ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เสร็จ, -เสร็จ- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ One day, Father Khwan Khao brought Khwan Khao to leave with Grandpa. | วันหนึ่งคุณพ่อของขวัญข้าวพาขวัญข้าวมาฝากไว้กับคุณปู่ เพราะคุณพ่อต้องไปขับรถส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพมหานคร วันนี้คุณปู่พาขวัญข้าว มาดูข้าวที่คุณปู่ได้ปลูกไว้ จนถึงเย็นฝนก็ตกลงมา ขวัญข้าวจึงพูดว่าคุณปู่ตะรีบเข้าบ้านเดี๋ยวไม่สบาย คุณปู่จึงพูดว่าฝนไม่ได้ทำให้ไม่สบายหรอก แต่ต้องไปอาบน้ำ ตอนกลางคืนฝนก็ตกหนักมาก จนขวัญข้าวนอนไม่หลับ ขวัญข้าวตื่นมาให้คุณปู่เล่านิทานให้ฟังปู่เล่านิทานให้ฟังก็ได้ปู่ตอบ มีอยู่วันหนึ่งในดินเเดนแห้งเเร้งทุกคนไม่มีน้ำดื่ม จนกระทั่งวันหนึ่งมีจอบตกลงมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนจึงหยิบจอบมาเพื่อขุด แต่ในดินแดนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนจึงเลิกขุด เเต่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขุดไปเรื่อยๆจากที่ขุด1ไร่กลายเป็น2ไร่จากที่ขุด2ไร่กลายเป็น4ไร่ จนเด็กผู้ชายคนนั้นก็ล้มลง จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา ทุกคนจึงมีชีวิตอยู่ พอคูณปู่เล่าเสร็จคุณปู่หันไปไหว้รูปในหลวงรัชกาลที่่9 วันต่อมาโรงเรียนของขวัญข้าวมีกิจกรรมขายของ ขวัญข้าวจึงทำวุ้นมะพร้าวจากสีธรรมชาติ จอมขายมะม่วงกวน วันต่อมาคุณพ่อของขวัญข้าวมาหาขวัญข้าว แล้วทุกคนจึงเปิดโครงการ"ของขวัญจากดิน" เพราะทุกอย่างที่นำมาขายล้วนแต่ปลูกมาจากดbo | มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N | [มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961) |
|
| ฮอม | (adv) ใกล้เสร็จ เช่น ฮอมแล้ว แปลว่า ใกล้เสร็จแล้ว |
| แล้ว | (jargon) เสร็จ, จบสิ้น, แล้วเสร็จ นอกจากจะใช้เป็นคำลงท้ายเพื่อบ่งบอกว่าเรื่องนั้นจบลงหรือเสร็จสิ้น คนเหนือยังใช้คำคำนี้แทนคำว่า “เสร็จ” ทำให้บางครั้งก็จะเผลอพูดทับลงไปตรงๆเวลาพูด เช่น “ฉันกินข้าวจะแล้วแล้วนะ” ก็แปลได้ว่า “ฉันกินข้าวจะเสร็จแล้วนะ” |
| เสร็จ | (v) be cornered, See also: be at bay, be checkmated, trap, Syn. จนมุม, Example: คราวนี้พวกเราต้องเสร็จมันแน่ๆ เพราะมันวางแผนมาดี, Thai Definition: จนมุมหรือไม่มีทางต่อสู้ | เสร็จ | (v) succeed, See also: accomplish, complete, Syn. สำเร็จ, Ant. ไม่ได้ผล, ไม่สำเร็จ, Example: เขาเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เสร็จเมื่อคืนนี้ หลังจากที่คร่ำเคร่งมากว่า 6 เดือน, Thai Definition: อย่างทำไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว, อย่างลุล่วงไปได้ด้วยดีตามวัตถุประสงค์ | ใบเสร็จ | (n) receipt, See also: bill, Syn. ใบเสร็จรับเงิน, บิล, ใบรับเงิน, Example: เขาขอใบเสร็จจากร้านอาหารที่เขารับประทาน, Thai Definition: เอกสารที่แสดงว่าได้รับเงินเป็นการถูกต้องแล้ว | เบ็ดเสร็จ | (adv) entirely, See also: in total, altogether, absolutely, completely, Example: เมื่อ ร.ส.ช. เข้ามายึดอำนาจการปกครองได้อย่างเบ็ดเสร็จ อดีตนายพลผู้นี้จึงไม่ได้รับการยกเว้น, Thai Definition: รวมด้วยกัน, รวมทั้งหมด, ครบถ้วนทุกรูปแบบ | เสร็จสรรพ | (adv) fully, See also: completely, perfectly, Syn. พร้อมสรรพ, Example: รถตู้คันนี้เปรียบเสมือนห้องนอนห้องน้ำและห้องแต่งตัวพร้อมกันเสร็จสรรพ | เสร็จสิ้น | (v) end, See also: finish, come to an end, terminate, be completed, be done, be over, conclude, Syn. เสร็จ, สำเร็จ, จบสิ้น, Example: พนักงานสอบสวนจะพยายามสรุปสำนวนคดีให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ | แล้วเสร็จ | (v) finish, See also: complete, Syn. เสร็จ, Ant. เริ่ม, เริ่มต้น, Example: เขื่อนภูมิพลเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2500 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2507, Thai Definition: สิ้นสุดงาน | ใบเสร็จรับเงิน | (n) receipt, See also: bill, Syn. บิล, ใบรับเงิน, ใบเสร็จ, Example: ผลประโยชน์ของตำรวจที่ถูกร้องเรียนแต่ส่วนใหญ่ได้หลักฐานไม่แน่ชัดหรือไม่มีใบเสร็จรับเงิน |
| เบ็ดเสร็จ | (เบ็ดเส็ด) ว. รวมด้วยกัน, รวมหมดด้วยกัน, เช่น รวมเบ็ดเสร็จ ราคาเบ็ดเสร็จ, ครบถ้วนทุกรูปทุกแบบ เช่น สงครามเบ็ดเสร็จ | เบ็ดเสร็จ | เรียกภาษีสิ่งของต่าง ๆ นอกจากข้าวที่ส่งออกไปนอกประเทศ ว่า ภาษีเบ็ดเสร็จ. | ใบเสร็จ | น. เอกสารที่แสดงว่าได้รับเงินเป็นการถูกต้องแล้ว. | ผสมเสร็จ | ดู สมเสร็จ. | สมเสร็จ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Tapirus indicus Desmarest ในวงศ์ Tapiridae เป็นสัตว์กีบคี่ขนาดใหญ่ จมูกและริมฝีปากบนยื่นยาวออกมาคล้ายงวงยืดหดเข้าออกได้ ขนลำตัวตั้งแต่หัว คอ ไหล่ และขาหน้าสีดำ ขาหลังไปจดก้นสีดำ ส่วนที่เหลือกลางลำตัวตั้งแต่สันหลังลงมาถึงท้องมีสีขาว ขอบหูสีขาว หางสั้น ลูกเกิดใหม่ตัวมีลายสีขาวขาดเป็นท่อน ๆ ทอดไปตามความยาวลำตัว กินหญ้า ใบไม้ และผลไม้ เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย, ผสมเสร็จ ก็เรียก. | เสร็จ | (เส็ด) ก. จบ, สิ้น, เช่น พอเสร็จงานเขาก็กลับบ้าน | เสร็จ | สมใจหมาย เช่น ถ้าเขาเชื่อเรา เขาก็เสร็จเราแน่ | เสร็จ | เสียที, เสียรู้, เช่น ถ้าเราไว้ใจคนขี้โกง เราก็เสร็จเขาแน่ | เสร็จ | เสียหาย, พัง, เช่น เกิดพายุใหญ่ นาเสร็จไปหลายร้อยไร่ | เสร็จ | ตาย เช่น ใครที่ป่วยเป็นมะเร็งถึงขั้นนี้แล้ว อีกไม่นานก็เสร็จแน่ | เสร็จ | เกิดผลร้าย เช่น ขืนเสนอเรื่องนี้ขึ้นไป มีหวังเสร็จแน่. | เสร็จ | (เส็ด) ว. แล้ว เช่น พอพูดเสร็จก็เดินออกไป. | เสร็จกัน, เสร็จเลย | คำที่เปล่งออกมาแสดงความผิดหวัง เช่น เสร็จกัน ยังไม่ทันได้ออกแสดง เสื้อผ้าก็เปื้อนหมดแล้ว เสร็จเลย ลืมเอากระเป๋าสตางค์มา. | เสร็จสรรพ | ว. เสร็จหมดทุกอย่าง เช่น เมื่อปฏิบัติงานเสร็จสรรพ เขาก็ไปพักผ่อน. | เสร็จสิ้น | ก. สำเร็จแล้ว, หมดแล้ว, เช่น ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว. | กฎ | (กด) ก. จดไว้เป็นหลักฐาน เช่น ให้นายยกกระบัตรกฎปากหลากคำไว้ (กฎหมายอายัดทาส), ตรา เช่น ตรัสแก่ขุนศรีภูริปรีชาให้กฎเป็นตำราไว้ (อัยการเบ็ดเสร็จ), พระมหาธรรมราชาก็ตรัสให้กฎลงมาให้เอาพระยารามเป็นพระยาพิชัย (พงศ. ๑๑๓๖). (เทียบ ข. กต่ ว่า จด). | กฎหมายตราสามดวง | น. ประมวลกฎหมายโบราณของไทยซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้ชำระและปรับปรุงแก้ไขตัวบทกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อทำเสร็จแล้วได้ประทับดวงตราพระราชสีห์ พระคชสีห์ และบัวแก้ว ไว้เป็นสำคัญ จึงเรียกว่า กฎหมายตราสามดวง. | กรม ๕ | (กฺรม) ย่อมาจากคำว่า กรรม เช่น อวยสรรพเพียญชนพิธีกรมเสร็จกำนนถวาย (ดุษฎีสังเวย). | กระ ๔ | ใช้เป็นพยางค์หน้า (๑) ซึ่งเดิมเป็น ก กำ กุ ข ต ส เช่น กบิล-กระบิล, กำแพง-กระแพง, กุฎี-กระฎี, ขจัด-กระจัด, ตวัด-กระหวัด, สะท้อน-กระท้อน. (๒) โบราณใช้แทน ตระ เช่น ตระกูล-กระกูล, ตระลาการ-กระลาการ. (อัยการเบ็ดเสร็จ). (๓) เติมหน้าคำโดยไม่มีความหมายก็มี เช่น ซุ้ม-กระซุ้ม, โดด-กระโดด, พุ่ม-กระพุ่ม, ยาจก-กระยาจก, เติมให้มีความหมายแน่นแฟ้นขึ้นก็มี เช่น ทำ-กระทำ, ทุ้ง-กระทุ้ง, เสือกสน-กระเสือกกระสน. (๔) ยํ้าหน้าคำอันขึ้นต้นด้วย ก ในบทกลอน คือ กระกรี๊ด กระกรุ่น กระกลับกลอก กระเกริ่น กระเกรียม กระเกรียว กระเกรี้ยว กระเกริก. (๕) นอกนี้เป็น กระ มาแต่เดิม เช่น กระทรวง กระบือ. | กระเกรียม | ก. ตระเตรียม, จัดแจงไว้ให้เรียบร้อย, เช่น กระเกรียมพร้อมเสร็จสำเร็จการ (คาวี). | กรานกฐิน | (-กะถิน) ก. ขึงไม้สะดึง คือ เอาผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรเข้าขึงที่ไม้สะดึง เย็บเสร็จแล้วบอกแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ร่วมใจกันยกผ้าให้ในนามของสงฆ์เพื่ออนุโมทนา, ภิกษุผู้เย็บจีวรเช่นนั้น เรียกว่า ผู้กราน, สงฆ์ยกผ้าอันไม่พอแจกกันให้ภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุรูปนั้นทำตั้งแต่ซัก กะ ตัด เย็บ ย้อม เสร็จในวันนั้น ทำพินทุกัปปะอธิษฐานเป็นจีวรครอง เป็นจีวรกฐิน เรียกว่า . (อุปสมบทวิธี). (ดู กฐิน). | กรีดกราย | (-กฺราย) ว. อาการที่เดินทอดแขนและจีบนิ้ว, มีท่าทางหยิบหย่ง, เช่น มัวแต่เดินกรีดกรายอยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่จะทำงานเสร็จเสียที. | กล้อมแกล้ม | พูดอ้อมแอ้มพอให้ผ่านไป, พูดไม่สู้ชัดความเพื่อให้เสร็จไป, โดยปริยายหมายความว่า ทำพอให้ผ่าน ๆ ไป | กลางคัน | ว. ในระหว่างเหตุการณ์, ในระหว่างที่ยังไม่เสร็จ. | ก่อแล้วต้องสาน | ก. เริ่มอะไรแล้วต้องทำต่อให้เสร็จ. | กะล่อมกะแล่ม | พูดอ้อมแอ้มพอให้ผ่านไป, พูดไม่สู้ชัดความเพื่อให้เสร็จไป, โดยปริยายหมายความว่า ทำพอให้ผ่าน ๆ ไป | กัป | (กับ) น. อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์ มาล้างโลก, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ กัลป์ เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. (ป. กปฺป; ส. กลฺป). (ดู กัลป-, กัลป์). | กัลป-, กัลป์ | (กันละปะ-, กัน) น. กัป, อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์มาล้างโลก ซึ่งได้แก่ช่วงเวลากลางวัน วันหนึ่งของพระพรหม คือ ๑, ๐๐๐ มหายุค (เท่ากับ ๔, ๓๒๐, ๐๐๐, ๐๐๐ ปีมนุษย์) เมื่อสิ้นกัลป์ พระอิศวรจะล้างโลกด้วยไฟประลัยกัลป์ โลกจะไร้สิ่งมีชีวิตและอยู่ในความมืดมนจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ แล้วพระพรหมก็จะสร้างโลกเป็นการขึ้นต้นกัลป์ใหม่ โลกจะถูกสร้างและถูกทำลายเช่นนี้สลับกันตลอดอายุของพระพรหม ทั้งนี้ตามคติของพราหมณ์, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ กัป เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. | กำ ๓, กำม | น. กรรม เช่น ไข้เจ็บหมอตั้งกำไว้, ท่านว่าเป็นกำมของเขาเอง (อัยการเบ็ดเสร็จ). | กำลอง | ก. ลอง, ประลอง, เช่น เสร็จสองแทงกันจระโจรม จักแล่นแรดโซรม กำลองกำลังถเมินเชิง (สมุทรโฆษ). | เก๋งพั้ง | น. เรือสำปั้นขนาดใหญ่มีเก๋งกลางลำ เช่น เรือเก๋งพั้งทั้งสอง สำรองเสร็จ (นิ. ลอนดอน). | เก็บงาน | ก. ทำงานตอนสุดท้ายเพื่อเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อยสมบูรณ์ เช่น งานนี้ใกล้จะเสร็จแล้วอยู่ในระหว่างเก็บงาน. | ขยักขย่อน | (-ขะหฺย่อน) ก. ทำ ๆ หยุด ๆ ไม่ให้เสร็จในรวดเดียว. | ขลุบ | เบ้ากลมรูปเหมือนขลุบ มีแบบพิมพ์ติดอยู่บนเบ้านั้นเสร็จ เมื่อทองในเบ้าละลาย ก็พลิกควํ่าให้ทองไหลลงในแบบพิมพ์นั้น เรียกว่า เบ้าขลุบ | ขวัญ | สิ่งของที่ให้แก่เจ้าของขวัญเมื่อเสร็จพิธีทำขวัญแล้ว หรือสิ่งของที่ให้กันในเวลาอื่นเป็นการถนอมขวัญหรือเพื่ออัธยาศัยไมตรี เรียกว่า ของขวัญ | ของขวัญ | น. สิ่งของที่ให้แก่เจ้าของขวัญเมื่อเสร็จพิธีทำขวัญแล้ว | ขะมักเขม้น | (ขะมักขะเม่น) ก. ตั้งใจทำอย่างรีบเร่งเพื่อให้แล้วเสร็จไป, ก้มหน้าก้มตาทำ, เขม้นขะมัก ก็ว่า. | ขาเกวียน | น. ลูกล้อเกวียน เช่น ขาเกวียนขาหนึ่ง (อัยการเบ็ดเสร็จ). | ขิ่ง | ก. พยายามทำสิ่งที่ยากอันตนจะต้องทำให้เสร็จ เช่น ท้าวธผู้ข้อนขิ่งทำทาน (ม. คำหลวง ชูชก). | เขม้นขะมัก | (ขะเม่น-) ก. ตั้งใจทำอย่างรีบเร่งเพื่อให้แล้วเสร็จไป, ก้มหน้าก้มตาทำ, ขะมักเขม้น ก็ว่า. | แข่งเกมวิบาก | น. การเล่นชนิดหนึ่ง ผู้เล่นต้องวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางหรือทำกิจกรรมที่ยาก ๆ เช่น ใช้ปากควานหาสตางค์ในแป้ง สนเข็ม เป่าลูกโป่งให้แตก ใครทำเสร็จและวิ่งถึงเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ. | คณะกรรมาธิการวิสามัญ | น. คณะกรรมาธิการที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา แต่งตั้งจากผู้เป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกแห่งสภานั้น ๆ เพื่อปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่องที่สภามอบหมาย และเมื่อปฏิบัติหน้าที่เสร็จแล้ว คณะกรรมาธิการนั้นย่อมพ้นจากตำแหน่ง. | คาราคาก่า, คาราคาซัง | ว. ยังไม่เสร็จ, ยังไม่แล้ว, ค้างอยู่, ติดอยู่. | ค้าง ๑ | ก. ตกลงมาหรือขึ้นไปติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, ติดอยู่กลางทาง, ติดอยู่, เช่น เรือค้างแห้ง ค้างหนี้, ยังไม่แล้วเสร็จตามที่กำหนด เช่น ทำงานค้าง | จุลกฐิน | น. เรียกพิธีทอดกฐินที่ต้องทำตั้งแต่ปั่นฝ้าย ทอ เย็บ ย้อมผ้ากฐิน และถวายสงฆ์ให้เสร็จในวันเดียว, โดยปริยายหมายความว่า งานที่ต้องทำอย่างชุลมุนวุ่นวายเพื่อให้เสร็จทันเวลาอันจำกัด. | จูงนางลีลา | น. ชื่อท่ารำชนิดหนึ่งที่ควาญช้างรำเมื่อนำช้างบำรูงาเสร็จครั้งแรกแล้ว. | แจงรูป | น. วิธีเอาเถ้าถ่านและกระดูกศพที่เผาเสร็จแล้วบนกองฟอนมาเรียงลำดับเป็นอย่างรูปคน ให้หัวอยู่ทางทิศตะวันตกแล้วหันกลับมาทางทิศตะวันออก, แปรรูป หรือ แปรธาตุ ก็ว่า. | ใจร้อน | มีใจรีบร้อนอยากจะให้เสร็จเร็ว ๆ. | ชมพูพาดบ่า | น. ท่ารำท่าหนึ่งแห่งหมอช้าง รำเมื่อนำช้างบำรูงาเสร็จครั้งแรกแล้ว. | ชะลาน | น. ชื่อหนึ่งของฝนชะช่อมะม่วง ชาวนาเรียกว่า ฝนชะลาน เพราะมักตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ. |
| panhysterectomy | การตัดมดลูกเบ็ดเสร็จ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | receipt | ใบรับ, ใบเสร็จ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | settlement, comprehensive | การระงับข้อพิพาทแบบเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | state, totalitarian | รัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | acquittance | ๑. ใบเสร็จรับเงิน๒. หนังสือปลดหนี้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | jeweller's block policy | กรมธรรม์เบ็ดเสร็จคุ้มครองผู้ค้าอัญมณี [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | quittance | ๑. การปลดหนี้๒. ใบเสร็จรับเงิน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | block policy | กรมธรรม์เบ็ดเสร็จ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | completion bond | กรมธรรม์ค้ำประกันการเสร็จสมบูรณ์ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | comprehensive settlement | การระงับข้อพิพาทแบบเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | chose jugée (Fr.) | คดีที่ตัดสินเสร็จเด็ดขาดแล้ว, ปัญหาที่วินิจฉัยเด็ดขาดแล้ว [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | general provisions | บทเบ็ดเสร็จทั่วไป, บทบัญญัติทั่วไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | finish of denture | การตกแต่งฟันปลอมให้เสร็จ [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | final judgment | คำพิพากษาถึงที่สุด, คำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | IC (intergrated circuit) | ไอซี (วงจรรวม, วงจรเบ็ดเสร็จ) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | IC (integrated circuit) | ไอซี (วงจรรวม, วงจรเบ็ดเสร็จ) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integrated software | ส่วนชุดคำสั่งเบ็ดเสร็จ, ซอฟต์แวร์เบ็ดเสร็จ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integration test | การทดสอบเบ็ดเสร็จ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integrated circuit (IC) | วงจรรวม, วงจรเบ็ดเสร็จ (ไอซี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integrated circuit (IC) | วงจรรวม, วงจรเบ็ดเสร็จ (ไอซี) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | integrated development environment (IDE) | สิ่งแวดล้อมสำหรับการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (ไอดีอี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integrated drive electronics (IDE) | ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมหน่วยขับเบ็ดเสร็จ (ไอดีอี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | integrated network | ข่ายงานแบบเบ็ดเสร็จ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | IDE (integrated drive electronics) | ไอดีอี (ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมหน่วยขับเบ็ดเสร็จ) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | total war | สงครามเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | totalitarian state | รัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | totalitarianism | ระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | turn-key contract | สัญญาจ้างเหมาเสร็จพร้อมสรรพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | war, total | สงครามเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| แจงพระรูป | วิธีเอาเถ้าถ่านและกระดูกศพที่เผาเสร็จแล้วบนกองฟอนมาเรียงลำดับเป็นอย่างรูปคน ให้หัวอยู่ทางทิศตะวันตกแล้ว หันกลับมาทางทิศตะวันออก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แปรรูป หรือแปรธาตุ [ศัพท์พระราชพิธี] | ถวายพระพรลา | กระทำภายหลังจากที่พระสงฆ์สวดบท ภวตุ สพฺพมงฺคลํ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระสงฆ์รูปที่ ๒ จะต้องเป็นผู้กล่าวถวายพระพรลา ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้ คือ "ขอถวายพระพร เจริญพระราชสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมสุขทุกประการ จงมีแด่สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภาร พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เวลานี้สมควรแล้ว อาตมภาพทั้งปวง ขอถวายพระพรลา แด่สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภาร พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ขอถวายพระพร" [ศัพท์พระราชพิธี] | Ready-mixed concrete | คอมกรีตผสมเสร็จ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | พลับพลายก | มี ๓ หลัง ตั้งที่ท้องสนามหลวง นอกรั้วราชวัติ ด้านทิศเหนือ ๑ หลัง ใช้สำหรับเสร็จรับพระศพลงจากราชรถ ที่หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ๑ หลัง ใช้สำหรับเจ้านายฝ่ายในและประทับทอดพระเนตรกระบวนและถวายบังคมพระศพ และที่หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามอีก ๑ หลัง ใช้สำหรับเสด็จส่งพระศพขึ้นราชรถ [ศัพท์พระราชพิธี] | Work over | การกลับเข้าไปปฏิบัติงานกับหลุมที่ได้เจาะเสร็จสมบูรณ์แล้ว, การกลับเข้าไปปฏิบัติงานกับหลุมที่ได้เจาะเสร็จสมบูรณ์แล้ว หรือหลุมที่มีการผลิตแล้ว, Example: เพื่อการบำรุงรักษาหลุม หรือเพื่อซ่อมแซมหลุม หรือเพื่อเพิ่มสมรรถนะหลุมให้สามารถผลิตได้ดีขึ้น [ปิโตรเลี่ยม] | Integrated program | โปรแกรมเบ็ดเสร็จ [คอมพิวเตอร์] | ขะมักเขม้น | ตั้งใจทำอย่างรีบเร่งเพื่อให้แล้วเสร็จไป, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ขมักเขม้น ขะมักขะเหม้น [คำที่มักเขียนผิด] | ขะมักเขม้น | ตั้งใจทำอย่างเร่งรีบ เพื่อให้แล้วเสร็จไป, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ขมักเขม้น [คำที่มักเขียนผิด] | Integrated software | ส่วนชุดคำสั่งเบ็ดเสร็จ [TU Subject Heading] | Ready mixed concrete industry | อุตสาหกรรมคอนกรีตผสมเสร็จ [TU Subject Heading] | Ready-mixed concrete | คอนกรีตผสมเสร็จ [TU Subject Heading] | Total productive maintenance | การบำรุงรักษาทวีผลเบ็ดเสร็จ [TU Subject Heading] | Total quality management | การบริหารงานคุณภาพเบ็ดเสร็จ [TU Subject Heading] | Total quality management in education | การบริหารงานคุณภาพเบ็ดเสร็จทางการศึกษา [TU Subject Heading] | Total quality management in government | การบริหารงานคุณภาพเบ็ดเสร็จทางราชการ [TU Subject Heading] | Full Service Collection | การเก็บ(ขยะ)เบ็ดเสร็จ, Example: การรวบรวมขยะโดยองค์กรหรือบริษัท โดยผู้ผลิตขยะเพียงแต่นำขยะใส่ไว้ในถังเก็บขยะ [สิ่งแวดล้อม] | Integrated Solid Waste Management | การจัดการขยะเบ็ดเสร็จ, Example: การจัดการขยะโดยพิจารณาตั้งแต่จุดเกิดขยะจนถึง จุดกำจัดสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วยการคัดแยก การเก็บ จน กระบวนการแยกและแปรรูป สถานีขนถ่าย และระบบกำจัด [สิ่งแวดล้อม] | Aftercare | การดูแลหลังเสร็จ, Example: การดูแลพื้นที่ใช้ฝังกลบขยะแล้ว ไม่ให้สร้างปัญหาแก่สิ่งแวดล้อม [สิ่งแวดล้อม] | Aide-memoire หรือ Memoire | แปลตามตัวอักษรว่า ช่วยความจำ เป็นหนังสือโต้ตอบทางการทูตประเภทหนึ่ง คือ บันทึกสังเขปของการเจรจาที่ได้กระทำกันเสร็จสิ้นแล้ว บันทึกช่วยจำเช่นนี้ไม่มีการกล่าวนำเป็นทางการและไม่มีการลงชื่อ ซึ่งจะมอบให้แก่กันเมื่อเสร็จการเจรจากันแล้ว ความมุ่งหมายของบันทึกนี้คือ เพื่อบันทึกข้อเท็จจริงไว้เป็นหลักฐานซึ่งผู้รับบันทึกทราบดีแล้วบันทึกช่วย จำก็คือ บันทึกสรุปการสนทนาทางการทูตอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้แทนหรือพนักงานทางการทูตกับหัวหน้าหรือพนักงานของกระทรวงการต่าง ประเทศ จุดประสงค์ตามที่ชื่อบ่งอยู่แล้วว่า เป็นการสรุปประเด็นต่าง ๆ ในการสนทนาเพื่อเตือนความจำนั้นเอง ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะมอบบันทึกนี้ไว้กับกระทรวงการต่างประเทศ ในบันทึกนั้นบรรทัดแรกจะระบุว่าใครเป็นผู้ส่งและใครเป็นผู้รับบันทึก ผู้ส่งบันทึกจะต้องลงชื่อย่อกำกับบันทึกไว้ด้วยบันทึกช่วยจำอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า pro memoria โดยปกติภาษาที่ใช้ใน pro memoria จะมีลักษณะถ้อยคำเป็นทางการมากกว่า aide-memoire [การทูต] | Congress of Vienna | เป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในยุโรป ได้จัดให้มีขึ้นหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน (กันยายน ค.ศ. 1814 ? มิถุนายน ค.ศ. 1815) ประเทศที่ร่วมการประชุมมี ออสเตรีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัฐสันตะปาปา ปรัสเซีย และรัสเซีย ภาระหน้าที่สำคัญของการประชุม คือ การปักปันเขตแดนกันใหม่ และจัดให้ราชวงศ์เก่าแก่กลับฟื้นคืนมาใหม่ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเยอรมนี สหภาพแห่งนอร์เวย์ และสวีเดน สหภาพแห่งเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ พร้อมทั้งกำหนดให้สวิตเซอร์แลนด์ มีฐานะเป็นประเทศเป็นกลางถ้ามองในแง่การทูต ผลสำเร็จสำคัญที่สุดจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาคือ ข้อมติกำหนดลำดับอาวุโสของคณะผู้แทนทางการทูต โดยถือหลักอาวุโสไม่ว่าในตำแหน่งใด แทนที่จะถือตามสถานภาพและความสำคัญของกษัตริย์อย่างแต่ก่อน รวมทั้งจัดประเภทของนักการทูต ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท (ตามระเบียบที่วางขึ้นใหม่ต่อมาในการประชุม ณ Aix-la-Chapelle ได้แก่1) เอกอัครราชทูต (Ambassadors) ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal legates) และหัวหน้าคณะทูตของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncios)2) ผู้แทนทางการทูตผู้มีอำนาจพิเศษ (Envoys Extra-ordinary) และเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม (Ministers Plenipotentiary) อินเตอร์นันสิโอของสมเด็จพระสันตะปาปา3) อัครราชทูตผู้มีถิ่นประจำ (Ministers Resident)4) อุปทูต (Chargé d?affaires)คองเกรสแห่งเวียนนายังวางระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการจัดลำดับ อาวุโสของบุคคลในคณะทูต ซึ่งชาติต่าง ๆ ได้ลงนามรับรองในสนธิสัญญาพาหุภาคีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว [การทูต] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | Diplomatic Language | ภาษาการทูต ในสมัยโบราณจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 รัฐทั้งหลายในสมัยนั้นได้นิยมใช้ภาษาละตินเป็นภาษาการทูตและก็เป็นภาษาเดียว ที่ใช้กันในยุโรปภาคกลางและภาคตะวันตก ต่อมาในราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทนภาษาละตินเป็นภาษาการทูต และใช้กันตลอดมาจนถึงสมัยสงครามโลกครั้งแรก หลังจากเสร็จสงครามโลกครั้งแรกจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐต่างๆ เริ่มนิยมใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังไม่มีการรับรองเป็นทางการกันว่าให้ใช้ภาษาใดเป็นภาษาทางการทูตใน องค์กรทั้งหมดของสหประชาชาติยกเว้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ใช้ 5 ภาษาเป็นภาษาราชการ คือ ภาษาจีน รัสเซีย สเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส ดังนั้น ในการประชุมใด ๆ ณ องค์การสหประชาชาติ หากมีการแถลงเป็นภาษาหนึ่ง ก็จะมีการแปลเป็นอีก 4 ภาษาเกือบพร้อมกันในทันที (Simultaneous Translation) สำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เพียงสองภาษา [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | Normal Diplomacy | การติดต่อทางการทูตโดยวิถีทางทูตตามปกติ มักจะกระทำกันดังนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการจะหยิบยกปัญหาขึ้นกับอีกรัฐบาลหนึ่ง ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะส่งคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตของ ประเทศตนที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับส่งให้ยกเรื่องนั้นขึ้นเจรจากับรัฐบาล ของประเทศผู้รับ โดยปกติเอกอัครราชทูตจะมีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศผู้รับนั้นก่อน หรือไม่ก็ไปพบกับรัฐมนตรีด้วยตนเอง ณ กระทรวงการต่างประเทศ การเจรจากันอาจทำให้จำเป็นต้องมีการบันทึกของทูตแลกเปลี่ยนกันขึ้น ในรูปบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire ) ในบางกรณี เอกอัครราชทูตจำเป็นต้องไปพูดจา ณ กระทรวงการต่างประเทศ อีกหลายครั้งกว่าจะเสร็จเรื่อง ในระหว่างนั้น เอกอัครราชทูตมีหน้าที่จะต้องรายงานผลการเจรจาแต่ะครั้งไปยังกระทรวงการต่าง ประเทศของตน และบางคราวอาจจะต้องขอคำสั่งเพิ่มเติมอีกเมื่อเกิดกรณีใหม่โดยมิได้คาดหมาย มาก่อนเป็นต้น ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้รับก็จะส่งคำสั่งไปยังเอก อัครราชทูตของตน แนะว่าควรดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเจรจากันกับรัฐบาลของ ประเทศที่ตนประจำอยู่ผลการเจรจาอาจเป็นที่ตกลงกันได้ระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ฝ่าย หรืออาจจะจบลงด้วยภาวะชะงักงัน ( Stalemate ) หรือรัฐบาลทั้งสองอาจจะตกลงกันว่าไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปก่อน จนกว่าจะมีการรื้อฟื้นเจรจากันใหม่ บางคราวปัญหาที่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น อาจกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อไปก็ได้ [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | Organization of European Economic Cooperation | คือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Presentation of Credentials | หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต] | The League of Nations | สันนิบาตชาติ เป็นองค์การที่ตั้งขึ้นตามสนธิสัญญาแวร์ซาย และสนธิสัญญาอื่น ๆ ที่ทำขึ้นตอนเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และสถาปนาเป็นองค์การระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา สันนิบาตชาติมีหน้าที่สำคัญสองประการ คือ1. ดูแลให้มีการปฏิบัติเป็นไปตามสนธิสัญญา2. ให้โลกมีสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศแต่สันนิบาตชาติมีอายุอยู่ได้ ไม่นาน อุปสรรคสำคัญที่สุดอันหนึ่ง คือ ไม่มีสหรัฐอเมริการ่วมเป็นสมาชิกขององค์การด้วย สันนิบาตชาติประชุมกันเป็นสมัยประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1939 และหมดสภาพเป็นองค์การระหว่างประเทศลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1946 ทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดได้โอนไปให้แก่องค์การสหประชาชาติ [การทูต] | United Nations Conference on Trade and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) " เป็นองค์กรของสหประชาชาติที่รับผิดชอบเรื่องการค้า การเงิน การ ลงทุน เทคโนโลยี และการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีหน้าที่เป็นเวทีประสานนโยบายระหว่างรัฐบาล ศึกษาวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจโลกและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศ กำลังพัฒนา ปัจจุบันมีรัฐสมาชิก 190 ประเทศ ประชุมระดับรัฐมนตรีปีละ 4 ครั้ง ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอังค์ถัดครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 10) เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2543 " [การทูต] | Completed contract method | วิธีเมื่องานเสร็จสิ้นตามสัญญา [การบัญชี] | Percentage of completion method | วิธีอัตราส่วนของงานที่ทำเสร็จ [การบัญชี] | Receipt | ใบเสร็จรับเงิน [การบัญชี] | Comprehensive | เบ็ดเสร็จ, ความเข้าใจ [การแพทย์] | Comprehensive Dental Care | ทันตกรรมเบ็ดเสร็จ, การบริการ [การแพทย์] | Comprehensive Health Care | สาธารณสุขเบ็ดเสร็จ, การบริการ;การให้บริการอนามัยเบ็ดเสร็จ;การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ;บริการอนามัยเบ็ดเสร็จ;บริการอนามัยเบ็ดเสร็จ;การให้บริการอนามัยเบ็ดเสร็จ [การแพทย์] | Comprehensive Program | กิจกรรมเบ็ดเสร็จ [การแพทย์] | Comprehensive Services | บริการแบบเบ็ดเสร็จ [การแพทย์] | Comprehensiveness of Medical Care | การให้บริการทางการแพทย์แบบเบ็ดเสร็จ [การแพทย์] | Form-Fill-Seal Packaging Process | ซองบรรจุ-ปิดผนึกเสร็จเรียบร้อยเลย [การแพทย์] |
| ใบเสร็จ | [baiset] (n) EN: receipt ; bill ; sales check FR: reçu [ m ] ; récépissé [ m ] | ใบเสร็จรับเงิน | [baiset rap ngoen] (n) EN: receipt ; bill ; sales check FR: quittance [ f ] ; acquit [ m ] ; reçu [ m ] | เบ็ดเสร็จ | [betset] (adj) EN: all-inclusive ; total FR: total ; tout compris | เบ็ดเสร็จ | [betset] (adv) EN: entirely ; in total ; altogether ; absolutely ; completely | การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่เพิ่งลงคะแนนเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ | [kān samrūat khwām khithen jāk prachāchon thī phoeng longkhanaēn set sot-sot røn-røn] (xp) EN: exit poll FR: sondage effectué à la sortie des bureaux de vote [ m ] | ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ | [khāchaijāi betset] (n, exp) EN: total expenditure FR: dépense totale [ f ] | เครื่องออกใบเสร็จรับเงิน | [khreūang øk baiset rap ngoen] (n, exp) EN: receipt dispenser | กินข้าวเสร็จ | [kinkhāo set] (v, exp) FR: après avoir mangé ; le repas une fois terminé | ไม่เสร็จ | [mai set] (adj) FR: inachevé ; pas prêt | เหมาเสร็จ | [mao set] (x) EN: all in all | ออกใบเสร็จ | [øk baiset] (v, exp) EN: make out a receipt | ผสมเสร็จ | [phasomset] (n) EN: Asian Tapir | ระบบเบ็ดเสร็จ | [rabop betset] (n, exp) EN: totalitarianism | รวมเบ็ดเสร็จ | [rūambetset] (adj) EN: total | เสร็จ | [set] (v) EN: finish ; finished FR: terminer ; achever ; finir ; être prêt | เสร็จ | [set] (adj) EN: finished ; completed ; done ; over ; ready FR: fini ; prêt ; terminé ; achevé ; accompli | เสร็จแล้ว | [set laēo] (v, exp) EN: finished, done FR: c'est fait ; c'est prêt ; c'est fini ; c'est terminé | สมเสร็จ | [somset] (n) EN: Asian Tapir FR: tapir [ m ] | ทำให้เสร็จ | [thamhai set] (v, exp) FR: finir ; terminer | ทำเสร็จ | [tham set] (v, exp) FR: achever | เบ็ดเสร็จ | [wongjøn betset] (n, exp) EN: integrated circuit | ยังไม่เสร็จ | [yang mai set] (adj) EN: unfinished FR: en cours ; pas encore prêt ; pas fini ; pas terminé |
| collaborative | (adj) ทำด้วยความร่วมมือกันจากหลายคน หรือ หลายฝ่าย มีการช่วยเหลือกัน เพื่อให้งานเสร็จสิ้น |
| acceptor | (n) ผู้ที่ยอมรับใบเสร็จ (เพื่อจ่ายเมื่อถึงกำหนด) | accomplish | (vt) ทำสำเร็จ, See also: ทำเสร็จ, แล้วเสร็จ, บรรลุผล, Syn. complete, perform, reach | arbitrary | (adj) เกี่ยวกับอำนาจเบ็ดเสร็จ, See also: เกี่ยวกับอำนาจเผด็จการ | all over | (idm) เสร็จสิ้น, See also: ยุติ, จบ | all over with | (idm) จบสิ้น, See also: เสร็จ | as good as done | (idm) เกือบจะเสร็จ (อาจใช้กริยาอื่นแทน done ได้เช่น cooked, painted ฯลฯ) | backlog | (n) งานคั่งค้าง, See also: งานที่ยังทำไม่เสร็จ, Syn. accumulation, reserve | batter | (n) ส่วนผสมที่ทำจากแป้ง นมและไข่, See also: ส่วนผสมของแป้งเค้กที่ผสมเสร็จแล้ว | be all over and done with | (idm) เสร็จสมบูรณ์, See also: เสร็จสิ้น, จบสิ้น, Syn. fininish with | be done for | (phrv) จบแล้ว, See also: เสร็จ | be done with | (phrv) ทำ (บางสิ่ง) เสร็จ, See also: ทำ บางสิ่ง จบ, Syn. finish with | be off | (phrv) เลิกงาน, See also: หมดหน้าที่, ทำงานเสร็จ, ทำหน้าที่เสร็จแล้ว, Syn. get off, stay off | be over | (phrv) จบ, See also: เสร็จ, เลิก, Syn. get over, get through, have over | be through | (phrv) ทำเสร็จ, See also: เสร็จสิ้น, จบ, สิ้นสุด | button up | (phrv) ทำให้สมบูรณ์, See also: ทำให้เสร็จ, ทำให้เรียบร้อย | check | (n) ใบเสร็จ, Syn. chit, tab | chit | (n) ใบเสร็จ, Syn. check, tab | complete | (adj) ที่เสร็จสิ้น, Syn. finished, ended | complete | (vt) เสร็จ, See also: จบ, เสร็จสิ้น, Syn. accomplish, perfect | completely | (adv) อย่างเสร็จสมบูรณ์ | completion | (n) การทำเสร็จ, Syn. finish, fulfillment, conclusion | consummate | (vt) ทำให้เสร็จสมบูรณ์, Syn. accomplish, finish | counterfoil | (n) ส่วนต้นขั้วของเช็คหรือใบเสร็จ, Syn. stub, check stub | call it a day | (idm) ทำเสร็จไปแล้ว | clear off | (phrv) ทำให้เสร็จ, See also: ทำให้จบ, Syn. clear up | clear up | (phrv) ทำให้เสร็จ, Syn. clear off | clock off | (phrv) เลิกงาน, See also: เสร็จงาน, สิ้นสุดการทำงาน, Syn. clock out | clock out | (phrv) เลิกงาน, See also: เสร็จงาน, สิ้นสุดการทำงาน, Syn. check off, check on, check out, clock in, clock off, ring out | fasten off | (phrv) ผูกไว้กับ...แล้ว, See also: ติดเสร็จแล้ว | fetch up | (phrv) จบลงด้วย, See also: เสร็จสิ้นด้วย, สิ้นสุดที่, Syn. end up, finish up | finish off | (phrv) ทำให้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์, Syn. end off, finish up, mop up | finish up | (phrv) ทำให้เสร็จสิ้น, Syn. end off, finish off, mop up, polish off | finish with | (phrv) ทำให้...จบลงด้วย, See also: สิ้นสุดด้วย, ทำให้เสร็จด้วย, Syn. end with | follow out | (phrv) ทำให้สำเร็จ, See also: จัดการให้เสร็จ, Syn. follow through | deadline | (n) กำหนดเวลาสุดท้ายที่ต้องทำให้เสร็จ, See also: เส้นตาย, Syn. end, limit | done | (adj) เสร็จสิ้น, See also: จบ, เสร็จ, เรียบร้อย, Syn. complete, ended, Ant. unfinished, incomplete | finalize | (vt) ทำให้เสร็จสมบูรณ์, Syn. work out, complete, settle | finalize | (vi) เสร็จสมบูรณ์ (ข้อตกลง), See also: บรรลุความสำเร็จ, Syn. conclude, settle | finish | (vt) เสร็จ, See also: เสร็จสิ้น, Syn. complete, conclude, round off | finished | (adj) ที่เสร็จเรียบร้อย (ผลิตภัณฑ์), See also: ที่สำเร็จเรียบร้อยแล้ว, Syn. completed, done | get out of | (phrv) กำจัด (คน), See also: จัดการ งาน ให้เสร็จสิ้นฐ พาออกไป คน | get through with | (phrv) ทำเสร็จด้วย, See also: เสร็จด้วย, Syn. go through, take through | half-finished | (adj) ที่ยังค้างคา, See also: ที่ยังไม่เสร็จ, ที่ยังทำไม่เสร็จ, Syn. incomplete, unfinished, Ant. complete, finished | over and done with | (idm) จบ, See also: เสร็จสิ้น, เสร็จ | pan out | (idm) จบอย่างมีความสุข, See also: จบด้วยดี, เสร็จสิ้นอย่างราบรื่น | race against time | (idm) งานที่ต้องทำให้เสร็จตรงเวลา, See also: งานที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลา | rack against time | (idm) รีบทำให้เสร็จตรงเวลา | turn out all right | (idm) จบอย่างมีความสุข, See also: จบด้วยดี, เสร็จสิ้นอย่างราบรื่น | work out all right | (idm) จบอย่างมีความสุข, See also: จบด้วยดี, เสร็จสิ้นอย่างราบรื่น | land up | (phrv) เสร็จสิ้น, Syn. end up |
| absolutism | (แอบ' โซทิส' ซึม) n . ลัทธิเบ็ดเสร็จหรือเผด็จการ. -absolutist n. | alpha test | การทดสอบรอบแรกหมายถึง การนำเอาโปรแกรมสำเร็จที่เขียนเสร็จใหม่ ๆ ไปให้ "กลุ่มลูกค้าประจำ" ทดลองใช้ดูก่อน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ให้ช่วยเป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นให้ เพื่อจะดูว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นใช้ได้ดีหรือไม่ ยังขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง หรือมีปัญหาในเรื่องใด โดยปกติแล้ว การทดลองนำไปใช้ครั้งแรกนี้ จะยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขอีกมาก โปรแกรมดังกล่าวจะมีข้อความบ่งบอกไว้ว่า เป็น alpha version หมายความว่า รุ่นทดสอบรอบแรก ดู beta version ประกอบ | alpha version | รุ่นทดสอบรอบแรกหมายถึง การนำเอาโปรแกรมสำเร็จที่เขียนเสร็จใหม่ ๆ ไปให้ "กลุ่มลูกค้าประจำ" ทดลองใช้ดูก่อน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ให้ช่วยเป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นให้ เพื่อจะดูว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นใช้ได้ดีหรือไม่ ยังขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง หรือมีปัญหาในเรื่องใด โดยปกติแล้ว การทดลองนำไปใช้ครั้งแรกนี้ จะยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขอีกมาก โปรแกรมดังกล่าวจะต้องมีข้อความบ่งบอกไว้ว่าเป็นรุ่นทดสอบรอบแรก มีความหมายเหมือน alpha testดู beta version ประกอบ | authoritarian | (ออธอริแท'เรียน) adj. เกี่ยวกับอำนาจเบ็ดเสร็จ, เกี่ยวกับอำนาจเผด็จการ. -n. ผู้ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ, ผู้ใช้อำนาจเผด็จการ. | batch processing | การประมวลผลเชิงกลุ่มหมายถึงการประมวลผลที่ทำต่อเนื่องกันไปตามลำดับโดยมีระบบปฏิบัติการ (operating system) เป็นตัวควบคุม ในการประมวลผลแบบนี้ เราจะต้องจัดรวบรวมข้อมูลและแบ่งแยกเป็นกลุ่มไว้ให้เรียบร้อยก่อน จึงส่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลทีเดียว เมื่อเสร็จแล้วจึงจัดรวบรวมเป็นรายงาน หรือสรุปผลอีกทีหนึ่ง วิธีการประมวลผลแบบนี้ทำง่าย ประหยัด และตรงไปตรงมา แต่อาจจะช้าไปบ้าง เพราะต้องรอให้ข้อมูลเรียบร้อยก่อน ตรงกันข้ามกับการประมวลผลแบบเชื่อมตรง (on line proessing) ซึ่งหมายถึงการที่เครื่องจะประมวลผลทันทีที่ได้รับข้อมูลดู on line processing ประกอบ | bill | (บิล) { billed, billing, bills } n. ตั๋วเงิน, พันธบัตร, ธนบัตร, บิล, ใบเสร็จ, ใบแสดงรายงานซื้อขาย, พระราชบัญญัติ, ญัตติ, ร่างญัตติ, คำโฆษณา, รายการ, หนังสือยื่นฟ้อง, จะงอยปาก, ปากนก -Phr. (a Bill of Oblivion พระราชบัญญัติอภัยโทษ) -Id. (bill the bill สนองความต้องการทั้งหมด | buffer | (บัฟ'เฟอะ) { buffered, buffering, buffers } n. ตัวกันชน, สารที่สามารถทำให้ทั้งกรดและด่างเป็นกลาง, เครื่องขัดเงา, คนงานขัดเงา vt. ใส่ตัวทำให้กรดหรือด่างเป็นกลาง, ผ่อนคลาย, ปกป้อง, กันชน, Syn. cushion ที่พัก ข้อมูล กันชนบัฟเฟอร์ในกรณีที่อัตราความเร็วในการทำงานของอุปกรณ์บางอย่างมีความเร็วไม่เท่ากัน เป็นต้นว่า เครื่องพิมพ์และหน่วยประมวลผลซึ่งทำงานด้วยความเร็วที่แตกต่างกันมาก คอมพิวเตอร์ประมวลผลเสร็จแล้วจึงต้องส่งผลมารออยู่ที่บัฟเฟอร์ก่อน เพราะเครื่องพิมพ์จะใช้เวลามากกว่าในการพิมพ์ พิมพ์ตามไม่ทัน เราจะพบบ่อย ๆ ว่า แม้ว่าจะสั่งให้หยุดพิมพ์ แต่เครื่องพิมพ์จะไม่หยุดทันที ทั้งนี้เป็นเพราะมีข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งไปรออยู่ที่บัฟเฟอร์แล้ว เครื่องพิมพ์จะต้องพิมพ์จนหมดข้อมูลในบัฟเฟอร์นี้ จึงจะหยุด คอมพิวเตอร์นั้นจะมีที่พักข้อมูลทั้งเมื่อรับข้อมูลเข้าและเมื่อส่งข้อมูลออก อันที่จริง บัฟเฟอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยความจำนั่นเอง | call | (คอล) { called, calling, calls } vt., vi., n. (การ) เรียก, ร้องเรียก, ร้องขอ, เรียกให้ตื่น, อ่านออกเสียง, เข้าใจว่า, ถือว่า, ให้ชื่อ, มีชื่อ, มีนามว่า, เรียกไพ่, โทรศัพท์, สั่ง, ออกคำสั่ง, ไปเยี่ยม, แวะรับ, ตำหนิ, เลียนแบบ, Syn. exclaim เรียกเป็นคำสั่งที่ใช้ในโปรแกรม หมายถึง การสั่งให้โอนย้ายการทำงานชั่วคราวจากโปรแกรมหลัก main program ที่ทำอยู่ ไปทำงานที่โปรแกรมย่อย subprogram เป็นการชั่วคราว เมื่อทำงาน ในโปรแกรมย่อยเสร็จแล้ว ก็จะส่งผลที่ได้กลับไปทำในโปรแกรมหลักต่อ โดยจะกลับไปเริ่มที่คำสั่งถัดจากคำสั่ง "call" นั้น | central processing unit | หน่วยประมวลผลกลางนิยมใช้ตัวย่อว่า CPU (ซีพียู) หมายถึง ส่วนที่เป็นสมองของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือส่วนที่เรียกว่าตัวประมวลผล (microprocessor) และหน่วยความจำ ประกอบด้วยชิป (chip) ส่วนนี้นับเป็นส่วนสำ คัญที่สุด เพราะเป็นส่วนที่ใช้ทำหน้าที่ในการประมวลผล หรือทำการคำนวณ เมื่อทำการประมวลผล หรือคำนวณในส่วนนี้เสร็จแล้ว ก็จะถ่ายโอนผลลัพธ์ที่ได้ไปไว้ในส่วนอื่นอีกชั้นหนึ่ง ดู input unit และ output unit ประกอบ | child's play | n. สิ่งที่ทำให้เสร็จได้ง่ายมาก, ของกล้วย ๆ | chit | (ชิท) n. เด็ก, เด็กสาว, เด็กเล็ก ๆ , ใบเซ็นชื่อเชื่อ, ใบเสร็จรับของ, ใบสำคัญหลักฐานการจ่าย, จดหมายที่มีข้อความเล็กน้อย, หน่ออ่อน, หน่อ vt. เด็ดเอาหน่อออก, Syn. child | collate | (โคเลท') { collated, collating, collates } vt. ตรวจเทียบ, ตรวจทาน, ตรวจปรู๊ฟ, ปรับให้เหมาะสม, ลำดับหน้า, เรียง, แต่งตั้งตำแหน่งทางศาสนาคริสต์ รวมแฟ้มเรียง1. หมายถึงการนำแฟ้มข้อมูลมาเรียงกัน2. เป็นคำสั่งพิมพ์เมื่อต้องการพิมพ์หลายชุด (ถ้าใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์) แต่ต้องการให้พิมพ์ให้เสร็จทีละชุด (แทนที่จะพิมพ์หน้าเดียวกันให้ครบจำนวนชุดที่ต้องการ) การพิมพ์แบบ collate จะใช้เวลาในการพิมพ์มากกว่า | complete | (คัมพลีท') { completed, completing, completes } adj. สมบูรณ์, เสร็จ, สำเร็จ, ครบ, สมบูรณ์, พร้อม, เต็มที่, สิ้นเชิง vt. ทำให้เสร็จ, ทำให้สมบูรณ์, ทำให้ครบ, ส่งฟุตบอลไปข้างหน้าได้สำเร็จ, Syn. remainder, balance -Conf. completer | completion | (คัมพลี'เชิน) n. การทำให้สมบูรณ์, การทำให้เสร็จ, การสำเร็จลุล่วง, การสรุป, การส่งลูกฟุตบอลไปข้างหน้าได้สำเร็จ, Syn. fulfillment, attainment | completive | (คัมพลี'ทิฟว) adj. เสร็จ, ซึ่งสำเร็จลุล่วง | con | (คอน) 1. { conned, conning, cons } v. ต่อต้าน, แย้ง, เรียนรู้, ศึกษา, ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง, จำไว้, นำเรือ, ถือพวงมาลัยเรือ n. การต่อต้าน, การโต้เถียง, ผู้คัดค้าน, ผู้ลงบัตรคัดค้าน, นักโทษ, วัณโรค adj. ซึ่งหลอกให้เชื่อ 2. ย่อมาจากคำว่า CONsole ซึ่งศัพท์บัญญัติฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า ส่วนเฝ้าคุม ในวงการคอมพิวเตอร์ มักจะหมายถึง อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ส่วนที่เป็นแป้นพิมพ์และจอภาพ เป็นต้นว่า คำสั่ง COPY CON:autoexec.bat เป็น คำสั่งที่นำมาใช้เมื่อต้องการนำข้อความที่เราพิมพ์จากแป้นพิมพ์และมองเห็นบนจอภาพ (โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมประมวลผลคำ) คัดลอกเข้าไปเก็บไว้เป็นแฟ้มข้อมูลแฟ้มหนึ่ง ชื่อว่า autoexec.bat เมื่อพิมพ์ข้อความที่ต้องการเสร็จแล้ว ให้กด CTRL+Z หลังจากนั้น ในคอมพิวเตอร์ก็จะมีแฟ้มข้อมูลชื่อ autoexec.bat ซึ่งบรรจุข้อความที่พิมพ์ไว้นั้น | consummate | (คันซัม'มิท) { consummated, consummating, consummates } vt. ทำให้สมบูรณ์, ทำให้บรรลุถึงจุดสุดยอด (โดยการสังวาส) adj. สมบูรณ์, เสร็จบริบูรณ์, ดีเลิศ., See also: consummation n. ดูconsummate consummative adj. ดูconsummate consummatory adj. ดูconsummat | counterfoil | (เคา'เทอะฟอยล์) n. ต้นขั้ว (เช็คใบเสร็จหรืออื่น ๆ) | dash | (แดช) { dashed, dashing, dashes } vt. กระแทก, ทุบแตก, ชน, สาดอย่างแรง, ผสมหรือเจือปน, ทำลาย, ทำให้หดหู่ใจ, ทำให้ยุ่งเหยิง, ทำให้เสร็จโดยเร็ว vi. กระแทก, ชน, โถมเข้าไป, พุ่งเข้าชน, พุ่งไปอย่างรวดเร็ว n. การสาดน้ำ, เสียงสาดน้ำ, ปริมาณน้อย ๆ ที่ผสมเข้าสิ่งอื่น, เครื่องหมาย (๛) , ข | done | (ดัน) v. กริยาช่อง 3 ของ do. -adj. สมบูรณ์, เสร็จ, เรียบร้อย, ตลอด, ต้มสุกแล้ว, หมดแรงใช้การไม่ได้, ใช้หมดแล้ว -Phr. (done for เหนื่อย, หมดแรง, ตาย, ใกล้ตาย) . Phr. (done in หมดแรง อ่อนเพลียมาก) ., See also: done! ใช้การได้! เห็นด้วย คำที่มีความหมายเหมือนกั | drag and drop | ลากแล้วปล่อยลากไปวางหมายถึง การใช้เมาส์ลากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ภาพหรือข้อความทั้งบล็อก) บนจอภาพ ไปวางไว้ยังตำแหน่งใหม่ โดยต้องกำหนด (select) ให้คอมพิวเตอร์รู้ก่อน แล้วจึงใช้เมาส์ลากไป การลากด้วยเมาส์นั้น จะต้องกดนิ้วชี้บนปุ่มซ้ายของเมาส์แช่ไว้ ในขณะที่ลากเมาส์เพื่อนำไปวางในที่ ๆ ต้องการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะยกนิ้วออกจากเมาส์ได้ ในโปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) อาจลากไปได้ทั้งแถวหรือทั้งคอลัมน์ | drum printer | เครื่องพิมพ์แบบดรัมเป็นอุปกรณ์แสดงผลชนิดเครื่องพิมพ์ ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์แบบกดตัวพิมพ์ผ่านผ้าหมึกพิมพ์ ตัวพิมพ์จัดเรียงเป็นแถวบนพื้นผิวทรงกระบอกหมุนวนอยู่ตลอดเวลา การพิมพ์แบบนี้ จะพิมพ์ไปทีละตัว เช่นพิมพ์ตัว A ทุกตัวที่มีอยู่ในบรรทัดหนึ่ง ๆ เมื่อกดพิมพ์ตัว A หมุนผ่านช่องพิมพ์เสร็จแล้ว ก็จะพิมพ์ตัว B ต่อไปตามลำดับจนหมดตัวอักษร ซึ่งหมายถึงกระบอกตัวพิมพ์หมุนรอบตัวมันเองครบหนึ่งรอบ | enter key | แป้นป้อนเข้าหมายถึง แป้นที่จะใช้กด เมื่อพิมพ์คำสั่งเสร็จแล้ว และต้องการให้คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานตามคำสั่ง ถ้าเป็นโปรแกรมประมวลผลคำ (word processing) แป้นนี้เป็นแป้นสำหรับสั่งให้ขึ้นย่อหน้าใหม่ ในบางครั้งก็เรียกกันว่า Return key และมักเขียนย่อว่า <RET> ในบางโปรแกรม แป้นนี้อาจถูกกำหนดให้ทำอย่างอื่นก็ได้ แป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ จะต้องมีแป้นนี้ | exit | (เอค'ซิท, เอค'ซิท) n. ทางออก, ประตูฉุกเฉิน, การจากไป, การลงจากเวที, การตาย. vi. ออกไป, จากไป, ลงจากเวที, ตาย. -make one's exit ออกไป, จากไป, Syn. outlet, ออกทางออกหมายถึงคำสั่งที่ผู้ใช้โปรแกรมใช้ เมื่อต้องการหยุดหรือเลิกใช้โปรแกรมนั้นเพื่อกลับออกไปสู่ระบบปฏิบัติการ operating systems หลังจากที่ใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมต่าง ๆ ของแมคอินทอชมักจะใช้คำว่า Quit แทน ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกัน ในระบบวินโดว์ของพีซี ทุกโปรแกรมจะมีคำสั่งนี้ไว้ให้เลือกใต้เมนู File ซึ่งเป็นคำสั่งกลับออกไปยังระบบวินโดว์นั้นเอง | finish | (ฟิน'นิช) { finished.finishing, finishes } v. ทำให้เสร็จ, ทำให้หมด, ทำจบ, เสร็จ, จบ, สิ้นสุด, ยุติ, เอาชนะได้สิ้นเชิง, ทำลาย, ฆ่า. n. สุดท้าย, วาระสุดท้าย, ความตาย, ความเกลี้ยงเกลา, ยาขัดเงา, ผิวหน้าที่เกลี้ยงเกลา, ความมันเป็นเงา, ลาย, พื้นหน้าเคลือบเงา, See also: fi | finished | (ฟิน'นิชทฺ) adj. ปลาย, สิ้นสุด, เสร็จ, ยุติ, สมบูรณ์, ดีเยี่ยม, ประณีตงดงาม | fourth generation compute | คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่คอมพิวเตอร์ในยุคที่สี่นี้มีขนาดของหน่วยความจำเล็กกว่ายุคที่สามลงไปอีก มีการนำไอซี (IC หรือ integrated circuit) หรือวงจรเบ็ดเสร็จมารวมกันเป็นแผงใหญ่ ๆ เรียกว่าแผงวงจรรวมความจุสูง (large scale integrated circuit) หรือบางทีเรียกกันว่าชิป (chip) ทำให้สร้างคอมพิวเตอร์ได้เล็กลงมาก จึงทำให้เกิดมีไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal computer) หรือพีซีขึ้น ราคาขายในท้องตลาดก็ลดลงได้มาก ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนทั่วไป ไม่เฉพาะแต่นักคอมพิวเตอร์ ต่อมาปลายยุคที่สี่นี้ มีการนำพีซีหลาย ๆ เครื่องมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย (network) ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีกดู generation ประกอบ | fragment | (แฟรก'เมินทฺ) n. เศษที่แตกออก, ชิ้นที่แตกออก, ส่วนที่ยังทำไม่เสร็จ, ส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์, สะเก็ด. vi. แตกตัวออก, แตกออกเป็นเศษ. vt. แยกออกเป็นชิ้น ๆ , ทำให้แตกออกเป็นชิ้น ๆ, Syn. portion, part, Ant. whole, all | hollerith, dr. herman | เป็นชาวอเมริกัน เกิด ค.ศ.1860 ตาย ค.ศ.1929 เป็นผู้คิดเอาวิธีนำเอาระบบบัตรเจาะรูมาใช้ในการบันทึกข้อมูลลงในบัตร โดยเลียนแบบจากบัตรของแจ็กการ์ด (Jacquard) ซึ่งเคยใช้วิธีการนี้ควบคุมการให้ลายและพิมพ์สีลงบนผ้า ฮอลเลอริทได้สร้างรหัสสำหรับบัตรเจาะรูขึ้น แล้วจึงนำข้อมูลถ่ายลงบนบัตรเพื่อนำไปให้เครื่องคอมพิวเตอร์อ่าน เครื่องมือประดิษฐ์ของฮอลเลอริทนี้ได้นำมาใช้ในงาประมวลผลและรายงานผลสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1890 ซึ่งทำให้ทราบผลลัพธ์เร็วขึ้นมาก โดยสามารถทำเสร็จภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น ในปัจจุบัน การเจาะบัตรเพื่อส่งข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์นั้นเกือบจะไม่มีแล้ว เพราะล้าสมัย | ic | abbr. infection control ไอซีย่อมาจากคำ integrated circuit (แปลว่า วงจรรวม, วงจรเบ็ดเสร็จ) เป็นวงจรที่สร้างขึ้นครบชุดด้วยเกล็ดซิลิคอน ประกอบเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของวงจร เช่น ทรานซิสเตอร์ (transistor) ไดโอดส์ (diodes) เชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ วงจรเบ็ดเสร็จชนิดนี้ใช้กันมากในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในยุคต้น ๆ ใช้วงจรแยกชิ้นเป็นหลัก เหตุที่นิยมใช้วงจรเบ็ดเสร็จกันมาก ก็เพราะขนาดเล็กกว่า ราคาถูกกว่า ใช้กระแสไฟน้อยกว่า และสามารถปฏิบัติงานได้เร็วกว่า | incremental back up | การสำรองเพิ่มขึ้นหมายถึง กระบวนการของการคัดลอกแฟ้มข้อมูล ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ หรือไม่ก็เป็นแฟ้มที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ หลังจากที่ได้คัดลอกทำสำรองไปแล้วชุดหนึ่ง | incremental compiler | ตัวแปลโปรแกรมส่วนเพิ่มหมายถึง โปรแกรมพิเศษที่ทำหน้าที่เป็นตัวแปลคำสั่งในโปรแกรมให้เป็นรหัสภาษาเครื่องในทันทีที่พิมพ์ข้อความที่เป็นคำสั่งเต็มบรรทัด ตัวแปลโปรแกรมส่วนเพิ่มตัวนี้จะทำหน้าที่แปลในขณะที่เราพิมพ์คำสั่งแต่ละคำสั่ง ผิดกับตัวแปลอื่นที่จะรอจนพิมพ์โปรแกรมเสร็จหมดจึงจะลงมือแปล การแปลแบบหลังนี้ เราจะต้องรอสักนิดหนึ่ง เมื่อการแปลเสร็จสิ้นแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์จึงจะลงมือทำงาน ดู interpreter ประกอบ | instruction time | เวลาทำคำสั่งเครื่องหมายถึงช่วงเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ปฏิบัติตามคำสั่ง ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งดำเนินการแล้วเสร็จ หรือได้รับคำตอบที่ต้องการจากชุดคำสั่งหนึ่ง ๆ โดยปกติ การทำงานของคอมพิวเตอร์จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ1. ช่วงการแปล (compilation time) 2. ช่วงการกระทำการ (execution time) มีความหมายเหมือน execution time | integratd program | ชุดคำสั่งเบ็ดเสร็จหมายถึง โปรแกรมที่ผู้ผลิต ผลิตออกมาเป็นชุดเดียวกัน สามารถทำงานได้หลาย โดยเฉพาะงานสำนักงานทั่วไป ที่ใช้กันมาก ได้แก่ โปรแกรมการประมวลผลคำ ตารางจัดการ ฐานข้อมูล และการสื่อสาร เป็นต้น โดยปกติโปรแกรมประเภทนี้จะทำงานแต่ละอย่างได้ไม่ดีนัก แต่ถ้าต้องเสียเงินซื้อก็จะถูกกว่าไปจ้างเขาเขียน | integrated circuit | วงจรรวมวงจรเบ็ดเสร็จใช้ตัวย่อว่า IC (อ่านว่า ไอซี) เป็นวงจรที่สร้างขึ้นครบชุดด้วยเกล็ดซิลิคอน ประกอบเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของวงจร เช่น ทรานซิสเตอร์ (transistor) ไดโอดส์ (diodes) เชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ วงจรเบ็ดเสร็จชนิดนี้ใช้กันมากในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในยุคต้น ๆ ใช้วงจรแยกชิ้นเป็นหลัก เหตุที่นิยมใช้วงจรเบ็ดเสร็จกันมาก ก็เพราะขนาดเล็กกว่า ราคาถูกกว่า ใช้กระแสไฟน้อยกว่า และสามารถปฏิบัติงานได้เร็วกว่า | integrated software | ซอฟต์แวร์เบ็ดเสร็จส่วนชุดคำสั่งเบ็ดเสร็จหมายถึง โปรแกรมที่ผู้ผลิต ผลิตออกมาเป็นชุดเดียวกัน สามารถทำงานได้หลาย โดยเฉพาะงานสำนักงานทั่วไป ที่ใช้กันมาก ได้แก่ โปรแกรมการประมวลผลคำ ตารางจัดการ ฐานข้อมูล และการสื่อสาร เป็นต้น โดยปกติโปรแกรมประเภทนี้จะทำงานแต่ละอย่างได้ไม่ดีนัก แต่ถ้าต้องเสียเงินซื้อก็จะถูกกว่าไปจ้างเขาเขียน | line printer | เครื่องพิมพ์รายบรรทัดหมายถึง เครื่องพิมพ์ความเร็วสูงชนิดหนึ่ง อยู่ภายใต้การควบคุมของคอมพิวเตอร์ ในการพิมพ์นั้น จะจัดเรียงตัวอักขระตลอดทั้งบรรทัดให้เสร็จก่อน จึงจะพิมพ์ลงบนกระดาษ และพิมพ์ได้ทีละบรรทัด เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จะพิมพ์ได้เร็ว แต่ไม่มีความประณีต เช่น เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix) โดยปกติจะพิมพ์ได้ประมาณ 600-1200 บรรทัดต่อนาที แต่บางเครื่องอาจพิมพ์ได้เร็วถึง 2, 000 บรรทัดต่อนาทีก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่หรือเมนเฟรม (mainframe) สำหรับไมโครคอมพิวเตอร์ มักใช้กับเครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix printer) ซึ่งพิมพ์ทีละตัวอักขระ หรือเครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) ซึ่งพิมพ์ครั้งละหนึ่งหน้า | made-up | (เมด'อัพ) adj. ประดิษฐ์ขึ้น, ปั้นแต่งขึ้นนำใส่เข้าด้วยกัน, เสร็จ | maiden voyage | n. การเดินทางหรือเดินเรือครั้งแรกหลังจากที่สร้างเสร็จ | make-ready | (เมค'เรดดี) n. กระบวนการทำรูปแบบที่พร้อมเสร็จ | microcomputer | (ไม' โครคอมพิวเตอร์) n. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์, เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาถูก แต่ก็มีลักษณะของคอมพิวเตอร์ อย่างสมบูรณ์ กล่าวคือประกอบด้วยส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ (hard ware) และซอฟต์แวร์ (software) ส่วนหน่วยประมวลผลกลางจะประกอบด้วย วงจรเบ็ดเสร็จ, RAM, ROM | microprocessor | (ไมโครโพร'เซสเซอร์) n. , ไมโครโปรเซสเซอร์, ตัวประมวลผลจุลภาค, หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยชิป (chip) ที่มักจะเป็นวงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่หรือวีแอลเอสไอ (VLSI) มีหน่วยควบคุม หน่วยคำนวณ และตรรกะที่รวมอยู่ในชิป (chip) อันเดียวนำมาใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์ | mop | (มอพ) n. มัดผ้าหรือวัตถุที่เป็นปุยที่ปลายไม้สำหรับถูพื้น ซับเช็ด, ผมกระเซิง vt. ถูกซับ เช็ดด้วยมัดผ้าหรือวัตถุดังกล่าว. -Phr. (mop up กวาดล้างข้าศึกที่เหลืออยู่, ทำสำเร็จ, ทำเสร็จ) | multitasking system | ระบบหลายภารกิจหมายถึง สมรรถภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานสองโปรแกรมขึ้นไปได้เวลาเดียวกัน เช่น ในระหว่างปฏิบัติการของโปรแกรมการพิมพ์ ก็สามารถที่จะปฏิบัติการในโปรแกรมอื่นได้อีก โดยไม่ต้องรอให้การพิมพ์แล้วเสร็จเสียก่อน | nostrum | (นอส'ทรัม) n. ยาบรรจุเสร็จ, ยาแผนโบราณ, ยาเถื่อน, ยากลางบ้าน. | output buffer | บัฟเฟอร์ส่งออกในกรณีที่อัตราความเร็วในการทำงานของอุปกรณ์บางอย่างมีความเร็วไม่เท่ากัน เป็นต้นว่า เครื่องพิมพ์และหน่วยประมวลผลซึ่งทำงานด้วยความเร็วที่แตกต่างกันมาก คอมพิวเตอร์ประมวลผลเสร็จแล้วจึงต้องส่งผลมารออยู่ที่บัฟเฟอร์ก่อน เพราะเครื่องพิมพ์จะใช้เวลามากกว่าในการพิมพ์ (พิมพ์ตามไม่ทัน) เราจะพบบ่อย ๆ ว่า แม้ว่าจะสั่งให้หยุดพิมพ์ แต่เครื่องพิมพ์จะไม่หยุดทันที ทั้งนี้เป็นเพราะมีข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งไปรออยู่ที่บัฟเฟอร์แล้ว เครื่องพิมพ์จะต้องพิมพ์จนหมดข้อมูลในบัฟเฟอร์นี้ จึงจะหยุด อันที่จริง บัฟเฟอร์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยความจำนั่นเอง | outwork | (เอาทฺเวิร์ค') vt. ทำงานได้ดีกว่า, ทำงานได้เร็วกว่า, ทำให้เสร็จ, ทำงานสำเร็จ. n. (เอาทฺ'เวิร์ค) สิ่งก่อสร้างป้องกันข้าศึกรอบนอกที่ง่าย ๆ, See also: outworker n. | page printer | เครื่องพิมพ์รายหน้าหมายถึง เครื่องพิมพ์ที่จัดเรียงตัวพิมพ์ไว้จนเสร็จเต็มหน้าก่อน จึงจะพิมพ์ลงบนกระดาษ เช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) เป็นต้น | post | (โพสทฺ) n. เสา, หลัก, ตำแหน่ง, หน้าที่, ที่มั่น, การไปรษณีย์, ไปรษณียภัณฑ์, เที่ยวเมล์, ที่ทำการไปรษณีย์, vt. ปิดประกาศ, ประกาศ, ประจาน, จัดกำลัง, แต่งตั้งให้ประจำตำแหน่ง vt. ใส่จดหมายลงในตู้ไปรษณีย์, ส่งจดหมาย, ย้าย, แจ้ง. vi. ขี่ม้าเร็ว, เดินทางอย่างรวดเร็ว. adv. รีบเร่ง, โดยทางไปรษณีย์, โพสต์ <คำอ่าน>ย่อมาจาก power-on self-test เป็นแบตเตอรี่ตัวหนึ่งในพีซี ที่จะทำหน้าที่ทันทีที่เมื่อมีการเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำการตรวจสอบขั้นต้นให้ว่า อุปกรณ์ ทุกชิ้นทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากมีส่วนใดไม่ปกติ ก็จะแสดงข้อความระบุความ ผิดพลาด (error message) ให้บนจอภาพ และจะรอจนกว่าจะมีการสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีการแก้ไข เสร็จแล้วจึงจะทำงานต่อ | prepack | (พรีแพค'คิจฺ, พรีแพค') vt. บรรจุเสร็จก่อน |
| accomplished | (adj) ที่สำเร็จ, ที่เสร็จสิ้น, ที่บรรลุผล, คล่องแคล่ว, ชำนาญ | authoritarian | (adj) เกี่ยวกับอำนาจเผด็จการ, เกี่ยวกับอำนาจเบ็ดเสร็จ | bill | (n) บิล, ใบเสร็จ, ธนบัตร, พันธบัตร, ตั๋วเงิน, ใบแจ้งความ, พระราชบัญญัติ, ร่างญัตติ | billhead | (n) ชื่อที่อยู่ตอนบนใบเสร็จ | complete | (vt) ทำให้สมบูรณ์, ทำเสร็จ, บรรลุความสำเร็จ | conclude | (vi, vt) จบ, ลงมติ, ตัดสินใจ, ลงเอย, สิ้นสุด, ปลงใจ, ทำเสร็จ | consummate | (adj) สมบูรณ์, บริบูรณ์, บรรลุ, เลิศ, เต็มที่, เสร็จสมบูรณ์ | finish | (vt) ทำให้เสร็จ, สิ้นสุด, ลงท้าย, หมด, ยุติ | finished | (adj) ดีเยี่ยม, เรียบร้อย, แนบเนียน, เกลี้ยงเกลา, เสร็จ, สิ้นสุด | outstanding | (adj) มีชื่อ, เด่น, สำคัญ, ยังไม่ยุติ, ยังไม่เสร็จ | READY-ready-made | (adj) สำเร็จรูป, ทำไว้เสร็จแล้ว, ทำไว้ล่วงหน้า | receipt | (n) ใบเสร็จรับเงิน, การรับ, รายรับ | tapir | (n) สมเสร็จ | through | (adv) เสร็จสิ้น, ตัดขาด, ตลอด, ถึงที่สุด | total | (adj) ทั้งหมด, ยอด, เบ็ดเสร็จ, ทั้งสิ้น | unfinished | (adj) ไม่ได้ขัดเงา, ไม่ได้เสริมแต่ง, ยังไม่เสร็จ, ไม่สมบูรณ์ | voucher | (n) ผู้รับประกัน, ใบเสร็จรับเงิน, ผู้รับรอง, ใบสำคัญ, ใบรับรอง |
| billing address | (n) ใบแจ้งค่าบริการ, ใบเสร็จรับเงิน | Giornata | [จอร์นาตา] (n) งานเขียนบนปูนเปียกที่เขียนเสร็จในแต่ละวัน (เกี่ยวกับวิธีเขียนจิตรกรรมฝาผนัง), See also: Buon fresco | Removal of endometrial tissue | เป็นขั้นตอนที่จะเอาชิ้นเนื่้อเยื่อบางของเยื่อบุของมดลูกที่จะหยุดหรือลดการตกเลือดที่มากเกินไปหรือผิดปกติในผู้หญิงที่เจริญจะเสร็จสมบูรณ์. เยื่อบุโพรงมดลูกผ่าอาจจะไปทำให้เกิดการทำลายเยื่อบุของมดลูก เป็นขั้นตอนที่จะลบออกอย่างถาวรชั้นเนื้อเยื่อบางของเยื่อบุของมดลูกที่จะหยุดหรือลดการตกเลือดที่มากเกินไปหรือผิดปกติในผู้หญิงที่เจริญจะเสร็จสมบูรณ์. เยื่อบุโพรงมดลูกผ่าอาจจะแนะนำให้ทำลายเยื่อบุของมดลูก | Turnkey | (n) ลักษณะสัญญาซื้อทรัพย์สินโดยมีเงื่อนไขว่า มูลค่าทรัพย์สินเป็นมูลค่ารวมเบ็ดเสร็จจนกระทั่งทรัพย์สินสามารถใช้งานได้ โดยผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มอีก เนื่องจากการส่งมอบทรัพย์สินประเภทนี้ จำเป็นต้องมีขั้นตอนการดำเนินการติดตั้ง ทดสอบ อบรมวิธีการใช้ ตรวจรับ ฯลฯ ทรัพย์สินเหล่านี้จึงจะสามารถใช้งานได้ สัญญาซื้อทรัพย์สินเหล่านี้จึงมี 2 ลักษณะคือ Time and Material และ Turnkey โดย Time and Material จะเป็นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ซื้อตามระยะเวลา (เช่น จำนวนวัน-คน หรือ Man-Day) ที่ใช้ไปจริง ตามอัตราที่ตกลงกันตามสัญญา | turnkey project | (n) โครงการจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ |
| 済 | [すみ, sumi] (suffix) วลีที่ลงท้ายด้วย 済 จะมีความหมายว่า ทำเสร็จแล้ว หรือเรียบร้อยแล้ว เช่น 予約済(よやくすみ) แปลว่า จองไว้แล้ว | 高々 | [たかだか, takadaka] (adv) อย่างมากสุด, อย่างดีสุด เช่น この仕事だったら高々四日もあればできる。 งานนี้เหรอ ถ้ามีเวลาสัก 4 วันก็ทำเสร็จ |
| 半券 | [たかだか, hanken] (n) ครึ่งหนึ่งของตั๋ว, ใบฝากของ, ใบเสร็จรับเงิน หรืออื่นๆ ที่ได้รับเพื่อเป็นหลักฐาน, See also: R. stub | 完成 | [かんせい, kansei] สมบูรณ์, เสร็จ, สำเร็จ, ครบ, สมบูรณ์, พร้อม, เต็มที่, สิ้นเชิง | 完了 | [かんりょう, kanryou] การเสร็จสมบูรณ์ | 量産完了 | [かんりょう, ryousan kanryou] ผลิตภัณฑ์ผลิตเสร็จสมบูรณ์ หรือ ไม่มีการผลิตแล้ว | 終わります | [おわります, owarimasu, owarimasu , owarimasu] (vi) เสร็จ(งาน), (โรงเรียน)เลิก | 領収書 | [りょうしゅうしょ, ryoushuusho] ใบเสร็จรับเงิน | 幕を閉じる | [まくをとじる, makuwotojiru] (phrase) จบสิ้น, เสร็จสิ้น, ปิดฉาก |
| 終える | [おえる, oeru] TH: ทำให้เสร็จ EN: to finish | 出来立て | [できたて, dekitate] TH: เพิ่งเสร็จใหม่ ๆ | 出来上がり | [できあがり, dekiagari] TH: เป็นคำพูดบอกว่าทำงานหรือบางสิ่งบางอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว EN: be finished | 出来上がり | [できあがり, dekiagari] TH: เสร็จแล้ว, พร้อมที่จะทำสิ่งต่อไป EN: ready | 出来上がる | [できあがる, dekiagaru] TH: เสร็จสิ้น EN: to be finished | 済む | [すむ, sumu] TH: เสร็จสิ้น | 済む | [すむ, sumu] TH: เสร็จเรื่อง EN: to be completed | しまう | [しまう, shimau] TH: ทำให้เสร็จ | 仕上げる | [しあげる, shiageru] TH: ทำให้เสร็จ EN: to finish up | 済ませる | [すませる, sumaseru] TH: ทำให้เสร็จเรียบร้อย EN: to be finished |
| fast | (adv) เกือบจะ เช่น Der Kuchen ist fast fertig. ขนมเค้กเกือบเสร็จแล้ว, See also: zunahe, Syn. beinahe | Quittung | (n) |die, pl. Quittungen| ใบเสร็จรับเงิน, Syn. Kassenbon | Kassenbon | (n) |der, pl. Kassenbon| ใบเสร็จรับเงิน, Syn. Quittung | gegen | แลกเปลี่ยนกับ เช่น Man kann das Pfand gegen leere Flaschen und ein Kassenzettel bekommen. เราสามารถได้เงินค่ามัดจำคืนถ้านำขวดกับใบเสร็จไปแลก, Syn. im Austausch von | wann | เมื่อไหร่ (ขึ้นต้นประโยคคำถาม) เช่น Wann bist du fertig? เมื่อไหร่เธอถึงเสร็จล่ะ | anmachen | (vt) |machte an, hat angemacht, etw.(Essen)| คลุกเคล้าให้เข้ากันดี (คลุกเครื่องปรุงอาหาร) เช่น Er ist gleich fertig. Er muß nur noch den Salat anmachen. เขาเกือบเสร็จแล้ว เขาเพียงแต่ต้องคลุกสลัดเท่านั้น | sich an die Arbeit machen | เริ่มทำงาน เช่น Je früher ich mich an die Arbeit machst, desto eher bin ich fertig. ยิ่งฉันเริ่มทำงานเร็วเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งเสร็จเร็วเท่านั้น, Syn. anfangen zu arbeiten |
| finir | (vt) |je finis, tu finis, il finit, nous finissons, vous finissez, ils finissent| เสร็จ, ทำให้เสร็จ, จบ, สิ้นสุด เช่น Vous finissez presque votre étude? คุณใกล้จะเรียนจบหรือยัง | prêt | (adj) พร้อม, เสร็จ เช่น prêt á partir พร้อมออกเดินทาง |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |