ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ฝึกฝน, -ฝึกฝน- |
ฌาณ | (n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย |
| ฝึกฝน | (v) train, See also: practise, drill, Syn. ฝึกปรือ, ฝึก, Example: นักวิชาการและนักปฏิบัติการที่ดีจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองให้มีคุณสมบัติเพียงพอ, Thai Definition: ขวนขวายหาความรู้ให้ชำนาญ | การฝึกฝน | (n) training, See also: drill, Syn. การฝึกหัด, การฝึกอบรม, Example: ทหารได้รับการฝึกฝนในการบินผาดโผน, Thai Definition: การเพียรฝึก, การพยายามฝึก |
|
| ฝึกฝน | ก. เพียรฝึก, พยายามฝึก, เช่น ฝึกฝนตนเองให้ชำนาญในการเย็บปักถักร้อย. | ค่ายอาสาพัฒนา | น. ค่ายเยาวชนที่จัดตั้งขึ้นโดยมีความมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมหรือฝึกฝนให้เยาวชนได้ร่วมมือร่วมใจกันบำเพ็ญประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ชุมชน. | เรียน ๑ | ก. เข้ารับความรู้จากผู้สอน, รับการฝึกฝนอบรมเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจหรือความชำนาญ, เช่น เรียนหนังสือ เรียนวิชาความรู้, ฝึกให้เกิดความรู้ความเข้าใจจนเป็นหรือมีความชำนาญ เช่น เขาเรียนแก้พัดลมด้วยตนเอง | เรื้อ | ก. ขาดการฝึกฝนเสียนาน เช่น ไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสมานานเลยเรื้อไป, ห่างไปนาน เช่น เรื้อเวที เรื้อสังเวียน. | ลับสมอง | ก. ฝึกฝนใช้สติปัญญา. | วิชา | น. ความรู้, ความรู้ที่ได้ด้วยการเล่าเรียนหรือฝึกฝน, เช่น วิชาภาษาไทย วิชาช่าง วิชาการฝีมือ. | ศึกษา | น. การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. | หัด ๒ | ก. ฝึก, ฝึกฝน, ทำให้ชำนาญ. | อ่อนหัด | ว. ที่ฝึกฝนมาน้อย, ไม่ชำนาญ. |
| Political Appointee | หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง คือ ผู้ที่มิได้มีอาชีพทางการทูตโดยแท้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูต ซึ่งต่างกับนักการทูตอาชีพ (Career diplomat) ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพโซเวียต ธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปจะแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่มีอาชีพนักการทูตแท้ ๆ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและอัครราชทูต อย่างไรก็ดี เฉพาะในกรณีพิเศษจริง ๆ เท่านั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลจากภายนอก และบุคคลจากภายนอกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตได้รับผลสำเร็จในการ ปฏิบัติหน้าที่ก็มีอยู่หลายราย ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แฮโรลด์ นิโคลสัน ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือเรื่องการทูตของท่านว่า ในประเทศใหญ่ ๆ เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้นักการทูตอาชีพเท่านั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ เพราะได้ผ่านการศึกษาและฝึกฝนในวิชาการทูตมาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเอกอัครราชทูตที่แต่งตั้งจากคนภายนอกจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ในการเขียนรายงานไปยังรัฐบาล เช่น รายงานการเมือง เขาอาจมุ่งแต่จะอวดความเฉียบแหลมของเขาเอง และร้อยกรองคำอย่างไพเราะเพราะพริ้ง มากกว่าที่จะมุ่งเสนอรายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและมีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | Exercise Training | การฝึกฝนออกกำลังกาย [การแพทย์] | inherited behavior | พฤติกรรมที่มีมาแต่กำเนิด, พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตที่แสดงออกมาได้เองโดยไม่ต้องเรียนรู้หรือฝึกฝนมาก่อน เป็นพฤติกรรมที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบทั้งในพืชและในสัตว์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | acquired behavior | พฤติกรรมที่ได้มา, พฤติกรรมส่วนใหญ่ที่พบในสัตว์ที่มีระบบประสาทเจริญดี เกิดจากการเรียนรู้ ฝึกฝนหรือมีประสบการณ์มาก่อน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Law of Exercise | กฎแห่งการฝึกฝน [การแพทย์] | Mechanism | กลไก, กลวิธาน, ระดับของการฝึกฝน, กลไกการเกิด [การแพทย์] |
| Kids need to be shaped into something, right? | เด็กต้องการแบบอย่างเพื่อฝึกฝน จริงมั้ย Léon: The Professional (1994) | I recruited him, I trained him, I commanded him in Vietnam for 3 years. | ผมคัดเลือกเขา ผมการฝึกฝนเขา ผมคำสั่งเขาในเวียดนาม 3 ปี First Blood (1982) | Thought you said he was the best you ever trained! | คิดว่าคุณบอกว่าเขาเป็นดีที่สุดที่คุณเคยไห้รับการฝึกฝน First Blood (1982) | Sure... Sure, that's why you stuck around. You trained him. | แน่นอนว่าๆ ที่ว่าทำไมคุณอยู่รอบ คุณได้ฝึกฝนเขา First Blood (1982) | Remember, from today onwards, you must work hard. | จำไว้นะ, จากนี้เป็นต้นไปเจ้าต้องตั้งใจฝึกฝน. Return of the Condor Heroes (1983) | The investigative team was trained and put in hibernation before the voyage began. | ทีมสืบสวนได้รับการฝึกฝน แยกกันและวางไว้ในการจำศีล ก่อนที่จะเดินทางเริ่ม 2010: The Year We Make Contact (1984) | Shidoshi Tanaka trained me. | Shidoshi ทานากะได้รับการฝึกฝนให้ฉัน Bloodsport (1988) | It demands strenuous effort and practice. | ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และการหมั่นฝึกฝน Seven Years in Tibet (1997) | You've been training here for as long as you can remember, right? | นายฝึกฝนอยู่แถวนี่มาตลอด ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้เลย Street Fighter Alpha (1999) | I'm gonna work hard so I can fight him when I see him again! | ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ แล้วซักวัน ถ้าเจอกันอีก ฉันจะสู้กับเขา! Street Fighter Alpha (1999) | - Have you ever tried to develop it? | คุณเคยฝึกฝนบ้างรึเปล่า Unbreakable (2000) | Now, don't forget the nice wrist movement we've been practicing. | อย่าลืมขยับข้อมือให้ดี อย่างที่เราฝึกฝนมา Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) | He'll have to be trained up a bit, of course. | มันต้องได้รับการฝึกฝนกันหน่อยก่อน Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) | I have come to find that passion is a key ingredient... to the study and practice of law and of life. | ฉันได้พบว่าความหลงใหลคือกุญแจสำคัญ สำหรับการเรียนรู้และฝึกฝนของนิติศาสตร์และชีวิต Legally Blonde (2001) | You gotta practice, Clark. Your eyes have muscles just like your legs. | ลูกต้องฝึกฝน, คล้าก ดวงตาก็มีกล้ามเนื้อเหมือนขาของลูกนั่นแหละ X-Ray (2001) | Can imaginary training for 15 years be put to use? | ที่ฝึกฝนในจินตนาการมา 15 ปี จะใช้ได้มั้ย? Oldboy (2003) | Noboru, on Mars, it was training the whole time. | โนโบรุ บนดาวอังคาร มันเป็นการฝึกฝนตลอดเวลา Hoshi no koe (2002) | After training on Mars, we've come all the way to Jupiter and are taking a short break at a satellite base on Europa. | หลังจากการฝึกฝนที่ดาวอังคาร เส้นทางทั้งหมดของเราคือดาวพฤหัส และเราได้พักผ่อนช่วงสั้นๆ ที่ฐานดาวเทียมบนดวงจันทร์ยูโรปา Hoshi no koe (2002) | Yes, I suppose all that training does make it second nature. | ใช่, ข้ารู้ว่า การได้รับการฝึกฝนนั้น ทำให้เจ้าแข็งแรงออกอย่างนี้ Mulan 2: The Final War (2004) | Practice makes perfect, right? | การฝึกฝนย่อมทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่เหรอ ? Love So Divine (2004) | I trained myself to death every day | ผมฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน Be with You (2004) | We've finally got a mission worthy of Rangers. | ในที่สุด เราก็มีภารกิจยิ่งใหญ่.. สมกับที่ได้ฝึกฝนมากันเสียที The Great Raid (2005) | When it comes to the Dark Arts... I believe in a practical approach | มาเข้าเรื่องเกี่ยวกับศาตร์มืด... ฉันเชื่อในการฝึกฝนด้วยคาถาจริง ๆ Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) | To get in some practice. | เราต้องฝึกฝนกัน The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe (2005) | - I hope she practises. | -ฉันหวังว่าหล่อนคงฝึกฝนบ่อยๆ นะ Pride & Prejudice (2005) | You know what they say: no pain, no gain. | ถ้าไม่ฝึกฝน ลูกจะเป็นคนไม่มีอะไรเลยตอนแก่นะ รู้มั้ย? House of Fury (2005) | Our contestants have all trained long and hard for today. | ผู้เข้าแข่งขันของเราคงฝึกฝนมาอย่างหนักเืพื่อวันนี้ Innocent Steps (2005) | It was 140 years ago, in 1866 when myung-suh received training. | ในปี 1866 myung-suh ได้รับการฝึกฝนที่นี่ Episode #1.3 (2006) | I congratulate you, Shin Chaegyung to be able to receive training here. | หม่อมชั้นขอแสดงความยินดีด้วยที่พระองค์จะได้มีโอกาสรับการฝึกฝน ณ ที่แห่งนี้ Episode #1.3 (2006) | Note down carefully the things she learned, the things she did right and the things she did wrong during her training time. | บันทึกสิ่งที่หล่อนได้เรียน สิ่งที่หล่อนทำถูกและผิด ในระหว่างการฝึกฝน Episode #1.3 (2006) | I have high expectations of your skill of doing this during this time of training. | เราคาดหวังไว้ในความสามารถของเจ้าในการฝึกฝนครั้งนี้นะ Episode #1.3 (2006) | Maybe someone whose training you had begun but never finished. | ใครสักคนที่ได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เริ่ม แม้จะไม่จบ The Da Vinci Code (2006) | To be trained by the Grand Master himself. | เพื่อที่จะได้รับการฝึกฝนจากท่านประมุขเิอง The Da Vinci Code (2006) | You are not Big Momma, okay? | คุณไม่ใช่บิ๊กมาม่า คุณเป็น จนท.ที่ฝึกฝนมาดี Big Momma's House 2 (2006) | Ever since I trained at West Lake | การที่ข้าได้ไปฝึกฝนอยู่ในที่อากาศดีๆอย่างแถบชนบท Fearless (2006) | Educate body, wisdom and the morality | ฝึกฝนร่างกาย ปัญญาและคุณธรรม Fearless (2006) | Keep that gun trained on me, boy. | เก็บปืนนั้นที่ฝึกฝนบนฉัน เด็ก Black Snake Moan (2006) | Professional astronauts who have been trained to withstand the pressures and the strain and the emotional stress of leaving your family behind. | นักบินอวกาศอาชีพได้รับการฝึกฝน... ...เพื่อให้ทนต่อความดันและความเครียด... ...และสภาวะอารมณ์ ที่ต้องทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง The Astronaut Farmer (2006) | So they spent years training him, millions on the program, why are they trying to kill him? | พวกนั้นใช้เวลาเป็นปีในการฝึกฝนเขา ผ่านการฝึกเป็นล้านโปรแกรม แล้วทำไมพวกนั้นต้องกำจัดเขาด้วย Hollow Man II (2006) | You train to strengthen your body. | แกต้องฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกายก่อน Art of Fighting (2006) | He received a memo from the EPA that warned about global warming and he edited. | เขาได้รับบันทึกข้อความจากสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ที่เตือนเรื่องภาวะโลกร้อน เขาแก้ไขบันทึกนั่น เขาไม่เคยฝึกฝนทางวิทยาศาสตร์ใดๆ An Inconvenient Truth (2006) | Guard the teachings and... practice well. | จดจำรักษาคำสั่งสอนนี้ไว้ และ หมั่นฝึกฝนให้จงดี Milarepa (2006) | The practices I've learned are not effective enough. | การฝึกฝนที่ข้าได้ร่ำเรียน ยังไม่เพียงพอที่จะนำไปใช้ให้บรรลุผล Milarepa (2006) | Dharma has mastered kang gyok. | ธรรมะฝึกฝนกังยกจนช่ำชอง Milarepa (2006) | If you practice it diligently, a result should manifest in seven days. | ถ้าเจ้าใส่ใจหมั่นเพียรฝึกฝนจริงจังแล้ว ผลจะปรากฏให้เห็นภายใน 7 วัน Milarepa (2006) | That's how I practice everyday. | นั่นเป็นสิ่งที่ชั้นฝึกฝนทุกวัน Almost Love (2006) | - Practice, bro. | - ฝึกฝนไง พี่ชาย Simon Said (2006) | What do you think is the fundamentals of training? | นายคิดว่า อะไรเป็นพื้นฐานของการฝึกฝน? Fly, Daddy, Fly (2006) | well, lots of practice. | ฝึกฝนเยอะๆน่ะ Aqua (2005) | The geography of our planet has been replicated for your training. | เป็นสถานที่ที่จำลองสภาพของดาวเราไว้ สำหรับการฝึกฝนของเจ้า Arrival (2005) |
| ฝึกฝน | [feukfon] (v) EN: train ; practise ; drill | การฝึกฝน | [kān feukfon] (n) EN: training ; drill |
| barista | (n) นักชงกาแฟเอสเปรสโซ ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อชงกาแฟเอสเปรสโซ, See also: espresso | internship | (n) การฝึกงาน, ช่วงเวลาที่ได้ฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญ เช่น A successful internship can help pave the way toward possible full-time employment opportunities after graduation. |
| accomplishment | (n) ทักษะ (ส่วนใหญ่ใช้ในรูปพหูพจน์), See also: ความสามารถพิเศษที่ฝึกฝน | anesthetist | (n) ผู้ที่ถูกฝึกฝนในการใช้ยาชา | buildup | (n) การเตรียมการ, See also: การฝึกฝน | cultivate | (vt) ฝึกฝน, See also: ให้การศึกษา, ปลูกฝัง, Syn. nurture, educate, teach | coach for | (phrv) ฝึกฝนมาเพื่อ | discipline | (n) การฝึกฝน, Syn. self-control, moderation, Ant. immoderation | discipline | (vt) อบรม, See also: ฝึกฝน, Syn. train, coach, tutor | drill | (n) การฝึกฝน, See also: การฝึกหัด, Syn. practice, rehearsal | drill | (vt) ฝึกฝน, See also: หัด, ฝึก, ฝึกหัด, ฝึกปรือ | esquire | (n) เด็กรับใช้ประจำอัศวิน (ซึ่งกำลังฝึกฝนที่จะเป็นอัศวินเองในอนาคต) | experienced | (adj) ซึ่งได้รับการฝึกฝน, See also: ซึ่งมีประสบการณ์, ชำนาญ, ช่ำชอง, เชี่ยวชาญ, ชำนิชำนาญ, โชกโชน, ซึ่งจัดเจน, Syn. skillful | get into | (phrv) เริ่มเรียนรู้หรือฝึกฝน, Syn. be in, keep in | out of practice | (idm) แสดงไม่ดีเพราะขาดการฝึกฝน, See also: ไม่ได้ฝึกฝน, ไม่ได้ซ้อม | Practice makes perfect. | (idm) ฝึกฝนบ่อยๆ ทำให้เก่งได้, See also: คนเราไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด | keep in training | (idm) ฝึกฝน (เพื่อการกีฬาหรือการแข่งขัน), Syn. get into | keep one's hand in | (idm) หมั่นฝึกฝน, Syn. get in | journeyman | (n) ช่างที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี | learn | (vt) ท่องจำ, See also: ท่อง, ฝึกฝน, Syn. memorize | practice | (vi) ฝึกซ้อม, See also: ซ้อม, ฝึกฝน, ทำเป็นกิจวัตร, Syn. drill, exercise, review, train | practice | (vt) ฝึกซ้อม, See also: ซ้อม, ฝึกฝน, ทำเป็นกิจวัตร, Syn. drill, exercise, review, train | practice | (n) การฝึกซ้อม, See also: การฝึกฝน, การฝึกหัด, Syn. drill, exercise, rehearsal | practise | (vi) ฝึกซ้อม, See also: ซ้อม, ฝึกฝน, ทำเป็นกิจวัตร, Syn. drill, exercise, review, train | practise | (vt) ฝึกซ้อม, See also: ซ้อม, ฝึกฝน, ทำเป็นกิจวัตร, Syn. drill, exercise, review, train | practise | (n) การฝึกซ้อม, See also: การฝึกฝน, การฝึกหัด, Syn. drill, exercise, rehearsal | polish up | (phrv) ฝึกฝน, See also: ขัดเกลา, ฟื้นฟู, Syn. brush up, rub up | put someone to a trade | (idm) ฝึกฝน, See also: ฝึกสอน | raw | (adj) ไม่มีประสบการณ์, See also: ยังไม่ได้รับการฝึกฝน, อ่อนหัด, Syn. inexperienced, immature, unskilled, Ant. experienced | rusty | (adj) ขาดการฝึกฝน, Syn. stale, unpractised, unskillful | rub up | (phrv) ฝึกฝน, See also: ศึกษาหาความรู้, Syn. brush up, polish up | run through | (phrv) ทบทวน, See also: ฝึกฝน, Syn. go over, go through | season | (vt) สร้างประสบการณ์, See also: ฝึกฝน, ทำให้คุ้นเคย, Syn. harden, familiarize, accustom | self-taught | (adj) ซึ่งเรียนรู้ด้วยตัวเองได้, See also: ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้เอง, ซึ่งฝึกฝนเองได้, Syn. amateur, learned, self-educated, self-instructed | seminarian | (n) ผู้ศึกษาด้านศาสนศาสตร์, See also: ผู้ฝึกฝนธรรมะ, ผู้ฝึกเป็นพระ, นักธรรมะ, คนที่ศึกษาในโรงเรียนศาสนา, Syn. learner, cleric, ordinand | school in | (phrv) ฝึกฝน, See also: เรียนรู้ | school to | (phrv) ควบคุม, See also: ฝึกฝน | train | (vi) อบรม, See also: ฝึกหัด, ฝึกฝน | take over | (phrv) ช่วยให้เรียนร ู้/ ฝึกฝน, Syn. go over, go through | take through | (phrv) เฝ้าดูและคอยช่วยเหลือขณะ (บางคน) เรียนรู้หรือฝึกฝนบางสิ่ง, Syn. go over, go through | unbred | (adj) ซึ่งไม่ได้รับการฝึกสอน, See also: ไม่ได้รับการอบรม, ไม่ได้รับการฝึกฝน, Syn. untaught | undisciplined | (adj) ซึ่งไม่มีระเบียบวินัย, See also: ซึ่งไม่อยู่ในความควบคุม, ซึ่งไม่ได้รับการฝึกฝนไว้, Syn. untrained, uncorrect, uncontrolled, Ant. disciplined | uneducated | (adj) ซึ่งไร้การศึกษา, See also: ซึ่งไม่มีการศึกษา, ซึ่งไม่ได้รับการฝึกฝน, ซึ่งไม่ได้รับการศึกษา, Syn. unschooled, untaught, uncultivated, Ant. educated, cultivated | unpracticed | (adj) ซึ่งไม่ชำนาญ, See also: ซึ่งไม่ฝึกฝน, Syn. inexperienced, unfit | workout | (n) การฝึกฝนร่างกาย, See also: การฝึกซ้อม, Syn. drill, training |
| discipline | (ดิส'ซะพลิน) n. วินัย, ระเบียบวินัย, การฝึกฝน, การลงโทษ, สาขาวิชา, ศิลปปฎิบัติ, วินัยทางศาสนา vt. ฝึกฝน, ทำให้มีวินัย, ลงโทษ, แก้ไข., See also: discipliner n., Syn. order | drill | (ดรีล) { drilled, drilling, drills } n. สว่าน, เครื่องเจาะ vt., vi. เจาะไซ, ยิงทะลุ, ฝึกฝน. vi. เจาะรู, ฝึกฝน, See also: drillable adj. ดูdrill driller n., Syn. exercise, practice, bore, tteach | drilling | (ดริล'ลิง) n. การเจาะ, ผู้เจาะ, การฝึกฝน, ผู้ฝึกฝน | drillmaster | n. ผู้ฝึกฝน, ครูฝึก, ทหารครูฝึก | educate | (เอด'จุเคท) vt. ให้การศึกษา, สั่งสอน, อบรม, ฝึกฝน, ให้ความรู้ vi. อบรม, สั่งสอน | education | (เอดจุเค, 'เชิน) n. การศึกษา, การสั่งสอน, การฝึกฝน, คุรุศาสตร์, ศึกษาศาสตร์, See also: educational adj. ดูeducation, Syn. schooling, training | exercise | (เอค'เซอไซซ) v., n. (การ) ออกกำลังกาย, ฝึกหัด, การฝึกฝน, ปฏิบัติ, ดำเนินการ, เป็นห่วง, ทำให้เป็นห่วง., See also: exercisable adj. exerciser n. | fence | (เฟนซฺ) { fenced, fencing, fences } n. รั้ว, เครื่องกั้น, คอกล้อม, พะเนียด, ศิลปะหรือกีฬาฟันดาบ, ความชำนาญในการโต้แย้ง, บุคคลผู้รับและจำหน่ายของโจร, สถานที่รับและจำหน่ายของโจร. -Phr. (sit on the fence เป็นกลาง, ไม่เข้าข้างฝ่ายใด) . vi. เล่นหรือฝึกฝนการฟันดาบ, ล้อมรั้ว, | fencer | n. ผู้ล้อมรั้ว, ผู้ฟันดาบ, นักดาบ, ม้าที่ได้รับการฝึกฝนกระโดดข้ามรั้ว, นักวิ่งกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, ผู้มีอาชีพซ่อมแซมและสร้างรั้ว | learning | (เลิร์น'นิง) n. การเรียนรู้, การศึกษา, ความรู้, การปรับบุคลิกภาพจากการปฏิบัติฝึกฝนหรือประสบการณ์, Syn. education | mold | (โมลดฺ) n. รา, ขี้รา, เชื้อรามแม่พิมพ์, สิ่งที่เป็นรูปร่างจากแม่พิมพ์, รูปแบบ, ตัวอย่าง, ดินร่วน, ดิน, พื้นดิน vt. เกิดเชื้อรา, ก่อเป็นรูปร่างขึ้นจากแม่พิมพ์, ก่อร่างหล่อขึ้น, ฝึกฝน, See also: moldability n. moldable adj., Syn. m | molder | (โมล'เดอะ) vi. เป็นฝุ่นเนื่องจากการเน่าเปื่อย, ผุพัง. vt. ทำให้ผุพัง n. ผู้พิมพ์แบบ, ผู้ปั้น, ผู้หล่อ, ผู้ฝึกฝน | molding | (โมล'ดิง) n. การพิมพ์แบบ, การปั้น, การหล่อ, การฝึกฝน, สิ่งที่หล่อขึ้น, สิ่งที่พิมพ์ขึ้น, คิ้วที่หล่อบนผนังหรือมุมตึก | mould | (โมลดฺ) n. รา, ขี้รา, เชื้อรามแม่พิมพ์, สิ่งที่เป็นรูปร่างจากแม่พิมพ์, รูปแบบ, ตัวอย่าง, ดินร่วน, ดิน, พื้นดิน vt. เกิดเชื้อรา, ก่อเป็นรูปร่างขึ้นจากแม่พิมพ์, ก่อร่างหล่อขึ้น, ฝึกฝน, See also: moldability n. moldable adj. | moulder | (โมล'เดอะ) vi. เป็นฝุ่นเนื่องจากการเน่าเปื่อย, ผุพัง. vt. ทำให้ผุพัง n. ผู้พิมพ์แบบ, ผู้ปั้น, ผู้หล่อ, ผู้ฝึกฝน | moulding | (โมล'ดิง) n. การพิมพ์แบบ, การปั้น, การหล่อ, การฝึกฝน, สิ่งที่หล่อขึ้น, สิ่งที่พิมพ์ขึ้น, คิ้วที่หล่อบนผนังหรือมุมตึก | nurture | (เนอ'เชอะ) vt. อุปถัมภ์, เลี้ยง, บำรุง, ทะนุถนอม, ฝึกฝน, ให้การศึกษา n. อาหาร, เครื่องบำรุง, การบำรุง, See also: nurturable adj. nurturer n., Syn. feed, raise | raw | (รอ) adj. ดิบ, ยังไม่ได้เสริมแต่ง, หยาบ, ไร้ประสบการณ์, ยังไม่ได้รับการฝึกฝน, ยังไม่คุ้น, (หนัง) ยังไม่ได้ฟอก, (แผล) สด, หนาวเหน็บ, เย็นแสบ, ยังไม่ได้ผสมให้เจือจาง, (ชายผ้า) ยังไม่ได้เย็บ, โหด, หยาบคาย, ต่ำช้า, ทารุณ, ไม่ยุติธรรม n. แผลถลอก, , See also: rawly adv. | seawise | (ซี'ไวซ) adj. ผ่านการฝึกฝนทางทะเล | soldiery | (โซล'จะรี) n. เหล่าทหาร, หมู่ทหาร, กองทหาร, การฝึกฝนทางทหาร, อาชีพทางทหาร, ความเชี่ยวชาญทางทหาร, Syn. soldiers | study | (สทัด'ดี) n. การศึกษา, การเรียน, การค้นคว้า, การดูหนังสือ, การพิเคราะห์พิจารณา, การสืบสวนสอบสวน, การวิจัย, สิ่งที่ศึกษา, สิ่งที่ค้นคว้า, รายงานการค้นคว้า, สาขาวิชา, ความมานะบากบั่น, การทดลองวาดหรือประพันธ์, ห้องค้นคว้า, เพลงฝึกซ้อม, สิ่งที่ใช้ฝึกฝนการเรียน. vi. ศึกษา | training | (เทรน'นิง) n. การฝึก, การฝึกหัด, การฝึกฝน | undisciplined | (อันดิส'ซิพลินดฺ) adj. ไม่มีระเบียบวินัย, ไม่ได้รับการฝึกฝน, มั่ว, เปะปะ, ตามอำเภอใจ | work farm | ฟาร์มสำหรับให้เยาวชนผู้กระทำผิด ทำงานเกษตร เพื่อเป็นการทำโทษหรือฝึกฝนอาชีพ |
| cultivate | (vt) เพาะปลูก, ศึกษา, ฝึกฝน, อบรม, ปลูกฝัง | discipline | (n) ระเบียบข้อบังคับ, ระเบียบวินัย, การลงโทษ, การฝึกฝน | discipline | (vt) ทำให้มีวินัย, บังคับ, ลงโทษ, ฝึกฝน, ฝึกหัด | drill | (n) การฝึกฝน, สิ่ว, สว่าน, เครื่องเจาะ, เครื่องไข, ช่องว่างในเมล็ด | drill | (vt) ฝึกฝน, ไช, เจาะรู, ยิงทะลุ | educate | (vt) สอน, อบรม, ฝึกฝน, ให้การศึกษา, ให้ความรู้ | exercise | (n) แบบฝึกหัด, การบ้าน, การออกกำลังกาย, การฝึกหัด, การฝึกฝน | exercise | (vi, vt) ใช้, ฝึกหัด, ฝึกฝน, ฝึก, ปฏิบัติ, ออกกำลังกาย | train | (vi, vt) ฝึกฝน, อบรม, สั่งสอน, ดัด, เล็ง, จัดการ, ฝึกหัด | training | (n) การฝึกหัด, การอบรม, การฝึกฝน, การศึกษา |
| 練習 | [れんしゅう, renshuu] ฝึกฝน, ฝึก | 練習 | [れんしゅう, renshuu] ฝึกฝน, ฝึก |
| 極める | [きわめる, kiwameru] TH: ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ EN: to master |
| üben | (vi, vt) |übte, hat geübt| ฝึก, ฝึกฝน เช่น Gehst du heute Karate üben? วันนี้เธอไปฝึกคาราเต้หรือไม่ |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |