มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ปากเปล่า | (adv) orally, Example: เขาชอบกลอนสุนทรภู่มากจนท่องปากเปล่าได้หลายตอน, Thai Definition: ว่าโดยไม่ดูตัวหนังสือ | การสอบปากเปล่า | (n) oral examination, Ant. การสอบข้อเขียน, Example: ทันตแพทยสภาจะเน้นการสอบปากเปล่าและการเสนอผลงานวิจัยมากที่สุด, Thai Definition: สอบความรู้โดยให้พูดออกมาแทนการเขียนตอบ |
| ปากเปล่า | ก. ว่าโดยไม่ดูตัวหนังสือ เช่น เทศน์ปากเปล่า, เรียกวิธีสอบโดยใช้วาจาแทนการเขียนคำตอบ ว่า สอบปากเปล่า. | สอบปากเปล่า | ก. สอบโดยวิธีซักถามให้ตอบด้วยวาจา. | กลอนด้น | น. กลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส. | ฉ่อย | น. ชื่อเพลงสำหรับว่าแก้กันระหว่างชายกับหญิง เป็นเพลงที่นิยมว่าปากเปล่าโดยอาศัยปฏิภาณเป็นสำคัญ เมื่อว่าจบบทแล้ว ลูกคู่จะรับพร้อมกันว่า ชา ฉา ชา ฉาด ชา หน่อยแม่. | ด้น | ว่ากลอนปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส เรียกว่า ด้นกลอน. | ด้น | น. เรียกกลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส ว่า กลอนด้น | ด้นกลอน | ก. ว่ากลอนปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส. | ปากต่อปาก | เรียนโดยการบอกด้วยปากเปล่า (มักใช้แก่ผู้ไม่รู้หนังสือ). | เสียปาก | ก. พูดออกไปเปล่าประโยชน์ เช่น เด็กดื้ออย่างนี้เตือนไปก็เสียปากเปล่า ๆ |
|
| parol | ทำด้วยวาจา, ปากเปล่า [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | parol contract | สัญญาปากเปล่า, สัญญาด้วยวาจา [ ดู oral contract ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | oral contract | สัญญาปากเปล่า, สัญญาด้วยวาจา [ ดู parol contract ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | oral examination | การสอบปากเปล่า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | oral test | การทดสอบปากเปล่า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | examination, oral | การสอบปากเปล่า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | viva voce (L.) | โดยปากเปล่า, โดยเปล่งเสียง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | test, oral | การทดสอบปากเปล่า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| The Foreign Office | ในสมัยก่อน เมื่อสังคมนานาชาติมีสมาชิกประเทศอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ประมุขของรัฐหรือหัวหน้าของรัฐบาลจะเป็นผู้บริหารกิจการต่างประเทศด้วยตนเอง แต่มาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันนี้ รัฐบาลของประเทศเกือบจะทุกแห่งจะมีสำนักงานในระดับกระทรวงแยกออกต่างหาก เพื่อดำเนินกิจการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักงานนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันใน แต่ละประเทศ เช่นเรียกว่า The Ministry of (หรือ for) Foreign Affairs, The Ministry of External Affairs, The Department of State หรือ The Department of Foreign Affairs หรือ Gaimusho เป็นต้น ส่วนหัวหน้าสำนักงานหรือเจ้ากระทรวงนั้น จะเป็นบุคคลในคณะรัฐมนตรี และเรียกชื่อตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น The Secretary of Foreign Affairs, The Minister of External Affairs, The Secretary of State หรือ Foreign Minister หรือ Foreign Secretary ตัวรัฐมนตรีนี้จะมีผู้ช่วย ซึ่งบางตำแหน่งเรียกว่า ปลัดกระทรวง (Under-Secretaries), ผู้ช่วยปลัดกระทรวง (Assistant Under-Secretaries) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วงาน ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายธุรการ (Home Service) ทำหน้าที่บริหารกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวกันกับกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการติดต่อเกี่ยวข้องกับคณะทูตานุทูต และฝ่ายที่สองเรียกว่า Foreign Service เป็นฝ่ายดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในต่างแดน อันมีสถานทูต สถานกงสุล และสำนักงานอื่น ๆ เป็นตัวแทน ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายการทูตและฝ่ายวิชาการ ซึ่งประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลและสำนักงานระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศไทยเรายังมิได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายดังกล่าวตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวกลาง ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างประเทศ ส่วนหัวหน้าคณะทูตภายในนครหลวงของแต่ละประเทศจะทำการติดต่อใด ๆ ทั้งหมดกับกระทวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับงานภายในกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกรม กอง โดยถือตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ เช่น กรมหรือกองการเอเชีย กรมการแอฟริกา กรมการอเมริกัน กรมการยุโรป และอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีกรมกองอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และด้านการสื่อสารติดต่อ การประชุม การประสานงานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การคลัง การบริการในต่างประเทศ การสารนิเทศ การกฎหมาย การห้องสมุด การหนังสือเดินทาง การบุคลากร การพิธีการทูต การวิจัย การสนธิสัญญา การตรวจลงตรา (Visa) และการสหประชาชาติในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศ ผู้ที่สมัครขอรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีคุณวุฒิตามที่กระทรวง กำหนด เช่น จะต้องผ่านการสอบไล่ ทั้งในภาคปากเปล่า และข้อเขียน ตลอดจนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการสอบไล่ (Board) ซึ่งจะเป็นฝ่ายให้คะแนนบุคลิกและคุณภาพส่วนตัว แล้วนำคะแนนไปบวกกับคะแนนสอบข้อเขียน ในบางแห่งต้องการให้ผู้สมัครสอบเข้ารับการฝึกอบรม และให้อยู่ในระหว่างการทดลองดูความประพฤติ (Probationary period) อีกด้วย [การทูต] |
| | การสอบปากเปล่า | [kān søp pākplāo] (n, exp) EN: oral examination FR: épreuve orale [ f ] | ปากเปล่า | [pākplāo] (adv) EN: orally ; off the bat ; off the cuff ; without looking at the book FR: oralement |
| | oral | (ออ'เริล) adj. ด้วยปาก, เกี่ยวกับคำพูด n. การสอบปากเปล่า, Syn. verbal | recite | (รีไซทฺ') v. ท่อง, ท่องจำ, ท่องให้ครูฟัง, ว่าปากเปล่า, อาขยาน, อ่านออกเสียง, สาธยาย, Syn. retell, narrate |
| oral | (adj) ปากเปล่า, ด้วยปาก | orally | (adv) โดยปากเปล่า, ด้วยปาก |
| 書面 | [しょめん, shomen] เอกสาร (มักใช้หรือพูดในเวลาที่ต้องการจะกล่าวถึงวิธีการ เช่น บอกด้วยปากเปล่า อย่างกรณี 書面 นี้ก็จะเป็นว่า ด้วยเอกสาร หรืออาจจะใช้ในความหมายในลักษณะที่ว่า ในหน้าเอกสาร) ความแตกต่างระหว่าง 書類 ก็คือ 書類 มักใช้ในความหมายถึงเอกสารทั่วไปโดยปกติ, See also: R. 書類 |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |