ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: โอกาส, -โอกาส- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ โอกาส | (n) opportunity, See also: chance, Syn. ช่อง, ทาง, จังหวะ | โอกาส | (n) chance, See also: occasion (for), opening, time, Example: ถ้าหากผมมีโอกาสไปเชียงใหม่เมื่อใด ก็มักจะถือโอกาสไปเยี่ยมขอความรู้จากท่านเสมอ, Thai Definition: เวลาที่เหมาะ, จังหวะ | โอกาส | (n) time, Syn. เวลา, Example: คนที่ยืนหยัดในความคิดของตนเองจะได้รับความไว้วางใจในทุกโอกาส | โอกาส | (n) opportunity, See also: chance, Syn. ช่อง, ทาง, Example: ในสังคมไทยการรับราชการย่อมมีโอกาสได้ชื่อเสียงง่ายกว่าการเป็นชาวนา หรือกรรมกร | มีโอกาส | (v) be likely, See also: could, Syn. ได้โอกาส, Ant. หมดโอกาส, Example: พนักงานที่ทำงานกับจอภาพมีโอกาสสายตาสั้นได้มากขึ้น | สบโอกาส | (v) meet the opportunity, Syn. ได้โอกาส, Example: เมื่อสบโอกาส รัฐมนตรีคลังคนใหม่ก็ประกาศขึ้นเพดานดอกเบี้ย | โอกาสดี | (n) good chance, Syn. จังหวะดี | โอกาสดี | (n) auspicious, See also: favourable (promising) opportunity, Syn. โอกาสทอง, Example: การที่มหาวิทยาลัยขยายวิทยาเขตไปยังจังหวัดนครปฐมนั้นเป็นโอกาสดีที่มหาวิทยาลัยจะได้เข้าไปมีบทบาทด้านศิลปวัฒนธรรมในจังหวัดนครปฐม, Thai Definition: ช่วงจังหวะที่ดี, ช่องทางที่ดี | คอยโอกาส | (v) wait one's chance, See also: wait for a right time, bite one's time, Syn. คอยจังหวะ, รอโอกาส | ถือโอกาส | (v) take the opportunity, See also: take advantage, Syn. ฉวยโอกาส, Example: พนักงานบางคนถือโอกาสเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน | บางโอกาส | (adv) occasionally, See also: sometimes, Syn. บางคราว, บางหน, Example: แฟนฉันจะให้ของขวัญในบางโอกาสเท่านั้นแหละ | หมดโอกาส | (v) lose an opportunity, See also: lose a chance, Ant. มีโอกาส, Example: ถ้ามีการตรวจพบว่าไม่พบ sex chromatin ให้นักกีฬาหญิงคนใด ทำให้นักกีฬาหญิงเหล่านั้นหมดโอกาสที่จะเข้าร่วมการแข่งขันได้อีก | ให้โอกาส | (v) give a chance, See also: give an opportunity, present an opportunity, Syn. มอบโอกาส, เปิดโอกาส, Example: อาจารย์ให้โอกาสนักเรียนกลุ่มนี้สอบแก้ตัวอีกครั้ง | ได้โอกาส | (v) have the chance, See also: get an opportunity, Syn. สบโอกาส, ได้ช่อง, ได้ท่า, Example: ขโมยได้โอกาสขึ้นบ้านในเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ | ด้อยโอกาส | (v) have no chance, Example: การพัฒนาชุมชนมักมุ่งสู่ชุมชนชนบทอันเป็นชุมชนที่ด้อยโอกาสทางสังคมหรือเสียเปรียบสังคม, Thai Definition: ไม่มีโอกาส | พลาดโอกาส | (v) miss an opportunity, See also: lose the chance, Syn. คลาดโอกาส, Example: เขามีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทำให้เขาพลาดโอกาสในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ, Thai Definition: พลาดไปจากหนทางหรือเวลาที่เหมาะสม | เปิดโอกาส | (v) give an opportunity, See also: give a chance, Syn. ให้โอกาส, Example: แพทย์เปิดโอกาสให้คนไข้ได้ซักถามปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากการอดบุหรี่ | เสียโอกาส | (v) lose opportunity, See also: lose chance, Ant. ได้โอกาส, Example: ผู้หญิงเอเชียใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลน้อยกว่าผู้ชายส่งผลให้เสียโอกาส ความก้าวหน้า และช่องทางการหางาน, Thai Definition: ไม่ได้ในเวลาที่เหมาะ, เสียจังหวะ | โอกาสหน้า | (n) in the future, Syn. คราวหน้า, Example: ผมหวังว่าโอกาสหน้าคงจะได้นำข้อมูลในการวิจัยมานำเสนออีก | การฉวยโอกาส | (n) taking advantage of the occasion (a situation an opportunity), See also: seizing the chance, seizing the opportunity, Example: ต่างชาติเข้ามาทำการฉวยโอกาสกว้านซื้อที่ดินและกิจการของเราในขณะที่บ้านเมืองเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ | นักฉวยโอกาส | (n) opportunist, See also: vacillator, Count Unit: คน | เสี่ยงโอกาส | (v) take a chance, See also: risk, Syn. เสี่ยงโชค, เสี่ยง, Example: ของอย่างนี้ไม่ได้มีมาบ่อยนะ คุณน่าจะลองเสี่ยงโอกาสดู | ผู้ด้อยโอกาส | (n) one who is disadvantaged, See also: one who gets fewer opportunities, Example: การพัฒนาชุมชนมักมุ่งสู่ชุมชนชนบท ที่มีผู้ด้อยโอกาสทางสังคมจำนวนมาก, Thai Definition: ผู้ที่มีโอกาสในสิ่งที่ดีๆ น้อยกว่าผู้อื่น | ผู้ด้อยโอกาส | (n) one who is disadvantaged, See also: one who gets fewer opportunities, Example: การพัฒนาชุมชนมักมุ่งสู่ชุมชนชนบท ที่มีผู้ด้อยโอกาสทางสังคมจำนวนมาก, Thai Definition: ผู้ที่มีโอกาสในสิ่งที่ดีๆ น้อยกว่าผู้อื่น | คว้าโอกาสที่ดี | (v) seize the opportunity, Ant. ปล่อยโอกาสที่ดี, Example: คุณน่าจะคว้าโอกาสที่ดีนี้ไว้ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ |
|
| ถือโอกาส | ก. ฉวยโอกาส. | โอกาส | (-กาด) น. ช่อง, ทาง | โอกาส | เวลาที่เหมาะ, จังหวะ. | กระทบไหล่ | ก. ได้เข้าไปใกล้ผู้มีชื่อเสียงอย่างในงานเลี้ยงสังสรรค์เป็นต้น เช่น วันนี้มีโอกาสได้กระทบไหล่นักการเมืองหลายคน. | การ์ด | น. บัตรเชิญในโอกาสต่าง ๆ เช่น การ์ดแต่งงาน การ์ดงานศพ. | ของไหว้ | น. ของที่ผู้น้อยนำไปให้ผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความคารวะในบางโอกาส | ขายทอดตลาด | น. การขายทรัพย์สินที่กระทำโดยเปิดเผยแก่บุคคลทั่วไปด้วยวิธีเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสู้ราคากัน ผู้ใดให้ราคาสูงสุดและผู้ทอดตลาดแสดงความตกลงด้วยเคาะไม้หรือด้วยกิริยาอย่างอื่นตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด การซื้อขายนั้นย่อมเป็นอันสมบูรณ์. | ขายเผื่อชอบ | น. การซื้อขายที่มีเงื่อนไขว่าให้ผู้ซื้อได้มีโอกาสตรวจดูทรัพย์สินก่อนรับซื้อ. | คอยที | ก. รอโอกาส. | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ | น. สิ่งซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเกียรติยศและบำเหน็จความชอบ เป็นของพระมหากษัตริย์ทรงสร้างหรือโปรดให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในราชการหรือส่วนพระองค์, เรียกเป็นสามัญว่า ตรา, ปัจจุบันหมายความรวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน และเหรียญที่ระลึกที่พระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในโอกาสต่าง ๆ และที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บุคคลประดับได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามที่ทางราชการกำหนด. | จังหวะ | น. ระยะที่สม่ำเสมอ เช่น หัวใจเต้นเป็นจังหวะ, ระยะที่กำหนดไว้เป็นตอน ๆ เช่น เพลงจังหวะช้า จังหวะเร็ว พูดเป็นจังหวะ, โดยปริยายหมายความว่าโอกาสอันควร เช่น เจ้านายกำลังโกรธ ไม่มีจังหวะจะเข้าพบ. | จับมือถือแขน | ก. ฉวยโอกาสล่วงเกินหญิงด้วยการจับมือจับแขนในเชิงชู้สาว. | ฉลอง ๑ | (ฉะหฺลอง) ก. ทำบุญหรือบูชาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นงานเอิกเกริกเพื่อแสดงความปีติยินดี เช่น ฉลองพระ ฉลองหนังสือ ฉลองอายุ, จัดงานเอิกเกริกเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสต่าง ๆ เช่น ฉลองปริญญา, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ เฉลิม เป็น เฉลิมฉลอง. | โฉลก | (ฉะโหฺลก) น. โชค, โอกาส | ช่อง | โอกาส เช่น ไม่มีช่องที่จะทำได้. | ช่องทาง | หนทางหรือโอกาสที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ที่จังหวัดนี้มีช่องทางทำมาหากินได้ง่าย. | ชะช่อง | น. ช่อง, รูที่ผ่านได้, โอกาส, ทาง. | ชิงไหวชิงพริบ | ก. ฉวยโอกาสโดยใช้ไหวพริบ, คอยจ้องดูชั้นเชิงของอีกฝ่ายหนึ่ง. | ชุด ๓ | เครื่องแต่งกายที่กำหนดให้ใช้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น ชุดเจ้าสาว ชุดสากล ชุดว่ายน้ำ | ได้ช่อง, ได้ท่า | ก. ได้โอกาส. | ได้ที | ก. เป็นต่อ, ได้โอกาส, ได้ช่อง, ได้เปรียบ, เช่น พอได้ทีก็รุกหนัก. | ตลาดหน้าคุก | น. ตลาดที่ถือโอกาสขายโก่งราคาแพงกว่าปรกติและผู้ซื้อจำเป็นต้องซื้อ, มักใช้เป็นคำเปรียบเทียบว่า ของแพงเหมือนกับของตลาดหน้าคุก. | ตักตวง | ก. หาประโยชน์ใส่ตัว, กอบโกยมาเป็นของตนเมื่อมีโอกาส. | ตีกิน | ก. ฉวยโอกาสเอาประโยชน์ที่ไม่ควรจะได้. | ตีหัวเข้าบ้าน | ก. ฉวยโอกาสหาประโยชน์ เมื่อได้แล้วหลบหนีเข้าหาที่ปลอดภัย. | ตี่ ๑ | น. การเล่นอย่างหนึ่งของเด็ก ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น โดยขีดเส้นแบ่งเขตระหว่างผู้เล่น ๒ ฝ่าย และจำกัดเขตด้านกว้างและด้านหลังด้วย ผู้เล่นแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย จำนวนเท่า ๆ กัน คนตี่จะวิ่งออกจากเส้นแบ่งเขตโดยกลั้นใจร้องเสียง “ตี่” ตลอดเวลาที่เข้าไปอยู่ในเขตตรงข้าม พยายามใช้มือฟันฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด และพยายามวิ่งกลับเข้าเขตของตนให้ได้ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพยายามไม่ให้ถูกฟัน และหาโอกาสจับคนตี่ไว้มิให้กลับไปได้, ตี่จับ หรือ ตี่เสียง ก็เรียก. | แต้มต่อ | น. แต้มที่ผู้มีฝีมือเหนือกว่าต่อให้แก่ผู้ที่มีฝีมือด้อยกว่า เพื่อให้มีโอกาสชนะในการแข่งขันได้พอ ๆ กัน. | ทั้งที | ว. ไหน ๆ ก็ได้โอกาสแล้ว เช่น มาทั้งที. | ทาง ๑ | โอกาส เช่น ไม่มีทางจะสำเร็จ | ทิ้งทวน | ฉวยโอกาสทำเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหมดอำนาจ. | ทีใครทีมัน | น. โอกาสของใครก็เป็นของคนนั้น. | ที ๒ | น. ท่าทาง, ชั้นเชิง, โอกาส, เช่น ท่าดีแต่ทีเหลว ได้ที เสียที. | น้ำขึ้นให้รีบตัก | มีโอกาสดีควรรีบทำ. | แบะท่า | ก. ทำท่าเปิดโอกาสให้, แสดงท่าทางให้รู้, เช่น เจ้าของที่ดินแบะท่าว่าถ้าเพิ่มราคาให้อีกเล็กน้อย ก็จะขาย. | ปรนัย | (ปะระ-, ปอระ-) ว. เรียกการสอบแบบที่ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบตายตัว ว่า การสอบแบบปรนัย, คู่กับ อัตนัย, วัตถุวิสัย ก็ว่า. | ประตู | น. ช่องทางเข้าออกของบ้านเรือนเป็นต้น มีบานเปิดปิดได้ เช่น ประตูบ้าน ประตูเมือง, ช่อง, ทาง, เช่น ไม่มีประตูสู้, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ประตูฟุตบอล ประตูรักบี้, ช่องหรือโอกาสที่จะได้หรือเสียในการเล่นการพนันบางชนิด อย่างถั่ว โป ไฮโล นํ้าเต้า เช่น ถูกประตูเดียว กิน ๓ ประตู | เพลงเดี่ยว | น. เพลงที่ประพันธ์ขึ้นเป็นทางพิเศษสำหรับบรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรี ใช้บรรเลงในโอกาสพิเศษเพื่อเป็นการแสดงภูมิปัญญาของผู้คิดทางดนตรีให้เหมาะสมกับชนิดของเครื่องดนตรี และแสดงไหวพริบปฏิภาณฝีมือ และความแม่นยำของผู้บรรเลงด้วย เพลงที่นิยมนำมาทำ เช่น ลาวแพน นกขมิ้น พญาโศก. | ภาษาแบบแผน | น. ภาษาที่ถือเป็นแบบฉบับที่จะต้องใช้เป็นแบบเดียวกันในโอกาสอย่างเดียวกัน เช่น คำกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขึ้นต้นว่า “ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม...” และลงท้ายว่า “ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า...”, ภาษาที่ใช้เป็นทางการในโอกาสสำคัญ หรือใช้แก่บุคคลสำคัญ หรือบุคคลสำคัญเป็นผู้ใช้ เช่น คำประกาศเกียรติคุณในการประสาทปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีในวันขึ้นปีใหม่, ภาษาระดับพิธีการ ก็เรียก. | มีหวัง | ก. มีโอกาสที่จะได้ดังที่หวัง. | เมื่อ | น. ครั้ง, คราว, เช่น เรื่องนี้เกิดเมื่อเขาไปต่างจังหวัด, โอกาส เช่น พบได้ทุกเมื่อ, ขณะที่ เช่น เมื่อเขาออกจากบ้าน ฝนก็ตก, คำนำหน้าคำบอกเวลาที่ล่วงไปแล้ว เช่น เมื่อคืนนี้ เมื่อเช้านี้ เมื่อวานซืน. | ยุคมืด | น. ช่วงแรกของสมัยกลางในประวัติศาสตร์ยุโรป ประมาณ ๖๐๐ ปี ระหว่าง พ.ศ. ๑๐๕๐-๑๖๕๐ เป็นยุคที่ประชาชนมีแต่ความมืดมนหมดหวังในชีวิต เพราะถูกพวกตาดมองโกลทำลายล้าง และไม่มีความเจริญทางสติปัญญาเพราะศาสนาไม่เปิดโอกาสให้คิดอย่างเสรี, โดยปริยายหมายถึงยุคที่ประชาชนหมดหวังในชีวิต. | รวบหัวรวบหาง | ฉวยโอกาสเมื่อมีช่องทาง. | ล้มทับ | ก. ฉวยโอกาสให้ผู้อื่นจ่ายค่าอาหารแทนตนหรือพวกของตน. | ลวนลาม | ก. ล่วงเกินในลักษณะชู้สาวด้วยการพูดหรือการกระทำเกินสมควร เช่น นายดำชอบพูดจาลวนลามผู้หญิง เขาชอบถือโอกาสลวนลามด้วยการจับมือถือแขนผู้หญิง, ลามลวน ก็ว่า. | ลิ่น | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Manidae ตัวยาว เกล็ดใหญ่หนาแข็งซ้อนเหลื่อมกัน หน้าแหลม เล็บหนายาวโค้งปลายแหลมใช้ขุดดินและปีนต้นไม้ หางยาวม้วนงอได้ เมื่อตกใจหรือป้องกันศัตรูจะม้วนตัวกลม ลิ้นยาวเป็นเส้นมีน้ำลายเหนียวใช้จับมดและปลวก แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มี ๒ ชนิด คือ ชนิด Manis javanica Desmarest และชนิด M. pentadactyla Linn. ชนิดหลังตัวเล็กกว่าเล็กน้อยและมีโอกาสพบได้น้อยกว่าชนิดแรก, นิ่ม ก็เรียก. | วัตถุวิสัย | เรียกการสอบแบบที่ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบตายตัว ว่า การสอบแบบวัตถุวิสัย, ปรนัย ก็ว่า. | วันดีคืนดี | น. โอกาสเหมาะ, มักใช้พูดแสดงเวลาที่ไม่แน่นอน เช่น หายหน้าไปนาน วันดีคืนดีก็มา. | วันพระไม่มีหนเดียว | น. วันหน้ายังมีโอกาสอีก (มักใช้พูดเป็นเชิงอาฆาต). | สโมสรสันนิบาต | น. งานที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญ เช่น งานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาลเนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา. | สอดส่าย | ก. ส่ายตาค้นหา ในคำว่า สอดส่ายสายตา เช่น สอดส่ายสายตาหาเพื่อนที่นัดไว้ ตำรวจสอดส่ายสายตาหาคนร้าย, โดยปริยายหมายถึงส่ายตามองหาช่องทางหรือโอกาสที่จะลักขโมยเป็นต้น. |
| | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ | สิ่งซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเกียรติยศและบําเหน็จความชอบ เป็นของพระมหากษัตริย์ทรงสร้างหรือโปรดให้สร้างขึ้นสําหรับพระราชทานเป็น บำเหน็จความชอบในราชการหรือส่วนพระองค์, เรียกเป็นสามัญว่า ตรา, ปัจจุบันหมายความรวมถึงเครื่องราช-อิสริยาภรณ์สำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำ ความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน และเหรียญที่ระลึกที่พระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในโอกาสต่าง ๆ และที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บุคคลประดับได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามที่ทางราชการกำหนด [ศัพท์พระราชพิธี] | พระที่นั่งชุมสาย | เรียกพระที่นั่งสําหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ประทับในงานต่าง ๆ ของทหาร ลูกเสือ และงานพิเศษบางโอกาส ลักษณะเป็นแท่นสี่เหลี่ยม ดาดด้วยหลังคาผ้าระบาย ๓ ชั้น มีสายไหมห้อย [ศัพท์พระราชพิธี] | Affirmative action programme | แผนงานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม [เศรษฐศาสตร์] | Employment opportunity | โอกาสที่จะได้งาน [เศรษฐศาสตร์] | Equal opportunity | โอกาสเท่าเทียมกัน [เศรษฐศาสตร์] | Barn, b | บาร์น, หน่วยพื้นที่ภาคตัดขวางของอะตอม นิวเคลียส อิเล็กตรอน และอนุภาคอื่นๆ ที่แสดงโอกาสในการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ 1 บาร์น มีค่าเท่ากับ 10–24 ตารางเซนติเมตร (ดู cross section ประกอบ) [นิวเคลียร์] | Controlled area | พื้นที่ควบคุม, พื้นที่ที่ต้องมีมาตรการป้องกันและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะในการควบคุมการรับรังสีจากการทำงาน หรือจำกัดการเปื้อนของสารกัมมันตรังสีไม่ให้แพร่กระจายออกไปในระหว่างการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยง หรือจำกัดโอกาสการได้รับรังสี, Example: [นิวเคลียร์] | Stochastic effect of radiation | ผลไม่ชัดเจน , ผลของรังสีที่คาดคะเนจากข้อมูลทางสถิติของผู้ที่ได้รับรังสี โดยโอกาสเกิดผลกระทบจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณรังสี แต่ความรุนแรงของผลกระทบไม่ขึ้นกับปริมาณรังสี เช่น โอกาสของการเกิดมะเร็งจะเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับปริมาณรังสีสูงขึ้น [นิวเคลียร์] | Radiation worker | ผู้ปฏิบัติงานรังสี, ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในบริเวณรังสีชนิดก่อไอออน เช่น ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี ผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีอาจรวมถึงผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานด้านเทคนิค แต่มีความจำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริเวณรังสีหรือรังสีดังกล่าวเป็นประจำ ทำให้มีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าประชาชนทั่วไป เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานขับรถขนส่งสารกัมมันตรังสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสีจะกำหนดให้บุคคลใดเป็นผู้ปฏิบัติงานทางรังสีตามกฎระเบียบ หรือแล้วแต่กรณี</br> <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีดังกล่าวข้างต้น ย่อมมีโอกาสได้รับรังสีจากการปฏิบัติงานเป็นปริมาณแตกต่างกัน กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี หรือผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี จะมีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ</br> [นิวเคลียร์] | Potential exposure | การรับรังสีไม่คาดหมาย, การรับรังสีเชิงศักย์, การรับรังสีที่ไม่ได้คาดไว้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการดำเนินงานตามปกติ เช่น เกิดจากอุบัติเหตุของต้นกำเนิดรังสี เครื่องมือชำรุดเสียหาย หรือเกิดความผิดพลาดในการดำเนินงาน การรับรังสีนี้ สามารถวิเคราะห์ ประเมิน และกำหนดแนวทางป้องกัน เพื่อลดโอกาสการรับรังสี [นิวเคลียร์] | Neutron capture | การจับยึดนิวตรอน, กระบวนการที่นิวเคลียสของอะตอมดูดกลืนหรือจับยึดนิวตรอนเอาไว้ โอกาสที่วัสดุจะจับยึดนิวตรอนได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังงานของนิวตรอนและธรรมชาติของวัสดุนั้น <br>(ดู cross section ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Moderator | ตัวหน่วงความเร็ว(นิวตรอน), วัสดุที่ใช้ลดความเร็วของนิวตรอนในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้โอกาสของการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียสเพิ่มขึ้น เช่น น้ำ น้ำมวลหนัก และแกรไฟต์ <br>(ดู reflector, absorber และ thermal neutron ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Heavy water reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน และเป็นตัวทำให้เย็น น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอนที่ดีเยี่ยม จึงช่วยเพิ่มโอกาสการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียส ทำให้สามารถใช้ยูเรเนียมธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องเสริมสมรรถนะ [นิวเคลียร์] | Heavy water moderated reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอน และเป็นตัวทำให้เย็น น้ำมวลหนักเป็นตัวหน่วงความเร็วนิวตรอนที่ดีเยี่ยม จึงช่วยเพิ่มโอกาสการเกิดปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียส ทำให้สามารถใช้ยูเรเนียมธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องเสริมสมรรถนะ, Example: [นิวเคลียร์] | Digital Divide | ความเหลื่อมล้ำ (ช่องว่าง) ในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้, ความเหลื่อมล้ำระหว่างประชากรกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ ที่มีโอกาสในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้แตกต่างกัน เช่น ระหว่างประชากรในเมือง ใหญ่กับประชากรในชนบท ระหว่างกลุ่มประชากรที่มีเพศ อายุ ต่างกัน ระหว่างผู้ที่มีระดับการศึกษาต่างกัน ระหว่างผู้ที่มีเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่ต่างกัน รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้ของผู้พิการ ที่อาจน้อยกว่าบุคคลทั่วไปอีกด้วย หรืออาจะไปเปรียบเทียบความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในประเทศต่างๆ เพราะประเทศที่มั่งคั่ง จะมีความพร้อมมากกว่าประเทศยากจน [Assistive Technology] | Chance | โอกาส [TU Subject Heading] | Occasional speeches | สุนทรพจน์ในโอกาสต่าง ๆ [TU Subject Heading] | Occasional verse, Thai | กวีนิพนธ์ไทยในโอกาสต่างๆ [TU Subject Heading] | Opportunity Cost | ต้นทุนค่าเสียโอกาส, Example: ผลประโยชน์ที่เสียไปเนื่องจากการไม่ใช้ ทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น ต้นทุนค่าเสียโอกาสของการทำงานในกิจการ ของตนเองของบุคคลหนึ่ง ก็คือค่าจ้างสูงสุดที่เขาจะได้รับ จากการทำงานในที่อื่น ๆ นักเศรษฐศาสตร์ใช้แนวคิดของต้นทุนค่าเสียโอกาสในการตัดสินว่ามีการใช้ ทรัพยากรนั้นอย่างมีคุณค่าหรือไม่ จากตัวอย่างข้างต้นการทำงานในกิจการของตนเองของบุคลหนึ่งจะถือว่ามี ประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อรายได้ที่เขาได้รับจากการทำงานที่อื่นๆ มีสำนวนที่พูดกันเสมอๆ ว่า"ไม่มีอาหารกลางวันที่ได้มาดดยไม่ต้องซื้อ (There is no such thing as afree lunch)" ซึ่งสะท้อนให้เห็นความจริงในโลกที่ว่าสินค้าปละบริการต่างๆ ทุกชนิดต่างก็มีต้นทุนค่าเสียโอกาศทั้งสิ้น [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Minus X | แนวทางในการขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียน, เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียนที่มีความ ยืดหยุ่นซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถริเริ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจได้โดยไม่ต้อง รอให้ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมพร้อมกัน [การทูต] | Amendments to the Charter of the United Nations | การแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต] | Commemorative Summit | การประชุมสุดยอดหรือการประชุมระดับผู้นำประเทศ/หัวหน้า รัฐบาลในโอกาสครบรอบปีสำคัญ อาทิ การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | dark suit | ชุดสากลสีเข้ม (สีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม) " ใช้ในโอกาสไปร่วมงานทางการ เช่น งานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ การ เข้าพบบุคคลสำคัญ การไปร่วมงานสำคัญทางการที่มิได้มีการระบุใน บัตรเชิญหรือกำหนดการให้เป็นการแต่งกายแบบอื่น " [การทูต] | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | Diplomatic Privileges and Immunities | เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตที่ได้ให้แก่เจ้า หน้าที่ทางการทูต โดยถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนส่วนตัวของประมุขของรัฐ เหตุผลที่ให้มีการคุ้มกันทางการทูต ก็เพราะถือว่ารัฐบาลหนึ่งใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือกีดกันมิให้ผู้แทนของรัฐบาลนั้นปฏิบัติหน้าที่ในความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศนั้นมิได้ ถ้าหากเห็นว่าผู้แทนนั้นมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ก้าวร้าวซึ่งรัฐผู้รับ ไม่อาจรับได้ก็ชอบที่รัฐผู้รับจะขอร้องให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวผู้แทนของตนกลับ ประเทศได้ อนึ่ง การที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับความคุ้มกันจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ เพราะต้องการให้บรรดาผู้แทนทางการทูตเหล่านั้น รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาได้มีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศของเขาอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตมีบทบัญญัตินิยามคำว่า เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตในเรื่องต่างๆ ไว้มากพอสมควร เช่น เรื่องสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต รวมทั้งบรรณสารและเอกสาร เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานของคณะผู้แทน และเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายรวมทั้งการคมนาคมติดต่อ เป็นต้น [การทูต] | Generalized System of Preferences | ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป " มีที่มาจากการประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาขององค์การ สหประชาชาติ (UNCTAD) เมื่อปี พ.ศ. 2510 ภายใต้ระบบนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วจะเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถส่ง สินค้าไปขายแข่งขันในประเทศพัฒนา โดยการยกเว้นหรือลดหย่อนอัตราภาษีขาเข้าให้แก่สินค้าที่อยู่ในข่ายได้รับ สิทธิพิเศษ โดยไม่เรียกร้อง ผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ " [การทูต] | India-Brazil-South Africa | เวทีเจรจาสามฝ่าย ระหว่างอินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสิมความร่วมมือในกรอบใต้-ใต้ใน วงกว้าง เป้าหมายหลัก IBSA คือการส่งเสริมและขยายโอกาส ด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาสังคม และการเลแกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน [การทูต] | International Conferences | คือการประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการระหว่าง ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มจากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพิจารณาหาทางระงับปัญหาระหว่างประเทศ การประชุมเช่นนี้บางทีเรียกว่า คองเกรสระหว่างประเทศ แม้จะเรียกต่างกัน แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันที่สำคัญระหว่างสองคำนี้ บ้างมีความเห็นว่า ใช้คำคองเกรส ดูจะมีความสำคัญและมีลักษณะเป็นทางการมากกว่าใช้คำ คอนเฟอเรนซ์ผู้แทนจากประเทศที่ร่วมการประชุมในบางโอกาส ได้แก่บุคคลในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือเอกอัครราชทูต แล้วแต่ว่าการประชุมนั้น ๆ มีความสำคัญระดับใดในการประชุมระหว่างประเทศ แต่เดิมใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสกันมากทั้งสองภาษา มาในภายหลังมักนิยมใช้ภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด ส่วนการประชุมระหว่างประเทศที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้จัด จะใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย และจีน รวม 5 ภาษาตามปกติ มักจะเลือกหัวหน้าคณะผู้แทนของประเทศเจ้าภาพให้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ส่วนเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ของการประชุม ได้แก่ รองประธาน เลขานุการของการประชุม ประธานกรรมการ และผู้บันทึกรายงานสำหรับรายงานการประชุม ข้อมติของที่ประชุมและข้อเสนอแนะนั้น จะรวมเข้าไว้ในเอกสารที่เรียกว่า กรรมสารสุดท้าย (Final Act) ซึ่งผู้แทนประเทศผู้มีอำนาจเต็มจะเป็นผู้ลงนามในเอกสารนั้นในการประชุมครั้ง สุดท้าย [การทูต] | International Finance Corporation | คือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1956 และเริ่มมีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษที่มีสัมพันธ์กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1957 แม้บรรษัทจะดำเนินงานใกล้ชิดกับธนาคารโลก แต่ก็มีฐานะเป็นสิ่งที่มีตัวตนทางกฎหมายแยกต่างหาก และมีกองทุนที่แตกต่างจากกองทุนของธนาคารโลกด้วยวัตถุประสงค์ของบรรษัทคือ ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนให้การผลิตของวิสาหกิจของเอกชนในประเทศสมาชิกเจริญเติบโตยิ่ง ขึ้น การที่จะกระทำตามวัตถุประสงค์นี้ได้ บรรษัทจะนำเงินไปลงทุนในวิสาหกิจด้านการผลิตฝ่ายเอกชน โดยดำเนินงานร่วมกับเอกชนผู้ลงทุน ทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) คล้ายกับเป็นแหล่งรวมโอกาสต่าง ๆ ของการลงทุนฝ่ายเอกชนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ รวมทั้งฝ่ายจัดการที่มีประสบการณ์ชำนาญ นอกจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นการลงทุนด้านการผลิตของเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศด้วย บรรษัทยังได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเงินโดยใช้วิธีขายพันธบัตรของตนเอง รวมทั้งตั๋วสัญญาการใช้เงินบรรษัทการเงินระหว่างประเทศดำเนินงานโดยองค์กร ต่าง ๆ ของตน คืออำนาจทั้งหมดของบรรษัทจะขึ้นอยู่กับคณะผู้ว่าการ (Board of Govemors) ประกอบด้วยผู้ว่าการและผู้ว่าการสำรอง (Altemates) จากธนาคารโลกซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศต่าง ๆ อันเป็นสมาชิกของบรรษัทด้วย คณะผู้ว่าการจะคอยควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบรรษัทให้ถูกต้อง ตัวประธานธนาคารโลก จะทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้ว่าการของบรรษัทโดยตำแหน่งด้วย บรรษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี [การทูต] | International Telecommunica-tion Union | สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1865 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีชื่อว่าสหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ.1932 จึงมีการรับรองอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน และหลังจากนั้นอีก 2 ปี คือ ค.ศ.1934 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่ออนุสัญญาโทรเลขและวิทยุโทรเลข เป็นอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ. 1947 ได้มีการปรับปรุงใหม่ ณ เมืองแอตแลนติกซิตี้ สหรัฐอเมริกา แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1954 เป็นต้นมา สหภาพดังกล่าวหรือที่เรียกโดยย่อว่า ITU อยู่ภายใต้การบริหารปกครองตามอนุสัญญา ซึ่งได้รับการรับรองจากการประชุมเต็มคณะ ณ กรุงบุเอนอสไอเรส เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1952วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การไอทียูคือ ต้องการวางระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศสำหรับโทรเลข โทรศัพท์และบริการทางวิทยุ เพื่อที่จะส่งเสริมและขยับขยายให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้บริการเหล่านี้ให้ กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยต้องการให้อัตราค่าบริการต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กล่าวโดยทั่วไปองค์การไอทียูนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงการใช้โทรคมนาคมทุกชนิดให้เป็นประโยชน์ก้าวหน้าขึ้น พัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางเทคนิคให้นำออกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้และพยายามประสานการปฏิบัติของชาติต่าง ๆ ให้กลมกลืนกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน หัวหน้าของสหโทรคมนาคมระหว่างประเทศมีตำแหน่งเรียกว่า เลขาธิการ องค์การนี้ตั้งอยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ [การทูต] | lounge suit | ชุดสากล ใช้ในโอกาสที่ไม่เป็นทางการทั่วไป เช่น การพบปะสังสรรค์ งานเลี้ยงที่ไม่เป็นทางการ [การทูต] | marginalisation (marginalization) | การถูกเบียดตกขอบ สภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่ออนาคตการพัฒนาและเศรษฐกิจของประเทศใด ประเทศหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่มีบูรณาการ (integration) เพิ่มขึ้น สภาพการณ์ดังกล่าวมักถูกมองว่าเกิดขึ้นควบคู่ไปกับโลกาภิวัตน์ และประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีโอกาสเสี่ยงที่จะตกอยู่ใน สภาวการณ์นี้ เนื่องจากประสบความยากลำบากในการปฏิบัติตามพันธกรณีการเปิดเสรีทางการค้า กอปรกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประเทศเหล่านี้พึ่งพาตกต่ำลง [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Nuclear Test Ban | หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต] | Open and Caring Societies | สังคมเปิดและเอื้ออาทร เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อาเซียนปี พ.ศ. 2563 ที่ได้เล็งเห็นว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมในปีดังกล่าวจะมีสังคมเปิดที่ประชาชน ยึดมั่นในเอกสักษณ์แห่งชาติของตนและเข้าถึงโอกาสของการพัฒนาความเป็นมนุษย์ อย่างสมบูรณ์ได้อย่างเท่าเทียมกัน และจะเป็นสังคมเอื้ออาทรที่ความหิวโหยทุกข์โภชนาการ การสูญเสียและความยากจนจะไม่ใช่ปัญหาพื้นฐาน และเป็นสังคมที่มีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง [การทูต] | Order of Precedence | หมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน? [การทูต] | Organization of European Economic Cooperation | คือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Pacific Charter | คือกฎบัตรแปซิฟิค ซึ่งประกาศ ณ กรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ในโอกาสที่มีการตกลงกันทำสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Southeast Asia Defense Treaty-SEATO ) ประเทศที่ลงนามเป็นภาคีในสนธิสัญญา คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาสาระสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า SEATO (ซีโต้) นั้นคือ ทุกประเทศภาคีจะร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมาตรฐานการครอง ชีพสูงขึ้น มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และมีสวัสดิภาพสังคมที่ดี แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดคามสนธิสัญญาคือ บรรดาประเทศภาคีตกลงที่จะป้องกันหรือตอบโต้ความพยายามใด ๆ ที่จะล้มล้างเสรีภาพที่มีอยู่ในเขตสนธิสัญญา หรือทำลายอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งเขตแดนของประเทศภาคี พูดอย่างสั้น ๆ ก็คือฝ่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ต้องการกีดกันมิให้ประเทศฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้าไปมีอำนาจครอบงำดินแดนเขต เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างสงครามเย็น (Cold War ) โดยวิธีรุกรานหรือวิธีอื่นใดก็ตาม [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Recall of Diplomats | การเรียกตัวนักการทูตกลับประเทศของตน คือ ผู้แทนทางการทูตอาจถูกรัฐบาลของตนริเริ่มเรียกตัวกลับประเทศได้ด้วยเหตุผล ต่าง ๆ เช่น ผู้แทนทางการทูตนั้นขอลาออก หรือลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ หรือถูกโยกย้ายไปประจำอีกแห่งหนึ่ง หรือเกิดความไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ถ้าหากรัฐบาลปรารถนาจะเรียกหัว หน้าคณะผู้แทนทางการทูตกลับโดยถาวรเนื่องจากไม่พอใจในตัวเขา โดยมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน คือ รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทูตผู้นั้นทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเสีย มากกว่าที่จะใช้วิธีสั่งปลด อันเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่ามากนอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตหรือเอกอัครราชทูตอาจถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับตามคำ ขอร้องของรัฐบาลประเทศผู้รับ เนื่องจากกระทำตนไม่เป็นที่พึงปราถนาของประเทศผู้รับ (Persona non grata) ก็ได้ ตามปกติ คำขอร้องจากรัฐผู้รับขอให้เรียกตัวกลับนั้น มักได้รับการตอบสนองโดยดีในทันทีจากรัฐผู้ส่ง แต่ถ้าหากรัฐผู้ส่งปฏิเสธคำขอร้องดังกล่าวนั้น รัฐผู้รับอาจขับให้ออก (Dismiss) จากประเทศก็ได้ [การทูต] | Social Safety Nets | โครงข่ายรองรับทางสังคม หมายถึง มาตรการในการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแก่ประชาชนเพื่อบรรเทาภาวะวิกฤตต่าง ๆ อาทิ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจน และการส่งเสริมผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เป็นต้น ด้วยการดำเนินนโยบายระยะสั้นในการสร้างงาน การให้การฝึกอบรมวิชาชีพใหม่ และอื่น ๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่องในระยะยาวและการพัฒนา สังคมอย่างรอบด้านในภาพรวม [การทูต] | Vin d' honneur | งานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันชาติ จัดขึ้นในเวลากลางวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. - 13.00 น. งานนี้เจ้าภาพจะเป็นเจ้าภาพเดี่ยว และไม่เชิญคู่สมรสของแขกที่เชิญ [การทูต] | Wives of Diplomats | ภรรยาของนักการทูต ในประเทศที่มีกษัตริย์ และเอกอัครราชทูตจัดถวายพระราชสาส์นตราตั้งต่อกษัตริย์หรือราชินีในฐานะ ประมุขของรัฐนั้น มักจะให้ภรรยาเข้าเฝ้าด้วยต่างหาก แต่การเข้าเฝ้านั้นจะมีพิธีรีตองน้อยกว่าของเอกอัครราชทูตในอดีตกาล ภรรยาของเอกอัครราชทูตมักจะไม่ได้รับการพิจารณารับรองและยกย่องเหมือนกับที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น ที่กรุงเวนิส ตามกฎหมายปี ค.ศ. 1268 ไม่อนุญาตให้ภรรยาของเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะไปประจำแห่งไหน เพราะเกรงว่าภรรยาอาจจะปากโป้งเกี่ยวกับการงานของสามี แต่กฎหมายได้กำหนดให้เอกอัครราชทูตนำพ่อครัวของตนเองติดตามไปด้วย เพื่อกันมิให้เอกอัครราชทูตต้องถูกวางยาพิษในอาหารที่รับประทานกล่าวโดยทั่ว ไปแล้ว ทุกวันนี้ภรรยาของเอกอัครราชทูตได้อุปโภคเอกสิทธิ เกียรติ ลำดับอาวุโส และความคุ้มกันต่าง ๆ เหมือนกับสามี ถึงแม้ในบางกรณีเอกอัครราชทูตกับภรรยาอาจแยกกันอยู่ก็ตาม ภรรยาของเอกอัครราชทูตที่เพิ่งยื่นสารตราตั้ง มักจะหาโอกาสไปเยี่ยมคารวะภรรยาของเอกอัครราชทูตอื่น ๆ ด้วย แม้ว่าในทุกวันนี้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวอาจจะไม่เคร่งครัดเหมือนกับสมัย ก่อน อนึ่ง ในบางประเทศได้มีระเบียบข้อบังคับ ห้ามมิให้ผู้แทนทางการทูตและทางการกงสุลที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ แต่งงานกับคนต่างชาติโดยมิได้รับอนุมัติจากรัฐบาลของตนก่อน [การทูต] | white tie | ชุดราตรีสโมสร " เสื้อสูทหางยาวสีดำ กางเกงสีดำมีผ้าผูกคอหูกระต่าย (bow-tie) สีขาว เสื้อเชิ้ตสีขาว แถบดิ้นไหมสีดำ ใช้ในโอกาสงานกลางคืนที่จัดอย่างเป็นทางการ (งานราตรีสโมสร-formal evening entertainments) เช่น งานพระราชทานเลี้ยงกระยาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดี ซึ่งมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ งานแสดงอุปรากร งานเต้นรำ " [การทูต] | Opportunity cost | ต้นทุนค่าเสียโอกาส [การบัญชี] | Retarder | สารหน่วงปฏิกิริยา คือ สารเคมีซึ่งลดอัตราเร็วการเกิดปฏิกิริยาเคมี เมื่อนำมาใส่ในยางจะช่วยเพิ่มระยะเวลาก่อนที่ยางจะเริ่มเกิดปฏิกิริยาคงรูป ช่วยลดโอกาสของการเกิดยางตายทั้งในระหว่างการเก็บรักษาและระหว่างกระบวนการ ขึ้นรูป [เทคโนโลยียาง] | Chance of Success | โอกาสสำเร็จ [การแพทย์] |
| To even have a chance, I'd have to be a-- hey, can you make me a prince? | แต่เธอเป็นเจ้าหญิง เพื่อที่จะมีแม้แต่โอกาสสักครั้ง ฉันจะต้องเป็น.. เฮ้ ทำให้ฉันเป็นเจ้าชายสิ Aladdin (1992) | I do not want to see you. -No, no, please princess. | ข้าไม่ต้องการพบเจ้า ไม่นะ องค์หญิง ให้โอกาสข้าเถอะ Aladdin (1992) | To send him packing on a one-way trip, So his prospects take a terminal dip | ส่งเขาเดินทางไป เพราะฉะนั้น โอกาสเดียวของเขาที่จะได้สถานีปลายทางอันไกลโพ้น Aladdin (1992) | I should have freed the genie when I had the chance. | ข้าควรปลดลป่อยจีนี่ เมื่อมีโอกาส อาบู Aladdin (1992) | While we're chatting about killers is there any chance of talking about George Cheslav? | ขณะที่เราคุยกันเรื่องฆาตกร... ...จะมีโอกาสที่เราจะพูดเรื่อง จอร์จ เชสลาฟ บ้างไหม? Basic Instinct (1992) | Published, on this occasion, under sole authorship. | ตีพิมพ์ ในโอกาสนี้ ภายใต้งานประพันธ์ Basic Instinct (1992) | I thought she might enjoy an occasion like this. | ฉันคิดว่าเธอคงสนุกกับโอกาสแบบนี้ Basic Instinct (1992) | Occasionally. | บางโอกาส Basic Instinct (1992) | It's the only chance you've got. | นี่เป็นโอกาสเดียวที่คุณมี Basic Instinct (1992) | His best opportunity to get even. | โอกาสที่ดีที่สุดของเขาที่จะได้เข้าเรื่อง Basic Instinct (1992) | For some reason, I've been given a second chance... so I'm taking my work underground. | ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมได้รับโอกาสที่สอง ครั้งนี้เป็นการทำงานอย่างลับๆ The Lawnmower Man (1992) | First chance I get, I'll get you a puppy. | ถ้ามีโอกาส ฉันจะหาลูกหมามาให้ Of Mice and Men (1992) | He figures he got you scared. He's gonna take a sock at you first chance he gets. | เขาคิดว่าเขาทำให้นายกลัวได้ เขาจะจัดการกับนายทันทีที่มีโอกาส Of Mice and Men (1992) | You will have another chance in four years. | เธอมีโอกาสอีก 4 ปีข้างหน้า Cool Runnings (1993) | - That horse had no chance whatsoev... | " มีแต่คนโง่เท่านั้น ที่จะแทงเจ้าทัมเบิลวีด " " เจ้าม้านั่นยังไงก็ไม่มีโอกาส... " Cool Runnings (1993) | Please, Mr. Blitzer, just give me a chance. | ได้โปรดเถอะ คุณบริสเซอร์ ให้โอกาสผมเถอะ Cool Runnings (1993) | Look at me, Mr. Blitzer. I'm your chance. | ผมนี่ไง คุณบริสเซอร์ ผมคือโอกาสของคุณ Cool Runnings (1993) | I'm here to offer you an opportunity of a lifetime. | ผมมาเสนลโอกาสครั้งนึงในชีวิต Cool Runnings (1993) | Well, the Swiss were fortunate enough to draw number one in the competition. | ทีมสวิสมีโอกาสสูงมาก ที่จะคว้าอันดับ 1 ในการแข่งครั้งนี้ Cool Runnings (1993) | You choked. It was yours for the taking and you choked. | นายประหม่า เป็นโอกาสของนายแต่นายประหม่า Cool Runnings (1993) | We now come to the second chance for the four intrepid men from Jamaica. | นี่คือโอกาสที่สอง ของชายผู้กล้าหาญทั้ง 4 จากจาไมก้า Cool Runnings (1993) | In reality, Al, I don't think the Jamaicans have any chance of winning a medal. | เอาจริง ๆ นะ อาล ผมไม่คิดว่าจาไมก้า จะมีโอกาสได้เหรียญอะไรเลย Cool Runnings (1993) | The Jamaicans still have a chance to win an Olympic medal. | ทีมจาไมก้ายังมีโอกาสได้เหรียญ Cool Runnings (1993) | - Give me one more chance? | - ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้มั้ย? Hocus Pocus (1993) | They're only young. Give 'em a chance. | พวกเขากำลังสาวเท่านั้น EM Give'โอกาส In the Name of the Father (1993) | He'd a cliche for every occasion. | เขาต้องการถ้อยคำที่เบื่อหู สำหรับทุกโอกาส In the Name of the Father (1993) | This time I took my chance before it was too late. | + คราวนี้ฉันฉวยโอกาสก่อนที่มันจะสายเกินไป The Joy Luck Club (1993) | You think he sees this pie, now he's so sorry take you for granted. | ลูกคิดว่าพอเขาเห็นพายนี่ ตอนนี้เขาเสียใจมากที่ฉวยโอกาสกับลูก The Joy Luck Club (1993) | So he only take you more for granted. | เขาก็ได้แต่ฉวยโอกาสกับลูกมากขึ้นเท่านั้น The Joy Luck Club (1993) | Now would be the time to do it. | โอกาสเหมาะทีเดียว Schindler's List (1993) | What would be the chances of someone like me seeing a UFO? | มีโอกาสไหมที่คนอย่างผม จะได้เห็น UFO บ้าง ? Squeeze (1993) | I got 300 grand in this drug. You got to cut me some slack. | ผมลงเงินไปสามแสนกับยาตัวนี้แล้ว ให้โอกาสผมหน่อย Junior (1994) | I'd love to see it sometime. | โอกาสหน้าดีกว่านะ Junior (1994) | I want you to take a chance... and trust me. | ฉันอยากให้เธอรับโอกาสนี้ไว้... และไว้ใจฉัน... Léon: The Professional (1994) | Well, there's this passage I got memorized. Sort of fits this occasion. | ดีมีทางเดินที่ผมจำนี้ การจัดเรียงของที่เหมาะกับโอกาสนี้ Pulp Fiction (1994) | Well, I only got the chance to say one 'cause we only did one show. | ดีฉันเพียง แต่มีโอกาสที่จะพูดอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะเราเพียง แต่หนึ่งในการแสดง Pulp Fiction (1994) | But if they get a chance they'll end it for sure Sure they would | แต่ถ้าพวกเขาได้รับโอกาสที่พวกเขาจะจบมันเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาจะ Pulp Fiction (1994) | Sorta fits the occasion. | sorta เหมาะกับโอกาส Pulp Fiction (1994) | I give you A chance to make up for his sin, and you act just like him! | ข้าให้โอกาสเจ้าล้างบาปแทนพ่อเจ้า เจ้ากลับทำเหมือนเขา Rapa Nui (1994) | We have a moon before the birds come. You must help me do the impossible. But if we work all day | นี่เป็นโอกาสของเราอีกหนึ่งเดือนนกจะมา จงช่วยข้าในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ Rapa Nui (1994) | Give yourself a chance. | ให้โอกาสตัวเอง Wild Reeds (1994) | Like for the baccalaureate, you won't have a second more. | ดั่งผู้มีการศึกษา เธอจะไม่ได้รับโอกาสครั้งที่สอง Wild Reeds (1994) | I have no chance, but I can't give up. | ผมไม่มีโอกาส แต่ผมตัดใจไม่ได้ Wild Reeds (1994) | Yeah, I've been in and out since I was 13. You name the place, chances are I've been there. | ใช่ฉันเคยเข้าและออกตั้งแต่ผมยังเป็น 13 คุณชื่อสถานที่ที่มีโอกาสที่ฉันได้รับมี The Shawshank Redemption (1994) | The chances are he'd be released by now. | โอกาสที่เขาจะได้รับการปล่อยตัวโดยขณะนี้ The Shawshank Redemption (1994) | There's a chance, isn't there? | มีโอกาสเป็นไม่ได้มี? The Shawshank Redemption (1994) | - This is my chance to get out! | - นี่คือโอกาสของฉันที่จะได้รับออก! The Shawshank Redemption (1994) | Just give me that chance. | เพียงแค่ให้ฉันโอกาสที่ The Shawshank Redemption (1994) | No, I never take advantage of a woman. | ผมไม่เคยฉวยโอกาสกับผู้หญิง Don Juan DeMarco (1994) | - What's the occasion for tulips? - Listen, the hell of it. | ทิวลิปนี่เนื่องในโอกาสอะไร Don Juan DeMarco (1994) |
| บางโอกาส | [bāng ōkāt] (adv) EN: occasionally ; at certain times ; when the situation permits ; when the opportunity presents itself FR: occasionnellement ; quand l'occasion se présente | ฉกฉวยโอกาส | [chokchuay ōkāt] (v, exp) EN: take advantage of the occasion ; seize the chance ; seize the opportunity FR: saisir la chance ; tirer avantage de la situation | ฉวยโอกาส | [chūay ōkāt] (v, exp) EN: seize the opportunity FR: profiter de l'occasion ; saisir l'occasion/l'opportunité | ได้โอกาส | [dāi ōkāt] (v, exp) EN: get the chance (to) FR: avoir l'occasion (de) | ด้อยโอกาส | [dǿi ōkāt] (v, exp) EN: have fewer opportunities ; be at a disadvantage ; have no chance | ด้อยโอกาส | [dǿi ōkāt] (adj) EN: disadvantaged ; underprivileged | ให้โอกาส | [hai ōkāt] (v, exp) EN: give a chance ; give an opportunity ; present an opportunity ; offer an opportunity | จ้องหาโอกาส | [jøng hā ōkāt] (v, exp) FR: être à l'affût ; guetter l'occasion | คอยโอกาส | [khøi ōkāt] (v, exp) EN: wait one's chance ; wait for a right time ; bite one's time FR: attendre l'occasion | ความเสมอภาคทางโอกาส | [khwām samoēphāk thāng ōkāt] (n, exp) EN: equal opportunities | ไม่มีโอกาสชนะ | [mai mī ōkāt chana] (xp) EN: not have a dog's chance FR: ne pas avoir la moindre chance de victoire | ไม่มีโอกาสสำเร็จ | [mai mī ōkāt samret] (xp) EN: not have a dog's chance FR: ne pas avoir la moindre chance de réussite | ไม่เหมาะโอกาส | [mai mǿ ōkāt] (adj) FR: inopportun | มีโอกาส | [mī ōkāt] (v, exp) EN: be likely ; could ; have the opportunity to ; have the chance to FR: avoir l'occasion ; avoir l'opportunité | เหมาะโอกาส | [mǿ ōkāt] (adj) FR: opportun ; propice | หมดโอกาส | [mot ōkāt] (v, exp) EN: lose an opportunity ; lose a chance ; miss a chance ; no further opportunity (to) FR: manquer l'occasion | ในโอกาส | [nai ōkāt] (x) EN: at this time | ในโอกาสนี้ | [nai ōkāt nī] (x) EN: on this occasion FR: à cette occasion | ในโอกาสวันเกิดของ... | [nai ōkāt wankoēt khøng …] (xp) EN: on the occasion of … birthday FR: à l'occasion de l'anniversaire de … | นักฉวยโอกาส | [nak chūay ōkāt] (n, exp) EN: opportunist ; vacillator FR: opportuniste [ m ] | เนื่องในโอกาส | [neūang nai ōkāt] (x) EN: on the occasion of FR: à l'occasion de | โอกาส | [ōkāt] (n) EN: opportunity ; chance ; occasion ; time FR: occasion [ f ] ; opportunité [ f ] ; chance [ f ] | โอกาสดี | [ōkāt dī] (n, exp) EN: good chance ; auspicious opportunity ; favourable opportunity | โอกาสเหมาะ | [ōkāt mǿ] (n, exp) FR: opportunité [ f ] | โอกาสหน้า | [ōkāt nā] (x) EN: in the future FR: prochaine occasion [ f ] | โอกาสในการลงทุน | [ōkāt nai kānlongthun] (n, exp) EN: investment opportunity | โอกาสในการซื้อ | [ōkāt nai kān seū] (n, exp) EN: purchase occasion FR: opportunité d'achat [ f ] | โอกาสพิเศษ | [ōkāt phisēt] (n, exp) EN: special offer ; special bargain | โอกาสสุดท้าย | [ōkāt sutthāi] (n, exp) FR: dernière chance [ f ] ; dernière occasion [ f ] ; dernière opportunité [ f ] | โอกาสเท่าเทียมกัน | [ōkāt thaothīem kan] (n, exp) EN: equal opportunities | โอกาสทอง | [ōkāt thøng] (n, exp) EN: golden opportunity FR: occasion en or [ f ] | พลาดโอกาส | [phlāt ōkāt] (v, exp) EN: miss an opportunity ; lose the chance ; miss a chance FR: manquer l'occasion ; louper l'occasion (fam.) ; manquer une opportunité | ผู้ฉวยโอกาส | [phū chūay ōkāt] (n, exp) EN: opportunist FR: opportuniste [ m ] | ผู้ด้อยโอกาส | [phū dǿi ōkāt] (n, exp) EN: underprivileged | เปิดโอกาส | [poēt ōkāt] (v, exp) EN: give an opportunity ; offer an opportunity ; give a chance ; open the way FR: donner sa chance ; offrir une opportunité | สูญเสียโอกาส | [sūnsīa ōkāt] (v, exp) EN: mis the opportunity FR: rater une occasion | ตามแต่โอกาส | [tām tāe ōkāt] (v, exp) EN: when the opportunity presents itself ; if one gets a chance ; whenever one can | ถือโอกาส | [theū ōkāt] (v, exp) EN: take the opportunity ; take advantage FR: saisir l'occasion ; profiter de l'opportunité ; profiter ; prendre prétexte de |
| Give me your five! | เป็นสำนวน แปลว่า มาแปะมือกัน (โดยใช้ฝ่ามือ ใช้ในโอกาสที่ถูกใจหรือบางสิ่งประสบผลสำเร็จ) | mark | (vt) นับเป็น, ถือเป็นโอกาสหรือวาระของเหตุการณ์ที่คิดว่าสำคัญ เช่น Angola's Leila Lopes has become the new Miss Universe, edging out beauties from Ukraine, Brazil, the Philippines and China as the pageant marked its 60th anniversary." นางสาว Leila Lopes จากประเทศอังโกลา เฉือนชนะสาวงามจากยูเครน, บราซิล, ฟิลิปปินส์ และจีน ได้เป็นนางงามจักรวาลคนล่าสุด ในการประกวดนางงามจักรวาลซึ่งครบรอบปีที่ 60 แล้ว | Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) | (n, name) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ พยาธิสภาพของโรคเอแอลเอสอยู่ที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อแขนขา และลำตัวอ่อนแรง กลืนลำบาก และพูดไม่ชัด คำว่า “Amyotrophic” หมายถึง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝ่อลีบและเต้นพลิ้ว (fasciculation) ส่วนคำว่า “Lateral sclerosis” หมายถึงรอยโรคในทางเดินของกระแสประสาทซึ่งควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อในไขสันหลัง โรคเอแอลเอสพบน้อยมาก โดยพบได้เพียง 4 ถึง 6 ต่อประชากร 100, 000 คน และโอกาสที่จะพบผู้ป่วยรายใหม่มีเพียง 1.5 ถึง 2.5 ต่อประชากร 100, 000 คนต่อปี โรคนี้เป็นกับผู้ใหญ่วัยใดก็ได้ แต่จะพบบ่อยขึ้นตามอายุ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 65 ปี โดยมักเป็นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคเอแอลเอสเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้ป่วยราวร้อยละ 5 (โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุน้อย) อาจมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว สิ่งแวดล้อมหรือสารพิษบางชนิด อาจมีผลกับการเกิดโรคนี้ เนื่องจากพบว่าในบางพื้นที่ของโลก เช่นที่เกาะกวม พบโรคนี้มากกว่าที่อื่น นอกจากนั้นการศึกษาทางระบาดวิทยายังพบว่า นักกีฬาบางประเภท โดยเฉพาะนักฟุตบอลอาชีพมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจาก กลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune attack) หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังเกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาท (neurotransmitter) ที่เรียกว่ากลูตาเมต (glutamate) กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์ (ข้อมูลจาก ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ปัจฉิมวัย : http://www.thonburihospital.com/th/tip_detail.asp?id=22 , http://www.inf.ku.ac.th/article/diag/520506/alsmnd.html) |
| access | (vt) ได้รับสิทธิ์หรือโอกาสในการใช้ | access | (n) สิทธิ์หรือโอกาสในการใช้ | accident | (n) โอกาส, Syn. chance, adventure | ace | (n) การเสิร์ฟลูกได้คะแนน (โดยที่คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสสัมผัสลูกบอลสำหรับกีฬาวอลเล่ย์บอลหรือเทนนิส) | advantage | (n) โอกาส | alternative | (n) โอกาสในการเลือก | apropos | (adj) ที่ถูกโอกาส, Syn. relevant, apt | at the last minute | (idm) ในโอกาสสุดท้าย | blow | (vt) พลาดโอกาส (คำสแลง) | boom | (n) ขุมทอง, See also: โอกาสทอง | be on the ball | (idm) พร้อมรับ (โอกาส), See also: เตรียมพร้อมรับ | be onto a good thing | (idm) คว้าโอกาสที่ดี, See also: ฉวยโอกาสดี, Syn. put onto | chance | (n) โชค, See also: โอกาส, Syn. fortune, luck | chance | (n) โอกาส, Syn. opportunity | circumstance | (n) โชค, See also: โอกาส, Syn. chance, luck | click for | (phrv) ได้โอกาสในเรื่อง (คำไม่เป็นทางการ), See also: มีโอกาสดีในเรื่อง | clutch at | (phrv) พยายามฉกฉวยโอกาส, See also: คว้าโอกาส, Syn. catch at | clutch at straws | (idm) พยายามฉกฉวยโอกาส, See also: คว้าโอกาส | fair crack of the whip | (idm) โอกาสเหมาะในการทำบางสิ่ง | fighting chance | (idm) โอกาสที่จะสำเร็จ (ถ้าพยายามให้ได้มา) | furnish to | (phrv) เปิดโอกาสให้กับ, See also: จัดหาให้กับ | dinner | (n) งานเลี้ยงอาหารค่ำ, See also: อาหารมื้อที่จัดเป็นเกียรติแก่บุคคลเนื่องในโอกาสสำคัญ, Syn. affair, banquet, festivity, gala | doorway | (n) โอกาสรอด | fighting chance | (n) โอกาสประสบความสำเร็จหลังพยายามต่อสู้ | give one a break | (idm) ให้โอกาส, See also: ยกโทษให้ | go by | (phrv) ปล่อยให้ผ่านไป (เช่น โอกาสฯลฯ) โดยไม่ฉวยไว้ | hope against hope | (idm) ยังมีความหวังแม้ว่าจะมีโอกาสน้อยมาก | good luck | (n) โชคดี, See also: ดวงดี, โชคลาภ, โอกาสดี | handle | (n) โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ, See also: ความน่าจะเป็นที่จะสำเร็จ | get a start | (idm) มีโอกาสที่ดีในการประกอบอาชีพ, See also: เริ่มประกอบอาชีพ | ghost of a chance | (idm) มีโอกาสน้อยมาก, See also: เป็นไปได้น้อย | have a snowball's chance in hell | (idm) ไม่มีโอกาสเลย | in the running | (idm) ในการแข่งขัน, See also: กำลังแข่งขันและมีโอกาสชนะ | miss the boat | (idm) พลาดโอกาส (คำไม่เป็นทางการ) | once-in-a-lifetime chance | (idm) โอกาสครั้งเดียวในชีวิต | pie in the sky | (idm) วาดวิมานกลางอากาศ, See also: หวังสิ่งที่ไม่มีโอกาสจะได้ | Possession is nine points of the law | (idm) ในการโต้เถียงเพื่อใช้ หรือเป็นเจ้าของทรัพย์สิน สิ่งของคนที่อยู่ตรงนั้น หรือใช้สิ่งของนั้นอยู่แล้วมักคือคนมีโอกาสได้รับ | seize the opportunity | (idm) ใช้ประโยชน์จากโอกาส, See also: ตักตวงโอกาส | sporting chance | (idm) โอกาสดี | The odds are against one | (idm) มีโอกาสน้อยมาก | The world is someone's oyster | (idm) โอกาสในชีวิต | jump in | (phrv) กระตือรือร้นที่จะทำบางสิ่ง, See also: รีบทำ, กระโจนเข้าใส่, ฉวยโอกาสทันที | long shot | (n) การเลือกแทง (ม้า) ที่มีโอกาสถูกน้อยมาก, See also: การเลือกเล่นพนันข้างที่มีโอกาสน้อยมาก | lose | (vt) เสียเวลา (หรือโอกาส), Syn. waste | lost | (adj) ที่สูญเปล่า (โอกาส, เวลา, แรงงาน), See also: ไร้ประโยชน์, Syn. wasted, squandered | miss out | (phrv) พลาดโอกาส, See also: เสียโอกาส | main chance | (n) โอกาสดีที่สุด | moment | (n) โอกาสสำคัญ, See also: เวลาสำคัญ, Syn. occasion | muff | (vi) ทำผิดพลาด, See also: ทำซุ่มซ่าม, ทำพลาดโอกาส, ทำเซ่อซ่า, Syn. bungle, mishandle | nonce | (n) โอกาสปัจจุบัน, See also: ขณะปัจจุบัน |
| abortus | เด็กแท้งซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า 500 กรัม ตอนคลอดซึ่งไม่มีโอกาสรอด | advantage | (แอดวาน' ทิจฺ) n., vt. ผลประโยชน์, ความได้เปรียบ, คุณ, โอกาส, จุดดี, จุดเด่น. -take advantage of เอาเปรียบ. -to advantage มีประโยชน์หรือกำไร, Syn. profit, benefit, help, Ant. hindrance, handicap | adventure | (แอดเวน' เชอะ) n. การเสี่ยงภัย, อันตรายที่คาดไม่ถึง, ความตื่นเต้น, ประสบการณ์ที่ตื่นเต้น, การร่วมในกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ตื่นเต้น, การเสี่ยง (เรื่องการเงิน) , อันตราย, โอกาส. -vt., vi. เสี่ยง, ถือโอกาส, เสี่ยงพูด. -adventureful adj. | adventurer | (แอดเวน' เชอเรอะ) n. ผู้เสี่ยงภัย, ผู้เสี่ยงโชค, นักฉวยโอกาส, นักผจญภัย | bide | (ไบดฺ) { boded, bided, biding, bides } v. อดทน, ทน, เผชิญ, ขึ้นอยู่กับ, ยังคง, รอคอย -Phr. (bide one's time คอยโอกาสที่ดี), See also: bider n. ดูbide, Syn. endure, bear | binary | (ไบ'นะรี) adj. เกี่ยวกับหรือมีคู่, เกี่ยวกับ 2, ซ้ำสอง n. 2 คู่, เลขคู่, ระบบฐานสอง หมายถึง ระบบเลขฐานสอง ที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 กับ 1 บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสจะเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น เปิดกับปิด, ใช่กับไม่ใช่ | breathing space | n. โอกาสพัก, โอกาสคิด, ที่ ๆ พอจะเดินทางหรือ ทำงานได้เพียงพอ | breathing spell | n. โอกาสพัก, โอกาสคิด, ที่ ๆ พอจะเดินทางหรือ ทำงานได้เพียงพอ | buddy system | n. การว่ายน้ำเคียงคู่เพื่อมีโอกาสช่วยเหลือกันได้, การทำงานเป็นทีม, Syn. team work | cancel | (แคน'เซิล) { cancelled, cancelling, cancels } vt., n. (การ) ยกเลิก, ขีดฆ่า, ทำให้เป็นโมฆะ, หักกลบลบหนี้. vi.ชดเชย., See also: canceler n. ดูcancel canceller n. ดูcancel หมายถึง การยกเลิกคำสั่งที่สั่งไปแล้ว อาจจะเนื่องมาจากได้สั่งการผิดลงไปด้วยความพลั้งเผลอ หรือมีการเปลี่ยนใจ ในระบบวินโดว์ คำสั่งบางคำสั่งจะมีการถามเพื่อให้มีการย้ำเตือน corfir mation เช่นเมื่อสั่งลบ ย้าย ฯ ในกรณีเช่นนี้ จะมีปุ่มคำสั่งนี้ไว้ให้เลือกทุกครั้ง มีคู่กับปุ่ม OK เพื่อให้มีโอกาสแก้ไขหรือเปลี่ยนใจได้ ถ้าไม่ต้องการยกเลิก ให้กดที่ปุ่ม OK | chance | (ชานซฺ) n. โอกาส, หนทาง, ลักษณะที่เป็นไปได้, หนทางสำเร็จ, ความเป็นไปได้, การเสี่ยง, ช่องทาง, ท่าทาง, โชค, วาสนา, เคราะห์, ยถากรรม, ความบังเอิญ. -vi. ถือโอกาส, เสี่ยง, พบโดยบังเอิญ -vt. เกิดขึ้นโดยบังเอิญ, Syn. happening, risk, opening, happen | circumstance | (เซอ'คัมสฺเทินซฺ) { circumstanced, circumstancing, circumstances } n. สถานการณ์, กรณี, สภาวะ, สภาพ, ฐานะ, กาลเทศะ, วิธีการ, โอกาส, สภาพแวดล้อม, รายละเอียด. vt. ให้อยู่ในสภาวะหนึ่งเฉพาะ, ควบคุมหรือนำโดยสถานการณ์, Syn. condition | control card | บัตรควบคุมหมายถึง บัตรซึ่งบรรจุข้อความที่เป็นภาษาควบคุมงานซึ่งได้มีการกำหนดไว้เป็นรหัสเป็นการเฉพาะ เพื่อใช้ในโอกาสต่าง ๆ กัน หรือใช้กับงานชนิดต่าง ๆ เช่น บัตรควบคุม อาจจะเป็นตัวบอกว่า โปรแกรมหรือชุดคำสั่งชุดต่อไปจะเป็นภาษาฟอร์แทรน ภาษาโคบอล หรือภาษาอื่น ๅ บัตรควบคุมอาจทำให้รู้ได้ว่างานนี้เป็นงานของนิสิต หรือเป็นงานของนักวิจัยทั่วไป เพราะบางทีอาจมีการกำหนดข้อห้ามบางอย่างสำหรับงานของนิสิตไว้ในระบบ ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีการใช้บัตรแล้ว คำนี้จึงไม่มีที่ใช้ไปด้วยดู card (บัตร) | fighting chance | โอกาสประสบความสำเร็จหลังการต่อสู้ดิ้นรน | fish | (ฟิช) { fished, fishing, fishes } n. ปลา, เนื้อปลา, สัตว์น้ำ, บุคคล, คนอ่อนหัด vt. ตกปลา, จับปลา, ล้วงออก, ดึงออก, ค้นหา -Phr. (fish in troubled waters ฉวยโอกาสกอบโกยผลประโยชน์) -pl., See also: fish, fishes | gravy train | อาชีพหรืองานที่เบา, โอกาสได้รับผลประโยชน์หรือผลกำไรอย่างมากโดยไม่ต้องลำบาก | hap | (แฮพ) n. โชค, โอกาส, เหตุการณ์, การปรากฏขึ้น, สิ่งปกคลุม vt. ปกคลุม | happenstance | n. โอกาส, เหตุบังเอิญ | heads-up | adj. ตื่นตัว, ว่องไว, ฉวยโอกาสได้อย่างรวดเร็ว | hobson's choice | การเลือกได้เพียงอย่างเดียวที่เสนอ, การไม่มีโอกาสเลือก | incidentally | (อินซีเดน' ทะลี) adv. โดยบังเอิญ, แล้วแต่โอกาสจะอำนวยให้, อนึ่ง, ในโอกาสนี้ | inning | (อิน'นิง) n. สมัยมีอำนาจ, ตาทำแต้มในการแข่งขัน, โอกาส., See also: innings ตาลีลูกคริดเก๊ต, การเรียกคืนที่ดินที่เป็นหนองหรือน้ำท่วม | johnny-on-the-spot | n. ผู้ที่ตามได้ทุกเวลา, ผู้ที่อยู่ข้าง ๆ , ผู้ที่คอยฉวยโอกาส | lose | (ลูส) { lost, losing, loses } vt. ขาดทุน, สูญ, เสีย, แพ้, ทำให้สูญเสีย, พลาด, เสียโอกาส vi. ได้รับความเสียหาย, แพ้, เล่นเสีย, (นาฬิกา) เดินช้า. -Phr. (lose out แพ้), See also: losable adj. losableness n., Syn. fail-A. find | magistral | (แมจ'จิสทรัล) adj. เฉพาะโอกาส, สำคัญ, เกี่ยวกับพนักงานปกครอง, เกี่ยวกับผู้พิพากษา | miss | (มิส) vt. พลาด, ทำพลาด, ตี, ต่อย, แทง, ฟัน, ขว้าง, ปาพลาด, พลาดโอกาส, พลาดรถไฟหรือพาหนะอื่น ๆ , ทำหาย, คิดถึง, หลบหลีก, หนี, ไม่สามารถเข้าใจ. vi. พลาด, ทำพลาด. n. การพลาด, การทำพลาด, การละเว้น, Syn. lose, fail | moment | (โม'เมินทฺ) n. ขณะนั้น, ชั่วครู่, ขณะ, ความสำคัญ, ความสำคัญของขณะนั้น, โอกาส, ผลที่ตามมา, ลักษณะของสิ่งของ (ปรัชญา), Syn. minute, weight, Ant. triviality | obiter | (ออบ'บิเทอะ) adj. ประกอบ, เสริม, ถือโอกาส | occasion | (อะเค'เชิน) n. โอกาส, จังหวะ, กาลสมัย, ฤกษ์, คราว, เหตุผล, เหตุ, ชนวน, ธุรกิจ, งาน vt. ทำให้เกิดขึ้นvt. ทำให้เกิดขึ้น, See also: occasions n., pl. สิ่งจำเป็น. -Phr on occasion เป็นครั้งเป็นคราว, บางครั้งบางคราว, Syn. event, gala | occasional | (อะเค'เชินเนิล) adj. เป็นครั้งเป็นคราว, ตามโอกาส, เฉพาะกาล, เฉพาะสมัย, Syn. casual | occasionalism | (ออคเค'เชินนัลลิสซึม) n. ทฤษฎีว่าด้วยโอกาสหรือฤกษ์ | odds | (ออดซ) n., pl. ความเป็นต่อในการพนัน, โอกาสที่จะเป็นไปได้มากกว่า, ความได้เปรียบ, ปริมาณที่ดีกว่าหรือเหนือกว่า. -at odds ไม่ลงรอยกัน, ไม่เห็นด้วย. -Phr. (by all odds, by long odds, by odds อย่างไม่ต้องสงสัย, แน่นอน, ในทุกกรณี) | once | (วันซฺ) adv. ครั้งหนึ่ง, ครั้งเดียว, แต่ก่อน adj. เมื่อก่อน, กาลก่อน conj. พอ....ก็, เมื่อไร...ก็, ถ้า....ก็ n. ครั้งหนึ่ง, โอกาสเดียว, ครั้งเดียว, -all at once ทันที, พร้อมกัน -Phr. (at once ทันทีพร้อมกัน) -Phr. (once and for all (once for all) ในที่สุด, เด็ดขาด, ท | opening | (โอ'พะนิง) n. การเปิด, การเปิดเผย, ที่โล่ง, กลางแจ้ง, รูเปิด, ช่อง, การเริ่ม, ตอนแรก, การฉลองการเปิดปฐมฤกษ์, ตำแหน่งงานที่ว่าง, โอกาส, การเปิดเกม, Syn. hole, gap, start | opportunism | (ออพเพอทู'นิซึม) n. ลิทธิฉวยโอกาส, See also: opportunist n. | opportunist | (ออพเพอทู'นิสทฺ) n. นักฉวยโอกาส | opportunity | (ออพเพอทู'นิที) n. โอกาส, จังหวะ, กาละ, โอกาสที่ดี, จังหวะที่ดี, , Syn. occasion | peremptory | (พะเรมพฺ'ทะรี, เพอ'เรมโทรี, -ทอรี) adj. ไม่มีโอกาสปฏิเสธ, จำต้อง, เด็ดขาด, วางอำนาจ, เผด็จการ., See also: peremptorily adv. peremptoriness n., Syn. absolute | permit | (เพอมิท') vt., vi. อนุญาต, อนุมัติ, ยินยอม, เปิดโอกาส, ตกลง. n. ใบอนุ-ญาต, ใบอนุมัติ, ใบยินยอม, การอนุญาต., See also: permitter n. permiter n., Syn. tolerate, allow, grant, permission, Ant. forbid | place | (เพลส) n. สถานที่, บริเวณ, จุดหมาย, ที่, ที่พัก, เขต, ฐานะ, ตำแหน่ง, สภาพ, สถานการณ์, เทศะ, หน้าที่, การงาน, ที่ตั้ง, โอกาสที่เหมาะ. -Phr. (give place to ให้ความสำคัญ, ถูกแทนที่โดย) -Phr. (go places ประสบความสำเร็จ) -Phr. (take place เกิดขึ้น) vt. จัด, วาง, กะ, คาดคะเน, บรรจุ, ใส่, เอาไว้, ฝาก, มอบ, แต่งตั้ง, วินิจฉัย, ปรับเสียง, วางลูก, ส่งกระสุน vi. อยู่ในอันดับ | probability | (พรอบ'อะบิล'ลิที) n. ความเป็นไปได้, สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้, โอกาสที่น่าจะเป็นไปได้. -in all probability เป็นไปได้มาก, Syn. likelihood | prospect | (พรอส'เพคทฺ) n. โอกาส, ความหวัง, ความหวังข้างหน้า, กาลภายหน้า, ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าได้, ผู้อาจเป็นผู้สมัคร, ทัศนียภาพ. vt., vi. ค้นหา, สำรวจ, มีอนาคต, มีความหวัง., See also: prospector n., Syn. outlook, expectation | put | (พูท) vt. วาง, ใส่, จัด, จัดให้มี, บรรจุ, เคลื่อน, ย้าย, บอก, แจ้ง, บรรยาย, แปล, เสนอ, แนะนำ, ยื่น, จัดเก็บ (ภาษี) , ลงทุน, ประมาณ, ประเมิน, กะ, (พนัน) ขันต่อ, ผลัก, ขว้าง. vi. แล่น (เรือ) , ออกเดินทาง vt., vi., n. (การ) ตีลูกกอล์ฟลงหลุมเบา ๆ ด้วยไม้ตีเรียกว่าputter n. การขว้าง, การเหวี่ยง, สัญยาที่เปิดโอกาสให้ขายของได้จำนวนหนึ่งภายในเวลาที่กำหนดไว้ | random | (แรน'เดิม) adj. โดยการสุ่ม, ส่งเดช, ไม่เลือก, เป็นไปโดยบังเอิญ, ตามบุญตามกรรม, ตามโอกาส. adv. โดยการสุ่ม, ตามบุญตามกรรม -Phr. (at random โดยการสุ่ม, ตามบุญตามกรรม), See also: randomly adv. randomness n., Syn. haphazard, chance | room | (รูม) n. ห้อง, ที่ว่าง, ที่พัก, ช่องว่าง, เนื้อที่, โอกาส, , See also: rooms n. ที่พักอาศัย, คนที่อยู่ในห้อง vi. กินเนื้อที่, พัก, พักอาศัย, อยู่ vt. ขอให้พัก, ขอให้พักอาศัย, Syn. cubicle, chamber | sand | (แซนดฺ) n. ทราย, หาดทราย, ดินทราย, สันดอนทราย, น้ำตาลทราย vt. ขัดด้วยทราย, ขัดด้วยกระดาษทราย, พรมด้วยทราย, ใส่ทราย, ฝังในทราย, See also: sands n. ชั่วขณะเดียว, โอกาสของชีวิต, สีแดงอมเหลือง, สีทราย | scoop | (สโคพ) n. ทัพพี, กระบวย, กระชอน, ถังตัก, พลั่วตัก, ปริมาณดังกล่าว, โพรง, การตักด้วยทัพพี (กระบวย...) , การฉวยโอกาส, การแทง, ข่าวตีพิมพ์ที่ออกก่อนฉบับอื่น, ทำให้เป็นโพรง, ตีพิมพ์ข่าวก่อน vi. ใช้ทัพพ' (กระบวย) ตัก, Syn. trowel, shovel, ladle, spoon | scope | (สโคพ) n. ขอบเขต, วง, ลู่ทาง, ทัศนวิสัย, วิสัย, โอกาส, ความยาว , กล้องส่อง, Syn. space | seasonable | (ซี'เซินนะเบิล) adj. เหมาะกับฤดูกาล, ได้เวลา, ได้โอกาส, ได้จังหวะ, ถูกกาลเทศะ, กาล, ทันเวลา, See also: seasonableness n. seasonableably adv., Syn. timely | seize | (ซีซ) vt., vi. จับ, จับกุม, จับตัว, ยึด, ฉวย, ถือเอา, ยึดครอง, ยึดถือ, ชิง, ครอบงำ, ครอบครอง, เข้าใจ, ถือโอกาส., See also: seizable adj. seizer n. seizor n., Syn. take, grasp, apprehend |
| adventurer | (n) นักผจญภัย, นักเสี่ยงภัย, นักฉวยโอกาส, นักแสวงโชค | chance | (n) โอกาส, หนทาง, ลู่ทาง, ช่องทาง, อุปัทวเหตุ, โชค, เหตุบังเอิญ | choice | (n) สิ่งที่เลือก, ทางเลือก, โอกาสในการเลือก | circumstance | (n) พฤติการณ์, โอกาส, กาลเทศะ, สภาพ, เหตุการณ์แวดล้อม, เหตุ, กรณี | circumstantial | (adj) สุดแต่โอกาส, ตามสถานการณ์, ตามสภาพแวดล้อม, กล่าวโดยละเอียด | furnish | (vt) จัดหาให้, เตรียมให้, เปิดโอกาสให้, ติดตั้งให้ | hap | (n) เหตุบังเอิญ, โชค, โอกาส, อุบัติเหตุ, การปรากฏขึ้น | incidentally | (adv) โดยบังเอิญ, ในโอกาสนี้, อนึ่ง | inning | (n) โอกาส, ช่วงที่มีวาสนา, คราว, สมัยที่มีอำนาจ | instance | (n) ตัวอย่าง, คำขอร้อง, กรณี, โอกาส, ความรีบด่วน, การฟ้องร้อง | moment | (n) ขณะ, ชั่วครู่, กำหนดเวลา, โอกาส, ความสำคัญ | occasion | (n) โอกาส, สมัย, เวลา, คราว, ฤกษ์ | occasional | (adj) แล้วแต่โอกาส, เป็นครั้งคราว | occasionally | (adv) บางโอกาส, เป็นครั้งคราว | opening | (n) ที่ว่าง, ช่อง, รู, การเปิด, ลู่ทาง, โอกาส | opportune | (adj) ได้โอกาส, เหมาะโอกาส, เหมาะสม | opportunist | (n) ผู้คอยฉวยโอกาส | opportunity | (n) ช่อง, โอกาส, กาลเทศะ, จังหวะ | permission | (n) การยอม, การยินยอม, การอนุญาต, การเปิดโอกาส, การอนุมัติ | permit | (vt) ยอม, ยินยอม, อนุญาต, เปิดโอกาสให้, อนุมัติ | preclude | (vt) ทำให้หมดโอกาส, ขจัด | profit | (vt) มีกำไร, ได้ประโยชน์, ให้ประโยชน์, ถือโอกาส, ได้เปรียบ | profiteer | (n) ผู้ค้ากำไร, ผู้ได้กำไร, ผู้ถือโอกาส | profiteer | (vt) ค้ากำไร, เอากำไร, ถือโอกาส | prospect | (n) ทัศนียภาพ, โอกาส, ช่องทาง, ความหวัง, ภาพภูมิประเทศ | room | (n) ที่ว่าง, ห้อง, โอกาส, เนื้อที่, ที่พัก | scope | (n) ขอบเขต, ระยะ, วง, โอกาส, ลู่ทาง, ทัศนวิสัย, การมองปัญหา | seize | (vt) ฉวย, ยึด, จับกุม, ครอบครอง, ถือโอกาส | shot | (n) กระสุนปืน, วิถีกระสุน, การยิง, นัด, มือปืน, โอกาส, คำหนึ่ง | sometime | (adv) บางเวลา, บางที, บางครั้ง, บางโอกาส, บางคราว | sometimes | (adv) บางเวลา, บางที, บางครั้ง, บางโอกาส, บางคราว | start | (n) การเริ่มต้น, อาการสะดุ้ง, จุดเริ่มต้น, โอกาส, การออกวิ่ง | time | (n) เวลา, ครั้ง, อายุ, สมัย, จังหวะ, วาระ, โอกาส | upon | (pre) ข้างบน, เหนือ, ในเวลา, ในโอกาส |
| Backdoor account | (n) บัญชีลับหรือประตูหลัง ในภาษาทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง รูรั่วของระบบหรือซอฟแวร์ นักพัฒนาระบบจงใจสร้างทิ้งไว้ เพื่อให้ซอฟแวร์คอยส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่มันติดตั้งอยู่ กลับไปหาโปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนา หรือเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในได้ | brass ring | (n) โอกาสทอง | buffet | [บุเฟต์ (อังกฤษ) , เบอเฟต์ (อเมริกัน)] (n) บุฟเฟต์ (อาหารในงานเลี้ยงที่หรือโอกาสอื่นที่ผู้รับประทานบริการตนเอง), ร้านอาหารอย่างง่าย (ที่สถานที่รถไฟ, ชุมทางรถประจำทาง, หรือสนามบินที่สามารถซื้ออาหารและทานได้โดยใช้เวลสั้น ๆ) | disadvantaged child | (n, phrase) เด็กด้อยโอกาส | I avail myself of this opportunity to renew to your Excellency the assurance of my h | ในโอกาสนี้ข้าพเจ้าขอแสดงความนับถืออย่างยิ่งมายัง ฯพณฯ ท่านด้วย | Inclusive Education | (n) การศึกษาแบบเรียนร่วม การจัดการศึกษาให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ เช่น คนพิการ คนด้อยโอกาส คนไร้สัญชาติ คนอพยพ โดยคำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน หรือระบบการศึกษาแบบปกติ มีจุดมุงหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ และการยอมรับความแตกต่าง ความสามารถระหว่างบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบศักยภาพของตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข | miss a boat | (phrase) พลาดโอกาส | opportunity cost | (n) ค่าเสียโอกาส - สิ่งที่จะได้รับหากไม่ได้ทำการณ์หนึ่ง เช่น ถ้าเลือกลงทุนในหุ้น ก็จะไม่ได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงินในธนาคาร ดอกเบี้ยนี้คือค่าเสียโอกาสนั้นเอง | opportunity cost | ค่าเสียโอกาส | Opportunity knocks | โอกาสดี | outreach | (adj) ด้อยโอกาส | raincheck | (n) a raincheck means a chance to go another time. โอกาสหน้า | S.W.O.T | การวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true | sighting | (n) โอกาสที่จะได้เห็น | swot | การวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true | underpriviledged children | (n) เด็กด้อยโอกาส | underprivileged | ด้อยโอกาส | vulnerable group | (n) กลุ่มผู้ด้อยโอกาส |
| 可能性 | [かのうせい, kanousei] (n) ความเป็นไปได้, โอกาสที่จะเกิด | 機会 | [きかい, kikai] (n) โอกาส |
| 契機 | [けいき, keiki] (n) โอกาส | プリ | [ぷり (puri)] (n) มาจากคำว่า Prince, Princess ใช้ตัวคาตาคานะเขียน แปลว่าเจ้าชาย(หรือเจ้าหญิงก็ได้ตามโอกาส) | 時期 | [じき, jiki] (n, vi, vt, adj) (ไทมฺ) n. เวลา, ช่วงเวลา, กะเวลา, โอกาส, สมัย, ยุค, กาล, ฤดูกาล, ครั้ง, ช่วง, อายุ, วันตาย, เท่า, จังหวะ, อัตราความเร็ว, เวลาพักผ่อน, อัตราค่าจ้างตามช่วงเวลา, สิทธิ, ระยะเวลาการตั้งครรภ์, adj. เกี่ยวกับเวลา, เกี่ยวกับระเบิดเวลา, ตั้งเวลา vt., vi. จับเวลา, ตั้งเวลา, ควบคุมเวลา | 縁 | [よすが, yosuga] (n, vi, vt) (ชานซฺ) n. โอกาส, หนทาง, ลักษณะที่เป็นไปได้, หนทางสำเร็จ, ความเป็นไปได้, การเสี่ยง, ช่องทาง, ท่าทาง, โชค, วาสนา, เคราะห์, ยถากรรม, ความบังเอิญ. -vi. ถือโอกาส, เสี่ยง, พบโดยบังเอิญ -vt. เกิดขึ้นโดยบังเอิญ, S. happening, risk, opening, happen |
| Chance | (n) |die, pl. Chancen| โอกาส | erhalten | (vt) |erhält, erhielt, hat erhalten| ได้รับ เช่น Er erhält immer eine Postkarte für besondere Gelegenheiten. เขาได้รับโปสการ์ดในโอกาสสำคัญเสมอ, See also: kriegen Related. erhältlich, Syn. bekommen | Gelegenheit | (n) |die, pl. Gelegenheiten| โอกาส, ช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น Ich habe bisher keine Gelegenheit, meine Eltern zu besuchen. ถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีโอกาสที่จะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ | gelegentlich | (adj, adv) บางครั้งบางคราว, ในบางโอกาส เช่น Er raucht gelegentlich, aber ich nie. เขาสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง แต่ฉันไม่สูบเลย, Syn. manchmal | anlässlich | เนื่องในโอกาส เช่น Ich lade meine Schulkameraden zum Abendessen anlässlich meines 60. Geburtstages ein. ฉันชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาทานอาหารเย็นในโอกาสวันครบรอบวันเกิดที่ 60 ของฉัน | Anlass | (n) |der, pl. Anlässe| โอกาส, วาระพิเศษ เช่น Was ist der Anlass für dieses Fest? งานเลี้ยงนี้เนื่องในโอกาสใด | etw. geht jmd. durch die Lappen. | (idiomatisch) โอกาสหลุดลอยไป หรือ ไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เช่น Mir ist ein herrlicher Job durch die Lappen gegangen = ฉันพลาด ไม่ได้งานสุดเจ๋งที่ต้องการ | Diener | (n) |m, pl. Diener| ผู้รับใช้, คนรับใช้, (ในบางโอกาส อาจหมายถึง ทาส), See also: Related: f. Dienerin, n. Dienstmädchen | ausgebildet | (adj) ซึ่งมีทักษะ, ที่มีความชำนาญ, ที่มีความเชี่ยวชาญ, มีฝีมือ เช่น Wer gut ausgebildet ist, hat mehr Chancen bei Wettbewerbe. คนที่มีทักษะดีมีโอกาสมากกว่าในการแข่งขัน | jederzeit | (adv) เป็นไปได้ในทุกโอกาส เช่น Es kann jederzeit regnen. ฝนอาจตกได้ตลอดเวลา, Syn. jeden Augenblick | gelegentlich | (adj, adv) ที่ถูกจังหวะ, ที่โอกาสเหมาะสม เช่น Du kommst gelegentlich. Wir sind gerade beim Essen. เธอมาได้ถูกจังหวะ พวกเรากำลังทานอาหารอยู่เลย, See also: A. ungelegentlich | Aussicht | (n) |die, pl. Aussichten| ทัศนียภาพ, โอกาส, ความหวัง, See also: die Chance, die Erwartung, Syn. die Sicht | chancenlos | (adj) ไม่มีโอกาส |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |