ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*วิกฤต*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: วิกฤต, -วิกฤต-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
วิกฤต(adj) critical, See also: risky, serious, dangerous, perilous, Syn. วิกฤต, Example: แม้จะอยู่ในวัยแก่เฒ่า เขาก็ยังจดจำรำลึกถึงเหตุการณ์วิกฤตครั้งนั้นได้, Thai Definition: ถึงขั้นอันตราย, ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก
วิกฤต(v) be critical, See also: be risky, Syn. วิกฤติ, Example: สภาพปัญหาเหล่านี้ นับวันจะวิกฤตขึ้นเรื่อยๆ, Thai Definition: ถึงขั้นอันตราย, ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก
วิกฤติ(adj) critical, See also: crucial, serious, Syn. ร้ายแรง, อันตราย, รุนแรง, น่ากลัว, Example: โรคที่กำลังระบาดจนถึงขั้นวิกฤติอยู่ในขณะนี้ คือ วัณโรค ซึ่งต้องการการปราบอย่างเร่งด่วน, Thai Definition: (เวลา หรือเหตุการณ์) ขั้นอันตรายที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก จะไปทางดีหรือทางร้ายก็ได้
วิกฤติ(n) crisis, Example: แม้ว่าประธานาธิบดีจะยอมลาออกไปแล้ว แต่วิกฤติทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียก็ยังคงอยู่, Thai Definition: (เวลา หรือเหตุการณ์) ขั้นอันตรายที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก จะไปทางดีหรือทางร้ายก็ได้
วิกฤติ(v) be critical, See also: be crucial, be serious, Syn. ร้ายแรง, อันตราย, รุนแรง, น่ากลัว, Example: ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจทั่วเอเชียกำลังวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นเมืองไทย เกาหลี หรือญี่ปุ่น ต่างประสบปัญหาค่าเงินตกกันทั้งนั้น, Thai Definition: (เวลา หรือเหตุการณ์) ขั้นอันตรายที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก จะไปทางดีหรือทางร้ายก็ได้
จุดวิกฤติ(n) critical point, Syn. ขั้นวิกฤติ, Example: สิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนไทยถึงจุดวิกฤติภายใต้การครอบงำของรัฐบาล, Count Unit: จุด, Thai Definition: ขั้นอันตรายที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่ออาจเป็นไปในทางดีหรือทางร้ายก็ได้
ภาวะวิกฤติ(n) crisis, Example: การที่ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤติทางด้านการเงินอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในสถาบันการเงิน, Thai Definition: สภาพที่อยู่ในขั้นอันตราย หรือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
วิกฤตการณ์(n) crisis, See also: emergency, Syn. วิกฤติการณ์, Example: ชาวมุสลิมได้รับผลกระทบกระเทือนจากวิกฤตการณ์นี้มากกว่าผู้อื่น, Thai Definition: เหตุการณ์อันวิกฤต
วิกฤติการณ์(n) crisis, See also: pinch, emergency, Syn. วิกฤตการณ์, Example: ช่วงวัยที่จะเกิดวิกฤติการณ์ หรือปัญหายุ่งยากในการปรับตัวได้มากที่สุดได้แก่วัยรุ่น, Thai Definition: เหตุการณ์อันวิกฤติ

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
วิกฤต, วิกฤต-, วิกฤติ, วิกฤติ-(วิกฺริด, วิกฺริดตะ-, วิกฺริด, วิกฺริดติ-) ว. อยู่ในขั้นล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ, มักใช้แก่เวลาหรือเหตุการณ์ เป็น วิกฤติกาล หรือ วิกฤติการณ์, อยู่ในระยะหัวเลี้ยว หัวต่อ เช่น มุมวิกฤติ จุดวิกฤติ.
วิกฤตการณ์, วิกฤติการณ์น. เหตุการณ์อันวิกฤติ เช่น เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมือง.
วิกฤตกาล, วิกฤติกาลน. เวลาอันวิกฤติ เช่น ในวิกฤติกาลข้าวของมีราคาแพงและหาซื้อยาก.
ความเป็นความตายน. เรื่องสำคัญมาก เช่น เรื่องภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจเป็นความเป็นความตายของชาติ.
วิกัตว. วิกฤต.
เศรษฐกิจพอเพียงน. ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเป็นแนวทางการดำรงชีวิตและปฏิบัติตนของประชาชนตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง ไม่ประมาท ไม่โลภ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัว ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้รอดพ้นจากวิกฤติ มีความมั่นคงและยั่งยืนท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ.
หน้าสิ่วหน้าขวานว. อยู่ในระยะอันตรายเพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธหรือมีเหตุการณ์วิกฤตเป็นต้น.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
legitimation crisisวิกฤติแห่งความชอบธรรม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
material, criticalวัสดุวิกฤต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
CPM (critical path method)ซีพีเอ็ม (ระเบียบวิธีวิถีวิกฤต) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
care, critical respiratoryการบริบาลภาวะหายใจวิกฤต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
care, criticalวิกฤตรักษ์, วิกฤตบริบาล [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
criticalวิกฤต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
critical careวิกฤตรักษ์, วิกฤตบริบาล [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
critical materialวัสดุวิกฤต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
critical path method (CPM)ระเบียบวิธีวิถีวิกฤต (ซีพีเอ็ม) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
critical pointจุดวิกฤต [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
critical pressureความดันวิกฤต [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
critical regionบริเวณวิกฤต [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
critical regionบริเวณวิกฤต [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
critical resourceทรัพยากรวิกฤต [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
critical respiratory careการบริบาลภาวะหายใจวิกฤต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
critical sectionส่วนวิกฤต [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
critical temperatureอุณหภูมิวิกฤต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
critical temperatureอุณหภูมิวิกฤต [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
critical velocityความเร็ววิกฤต [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
crisisจุดวิกฤต [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
crisis governmentรัฐบาลยามวิกฤต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
government, crisisรัฐบาลยามวิกฤต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
epicrisis๑. วิกฤตการณ์เสริม๒. การทบทวนวิจารณ์โรค [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
temperature, criticalอุณหภูมิวิกฤต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Critical Path Methodวิธีวิถีวิกฤติ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Hazard analysis and critical control pointระบบวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Supercritical fluid extractionการสกัดด้วยของไหลวิกฤตยิ่งยวด [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Supercritical fluidของไหลวิกฤตยิ่งยวด [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Criticality (Nuclear engineering)ค่าวิกฤต (วิศวกรรมนิวเคลียร์) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Energy crisisวิกฤตการณ์พลังงาน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Debt crisisวิกฤติการณ์ทางหนี้ [เศรษฐศาสตร์]
Economic crisisวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์]
Committed doseปริมาณ (รังสี) ผูกพัน, ปริมาณรังสียังผลจากสารกัมมันตรังสีที่เข้าสู่ร่างกาย บางชนิดจะกระจายไปทั่วร่างกาย บางชนิดจะไปสะสมอยู่ในอวัยวะเฉพาะที่ เรียกว่า อวัยวะวิกฤติ (critical organ) เช่น ไอโอดีนจะสะสมอยู่ที่ต่อมไทรอยด์ รังสีจะมีผลต่อร่างกายจนกว่าสารกัมมันตรังสีนั้นสลายหมดไปหรือถูกขับถ่ายออกจนหมด ปกติจะคำนวณระยะเวลาการรับรังสี 50 ปีสำหรับผู้ใหญ่ และ 70 ปีสำหรับเด็ก มีหน่วยเป็น ซีเวิร์ต [นิวเคลียร์]
Critical massมวลวิกฤต, มวลน้อยที่สุดของวัสดุที่เกิดการแบ่งแยกนิวเคลียสได้ ซึ่งเพียงพอต่อการเกิดและสืบเนื่องของปฏิกิริยาลูกโซ่แบ่งแยกนิวเคลียส (ดู fissionable material ประกอบ) [นิวเคลียร์]
Criticalityภาวะวิกฤต, ภาวะที่ปฏิกิริยาลูกโซ่แบ่งแยกนิวเคลียสสามารถสืบเนื่องอยู่ได้ โดยอัตราการเกิดนิวตรอนจากปฏิกิริยาเท่ากับอัตราการสูญเสียนิวตรอน [นิวเคลียร์]
Supercritical massมวลเหนือวิกฤต, มวลของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ทำให้ตัวประกอบพหุคูณยังผลมีค่ามากกว่า 1 ซึ่งจะทำให้ปฏิกิริยาลูกโซ่แบ่งแยกนิวเคลียสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ (ดู critical mass และ effective multiplication factor ประกอบ), Example: [นิวเคลียร์]
Subcritical massมวลใต้วิกฤต, มวลของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ซึ่งมีปริมาณไม่เพียงพอ หรือการจัดเรียงอยู่ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมต่อการคงไว้ซึ่งปฏิกิริยาลูกโซ่แบ่งแยกนิวเคลียส (ดู critical mass ประกอบ), Example: [นิวเคลียร์]
Prompt criticalityภาวะวิกฤตพรอมต์, สถานะของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ปฏิกิริยาลูกโซ่ของการแบ่งแยกนิวเคลียสสามารถคงอยู่ต่อไปโดยพรอมต์นิวตรอนเท่านั้น, Example: [นิวเคลียร์]
Crisesวิกฤตการณ์ [TU Subject Heading]
Crisis interventionการปรับตัวต่อภาวะวิกฤต [TU Subject Heading]
Crisis managementการบริหารในสภาวะวิกฤติ [TU Subject Heading]
Critical criminologyอาชญาวิทยาวิกฤต [TU Subject Heading]
Critical currentsกระแสวิกฤต [TU Subject Heading]
Critical path analysisการวิเคราะห์สายทางวิกฤติ [TU Subject Heading]
Critical pointจุดวิกฤต [TU Subject Heading]
Critical point theory (Mathematical analysis)ทฤษฎีจุดวิกฤต (การวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์) [TU Subject Heading]
Currency crisesวิกฤตการณ์เงินตรา [TU Subject Heading]
Financial crisesวิกฤตการณ์ทางการเงิน [TU Subject Heading]
Hazard analysis and Critical Control Point (Food safety system)การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม (ระบบความปลอดภัยของอาหาร) [TU Subject Heading]
Iraq-Kuwait Crisis, 1990-1991วิกฤตการณ์อิรัก-คูเวต, ค.ศ.1990-1991 [TU Subject Heading]
Accelerating Economic Recovery in Asiaโครงการเร่งรัดการฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเชีย (สำหรับประเทศไทย) เป็นโครงการที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 6 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศในเอเชีย 3 ประเทศที่ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ คือ สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย และไทย [การทูต]
ASEAN Finance Ministers Meetingการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน จัดขึ้นปีละครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2540 ต่อมาได้มีการจัดการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนกับญี่ปุ่น (AFMM + Japan) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและความช่วยเหลือที่ ญี่ปุ่นให้แก่อาเซียน อาทิ แผนมิยาซาวา ควบคู่กันไปด้วย [การทูต]
ASEAN Finance Minister + 3 (China, Japan and the Republic of Korea) Meetingการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนกับผู้แทนจากจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 ในช่วงการประชุม ประจำปีของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่กรุงมะนิลา และได้ ตกลงในหลักการที่จะจัดเป็นประจำทุกปี เพื่อหารือสถานการณ์การเงินและเศรษฐกิจในภูมิภาค และร่วมมือหามาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขวิกฤตการณ์การเงินในภูมิภาค ผลงานที่สำคัญคือ ข้อตกลงริเริ่มที่เชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) [การทูต]
ASEM Trust Fundกองทุนอาเซม " เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นในธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟูและ การพัฒนา (World Bank) โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอาเซม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในเอเชียที่ประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ " [การทูต]
bold measuresมาตรการเข้มข้น หมายถึง มาตรการพิเศษที่กำหนดโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 เมื่อเดือนธันวาคม 2541 เพื่อส่งเสริมการค้าและการเร่งรัดลงทุนจากต่างประเทศในอาเซียน ในอันที่จะช่วยประเทศในภูมิภาคฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ [การทูต]
East Asia Vision Groupกลุ่มวิสัยทัศน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของประธานาธิบดีคิม แด จุง แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างการประชุมหัวหน้ารัฐบาลอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ที่กรุงฮานอย เมื่อเดือนธันวาคม 2541 เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดและแสวงหาแนวทางขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุก ด้านและทุกระดับเพื่อมุ่งแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและพัฒนาภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Social Safety Netsโครงข่ายรองรับทางสังคม หมายถึง มาตรการในการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแก่ประชาชนเพื่อบรรเทาภาวะวิกฤตต่าง ๆ อาทิ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจน และการส่งเสริมผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เป็นต้น ด้วยการดำเนินนโยบายระยะสั้นในการสร้างงาน การให้การฝึกอบรมวิชาชีพใหม่ และอื่น ๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่องในระยะยาวและการพัฒนา สังคมอย่างรอบด้านในภาพรวม [การทูต]
Addisonian Crisisวิกฤติการณ์ต่อมหมวกไต, วิกฤตจากต่อมหมวกไต, โรคแอ็ดดีสัน [การแพทย์]
Adolescent in Crisisวิกฤตในวัยรุ่น [การแพทย์]
Adrenal Crisisภาวะวิกฤตของต่อมหมวกไต, วิกฤตจากต่อมหมวกไต, วิกฤติการณ์ต่อมหมวกไต [การแพทย์]
Adrenal Crisis, Acuteภาวะวิกฤติของต่อมหมวกไตอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์]
Closure, Criticalการปิดอย่างวิกฤต [การแพทย์]
Crisisระยะวิกฤต [การแพทย์]
Crisis Interventionการปรับตัวต่อภาวะวิกฤต [การแพทย์]
Crisis, Myedemaวิกฤตจากต่อมธัยรอยด์พร่อง [การแพทย์]
Crisis, Psychosocialวิกฤตทางจิตสังคม [การแพทย์]
Criticalวิกฤต, อาจมีอันตราย [การแพทย์]
Critical Angleมุมวิกฤต [การแพทย์]
Critical Careการดูแลขั้นวิกฤติ;ผู้ป่วยหนัก, การดูแล [การแพทย์]
Critical Pathวิถีวิกฤต [การแพทย์]
Critical Periodระยะวิกฤต, เวลาวิกฤต [การแพทย์]
Critical Pointระดับวิกฤต, จุดวิกฤต, จุดวิกฤติ [การแพทย์]
Critical Ratioอัตราส่วนวิกฤต [การแพทย์]

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
จุดวิกฤติ[jut wikrit] (n, exp) EN: critical point
วิกฤต = วิกฤติ[wikrit] (n) EN: crisis  FR: crise [ f ]
วิกฤต = วิกฤติ[wikrit] (n) EN: critical ; precarious ; risky ; serious ; crucial ; dangerous ; perilous  FR: critique ; dangereux
วิกฤตเศรษฐกิจ[wikrit sētthakit] (n, exp) EN: economic crisis  FR: crise économique [ f ]
วิกฤตการณ์[wikrittakān] (n) EN: crisis ; critical period ; emergency  FR: crise [ f ] ; urgence [ f ]
วิกฤตกาล[wikrittakān] (n) EN: crisis
วิกฤตการณ์ด้านพลังงาน[wikrittakān dān phalang-ngān] (n, exp) EN: energy crisis  FR: crise énergétique [ f ]
วิกฤตการณ์ค่าเงิน[wikrittakān khā ngoen] (n, exp) EN: currency crisis  FR: crise monétaire [ f ]
วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ[wikrittakān thāng sētthakit] (n, exp) EN: economic crisis  FR: crise économique [ f ]
วิกฤตทางการเมือง[wikrit thāng kānmeūang] (n, exp) EN: political crisis  FR: crise politique [ f ]
วิกฤตทางพลังงาน[wikrit thāng phalang-ngān] (n, exp) EN: energy crisis  FR: crise énergétique [ f ]
วิกฤตทางเศรษฐกิจ[wikrit thāng sētthakit] (n, exp) EN: economic crisis  FR: crise économique [ f ]
วิกฤติกาล[wikrittikān] (n) EN: critical times  FR: état de crise [ m ] ; état d'urgence [ m ]

English-Thai: Longdo Dictionary
haccp(abbrev) การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม, มาตรฐานการผลิต ที่มีมาตรการป้องกันอันตรายที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร ย่อจาก hazard analysis critical control point
temperature mapping[เทมเพอราเชอร์ แมปปิง] (n) การศึกษาอุณหภูมิโดยการวางเครื่องวัดอุณหภูมิตามจุดวิกฤต

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
broken(adj) แตก, See also: แตกสลาย, แตกหัก, วิกฤต
crisis(n) ช่วงที่มีปัญหาร้ายแรง, See also: ช่วงวิกฤต, Syn. crucial time, decisive time
crunch(n) ภาวะวิกฤต, Syn. crisis, emergency
dilemma(n) สภาวะลำบาก, See also: สถานการณ์ลำบาก, ภาวะวิกฤติ, Syn. problem, crisis, mess
head(n) จุดวิกฤต
in a bad way(idm) ในช่วงวิกฤต, See also: ในช่วงลำบาก, ในช่วงคับขัน
out of the woods(idm) ผ่านจุดวิกฤติไปแล้ว, See also: ไม่เสี่ยงอีกต่อไป
touch-and-go(idm) ไม่แน่นอน, See also: วิกฤติ
ICU(abbr) หน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤต (คำย่อ intensive care unit), See also: หน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยอาการหนัก
imbroglio(n) ภาวะสับสนวุ่นวาย (โดยเฉพาะเมื่อเกิดความไม่เข้าใจกัน), See also: ภาวะวิกฤติ, สถานการณ์ลำบาก, Syn. confusion, crisis, difficulty
turning point(n) จุดวิกฤติ, See also: หัวเลี้ยวหัวต่อ

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
brinkmanshipn. เทคนิคหรือนโยบายการแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นวิกฤติการณ์จนเกือบจะหายนะ
brinksmanshipn. เทคนิคหรือนโยบายการแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นวิกฤติการณ์จนเกือบจะหายนะ
crisis(ไคร'ซิส) n. วิกฤติกาล, เหตุการณ์ฉุกเฉิน, ขั้นฉุกเฉิน, ขั้นที่เป็นตายเท่ากัน, ช่วงเวลาชี้ขาด, ขั้นหัวเลี้ยวหัวต่อ, See also: crisic adj. ดูcrisis --pl. crises -Conf. crises, Syn. turning point, emergency
critical(คริท'ทิเคิล) adj. เกี่ยวกับการวิจารณ์, เกี่ยวกับการวิเคราะห์, ซึ่งติเตียน, เกี่ยวกับความเป็นความตาย, เกี่ยวกับวิกฤติกาล, อันตราย, เกี่ยวกับจุดเปลี่ยนแปลงหรือจุดวิกฤตบนเส้นโค้ง, See also: criticalness n. ดูcritical, Syn. censor
detente(เดทานทฺ') n. ความผ่อนคลายของวิกฤติการณ์ (ความตึงเครียด) ทางการเมืองระหว่างประเทศ
divide(ดิไวดฺ') { divided, dividing, divides } vt., vi. แบ่ง, แบ่งแยก, แตกกิ่งก้านสาขา, หาร n. ทางแยก, การแบ่งสรรปันส่วน, เส้นแบ่งเขต, ภาวะวิกฤติ, Syn. separate, part
grave(เกรฟว) n. สุสาน, หลุมฝังศพ, ป่าช้า, ความตาย adj. ร้ายแรง, รุนแรง, สำคัญ, เอาจริงเอาจัง, ขึงขัง, วิกฤติ, มืดมัว, เศร้าซึม, ครึ้ม, เสียงหนัก n. เสียงหนัก., See also: gravely adv. graveness n.
hotlineโทรศัพท์หรือวิธีสื่อสารกันโดยตรงในกรณีวิกฤติการณ์, ระบบการสื่อสารโดยตรง (มักใช้โทรทัศน์)
juncture(จังคฺ'เชอะ) n. วิกฤติการณ์, จุดเชื่อมต่อจุดประสาน, ชุมทาง, ที่บรรจบ, หัวต่อ, สิ่งเชื่อมต่อ, Syn. union
last-minute(ลาสทฺ'มินนิท) นาทีสุดท้ายในนาทีวิกฤติ, ในระยะเวลาที่สำคัญที่สุด
momentous(โมเมน'เทิส) adj. มีความหมายสำคัญมาก, เกี่ยวกับวิกฤติกาล, ร้ายแรง, เอาจริงเอาจัง, See also: momentousness n., Syn. far-reaching
precipice(เพรส'ซะพิส) n. หน้าผา, เงื้อมผาสถานการณ์ที่อันตราย, วิกฤติการณ์., See also: precipiced adj.
tide(ไทดฺ) n. น้ำขึ้นน้ำลง, กระแสน้ำ, สิ่งที่ขึ้น ๆ ลง ๆ สลับกัน, แนวโน้ม, วิกฤติกาล, ฤดู, เทศกาล, โอกาสที่เหมาะ, ช่วงระยะเวลาหนึ่ง, -Phr. (turn the tide กลับทิศทาง) vi. ไหลตามกระแสน้ำ, ไหลไปไหลมา, ลอยไปตามกระแสน้ำ vt. ทำให้ลอยไปตามกระแสน้ำ, -Phr. (tide over ช่วยให้พ้นความลำบาก
zero hourn. เวลาแห่งการเริ่มโจมตีทางทหาร, เวลาเริ่มต้น, วิกฤติกาล, เวลา 0 นาฬิกา

English-Thai: Nontri Dictionary
crisis(n) วิกฤติกาล, ภาวะฉุกเฉิน, ภาวะล่อแหลม
critical(adj) วิกฤติอันตราย, เกี่ยวกับการวิจารณ์
juncture(n) หัวต่อ, ที่บรรจบ, ชุมทาง, จุดเชื่อมต่อ, วิกฤตกาล
momentous(adj) สำคัญยิ่ง, ร้ายแรง, เกี่ยวกับวิกฤติการณ์
precipice(n) หน้าผา, วิกฤติการณ์
tide(n) เวลาน้ำขึ้นลง, กระแสน้ำ, ฤดูกาล, เทศกาล, วิกฤติการณ์, แนวโน้ม

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Coronavirus Crisis(n) วิกฤติไวรัสโคโรนา

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
乗り切る[のりきる, norikiru] TH: ผ่านพ้นวิกฤต  EN: to get over

German-Thai: Longdo Dictionary
finanziell(adj, adv) ที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น eine finanzielle Krise วิกฤตด้านการเงิน, jmdn. finanziell unterstützen ช่วยเหลือใครบางคนด้านการเงิน

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top