มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ หนักอึ้ง | (adv) heavily, Syn. หนัก, Ant. เบาหวิว, Example: เขาสลัดคราบจอมปลอมต่างๆ ที่พันธนาการรอบตัวอย่างหนักอึ้งทิ้งจนหมดสิ้น, Thai Definition: มากจนเกือบจะแบกรับไม่ไหว | หนักอึ้ง | (v) be heavy, Syn. หนัก, Ant. เบาหวิว, Example: กระเป๋าใบนี้หนักอึ้งจนต้องใช้คน 3 คนช่วยกันแบก, Thai Definition: มากจนเกือบจะแบกรับไม่ไหว |
|
| Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] |
| It's a rough journey and a sad heart to travel it. | เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก พร้อมกับหัวใจอันหนักอึ้ง Wuthering Heights (1992) | when we commissioned the schmectel corporation to research this precise event sequence scenario, it was determined that the continual stockpiling and development of our nuclear arsenal was becoming self-defeating. | เราได้จ้าง Schmectel Corp. ทำการวิจัยสถานการณ์โลก สรุปได้ว่า การแข่งกันสะสมอาวุธ และการเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ กลายเป็นภาระอันหนักอึ้ง Spies Like Us (1985) | Although it can be a burden. | แม้จะเป็นภาระที่หนักอึ้ง Mulan 2: The Final War (2004) | Oh, you're getting heavy. | โอ้, หนักอึ้งเลย The Amityville Horror (2005) | The steady breathing of the 300 at his back ready to die for him without a moment's pause. | หมวกเหล็กนั้นน่าอึดอัด โล่ห์ก็หนักอึ้งแล้ว 300 (2006) | Slaughter them! | โล่ห์ก็หนักอึ้ง ทำให้ทรงตัวได้ยากยิ่ง 300 (2006) | when I came to you, my heart was heavy. | ฉันรู้อยู่คนเดียวว่า ฉันมาหาพวกคุณด้วยหัวใจหนักอึ้ง Big Momma's House 2 (2006) | The painful burden that has weighted me down | ปัญหาอันหนักอึ้งที่ทับถมฉันอยู่ Arang (2006) | No one would volunteer. It's a pain-in-the-ass job. | ไม่มีใครอาสาหรอก มันเป็นงานที่หนักอึ้งเลยหล่ะ Art Isn't Easy (2007) | The mother, overburdened at the end of her rope. | แม่ที่มีภาระหนักอึ้ง Emancipation (2008) | The words are like stones in my heart. | เรื่องที่หนักอึ้งในใจข้า Avatar (2009) | To not feel their burden is a dream. | ภาระหนักอึ้งนี่ช่างเหมือนฝันซะจริง Legion (2010) | The heart weighs heavy. | หัวใจอันหนักอึ้ง Great and Unfortunate Things (2010) | She's lost a brother and gained an immense responsibility. | เธอสูญเสียพี่ชายไป พร้อมกับภาระหนักอึ้งที่รออยู่ The Secret Diaries of Miss Anne Lister (2010) | It would be a burden to take another life. | มันจะเป็นภาระหนักอึ้ง ที่เราฆ่าคน Take It! (2010) | Boy, I have to get used to driving with this big, heavy ring on my finger. | ฉันต้องฝึกขับรถคันใหญ่ ทั้งที่สวมแหวนหนักอึ้ง Horrible Bosses (2011) | Jeez, Brick, what do you got in here? This thing weighs a ton. | แม่เจ้า บริค แบกอะไรเนี่ย หนักอึ้งเลย The Math Class (2011) | So it was like one page of goodnight, moon and then the sandman dropped the whole bag on him. | พอฉันเล่านิทานพระจันทร์ ให้ฟังได้แค่หน้าเดียว... หนังตาของเขาก็ค่อยๆหนักอึ้ง แล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็ว Just Let Go (2011) | You have traveled far, and carried a great burden. | ท่านเดินทางมาไกล พร้อมกับภาระอันหนักอึ้ง Snow White and the Huntsman (2012) | You know, Mike, I get the sense that something's weighing on your mind. | คุณก็รู้ ไมค์ ผมรู้สึกได้ ว่ามีบางสิ่งหนักอึ้งในความคิดคุณ Christmas Help (2012) | I'd rather see someone a little less... burdened at the helm before I open my checkbook, namely Daniel. | ดิฉันอยากจะเห็นซักคน ลงซักนิดกับ ภาระอันหนักอึ้งของการเป็นผู้นำ ก่อนที่ดิฉันเปิดสมุดเช็คของตัวเองน่ะค่ะ คือแดเนียลนั่นเอง Revelations (2012) | Ladies and gentlemen of the Cabinet, it's with a heavy heart... | ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีของคณะรัฐมนตรีก็มีหัวใจที่หนักอึ้ง ... White House Down (2013) | "Uneasy lies the head that wears the crown." | "อำนาจของกษัตริย์มาพร้อมกับภาระที่หนักอึ้ง" You're No Good (2013) | We got to carry a little extra weight. | เราต้องแบกภาระหนักอึ้ง Taxi Driver (2013) | May the Smith grant him strength that he might bear this heavy burden | ขอให้เหล่าช่างตีเหล็กมอบพละกำลังแก่เขา เพื่อให้เขาแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ Internment (2013) | It can be overwhelming knowing the future you're about to create. | มันจะหนักอึ้ง เมื่อรู้ถึงอนาคตที่คุณจะสร้าง Predestination (2014) | that he might bear this heavy burden | เพื่อแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ First of His Name (2014) | And it's truly with a heavy heart that I'm here to say that... | และมันก็เป็นอย่างแท้จริงด้วย หัวใจที่หนักอึ้ง ที่นี่ฉันจะบอกว่า The Wolf of Wall Street (2013) | I didn't realize having a conscience was a burden. [ Keys jingle ] What are you playing? | ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการมีสติมันจะเป็นภาระที่หนักอึ้งแบบนี้ นายกำลังเล่นอะไรอยู่ The Magician (2014) | Our feet are... hammered and we're just emaciated. | เท้าเราหนักอึ้ง และตัวผอมแห้ง Meru (2015) | Because for me, it's, like, this heavy fucking thing... that wouldn't leave me alone. | มันเหมือนอะไรที่หนักอึ้ง ที่ไม่หายไปเสียที Meru (2015) | There's no doubt that I had a heavy heart going into it. | ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใจผมหนักอึ้ง Meru (2015) | You've no idea the responsibility that rests upon her shoulders. | เจ้าไม่รู้ภาระหนักอึ้งที่ท่านแบก Doctor Strange (2016) | I never should have put so much on your shoulders. | ย่าไม่ควรจะวางภาระหนักอึ้งบนบ่าหลาน Moana (2016) | "eyes wild and heavy." | ดวงตาที่ถ่วงหนักอึ้ง The BFG (2016) | They've given you a burden you cannot hope to bear. | พวกนั้นมอบภาระหนักอึ้ง ที่แกไม่อาจแบกรับไหว Kingsglaive: Final Fantasy XV (2016) | It is a heavy burden to me, as, in a way, I often hide things from myself. | มันเป็นภาระหนักอึ้งสำหรับฉัน ซึ่งทำให้ฉันปิดบังหลายสิ่งจากตัวเองอยู่บ่อยครั้ง |
| | leaden | (เลด'เดิน) adj. หนัก, หนักอึ้ง, ไม่มีรสชาติ, ดื้อ, ไม่มีชีวิตชีวา, สีเทา, เฉื่อยชา, เชื่องช้า, งุ่มง่าม, ประกอบด้วยตะกั่ว vt. ทำให้หนัก, ทำให้เชื่องช้า., Syn. precede | oppressive | (อะเพรส'ซิฟว) adj. เป็นการกดขี่, ซึ่งทำให้ลำบากใจ, ซึ่งทำให้เป็นทุกข์หนักอึ้ง., See also: oppressiveness n., Syn. tyrannical | plod | (พลอด) v., n. (การ) เดินอย่างหนักอึ้งหรือลำบาก, ค่อย ๆ เดิน, เพียรพยายาม, See also: plodder n. plodness n, Syn. drudge |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |