จากหน้าเธอ Once Upon a Time... (2011) | I just couldn't help but notice that once you found out Kate was more country club than hillbilly, you couldn't wait to spend the day with her and her crew. | ฉันสังเกตได้ว่าตั้งแต่เธอพบว่า เคทออกจะเป็นสาวสมาคมมากกว่าสาวบ้านนอก เธอก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเขา Touched by an 'A'-ngel (2011) | See, it's a rating scale based on observation, so the more time you spend with the subject, the more accurately you can then observe their behavioral traits, and, uh, guess what I've been doing? | อัตราขึ้นอยู่กับการสังเกต ยิ่งสนใจเป้าหมายเท่าไหร่ ยิ่งสังเกตได้ถูกต้องมากขึ้นเท่านั้น Ring Around the Rosie (2011) | If you're, uh, here for the meeting, it just ended, as I'm sure you can tell by the massacre at the doughnut box. | คุยกลุ่มเพิ่งจะเสร็จเมื่อกี้นี้เอง คุณน่าจะสังเกตได้ที่กล่องโดนัทเปล่านะ Witch's Lament (2011) | You stopped drinking wine at dinner, and you're gaining weight in your face. | แม่ไม่กินไวน์ตอนมื้อค่ำ และแม่ก็เริ่มน้ำหนักขึ้นจนสังเกตได้ Home Invasion (2011) | There are certain things that you notice when you're a lifelong smoker. | มีเรื่องบางอย่างที่คุณสังเกตได้ เมื่อคุณสูบบุหรี่มาทั้งชีวิต Unknown Subject (2012) | A good that would not go unnoticed. | ที่ดีคือจะไม่มีใครสังเกตได้ The Origins of Monstrosity (2012) | I promise I won't pee in it. I'm here for my fitting. | โชคร้าย และน้ำหนักที่สังเกตได้อีกแล้ว Glease (2012) | It's not easy to see, but if you put that hand under a U.V. light, you would clearly see a small but stylized picture of a pink cat stamped on that hand. | สังเกตได้ยากหน่อย แต่ถ้าเอามือไปส่องกับ ยูวี ละก็ คุณจะเห็นชัดเจน รอยเล็กๆ Red, White and Blue (2013) | How could you not notice? | นายไม่ทันสังเกตได้ไง The Cooper/Kripke Inversion (2013) | He pored over the observations made by the ancient Greek astronomers of the brightest stars. | เขา pored กว่าการสังเกตได้ โดยนักดาราศาสตร์กรีก โบราณของดาวที่สว่าง When Knowledge Conquered Fear (2014) | Halley had to take the observations made for each comet and find the shape of its actual path through space. | แหลี ต้องใช้การสังเกตได้ สำหรับดาวหางแต่ละ และหารูปทรงของเส้นทาง ที่แท้จริงของมันผ่านพื้นที่ When Knowledge Conquered Fear (2014) | The doctors can't quite figure out how, but when we checked you out, we noticed that another boy you knew died in the exact same way right before you got here. | พวกหมอก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเพราะอะไร แต่เมื่อเราตรวจสอบประวัติคุณดูแล้ว สังเกตได้ว่า มีเด็กหนุ่มที่คุณรู้จักอีกคน ตายในลักษณะเดียวกัน Boy Parts (2013) | Can I make an observation? | ฉันขอตั้งข้อสังเกตได้มั้ย Rumours (2011) | Well observed. | สังเกตได้ดี Wedding in Red (2013) |
| be in evidence | (idm) ปรากฏตัวให้เห็นเด่นชัด, See also: เป็นที่สังเกต, สังเกตได้, สะดุดตา | detect in | (phrv) จับได้, See also: ตรวจสอบได้, สังเกตได้ | inductive | (adj) โดยอุปนัย, See also: โดยการหาข้อสรุปจากสิ่งที่สังเกตได้, Syn. understandable, comprehensible | outward | (adj) ที่มองเห็นได้, See also: ที่สามารถสังเกตได้, Syn. visible, apparent, Ant. invisible | percipient | (adj) ซึ่งสังเกต, See also: ซึ่งมีสิ่งสังเกตได้, Syn. prehensile, savvy, Ant. unperceptive | thick | (adj) ที่เด่นชัด, See also: ที่สังเกตได้ง่าย, Syn. pronounced |
| perceivable | (เพอซี'วะเบิล) adj. สังเกตได้, เห็นได้, เข้าใจได้., See also: perceivableness n. perceivability n. perceivably adv. |
| distinguishable | (adj) ซึ่งเห็นความแตกต่างได้, ซึ่งสังเกตได้, ซึ่งแบ่งแยกได้, ซึ่งจำแนกได้ | observable | (adj) เด่นชัด, สังเกตได้ง่าย, ควรถือปฏิบัติ, น่าติดตาม |
| anscheinend | (adv) เป็นที่เห็นได้ชัด (ตัดสินหรือคาดการณ์จากสิ่งที่เห็นหรือสังเกตได้) เช่น Sein Koffer ist nicht mehr da. Anscheinend ist er schon weggefahren. กระเป๋าเดินทางของเขาไม่อยู่แล้ว เขาคงจะออกเดินทางไปแล้ว, See also: scheinbar, Syn. vermutlich |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |