496 ผลลัพธ์ สำหรับ *ขัด*
ภาษา
หรือค้นหา: ขัด, -ขัด-Longdo TH - TH
ไม้เบื่อไม้เมา | ไม่ลงรอยกัน, ขัดแย้งกันเป็นประจำ. |
Longdo Unapproved MED - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Contra-indication | สิ่งขัดแย้ง, ข้อบ่งห้าม(ใช้) |
Longdo Unapproved TH-NE-N - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ขีน | (vt) ขวาง , ขัดขวาง |
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ขัด | (v) go against, See also: be opposed to, be in contrast to, Syn. ขัดแย้ง, Example: การกระทำของเธอขัดต่อศีลธรรมและประเพณีของเมืองนี้, Thai Definition: ไม่ทำตามหรือฝ่าฝืนสิ่งที่กำหนดไว้ |
ขัด | (v) cross, Syn. กลัด, ตรึง, Example: แม่ขัดฝาหม้อข้าวด้วยไม้ไผ่ด้ามยาว, Thai Definition: ทำให้ติดขวางไว้ไม่ให้หลุดออก |
ขัด | (v) go against, See also: violate, override, Syn. ขัดแย้ง, Example: ฝ่ายค้านมักขัดกับฝ่ายรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา, Thai Definition: เห็นแย้งกันหรือไม่ลงรอยกัน |
ขัด | (v) act immorally, See also: contravene, be incompatible with, be immoral, Syn. ขัดแย้ง, แย้ง, Ant. ยอมตาม, ทำตาม, เห็นด้วย, Example: การกระทำของเธอขัดต่อศีลธรรมและประเพณีของเมืองนี้, Thai Definition: ไม่ทำตามหรือฝ่าฝืนสิ่งที่กำหนดไว้ |
ขัด | (v) rub, See also: burnish, wipe, scrub, Syn. ถู, ขูด, ลับ, ขัดเงา, ขัดสี, Example: คนใช้กำลังขัดพื้นด้วยแปรงทองเหลือง, Thai Definition: ถูให้เกลี้ยง, ถูให้ผ่องใสหรือให้ขึ้นเงา |
ขัดขา | (v) cross someone's leg, Example: ครูพานักเรียนชั้นอนุบาลไปเข้าเฝือกเพราะถูกเพื่อนขัดขาล้มลง แขนหัก, Thai Definition: ใช้ขาสอดขาคนอื่นให้ล้ม |
ขัดขา | (v) oppose, See also: obstruct, impede, hinder, Syn. ขัดขวาง, กีดกัน, ขัดแข้งขัดขา, Ant. อนุญาต, ยอม, Example: ถึงเขาจะเป็นใคร ดิฉันก็เอาผิดได้ และไม่เคยกลัวว่าจะไปขัดขาใคร |
ขัดคอ | (v) interrupt, See also: break, Syn. ขัดจังหวะ, Example: เขาชอบขัดคอคนอื่นอยู่เสมอ จนจะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วยแล้ว, Thai Definition: พูดแย้งขวางเข้ามาขณะที่อีกฝ่ายกำลังพูด |
ขัดตา | (v) be unpleasant to look at, See also: irritate, Syn. ขัดลูกตา, ขัดนัยน์ตา, ขัดหูขัดตา, Example: กิริยาของเขาขัดตาผู้ใหญ่หัวโบราณมาก, Thai Definition: ดูไม่ถูกตา, ดูไม่เหมาะตา |
ขัดถู | (v) polish, See also: burnish, wipe, scrub, rub, Syn. ขัด, ถู, Example: พวกเราช่วยกันขัดถูหม้อไหกันเป็นการใหญ่ เพราะที่บ้านจะมีงานบุญครั้งใหญ่, Thai Definition: เช็ดโดยวิธีใช้สิ่งใดสิ่งหนึ่งไถไปไถมาให้สะอาดจนขึ้นเงา |
ขัดบท | (v) interrupt, See also: break, interfere, Syn. ขัดคอ, ขัดจังหวะ, พูดแทรก, Example: ลูกอย่าพึ่งขัดบทได้ไหม แม่ยังพูดไม่จบเลย, Thai Definition: แทรกเข้ามาเมื่อเขายังพูดไม่จบเรื่อง |
ขัดสน | (v) lack, See also: be short, be scanty, Syn. ขาดแคลน, อัตคัด, ยากลำบาก, Example: หากคุณเกิดขัดสนขึ้นมา ฉันก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ, Thai Definition: มีความเป็นอยู่อย่างลำบากหรือยากไร้ |
ขัดสี | (v) mill, See also: grind or crush in a mill, Example: อาหารที่ให้สังกะสีปานกลางได้แก่ถั่วเมล็ดแห้งและข้าวที่ขัดสีแต่น้อย, Thai Definition: กะเทาะให้เปลือกออกด้วยเครื่องสี |
ขัดสี | (v) scrub, See also: rub, scour, Syn. ถูกัน, เสียดสี, Example: ส่วนหนึ่งของเครื่องขัดสีกันจนหลวม |
ขัดหู | (v) jar, See also: be unpleasant, be displeasant to listen to, Ant. ลื่นหู, Example: ผมจะเจียมตัวไม่ทำให้พ่อต้องขัดหู ขัดตา หรือขัดใจอีก, Thai Definition: ฟังไม่ถูกหู, ฟังไม่เพราะหู |
ขัดหู | (adv) be unpleasing to the ear, See also: sounding discordant, sounding disharmonious, sound unpleasant, Syn. ไม่เข้าหู, Ant. ลื่นหู, Example: หัวหน้าพูดจาขัดหูคนฟังแบบนี้ใครจะชอบ, Thai Definition: อย่างไม่ถูกหู, อย่างไม่เพราะหู |
ขัดใจ | (v) offend, See also: dissatisfy, displease, Syn. ขัดเคือง, ไม่พอใจ, Ant. ตามใจ, พอใจ, Example: แม่จำเป็นต้องขัดใจลูกที่ร้องไห้จะเอาของเล่นซึ่งมีราคาแพงมาก, Thai Definition: ไม่ยอมให้ทำตามใจ |
ขัดกัน | (v) conflict, See also: contradict, Syn. ทะเลาะ, ขัดแย้ง, ปะทะ, ไม่ลงรอย, Ant. เข้ากันได้, Example: เธอกับเขาขัดกันเป็นประจำ, Thai Definition: ไม่ลงรอยกันหรือมีความเห็นกันไปคนละทาง |
ขัดขืน | (v) defy, See also: resist order, disobey, rebel, Syn. ดื้อ, ต่อต้าน, ต่อสู้, Ant. ยอม, ยอมสยบ, ยอมตาม, Example: ถ้าแกขัดขืนแม้แต่นิดเดียวฉันยิงแกแน่, Thai Definition: ไม่ประพฤติตาม, ไม่ทำตาม |
ขัดดอก | (v) work or give things in exchange for interest, Example: นุชถูกส่งไปขัดดอกที่บ้านเถ้าแก่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก, Thai Definition: ส่งลูกหรือเมียให้รับใช้แทนส่งดอกเบี้ย |
ขัดต่อ | (v) contrary to, See also: be contradictory with, be in conflict with, go against, Syn. ขัดกับ, ตรงข้าม |
ขัดยอก | (v) sprain, See also: feel sore, feel stiff, feel pain, Syn. ปวดเมื่อย, เคล็ด, ยอก, Example: เขารู้สึกขัดยอกหลังเวลาที่ต้องขับรถนานๆ, Thai Definition: เคล็ดและรู้สึกเจ็บปวด |
ขัดลาภ | (v) make unfortunate, See also: spoil one's fortune, Example: ฉันกำลังจะซื้อหวย เธออย่ามาขัดลาภหน่อยเลย, Thai Definition: ทำให้ไม่ได้รับในสิ่งที่พึงได้, ทำให้ไม่มีโชค |
ขัดเงา | (v) polish, See also: burnish, furbish, shine, brighten, wax, Syn. ขัดมัน, Thai Definition: ขัดถูให้เงา, ขัดถูให้วาว |
ขัดเบา | (v) be unable to urine, See also: suffer from strangury, have suppression of urine, Example: พ่อรู้สึกขัดเบามาตั้งแต่เมื่อวาน, Thai Definition: ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก |
ขัดแตะ | (n) lath, See also: wattle, Syn. ฝาขัดแตะ, Example: ฝาบ้านของบังกะโลนี้ทำเป็นฝาขัดแตะ ดูเข้ากับธรรมชาติที่นี่ดี, Thai Definition: ฝาเรือนที่ทำจากไม้ไผ่ซีกสอดขัดกับลูกตั้ง |
ติดขัด | (v) be congested, See also: be jammed, be obstructed, be clogged, be blocked, Syn. ชะงัก, ขัดข้อง, Ant. สะดวก, คล่อง, ราบรื่น, Example: สภาพการจราจรในกรุงเทพมหานคร ติดขัดมากทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น, Thai Definition: ไม่สามารถผ่านได้โดยสะดวกเพราะมีสิ่งขวางเป็นจำนวนมาก เช่น การจราจรติดขัดเพราะมีปริมาณรถมาก เป็นต้น |
หินขัด | (n) polished stone, Example: บ้านสมัยใหม่มักปูพื้นด้วยหินขัด |
แก้ขัด | (v) use as a makeshift, See also: make do with, put up with, Example: ดินสอชนิดนี้ไม่สู้ดีแต่พอใช้แก้ขัดได้, Thai Definition: แก้ข้อขัดข้องให้ลุล่วงไปชั่วคราว |
ขัดขวาง | (v) obstruct, See also: stop, impede, block, thwart, Syn. กีดขวาง, สกัดกั้น, ขวาง, Ant. ปล่อย, Example: เพื่อนๆ ช่วยกันขัดขวางผมไม่ให้ฆ่าตัวตาย, Thai Definition: ทำให้ไม่สะดวก, ทำให้ติดขัด |
ขัดข้อง | (v) have trouble, See also: have fault, hitch, Syn. ติดขัด, ขลุกขลัก, ข้องขัด, Example: เครื่องจักรเกิดขัดข้องจึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามเป้าหมาย, Thai Definition: เกิดอาการติดขัดไม่สามารถทำงานต่อไปได้ |
ขัดข้อง | (v) dissent, See also: have objections, Syn. ติดขัด, ข้องขัด, Ant. สะดวก, Example: คุณจะขัดข้องไหมคะที่จะช่วยฉันยกของลงไปข้างล่าง, Thai Definition: ไม่ยอมให้ทำ, ไม่ตกลงด้วย |
ขัดหนัก | (v) suffer from a constipation, Syn. ท้องผูก, Example: ผมรู้สึกขัดหนักมา 2-3 วันแล้วครับคุณหมอ, Thai Definition: ถ่ายอุจจาระไม่ค่อยออก |
ขัดห้าง | (v) build a platform on a tree, Example: ตาสีกำลังขัดห้างก่อนที่จะไปดักสัตว์คืนนี้, Thai Definition: ทำที่พักบนต้นไม้ในป่าชั่วคราว |
ขัดเกลา | (v) discipline, See also: train, Syn. อบรม, พร่ำสอน, บ่มนิสัย, Example: คุณป้าขัดเกลาสมศรีจนมีกิริยามารยาทเป็นผู้ดี, Thai Definition: แนะนำพร่ำสอนให้ซึมซาบเข้าไปจนติดเป็นนิสัย |
ขัดเขิน | (v) embarrass, See also: shy, be timid, Syn. กระดากอาย, เขิน, สะเทิ้นอาย, อาย, กระดาก, เหนียมอาย, ขวยเขิน, เคอะเขิน, Ant. กล้า, Example: เรไรรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่พบหน้าสัตยา ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบอยู่, Thai Definition: ตะขิดตะขวงใจไม่กล้าพูดหรือไม่กล้าทำเมื่ออยู่ต่อหน้า |
ขัดแข็ง | (v) be obstinate, See also: disobey, defy, Syn. ไม่อ่อนน้อม, Ant. อ่อนน้อม, Example: หากเธอยังขัดแข็งเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ ฉันว่ามันไม่เหมาะแน่ๆ, Thai Definition: มีท่าทางกระด้างกระด้างกระเดื่องไม่อ่อนน้อมถ่อมตน |
ขัดแค้น | (v) anger, See also: be angry, resent, Syn. โกรธ, แค้นเคือง, ขัดเคือง, โกรธแค้น, Example: ชาวนาขัดแค้นพวกนายทุนที่ชอบเอารัดเอาเปรียบมาก, Thai Definition: รู้สึกโกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย |
ขัดแย้ง | (v) oppose, See also: resist, withstand, disagree, be in conflict, Syn. ขัดกัน, แย้งกัน, Ant. เห็นด้วย, Example: ฝ่ายค้านขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลอยู่เสมอเมื่อรัฐสภาเปิดอภิปรายเรื่องงบประมาณ, Thai Definition: ไม่ลงรอยกัน, ไม่เห็นพ้องต้องกัน |
เข็มขัด | (n) belt, See also: girdle, Syn. สายรัดเอว, Example: ในยุคนี้ทองกำลังแพงใครมีเข็มขัดทองหรือสร้อยทองเส้นโตๆ แสดงว่าเป็นคนมีฐานะดี, Count Unit: เส้น, Thai Definition: เครื่องคาดเอวชนิดหนึ่ง ทำจากวัสดุต่างๆ กัน เช่น เงิน ทอง หนัง เป็นต้น |
ขัดตาทัพ | (v) oppose for a time, Example: รัฐบาลส่งกำลังย่อยไปยังภาคอีสาน เพื่อขัดตาทัพไว้ก่อน, Thai Definition: แก้ไขไปพลางๆ ก่อน, Notes: (ปาก) |
ขัดลูกตา | (v) be offensive to the eye, See also: be unpleasant to look at, be an eyesore, offend the eyes, Syn. ขัดตา, ขัดหูขัดตา, ขวางหูขวางตา, Example: การแสดงออกของเขาได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกทำให้ขัดลูกตาของคนมีอายุที่เคยชินกับวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม |
ขัดสมาธิ | (v) sit cross-legged, Syn. นั่งขัดสมาธิ, Example: เมื่อขัดสมาธิเรียบร้อยแล้วให้ปล่อยวางอารมณ์, Thai Definition: นั่งคู้เข่าทั้ง 2 ข้างให้แบะลงที่พี้นแล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า |
ขัดเคือง | (v) be indignant, See also: be annoy, be angry, resent, infuriate, Syn. ขุ่นใจ, ขุ่นเคือง, เคืองขัด, Example: วิภาขัดเคืองเจ้านายเธอมากที่ไม่ให้สองขั้น, Thai Definition: รู้สึกโกรธเพราะถูกขัดใจ |
ฝาขัดแตะ | (n) wall of plaited bamboo strips, See also: partition made of woven bamboo strips, Example: ลักษณะของบ้านพระราชทาน เป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง ฝาขัดแตะ, Count Unit: ฝา, Thai Definition: ฝาบ้านที่ขัดแตะด้วยซีกไม้ไผ่ |
ติดๆ ขัดๆ | (adv) repetitiously, See also: not continuously, Syn. ติดขัด, Example: เขาพูดติดๆ ขัดๆ ไม่ได้ความ สงสัยจะตื่นเต้นมากไปหน่อย, Thai Definition: อย่างตะกุกตะกักหรือไม่ต่อเนื่อง |
ติดๆ ขัดๆ | (v) have a hitch, See also: be in a trouble, Syn. ติดขัด, Example: งานวันนี้ดูมันติดๆ ขัดๆ ยังไงไม่รู้ คงเป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน, Thai Definition: อาการขัดข้อง ไม่สะดวกราบรื่นหรือไม่ต่อเนื่อง |
การขัดกัน | (n) confliction, See also: opposition, Example: การขัดกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มทำให้การทำงานไม่ราบรื่น |
การขัดขืน | (n) disobedience, See also: resistance, Ant. การยินยอม, Example: เพราะการขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ผู้ร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม |
ขัดคำสั่ง | (v) disobey an order, Syn. ละเมิดคำสั่ง, ฝ่าฝืนคำสั่ง, Ant. ปฏิบัติตามคำสั่ง, ทำตามคำสั่ง, Example: ในครอบครัวทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณปู่แต่เพียงผู้เดียว ทุกคนห้ามขัดคำสั่ง ห้ามเถียง |
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กระดูกขัดมัน | ว. ขี้เหนียวมากอย่างไม่ยอมให้อะไรแก่ใครง่าย ๆ เช่น แม่ค้าคนนี้กระดูกขัดมันเหลือเกิน เราซื้อผลไม้แกตั้งร้อยกว่าบาทขอแถมเงาะลูกหนึ่งก็ไม่ได้ |
กระดูกขัดมัน | ให้คะแนนยาก เช่นอาจารย์คนนี้กระดูกขัดมันชะมัดออกข้อสอบก็ยากแล้วยังขี้เหนียวคะแนนอีก. |
แก้ขัด | ก. แก้ข้อขัดข้องให้ลุล่วงไปชั่วคราว. |
ข้องขัด | ก. ขัดข้อง, ติดขัด. |
ขัด ๑ | ก. ให้ติดขวางไว้ไม่ให้หลุดออก เช่น ขัดกระดุม ขัดกลอน |
ขัด ๑ | เหน็บ เช่น ขัดกระบี่ |
ขัด ๑ | ไม่ทำตาม, ฝ่าฝืน, ขืนไว้, เช่น ขัดคำสั่ง |
ขัด ๑ | แย้งกัน, ไม่ลงรอยกัน. |
ขัดขวาง | ก. ทำให้ไม่สะดวก, ทำให้ติดขัด. |
ขัดข้อง | ก. ไม่ยอมให้ทำ, ไม่ตกลงด้วย, ติดขัด. |
ขัดขา | ก. จงใจขัดขวางเพื่อไม่ให้ทำได้สะดวก, ขัดแข้งขัดขา ก็ว่า |
ขัดขา | แทนชั่วคราว เป็นการแก้ขัดในการเล่นไพ่เป็นต้น, คานขา หรือ คันขา ก็ว่า. |
ขัดขืน | ก. ไม่ประพฤติตาม, ไม่ทำตาม. |
ขัดเขมร | ก. ถกเขมร เช่น ทะเลาะกูกำหมัดขัดเขมร (ดึกดำบรรพ์). |
ขัดเขิน | ก. กระดากอาย. |
ขัดแข็ง | ก. ไม่อ่อนน้อม. |
ขัดแข้งขัดขา | ก. จงใจขัดขวางเพื่อไม่ให้ทำได้สะดวก, ขัดขา ก็ว่า. |
ขัดคอ | ก. พูดแย้งขวางเข้ามา, ไม่ให้ทำได้โดยสะดวก. |
ขัดเคือง | ก. โกรธเพราะถูกขัดใจเป็นต้น. |
ขัดแค้น | ก. โกรธเจ็บใจอยู่ไม่หาย. |
ขัดจังหวะ | ก. แทรกเข้ามาในระหว่างร้องรำ |
ขัดจังหวะ | ขวางเข้ามาเพื่อไม่ให้ทำหรือพูดได้สะดวก. |
ขัดใจ | ก. โกรธเพราะทำไม่ถูกใจ, ไม่ยอมให้ทำตามใจ. |
ขัดดอก | ก. ส่งลูกเมียหรือข้าคนให้รับใช้แทนส่งดอกเบี้ย. |
ขัดตะหมาด | ว. เรียกท่านั่งคู้เข่าทั้ง ๒ ข้างให้แบะลงที่พื้น แล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า ว่า นั่งขัดตะหมาด. |
ขัดตา | ก. ดูไม่ถูกตา, ดูไม่เหมาะตา, ขัดนัยน์ตา ขัดลูกตา หรือ ขัดลูกหูลูกตา ก็ว่า. |
ขัดตาทัพ | ก. ยกทัพไปตั้งชั่วคราว กันไม่ให้ข้าศึกรุกลํ้าเข้ามา |
ขัดตาทัพ | แก้ไขไปพลาง ๆ ก่อน. |
ขัดตำนาน | ก. สวดบทนำเป็นทำนองก่อนสวดมนต์. |
ขัดแตะ | ก. เรียกรั้วหรือฝาเรือนที่ใช้ไม้รวกหรือไม้ไผ่ผ่าซีกขัดกัน ว่า รั้วขัดแตะ ฝาขัดแตะ, เรียกเรือนที่มีฝาเอาไม้ไผ่ซีกสอดขัดกับลูกตั้ง ว่า เรือนฝาขัดแตะ. |
ขัดนัยน์ตา, ขัดลูกตา, ขัดลูกหูลูกตา | ก. ขัดตา. |
ขัดบท | ก. แทรกเข้ามาเมื่อเขาพูดยังไม่จบเรื่อง, ใช้เลือนมาเป็น ขัดคอ ก็มี. |
ขัดเบา | ก. ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก. |
ขัดยอก | ก. เคล็ดและรู้สึกเจ็บปวด. |
ขัดแย้ง | ก. ไม่ลงรอยกัน. |
ขัดลาภ | ก. ทำให้ไม่ได้รับสิ่งที่จะพึงได้, ทำให้ไม่มีโชค. |
ขัดลำ | ก. อาการที่กระสุนปืนค้างติดในลำกล้อง. |
ขัดลำกล้อง | ก. ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก (ใช้แก่ผู้ชาย). |
ขัดสมาธิ | (ขัดสะหฺมาด) ว. นั่งคู้เข่าทั้ง ๒ ข้างให้แบะลงที่พื้นแล้วเอาขาไขว้กันทับฝ่าเท้า, ถ้าเอาขาซ้อนทับกัน เรียกว่า ขัดสมาธิสองชั้น, ถ้าเอาขาขวาทับขาซ้าย เรียกว่า ขัดสมาธิราบ, ถ้าเอาฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้างขึ้นข้างบน เรียกว่า ขัดสมาธิเพชร, ขัดสมาธิราบและขัดสมาธิเพชรนั้น เป็นท่าพระพุทธรูปนั่ง. |
ขัดสมาธิ | (ขัดสะหฺมาด) น. ชื่อพระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้ง ๒ วางซ้อนกันบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย. |
ขัดหนัก | ก. ถ่ายอุจจาระไม่ค่อยออก. |
ขัดห้าง | ก. ทำที่พักบนต้นไม้ในป่าชั่วคราวสำหรับคอยเฝ้าดูเหตุการณ์หรือดักยิงสัตว์เป็นต้น. |
ขัดหู | ก. ฟังไม่ถูกหู, ฟังไม่เพราะหู. |
ขัด ๒ | ก. ถูให้เกลี้ยง, ถูให้ผ่องใส, ถูให้ขึ้นเงา, เช่น ขัดขี้ไคล ขัดพื้น. |
ขัดเกลา | ก. ทำให้เกลี้ยงเกลา, ทำให้เรียบร้อย, อบรมพรํ่าสอน, เช่น ขัดเกลานิสัย. |
ขัด ๓ | ก. ไม่ใคร่จะมี, ฝืดเคือง, ไม่คล่อง, ไม่เป็นปรกติ. |
ขัดสน | ว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน |
ขัดสน | ลำบาก. |
ขัด ๔ | ก. คาด เช่น มีพิกัดขัดค่าเป็นราคาน้อยมาก (ม. ร่ายยาว มหาราช). |
ขัดจางนาง | น. ชื่อท่ารำแบบหนึ่ง โดยมือทั้งสองตั้งวง ไขว้แขน ระดับอก ลำตัวตั้งตรง หน้าตรง เอียงศีรษะข้างใดก็ได้. |
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
processor interrupt | การขัดจังหวะตัวประมวล(ผล) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
partial heart block | ภาวะหัวใจขัดบางส่วน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
perverse verdict | คำตัดสินของลูกขุนที่ขัดต่อข้อกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
programmable interrupt controller (PIC) | ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้ (พีไอซี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
PIC (programmable interrupt controller) | พีไอซี (ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
polished surface denture | ฟันปลอมผิวขัดมัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] |
paper jam | การติดขัดของกระดาษ, กระดาษติดขัด [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
police obstruction | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
proof by contradiction | การพิสูจน์โดยข้อขัดแย้ง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
labour, obstructed | การคลอดขัดขวาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
lap belt; lap strap | เข็มขัดนิรภัยรัดหน้าตัก [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
lap strap; lap belt | เข็มขัดนิรภัยรัดหน้าตัก [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
rubbing compound; cutting compound | ยาขัดสี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
renvoi (Fr.) | การย้อนส่ง (ตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
resistance | การขัดขืน, การขัดขวาง, การต่อต้าน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
repugnancy | ความขัดกัน (ของข้อความ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
resisting arrest | ขัดขืนการจับกุม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
system failure | ความขัดข้องของระบบ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
system crash | ระบบขัดข้อง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
system crash | ระบบขัดข้อง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
socialization | การขัดเกลาทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
stranguria; strangury | อาการปวดขัดเบา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
strangury; stranguria | อาการปวดขัดเบา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
self-contradiction | ความขัดแย้งในตัว [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
self-diagnostic system | ระบบแสดงปัญหาขัดข้อง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
seat belt; safety belt | เข็มขัดนิรภัย [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
selection against the insurer | การคัดเลือกที่ขัดประโยชน์ มีความหมายเหมือนกับ adverse selection [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
self contradiction | ข้อขัดแย้งในตัว [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
safety belt; seat belt | เข็มขัดนิรภัย [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
obstructed labour | การคลอดขัดขวาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
obstructing a police officer | การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
obstructing justice | การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
obstruction; emphraxis | การขัดขวาง, การอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
offices, incompatible | ตำแหน่งที่มีลักษณะขัดกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
obstruction | การขัดขวาง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
obstruction | การขัดขวาง, การกีดขวาง, การกีดกั้น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
obstruent | ๑. -ขัดขวาง๒. สิ่งอุดกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
adverse | เป็นปรปักษ์, ขัดแย้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
arrest, resisting | ขัดขืนการจับกุม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
automatic interrupt | การขัดจังหวะอัตโนมัติ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
abrade | ๑. ขัด๒. ทำให้สึก [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] |
abrasion | การสึกเหตุขัดถู [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] |
abrasion resistance | ความต้านทานการขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
abrasive | สารขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
abrasive | สารขัด [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] |
abrasive coating | การฉาบสารขัดถู [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Anticipated operational occurrence | อุบัติการณ์ที่อยู่ในความคาดหมาย, เหตุการณ์ที่เบี่ยงเบนไปจากการทำงานตามปกติของโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งคาดว่าตลอดอายุการใช้งานจะเกิดขึ้นได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ได้มีการออกแบบรองรับเหตุการณ์นี้ไว้แล้วเพื่อความปลอดภัย และป้องกันมิให้ลุกลามเป็นอุบัติเหตุ เช่น หากพลังงานไฟฟ้าที่จ่ายให้แก่เครื่องสูบน้ำของระบบระบายความร้อนเกิดขัดข้อง ระบบไฟฟ้าสำรองก็จะทำงานทันที, Example: [นิวเคลียร์] |
Interrupt | ขัดจังหวะ [คอมพิวเตอร์] |
Down | ขัดข้อง, ใช้การไม่ได้ [คอมพิวเตอร์] |
Nuclear incident | อุบัติการณ์นิวเคลียร์, เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (ดู INES ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
ขัดสมาธิ | นั่งเอาขาสองข้างขัดกันไขว้กัน, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ขัดสมาส [คำที่มักเขียนผิด] |
สะดวก | คล่อง ไม่ติดขัด มักใช้เข้าคู่กับคำ สบาย เป็น สะดวกสบาย, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ สดวก [คำที่มักเขียนผิด] |
Combination | การผนวกความรู้, การที่นำความรู้ที่ขัดแจ้งต่่างที่ได้เรียนรู้มา และนำไปสร้างเป็นความรู้ที่ชัดแจ้งใหม่ โดยต่อยอดความรู้เดิมหรือความรู้ใหม่ [การจัดการความรู้] |
Arab-Israeli conflict | ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอาหรับ [TU Subject Heading] |
Conflict management | การบริหารความขัดแย้ง [TU Subject Heading] |
Conflict of interests | ผลประโยชน์ขัดกัน [TU Subject Heading] |
Conflict of laws | การขัดกันแห่งกฎหมาย [TU Subject Heading] |
Conscientious objection | การปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายที่ขัดต่อมโนธรรม [TU Subject Heading] |
Contradiction | ความขัดแย้งกัน [TU Subject Heading] |
Culture conflict | ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม [TU Subject Heading] |
Electric power failures | การขัดข้องของไฟฟ้ากำลัง [TU Subject Heading] |
Grinding and polishing | การลับคมและการขัดมัน [TU Subject Heading] |
Grinding machines | เครื่องขัด [TU Subject Heading] |
Immoral contracts | สัญญาที่ขัดต่อศีลธรรม [TU Subject Heading] |
India-Pakistan Conflict, 1947-1949 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1947-1949 [TU Subject Heading] |
India-Pakistan Conflict, 1965 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1965 [TU Subject Heading] |
India-Pakistan Conflict, 1971 | ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน, ค.ศ. 1971 [TU Subject Heading] |
Interpersonal conflict | ความขัดแย้งระหว่างบุคคล [TU Subject Heading] |
Interpersonal conflict in motion pictures | ความขัดแย้งระหว่างบุคคลในภาพยนตร์ [TU Subject Heading] |
Low-intensity conflicts (Military science) | ความขัดแย้งแบบลดความรุนแรง (การทหาร) [TU Subject Heading] |
Conflict | ข้อขัดแย้ง [เศรษฐศาสตร์] |
Pidgin English | ภาษาอังกฤษแก้ขัด [TU Subject Heading] |
Pidgin languages | ภาษาแก้ขัด [TU Subject Heading] |
Social conflict | ความขัดแย้งทางสังคม [TU Subject Heading] |
Social conflict in mass media | ความขัดแย้งทางสังคมในสื่อมวลชน [TU Subject Heading] |
Polishing Process | กระบวนการขัดแต่ง, Example: กระบวนการที่ปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้นอีก เช่น การใช้บ่อขัดแต่ง [สิ่งแวดล้อม] |
Polishing Pond | บ่อขัดแต่ง, Example: บ่อบำบัดโดยวิธีธรรมชาติ มักใช้ต่อจากบ่อปรับเสถียร หรือสระเติมอากาศ [สิ่งแวดล้อม] |
ASEAN Regional Forum | การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) " [การทูต] |
Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] |
Confidence Building Measures | มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เพื่อลดความหวาดระแวง ลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นใจระหว่างสองฝ่ายหรือหลาย ๆ ฝ่าย อันจะเป็นการส่งเสริมการทูตเชิงป้องกัน ทั้งนี้ CBMs เป็นกระบวนการที่สำคัญในกรอบการประชุม ARF [การทูต] |
Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] |
Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] |
Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] |
Diplomatic Privileges and Immunities | เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตที่ได้ให้แก่เจ้า หน้าที่ทางการทูต โดยถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนส่วนตัวของประมุขของรัฐ เหตุผลที่ให้มีการคุ้มกันทางการทูต ก็เพราะถือว่ารัฐบาลหนึ่งใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือกีดกันมิให้ผู้แทนของรัฐบาลนั้นปฏิบัติหน้าที่ในความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศนั้นมิได้ ถ้าหากเห็นว่าผู้แทนนั้นมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ก้าวร้าวซึ่งรัฐผู้รับ ไม่อาจรับได้ก็ชอบที่รัฐผู้รับจะขอร้องให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวผู้แทนของตนกลับ ประเทศได้ อนึ่ง การที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับความคุ้มกันจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ เพราะต้องการให้บรรดาผู้แทนทางการทูตเหล่านั้น รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาได้มีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศของเขาอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตมีบทบัญญัตินิยามคำว่า เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตในเรื่องต่างๆ ไว้มากพอสมควร เช่น เรื่องสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต รวมทั้งบรรณสารและเอกสาร เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานของคณะผู้แทน และเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายรวมทั้งการคมนาคมติดต่อ เป็นต้น [การทูต] |
Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] |
ethnic conflict | ความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์ [การทูต] |
Humanitarian Intervention | การแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม " เป็นแนวคิดที่นายโคฟี อันนาน เลขาธิการสหประชาชาติเสนออย่างเป็น ทางการครั้งแรกต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 54 เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมุ่งจะให้สหประชาชาติสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภาย ในประเทศต่าง ๆ ได้โดย คำนึงถึงประเด็นเรื่องมนุษยธรรมเป็นหลัก ขณะนี้ แนวคิดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่ยุติ โดยบางประเทศเห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตยของรัฐ บางประเทศเห็นว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาของมนุษยชาติ ส่วนบางประเทศเห็นว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะต้องอยู่ใต้กรอบหลักเกณฑ์ หรือกรอบกฎหมายบางประการ เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ " [การทูต] |
No Objection Certificate | เป็นเอกสารรับรองว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย กระทรวงการต่างประเทศไทยไม่มีข้อขัดข้องสำหรับบุคคลที่จะนำเอกสารนี้ไปใช้ เพื่อสมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาของต่างประเทศตามคำร้องขอของรัฐบาล ปากีสถาน หรือใช้ในการขอเปลี่ยนแปลงสถานะวีซ่าจากประเภทหนึ่งไปยังอีกประเภทหนึ่งตาม ที่ต่างประเทศนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด กรณีนักศึกษาไทยไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกาโดยวีซ่านักเรียน แต่ภายหลังประสงค์จะขอเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงานตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ของสหรัฐอเมริกา [การทูต] |
national reconciliation | การปรองดองแห่งชาติ หมายถึง กระบวนการสร้างสันติภาพ และเอกภาพภายในชาติ โดยให้กลุ่มต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกันได้มีส่วนร่วมในการกระบวนการดังกล่าว [การทูต] |
Normal Diplomacy | การติดต่อทางการทูตโดยวิถีทางทูตตามปกติ มักจะกระทำกันดังนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการจะหยิบยกปัญหาขึ้นกับอีกรัฐบาลหนึ่ง ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะส่งคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตของ ประเทศตนที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับส่งให้ยกเรื่องนั้นขึ้นเจรจากับรัฐบาล ของประเทศผู้รับ โดยปกติเอกอัครราชทูตจะมีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศผู้รับนั้นก่อน หรือไม่ก็ไปพบกับรัฐมนตรีด้วยตนเอง ณ กระทรวงการต่างประเทศ การเจรจากันอาจทำให้จำเป็นต้องมีการบันทึกของทูตแลกเปลี่ยนกันขึ้น ในรูปบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire ) ในบางกรณี เอกอัครราชทูตจำเป็นต้องไปพูดจา ณ กระทรวงการต่างประเทศ อีกหลายครั้งกว่าจะเสร็จเรื่อง ในระหว่างนั้น เอกอัครราชทูตมีหน้าที่จะต้องรายงานผลการเจรจาแต่ะครั้งไปยังกระทรวงการต่าง ประเทศของตน และบางคราวอาจจะต้องขอคำสั่งเพิ่มเติมอีกเมื่อเกิดกรณีใหม่โดยมิได้คาดหมาย มาก่อนเป็นต้น ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้รับก็จะส่งคำสั่งไปยังเอก อัครราชทูตของตน แนะว่าควรดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเจรจากันกับรัฐบาลของ ประเทศที่ตนประจำอยู่ผลการเจรจาอาจเป็นที่ตกลงกันได้ระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ฝ่าย หรืออาจจะจบลงด้วยภาวะชะงักงัน ( Stalemate ) หรือรัฐบาลทั้งสองอาจจะตกลงกันว่าไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปก่อน จนกว่าจะมีการรื้อฟื้นเจรจากันใหม่ บางคราวปัญหาที่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น อาจกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อไปก็ได้ [การทูต] |
Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] |
order at sea | การจัดระเบียบทางทะเล " เช่น ความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือไทย-เวียดนามในการลดความ ขัดแย้งในทะเลระหว่างกัน อาทิ การล่วงล้ำน่านน้ำและลักลอบทำประมง โดยมีมาตรการสำคัญ คือ การลาดตระเวนร่วมในพื้นที่ประชิดกันทางทะเลระหว่างกองทัพเรือทั้งสองฝ่าย เป็นประจำ " [การทูต] |
Peacebuilding Commission | คณะกรรมาธิการเสริมสร้างสันติภาพ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2548 เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการเสวริมสร้างสันติภาพในกรอบสหประชาชาติแก่ประเทศ ที่เพิ่งผ่านพ้นความขัดแย้ง รวมทั้งเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างกระบวนการสร้างสันติภาพ (peace enforcement) การรักษาสันติภาพภาพ (peacekeeping) และการเสริมสร้างสันติภาพ (peacebuilding) [การทูต] |
peace keeping | การรักษาสันติภาพ " หมายถึง การส่งคณะเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนในนามของสหประชาชาติเข้าไปใน พื้นที่ที่มีความขัดแย้งโดยความยินยอมของ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หรือความตกลงสันติภาพ หรือกระบวนการแก้ไขปัญหาโดยวิถีทาง การเมือง " [การทูต] |
peace making | การทำให้เกิดสันติภาพ เป็นการดำเนินการทางการทูตโดยมักใช้วิธีไกล่เกลี่ย และเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี [การทูต] |
point of order | ประท้วง หรือขัดจังหวะในระหว่างการประชุม หรือระหว่างการกล่าวถ้อยแถลงในเรื่องผิดข้อบังคับการประชุม [การทูต] |
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
หินขัด | [hin khat] (n, exp) EN: polished stone FR: pierre polie [ f ] |
หัวเข็มขัด | [hūa khemkhat] (n) EN: buckle FR: boucle (de ceinture/ceinturon) [ f ] |
จงใจขัดคำสั่งศาล | [jongjai khat khamsang sān] (v, exp) EN: disobey a court order |
แก้ขัด | [kaēkhat] (v) EN: use as a makeshift ; make do with ; put up with FR: dépanner ; tirer d'embarras |
การจราจรติดขัด | [kān jarājøn titkhat] (n, exp) EN: traffic jam FR: embouteillage [ m ] |
การจงใจขัดคำสั่งศาล | [kān jongjai khat khamsang sān] (n, exp) EN: contumacy |
การขัดกัน | [kān khat kan] (n, exp) EN: confliction ; conflict FR: conflit [ m ] |
การขัดกันของกฎหมาย | [kān khat kan khøng kotmāi] (n, exp) EN: conflict of laws FR: conflit de lois [ m ] |
การขัดขวาง | [kān khatkhwāng] (n) EN: hindrance ; obstruction FR: obstacle [ m ] |
การขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ | [kān khatkhwāng jaonāthī tamrūat] (n, exp) EN: obstruction of a police officer |
การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม | [kān khatkhwāng krabūankān yutitham] (n, exp) EN: obstruction of justice FR: obstruction à la justice [ f ] |
การขัดถู | [kān khatthū] (n) EN: abrasion [ f ] FR: abrasion [ f ] |
ขัด | [khat] (v) EN: scrub ; polish ; wipe ; rub ; burnish ; scrub off ; scrape FR: récurer ; polir ; astiquer |
ขัด | [khat] (v) EN: fasten ; attach ; bind FR: attacher |
ขัด | [khat] (v) EN: block ; obstruct ; hinder ; stop ; prevent ; create difficulties ; impede ; clog ; chock FR: obstruer ; empêcher ; bloquer ; entraver ; s'opposer ; arrêter ; boucher |
ขัด | [khat] (v) EN: oppose ; go against ; deny ; disobey ; violate ; be opposed to ; be in contrast to FR: s'opposer ; aller à l'encontre de ; désobéir ; refuser |
ขัดเบา | [khatbao] (v) EN: suffer retention of urine ; be unable to urine |
ขัดกัน | [khat kan] (v, exp) EN: conflict FR: s'opposer |
ขัดกับ | [khat kap] (adj) EN: incompatible ; contrary to |
ขัดใจ | [khatjai] (v) EN: be offended ; offend ; dissatisfy ; displease FR: être offensé ; être outragé ; offenser ; déplaire |
ขัดจังหวะ | [khatjangwa] (v) EN: interrupt ; break FR: s'interposer ; interrompre |
ขัดกัน | [khat kan] (v, exp) EN: conflict ; contradict FR: contredire |
ขัดกัน | [khat kan] (adj) FR: contraire ; contradictoire |
ขัดกับ | [khat kap] (x) FR: contraire à ; anti~ |
ขัดคำสั่ง | [khat khamsang] (v, exp) EN: disobey an order FR: refuser un ordre ; désobéir aux injonctions |
ขัดขืน | [khatkheūn] (v) EN: defy ; resist order ; disobey ; rebel ; prevent ; resist ; hinder FR: contrevenir ; désobéir |
ขัดคอ | [khatkhø] (v) EN: interrupt ; break FR: contrarier ; contredire |
ขัดข้อง | [khatkhøng] (v) EN: object ; dissent ; have objections FR: objecter ; opposer |
ขัดขวาง | [khatkhwāng] (v) EN: obstruct ; stop ; impede ; block ; thwart FR: empêcher ; entraver ; obstruer ; bloquer |
ขัดมัน | [khat man] (v, exp) EN: polish ; wax FR: cirer ; vernir |
ขัดเงา | [khat-ngao] (v) EN: polish ; burnish ; furbish ; shine ; brighten ; wax FR: polir ; faire briller ; cirer |
ขัดพื้น | [khat pheūn] (v, exp) EN: scrub the floors FR: récurer le sol |
ขัดพื้นให้สะอาด | [khat pheūn hai sa-āt] (v, exp) EN: scrub the foor FR: récurer le sol |
ขัดรองเท้า | [khat røngthāo] (v, exp) EN: polish the shoes ; shine the shoes FR: cirer les chaussures |
ขัดสี | [khat sī] (v) EN: mill ; grind or crush in a mill FR: moudre |
ขัดสี | [khat sī] (v) EN: scrub ; rub ; scour |
ขัดสน | [khatson] (v) EN: be in need ; lack ; be short ; be scanty FR: manquer de ; être dans le besoin |
ขัดตา | [khattā] (v) EN: be unpleasant to look at ; be offensive to the eye ; be an eyesore FR: être déplaisant à la vue |
ขัดตาทัพ | [khattāthap] (v) EN: oppose for a time |
ขัดถู | [khatthū] (v) EN: polish ; burnish ; wipe ; scrub ; rub FR: récurer ; polir ; astiquer |
ขัดแย้ง | [khatyaēng] (v) EN: oppose ; contradict ; disagree ; resist ; withstand ; be in conflict FR: contredire ; contester ; s'opposer |
ขัดแย้งกับกฎหมาย | [khatyaēng kap kotmāi] (v, exp) EN: come into collision with the law ; be against the law |
ขัดแย้งกัน | [khatyaēng kan] (v, exp) FR: être en désaccord ; être en opposition |
ขยายเข็มขัด | [khayāi khemkhat] (v, exp) EN: loosen the belt FR: desserrer la ceinture |
เข็มขัด | [khemkhat] (n) EN: belt FR: ceinture [ f ] |
เข็มขัดนิรภัย | [khemkhat niraphai] (n, exp) EN: seat belt ; safety belt FR: ceinture de sécurité [ f ] |
ข้อขัดใจ | [khø khatjai] (n, exp) FR: offense [ f ] ; outrage [ m ] |
ข้อขัดข้อง | [khø khatkhøng] (n, exp) EN: objection ; dissent ; obstacle ; hindrance ; trouble ; problems FR: objection [ f ] |
ข้อขัดขวาง | [khø khatkhwāng] (n, exp) EN: obstacle ; complication ; objections |
ข้อขัดแย้ง | [khø khatyaēng] (n, exp) EN: matter in contention ; point of contention ; matter in dispute ; disagreement |
Longdo Approved EN-TH
workaround | (n, jargon) วิธีแก้แบบขัดตาทัพ |
civil disobedience | (n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม |
gridlock | (vi,, n) ติดขัด, แออัด, รถติด เช่น On Friday, a gridlocked intersection, blaring horns, and harsh looks resulted from drivers jockeying to merge from two lanes into one for most of the day., See also: traffic jam, Syn. pack |
dyslacxia | (n) โรคดิสเล็กเซีย คือ ความบกพร่องในการอ่าน มีปัญหาในการอ่าน อ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง อ่านไม่คล่อง สะกดคำติดขัด ผสมคำไม่ได้ หรืออ่านไม่ได้เลย โดยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของเส้นประสาท |
cyber crime | (n) [ cybercrime; cyber-crime; computer crime ] อาชญากรรมไซเบอร์, อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ๑. การกระทำผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือ เช่น ทำลาย เปลี่ยนแปลง หรือขโมยข้อมูล ๒. การทำให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่าย ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทํางานตามปรกติได้ [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] |
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
abrade | (vt) ขัด, See also: ขัดถู, Syn. scrub, buff, burnish |
abrasive | (n) สารขัด, See also: ผงขัด, Syn. polisher, grinder |
against | (prep) ดูขัดแย้งกับ, See also: ดูขัดกับ |
against | (prep) ฝืน, See also: ฝ่าฝืน, ขัด, ตรงกันข้ามกับ |
angry | (adj) โกรธ, See also: โมโห, เดือด, แค้น, โกรธเคือง, ขุ่นเคือง, ขุ่นข้อง, ขัดเคือง, Syn. enraged, furious, irate, Ant. calm, pleased, restrained |
antithesis | (n) การใช้ถ้อยคำขัดแย้งกัน |
awkward | (adj) งุ่มง่าม, See also: ติดขัด, ที่ดูไม่คล่องแคล่ว, Syn. clumsy, inept, ungraceful, unskillful |
balk | (vi) ขัดขวาง, See also: คัดค้าน, ต้านทาน, หยุดยั้ง, Syn. refuse |
bar | (vt) สะกัดกั้น, See also: ขัดขวาง, ต่อต้าน |
bar | (vt) ขัดขวาง |
belt | (n) เข็มขัด, See also: สายคาดเอว |
belt | (vt) คาดเข็มขัด, See also: ใช้สายคาดผูก, Syn. fasten |
belt | (vt) ฟาด (ไม่เป็นทางการ), See also: โบยด้วยเข็มขัด, ใช้เข็มขัดตี หวด, โบย, Syn. slap, thump |
belted | (adj) ซึ่งคาดเข็มขัด |
blockade | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น |
blockage | (n) การปิดล้อม, See also: การขัดขวาง, การปิดกั้น, Syn. obstruction |
bottleneck | (n) ถนนส่วนที่มีการจราจรติดขัด |
break | (vt) ละเมิด, See also: ฝ่า, ฝ่าฝืน, ขัดขืน, ล่วงละเมิด, Syn. disobey |
buckle | (n) หัวเข็มขัด |
buckle | (vt) ทำให้แน่นด้วยวัสดุคล้ายหัวเข็มขัด, Syn. fasten |
buckle | (vi) รัดเข็มขัด |
buff | (vt) การขัดเพื่อทำให้พื้นผิวนุ่ม |
buff | (vt) ขัดให้เป็นเงา, Syn. shine |
buffer | (n) เครื่องขัดเงา |
bumbag | (n) กระเป๋าเล็กติดที่เข็มขัดและสวมรอบเอว, See also: fanny pack |
burnish | (n) การขัดเงา |
burnish | (vt) ขัด, See also: ขัดเงา, ขัดให้วาว, Syn. polish |
bar from | (phrv) ห้าม, See also: ขัดขวาง, ห้ามเข้า |
barge in | (phrv) ขัดจังหวะอย่างไม่สุภาพ (คำไม่เป็นทางการ) |
barge into | (phrv) ขัดคอ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ขัดจังหวะ การพูด |
be against | (phrv) ทำผิดต่อ, See also: ปฏิบัติขัดแย้งกับ, Syn. go against |
be out | (phrv) หยุดทำงาน (เพราะขัดแย้ง), See also: หยุดงานประท้วง, Syn. bring out |
be up against | (phrv) ขัดแย้งกับ, See also: มีปัญหากับ, Syn. bring up against, come up against |
belt up | (phrv) รัดเข็มขัด, See also: คาดเข็มขัด, Syn. buckle up, strap in |
break in | (phrv) ขัดจังหวะ, Syn. burst in, cut in |
break in on | (phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on |
break in upon | (phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on |
break into | (phrv) ขัดจังหวะ |
buckle up | (phrv) รัดเข็มขัด |
bung in | (phrv) ขัดจังหวะ (คำไม่เป็นทางการ), See also: พูดแทรก |
burst in on | (phrv) รีบขัดจังหวะ, Syn. break in on |
butt in | (phrv) พูดขัดจังหวะ |
casus belli | (n) เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดสงคราม, See also: ต้นเหตุของความขัดแย้ง |
chafe | (n) ความร้อนที่เกิดจากการขัดถู, Syn. heat |
chafe | (vt) ถลอกจากการขัดถู |
chafe | (vi) ถลอกจากการขัดถู |
chafe | (n) รอยถลอกที่เกิดจาการขัดถู |
choke | (vi) สำลัก, See also: หายใจขัด, Syn. stifle, suffocate, smother |
clash | (vt) ขัดแย้ง |
clash | (vi) ขัดแย้ง, Syn. conflict, fail to harmonize |
Hope Dictionary
abradant | (อะเบรด' ดันท) n. สารขัดถู |
abrade | (อะเบรด') vt. ขัด, ถู, ชะ, ครูด, Syn. erode |
abrasion | (อะเบร' เชิน) n. บริเวณถลอก, รอยถลอก, รอยขัด, รอยสึก, การถลอก (ขัด, สึก) |
abrasive | (อะเบร' ซิฟว) n., adj. สารหรือสิ่งที่ใช้ขัดหรือถูหรือกัดกร่อน, ซึ่งกัดกร่อน |
acaroid resin | ยางไม้สีแดงหรือเหลืองที่ใช้ในการทำยาขัดหรือ Lacquers (accroides gum) |
age of consent | ขัดอายุอย่างต่ำที่หญิงยินยอมชายได้ในการแต่งงานหรือร่วมเพศ |
agon | (แอก' ออน) n., (pl. agones) การแข่งขันที่มีการให้รางวัล, ความขัดแย้ง |
antinomy | (แอนทิน' โนมี) n. ความขัดแย้งกันระหว่างกฎหรือหลักการ, คำพูดหรือข้อความที่ขัดกันเอง. -antinoic (al) adj., (contradiction) |
argumentative | (อาร์กิวเมนเท'ทิฟว) adj. ชอบโต้เถียง, เกี่ยวกับโต้เถียง, ขัดแย้ง, Syn. disputatious, contentious, Ant. amenable |
backing store | หน่วยเก็บหนุนหน่วยเก็บข้อมูล ที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บหนุนนี้แทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยเก็บความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backup storage |
backup storage | หน่วยเก็บสำรอง <คำแปล>หมายถึง หน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บสำรองแทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backing store |
balk | (บอล์ค) vi., vt. หยุด, ชะงัก, ขัดขวาง, คัดค้าน n. การหยุดยั้ง, ความพ่ายแพ้, ความผิดหวัง, ที่ดินที่ไม่ได้ไถ, ไม้ขนาดใหญ่สำหรับก่อสร้าง, See also: balker n. ดูbalk, Syn. frustrate |
belie | (บิไล') { belied, belieing, belies } vt. แสดงให้เห็นว่าไม่จริง, ขัดแย้ง, ไม่ตรงกับ, ใส่ความ, ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด, See also: belier n., Syn. disguise |
belt | (เบลทฺ) { belted, belting, belts } n. เข็มขัด, สายคาดเอว, สาย, ทางโค้ง, ทางรถไฟฟ้า, ดื่มอึกใหญ่, การโจมตี, แนว, เทือก vt. รัดเข็มขัด, คาดสาย, ใช้สายคาด, ใช้เข็มขัดหรือสายคาดตี, ตี, ร้อง (เพลง) เสียงดัง, Syn. girdle |
blanket | (แบลง'คิท) n. ผ้าห่ม, ผ้าห่มขนสัตว์, ผ้าขนสัตว์, ผ้าไหมพรม, พรม, แผ่นชั้น vt. ห่ม, คลุม, ขัดขวาง, ยุ่ง, ดับไฟ, ติดลม adj. ซึ่งปกคลุม, Syn. coverlet, cover, robe |
block | (บลอค) { blocked, blocking, blocks } n. ท่อนไม้, ท่อนหิน, ก้อนใหญ่, ชิ้นใหญ่, ห่อดินระเบิด, แท่นโลหะ, เขียง, แม่พิมพ์, ลูกรอก, ตะแลงแกง, ตึกที่แบ่งออกเป็นส่วน, เครื่องกีดขวาง, ทั้งแถว, ทั้งก้อน, ทั้งปีก, ตึกใหญ่, คฤหาสน์ใหญ่, อุปสรรค, การขัดขวาง, เขตหนึ่งของตัวเมือง, เขตห่างไกลท |
blockade | (บลอค'เคด) n. การปิดล้อม, การขัดขวาง vt. ปิดล้อม, Syn. obstruction |
blockage | (บลอค'คิจฺ) n. การอุด, การปิดล้อม, การขัดขวาง, ภาวะที่ถูกปิด, ภาวะที่ถูกขัดขวาง |
blooey | (บลู'อี) adj. ติดขัด, มีข้อเสีย, ผิดพลาด |
blooie | (บลู'อี) adj. ติดขัด, มีข้อเสีย, ผิดพลาด |
boot | (บูท) { booted, booting, boots } n. รองเท้าหุ้มข้อเท้า, รองเท้าบู๊ท, เครื่องหุ้มคล้ายปลอก, ฝาครอบป้องกัน, ปลอกหุ้มเบาะ, โครงรถ, เครื่องรัดทรมานข้อเท้า, การเตะ, การถีบ, การปลดออก vt. สวมรองเท้าบู๊ท, เตะ, ถีบ เริ่มต้นใหม่เริ่มเครื่องใหม่หมายถึง การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เริ่มต้นทำงาน (ว่ากันว่า คำ "boot" นี้ มาจากคำว่า "bootstrap" เบื้องหลังการใช้คำ ๆ นี้ อยู่ที่การขู่ว่า ถ้าไม่ทำงานแล้วละก็ โดนรองเท้าบู๊ตแน่ ๆ เลย) การเริ่มเครื่องใหม่นั้น โดยปกติ เมื่อกดสวิตช์เปิดแล้ว คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นทำงานด้วยการอ่านจานบันทึกในหน่วยบันทึก A: ถ้าในหน่วยบันทึก A: ไม่มีจานบันทึก ก็จะไปอ่านจานบันทึก C: (จะไม่สนใจหน่วยบันทึก B: เลย) ถ้ามีจานบันทึกใน A: จานบันทึกนั้นจะต้องมีคำสั่งระบบ (แฟ้มข้อมูล command.com) อยู่ คอมพิวเตอร์จึงจะเริ่มต้นทำงานต่อไปได้ ถ้าจานบันทึกใน A: ไม่มีคำสั่งระบบ จะมีรายงานบนจอภาพว่าเป็น "non-system disk" ในกรณีเช่นนี้ต้องเปลี่ยน แผ่น A: หรือดึงแผ่น A: ออก แล้วเริ่มต้นใหม่จาก หน่วยบันทึก C: (ถ้ามี) อนึ่ง การเริ่มเครื่องใหม่นั้น ทำได้ 2 วิธี วิธีแรกเริ่มด้วยการเปิดสวิตช์ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ได้อธิบายแล้ว เรียกว่า "cold boot" อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เมื่อมีการเปิดเครื่องอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเริ่มเครื่องใหม่ หรือเครื่องเกิดขัดข้องหรือค้าง (hang) ให้ กดแป้น CTRL +ALT +DEL เรียกว่า "warm boot" |
boots | (บูทช) n. คนขัดรองเท้า -pl. boots |
bottleneck | (บอท'เทิลเนค) n. ทางเข้าที่แคบสถานที่หรือระยะเวลาที่อยู่ในภาวะลำบาก vt. ขัดขวาง vt. อุดตัน, อยู่ในภาวะที่ลำบาก |
breathless | adj. ขาดลมหายใจ, ขาดใจตาย, หอบ, ไม่มีลม, ไม่เคลื่อนไหว, อยู่นิ่ง, ทำให้หายใจขัด, See also: breathlessness n. ดูbreathless |
buckle | (บัค'เคิล) n. หัวเข็มขัด, กระดุม vt. กลัดแน่น, รัดแน่น, ติดแน่น vt. รัดเข็มขัด, ติดกระดุม, งอ, โค้ง, ยอม, ยอมจำนน, Syn. clip |
buffer | (บัฟ'เฟอะ) { buffered, buffering, buffers } n. ตัวกันชน, สารที่สามารถทำให้ทั้งกรดและด่างเป็นกลาง, เครื่องขัดเงา, คนงานขัดเงา vt. ใส่ตัวทำให้กรดหรือด่างเป็นกลาง, ผ่อนคลาย, ปกป้อง, กันชน, Syn. cushion ที่พัก ข้อมูล กันชนบัฟเฟอร์ในกรณีที่อัตราความเร็วในการทำงานของอุปกรณ์บางอย่างมีความเร็วไม่เท่ากัน เป็นต้นว่า เครื่องพิมพ์และหน่วยประมวลผลซึ่งทำงานด้วยความเร็วที่แตกต่างกันมาก คอมพิวเตอร์ประมวลผลเสร็จแล้วจึงต้องส่งผลมารออยู่ที่บัฟเฟอร์ก่อน เพราะเครื่องพิมพ์จะใช้เวลามากกว่าในการพิมพ์ พิมพ์ตามไม่ทัน เราจะพบบ่อย ๆ ว่า แม้ว่าจะสั่งให้หยุดพิมพ์ แต่เครื่องพิมพ์จะไม่หยุดทันที ทั้งนี้เป็นเพราะมีข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งไปรออยู่ที่บัฟเฟอร์แล้ว เครื่องพิมพ์จะต้องพิมพ์จนหมดข้อมูลในบัฟเฟอร์นี้ จึงจะหยุด คอมพิวเตอร์นั้นจะมีที่พักข้อมูลทั้งเมื่อรับข้อมูลเข้าและเมื่อส่งข้อมูลออก อันที่จริง บัฟเฟอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยความจำนั่นเอง |
burnish | (เบอร์'นิ?) { burnished, burnishing, burnishes } vt. ขัดเงา, ขัดให้วาว vi. เป็นวาว. n. ความเป็นวาว, ความแวววาว., See also: burnisher n. ดูburnish burnishment n. ดูburnish |
buts | (บัทซ) n., pl. ความขัดข้อง, การปฏิเสธ |
cabochon | n. หินมีค่าขัดเป็นวาวแต่ยังไม่ได้เจียระไน |
card jam | บัตรติดขัดหมายถึง การที่บัตรเกิดสับสนขึ้นภายในเครื่องอ่านบัตร (card reader) ซึ่งอาจเกิดจากการเจาะไม่ตรงรู บัตรยับหรือขาด เมื่อเครื่องอ่านบัตรอ่านมาถึงบัตรนั้นก็จะหยุด เพราะอ่านต่อไปไม่ได้ ดู card reader ประกอบ |
cd | abbr. ธาตุ cadmium, แผ่นซีดี ย่อมาจาก compact disk แปลตามตัวอักษรว่า จานบันทึกอัดแน่น มีลักษณะเป็นแผ่นจานกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ซม. ใช้เป็นที่เก็บข้อมูล จานบันทึกนี้มีความจุสูงมาก (ประมาณ 600ล้านตัวอักษร) ปัจจุบันมีอุปกรณ์ใช้อ่านข้อมูลจากจานบันทึกนี้ได้ แต่การบันทึกข้อมูลลง ยังทำไม่ได้ง่าย ๆ ต้องมีเครื่องพิเศษเฉพาะ บันทึกได้ทั้งข้อมูลธรรมดา เพลง ภาพยนตร์ ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มาก เพราะราคาถูก ความจุสูง แต่ยังติดขัดในปัญหาบางประการในเรื่องการบันทึกข้อมูลลง ดู CD ROM ประกอบ 2. ย่อมาจากคำ Change Directory เป็นคำสั่งในระบบดอสที่สั่งให้เข้าไปในสารบบ (directory) ใดสารบบหนึ่ง หรือออกจากสารบบใดสารบบหนึ่ง เช่น C:/>CD <ชื่อสารบบ> \ (หมายความว่าให้เข้าไปในสารบบชื่อนั้น) C:> CD\ (หมายความว่า ให้ออกจากสารบบที่อยู่) |
challenge | (แชล'ลินจฺ) v., n. (การ) ท้า, ท้าทาย, ท้าดวล, ขอประลองฝีมือ, เรียกร้อง, แสดงข้อคิดเห็นขัดแย้ง |
chape | (เชพ) n. หัวหุ้มโลหะ, ปลอกหนังที่เคลื่อนที่ได้ของสายหนังเข็มขัด |
chintz | (ชินทฺซ) n. สิ่งทอผ้าฝ้ายที่มีลายดอกขัดมัน |
choke | (โชค) vt. ทำให้หายใจขัด, ทำให้สำลัก, สกัด, กลั้น, จุกแน่น, ดับ, ห้าม, ยับยั้ง vi. สำลัก, ถูกอุด, ถูกสกัด, ตัน -n. การสำลัก, การอุดตัน, See also: choker n., Syn. garrotte |
cincture | (ซิง'เซอะ) n. สายเข็มขัด, สายรัด, สายรัดเอว, การโอบ |
clash | (แคล?) { clashed, clashing, clashes } vi. เสียงดังกระทบกัน, ปะทะโครม, ขัดแย้ง vt. ชนเสียงดัง n. เสียงดังปะทะ, ความขัดแย้ง, การต่อสู้การต่อต้าน, สงคราม |
clasp | (คลาสพฺ) { clasped, clasping, clasps } n. เข็มขัด, กลัด, ขอเกี่ยว, กระดุม, ที่หนีบ, การโอดกอด, การจับมือกัน, การประสานกัน, วงแขน, การพันกันแน่น vt. กลัด, กลัดกระดุม, กอด, กำหนีบ, ยึดติด |
clog | (คลอก) { clogged, clogging, clogs } v. ขัดขวาง, เต็มไปด้วย, อุดตัน, ติดเกาะ, ติดกัน, n. สิ่งที่ขัดขวาง, อุปสรรค, รองเท้าส้นไม้., See also: clogginess n. ดูclog cloggy adj. ดูclog, Syn. choke |
clot | (คลอท) n. ก้อนเลือดที่แข็งตัว, ก้อนเล็ก ๆ , กลุ่มเล็ก ๆ , คนโง่. vi. จับตัวเป็นก้อน vt. ทำให้จับตัวเป็นก้อน, ปกคลุมไปด้วยก้อนเล็ก ๆ , ทำให้หยุด, ขัดขวาง., See also: clotty adj., Syn. lump |
collide | (คะไลดฺ') { collided, colliding, collides } vi. ปะทะกันโครม, ชนกันโครม, ขัดแย้ง, Syn. smash -Conf. knock |
collision | (คะลิส'เชิน) n. การปะทะกันโครม, ความขัดแย้ง, , Syn. clash |
combat | (v. คัมแบท', n. คอม'แบท) { combated, combating, combats } vt. ต่อสู้, ต่อต้าน, รบกับ vi. ต่อสู้ n. การรบ, การต่อสู้, ความขัดแย้ง, Syn. fight |
conflict | (คอน'ฟลิคทฺ) n. การต่อสู้, การเป็นปรปักษ์, การขัดแย้ง, การทะเลาะ, สงคราม, การสู้รบ. vi. ปะทะ, ต่อสู้, ทะเลาะ, See also: conflictingly adv. confliction n. ดูconflict conflictive adj. ดูconflict conflictory adj. ดูconflict คำที่มีความหมายเหมือ |
conflict of interest | n. การขัดผลประโยชน์ |
conflict of laws | n. การขัดกันของกฎหมาย |
contestation | (คอนเทสเท'เชิน) n. การแข่งขัน, ความขัดแย้ง, การโต้เถียง |
contradiction | (คอนทระดิค'เชิน) n. การโต้แย้ง, การเถียง, ความขัดแย้ง, ความไม่ลงรอยกัน |
contradictory | (คอนทระดิค'ทะรี) adj. ซึ่งขัดแย้ง, ซึ่งไม่ลงรอยกัน, ซึ่งตรงกันข้าม n. ข้อเสนอที่ขัดแย้งกับข้อเสนออื่น. |
contraindicate | vt. (ยาชนิดหนึ่ง) ขัดแย้งกับ (ยาอีกชนิดหนึ่ง) โดยทำให้เกิดอาการได้, See also: contraindication n. |
Nontri Dictionary
abrade | (vt) ขูด, ขัด, ถู, ชะ, ครูด, ถลอก |
abrasive | (n) สิ่งที่ใช้ขัดถู |
adversity | (n) ความขัดสน, ความทุกข์ยาก, ภัยพิบัติ, ความเคราะห์ร้าย |
argumentative | (adj) ชอบโต้แย้ง, ชอบโต้เถียง, ชอบเถียง, ชอบขัดแย้ง |
attrition | (n) การล้างผลาญ, การขัดสี, การสึกกร่อน |
belt | (n) เข็มขัด, สายคาดเอว, แนว, ทิว, เขต, สายพาน |
belt | (vt) รัดเข็มขัด |
blacking | (n) ยาขัดสีดำ |
block | (vt) สกัด, กีดกัน, ขัดขวาง, ต้าน, ปิดล้อม |
blockade | (n) การปิดล้อม, การกั้นด่าน, การขัดขวาง |
blockade | (vt) กีดกั้น, ปิดล้อม, กั้นด่าน, ขัดขวาง |
blockage | (n) การปิดล้อม, การอุด, การขัดขวาง |
bootblack | (n) คนขัดรองเท้า |
buckle | (n) ขอ, หัวเข็มขัด, ห่วง, กระดุม |
buckle | (vt) งอ, โค้ง, คาด(พุง), ผูก(อาน), ติด(กระดุม), รัด(เข็มขัด) |
choke | (vt) ทำให้สำลัก, ทำให้หายใจขัด, ทำให้หายใจไม่ออก |
cincture | (n) เข็มขัด, สายรัด, สายคาด |
cincture | (vt) รัดเข็มขัด |
clash | (n) การทะเลาะ, การปะทะ, การขัดแย้ง |
clash | (vt) ปะทะกัน, ชนกัน, กระทบกัน, ขัดแย้งกัน, โต้แย้งกัน, ทะเลาะกัน |
clog | (n) เครื่องถ่วง, สิ่งที่ขัดขวาง, อุปสรรค |
clog | (vt) ขัดขวาง, ถ่วง, ทำให้ตัน, อุด, กีดขวาง |
collide | (vt) ชน, กระแทก, ปะทะกัน, ขัดแย้ง, ไม่เห็นด้วย |
collision | (n) การปะทะกัน, การกระทบกัน, ความขัดแย้ง |
combat | (n) การต่อสู้, การต่อต้าน, การรบ, ความขัดแย้ง |
compliant | (adj) ยินยอม, ซึ่งยอมตาม, ไม่ขัดขืน, ว่าง่าย, ซึ่งเชื่อฟัง |
comply | (vi) ยินยอม, อนุโลม, เชื่อฟัง, ไม่ขัดขืน, ว่าง่าย |
conflict | (vt) ตรงกันข้าม, ปะทะ, ทะเลาะ, ขัดกัน |
contradictory | (adj) ซึ่งตรงกันข้าม, ซึ่งขัดแย้ง, ซึ่งไม่ลงรอยกัน |
contrariety | (n) สิ่งที่ขัดกัน, ความตรงกันข้าม |
contrary | (n) ความขัดกัน, ความตรงกันข้าม, ความดื้อรั้น |
controversy | (n) ความขัดแย้ง, การโต้แย้ง, การโต้เถียง, การเถียง, การโต้คารม |
counteract | (vt) ตอบโต้, ขัดขวาง, ถ่วง, แก้, ต่อต้าน |
cross | (vt) ข้าม, กากบาท, ขีดฆ่า, ผสมข้ามพันธุ์, ไขว้, ขัดขวาง, ต่อต้าน |
CROSS-cross-legged | (adj) ซึ่งนั่งไขว้ขา, ซึ่งนั่งไขว่ห้าง, ซึ่งนั่งขัดสมาธิ |
debar | (vt) กั้น, กีดกั้น, ขัดขวาง, ห้าม, ยับยั้ง |
defiance | (n) การยั่ว, การขัดขืน, การท้า, การต่อต้าน |
defy | (vt) ท้าทาย, ฝ่าฝืน, ดื้อดึง, ต้านทาน, ขัดขืน, เป็นปรปักษ์ |
deter | (vt) ขัดขวาง, กีดกั้น, กีดขวาง, ยับยั้ง, ป้องกัน |
difficult | (adj) ยาก, ยุ่งยาก, ลำบาก, มีอุปสรรค, ขัดสน |
disobedient | (adj) ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ดื้อแพ่ง, ขัดขืน, ไม่เชื่อฟัง |
disobey | (vt) ไม่เชื่อฟัง, ขัดขืน, ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ดื้อแพ่ง |
disoblige | (vt) ไม่ยอมตาม, ขัดขืน, ดื้อ |
dissension | (n) การทะเลาะ, การวิวาท, ความขัดแย้ง, ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน |
dissent | (n) ความขัดแย้ง, ความแตกแยก, ความไม่เห็นด้วย, ความแตกร้าว |
dissent | (vi) ไม่เห็นด้วย, คัดค้าน, ขัดแย้ง, แตกร้าว, ทะเลาะ, ไม่ลงรอยกัน |
dissenter | (n) ผู้คัดค้าน, ผู้ขัดแย้ง, ผู้ไม่เห็นด้วย |
dissidence | (n) ความขัดแย้ง, การไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน |
expostulate | (vt) ขัดแย้ง, ทัดทาน, ว่ากล่าว, ตักเตือน, เตือน |
expostulation | (n) การขัดแย้ง, การทัดทาน, การว่ากล่าว, การตักเตือน |
Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
*tonewashed { adj }; mit Steinen ausgewaschen [ textil* | (adj) (เสื้อผ้า โดยเฉพาะ jeans) ที่ซักด้วยการใช้หินก้อนเล็กขัดถู ให้ดูว่าเก่าและซีดลงจากเดิม, See also: stone wash |
cause of difficulty | เหตุขัดข้อง |
conflict of opinion | (phrase) ความขัดแย้งทางความคิด |
exfoliate | ขัดผิว (เพื่อให้ผิวที่ตายแล้วหลุดออก) |
hone | หินลับมีด ทำให้คม ขัดเกลา |
intercalary | (adj) ขวางกัน สอดขั้นไว้ ขัดขวาง เกิน อธิกะ เพิ่มเติม |
intervene | ขัดทรัพย์ |
irony | (n) ขัดแย้ง |
obstruction of justice | (n) การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม |
screed | (n) ผิวซีเมนตขัดหยาบ |
shöshineman | (n) คนขัดรองเท้า |
well-crafted | ขัดเกลา ปรุงแต่งอย่างประณีตงดงาม |
whistle-blower | (n) ผู้แจ้งเบาะแส, ผู้แจ้งเหตุ, ผู้แจ้งหรือให้ข้อมูลแก่ทางการหรือสาธารณะว่าบริษัทตนกระทำผิดหรือขัดต่อกฎหมาย, See also: whistle-blowing |
wholegrain | (n) ธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย, Syn. whole-grain; whole seed |
Longdo Approved JP-TH
障害 | [しょうがい, shougai] (vt) ขัดข้อง, มีปัญหา |
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
故障 | [こしょう, koshou] การชำรุดเสียหาย ความขัดข้อง สิ่งกีดกันหรือปัญหาที่ทำให้หยุดชะงัก |
矛盾 | [むじゅん, mujun] ขัดแย้ง ไปด้วยกันไม่ได้ ขัดกัน |
摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก |
摩耗 | [まもう, mamou] การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก |
摩耗 | [まもう, mamou] (n) การขัดถู ทำลายด้วยการขัดออก |
争い | [あらそい, arasoi] โต้เถียง, ขัดแย้ง, โต้แย้ง, ทะเลาะ |
Saikam JP-TH-EN Dictionary
遮る | [さえぎる, saegiru] TH: ขัด EN: to intercept |
磨く | [みがく, migaku] TH: ขัดเงา EN: to polish |
妨げる | [さまたげる, samatageru] TH: ขัดขวาง EN: to prevent |
割込む | [わりこむ, warikomu] TH: แทรก ขัดจังหวะ ขัดคอ EN: to interrupt |
Longdo Approved DE-TH
Es ist doch gut. | มันก็ดีออกนี่ หรือ แต่มันดีนะ(ดีจริง ไม่ประชด), doch ใช้เสริมเพื่อขัดกับประโยคหรือบทสนทนาก่อนหน้านั้น อาจแปลว่า แต่ |
jedoch | (konj) แต่ (เป็นคำที่ไพเราะกว่า aber มักใช้ในภาษาเขียน ใช้บ่งสิ่งที่ขัดแย้งกัน) เช่น Er wollte seine Eltern besuchen, tat jedoch nicht. เขาอยากไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้ทำ, See also: doch, Syn. aber |
verhindern | (vt) |verhinderte, hat verhindert| ขัดขวาง, ป้องกัน, ยับยั้ง |
putzen | (vt) |putzte, hat geputzt| ทำความสะอาด ขัดถู |
Kampf | (n) |der, pl. Kämpfe| ความขัดแย้ง, See also: der Konflikt |
seltsamerweise | (adv) แปลกที่, ที่ขัดแย้งกัน |
Wiederstand leisten | ต่อต้าน, ขัดขวาง, สกัดกั้น, See also: wiederstehen |
Panne | (n) |die, pl. Pannen| ข้อผิดพลาดหรือความขัดข้องทางเทคนิค เช่น Bei dem Empfang gab es mehrere Pannen: erst funktionierte das Mikrofon des Redners nicht, und dann kam der Dolmetscher auch noch zu spät. = ระหว่างพิธีต้อนรับมีความขัดข้องทางเทคนิคเกิดขึ้นมากมาย ตอนแรกไมโครโฟนของพิธีกรไม่ทำงาน และล่าม(นักแปล)ยังมาสายอีกด้วย |
wachstumhemmend | (adj) ที่ไม่เอื้อ, ยับยั้ง, ขัดขวาง ต่อการเจริญเติบโต, See also: A. wachstumfördernd |
wenn | ถ้า, เมื่อ(บ่งเงื่อนไข) เช่น Ich besuche dich wenn du nichts dagegen hast. ฉันจะไปหาเธอถ้าเธอไม่มีอะไรขัดข้องนะ |
blockieren | (vt) |blockierte, hat blockiert| ขัดขวาง, See also: durchkreuzen, stören S. verhindern |
reiben | (vt) |rieb, hat gerieben| ขัดถู, ขยี้ เช่น Ich habe mir die Augen gerieben und genau hingeschaut. ฉันขยี้ตาตัวเองแล้วก็มองไปที่นั่นอย่างละเอียดถี่ถ้วน |
Longdo Unapproved DE-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
estrich | (n) ผิวซีเมนตขัดหยาบ |
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Time: 0.0549 seconds, cache age: 3.864 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม