ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: หัน, -หัน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ One day, Father Khwan Khao brought Khwan Khao to leave with Grandpa. | วันหนึ่งคุณพ่อของขวัญข้าวพาขวัญข้าวมาฝากไว้กับคุณปู่ เพราะคุณพ่อต้องไปขับรถส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพมหานคร วันนี้คุณปู่พาขวัญข้าว มาดูข้าวที่คุณปู่ได้ปลูกไว้ จนถึงเย็นฝนก็ตกลงมา ขวัญข้าวจึงพูดว่าคุณปู่ตะรีบเข้าบ้านเดี๋ยวไม่สบาย คุณปู่จึงพูดว่าฝนไม่ได้ทำให้ไม่สบายหรอก แต่ต้องไปอาบน้ำ ตอนกลางคืนฝนก็ตกหนักมาก จนขวัญข้าวนอนไม่หลับ ขวัญข้าวตื่นมาให้คุณปู่เล่านิทานให้ฟังปู่เล่านิทานให้ฟังก็ได้ปู่ตอบ มีอยู่วันหนึ่งในดินเเดนแห้งเเร้งทุกคนไม่มีน้ำดื่ม จนกระทั่งวันหนึ่งมีจอบตกลงมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนจึงหยิบจอบมาเพื่อขุด แต่ในดินแดนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนจึงเลิกขุด เเต่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขุดไปเรื่อยๆจากที่ขุด1ไร่กลายเป็น2ไร่จากที่ขุด2ไร่กลายเป็น4ไร่ จนเด็กผู้ชายคนนั้นก็ล้มลง จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา ทุกคนจึงมีชีวิตอยู่ พอคูณปู่เล่าเสร็จคุณปู่หันไปไหว้รูปในหลวงรัชกาลที่่9 วันต่อมาโรงเรียนของขวัญข้าวมีกิจกรรมขายของ ขวัญข้าวจึงทำวุ้นมะพร้าวจากสีธรรมชาติ จอมขายมะม่วงกวน วันต่อมาคุณพ่อของขวัญข้าวมาหาขวัญข้าว แล้วทุกคนจึงเปิดโครงการ"ของขวัญจากดิน" เพราะทุกอย่างที่นำมาขายล้วนแต่ปลูกมาจากดbo |
| จุงเบย | จังเลย เป็นภาษาวัยรุ่น เพี้ยนมาจาก "จังเลย" บ้างว่าเนื่องมาจาก การพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ที่ ไม้หันอากาศ อยู่ใกล้กับ สระอุ และ ล ลิง อยู่ใกล้กับ บ ใบไม้ พิมพ์ผิดบ่อยครั้งเลยกลายเป็นที่ใช้กันพอสมควรในบริบทที่เป็นลักษณะเล่นๆ หรือ เด็กๆ หรือ ทีเล่นทีจริง |
| หัน | (v) turn around, See also: face about, move around, reverse, revolt, rotate, Syn. หมุน, Example: เขาไม่อยากจะเผชิญหน้าผม เพราะเช่นนั้นเขาจึงหันไปเสียทางอื่น, Thai Definition: ผิน, หมุน, กลับจากที่ตั้งหรือที่ยืนอยู่เดิม | หัน | (v) redirect, See also: change, direct, Example: ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชาวยุโรปได้หันมาสนใจด้านวัตถุธรรมและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ด้วยการติดต่อกับโลกตะวันออก, Thai Definition: กลับจากที่ตั้งหรือที่ยืนอยู่เดิม | หันมา | (v) turn to, Syn. หันไป, Example: ทุกคนหันมาดูเด็กที่กำลังเปิดแผ่นเสียงเพลงอันเร้าใจ, Thai Definition: เปลี่ยนทิศไปจากที่อยู่เดิม | หันเห | (v) divert, See also: veer, swerve, deviate, be deflected, Syn. เหหัน, เบน, Example: แนวโน้มตลาดหนังสือคอมพิวเตอร์ในบ้านเรา หันเหไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว, Thai Definition: เบนจากที่ตั้งเดิม | หันไป | (v) change one's mind, Syn. เปลี่ยนใจ, Example: เพลโตไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากนัก แต่ได้หันไปหาเรื่องตรรกวิทยามากกว่า | หันไป | (v) return to, Syn. หันมา, Example: ทันทีที่ผมหันไป หล่อนก็รีบหลบไป, Thai Definition: เปลี่ยนทิศไปจากที่อยู่เดิม | อรหัน | (n) sorcerer, Syn. ผู้วิเศษ, Count Unit: คน | อรหัน | (n) fabulous winged animal with two feet and a man-like head, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อสัตว์ในนิยาย มี 2 เท้า มีปีก หัวเหมือนคน | กังหัน | (n) pin wheel, Example: เด็กๆ ซื้อกังหันที่ขายตามงานวัดมาหมุนเล่น, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ของเล่นเด็ก | กังหัน | (n) windmill, See also: wind-wheel, waterwheel, turbine, Syn. จังหัน, Example: พอลมพัดกังหันกลางทุ่งนาก็หมุน, Count Unit: ตัว, Thai Definition: สิ่งที่ประกอบด้วยใบพัดหมุนได้ด้วยกำลังลม | หมูหัน | (n) barbecued suckling-pig, Example: ตามปกติเขาก็ไม่ยอมกินหมูหันอยู่แล้วเพราะสงสารหมูตัวเล็กๆ, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ลูกหมูย่างทั้งตัว โดยวิธีหันตัวหมูไปรอบตัว | หุนหัน | (v) be hasty, See also: be impetuous, be quick-tempered, be rash, Syn. บุ่มบ่าม, Example: ฟังคำพูดยังไม่ทันจบเขาก็หุนหันออกไปจากห้อง, Thai Definition: ไม่ยั้งใจ, ไม่รั้งรอ | ซ้ายหัน | (v) turn left, Ant. ขวาหัน, Example: ในการฝึกทหาร ไม่ใช่จะมานั่งฝึกซ้ายหัน ขวาหัน แบกอาวุธกันอย่างเดียว ยังมีงานอื่นๆ ที่ต้องทำอีกมาก, Thai Definition: ให้หันไปทางซ้าย | หันกลับ | (v) turn around, See also: turn back, Example: ผมไม่เชื่อในสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่นี้ ผมจึงหันกลับไปดูอีกครั้ง, Thai Definition: กลับมายังทิศทางเดิม | หันขวับ | (v) turn around suddenly, See also: turn abruptly, Syn. หันวับ, Example: พอประตูเปิดออกทุกคนก็หันขวับไปทางเดียวกัน, Thai Definition: หันไปอย่างเร็วหรือทันทีทันใด | หันขวับ | (v) turn around suddenly, See also: turn around simultaneously, turn around immediately, Syn. หันวับ, Example: พอประตูเปิดออกทุกคนก็หันขวับไปทางเดียวกัน | หันหน้า | (v) turn one's head, See also: turn to face, Syn. หัน, ผินหน้า, เบือนหน้า, Example: หล่อนหันหน้ามาสบสายตากับผม เพื่อขอความเห็นใจ, Thai Definition: ทำให้หน้าอยู่ตรงทิศทางหนึ่ง | หันหลัง | (v) turn on one's, See also: turn one's back towards, Ant. หันหน้า, Example: เด็กในครรภ์ที่มีอายุ 7 เดือนสามารถหันหน้า หันหลังไปทางด้านขวาหรือซ้ายก็ได้ | หันหลัง | (v) turn on one's, See also: turn one's back towards, Ant. หันหน้า, Example: เด็กในครรภ์ที่มีอายุ 7 เดือนสามารถหันหน้า หันหลังไปทางด้านขวาหรือซ้ายก็ได้ | อรหันต์ | (n) Buddhist saint, Syn. พระอรหันต์, พระพุทธเจ้า, Example: พระอรหันต์เป็นผู้ที่หมดจากการกระทำด้วยอำนาจของตัณหา, Count Unit: องค์, Thai Definition: ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา, ผู้บรรลุพระนิพพาน, Notes: (บาลี) | โมหันธ์ | (n) delusion, See also: illusion, confusion, false impression, Thai Definition: ความมืดมนด้วยความหลง, Notes: (บาลี) | กะทันหัน | (adv) suddenly, See also: abruptly, immediately, unexpectedly, Syn. กะทันหัน, ด่วน, เร็ว, ฉับพลัน, ทันที, Example: อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน | กังหันลม | (n) wind wheel, See also: wind turbine, Example: ร้านอาหารร้านนี้มีกังหันลมเป็นสัญลักษณ์, Count Unit: ตัว | คิมหันต์ | (n) summer, See also: hot season, Syn. ฤดูร้อน, หน้าร้อน | มหันตภัย | (n) calamity, See also: disaster, great danger, catastrophe, Example: ในชีวิตของเขาต้องประสบกับมหันตภัยหนักๆ หลายครั้ง, Thai Definition: ภัยที่ร้ายแรง, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | มหันตโทษ | (n) heavy penalty, See also: severe punishment, Syn. โทษร้ายแรง, โทษหนัก, Ant. ลหุโทษ, Count Unit: ประการ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | มหันตโทษ | (adj) with heavy penalty, Syn. โทษร้ายแรง, โทษหนัก, Ant. ลหุโทษ, Example: คุกเป็นที่ขังคนที่กระทำความผิดมหันตโทษหรือมีความผิดโทษสูง, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | หันอากาศ | (n) the vowel sign, Syn. ไม้หันอากาศ, ไม้ผัด, Example: หันอากาศเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าไม้ผัด | หันอากาศ | (n) vowel sign, Syn. ไม้หันอากาศ, ไม้ผัด, หางกังหัน, Example: คำนี้สะกดผิดเพราะลืมเติมไม้หันอากาศ, Thai Definition: เครื่องหมายรูปสระดังนี้ ั ใช้แทนเสียงสระอะในกรณีที่มีตัวสะกด | กังหันน้ำ | (n) water turbine, See also: water vane, water wheel, Example: กังหันน้ำ ที่ชาวบ้านทำขึ้นเป็นสิ่งประดิษฐ์จากไม้ไผ่ ถือเป็นภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน, Count Unit: ตัว | โทษมหันต์ | (n) heavy punishment, See also: serious penalty, Thai Definition: โทษที่เกิดจากการทำความผิดขั้นรุนแรง | โทษมหันต์ | (n) bad effect, See also: serious effect, Example: ตับไก่มีทั้งคุณอนันต์และมีโทษมหันต์, Thai Definition: สิ่งที่เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง | พระอรหันต์ | (n) Buddhist saint, Syn. อรหันต์, Example: สิ่งที่ทำให้องคุลีมารเป็นพระอรหันต์ได้ คือ ความเพียรพยายามในการเอาชนะกิเลส, Count Unit: องค์, Thai Definition: ผู้สำเร็จธรรมสูงสุดในประพุทธศาสนา, ผู้บรรลุพระนิพพาน | กังหันใบพัด | (n) turbo-propeller, Example: เครื่องยนต์เครื่องนี้เป็นแบบกังหันใบพัด, Count Unit: ตัว | กังหันไฟฟ้า | (n) turbogenerator, Count Unit: ตัว | กังหันไอน้ำ | (n) steam turbine, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เครื่องยนต์ที่หมุนอย่างกังหันด้วยเครื่องกำลังไอน้ำ | กังหันไอพ่น | (n) jet turbine, Syn. เครื่องยนต์ไอพ่น, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เครื่องยนต์ซึ่งใช้กังหันขับเครื่องอัดอากาศ | โดยกะทันหัน | (adv) suddenly, See also: abruptly, unexpectedly, all of a sudden, immediately, instantly, at once, Syn. โดยทันที, โดยฉับพลัน, ฉับพลัน, Example: เขาต้องไปต่างประเทศโดยกะทันหันเพราะเกิดปัญหาที่บริษัทแม่, Thai Definition: อย่างปัจจุบันทันด่วน, อย่างจวนแจ | ไม้หันอากาศ | (n) a vowel symbol of Thai writing system, Syn. ไม้ผัด, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เครื่องหมายสระ รูปดังนี้ ั | หันรีหันขวาง | (v) turn around undecidedly, Syn. เก้ๆ กังๆ, Example: เขายืนหันรีหันขวางอยู่พักหนึ่งแล้วนอนหมอบลงเช่นเดิม, Thai Definition: อาการที่หันเหไปมาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไร | หันรีหันขวาง | (v) to turn around undecidedly, Syn. เก้ๆ กังๆ, Example: แมวขยับร่างหันรีหันขวางอยู่พักหนึ่งแล้วนอนหมอบลงเช่นเดิม | อย่างกะทันหัน | (adv) immediately, See also: suddenly, at once, Syn. ทันทีทันใด, Example: ผู้กำกับเวทีป่วยลงอย่างกะทันหันจนต้องนำส่งโรงพยาบาล | หุนหันพลันแล่น | (v) be rash, See also: be hasty, be impetuous, Example: เวลาทำให้ได้คิดว่าเพราะเขาหุนหันพลันแล่นจึงทำลายทุกอย่าง, Thai Definition: ด่วนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไปด้วยความโกรธ |
| ก หัน | น. อักษร ก คู่ ในหนังสือโบราณใช้แทนไม้หันอากาศตัวหนึ่ง เป็นตัวสะกดตัวหนึ่ง เช่น จกก = จัก หลกก = หลัก. | กลับหลังหัน | ก. หมุนตัวกลับให้ด้านหลังไปอยู่แทนในตำแหน่งด้านหน้า. | กะทังหัน | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Calophyllum thorelii Pierre ในวงศ์ Guttiferae ดอกสีขาว ผลเล็ก รูปไข่ เนื้อไม้ใช้ทำพื้น ฝา เสาบ้าน และเสากระโดงเรือได้. | กะทันหัน | ว. ทันทีทันใด, ปัจจุบันทันด่วน, จวนแจ. | กังหัน | น. สิ่งที่ประกอบด้วยใบพัดหมุนได้ด้วยกำลังลม, จังหัน ก็ว่า, โดยปริยายเรียกเครื่องหมุนบางชนิดมีรูปทำนองกังหัน ทำให้เกิดกำลังงาน เช่น กังหันนํ้า คือเครื่องหมุนด้วยกำลังนํ้า, กังหันลม คือเครื่องหมุนด้วยกำลังลม, กังหันไอนํ้า คือเครื่องหมุนด้วยกำลังไอนํ้า | กังหัน | ใช้เรียกเครื่องจักรที่หมุนอย่างกังหัน | กังหัน | ชื่อดอกไม้ไฟชนิดที่จุดแล้วหมุนอย่างกังหัน, ลักษณนามว่า ต้น. | กังหันใบพัด | น. เครื่องยนต์ซึ่งใช้กังหันขับใบพัด. | กังหันไอพ่น | น. เครื่องยนต์ซึ่งใช้กังหันขับเครื่องอัดอากาศ, เครื่องยนต์ไอพ่น ก็ว่า. | กังหันน้ำชัยพัฒนา | น. ชื่อเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอยแบบหนึ่ง เป็นอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียชนิดหนึ่ง มีลักษณะการทำงานคล้ายกังหันวิดน้ำขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อเติมอากาศหรือออกซิเจนในแหล่งน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาและประดิษฐ์อุปกรณ์เติมอากาศขึ้นแล้วทรงมอบหมายมูลนิธิชัยพัฒนา ศึกษาวิจัยเพื่อทำต้นแบบพร้อมสนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทานสร้าง นำไปใช้งานตามแหล่งน้ำเสียทั่วประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๓๑๒๗ และองค์กรนักประดิษฐ์โลกจากประเทศเบลเยียมได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในฐานะที่ทรงสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม. | กังหันร่อน | น. ชื่อท่ารำแบบหนึ่ง โดยมือข้างใดข้างหนึ่งตั้งวง แขนตึงระดับไหล่ อีกมือหนึ่งจีบหงาย แขนตึงระดับไหล่. | คิมหันต์ | น. ฤดูร้อน. | จังหัน ๑ | น. ข้าว, อาหาร, (ใช้แก่พระสงฆ์). | จังหัน ๒ | น. กังหัน. | จำหัน ๑, จำหาย ๑ | น. หมวก, เทริด. | จำหัน ๒ | ว. ฉัน, มีแสงกล้า | จำหัน ๒ | เฉกเช่น, ดังเช่น | จำหัน ๒ | โบราณเขียนเป็น จำหนน ก็มี เช่น จำหายแสงส่องตรวัน จำหนนแสงส่องฟ้า (ม. คำหลวง มหาราช). | มหันต-, มหันต์ | (มะหันตะ-, มะหัน) ว. ใหญ่, มาก, เช่น โทษมหันต์. (เมื่อเข้าสมาสกับศัพท์อื่น เป็น มห บ้าง มหา บ้าง เช่น มหัคฆภัณฑ์ คือ สิ่งของที่มีค่ามาก, มหาชน คือ ชนจำนวนมาก). | มหันตโทษ | (มะหันตะโทด) น. โทษหนัก, คู่กับ ลหุโทษ = โทษเบา. | โมหันธ์ | น. ความมืดมนด้วยความหลง. | โมหันธ์ | ดู โมห-, โมหะ. | ไม้หันอากาศ | น. เครื่องหมายรูปสระดังนี้ ั ใช้แทนเสียงสระอะในกรณีที่มีตัวสะกด เช่น ก ะ ด = กัด, ไม้ผัด หรือ หางกังหัน ก็เรียก. | ระเหหัน | ว. ซวดเซเหหันไปมา, วนเวียนไปมา. | สะพานหัน | น. สะพานที่สร้างให้บางส่วนหันเบนออกไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเปิดทางให้เรือแล่นผ่าน. | หกหัน | ก. หันกลับ, หมุนกลับ. | หมูหัน | น. ลูกหมูผ่าเอาเครื่องในออก เสียบเหล็กหมุนย่างจนหนังสุกกรอบ. | หัน ๑ | ก. เปลี่ยนจากทิศทางหนึ่งไปอีกทิศทางหนึ่ง เช่น หันซ้าย หันขวา หันโต๊ะไปทางหน้าต่าง, อยู่ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น หันหลังให้ประตู, ผัน ก็ว่า | หัน ๑ | หมุน เช่น หมูหัน | หัน ๑ | เปลี่ยนจากฝ่ายเดิม เช่น หันไปเข้าข้างศัตรู หันไปพึ่งญาติทางฝ่ายสามี. | หันกลับ | ก. เปลี่ยนไปสู่สภาพเดิม เช่น เขาทั้งสองหันกลับไปคืนดีกัน. | หันข้าง | ก. ผินด้านข้างให้เพราะงอนหรือไม่พอใจเป็นต้น. | หันรีหันขวาง | ก. อาการที่หันเหไปมา เก้ ๆ กัง ๆ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างใด. | หันหน้า | ก. ทำให้หน้าอยู่ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น เขานั่งหันหน้าออกทางประตู | หันหน้า | หันไปหา เช่น ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร หันหน้าเข้าวัด. | หันหน้าเข้าวัด | ก. มุ่งหน้าเข้าวัดเพื่อถือศีลฟังเทศน์เป็นต้น. | หันหน้าเข้าหากัน | ก. ปรองดองกัน, สมัครสมานกัน, เช่น ทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน. | หันหลัง | ก. ทำให้หลังอยู่ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น ตั้งตู้หันหลังติดกำแพง | หันหลัง | เลิก เช่น หันหลังให้อบายมุข. | หันหลังชนกัน | ก. ร่วมมือร่วมใจกัน. | หันหลังให้กัน | ก. โกรธกัน, เลิกคบค้ากัน. | หันเห | ก. เบนจากเดิม. | หันเหียน | ก. เปลี่ยนท่าทาง, พลิกแพลง, เช่น รำร่ายหันเหียนเวียนละวัน หมายมั่นเข่นฆ่าราวี (อิเหนา), เหียนหัน ก็ว่า. | หันอากาศ | น. เรียกเครื่องหมายรูปสระดังนี้ ั ว่า ไม้หันอากาศ ใช้แทนเสียงสระอะในกรณีที่มีตัวสะกด เช่น ก ะ ด = กัด, หางกังหัน หรือ ไม้ผัด ก็เรียก. | หัน ๒ | ก. เห็น. | หันตรา | (-ตฺรา) น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำคล้ายขนมเม็ดขนุน แต่มีไข่ทำเป็นฝอยหุ้มนอก. | หันตา | น. ผู้ฆ่า. | หางกังหัน | น. เครื่องหมายรูปสระดังนี้ ั ใช้แทนเสียงสระอะในกรณีที่มีตัวสะกด เช่น ก ะ ด = กัด, ไม้หันอากาศ หรือ ไม้ผัด ก็เรียก. | หุนหัน | ก. ทำโดยรวดเร็วไม่ยั้งคิดเพราะโกรธหรือผิดหวังเป็นต้น เช่น พอเจอหน้ากันยังไม่ทันฟังความก็หุนหันออกไป. | หุนหันพลันแล่น | ก. ด่วนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไปโดยไม่ยั้งคิดด้วยความโกรธ ความโลภ เป็นต้น. |
| | แจงพระรูป | วิธีเอาเถ้าถ่านและกระดูกศพที่เผาเสร็จแล้วบนกองฟอนมาเรียงลำดับเป็นอย่างรูปคน ให้หัวอยู่ทางทิศตะวันตกแล้ว หันกลับมาทางทิศตะวันออก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แปรรูป หรือแปรธาตุ [ศัพท์พระราชพิธี] | Gas turbines | เครื่องยนต์กังหันแก๊ส [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Hydraulic turbine | กังหันน้ำ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Wind turbine | กังหันลม [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Steam-turbine | กังหันไอน้ำ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Gas Turbine Generator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ [ปิโตรเลี่ยม] | Gas Turbine Power Plant | โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ, โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้กังหันก๊าซเป็นเครื่องดันกำลัง, Example: ซึ่งได้พลังงานจากการเผาไหม้ของส่วนผสมระหว่างก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมันดีเซลกับความดันสูง (Compressed air) จากเครื่องอัดอากาศ (air compressor) ในห้องเผาไหม้ เกิดเป็นไอร้อนที่ความดันและอุณหภูมิสูง ไปขับดันใบกังหัน เพลากังหันไปขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซมีประสิทธิภาพประมาณ 25% สามารถเดินเครื่องได้อย่างรวดเร็วเหมาะที่จะใช้เป็นโรงไฟฟ้าสำรองเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูงสุด (peak load period) และกรณีฉุกเฉิน และมีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปี [ปิโตรเลี่ยม] | BWR type reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็ว นิวตรอน โดยออกแบบการทำงานให้น้ำเดือดอยู่ภายในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และใช้ไอน้ำที่เกิดขึ้นไปขับกังหันไอน้ำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยตรงเพื่อ ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | Boiling water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือด, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำเป็นทั้งตัวทำให้เย็นและตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน โดยออกแบบการทำงานให้น้ำเดือดอยู่ภายในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และใช้ไอน้ำที่เกิดขึ้นไปขับกังหันไอน้ำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยตรงเพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | surge protector | เครื่องป้องกันไฟกระชาก, อุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างคอมพิวเตอร์กับกระแสไฟฟ้าบ้าน และป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์เสียหายจากกระแสไฟฟ้าที่กระชากขึ้นสูง โดยกระทันหัน อย่างไรก็ตามเครื่องนี้จะไม่สามารถป้องกันกระแสไฟฟ้าตก หรือไฟฟ้าดับได้ [คอมพิวเตอร์] | PWR type reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบให้น้ำภายใต้ความดันสูงในแกนเครื่อง ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำ แล้วถ่ายโอนความร้อนไปให้น้ำอีกระบบหนึ่งกลายเป็นไอไปหมุนกังหันเพื่อ ผลิตกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | Pressurized water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบให้น้ำภายใต้ความดันสูงในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำ แล้วถ่ายโอนความร้อนไปให้น้ำอีกระบบหนึ่งกลายเป็นไอไปหมุนกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า, Example: [นิวเคลียร์] | Pressurized water cooled moderated reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบให้น้ำภายใต้ความดันสูงในแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำ แล้วถ่ายโอนความร้อนไปให้น้ำอีกระบบหนึ่งกลายเป็นไอไปหมุนกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า [นิวเคลียร์] | Nuclear power plant | โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์, โรงไฟฟ้าพลังความร้อนรูปแบบหนึ่งที่ใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์จากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เป็นแหล่งผลิตความร้อน และถ่ายเทความร้อนให้กับน้ำ จนเดือดเป็นไอร้อนไปหมุนกังหันไอน้ำซึ่งจะขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ให้ผลิตไฟฟ้าออกมาเช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนทั่วไป, Example: [นิวเคลียร์] | Arhats | พระอรหันต์ [TU Subject Heading] | Gandhi, Mohandas Karamchand, 1869-1948 | คานธี, โมหันทาส การามจันทร์, ค.ศ. 1869-1948 [TU Subject Heading] | Hydraulic turbines | กังหันน้ำ [TU Subject Heading] | Wind turbines | กังหันลม [TU Subject Heading] | Agreement | การที่รัฐที่ผู้จะไปประจำตำแหน่งในรัฐนั้นได้ตกลง เห็นชอบกับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนทางการทูต อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ บัญญัติไว้ว่า1. รัฐผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นที่แน่นอนว่า รัฐผู้รับได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำหรับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐนั้น2. รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลแก่รัฐผู้ส่งในการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตซึ่งรอการถวายสารตราตั้งจะต้องเริ่มดำเนิน การเพื่อเดินทางไปยังรัฐผู้รับในเรื่องนี้ มีตัวอย่างไม่น้อยที่รัฐผู้รับปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่อ้างว่า การเสนอชื่อผู้รับการแต่งตั้งได้กระทำกะทันหันเกินไป และมิได้แจ้งข้อเท็จจริงมาก่อน หรือว่าผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเคยกล่าวตำหนิ วิพากษ์รัฐผู้รับ หรือผู้รับการเสนอชื่อมมีภรรยาเป็นชาวยิว หรือผู้รับการเสนอชื่อถือศาสนาโรมันคาทอลิก หรือผู้นั้นเคยปฏิบัติไม่ดีต่อชนชาติของรัฐผู้รับ หรือผู้นั้นในขณะนั้นกำลังอยู่ในระหว่างถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เป็นต้นกล่าวโดยย่อ agr?ment คือ การให้ความเห็นชอบของรัฐผู้รับ แก่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐผู้ส่งให้เป็นผู้แทนทางการทูตนั่นเอง [การทูต] | Exercise of Consular Functions in a Third State | การปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐที่สาม (A Third State) ในเรื่องนี้ข้อ 7 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้ระบุว่า?เมื่อได้บอกกล่าวให้รัฐที่เกี่ยวข้องทราบ แล้ว รัฐูผู้ส่งอาจมอบหมายให้สถานีที่ทำการทางกงสุลที่ได้ตั้งอยู่ในรัฐหนึ่งโดย เฉพาะปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในอีกรัฐหนึ่งได้ นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดเจนโดยรัฐหนึ่งในบรรดารัฐที่เกี่ยวข้อง?นอกจาก นี้ สถานที่ทำการทางกงสุลยังอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลแทนรัฐที่สามได้ เรื่องนี้ข้อ 8 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้กำหนดว่า เมื่อบอกกล่าวอย่างเหมาะสมแก่รัฐผู้รับแล้ว สถานที่ทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐผู้รับ แทนรัฐที่สามได้ นอกจากรัฐผู้รับนั้นจะคัดค้าน และพนักงานฝ่ายกงสุลอาจปฏิบัติการหน้าที่ของตนนอกเขตกงสุลได้ในพฤติการณ์ พิเศษ และด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะให้พนักงานฝ่ายกงสุลปฏิบัติการหน้าที่ทาง กงสุลนอกเขตกงสุล ฝ่ายที่เห็นด้วยว่าควรปฏิบัติการนอกเขตกงสุลได้ อ้างว่า การใช้เอกสิทธิ์เช่นนั้นเป็นการชอบแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า อาจจะมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นในสถานที่นอกเขตกงสุล ซึ่งเป็นความจำเป็นที่พนักงานฝ่ายกงสุลจะได้ให้บริการในทันที่ที่มีการแจ้ง โดยกะทันหัน [การทูต] | Good Offices และ Mediation | วิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Orientation | แนวทิศทางการวางตัว การหันทิศทางอาคาร [พลังงาน] | Active Form, Optically | รูปที่หันแสงได้ [การแพทย์] | Amblyopia Ex-Anopsia | นัยน์ตาเหล่ชนิดหันออกข้างนอก [การแพทย์] | Asphyxia, Acute | การหายใจไม่ออกอย่างกระทันหัน [การแพทย์] | Blocking | การหยุดโดยฉับพลัน, พูดติดขาดเป็นห้วงๆ, หยุดกะทันหัน, พูดติดขาดเป็นห้วงๆ [การแพทย์] | Convergence | การกลอกตาทั้งสองข้างเข้าหากัน, นัยน์ตาสองข้างเบนเข้าหากันมาก, กล้ามเนื้อที่กลอกตาเข้าข้างใน, ลูกตาทั้ง2ข้างหันเข้าหากันเล็กน้อย [การแพทย์] | Death, Heart, Sudden | ตายอย่างกระทันหันจากหัวใจ [การแพทย์] | Death, Sudden | การตายอย่างกระทันหัน, การตายปัจจุบัน, ตายอย่างกระทันหัน [การแพทย์] | Endophylic Forms | ก้อนที่หันกลับเข้ามา [การแพทย์] | Everse | หันฝ่าเท้าออกนอก [การแพทย์] | Eversion | การเอียงออกนอก, การหันฝ่าเท้าออก, ขาข้างที่อ่อนแรงจะแบะออก, เท้าพลิกออก, การยื่นเผยออกมา, แบะออก [การแพทย์] | water turbine | water turbine, กังหันน้ำ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | hydraulic turbine | hydraulic turbine, เครื่องกังหันน้ำ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | impulse turbine | impulse turbine, เครื่องกังหันแรงกระแทก [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | penstock | penstock, ท่อนำน้ำเข้าเครื่องกังหันน้ำ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | catastrophic flood | catastrophic flood, มหันตอุทกภัย [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | scattering | การกระเจิง, การที่คลื่นเคลื่อนที่ไปกระทบอนุภาคแล้วมีคลื่นกระจายออกรอบ ๆ อนุภาคนั้น หรือการที่อนุภาคเคลื่อนที่ไปกระทบอนุภาคอื่นแล้วแนวการเคลื่อนที่หันเหไปจากทิศเดิม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | turbine | เครื่องกังหัน, กลจักรชนิดใบพัดหมุนใช้ผลิตกำลังโดยอาศัยพลังงานจากกระแสน้ำไอน้ำ และแก๊ส เช่น เครื่องกังหันไอน้ำ เครื่องกังหันน้ำ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | steam turbine engine | เครื่องจักรไอน้ำแบบกังหัน, เครื่องจักรไอน้ำที่ใช้แรงดันของไอน้ำดันให้กังหันหมุน และแกนของกังหันจะต่อไปยังเครื่องกลอื่นให้ทำงาน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | nuclear power plant | โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์, โรงผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ได้จากเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูมาทำให้น้ำเดือดเป็นไอ แล้วให้ไอน้ำไปหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | jet engine | เครื่องยนต์ไอพ่น, กลจักรที่ได้พลังงานจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ทำให้เกิดแก๊สร้อนผ่านกังหันหลายชุดเกิดแรงดันสูงพ่นออกมา ทำให้เครื่องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าดังเช่นที่ใช้ในเครื่องบินไอพ่น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Goldmann Perimeter | นั่งหันหน้าเข้าหาครึ่งทรงกลมกลวง [การแพทย์] | Grice Procedure | การผ่าตัดแก้เท้าปุกหันออกโดยการยืดเท้าด้านในและ [การแพทย์] | Inactive Form | รูปที่หันแสงไม่ได้, รูปไม่ว่องไว, รูปอกัมมันต์, อยู่ในสภาพสงบอยู่, ไม่มีฤทธิ์, รูปที่ทำงานไม่ได้, รูปไร้ฤทธิ์, สภาพที่ไม่ทำงาน [การแพทย์] | Inversion | การหันฝ่าเท้าเข้า, ม้วนลง, เอาก้นขึ้นเอาปากลงสลับกันไป, พลิกกลับไปมา, การต่อใหม่, เท้าพลิกเข้าใน, การพลิกด้านใน [การแพทย์] |
| Her back to him, her head on a pillow. | หันหลังให้เขา หัวของเธออยู่บนหมอน Basic Instinct (1992) | Turn around. | หันหลัง Basic Instinct (1992) | Turn around. | หันหลัง Basic Instinct (1992) | This whole thing is Bill's idea, a sudden obsession with protecting me. | ความคิตของบิลล์เขาน่ะ เกิดจะปกป้องกันขึ้นมากะทันหัน-- ลุกขึ้น เร็วเข้า The Bodyguard (1992) | Foster, right here. Turn around. | ฟอสเตอร์ อยู่ตรงนี้ หันมา The Bodyguard (1992) | Don't turn away. Look. | อยาหันหน้าหนี มองสิ Wuthering Heights (1992) | Turn round. | หันหลังสิ Wuthering Heights (1992) | I turns to him and I says "Jump in, Lennie." | ฉันหันไปหาเขาแล้วพูดว่า "กระโดดลงไป เลนนี่" Of Mice and Men (1992) | It's got a windmill. Got a little shack on it, and a chicken run. | มีกังหันลม มีกระท่อมเล็ก ๆ และเล้าไก่ Of Mice and Men (1992) | You have a few pigeons that fly around the windmill, like they done when I was a kid. | มีนกพิราบสองสามตัว บินรอบกังหันลม เหมือนที่มันทำตอนที่ฉันเป็นเด็ก Of Mice and Men (1992) | We're gonna get a little place of land and rabbits and windmill. | เราจะซื้อที่ผืนเล็ก ๆ และพวกกระต่ายและกังหันลม Of Mice and Men (1992) | I think the fans here have an extreme case of Jamaican fever. | ผมคิดว่ากองเชียร์ที่อยู่ที่นี่ ก็หันมาคลั่งไคล้จาไมก้า Cool Runnings (1993) | Well, your hat should be on sideways, shouldn't it? | หมวกลูกต้องหันแบบนี้, ไม่ใช่แบบนั้น? Hocus Pocus (1993) | I decided to turn back... to call him Giuseppe for the first time in my life. | ฉันตัดสินใจที่จะหันหลังกลับไป ... เพื่อเรียกเขาเซปเป เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน In the Name of the Father (1993) | When I turned around, he had already walked away. | เมื่อผมหันไปรอบ ๆ เขาแล้วเดินจากไป In the Name of the Father (1993) | Then it was my turn to take the stand. | แล้วมันก็หันของฉัน ที่จะยืน In the Name of the Father (1993) | If you mean it turns to vinegar... it does. | ถ้าคุณหมายถึงมันหันไปน้ำส้มสายชู ... มันไม่ Pulp Fiction (1994) | Turn around. | หันไปรอบ ๆ The Shawshank Redemption (1994) | Is two hands above the horizon in midsummer, that's due west. | เมื่อดาวประกายพรึกอยู่สูง2ฝ่ามือ เหนือขอบฟ้าคิมหันทางเบื้องตะวันตก Rapa Nui (1994) | Say, some untimely tragic death. Death? | หรือแทนเขาถ้าเขาเป็นอะไรไป เช่นตายไปอย่างกระทันหัน Rapa Nui (1994) | Watch them burn. | อย่าหันหน้าหนี Rapa Nui (1994) | Turn around. | หันไปรอบ ๆ The Shawshank Redemption (1994) | Turn around. | หันไปรอบ ๆ The Shawshank Redemption (1994) | I imagine it appealed to his meticulous nature. | ฉันคิดว่ามันหันไปธรรมชาติอย่างพิถีพิถันของเขา The Shawshank Redemption (1994) | It is of coursethe greatest pleasure they will ever experience. | มันเป็นความสุขหฤหันต์ ที่พวกเธอไม่เคยเจอมาก่อน Don Juan DeMarco (1994) | Turn around! Put your hands behind you! | หันไป เอามือไพล่หลัง Heat (1995) | Is there any way that... it could work out between us? | มีทางมั้ย ที่เราจะหันหน้าเข้าหากัน Heat (1995) | If you see anyone, don't look right or left. | ถ้าคุณเห็นใคร อย่าหันซ้ายหันขวา ให้มีพิรุธ The Great Dictator (1940) | Now turn around... and let me look you over. | ตอนนี้หันไปรอบ ๆ และแจ้ง ให้เรามองคุณมากกว่า Pinocchio (1940) | I apologize for depriving you of your companion in this abrupt way. | ผมต้องขออภัยที่พรากเอาเพื่อนของคุณ มาแบบกะทันหันอย่างนี้ Rebecca (1940) | They turn their thoughts to God. | พวกเขาหันไปพึ่งพระเจ้า Night and Fog (1956) | He took hold of one foot gently and held it until the boy woke... ... and turned and looked at him. | เขาก็จับเท้าข้างหนึ่งค่อยๆ และถือมันไว้จนเด็กตื่น และหันมองไปที่เขา The Old Man and the Sea (1958) | And he felt himself going when he turned the fish. | และเขารู้สึกว่าตัวเองไป เมื่อเขาหันปลา The Old Man and the Sea (1958) | I am steady. Now a turn to the right and it locks. | ตอนนี้หันไปทางขวาและล็อค Help! (1965) | I am turning it to the right. | ฉันกำลังหันไปทางขวา มันถูกล็อค Help! (1965) | All right, lads, time to stow the gab and turn to. | โอเคเด็กเวลาที่จะ เก็บพูดเรื่องไม่มีสาระและหันไป Yellow Submarine (1968) | I've got to frisk you, so turn around. On your knees, facing me. | ผมได้มีการกระโดดโลดเต้นคุณจึงหันไปรอบ ๆ ที่หัวเข่าของคุณหันหน้าไปทางฉัน The Godfather (1972) | Well, if we're going to stay, and I think it's a big mistake we're going to need a new sheriff. | ถ้าเราจะอยู่ พ่อว่าเราทำผิดมหันต์... เราต้องมีนายอำเภอใหม่ ใครจะเป็น Blazing Saddles (1974) | Then one day I was just walking down the street and I heard a voice behind me say "Reach for it, mister!" I spun around. | วันนึง... ...ฉันเดินเล่นไปตามถนน ได้ยินเสียงจากข้างหลังว่า ..."ยกมือขึ้น!" ฉันหันไป Blazing Saddles (1974) | Charlie, take my word for it, don't look back! | ชาร์ลี เชี่อฉันสิ อย่าหันไปมอง! Jaws (1975) | When I was on the beach, I turned around and actually saw my boat being taken apart. | พอขึ้นฝั่งเเล้ว ผมหันกลับไป ยังเห็นมันฉีกเรือผมเล่นอยู่เลย Jaws (1975) | We're swinging. Get behind me again. | ก้มหัวลง เรากําลังหันกลับ ไปอยู่ข้างหลังผมอีกที Jaws (1975) | Five degrees port. | หันช้ายห้าองศา Jaws (1975) | Five degrees port now. | หันช้ายห้าองศา Jaws (1975) | Then he ejaculated over my back | ต่อมาเขาพูดออกมาอย่างกะทันหันและสั้นๆลอยเหนือหลังของฉัน Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Then he stretched out seemingly semi-conscious in a chair and ejaculated making his sperm fall upon the charred remains of my clothes | ต่อมาเขายืด out seemingly ครึ่ง-ซึ่งมีจิตสำนึก... ...ในเก้าอี้... ...และพูดออกมาอย่างกะทันหันและสั้นๆ... Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | He swallowed everything, imitating the cries of a baby and ejaculated into his nappy | เขากลืนทุกสิ่ง, การ imitate the ร้องให้ของทารก... ...และพูดออกมาอย่างกะทันหันและสั้นๆเข้าไปในเป็นฟองของเขา . Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | My sister told me he'd only to see her dirty arse and he ejaculated | พี่สาว, น้องสาวของฉันที่บอกฉัน... ...เขา'ควรจะการดูเท่านั้น arse and สกปรกของเธอ . ที่เขาพูดออกมาอย่างกะทันหันและสั้นๆ Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | When all the girls are in the cellar, our hero is highly aroused, having so many contacts without once ejaculating | เมื่อเด็กผู้หญิงทั้งหมดคือ in the หลุมใต้ดิน, วีรบุรุษของเรา... ...ที่ถูกกระตุ้นอย่างมาก, มี many contacts เกินไป โดยปราศจากที่พูดออกมาอย่างกะทันหันและสั้นๆครั้งหนึ่ง Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Every time I turn around, he's spreading the word, my word. | ทุกครั้งที่ผมหันหลังกลับ เขาเผยแพร่คำสอน คำสอนของผม Oh, God! (1977) |
| อรหันต์ | [Arahan = Ørahan] (n) EN: Buddhist saint ; Arahant ; Arhat ; Perfected One ; liberated person ; Accomplished One ; Worthy One ; saint FR: saint bouddhique [ m ] ; arhat = arahat [ m ] | อารมณ์ของพระอรหันต์ | [ārom khøng phra ørahan] (n, exp) EN: grief in laws | โดยกะทันหัน | [dōi kathanhan] (adv) EN: suddenly | โดยกระทันหัน | [dōi krathanhan] (adv) EN: unexpectedly | หัน | [han] (v) EN: turn around ; face about ; move around ; reverse ; revolt ; rotate ; redirect ; direct ; change FR: tourner ; orienter ; diriger | หันอากาศ | [han-ākāt] (n) EN: vowel mark –ั(a) FR: symbole vocalique –ั(a) | หันเห | [hanhē] (v) EN: divert ; veer ; swerve ; deviate ; be deflected FR: dévier ; détourner | หันกลับ | [han klap] (v, exp) EN: turn back ; turn around FR: faire demi-tour ; se retourner ; faire volte-face | หันหลัง | [han lang] (v, exp) EN: turn one's back towards FR: tourner le dos | หันหน้า | [han nā] (v, exp) EN: turn one's head ; turn to face FR: tourner le visage | หันไป | [han pai] (v, exp) EN: change one's mind FR: changer d'avis | หันไป | [han pai] (v, exp) EN: return to | หันไปทาง | [han pai thāng] (v, exp) FR: orienter ; diriger | หันศีรษะ | [han sīsa] (v, exp) FR: tourner la tête | หันตัว | [han tūa] (v, exp) FR: se tourner | หุนหัน | [hunhan] (adj) EN: hasty ; rash ; impetuous ; quick-tempered FR: imprudent ; irréfléchi ; impétueux | หุนหันพลันแล่น | [hunhanphlanlaen] (v) EN: be rash ; be hasty ; be impetuous FR: agir sans réfléchir | จัดอย่างกะทันหัน | [jat yāng kathanhan] (v, exp) EN: improvise | กังหัน | [kanghan] (n) EN: wind wheel ; sail of a windmill ; waterwheel ; pinwheel ; turbine FR: turbine [ f ] ; aube [ f ] | กังหัน | [kanghan] (n) EN: weather vane FR: girouette [ f ] | กังหันไอน้ำ | [kanghan ainām] (n, exp) EN: steam turbine | กังหันไอพ่น | [kanghan aiphon] (n, exp) EN: jet turbine ; gas turbine ; turbojet | กังหันใบพัด | [kanghan baiphat] (n, exp) EN: turbo-propeller | กังหันไฟฟ้า | [kanghan faifā] (n, exp) EN: turbogenerator | กังหันลม | [kanghan lom] (n, exp) EN: wind wheel ; wind turbine ; wind propeller ; air turbine FR: éolienne [ f ] | กังหันน้ำ | [kanghan nām] (n, exp) EN: water turbine ; water vane ; water wheel | กะทันหัน = กระทันหัน | [kathanhan = krathanhan] (adj) EN: sudden ; abrupt ; unheralded ; unexpected FR: soudain ; imprévu ; brusque ; non annoncé | กะทันหัน = กระทันหัน | [kathanhan = krathanhan] (adv) EN: suddenly ; abruptly ; unexpectedly ; immediately ; hurriedly ; in haste FR: soudainement ; inopinément ; immédiatement ; à la hâte | ความหันเห | [khwām hanhē] (n) FR: déviation [ f ] ; inflexion [ f ] | ไม้หันอากาศ | [māi han-ākāt] (n, exp) EN: [ a vowel symbol ] FR: [ symbole de la voyelle a ] | โมหันธ์ | [mōhan] (n) EN: delusion ; illusion ; confusion ; false impression | อรหันต์ | [ørahan] (n) EN: Buddhist saint ; saint FR: saint [ m ] | สะพานหัน | [saphānhan] (n) EN: turn bridge ; swing bridge ; pivot bridge FR: pont tournant [ m ] ; pont pivotant [ m ] | อย่างกะทันหัน | [yāng kathanhan] (adv) EN: immediately ; suddenly ; at once |
| narcolepsy | (n) ชื่อโรคชนิดหนึ่ง อาการของโรคคือผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการหลับได้ ในแต่ละวันผู้ป่วยอาจจะรู้สึกง่วงมากจนต้องหลับไปอย่างกระทันหันได้หลายๆครั้ง ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ninds.nih.gov/disorders/narcolepsy/narcolepsy.htm http://med.stanford.edu/school/Psychiatry/narcolepsy/ |
| abruptly | (adv) อย่างทันที, See also: ฉับพลัน, อย่างปัจจุบันทันด่วน, ในทันที, กะทันหัน, Syn. suddenly, awiftly | advert | (vt) เรียกความสนใจ, See also: หันความสนใจ | anticlimax | (n) เหตุการณ์ที่ลดความสำคัญอย่างกะทันหัน | arrest | (n) การชะงัก, See also: การหยุดอย่างกระทันหัน, Syn. stoppage, staying, interruption, Ant. continuation | averted | (adj) ที่ทำให้เบนสายตาไป, See also: ที่ทำให้หันไป, Syn. turned aside, redirected, sidetracked | back | (vt) หันหลังพิงกัน, See also: หันหลังชิด | back | (adv) หันไปข้างหลัง | backhand | (n) ท่าตีโดยหันหลังมือออกนอกตัว, See also: การตีลูกบอลทางตรงข้ามกับมือที่ถือไม้ตี, Ant. forehand | backhand | (n) การเขียนคัดลายมือที่เอนไปทางซ้าย, See also: การคัดลายมือที่หันไปทางซ้าย | back-to-back | (adj) ที่หันหลังพิงกัน, See also: ที่หลังชนกัน | balk | (vi) หยุดอย่างกระทันหัน, See also: ชะงัก, Syn. hesitate | bang | (adv) กะทันหัน, See also: อย่างไม่คาดฝัน, Syn. suddenly | barbecue | (vt) ย่างเนื้อ, See also: หัน | bend | (vt) หันเห, See also: เปลี่ยนเส้นทาง | break | (n) การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน | bucket | (n) ใบเครื่องจักร, See also: ในกังหัน | back onto | (phrv) หันหลังให้กับ | break back | (phrv) เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน (กีฬารักบี้) | break short | (phrv) ยุติกะทันหัน, See also: เลิกกลางคัน, จบทันที, Syn. cut short | caprice | (n) การเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. whim, vagary, notion | capricious | (adj) ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. changeable, whimsical | carry away | (phrv) ทำด้วยความหุนหันพลันแล่น, See also: ความคุมอารมณ์ไม่ได้, ทำด้วยความตื่นเต้น | check | (vi) หยุดกระทันหัน, See also: หยุดชะงัก, Syn. stop | cloudburst | (n) ฝนที่ตกหนักอย่างกะทันหัน, Syn. deluge, rain, downpour | cold | (adv) กะทันหัน, See also: โดยไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า | crash-land | (vi) ลงสู่พื้นดินอย่างกระทันหัน | crash-land | (vt) ลงสู่พื้นดินอย่างกระทันหัน | cast back | (phrv) หันกลับไปยัง, See also: กลับไปสู่, Syn. throw back | deflect from | (phrv) หันเหจาก, See also: เบนออกจาก, เบี่ยงออกจาก | distract from | (phrv) หันเหความสนใจจาก, Syn. deflect from, divert from | drop in one's track | (idm) ตายทันที, See also: เสียชีวิตกะทันหัน | ease round | (phrv) หันกลับเป็นวงกลม | ease to | (phrv) หันเรือกลับไปในทิศที่มีลม | face about | (phrv) หันหลังกลับ (ทางทหาร), See also: หันกลับไป, Syn. turn about, turn around | face about | (phrv) เปลี่ยนความคิดกะทันหัน | face away | (phrv) หันหนีจาก | face forward | (phrv) ทำให้หันไปทางด้านหน้า | face onto | (phrv) หันไปเผชิญกับ, See also: ตั้งตรงข้ามกับ, Syn. back onto | face round | (phrv) หันกลับ, Syn. turn around | flop down | (phrv) ล้มลงเสียงดัง (อย่างกะทันหัน) | deflect | (vt) ทำให้หันเหความสนใจ, See also: เบนความสนใจ, เปลี่ยนความสนใจ, Syn. diviate, diverge, redirect | deflect | (vi) หันเหความสนใจ, See also: เบนความสนใจ, เปลี่ยนความสนใจ, Syn. diviate, diverge | deflection | (n) การหันเหทิศทาง, See also: การเปลี่ยนแปลงทิศทาง, การเบี่ยงเบน, Syn. alienation | detract | (vt) ทำให้เบี่ยนเบน, See also: ทำให้หันเห | deviate | (vt) ทำให้เบี่ยงเบน, See also: ทำให้แตกต่างจากปกติ, ทำให้หันเห, Syn. differ, depart, Ant. agree | deviate | (vi) เบี่ยงเบน, See also: หันเห, บ่ายเบน, แตกต่างจากปกติ, Syn. diverge, digress, Ant. agree | deviation | (n) การเบี่ยงเบน, See also: การหันเห, การแตกต่างไปจากปกติ, Syn. difference, change, Ant. similarity, likeness | diversion | (n) การเบี่ยงเบน, See also: การหันเหความสนใจ | diverting | (adj) ที่ทำให้หันเห, See also: ที่ชักจูงใจ | earthward | (adv) ไปทางโลก, See also: หันไปทางโลก, มุ่งหน้าไปทางโลกหรือพื้นดิน, Syn. downward |
| about | (อะเบาทฺ') adj. รอบ ๆ , อ้อม, เวียนรอบ, ราว, ประมาณ, ติดตัว, ข้าง ๆ ตัว, ในที่ต่าง ๆ , เกี่ยวกับ, แพร่หลาย, ทั่ว, ใกล้, ในราว, หันกลับ, หมุนกลับ, หมุนเวียน, เคลื่อนไหว, Syn. regarding, concerning, around | access | (แอค' เซส) n. ทางเข้า, การเข้าไปได้, วิธีเข้า, อารมณ์รุนแรงและกระทันหัน, Syn. way | adam strok syndrome | อาการอ่อนเพลียอย่างกระทันหัน บางครั้งเกิดการชัก | adverse | (แอดเวอส', แอด' เวอส) adj. ตรงกันข้าม, เป็นปฏิปักษ์, เป็นผลร้าย, เสียเปรียบ, หันไปทางแกน, ในทิศทางตรงข้าม. -adverseness n., Syn. opposing, damaging | advert | (แอดเวอท') vi. ให้ความเห็น, หันความสนใจ, กล่าวถึง, พูดถึง, Syn. heed, refer | anticlimax | (แอนทีไคล' แมคซฺ) n. เหตุการณ ์ (ข้อสรุป, บทความ, การพูด, เนื้อหา) ที่สำคัญน้อยกว่าที่คาดหมายอย่างกระทันหัน, การเปลี่ยนความเข้มข้นหรือความสำคัญของเรื่องราวดังกล่าวอย่างทันที. -anticlimac- | apple ii | (แอปเปิลทู) เป็นชื่อเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกที่บริษัทแอปเปิลผลิตออกมาสู่ตลาด คอมพิวเตอร์ชุดนี้ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ ในเชิงการใช้สอยอย่างมหาศาล ในวงการคอมพิวเตอร์ หลังจากที่แอปเปิล ทูออกสู่ตลาดแล้ว บริษัทแอปเปิลก็ได้ผลิตแอปเปิลทูอี (Apple IIe) และ แอปเปิล ทรี (Apple III) ตามกันออกมาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แล้วบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ก็ตัดสินใจหยุดผลิตชุดแอปเปิล ทรี หันมาผลิตชุดแมคอินทอช ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดสูงมากในปัจจุบัน | averse | (อะเวิร์ส') adj. คัดค้าน, ไม่ชอบ, รังเกียจ, ไม่ยินยอม, ไม่สมัครใจ, หันไปด้านตรงกันข้ามกับต้น, Syn. opposed, hostile | backspace key | ปุ่มย้อนถอยหลัง <คำแปล>เป็นแป้น ๆ หนึ่งบนแผงแป้นอักขระ บางทีมีขนาดยาวกว่าแป้นพิมพ์อื่น บางทีมีสัญลักษณ์เป็นรูปลูกศรหันหัวลูกศรไปทางซ้าย (บางทีมีคำ BS) โปรแกรมสำเร็จหลายโปรแกรมกำหนดไว้ว่า การกดแป้นนี้ทำให้ตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) ถอยไปทางซ้าย 1 ตัวอักษร และลบตัวอักษรทางซ้ายนั้นออกให้ด้วย | bang | (แบง) { banged, banging, bangs } n. เสียงระเบิด, การทุบอย่างแรง, การชนหรือกระทบอย่างแรง, การเคลื่อนไหวทันที, ความยินดีอย่างกะทันหัน, การร่วมเพศ vt., vi. กระทบหรือตีอย่างแรงหรือดัง adj. ดังตูม, ดังฉับพลัน, โดยตรง, ถูกต้อง, Syn. wallop | bend | (เบนดฺ) { bent, bent, bending, bends } vt., vi. ทำให้งอ, ทำให้โค้ง, ทำให้ยอม, ก้ม, งอ, โค้ง, น้าว, โน้ม, ดัด, หัน, บ่าย, เบี่ยง, จ้องเขม็ง n. การงอ, การดัด, การเบี่ยง, หัวโค้ง, คุ้ง, เงื่อนเชือก, Syn. curve | betake | (บิเทค') { betook, betaken, betaking, betakes } vt. ทำให้ต้องไป, ใช้, หันไปใช้วิธี, Syn. take to, take seize | blade | (เบลด) n. ใบมีด, คมมีด, ใบหญ้า, ใบ, ใบพายุ, ใบจักร, ใบกังหัน, ใบพัดลม, กระดูกหัวไหล่, นักเลง, Syn. cutter | blue | (บลู) { blued, bluing, blues } n., adj. สีน้ำเงิน, สีท้องฟ้า, ฟกช้ำ, (หน้า) เขียว adj. มีสีน้ำเงิน, ฟกช้ำ (ผิวหนัง) , โศกเศร้า, หยาบคาย vt. ทำให้เป็นสีน้ำเงิน, ย้อมสีน้ำเงิน, See also: bulish, blueish adj. -Phr. out of the blue อย่างกระทันหันและไม่ได้คาดคิด | bonanza | (บะแนน'ซะ) n. ขุมแร่ใหญ่, ขุมแร่มีค่า, ขุมทรัพย์มหาศาล, ทรัพย์สมบัติที่ปรากฎขึ้นอย่างกะทันหัน, โชคลาภที่ยิ่งใหญ่ | brash | (แบรช) adj. สะเพร่า, หุนหันพลันแล่น, ไม่ไตร่ตรอง, ทะลึ่ง, ก๋ากั่น, เปราะ (ไม้) -n. กองกิ่งไม้, กองขยะ, กองหิน, See also: brashness n. ดูbrash, Syn. impetuous, Ant. cautious | breadboard | n. กระดานนวดแป้งและหันขนมปัง | break | (เบรค) (broke, broken, breaking, breaks) vt., vi. ทำให้แตก, ทำให้บาดเจ็บ, แบ่งออกเป็นส่วน, เปิดเผย, ทำให้เชื่อง, เอาชนะ, ทำลายสถิติ, แหก (คุก) , ฝ่าฝืน, ตัดขาด, ฝึก, สลัด, (โรงเรียน) หยุด, (สงคราม) เกิดขึ้น, ละเลยหน้าที่, ระเบิด, หนี, หยุดพักทำงาน n. การแตกออก, การหยุดพัก, ตอนฟ้าสว่าง หยุดหมายถึง การสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงานอย่างกระทันหัน เราอาจใช้วิธีกดแป้น Break หรือกดแป้น CTRL + C ก็ได้ | breast wheel | n. กังหันทดน้ำแบบหนึ่ง | brusque | (บรัสคฺ) adj. หยาบ, ห้วน, หุนหัน, รับ, ตึงตัง, See also: brusqueness n. ดูbrusque | bucket | (บัค'คิท) { bucketed, bucketing, buckets } n. ถังน้ำ, ถัง, ถังหิ้ว, ถังขุดดิน, ใบกังหัน, ใบเครื่องจักร, พลั่วขุดดิน, เรือหรือรถใหญ่ที่เก่า, ตะโพก. -Id. (kick thebucket ตาย) vt. เอาถังใส่, เอาถังตัก, ขี่ม้าเร็วและหักโหม | buckish | adj. ชอบแต่งตัว, หุนหันพลันแล่น, เหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ | by | (บาย) prep. โดย, ไปยัง, ข้าง, อยู่ข้าง, ใกล้, ติดตัว, ไปทาง, ทาง, หันไปทาง, จาก, ผ่าน, ผ่านไป, ผ่านข้าง, ของ, อาศัย, ใช้, ที่, ทีละ, ต่อ adj. อยู่ใกล้, ใกล้ -Conf. with | canaster | n. ยาเส้นที่หันหยาบ | casette tape | ตลับแถบบันทึกหมายถึง ม้วนแถบพลาสติกอาบแม่เหล็ก นำมาใช้ในการเก็บข้อมูล ใช้ทั้งกับไมโครคอมพิวเตอร์ และเครื่องขนาดใหญ่ (mainframe) ที่นำมาใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเหมือนตลับเทปเพลงธรรมดา สมัยหนึ่งเรานิยมใช้แถบบันทึกนี้เก็บข้อมูล เพราะราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น แต่จะมีปัญหาตามมามากมาย เช่นในเรื่องความคลาดเคลื่อนของข้อมูล อีกทั้งยังมักจะเสียง่าย ในปัจจุบัน จึงหันมานิยมใช้จานบันทึก (diskette) จานบันทึกอัดแน่นหรือซีดี (CD) แทนกันหมดแล้ว | cataplexy | n. ช็อคที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ซึ่งกล้ามเนื้อไร้กำลังและคนไข้ล้มลง | chime | (ไชมฺ) { chimed, chiming, chimes } n. อุปกรณ์ตีระฆังให้เป็นเสียงดนตรี, เสียงระฆังกังวาน, เพลงระฆัง, เสียงกลมกลืน. -vi. ขับร้องประสานเสียง, ทำเสียงระฆัง, เห็นด้วย. -vt. ตีระฆัง, ตีระฆังเรียกประชุม, พูดซ้ำซาก. -chime in พูดสอดแทรกอย่างกะทันหัน, See also: chime i | cloudburst | n. ฝนที่ตกอย่างหนักมากและกะทันหันปานฟ้ารั่ว, พายุฝน | cold | (โคลดฺ) n. หนาว, เย็น, เย็นชา, เฉยเมย, ไม่แยแส, ไร้อารมณ์, ตาย, ครบถ้วน, แน่ชัด, อ่อน (กลิ่น) , (สี) เย็นตา. n. ความหนาว, ความเย็น, หวัด, ไข้หวัด, อุณหภูมิใต้ศูนย์องศา -adv. หมดสิ้น, ทั้งสิ้น, สิ้นเชิง, กะทันหัน, Syn. wintry abbr. chronic obstructive lung disease | coup | (คู) n. การดำเนินการอย่างกะทันหัน, การกระทำที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก, รัฐประหาร -pl. coups | cramp | (แครมพฺ) n. ตะคริว, อาการปวดท้องอย่างกะทันหัน, อุปกรณ์หรือโครงยึด, สิ่งยึด, ภาวะที่เป็นตะคริว, ภาวะที่ถูกยึด adj. เข้าใจยาก, อ่านยาก, ยาก, หด, คับแคบ, Syn. contraction | cropper | (ครอพ'เพอะ) n. ผู้เก็บเกี่ยว, ผู้เพาะปลูก, คนตัดไม้ประดับ, เครื่องมือตัดหญ้า, เครื่องมือตัดไม้ประดับ, เครื่องตัดผ้า, ล้มหัวทิ่ม, การประสบความล้มเหลวอย่างกะทันหันหรืออย่างสิ้นเชิง | dawn | (ดอน) { dawned, dawning, dawns } n. อรุณ, รุ่งอรุณ, การเริ่มต้น, การเริ่มปรากฎขึ้น, การเข้าใจอย่างกะทันหัน vi. เริ่มทอแสง, เริ่มมองเห็นได้, เริ่มปรากฎขึ้นในใจครั้งแรก -S.beginning | dead | (เดด) adj.ตาย, สิ้นลมหายใจ, ไม่มีชีวิต, ไม่มีความรู้สึก, ทื่อ, จืดชืด, โดยสิ้นเชิง, แม่นยำ, กะทันหัน, ตรง, จริง ๆ , ไม่มีกระแสไฟฟ้า adv. โดยสิ้นเชิง, เต็มที่, อย่างกะทันหัน n. คนตาย, Syn. deceased | debacle | (ดะบา'เคิล) n. การแตกสลาย, การกระจายตัว, การพังทะลายลงอย่างกะทันหัน, ความหายนะกะทันหัน | deflagrate | (เดฟ'ฟละเกรท) vt., vi. เผาไหม้โดยเฉพาะอย่างกะทันหันและรุนแรง), See also: deflagration n. ดูdeflagrate deflagrability n. ดูdeflagrate | deflect | (ดีเฟลคทฺ') vt., vi. หันเห, บ่ายเบน, See also: deflector n. ดูdeflect | deflection | (ดิเฟลค'เชิน) n. การหันเห, การบ่ายเบน, การทำให้หันเห, การทำให้บ่ายเบน, Syn. deviation | deflective | (ดิเฟลค'ทิฟว) adj. บ่ายเบน, หันเห, Syn. deviating | delusion | (ดิลู'เ??ชิน) n. การลวงตา, การหลอกลวง, ความเชื่อผิด ๆ , ความคิดเพ้อเจ้อ, การเข้าใจผิด, มหันต์ | descent | (ดิเซนทฺ') การตกลงมา, การเคลื่อนต่ำลงมา, การเอียงลาดลงมา, ทางลง, ทางเนิน, การโจมตีอย่างกะทันหัน, สายโลหิต, การสืบเชื้อสาย, การถ่อมตัว, การลดเกียรติ, Syn. slope, fall | detract | (ดิแทรคทฺ') vt., vi. หันเห, เคลื่อนย้าย, เอาออก, เลิกล้ม, ทำลาย, ลดค่า, See also: detractingly adv. detractor n. | detraction | (ดิแทรค'เชิน) n. การหันเห, การเคลื่อนย้าย, การเอาออก, การลดต่ำ, การทำให้เสื่อมเกียรติ., See also: detractive adj. ดูdetraction | deviate | (ดี'วิเอท) vi., n. (ทำให้) หันเห, บ่ายเบน, เฉ, ไถล, ออกนอกลู่นอกทาง, ผิดปกติ, บุคคลที่ผิดปกติ, See also: deviation n. | dextro | (เดคซฺ'โทร) adj. ซึ่งหันลำแสงไปทางขวา | dextrorotation | (เดคซโทรโรเท'เชิน) adj. การหันแสงไปทางขวาของพื้นราบแห่งขั้ว | digress | vi. วกวนนอกเรื่อง, พูดหรือเขียนนอกประเด็น, หันไปทางข้าง, See also: digresser n. | dive | (ไดฟว) { dived, diving, dives } vi. ดำน้ำ, กระโดดลงน้ำ, พุ่งเอาหัวลง, เข้าเกี่ยวข้องด้วยอย่างเต็มที่. vt. ทำให้กระโดดลงน้ำ, ทำให้ลดต่ำลงอย่างกะทันหัน n. การดำน้ำ, การกระโดดลงน้ำ, การพุ่งเอาหัวลง, การตกลงอย่างรวดเร็ว, Syn. dump, joint, pad, hol | divert | (ไดเวิร์ท') { diverted, diverting, diverts } vt. เบี่ยงเบน, หันเห, ทำให้ออกนอกลู่นอกทาง, เพลิดเพลิน, หาความสำราญ., See also: divertedly adv. ดูdivert diverter n. ดูdivert divertible adj. ดูdivert - divertibility n. ดูdivert คำที่มีความหมายเหมือนก | divertissement | (ดิเวอ'ทิสเมินท) n. การหันเห, การทำให้เพลิดเพลิน |
| bend | (vi, vt) โค้งคำนับ, งอ, ดัด, เลี้ยว, เบน, บ่าย, หัน | blade | (n) ใบมีด, คมมีด, ใบดาบ, ใบจักร, ใบพัด, ใบกังหัน | brash | (adj) ไม่ไตร่ตรอง, สะเพร่า, ใจเร็วด่วนได้, หุนหันพลันแล่น, ทะลึ่ง, ก๋ากั่น | broadside | (adv) หันด้านข้าง | brusque | (adj) ผลุนผลัน, รีบ, หุนหัน | capital | (adj) มหันต์, อุกฉกรรจ์, สำคัญ, มีโทษถึงตาย, โต, มาก | dart | (vi, vt) ถลา, โผ, พุ่ง, ซัด, เผ่น, หัน, โถม | dead | (adj) โดยถ่องแท้, แน่นอน, เต็มที่, โดยสิ้นเชิง, อย่างกะทันหัน | deadly | (adj) ร้ายแรง, มหันต์, ร้ายกาจ, ปางตาย, เต็มที่, ถึงตายได้ | deflect | (vt) ทำให้แบน, บ่ายเบน, ทำให้หันเห | delusion | (n) การหลอกลวง, การตบตา, โมหันธ์, ภาพลวงตา, ความเข้าใจผิด | detract | (vt) ยั่วยุ, หันเห, เลิกล้ม, ทำลาย, เคลื่อนย้าย | detraction | (n) การเคลื่อนย้าย, การเลิกล้ม, การหันเห, การลดค่า | deviate | (vi) หันเห, เบี่ยงเบน, ออกนอกลู่นอกทาง, เฉไฉ, ไถล | deviation | (n) การหันเห, การเบี่ยงเบน, การไถล, การออกนอกลู่นอกทาง | edgewise | (adv) ด้านข้าง, ทางข้าง, ทางขวาง, หันด้านริมออก | egregious | (adj) มากมายใหญ่โต, เหลือเกิน, มหันต์ | face | (vt) เผชิญหน้า, หันหน้าไปทาง, หงาย(ไพ่), เหลียว, ฉาบ | flash | (vi) ส่งแสงแลบ, เกิดขึ้นโดยเร็ว, สะท้อนกลับ, เกิดขึ้นกะทันหัน | grave | (adj) เอาการเอางาน, เอาจริงเอาจัง, หนัก, มหันต์, สำคัญ, ร้ายแรง, รุนแรง | grievous | (adj) เศร้าโศก, ทุกข์, สาหัส, มหันต์, ร้ายแรง, หนัก | grievously | (adv) อย่างเศร้าโศก, อย่างสาหัส, อย่างมหันต์, อย่างร้ายแรง, อย่างหนัก | hotheaded | (adj) อารมณ์ร้อน, หุนหันพลันแล่น, ขี้โมโห | immediate | (adj) ทันทีทันใด, ปัจจุบัน, ใกล้ชิด, ถัดมา, โดยกะทันหัน, ฉับพลัน | immediate | (adv) โดยทันทีทันใด, อย่างกะทันหัน, เดี๋ยวนี้, อย่างฉับพลัน | impatient | (adj) ไม่อดทน, กระวนกระวาย, ใจร้อน, หุนหัน | impetuosity | (n) ความหุนหัน, ความเร็ว, ความใจร้อน | impetuous | (adj) หุนหัน, ไม่ไตร่ตรอง, แรง, ใจร้อน, บุ่มบ่าม | impromptu | (adj) ไม่ได้เตรียม, เฉพาะหน้า, กะทันหัน, ทันควัน | impulsive | (adj) ถูกดัน, ถูกกระตุ้น, ถูกยุยง, หุนหันพลันแล่น | introvert | (vt) หันเข้าข้างใน, หุ้มตัวอยู่, ฝังตัวอยู่ | landward | (adj) เข้าหาฝั่ง, มุ่งสู่ฝั่ง, หันเข้าฝั่ง | landwards | (adj) เข้าหาฝั่ง, มุ่งสู่ฝั่ง, หันเข้าฝั่ง | look | (vi) มองดู, เพ่ง, ดูเหมือน, ดูคล้าย, สนใจ, หันหน้า, เผชิญหน้า | madcap | (adj) บ้าระห่ำ, ไม่ยั้งคิด, ไม่ไตร่ตรอง, หุนหันพลันแล่น | monumental | (adj) เป็นอนุสาวรีย์, ถาวร, อย่างมหันต์, กล้าหาญ | mortal | (adj) เกี่ยวกับมนุษย์, ที่ต้องตาย, ถึงตาย, ร้ายแรง, มหันต์ | mortally | (adj) ร้ายแรง, ถึงตาย, มหันต์ | orientate | (vt) หันไปทางตะวันออก, หันเห, หาที่ตั้ง, ปรับ | paroxysm | (n) การกำเริบ, การปะทุ, การโจมตีกะทันหัน | precipitant | (adj) อย่างเร่งรีบ, อย่างรีบด่วน, ใจเร็วด่วนได้, หุนหันพลันแล่น | prodigious | (adj) มหัศจรรย์, มโหฬาร, ใหญ่โต, มหันต์, มหาศาล | rapid | (adj) ว่องไว, รวดเร็ว, กะทันหัน, ฉับพลัน | rapidity | (n) ความว่องไว, ความเร็ว, ความรวดเร็ว, ความกะทันหัน | rash | (adj) ไม่รอบคอบ, ผลีผลาม, หุนหันพลันแล่น, ใจร้อน | rashness | (n) ความหุนหันพลันแล่น, ความไม่รอบคอบ, ความใจร้อน | sheer | (vi) เบน, หันเห, เลี่ยง, เบี่ยงเบน | sidle | (vi) เลียบ, หันด้านข้าง, เดินเอียง, เอียงข้าง | snappish | (adj) ฉุนเฉียว, เร็ว, หุนหัน | stray | (vi) ไถล, เที่ยวไป, เร่ร่อน, บ่ายเบน, หันเห |
| | 突然 | [とつぜん, totsuzen] (adv) กะทันหัน | 突然 | [とつぜん, totsuzen] (adj, adv) อย่างทันที. กะทันหัน, ฉับพลัน, See also: S. suddenly, abruptly |
| 風見鶏 | [かざみどり, kazamidori] กังหันลม | 風見鶏 | [かざみどり, kazamidori] (n) กังหันลม |
| 向かう | [むかう, mukau] TH: หันหน้าสู่ | 振り返る | [ふりかえる, furikaeru] TH: หันกลับ EN: to turn head | 振り返る | [ふりかえる, furikaeru] TH: หันหลัง EN: to look over one's shoulder | 向く | [むく, muku] TH: หัน EN: to face | 向ける | [むける, mukeru] TH: หันเข้าหา | 振り向く | [ふりむく, furimuku] TH: หันหน้า EN: to turn one's face | 発作 | [ほっさ, hossa] TH: อาการที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันและหายเร็ว |
| erschrecken | (vt) |erschreckte, hat erschreckt, jmdn.| ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งตกใจหรือกลัว เช่น Der plötzliche Tsunami hat mich furchtbar erschreckt. สึนามิที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ฉันตกใจมาก |
| aile | (n) n.f. 1) ปีก เช่น ปีกนก, ปีกไก้, ส่วนปีกของเครื่องบิน 2) ส่วนของใบพัดหรือกังหัน |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |