มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ งก ๆ, ง่ก ๆ | ว. อาการที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก เช่น ทำงานง่ก ๆ ทั้งวันจนไม่มีเวลาหยุดพัก. | จลนศาสตร์ | (จะละนะ-, จนละนะ-) น. สาขาหนึ่งของพลศาสตร์ ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง โดยไม่คำนึงถึงแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่นั้น. | ปากโป้ง | ก. ชอบพูดเปิดเผยสิ่งที่ไม่สมควรออกมาโดยไม่คำนึงถึงความผิดพลาดเสียหาย. | โป้ง | ว. อาการที่พูดโพล่งออกมาโดยไม่ระมัดระวังปาก หรือพูดเปิดเผยสิ่งที่ไม่สมควรออกมาโดยไม่คำนึงถึงความผิดพลาดเสียหาย | ฟุ่มเฟือย | ว. สุรุ่ยสุร่าย, ใช้จ่ายโดยไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลือง, เกินความจำเป็น เช่น ใช้ถ้อยคำฟุ่มเฟือย. | ยุทโธปกรณ์ | น. วัสดุอุปกรณ์ทั้งปวงและยุทธภัณฑ์ทุกชนิดซึ่งใช้ในราชการทหาร รวมทั้งเครื่องมือยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่สาธารณูปโภคอันจำเป็นเพื่อปฏิบัติการรบหรือเพื่อดำรงและสนับสนุนกิจกรรมทางทหารโดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีความมุ่งหมายทางธุรการหรือทางการรบ. | สมมต, สมมติ, สมมติ-, สมมุติ, สมมุติ- | (สมมด, สมมด, สมมดติ-, สมมุด, สมมุดติ-) ว. ที่ยอมรับตกลงกันเองโดยปริยาย โดยไม่คำนึงถึงสภาพที่แท้จริง เช่น สมมติเทพ. | อัตราเร็ว | น. อัตราการเคลื่อนที่ของวัตถุต่อหนึ่งหน่วยเวลาโดยไม่คำนึงถึงทิศทางของการเคลื่อนที่. |
|
| Corps Diplomatique หรือ Diplomatic Corps | คณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวง (Capital) ของประเทศ ซึ่งจะมีหัวหน้าคณะทูตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทางการทูตใน คณะทูต เจ้าหน้าที่ทางการทูตในคณะทูตนั้นจะประกอบไปด้วย อัครราชทูต (Minister) อัครราชทูตที่ปรึกษา (Minister Counselor) และที่ปรึกษา (Counselor) ซึ่งอาจจะมีคนเดียวหรือหลายคน นอกจากนี้ มีเลขานุการทางการทูตอีกหลายคน คือ เลขานุการเอก โท ตรี และตามปกติยังมีผู้ช่วยทูต (Attaché) อีกหลายคนซึ่งมีฐานะทางการทูต (Diplomatic status) คือผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร (บก เรือ และอากาศ) ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ (Commercial Attaché) ผู้ช่วยทูตฝ่ายการแถลงข่าว (Press Attaché) และผู้ช่วยฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งกระทรวงทบวงกรมของรัฐบาล (นอกจากกระทรวงการต่างประเทศ) เป็นฝ่ายแต่งตั้งข้าราชการของตนไปประจำในคณะทูต รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งมีฐานะทางการทูตด้วยในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูต (Head หรือ Dean of the Diplomatic Corps) จะได้แก่ผู้แทนทางการทูตอาวุโสที่ได้ประจำการอยู่ในประเทศนั้นเป็นเวลานาน ที่สุด ยกเว้นแต่ในบางประเทศ จะถือเอกอัครราชทูตผู้แทนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncio) เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูตตลอดไป โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอาวุโสแต่อย่างใด เช่น ฟิลิปปินส์ [การทูต] | Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] | premises of the mission | สถานที่ของคณะผู้แทน คือ อาคารหรือส่วนของอาคารและที่ดินซึ่งอาคารตั้งอยู่ ซึ่งใช้เพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนโดยไม่คำนึงถึงกรรมสิทธิ์ รวมถึงที่อยู่ของหัวหน้าคณะผู้แทนด้วย [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | combination | วิธีจัดหมู่, วิธีจัดหมู่ของสิ่งของ โดยไม่คำนึงถึงลำดับของสิ่งของในหมู่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| CEOs make these decisions without any consideration to the human implications of their decisions | ซีอีโอเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของการตัดสินใจ ที่มีต่อพนักงาน The Corporation (2003) | For years, we operated under the belief that we could continue consuming our planet's natural resources without consequence. | ตลอดหลายปี เราทำทุกอย่างภายใต้ความเชื่อที่ว่า... ...เราสามารถใช้ทรัพยากรบนโลกได้ โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา The Day After Tomorrow (2004) | And treated all of his workers equally Regardless of their employment history or citizen status. | และดูแลคนงานทั้งหมดของเขาอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงประวัติการทำงาน หรือ ประวัติด้านพลเรือน Self Made Man (2008) | Regardless of what's been spent | โดยไม่คำนึงถึง \ อะไรที่เราใช้ไป Air: Part 1 (2009) | Regardless of our need, | โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของเรา Air: Part 1 (2009) | That's a nice one. | ออกคำสั่งโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา นายต้องปามัน 1 2 3 Our Family Wedding (2010) | You must have your dance routines. | ออกคำสั่งโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา Our Family Wedding (2010) | Regardless of desire. | โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ The Thing in the Pit (2010) | He may not be capable of taking them on in their strongest state, despite their age or infirmity. | เขาอาจจะไม่สามารถเอาตัวของเหยื่อไป ในสภาวะที่เหยื่อแข็งแรงที่สุด โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือความบกพร่อง Rite of Passage (2010) | Despite every scientific indication... | โดยไม่คำนึงถึงข้อบ่งชี้ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ... With You I'm Born Again (2010) | Is a human a considerate animal who would sacrifice him or herself regardless of the cost? | มนุษย์คือสัตว์ที่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ที่จะเสียสละตัวเขาหรือตัวเธอเอง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องเงิน Me Too, Flower! (2011) | No matter what the cost. | โดยไม่คำนึงถึงราคาของมัน Always in Control (2011) | You're worried a ghost would act selfishly, use a human being to get what they want with no regard for the ramifications of their actions? | เธอกังวลว่า ผีจะทำเรื่องเห็นแก่ตัว ใช้มนุษย์เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่คำนึงถึงผลของการกระทำเหรอ Partial Eclipse of the Heart (2012) | Regardless of why it blooms. | โดยไม่คำนึงถึงว่าทำไมมันบุปผา Monsters (2012) | Regardless of what we believe of them, they will celebrate themselves and their connection. | โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เราเชื่อ เกี่ยวกันตัวพวกเขา พวกเขาจะฉลองให้แก่กัน และให้แก่สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขา Hit (2012) | Look, regardless, I mean, we'll just assume. | ฟังนะ โดยไม่คำนึงถึง ฉันหมายถึงพวกเราแค่สันนิษฐาน Buried (2013) | Okay, ignoring the fact that I have no idea what that actually means, if we -- if we do this, you get better, right? | โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงที่ว่า ฉันมีความคิดสิ่งที่จริงหมายถึงไม่มี ถ้าเรา--ถ้าเราทำได้ นายจะดีขึ้น ใช่ไหม? The Great Escapist (2013) | Regardless, our fortunes appear to be on the rise. | โดยไม่คำนึงถึงทรัพย์สมบัติมหาศาลของพวกเรา ที่กำลังจะบังเกิดขึ้น III. (2014) | Regardless, we have a protocol for scenarios like this, but... | โดยไม่คำนึงถึงเรามีโปรโตคอล สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ Arrival (2016) | Nothing else we can detect either, but I'd give 'em a strong cocktail regardless. | ไม่มีอะไรที่เราสามารถตรวจสอบ ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ฉันต้องการให้มันค๊อกเทลที่ แข็งแกร่งโดยไม่คำนึงถึง Arrival (2016) | Regardless of what the Federal Government says, or regardless what.. | โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่รัฐบาลกล่าว หรือไม่คำนึงถึงสิ่งที่ Hidden Figures (2016) | I wanted to be with you despite the Grayson name. | ฉันอยากอยู่กับคุณ โดยไม่คำนึงถึงนามสกุลเกรย์สัน Reckoning (2012) |
| | | despite | (ดิสไพทฺ') prep. ถึงอย่างไรก็ตาม, โดยไม่คำนึงถึง. n. ความเกลียดชัง, การดูหมิ่น, การเหยียดหยาม-Phr. (in despite of ถึงแม้ว่า) | notwithstanding | (นอทวิธสแทน'ดิง) prep. โดยไม่คำนึงถึง, แต่กระนั้นก็ตาม, แม้ว่า. -adv. อย่างไรก็ตาม, ก็เถอะ, Syn. nevertheless, yet | spite | (สไพทฺ) n. เจตนาร้าย, ความมุ่งร้าย, ความโกรธเคือง, ความอาฆาตแค้น vt. กระทำด้วยเจตนาร้าย กลั่นแกล้ง ทำให้โกรธ รบกวน, -Phr. (in spite of ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่า ทั้ง ๆ ที่เป็น โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น) | whether | (เวธ'เธอะ) adj. หรือไม่ -Phr. (whether or no โดยไม่คำนึงถึง ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม) pron อันไหน, Syn. if |
| regardless | (adv) โดยไม่ระมัดระวัง, โดยไม่คำนึงถึง, โดยไม่ฟังใคร |
| code switching | (n) (ศัพท์เฉพาะทฤษฎีการแปล) การถ่ายความหมายของคำจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงบริบท ผลงานแปลจึงขาดความพลิ้ว ลีลา และอรรถรส ดังเช่นการแปลด้วยซอฟแวร์แปล | quackery | (n) หมอเถื่อน; การรักษาและคำแนะนำของหมอเถื่อนที่ "มั่ว" ไปตามข้อสังเกตและประสบการณ์ โดยไม่คำนึงถึงหลักทางวิทยาศาสตร์, ความมั่ว |
| knallhart | (adv) โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น เช่น ich hab' ihm knallhart meine Meinung gesagt! = ผมแสดงความคิดเห็นกับเขาโดยไม่ต้องเกรงใจอะไร, See also: schonungslos, Syn. deutlich |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |