ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: หน่วง, -หน่วง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| 延误 | [yán wù, ㄧㄢˊ ㄨˋ, 延 误] หน่วงเหนี่ยวจนเสียเวลา, เสียเวลา |
| หน่วง | (v) delay, See also: retard, bog down, detain, hinder, hold back, impede, hold up, slow up, Syn. ถ่วง, เหนี่ยว, ดึง, รั้ง, Example: พม่าพยายามหน่วงเวลามิให้ไทยเข้าโจมตีในขณะพม่ายังกังวลศึกด้านอื่น โดยการส่งทูตมาเจริญพระราชไมตรี, Thai Definition: ดึงไว้แต่น้อยๆ, เหนี่ยวไว้, ทำให้ช้า | ความหน่วง | (n) retardation, Ant. ความเร่ง, Example: การรับส่งข้อมูลมีความหน่วงเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้สัญญาณในพื้นที่กว้าง, Thai Definition: อัตราการเคลื่อนที่ของวัตถุต่อ 1 หน่วยเวลา โดยระบุทิศทางของการเคลื่อนที่ด้วย, อัตราการเปลี่ยนความเร็วต่อหนึ่งหน่วยเวลาที่ลดลงเรื่อยๆ, Notes: (อังกฤษ) | หนักหน่วง | (adv) severely, See also: heavily, seriously, Syn. เอาจริงเอาจัง, รุนแรง, Example: กลุ่มองค์กรเหล่านี้เปิดฉากเคลื่อนไหวกดดันอย่างหนักหน่วงเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการ | หน่วงเวลา | (v) delay, See also: put off, postpone, Syn. ถ่วงเวลา, Example: การเปลี่ยนความเร็วของคีย์บอร์ดมีจุดประสงค์ เพื่อปรับเปลี่ยนอัตราเร็วของการกดคีย์บอร์ดซ้ำ และหน่วงเวลาก่อนที่จะส่งค่าการกดคีย์ซ้ำในครั้งแรกออกไป, Thai Definition: ทำให้ช้าลง | หน่วงเหนี่ยว | (v) delay, See also: obstruct, detain, hinder, impede, hold up, block, restrain, Syn. ถ่วง, ยื้อ, หน่วง, ขัดขวาง, Example: ไพร่พลช่วยกันหน่วงเหนี่ยวทัพพม่าไม่ให้เข้าไปถึงเมืองหลวง, Thai Definition: ถ่วงเวลาไว้ (ใช้ในการรบ) | หน่วงเหนี่ยว | (v) hold (someone) back, See also: stop, prevent, obstruct, delay, Syn. รั้ง, ถ่วง, เหนี่ยวรั้ง, ยื้อ, หน่วง, ฉุดรั้ง, Example: เธออย่าไปหน่วงเหนี่ยวเขาไว้เลย มันไม่มีประโยชน์อะไรกับคนที่ไม่รักเรา, Thai Definition: ดึงถ่วงไว้, ฉุดรั้งเอาไว้ | หน่วงเหนี่ยว | (v) hold back, See also: detain, retain, Syn. ดึง, ถ่วง, กัก, หน่วง, รั้ง, ยื้อ, Ant. ปล่อย, Example: บิดามารดาที่ฉลาดไม่ควรหน่วงเหนี่ยวเด็กไว้หรือใช้อำนาจเด็ดขาด | ความหนักหน่วง | (n) seriousness, See also: severity, solemnness, Syn. การเอาจริงเอาจัง, Example: ปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายจะมีลักษณะและความรุนแรงแตกต่างไปตามความหนักหน่วงของการออกกำลัง |
| ความหน่วง | น. อัตราการเปลี่ยนความเร็วที่ลดลงเรื่อย ๆ ต่อ ๑ หน่วยเวลา. | สิทธิยึดหน่วง | น. สิทธิที่ผู้ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่น และมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้น ในอันที่จะยึดทรัพย์สินนั้นไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้. | หน่วง | (หฺน่วง) ก. ดึงไว้แต่น้อย ๆ, เหนี่ยวไว้, ทำให้ช้า, เช่น หน่วงเรื่องไว้ หน่วงเวลาไว้ หน่วงตัวไว้. | หน่วง | (หฺน่วง) ว. อาการที่รู้สึกปวดถ่วงที่บริเวณท้องในเวลามีประจำเดือนหรือเป็นบิดเป็นต้น. | หน่วงเหนี่ยว | (หฺน่วงเหฺนี่ยว) ก. รั้งตัวไว้, ดึงถ่วงไว้, กักไว้, เช่น เขาถูกฟ้องฐานะที่หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น. | หนักหน่วง | ว. จริงจัง, มาก, ยิ่ง, เช่น เขาพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อส่งเสียให้ลูกเรียน. | การก่อวินาศกรรม | น. การกระทำใด ๆ อันเป็นการมุ่งทำลายทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ หรือสิ่งอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวนขัดขวางหน่วงเหนี่ยวระบบการปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจนการประทุษร้ายต่อบุคคลอันเป็นการก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ. | ค่าไถ่ | น. ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่เรียกเอา หรือให้เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง. | เจ้าหนี้มีประกัน | น. เจ้าหนี้ผู้มีสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในทางจำนอง จำนำ หรือสิทธิยึดหน่วง หรือเจ้าหนี้ผู้มีบุริมสิทธิที่บังคับได้ทำนองเดียวกับผู้รับจำนำ. | ซั้น | รีบ, เร็ว, ถี่, ติด ๆ กัน, เช่น เชอญเสด็จภักพลหมั้น แต่งทับซั้นไปหน่วง (ตะเลงพ่าย). | ดึง | หน่วงเหนี่ยวไว้ เช่น ดึงเรื่องไว้ตรวจสอบให้ละเอียดก่อน อย่าเพิ่งปล่อยผ่านออกไป | ไถ่ ๑ | ให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง. | ประวิง | ก. หน่วงไว้ให้เนิ่นช้า, ถ่วงเวลา, เช่น ประวิงเวลา ประวิงเรื่อง. | ปวดถ่วง | ก. ปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยคล้ายต้องการถ่ายอุจจาระ. | มหาอุปรากร, อุปรากร | น. ละครประเภทหนึ่ง มีดนตรีเป็นส่วนประกอบสำคัญ ดำเนินเรื่องด้วยการร้องเพลงผสมวงดุริยางค์คล้ายอุปรากร ตัวละครทุกตัวจะร้องแทนพูด เนื้อเรื่องมีความจริงจังหนักหน่วง ถือเป็นละครชั้นสูงของชาวตะวันตก. | รั้ง | ก. หน่วงเหนี่ยวไว้ เช่น รั้งตัวไว้ก่อน, เหนี่ยว เช่น แขนเสื้อรั้ง, ชักมา, ใช้กำลังเต็มที่เพื่อให้สิ่งที่มีแรงต้านทานเคลื่อนเข้ามาหรือหยุดอยู่ เช่น รั้งวัวรั้งควาย | หมายค้น | น. หนังสือสั่งการที่ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เพื่อยึดสิ่งของหรือจับกุมบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ หรือเพื่อช่วยบุคคลซึ่งถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย. | อาโปกสิณ | (-กะสิน) น. วิธีเจริญสมถกรรมฐานโดยยึดหน่วงเอาธาตุนํ้าเป็นอารมณ์. | อารมณ์ | น. สิ่งที่ยึดหน่วงจิตโดยผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เช่น รูปเป็นอารมณ์ของตา เสียงเป็นอารมณ์ของหู, เครื่องยึดถือเป็นจริงเป็นจัง เช่น เรื่องนี้อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย |
| possessory lien | การครอบครองโดยอาศัยสิทธิยึดหน่วง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | priority of liens | สิทธิยึดหน่วงลำดับก่อน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | particular lien | สิทธิยึดหน่วงเฉพาะ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | lien | สิทธิยึดหน่วง [ ดู right of retention ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | lien, tax | สิทธิยึดหน่วงทางภาษี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | lien | สิทธิยึดหน่วง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | lien | การยึดหน่วง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | restrain | ๑. หน่วงเหนี่ยว, กักขัง, ควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. จำกัด, ห้ามกระทำการ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | retainer | ๑. ผู้มีสิทธิยึดหน่วง๒. การจ้างทนายความ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | restraint | ๑. การหน่วงเหนี่ยว, การกักขัง, การควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. การจำกัด, ข้อจำกัด, การยับยั้ง (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | restraints | การหน่วงเหนี่ยว ดู arrests, restraints and detainments [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | retain | ๑. ยึดถือไว้, ยึดหน่วง๒. จ้าง (ทนายความ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | right of retention | สิทธิยึดหน่วง [ ดู lien ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | retention bond | กรมธรรม์ค้ำประกันการยึดหน่วง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | shock absorber; suspension damper | ตัวหน่วงการสั่นสะเทือน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | SDV (spark delay valve) | เอสดีวี (ลิ้นหน่วงการเกิดประกายไฟ) [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | special lien | สิทธิยึดหน่วงเฉพาะสิ่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | spark delay valve (SDV) | ลิ้นหน่วงการเกิดประกายไฟ (เอสดีวี) [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | suspension damper; shock absorber | ตัวหน่วงการสั่นสะเทือน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | smothering | การหน่วงเหนี่ยว (ร่างกฎหมาย) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | arc blow compensator; arc damper | ตัวหน่วงอาร์กเบน [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] | arc damper; arc blow compensator | ตัวหน่วงอาร์กเบน [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] | arrests, restraints and detainments | การจับกุม หน่วงเหนี่ยว และกักขัง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | acoustic delay line | สายหน่วงเสียง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | abuse of distress | การนำทรัพย์ที่ยึดหน่วงไว้ไปใช้โดยมิชอบ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | bill, hold-up | ร่างกฎหมายที่ถูกหน่วงเหนี่ยว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | mail, detaining or delaying | การกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณียภัณฑ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | maritime lien | สิทธิยึดหน่วงตามกฎหมายทะเล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | carrier's lien | สิทธิยึดหน่วงของผู้ขนส่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | delay | หน่วงเนิ่น, ล่าช้า [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | delay | ๑. ประวิง, หน่วง๒. การประวิง, การหน่วง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | delay line | สายหน่วง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | delay unit | หน่วยหน่วง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | delayed firing | การปล่อยกระแสหน่วง [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] | detain | ๑. กักขัง, หน่วงเหนี่ยว (บุคคล), ควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. ยึดหน่วง (ก. แพ่ง) [ ดู retain ความหมายที่ ๑ ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | detainer | ๑. ผู้กักขัง, ผู้หน่วงเหนี่ยว (บุคคล) (ก. อาญา)๒. ผู้ยึดหน่วงทรัพย์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | diligent inquiry | การสอบสวนอย่างหนักหน่วง (เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างสมบูรณ์) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | delayed non-beat | ระบบหน่วงกันสะดุด [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] | detaining or delaying mail | การกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณียภัณฑ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | detention | ๑. การกักขัง, การหน่วงเหนี่ยว, การควบคุมตัว (ป. วิ. อาญา)๒. การยึดหน่วงทรัพย์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | damped oscillation | การแกว่งกวัดแบบหน่วง [ มีความหมายเหมือนกับ damped vibration ] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | damped vibration | การสั่นแบบหน่วง [ มีความหมายเหมือนกับ damped oscillation ] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | damper | ๑. ตัวหน่วง ๒. ตัวหน่วงการสั่นสะเทือน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | damping coefficient | สัมประสิทธิ์การหน่วง [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | damping factor | ตัวประกอบการหน่วง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | detinue | การเรียกคืนทรัพย์ที่ถูกยึดหน่วงไว้โดยมิชอบ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | general lien | สิทธิยึดหน่วงทั่วไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | free of capture and seizure clause | ข้อกำหนดยกเว้นการจับกุมยึดหน่วง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | forcible detainer | ๑. การยึดหน่วงที่ดินไว้โดยใช้กำลัง๒. การยึดหน่วงทรัพย์ไว้โดยไม่มีสิทธิ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | forge delay time | เวลาหน่วงกด [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] |
| BWR type reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็ว นิวตรอน โดยออกแบบการทำงานให้น้ำเดือดอยู่ภายในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และใช้ไอน้ำที่เกิดขึ้นไปขับกังหันไอน้ำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยตรงเพื่อ ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | Boiling water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน โดยออกแบบการทำงานให้น้ำเดือดอยู่ภายในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และใช้ไอน้ำที่เกิดขึ้นไปขับกังหันไอน้ำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยตรงเพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | Bremsstrahlung | เบรมส์ชตราลุง, รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมา เมื่ออนุภาคที่มีประจุถูกเร่งให้เร็วขึ้น หรือถูกหน่วงให้ช้าลง รังสีเอกซ์จากเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปก็เป็นรังสีชนิดนี้ [นิวเคลียร์] | Core | แกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, บริเวณส่วนกลางเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เป็นบริเวณที่เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ประกอบด้วย เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ แท่งควบคุม สารหน่วงนิวตรอน และโครงสร้างที่รองรับอุปกรณ์ต่างๆ [นิวเคลียร์] | X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Water moderated reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำมวลเบา, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำธรรมดาเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประเภทนี้ [นิวเคลียร์] | Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Nuclear reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อุปกรณ์สำหรับให้ปฏิกิริยาลูกโซ่การแบ่งแยกนิวเคลียสเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถควบคุมได้ ใช้สำหรับผลิตนิวตรอน หรือพลังงานความร้อน มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ แกนปฏิกรณ์ ซึ่งบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ สารหน่วงความเร็วนิวตรอน สารสะท้อนนิวตรอน สารหล่อเย็น วัสดุกำบังรังสี และระบบควบคุม <br>บางครั้งเรียกว่า เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู (atomic reactor)</br> [นิวเคลียร์] | Moderator | ตัวหน่วงความเร็ว(นิวตรอน), วัสดุที่ใช้ลดความเร็วของนิวตรอนในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้โอกาสของการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียสเพิ่มขึ้น เช่น น้ำ น้ำมวลหนัก และแกรไฟต์ <br>(ดู reflector, absorber และ thermal neutron ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | LWR type reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำธรรมดาเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วง ความเร็วนิวตรอน เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประเภทนี้ [นิวเคลียร์] | Light water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำธรรมดาเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประเภทนี้ [นิวเคลียร์] | Heavy water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน และเป็นตัวทำให้เย็น น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอนที่ดีเยี่ยม จึงช่วยเพิ่มโอกาสการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียส ทำให้สามารถใช้ยูเรเนียมธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องเสริมสมรรถนะ [นิวเคลียร์] | Heavy water moderated reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน และเป็นตัวทำให้เย็น น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอนที่ดีเยี่ยม จึงช่วยเพิ่มโอกาสการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียส ทำให้สามารถใช้ยูเรเนียมธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องเสริมสมรรถนะ, Example: [นิวเคลียร์] | ๑. ประวิง, หน่วง ๒. การประวิง, การหน่วง | ๑. ประวิง, หน่วง ๒. การประวิง, การหน่วง [คอมพิวเตอร์] | Passive Artificial Leg | ขาเทียมแบบไม่ใช้อุปกรณ์เพิ่มกำลัง, ขาเทียมที่มีการปรับอัตราความหน่วงในการเดิน โดยใช้ประโยชน์จาก สปริง และแดมเปอร์ (damper) ไม่มีตัววัดค่าและและคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน [Assistive Technology] | Damping (Mechanics) | การหน่วง (กลศาสตร์) [TU Subject Heading] | Possessory liens | สิทธิยึดหน่วง [TU Subject Heading] | Priorities of claims and liens | สิทธิยึดหน่วงลำดับก่อน [TU Subject Heading] | Shock absorbers | ตัวหน่วงการสั่นสะเทือน [TU Subject Heading] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Additives | สารเคมีที่เติมเข้าไปในยางเพียงเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงสมบัติต่างๆ ตามต้องการ สารเติมแต่งมีด้วยกันหลายประเภท ตัวอย่างเช่น สารต้านปฏิกิรยาออกซิเดชัน สารกันไฟฟ้าสถิต สารเพิ่มสี สารหน่วงการติดไฟ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Anticoagulant | สารเคมีที่เติมลงในน้ำยางเพื่อหน่วงปฏิกิริยาจากแบคทีเรียที่ทำให้ อนุภาคยางที่แขวนลอยอยู่ในตัวกลางมารวมตัวกันเป็นก้อนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะทำให้น้ำยางเสียสภาพ ตัวอย่างสารต้านการจับตัว เช่น แอมโมเนีย [เทคโนโลยียาง] | Chloroprene rubber | ยาง CR เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน มีทั้งประเภทที่ใช้งานทั่วไปและประเภทใช้งานพิเศษ เช่น ทำกาวยาง ยางใช้เคลือบ และวัสดุอุดรอยรั่ว เป็นต้น เนื่องจากโมเลกุลของยาง CR สามารถจัดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ยางชนิดนี้จึงสามารถตกผลึกได้เช่นเดียวกับยางธรรมชาติ มีค่าความทนต่อแรงดึงสูง มีค่าความทนต่อการฉีกขาดและความต้านทานต่อการขัดถูสูง ยาง CR มีสมบัติทนต่อน้ำมันได้ปานกลางถึงดี และทนต่อความร้อน แสงแดด และโอโซนได้ค่อนข้างดี และยังมีสมบัติการหน่วงไฟ จึงนิยมนำไปใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานภายนอกอาคาร เช่น ยางขอบหน้าต่าง ยางรองคอสะพาน ยางปลอกสายเคเบิล เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Flame retardant or Flame retarder | สารเคมีที่เติมลงไปเพื่อช่วยหน่วงการติดไฟของผลิตภัณฑ์ โดยสารเคมีนี้จะสลายตัวให้แก๊ส หรือสารที่ไม่ติดไฟเมื่อได้รับความร้อน ตัวอย่างสารหน่วงการติดไฟ เช่น แอนติโมนีออกไซด์ อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Retarder | สารหน่วงปฏิกิริยา คือ สารเคมีซึ่งลดอัตราเร็วการเกิดปฏิกิริยาเคมี เมื่อนำมาใส่ในยางจะช่วยเพิ่มระยะเวลาก่อนที่ยางจะเริ่มเกิดปฏิกิริยาคงรูป ช่วยลดโอกาสของการเกิดยางตายทั้งในระหว่างการเก็บรักษาและระหว่างกระบวนการ ขึ้นรูป [เทคโนโลยียาง] | retarder | retarder, สารหน่วงการแข็งตัว [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
| This will hold a while. | พอหน่วงเวลาได้อีกหน่อย Rambo III (1988) | He's had a long day. | หนักหน่วงมาทั้งวัน The Man in the Iron Mask (1998) | I knew something was holding you back. | ฉันรู้มีบางอย่างหน่วงเหนี่ยวเธอไว้ The Red Violin (1998) | And with one great, tremendous chew | และด้วยการเคี้ยวอันหนักหน่วงนั้น Charlie and the Chocolate Factory (2005) | They injected you with a time-release charge. | พวกมันฉีดตัวหน่วงเวลาให้คุณ Mission: Impossible III (2006) | - No. Time-release... | -ไม่, หน่วงเวลา... Mission: Impossible III (2006) | It's gonna detonate unless we fry the charge, | มันจะระเบิดถ้าไม่ได้รับตัวหน่วง, Mission: Impossible III (2006) | - Vessel restraints unlocked. | - ปลดล็อคความหน่วงภายใน The Astronaut Farmer (2006) | Two hundred people know you held me against my will. I can't tell them why. | คน 200 คนรู้ว่าคุณกักขังหน่วงเหนี่ยวผม หากผมไม่มีเหตุผลไปอ้าง National Treasure: Book of Secrets (2007) | The few syllables you got out were absolutely devastating. | คำพูดไม่กี่พยางค์ของคุณที่ออกมาหนักหน่วงมาก Music and Lyrics (2007) | False imprisonment and torture. | กักขังหน่วงเหนี่ยว และทรมาน Easy as Pie (2008) | Is that what you call, "false imprisonment"? | อย่างนั้นมันเรียกว่า กักขังหน่วงเหนี่ยว ใช่มั้ย? Easy as Pie (2008) | Spotted--Serena and Nate in a massive display of p.d.a... | เห็น เซรีน่า และ เนธาน เล่นบทรักหนักหน่วง ... .. Summer Kind of Wonderful (2008) | The most gifted, hardworking team | ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และทำงานอย่างหนักหน่วง You're Gonna Love Tomorrow (2008) | His Highness drove away the Black Shadows on their way to the shrine. | องค์ชายได้สกัดหน่วงเงาดำ ออกจากเส้นทางที่จะไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธ์แล้ว The Kingdom of the Winds (2008) | He was driving to his base but we have detained him for questioning. | เขากำลังขับรถกลับฐาน แต่เราหน่วงเขาไว้เพื่อถามคำถาม 24: Redemption (2008) | Hahn, and I have a court order for the immediate release of all women being detained in this institution under the designation code 1 2 pending a formal inquiry into the reasons for their detainment; | ผมมีหมายศาล มีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้หญิงทุกคน ออกจากที่นี่้ ตามที่ระบุไว้ ในข้อ 12 จากการสืบสวนทราบว่า มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฏหมาย Changeling (2008) | I wish I'd gone in sooner and harder. | รู้อะไรมั้ย? ผมหวังไว้ด้วยซ้ำว่า ได้เข้าไปไวขึ้นและหนักหน่วงขึ้น Frost/Nixon (2008) | Peter Petrelli has joined Matt Parkman as priority one. | ปีเตอร์ พีเทรลลี่ ได้เข้าร่วมกับ แมต พาร์กแมน เป็นเป้าหมายระดับแรก ถูกตั้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย Chapter Five 'Exposed' (2009) | The air feels heavy and ominous. | อากาศก็หน่วงๆบอกลางไม่ดีแฮะ Nodame Cantabile: The Movie I (2009) | The air feels heavy. | อากาศหนักหน่วงแฮะ Nodame Cantabile: The Movie I (2009) | The suspects are to be interrogated vigorously, grilled, no obsolete notions of sentimentality. | ผู้ต้องหาจะถูกสอบสวนอย่างหนักหน่วง รุนแรง พอกันทีกับวิธีเมตตาธรรมแบบเดิมๆ Public Enemies (2009) | If we go in heavy-handed, then... he could shut down | ถ้าเราบุกเข้าไปแบบหนักหน่วงเกินไป... เขาอาจปิดกั้นจิตใจก็ได้ The No-Brainer (2009) | Have Olivia hold him for 24 hours. | โอลิเวีย มีเวลา หน่วงเขาไว้แค่ 24 ชม Night of Desirable Objects (2009) | Has tackled numerous social and environmental issues." | ตีแผ่ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหน่วง Enough About Eve (2009) | You know, our very work shows us that, that those people that call the world an abattoir- a slaughterhouse- they have a point. | คุณรู้มั๊ย งานอันหนักหน่วงของเราชี้ให้เห็นว่า คนที่เรียกเรียงโลกใบนี้ว่าเป็นโรงฆ่าสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ พวกเค้ามีเหตุผลให้คิดเช่นนั้น The Tough Man in the Tender Chicken (2009) | - The flak is too heavy. - We're down. | - การยิงตอบโต้หนักหน่วงเกินไป Landing at Point Rain (2009) | Call it my fail-safe to ensure my escape. | เรียกมันเสียว่าตัวหน่วงภัย เพื่อให้แน่ใจว่า พวกผมจะหนีกันได้รอด Grey Matters (2009) | It seems that I do not know boxing very heavy leaves master can not stand up | ดูเหมือนว่ามวยสากลจะหนักหน่วง จนอาจารย์ยิปลุกไม่ขึ้น Ip Man 2 (2010) | Thank you for waiting, Sir. I'm sorry to hold you up. | ขอบคุณที่รอนะครับ ข้าขอโทษที่หน่วงท่านไว้ Cat and Mouse (2010) | "party hard 'cause your daughter's almost ripe for plucking." | งานเลี้ยงอย่างหนักหน่วง เพราะลูกสาวของคุณเกือบพร้อมที่จะถูกสอยแล้ว Chuck Versus the Honeymooners (2010) | Well, we dug ourselves in pretty deep financially. | ก็ เรามีปัญหาเรื่องเงินที่หนักหน่วงจริงๆ The Ballad of Booth (2010) | Tell the science dude, we need something that strikes at more than 40 meters per second but less than 70 meters per second. | บอกกับเพื่อนชาววิทย์ได้เลย เราจำเป็นต้องฟาดอะไรสักอย่าง ที่หนักหน่วงมากกว่า 40 เมตรต่อวินาที แต่ให้น้อยกว่า 70 เมตรต่อวินาที The Body and the Bounty (2010) | And holding her against her will. | และกักขังหน่วงเหนี่ยว Protect Them from the Truth (2010) | Th-though he was unfairly incarcerated, he has chosen... | เนื่องจากเขาถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยมิชอบ เขาจึงเลือก... Down the Block There's a Riot (2010) | I am sorry to place such a burden upon you but there is no-one else I can trust. | ข้าเสียใจที่ภาระหนักหน่วงนี้ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว แต่ไม่มีใครแล้วที่ข้าไว้ใจได้ The Coming of Arthur: Part One (2010) | Excessive use of force, unlawful detention, abuse of authority. | ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ กักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฏหมาย ใช้อำนาจไปในทางมิชอบ The Fugitive: Plan B (2010) | Prepare to endure the single most bone-crushing handshake of your life. | เตรียมเจอกับการเช็คแฮนด์ อันหนักหน่วง ที่สุดในชีวิตคุณได้ The Lies Ill-Concealed (2011) | It will dull his senses and distort his vision. | มันจะหน่วงสัมผัสและบิดเบือนการมองเห็นของเค้า Nightsisters (2011) | You hear a low rumble on the other side of the tree line, followed by a shrill screech and the beating of heavy wings against the sky. | พวกคุณได้ยินเสียงดังก้อง จากอีกฟากหนึ่งของแนวต้นไม้ ตามมาด้วยเสียงแหลมสูง และเสียงกระพือปีกที่หนักหน่วง Advanced Dungeons & Dragons (2011) | This time delay is the tradeoff our brains make to give us the best story of what happened. | หน่วงเวลานี้เป็นข้อดีของสมองของ เราให้ เพื่อให้เรามีเรื่องราวที่ดีที่สุดของสิ่ง ที่เกิดขึ้น Does Time Really Exist? (2011) | Definitely growing his own on the back 40 and smoking all the profits. | เป็นการเติบโตของช่วงวัยทองน่ะ อัดควันหนักหน่วง กำไรชีวิตล้วนๆ How to Win Friends and Influence Monsters (2011) | ♪ I've been looking too hard ♪ | #ฉันเฝ้ามองอย่างหนักหน่วง# Pot O' Gold (2011) | But Patrick's in jail for arson. | แล้วแพททริคก็ถูกจับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว Business as Usual (2011) | As soon as we launch this large-scale offensive, my guess is... | ทันทีที่เราสั่ง \ ภารกิจโจมตีอันหนักหน่วงนี้ ขอเดาว่า Lockout (2012) | No one threw a left hook harder. | ฮุคซ้ายอันหนักหน่วง Deadfall (2012) | When he was at Duke, his future wife Isobel filed a restraining order against him twice. | ตอนเขาอยู่ที่ดุ๊ด ว่าที่ภรรยาเขาอิโซเบล ฟ้องเขาข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวถึง 2 ครั้ง 1912 (2012) | Mr. Shue, look, I know we're a little dramatic sometimes, but I don't think anyone will ever consider taking their own life. | ครูชู ผมว่าพวกเรา บางครั้งก็มีช่วงเวลาที่หนักหน่วง แต่ผมไม่คิดว่า จะมีคนที่จะเอาชีวิตมาแลก On My Way (2012) | If there's anyone here who is not up for trying and working their butts off, you should just get up right now and leave. | หากมีใครในนี้ที่ไม่อยากพยายาม ฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงอีกแล้ว คนๆนั้นควรลุกออกจากห้องนี้ไป Props (2012) | Listen, Neal, you play aggressively, but with grace. | ฟังนะ นีล นายเล่นหนักหน่วง แต่ก็มีลีลา Stealing Home (2012) |
| การกักขังหน่วงเหนี่ยว | [kān kakkhang nūang-nīo] (n, exp) EN: unlawful detention | ความหน่วง | [khwām nūang] (n) EN: retardation ; deceleration | หน่วง | [nūang] (v) EN: detain ; hinder ; hold back ; impede ; hold up ; bog down FR: retenir ; arrêter ; empêcher | หน่วง | [nūang] (v) EN: delay ; pull back ; retard ; slow up FR: retarder ; ralentir | หน่วงเหนี่ยว | [nūang-nīo] (v) EN: hold back ; hold s.o. back | หน่วงเหนี่ยว | [nūang-nīo] (v) EN: delay | หน่วงเวลา | [nūang wēlā] (v, exp) EN: delay ; put off ; postpone FR: retarder | สารหน่วงไฟ | [sān nūang fai] (n, exp) EN: fire-retardant | สิทธิยึดหน่วงทางภาษี | [sitthi yeut nūang] (n, exp) EN: retaining lien ; right of retention | สิทธิยึดหน่วงทางภาษี | [sitthi yeut nūang thāng phāsī] (n, exp) EN: tax lien |
| arduous | (adj) ยากลำบาก, See also: ยากเข็ญ, หนักหน่วง, เหน็ดเหนื่อย, Syn. laborious, hard | brunt | (n) ความหนักหน่วง, See also: ความรุนแรง | delay | (n) ความชักช้า, See also: ความยืดยาด, การหน่วงเหนี่ยว, การเถลไถล, การเสียเวลา, Syn. deferral, pause, postponement, abeyance | detain | (vt) กักขัง, See also: หน่วงเหนี่ยว, กักตัว, เหนี่ยวรั้ง, Syn. retain, hold, confine, Ant. discard, lose | restrainer | (n) ผู้ยับยั้ง, See also: ผู้หน่วงเหนี่ยว, ผู้ควบคุม | restraint | (n) การหน่วงเหนี่ยว, See also: การควบคุม, การหักห้ามใจ, การข่มอารมณ์, Syn. moderation, temperance, self-denial, Ant. slackness, laxity | retard | (vt) ทำให้ช้า, See also: หน่วงเหนี่ยว, Syn. hinder, restrain, slow down | retardant | (adj) ซึ่งหน่วงเหนี่ยวไว้, See also: ซึ่งทำให้ช้า | stint | (n) การจำกัด, See also: การหน่วงเหนี่ยว, การควบคุม, Syn. limitation, restriction, restraint, constraint | tarry | (vi) อ้อยอิ่ง, See also: เถลไถล, โอ้เอ้, ชักช้า, ยืดยาด, ล่าช้า, หน่วงเหนี่ยว, รั้งรอ, ร่ำไร, Syn. delay | temporize | (vi) หน่วงเหนี่ยว, Syn. delay, hedge, stall |
| acoustic memory | หน่วยความจำเชิงเสียงเป็นหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้สายหน่วงเสียง (acoustic delay line) ซึ่งใช้ปรอทหรือ ควอร์ทซ์ (quartz) เป็นสื่อ | defer | (ดีเฟอร์') { deferred, deferring, defers } v. คล้อย, อนุโลม, เชื่อตาม, ทำตาม, ยึดเวลา, หน่วงเหนี่ยว, ผลัดผ่อน, ทำให้ล่าช้า, See also: deferable adj. ดูdefer deference n. ดูdefer | detain | (ดีเทน') vt. กักตัว, หน่วงเหนี่ยว, ทำให้ช้า, ยับยั้ง., See also: detainable adj. detainment n., Syn. keep | dissuade | (ดิสเวด') vt. ชักชวนไม่ให้ทำ, หน่วงเหนี่ยว, ห้ามปราม, ยับยั้ง., See also: dissuadable adj. ดูdissuade dissuader n. ดูdissuade, Syn. discourage, avert, warn, Ant. encourage | dissuasion | (ดิสเว'เชิน) n. การชักชวนไม่ให้ทำ, การหน่วงเหนี่ยว, การห้ามปราม, การยับยั้ง | dissuasive | (ดิสเว'ซิฟว) adj. ซึ่งหน่วงเหนี่ยว, ซึ่งห้ามปราม, ซึ่งยับยั้ง., See also: dissuasiveness n. ดูdissuasive | foe | (โฟ) n. ศัตรู, ข้าศึก, ปรปักษ์, คู่ต่อสู้, ผู้หน่วงเหนี่ยว, ผู้ต่อต้าน, สิ่งที่เป็นภัย | holdout | n. การยึดหน่วง, คนที่ไม่ยอมเข้าร่วมกิจการ | impede | (อิมพีด') vt. ต้าน, ต้านทาน, ขัดขวาง, หน่วงเหนี่ยว., See also: impeder n., Syn. retard | impedient | (อิมพี' เดียนทฺ) adj. ซึ่งต้าน, ซึ่งได้ขวาง, ซึ่งหน่วงเหนี่ยว. -n. สิ่งที่ต้าน, สิ่งที่ขัดขวาง, สิ่งที่หน่วงเหนี่ยว, Syn. impeding | impediment | (อิมเพด' ดะเมินทฺ) n. การต้านทาน, การขัดขวาง, การหน่วงเหนี่ยว, อุปสรรค, การพูดติดอ่าง, ความบกพร่องในการพูด, สิ่งที่ขัดขวางการแต่งงาน (โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางครอบครัว), See also: impedimental, impedimentary adj., Syn. barr | keep | (คีพ) { kept, kept, keeping, keeps } v. เก็บ, สงวนไว้, กักขัง, ป้องกันรักษา, หน่วงเหนี่ยว, ธำรงไว้, ผดุงไว้, กักตัว, ดำเนินกิจการ, ยังคงเป็นอยู่ การรักษาไว้, การสนับสนุน, ตัวตึกที่แข็งแรงที่สุดของปราสาทสมัยกลาง, ส่วนที่แข็งแกร่ง แน่นหนาที่สุด, คุก. -Phr. (forkeeps ด้วยควา | onerous | (ออน'เนอรัส, โอ'เนอรัส) adj. เป็นภาระ, ลำบาก, ยากยิ่ง, หนักหน่วง, See also: onerousness n. | pocket | (พอค'คิท) n. กระเป๋าเสื้อหรือกางเกง, ถุงเล็ก, หลุม, หลุมแร่, หลุมบิลเลียด, โพรง, ช่อง. adj. เล็กจนใส่กระเป๋าได้, ค่อนข้างเล็ก vt. ใส่กระเป๋า, มี, ครอบครอง, ปิดบัง, ห้อมล้อม, แทง (ลูกบิลเลียด) ลงหลุม, อดกลั้น, ข่มความรู้สึก, หน่วงเหนี่ยว -Phr. (in one's pocket ที่มีครอบ | pound | (เพาดฺ) n. ปอนด์ (หน่วยน้ำหนัก) , ปอนด์ vt., n. (การ) ทุบ, ต่อย, ตี, ตำ, บด, กรอกใส่, ยิงกระหน่ำ, เดินด้วยฝีเท้าที่หนักหน่วง. | procrastinate | (โพรแครส'ทิเนท) vi., vt. หน่วงเหนี่ยว, ทำให้ชักช้า, ผลัดวันประกันพรุ่ง, เลื่อน, See also: procrastination n. procrastinative, procrastinatory adj. procrastinator n., Syn. put off | prolong | (พระลอง') vt. ทำให้ยาวออก, ยืดออก, ต่อ, ขยายออก, หน่วงเหนี่ยว., See also: prolongation n. prolonger n. prolongment n., Syn. lengthen | restraint | (รีสเทรนทฺ') n. การยับยั้ง, การหยุดยั้ง, การหักห้าม, การอดกลั้น, การกลั้น, การห้ามปราม, การดึงบังเหียน, การหน่วงเหนี่ยว, วิธีการยังยั้งดังกล่าว, การข่มใจ, Syn. constraint, rein | retard | (รีทาร์ด') vt., vi., n. (การ) ทำให้ช้า, ขัดขวาง, ถ่วง, หน่วง, ทำให้ลดความเร็ว, เป็นอุปสรรค, See also: retardingly adv., Syn. delay, impede | retarded | (รีทาร์'ดิด) adj. ปัญญาอ่อน, ชักช้า, หน่วงเหนี่ยว | soldier | (โซล'เจอะ) n. ทหาร, ทหารประจำการ, ผู้เชี่ยวชาญการทหาร, ผู้รับใช้, มดหรือปลวกที่มีขากรรไกรแข็งแรง, มดทหาร, ปลวกทหาร vi. เป็นทหาร, ทำหน้าที่ทหาร, หน่วงเหนี่ยวงาน | stall | (สทอล) n. คอก, คอกสัตว์, แผงลอย, ที่นั่งยกพื้นของพระในโบสถ์ฝรั่ง, ที่นั่งแถวยาวในโบสถ์หรือโรงละคร, ข้ออ้าง, หน้าม้า, การหน่วงเหนี่ยว vt. ใส่คอก, ทำให้หยุด vi. หยุดกลางคัน, หยุด, ติดขัด, อยู่ในคอก vi., vt. หน่วงเหนี่ยว, ล่อ, ถ่วงเวลา, See also: stalls n. ที่นั่ง | stay | (สเท) vi. อยู่, พักอยู่, คงอยู่, ยืนหยัด. vt. หยุด, ยั้ง, ควบคุม, สกัด, หน่วงเหนี่ยว, คอย, สนับสนุน n. การอยู่, การพักอยู่, การหยุดอยู่, การค้างอยู่, การเลื่อนการพิจารณา, สิ่งค้ำ, เครื่องค้ำ, สิ่งยึด, เครื่องรัดหน้าท้องหญิง, เชือกโยง, เสื้อในรัดรูป, แกงแนง, stays เครื่องวัดลำตัวผู้หญิง | stint | (สทินทฺ) vt., vi., n. (การ) จำกัด, หน่วงเหนี่ยว, หวง, ยุติ, ประหยัด, ตระหนี่, หยุดทำ, ยับยั้ง, ควบคุม, ปริมาณจำกัด, จำนวนจำกัด, งานที่น่าเบื่อ, งานที่กำหนดปริมาณ, การหยุด., See also: stintedly adv. stintedness n. stinter n. stintingly adv. | tarry | (แท'รี) vi., n. (การ) พักแรม, เลือนไป, ล่าช้า, เชื่องช้า, รีรอ, หน่วงเหนี่ยว, คอย vt. คอย adj. เหมือนน้ำมันดิน, ทาด้วยน้ำมันดิน, See also: tarrier n., Syn. linger, remain | temporise | (เทม'พะไรซ) vi. หน่วงเหนี่ยว, เล่นกลอนสด, ดำเนินนโยบายชั่วคราว, รับมือชั่วคราว, ประนีประนอม, See also: temporisation n. temporiszation n. temporiser n. temporiszer n., Syn. filibuster, stall | temporize | (เทม'พะไรซ) vi. หน่วงเหนี่ยว, เล่นกลอนสด, ดำเนินนโยบายชั่วคราว, รับมือชั่วคราว, ประนีประนอม, See also: temporisation n. temporiszation n. temporiser n. temporiszer n., Syn. filibuster, stall |
| detain | (vt) กักขังไว้, หน่วงไว้, กักกัน, รอไว้, ยับยั้ง | detention | (n) การกักกัน, การกักขัง, การหน่วงไว้, การคุมขัง, การยึดทรัพย์ | dissuade | (vt) ยังยั้ง, หน่วงเหนี่ยว, ห้ามปราม, ปราม | dissuasion | (n) การหน่วงเหนี่ยว, การยับยั้ง, การห้ามปราม, การปราม | impede | (vt) กีดกั้น, ขัดขวาง, หน่วงเหนี่ยว, ต้านทาน | procrastinate | (vt) รีรอ, ชักช้า, หน่วงเหนี่ยว, ผัดวันประกันพรุ่ง, เลื่อน | procrastination | (n) การหน่วงเหนี่ยว, การผัดวันประกันพรุ่ง, การเลื่อน | retard | (vt) ถ่วงเวลา, ทำให้ช้า, หน่วงเหนี่ยว, เป็นอุปสรรค | retardation | (n) การถ่วง, การหน่วงเหนี่ยว, ความชักช้า | stay | (vt) ให้ที่พัก, ทำให้หยุด, ระงับ, ยับยั้ง, หน่วงเหนี่ยว, สกัด, คอย | stint | (n) การหน่วงเหนี่ยว, การจำกัด, ปริมาณจำกัด, การควบคุม | stint | (vt) หวง, จำกัด, ทำให้หยุดชะงัก, หน่วงเหนี่ยว |
| damper | (n) กันสะบัด (อุปกรณ์หน่วงแฮนด์รถจักรยานยนต์เมื่อเจอหลุมหรือพื้นต่างระดับ ไม่ให้แฮนด์สะบัดจนเสียการควบคุม และทำให้รถล้มได้) Image: | lien | สิทธิยึดหน่วง | lien | สิทธิ์ยึดหน่วง | lien | (n) สิทธิยึดหน่วง |
| Verzögerung | (n) |die, nur Sg.| ความหน่วง, See also: A. die Beschleunigung | aufhalten | (vt) |hält auf, hielt auf, hat aufgehalten| หยุดยั้ง, รั้ง, ยั้ง, หน่วงเหนี่ยว เช่น Wir können ihn beim Jammern nie aufhalten. พวกเราไม่เคยสามารถยั้งเขาขณะที่เขาบ่นได้เลย, See also: abhalten | Verzögerungszeit | (n) |die, pl. Verzögerungszeiten| เ้วลาหน่วง, เวลาที่ต้องรอ เวลาที่ผ่านไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้น เช่น Im Zuge der Miniaturisierung steigt der Widerstand der Verbindungsleitungen und damit die Verzögerungszeiten der Leitungen. |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |