ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ปล้อง, -ปล้อง- |
ปล้อง | (n) section, See also: internode, segment, Syn. ข้อ, บ้อง, Example: คนเล่นว่าวจะนิยมเสาะหาไม้ไผ่สีสุกที่มีปล้องยาวเรียวเรียกว่า เพชรไม้ มาเหลาทำโครงอันกลาง, Count Unit: ปล้อง, Thai Definition: ช่วงระยะระหว่างข้อของไม้ไผ่หรืออ้อย เป็นต้น, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น | ทะลุกลางปล้อง | (v) cut in, See also: interrupt, be saucy, Syn. ทะลึ่ง, ทะลึ่งบ้อง, พูดโพล่ง, พูดสอด, Example: เจ้าของบ้านทะลุกลางปล้องขึ้นมาขัดจังหวะ, Thai Definition: พูดสอดขึ้นมาในเวลาที่เขากำลังพูดกันอยู่, Notes: (สำนวน) |
|
| ก้นปล่อง | น. ชื่อยุงในสกุล Anopheles วงศ์ Culicidae ที่พบทั่วไป เช่น ชนิด A. dirus Peyton & Harrison, A. minimusTheobald, A. maculatus Theobald ยุงเหล่านี้เวลาเกาะหรือดูดเลือดคนหรือสัตว์ หัวจะปักลง ก้นชี้ขึ้น ผนังด้านล่างของส่วนท้องไม่มีเกล็ด ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีรยางค์ปากยื่นยาวออกมา ๑ คู่ ทำให้เหมือนกับมีปากเป็นสามแฉก เพศเมียดูดเลือดและบางชนิดเป็นพาหะในการนำโรคมาสู่คนและสัตว์ เช่น ไข้มาลาเรีย เพศผู้กินนํ้าหรือนํ้าหวานจากเกสรดอกไม้. | ก้านปล้อง | ดู สามเหลี่ยม ๒. | กุ้งปล้อง | ดู แสม ๔. | ขังปล้อง | ว. ลักษณะกระบอกที่ตัดให้มีข้อติดอยู่ทั้ง ๒ ข้าง โดยฝานข้าง ๆ ทั้ง ๒ ข้างให้เป็นขาแล้วผ่าตลอดด้านหนึ่ง เพื่อทำเป็นตะขาบเป็นต้น. | เฉาะปล่อง | ก. ทำให้เป็นช่องไป. | ตกล่องปล่องชิ้น | ก. ตัดสินใจที่จะร่วมมือหรือร่วมชีวิตด้วย. | ทะลุกลางปล้อง | ก. พูดสอดขึ้นมาในเวลาที่เขากำลังพูดกันอยู่. | นกอยู่ในปล่อง | น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อาศเลษา มี ๕ ดวง, ดาวเรือน หรือ ดาวอสิเลสะ ก็เรียก. | ปล่อง | (ปฺล่อง) น. ช่องหรือรูที่ทะลุขึ้นจากพื้นดิน เช่น ปล่องงู ปล่องหนู, สิ่งที่เป็นช่องกลวงคล้ายท่อตั้งตรงขึ้นไปสำหรับควันขึ้นหรือรับลม, ช่องที่ทะลุขึ้นจากถํ้า. | ปล้อง ๑ | (ปฺล้อง) น. ช่วงระยะระหว่างข้อของไม้ไผ่หรืออ้อย ฯลฯ, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น คอปล้อง คือ คอที่มีริ้วรอยเห็นเป็นปล้อง ๆ. | ปล้องไฉน | น. ส่วนหนึ่งของพระเจดีย์ต่อบัวกลุ่มขึ้นไป. | ปล้อง ๒ | (ปฺล้อง) น. ชื่อหญ้าชนิด Hymenachne amplexicaule (Rudge) Nees ในวงศ์ Gramineae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ต้นเป็นข้อ ๆ มีไส้ในระหว่างข้อเป็นปุยขาว. | ปล้อง ๒ | มะเดื่อปล้อง. (ดู มะเดื่อ). | ปล้องขน | น. หญ้าปล้องขน. (ดู ขน ๓). | ปล้องฉนวน | น. ชื่องูขนาดกลางหลายชนิด ในวงศ์ Colubridae ลำตัวเล็กเรียว ยาว ๔๐-๑๑๐ เซนติเมตร มักมีลายเป็นปล้องสีนํ้าตาลหรือดำสลับขาว หากินตามพื้นดินในเวลากลางคืน กินสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น จิ้งจก กิ้งก่า เป็นงูไม่มีพิษ มีหลายชนิด เช่น ปล้องฉนวนหลังเหลือง [ Lycodon laoensis (Günther) ] ปล้องฉนวนบ้าน ( L. subcinctus Boie) ปล้องฉนวนอินเดีย [ Dryocalamus davisonii (Blandford) ]. | ปล้องทอง | น. ชื่องูขนาดกลางชนิด Boiga dendrophila (Boie) ในวงศ์ Colubridae ตัวโต ยาวประมาณ ๑.๗ เมตร สีดำตลอดตัวมีลายสีเหลืองพาดขวางเป็นปล้อง ๆ อาศัยตามป่าโกงกางทางภาคใต้ของประเทศไทย หากินตามพื้นดินและบนต้นไม้ กินนก หนู ตุ๊กแก มีพิษอ่อน. | ปล้องอ้อย | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด Acanthopthalmus kuhlii (Valenciennes) ในวงศ์ Cobitidae ลำตัวยาว แบนข้าง ท้องมน คอดหางกว้าง หัวเล็กปลายทู่ ปากเล็กอยู่ตํ่า ตาเล็ก มีกระดูกเป็นหนามอยู่ใต้ตา เกล็ดเล็กมาก ครีบหลังและครีบก้นอยู่ค่อนไปทางหาง พื้นลำตัวสีเหลืองอ่อนหรือส้ม มีแถบกว้างสีดำหรือนํ้าตาลเข้มพาดขวางเป็นปล้อง ๆ โดยตลอด พบอาศัยอยู่ตามพื้นท้องนํ้าที่เป็นกรวดเป็นทรายตามลำธารเขตภูเขา เคลื่อนไหวรวดเร็วคล้ายงูเลื้อย กินสาหร่ายและเศษซาก ขนาดยาวเพียงไม่เกิน ๘ เซนติเมตร. | หญ้าถอดปล้อง | น. ชื่อพืชไร้ดอกชนิด Equisetum debile Roxb. ex Vaucher ในวงศ์ Equisetaceae ลำต้นเป็นปล้อง ๆ ใบเป็นเกล็ดเล็กเรียงรอบข้อ มักขึ้นตามริมน้ำหรือที่ชื้นแฉะ ใช้ทำยาได้. | เหลืองปล้องหม้อ | ดู หางเหลือง. | กรรเชียงปู | (กัน-) น. เรียกขาคู่สุดท้ายของปูในวงศ์ Portunidae เช่น ปูม้า ปูทะเล ซึ่งปล้องปลายมีลักษณะแบนคล้ายใบพาย, กระเชียงปู ก็เรียก. | กระบูนเลือด | น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง หัวและต้นดั่งขมิ้นอ้อย ต้นและใบเขียว หัวขนาดหัวเผือก กลมเกลี้ยงเป็นมัน มีปล้องห่าง ๆ เนื้อขาว ฉุนร้อน ถ้าเคี้ยวจะทำให้ฟันโยก เชื่อกันว่าใช้ฝนกับนํ้าปูนใสหรือต้มเสียก่อนก็ได้ กินแก้ดานเลือด ดานลม และกระชับมดลูกให้แห้งสนิท. | กระแพ้ง | น. ไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดำ ๆ กลิ่นเหม็น, กำแพ้ง ก็ว่า. | กระสุนพระอินทร์ | น. ชื่อกิ้งกือในสกุล Sphaerotherium วงศ์ Sphaerotheriidae ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร หัวแบนเล็ก ลำตัวโค้งนูน มี ๑๓ ปล้อง ผิวลำตัวเรียบมัน ด้านหลังสีน้ำตาล ดำ ครีม หรือเขียว เมื่อถูกกระทบจะม้วนเข้าสอดกับปล้องสุดท้ายจนกลมคล้ายลูกกระสุนดินปั้น พบชุกชุมช่วงต้นฤดูฝนตามพื้นที่สูงที่มีใบไม้ทับถมและชุ่มชื้น, ปักษ์ใต้เรียก มวนชิด. | กั้ง ๑ | น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Stomatopoda มีหลายวงศ์ ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์ Squillidae หายใจด้วยเหงือก ลำตัวแบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๕ แต่ไม่ถึงปล้องที่ ๘ กรีมีลักษณะแบนราบ มี ๖ ขา, กั้งตั๊กแตน ก็เรียก. | ก้ามปูหลุด | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Tradescantia zebrina Hort ex Bosse ในวงศ์ Commelinaceae ลำต้นเรียว และเป็นปล้อง ๆ เลื้อยไปตามดิน ใบสีเขียวหม่น ใบด้านบนมีแถบสีเทาคาดตามยาว ด้านล่างสีม่วงแดง ดอกสีชมพู. | กำปั่น ๑ | น. เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง หัวเรือเรียวแหลม ท้ายเรือมนและราบในระดับเดียวกับหัวเรือ, ถ้ามีเสายาวยื่นออกไปสำหรับผูกสายใบ มีเสากระโดง ๓ เสา มีใบ เรียกว่า กำปั่นใบ, ถ้าเสากระโดงตรงกลางไม่มี มีปล่องไฟโดยใช้เดินด้วยกำลังเครื่องจักรไอนํ้า เรียกว่า กำปั่นไฟ. | กำแพ้ง | น. ไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดำ ๆ กลิ่นเหม็น, กระแพ้ง ก็ว่า. | กิ้งกือ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้อง ชั้น Diplopodae มีเปลือกตัวแข็ง ลำตัวกลมยาวแบ่งเป็นปล้อง ไม่แบ่งอกหรือท้องให้เห็น ปล้องตามลำตัวจับกันเป็นคู่ตามยาวยืดหดเข้าหากันได้ ทำให้สามารถขดตัวเป็นวงกลมได้เมื่อถูกรบกวน ปล้องแต่ละคู่จะมีขา ๒ คู่ ยกเว้นปล้องแรกไม่มีขา ปล้องที่ ๒ ถึง ๔ มีขาเพียงคู่เดียว จำนวนขาอาจมีได้ถึง ๒๔๐ คู่ ชนิดตัวโตที่พบบ่อย อยู่ในสกุล Thyropygusเช่น กิ้งกือกระบอก ชนิด T. allevatus (Karsch) วงศ์ Harpagophoridae ส่วนตัวขนาดย่อมอยู่ในสกุล Nepalmatoiulasวงศ์ Julidae. | กุ้ง ๑ | น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Decapoda มีหลายวงศ์ หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๘ ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามและขาอยู่ที่ส่วนหัวและอก มี ๑๐ ขา พบในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม มีหลายชนิด เช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามเกลี้ยง กุ้งกุลาดำ กุ้งตะกาด กุ้งตะเข็บ กุ้งหัวแข็ง กุ้งแชบ๊วย. | กุ้งเต้น ๒ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้องหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Talitridae และ Hyalidae ลักษณะคล้ายกุ้งลำตัวขนาดเล็ก ยาว ๐.๕-๑๕.๐ มิลลิเมตร ตัวแบนทางข้าง หัวไม่มีปลอก อกปล้องแรกรวมกับหัว อกที่เหลือมี ๗ ปล้อง ท้องมี ๖ ปล้อง รยางค์ ๒ คู่แรกอยู่ติดกับหัว ใหญ่กว่าคู่อื่น บางคู่ปลายคล้ายก้ามหนีบ รยางค์ที่อกถัดมามี ๕ คู่ รยางค์ท้องมี ๖ คู่ ๓ คู่สุดท้ายสั้นแข็งใช้สำหรับดีด จึงดีดได้เก่ง อาศัยอยู่ตามฝั่งนํ้าหรือที่ชื้นแฉะ ที่พบบ่อยตามชายทะเลฝั่งตะวันออกของไทย เช่น ชนิด Orchestia floresianaWeber . | กุลาลาย | น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Penaeus semisulcatus De Haan ในวงศ์ Penaeidae รูปร่างและขนาดคล้ายกุ้งกุลาดำ ลำตัวสีน้ำตาลอมแดง แต่มีลายน้อยกว่ากุ้งกุลาดำ หนวดมีลายสลับเป็นปล้อง. | แกลบ ๒ | (แกฺลบ) น. ชื่อแมลงหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ อันดับ Blattodea ลักษณะคล้ายแมลงสาบ แต่มีขนาดเล็กกว่า คือ ยาว ๑.๐-๒.๕ เซนติเมตร ลำตัวแบน รูปไข่ ขอบหน้าด้านหลังของปล้องอกยื่นออกไปคลุมหัว หนวดยาว ขายาวปกคลุมด้วยหนาม บางชนิดอาศัยอยู่ตามขี้เลื่อย หรือกองแกลบที่ผุพัง เช่น ชนิด Pycnoscelus surinamensis (Linn.) ในวงศ์ Blaberidae บางชนิดอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ตามกองกระดาษหรือเศษขยะมูลฝอย เช่น ชนิด Blattella germanica (Linn.), Supella supellectilium (Serville) ในวงศ์ Blattellidae. | ขน ๓ | น. ชื่อหญ้าชนิด Brachiaria mutica (Forssk.) Stapf ในวงศ์ Gramineae ขึ้นในที่ชื้นและชายนํ้า ข้อ กาบใบ และใบมีขน ใช้เป็นอาหารสัตว์, ปล้องขน ก็เรียก. | ข้อ | น. ส่วนที่อยู่ระหว่างปล้องของไม้ไผ่หรืออ้อยเป็นต้น, ส่วนตรงที่ของ ๒ สิ่งมาต่อกัน เช่น ข้อต่อท่อประปา | เขี้ยวแก้ว | เขี้ยวของงูพิษ อยู่บริเวณส่วนหน้าของขากรรไกรบน มีขนาดใหญ่และยาว เช่น งูจงอาง งูเห่า งูเขียวหางไหม้, ถ้าอยู่บริเวณท้ายขากรรไกรบน เรียกว่า เขี้ยวแก้วใน หรือ เขี้ยวแก้วใต้ตา เช่น งูปล้องทอง งูเขียวหัวจิ้งจก | ไข้จับสั่น | น. ไข้ที่เกิดเพราะถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด มีอาการหนาวและสั่น, ไข้มาลาเรีย ก็ว่า. | จับสั่น | น. ชื่อไข้ที่เกิดเพราะถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด มีอาการหนาวและสั่น, ไข้จับสั่น หรือ ไข้มาลาเรีย ก็เรียก. | เจ้าฟ้า ๑ | น. ชื่อกั้งขนาดกลางชนิด Acanthosquilla sirindhorn Naiyanetr ในวงศ์ Nannosquillidae ลำตัวค่อนข้างแบนสีเหลืองนวล มีแถบสีดำพาดขวางทุกปล้องตลอดความยาวลำตัวและแพนหาง ด้านบนของหางนูนเป็น ๓ ลอน แต่ละลอนมีหนาม ๔-๖ อัน ขุดรูอยู่ตามหาดทรายปนโคลน. | ชะมด ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Viverridae หน้าแหลม รูปร่างเพรียว สีเทาหรือนํ้าตาล มีลายจุดสีดำตามยาวทั่วตัว หางและขนหางยาว มีลายเป็นปล้อง มีต่อมกลิ่นใกล้อวัยวะเพศ มักหากินในเวลากลางคืน ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ชะมดเช็ด [ Viverricula malaccensis (Gmelin) ] เป็นชนิดที่ใช้นํ้ามันจากต่อมกลิ่นทำเครื่องหอม, ชะมดแผงหางปล้อง ( Viverra zibetha Linn.), ชะมดแผงสันหางดำ ( V. megaspila Blyth), อีสานเรียก เห็นอ้ม. | ซาง ๑ | น. ชื่อไผ่หลายชนิดในสกุล Dendrocalamus วงศ์ Gramineae ชนิดปล้องเล็กยาว เนื้อบาง ใช้เป็นลำกล้องเป่าลูกดอกหรือลูกดินเหนียวปั้นกลมเป็นต้น เรียกว่า ไม้ซาง. | ไซ ๒ | น. ชื่องูน้ำจืดขนาดกลางชนิด Enhydris bocourti Jan ในวงศ์ Colubridae หัวป้อมใหญ่ ปลายปากมน คอไม่คอด ลำตัวอ้วนกลมสีน้ำตาลเหลืองหรือน้ำตาลแดง บนหลังมีลายเป็นปล้องใหญ่ หางสั้น มีพิษอ่อนมาก ผู้ถูกกัดมักไม่มีปฏิกิริยาต่อพิษงูชนิดนี้. | ด้วง ๑ | น. ชื่อแมลงในอันดับ Coleoptera มีปีก ๒ คู่ ลำตัวและปีกคู่หน้าแข็ง เมื่อพับปีกขอบปีกจะจดกันที่กึ่งกลางสันหลัง ปีกคู่หลังเป็นแผ่นใหญ่บางใสพับซ้อนอยู่ใต้ปีกคู่หน้า ปากเป็นชนิดกัดกิน อกปล้องแรกใหญ่และเห็นได้ชัดเจน เช่น ด้วงแรด ในวงศ์ Scarabaeidae ด้วงดิน ในวงศ์ Carabidae ด้วงงวง ในวงศ์ Curculionidae ด้วงบางชนิดมีชื่อเรียกต่างออกไป เช่น กว่าง ค่อม ตด ทับ แมลงพวกนี้มีมากชนิดกว่าแมลงในอันดับอื่น ๆ, แมลงปีกแข็ง ก็เรียก. | ดับเครื่องชน | ก. ยอมสละชีวิตโดยนักบินดับเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่บรรทุกลูกระเบิดเต็มอัตรา และดิ่งลงสู่ปล่องเรือรบของข้าศึก, โดยปริยายหมายถึง สู้อย่างยอมตาย. | ดีด ๒, ดีดขัน ๑ | น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Elateridae ลำตัวยาว แบนเล็กน้อย และเรียวไปทางหาง สีดำ นํ้าตาล หรือเทา บางชนิดมีจุดเป็นลาย แผ่นแข็งด้านล่างของอกปล้องแรกมีแกนยาวเป็นเครื่องดีด ซึ่งยึดโดยร่องของแผ่นแข็งด้านล่างของอกปล้องที่ ๒ ทำให้สามารถดีดตัวกลับได้เมื่อถูกจับให้หงายท้อง มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น ดีดกะลา คอลั่น ชนิดที่พบบ่อย เช่น ชนิด Agrypnus aegualiaCandèze ลำตัวยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สีดำ. | ต่อ ๑ | น. ชื่อแมลงหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ อันดับ Hymenoptera มีความยาว ๑.๕ เซนติเมตรขึ้นไป มีปีก ๒ คู่ ลักษณะเป็นแผ่นบางใส ปีกคู่หลังเล็กกว่าปีกคู่หน้า ปากเป็นชนิดกัดกิน ช่วงต่อระหว่างปล้องอกกับปล้องท้องคอดกิ่ว เพศเมียมีเหล็กในสำหรับต่อยปล่อยนํ้าพิษทำให้เจ็บปวดอาจถึงตายได้ และสามารถต่อยได้หลายครั้งต่างกับผึ้ง บางชนิดอยู่อย่างลำพัง แต่บางชนิดรวมกลุ่มทำรังอยู่เป็นฝูง ที่สำคัญได้แก่ วงศ์ Vespidae เช่น ต่อหัวเสือ [ Vespa affinis (Linn.) ] ต่อหลุม ( V. mandarinia Smith) นอกจากนี้ยังมีต่อในวงศ์อื่น ๆ เช่น ต่อกาเหว่า หมาร่า ต่อแมงมุม. | ตะกาง | น. เครื่องดักจระเข้อย่างหนึ่ง ใช้เบ็ดตัวเดียวหรือหลายตัวผูกรวมกัน เบ็ดนี้เกี่ยวเหยื่อไว้ ใช้เชือกซึ่งปลายข้างหนึ่งผูกเบ็ดแล้วโยงไว้กับทุ่นซึ่งเป็นปล้องไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ปลายเชือกอีกข้างหนึ่งผูกกับหลักที่อยู่บนบก | ตะขาบ ๑ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้อง ชั้น Chilopoda มีเขี้ยว ๑ คู่ หัวและลำตัวยาวแบนหรือค่อนข้างแบน มีจำนวนปล้องตั้งแต่ ๑๕ ปล้องขึ้นไป แต่ละปล้องมีขา ๑ คู่ไปจนถึงปล้องสุดท้ายหรือเกือบสุดท้าย ขามี ๕-๗ ปล้อง อยู่ด้านข้างของลำตัว บางชนิดมีนํ้าพิษ ทำให้ผู้ถูกกัดเจ็บปวด เช่น ตะขาบไฟ ( Scolopendra morsitansLinn.) ในวงศ์ Scolopendridae ลำตัวยาว ๑๔-๒๐ เซนติเมตร สีน้ำตาลแดง, กระแอบ หรือ จะขาบ ก็เรียก. | ตะขาบ ๓ | น. เครื่องตีให้เกิดเสียง, ไม้ไผ่ที่ผ่าขังปล้องแขวนไว้ตามยอดไม้สำหรับชักให้มีเสียงดังเพื่อไล่ค้างคาวเป็นต้น และที่พวกตลกลิเกละครเป็นต้นใช้ตีกันเล่น, จะขาบ ก็เรียก | ตะเข้ขบฟัน | น. โฉลกสำหรับนับตาแต่ละปล้องของไม้ตะพดที่ทำด้วยไม้ไผ่. | ตะเข็บ ๑ | น. ชื่อสัตว์พวกเดียวกับกิ้งกือ แต่เรียกแยกโดยถือเอาพวกที่มีขนาดเล็ก เช่น ยาวน้อยกว่า ๕-๖ เซนติเมตร ลำตัวเล็ก มีจำนวนปล้อง ๓๑-๑๗๓ ปล้อง แต่ละปล้องมีขา ๒ คู่ และขายาวกว่าปล้องลำตัวมาก ที่แพร่หลาย เช่น สกุล Orthomorpha ในวงศ์ Paradoxsomatidae ไม่มีตา, จะเข็บ หรือ ขี้เข็บ ก็เรียก. |
| | Arthropod venoms | พิษสัตว์ขาปล้อง [TU Subject Heading] | Arthropoda, Poisonous | สัตว์ขาปล้องมีพิษ [TU Subject Heading] | Clinacanthus nutans | พญาปล้องทอง [TU Subject Heading] | Anal Segment | ปล้องสุดท้ายของท้อง [การแพทย์] | Boiga Dendrophila Melanota | งูปล้องทอง [การแพทย์] | Calliophis | งูปล้องหวาย [การแพทย์] | Calliophis Gracilis | งูปล้องหวายเทา [การแพทย์] | Calliophis Hughi | งูปล้องหวายหางแหวน [การแพทย์] | Calliophis Macclellandii Macclettandii | งูปล้องหวายข้อดำ [การแพทย์] | Calliophis Maculiceps Maculiceps | งูปล้องหวายแดง [การแพทย์] | Calliophis Maculiceps Malcomi | งูปล้องหวายหลังเส้น [การแพทย์] | Clubbling | ลักษณะเป็นปล้องโต [การแพทย์] | Equisetum | หญ้าถอดปล้อง [การแพทย์] | Filaments | หอก, เส้นเล็กๆ, เส้นไย, ฟีลาเมนฑ์, ปล้องสั้นๆ, สายใยละเอียด, สายใย, ผอมบางและยาว, การแตกแขนงสายใย, เส้นสาย, เป็นสาย, เส้น [การแพทย์] | Filiform Type | ประกอบด้วยปล้องเล็กๆหลายปล้อง [การแพทย์] | setae | เดือย, อวัยวะไส้เดือน มีลักษณะคล้ายเส้นขนเล็ก ๆ อยู่ตอนกลางและรอบ ๆ ปล้องของไส้เดือนเกือบทุกปล้อง ทำหน้าที่ยึดดินขณะเคลื่อนที่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | dicotyledon [ dicot ] | พืชใบเลี้ยงคู่, พืชที่มีใบเลี้ยง 2 ใบในระยะเอ็มบริโอ เป็นพืชที่มีลำต้นไม่เป็นปล้อง เส้นใบเป็นร่างแห กลุ่มท่อลำเลียงเป็นระเบียบ มีระบบรากแก้ว เช่น ถั่ว มะขาม มะม่วง เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | monocotyledon [ monocot ] | พืชใบเลี้ยงเดี่ยว, พืชที่มีใบเลี้ยง 1 ใบในระยะเอ็มบริโอ เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นปล้อง เส้นใบขนานกัน กลุ่มท่อลำเลียงกระจายอยู่ทั่วไป และไม่มีระบบรากแก้ว เช่น หญ้า กล้วย อ้อย เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | arthropod | อาร์โทรพอด, สัตว์ในไฟลัมอาร์โทรโพดา ลำตัวเป็นปล้อง ทั้งขาและหนวดมีลักษณะต่อกันเป็นข้อ เช่น แมลงทุกชนิด เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | equisetum | หญ้าถอดปล้อง, พืชพวกหนึ่งในไฟลัมเทอโรไฟตา เรียกทั่วไปว่า หญ้าถอดปล้อง หรือ หญ้าหางม้า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | annelid | แอนเนลิด, สัตว์ในไฟลัมแอนเนลิดา มีลำตัวกลมยาวเป็นปล้องคล้ายวงแหวนต่อกันทั้งภายนอกและภายใน เช่น แม่เพรียง ไส้เดือนดิน ปลิง เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | centipede | เซนติปิด, สัตว์พวกหนึ่งในไฟลัมอาร์โทรโพดา ลำตัวเป็นปล้อง มีขาปล้องละ 1 คู่ เช่น ตะขาบ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | millipede | มิลลิปิด, สัตว์พวกหนึ่งในไฟลัมอาร์โทรโพดา ลำตัวกลมยาวเป็นปล้อง มีขาปล้องละ 2 คู่ เช่น กิ้งกือ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | mollusk | มอลลัสก์, สัตว์ในไฟลัมมอลลัสกา มีลำตัวอ่อนนิ่ม ไม่มีข้อปล้อง รูปร่างค่อนข้างสั้น มีกล้ามเนื้อด้านหน้าท้องทำหน้าที่เป็นขาเดิน เช่น หอยต่าง ๆ หมึก เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Horse Tail | หญ้าถอดปล้อง [การแพทย์] | Hydrophis Fasciatus Artriceps | งูแสมรังปล้อง [การแพทย์] | Juncus Effusus L | หญ้าปล้องจีน [การแพทย์] | Lumbar Vertebrae | กระดูกสันหลังส่วนเอว, ไขสันหลังตอนเอว, กระดูกสันหลังตอนเอว, กระดูกสันหลัง, เอว, ปล้องกระดูกสันหลังบั้นเอว, กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว, กระดูกสันหลังบั้นเอว [การแพทย์] | Lumbarization | ปล้องกระดูกเอวเกิน [การแพทย์] | Mangrove Snake | งูปล้องทอง [การแพทย์] | Membranes, Intersegmental | เยื่อเชื่อมปล้อง [การแพทย์] | Mesothorax | ทรวงอกกลาง, อกปล้องที่สอง, มีโซทอแรกซ์ [การแพทย์] |
| | ชะมดแผงหางปล้อง | [chamot phaēng hāng plǿng] (n, exp) EN: Large Indian Civet | การกวาดปล่องไฟ | [kān kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramonage [ m ] | คนกวาดปล่องไฟ | [khon kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramoneur [ m ] | กวาดปล่องไฟ | [kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramonert | งูปล้องฉนวนอินเดีย | [ngū plǿngchanūan Indīa] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake | งูปล้องฉนวนลายเหลือง | [ngū plǿngchanūan lāi leūang] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake | งูปล้องฉนวนหลังเหลือง | [ngū plǿngchanūan lang leūang] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake | งูปล้องฉนวนลาว | [ngū plǿngchanūan lāo] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake | งูปล้องฉนวนมลายู | [ngū plǿngchanūan Malāyū] (n, exp) EN: Malayan Bridle Snake | งูปล้องฉนวนป่าต่ำ | [ngū plǿngchanūan pā tam] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake | งูปล้องฉนวนตับจาก | [ngū plǿngchanūan tap jāk] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake | งูปล้องฉนวนตับคา | [ngū plǿngchanūan tap khā] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake | งูปล้องเงิน | [ngū plǿng ngoen] (n, exp) EN: Malayan krait ; Blue krait | งูปล้องอ้อย | [ngū plǿng-øi] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake | งูปล้องทอง | [ngū plǿng thøng] (n, exp) EN: Banded Krait | งูปล้องหวายแดง | [ngū plǿng wāi daēng] (n, exp) EN: Small-spotted Coral Snake ; Speckled Coral Snake | งูปล้องหวายหางวงแหวน | [ngū plǿng wāi hāng wongwaēn] (n, exp) EN: Ring-tailed Coral Snake | งูปล้องหวายหัวดำ | [ngū plǿng wāi hūa dam] (n, exp) EN: Small-spotted Coral Snake ; Speckled Coral Snake | งูปล้องหวายข้อดำ | [ngū plǿng wāi khø dam] (n, exp) EN: McClelland's Coral Snake | งูปล้องหวายลายขวั้นดำ | [ngū plǿng wāi lāi khwan dam] (n, exp) EN: McClelland's Coral Snake | งูปล้องหวายหลังเส้น | [ngū plǿng wāi lang sen] (n, exp) EN: Stripe-backed Coral Snake | งูปล้องหวายเหลือง | [ngū plǿng wāi leūang] (n, exp) EN: Stripe-backed Coral Snake | งูปล้องหวายมลายู | [ngū plǿng wāi Malāyū] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake | งูปล้องหวายเทา | [ngū plǿng wāi thao] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake | งูปล้องหวายเทาจุดดำ | [ngū plǿng wāi thao jut dam] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake | ปากปล่องภูเขาไฟ | [pāk pløng phū khao fai] (n) EN: crater (of a volcano) FR: cratère (de volcan) | ปล่อง | [plǿng] (n) EN: chimney ; funnel FR: cheminée [ f ] ; conduit [ m ] | ปล่อง | [plǿng] (n) EN: vent ; hole ; opening FR: trou [ m ] | ปล้อง | [plǿng] (n) EN: segment ; section ; internode FR: section [ f ] | ปล่องบันได | [plǿng bandai] (n) EN: stairwell FR: cage d'escalier [ f ] | ปล่องไฟ | [plǿng fai] (n, exp) EN: chimney FR: cheminée [ f ] | ปล่องควัน | [plǿng khwan] (n, exp) EN: chimney | ปล้องกระดูกสันหลัง | [plǿng kradūk sanlang] (n, exp) EN: vertebra FR: vertèbre [ f ] | ปล้องไม้ไผ่ | [plǿng māi phai] (n, exp) EN: bamboo internode | ปล่องภูเขาไฟ | [plǿng phūkhaofai] (n, exp) EN: crater FR: cheminée d'un volcan [ f ] | ทะลุกลางปล้อง | [thaluklāngplǿng] (v, exp) EN: interrupt ; cut in ; be saucy ; break into the middle of a conversation impolitely ; chip in FR: interrompre la conversation | ยุงก้นปล่อง | [yung konplǿng] (n, exp) EN: malaria mosquito ; malaria-carrying mosquito ; anopheles mosquito FR: anophèle [ m ] ; moustique vecteur du paludisme [ m ] |
| stonefly | (n, name) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: plecoptera |
| | annelid | (แอน' นะลิด) n. หนอนเป็นปล้อง ๆ ใน phyllum Annelida เช่นไส้เดือน ปลิง, , Syn. annelidan earthworms, leeches | articulate | (อาร์ทิค'คิวเลท) adj. เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัดเจน, สามารถพูดได้, ชัดเจน, มีความหมาย. -vt. ออกเสียงชัดเจน, พูดอย่างชัดเจน, ต่อกัน, ประกบ. -articulability, articulateness, articulacy n., Syn. clear, enunciate, Ant. indistinct, confused | articulation | (อาร์ทิคคิวเล'เชิน) n. การต่อกัน, การเชื่อมประกบ, กระบวนการพูดได้อย่างชัดเจน, ข้อต่อ, ปล้อง, ระดับที่ชัดเจน. -articulatory adj., Syn. joint | cane | (เคน) { caned, caning, canes } n. ก้านไม้สั้น, ไม้เท้า, ไม้เรียว, ไม้จำพวกที่มีต้นยาวเป็นปล้อง, ไม้ตะพด vt. ใช้หวายสาน, ใช้ไม้หวดหรือตี, Syn. stick | joint | (จอยทฺ) { jointed, jointing, joints } n. ข้อต่อ, รอยต่อ, หัวต่อ, เดือย, ปล้อง, ข้อ, ตาไม้, ส่วนตอ, ตะเข็บ, ที่บรรจบ adj. ร่วมกัน, สัมพันธ์กัน, ในเวลาเดียวกัน, เชื่อม vt., vi. เชื่อมกัน, ต่อกัน, Syn. juncture | segment | (เซก'เมินทฺ) n. ส่วน, ตอน, ท่อน, ข้อ, ปล้อง, ซีก, เสี้ยว, ชั้น, กลีบ, ส่วนตัดของรูป vt., vi. แยกหรือแบ่งออกเป็นส่วน (ตอน, ท่อน, ข้อ...) เซ็กเมนต์หน่วยความจำในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาด 1 เมกะไบต์ จะถูกแบ่งออก เป็น 16 ส่วน แต่ละส่วนเรียกว่า "เซ็กเมนต์ " แต่ละเซ็กเมนต์จะมีความจุ 64 เคไบต์ (เฉพาะชิป (chip) 8088 หรือ 8086), See also: segmentary adj., Syn. part | segmentation | (เซเมินเท'เชิน) n. การแบ่งออกเป็นส่วน (ตอน, ท่อน, ข้อ, ปล้อง, ซีก, เสี้ยว, ชั้น, กลีบ) , ส่วน, ตอน, การแบ่งเซลล์ | thigh | (ไธ) n. ต้นขา, โคนขา, ขาอ่อน, ปล้องต้นขาแมลง, กระดูกต้นขา | tibia | (ทิ'เบีย) n. กระดูกแข้งปล้องที่4ของขาแมลง pl. tibiae, tibias -tibial adj. |
| articulate | (adj) ที่ติดต่อกัน, ที่เป็นข้อ, ที่เป็นปล้อง | articulate | (vi, vt) ต่อกัน, เรียง, ประกบ, เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัด | articulation | (n) การพูดชัดแจ้ง, การเชื่อม, การประกบ, ปล้อง, ข้อต่อ | cane | (n) ไม้เท้า, ไม้ตะพด, ไม้เรียว, ปล้อง | straw | (n) ปล้องหญ้า, ฟางข้าว, กองฟาง, หลอดดูด, หมวกฟาง |
| anthropod | (n, jargon) ไฟลัมอาร์โทรพอด สัตว์ที่จัดอยู่ในไฟลัมนี้ เรียกว่า สัตว์ขาปล้อง, สัตว์ขาข้อ | Stoneflies | (n) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: Stonefly, Plecoptera, Stonefly, Syn. Plecoptera | ตุ้งก่า | n. a hookah for smoking marijuana น. กล้องสูบกัญชา เป็นปล้องไม้ไผ่ยาวราวฟุตครึ่ง มีพวยตรงกลางลำสำหรับยัดกัญชาในกระบอกใส่น้ำ. |
| 節々;節節 | [ふしぶし, fushibushi] ข้อ ปล้อง |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |