ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จิก, -จิก- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ มองแรง | (vt, slang) มองจิก ส่งสายตาพิฆาต |
|
| จิก | (v) peck, See also: seize, pick, Example: น่าสงสารลูกนกตัวนั้นเสียจริง ยังบินไม่ค่อยเป็น ได้แต่เดินไปจิกเศษผักในไร่ของชาวบ้าน, Thai Definition: กิริยาที่เอาจะงอยปากสับอย่างอาการของนก เป็นต้น, กิริยาที่เอาสิ่งมีปลายคมหรือแหลมกดลงพอให้ติดอยู่ | จิก | (v) drive, See also: whip, force, Syn. โขกสับ, Thai Definition: โขกสับเมื่อเป็นต่อ, Notes: (ปาก) | การจิก | (n) pecking, See also: picking with the beak, Example: การจิกกินผลไม้ของนกทำให้ผลไม้ในสวนขายได้ราคาไม่ดี | การจิก | (n) pecking (of an animal), See also: nibble, Example: ลูกไก่วิ่งหนีการจิกตีของแม่ไก่อันธพาล | จิกปีก | (v) be dazed, See also: be stunned, Syn. งง, Thai Definition: งงจนไม่รู้จะทำอะไรได้ | จิกหัว | (v) pinch the hair and pull, See also: pull someone's hair, Example: ผู้ตรวจการแกเข้าไปจิกหัวตบแล้วกระหน่ำฟาดด้วยแซ่ซะจนตานั่นปางตาย, Thai Definition: เอามือขยุ้มผมแล้วรั้งไป | จิกหัว | (v) oppress, See also: bully, Syn. กดขี่, ข่มขี่, Ant. ให้เกียรติ, Example: ถ้าเขาเห็นใครด้อยกว่าเป็นไม่ได้ จะต้องจิกหัวอยู่ร่ำไป | จุกจิก | (adj) small, See also: tiny, trifling, worthless, Syn. เล็กๆ น้อยๆ, กระจุกกระจิก, Example: มาบัดนี้เขาโตแล้ว เขาจะไม่ข้องแวะอะไรกับเรื่องจุกจิกพวกนี้อีก | จุกจิก | (v) fuss, See also: worry about, be fussy, be fastidious, pay excessive attention to, Syn. จู้จี้, จู้จี้จุกจิก, Ant. ปล่อยปละ, ละเลย, Example: อาจารย์จุกจิกเรื่องการไว้ผมของนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบ | ดอกจิก | (n) club, Syn. ไพ่ดอกจิก, Example: กะโหลกของซอสามสายนั้นโบราณใช้กะลามะพร้าวผ่าเป็นรูปดอกจิกแล้วดัดเป็นพูสามเส้า, Thai Definition: เรียกลายที่มีลักษณะอย่างลายหน้าไพ่ป๊อกชนิดหนึ่ง มี 3 แฉก ใบมน | พฤศจิก | (n) scorpion, See also: Scorpio, Syn. แมงป่อง, ราศีพฤศจิก, ราศีพิจิก, พิจิก, Example: เกณฑ์การคำนวณอันโตนาที ราศีสิงห์กับราศีพฤศจิกจะมีราศีละ 6 มหานาที, Count Unit: ราศี, Thai Definition: แมงป่อง, ชื่อกลุ่มดาวรูปแมงป่อง เรียกว่า ราศีพฤศจิก เป็นราศี 1 ในจักรราศี, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | จิกหัวใช้ | (v) force to work, Syn. โขกสับ, Example: สมศรีโดนเจ้านายจิกหัวใช้ไม่เว้นแต่ละวัน, Thai Definition: โขกสับให้ทำงาน | พฤศจิกายน | (n) November, Syn. เดือนพฤศจิกายน, Example: การเปิดศึกชิงทำเนียบขาวกำหนดมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ศกหน้า, Count Unit: เดือน, Thai Definition: ชื่อเดือนที่ 11 ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนมกราคม มี 30 วัน, Notes: (สันสกฤต) | ราศีพิจิก | (n) Scorpio, Syn. ราศีพฤศจิก, Example: คนในราศีพิจิกจะมีลักษณะน้ำนิ่งไหลลึก, Thai Definition: ชื่อกลุ่มดาวรูปแมงป่อง เป็นราศี 1 ในจักรราศี, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | กระจุกกระจิก | (adj) trifling, See also: fragmentary, piecemeal, trivial, Syn. จุกจิก, เล็กๆ น้อยๆ, เบ็ดเตล็ด, Example: น้องเก็บของกระจุกกระจิกบนโต๊ะมาจัดเรียงให้เป็นระเบียบ, Thai Definition: เบ็ดเตล็ดคละกัน, เล็กๆ น้อยๆ คละกัน | จู้จี้จุกจิก | (v) be fussy, See also: be choosy, be picky, be fastidious, Syn. จู้จี้ขี้บ่น, จุกจิกจู้จี้, Example: เธอจู้จี้จุกจิกกับลูกๆ ของเธอมากเกินไปจนพวกเขารำคาญกันหมดแล้ว, Thai Definition: บ่นว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พร่ำไปเพราะไม่พอใจ | จู้จี้จุกจิก | (adj) fussy, See also: fastidious, choosy, nit-picking, picky, finicky, pernickety, Syn. จู้จี้ขี้บ่น, จุกจิกจู้จี้, Example: ฉันรำคาญที่เขาเป็นคนจู้จี้จุกจิกอยู่ตลลอดเวลา, Thai Definition: ที่พิถีพิถันกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้กวนใจ | ของกระจุกกระจิก | (n) knickknack, See also: odds and ends, trinket, Example: ในตู้มีของกระจุกกระจิกมากมาย |
| กระจุกกระจิก | ว. เล็ก ๆ น้อย ๆ, เบ็ดเตล็ดคละกัน, เช่น ในกระเป๋าถือมีแต่ของกระจุกกระจิก, จุกจิก ก็ว่า. | เขียดจิก | <i>ดู กบบัว ที่ กบ ๒</i>. | จิก ๑ | ก. กิริยาที่เอาจะงอยปากสับอย่างอาการของนกเป็นต้น, กิริยาที่เอาสิ่งมีปลายคมหรือแหลมกดลงพอให้ติดอยู่ เช่น เอาเล็บจิกให้เป็นรอย เอาปลายเท้าจิกดินให้อยู่ | จิก ๑ | โขกสับเมื่อเป็นต่อ เช่น เมื่อได้ท่าก็จิกเสียใหญ่. | จิกปีก | ก. งงจนไม่รู้จะทำอะไรได้ (มาจากอาการของไก่ที่ถูกตีจนงงแล้วเอาปากจิกปีกตัวเอง). | จิกหัว | ก. เอามือขยุ้มผมแล้วรั้งไป | จิกหัว | บังคับให้พุ่งไป เช่น เครื่องบินจิกหัวลง | จิกหัว | กดขี่, ข่มขี่, เช่น จิกหัวใช้. | จิก ๒ | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล <i> Barringtonia</i> วงศ์ Lecythidaceae ขึ้นในที่ชุ่มชื้นและที่นํ้าท่วมถึง ดอกสีขาว เกสรเพศผู้สีแดงมักออกเป็นช่อยาวห้อยเป็นระย้า เช่น จิกนา [ <i> B</i>. <i> acutangula</i> (L.) Gaertn. ] จิกบ้านหรือจิกสวน [ <i> B</i>. <i> racemosa</i> (L.) Spreng. ] จิกเล [ <i> B</i>. <i> asiatica</i> (L.) Kurz ]. | จิก ๒ | <i>ดู กระโดน</i>. | จิก ๒ | <i>ดู ตีนตุ๊กแก (๖)</i>. | จุกจิก | ก. รบกวน, กวนใจ, เช่น อย่าจุกจิกนักเลย. | จุกจิก | ว. จู้จี้ เช่น เขาเป็นคนจุกจิก | จุกจิก | เล็ก ๆ น้อย ๆ, เบ็ดเตล็ดคละกัน, เช่น ในกระเป๋าถือมีแต่ของจุกจิก, กระจุกกระจิก ก็ว่า. | ดอกจิก | น. เรียกลายชนิดหนึ่งที่มีลักษณะอย่างลายหน้าไพ่ป๊อก มี ๓ แฉก ใบมน. | เทววาจิกสรณคมน์ | (ทะเววาจิกะสะระนะคม) น. การเปล่งวาจาถึงรัตนะ ๒ คือ พระพุทธเจ้าและพระธรรมว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก เพราะเวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์ เป็นสรณคมน์ที่ตปุสสะและภัลลิกะกล่าวหลังจากที่ได้ถวายข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงแด่พระพุทธเจ้าในสัปดาห์ที่ ๔ หลังจากตรัสรู้. | บาจิกา | น. แม่ครัว. (ป. ปาจิกา). <i>(ดู บาจก)</i>. | พฤศจิก | (พฺรึดสะจิก) น. แมงป่อง | พฤศจิก | ชื่อกลุ่มดาวรูปแมงป่อง เรียกว่า ราศีพฤศจิก เป็นราศีที่ ๗ ในจักรราศี, ราศีพิจิก ก็ว่า. | พฤศจิกายน | น. ชื่อเดือนที่ ๑๑ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนมกราคม มี ๓๐ วัน | พฤศจิกายน | ชื่อเดือนที่ ๘ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนเมษายน. | พฤศจิกายน | <i>ดู พฤศจิก</i>. | พิจิก | น. ชื่อกลุ่มดาวรูปแมงป่อง เรียกว่า ราศีพิจิก เป็นราศีที่ ๗ ในจักรราศี, ราศีพฤศจิก ก็ว่า. | วิจิกิจฉา | (-กิดฉา) น. ความสงสัย, ความเคลือบแคลง, ความลังเล, ความไม่แน่ใจ. | ศุจิกรรม | น. การรักษาความบริสุทธิ์. | สามีจิกรรม | น. การแสดงความเคารพตามธรรมเนียมของพระเณรในระหว่างผู้ใหญ่กับผู้น้อย เช่น ระหว่างพระอุปัชฌาย์กับสัทธิวิหาริก ระหว่างอาจารย์กับอันเตวาสิก หรือระหว่างผู้แก่พรรษากับผู้อ่อนพรรษากว่า. | กบบัว | น. ชื่อกบขนาดเล็กชนิด <i> Rana erythraea</i> (Schlegel) ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียวมีแถบสีขาวพาดตามยาวลำตัว อาศัยอยู่ตามกอบัว จึงมีผู้เรียกว่า เขียดบัว และร้องเสียง “จิ๊ก ๆ ” บางครั้งจึงเรียกว่า เขียดจิก. | กระโดน | น. ชื่อไม้ต้นชนิด <i> Careya sphaerica</i> Roxb. ในวงศ์ Lecythidaceae ชอบขึ้นในป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้น ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวนมากเป็นพู่คล้ายดอกชมพู่ ขาว หอม ดอกบานเต็มที่กว้าง ๕-๘ เซนติเมตร ผลค่อนข้างกลม ใบอ่อนใช้เป็นผัก เปลือกใช้เบื่อปลาหรือทุบเป็นแผ่นปูหลังช้าง, โดน จิก ปุย ปุยกระโดน ปุยขาว หรือ ผ้าฮาด ก็เรียก. | กัตติกมาส | (กัดติกะมาด) น. เดือนอันมีพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์กัตติกา คือ เดือน ๑๒ ตามจันทรคติ ตกในราวเดือนพฤศจิกายน. | กินเครา | (-เคฺรา) น. ชื่อนกในวรรณคดี เช่น นกพริกจิกจอกกินเครา (สมุทรโฆษ). | ข้าวกลาง | น. กลุ่มพันธุ์ข้าวที่ออกรวงหลังข้าวเบา คือในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนตุลาคม และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เช่น พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ ๑๐๕ พันธุ์ข้าว กข ๖. | ข้าวเบา | น. กลุ่มพันธุ์ข้าวที่ได้ผลเร็วกว่ากลุ่มพันธุ์ข้าวอื่น ออกรวงในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน เช่น พันธุ์ข้าวเหนียวหางยี ๗๑ พันธุ์ข้าวน้ำสะกุย ๑๙, พายัพและอีสานว่า ข้าวดอ. | ข้าวหนัก | น. กลุ่มพันธุ์ข้าวที่ได้ผลช้ากว่ากลุ่มพันธุ์ข้าวอื่น ออกรวงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม เช่น พันธุ์ข้าวขาวตาแห้ง ๑๗ พันธุ์ข้าวพวงนาก ๑๖. | จริก ๒ | (จะหฺริก) น. ต้นจิก เช่น จริกโจรตพยงผกากรรณก็มี (ม. คำหลวง มหาพน). | จักรราศี | น. อาณาเขตที่ดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์, อาณาเขตโดยรอบดวงอาทิตย์ที่ดาวเคราะห์เดิน, วิถีโคจรประจำของดวงอาทิตย์ซึ่งดูเสมือนวนไปรอบท้องฟ้าได้ ๓๖๐ องศาใน ๑ ปี วงโคจรนี้แบ่งออกเป็น ๑๒ ส่วน หรือ ๑๒ ราศี แต่ละส่วนหรือแต่ละราศีมีช่วง ๓๐ องศา ได้แก่ ราศีเมษ ราศีพฤษภ ราศีเมถุน ราศีกรกฎ ราศีสิงห์ ราศีกันย์ ราศีตุลหรือราศีดุล ราศีพฤศจิกหรือราศีพิจิก ราศีธนู ราศีมังกร ราศีกุมภ์ และราศีมีน, วงโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ที่สมมุติขึ้นทางโหราศาสตร์ ประกอบด้วย ๑๒ ราศี. | จุดหลัง | ก. เอาเล็บจิกหรือกดตุ่มหรือผื่นที่หลังเพื่อแก้คันเป็นต้น. | จู้จี้ ๑ | ก. งอแง เช่น เด็กจู้จี้, บ่นจุกจิกรํ่าไร เช่น คนแก่จู้จี้ | ฉวยฉาบ | ก. จิกหรือหยิบแล้วบินหรือพาไป เช่น ฉวยฉาบคาบนาคี เป็นเหยื่อ (เห่เรือ). | เดือนสุริยคติ | (-สุริยะคะติ) น. ช่วงเวลาประมาณ ๑ ใน ๑๒ ของปีสุริยคติ ได้แก่เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม เดือนที่ลงท้ายด้วยอายนมี ๓๐ วัน เดือนที่ลงท้ายด้วยอาคมมี ๓๑ วัน และเดือนที่ลงท้ายด้วยอาพันธ์มี ๒๘ หรือ ๒๙ วัน. | ตีนตุ๊กแก | ชื่อเห็ดชนิด <i> Lopharia papyracea</i> (Jungh.) Reid ในวงศ์ Stereaceae ขึ้นบนขอนไม้ ไม่มีก้าน เป็นแผ่นบางคล้ายกระดาษ สีนํ้าตาลหม่น กินได้ และใช้ทำยา, เห็ดจิก ก็เรียก. | ตุ๊ดตู่ ๑ | น. เหล็กสำหรับเจาะรูหรือตอกกระดาษเป็นต้นให้เป็นลูกปลารูปต่าง ๆ เช่น กลม ดอกจิก. | ทำวัตร | ทำสามีจิกรรมตามธรรมเนียมของพระภิกษุ เช่น ก่อนเข้าพรรษาพระภิกษุต้องไปทำวัตรพระอุปัชฌาย์ที่อยู่ต่างจังหวัด. | บาจก | น. พ่อครัว, แม่ครัว ใช้ว่า บาจิกา. | มุจลินท์ | (มุดจะ-) น. ต้นจิก | มุจลินท์ | ชื่อสระใหญ่ในป่าหิมพานต์ ซึ่งขอบสระประกอบด้วยต้นจิก. | ยุ่งยิ่ง | ก. ยุ่งจุก ๆ จิก ๆ เช่น ยุ่งยิ่งเรื่องปัญหาครอบครัว. | รำคาญใจ | ก. ถูกรบกวนจุกจิกจนเบื่อหน่าย เช่น น้อง ๆ มาเซ้าซี้เขาให้พาไปเที่ยวบ่อย ๆ จนเขารำคาญใจ. | ไล่ ๑ | ก. ตามไปติด ๆ เพื่อให้ทันหรือเพื่อกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไล่ยิง ไล่กัด ไล่ขวิด ไล่จิก | วิจฉิกะ | (วิด-) น. แมงป่อง, มักใช้ว่า พฤศจิก. | สารท ๒, สารทฤดู | (สาด, สาระทะรึดู) น. ฤดูใบไม้ร่วง, ในประเทศเขตอบอุ่นทางซีกโลกเหนือ ซึ่งแบ่งฤดูกาลออกเป็น ๔ ฤดู คือ ฤดูหนาว (เหมันตฤดู) ฤดูใบไม้ผลิ (วสันตฤดู) ฤดูร้อน (คิมหันตฤดู) และฤดูใบไม้ร่วง (สารทฤดู) นั้น ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นในเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน. |
| anticholinergic | แอนติโคลิเนอร์จิก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | giga- | จิกะ-, กิกะ- [ 230, 109 ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | gigabyte | จิกะไบต์, กิกะไบต์ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Fuzzy logic | ฟัสซีลอจิก [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | จิก | จีบคนหน้าตาที่ดี หล่อ ๆ สวย ๆ [ศัพท์วัยรุ่น] | Lysergic acid diethylamide | ไลเซอจิก แอซิด ไดเอทธิลอะไมด์ [TU Subject Heading] | Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy | ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต] | Accelerating Economic Recovery in Asia | โครงการเร่งรัดการฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเชีย (สำหรับประเทศไทย) เป็นโครงการที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 6 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศในเอเชีย 3 ประเทศที่ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ คือ สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย และไทย [การทูต] | ASEAN-ROK Business Council | สภาธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี จัดตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2534 [การทูต] | ASEAN Charter | กฎบัตรอาเซียน เป็นความตกลงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จะให้สถานะทางกฎหมายหรือนิติฐานะแก่อาเซียน และวางกรอบโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อทำให้อาเซียนเป็นหน่วยงานที่ยึดมั่นมาก ยิ่งขึ้นต่อกติกาและกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิกร่วมกันกำหนดขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กฎบัตรอาเซียนยังมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประชาชน เป็นศูนย์กลางของความร่วมมือมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดตั้งองค์กรใหม่ๆ เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของประชาชนอาเซียน เช่น องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้ร่วมลงนามกฎบัตรฯ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 [การทูต] | ASEAN Troika | กลุ่มผู้ประสานงานของอาเซียน " เป็นข้อเสนอของไทยในการประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการ ณ กรุงมะนิลา เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ผู้นำประเทศ/รัฐบาลอาเซียน เป็นกลไกเฉพาะกิจในระดับรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อาเซียนสามารถแก้ไขและร่วมมือกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทันท่วงทีและใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ และในเรื่องที่อาเซียนมีความห่วงกังวลร่วมกันว่ามี แนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนจะปฏิบัติงานโดยยึดหลักการที่สำคัญของอาเซียน คือ หลักฉันทามติ และการไม่แทรกแซงกิจการภายใน กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ ประเทศที่เป็นประธานคณะกรรมการประจำของ อาเซียนในปัจจุบัน อดีต และอนาคต " [การทูต] | The Conference on Interaction and Confidence-Building Measures in Asia | การประชุมว่าด้วยการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (ด้านความมั่นคง) ในเอเชีย " CICA ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยความริเริ่มของคาซัคสถาน และมีสมาชิกเข้าร่วม 16 ประเทศ ได้แก่ คาซัคสถาน อินเดีย ปากีสถาน ปาเลสไตน์ รัสเซีย ตุรกี จีน อิสราเอล อิหร่าน อัฟกานิสถาน อียิปต์ อาเซอร์ไบจาน มองโกเลีย คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน และประเทศผู้สังเกตการณ์อีก 10 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ยูเครน เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และเลบานอน " [การทูต] | Commonwealth of Independent States | เครือรัฐเอกราช " กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชเกิดจากการรวมตัวกันของบรรดาประเทศเกิดใหม่ภาย หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต (ยกเว้นประเทศ กลุ่มทะเลบอลติก 3 ประเทศ ได้แก่ ลิธัวเนีย แลตเวีย และเอสโตเนีย) ซึ่งได้ร่วมลงนามในปฏิญญา Alma-Ata ก่อตั้งเครือรัฐเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2534 ประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส มอลโดวา คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน และจอร์เจีย " [การทูต] | Convention on the Rights of the Child | อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้รับการรับรองจากสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2532 โดยอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2533 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็ก (บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี) เพื่อให้ได้รับการศึกษา การดูแล ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือกระทำทารุณกรรม ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่เป็นภาคีอนุสัญญาฯ แล้ว 191 ประเทศ คงเหลือโซมาเลียและสหรัฐอเมริกาที่ยังมิได้ให้สัตยาบัน ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กด้วยการภาคยานุวัติ อนุสัญญาฯ มีผลปังคับใช้กับประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2535 ขณะนี้ไทยยังคงมีข้อสงวน 2 ข้อ คือ ข้อ 7 เรื่องสัญชาติ และ ข้อ 22 เรื่องการให้สถานะเป็นผู้ลี้ภัย [การทูต] | European Union | สหภาพยุโรป สหภาพยุโรปได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ นับแต่การก่อตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้า (European Coal and Steal Community) ในปี พ.ศ. 2494 ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดทำสนธิสัญญากรุงโรม (Treaty of Rome) ได้มีการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Community : EEC) และประชาคมพลังงานปรมาณู (Euratom) ในช่วงเวลานั้นจึงเรียกชื่อกันว่าประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (EEC) ต่อมาได้มีการรวม 3 ประชาคมเข้าด้วยกันและได้มีกฎหมายยุโรปตลาดเดียว (Single European Act) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2530 เพื่อให้ประชาคมเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นตลาดร่วมและตลาดเดียวที่ สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2535 ดังนั้นในทางปฏิบัติจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อเป็นประชาคมยุโรป (European Communities : EC) ตั้งแต่ พ.ศ. 2530 ต่อมาเมื่อสนธิสัญญามาสทริชท์ (Maastricht Treaty) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2536 ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายและขั้นตอนให้ประชาคมยุโรปพัฒนาไปสู่การเป็นสหภาพยุโรป จึงได้เปลี่ยนมาเรียกชื่อในทางปฏิบัติว่า สหภาพยุโรป (European Union : EU) ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก สวีเดน ไอร์แลนด์ กรีซ ฟินแลนด์ ออสเตรีย [การทูต] | food security | ความมั่นคงทางด้านอาหาร หมายถึง การที่ประชากรโลกมีอาหารเพียงพอกับความต้องการ (availibility) มีเสถียรภาพ (stability) และสามารถเข้าถึงได้ (accessibility) แนวความคิดเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรองปฏิญญากรุงโรม ของที่ประชุมสุดยอด อาหารโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะขจัดความหิวโหย และลดปัญหาทุโภชนาการของประชากรโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนประชากรที่ขาดอาหารให้เหลือครึ่งหนึ่งจากที่มี อยู่ในปัจจุบัน ภายในปี พ.ศ. 2558 [การทูต] | Ganga-Suwanabhumi-Mekong Cooperation | ความร่วมมือลุ่มน้ำคงคา-สุวรรณภูมิ-ลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย ไทย-ลาว-พม่า-เวียดนาม-กัมพูชา และอินเดีย เป็นกรอบความร่วมมือที่เสนอในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับ รัฐมนตรีต่างประเทศประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 33 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2543 โดยมีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2543 [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | Palestine Question | ปัญหาปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1947 ประเทศอังกฤษได้ขอให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทำการประชุมสมัยพิเศษเพื่อพิจารณาปัญหาปาเลสไตน์ สมัชชาได้ประชุมกันระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 และที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับปาเลสไตน์ขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกรวม 11 ประเทศ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสถานการณ์ในภาคตะวันออกกลาง ก็ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รายงานนี้ได้ตั้งข้อเสนอแนะรวม 12 ข้อ รวมทั้งโครงการฝ่ายข้างมาก (Majority Plan) และโครงการฝ่ายข้างน้อย (Minority Plan) ตามโครงการข้างมาก กำหนดให้มีการแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐอาหรับแห่งหนึ่ง รัฐยิวแห่งหนึ่ง และให้นครเยรูซาเล็มอยู่ภายใต้ระบบการปกครองระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ดินแดนทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในรูปสหภาพเศรษฐกิจ ส่วนโครงการฝ่ายข้างน้อย ได้เสนอให้ตั้งรัฐสหพันธ์ที่เป็นเอกราชขึ้น ประกอบด้วยรัฐอาหรับและรัฐยิว อันมีนครเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมัชชาสหประชาชาติได้ประชุมลงมติรับรองข้อเสนอของโครงการฝ่ายข้างมาก ซึ่งฝ่ายยิวได้รับรองเห็นชอบด้วย แต่ได้ถูกคณะกรรมาธิการฝ่ายอาหรับปฏิเสธไม่รับรอง โดยต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐอาหรับแต่เพียงแห่งเดียว และทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิของคนยิวที่เป็นชนกุล่มน้อย อนึ่ง ตามข้อมติของสมัชชาสหประชาชาติได้กำหนดให้อำนาจอาณัติเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สิ้นสุดลงและให้กองทหารอังกฤษถอนตัวออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่างช้าไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1948 นอกจากนั้นยังให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีของสหประชาชาติจัดทำธรรมนูญการปกครองโดย ละเอียดสำหรับนครเยรูซาเล็มจากนั้น สมัชชาสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติขึ้น ประกอบด้วยประเทศโบลิเวีย เช็คโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก ปานามา และฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงก็ได้รับการขอร้องให้วางมาตรการที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยว่า สถานการณ์ในปาเลสไตน์จักถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพหรือไม่ และถ้าหากมีการพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงความตกลงตามข้อมติของ สมัชชาเมื่อใด ให้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ โดยอาศัยข้อ 39 ของกฎบัติสหประชาชาติเป็นบรรทัดฐาน [การทูต] | Shanghai Cooperation Organization | พัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต] | Subcommittee on Neighbouring Countries Economic Development Cooperation | คณะอนุกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ ประเทศเพื่อนบ้าน มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2546 ให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (อพบ.) ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้มีคำสั่งที่ 4 / 2547 เมื่อ 6 พฤษภาคม 2547 จัดตั้ง อพบ. แล้ว โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชนเป็นอนุกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับกรมเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ กระทรวงการต่างประเทศเป็นอนุกรรมการและฝ่ายเลขานุการ อพบ. มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเสนอแนะนโยบาย แผนงานและโครงการตามแผนงานการจัดระบบเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและการพัฒนาความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงาน ACMECS ด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของ ACMECS มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทำหน้าที่เป็นหน่วย งานหลักในการประสานกับหน่วยงานภายในของไทยให้ดำเนินงานเป็นไปตามแผนปฏิบัติ การ และกระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับประเทศ สมาชิก ACMECS [การทูต] | State Peace and Development Council | สภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ เป็นองค์กรปกครองสูงสุดของพม่าในปัจจุบัน เดิมมีชื่อว่าสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ (SLORC - State Law and Order Restoration Council) อันเป็น กลุ่มทหารพม่าที่เข้ายึดอำนาจการปกครองในวันที่ 18 กันยายน 2531 ภายหลังจากที่ประชาชนชาวพม่าได้ออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลภายใต้การนำของ พรรคโครงการสังคมนิยมพม่า การเข้ายึดอำนาจรัฐในครั้งนั้นเป็นไปอย่างนองเลือดและคณะทหารดังกล่าวได้ให้ สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 27 พฤษภาคม 2533 SLORC กลับปฏิเสธที่จะมอบอำนาจการปกครองให้แก่พรรค National League for Democracy (NLD) และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2540 SLORC ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น SPDC [การทูต] | The Great Wonders of Suwannabhumi | โครงการสิ่งมหัศจรรย์แห่งสุวรรณภูมิ หมายถึง โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคที่นับถือศาสนาพุทธ อันประกอบด้วย ไทย ลาว กัมพูชา และพม่า โดยร่วมกันจัดรายการนำเที่ยวในโบราณสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของ 4 ประเทศ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ นครวัดในกัมพูชา โบราณสถานในพุกาม/มัณฑะเลย์ในพม่า และแขวงหลวงพระบางในลาว เพื่อที่จะดึงดูดชาวต่างชาติให้มาสนใจในดินแดนแห่งนี้ และนำมาซึ่งการพัฒนาสถานที่ดังกล่าว รวมทั้งยังจะเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่าง 4 ประเทศอย่างสมบูรณ์ โครงการนี้เสนอโดย ฯพณฯ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว กัมพูชา และพม่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2542 ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 ที่กรุงมะนิลา [การทูต] | United Nations Emergency Force | กองกำลังฉุกเฉินของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1956 สมัชชาแห่งสหประชาชาติได้ขอรัองให้เลขาธิการสหประชาชาติเสนอแผนการภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติของสหประชาชาติ โดยได้รับอนุมัติจากชาติที่เกี่ยวข้อง ให้ทำหน้าที่ยุติและควบคุมดูแลการหยุดรบในประเทศอียิปต์ วันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 5 พฤศจิกายน สมัชชาก็ได้ลงมติให้จัดตั้งกองบัญชาการแห่งสหประชาชาติขึ้นปรากฏว่า ผู้แทนของสหภาพโซเวียตได้กล่าวอ้างว่า การจัดตั้งกองกำลังดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ โดยยกบทที่ 7 ของกฎบัตรขึ้นมาอ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงองค์กรเดียวเท่านั้น ที่กฎบัตรให้อำนาจจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติได้ ด้วยเหตุนี้ สหภาพโซเวียตและอีกบางประเทศจึงแถลงว่า จะไม่ยอมมีส่วนร่วมในการออกเงินค่าใช้จ่ายสำหรับกองกำลังดังกล่าวโดยเด็ดขาด พึงสังเกตว่า การที่สหภาพโซเวียตอ้างยืนยันว่า คณะมนตรีความมั่นคงเท่านั้นที่กฎบัตรสหประชาชาติให้อำนาจตั้งกองกำลังสห ประชาชาติได้ ก็เพราะหากยินยอมตามข้ออ้างของสหภาพโซเวียตดังกล่าว จะไม่มีทางจัดตั้งกองกำลังขึ้นได้เลย เพราะสหภาพโซเวียตจะใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย [การทูต] | World Food Summit | การประชุมสุดยอดอาหารโลก " จัดโดย FAO ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2539 เป็นการประชุมระดับผู้นำรัฐบาล เพื่อสร้างเจตนารมณ์ด้าน การเมือง และข้อผูกพันระหว่างประเทศให้เกิดความมั่นคงด้านอาหาร และการขจัดปัญหาความหิวโหยสำหรับประชากรโลก " [การทูต] | Adrenergic Alpha Receptor Agonists | สารต่อต้านตัวรับแอลฟาแอดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Adrenergic Alpha Receptor Blockaders | สารสกัดกั้นตัวรับแอลฟาแอดรีเนอร์จิก, สารสกัดกั้นหน่วยรับความรู้สึกแอลฟาอะดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Adrenergic Beta Receptor Agonists | ตัวต่อต้านตัวรับบีตาแอดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Adrenergic Beta Receptor Blockaders | สารสกัดกั้นตัวรับบีตาแอดรีเนอร์จิก, สารสกัดกั้นหน่วยรับความรู้สึกบีตาอะดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Adrenergic Inhibitors | กลุ่มยาต้านระบบอะดรีเนอจิก [การแพทย์] | Anticholinergic Drugs | ยายับยั้งการหลั่งกรดและน้ำย่อยและลดการบีบตัวของ, ยาในกลุ่มยาต้านโคลีน, ยาแอนติโคลิเนอร์จิก, ยาต้านโคลีนย์ [การแพทย์] | Anticholinergic Drugs, Quaternary Ammonium | ยาควอเทอร์นารีแอมโมเนียมแอนติโคลิเนอร์จิก [การแพทย์] | Cholinergic Activity | การทำงานของเส้นประสาทชนิดคอลีเนอร์จิก [การแพทย์] | Cholinergic Synaptic Junctions | ส่วนต่อระหว่างประสาทชนิดคลอลีนเนอร์จิก [การแพทย์] | Duddiness, Fuddy | จู้จี้จุกจิก [การแพทย์] | semen | น้ำอสุจิ, ของเหลวซึ่งสร้างจากอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย ประกอบด้วยอสุจิกับน้ำเลี้ยงอสุจิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | epididymis | หลอดเก็บอสุจิ, หลอดขนาดเล็กยาวขดไปขดมา เชื่อมระหว่างหลอดสร้างตัวอสุจิกับหลอดนำอสุจิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Lysergic Acid | ลัยเซอจิกแอซิด [การแพทย์] | Lysergic Acid Diethylamide | ไลเซอร์จิกแอซิด ไดเอทีลาไมด์, สาร; ลัยเซอร์จิก แอซิด ไดเอธิย์ลาไมด์; ลัยเซอร์จิคแอสิดไดเอธีลแอไมด์ [การแพทย์] |
| 'Take away my sadness' 'Take away my fears" | จาไมก้า พฤษจิกายน 1987 Cool Runnings (1993) | Grip with your toes. | ต้องจิกปลายเท้า Cool Runnings (1993) | - 'And when you face a challenge' - Gotta grip with your toes! | ใช้จิกปลายเท้า! Cool Runnings (1993) | Well, then would you be so kind... as to read this statement that you took from him... on the third of November, 1974? | อืมแล้วคุณจะเป็นชนิดดังนั้น ... เป็นไปอ่านคำชี้แจงนี้ ที่คุณเอาจากเขา ... ในที่สามของเดือนพฤศจิกายน, 1974? In the Name of the Father (1993) | They're covering it with tiny little things | มีของกระจุกกระจิกอยู่เต็มไปหมด The Nightmare Before Christmas (1993) | In these little bric-a-brac A secret's waiting to be cracked | ข้างในของกระจุกกระจิกพวกนี้ / มีความลับที่รอคอยการเปิดเผย The Nightmare Before Christmas (1993) | - November 21st, 1948. | - 21 พฤศจิกายน 1948 Squeeze (1993) | "In addition, the Library District has generously responded with a charitable donation of used books and sundries. | "นอกจากนี้ห้องสมุดอำเภอได้ตอบสนองอย่างไม่เห็นแก่ตัว ด้วยการบริจาคการกุศลของการใช้หนังสือและของกระจุกกระจิก The Shawshank Redemption (1994) | Yeah. I bust frauds, I bust phonies... and, yeah, I love it. | ใช่ ผมชอบกัด ผมชอบจิก In the Mouth of Madness (1994) | Because I think it might take some of the heat off me. | แม่จะได้จิกฉันน้อยลงไปหน่อย The One with the Sonogram at the End (1994) | The only sign, but you have to know, are the fingernail scrapings on the ceiling. | สิ่งที่คุณจะเห็นแล้วรู้ได้ คือ... รอยเล็บที่จิกไปบนเพดาน Night and Fog (1956) | Was it November? I don't know. Something. | มันเป็นเดือนพฤศจิกายน ผมไม่ทราบว่า บางสิ่งบางอย่าง 12 Angry Men (1957) | The cats got them two years ago November. | พวกแมวฆ่าพวกท่านไป เดือนพฤศจิกา สองปีก่อน An American Tail (1986) | Now Rachel's gonna get a cold, I'm gonna get a cold... | วันเกิดผมวันที่ 3 พฤศจิกายน ผมสอบประวัติศาสตร์ได้เกรดบี Big (1988) | Magic? | เมจิก? Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | I need a voice transcription of field report November-Alpha, from 915 this year, Agent Witherspoon. | ผมต้องการรายงานการปฏิบัติงาน ของเดือนพฤศจิกายนจากวันที่ 9-15 ปีนี้ The Jackal (1997) | - Field report November-Alpha. File 0900 hours | รายงานการปฏิบัติงานของ เดือนพฤศจิกายนเวลา 9.00 น. The Jackal (1997) | These are the food receipts, the household expenses. | มีบิลค่าอาหาร ค่าใช้จ่าย กระจุกกระจิกในบ้าน As Good as It Gets (1997) | First escape from prison camp, November 18, 1939. | หนีจากแคมป์ครั้งแรก 18 พฤศจิกายน 1939 Seven Years in Tibet (1997) | Ngawang wishes to make a gift to you, so please take your clothes off. | นาวาง จิกมี อยากจะให้ของขวัญพวกคุณNช่วยถอดเสื้อผ้าออกที Seven Years in Tibet (1997) | Well, this is most kind of Ngawang Jigme. | นาวาง จิกมี ใจกว้างมากเลยนะ Seven Years in Tibet (1997) | I am Ngawang Jigme. | ผม นาวาง จิกมี Seven Years in Tibet (1997) | The rising star of the cabinet, Minister Ngawang Jigme... made an offering of his own to greet the Chinese generals... and lead them through Lhasa. | ดาวรุ่งดวงใหม่ในคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีนาวาง จิกมี เสนอตัวออกไปต้อนรับ สามนายพลจากจีน และพาเข้ามายังลาซา Seven Years in Tibet (1997) | Ngawang Jigme, our newly appointed governor... is preparing to send troops toward the Chinese column... in order to stop their progression." | นาวาง จิกมี ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับ การแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี จัดเตรียมกองกำลังเพื่อเข้า ปะทะกับกองทัพจีน เพื่อหยุดไม่ให้รุกคืบไปมากกว่านี้" Seven Years in Tibet (1997) | As you know, Chamdo is the gateway to Tibet. | อย่าที่รู้ นาวาง จิกมี ชัมโดเป็นประตูสู่ทิเบต Seven Years in Tibet (1997) | And I'm afraid our friend Ngawang Jigme has issued it. | และผมกลัวว่าเพื่อนของเรา นาวาง จิกมี เป็นคนยื่นใบสั่งประหาร Seven Years in Tibet (1997) | - Get off my back! | อย่าจิกฉันได้มั้ย Rushmore (1998) | - No. Actually, I just came by to chat. | ความจริง ฉันมานั่งคุยจุกจิกน่ะ 10 Things I Hate About You (1999) | - We don't chat. | เราไม่ "คุยจุกจิก" อือ แต่แค่คิดว่า 10 Things I Hate About You (1999) | Because my manager is gonna be bugging you day and night. | เพราะผู้จัดการฉันจะจิกคุณทั้งวันทั้งคืน โอเคมั้ย รวมทั้งฉันด้วย Mulholland Dr. (2001) | Kamaji's already lit the fires? | คามาจิก่อไฟแล้ว? Spirited Away (2001) | Turn the fucking music down. | เบาไอ้เพลงห่าจิกนั่นหน่อยดิวะ. 11:14 (2003) | It's early November, the same as now, | ประมาณต้นๆ พฤศจิกายน เหมือนตอนนี้เลย Latter Days (2003) | Sirasoni, Kim Du-han, Lee Jung-jae, lm Hwa-su, Yoo Ji-kwang, | ซิราโซนี คิมดูฮัน ลี จุง เจ อิมวาซู ยูจิกวาง My Tutor Friend (2003) | Pulsar. | ใส่แคตตาล็อก วันที่ 4 พฤศจิกายน 1982 สาร์ Contact (1997) | When Noah's father died in November, the house was all he had. | เมื่อพ่อของโนอาห์เสียชีวิตในเดือนพฤษจิกายน บ้าน เป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ The Notebook (2004) | Could you please read the date for me? "November 17, 1989." Albert was nine. | 17 พฤศจิกายน 1989 อัลเบิร์ต 9 ขวบ นี่บันทึกของเขา I Heart Huckabees (2004) | You see, November 11th | เห็นไหมคะ วันที่ 11 พฤศจิกายน Rice Rhapsody (2004) | Kimchi burger and cider please Did you say cider, sir? | เบอร์เกอร์ไส้กิมจิกับน้ำผลไม้หมัก Spygirl (2004) | But Koichi was far too transfixed by everything else to even notice | แต่โคอิจิก็รู้สึกประหลาดใจ กับสิ่งรอบตัว เกินกว่าจะทันสังเกตว่า Always - Sunset on Third Street (2005) | A Scorpio 1969, November 3rd | วันที่ 28 ตุลาคม 1969 ราศีพิจิก Crying Out Love in the Center of the World (2004) | Scorpio | วันที่ 3 พฤศจิกายน 1969 Crying Out Love in the Center of the World (2004) | My favorite color, olive green, forest green | พิจิก สีที่ชอบ Crying Out Love in the Center of the World (2004) | That's right, | 3 พฤศจิกายน ใช่มั๊ย Crying Out Love in the Center of the World (2004) | Are things going well for you, Takumi and Yuji? | มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรอ ยูจิกับทาคุมิ? Be with You (2004) | And Yuji believes that story as well? | และยูจิก็เชื่อ เรื่องนี้ด้วยใช่มั้ย? Be with You (2004) | Do you believe? Yuji believes it | แล้วคุณหล่ะ เชื่อมั้ย? ครับ, ยูจิก็เชื่ออย่างงั้น Be with You (2004) | Then, I've properly returned the handkerchief, okay? | คุณท่านประธานโดเมียวจิกรุ๊ป A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) | But you know what, What Kami-san is saying might have a reason. | ไม่มีในโดเมียวจิกรุ๊ปหรอก A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) | Today, I left it at home.. It's that late, you know.. | ลูกต้องได้ครอบครองทุกอย่างของโดเมียวจิกรุ๊ป! A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) |
| จิก | [jik] (v) EN: peck at ; pick FR: becqueter ; picoter ; picorer | จิก | [jik] (v) EN: tear at ; pull ; seize ; clutch ; grab | จิกหัว | [jikhūa] (v) EN: pinch the hair and pull ; pull someone's hair | จิกหัว | [jikhūa] (v) EN: oppress ; bully | จิกหัวใช้ | [jikhūa chai] (v, exp) EN: force to work | จิกนา | [jik nā] (n, exp) EN: Indian oak ; Chee | จิกปีก | [jikpīk] (v) EN: be dazed ; be stunned | จิกทะเล | [jik thalē] (n, exp) EN: ? FR: ? | จู้จี้จุกจิก | [jūjī-jukjik] (v) EN: be fussy ; be choosy ; be picky ; be fastidious | จู้จี้จุกจิก | [jūjī-jukjik] (adj) EN: fussy ; fastidious ; choosy ; nit-picking ; picky ; finicky ; pernickety | จุกจิก | [jukjik] (v) EN: fuss ; worry about ; be fussy ; be fastidious ; pay excessive attention to ; fidget | จุกจิก | [jukjik] (adj) EN: fidgety ; fussy ; meticulous FR: tracassier ; tatillon ; vétilleux ; pointilleux | จุกจิก | [jukjik] (adj) EN: small ; tiny ; trifling ; worthless FR: insignifiant | เครื่องมือกระจุกกระจิก | [khreūangmeū krajuk-krajik] (n, exp) EN: gadget FR: gadget [ m ] ; bebelle = bébelle [ f ] (Québ.) | กระจุกกระจิก | [krajuk-krajik] (adj) EN: trifling ; petty FR: insignifiant ; sans importance | พฤศจิกา | [phreutsajikā] (n) EN: November FR: novembre [ m ] | พฤศจิกายน | [phreutsajikāyon] (n) EN: November FR: novembre [ m ] | ประเทศทาจิกิสถาน | [Prathēt Thājikisathān] (n, prop) EN: Tajikistan | ราศีพิจิก | [rāsī Phijik] (n, exp) EN: Scorpio FR: signe du Scorpion [ m ] | ทาจิกิสถาน | [Thājikisathān] (n, prop) FR: Tadjikistan [ m ] |
| Loi Krathong | (n) เทศกาลลอยกระทงของไทยในเดือนพฤศจิกายน โดยจะลอยกระทง (banana-leaf cup) ไปตามน้ำ | gewgaw | (n) ของกระจุกกระจิก(ที่ราคาถูกๆ) เช่น My mother also came through in her inimitable way. She bought us yet another completely mystifying Christmas gewgaw., Syn. geegaw | bossumer | (n, jargon) พฤติกรรมของ “ลูกค้า” ที่มีลักษณะเหมือนเจ้านายมากขึ้น คือ เอาแต่ใจ ขี้บ่น จู้จี้จุกจิก หากไม่พอใจแบรนด์หรือสินค้าก็จะโพสต์บ่นบนโซเชียลทันที เกิดดราม่าบนโลกออนไลน์ |
| All Saints Day | (n) วันทางศาสนาเพื่อระลึกถึงนักบุญทั้งหมดคือวันที่ 1 พฤศจิกายน | bandbox | (n) กล่องใส่ของกระจุกกระจิก | catchall | (n) สิ่งที่ใช้เก็บสิ่งของกระจุกกระจิก (เช่น ถุงหรือลิ้นชัก) | chary | (adj) จู้จี้, See also: ช่างเลือก, จุกจิก, Syn. fastidious | club | (n) ไพ่ดอกจิก | fuss about | (phrv) จู้จี้มากเกินไป, See also: จุกจิกเกินไป | fuss around | (phrv) จู้จี้มากเกินไป, See also: จุกจิกเกินไป | fuss over | (phrv) จู้จี้มากเกินไป, See also: จุกจิกเกินไป | fastidious | (adj) พิถีพิถัน, See also: เอาใจยาก, จุกจิกจู้จี้, Syn. meticulous, squeamish, Ant. unfastidious, unmeticulous | finical | (adj) จุกจิก, See also: จู้จี้, พิถีพิถัน, Syn. fastidious, finicky, fussy, Ant. indifferent, gross | finicky | (adj) จู้จี้, See also: จุกจิก, พิถีพิถัน, Syn. fastidious, finical, fussy, Ant. indifferent, gross | fussy | (adj) จุกจิกจู้จี้ | knickknack | (n) เครื่องตบแต่งบ้าน (คำไม่เป็นทางการ), See also: ของมีราคาไม่มาก, ของกระจุกกระจิก, Syn. nicknack, knack | meticulous | (adj) พิถีพิถันมาก, See also: จู้จี้จุกจิก, ละเอียดลออ, เอาใจใส่กวดขัน, Syn. scrupulous, fastidious, careful, Ant. imprecise, unexact | Nov | (abbr) เดือนพฤศจิกายน (คำย่อของ November), See also: พฤศจิกายน, Syn. Nov. | Nov | (abbr) เดือนพฤศจิกายน (คำย่อของ November), See also: พฤศจิกายน, Syn. Nov. | Nov. | (abbr) เดือนพฤศจิกายน (คำย่อของ November), See also: พฤศจิกายน | November | (n) พฤศจิกายน (คำย่อคือ Nov. หรือ Nov) | November | (n) เดือนพฤศจิกายน | odds and ends | (idm) สิ่งของจิปาถะ, See also: สิ่งของกระจุกกระจิก, Syn. odds and sods | peck | (vt) จิก, See also: แทะ, เล็ม, Syn. pick at, poke at | peck | (n) การจิก, Syn. picking up | peddling | (adj) หยุมหยิม, See also: จุกจิก | pick | (vt) จิก (ไก่, นก), See also: ตอด ไก่, นก, Syn. peck | picky | (adj) จู้จี้มาก, See also: จุกจิกมาก, Syn. fussy, Ant. unfussy | peck at | (phrv) จิก, See also: เจาะ | peck up | (phrv) จิกขึ้นมา | pick off | (phrv) จิก, See also: เด็ดออก, ดึงออก, Syn. take off | red tape | (n) ระเบียบราชการที่จุกจิกเกินไป, See also: ระเบียบที่หยุมหยิมเกินไป, Syn. bureaucracy | doodad | (sl) คำเรียกสำหรับอุปกรณ์กระจุกกระจิก | faff | (sl) จู้จี้, See also: บ่น, จุกจิก | Scorpio | (n) ราศีพฤศจิก (สัญลักษณ์คือ แมงป่อง), Syn. scorpius | Thanksgiving bird | (n) ไก่งวงที่ใช้ในวันขอบคุณพระเจ้า, See also: ตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน, Syn. turkey | Thanksgiving Day | (n) วันขอบคุณพระเจ้า, See also: ตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน | World War I | (n) สงครามโลกครั้งที่ 1, See also: เริ่มเมื่อ 28 พฤษภาคม ค.ศ.1914 จนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918 | World War I | (n) สงครามโลกครั้งที่ 1, See also: เริ่ม 28 พฤษภาคมปีค.ศ.1914-11พฤศจิกายนปีค.ศ.1918 |
| all saints' day | วันทางศาสนาที่ระลึกถึงนักบุญทั้งหมด คือวันที่ พฤศจิกายน. Allhallows | all souls' day | วันสวดมนต์สำหรับคนตายทั้งหมดมักเป็น วันที่ 2 พฤศจิกายน | chip | (ชิพ) 1. { chipped, chipping, chips } n. เศษไม้, เศษหิน, ชิ้น, แผ่นตัด, เศษ, เบี้ย, สิ่งเล็กสิ่งน้อย, สิ่งที่ไร้ค่าหรือมีค่าน้อย, ไม้ตอก, ก้อนมูลแห้ง, เงิน vt. ตัด, เลาะ, แกะ, แชะ, ขูด, สกัด, เจาะ, ทำปากแหว่ง, เฉือนเป็นแผ่นบาง ๆ , พูดเหน็บแนม, พูดสอด, จิกให้ไข่แตก vi. แหว่ง, เป็นรอยร้า 2. n. หมายถึงวงจรรวม (integrated circuit) ทำหน้าที่ เหมือนสาร กึ่งตัวนำ ใช้เป็นที่เก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำในไมโครคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน มีชิปแบบวีแอลเอสไอ (VLSI หรือ Very large scale integrated circuit) ซึ่งจะมีทรานซิสเตอร์เป็นพัน ๆ ตัว แต่มีขนาดเล็กนิดเดียว ราคาถูกลงทุกวัน แต่มีประสิทธิภาพสูงมาก ถ้าชิปใดมีทั้งหน่วยความจำ หน่วยคำนวณ และตรรกะ เราจะเรียกชิปนั้นว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ (micro processor) ปัจจุบัน เราใช้ชิปกันมากในเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เครื่องคิดเลข นาฬิกา เครื่องมือแพทย์ ฯ ดู microprocessor ประกอบ | cloverleaf | n. ชุมทางหลวงที่ตัดกันเป็นรูปดอกจิก adj. คล้ายใบต้นหญ้า | club | (คลับ) { clubbed, clubbing, clubs } n. กระบอง, ไม้พลอง, ไม้ (ลูกกอล์ฟหรือฮอกกี้) , ไนต์คลับ, สโมสร, ชมรม, รูปดอกจิกบนไพ่, ส่วนที่คล้ายกระบอง v. ตีด้วยกระบองหรือไม้, รวมกลุ่มเป็นคลับ, รวมกัน, รวบรวม, ช่วยกันเสียค่าใช้จ่าย adj. ร่วมกัน, Syn. staff | comdex | (คอมเด็กซ์) ย่อมาจาก Computer Dealers Exhibition ซึ่งเป็นงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกงานหนึ่ง จัดกันปีละ 2 ครั้ง เดือนพฤศจิกายนที่ลาสเวกัส และเดือนเมษายนที่แอตแลนตา | dig | (ดิก) { digged, digging, digs } v., n. (การ) ขุด, ขุดหา, ขุดค้น, ขุดคุ้ย, จิก, แทง, ชอบ, เข้าใจ, ทำงานหนัก, เรียนหนัก | doodad | (ดู'แดด) n. สิ่งประดับเล็ก ๆ น้อย, ของกระจุกกระจิก | doohickey | (ดู'ฮิคคี) n. ของเด็กเล่น, เครื่องประกอบกระจุกกระจิก | gigolo | (จิก'กะโล) n. ผู้ชายแมงดา, ผู้ชายรับจ้างเป็นคู่เต้นรำกับผู้หญิงแก่ ๆ | gigot | (จิก'กัท) n. ขาเนื้อแกะ | gismo | (กีซ'โม) n. เครื่องประกอบกระจุกกระจิก | gizmo | (กีซ'โม) n. เครื่องประกอบกระจุกกระจิก | hallowmas | (แฮล'โลมัส) n. การเลี้ยงเฉลิมฉลองในวันที่ 1 พฤศจิกายนของศาสนาคริสต์เป็นวันนักบุญทั้งหลาย | handyman | n. คนรับจ้างทำงานจุก ๆ จิก ๆ คนที่มีฝีมือคล่องแคล่ว | jig | (จิก) { jigged, jigging, jigs } n. การ (ดนตรี) เต้นรำจังหวะเร็ว (มักเป็น3จังหวะ) , เครื่องร่อนแร่, วิธีการร่อนหรือคัดแร่ออก, เครื่องหนีบแร่, เครื่องจับ, โครงประกอบ. vt. ร่อนแร่ | jiggered | (จิก'เกอร์ด) adj. ยุ่งเหยิง, ฉิบหาย, ตายโหง, Syn. confounded, damned | jiggers | (จิก'เกอส) interj. ระวัง! | jiggle | (จิก'เกิล) { jiggled, jiggling, jiggles } vt., vi. เคลื่อนขึ้นเคลื่อนลงกระตุก, เคลื่อนกระตุก. n. การเคลื่อนขึ้นเคลื่อนลง การเคลื่อนกระตุก. | nose dive | n. การจิกหัว (เครื่องบิน) ลง, การตกลงหรือบินลงมาอย่างรวดเร็ว, Syn. plunge | nose-dive | (โนซ'ไดว) vi. จิกหัวลงมา, See also: nose-diving n. | november | (โนเวม'เบอะ) n. พฤศจิกายน | odds and ends | n. ของกระจุกกระจิก, สิ่งที่เป็นเศษเล็กเศษน้อย, ปกิณกะ, ของเบ็ดเตล็ด, Syn. scraps, refuse | peck | (เพค) n. 8ควอร์ต vi., n. (การ) จิก, ขว้าง, ก้อนหิน, เหน็บแนม, ขว้างก้อนหิน, โยนก้อนหิน | pecker | (เพค'เคอะ) n. นกที่จิก, เครื่องเจาะรู, เข็มเจาะรู, องคชาต, ความกล้าหาญ, จิตใจที่ฮึกเหิม | pick | (พิค) vt. เลือก, สรร, คัด, หยิบ, จับ, แคะ, ขุด, เลาะ, แทะ, เจาะ, จิก, เด็ด, เก็บ, ถอน (ขน) , ฉกฉวย, ดึงออก, หาเหตุ, หาเรื่อง, ดีด (สายพิณ, สายกีตาร์และอื่น ๆ) vi. ขุด, เลาะ, แทะ, จิก, เด็ด, เก็บ, ล้วงกระเป๋า, ขโมย, คัด, เลือก n. การเลือก -Phr. (pick on วิจารณ์กล่าวหา) | picking | (พิค'คิง) n. การเลือก, การสรร, การคัด, การขุด, การแคะ, การจิก, การเด็ด, การเก็บ, การดีดสายเครื่องดนตรี, สิ่งที่ถูกเลือก (คัด, ขุด...) , สิ่งที่เก็บขึ้นมาได้, อัฐิที่ยังเผาไม่หมด, ของโจร, See also: pickings n., pl. สิ่งที่ควรเก็บสะสมไว้, ผลกำไรที่ได้มาโดยทุจริต | scorpio | (สคอร'พิโอ) n. กลุ่มดาวแมงป่อง, ราศีพิจิก | snatch | (สแนทชฺ) vi., n. (การ) ฉก, ฉวย, ฉวยโอกาส, แย่งชิง, คว้าไป, จิก, ตอด, กระชาก, ดึง, ลักพา, คร่า, จี้เอาตัวไป, เศษ, สิ่งเล็กสิ่งน้อย, ตอน, ช่วงระยะเวลาอันสั้น, การลักตัวไป, See also: snatcher n., Syn. seize, grab, clutch | swoop | (สวพ) vi., n. (การ) โฉบลง, ถลาลง, จิกลง, จู่โจม, โจมตีอย่างฉับพลัน. vt. ชิง, หยิบเอาไป, คว้าไป., Syn. plunge, dive, drop | trifle | (ไทร'เฟิล) n. เรื่องขี้ปะติ๋ว, เรื่องไม่สำคัญ, เรื่องจุกจิก, สิ่งปลีกย่อย, ข้อที่ไม่สำคัญ. vi. ล้อ, ล้อเล่น, หยอกล้อ, เสียเวลา, See also: trifler n., Syn. fool with, play, triviality, toy | trim | (ทริม) vt. เล็ม, ขริบ, ตัดแต่ง, ทำให้เสมอกัน, ตีสองหน้า, เลียบฝั่ง, ประดับ, ดุ, ด่า, ตี, เฆี่ยน, ทำให้แพ้. vi. เดินสายกลาง, ทำให้เรือทรงตัว, ปรับใบเรือ, ปรับนโยบาย. n. การเล็ม, การขริบ, การปรับ, การทรงตัวของเรือ, อุปกรณ์, เครื่องแต่งตัว (หรูหรา) , ของกระจุกกระจิก | trinket | (ทริง'คิท) n. เครื่องเพชรพลอยเล็ก ๆ น้อย ๆ , เครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ , สิ่งที่มีค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ , ของกระจุกกระจิก., Syn. bauble, trifle |
| clapperclaw | (vt) หยิก, จิก, ข่วน | complex | (adj) ซับซ้อน, ยุ่ง, จุกจิก | dig | (vt) ขุด, คุ้ย, จิก, แทง, ขุดค้น | fastidious | (adj) จู้จี้, จุกจิก, เอาใจยาก, พิถีพิถัน | finical | (adj) พิถีพิถัน, ละเอียดมาก, จุกจิก, จู้จี้, ประณีตบรรจง | fuss | (n) ความจู้จี้, ความจุกจิก, ความยุ่ง, ความวุ่นวาย | fuss | (vi) จุกจิก, จู้จี้, ยุ่ง, วุ่นวาย, เจ้ากี้เจ้าการ, บ่น | fussy | (adj) จุกจิก, จู้จี้, ยุ่ง, วุ่นวาย, เจ้ากี้เจ้าการ, บ่น | nibble | (vt) แทะ, ตอด, และเล็ม, จิก | November | (n) เดือนพฤศจิกายน | peck | (vt) จิก, ถากถาง, เหน็บแนม, เสียดสี | pinch | (vt) หยิก, จับ, บีบ, กัด, จิก, ฉก, เหน็บแนม | RUMMAGE rummage sale | (n) การขายของสัพเพเหระ, การขายของกระจุกกระจิก | sundries | (n) ของจิปาถะ, ของกระจุกกระจิก | sundry | (adj) กระจุกกระจิก, จิปาถะ, ต่างๆนานา | swoop | (vi) โฉบ, โผลงมา, จิกหัว, ถา, จู่โจม, โจมตี | trimming | (n) เครื่องตกแต่ง, เครื่องประดับ, ของกระจุกกระจิก | trinket | (n) ของเบ็ดเตล็ด, ของกระจุกกระจิก |
| complexity | (n, vi, vt) ทำให้ยุ่ง, จุกจิก, ประกอบด้วยส่วนต่างๆที่จุกจิก, แทรกแซง | micromanager | (n, org) ผู้จัดการแบบจู้จึ้จุกจิก ประเภทจับตามองพนักงานแบบไม่วางตา ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนและทุกเรื่อง |
| 総武線 | [そうぶせん, soubusen] (n, name) เส้นทางรถไฟสายโซบุของ JR (Japanese Railway) วิ่งระหว่างโตเกียวกับชิบะ สัญลักษณ์ใช้สีเหลือง (ข้อมูล พฤศจิกายน 2546) | 蠍座 | [さそりざ, sasoriza] (n) ราศีีพิจิก |
| マーカ | [まーか, ma-ka] TH: ปากกาเมจิก, ปากกาสำหรับ mark EN: marker | 小物入れ | [こものいれ, komonoire] TH: ถุงหรือกล่องที่ใช้สำหรับใส่ของจุกจิกเช่นเครื่องสำอาง กิ๊ฟ เป็นต้น EN: an accessory case | 小物 | [こもの, komono] TH: ของจุกจิก ชิ้นเล็ก ๆ EN: small articles | 細々 | [こまごま, komagoma] TH: จุกจิก หยุมหยิม ละเอียดละออ EN: in detail | 学園際 | [がくえんさい, gakuensai] TH: งานฉลองประจำปีของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมักจัดในช่วงวันวัฒนธรรมปลายเดือนพฤศจิกายน EN: school festival | 十一月 | [じゅういちがつ, juuichigatsu] TH: เดือนพฤศจิกายน EN: November |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |