ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*เปิดกว้าง*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เปิดกว้าง, -เปิดกว้าง-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กระชัง ๒น. เครื่องสำหรับขังปลาชนิดหนึ่ง ใช้ไม้ไผ่ทำเป็นกง ๔ อัน แล้วผูกด้วยซี่ไม้ไผ่โดยรอบ รูปกลม หัวท้ายเรียว ตอนบนเจาะเป็นช่อง มีฝาปิด ใช้ไม้ขัดฝา ๒ ข้าง ใช้ไม้ไผ่กระหนาบเพื่อให้ลอยได้ ในขณะออกไปจับปลาตามกรํ่า เมื่อจับปลาหรือกุ้งได้ก็เอาใส่ไว้ในนั้นชั่วคราว, อีกชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ มีปากเปิดกว้างคล้าย ๆ ตะกร้าหรือเข่งใส่ของ แต่ใหญ่กว่ากระชังชั่วคราวนั้นหลายเท่า เป็นที่สำหรับจับปลาขนาดใหญ่มาขังไว้หรือเลี้ยงลูกปลาให้โตตามที่ต้องการ เพื่อบริโภคหรือค้าขาย และเอากระชังนี้ผูกติดหลักแช่ลอยนํ้าไว้.
ชะเวิกชะวากว. เปิดกว้างและลึก เช่น สวมเสื้อคอกว้างชะเวิกชะวาก, ชะเวิบชะวาบ ก็ว่า.
ชะเวิบชะวาบว. เปิดกว้างและลึก เช่น สวมเสื้อคอกว้างชะเวิบชะวาบ, ชะเวิกชะวาก ก็ว่า, เปิดเผยอวัยวะบางส่วนที่ควรปกปิด เช่น แต่งตัวชะเวิบชะวาบ.
แบะว. อ้า, ที่เปิดกว้างออกไป, เช่น ถูกฟันหัวแบะ
เวิ้งน. ที่เปิดกว้างเข้าไปถัดจากที่แคบ เช่น พ้นปากถ้ำไปเห็นเป็นเวิ้ง.
อ่าวน. ส่วนของมหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบ ที่ลํ้าเข้าไปในฝั่งหรือในแผ่นดิน มีลักษณะเว้าโค้งและเปิดกว้าง ทำให้มีแนวของชายฝั่งทะเลยาว.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
stricture of open approximationการบีบบังคับ(กระแสลม)เปิดกว้าง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
open glottis(สภาพ)ช่องเส้นเสียงเปิดกว้าง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategyยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต]
ASEAN Vision 2020วิสัยทัศน์อาเซียน พ.ศ. 2563 เป็นเอกสารซึ่งที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและพันธกรณีของอาเซียนที่จะนำประชาชนในภูมิภาคนี้ ไปสู่ (1) การเป็นภูมิภาคที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ (2) ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการรวมตัวทางเศรษฐกิจ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น (3) การเป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรต่อกัน และ (4) การกระชับความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและโลกภายนอก บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและมีความเคารพซึ่งกันและกัน [การทูต]
Enhanced Interactionการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ " การส่งเสริมปฏิสัมพันธ์เป็นคำที่เสนอโดย นายอาลี อาลาตัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ในที่ประชุม AMM ครั้งที่ 31 ณ กรุงมะนิลา ซึ่งในด้านสารัตถะมีความหมายเช่นเดียวกับนโยบาย Flexible Engagement แต่เป็นคำที่อาเซียนส่วนใหญ่เห็นว่า มีความ เหมาะสมที่จะใช้สื่อเจตนารมณ์ของอาเซียนในการยกระดับความร่วมมือที่เพิ่มพูน และเปิดกว้างระหว่างกัน " [การทูต]
Flexible Engagementความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่น " ความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่นเป็นข้อเสนอของ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่เสนอในการประชุมรัฐมนตรีต่าง ประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting : AMM) ครั้งที่ 31 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีการหารือและแลก เปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้างและเป็นกันเองในเรื่องหรือประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันหรือที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความ มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของนานาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันสืบเนื่องจากการที่อาเซียนมีสมาชิกครบ 10 ประเทศ และอยู่ในภาวะที่เผชิญปัญหาท้าทายต่าง ๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวพันกัน " [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
retreatการประชุมหารืออย่างเป็นกันเอง ปัจจุบันมีทั้งในระดับหัวหน้ารัฐบาล ระดับรัฐมนตรี และระดับปลัดกระทรวง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการหารือเป็นการเฉพาะระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ติดตามและไม่มีระเบียบวาระที่แน่นอน แต่จะเปิดกว้างให้มีการหารือได้ในทุก ๆ ประเด็น [การทูต]
Mental Modelsการมีรูปแบบวิธีคิดที่เปิดกว้าง [การจัดการความรู้]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
"Yep." "Hot dog" I said, "this'll bust them wide open."สุนัขร้อนที่ฉันกล่าวมานี้จะ หน้าอกพวกเขาเปิดกว้าง How I Won the War (1967)
I'm open for discussion.ผม เอ่อ! ผมเปิดกว้างกับการสนทนาเสมอ Mannequin (1987)
He is inspired by the new openness here.เขาเป็นแรงบันดาลใจจากการเปิดกว้างใหม่ที่นี่ The Russia House (1990)
Reconstruction. Openness.ฟื้นฟู การเปิดกว้าง The Russia House (1990)
Our new people talk about openness.คนใหม่ของเราพูดคุยเกี่ยวกับการเปิดกว้าง The Russia House (1990)
This is great. - Where's Brad?มันชื่อ "ทุ่งหญ้าเปิดกว้าง" I Heart Huckabees (2004)
This is called "an open meadow."ทุ่งหญ้าเปิดกว้าง ที่ราบเปิดกว้าง I Heart Huckabees (2004)
It's just that their mind is not opened yetแต่ใจเค้ายังไม่เปิดกว้างพอ Rice Rhapsody (2004)
White sandy beaches, cleverly simulated natural environment, wide open enclosures, I'm telling you this could be the San Diego zoo.หาดทรายขาว, สภาวะแวดล้อมธรรมชาติจำลองที่น่าทึ่ง รั้วล้อมรอบเปิดกว้าง ฉันว่าที่นี่น่าจะเป็นสวนสัตว์ซานดิเอโก้ Madagascar (2005)
I think your odds are improving, Mr. Bond.โอกาสคุณเปิดกว้างแล้ว คุณบอนด์ Casino Royale (2006)
Oh, come on, don't be all, "he's a hater."ผมเป็นคนเปิดกว้างที่สุด แถวนี้แล้ว Grin and Bear It (2007)
Just visualize that door of opportunity just opening up wide for you.วาดภาพประตูแห่งโอกาสที่เปิดกว้างรอนายอยู่ Waiting to Exhale (2007)
I'm open to the concept of religion, I'm just not entirely convinced by it.ผมเปิดกว้างเรื่องศาสนา - ผมแค่ยังไม่สนิทใจ Hot Fuzz (2007)
The Lord has told me that the open gates of Hell are yawning up widely in our path.พระเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ประตูไปสู่ห้วงนรก ได้เปิดกว้างไว้สำหรับเรา 1408 (2007)
...are yawning up widely in our path.เปิดกว้างในทางเดินของเรา 1408 (2007)
Laura... we who are close to death... we are more receptive to these messages.ลอร่า... เราสื่อสารกับความตายได้... ถ้าจิตของเราเปิดกว้างพอ ที่จะรับข้อความจากพวกเขา The Orphanage (2007)
They sleep with one eye open, falling behind is not an optionหลับลงด้วยตาที่เปิดกว้าง พลาดพลั้งนั้นมิใช่ทางเลือก Like Stars on Earth (2007)
Dream walking, wide-eyedล่าฝันด้วยตาเปิดกว้าง Like Stars on Earth (2007)
Dream walking, wide-eyedล่าฝันด้วยตาเปิดกว้าง Like Stars on Earth (2007)
To explore open skiesให้พบเจอท้องฟ้าที่เปิดกว้าง Like Stars on Earth (2007)
Look, the path to the skies is revealedดูสิ ทางสู่ท้องฟ้าเปิดกว้างแล้ว Like Stars on Earth (2007)
And what I got here may be boring, but it's safe.ก็ โลกของฉันมันเปิดกว้างเร๊วเร็ว Sparks Fly Out (2008)
I mean, I'm open to suggestions.ผมหมายถึง ผมเปิดกว้าง รับคำแนะนำน่ะ Chuck Versus the DeLorean (2008)
For that, the academics are wide open.สถาบันของเราเปิดกว้าง Masterpiece (2008)
Heads and open our hearts and write a new ending to an old story.อาจทำให้จิตใจเราเปิดกว้าง พอที่จะเขียนตอนจบของเรื่องขึ้นมาใหม่ก็ได้ Summer Kind of Wonderful (2008)
"Be loving and open-hearted with my emotions"."จงเปิดกว้างรับอารมณ์ฉัน" หรือพูดง่ายๆว่า "บ๊วบ" The Love Guru (2008)
I'm wide open if you got any ideas.พ่อเปิดกว้าง ถ้าลูกมีความคิดอะไร Chapter Eight 'Into Asylum' (2009)
Open to interpretation.เปิดกว้างในการตีความหมาย Chapter Ten '1961' (2009)
They haven't delivered the patent yet, Claire. It's an open technology.ตอนนี้ มันยังไม่ถึงมือผู้บริโภค ทุกอย่างเปิดกว้าง Duplicity (2009)
AND BECAUSE OF THIS, WE THINK HE'S YOUNG AND IMPRESSIONABLE, เราจึงคิดว่า เขายังเด็กและเปิดกว้าง Zoe's Reprise (2009)
Oh! Eyes were opened in more ways than one...ดวงตาหลายคู่ได้เปิดกว้างกว่าใครทุกคน Home Is the Place (2009)
God's a-- He's an open-minded guy.เป็นคนเปิดกว้าง Hard-Hearted Hannah (2009)
More traction, please.Damn it.เปิดกว้างอีกนิด แย่จริง Invest in Love (2009)
Susan, I went into this with my eyes wide open.ซูซาน ฉันมาที่นี่ด้วยตาที่เปิดกว้างนะ Would I Think of Suicide? (2009)
Ben, there's nothing you could've done.หล่อนจะทำที่ 65 กับเค้นเปิดกว้าง G-Force (2009)
And Clu, Tron and I, we built the system, where all information was free and open.คลู ทรอน และพ่อ... เราสร้างระบบขึ้น ระบบที่ข้อมูล เผยแพร่ให้ใช้ฟรีและเปิดกว้าง TRON: Legacy (2010)
I will make their world open and available to all of us!ฉันจะทำให้โลกเปิดกว้าง และพวกเราทุกคนได้ใช้ประโยชน์ TRON: Legacy (2010)
But I'd keep your options open.ย่าก็แค่ให้ทางเลือกของหลาน เปิดกว้างเอาไว้ Polly Wants a Crack at Her (2010)
Robin's probably had a tough life, and she needs our help. well, i'm allassionate about it...บางทีโรบินอาจมีชีวิตรันทด เธอต้องการให้เราช่วย ฉันเปิดกว้างนะแต่ลูกฉันเพิ่งวัยกระเตาะ Lovely (2010)
Freedom-loving adults are free to have an open, lively debate about what we want our society to be.ผู้ใหญ่บางคนรักอิสระ และต้องการที่จะเปิดกว้าง และต้องการประกาศให้รู้ ว่าพวกเค้าต้องการให้สังคมเป็นเช่นไร The Rocky Horror Glee Show (2010)
Her forehead hangs over her head like a canopy.หน้าผากของหล่อนเปิดกว้างยังกะท้องฟ้า Aerodynamics of Gender (2010)
It can still be open and casual and fun if you want.เราก็ยังทำตัวตามสบาย เปิดกว้างได้ คุณสนุกได้เต็มที่เลย Now What? (2010)
It's an open competition.มันเป็นการประลองที่เปิดกว้าง The Sorcerer's Shadow (2010)
I was telling Dexter there's plenty of opportunities.ผมบอกเด็กซ์เตอร์แล้วว่าโอกาสเปิดกว้าง One Day (2011)
My mind is open, Professor.ความคิดของผมเปิดกว้าง ศาสตราจารย์ Competitive Wine Tasting (2011)
It's as open as the door to Mona's bedroom.เปิดกว้างพอๆกับประตูไปยังห้องนอนของโมน่า Competitive Wine Tasting (2011)
That way you can share your open mind with everybody.คุณจะได้แชร์ความคิดที่เปิดกว้างของคุณกับทุกคน Competitive Wine Tasting (2011)
Do you think my legs are just gonna magically open for you?คิดว่าขาของฉันจะมีมนตร์วิเศษ เปิดกว้างให้คุณได้งั้นเหรอ You Smell Like Dinner (2011)
Danny's pretty open.แดนนี่ ค่อนข้างเปิดกว้าง There Goes the Neighborhood: Part 2 (2011)
And each year, the city of Rosewood turns out to support our youth as they give us their time, energy, and enthusiasm.และในแค่ละปี เมืองโรสวู้ด จะเปิดกว้างเพื่อสนับสนุนเยาวชนของเรา เหมือนที่พวกเขาเสียสละเวลาและมีความกระตือรืนร้น Never Letting Go (2011)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
เปิดกว้าง[poēt kwāng] (adj) FR: grand ouvert
เปิดกว้างอยู่[poēt kwāng yū] (v, exp) EN: be wide open  FR: être grand ouvert

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
open-ended(adj) (คำถาม) ที่ต้องการคำตอบที่เปิดกว้าง, See also: คำถาม ที่มีลักษณะเป็นปลายเปิด
remain open(phrv) ยังคงเปิดกว้าง, See also: เปิดอ้า, Syn. leave open
wide-open(adj) ขยายเต็มที่, See also: เปิดกว้างอย่างเต็มที่

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
open(โอ'เพิน) adj., v. เปิด, เปิดรับ, เปิดกว้าง, เริ่มต้น, เปิดอิสระ, โล่ง, ไม่ปิดบัง, โปร่ง, ยังไม่ตกลงกันได้, ใจบุญ, ลงมือ, See also: openly adv. openness n. -Phr. open up ลงมือ เริ่มต้น เริ่มยิง, เริ่มคุ้นเคย, เปิดเผย, เพิ่มความเร็ว n. ที่เปิดเผย-Phr. the
yawning(ยอน'นิง) adj. หาว, หาวปาก, อ้าปากกว้าง, เปิดกว้าง

English-Thai: Nontri Dictionary
agape(adj) อ้าปากกว้าง, ตกใจ, เปิดกว้าง
receptive(adj) รับได้, เปิดกว้าง, เกี่ยวกับอวัยวะรับสัมผัส

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top