|
| สนับสนุน | (v) support, See also: aid, give support to, help, Syn. ส่งเสริม, ช่วยเหลือ, เกื้อหนุน | ผู้สนับสนุน | (n) supporter, See also: helper, sponsor, assistant, backer, Syn. ผู้ส่งเสริม, ผู้ช่วยเหลือ, Ant. ผู้คัดค้าน, Example: นางคอราซอน อะคีโนถูกกลุ่มผู้สนับสนุนบีบบังคับให้เธอต้องลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ให้การส่งเสริม, ช่วยเหลือ, อุปการะ | ฝ่ายสนับสนุน | (n) supporter, See also: supporting group, Example: ภาครัฐจะต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนและมีความจริงใจในการสนับสนุนการทำงานของภาคเอกชน, Count Unit: ฝ่าย, Thai Definition: กลุ่มที่ส่งเสริม, ช่วยเหลือ, อุปการะ | เงินสนับสนุน | (n) subsidy, See also: grant-in-aid, subvention, allowance, Syn. เงินอุดหนุน, เงินช่วยเหลือ, เงินสมทบ, Example: โครงการของเราต้องการเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นจำนวนมาก |
| ผู้สนับสนุน | น. ผู้กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม. | สนับสนุน | ก. ส่งเสริม, ช่วยเหลือ, อุปการะ, เช่น สนับสนุนการกีฬา สนับสนุนการศึกษา. | กองกลาง | ตำแหน่งในกีฬาฟุตบอลที่ผู้เล่นมีหน้าที่ประสานงาน สนับสนุนการเล่นระหว่างกองหน้ากับกองหลัง. | กังหันน้ำชัยพัฒนา | น. ชื่อเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอยแบบหนึ่ง เป็นอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียชนิดหนึ่ง มีลักษณะการทำงานคล้ายกังหันวิดน้ำขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อเติมอากาศหรือออกซิเจนในแหล่งน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาและประดิษฐ์อุปกรณ์เติมอากาศขึ้นแล้วทรงมอบหมายมูลนิธิชัยพัฒนา ศึกษาวิจัยเพื่อทำต้นแบบพร้อมสนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทานสร้าง นำไปใช้งานตามแหล่งน้ำเสียทั่วประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๓๑๒๗ และองค์กรนักประดิษฐ์โลกจากประเทศเบลเยียมได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในฐานะที่ทรงสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม. | เกื้อ, เกื้อกูล | ก. ช่วยเหลือสนับสนุน เช่น ต้นไม้เล็กกับต้นไม้ใหญ่เกื้อกูลกัน บริษัทใหญ่เกื้อกูลบริษัทเล็กในเครือเดียวกัน. | ข้ออ้าง | น. สิ่งที่นำมาอ้างสนับสนุนความคิดเห็นหรือการกระทำของตน. | ความรู้สึกเขื่อง, ความรู้สึกเด่น | น. ความรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าหรือดีเด่นกว่าผู้อื่น ความรู้สึกนี้ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึก แต่ถ้าเกิดขึ้นเสมอ ๆ และมิได้แก้ไขหรือได้รับการสนับสนุน เช่นในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ก็อาจเก็บสะสมไว้เกิดเป็นนิสัยของบุคคลนั้นได้ | คู่บารมี | น. ผู้ที่เคยร่วมสร้างบุญบารมีกันมาก่อนและมาสนับสนุนเกื้อกูลกันในปัจจุบัน, สิ่งประดับบารมี. | คู่บุญบารมี | น. ผู้ที่เคยร่วมสร้างบุญกุศลกันมาในชาติก่อนและมาสนับสนุนเกื้อกูลกันในปัจจุบัน เช่น พระนางมัทรีเป็นคู่บุญบารมีของพระเวสสันดร. | เครือข่าย | น. ระบบ เส้นทาง หรือการปฏิบัติงานที่ติดต่อประสานกันเป็นโยงใย เช่น เครือข่ายโทรคมนาคม เครือข่ายวิทยุชุมชน, กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่มีความเห็นใกล้เคียงกัน มีการติดต่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น เครือข่ายนักวิจัย. | โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ | น. โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่ดินและพระราชทรัพย์สำหรับจัดทำแปลงเกษตรผสมผสาน สนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อทดลองค้นคว้าหารูปแบบการประกอบอาชีพของชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม และเป็นสถานที่ฝึกอบรมการเกษตรภาคปฏิบัติให้นักศึกษาและประชาชนที่สนใจนำไปประยุกต์ใช้ เช่น โครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ชุมพร อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร. | เจือสม | ก. มีความสอดคล้องหรือสนับสนุนให้น่าเชื่อ เช่น คำให้การของพยานโจทก์กับพยานจำเลยเจือสมกัน. | เชียร์ | ส่งเสริมหรือสนับสนุน เช่น เชียร์ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง. | นาวิน | น. คนเรือ, ทหารเรือที่ทำหน้าที่ทางเรือ และสนับสนุนการยุทธ์ทางเรือ. | แนวร่วม | น. ประชาชนที่มีความคิดคล้อยตามและให้การสนับสนุนแก่พวกที่มีความคิดเห็นในแนวเดียวกัน. | แนวหลัง | น. ผู้ที่ไม่ได้ไปรบด้วย ได้แก่พลเรือนผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง. | บวก | ว. ที่เป็นไปในทางสนับสนุน ทางดี หรือเชิงสร้างสรรค์ เช่น มองในทางบวก | พรรคนาวิน | (พัก-) น. เหล่าของทหารเรือที่ทำหน้าที่ทางเรือ และสนับสนุนการยุทธ์ทางเรือ. | แม้ | คำสนับสนุนข้ออ้างให้เห็นเด่นขึ้นโดยอาศัยการเปรียบเทียบ เช่น อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย แม้เด็กก็เข้าใจ. | ยุทโธปกรณ์ | น. วัสดุอุปกรณ์ทั้งปวงและยุทธภัณฑ์ทุกชนิดซึ่งใช้ในราชการทหาร รวมทั้งเครื่องมือยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่สาธารณูปโภคอันจำเป็นเพื่อปฏิบัติการรบหรือเพื่อดำรงและสนับสนุนกิจกรรมทางทหารโดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีความมุ่งหมายทางธุรการหรือทางการรบ. | เรือประจัญบาน | น. เรือรบขนาดใหญ่ระวางขับน้ำประมาณ ๒๐, ๐๐๐ ตันขึ้นไป มีเกราะป้องกันตนเอง มีอาวุธสมัยใหม่หลายประเภท รวมทั้งอาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ มีหน้าที่หลักในการต่อตีเรือข้าศึก และระดมยิงฝั่งเพื่อสนับสนุนการรบสะเทินน้ำสะเทินบก. | เรือลาดตระเวน | น. เรือรบขนาดใหญ่ ระวางขับน้ำประมาณ ๖, ๐๐๐-๒๐, ๐๐๐ ตัน มีความเร็วและมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากกว่าเรือประจัญบานมีหน้าที่ลาดตระเวน ตรวจการรุกล้ำทางฝั่งน้ำและทางอากาศยาน คุ้มกัน สนับสนุนกองเรือลำเลียงเป็นต้น. | ลาดตระเวน | น. เรียกเรือรบขนาดใหญ่ประเภทหนึ่ง มีหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อค้นหา ทำลายเรือรบข้าศึก และให้ความคุ้มกันสนับสนุนกองเรือลำเลียงของฝ่ายตน ว่า เรือลาดตระเวน. | ลุ้น | ก. เอาใจช่วยเต็มที่ เช่น นั่งลุ้นฟุตบอลอยู่ข้างสนาม, สนับสนุน เช่น ลุ้นให้ได้ตำแหน่ง. | ลูกคู่ | น. คนร้องรับต้นเสียง เช่น ลูกคู่ละครร้อง ลูกคู่ละครรำ, คนร้องรับพ่อเพลงแม่เพลง เช่น ลูกคู่เพลงฉ่อย ลูกคู่ระบำชาวไร่, โดยปริยายหมายถึงผู้สนับสนุน เช่น พอนายพูด ลูกน้องก็รับเป็นลูกคู่. | ลูกหนุน | น. ผู้สนับสนุนให้กำลังใจในการกีฬาหรือการต่อสู้เป็นต้น. | วิ่งเต้น | ก. พยายามติดต่ออย่างเต็มที่เพื่อขอความสนับสนุนช่วยเหลือในกิจที่ต้องประสงค์ เช่น วิ่งเต้นฝากงาน. | ส่งเสริม | ก. เกื้อหนุน, ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดีขึ้น, เช่น ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการศึกษา. | สันนิบาตเทศบาล | น. องค์กรของเทศบาลทั่วประเทศรวมทั้งเทศบาลเมืองพัทยาและกรุงเทพมหานคร ซึ่งรวมตัวกันโดยมีจุดมุ่งหมายช่วยเหลือ สนับสนุน และติดต่อประสานงานเทศบาลทั่วประเทศ โดยไม่มีจุดประสงค์ทางการเมือง เรียกว่า สันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย. | เส้นแข็ง | ผู้มีอำนาจสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง. | เสียงเงียบ | น. กลุ่มชนที่ยังไม่ออกเสียงแสดงความคิดเห็นของตนให้ปรากฏชัดว่าจะสนับสนุนฝ่ายใด. | เสือป่า | น. ผู้ช่วยพลรบซึ่งมีหน้าที่สอดแนมเพื่อสนับสนุนกองทหาร. | หนุนหลัง | สนับสนุนอยู่ข้างหลัง. | หาเสียง | ก. แสวงหาการสนับสนุน. | องค์การบริหารส่วนจังหวัด | น. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่งที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยทับซ้อนกับพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบอื่น มีอำนาจหน้าที่ในการประสานและร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น รวมตลอดทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่อยู่ในเขตพื้นที่ของตน. (ดู ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ประกอบ) | อนุรักษนิยม | (อะนุรักสะนิยม, อะนุรักนิยม) น. อุดมคติทางการเมือง การเศรษฐกิจ เป็นต้น ที่มีแนวโน้มไปในทางต้านทานการเปลี่ยนแปลง โดยยึดถือสนับสนุนระเบียบที่ตั้งมั่นอยู่แล้ว. | อุดหนุน | ก. ช่วยเหลือสนับสนุน เช่น บริษัทเอกชนอุดหนุนการจัดงานวันเด็ก, ช่วยเหลือให้อยู่ได้ เช่น ร้านนี้มีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นประจำ. | อุปถัมภ์ | (อุปะถำ, อุบปะถำ) น. การคํ้าจุน, การคํ้าชู, การสนับสนุน, การเลี้ยงดู. | อุปถัมภ์ | (อุปะถำ, อุบปะถำ) ก. คํ้าจุน, คํ้าชู, สนับสนุน, เลี้ยงดู. | อุปถัมภก | (อุปะถำพก, อุบปะถำพก) น. ผู้คํ้าจุน, ผู้ค้ำชู, ผู้สนับสนุน, ผู้เลี้ยงดู. |
| pronatalist | ผู้สนับสนุนการเกิด, ที่สนับสนุนการเกิด [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | radicalism | คติมูลวิวัติ, คตินิยมการเปลี่ยนถึงรากฐาน, ลัทธิสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ต้นตอ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | syndicalism, criminal | การสนับสนุนการกระทำความผิดอาญา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | sympathetic strike; strike, sympathetic | การนัดหยุดงานสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | support | พยุง, สนับสนุน, อุปการะ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | secondary party | ๑. ผู้สมรู้, ผู้สนับสนุน (ก. อาญา)๒. ผู้สั่งจ่าย, ผู้สลักหลัง (ก. พาณิชย์) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | strike, sympathetic; sympathetic strike | การนัดหยุดงานสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | acclamation | การเปล่งเสียงสนับสนุน, การปรบมือสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | agency, auxiliary; auxiliary agency | หน่วยงานสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | accessory | ๑. ผู้สนับสนุนการกระทำผิด (ก. อาญา)๒. อุปกรณ์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | aid; abet | ผู้สนับสนุนผู้กระทำผิดอาญา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | art and part | ผู้สนับสนุนการกระทำความผิดอาญา (ก. สกอตแลนด์) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | abet; aid | ผู้สนับสนุนผู้กระทำผิดอาญา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | advocate | ๑. ทนายความ๒. กล่าวสนับสนุน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | auxiliary agency; agency, auxiliary | หน่วยงานสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | backing | ๑. การสลักหลัง (ตั๋วเงิน) (ก. พาณิชย์) [ ดู endorsement และ indorsement ]๒. การสนับสนุน (ก. ทั่วไป) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | criminal syndicalism | การสนับสนุนการกระทำความผิดอาญา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | citation of authorities | การอ้างหลักหรือผู้รู้เพื่อสนับสนุน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | corroborating evidence | พยานหลักฐานสนับสนุน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | corroboration | การหาพยานหลักฐานสนับสนุน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | decision support system (DSS) | ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (ดีเอสเอส) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | DSS (decision support system) | ดีเอสเอส (ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | endorsement | การสนับสนุน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | innocent agent | ผู้สนับสนุนโดยไม่รู้ (ก. อาญา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Decision support system | ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Decision support system | ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Task related monitoring | การเฝ้าสังเกตตามภารกิจ, การตรวจติดตามปริมาณรังสีที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อให้ได้ข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนสำหรับการบริหารจัดการในการปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเป็นการเฝ้าสังเกตรายบุคคล หรือ การเฝ้าสังเกตสถานปฏิบัติการ [นิวเคลียร์] | system support | การสนับสนุนระบบ, Example: งานช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้การใช้คอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ [คอมพิวเตอร์] | Accomplices | ผู้สนับสนุนการกระทำผิด [TU Subject Heading] | Corporate sponsorship | การสนับสนุนเชิงธุรกิจ [TU Subject Heading] | Decision support systems | ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ [TU Subject Heading] | Income tax deductions for political contributions | การนำเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนทางการเมืองมาหักลดหย่อนภาษี [TU Subject Heading] | Performing arts sponsorship | การสนับสนุนเชิงธุรกิจในการแสดง [TU Subject Heading] | Sports sponsorship | การสนับสนุนเชิงธุรกิจในกีฬา [TU Subject Heading] | Support services (Management) | บริการสนับสนุนปฏิบัติการ (การจัดการ) [TU Subject Heading] | Supportive Industry | อุตสาหกรรมสนับสนุน, Example: อุตสาหกรรมผลิตสินค้าส่วนประกอบ ที่ใช้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค เช่น อุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้า ถือเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่จำเป็นของอุตสาหกรรมผลินชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ความพร้อมของอุตสาหกรรม ที่ผลิตสินค้าสนับสนุนที่จำเป็นนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้ [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Cultural Fund | กองทุนวัฒนธรรมอาเซียน จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนการดำเนินกิจกรรม/โครงการความ ร่วมมือของอาเซียนทางด้านวัฒนธรรมและสนเทศ โดยในปี พ.ศ. 2521 รัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาคเงินจำนวน 5, 000 ล้านเยน หรือประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่กองทุนฯ เพื่อนำดอกผลไปใช้ในการสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมความร่วมมือต่าง ๆ [การทูต] | ASEAN Foundation | มูลนิธิอาเซียน จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสร้าง จิตสำนึกของความเป็นอาเซียนในหมู่ประชาชน และเพื่อให้การสนับสนุนกิจกรรม/โครงการเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกอาเซียนอย่างเท่าเทียมกัน มีสำนักงานอยู่ที่กรุงจาการ์ตา [การทูต] | ASEM Trust Fund | กองทุนอาเซม " เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นในธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟูและ การพัฒนา (World Bank) โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอาเซม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในเอเชียที่ประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ " [การทูต] | ASEAN Industrial Cooperation Scheme | โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาเซียน เป็นมาตรการเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบการผลิตในรูปสินค้าสำเร็จ รูป/กึ่งสำเร็จรูป เพื่อใช้ในการผลิตทางอุตสาหกรรมระหว่างบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอาเซียน อันจะเป็นการสนับสนุนการแบ่งกันผลิตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาค อุตสาหกรรมในอาเซียน โดยจะต้องเป็นความร่วมมือตั้งแต่สองประเทศขึ้นไป และมีคนชาติประเทศสมาชิกอาเซียนมีหุ้นส่วนอยู่ในแต่ละบริษัทอย่างน้อยร้อยละ 30 สินค้าที่ได้รับอนุมัติให้อยู่ในโครงการจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรใน อัตราร้อยละ 0-5 ในทันที โดยไม่ต้องรอให้เขตการค้าเสรีอาเซียนมีผลบังคับใช้ [การทูต] | Amendments to the Charter of the United Nations | การแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต] | Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] | ASEAN Regional Forum | การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) " [การทูต] | ASEAN Secretariat | สำนักเลขาธิการอาเซียน " ตั้งอยู่ที่กรุงจาการ์ตา มีหน้าที่ให้การสนับสนุนงานการประชุม ประสานงาน และเสนอข้อคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ และมีเลขาธิการอาเซียนเป็น หัวหน้าสำนักงาน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี ทั้งนี้ นายแผน วรรณเมธี เป็นคนไทยคนเดียวที่เคยดำรงตำแหน่งนี้ ระหว่าง ปี พ.ศ. 2527-2529 " [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | Committee of Permanent Representatives to ASEAN | คณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน ประกอบด้วยผู้แทนถาวร (ระดับเอกอัครราชทูต) ประจำอาเซียนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับสำนัก เลขาธิการอาเซียนสนับสนุนการทำงานของคณะมนตรีประชาคมอาเซียนรวมทั้งองค์กร ระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาต่าง ๆ [การทูต] | Declaration | คำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต] | Extradition | การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต] | Friends of Young Ambassador of Virtue | เพื่อนยุวทูตความดี " หมายถึง สถานทูตและสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ สถานทูตต่าง ประเทศในประเทศไทย องค์กรหรือภาคเอกชนทั้งของไทยและของต่างประเทศ ที่ตอบรับเป็นผู้สนับสนุนและสนใจที่จะทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนในโครงการยุว ทูตความดี " [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | International Conference on Financing for Development | การประชุมนานาชาติว่าด้วยการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับการพัฒนา [การทูต] | International Finance Corporation | บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ มีความเกี่ยวเนื่องกับธนาคารโลก แม้ว่าจะมีสถานะเป็นองค์กรแยก ต่างหาก IFC มีหน้าที่สนับสนุนภาคเอกชนในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ [การทูต] | International Law Enforcement Academy | สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2541 เป็นโครงการ 3 ปี (ระหว่าง 2541-2544) โดยสหรัฐอเมริกาให้เงินสนับสนุน 3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจัดการฝึกอบรมแก่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินการตามกฎหมายในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ระหว่างประเทศ [การทูต] | United Nations International Research and Training Institute for the Advancement of Women | สถาบันวิจัยและฝึกอบรมระหว่างประเทศเพื่อความก้าวหน้าของสตรีแห่งสหประชา ชาติ เป็นสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินบริจาคโดยสมัครใจจากประเทศสมาชิก มีเป้าหมายที่จะเร่งรัดและช่วยเหลือให้สตรีสามารถมีบทบาทอย่างแข็งขันและ อย่างเท่าเทียมกันในกระบวนการพัฒนา [การทูต] | Inter-Governmental Maritime Consultative Organization | องค์การที่ปรึกษาทางทะเลระหว่างรัฐบาล หมายถึงองค์การที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างรัฐบาล องค์การนี้มีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษแห่งหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ ประเทศทั้งหมดรวม 35 ประเทศ ได้ประชุมร่วมกันจัดทำอนุสัญญาขององค์การนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ในการประชุมขององค์การที่ปรึกษาการเดินเรือทางทะเล ณ กรุงเจนีวา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญามีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1958 เมื่อมีประเทศต่าง ๆ รวม 21 ประเทศได้ให้สัตยาบัน ซึ่งในจำนวนนี้ 7 ประเทศเป็นอย่างน้อยจะต้องมีเรือเดินทะเลของตนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน (Gross tons) วัตถุประสงค์ขององค์การ IMCO คือ1. จัดวางกลไกเพื่อความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิก ในด้านการวางระเบียบข้อบังคับของราชการ และการปฏิบัติซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องทางวิชาการหรือเทคนิค รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล2. สนับสนุนให้มีการยกเลิกการกระทำที่เลือกที่รักมักที่ชัง และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นของรัฐบาล3. รับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติในทำนองตั้งข้อจำกัดอย่างไม่ยุติธรรมของบริษัท หรือองค์การเดินเรือทั้งหลาย4. รับพิจารณาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ ที่องค์การหนึ่งใดหรือองค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติส่งมาให้พิจารณา 5. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อสนเทศใด ๆ ระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องที่องค์การ IMCO กำลังพิจารณาอยู่องค์การนี้ยังจัดให้มีการร่างอนุสัญญาและความตกลงต่าง ๆ รวมทั้งส่งข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปให้รัฐบาล และองค์การระหว่างรัฐบาลทั้งหลาย รวมทั้งจัดการประชุมเท่าที่พิจารณาเห็นว่าจำเป็นองค์การนี้ประชุมกันทุกสอง ปี มีหน้าที่วางนโยบายเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างสมัยประชุมจะมีคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ทำหน้าที่บริหารงานในองค์การ คณะมนตรีประกอบด้วยสมาชิก 16 คน ในจำนวนนี้ 8 คน เป็นผู้แทนจากประเทศที่สนใจให้การบริการเกี่ยวกับการเดินเรือระหว่างประเทศ และอีก 8 คนเป็นตัวแทนจากประเทศที่สนใจการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ องค์การมีสำนักเลขาธิการ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ เลขานุการคณะกรรมการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล และเจ้าหน้าที่ประจำตามจำนวนที่องค์การต้องการแล้วแต่กรณี สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ [การทูต] | International Force in East Timor | กองกำลังนานาชาติในติมอร์ตะวันออก จัดตั้งขึ้นตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1264 (1999) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2542 มีภารกิจหลัก 3 ประการ คือ ฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในติมอร์ตะวันออก ป้องกันและสนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ และอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กองกำลังนานาชาติปฏิบัติหน้าที่ในติมอร์ตะวันออกจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2543 [การทูต] | International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] | International Finance Corporation | คือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1956 และเริ่มมีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษที่มีสัมพันธ์กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1957 แม้บรรษัทจะดำเนินงานใกล้ชิดกับธนาคารโลก แต่ก็มีฐานะเป็นสิ่งที่มีตัวตนทางกฎหมายแยกต่างหาก และมีกองทุนที่แตกต่างจากกองทุนของธนาคารโลกด้วยวัตถุประสงค์ของบรรษัทคือ ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนให้การผลิตของวิสาหกิจของเอกชนในประเทศสมาชิกเจริญเติบโตยิ่ง ขึ้น การที่จะกระทำตามวัตถุประสงค์นี้ได้ บรรษัทจะนำเงินไปลงทุนในวิสาหกิจด้านการผลิตฝ่ายเอกชน โดยดำเนินงานร่วมกับเอกชนผู้ลงทุน ทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) คล้ายกับเป็นแหล่งรวมโอกาสต่าง ๆ ของการลงทุนฝ่ายเอกชนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ รวมทั้งฝ่ายจัดการที่มีประสบการณ์ชำนาญ นอกจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นการลงทุนด้านการผลิตของเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศด้วย บรรษัทยังได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเงินโดยใช้วิธีขายพันธบัตรของตนเอง รวมทั้งตั๋วสัญญาการใช้เงินบรรษัทการเงินระหว่างประเทศดำเนินงานโดยองค์กร ต่าง ๆ ของตน คืออำนาจทั้งหมดของบรรษัทจะขึ้นอยู่กับคณะผู้ว่าการ (Board of Govemors) ประกอบด้วยผู้ว่าการและผู้ว่าการสำรอง (Altemates) จากธนาคารโลกซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศต่าง ๆ อันเป็นสมาชิกของบรรษัทด้วย คณะผู้ว่าการจะคอยควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบรรษัทให้ถูกต้อง ตัวประธานธนาคารโลก จะทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้ว่าการของบรรษัทโดยตำแหน่งด้วย บรรษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี [การทูต] | International Telecommunication Union | สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ มีหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศกำลังพัฒนาในด้านโทรคมนาคม สนับสนุนการพัฒนาในด้านดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชาติทั้งปวง [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | The New Partnership for Africa?s Development | หุ้นส่วนใหม่เพื่อการพัฒนาแอฟริกา เป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแอฟริกา มีวัตถุประสงค์ในการ ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศแอฟริกา การขจัดความยากจนและการขจัดความเสียเปรียบของประเทศแอฟริกาในยุคโลกาภิวัตน์ NEPAD พัฒนามาจากการประชุม สุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ซึ่งในการประชุมนี้ ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ประธานาธิบดีไนจีเรีย และประธานาธิบดี แอลจีเรียได้เสนอต่อที่ประชุม ขอให้กลุ่มประเทศเหนือและประเทศใต้ร่วมกันแก้ปัญหาที่ทั้งสองกลุ่มประเทศ เผชิญอยู่ บนพื้นฐานของ ผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเน้นการพัฒนาประเทศที่ยากจน เช่น ประเทศ ในภูมิภาคแอฟริกา ต่อมาบรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศแอฟริกาได้ร่วมกันกำหนดแผนพัฒนาแอฟริกาสำหรับ ใช้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศพัฒนาแล้วในเวทีการประชุมระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เรียกว่า New Africa Initiative (NAI) ที่ประชุมองค์การเอกภาพแอฟริกา หรือ OAU (ซึ่งต่อมากลายเป็น African Union ? AU) ได้เห็นชอบต่อแผน NAI ดังกล่าวในเดือนกรกฎาคม 2544 ผู้นำของประเทศแอฟริกาได้นำเสนอ NAI ต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 เมื่อปี พ.ศ. 2544 และได้รับการปรับปรุงแก้ไขจนเป็น NEPAD ในปัจจุบัน [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Plan Puebla-Panama | สมาชิก เม็กซิโก เบลิซ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ นิการากัว คอสตาริกา และปานามา วัตถุประสงค์ ริเริ่มโดยประธานาธิบดี Vicente Fox ของเม็กซิโก เมื่อปี พ.ศ. 2543 เพื่อแสวงหาความร่วมมือและให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ประเทศภูมิภาค อเมริกากลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมและสาธารณูปโภค เช่น ถนน สายส่งไฟฟ้า ท่อก๊าซ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจจากเม็กซิโกลงไปยังประเทศทางตอนใต้ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศร่วมกัน และเพื่อแก้ไขปัญหาการอพยพของแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศในแถบอเมริกากลางเข้า สู่เม็กซิโก หมายเหตุ Puebla เป็นชื่อเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก และเป็นจุดเริ่มต้นโครงการ ซึ่งสิ้นสุดที่ปานามา [การทูต] | Presentation of Credentials | หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต] | Regional Operate Center | ศูนย์ปฏิบัติการร่วม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ROC เป็นโครงการนำร่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงมหาดไทย สำนักงาน ก.พ.ร. และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2549 เพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่างเอกอัครราชทูตในประเทศเพื่อนบ้านกับผู้ว่า ราชการจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำหน้าที่ประสานเชื่อมโยงการทำงานระหว่างเอกอัครราชทูตกับผู้ว่าราชการ จังหวัด เพื่อบูรณาการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ให้สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศ รวมทั้งให้บริการข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ การพัฒนาสมรรถนะบุคลากรและงานวิจัยในท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศ [การทูต] | second, support a proposal | รับรอง, สนับสนุนข้อเสนอ [การทูต] | Third Country Training Program | โครงการฝึกอบรมประเทศที่สาม " เป็นรูปแบบการให้ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกรมวิเทศสหการกับองค์การ ระหว่างประเทศและ/หรือรัฐบาลต่างประเทศในการจัด หลักสูตรการศึกษา/ฝึกอบรม/ดูงานให้แก่ผู้รับทุนจากประเทศกำลังพัฒนา โดยองค์การระหว่างประเทศหรือรัฐบาลต่างประเทศเป็น ผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายของผู้รับทุนและค่าใช้จ่ายในการศึกษา/ฝึกอบรม/ ดูงาน " [การทูต] | Tokyo International Conference on African Development | การประชุมระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาแอฟริกา ณ กรุงโตเกียว " เป็นการริเริ่มของรัฐบาลญี่ปุ่น ร่วมกับองค์การสหประชาชาติและ องค์การ Global Coalition for Africa เพื่อสนับสนุนการพัฒนาใน ภูมิภาคแอฟริกา ในรูปของความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียกับ แอฟริกาอย่างเป็นรูปธรรมและมีเอกภาพ โดยเป็นการประชุมในระดับรัฐมนตรี และมีการประชุมแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก (TICAD I) มีขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคม 2536 โดยมีการรับรองเอกสารปฏิญญา กรุงโตเกียว (Tokyo Declaration) ซึ่งเป็นสัญญาประชาคมที่ประเทศต่าง ๆ จะให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่แอฟริกา และครั้งที่ 2 (TICAD II) มีขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม 2541 โดยมีการรับรองแผนปฏิบัติการกรุงโตเกียว (Tokyo Agenda for Action) ซึ่งเป็น แนวทางในการพัฒนาแอฟริกาในด้านต่าง ๆ ทั้งสังคมและเศรษฐกิจ " [การทูต] | Universal Declaration of Human Rights | ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เป็นเอกสารหลักด้านสิทธิมนุษยชนฉบับแรก ซึ่งที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติให้การรับรองตามข้อมติที่ 217 A (III) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2491 โดยไทยออกเสียงสนับสนุน [การทูต] | United Nations Mine Action Service | องค์กรสนับสนุนการปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งสห ประชาชาติ [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
| Now you want my support for the Douglas Chair. | ตอนนี้คุณต้องการการสนับสนุนจากผม สำหรับ ดักกลาส แชร์ Basic Instinct (1992) | I need your support. | ผมอยากให้คุณสนับสนุนผม The Lawnmower Man (1992) | Look, without The Shop's financial involvement... this project wouldn't exist. | ฟังนะ ถ้าไม่มีเงินทุนสนับสนุนจากอจค์กร โครงการนี้คงไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ The Lawnmower Man (1992) | "Nuff people say you know they can't believe' | # หลายคนบอกว่าไม่เชื่อ # " ช่วยสนับสนุนทีมบ๊อบสเลดจาไมก้า " Cool Runnings (1993) | They are the IRA's support network. | พวกเขาเป็นเครือข่ายสนับสนุน, บ้านมือสองของ In the Name of the Father (1993) | The Crown's case against them is... that they are a support network for the bombers, and as such... | กรณีของคราวน์ พวกเขาก็คือ ... ว่าพวกเขามีเครือข่ายสนับสนุน สำหรับการทิ้งระเบิดแล? In the Name of the Father (1993) | There has got to be an explanation. | - ไม่มีอะไรสนับสนุนความคิดนั้น - ไม่มีอะไรเป็นวิทยาศาสตร์ Deep Throat (1993) | - You're aware of that? - Yes, sir. | ..หลักการ และความเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ ดูเหมือนจะไม่สนับสนุนเรื่องราวเลย Deep Throat (1993) | There were, of course, crimes committed. | ฉันไม่พบเหตุการณ์ใดตามควร ที่จะสนับสนุน การสืบสวนครั้งนี้ Deep Throat (1993) | Unwitting victims of this madness they sometimes encouraged, which has turned against them. | พวกเขาเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ของความบ้าคลั่งนี้ พวกเขาบางครั้งสนับสนุน และสิ่งที่เปลี่ยน ไปเป็นคือต่อต้าน และพวกเขากำลังอพยพ Wild Reeds (1994) | Here she is, the missing link, the witness who will help supply the motive. | นี่ไงครับ ตัวเชื่อมที่ขาดหายไป พยานที่จะช่วยสนับสนุนเรื่องเเรงจูงใจ Rebecca (1940) | So he gambled for support and I gave it to him. I respect his motives. | ดังนั้นเขาจึงเล่นการพนันที่ให้การสนับสนุนและฉันมอบมันให้กับเขา ผมเคารพในแรงจูงใจของเขา 12 Angry Men (1957) | Don't encourage him! | ไม่สนับสนุนให้เขา Help! (1965) | The other New York families might support Sollozzo to avoid a long war. | อื่น ๆ ครอบครัวนิวยอร์กอาจสนับสนุน Sollozzo เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม The Godfather (1972) | Mr. Landers, we really find insufficient documentation to support your claim. | คุณแลนเดอร์สครับ เราพบว่าเป็นคำอ้างอิงที่ไม่เพียงพอ ในการสนับสนุนคำพูดของคุณ Oh, God! (1977) | Will you support the war effort? | คุณสนับสนุนสงครามหรือเปล่า Gandhi (1982) | He told the press he'd support the British in the war. | เขาให้ข่าวว่า จะสนับสนุนอังกฤษในสงคราม Gandhi (1982) | And it's their privilege to nourish the effort of the few who can raise India from servitude and apathy. | พวกเขามีสิทธิที่จะสนับสนุนคน ที่สามารถดึงอินเดียให้พ้นจาก ความเป็นทาสและเฉื่อยชาได้ Gandhi (1982) | And those of us who supported it and those of us who refused must forget our differences. | พวกเราที่สนับสนุน และพวกเราที่ปฏิเสธ จะต้องลืมความแตกต่างของเรา Gandhi (1982) | I will not support it. | ผมไม่สนับสนุน Gandhi (1982) | Don't patronize me. I'm getting nauseous. | อย่าสนับสนุนฉัน ฉันได้รับ คลื่นไส้ 2010: The Year We Make Contact (1984) | Maybe you'd better patronize me a little. | บางทีคุณควรที่จะสนับสนุนฉัน เพียงเล็กน้อย 2010: The Year We Make Contact (1984) | They dig for the gems to support our cause. | พวกเขาขุดหาอัญมณีที่จะสนับสนุนให้เกิดของเรา Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | I'd be even happier knowing that the people who loved you were helping you to do that. | แม่จะยิ่งสุขใหญ่... ...ถ้าคนที่รักลูกสนับสนุนลูก Punchline (1988) | Mr. Harris, the so-called novels of Terence Mann ... endorse promiscuity, godlessness, the mongrelization of the races, and disrespect to high-ranking officers of the United States Army. | คุณแฮร์ริส นวนิยาย ของเทอเรนซ์ แมนน์... สนับสนุนความสำส่อน ความไม่เชื่อในพระเจ้า การผสมข้ามเผ่าพันธุ์... Field of Dreams (1989) | All right. Now, who's for the Bill of Rights? | เอาล่ะ ทีนี้ ใครสนับสนุนกฎหมายสิทธิเสรีภาพ Field of Dreams (1989) | Still backing your Russia, Barley? | ยังคงสนับสนุนรัสเซียของข้าวบาร์เลย์? The Russia House (1990) | Good. Plugging the store's merchandise. | ดีมาก สนับสนุนสินค้าของห้างฯ Mannequin: On the Move (1991) | I always painted. And my mom always encouraged me. | ผมชอบวาดรูปมาแต่เล็ก และแม่แกก็สนับสนุน As Good as It Gets (1997) | Major contribution: | หลักฐานสนับสนุน : Pi (1998) | Biz müþterilerimizin baðlýlýklarýný cesaretlendirdik, ve yardýmýnýzý istiyoruz ürün testinde. | จากการสนับสนุนจากท่านลูกค้าชั้นดี เราต้องการให้ท่านช่วย eXistenZ (1999) | If I fall asleep, ... ..I'm done for. | เธอรุกรานกลุ่มผู้สนับสนุนผม และเธอก็รุกรานบ้านผม เฮ้ย เฮ้ย, นั่งก่อน Fight Club (1999) | Unfortunately, nobody seems terribly interested in funding my research, but-- | แย่หน่อยที่ไม่มีใครสนใจที่จะให้ ทุนสนับสนุนงานของผม แต่... Bicentennial Man (1999) | I will fund your research. | ผมจะให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยของคุณ Bicentennial Man (1999) | He will surely gain the favor of the parents | เขาจะได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ของอาซาโนะ GTO (1999) | Mr. President, why do you think the public supports you during these impeachment proceedings? | ท่านประธานาธิปดีครับ ท่านคิดว่าทำไมสังคมยังคงให้การสนับสนุนคุณ ในช่วงกระบวนการซักฟอกต่างๆนี้ครับ? Death Has a Shadow (1999) | And your supporters, who are every man, woman and child in Savannah, are so demoralized that they can barely hold down their lunches. | และผู้สนับสนุนคุณ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่... ...เสียหน้าจนแทบอาเจียน The Legend of Bagger Vance (2000) | I'll be counting on your support. | ฉันหวังว่าคงได้รับการสนับสนุนกับทุกคนนะ Autumn in My Heart (2000) | I fully support that. You know that. | ฉันสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว คุณก็รู้ Legally Blonde (2001) | - Vote for Elle! | - สนับสนุนเอลนะคะ Legally Blonde (2001) | I negotiated and recommended you. | ฉันจะฝากฝังและสนับสนุนเธอ Platonic Sex (2001) | A top-secret research facility... owned and operated by the Umbrella Corporation... the Hive houses over 500 technicians, scientists and support staff. | เป็นที่สำหรับการทำโครงการวิจัยลับสุดยอด ที่สร้างขึ้นโดย องค์กรของแอมเบลล่า ที่นี่เป็นบ้านที่อยู่โดยรวมของพนักงานเทคนิค นักวิจัย และทีมสนับสนุน Resident Evil (2002) | Schools is not very supportive of the Department of swimming | โรงเรียนก็เลยไม่สนับสนุน เอกวิชาว่ายน้ำของเราสักที Sex Is Zero (2002) | -Well, we can all use a little support. | - ทุกคนต้องการแรงสนับสนุน Mona Lisa Smile (2003) | It was my choice. Not to go. He would have supported it. | หนูเลือกไม่เรียนเอง เขาคงสนับสนุน Mona Lisa Smile (2003) | And I do believe it's a commercial break. We'll see you soon. Bye-bye. | ต่อไปพบกับผู้สนับสนุนรายการก่อนครับ แล้วพบกันใหม่ครับ Love Actually (2003) | Just because I give a little fledgling some encouragement does not mean that I am neglecting you. | ผมมาสนับสนุนเด็กใหม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทอดทิ้งคุณนะ Swimming Pool (2003) | - He's totally cute. - I bust my ass making a great demo, I can't get anyone to listen to it till this guy, who so obviously just wanted to fuck me. | เค้าน่ารักนะ เค้าออกจะสนับสนุนด้วยซ้ำ ไม่เคยมีใครได้ฟังนอกจากเค้า Latter Days (2003) | - What's the Mormon church's stand on black people? - That's a good question. | โบสถ์ของพวกคุณให้การสนับสนุนคนดำใหม? Latter Days (2003) | You'll need to get a sponsor, attend meetings, but there's no reason you can't do that from your home. | คุณจะต้องหาคนสนับสนุน เข้าประชุม แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำจากบ้านไม่ได้ The O.C. (2003) |
| การหาพยานหลักฐานสนับสนุน | [kān hā phayān lakthān sanapsanun] (n, exp) EN: corroboration | การสนับสนุน | [kān sanapsanun] (n) EN: support ; backing ; sponsoring ; corroboration FR: soutien [ m ] ; support [ m ] ; appui [ m ] ; parrainage [ m ] | ความสนับสนุน | [khwām sanapsanun] (n) EN: support FR: soutien [ m ] | พยานหลักฐานสนับสนุน | [phayān lakthān sanapsanun] (n, exp) EN: corroborating evidence ; corroborative evidence | ผู้สนับสนุน | [phū sanapsanun] (n, exp) EN: backer ; supporter FR: soutien [ m ] | สนับสนุน | [sanapsanun] (v, exp) EN: support ; sponsor ; back ; be in favour of ; be pro ; give support ; patronize ; encourage ; help ; aid ; stick by ; stand up for ; corroborate FR: supporter ; soutenir ; encourager ; aider ; parrainer ; sponsoriser ; être en faveur de ; apporter son soutien ; défendre la cause de ; patronner | สนับสนุน | [sanapsanun] (x) FR: à l'aide de | สนับสนุนโดย | [sanapsanun dōi] (x) EN: sponsored by FR: parrainé par ; avec le soutien de ; avec le concours de | สนับสนุนด้วยวาจา | [sanapsanun dūay wājā] (v, exp) EN: give verbal support to | สนับสนุนข้ออ้างด้วยหลักฐาน | [sanapsanun khø-āng dūay lakthān] (v, exp) EN: back up a claim | สนับสนุนประชาธิปไตย | [sanapsanun prachāthippatai] (v, exp) EN: stand up for democracy FR: défendre la démocratie ; soutenie la démocratie | สนับสนุนวัด | [sanapsanun wat] (v, exp) EN: support temples | ซึ่งมีอำนาจสนับสนุน | [seung mī amnāt sanapsanun] (adj) EN: authoritative | ยกมือสนับสนุน | [yokmeū sanapsanun] (v, exp) EN: agree by a show of hands |
| public education | (n) ระบบการศึกษาของรัฐ ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยรัฐบาลและใช้เงินภาษีช่วยสนับสนุน เช่น โรงเรียนภายใต้การดูแลของรัฐ หรือโรงเรียนรัฐ ถูกเรียกว่า public school (ขณะที่ในอังกฤษ public school คือโรงเรียนอิสระที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากการบริจาคเพื่อให้คนยากจนได้เรียน) | put money where mouth is | 1. สนับสนุนช่วยเหลือโดยการให้สิ่งของ โดยเฉพาะการบริจาคเงิน 2. ลงมือทำ มากกว่าสักแต่พูด เช่น You can put money where your mouth is by asking all involved to put up $1 per post in a donation to relief organizations. | Cancel Culture | [แคน'เซิล คัล'เชอะ] (n) การแบนหรือคว่ำบาตรคนดัง ศิลปิน องค์กร หรือใครก็ตามแต่ที่แสดงความคิดเห็น สนับสนุน หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมลงในโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้คนทั่วไปไม่พอใจหรือผิดหวังในตัวคนคนนั้น | fandom | (n) กลุ่มคนที่ชื่นชอบและคอยสนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มหนึ่งๆ เช่น นักแสดง, ศิลปิน, ทีมกีฬา, See also: fan, Syn. followers |
| adherent | (n) พลพรรค, See also: พรรคพวก, ผู้ติดตาม, ผู้สนับสนุน, สาวก | advocate | (n) ผู้ให้การสนับสนุน, See also: ผู้ให้ความช่วยเหลือ, Syn. supporter, backer | advocate | (vt) สนับสนุน, Syn. support | align | (vt) ประกาศสนับสนุน | alignment | (n) แนวร่วม, See also: ผู้สนับสนุน | alimentation | (n) สนับสนุน | aline | (vt) ประกาศสนับสนุน | alliance | (n) สมาชิก, See also: แนวร่วม, ผู้สนับสนุน | aristocrat | (n) ผู้ที่สนับสนุนการปกครองโดยคนชั้นสูง | assistance | (n) ความช่วยเหลือ, See also: การสนับสนุน, Syn. aid | assistant | (adj) ซึ่งช่วยเหลือ, See also: ซึ่งคอยสนับสนุน, Syn. assisting, helping | authoritative | (adj) ซึ่งมีอำนาจสนับสนุน, See also: ซึ่งแสดงถึงอำนาจ, Syn. well-supported | auxiliary | (n) เครื่องสนับสนุน, See also: เครื่องช่วย, ผู้ที่ช่วยสนับสนุน, Syn. supplement, assistant, helper | back | (vt) สนับสนุน, See also: หนุนหลัง, ผลักดัน, Syn. support | backer | (n) พรรคพวก, See also: ผู้สนับสนุน, Syn. sponsor, benefactor | backing | (n) ความช่วยเหลือ, See also: การสนับสนุน, Syn. encouragement, subsidy | backing | (n) ผู้ช่วยเหลือ, See also: ผู้สนับสนุน | backup | (n) สนับสนุน, See also: ตัวแทน, ผู้สนับสนุน, ผู้ช่วย, Syn. reinforcement, support | behind | (prep) สนับสนุน, See also: อยู่เบื้องหลัง | believer | (n) ผู้ที่เชื่อถือ, See also: ผู้ที่สนับสนุน, Syn. follower, supporter, Ant. opponent | benefactor | (n) ผู้ที่สนับสนุนทางการเงิน, See also: อุปการี, ผู้มีพระคุณ, Syn. patron, sponsor | bolster | (vt) สนับสนุน, See also: หนุนให้สูง, ค้ำจุน, เสริม, Syn. support, boost | bolt | (vt) ไม่สนับสนุน | booster | (n) การส่งเสริม, See also: เครื่องเพิ่มกำลัง, ผู้สนับสนุน, สิ่งกระตุ้น, Syn. auxiliary, helper | bracer | (n) สิ่งค้ำ, See also: ผู้สนับสนุน | buildup | (n) การเสริมกำลัง, See also: การรวมพล, การสร้างเสียงสนับสนุน, Syn. accumulation | business | (n) ผู้สนับสนุน | back up | (phrv) สนับสนุน, See also: ช่วยเหลือ | be for | (phrv) สนับสนุน | be with | (phrv) สนับสนุน, See also: ช่วยเหลือ, เข้าข้างฝ่าย | boost up | (phrv) ทำให้แข็งแรง, See also: สนับสนุน, ส่งเสริม | brace up | (phrv) หนุน, See also: เสริม, ช่วยพยุง, สนับสนุน | buoy up | (phrv) สนับสนุน, See also: ค้ำจุน, ช่วยเหลือ, ให้กำลังใจ | camp follower | (n) ผู้ที่สนับสนุนกลุ่มหรือพรรคการเมือง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก | carry | (vt) สนับสนุน, See also: ค้ำจุน, Syn. sustain | case | (n) เหตุผลสนับสนุน, See also: ข้อสนับสนุน | champion | (vt) ปกป้อง, See also: สนับสนุน เพื่อปกป้อง, Syn. advocate, defend, maintain, support fight for, Ant. oppose | champion | (n) ผู้ให้ความช่วยเหลือ, See also: ผู้สนับสนุน, Syn. admirer, booster, supporter, protagonist, Ant. adversary, opponent | circumstantiate | (vt) ให้รายละเอียด, See also: ให้เหตุผลสนับสนุน | campaign against | (phrv) รณรงค์เพื่อ, See also: หาเสียงสนับสนุน, Syn. agitate for, campaign against, crusade against, crusade for | campaign for | (phrv) รณรงค์เพื่อ, See also: หาเสียงสนับสนุน, Syn. agitate for, campaign against, crusade against, crusade for | canvass for | (phrv) ลงเสียงสนับสนุน (ก่อนการเลือกตั้งจริง), See also: ออกเสียงให้ | carry someone with one | (idm) ชักจูง, See also: โน้มน้าว, ชักชวน, ชักนำความคิด, สนับสนุน | count out | (phrv) ออกจากการเลือกตั้งเพราะเสียงสนับสนุนไม่ถูกต้อง | decide for | (phrv) ตัดสินสนับสนุน (ทางกฎหมาย), See also: สนับสนุน, Syn. find for, Ant. decide against, find against | encourage in | (phrv) ทำให้มีกำลังใจในเรื่อง, See also: สนับสนุนในเรื่อง | fall away | (phrv) เลิกสนับสนุน, See also: ตีตัวออกห่าง, Syn. fall off | fall off | (phrv) ตีตัวออกห่าง, See also: เลิกสนับสนุน, Syn. fall away | deliver | (vt) ออกเสียง (คำไม่เป็นทางการ), See also: สนับสนุน, Syn. support, vote | dissentient | (adj) ที่ไม่เห็นด้วย, See also: ที่ไม่สนับสนุน, Syn. opposed, contrary |
| abet | (อะเบท') vt. ให้กำลังใจ, สนับสนุน -abetment, abettal n. | acclaim | (อะเคลม') vt., n. เปล่งเสียงด้วยความ ยินดี, โห่ร้องต้อนรับ, สนับสนุนด้วยการโห่ร้อง, เสียงไชโยโห่ร้อง -acclamation n., Syn. hail | adherent | (แอดเฮีย' เรินทฺ, -เฮอ' เรินทฺ) n. ผู้สนับสนุน, ผู้ยึดมั่น, สาวก, ผู้ติดตาม, Syn. follower | advocacy | (แอด' โวคะซี) n. การเป็นทนาย, ทนาย, การสนับสนุน, ผู้สนับสนุน, การแก้ต่าง | agree | (อะกรี') vt., vi. ตกลง, เห็นพ้อง, ยอมรับ, เห็นด้วย, ยินยอม, สนับสนุน, ตกลงกำหนด, เข้ากันได้, ลงรอย, เหมือน, เหมาะ สมกับ. -agreeingly adv., Syn. concur, comply, assent | aliment | (n. แอล' ละเมินทฺ -v. แอล' ละเมินทฺ') n. อาหาร, สิ่งบำรุงเลี้ยง, สิ่งค้ำจุน. -vt. สนับสนุนค้ำจุน. -alimental adj., Syn. food, nutrition, support | appui | (แอพิว') n., Fr. หนุน, สนับสนุน | aristocrat | (อะริส'โทแครท) n. คนชั้นสูง, ขุนนาง, ผู้นิยมและสนับสนุนระบอบการปกครองแบบคณาธิปไตย, Syn. noblewoman, nobleman, peer, Ant. plebeian, commoner | assist | (อะซิสทฺ') vt., vi. ช่วยเหลือ, สงเคราะห์, สนับสนุน, สงเคราะห์, เข้าร่วม. -assister, assistor n., Syn. aid, help, support, tend, Ant. hinder, hamper | auxiliary | (ออกซิล'เลียรี) adj. เป็นองค์ประกอบ, ช่วย, เพิ่ม, สนับสนุน, หนุน, สำรอง, อยู่ในสังกัด. -n. เครื่องช่วย, เครื่องสนับสนุน, ผู้ช่วย, ผู้สนับสนุน, บุคคลในสังกัด, Syn. assisting, subordinate, helper, Ant. principal | back | (แบค) { backed, backing, backs } n., adj., vi., vt., adv. หลัง, ข้างหลัง, ส่วนหลัง, ด้านหลัง, กองหลัง, ที่เปลี่ยว, กลับคืน, ตรงกันข้าม, ค้างจ่าย, กลับ, ถอย, สนับสนุน, ถือหาง, วางเดิมพันใน, Syn. rear -Conf. re- | backed | (แบคดฺ) adj. ซึ่งมีส่วนหลัง, ซึ่งได้รับการสนับสนุน | backer | (แบค'เคอะ) n. ผู้สนับสนุน, ผ้าใบค้ำหรือหนุนส่วนหลัง, Syn. sponsor | backing | (แบค'คิง) n. ความช่วยเหลือ, การสนับสนุน, ผู้สนับสนุน, สิ่งหนุน, Syn. support, Ant. ill-will | backup | (แบค'อัพ) n. ผู้สนับสนุน, สิ่งค้ำจุน, การท่วมหรือสะสมเพราะอุดตัน, ตัวสำรอง, ตัวแทน | behind | (บิไฮดฺ') adv., prep. ข้างหลัง, หลัง, ล้าหลังกว่า, ช้ากว่า n. ผู้สนับสนุน, ก้น, Syn. aback -Conf. at the back of | bolster | (โบล'สเทอะ) { bolstered, bolstering, bolsters } n. หมอนรองชั้นล่าง, หมอนรอง, หมอนยาว, เหล็กคานรถ, ลูกยางแท่นเครื่อง, ที่หนุนยาว vt. หนุนค้ำ, รอง, ทำให้สูงขึ้น, ออกแรงหมุน, สนับสนุน, ค้ำ, ค้ำจุน, เสริม, See also: bolsterer n. ดูbolster | bolt | (โบลทฺ) { bolted, bolting, bolts } n. ลูกกลอน, ลูกศร, ศร, ดาน, สลักประตู, สลักเกลียว, สลัก, พับ, ม้วน, การหนีอย่างรวดเร็ว, ไกปืน, สลักปืน vt. ใส่กลอน, ใส่สลัก, หยุดการสนับสนุน, ยิง (ลูกศร, ขีปนาวุธ) , พูดโพล่งออกมา, กลืนอย่างรีบเร่ง, กินโดยไม่ได้เคี้ยว, ทำให้เป็นม้วน, วิ่งอย่างรวด | bonaparte | (โบ'นะพาร์ท) n. ชื่อสกุลของนะโปเลียน, See also: bonapartist n. ผู้สนับสนุนราชวงศ์ของนะโปเลียน, เกี่ยวกับราชวงศ์ของนะโปเลียน bonapartism n. ดูBonaparte bonapartean adj. ดูBonaparte | boom | (บูม) { boomed, booming, booms } n. เสียงดังสนั่นหวั่นไหว, การขึ้นสูงอย่างรวดเร็วของราคาหรือการขาย, ระยะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว vi., vt. (ทำให้) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, มีเสียงดังสนั่น, (เจริญรุ่งเรืองพัฒนา) มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว, ยกยอ, สนับสนุน | boost | (บูสทฺ) { boosted, boosting, boosts } vt., n. (การ) ยกขึ้น, เลื่อนขึ้น, ส่งเสริม, พูดจาสนับสนุน, เผยแพร่, เลื่อนตำแหน่ง, เพิ่มขึ้น, Syn. lift, raise | booster | (บูส'เทอะ) n. ผู้สนับสนุน, ผู้ยก, ผู้เลื่อน, สิ่งที่สนับสนุน, สิ่งกระตุ้น, ท่อนแรกของจรวดหลายท่อน, เครื่องเพิ่ม กำลัง -Phr. (booster dose, booster shot ขนาดยาหรือสารสร้างภูมิคุ้มกัน, ยาหรือสารเสริมฤทธิ์ยาตัวอื่น, เครื่องเสริมการขับดัน) | bracer | (เบรส'เซอะ) n. สิ่งค้ำ, ผู้สนับสนุน, เครื่องดื่มที่กระตุ้น (โดยเฉพาะเหล้า) | buoy | (บอย) { buoyed, buoying, buoys } n. ทุ่น, ทุ่นลอยน้ำ, ห่วงชูชีพ vt. ทำให้ลอยน้ำ, ทำให้ไม่จม, สนับสนุน, ค้ำจุน, ให้กำลังใจ vi. ลอย | buttress | (บัท'ทริส) vt., n. (ส่วนที่) ยื่นค้ำ, สนับสนุน, ค้ำจุน, ให้กำลังใจ, Syn. prop | carry | (แค'รี) { carries, carrying, carries } vt. ขนส่ง, แบก, ลำเลียง, หอบ, หาบ, อุ้ม, ยก, ถือติดตัว, นำติดตัว, นำไปสู่, สะพาย, บรรทุก, ส่ง, แพร่กระจาย, ออกข่าว, ประกอบด้วย, สนับสนุน, ค้ำจุน, ผลักดัน, ยืดได้, รับภาระ, วางตัว, ปฏิบัติ, ยกยอด, โอน, มีไว้ในร้าน. vi. ถือติดตัว, มีกำลังดัน, ดัน, ถู เลขทดตัวทดหมายถึง ค่าที่เกิดจากการบวกตัวเลขตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปในหลักเดียวกัน แล้วได้ผลมากกว่าหรือเท่ากับเลขฐาน ซึ่งจะนำไปบวกกับเลขในหลักถัดไป | case | (เคส) { cased, casing, cases } n. เรื่อง, กรณี, สภาพ, ข้อเท็จจริง, หลักฐานพยาน, ตัวอย่างที่เป็นจริง, รูปการ, โรค, คนไข้, ราย, ข้อสนับสนุน, การฟ้องร้อง, คดี, กล่อง, ลัง, หีบ, ปลอกหุ้ม, ปลอก, ซอง, อุปกรณ์บรรจุ, ถาดซองตัวพิมพ์ vt. บรรจุในกล่อง (ลัง, หีบ ฯลฯ) ห่อหุ้ม, ล้อม, ตรวจสอบดู - | champion | (แชม'เพียน) n. ผู้ชนะเลิศ, นักต่อสู้, นักรบ -vt. ป้องกัน, สนับสนุน, กระทำเป็นแชมเปี้ยน -adj. เป็นที่หนึ่งของคนแข่งขันทั้งหมด | championship | (แชม'เพียนชิพ) n.ภาวะที่เป็นแชมเปี้ยน, ตำแหน่งผู้ชนะเลิศ, การป้องกัน, การเป็นทนาย, การสนับสนุน, การแข่งขันเพื่อได้ตัวผู้ชนะเลิศ, Syn. supremacy | cheerless | adj. ไม่ร่าเริง, ไม่มีเสียงโห่ร้องสนับสนุน, เศร้าซึม, หดหู่ใจ. | chirk | (เชิร์ค) { chirked, chirking, chirks } vt., vi. โห่ร้องสนับสนุน, โห่ร้อง adj. ร่าเริง, เป็นสุข, ดีอกดีใจ | cite | (ไซทฺ) { cited, citing, cites } vt. อ้างอิง, กล่าวอ้าง, กล่าวสนับสนุน, ออกหมายเรียกตัวมาศาล, สดุดี, ชมเชย, กระตุ้นเรียกหา., See also: citable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citeable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citer n. ดู citatory adj. | concur | (คันเคอร์') { concurred, concurring, concurs } vi. เกิดขึ้นพร้อมกัน อย่างบังเอิญ, ประจวบกัน, เห็นด้วย, เห็นพ้อง, ทำงานร่วมกัน, ให้ความร่วมมือ, สนับสนุน, รวมกัน, Syn. assent, Ant. contend, deny | concurrence | (คันเคอ'เรินซฺ) n. การบังเกิดขึ้นพร้อมกัน, การประจวบกัน, การเห็นด้วย, การเห็นพ้อง, การให้ความร่วมมือ, การสนับสนุน, จุดบนเส้น 'เส้นหรือมากกว่านั้น, อำนาจร่วมหรือเท่ากัน, Syn. agreement | concurrent | (คันเคอ'เรินทฺ) adj. ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันหรือร่วมกัน, พร้อมเพรียง, ซึ่งเห็นด้วย, ซึ่งมีอำนาจเท่ากัน, ซึ่งมีจุดร่วม, ซึ่งตัดกันที่จุดเดียวกัน. n. ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน, สิ่งสนับสนุน, คู่แข่ง, Syn. coexistent, compatible | contribute | (คันทริบ'บิวทฺ) { contributed, contributing, contributes } vt., vi. ให้เงินช่วยเหลือ, ช่วยเหลือ, อุดหนุน, สนับสนุน, ส่งเรื่องเขียนตีพิมพ์, See also: contributive adj., Syn. give | contribution | (คอนทระบิว'เชิน) n. การบริจาค, การช่วยเหลือ, การอุดหนุน, การสนับสนุน, เรื่องเขียนที่ส่งไปตีพิมพ์, สิ่งที่มอบ, สิ่งที่บริจาค, ภาษีพิเศษ, Syn. grant | corroboration | (คะรอบบะเร'เชิน) n. การหาหลักฐานยืนยัน, การทำให้แน่ใจยิ่งขึ้น, ข้อเท็จจริงหรือคำพูดที่ยืนยันสนับสนุน, Syn. confirmation, proof | countenance | (เคา'นะเนินซฺ) n. หน้าตา, สีหน้า, โฉมหน้า, หน้า, การสนับสนุน, การให้กำลังใจ, สีหน้าที่ใจเย็น, ความสุขุม vt. อนุญาต, ยอม, เห็นด้วย, สนับสนุน, ให้กำลังใจ, See also: countenancer n., Syn. appearance | crutch | (ครัทชฺ) { crutched, crutching, crutches } n. ไม้เท้า, ไม้ยันรักแร้, เสาค้ำ, ง่ามค้ำ, สิ่งค้ำจุนการสนับสนุน. vt. ใช้ไม้ยันรักแร้, ค้ำ, พยุง, Syn. stay, prop, aid | encourage | (เอนเคอ'ริจฺ) vt. ให้กำลังใจ, บำรุงน้ำใจ, ยุ, กระตุ้น, สนับสนุน, See also: encouragement n. ดูencourage encourager n. ดูencourage, Syn. inspirit | espousal | (อีสเพา'เซิล) n. การรับหลักการ, การยอมรับ, การสนับสนุน, การยกให้เป็นภรรยา, พิธีสมรส, การหมั้น, พิธีหมั้น | espouse | (อีสเพาซฺ') vt. รับหลักการ, รับ, สมรส, หมั้น, สนับสนุน -espouser n., Syn. marry | exhort | (เอคซอร์ทฺ') v. เคี่ยวเข็ญ, แนะนำ, ตักเตือน, สนับสนุน., See also: exhortation n. exhorter n. | exponent | (อิคซฺโพ'เนินทฺ) n. ผู้อธิบาย, ผู้ชี้แจง, สิ่งที่อธิบาย, ตัวแทน, แบบฉบับ, สัญลักษณ์, ผู้สนับสนุน, เลขกำลังที่อยู่เหนือสัญลักษณ์, Syn. spokeswoman | facilitate | (ฟะซิล'ลิเทท) vt. ทำให้ง่ายขึ้น, ทำให้สะดวก, สนับสนุน, ส่งเสริม, ก่อให้เกิด., See also: facilitation n. facetiousness adj. facilitator n., Syn. expedite | favor | (ฟะ'เวอะ) n. ความกรุณา, การกระทำที่กรุณา, ความสงเคราะห์, ความประทับใจ, ความนิยม, ความเข้าข้าง, ไมตรีจิต, บุญคุณ, การสนับสนุน, ความเห็นพ้อง, ของขวัญ, ของระลึก, เครื่องหมาย, โบ, สิทธิพิเศษ. -Phr. (in favo (u) r of สนับสนุน, เข้าข้าง) . -Phr. (in one's favo (u) r เพื่อผลประโยชน | favored | (เฟ'เวอด) adj. ซึ่งเป็นที่โปรดปราน, ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษ, ซึ่งได้รับการสนับสนุน | favorite | (เฟ'เวอริท) n. คนโปรด, ของโปรด, ผู้แข่งขันที่มีหวังชนะมากที่สุด. adj. ซึ่งเป็นที่โปรดปราน, ซึ่งได้รับการสนับสนุน | favour | (ฟะ'เวอะ) n. ความกรุณา, การกระทำที่กรุณา, ความสงเคราะห์, ความประทับใจ, ความนิยม, ความเข้าข้าง, ไมตรีจิต, บุญคุณ, การสนับสนุน, ความเห็นพ้อง, ของขวัญ, ของระลึก, เครื่องหมาย, โบ, สิทธิพิเศษ. -Phr. (in favo (u) r of สนับสนุน, เข้าข้าง) . -Phr. (in one's favo (u) r เพื่อผลประโยชน |
| adherent | (n) ผู้ติดตาม, พรรคพวก, ภาคี, สาวก, ผู้สนับสนุน | advocacy | (n) การพูดสนับสนุน, การแก้ต่าง, ทนาย | advocate | (n) ผู้สนับสนุน, ทนายความ, ผู้แก้ต่าง | advocate | (vt) สนับสนุน, เป็นทนาย, พูดแก้ต่าง, โฆษณาชวนเชื่อ | assist | (vt) ช่วยเหลือ, สงเคราะห์, สนับสนุน | auxiliary | (n) ผู้ช่วย, เครื่องช่วย, เครื่องสนับสนุน, ความช่วยเหลือ | back | (vt) สนับสนุน, หนุนหลัง, ถือหาง, วางเดิมพัน | backer | (n) ผู้สนับสนุน, ผู้หนุนหลัง | backing | (n) การสนับสนุน, ความช่วยเหลือ, การหนุน | backup | (n) ผู้สนับสนุน, การค้ำจุน, การสะสม | behind | (n) ผู้หนุนหลัง, ผู้สนับสนุน, ผู้อยู่เบื้องหลัง | booster | (n) ผู้ยก, ผู้สนับสนุน, ผู้ดัน, สิ่งกระตุ้น | bracer | (n) ยาบำรุงกำลัง, เครื่องเหนี่ยวรั้ง, สิ่งค้ำ, ผู้สนับสนุน | champion | (n) ผู้ชนะเลิศ, แชมป์, ผู้สนับสนุน | contribute | (vt) ช่วยเหลือ, อุดหนุน, สนับสนุน, ให้เงินช่วย, มีส่วนช่วย | contribution | (n) การช่วยเหลือ, การบริจาค, การสนับสนุน, การอุดหนุน, การลงทุน | contributor | (n) ผู้ช่วยเหลือ, ผู้สนับสนุน, ผู้ออกเงิน, ผู้บริจาค | contributory | (adj) ที่มีส่วนช่วย, ที่อุดหนุน, ที่สนับสนุน | corroborate | (vt) สนับสนุน, ทำให้แน่ใจ, ยืนยัน, ยืนกราน | corroboration | (n) เครื่องสนับสนุน, การทำให้แน่ใจ, การยืนยัน, การยืนกราน | countenance | (n) การเห็นด้วย, ใบหน้า, โฉมหน้า, สีหน้า, การสนับสนุน | countenance | (vt) เห็นด้วย, เออออ, สนับสนุน, อนุญาต, ยอม, ให้กำลังใจ | encourage | (vt) ส่งเสริม, ยุ, เร้าใจ, ให้กำลังใจ, สนับสนุน | encouragement | (n) การให้กำลังใจ, ความเร้าใจ, การส่งเสริม, การสนับสนุน | espouse | (vt) สมรส, แต่งงาน, หมั้น, สนับสนุน, เข้าครอง, รับหลักการ | exhort | (vt) คะยั้นคะยอ, เคี่ยวเข็ญ, แนะนำ, สนับสนุน | facilitate | (vt) ทำให้สะดวก, ทำให้ง่าย, สนับสนุน, ส่งเสริม | favor | (n) ความชอบ, ความโปรดปราน, ความกรุณา, การสนับสนุน, การเข้าข้าง | favour | (n) ความชอบ, ความโปรดปราน, ความกรุณา, การสนับสนุน, การเข้าข้าง | favour | (vt) ชอบ, ให้, โปรดปราน, พอใจ, นิยม, เข้าข้าง, สนับสนุน | favourably | (adv) อย่างเหมาะ, อย่างชื่นชอบ, โดยการสนับสนุน | following | (adj) ที่ติดไป, ที่ตามมา, ที่สนับสนุน | foster | (vt) เลี้ยง, อุปถัมภ์, ส่งเสริม, สนับสนุน | impulsion | (n) การดัน, การกระตุ้น, การสนับสนุน, การหนุน, การยุ, แรงดลใจ | incitement | (n) การยุยง, การส่งเสริม, การสนับสนุน | indorse | (adj) ที่สลักหลัง, ที่สนับสนุน, ที่รับรอง | indorsement | (n) การสลักหลัง, การรับรอง, การสนับสนุน | pander | (n) ผู้สนับสนุน, ผู้ชักพา, แม่สื่อ | pander | (vt) สนับสนุน, ส่งเสริม, ชักนำ | patronise | (vt) ชุบเลี้ยง, อุปภัมภ์, อุปการะ, สนับสนุน | patronize | (vt) ชุบเลี้ยง, อุปภัมภ์, อุปการะ, สนับสนุน | premise | (n) หลักฐาน, สถานที่, สมมุติฐาน, ข้อสนับสนุน | pro | (adj) เห็นด้วย, ซึ่งสนับสนุน, ชอบ | pro | (n) ข้อสนับสนุน | promote | (vt) สนับสนุน, ส่งเสริม, เลื่อนชั้น, ก่อตั้ง, กระตุ้น | promoter | (n) ผู้ส่งเสริม, ผู้จัดตั้ง, ผู้สนับสนุน, ผู้จัด | promotion | (n) การสนับสนุน, การส่งเสริม, การเลื่อนชั้น, การเลื่อนตำแหน่ง | prompt | (vt) กระตุ้น, บอกบท, ถือหาง, ให้กำลังใจ, สนับสนุน | prop | (vt) สนับสนุน, ค้ำจุน, อุดหนุน, อุปถัมภ์ | reenforce | (vt) บำรุงกำลัง, เพิ่มกำลัง, เสริมกำลัง, สนับสนุน |
| *optometrist* | (n, name) นักทัศนมาตร (ผู้ประกอบวิชาชีพโดยอาศัยความรู้ทางทัศนมาตรศาสตร์ โดยต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาทัศนมาตรศาสตร์ และมีใบประกอบโรคศิลปะ จากทางกรมสนับสนุนสุขภาพ แห่งประเทศไทย) | advocate | (vt) แนะนำ, ช่วยเหลือ, สนับสนุน (ในการทำบางสิ่งบางอย่าง) | advocates | (n) ผู้สนับสนุน | advocates | (n) ผู้สนับสนุน | arguably | [can be supported by goond reasons or evidence and is probably true or correct. EG De] (adv) น่าจะเป็นจริงว่า (โดยมีเหตุผล และหลักฐานสนับสนุน), Syn. seemingly | atlanticist | (n) ผู้นิยมแนวคิดที่สนับสนุนการให้ความร่วมมือกันในทางการเมือง, เศรษฐกิจ, และการทหาร ระหว่างประเทศในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ, See also: Atlanticism | contribute | สนับสนุน | firewire | FireWire คือชื่อเรียกของ apple หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า i-link คือชื่อเรียกของ Sony หรือที่เรียกว่า มาตรฐาน IEEE 1394 เป็นเทคโนโลยีสำหรับการส่งผ่านข้อมูลดิจิตอล ด้วยความเร็ว 400 และ 800 เมกะบิตต่อวินาที ส่งผลให้การติดต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดดิส ปริ้นเตอร์ สแกนเนอร์ กล้องดิจิตอลหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีช่อง FireWire ทำงานได้อย่างรวดเร็ว FireWire มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกับ USB เพียงแต่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานกับอุปกรณ์ทางด้านมัลติมีเดียมากกว่า เนื่องจาก USB เหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอินพุต เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด ฯลฯ (USB มีความเร็วน้อยกว่า FireWire) นอกจากนี้ FireWire ยังสามารถต่อพ่วงอุปกรณ์ไแบบ Daisy Chain ได้ถึง 67 ชิ้น และสนับสนุนการทำงานแบบ Hot plug คือสามารถต่อแล้วใช้งานได้เลยทันที นอกจาก นี้ ยังสามารถส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปกำหนดการทำงานของกล้องวิดีโอได้ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถทำงานในขั้นตอนเดียวกันได้ เช่น การอัดภาพจากกล้องลงมาคอมพิวเตอร์ ก็เพียงแค่สั่งจากคอมพิวเตอร์ กล้องก็จะเริ่มต้นทำงาน พร้อมกับดึงภาพมาให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องไปสั่งเล่นจากกล้องแล้วมาสั่งอัดที่คอมพิวเตอร์ | salim | (n, adj) กลุ่มคนหรือพฤติกรรมของบุคคลที่ไม่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย | underpinning | สนับสนุน | unfunded investment | การลงทุนที่่ไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน | เด็กโต๊ะทอง | (n) เด็กที่จ่ายเงินสนับสนุนให้กับโรงเรียน เพื่อแลกกับการเข้าเรียนโดยไม่ต้องสอบแข่งขัน (เด็กฝาก ก็เช่นเดียวกัน) |
| おかげ | [おかげ, okage] (n) ความช่วยเหลือ-, ความสนับสนุน- (ของท่าน) | 対応 | [たいおう, taiou] (n) สนับสนุน, รองรับ | 支援 | [しえん, shien] (vt) สนับสนุน |
| 主催 | [しゅさい, shusai] 1.การอุปถัมภ์ 2.การสนับสนุน 3.การเป็นเจ้าภาพจัดงาน | 維持 | [いじ, iji] (n) การรักษาสภาพ, การธำรงรักษา, การเกื้อหนุน, การสนับสนุน | 協賛 | [きょうさん, kyousan] (n, vt) ซะพอร์ท') vt., n. (สิ่ง, การ, ผู้) ค้ำ, จุน, ยัน, สนับสนุน, หนุน, อุดหนุน, รับ, พยุง, ช่วยเหลือ, อดทน, อดกลั้น, เป็นตัวประกอบ, เป็นตัวรอง, S. . supportly adv., S. bear, sustain, uphold | 本命 | [ほんめい, honmei] (n) (เฟ'เวอริท) n. คนโปรด, ของโปรด, ผู้แข่งขันที่มีหวังชนะมากที่สุด. adj. ซึ่งเป็นที่โปรดปราน, ซึ่งได้รับการสนับสนุน | 戦闘支援 | [せんとうしえん, sentoushien] (n) การสนับสนุนการรบ | 後方支援 | [こうほうしえん, kouhoushien] การสนับสนุนการช่วยรบ |
| 薦める | [すすめる, susumeru] TH: แนะนำ(สนับสนุน) EN: to recommend | サポート | [さぽーと, sapo-to] TH: การให้การสนับสนุน EN: support | 進める | [すすめる, susumeru] TH: สนับสนุนให้เลื่อนตำแหน่ง EN: to promote | 支える | [ささえる, sasaeru] TH: สนับสนุน | 支援 | [しえん, shien] TH: การสนับสนุน EN: support (vs) |
| Unterstützung | (n) |die, pl. Unterstützungen| การสนับสนุน, การให้ความช่วยเหลือ | unterstützen | (vt) |unterstützte, hat unterstützt| สนับสนุน, ช่วยเหลือโดยให้สิ่งของ เช่น Meine Eltern haben mich finanziell während meines Studium unterstützt. พ่อแม่ของผมช่วยผมด้านการเงินช่วงที่ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย, See also: Related: helfen | etw. unterstützt etw. | (vt) สนับสนุน, เกื้อกูล, เกื้อหนุน เช่น Suse unterstützt eine neu gegründete Stiftung. บริษัทซูซีสนับสนุนมูลนิธิหนึ่งที่เพิ่งก่อตั้งใหม่, See also: Related: unterstützen | fördern | (vt) |förderte, hat gefördert, etw.(A)/jmdn.| สนับสนุน, อุปภัมภ์, อุปการะ เช่น Die wissenschaftliche Forschung wird meistens durch die Staat gefördert. งานวิจัยด้านวิชาการส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐ, Syn. unterstützen | Anhänger | (n) |der, pl. Anhänger| แฟน(เพลง, กีฬา), ผู้คอยสนับสนุนติดตาม, See also: Related: die Anhängerin/ pl. -nen | Beitrag | (n) |der, Beiträge| การช่วยเหลือ, การสนับสนุน, การมีส่วนร่วม เช่น Australien will als Beitrag zum Umweltschutz Glühbirnen verbieten. | beitragen | (vi) |trug bei, hat beigetragen, zu + D| สนับสนุน, มีบทบาท, ผลักดันให้เกิด, ทำประโยชน์ เช่น Jeder kann zur Reinhaltung der Umwelt beitragen. |
| | soutenir | (vi, vt) |je soutiens, tu soutiens, il soutient, nous soutenons, vous soutenez, ils soutiennent| ค้ำจุน สนับสนุน เช่น il soutient que ce n\'est pas possible. เขาสนับสนุนในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |