Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | The Foreign Office | ในสมัยก่อน เมื่อสังคมนานาชาติมีสมาชิกประเทศอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ประมุขของรัฐหรือหัวหน้าของรัฐบาลจะเป็นผู้บริหารกิจการต่างประเทศด้วยตนเอง แต่มาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันนี้ รัฐบาลของประเทศเกือบจะทุกแห่งจะมีสำนักงานในระดับกระทรวงแยกออกต่างหาก เพื่อดำเนินกิจการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักงานนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันใน แต่ละประเทศ เช่นเรียกว่า The Ministry of (หรือ for) Foreign Affairs, The Ministry of External Affairs, The Department of State หรือ The Department of Foreign Affairs หรือ Gaimusho เป็นต้น ส่วนหัวหน้าสำนักงานหรือเจ้ากระทรวงนั้น จะเป็นบุคคลในคณะรัฐมนตรี และเรียกชื่อตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น The Secretary of Foreign Affairs, The Minister of External Affairs, The Secretary of State หรือ Foreign Minister หรือ Foreign Secretary ตัวรัฐมนตรีนี้จะมีผู้ช่วย ซึ่งบางตำแหน่งเรียกว่า ปลัดกระทรวง (Under-Secretaries), ผู้ช่วยปลัดกระทรวง (Assistant Under-Secretaries) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วงาน ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายธุรการ (Home Service) ทำหน้าที่บริหารกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวกันกับกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการติดต่อเกี่ยวข้องกับคณะทูตานุทูต และฝ่ายที่สองเรียกว่า Foreign Service เป็นฝ่ายดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในต่างแดน อันมีสถานทูต สถานกงสุล และสำนักงานอื่น ๆ เป็นตัวแทน ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายการทูตและฝ่ายวิชาการ ซึ่งประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลและสำนักงานระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศไทยเรายังมิได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายดังกล่าวตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวกลาง ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างประเทศ ส่วนหัวหน้าคณะทูตภายในนครหลวงของแต่ละประเทศจะทำการติดต่อใด ๆ ทั้งหมดกับกระทวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับงานภายในกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกรม กอง โดยถือตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ เช่น กรมหรือกองการเอเชีย กรมการแอฟริกา กรมการอเมริกัน กรมการยุโรป และอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีกรมกองอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และด้านการสื่อสารติดต่อ การประชุม การประสานงานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การคลัง การบริการในต่างประเทศ การสารนิเทศ การกฎหมาย การห้องสมุด การหนังสือเดินทาง การบุคลากร การพิธีการทูต การวิจัย การสนธิสัญญา การตรวจลงตรา (Visa) และการสหประชาชาติในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศ ผู้ที่สมัครขอรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีคุณวุฒิตามที่กระทรวง กำหนด เช่น จะต้องผ่านการสอบไล่ ทั้งในภาคปากเปล่า และข้อเขียน ตลอดจนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการสอบไล่ (Board) ซึ่งจะเป็นฝ่ายให้คะแนนบุคลิกและคุณภาพส่วนตัว แล้วนำคะแนนไปบวกกับคะแนนสอบข้อเขียน ในบางแห่งต้องการให้ผู้สมัครสอบเข้ารับการฝึกอบรม และให้อยู่ในระหว่างการทดลองดูความประพฤติ (Probationary period) อีกด้วย [การทูต] |
| I will. With my father, it's complicated. | ฉันจะบอก แต่พ่อของฉัน เป็นอะไรที่ยุ่งยาก Dirty Dancing (1987) | Quite by chance we find ourselves on this beautiful course as we try to work through these difficult issues. | เราก็เลยหาโอกาสมาที่สนามสวยๆ นี่ แล้วก็พยายามพูดคุยกันด้วยเรื่องที่ยุ่งยากมากๆ Hope Springs (2003) | And now the tricky part. | และตอนนี้ส่วนที่ยุ่งยาก Cubeº: Cube Zero (2004) | You have a gift for expression. And if Mrs. Nita adopts Pumpkin that is hardly a threat but a young girl with eyes like rain... | เธอมีพรสวรรค์สำหรับการแสดงออก ถ้าคุณนายนิตะรับฟักทองเป็นลูกบญธรรมมันคงเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก Memoirs of a Geisha (2005) | dangerous things... | งานที่ยุ่งยากเอย งานที่ลำบากเอย... Last Order: Final Fantasy VII (2005) | It isn't enough that she already got us in such a difficult situation. | นั้นมันไม่เพียงพอหรอก เธอคงเข้าใจในสถานการณ์ที่ยุ่งยากของเราแล้ว Sweet Spy (2005) | I've never been in such a serious situation before. | ผมไม่เคยพบกับ สถานการณ์ที่ยุ่งยากเช่นนี้มาก่อน [ Rec ] (2007) | I'll take care of the messy part, | ฉันจะจัดการส่วนที่ยุ่งยากเอง The Price (2008) | Making life difficult for a girl is ridiculous and childish. | สร้างชีวิตที่ยุ่งยากให้กับเด็กหญิงที่มีชีวิตชีวาและยังเด็ก Episode #1.2 (2009) | If it doesn't become yours even after all of that hardship, then you have to give up on it cleanly. | หลังจากผ่านขึ้นตอนที่ยุ่งยากเหล่านั้น มันก็จะให้สิ่งที่ดี Episode #1.9 (2009) | This is very serious encryption. | ที่มีการเข้ารหัสที่ยุ่งยาก Day 7: 9:00 p.m.-10:00 p.m. (2009) | One time we're tasking this tricky target. | มีอยู่ครั้งนึงที่เราเจอเป้าหมายที่ยุ่งยาก Law Abiding Citizen (2009) | It's lousy timing. I know that. I'm really, I'm sorry. | มันเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยากผมเข้าใจ และผมขอโทษจริงๆ Double Blind (2009) | It's getting late, and I've had a really tough day so how about tomorrow, okay? | เฮ้ นี่ มันอ่า ดึกแล้ว และวันนี้มันก็เป็นวันที่ยุ่งยาก Remains of the J (2009) | They have a harder time hitting a guy when they're already down on the ground. | พวกเขามีช่วงเวลา ที่ยุ่งยากมาก หลังจากรุมตีเขาแล้ว เมื่อเขานอนราบนิ่ง ลงกับพื้นไปแล้ว The Beautiful Day in the Neighborhood (2009) | Is he having a hard time? | เขามีช่วงเวลา ที่ยุ่งยากรึ? Gimme Some Truth (2009) | Getting advice on the difficult days ahead. Nate? | รับคำแนะนำเรื่องในอนาคตที่ยุ่งยากน่ะสิ เนท? The Debarted (2009) | When our daughter Lauryn was taken by the Magic Man, it was very tough for us, but we pulled together, and we'll help you through this, too. | ตอนที่ลูกสาวของเรา ลอรีน ถูกชายลึกลับลักพาตัวไป เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยากกับเรามากๆ แต่เราก็ยังมีกำลังใจอยู่กันมาได้ และเราจะช่วยคุณให้ผ่าน เรื่องนี้ไปด้วยกัน Slight of Hand (2010) | Was that all right, Lionel? | ไม่มีพนักงงานต้อนรับ เขาไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยากค่ะ The King's Speech (2010) | - We got a complication. - Yeah. | - พวกเราเจอเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน June Wedding (2010) | Moving high-risk cargo is tricky. | การขนส่งสินค้ามีความเสี่ยงสูง เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก The Push (2010) | TO SPRING BACK INTO LIFE IF IT CAN FIND FRESH FUEL. | แน่นอนว่าสิ่งที่ยุ่งยาก คือการที่คุณต้องรู้ วิธีสดใสกาแลคซี ที่เกิดขึ้นจริงเป็น ถ้าคุณกำลังจะบอก วิธีห่างไกลที่พวกเขามี Beyond the Darkness (2010) | But what exactly is the Higgs? | และคุณจะได้ครึ่งโหล คำตอบที่แตกต่างกัน ฮิกส์ มันเป็นสิ่งที่ยุ่งยาก What Are We Really Made Of? (2010) | Your phone. Yeah, I'm kind of busy right now. | โทรศัพท์ของคุณ ฉันเป็นประเภทที่ยุ่งยากแล้วตอนนี้ Chuck Versus the Anniversary (2010) | A little calm in a difficult day. | ช่วยผ่อนคลายในวันที่ยุ่งยาก Digging the Dirt (2010) | You know, I'm almost the tiniest bit starting to think of my job as a stepping stone to maybe a career. | ฉันเริ่มคิดนิดๆแล้วหล่ะ ว่างานของฉัน.. ..ที่ยุ่งยากนี้ อาจจะเป็นอาชีพ Super Sunday (2011) | I mean, the breakup was way messy, but sean's a good guy. | ฉันหมายถึงว่า การเลิกรามันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก แต่ชอว์นก็เป็นคนดีนะ Someone to Watch Over Me (2011) | But it's only been in very complicated situations when I have carefully considered the consequences. | แต่นั่นมันก็ในสถานะการณ์ ที่ยุ่งยากซับซ้อน และฉันต้องคำนึงถึง ลำดับความสำคัญของเรื่อง Audrey Parker's Day Off (2011) | I apologise if you had a difficult reception. | ข้อต้องขออภัย กับการต้อนรับที่ยุ่งยาก The Sword in the Stone: Part Two (2011) | I've had worse jobs. | ข้ามีงานที่ยุ่งยากต่างหาก Snow White and the Huntsman (2012) | But evolving is a tricky thing. | แต่การพัฒนาต่อไปสิ่งที่ยุ่งยาก G.G. (2012) | This spark plug got him here, didn't he? | คนที่ยุ่งยากคนนั้นใช่คนที่ พาคนร้ายมาที่นี่หรือเปล่า Identity Crisis (2012) | You were put in a difficult situation. | นายกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก Honor Among Thieves (2012) | But is Ferrari's very complicated solution really worth it? | แล้วแนวทางแก้ปัญหา ที่ยุ่งยากของเฟอร์รารี่ได้ผลไหม Episode #18.4 (2012) | They have given it that wantonly complicated four-wheel-drive system, just to lower the engine a bit? | พวกเขาได้ให้ระบบขับสี่ล้อที่ยุ่งยาก เพื่อให้เครื่องยนต์มันต่ำอีกนิดเหรอ Episode #18.4 (2012) | The only tricky part is gonna be getting him alone. | สิ่้งเดียวที่ยุ่งยากคือ ทำไงให้เขาอยู่คนเดียว Any Moment (2012) | Yikes. It was a highly experimental procedure. | ยั๊คค มันค่อนข้างมีขั้นตอนการ ทดลองที่ยุ่งยาก The Silencer (2012) | Well, fuck you and your tough love. | งั้นก็, ช่างแมร่งมัน และช่างหัวความรักที่ยุ่งยาก In the Beginning (2012) | For bigger messes like dust bunnies under the bed or picking up after... | สำหรับงานที่ยุ่งยาก อย่างเช่นฝุ่นที่เกาะอยู่ใต้เตียงนอน หรือหลังจากยกขึ้น... Say My Name (2012) | Come on, it's gonna be a really hard week for me. | เถอะนะ มันจะสัปดาห์ที่ยุ่งยากมากสำหรับฉัน And the Hidden Stash (2012) | Elliot's in a very difficult situation right now. | เอลเลียตกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากขณะนี้ Music of the Spheres (2012) | We just had a few, uh, difficult days, but the order has been restored... | เราแค่มีวันที่ยุ่งยากก็เท่านั้นเอง แต่ก็กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิมแล้วค่ะ The Origins of Monstrosity (2012) | Caroline, thank you for making this very difficult time so much easier. | ที่ทำให้เวลาที่ยุ่งยากนี่ง่ายขึ้นเยอะเลย My Brother's Keeper (2012) | Locks are tricky, too many alarms. | ไม่เป็นไร ที่ยุ่งยากสัญญาณเตือนมากเกินไป. 2 Guns (2013) | Maybe it's a complicated time. | นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยาก I'm So Lonesome I Could Die (2013) | How I always didn't do the right thing by both of you and and I put you in a tricky situation and I regret that. | ฉันมักจะไม่ได้ทำขวา สิ่งที่ทั้งคุณและ .. และฉันทำให้คุณใน สถานการณ์ที่ยุ่งยาก .. และฉันเสียใจที่. The Family (2013) | We are mired in piss and shit because of you. | พวกเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากในตอนนี้ ก็เพราะว่าเจ้า Blood Brothers (2013) | Sounds like a rough gig. I'm John. | ดูจะเป็นงานที่ยุ่งยากจัง ผมจอห์น Booked Solid (2013) | But... it would've been nice to know about all that pesky detail. | แต่ มันก็เป็นอะไรดีๆที่ได้รู้ เกี่ยวกับรายละเอียดที่ยุ่งยากทั้งหลาย Manhattan (2013) |
|
| bring someone to grips with something | (idm) จัดการกับสิ่งที่ยุ่งยาก, Syn. come to, get to | convoluted | (adj) ที่ซับซ้อนมาก, See also: ที่สับสน, ที่ยุ่งยาก, Syn. intricate, involved, knotty | footwork | (n) ความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก | over the hump | (idm) พ้นส่วนที่ยุ่งยาก | jam | (n) สถานการณ์ที่ยุ่งยาก, See also: สถานการณ์ที่ลำบาก, Syn. predicament, fix, trouble | jungle | (n) ภาวะที่ยุ่งยากซับซ้อน, See also: ความสับสนวุ่นวาย | kittle | (adj) ที่ยุ่งยาก, Syn. awkward, difficult | lock | (vt) เข้าไปพัวพันในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก เช่น การต่อสู้, การทะเลาะวิวาท | morass | (n) สถานการณ์ที่ยุ่งยาก สับสน หรือเป็นปัญหา | red tape | (n) กฎระเบียบที่ยุ่งยากและทำให้ล่าช้า |
| chinese puzzle | n. สิ่งที่สลับซับซ้อน, ปัญหาที่ยุ่งยาก, ปัญหาที่น่าเวียนหัว | hung-up | (ฮัง'อัพ) adj. เต็มไปด้วยปัญหาที่ยุ่งยาก, เป็นห่วง, กังวลใจ, Syn. detained | intricacy | (อิน'ทระคะซี) n. ลักษณะที่ยุ่งยาก, ความสลับซับซ้อน, การกระทำที่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน, Syn. complexity | trouble water | n. สถานการณ์ที่ยุ่งยาก, เวลาที่ยุ่งยาก | white elephant | n. ช้างเผือก, กระบวนการที่ยุ่งยากและสิ้นเปลือง |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |