ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: กินเวลา, -กินเวลา- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ | กินเวลา | ก. เปลืองเวลา, ใช้เวลามาก. | กิน | โดยปริยายหมายความว่า เปลือง เช่น กินเงิน กินเวลา, ทำให้หมดเปลือง เช่น รถกินนํ้ามัน หลอดไฟชนิดนี้กินไฟมาก | เกิน | ว. พ้น, เลย, คำนี้ใช้แก่ลักษณะที่มีมากกว่าหรือยิ่งกว่ากำหนด เช่น เกินขนาด เกินฐานะ เกินเวลา เกินสมควร. | เขียว ๓ | น. ชื่องูสีเขียวหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ เช่น เขียวพระอินทร์ ( Chrysopelea ornata Shaw) ในวงศ์ Colubridae ลำตัวเรียวยาว อาศัยตามต้นไม้และชายคาบ้านเรือน ออกหากินเวลากลางวัน มีพิษอ่อนมาก, เขียวหางไหม้ท้องเหลือง ( Trimeresurus albolabris Gray) ในวงศ์ Viperidae ลำตัวอ้วนสั้น หางแดง ออกหากินเวลากลางคืน มีพิษอ่อนแต่เป็นอันตราย. | เขียวหางไหม้ | น. ชื่องูเขียวหลายชนิดในวงศ์ Viperidae ลำตัวอ้วนสั้น หัวโต คอเล็ก หลายชนิดปลายหางสีแดงหรือสีน้ำตาลซึ่งมีทั้งสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลไหม้ ทุกชนิดออกหากินเวลากลางคืน มักมีนิสัยดุ มีพิษอ่อนแต่เป็นอันตราย เช่น เขียวหางไหม้ท้องเขียว ( Trimeresurus popeorum Smith) ปาล์ม ( T. wiroti Trutnau). | คอแดง | น. ชื่องูลายสาบขนาดเล็กชนิด Rhabdophis subminiatus Schlegel ในวงศ์ Colubridae ตัวยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร สีเขียวหรือเทา คอสีแดง ออกหากินเวลากลางวัน มีพิษอ่อน, หมู่ ก็เรียก. | งอด | น. ชื่องูขนาดเล็กในสกุล Oligodonวงศ์ Colubridae ลำตัวขนาดไล่เลี่ยกับดินสอดำ ยาว ๓๐-๘๐ เซนติเมตร ส่วนใหญ่สีน้ำตาลอมเทา มีลายรูปร่างต่าง ๆ กัน เช่น ลายเส้น ลายประ หรือลายจุดสีดำกระจายทั่วตัว ท้องบริเวณหางสีแดง ส่วนใหญ่หากินเวลากลางคืน อาศัยตามพื้นดิน กินแมลง แมงมุม จิ้งจก เขียด ไส้เดือน ไข่นก และสัตว์เลื้อยคลาน ไม่มีพิษ ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น งอดท้องแดงหรืองอดไทย [ O. taeniatus (Günther) ] งอดด่างหรือปี่แก้วลายกระ [ O. cinereus (Günther) ]. | นาน | ว. ยาว, ช้า, (ใช้แก่เวลา) เช่น กินเวลานาน. | ปรัง | (ปฺรัง) ว. เกินเวลา, เกินกำหนด, เช่น จมปรัง ว่า อยู่เกินเวลา. | ปากกว้าง | น. ชื่องูนํ้าขนาดกลางชนิด Homalopsis buccata (Linn.) ในวงศ์ Colubridae ลำตัวยาวประมาณ ๑.๓ เมตร หัวใหญ่ ด้านบนมีแถบสีน้ำตาลเหลืองพาดขวาง ปากกว้าง เกล็ดมีสัน ตัวสีน้ำตาลแดง มักพบอาศัยอยู่ตามริมคลอง บึง และหนองน้ำ หากินเวลากลางคืน กินปลาและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเป็นอาหาร มีพิษอ่อนมาก, หัวกะโหลก เหลือมอ้อ เหลือมน้ำ หรือ เห่าน้ำ ก็เรียก. | ปากจิ้งจก ๒ | น. ชื่องูขนาดกลางชนิด Ahaetulla prasina (Boie) ในวงศ์ Colubridae ยาวประมาณ ๑.๓ เมตร หัวและลำตัวเรียวยาว มีหลายสี ส่วนมากสีเขียวปลายหางสีนํ้าตาลแดง มักพบอาศัยบนต้นไม้ หากินเวลากลางวัน ส่วนใหญ่กินกิ้งก่า พบทั่วประเทศไทย มีพิษอ่อนมาก, บางครั้งเรียกชื่อตามสี เช่น ตัวสีส้มเรียก งูง่วงกลางดง ตัวสีเทาเรียก งูกล่อมนางนอน, เขียวหัวจิ้งจก เชือกกล้วย รากกล้วย หรือ แห้ว ก็เรียก. | แมวเซา ๒ | น. ชื่องูพิษขนาดกลางชนิด Daboia russellii (Shaw) ในวงศ์ Viperidae หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม ตัวอ้วนสั้นสีนํ้าตาลอมเทา มีลายแต้มสีนํ้าตาลเข้มขอบดำ เขี้ยวพิษยาว เมื่อถูกรบกวนมักทำเสียงขู่ฟู่ยาวคล้ายเสียงยางรถรั่ว อาศัยอยู่บนบก ออกหากินเวลากลางคืน กินกบ เขียด หนู นก และงูบางชนิด มีพิษรุนแรง. | ล่วงเวลา | ว. เกินเวลาหรือนอกเวลาที่มีกำหนดไว้ เช่น เงินค่าล่วงเวลา ทำงานล่วงเวลา. | ลายสอ | น. ชื่องูขนาดกลางในวงศ์ Colubridae ยาวประมาณ ๑ เมตร ลำตัวสีน้ำตาล น้ำตาลอมแดง หรือน้ำตาลเข้ม มีลายเป็นแถบสีดำข้างลำตัว และสีน้ำตาลเข้มบนหลังตลอดตัว เกล็ดบนหลังมีสัน อยู่ตามพื้นดิน ไม่ขึ้นต้นไม้ หากินเวลากลางวัน กินกบ เขียด และสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก ดุแต่ไม่มีพิษ ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ลายสอบ้าน [ Xenochrophis piscator (Schneider) ] ลายสอหัวเหลือง [ Sinonatrix percarinata (Boulenger) ]. | สายม่าน | น. ชื่องูขนาดกลางหลายชนิด ในวงศ์ Colubridae ยาวประมาณ ๑.๕ เมตร ส่วนมากลำตัวสีนํ้าตาล เกล็ดสันหลังมักวาวคล้ายสีทองเหลือง ว่องไวปราดเปรียว ออกหากินเวลากลางวันตามป่าหญ้าและบนต้นไม้ กินกบ เขียด กิ้งก่า พบทุกภาคของประเทศไทย ไม่มีพิษ เช่น สายม่านลิ้นแดง [ Dendrelaphis pictus (Gmelin) ] สายม่านหลังทอง [ D. formosus (Boie) ]. | เสือ ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Felidae รูปร่างลักษณะคล้ายแมวแต่ตัวโตกว่ามาก เป็นสัตว์กินเนื้อ นิสัยค่อนข้างดุร้าย หากินเวลากลางคืน มีหลายชนิด เช่น เสือโคร่ง [ Panthera tigris (Linn.) ] เสือดาวหรือเสือดำ [ P. pardus (Linn.) ], โดยปริยายใช้เรียกคนเก่งคนดุร้าย | แสงอาทิตย์ | น. ชื่องูขนาดเล็กถึงขนาดกลางชนิด Xenopeltis unicolor Boie ในวงศ์ Xenopeltidae ยาว ๘๐-๑๒๕ เซนติเมตร หัวแบน ตาเล็ก ลำตัวสีนํ้าตาลม่วงเป็นมันวาวเมื่อถูกแสง ท้องขาว พบอาศัยอยู่ใต้ผิวดินหรือใต้กองหญ้า กองฟางที่มีความชื้น ออกหากินเวลากลางคืน กินสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนู กิ้งก่า งู ไม่มีพิษ, เหลือมดิน ก็เรียก. |
|
| Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Presentation of Credentials | หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต] | corpus luteum stage | ระยะหลังตกไข่, ระยะเวลาถัดจากการตกไข่ไปจนถึงเริ่มมีประจำเดือน (สำหรับคนจะกินเวลาประมาณ 13-15 วัน) ระยะนี้มีการสร้างผนังมดลูกหนาขึ้นเพื่อรอรับไข่ที่ผสมแล้ว [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | follicle stage | ระยะก่อนตกไข่, ระยะเวลาที่เริ่มนับตั้งแต่ประจำเดือนหมดไปจนถึงมีการตกไข่ (สำหรับคนจะกินเวลาประมาณ 13 - 15 วัน) [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Labor, Prolonged | การคลอดใช้เวลานานกว่าปกติ, การเจ็บครรภ์คลอดเนิ่นนาน, การคลอดล่าช้า, การคลอดที่นานเกินไป, การคลอดที่ล่าช้า, การคลอดกินเวลานาน, การคลอดติดขัด, คลอดช้า, คลอดนาน, ระยะเวลาการคลอดนาน [การแพทย์] |
| Nocturnal activities. | กิจกรรมออกหากินเวลากลางคืน Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | There are things that take up that time... | มีหลายอย่างที่กินเวลาของเขาไป... The Story of Us (1999) | The lag between Noboru and I will be a whole year! | มันจะทำให้การส่งข้อความ หาโนโบรุกินเวลาอีกหลายปี Hoshi no koe (2002) | that the marriage lasts no less than 3 years. | การแต่งงานนี้จะต้อง กินเวลาไม่ต่ำกว่าสามปี Full House (2004) | ( rattling ) "It'll take years. | (พูดต่อไป) "จะกินเวลา หลายปี Pilot (2004) | So there should be about three weeks of rotten garbage to break their fall. | นั่นคงกินเวลาประมาณสามสัปดาห์ทีเดียว ที่ต้องปล่อยขยะไว้อย่างนั้น Charlie and the Chocolate Factory (2005) | If I were the one to tune this car, it would probably take me 6 months. | ถ้าฉันเป็นคนปรับแต่งรถคันนี้หละก็ คงกินเวลาร่วมๆ 6 เดือน Initial D (2005) | There will be several photo opportunities... How much time will there be between the moment | และตามด้วยการลงนาม กินเวลาแค่ไหนระหว่างที่... Day 5: 10:00 a.m.-11:00 a.m. (2006) | Aw, he's so beautiful when he sleeps. | โอว น่ารักเหลือเกินเวลานอนหลับแบบนี้ Distant Past (2007) | If they work at your house, you must get to hang out with them a lot. | อเล็กซานเดอร์พ่อขั้นให้ขนมทวิสกี้มา มีน้ำให้กินเวลาคอแห้งด้วย. Bridge to Terabithia (2007) | From that point onward, I would suffer from a symptom so frightening, it would consume every minute of every hour of every day. | ตั้งแต่นั้น ผมก็ต้องทนทรมานจากอาการที่น่ากลัวเช่นนั้นเรื่อยมา มันกินเวลาทุกๆ นาที ในทุกๆ ชั่วโมง ของทุกๆ วัน Numb (2007) | (COUGHING) | ผมรับเอง มันกินเวลาเป็นเดือน Chapter Seventeen 'Company Man' (2007) | I take it it's been months. | ผมรับเอง กินเวลาเป็นเดือน Chapter Eighteen 'Parasite' (2007) | Just going one way took two hours. | แค่ไปอย่างเดียวก็กินเวลาตั้งสองชั่วโมงแล้ว We Can Get Married If I Make It to the Koshien!? (2007) | Something tells me Theodore Bagwell wouldn't last long in this situation. | บางอย่างบอกฉัน ทีโอดอร์ เบคเวล สถานะการนี้ไม่กินเวลานานนัก Quiet Riot (2008) | That's a long time to go without something you love. | มันกินเวลานานเหลือเกินเมื่อไร้สิ่งที่คุณรัก The Arrival (2008) | I didn't know a photo shoot would take this long. | ฉันไม่รู้จริงๆว่าแค่ถ่ายรูปจะกินเวลานานขนาดนี้ You're Gonna Love Tomorrow (2008) | I know she could use the extra hours and; | ฉันรู้ว่าเธอทำงานเกินเวลาแล้วและ Changeling (2008) | You made rehearsal go overtime! | นายทำให้การซ้อมมันเกินเวลามาขนาดนี้ Nodame Cantabile: The Movie I (2009) | What are we doing here? We're running out of time. | พวกเราทำอะไรอยู่ที่นี่ พวกเรา เกินเวลามา มากแล้วนะ Legion (2009) | Once back into FTL, it could be days before we find another planet capable of replenishing our water supplies. | ถ้าเรากลับเข้าไปใน FTL มันจะกินเวลาหลายวัน กว่าเราจะเจอดาวดวงอื่น ที่สามารถเติมน้ำ เสบียงของเรา Water (2009) | He may have logged excess hours at work | เขาอาจจะทำงานเกินเวลา Amplification (2009) | - All these people put in the same hours that I do. | คนพวกนี้ก็ทำงาน เกินเวลาเหมือนผม Remains to Be Seen (2009) | I believe that investigating that will take a great investment of time. | ฉันเชื่อว่าการสืบสวนนั้นคงจะกินเวลาไม่มาก Episode #1.5 (2009) | I have no idea, but he says he can explain why the blackout lasted 137 seconds, and he won't talk unless I see him face-to-face. | ผมก็ไม่รู้ แต่เขาบอกว่า เขาสามารถอธิบายได้ ว่าทำไมการหมดสติ กินเวลานาน 137 วินาที และเขาจะไม่พูดจนกว่า ผมไปพบกับเขาตัวต่อตัว 137 Sekunden (2009) | It shouldn't take longer than an hour. | ไม่น่าจะกินเวลาเกินหนึ่งชั่วโมง I Always Feel Like Somebody's Watchin' Me (2009) | Although this will take up everyone's time, but the bigger the wheel, having more people to push it... makes it less hard. | ถึงแม้ว่าการทำอย่างนี้จะ กินเวลาของทุกคน, แต่รถยิ่งมีล้อใหญ่ , ก็ต้องใช้คนมากขึ้นช่วยดัน... ทำให้ยากน้อยลง. Shining Inheritance (2009) | Well, it was fun while it lasted, Miss Hills. | ดีก็ เป็นเรื่องที่สนุก ในขณะที่มัน กินเวลา นางสาว ฮิลส์ I Spit on Your Grave (2010) | It was fun while it lasted. | มันสนุก ในขณะที่มัน กินเวลา I Spit on Your Grave (2010) | Felt like I was only away for a few minutes, and then suddenly it was past 1 1 . | แต่พอรู้สึกตัวอีกที มันก็ห้าทุ่มแล้ว คุณหมายถึงคุณนอนเกินเวลา? Everything Is Broken (2010) | It's for weak, indulgent... | มันกินเวลา ทำให้เราปล่อยตัว... How About a Friendly Shrink? (2010) | Well, I'd say this conversation is long overdue, | ฉันว่าบทสนทนานี้จะกินเวลาสักหน่อย The Song Remains the Same (2010) | The men were told that the fighting would last only a few days. | เหล่าทหารถูกบอกว่าการรบครั้งนี้.. จะกินเวลาไม่เกิน 2-3 วัน Peleliu Landing (2010) | Would last more than two months | กลับกินเวลามากกว่า 2 เดือน Peleliu Landing (2010) | Internal bleeding would have taken much longer to kill him. | การตกเลือดจากภายใน คงกินเวลานานพอ กว่าเขาจะเสียชีวิต The Couple in the Cave (2010) | He refuses to pay fines when he's overdue with books I lend him. | เขาปฏิเสธที่จะจ่ายค่าปรับ เมื่อเขายืมหนังสือของผมเกินเวลาที่กำหนด The Apology Insufficiency (2010) | Hacking is obscenely time-consuming. | การแฮกข้อมูลกินเวลามาก The Internet Is Forever (2010) | Going through the data, the scientist circled the signal and wrote, "wow!" | มันกินเวลา 72 วินาที ระยะเวลาเต็มรูปแบบ กล้องโทรทรรศน์วิทยุก็ชี้ไปที่มัน Are We Alone? (2010) | Staying out past curfew, drinking and smoking-- your basic teenage stuff. | ไปข้างนอกเกินเวลาที่ห้ามไว้ ทั้งดื่มและสูบยา เป็นของสามัญของวัยรุ่นทั่วไป Red Sky at Night (2010) | Two things. First of all, his body wasn't found for days. | สองอย่าง อย่างแรกเลย คือกินเวลาหลายวันก่อนที่จะพบศพของเขา Devil's Night (2010) | Snack on them. | ไว้กินเวลาคิดนะ Episode #1.6 (2010) | The party lasted an entire week. | บุคคลที่กินเวลาทั้งสัปดาห์ Tangled (2010) | Orders are to pull back. Get to extraction point Charlie by 0300 or we'll be gone. | รับทราบ 03.00 pm เลิกกัน อย่าเกินเวลาเราจะไม่รอ Battle Los Angeles (2011) | TV between 5:30 and 6:00, but no more. | ดูทีวี 5.30 ถึง 6.00 ห้ามเกินเวลา One Day (2011) | It's really cutting into my reading time. | กินเวลาอ่านหนังสือของผม The Math Class (2011) | That'll take a couple hours. | นั้นกินเวลาสักสองชั่วโมง The Long Way Down Job (2011) | Do you like mussels? There's also abalone. Do you like it? | งั้น เธอจะกินเวลาอื่นรึเปล่า Ouran High School Host Club (2011) | Then I too will have to make sure my times are perfect. | งั้นผมจะทำงานไม่ให้เกินเวลาเหมือนกัน Fermentation Family (2011) | My son likes one when he comes home. | ลูกชายฉันชอบกินเวลากลับถึงบ้าน Mea Makamae (2011) | It was a long ride down to the lobby, and she was wearing too much perfume. | มันกินเวลานานกว่าจะล็อบบี้ และเธอใส่น้ำหอมมากเกินไป Father and the Bride (2012) |
| กินเวลา | [kin wēlā] (v, exp) EN: take time ; be time consuming ; take a lot of time ; consume time FR: prendre du temps |
| aardwolf | (n) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกหากินเวลากลางคืน อาศัยอยู่ในที่ราบตอนใต้ของแอฟริกา กินปลวกและแมลงตัวอ่อนเป็นอาหาร เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับไฮยีน่า |
| aardvark | (n) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งที่หากินเวลากลางคืน กินมดและปลวกเป็นอาหาร มีลิ้นยาวมาก อุ้งเท้าแข็งแรงและหูยาว | bicentenary | (adj) กินเวลาสองร้อยปี, Syn. bicentennial | bicentennial | (adj) กินเวลาสองร้อยปี, Syn. bicentenary | go back | (phrv) ดำรงอยู่, See also: กินเวลานาน, อยู่มานาน, Syn. date back to, go back to | go back to | (phrv) กินเวลานาน, Syn. date back to, go back | oversleep | (vi) นอนเกินเวลา, See also: นอนนานกว่าปกติ, Syn. sleep in, sleep late | overstay | (vi) อยู่นานเกินไป, See also: พักอยู่เกินเวลา, Syn. outstay | overstay | (vt) อยู่นานเกินไป, See also: พักอยู่เกินเวลา, Syn. outstay | run | (vi) ใช้เวลา, See also: กินเวลา | span | (vt) ยืดขยาย, See also: ก้าวข้าม, กินเวลา, Syn. extend, run, spread, stretch, bridge | time consuming | (adj) ที่สิ้นเปลืองเวลามาก, See also: ที่กินเวลา, ซึ่งต้องใช้เวลา, Syn. time-consuming | time-consuming | (adj) ที่สิ้นเปลืองเวลามาก, See also: ที่กินเวลา, ซึ่งต้องใช้เวลา, Syn. time consuming | weeklong | (adj) ซึ่งกินเวลาทั้งอาทิตย์ |
| demurrage | n. การจอดเรือ (รถ) เกินกำหนดเวลา, ค่าจอดเกินเวลา | long-term | (ลอง'เทิร์ม) adj. ระยะยาว, กินเวลานาน, See also: lasting, Syn. long | short-term | adj. ระยะสั้น, กินเวลาสั้น, ชั่วคราว |
| | 亙る | [わたる, wataru] ครอบคลุมถึง กินเวลาถึง |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |