ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: การขัด, -การขัด- |
การขัดกัน | (n) confliction, See also: opposition, Example: การขัดกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มทำให้การทำงานไม่ราบรื่น | การขัดขืน | (n) disobedience, See also: resistance, Ant. การยินยอม, Example: เพราะการขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ผู้ร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม | การขัดขวาง | (n) hindrance, See also: obstruction, Example: การที่บุคคลไม่ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีนับเป็นการขัดขวางความเจริญทางสังคมทางหนึ่ง | การขัดข้อง | (n) hitch, See also: fault, Example: เกิดการขัดข้องในระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ | การขัดเกลาทางสังคม | (n) socialization, Example: การขัดเกลาทางสังคมช่วยให้มนุษย์สามารถปรับตัวและดำรงตนอย่างมีความสุข |
| กันท่า | ก. แสดงกิริยาอาการขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้สะดวก. | น้ำมันหม่อง | น. ยาที่ใช้ทาบรรเทาอาการขัดยอก หรือความเจ็บปวดเนื่องจากแมลงกัดต่อยเป็นต้น, ยาหม่อง ก็เรียก. | ละม่อม | โดยไม่มีการขัดขืน (ใช้แก่การจับกุม) เช่น ตำรวจจับผู้ร้ายได้โดยละม่อม. | วิฆนะ | (วิคะ-) น. การขัดขวาง, เครื่องขัดขวาง, อุปสรรค, ความขัดข้อง. | สัลเลข- | (สันเลขะ-) น. การขัดเกลากิเลส. | ฮึกฮัก | ว. อาการไม่พอใจ, อาการขัดใจ. |
| processor interrupt | การขัดจังหวะตัวประมวล(ผล) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | programmable interrupt controller (PIC) | ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้ (พีไอซี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | PIC (programmable interrupt controller) | พีไอซี (ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | police obstruction | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | renvoi (Fr.) | การย้อนส่ง (ตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | resistance | การขัดขืน, การขัดขวาง, การต่อต้าน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | socialization | การขัดเกลาทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstructing a police officer | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstructing justice | การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstruction; emphraxis | การขัดขวาง, การอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstruction | การขัดขวาง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | obstruction | การขัดขวาง, การกีดขวาง, การกีดกั้น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | automatic interrupt | การขัดจังหวะอัตโนมัติ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | abrasion resistance | ความต้านทานการขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | bedding-in | การขัดแต่งเข้าที่ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | machine interruption | การขัดจังหวะเครื่อง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | civil contempt | การขัดคำสั่งศาล [ ดู contempt of court ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | contradiction | การขัดแย้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | conflict of laws | กฎหมายขัดกัน, การขัดกันแห่งกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | conflict of laws | กฎหมายขัดกัน, การขัดกันแห่งกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | civil disobedience | การขัดขืนอย่างสงบ, การดื้อแพ่ง, การขัดขืนคำสั่ง (ผู้บังคับบัญชา)[ ดู passive resistance ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | civil disobedience | การขัดขืนอย่างสงบ, การดื้อแพ่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | disobedience, civil | การขัดขืนอย่างสงบ, การดื้อแพ่ง, การขัดขืนคำสั่ง (ผู้บังคับบัญชา) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | defiance | การท้าทาย, การขัดขวาง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | emphraxis; obstruction | การขัดขวาง, การอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | error interrupt | การขัดจังหวะเมื่อผิดพลาด [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | interruption | การขัดจังหวะ [ มีความหมายเหมือนกับ interrupt ๓ ] [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | interruption | ๑. การสะดุดหยุดลง๒. การขัดจังหวะ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | interruption | ๑. การสะดุดหยุดลง๒. การขัดจังหวะ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | interruption | การขัดจังหวะ [ มีความหมายเหมือนกับ interrupt ๓ ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | input/output interrupt | การขัดจังหวะเพื่อรับเข้า/ส่งออก [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | interrupt | ๑. ขัดจังหวะ๒. สัญญาณขัดจังหวะ๓. การขัดจังหวะ [ มีความหมายเหมือนกับ interruption ] [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | interrupt | ๑. ขัดจังหวะ๒. สัญญาณขัดจังหวะ๓. การขัดจังหวะ [ มีความหมายเหมือนกับ interruption ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | haemostasis | ๑. การห้ามเลือด, การคัดเลือด๒. การขัดขวางการไหลของเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | unlawful picketing | ๑. การประท้วงที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย๒. การขัดขวางการเข้าทำงานโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Conflict of laws | การขัดกันแห่งกฎหมาย [TU Subject Heading] | Electric power failures | การขัดข้องของไฟฟ้ากำลัง [TU Subject Heading] | Grinding and polishing | การลับคมและการขัดมัน [TU Subject Heading] | Polishing Process | กระบวนการขัดแต่ง, Example: กระบวนการที่ปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้นอีก เช่น การใช้บ่อขัดแต่ง [สิ่งแวดล้อม] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] | Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | Chloroprene rubber | ยาง CR เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน มีทั้งประเภทที่ใช้งานทั่วไปและประเภทใช้งานพิเศษ เช่น ทำกาวยาง ยางใช้เคลือบ และวัสดุอุดรอยรั่ว เป็นต้น เนื่องจากโมเลกุลของยาง CR สามารถจัดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ยางชนิดนี้จึงสามารถตกผลึกได้เช่นเดียวกับยางธรรมชาติ มีค่าความทนต่อแรงดึงสูง มีค่าความทนต่อการฉีกขาดและความต้านทานต่อการขัดถูสูง ยาง CR มีสมบัติทนต่อน้ำมันได้ปานกลางถึงดี และทนต่อความร้อน แสงแดด และโอโซนได้ค่อนข้างดี และยังมีสมบัติการหน่วงไฟ จึงนิยมนำไปใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานภายนอกอาคาร เช่น ยางขอบหน้าต่าง ยางรองคอสะพาน ยางปลอกสายเคเบิล เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Natural rubber | ยางธรรมชาติมีโครงสร้างโมเลกุลเป็น ซิส-1, 4-พอลิไอโซพรีน (cis-1, 4-polyisoprene)ได้มาจากต้นยาง Hevea brasiliensis เมื่อผ่านกระบวนการวัลคาไนเซชันแล้วให้สมบัติเชิงกลดีมาก แข็งแรง ทนต่อการขัดถูและการฉีกขาดดีเยี่ยม แต่ไม่ทนน้ำมันและการเกิดออกซิเดชัน [เทคโนโลยียาง] | Nitrile rubber or Acrylonitrile butadiene | ยางไนไทรล์เป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโคพอลิเมอร์ของอะไค รโลไนไทรล์และบิวทาไดอีน ประกอบด้วยอะไครโลไนไทรล์ตั้งแต่ร้อยละ 18-51 ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ยางไนไทรล์เป็นยางที่มีความเป็นขั้วสูงมีสมบัติเด่น คือ ทนต่อน้ำมันปิโตรเลียมและตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังทนต่อความร้อนและต้านทานต่อการขัดถูได้ดี จึงนิยมนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน เช่น ปะเก็นน้ำมัน ยางโอริง ยางซีล ยางเชื่อมข้อต่อ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Polyurethane rubber | ยางพอลิยูรีเทนได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างหมู่ไอโซไซยาเนต (isocyanate, -N-C=O) และหมู่ไฮดรอกซิล (hydroxyl, -OH) เกิดเป็นพันธะยูรีเทน (-NH-CO-O-) ขึ้น ถ้าหมู่ R ในพอลิออลเป็นพอลิเอสเทอร์ จะเรียกว่า พอลิเอสเทอร์ยูรีเทน (AU) และถ้าหมู่ R เป็นพอลิอีเทอร์ จะเรียกว่า พอลิอีเทอร์ยูรีเทน (EU) สมบัติทั่วไปของยางพอลิยูรีเทน คือ มีความทนต่อแรงดึง ความทนต่อการฉีกขาด ความแข็ง ความต้านทานต่อการขัดถู รวมทั้งมีความทนทานต่อการเสื่อมสภาพเนื่องจากสภาพอากาศ ออกซิเจน ความร้อน และโอโซนดีมาก แต่จะเสื่อมสภาพได้ง่ายถ้าใช้งานในที่ร้อนชื้นหรือในสภาวะที่ต้องสัมผัสกับ น้ำร้อน ไอน้ำ กรด หรือด่าง (เกิดการไฮโดรไลซิส) สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ท่อยาง ข้อต่อยาง ปลอกหุ้มสายเคเบิล สายพานลำเลียง ล้อสเก็ต ยางพื้นรองเท้า ยางซีล ปะเก็น เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Silicone rubber | ยางซิลิโคนเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งในแกนสายโซ่หลักของโมเลกุล ประกอบด้วยอะตอมของซิลิกอน (Si) และออกซิเจน (O) มีสูตรโครงสร้างทางเคมีเป็นพอลิไซลอกเซน (polysiloxane) ยางซิลิโคนมีหลายเกรด แต่ละเกรดจะแตกต่างกันที่หมู่ R ที่เกาะอยู่บนสายโซ่หลัก ดังนี้ MQ หมู่ R เป็นหมู่เมทิล (CH 3 ) VMQ หมู่ R เป็นหมู่ไวนิล (CH 2 = CH 2) PMQ หมู่ R เป็นหมู่ฟีนิล (C 6 H 5 ) PVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ฟีนิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล FVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ไตรฟลูออโรโพรพิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล แต่เกรดที่ใช้กันมากที่สุดจะเป็นพอลิเมอร์ของไดเมทิลไซลอกเซน (หมู่ R คือ CH 3) หรือที่มีชื่อย่อว่า MQ สมบัติโดยทั่วไปมีค่าความทนต่อแรงดึง ความต้านทานต่อการขัดถู และความต้านทานต่อแรงกระแทกต่ำมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเติมสารตัวเติมเสริมแรงเช่น ซิลิกาเข้าช่วย แต่ยางซิลิโคนทนต่อสภาพอากาศ ออกซิเจน โอโซน แสงแดด และความร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำมากๆ ได้ เนื่องจากยางชนิดนี้มีราคาสูงมาก ดังนั้นการใช้งานจึงจำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ยางชนิดอื่นๆ ได้ เช่น การผลิตชิ้นส่วนของยานอวกาศ เครื่องบิน รถยนต์ ยางโอริง หน้ากากออกซิเจน แป้นกดของโทรศัพท์มือถือ งานทางการแพทย์และเภสัชกรรม เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Abrasion | แผลถลอก, การขัดสี, บาดแผลถลอก, รอยแผลถลอก, การถลอก [การแพทย์] | Abrasive Test | การตรวจสอบคุณภาพในการขัดสี [การแพทย์] | Autoimmune Mechanism | กลไกในระบบอัตตะอิมมิว, การขัดขวางภูมิต่อต้านตัวเอง [การแพทย์] | Dermabrasion | เดอร์มาเบรชั่น, เดอร์มาเบรชัน, การขัดผิวหนัง [การแพทย์] | husked rice [ brown rice ] | ข้าวกล้อง, ข้าวที่กะเทาะเปลือกออกแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านการขัดสีให้ขาว เป็นข้าวที่ยังมีเยื่อซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยวิตามิน B1 ข้าวชนิดนี้ถ้ากะเทาะเปลือกด้วยการตำเรียก ข้าวซ้อมมือ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Interruption | การขัดจังหวะ [การแพทย์] |
| Win by attrition. Well, Rambo was the best! | ชนะโดยการขัดสี ก็ แรมโบ้ ที่ดีที่สุด First Blood (1982) | While you're doing it, cleaning the toilet seems far more important than the law. | ขณะที่คุณขัดมัน การขัดส้วม ดูจะสำคัญกว่ากฎหมายอีก Gandhi (1982) | I must say, it seems to me that it's gone beyond remedies like passive resistance. | ผมต้องขอพูดว่า มันมาไกลเกินกว่า จะใช้การขัดขวางโดยไม่ต่อสู้แล้ว Gandhi (1982) | It's a rubbing | การขัดถู Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | Possibility of gang feud is not ruled out | น่าจะเป็นการขัดผลประโยชน์ของแก็ง Infernal Affairs (2002) | I'm sorry to say it, but for me there is... a distinct contradiction. | ขอโทษที่ต้องพูดนะ แต่สำหรับฉัน มันคือการขัดแย้งในตัวเอง The Dreamers (2003) | Of course, we have no objections to cooperating if we feel there's adequate cause. | แน่นอนว่าเราจะไม่มีการขัดขากันในการทำงาน ถ้าเราต่างก็มีเหตุผลเพียงพอ Ghost in the Shell (1995) | But it doesn't follow that the interruption must be unwelcome. | แต่ไม่ต้องไปคิดว่า การขัดจังหวะจะไม่เป็นที่ต้อนรับ Episode #1.6 (1995) | The central portion of the city is blacked out from radio communication due to damaged power lines and electrical failure. | โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองนั้น วิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้ติดต่อกันได้ เนื่องจากระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง Sky Captain and the World of Tomorrow (2004) | They did us the favour of polishing our boots. | พวกเขาทำเราโปรดปรานของการขัดรองเท้าของเรา Cubeº: Cube Zero (2004) | It seems that the order to retreat was not conveyed to all sectors. | ดูเหมือนว่า ยังมีการขัดคำสั่งอยู่ ไม่ปฏิบัติตามกันทุกกองร้อยหรอกครับ Letters from Iwo Jima (2006) | Oh, I found some streaks, so I'm wiping them down with undiluted red wine vinegar. | โอ ผมเห็นรอยน่ะ ผมเลยจัดการขัดมันด้วยน้ำส้มไวน์แดงเข้มข้น Listen to the Rain on the Roof (2006) | She's not coming. | การขัดแย้งทางความคิดในสมองอาจเป็นต้นเหตุก็ได้ L.D.S.K. (2005) | He disobeyed orders and burned down the ironware workshop. | การขัดคำสั่งของเขาและยังเผาโรงตีเหล็กอีก Episode #1.9 (2006) | There's no signs of restraint, no violence, no struggle. | แต่ก็ไม่มีร่องรอยการกักขัง การใช้ความรุนแรง, การขัดขืนเลยนี่นา The Magnificent Seven (2007) | If you do not comply, we will use deadly force. | หากทำการขัดขืน จะเจอกับมาตรการรุนแรง Transformers (2007) | Ηe's covering up his inadequacies by being openly disobedient, creating a ruckus everywhere. | เขาปกปิดความพร่องตัวเอง ด้วยการขัดคำสั่ง เอะอะโวยวายไปทั่ว Like Stars on Earth (2007) | You dare dishonor the games by interfering? | เจ้ากล้าทำให้เกียรติของการคัดเลือกเสื่อมเสีย ด้วยการขัดจังหวะหรือ The Scorpion King: Rise of a Warrior (2008) | I'm sure the blackout is temporary. | ข้าคิดว่าคงเป็นการขัดข้องชั่วคราว Star Wars: The Clone Wars (2008) | Isn't that kind of a conflict of interest? | มันไม่ใช่เรื่อง การขัดแย้งผลประโยชน์น่ะ? Chuck Versus the DeLorean (2008) | Pull right there! | ตรงนั้นมีการขัดขืนต่อสู้ AK-51 (2008) | Interfering with the captain's orders will not help resolve our current crisis. | การขัดคำสั่งของกัปตันไม่ได้ช่วยแก้วิกิตในปัจจุบันได้ Dead Space: Downfall (2008) | I'm with him. Sorry. Didn't mean to interrupt. | มันไม่ได้หมายถึงการขัดคอ Not Cancer (2008) | Now you want to bet against her? | ตอนนี้คุณต้องการขัดขวางเธอ Joy (2008) | I meant she's a minor and daddy has a conflict, so we're gonna need Cuddy's signoff. | ฉันหมายถึงเธอเป็็นผู้เยาว์และพ่อของเธอ ก็ติดกฎการขัดกันของผลประโยชน์ ดังนั้นเราต้องให้คัดดี้เซ็นต์อนุมัติ Joy (2008) | They don't jam and they never run out of bullets. | ไม่มีการขัดลำกล้อง กระสุนไม่เคยหมด Wanted (2008) | The United Nations remains neutral in this conflict. | สหประชาชาติวางตัวเป็นกลางต่อการขัดแย้งนี้ 24: Redemption (2008) | Now, you perhaps have not read the statute with regard to the obstruction of justice. | เอาล่ะ บางทีคุณอาจยังไม่ไ้ด้อ่าน พระราชบัญญัติ ที่เขียนถึงการขัดขวาง กระบวนการยุติธรรม Frost/Nixon (2008) | Obstruction of justice is obstruction of justice, whether it's for a minute or five minutes, and it's no defense to say that your plan failed. | ไม่ ไม่ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม คือการขัดขวางกระบวนการยุิติธรรม ไม่ว่ามันจะแค่นาทีเดียวหรือห้านาที แล้วมันไม่ต้องมาแก้ต่างว่า แผนของท่านล้มเหลว Frost/Nixon (2008) | A minor struggle ensued, and he was shot at the back of the head. | มีการขัดขืนเล็กน้อย และเขาถูกยิง ด้านหลังศรีษะ Pathology (2008) | So there was no struggle. | เลยไม่มีร่องรอยการขัดขืน Pathology (2008) | And in NetCast, fledged by technical difficulties and dead spots the report could not be confirmed, however Kable, born John Tillman of Albany, New York and convicted of murder just 4 years ago, has been removed from Slayers rosters and upcoming events listings. | อีกทั้ง การถ่ายทอดทางเนทที่มีทั้งการขัดข้อง Nและจุดบอดที่มองไม่เห็นมากมาย ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าNเค้าเสียชีวิตไปหรือยัง อย่างไรก็ตาม เกบิ้ล หรือ จอห์น ทิลแมน Nจากอัลบานี นิวยอร์ค Gamer (2009) | Or do you want to disobey a direct order? | หรือคุณต้องการขัดคำสั่ง ? Chapter Five 'Exposed' (2009) | It looks like we're experiencing some technical difficulty. | ดูเหมือนว่าเราจะมี การขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย The Ugly Truth (2009) | She violated too many aspects of FBI protocol to even count! | ทั้งๆที่มีการขัดขวามจากคุณ หล่อนฝ่าฝืนระเบียบหลายอย่างของเอฟบีไอ มากเกินกว่าที่จะนับด้วยนะ! The No-Brainer (2009) | And no defensive wounds, either. | ไม่มีร่องรอยการขัดขืน Bloodline (2009) | Dissociative identity disorder. | ดูนี่นะ เอาล่ะ การขัดขวามครั้งแรกดูกล้า ๆ กลัว ๆ Conflicted (2009) | You know, your involvement in this case could be a conflict of interest. | รู้ไหมว่าความเกี่ยวพันที่คุณมีในคดีนี้ อาจเป็นการขัดผลประโยชน์ A Shade of Gray (2009) | The man's like a wall of stone when it comes to breaching Buy More policy. | เขาชอบสร้างกำแพงกั้นตัวเอง เมื่อมีนโยบายการขัดแย้งของบายมอร์ Chuck Versus the First Kill (2009) | These processing nodes are scrubbers, | นั่นเป็นจุดที่ทำงานด้านการขัดถู Air: Part 1 (2009) | Eric has had a thousand years practicing deceit. | เอริคมีเวลานับพันปีในการขัดเกลาเล่ห์กล I Will Rise Up (2009) | In a supposedly gang-related incident. | จากที่คาดเอาไว้ เกิดการขัดแย้งระหว่างแก๊งค์ Dex Takes a Holiday (2009) | That's highly unlikely during a struggle. | มันคงไม่ใช่วิธีการขัดขืนต่อสู้ Dex Takes a Holiday (2009) | - what you said about traditions shaping our kids... | การพูดเรื่องประเพณี ถือเป็นการขัดเกลา เด็กๆ Hungry Man (2009) | I've been a part of a lot of study groups, that fell apart because of unresolved tension. | เพียงเพราะภาวะตึงเครียดที่ไม่เคยได้รับการขัดเกลา เราควรจะมองข้ามความกังวลใจของแอนนี่รึเปล่า? เราไม่ได้ชวนเธอมาเหรอ? Pilot (2009) | The result of conflicting neural impulses. | ผลจากการขัดกันของระบบประสาท Of Human Action (2009) | Anakin Skywalker races in to cut off their escape and stop Bane from delivering the stolen holocron. | อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ก็ได้ เข้าทำการขัดขวางและหยุดยั้งเบน จากการส่งมอบโฮโลครอนที่ถูกขโมย Holocron Heist (2009) | The assassination of Yoon Sung Chul was the result of the internal dissension in North Korea. | คดีลอบสังหาร ยุนซองชอล เป็นผลมาจากการขัดแย้งภายในของฝ่ายเกาหลีเหนือ Iris (2009) | Doctor, in all conflicts between positive and negative energy ... always dominates the negative. | ด๊อกเตอร์ เมื่อมีการขัดแย้งระหว่าง ด้านบวกและด้านลบ ด้านลบจะเป็นฝ่ายที่มีอิทธิพลกว่าเสมอ Astro Boy (2009) | Their objective isn't to control the conflict it's to control the debt that the conflict produces. | เป้าหมายพวกเขาไม่ใช่ควบคุมการขัดแย้ง แต่คือการควบคุมหนี้สินที่เกิดจากการทำสงคราม The International (2009) |
| การขัดกัน | [kān khat kan] (n, exp) EN: confliction ; conflict FR: conflit [ m ] | การขัดกันของกฎหมาย | [kān khat kan khøng kotmāi] (n, exp) EN: conflict of laws FR: conflit de lois [ m ] | การขัดขวาง | [kān khatkhwāng] (n) EN: hindrance ; obstruction FR: obstacle [ m ] | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ | [kān khatkhwāng jaonāthī tamrūat] (n, exp) EN: obstruction of a police officer | การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม | [kān khatkhwāng krabūankān yutitham] (n, exp) EN: obstruction of justice FR: obstruction à la justice [ f ] | การขัดถู | [kān khatthū] (n) EN: abrasion [ f ] FR: abrasion [ f ] |
| blockade | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น | blockage | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น, Syn. obstruction | buff | (vt) การขัดเพื่อทำให้พื้นผิวนุ่ม | burnish | (n) การขัดเงา | chafe | (n) ความร้อนที่เกิดจากการขัดถู, Syn. heat | chafe | (vt) ถลอกจากการขัดถู | chafe | (vi) ถลอกจากการขัดถู | chafe | (n) รอยถลอกที่เกิดจาการขัดถู | collision | (n) การขัดแย้ง, Syn. clash, conflict, discord, contention, disagreement, disputation | constipation | (n) การขัดขวาง | cosmopolitan | (adj) ซึ่งมีความรู้และได้รับการขัดเกลา | determent | (n) การขัดขวาง, See also: การยับยั้ง, การป้องกัน, Syn. limitation | disruption | (n) การขัดขวาง, See also: การหยุดชะงัก, การแตกกระเจิง, Syn. agitation, disorder, disturbance | filibuster | (n) การขัดขวางการผ่านญัตติหรือมติในสภา, Syn. delaying tactic, hindrance, interference | friction | (n) การเสียดสี, See also: การขัดสีกันระหว่างวัตถุ | inhibition | (n) การขัดขวาง, See also: การสกัดกั้น, การหักห้ามใจ, Syn. restraint, hindrance, repression | interception | (n) การสกัดกั้น, See also: การขัดขวาง, Syn. prevention, stoppage | interruption | (n) การขัดจังหวะ, See also: การหยุดชะงัก, Syn. suspension, pause, break | loggerhead | (n) การทะเลาะวิวาท, See also: การขัดแย้ง | mutinous | (adj) ซึ่งแสดงการขัดขืน, See also: ซึ่งควบคุมได้ยาก, Syn. insubordinate, riotous | mutiny | (n) การขัดขืนคำสั่ง, See also: การฝ่าฝืนคำสั่ง | nobbling | (n) การขัดขวางไม่ให้ม้าชนะการแข่งขัน เช่นให้ยา | obstruction | (n) การขัดขวาง, Syn. hindrance, blockage, Ant. encouragement | obstructionism | (n) การขัดขวาง, See also: การกีดขวาง, การขวางกั้น, Syn. filibuster | opponency | (n) การขัดขวาง | polish | (n) การขัด, See also: การถูให้ขึ้นเงา | polish | (n) การขัดเกลา | prevention | (n) การป้องกัน, See also: การขัดขวาง, การยับยั้ง, อุปสรรค, เครื่องป้องกัน, Syn. stoppage, arresting | resistance | (n) การต่อต้าน, See also: การขัดขืน, Syn. opposition, struggle | rub | (n) การขัด, See also: การถู, การเช็ด, Syn. polish, wipe | scour | (n) การขัดให้สะอาด, See also: การขัดเงา, การถูให้สะอาด, การล้างออก | scouring | (n) การขัดให้สะอาด, See also: การชะล้าง, Syn. cleaning, excavation, rub | scourings | (n) สิ่งสกปรกที่ได้มาจากการขัดถู, See also: กากเดนชั้นเลวของสังคมขยะ | scrub | (n) การขัดถู, See also: การถู, การขัด | scrubbiness | (n) การขัดถู | shoeshine | (n) การขัดรองเท้า, See also: การทำความสะอาดรองเท้า | strife | (n) การแข่งขันกัน, See also: การต่อสู้กัน, การขัดแย้งกัน, Syn. conflict, competition, rivalry, struggle, Ant. peace | trammel | (n) การขัดขวาง | wipe | (n) การเช็ด, See also: การถู, การขัด |
| block | (บลอค) { blocked, blocking, blocks } n. ท่อนไม้, ท่อนหิน, ก้อนใหญ่, ชิ้นใหญ่, ห่อดินระเบิด, แท่นโลหะ, เขียง, แม่พิมพ์, ลูกรอก, ตะแลงแกง, ตึกที่แบ่งออกเป็นส่วน, เครื่องกีดขวาง, ทั้งแถว, ทั้งก้อน, ทั้งปีก, ตึกใหญ่, คฤหาสน์ใหญ่, อุปสรรค, การขัดขวาง, เขตหนึ่งของตัวเมือง, เขตห่างไกลท | blockade | (บลอค'เคด) n. การปิดล้อม, การขัดขวาง vt. ปิดล้อม, Syn. obstruction | blockage | (บลอค'คิจฺ) n. การอุด, การปิดล้อม, การขัดขวาง, ภาวะที่ถูกปิด, ภาวะที่ถูกขัดขวาง | conflict | (คอน'ฟลิคทฺ) n. การต่อสู้, การเป็นปรปักษ์, การขัดแย้ง, การทะเลาะ, สงคราม, การสู้รบ. vi. ปะทะ, ต่อสู้, ทะเลาะ, See also: conflictingly adv. confliction n. ดูconflict conflictive adj. ดูconflict conflictory adj. ดูconflict คำที่มีความหมายเหมือ | conflict of interest | n. การขัดผลประโยชน์ | conflict of laws | n. การขัดกันของกฎหมาย | contraventio | n. n. การขัดแย้ง, การต่อต้าน | controversial | (คันทระเวอ'เชิล) adj. เกี่ยวกับการโต้เถียง, เกี่ยวกับการขัดแย้ง, , See also: controversialism n. controversialist n., Syn. disputatious | denegation | n. การปฏิเสธ, การขัดแย้ง, การคัดค้าน | determent | (ดิเทอร์'เมินทฺ) n. การขัดขวาง, สิ่งที่ขัดขวาง, Syn. restraint | friction | (ฟริค'เชิน) n. การเสียดสี, การขัดสี, ความขัดแย้ง, ความไม่ลงรอยกัน., See also: less adj., Syn. attrition | gandhi | (กาน'ดี) Magatma, มหาตมะคันธรัฐบุรุษของอินเดียผู้เป็นเจ้าของลัทธิอหิงสา (Gandhism) หรือลัทธิการขัดขวางโดยไม่ต่อสู้ | halt | (ฮอลทฺ) vi., n.adj. (การ) หยุด, ชะงัก, เป็นง่อย, ขาเป๋, ลังเล, สองจิตสองใจ interj. หยุด, Syn. stand, check ชะงัก1. การที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดปฏิบัติงานตามชุดคำสั่ง ซึ่งอาจเกิดจากการขัดจังหวะหรือมีที่ผิดมีความหมายเหมือน hang2. มีคำสั่งใดคำสั่งหนึ่งในชุดคำสั่งนั้นเองที่สั่งให้หยุดคำสั่งในชุดคำสั่งหรือในโปรแกรมเพียงชั่วขณะใดขณะหนึ่ง เพื่อทำการตรวจสอบโปรแกรมเปลี่ยนแถบบันทึกหรือจานบันทึก การหยุดแบบนี้ ถ้าผู้คุมเครื่อง operator กดปุ่ม START โปรแกรมจะทำงานต่อได้ทันทีมีความหมายเหมือน pause | hindrance | (ฮิน'ดรันซฺ) n. การหยุดยั้ง, การป้องกัน, วิธีการขัดขวาง, อุปสรรค, Syn. obstruction | impediment | (อิมเพด' ดะเมินทฺ) n. การต้านทาน, การขัดขวาง, การหน่วงเหนี่ยว, อุปสรรค, การพูดติดอ่าง, ความบกพร่องในการพูด, สิ่งที่ขัดขวางการแต่งงาน (โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางครอบครัว), See also: impedimental, impedimentary adj., Syn. barr | inhibition | (อินฮิบิช'เชิน) n. การขัดขวาง, การยับยั้ง, การสะกดกลั้น, การข่มใจ, หิริโอตัปปะ, Syn. constraint, Ant. freedom | interruption | (อินเทอรัพ'เชิน) n. การขัดขวาง, สิ่งที่ขัดขวาง, ภาวะที่ถูกขัดขวาง, การหยุด, การชะงักงัน, ช่วงระยะเวลาที่หยุด -S.disruption | mutiny | (มิว'ทะนี) n. การกบฏ, การขัดขืน vi. ก่อการกบฏ, ขัดขืน, Syn. rebellion | obstruction | (อับสทรัค'เชิน) n. สิ่งขัดขวาง, อุปสรรค, การขัดขวาง, ภาวะที่ถูกขัดขวาง, Syn. obstacle | opponency | (อะโพ'เนินซี) n. การขัดขวาง, การต่อต้าน, การทำให้อุดตัน, ความเป็นศัตรู, Syn. opposition | paralogism | (พะแรล'ละจิสซึม) n. การขัดกับหลักตรรก, ทฤษฎีลวงโลก., See also: paralogistic adj. | prevention | (พรีเวน'เชิน) n. การป้องกัน, การขัดขวาง, การยับยั้ง, อุปสรรค, เครื่องป้องกัน | rub | (รับ) vt. ถูก, ขัด, สี, เสียดสี, นวด, ลูบ vi. ถูออก, ขัดออก, เสียดสี n. การถู, การขัด, การสี, การนวด, การลูบ, สิ่งระคายเคือง, อุปสรรค, ความลำบาก, Syn. spread, chafe, contact, obstacle | scouring | (สเคา'ริง) n. การขัดให้สะอาด, การชะล้าง, การขัดถู., See also: scourings สิ่งสกปรกที่หลุดออกมาจากการขัดถู, กากเดนชนชั้นเลวของสังคมขยะ, Syn. cleansing | scrub | (สครับ) vt. ถูอย่างแรง, ขัดอย่างแรง, ขัดสิ่งสกปรกออก, ล้าง, ล้างแก๊ส, ทำให้อากาศบริสุทธิ์, ทำงานหนัก, เลื่อนหรือระงับ (การส่งขีปนาวุธ) vi. ทำความสะอาดโดยการขัดถู n. ต้นไม้เล็ก ๆ , พุ่มไม้, สัตว์เลี้ยงพันธุ์ผสมหรือพันธุ์เลว, สิ่งที่เล็กกว่าปกติ, ของชั้นเลว, นักกีฬาชั้นสอง, ไม้กวาดแปรงที่ใช้จนขนสั้น adj. เล็กกว่าปกติ, แคระ, เตี้ย, คนชั้นเลว, กระจอก, ไม่สำคัญ | shine | (ไชนฺ) { shone/shined, shone/shined, shining, shines } vi., vt., n. (ทำให้) (ความ) ส่องแสง, ส่องสว่าง, ส่องแสงระยิบระยับ, เปล่งปลั่ง, สุกใส, โชติช่วง, ดีกว่า, เงาวาว, แสงอาทิตย์, ท้องฟ้าแจ่มใส, การขัดรองเท้าให้เป็นเงามัน, Syn. beam, excel brilliance | shiny | (ไช'นี) adj. ส่องสว่าง, เปล่งแสง, เปล่งปลั่ง, สุกใส, ระยิบระยับ, สว่างไสว, เป็นมันวาว, ได้รับการขัดเงา., See also: shinily adv. shininess n. | shoeshine | (ชู'ไชน) n. การขัดรองเท้า, ความเป็นมันเงาของรองเท้าจากการขัด |
| attrition | (n) การล้างผลาญ, การขัดสี, การสึกกร่อน | blockade | (n) การปิดล้อม, การกั้นด่าน, การขัดขวาง | blockage | (n) การปิดล้อม, การอุด, การขัดขวาง | clash | (n) การทะเลาะ, การปะทะ, การขัดแย้ง | defiance | (n) การยั่ว, การขัดขืน, การท้า, การต่อต้าน | expostulation | (n) การขัดแย้ง, การทัดทาน, การว่ากล่าว, การตักเตือน | friction | (n) การขัดถู, การกระทบกระเทือน, ความฝืด, การเสียดสี | interruption | (n) การหยุดชะงัก, การขัดจังหวะ, การสอดเข้ามา, การขัดคอ | kick | (n) การเตะ, การถีบ, การคัดค้าน, อาการขัดขืน, พิษสง, กำลัง, การไล่ออก | lameness | (n) ขากะเผลก, ความพิการ, ความบกพร่อง, อาการขัดยอก, ความอ่อนแอ | obstruction | (n) การขัดขวาง, สิ่งกีดขวาง, อุปสรรค | prevention | (n) การป้องกัน, การขัดขวาง, การกัน, การยับยั้ง, อุปสรรค | rebellion | (n) การก่อการจลาจล, การกบฏ, การทรยศ, การขัดขืน | rebuff | (n) การปัดภาระ, การขัดขวาง, การปฏิเสธ, การหยุดยั้ง, การขับออก | refinement | (n) การขัดเกลา, การทำให้สะอาด, การกลั่น, ความสุภาพ | resistance | (n) ความต้านทาน, การต่อต้าน, ความอดทน, การสกัดกั้น, การขัดขวาง | scrub | (n) การขัด, การถู, สิ่งที่แกร็น, ของชั้นเลว | strife | (n) ความพยายาม, การวิวาท, การขัดแย้ง, การดิ้นรน |
| | 摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก | 摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก | 摩耗 | [まもう, mamou] (n) การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |