ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: การทหาร, -การทหาร- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ การทหาร | (n) military, See also: armed forces, army, Example: การทหารควรแยกออกจากการเมืองอย่างเด็ดขาด | วงการทหาร | (n) military, Syn. แวดวงทหาร, Example: นายทหารคนนี้กระทำตัวเป็นรอยด่างของวงการทหาร สมควรได้รับการลงโทษ, Count Unit: วงการ, Thai Definition: หน่วยงานและกลุ่มบุคคลที่เป็นทหาร | ทางการทหาร | (n) military, See also: armed forces, army force, Example: คอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญในทางการทหารเพราะอาวุธสมัยใหม่จะมีคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ควบคุมทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ, Thai Definition: ด้านการทหาร | ราชการทหาร | (n) military service, See also: fighting service, Ant. ราชการพลเรือน, Example: การที่ท่านสมัครเข้ารับราชการทหาร หมายความว่าท่านพร้อมแล้วที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อส่วนรวม | เสนาธิการทหาร | (n) Chief of Joint Staff, Example: ท่านนายพลจบจปร.รุ่นเดียวกับเสนาธิการทหารคนปัจจุบัน | เสนาธิการทหารบก | (n) Chief of Staff, RTA, Example: ใครจะไม่กล้าให้เกียรติท่านที่เป็นถึงเสนาธิการทหารบกที่มีทั้งอำนาจและอิทธิพล | ผู้บัญชาการทหารบก | (n) Commander-in-Chief, See also: RTA, Syn. ผบ.ทบ., Example: ผู้บัญชาการทหารบกไปเยี่ยมปลอบขวัญทหารบาดเจ็บ, Count Unit: คน, ท่าน | เสนาธิการทหารเรือ | (n) Chief of Staff, RTN, Example: ท่านขึ้นสู่ตำแหน่งรองเสนาธิการทหารเรือก่อนจะเป็นเสนาธิการทหารเรือในปีถัดมา | กองบัญชาการทหารสูงสุด | (n) the Supreme Command Headquarters, See also: headquarters of supreme commander, Example: กองบัญชาการทหารสูงสุดได้สั่งการให้โจมตีข้าศึกได้ทันที, Count Unit: กอง |
| กองเกิน | น. ผู้ขึ้นทะเบียนรับราชการทหาร แต่ทางการยังไม่เรียกเข้ารับราชการ. | เกณฑ์ทหาร | ก. เรียกบุคคลมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการในยามปรกติ. | ข้าราชการ | บุคคลซึ่งรับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณในกระทรวง ทบวง กรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง ข้าราชการครู ข้าราชการทหาร ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการอัยการ. | ทหารผ่านศึก | น. ทหารหรือบุคคลซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ในราชการทหาร หรือบุคคลซึ่งทำหน้าที่ทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด และได้กระทำหน้าที่นั้นในการสงครามหรือในการรบไม่ว่าภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรหรือในการปราบปรามการจลาจล | นายธง | น. นายทหารเรือคนสนิทของผู้บัญชาการทหารเรือเป็นต้น. | ใบดำ | ใบสลากที่จัดไว้ให้ผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารจับ ถ้าจับได้ใบดำก็ไม่ต้องเป็นทหาร. | ใบแดง | ใบสลากที่จัดไว้ให้ผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารจับ ถ้าจับได้ใบแดงก็ต้องเป็นทหาร | ภาค, ภาค- | (พาก, พากคะ-) น. ส่วน เช่น ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ, ฝ่าย เช่น ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ภาคเหนือ ภาคใต้, บั้น, ตอน, เช่น หนังสือภูมิศาสตร์ภาคต้น หนังสือประวัติศาสตร์ภาคปลาย พงศาวดารภาค ๑, คราว เช่น การศึกษาภาคฤดูร้อน, ส่วนของประเทศที่แบ่งออกเป็นส่วนย่อยเพื่อสะดวกในด้านการปกครอง การศึกษา การทหาร เป็นต้น เช่น เจ้าคณะภาค แม่ทัพภาค. | ยุทโธปกรณ์ | น. วัสดุอุปกรณ์ทั้งปวงและยุทธภัณฑ์ทุกชนิดซึ่งใช้ในราชการทหาร รวมทั้งเครื่องมือยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่สาธารณูปโภคอันจำเป็นเพื่อปฏิบัติการรบหรือเพื่อดำรงและสนับสนุนกิจกรรมทางทหารโดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีความมุ่งหมายทางธุรการหรือทางการรบ. | รัชชูปการ | น. เงินช่วยราชการตามที่กำหนดเรียกเก็บจากชายฉกรรจ์ที่มีอายุตั้งแต่ ๑๘-๖๐ ปีที่มิได้รับราชการทหารหรือได้รับการยกเว้นเป็นรายบุคคล เริ่มในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระราชบัญญัติลักษณะการเก็บเงินรัชชูปการ พุทธศักราช ๒๔๖๒). | ราบ | เรียกทหารเดินเท้า ว่า ทหารราบ, เรียกชายฉกรรจ์ที่อายุครบเข้าประจำการทหาร. | ไล่ทหาร | ก. เข้ารับการคัดเลือกเพื่อรับราชการทหารตามหมายเกณฑ์. | วิทยุสนาม | น. การติดต่อสื่อสารด้วยเครื่องรับส่งวิทยุที่ใช้ในงานสนามหรือในราชการทหาร. | ศาลทหาร | น. ศาลที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่ผู้กระทำผิดเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร เช่น ทหารพลเรือนที่สังกัดอยู่ในราชการทหาร. | ส่วนหน้า | น. เรียกเขตที่มีการรบ ว่า พื้นที่ส่วนหน้า, เรียกส่วนราชการที่แยกออกไปเพื่ออำนวยความสะดวกในการควบคุมบังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติงานพิเศษ เช่น เรียกกองบัญชาการทหารสูงสุด ว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดส่วนหน้า. | สายยงยศ | น. สายที่ข้าราชการทหารหรือตำรวจใช้เพื่อแสดงสถานะ มี ๓ ชนิด ได้แก่ สายยงยศราชองครักษ์ สายยงยศเสนาธิการ และสายยงยศนายทหารคนสนิท. |
| | Military expenditure | รายจ่ายทางการทหาร [เศรษฐศาสตร์] | Nuclear device | นิวเคลียร์ดีไวซ์, วัตถุระเบิดนิวเคลียร์ใช้ในทางสันติ การทดสอบ หรือ การทดลอง คำนี้ใช้เพื่อให้แตกต่างจากอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งมีการบรรจุพร้อมสำหรับการขนส่งหรือใช้ในการทหาร <br>(ดู nuclear weapon ประกอบ)</br>, Example: [นิวเคลียร์] | Combined operations (Military science) | ปฏิบัติการร่วม (การทหาร) [TU Subject Heading] | Command of troops ; Military leadership | ความเป็นผู้นำทางการทหาร [TU Subject Heading] | Low-intensity conflicts (Military science) | ความขัดแย้งแบบลดความรุนแรง (การทหาร) [TU Subject Heading] | Military architerture | สถาปัตยกรรมการทหาร [TU Subject Heading] | Military art and science | การทหาร [TU Subject Heading] | Military education | การศึกษาการทหาร [TU Subject Heading] | Military geography | ภูมิศาสตร์การทหาร [TU Subject Heading] | Military history ; History, Military | ประวัติศาสตร์การทหาร [TU Subject Heading] | Military history, Modern | ประวัติศาสตร์การทหารสมัยใหม่ [TU Subject Heading] | Military planning | การวางแผนการทหาร [TU Subject Heading] | Military policy | นโยบายการทหาร [TU Subject Heading] | Military readiness | ความพร้อมทางการทหาร [TU Subject Heading] | Military service, Voluntary | ราชการทหารอาสาสมัคร [TU Subject Heading] | Military social work | สังคมสงเคราะห์ทางการทหาร [TU Subject Heading] | Military symbols | สัญลักษณ์ทางการทหาร [TU Subject Heading] | Military telecommunication | โทรคมนาคมทางการทหาร [TU Subject Heading] | Military weapons | อาวุธทางการทหาร [TU Subject Heading] | Naval education | การศึกษาวิชาการทหารเรือ [TU Subject Heading] | Surgery, Military | ศัลยกรรมทางการทหาร [TU Subject Heading] | Confidence Building Measures | มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เพื่อลดความหวาดระแวง ลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นใจระหว่างสองฝ่ายหรือหลาย ๆ ฝ่าย อันจะเป็นการส่งเสริมการทูตเชิงป้องกัน ทั้งนี้ CBMs เป็นกระบวนการที่สำคัญในกรอบการประชุม ARF [การทูต] | full dress uniform with sash and decoration without sword | เครื่องแบบเต็มยศ ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด งดคาดกระบี่ (ข้าราชการทหารตำรวจ) [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Joint Commission | คณะกรรมาธิการร่วม " เป็นกลไกความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก JC มีบทบาทในการดูแลและส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสังคม โดยแต่ละฝ่ายจะสลับกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งอาจมีขึ้นปีละครั้งหรือ 2-3 ปีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกของทั้งสองฝ่าย JC อาจมีกลไกย่อยหรือคณะกรรมการภายใต้ JC เพื่อกำกับดูแลเฉพาะเรื่องหรือมีคณะกรรมการในระดับส่วน ภูมิภาค เช่น ไทยกับมาเลเซียมีคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) มีบทบาทในการดูแลความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงบริเวณชายแดน และมีคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนทางบก (Land Boundary Committee - LBC) เพื่อดูแลการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง นอกจากนั้น ยังมีคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee - JTC) ระหว่างไทยกับบางประเทศ เป็นกลไกเพื่อส่งเสริมการค้าและขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน " [การทูต] | North Atlanitc Treaty Organization | องค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | North Atlantic Treaty Organisation | องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2492 เป็นองค์การร่วมมือทางการทหาร มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 19 ประเทศคือ เบลเยี่ยม แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สเปน ตุรกี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา [การทูต] | strategic partnership | หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เป็นลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมอย่างยิ่ง อยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค มีนโยบายและแนวคิดทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการทหารไปในแนวทางเดียวกัน [การทูต] | War Crimes | อาชญากรรมสงคราม ตามกฎบัตรต่อท้ายความตกลงว่าด้วยการพิจารณาลงโทษ อาชญากรสางคามที่สำคัญ ๆ ของฝ่ายอักษะยุโรป (European Axis) การกระทำต่อไปนี้ถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามคือ การละเมิดกฎหมายหรือประเพณีของการสงคราม เช่น การฆ่า การปฏิบัติอันโหดร้าย หรือการขับคนไปทำงานเยี่ยงทาส หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ซึ่งกระทำต่อราษฎรพลเรือนของดินแดนที่ถูกยึดครอง การฆ่าหรือปฏิบัติอย่างโหดร้ายต่อเชลยศึกหรือบุคคลในท้องทะเล การฆ่าตัวประกัน การปล้นสะดมทรัพย์สินสาธารณะหรือส่วนบุคคล การทำลายล้างตัวเมืองหรือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่จำเป็นในแง่การทหาร [การทูต] | Western European Union | องค์การความร่วมมือทางด้านการทหารของประเทศในทวีปยุโรป ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ คือ เบลเยี่ยม เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน ฝรั่งเศส กรีซ ลักเซมเบิร์ก โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2501 [การทูต] |
| We'll put on the greatest military show the world has ever known. | เราจะแสดง ศักยภาพทางการทหาร ให้โลกเห็น The Great Dictator (1940) | First Napaloni must remove his troops. | สิ่งแรกที่ต้องทำ คือจัดการทหารของ เนโพโลนี The Great Dictator (1940) | You, the commanding officer! | คุณที่อยู่ตรงนั้น. คุณผู้ บัญชาการทหาร! How I Won the War (1967) | -So is the future of science, with that rabble-rouser fomenting a senseless military adventure. | อนาคตวิทยาการก็มีภัย เพราะพวกนักปฏิวัติบ้าลัทธิทางการทหาร Beneath the Planet of the Apes (1970) | -Militaristic tripe! -Zira! | วานรคลั่งการทหาร Beneath the Planet of the Apes (1970) | Not as military governors in India. | ไม่ใช่ผู้บัญชาการทหารในอินเดีย Gandhi (1982) | The new military governor of the Northwest Province was on that ship. | ผู้บัญชาการทหารคนใหม่มาในเรือด้วย Gandhi (1982) | I have a priority package from the nat-sat printing room. | [ ดาวเทียมพยากรณ์อากาศ ห้ามใช้ทางการทหาร ] ผมมีเอกสารลับมาส่ง เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมจารกรรม Spies Like Us (1985) | thank you very much. | ผู้บัญชาการทหารอากาศปารากวัย ขอบคุณ Spies Like Us (1985) | Military men always consider the risks first. | การทหารพิจารณาถึงเรื่องอันตรายมาก่อนเป็นอันดับแรก Akira (1988) | It's how a soldier thinks. A scientist wouldn't understand. | มันคือความคิดทางการทหาร นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าใจได้ Akira (1988) | I'm doing my military service in Rome. | ฉันต้องไปรับราชการทหารที่ โรม. Cinema Paradiso (1988) | Nine schools in ten years. My, my. Army brat? | เก้าโรงเรียนในสิบปี \ การทหารเหรอ? 10 Things I Hate About You (1999) | "Our brave and invincible fighting men have delivered a powerful blow | กองบัญชาการทหารรายงานมาว่า... Malèna (2000) | The two whores run from room to room servicing a dozen officers at a time. | คุณโสฯสองคน วิ่งรอกจากห้องนึงไปอีกห้อง ให้บริการทหารครั้งละโหล Malèna (2000) | The T-virus was a major medical breakthrough... although it clearly also possessed highly profitable military applications. | "ที-ไวรัสเป็น วิชาหลักทางการแพทย์... แม้ว่ามันจะแน่ชัดแล้ว อย่างสำคัญใช้ประโยชน์ทางการทหาร Resident Evil (2002) | Anti-military was his thing. | การต่อต้านการทหารเป็นบทบาทของเขา Mr. Monk and the Blackout (2004) | It is the largest single defeat in the history of the American military. | มันคือการยอมจำนนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์การทหารของอเมริกา The Great Raid (2005) | I was a Stanford graduate who'd entered the service through the R. O. T. C. | ผมเป็นบัณฑิตจากแสดนฟอร์ดในขณะนั้น และเข้าสู่วงการทหารโดยเป็นกองหนุน.. The Great Raid (2005) | Military intelligence, launch codes. They'll have access to everything we've got. | สายลับทางการทหาร รหัสปล่อยระเบิด ชอนไชได้ทุกข้อมูล Big Momma's House 2 (2006) | -Get those American soldiers! | - จัดการทหารไอ้กัน! Grave of the Fireflys (2005) | The army needs soldiers in the South too | กองทัพยังต้องการทหารทางใต้ด้วย Grave of the Fireflys (2005) | Even though he has given military authority to Prince Young-Po, the fact that he has given Prince Dae-So the task of understanding the political and military status of foreign lands is an enormously powerful and important task. | ถึงแม้ว่าพระองค์ยังไม่พระราชทาน อำนาจทางการทหารให้กับเจ้าชายยองโพ ความจริงที่ว่าพระองค์ทรงมอบหมายงานให้เจ้าชายแดโซ ทางการเมืองและการทหาร ของต่างเมืองนั่นหมายถึงอำนาจเต็มที่ และเป็นงานที่สำคัญมาก Episode #1.8 (2006) | Air Force One, someone onboard has breached the military network. | แอร์ฟอร์ซวัน , มีคนบนเครื่อง เจาะเข้าข้อมูลทางการทหาร Transformers (2007) | Mitch Wilkinson studied history at Virginia Military Institute. | มิทส์ วินคินสัน เรียนประวัติศาสตร์ วิทยาลัยการทหารเวอร์จิเนีย National Treasure: Book of Secrets (2007) | Olympus is no stranger to military prowess. | มับไม่ใช่เรื่องใหม่ของโอลิมปัส กับการใช้กำลังทางการทหาร Appleseed Ex Machina (2007) | Secretary of Homeland Security. | รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง องค์การทหารผ่านศึก Eagle Eye (2008) | I wanted to do my part in the war effort, but the Navy wasn't interested in a 12 year old recruit. | ผมอยากช่วยงานสงคราม แต่กองทัพเรือไม่ต้องการทหารอายุ 12 100 Million BC (2008) | Every war needs an army. | ทุกสงครามล้วนต้องการทหาร Chapter Ten 'The Eclipse Part 1' (2008) | Jim farrell with the v.A. | จิม ฟาร์เรล จากองค์การทหารผ่านศึก Chapter Eight 'Villains' (2008) | I represent a consortium of global military interests. | ฉันเป็นตัวแทนของหุ้นส่วน ของกลุ่มผลประโยชน์ทางการทหารโลก Resurrection (2008) | *Gunguk Jeongsa: official responsible for all military matters in the country | *กันจัก ชอนซา: รับผิดชอบด้านการทหารทั้งหมดของประเทศ ข้าจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด*. The Kingdom of the Winds (2008) | Not only military matters, but every and all state affairs shall now... be under your command. | ไม่เฉพาะด้านการทหารเท่านั้น แต่รวมถึงทุกๆภาระกิจของประเทศจะอยู่... ภายใต้การนำของท่าน The Kingdom of the Winds (2008) | But... as Chief Grand Marshal, my own will and judgment alone shall... carry the future of this country in my hands. | แต่... . ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข้าต้องตัดสินใจด้วยตัวเองตามลำพัง The Kingdom of the Winds (2008) | I need soldiers, not excuses. | ฉันต้องการทหาร ไม่ใช่คำแก้ตัว 24: Redemption (2008) | COMMANDER: Good. Because we need soldiers, Steven. | ดีแล้วเพราะเราต้องการทหาร, ซีวี่ 24: Redemption (2008) | If you wanna find soldiers for your army... | ถ้านายต้องการทหารเพื่อเข้ากองทัพ 24: Redemption (2008) | But one of the principal justifications you gave for the incursion was the supposed existence of the "headquarters of the entire Communist military operation in South Vietnam," | แต่หลักการหนึ่งในการพิสูจน์ความถูกต้อง ที่ใช้ในการบุกเข้าไป คือการไม่ปรากฎให้เห็นเลยของ กองบัญชาการทหารคอมมิวนิสต์ ในเวียดนามใต้ Frost/Nixon (2008) | a sort of "bamboo Pentagon" which proved not to exist at all. No, no. Wait a minute there. | อย่าง "หน่วยบัญชาการทหารเรือนไม้ไผ่" เข้าไปตรวจสอบแล้วไม่พบเห็นเลย Frost/Nixon (2008) | The Pact of Steel was a military alliance between Benito Mussolini and Adolf Hitler. | สนธิสัญญาเหล็กคือการเป็นพันธมิตรทางการทหาร ระหว่างเบนิโต มุสโสลินีและอด็อล์ฟ ฮิตเลอร์ Doubt (2008) | James McCullen, you Scottish pig, you've been found guilty of treason for the sale of military arms to the enemies of our Lord, King Louis XIII, even whilst you sold arms to our Lord himself. | เจมส์ แม็คคัลเลน, เจ้าสก๊อตโสโครก เจ้ามีความผิดในข้อหากบฏ ที่ขายอาวุธทางการทหาร ให้กับศัตรูของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 G.I. Joe: The Rise of Cobra (2009) | And we will win it as we always have, with a coordinated military strategy. | แล้วเราจะชนะ เช่นทุกครั้ง ด้วยยุทธวิธี ทางการทหาร Transformers: Revenge of the Fallen (2009) | Ed was in the military, so... when he got the chance to settle down... you know, the nice company car, the big house, the even bigger salary... i pushed him to take that job. | เอ๊ดเคยรับราชการทหาร เมื่อเขามีโอกาสที่จะลงหลักปักฐาน รู้มั้ย รถบริษัทหรูๆ Desert Cantos (2009) | The defense consultants? | ที่ปรึกษาด้านการทหาร Day 7: 9:00 p.m.-10:00 p.m. (2009) | That's military. | นั่นมันในวงการทหารนี่ Chuck Versus the Third Dimension (2009) | We had rebreathers, but it would be clanky, it would be noisy. | เรามีกล้องถ่ายรูป โดยใช้ความร้อน สำหรับทางการทหาร ที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้นำออกนอกประเทศ The Cove (2009) | And military help. | และให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ข้า Assassin's Creed: Lineage (2009) | Mexican-born dad works for the military and mom's a Korean. | พ่อเขาเป็นเม็กซิกันที่ทำงานให้การทหาร แม่ของเขาเป็นคนเกาหลี The Case of Itaewon Homicide (2009) | He can resist when he discover that you want to use the military. | เขาอาจจะคัดค้านเมื่อเขาพบว่าท่านต้องการใช้เพื่อการทหาร Astro Boy (2009) | As manufacturing capacity expanded for military/industrial use | มันถูกนำมาใช้ในงานอุสาหกรรมและการทหาร Surrogates (2009) |
| อัยการทหาร | [aiyakān thahān] (n, exp) EN: judge advocate. | กองบัญชาการทหารสูงสุด | [køngbanchākan thahān sūngsut] (n, exp) EN: the Supreme Command Headquarters ; headquarters of supreme commander FR: grand quartier général [ m ] | กองบัญชาการทหารไทย | [Køngbanchākan Thahān Thai] (org) EN: Royal Thai Armed Forces Headquarters (RTARF HQ) | เผด็จการทหาร | [phadetkān thahān] (n, exp) EN: military dictatorship | ผู้บัญชาการทหาร | [phūbanchākān thahān] (n, exp) EN: commander in chief [ m ] | ผู้บัญชาการทหารอากาศ | [phūbanchākān thahān akāt] (n, exp) FR: commandant de l'armée de l'air [ m ] | ผู้บัญชาการทหารบก | [phūbanchākān thahān bok] (n, exp) EN: Commander-in-Chief ; RTA | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | [phūbanchākān thahān sūngsut] (n, exp) EN: supreme commander FR: chef suprême des armées [ m ] | รับราชการทหาร | [raprātchakān thahān] (v, exp) FR: faire son service (militaire) | ราชการทหาร | [rātchakān thahān] (n, exp) EN: military service | เสนาธิการทหาร | [sēnāthikān thahān] (n, exp) EN: Chief of Joint Staff | เสนาธิการทหารบก | [sēnāthikān thahān bok] (n, exp) EN: Chief of Staff ; RTA | เสนาธิการทหารเรือ | [sēnāthikān thahān reūa] (n, exp) EN: Chief of Staff, RTN | ทางการทหาร | [thāng kān thahān] (x) EN: military ; armed forces ; army force | วงการทหาร | [wongkān thahān] (n, exp) EN: military |
| conventional warfare | (phrase) การยุทธตามรูปแบบ, การทำสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการทหาร ซึ่งแต่ละชนชาติจะเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย |
| commander in chief | (n) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, See also: แม่ทัพ, Syn. commandant, head, administrator, chief, leader, captain, dictator, ruler, skipper | counterinsurgency | (n) การกระทำทางการทหารหรือการเมืองที่ใช้ต่อต้านการกบฏ | flagship | (n) เรือสำคัญที่มีผู้บัญชาการทหารของกองทัพเรืออยู่ | generalissimo | (n) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, See also: แม่ทัพ, จอมทัพ, Syn. commander in chief | hawk | (n) ผู้สนับสนุนนโยบายทางการทหารเพื่อแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูต, See also: ผู้ใฝ่สงคราม | hawkish | (adj) ซึ่งชอบที่จะใช้นโยบายทางการทหารเข้าแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูต, See also: ซึ่งกระหายสงคราม, Ant. dovish | headquarters | (n) กองบัญชาการ (ทางการทหาร), See also: กองบังคับการ, Syn. base | military service | (n) การรับราชการทหาร, See also: ช่วงเวลาเป็นทหาร | sector | (n) เขตป้องกันในความรับผิดชอบของทหารหน่วยหนึ่งๆ (ทางการทหาร), See also: เขตรับผิดชอบของทหาร, Syn. subdivision, division, area, command | tactics | (n) การทหาร, See also: กลยุทธ์ที่ใช้ในการรบหรือทำสงคราม |
| ada | (เอดา) เป็นชื่อของภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงภาษาหนึ่ง ใช้เป็นภาษามาตรฐานสำหรับงานเขียนโปรแกรมของกิจการทหารของสหรัฐมาก่อน ผู้คิดภาษานี้ตั้งชื่อว่า Ada เพื่อเป็นเกียรติแก่ Lady Ada Augusta Lovelace ซึ่งเป็นชื่อสตรีผู้คิดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นคนแรกในโลก ในช่วงคริสศตวรรษ 1800 | ahq | abbr. Air Headquarters กองบัญชาการทหารอากาศ, Army Headquarters กองบัญชาการทหารเรือ | arpanet | (อาร์ปาเน็ต) ARPA นั้นย่อมาจาก Advanced Research Project Agency เป็นชื่อหน่วยงานที่ทำการวิจัยและทดลองเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วประเทศของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่เชื่อมโยงสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพทางการทหารให้แก่กระทรวงกลาโหม ปัจจุบัน เครือข่ายอาร์ปาเน็ต ได้ไปผนวกเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย เป็นเครือข่ายรวมใหญ่ในชื่อว่า "อินเตอร์เน็ต" (Internet) | asc | abbr. Air Service Command หน่วยพลาธิการกองบินทหารบก. Army Service Corps กองพลาธิการทหารบก | commander in chief | (-อินชีฟ) n. ผู้บัญชาการทหารสุงสุด, จอมทัพ, แม่ทัพ, ประธานาธิบดี -pl. (commanders in chief) | conchy | (คอง'ชี) n. การไม่ยอมเข้ารับราชการทหาร | darpanet | (ดาร์พาเน็ต) ย่อมาจาก Defense Advanced Research Projects Agency Network (แปลว่า เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหม) เป็นชื่อหน่วยงานที่เป็นเครือข่ายสำนักงานที่ทำโครงการวิจัยขั้นสูงทั่วประเทศของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่เชื่อมโยงสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพทางการทหารให้แก่กระทรวงกลาโหม ปัจจุบันเครือข่ายดาร์ปาเน็ต ได้ไปผนวกเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย เป็นเครือข่ายรวมใหญ่ในชื่อว่า "อินเตอร์เน็ต" (internet) ดู internet ประกอบ | generalissimo | n. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | militia | (มิลิช'ชะ) n. กลุ่มทหารกองหนุน, ชายที่มีอยู่ในระหว่างที่เข้าประจำการทหารได้, กลุ่มทหารพลเรือน (ต่างจากทหารอาชีพ) | militiaman | (มิลิช'ชะเมิน) n. ทหารกองหนุน, ทหารพลเรือน, ชายที่มีอายุอยู่ในระหว่างที่เข้าประจำการทหารได้ pl. militiamen | paramilitary | adj. เกี่ยวกับหน่วยเสริมการทหาร | proconsul | (โพรคอน'เซิล) n. ข้าหลวงหรือผู้บัญชาการทหารของมณฑลหรือจังหวัด, ผู้ปกครองอาณาเขตที่ถูกยึดครอง., See also: proconsular adj. | soldier | (โซล'เจอะ) n. ทหาร, ทหารประจำการ, ผู้เชี่ยวชาญการทหาร, ผู้รับใช้, มดหรือปลวกที่มีขากรรไกรแข็งแรง, มดทหาร, ปลวกทหาร vi. เป็นทหาร, ทำหน้าที่ทหาร, หน่วงเหนี่ยวงาน | tactician | (แทคทิช'เชิน) n. นักกลยุทธ, นักการทหาร, นักวางยุทธวิธี | tactics | (แทค'ทิคซฺ) n. ยุทธวิธี, กลยุทธ, การทหาร, Syn. maneuvers, strategy |
| | atlanticist | (n) ผู้นิยมแนวคิดที่สนับสนุนการให้ความร่วมมือกันในทางการเมือง, เศรษฐกิจ, และการทหาร ระหว่างประเทศในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ, See also: Atlanticism | Central Military Commission | (org) คณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง | First Sea Lord | (n) สมุหราชนาวี (ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือสหราชอาณาจักร) | hegemony | มุขยภาพ คืออำนาจครอบงำทางการเมือง, เศรษฐกิจ และการทหารของรัฐหนึ่งเหนือรัฐอื่น | hitch | (n) ช่วงเวลาที่รับราชการทหาร | RTA Commander-in-Chief | (n) ผู้บัญชาการทหารบก | Second Sea Lord | (jargon) รองสมุหราชนาวี (ตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารเรือสหราชอาณาจักร) |
| 指揮幕僚課程 | [しきばくりょうかてい, shikibakuryoukatei] (n) หลักสูตรเสนาธิการทหาร |
| 総督 | [そうとく, soutoku] TH: ผู้บัญชาการทหารสูงสุด EN: governor-general |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |