สิทธิบัตร | ควรปรับความหมาย เพราะ สิทธิบัตรต้องรวม การค้นพบ (discovery) โดยหากไม่ปรับ การสื่อสารจะคลาดเคลื่อน และเป็นปัญหาได้ |
|
| กวนน้ำให้ขุ่น | ก. ทำเรื่องราวที่สงบอยู่แล้วให้เกิดเป็นปัญหาขึ้นมา. | หนักสมอง | ว. ที่ต้องใช้ความคิดมาก เช่น ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหนักสมอง, หนักหัว ก็ว่า. | หนักหัว | ว. ที่ต้องใช้ความคิดมาก เช่น ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหนักหัว, หนักสมอง ก็ว่า | หนักอก | ว. ลำบากใจ เพราะต้องแบกภาระไว้มาก เช่น ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเป็นปัญหาหนักอกของรัฐบาล, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ หนักใจ เป็น หนักอกหนักใจ. |
| Problem children | เด็กที่เป็นปัญหา [TU Subject Heading] | Problem employees | ลูกจ้างที่เป็นปัญหา [TU Subject Heading] | Problem youth | เยาวชนที่เป็นปัญหา [TU Subject Heading] | Teachers of problem children | ครูของเด็กที่เป็นปัญหา [TU Subject Heading] | Consular office Declared ?Non grata? | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Normal Diplomacy | การติดต่อทางการทูตโดยวิถีทางทูตตามปกติ มักจะกระทำกันดังนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการจะหยิบยกปัญหาขึ้นกับอีกรัฐบาลหนึ่ง ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะส่งคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตของ ประเทศตนที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับส่งให้ยกเรื่องนั้นขึ้นเจรจากับรัฐบาล ของประเทศผู้รับ โดยปกติเอกอัครราชทูตจะมีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศผู้รับนั้นก่อน หรือไม่ก็ไปพบกับรัฐมนตรีด้วยตนเอง ณ กระทรวงการต่างประเทศ การเจรจากันอาจทำให้จำเป็นต้องมีการบันทึกของทูตแลกเปลี่ยนกันขึ้น ในรูปบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire ) ในบางกรณี เอกอัครราชทูตจำเป็นต้องไปพูดจา ณ กระทรวงการต่างประเทศ อีกหลายครั้งกว่าจะเสร็จเรื่อง ในระหว่างนั้น เอกอัครราชทูตมีหน้าที่จะต้องรายงานผลการเจรจาแต่ะครั้งไปยังกระทรวงการต่าง ประเทศของตน และบางคราวอาจจะต้องขอคำสั่งเพิ่มเติมอีกเมื่อเกิดกรณีใหม่โดยมิได้คาดหมาย มาก่อนเป็นต้น ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้รับก็จะส่งคำสั่งไปยังเอก อัครราชทูตของตน แนะว่าควรดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเจรจากันกับรัฐบาลของ ประเทศที่ตนประจำอยู่ผลการเจรจาอาจเป็นที่ตกลงกันได้ระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ฝ่าย หรืออาจจะจบลงด้วยภาวะชะงักงัน ( Stalemate ) หรือรัฐบาลทั้งสองอาจจะตกลงกันว่าไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปก่อน จนกว่าจะมีการรื้อฟื้นเจรจากันใหม่ บางคราวปัญหาที่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น อาจกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อไปก็ได้ [การทูต] |
| It's that law that's the problem. | เพราะกฏหมายนั่นแหละที่เป็นปัญหา Aladdin (1992) | Your insolence and its repercussions. | ความอวดดีของเธอ เป็นปัญหา Wild Reeds (1994) | Being too curious is my biggest problem. | ทำฉันกลัว นั่นละเป็นปัญหามากที่สุด Wild Reeds (1994) | This could be a problem. | นี่น่าจะเป็นปัญหา Don Juan DeMarco (1994) | I didn't want to get into trouble. | ฉันไม่ต้องการที่จะได้รับเป็นปัญหา The Godfather (1972) | You'd better go, there's going to be trouble. | คุณควรที่จะไปมีจะเป็นปัญหา The Godfather (1972) | If you meet Benno down there, don't let him trouble you. | หากคุณพบ เบโน ลงที่นั่น จะไม่ปล่อยให้เขาเป็นปัญหา กับคุณ Mad Max (1979) | If it's all the same to you I'll drive that tanker. | ถ้านี่ไม่เป็นปัญหา... ...ผมขอขับรถน้ำมันเอง The Road Warrior (1981) | Just what is your problem, huh? | เพียงแค่สิ่งที่เป็นปัญหาของคุณ ฮะ First Blood (1982) | Why don't you go home? It's my problem now. | ทำไมคุณไม่กลับบ้าน มันเป็นปัญหาของผมตอนนี้ First Blood (1982) | Rambo's a civilian now, he's my problem. | แรมโบ้ คือพลเรือนในขณะนี้ เขาเป็นปัญหาของผม First Blood (1982) | What problem's that? | สิ่งที่เป็นปัญหาที่? 2010: The Year We Make Contact (1984) | This will not present a problem. | นี้จะไม่เป็นปัญหา 2010: The Year We Make Contact (1984) | that's their problem. | - นั่นเป็นปัญหาของพวกเขา Spies Like Us (1985) | It's going to get you into trouble someday. | มันจะเป็นปัญหากับเจ้าสักวันนึงนะ The Princess Bride (1987) | What's the problem? | สิ่งที่เป็นปัญหาหรือไม่ Bloodsport (1988) | -Hey, if it's too much trouble, forget it-- HELMER: | -Hey ถ้าเป็นปัญหามากเกินไปลืมพูดไป HELMER: Bloodsport (1988) | But it doesn't really matter. | แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนี่นะ A Short Film About Love (1988) | Scott Blair is their problem. | ก็อตต์แบลร์เป็นปัญหาของพวกเขา The Russia House (1990) | I don't think that will be a problem, Leo. | ฉันไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา, ราศีสิงห์ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | Well, titanium is gonna be a problem. | ใช้ไทเทเนียมจะเป็นปัญหา The Jackal (1997) | Those are problems of the black community... the Hispanic community, the Asian community. | เหล่านั้นเป็นปัญหาของ สังคมคนผิวดำ... คนสเปน และเอเซีย American History X (1998) | Aren't those really issues that deal more with poverty? | ปัญหานั้น ความจริงเป็นปัญหา ความยากจน ไม่ใช่หรือ American History X (1998) | If it's not too much trouble could you buzz over and grab the groceries? | และถ้าไม่เป็นปัญหา คุณช่วยบึ่งรถไปเอาของที่ร้านชำได้ไหม Dark Harbor (1998) | - He's already being a dick about my off-campus apartment. | - ก็พ่อทำตัวเป็นปัญหา ตั้งแต่ตอนฉันย้ายไปอยู่หอนอกมหาลัยแล้ว Brokedown Palace (1999) | Maybe it's a terrible tragedy. | มันเป็นปัญหาเหรอ ที่แกจะถามเนี่ย? Fight Club (1999) | First, the fact that people were talking about it was a problem in itself | ก่อนอื่นความจริงที่ว่ามีคนถูกพูดถึงมันเป็นปัญหาในตัวเอง GTO (1999) | It is trouble for me. | มันเป็นปัญหาให้ฉัน Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | I'm afraid of water. Think that's a problem? | แต่ผมกลัวน้ำ คุณว่าจะเป็นปัญหามั้ย Unbreakable (2000) | Izzy's departure is more trouble for Steel Dragon as the band tries to maintain its status as the industry's top hard-rock act. | คริส "อิซซี่" โคล์ แห่งวงสตีลดราก้อน ช็อคแฟนๆ เมื่อเขาหนีออกจากเวที การจากไปของอิซซี่ เป็นปัญหาต่อ 'สตีลดราก้อน' อย่างมาก Rock Star (2001) | But that's a different issue. | แต่นั้นคงเป็นปัญหาที่แตกต่างกัน โอ๊ย. Platonic Sex (2001) | It's a different issue. | มันเป็นปัญหาที่หลากหลาย คุณนาคาโอะ Platonic Sex (2001) | It's such a hassle...to live. | มันก็เป็นปัญหาอย่าง เพื่อการมีชีวิต Platonic Sex (2001) | But that kind of breakage shouldn't be a problem in the shipping room. | แต่การแตกแบบนั้นไม่เป็นปัญหา Punch-Drunk Love (2002) | It's not a problem. | ไม่เป็นปัญหา Punch-Drunk Love (2002) | I don't know if there is anything wrong because I don't know how other people are. | ผมไม่รู้ ว่ามันเป็นปัญหา หรือเปล่า... เพราะผมไม่รู้ว่าผู้คนคนอื่นๆ เขาเป็นยังไงกัน Punch-Drunk Love (2002) | What's the problem? | สิ่งที่เป็นปัญหาหรือไม่ Showtime (2002) | That's a good question | เป็นปัญหาใหญ่เลย Infernal Affairs (2002) | This is a grown-up problem. | นี่เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ Inspector Gadget 2 (2003) | - You're taking very high risks here. - Well, that's my problem. | คุณมีความเสี่ยงมากนะคะ มันเป็นปัญหาของฉัน 21 Grams (2003) | Why do you bother people? | ทำไมต้องทำต้วเป็นปัญหาด้วย? My Tutor Friend (2003) | Sure. Money's no object. | เอาสิ เงินไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว The O.C. (2003) | So I think there won't be any problems | ชั้นเลยไม่คิดว่านั่นจะเป็นปัญหา Oldboy (2003) | We've told the superiors that she had died of illness but if she appears all of a sudden to tell the truth it's hard to know how Head Lady will react even though she's on our side | นี้แหละที่เป็นปัญหา ตอนนั้นเราทูลเบื้องบนว่านางป่วยตาย แล้วจู่ๆโผ่มา แล้วถ้าเกิดนางเอาเรื่องในอดีตมาแฉ แม้ว่าซังกุงปกครองจะเป็นคนของเรา แต่ก็ไม่รู้ว่านางจะเข้าข้างใครกันแน่ The Great Jang-Geum (2003) | It's kind of... It's kind of been my problem lately. | มันแบบว่า มันคงเป็นปัญหา ที่จะตามมาของฉันแน่ๆ The Girl Next Door (2004) | Uh, yes. Well, I decided to stay. See what new trouble I can get myself into. | เอ่อใช่ ดีฉันตัดสินใจที่จะอยู่ เห็น สิ่งที่เป็นปัญหาใหม่ที่ฉันจะได้รับตัวเองลงไป Dante's Peak (1997) | Paul, the problem is E.L.F. here. | พอลเป็นปัญหา E.L.F. ที่นี่ Dante's Peak (1997) | Not... you know... not necessarily. | อย่าเพิ่งครับ ที่จริง มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย Wicker Park (2004) | All right, this is a major setback. | ตอนนี้มันโตเป็นปัญหาใหญ่แล้ว Around the World in 80 Days (2004) | That's your problem, you know that? | นั่นเป็นปัญหาของคุณ / คุณรู้ด้วยเหรอ? The Notebook (2004) |
| bedevil | (vt) ทำให้เป็นปัญหามากและยาวนาน | blessing in disguise | (idm) สิ่งที่เป็นปัญหาในตอนเริ่มต้นกลับลงเอยด้วยดี | bring something to the boil | (idm) ทำให้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข, Syn. come to | cut from | (phrv) ตัดสิ่งที่เป็นปัญหาออก | cut the ground from under someone's feet | (idm) ตัดสิ่งที่เป็นปัญหาออก | hash out | (phrv) พูดคุยกันนานในเรื่องที่เป็นปัญหา (คำไม่เป็นทางการ), See also: ใช้เวลามากในการแก้ปัญหา, Syn. thrash out | illy | (adj) เป็นอันตราย, See also: เป็นปัญหา | morass | (n) สถานการณ์ที่ยุ่งยาก สับสน หรือเป็นปัญหา | pestiferous | (adj) ซึ่งน่ารำคาญ, See also: ที่เป็นปัญหา, Syn. pestilent, rabid, harmful | quizzical | (adj) ซึ่งอยากสอบถาม, See also: ซึ่งสงสัย, ซึ่งเป็นปัญหา, น่าสงสัย, Ant. inquiring, questioning, perplexed, puzzled | troublesome | (adj) ้เป็นปัญหา |
| bug | (บัก) { bugged, bugging, bugs } n. แมลง, เชื้อจุลินทรีย์, ความบกพร่อง, แฟน, คนคลั่ง, เครื่องดักฟัง, ความคลั่ง, เหยื่อตกปลาที่คล้ายแมลง vt. รบกวน, ติดตั้งเครื่องดักฟังในที่ลับ, Syn. fault, defect จุดบกพร่องหมายถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมอันเนื่องมาจากคำสั่งในโปรแกรมนั้นเอง ซึ่งทำให้การทำงานของโปรแกรมไม่ถูกต้อง มีข้อผิดพลาด หรือไม่ราบรื่นเท่าที่ควร นอกจากปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมแล้ว อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องก็ได้ คำนี้มาจากคำ bug ที่แปลว่า ตัวด้วง ตัวแมลง ที่ชอบทำให้คอมพิวเตอร์สมัยก่อนเสีย เกิดการลัดวงจรขึ้น การแก้ไขจุดบกพร่องของโปรแกรม จึงใช้คำว่า "debug" | debatable | (ดิเบ'ทะเบิล) adj. เป็นที่ถกเถียงกัน, เป็นปัญหา | disputable | (ดิสพิว'ทะเบิล) adj. ซี่งโต้แย้งได้, เถียงได้, เป็นปัญหา., See also: disputability n. | issue | (อิช'ชิว) n. การปล่อยออกมา, การออกคำสั่ง, การตีพิมพ์ออกมา, สิ่งที่ปล่อยออก, สิ่งตีพิมพ์, จำนวนหรือปริมาณที่ปล่อยออกมาแต่ละครั้ง, ฉบับ, ชุด, คราว, ปัญหา, ผลที่เกิดขึ้น, บุตร, ทายาท, ทางออก, ผลผลิต, ผลกำไร. -Phr. (at issue ที่กำลังเป็นปัญหา ที่กำลังถกเถียงกัน) vt., vi. ไหล | problem | (พรอบ'เลิม) n. ปัญหา, ข้อปัญหา, โจทย์เรขาคณิต, โจทย์คณิตศาสตร์, หมากกล, เรื่องที่ต้องแก้ไขหรือต้องพิจารณากัน. adj. สอนยาก, เป็นปัญหา, Syn. question, riddle | puzzling | (พัส'ซลิง) adj. น่าฉงนสนเท่ห์, เป็นปัญหา, เข้าใจยาก, | quizzical | (ควิส'ซิเคิล) adj. เป็นปัญหา, แปลก, ประหลาด, น่าสงสัย, น่าขัน, น่าหัวเราะ, ชอบล้อเลียน, See also: quizzicality n. quizzicalness n. |
| debatable | (adj) ซึ่งยังไม่ตกลงกัน, เป็นปัญหา, เป็นที่ถกเถียงกัน | disputable | (adj) ยังเป็นปัญหาอยู่, โต้แย้งได้, เถียงได้, แย้งได้ | problematic | (adj) เป็นปัญหา, เป็นปริศนา, ยังไม่แน่นอน, ที่ไม่เข้าใจ | problematical | (adj) เป็นปัญหา, เป็นปริศนา, ยังไม่แน่นอน, ที่ไม่เข้าใจ | questionable | (adj) น่าสงสัย, ที่เป็นปัญหา, มีพิรุธ, ไม่แน่นอน |
| | 件 | [けん, ken] (n) คดี, เรื่อง หรือ หัวข้อที่เป็นปัญหา, See also: R. 事柄、問題 |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |