ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*อิทธิ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: อิทธิ, -อิทธิ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary จีน (ZH) - ไทย (TH)
新正如意 新年发财[xīn zhèng rú yì xīn nián fā cái, ㄒㄧㄣ ㄓㄥˋ ㄖㄨˊ ㄧˋ ㄒㄧㄣ ㄋㄧㄢˊ ㄈㄚ ㄘㄞˊ,          ] (phrase) คำอวยพรสวัสดีปีใหม่ของชาวจีนในวันตรุษจีน ความหมายคือ ขอให้ปีใหม่นี้สมหวังทุกประการ และร่ำรวยมั่งคั่ง คนไทยมักอ่านว่า ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสำเนียงแต้จิ๋ว

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
อิทธิ(n) power, See also: might, Syn. ฤทธิ์, อำนาจ, อำนาจศักดิ์สิทธิ์, Example: ชุมชนในสมัยป่าเถื่อนอาศัยกำลังกายและอิทธิที่เกิดจากอาวุธในการรักษาสวัสดีของตนไว้
อิทธิ(n) prosperity, See also: success, achievement, Syn. ความเจริญ, ความสำเร็จ, ความงอกงาม
อิทธิบาท(n) Four Rddhippada, See also: effective means to attain successes, Example: เขารักที่จะสืบทอดเจตน์จำนงค์ของบิดาผู้เป็นบุรพาจารย์ของตนด้วยอำนาจของอิทธิบาท 4, Thai Definition: คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์ 4 อย่าง คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
มีอิทธิพล(v) influence, See also: be influential in, have an influence in, Example: เทเลเท็กซ์และวีดีโอเท็กซ์มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาระบบทางไกล
ทรงอิทธิพล(v) be influential, See also: be important, be in the saddle, be consequential, be forceful, be powerful, Syn. มีอำนาจ, มีอิทธิพล, Ant. หมดอิทธิพล, หมดอำนาจ, ไร้อำนาจ, Example: ผู้สมัครส่วนใหญ่ ล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง และทรงอิทธิพลด้วยกันทั้งสิ้น
อิทธิฤทธิ์(n) supernatural power, Syn. อำนาจศักดิ์สิทธิ์, Example: เมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้น เรามักจะโทษดวง หรือบอกว่าเป็นอิทธิฤทธิ์อะไรบางอย่าง แทนที่จะพิจารณาว่าเราทำดีแล้วหรือไม่
แผ่อิทธิพล(v) extend one's influence, See also: expand one's influence, Syn. ขยายอิทธิพล, แผ่อำนาจ, Example: กลุ่มผู้ค้ายายังคงแผ่อิทธิพลเข้าไปตามหมู่บ้านและโรงเรียน, Thai Definition: แสดงหรือขยายกำลังอำนาจออกไปให้กว้างขวางไปสู่ที่อื่นๆ
ผู้มีอิทธิพล(n) influential person, See also: despot, tyrant, Example: ผู้มีอิทธิพลมักร่วมมือกันเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้มีอำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่างๆ
ผู้ทรงอิทธิพล(n) influential person, See also: person who influences, Syn. ผู้มีอิทธิพล, ผู้ทรงอำนาจ, Example: รัฐมนตรีคลังเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในคณะรัฐมนตรีชุดนี้, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้มีลูกสมุนมาก มักประพฤตินอกกฎหมาย
อิทธิปาฎิหาริย์(n) miracle, See also: supernatural power, Example: ขณะที่พระวชิรญาณภิกขุเสด็จออกธุดงค์ยังปูชนียสถานต่างๆ ก็จะมีอิทธิปาฎิหาริย์เกิดขึ้นเสมอ, Thai Definition: การปาฎิหารย์โดยฤทธิ์อำนาจ

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
อิทธิ, อิทธิ-(อิดทิ) น. ฤทธิ์, อำนาจศักดิ์สิทธิ์
อิทธิ, อิทธิ-ความเจริญ, ความสำเร็จ, ความงอกงาม.
อิทธิปาฏิหาริย์น. ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์.
อิทธิพลน. กำลังที่ยังผลให้สำเร็จ, อำนาจซึ่งแฝงอยู่ในบุคคลหรือรัฐ ซึ่งสามารถบันดาลให้เป็นไปตามความประสงค์, อำนาจที่สามารถบันดาลให้ผู้อื่นต้องคล้อยตามหรือทำตาม, อำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่าง ๆ เช่น อิทธิพลของดวงดาว, อำนาจนอกเหนือหน้าที่ เช่น ใช้อิทธิพลบังคับให้ยอม.
อิทธิฤทธิ์น. อำนาจศักดิ์สิทธิ์
อิทธิฤทธิ์อำนาจ.
กระตุกหนวดเสือก. ทำให้ผู้มีอิทธิพลไม่พอใจ.
กระแสสังคมน. ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น กระแสสังคมกดดันให้ตำรวจไม่ดำเนินคดีกับเด็กที่ผิดกฎหมาย.
กินลูกตะกั่ว, กินลูกปืนก. ถูกยิง เช่น ไปขัดผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลเข้าระวังจะได้กินลูกตะกั่ว ใครล่ะอยากจะกินลูกปืน.
ขาใหญ่น. นักเลงผู้มีอิทธิพล, นักโทษหรือผู้กักขังที่มีอิทธิพล.
เจ้าพ่อน. เทพารักษ์ผู้คุ้มเกรงถิ่นนั้น ๆ, ผู้เป็นใหญ่หรือมีอิทธิพลในถิ่นนั้น.
เจ้าแม่น. เทพารักษ์ผู้หญิงที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์จะให้ความคุ้มเกรงรักษาได้ เช่น เจ้าแม่ทับทิม, หญิงผู้เป็นใหญ่หรือมีอิทธิพลในถิ่นนั้น.
เซียนน. ผู้บำเพ็ญพรตจนมีอิทธิฤทธิ์, ผู้วิเศษ
น้ำเกิดน. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้น มีระดับนํ้าขึ้นสูงมากและลงตํ่ามากเนื่องจากอิทธิพลของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ในช่วงเวลาที่ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่ในวงโคจรเกือบเป็นแนวเดียวกันกับโลก นํ้าเกิดจะมี ๒ ช่วง คือ ช่วงวันเดือนเพ็ญ ตั้งแต่วันขึ้น ๑๓ คํ่า ถึงวันแรม ๒ คํ่า และช่วงวันเดือนดับ ตั้งแต่วันแรม ๑๓ คํ่า ถึงวันขึ้น ๒ คํ่า.
น้ำขึ้นน. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้นที่มีระดับนํ้าสูงขึ้น ในวันหนึ่ง ๆ ตามปรกตินํ้าจะขึ้น ๒ ครั้ง และนํ้าขึ้นครั้งแรกจะมีระดับสูงกว่าขึ้นครั้งที่ ๒.
น้ำลงน. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้นที่มีระดับนํ้าตํ่าลง ในวันหนึ่ง ๆ ตามปรกตินํ้าจะลง ๒ ครั้ง และนํ้าลงครั้งแรกจะมีระดับตํ่ากว่าลงครั้งที่ ๒.
ปาฏิหาริย์(-ติหาน) น. สิ่งที่น่าอัศจรรย์, ความอัศจรรย์, มี ๓ อย่าง คือ ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ = ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ = การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ = การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์.
ผู้กว้างขวางน. นักเลงใหญ่, ผู้มีอิทธิพล.
ผู้วิเศษน. ผู้มีอิทธิฤทธิ์, ผู้รอบรู้เวทมนตร์คาถาอาคม.
ผู้สำเร็จน. ผู้บำเพ็ญพรตจนมีอิทธิฤทธิ์, ผู้วิเศษ.
มนิลาเรียกเรือนที่มีลักษณะทรงหลังคาที่มีจั่วทั้ง ๒ ด้าน มีหลังคาลาดลงมาทั้ง ๔ ด้าน ได้รับอิทธิพลจากเรือนในกรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า เรือนทรงมนิลา, เรือนทรงมลิลา ก็เรียก.
มหาตมะ(มะหาดตะมะ) ว. ผู้มีอิทธิฤทธิ์, ผู้มีใจสูง.
มือปืนน. ผู้ที่พกพาอาวุธปืนคอยคุ้มกันผู้มีอิทธิพลหรือบุคคลสำคัญเป็นต้น, ผู้ที่รับจ้างยิงคน, ผู้ที่ยิงเขาตาย.
รัว ๒น. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ ใช้บรรเลงในลักษณะต่าง ๆ กันคือ รัวธรรมดาหรือรัวลาเดียว ใช้บรรเลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในการแสดงโขนละครเป็นต้น และใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์ที่แสดงผลสำเร็จของพิธีการหรือพิธีกรรมนั้น ๆ, รัวเฉพาะ ใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์บางเพลง เช่น รัวท้ายเพลงบาทสกุณี รัวท้ายเพลงปลูกต้นไม้ รัวสามลา เป็นเพลงในชุดโหมโรงเย็นมีความหมายแทนการกราบไหว้บูชา ในการแสดงโขนละคร ใช้บรรเลงประกอบกิริยาแสดงอิทธิฤทธิ์ของตัวละครสูงศักดิ์ ในการเทศน์มหาชาติใช้เป็นเพลงประจำกัณฑ์จุลพน.
ราชสีห์สองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้น. คนที่มีอำนาจหรืออิทธิพลพอ ๆ กันอยู่รวมกันไม่ได้, เสือสองตัวอยู่ถํ้าเดียวกันไม่ได้ หรือ จระเข้สองตัวอยู่ถํ้าเดียวกันไม่ได้ ก็ว่า.
รีดใช้กำลังหรืออิทธิพลบังคับเอาทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น รีดเอาเงิน รีดเอาทรัพย์, ใช้ว่า รีดไถ ก็มี.
เรือนทรงมนิลาน. เรือนที่เรียกตามลักษณะทรงหลังคาที่มีจั่ว ๒ ด้าน มีหลังคาลาดลงมาทั้ง ๔ ด้าน ได้รับอิทธิพลจากเรือนในกรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์, เรือนทรงมลิลา ก็เรียก.
แรง ๒น. อิทธิพลภายนอกใด ๆ ที่เปลี่ยนแปลงหรือพยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะอยู่นิ่งหรือสถานะการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุด้วยอัตราเร็วสม่ำเสมอในแนวเส้นตรง.
ล้มช้างโค่นคนที่มีอำนาจมีอิทธิพลลงได้.
ละครพูดน. ละครแบบหนึ่ง รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครพูดบทของตนในการดำเนินเรื่อง อาจพูดเป็นถ้อยคำธรรมดา คำกลอน คำฉันท์ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น ละครพูดเรื่องหัวใจนักรบ ละครพูดคำกลอนเรื่องพระร่วง ละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา.
ละครร้องน. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องเพลงเองในการดำเนินเรื่องและมีลูกคู่ช่วยร้องเป็นตอน ๆ มีบทเจรจาแทรก มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น ละครร้องเรื่องพระร่วง เรื่องสาวเครือฟ้า.
ละครสังคีตน. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องและพูดบทของตน การร้องเพลงและการพูดมีความสำคัญเท่ากัน ถ้าตัดส่วนใดออกเนื้อเรื่องจะขาดไป ดนตรีประกอบไพเราะ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น เรื่องวิวาหพระสมุท มิกาโด วั่งตี.
วิชชา(วิด-) น. ความรู้แจ้ง เช่น วิชชา ๓ วิชชา ๘ ในพระพุทธศาสนา, วิชชา ๓ คือ ๑. บุพเพนิวาสานุสติญาณ (รู้จักระลึกชาติได้) ๒. จุตูปปาตญาณ (รู้จักกำหนดจุติและเกิด) ๓. อาสวักขยญาณ (รู้จักทำอาสวะให้สิ้น), ส่วนวิชชา ๘ คือ ๑. วิปัสสนาญาณ (ญาณอันนับเข้าในวิปัสสนา) ๒. มโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) ๓. อิทธิวิธิ (แสดงฤทธิ์ได้) ๔. ทิพโสต (หูทิพย์) ๕. เจโตปริยญาณ (รู้จักกำหนดใจผู้อื่น) ๖. บุพเพนิวาสานุสติญาณ ๗. ทิพจักขุ (ตาทิพย์) ๘. อาสวักขยญาณ.
วิเศษยอดเยี่ยมในทางวิทยาคมเป็นต้น เช่น ผู้วิเศษ, กายสิทธิ์, มีอำนาจหรืออิทธิฤทธิ์ในตัว, เช่น พรมวิเศษ ของวิเศษ ดาบวิเศษ.
สาว ๒โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เรื่องนี้พอสาวเข้ามาก็พบว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง.
เหยียบถ้ำเสือ, เหยียบถิ่นเสือก. เข้าไปในแดนผู้มีอิทธิพลโดยไม่แสดงความยำเกรง.
อนุสาสนีปาฏิหาริย์น. การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์.
อภิญญา, อภิญญาณ(อะพินยา, อะพินยาน) น. “ความรู้ยิ่ง” ในพระพุทธศาสนามี ๖ อย่าง คือ ๑. อิทธิวิธิ การแสดงฤทธิ์ได้ ๒. ทิพโสต หูทิพย์ ๓. เจโตขปริยญาณ ญาณรู้จักกำหนดใจผู้อื่น ๔. ปุพ-เพนิวาสานุสติญาณ การระลึกชาติได้ ๕. ทิพจักขุ ตาทิพย์ ๖. อาสวักขยญาณ ญาณรู้จักทำอาสวะให้สิ้นไป.
อาเทสนาปาฏิหาริย์น. การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์.
อำนาจมืดน. อิทธิพลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือระเบียบเป็นต้น ที่บังคับให้ผู้อื่นต้องยอมทำตาม.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
peaceful penetrationการแทรกซึมอย่างสงบ (เพื่อให้มีอิทธิพล) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pocket boroughเขตเลือกตั้งใต้อิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pancreatotropic; pancreatropic; pancreotropic๑. -ชอบตับอ่อน๒. -อิทธิพลต่อตับอ่อน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pancreatropic; pancreatotropic; pancreotropic๑. -ชอบตับอ่อน๒. -อิทธิพลต่อตับอ่อน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pancreotropic; pancreatotropic; pancreatropic๑. -ชอบตับอ่อน๒. -อิทธิพลต่อตับอ่อน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pressure groupกลุ่มกดดัน, กลุ่มอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
sphere of influenceเขตอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
affect๑. อารมณ์แสดงออก๒. มีอิทธิพลเหนือ๓. ชอบ๔. แสร้งทำ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
borough, pocketเขตเลือกตั้งใต้อิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cloutการมีอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
gray eminenceผู้มีอิทธิพลหลังฉาก [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
group, pressureกลุ่มกดดัน, กลุ่มอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
influence, sphere ofเขตอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
zone of influenceเขตอิทธิพล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
influenceอิทธิพล [TU Subject Heading]
Ability, Influence of age onอิทธิพลของอายุที่มีต่อความสามารถ [TU Subject Heading]
Buddhist influencesอิทธิพลพุทธศาสนา [TU Subject Heading]
Chinese influencesอิทธิพลจีน [TU Subject Heading]
Extraterestrial influencesอิทธิพลนอกพิภพ [TU Subject Heading]
Foreign influencesอิทธิพลต่างประเทศ [TU Subject Heading]
Forest influencesอิทธิพลของป่า [TU Subject Heading]
Indic influencesอิทธิพลอินเดีย [TU Subject Heading]
Influenceอิทธิพล [TU Subject Heading]
Influence (Psychology)อิทธิพล (จิตวิทยา) [TU Subject Heading]
Influence of climateอิทธิพลของภูมิอากาศ [TU Subject Heading]
Influence on natureอิทธิพลต่อธรรมชาติ [TU Subject Heading]
Jewish influencesอิทธิพลยิว [TU Subject Heading]
Music, Influence ofอิทธิพลของดนตรี [TU Subject Heading]
Pressure groupsกลุ่มอิทธิพล [TU Subject Heading]
Roman influencesอิทธิพลโรมัน [TU Subject Heading]
Western influenceอิทธิพลตะวันตก [TU Subject Heading]
Great Powersประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต]
New Diplomacyการทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
Secretariat of the United Nationsคือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต]
Mechanical stability timeความเสถียรเชิงกลของน้ำยาง หมายถึง ความเสถียรของน้ำยางต่ออิทธิพลทางกล เช่น การกวน การปั๊ม การเคลื่อนย้าย หรือการกระทำทางกลโดยวิธีอื่นๆ สามารถทำได้โดยวัดระยะเวลาที่เริ่มปั่นกวนน้ำยางจนกระทั่งสังเกตเห็นน้ำยาง เริ่มจับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ในหน่วยของวินาที ค่า MST สูงจะบ่งชี้ว่า น้ำยางมีความเสถียรต่ออิทธิพลทางกลได้สูง แต่ถ้าค่า MST ต่ำแสดงว่าน้ำยางนั้นจะสูญเสียความเสถียร สามารถจะจับเป็นเม็ดได้ง่าย เมื่อน้ำยางถูกกระทบกับอิทธิพลทางกล [เทคโนโลยียาง]
Environment Factorsอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม [การแพทย์]
Environmental Influencesอิทธิพลสิ่งแวดล้อม, อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม [การแพทย์]
Foreign Hullอิทธิพลอื่นๆที่อยู่ห่างออกไป [การแพทย์]
ความคับข้องใจความคับข้องใจ, สภาพทางจิตใจหรือความรู้สึกที่เป็นผลสืบเนื่องอันได้แก่ ความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ กลุ้มใจ สิ่งเหล่านี้มาจากความปรารถนาที่บุคคลมุ่งหวัง แต่ถูกขัดขวาง ทำให้ลดแรงจูงใจ บั่นทอนอิทธิพลความพยายาม ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ไม่ตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ด้วยอุปสรร [สุขภาพจิต]
ความสุขความสุข, สิ่งที่ใช้บ่งบอกระดับสภาวะจิตใจของบุคคล ณ ช่วงเวลา หรือ สถานการณ์หนึ่ง ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามที่บุคคลนั้นรู้สึก (ปัจจัยภายนอกตัวบุคคล) และรับรู้ (ปัจจัยภายในบุคคล) จากสิ่งกระตุ้น โดยที่การรับรู้จะมีอิทธิพลเหนือกว่าความรู้สึก เพราะใช้สร้างสมดุลของร่างกายแล [สุขภาพจิต]
law of inheritance of acquired characteristicกฎการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่, กฎที่ลามาร์กตั้งขึ้นเพื่ออธิบายการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ในรุ่นพ่อแม่  อันเนื่องจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมไปยังรุ่นลูก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
indole acetic acid (IAA)กรดอินโดลแอซีติก(ไอเอเอ), ออกซินชนิดหนึ่ง สูตรเคมีคือ C10H9O2N เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
environmentสิ่งแวดล้อม, ภาวะแวดล้อม, สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบตัวของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งภาวะการณ์ต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
auxinออกซิน, ฮอร์โมนในพืชที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
physical factorปัจจัยทางกายภาพ, องค์ประกอบทางกายภาพ, สภาพแวดล้อมทางกายภาพ, สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิตซึ่งมีอิทธิพลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต เช่น ดิน น้ำ อากาศ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
biological factorปัจจัยทางชีวภาพ, องค์ประกอบทางชีวภาพ, สภาพแวดล้อมทางชีวภาพ, สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมและมีอิทธิพลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง เช่น สาหร่ายเป็นปัจจัยทางชีวภาพของปลา เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
dependent variableตัวแปรตาม, ตัวแปรที่ต้องเปลี่ยนแปรสภาพ หรือลักษณะไปตามอิทธิพลของตัวแปรต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Group Influenceอิทธิพลของกลุ่ม [การแพทย์]
Individual Exogenous Factorsปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อร่างกาย [การแพทย์]
Influence Systemการสร้างระบบอิทธิพล [การแพทย์]
Multifactorial Controlอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมหลายๆอย่างบีบบังคับ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I would caution you not to be swayed by your emotions.ผมจะไม่เตือนคุณ จะโดนอิทธิพลโดยอารมณ์ของคุณ In the Name of the Father (1993)
My man was killed right here on your turf.คนของฉันถูกฆ่าในเขตอิทธิพลของนาย Léon: The Professional (1994)
Horror writer Sutter Cane... a harmless pop phenomenon... or a deadly mad prophet of the printed page?นักเขียนแนวสยองขวัญ ซัทเตอร์ เคน ผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อนักอ่าน หรือผู้ทำนายในความบ้าคลั่งของวงการหนังสือ In the Mouth of Madness (1994)
Cane's writing has been known to have an effect... on his less stable readers.นิยายของเคนได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีอิทธิพลต่อผู้อ่านด้วย In the Mouth of Madness (1994)
Have you heard the rumors... that Cane's books have affected certain readers?คุณเคยได้ยินข่าวลือที่ว่า หนังสือของเคนมีอิทธิพลกับผู้อ่านบ้างมั้ย In the Mouth of Madness (1994)
Glad you're not one of those who lets these emotional appeals influence him.ดีใจที่คุณไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยดึงดูดความสนใจของอารมณ์เหล่านี้มีอิทธิพลต่อเขา 12 Angry Men (1957)
So I receive 30% for finance, political influence and legal protection?ดังนั้นผมจึงได้รับ 30% สำหรับเงินทุน อิทธิพลทางการเมืองและการป้องกันกฎหมายหรือไม่ The Godfather (1972)
- big cheese, head honcho...- ผู้ มีอิทธิพล, เหนือหัว... Airplane! (1980)
Her husband, the senator, has influence over defense contracts.สามีของเธอ วุฒิสมาชิกมีอิทธิพล มากกว่าพวกคนดูแลป้องกันอยู่แล้ว Clue (1985)
Jimmy was one of the most feared guys in the city.จิมมี่เป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในเมือง Goodfellas (1990)
How these events helped shape your present perspective... concerning life in contemporary America.เหตุการณ์เหล่านั้น มีิอิทธิพล ต่อความคิดของคุณ... เกี่ยวกับชีวิต ในอเมริกา ร่วมสมัย American History X (1998)
- What's the matter, upset that I rubbed off on her?เป็นอะไรไป? โมโหที่หนูมีอิทธิพลกับน้องหรอ? 10 Things I Hate About You (1999)
Mem Leonowens, Jao Jom Manda Ung is daughter of very influential family.แหม่มเลียวโนวส์, เจ้าจอมมารดาอุ่น\เป็นลูกสาวของผู้มีอิทธิพลครอบครัวหนึ่ง Anna and the King (1999)
I don't want a bad influence to spread chaos among themฉันไม่ต้องการให้มีอิทธิพลไม่ดี มาทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายกับพวกเขา GTO (1999)
And that's Grantland Rice, the most powerful sports writer in the country.และนั่นแกรนท์แลนด์ ไรซ์ นักข่าวกีฬาที่ทรงอิทธิพลที่สุด The Legend of Bagger Vance (2000)
The Gous are a very powerful family.ครอบครัวกูส มีอิทธิพลมาก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
Ithildin.อิทธิลดีน The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
At the beginning of the 21st century, the Umbrella Corporation... had become the largest commercial entity in the United States.ตอนต้นของศตวรรษที่ 21, แอมเบลล่า คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด และทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐ Resident Evil (2002)
Its political and financial influence is felt everywhere.อิทธิพลของบริษัทมีมากมายทั้งในระบบการเมือง หรือแม้แต่การคลัง Resident Evil (2002)
They told me you had influence.ยิทซ์ชาค เขาว่านายมีอิทธิพล ใครบอกนาย The Pianist (2002)
In terms of influencing movements.ทางด้านอิทธิพลการเคลื่อนไหวค่ะ Mona Lisa Smile (2003)
If I talk about it, gangster people will come to my house and cut me.ขืนฉันพูดไป แก็งค์อิทธิพลไปที่บ้าน เชือดฉันแน่ Bringing Down the House (2003)
We wouldn't want you influencing your testimony.ทางเราไม่อยากให้คุณมีอิทธิพลต่อคำให้การ The O.C. (2003)
Initially given a narrow legal mandate what has allowed today's corporation to achieve such extraordinary power and influence over our lives?ในยุคเริ่มต้น บรรษัทได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายที่จำกัดมาก แต่อะไรทำให้บรรษัทในวันนี้มีอำนาจล้นเหลือ และมีอิทธิพลเหนือชีวิตของเรา? The Corporation (2003)
They're selling themselves they're selling their domination they're selling their rule and they're creating an image for themselves as just regular folks down the block.พวกเขาขายตัวเอง พวกเขาขายอิทธิพล พวกเขาขายกฎเกณฑ์ The Corporation (2003)
In a world economy where information is filtered by global media corporations keenly attuned to their powerful advertisers who will defend the publics right to know?ในระบบเศรษฐกิจโลกที่ข่าวสารถูกกลั่นกรอง โดยบรรษัทสื่อมวลชนข้ามชาติ ที่คอยเอาใจผู้ซื้อโฆษณาอันทรงอิทธิพล The Corporation (2003)
and the leverage they had 50 or 60 years ago.รวมทั้งไม่มีอิทธิพลต่อบรรษัทเหมือนเมื่อ 50-60 ปีก่อน และนั่นคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ The Corporation (2003)
The most feared of them all is the Axe Gang.กลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดนั้นก็คือ แก๊งค์ขวานซิ่ง Kung Fu Hustle (2004)
- influenced the modern church.- ที่มีอิทธิพลต่อโบสถ์ในยุคปัจจุบันครับ Love So Divine (2004)
See, I've been approached by several very influential people wondering if I'd be interested in standing for governor.ผู้มีอิทธิพลหลายคนเคยมาทาบฉัน... ไปลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ The Longest Yard (2005)
Understanding our past determines actively..การเข้าใจอดีต มีอิทธิพลต่อ The Da Vinci Code (2006)
You above all people shouldn't be one to dismiss the influence of the past.คุณไม่ใช่คนประเภทมองข้ามอิทธิพลในอดีตอย่างแน่นอน The Da Vinci Code (2006)
The County Board of Supervisors firmly believes we can't allow gangs to dictate the terms by which our young people live.คณะกรรมการฝ่ายบริหารมั่นใจว่า เราจะไม่ยอมให้กลุ่มแก๊ง มีอิทธิพลต่อเด็กในท้องถิ่น Gridiron Gang (2006)
The pull of the soul to a far-off place.อิทธิพลของจิตวิญญาณต่อดินแดนที่ห่างไกล Chapter Five 'Hiros' (2006)
I never said it was stupid. I said it's beneath you.ฉันไม่เคยพูดว่ามันงี่เง่า ฉันพูดว่ามันอยู่ใต้อิทธิพลของคุณ Chapter Nine 'Homecoming' (2006)
So, for it to be expedited, there had to have been some sort of political influence, right?ที่คดีของลินคอล์น ตัดสินเร็วขนาดนี้ เพราะอิทธิพลทางการเมืองด้วยรึเปล่า ? 445 00: Cute Poison (2005)
He's got a lot of influence with the governor.เขามีอิทธิพลมากกับท่านผู้ว่าการรัฐ Pilot (2005)
It's our understanding that you have great influence with the governor.พวกเราเข้าใจว่าท่านมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อท่านผู้ว่า Pilot (2005)
I wouldn't say it's great or influence.พ่อคงไม่พูดว่ามากหรือมีอิทธิพลอะไร พวกเราแค่เป็นเพื่อนกัน Pilot (2005)
Very soon our om will dominate all of the bombay industry.อีกไม่นาน โอมของพวกเรา จะมีอิทธิพล เหนือธุรกิจของเมืองบอมเบย์ทั้งหมด. Om Shanti Om (2007)
But i have seen to be a biggest man of this industry.แต่ผมได้จัดการกับ คนที่มีอิทธิพลที่สุดในธุระกิจนี้ Om Shanti Om (2007)
This guy's important, we can't be wrong. You sure?หมอนี่มีอิทธิพล เราจะพลาดไม่ได้ นายแน่ใจนะ Chuck Versus the Crown Vic (2007)
He's the local big shot businessman.ตอนนี้เป็นนักธุรกิจ มีอิทธิพลมากแถบนี้ Chuck Versus the Sizzling Shrimp (2007)
I don't need some new boy influencing her, distracting her from her needs.ชั้นไม่ต้องการให้หนุ่มหน้าไหน มีอิทธิพลต่อลูก และมากวนใจเธออีก The Wild Brunch (2007)
I DON'T NEED SOME NEW BOY INFLUENCING HER, ฉันไม่ต้องการหนุ่มหน้าไหน ที่จะมามีอิทธิพลต่อลูก Poison Ivy (2007)
IS INFLUENCED BY EARLY FAULKNER.ได้รับอิทธิพล มาจากเออร์ลี่ ฟอลค์เนอร์ Poison Ivy (2007)
Life forms take the land's force and greatly flourish here.วิถีชีวิตได้รับอิทธิพลจากพื้นดิน แล้วที่นี่ก็เป็นที่ที่จะทำให้มั่งคังเฟื่องฟู Unstoppable Marriage (2007)
As if the writing of women did not display the greatest powers of mind, knowledge of human nature, the liveliest effusions of wit and humour and the best-chosen language imaginable?ราวกับว่างานเขียนของผู้หญิง ไม่ได้มีอิทธิพลทางด้านจิตใจ แต่เขียนออกมาจากความรู้ น้ำท่วมทุ่งและอารมณ์ขัน ด้วยภาษาที่ดีที่สุดที่พอจะนึกออก Becoming Jane (2007)
It's just goddamned beyond everything.มันช่างมีอิทธิพลเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง No Country for Old Men (2007)
Probably the most powerful man in San Fancisco... and he hasn't set foot on American soil.บางทีอาจจะเป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลที่สุด ในซานฟราน และไม่ได้มีรากฐานยืนอยู่บนพื้นดินอเมริกา War (2007)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
อิทธิ[itthi] (n) EN: power ; might  FR: prestige [ m ]
อิทธิ[itthi] (n) EN: prosperity ; success ; achievement ; progress  FR: succès [ m ]
อิทธิ[itthi] (n) EN: supernormal power ; sacred power ; spiritual power  FR: pouvoir surnaturel [ m ] ; magie [ f ]
อิทธิบาท[itthibāt] (n) EN: Four Rddhippada ; four foundations for accomplishment ; effective means to attain successes ; basis for success  FR: base d'accomplissement [ f ] ; chemin vers le pouvoir [ m ]
อิทธิปาฏิหาริย์[itthipātihān] (n) EN: miracle ; supernatural power ; magical power  FR: miracle [ m ] ; mystère [ m ] ; pouvoir magique [ m ] ; pouvoir surnaturel [ m ]
อิทธิพล[itthiphon] (n) EN: influence ; pull ; authority ; control  FR: influence [ f ] ; autorité [ f ] ; impact [ m ]
อิทธิพล(ของ)ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย[itthiphon (khøng) phāsā tāngprathēt nai phāsā Thai] (xp) EN: influence of foreign languages on Thai
อิทธิฤทธิ์[itthirit] (n) EN: power ; might ; efficacy ; potency ; supernatural power ; magical power
เขตอิทธิพล[khēt itthiphon] (n, exp) EN: sphere of influence
มีอิทธิพล[mī ittiphon] (v, exp) EN: influence ; be influential in ; have an influence in  FR: être influent ; avoir de l'influence
มีอิทธิพล[mī ittiphon] (adj) EN: influential  FR: influent
ผู้มีอิทธิพล[phū mī ittiphon] (n, exp) EN: influential person  FR: personnage influent [ m ]
ผู้มีอิทธิพล[phū mī ittiphon] (n, exp) EN: despot ; tyrant ;gang boss ; Mafia boss
ผู้ทรงอิทธิพล[phūsong ittiphon] (n, exp) EN: influential person ; person who influences

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
action(n) อิทธิพล, See also: อำนาจ, ฤทธิ์
anticlerical(adj) ต่อต้านอิทธิพลและการกระทำของพระ
arbiter(n) ผู้ที่มีอิทธิพล, See also: ผู้ที่มีอำนาจ
big(adj) มีความสำคัญหรือมีอิทธิพล, Syn. influential, important
be in the play(idm) มีผล, See also: มีอิทธิพล, Syn. bring into, call into
bring someone to the fore(idm) ทำให้กลายเป็นผู้นำหรือมีอิทธิพล, See also: ทำให้มีอำนาจ, Syn. come to
bring something into play(idm) ทำให้มีผล, See also: ทำให้มีอิทธิพล, Syn. be in, come into
bring something to bear on(idm) ทำให้มีอิทธิพลต่อ, See also: ทำให้ บางคน ทำบางสิ่ง
catharsis(n) การปลดปล่อยอารมณ์ที่รุนแรง (โดยอาจได้รับอิทธิพลจากละครหรือเพลง) เพื่อให้อารมณ์นั้นอ่อนลง
clout(n) อิทธิพลของความคิด (คำไม่เป็นทางการ), Syn. influence, power, pull
color(vt) มีอิทธิพลต่อ (ความคิด), Syn. influence, control, power
colour(vt) มีอิทธิพลต่อ (ความคิด), Syn. influence, control, power
dominate over(phrv) มีอำนาจเหนือ, See also: มีอิทธิพลเหนือ, ควบคุม, Syn. domineer over
domineer over(phrv) มีอำนาจเหนือ, See also: มีอิทธิพลเหนือ, ควบคุม, Syn. dominate over
fall beneath(phrv) ทำให้ตกอยู่ภายใต้ (อิทธิพล), Syn. fall under
deprogram(vt) ทำให้หลุดพ้นจากอิทธิพลของคำสั่งสอนในลัทธิ, See also: ปลดเปลื้องให้พ้นจากคำสั่งสอนในลัทธิ, Syn. deprogramme
determine(vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: กระตุ้น, Syn. influence
dominate(vt) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow
dominate(vi) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow
electioneer(vi) ใช้อิทธิพลหรือวิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อได้คะแนนเสียงมา
electrophoresis(n) การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าในของเหลวนั้น, See also: วิธีการวิเคราะห์ประเภทของสารโดยการวัดอัตราการเคลื่อนที่ของแต่ละสารประกอบในคอลลอยด์ข
exert(vt) ใช้อำนาจ (ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง), See also: ใช้อิทธิพล ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง, Syn. bring to bear, put forth
factor(n) ปัจจัย, See also: ตัวประกอบ, ปัจจัยที่ทำให้เกิดผลหรือมีอิทธิพลต่อสิ่งต่างๆ, Syn. constituent, determinant, portion
force(n) คนหรือสิ่งที่มีอำนาจหรืออิทธิพล
get(vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: มีผลต่อ, กระตุ้น, ชักจูง, Syn. arouse, stimulate
hand(n) อิทธิพล
hegemony(n) ความมีอำนาจ (คำทางการ), See also: ความมีอิทธิพลเหนือกว่า
have pull with(idm) มีอิทธิพลต่อบางคน
in with(idm) เป็นเพื่อนกับบางคน, See also: มีอิทธิพลต่อ, มีความสำคัญต่อ
immune(adj) ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจาก, See also: ซึ่งไม่รู้สึกต่อบางสิ่ง, ซึ่งไม่ได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง
impervious(adj) ซึ่งไม่ได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง, See also: ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากบางสิ่ง, Syn. impenetrable, impermeable, Ant. permeable, pervious
influence(n) เจ้าถิ่น, See also: ผู้ทรงอิทธิพล
influence(vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: ชักจูง อำนาจบังคับ, Syn. manipulate, sway, affect
influence(n) อำนาจ, See also: อิทธิพล, การบังคับควบคุม, Syn. authority, power, domination
influential(adj) ซึ่งมีอิทธิพลต่อ, See also: ซึ่งมีอำนาจชี้ขาด, Syn. authoritative, powerful, significant, Ant. unpersuasive, unconvincing
influential(n) ผู้มีอิทธิพล
influential person(n) ผู้มีอิทธิพล, See also: ผู้มีอำนาจ
inspiring(adj) จับใจ, See also: ทรงอิทธิพล
lead on(phrv) บังคับ, See also: มีอิทธิพลให้กระทำบางสิ่ง
lead(vt) มีอิทธิพลต่อความคิดหรือการกระทำ, See also: ครอบงำ, Syn. influence
lord(n) ผู้ทรงอิทธิพลในอาชีพ
lord(vi) มีอำนาจหรืออิทธิพลเหนือ, Syn. domineer
magic(n) เวทมนตร์, See also: อิทธิฤทธิ์, อำนาจวิเศษ, Syn. sorcery
magnate(n) คนสำคัญมาก, See also: ผู้มีอิทธิพลมาก, คนใหญ่คนโต, Syn. baron, big businessman, mogul
mid-Atlantic(n) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอเมริกาเหนือและ Great Britain
mould(vt) ฝึก (นิสัย), See also: มีอิทธิพลในการสร้าง นิสัย, ปั้นแต่ง นิสัย, สร้าง นิสัย, เพาะ นิสัย
mover(n) ผู้มีอำนาจ, See also: ผู้มีอิทธิพล
nonentity(n) คนหรือสิ่งที่ไม่สำคัญ, See also: คนไม่มีอำนาจ, ผู้ไม่มีอิทธิพลใดๆ, Syn. cipher, cypher, nobody, Ant. celebrity, somebody, VIP
other-directed(adj) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภายนอก
penetrate(vt) ขยายอิทธิพล, See also: แผ่ขยายวัฒนธรรม

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
affected(อะเฟค' ทิด) adj. ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, กระทบกระเทือน (จิตใจ) , เสียใจ, สงสาร, แกล้ง, เสแสร้ง, โน้มเอียงไปทาง, Syn. supurious, artificial, Ant. spontaneous, real, moved
almighty(ออลไม' ที) adj. ซึ่งมีอำนาจทุกอย่าง, ซึ่งมีความสามารถทุกอย่าง, ซึ่งมีอำนาจหรืออิทธิพลมาก, น่ากลัว, สุดขีด. -n. -Almighty พระ-เจ้า -almightiness n., Syn. all-powerful
ascendant(อะเซน'เดินทฺ) n. ตำแหน่งที่ครอง, อิทธิพล, อำนาจ, บรรพบุรุษ. -adj. รุ่งเรือง, มีอำนาจ, ฐานะได้เปรียบ, ก้าวหน้า, มีอิทธิพลเหนือ
ascendent(อะเซน'เดินทฺ) n. ตำแหน่งที่ครอง, อิทธิพล, อำนาจ, บรรพบุรุษ. -adj. รุ่งเรือง, มีอำนาจ, ฐานะได้เปรียบ, ก้าวหน้า, มีอิทธิพลเหนือ
before(บิฟอร์') adv., prep., conj. ก่อน, ก่อนหน้า, อยู่หน้า, หน้า, ตรงหน้า, กว่า, ในอนาคต, คอยอยู่, ภายใต้อิทธิพลของ, Syn. ahead
benignant(บินิก'เนินทฺ) adj. กรุณาปรานี, มีอิทธิพลที่ดีต่อ, มีประโยชน์ต่อ, ใจดี, See also: benignancy n., Syn. kind
bias(ไบ'อัส) n. อคติ, เส้นเอียง, ความโน้มเอียง, adj. เอียง, เฉียง, ทแยง vt. ทำให้มีใจโน้มเอียง, มีอิทธิพลต่อ, See also: biasedly adv. ดูbias biassedly adv. ดูbias biasness n. ดูbias, Syn. prejudice
big gunn. บุคคลสำคัญ, ผู้มีอิทธิพล
big shotn. ผู้มีอิทธิพล, ผู้ยิ่งใหญ่, Syn. brass hat
clout(เคลาทฺ) { clouted, clouting, clouts } n. การตี, การต่อย, การตบ, การตีลูกไกล, อิทธิพลของความคิด, ปาฏิหาริย์, เป้า, ลูกกระสุนที่ถูกเป้า, เศษผ้าปะ, เศษของที่ใช้ซ่อมแซม, เศษผ้า, ผ้าขี้ริ้ว. vt. พันผ้า, ปะ, ซ่อมแซม, ตอกตะปูเสริม, ตี, ต่อย, Syn. blow, wal
compel(คัมเพล') { compelled, compelling, compels } vt. บังคับ, ผลักดัน, เกณฑ์, ใช้วิธีบังคับ, ได้มาโดยการบังคับ, ต้อน. vi. ใช้กำลัง, มีอิทธิพลต่อ, See also: compeller n., Syn. enforce
demon(ดี'เมิน) n. ปีศาจ, มาร, ผี, ภูติ, อารมณ์ร้าย, อิทธิพลร้าย, คนชั่วร้าย, คนที่ขยันงานมาก, คนที่มีพลกำลังมาก, สัตว์ดุร้าย, daimon, daemon พระเจ้า เทพเจ้า เทวดา
descension(ดิเซน'เชิน) n. ส่วนของจักรราศี (zodiac) ที่ดาวนพเคราะห์มีอิทธิพลน้อยที่สุด
dominate(ดอม'มะเนท) vt., vi. ครอบงำ, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, ปกครอง, อยู่เหนือ., See also: dominatingly adv. ดูdominate dominator n. ดูdominate
domination(ดอมมะเน'เชิน) n. การครอบงำ, การมีอำนาจเหนือ, การมีอิทธิพลเหนือ, การปกครอง, การควบคุม, Syn. jurisdiction
ectogony(เอค'โทโกนี) n. อิทธิพลของตัวอ่อนที่มีต่อมารดา
effect(อิเฟคทฺ') { effected, effecting, effects } n. ผล, อิทธิพล, ปรากฎการณ์ที่ลวงตา, ความหมาย, ทรัพย์สิน vt. ทำให้เกิดผล, ทำให้เกิด., See also: effectible adj. ดูeffect -Phr. of no effect ไร้ผล -Phr. take effect ทำให้เกิดผล -S...
electrophoresis(อีเลคโทรฟะรี'ซีส) n. การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าใน ของเหลวนั้น., See also: electrophoretic adj., Syn. cataphoresis.
elite(อีลีท', เอลีท') n. ชั้นยอด, หัวกะทิ, บุคคลที่ยอดเยี่ยม, สิ่งที่ได้เลือกสรรแล้ว, กลุ่มอิทธิพล adj. ชั้นยอด, หัวกะทิ, เป็นส่วนที่ดีที่สุด, Syn. gentry อีลีต <คำอ่าน>เป็นศัพท์ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ดีดมาก่อน หมายถึงขนาดความกว้างของตัวอักษรที่พิมพ์ได้ 12 ตัว ต่อ 1 นิ้ว บางทียังนำมาใช้เป็นคำสั่งให้เลือกบนเครื่องพิมพ์ว่าต้องการ ให้เป็นอีลีตหรือไพกา pica ซึ่งหมายถึงอักษรขนาด 10 ตัวต่อนิ้ว ดู pica ประกอบ
force(ฟอร์ส) n. กำลัง, แรง, พลัง, อำนาจ, อิทธิพล, ผลบังคับทางกฎหมาย, พลังจิต, กองกำลัง, กองทัพ, กลุ่ม, คณะบุคคล -Phr. (in force ซึ่งปฏิบัติการอยู่, มีผล) . vt. บังคับ, ผลักดัน, บีบบังคับ, รุน, ดัน, ยัด, เร่ง. vi. บากบั่น, บุกเบิก, ไปด้วยกำลัง., See also: able adj. force
good officesการบริการของผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทอิทธิพล
heavyweight(เฮฟ'วิเวท) adj. หนัก, หนักเป็นพิเศษ, เกี่ยวกับนักมวยหรือนักมวยปล้ำรุ่นหนัก (เกิน175 ปอนด์) n. นักมวยหรือมวยปล้ำรุ่นดังกล่าว, คนที่มีอิทธิพลมาก, คนที่ฉลาดมาก
hegemony(ฮิเจม'โมนี่) n. ความเป็นเจ้าโลก, ความเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือกว่า., See also: hegemonic, hegemonical adj., Syn. leadership
heteronomyn. ภาวะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมของผู้อื่น
impact(อิม'แพคทฺ) n. การกระทบ, การปะทะ, แรงกระทบ, แรงปะทะ, ผลกระทบ, อิทธิพล, ผล. vt. กระทบ, ปะทะ, อัดแน่น. vi. มีผลต่อ, กระทบ, ปะทะ, Syn. shock, collision
important(อิมพอร์' เทินทฺ) adj. สำคัญ, มีความหมาย, เด่น, โอหัง, ยะโส, มีอิทธิพลมาก, มีอำนาจมาก, มีฐานะสูง, ใหญ่โต, มากมาย., See also: importantly adv., Syn. subtantial, serious
induce(อินดิวซฺ') vt. ชักจูง, ชักนำ, ชักชวน, เหนี่ยวนำ, มีอิทธิพลต่อ, ทำให้เกิดขึ้น, พิสูจน์, หาความจริงด้วยการสังเกตข้อเท็จจริง., See also: inducer n. inducible adj., Syn. instigate, persuade
inductive(อินดัค'ทิฟว) adj. อุปนัย, เกี่ยวกับการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็ก, ชักนำมีอิทธิพลต่อ, See also: inductively adv. inductiveness n., Syn. leading, influencing
infection(อินแฟค'เชิน) n. การติดเชื้อ, การติดโรค, โรคติดต่อ, เชื้อ, อิทธิพล, การทำให้มัวหมอง, Syn. disease, illness
influence(อิน'ฟลูเอินซฺ) n. อิทธิพล, อำนาจชักจูง, สิ่งชักจูง, ผู้มีอิทธิพลโน้มน้าว. vt. มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจโน้มน้าว., See also: influenceable adj. influencer n., Syn. control, power
influential(อินฟลูเอน'เชิล) adj. มีอิทธิพล, มีอำนาจชักจูง, มีผลสะท้อน., Syn. weighty
junto(จัน'โท) n. คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเอง (โดยเฉพาะที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง) , กลุ่มอิทธิพลทางการเมือง, ฝ่าย, พรรค, Syn. cabal
leverage(เลฟ'เวอริจฺ, ลี'เวอริจฺ) n. การงัด, กำลังงัด, พลัง, อิทธิพล, อำนาจกระทำ, อำนาจงัด, ง้าง, อำนาจเพิ่มผลทางการเงิน. vt. ให้อำนาจเพิ่มผลทางการเงิน, Syn. influence, pull
lord(ลอร์ด) n. เจ้าศักดินา, ขุนนาง, เจ้าของที่ดิน, ท่านลอร์ด, สมาชิกสภาขุนนาง, ผู้นำในการค้า, เจ้านาย, เจ้าเหนือหัว, พระผู้เป็นเจ้า, พระเยซูคริสต์, ดาวนพเคราะห์ที่มีอิทธิพลครอบงำ. -interj. คำอุทานแสดงความประหลาดใจ. vi. มีอำนาจหรืออิทธิพล, ตั้งตัวเป็นเจ้าเหนือหัว
magnate(แมก'เนท) n. ผู้มีอิทธิพลมาก, ผู้มีความสำคัญมาก, นักธุรกิจที่มีอิทธิพลมาก., See also: magnateship n.
magnetise(แมก'นิไทซ) vt. ทำให้มีคุณสมบัติของแม่เหล็ก, มีอิทธิพลต่อ, สะกดจิต, ทำให้งงงวย, ทำให้หลงเสน่ห์, See also: magnetisation, magnetiszation n. magnetiser, magnetiszer n.
magnetize(แมก'นิไทซ) vt. ทำให้มีคุณสมบัติของแม่เหล็ก, มีอิทธิพลต่อ, สะกดจิต, ทำให้งงงวย, ทำให้หลงเสน่ห์, See also: magnetisation, magnetiszation n. magnetiser, magnetiszer n.
manage(แมน'นิจฺ) v. จัดการ, จัด, ควบคุม, ดูแล, บริหาร, ปกครอง, ทำให้เกิดขึ้น, ประสบความสำเร็จ, มีอิทธิพลต่อ, พลิกแพลง, ปฏิบัติ, ถือ (อาวุธ, เครื่องมือ) , , Syn. direct
miasma(ไมแอซ'มะ) n. บรรยากาศที่เป็นพิษ, อำนาจมือ, อิทธิพลร้าย, See also: misamal adj. miasmatic adj. miastical adj. miasmic adj. pl. miasmata, miasmas
mogul(โม'เกิล, โมเกิล') n. ชาวมองโกลผู้พิชิตอินเดียที่ตั้งอาณาจักรขึ้นในสมัย ค.ศ.1526-1857, ผู้สืบเชื้อสายชาวมองโกลดังกล่าว, ชาวมองโกล, บุคคลที่สำคัญมีอำนาจหรือมีอิทธิพล
operative(ออพ'พะเรทิฟว) n. ผู้ปฏิบัติการ, นักสืบ, สายลับ, ช่าง, คนงาน. adj. เกี่ยวกับปฏิบัติการ, มีอิทธิพล, มีผล, ได้ผล, เกี่ยวกับศัลยกรรม, เกี่ยวกับการงาน, See also: operativity n.
orbit(ออร์'บิท) n. วงโคจร, วิถีโคจร, วิถีทาง, เขตอิทธิพล, เบ้าตา, ขอบตา, ตา. vt., vi. โคจร, See also: orbital adj. orbiter n., Syn. path, circuit
predominance(พรีดอม'มิเนินซฺ) n. ความมีอำนาจหรืออิทธิพลเหนือ, ความเหนือกว่า, ความมีมากกว่า, ความเด่น., Syn. predominancy
predominant(พรีดอม'มิเนินทฺ) adj. มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, มีมากกว่า, เด่น,
predominate(พรีดอม'มิเนท) vi., vt. เหนือกว่า, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, มีมากกว่า, ปกครอง, ครอบงำ., See also: predomination n. predominator n.
preeminence(พรีเอม'มิเนินซฺ) n. ความเหนือกว่า, ความดีกว่าเพื่อน, ความมีอำนาจหรืออิทธิพลมากกว่า., Syn. pre-eminence, preวminence
preeminent(พรีเอม'มะเนินทฺ) adj. เหนือกว่า, ดีกว่า, เด่นกว่า, มีอำนาจหรืออิทธิพลมากกว่า, ดีเลิศ, เด่นชัด., Syn. superior
preponderance(พรีพอน'เดอะเรินซฺ) n. ความเหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ), Syn. preponderancy
preponderate(พรีพอน'ดะเรท) vi. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ) ., See also: preponderation n., Syn. prevail
radius(เร'เดียส) n. รัศมี, เส้นรัศมี, ความยาวของรัศมี, ส่วนที่รัศมี, อิทธิพล, ขอบเขต, กระดูกแขนท่อนนอก, เส้นเลือดดำตามยาวที่สำคัญในส่วนหน้าของปีกแมลง pl. radii, radiuses

English-Thai: Nontri Dictionary
affected(adj) ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, เสแสร้ง
almighty(adj) ยิ่งใหญ่, มีอานุภาพ, มีอำนาจมาก, มีอิทธิพล
ascendant(n) ตำแหน่งสูง, อิทธิพล
ascendent(adj) สูงขึ้น, เฟื่องฟู, รุ่งเรือง, มีอำนาจ, มีอิทธิพลเหนือ
ascendent(n) ตำแหน่งสูง, อิทธิพล
BIG big gun(n) ผู้มีอิทธิพล, ผู้มีอำนาจ, บุคคลสำคัญ
BIG big shot(n) ผู้ยิ่งใหญ่, ผู้มีอิทธิพล
dominant(adj) ซึ่งมีอำนาจเหนือ, ซึ่งมีบทบาทสำคัญ, เด่น, มีอิทธิพลต่อ
effect(n) ผล, ผลกระทบ, ประสิทธิภาพ, อิทธิพล, ปรากฏการณ์, ทรัพย์สิน
FAR-far-reaching(adj) แผ่ไปไกล, มีอิทธิพลมาก, กว้างขวาง
force(n) แรง, อำนาจ, การบังคับ, กำลัง, พละกำลัง, กองทัพ, อิทธิพล
inductive(adj) นำเข้ามา, มีอิทธิพลต่อ, อุปมาน
influence(n) อิทธิพล, บารมี, อำนาจ, การโน้มน้าว
influence(vt) ใช้อิทธิพลต่อ, ชักจูง, ชักชวน, บีบบังคับ
influential(adj) มีอิทธิพล, มีผลกระทบ, มีผลพวง
lord(vt) บังคับบัญชา, ปกครอง, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพล
magnate(n) คนสำคัญ, คนมั่งมี, พ่อค้าใหญ่, เจ้าสัว, ผู้มีอิทธิพล
overlord(n) เจ้าเหนือหัว, เจ้าศักดินา, ผู้มีอิทธิพล
predominate(vt) เด่นกว่า, เหนือกว่า, ครอบงำ, มีมากกว่า, มีอิทธิพลเหนือ
prestige(n) ชื่อเสียง, อิทธิพล, ศักดิ์ศรี, บารมี, รัศมี, เกียรติยศ
strong(adj) มีกำลัง, แข็งแรง, มั่นคง, มีอิทธิพล, รุนแรง
titan(n) ยักษ์, ผู้มีสติปัญญากว้างขวาง, ผู้มีอิทธิพล
titanic(adj) มหึมา, ใหญ่โต, เหมือนยักษ์, มีกำลังมาก, มีอิทธิพล
weighty(adj) หนัก, สำคัญ, เป็นภาระ, ลำบาก, มีอิทธิพล

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Anthropocene[อันโธรพะซีน] (adv) เกี่ยวกับหรือหมายถึงยุคสมัยในทางธรณีวิทยาที่ซึ่งการกระทำของมนุษย์มีอิทธิพลมากที่สุดต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
hold sway over(vt) มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ
overed right[over right] (n, phrase) ถือสิทธิเหนือกฎความถูกต้องอื่นใด หรือมีอำนาจกระทำอย่างไดอย่างหนึงออกนอกกฎเกณฑ์ปกติ มีอิทธิพลมากกว่าเงื่อนไขใดๆที่กำหนดไว้ เมื่อแสดงสิทธินี้แล้วทุกอย่างที่เป็นข้อจำกัดจะเป็นไปตามที่ผู้ถือสิทธิต้องการ
Plassey(name) ปลาศี เป็นหมู่บ้านในรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ในปี ค.ศ. 1757 อังกฤษได้รับชัยชนะในยุทธการที่ปลาศี และเริ่มแผ่อิทธิพลครอบงำอินเดีย
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจากมีความแตกต่างด้านสมบัติวัสดุทั้งสองชนิดทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆทำให้การเชื่อมรอยต่อโลหะทั้งสองได้ค่อนข้างยาก งานวิจัยนี้เพื่อศึกษาปัจจัยการเชื่อมที่มีผลต่อสมบัติเชิงกลความต้านแรงดึงและค่าความแข็งด้วยโปรแกรม ทางสถิติ โดยใช้กระบวนการเชื่อม มิกส์ ลวดเชื่อมสเตนเลสSpeedarc308 Lsi*1.2mm การทดสอบประกอบด้วยโครงสร้างจุลภาค ความแข็ง ความแข็งแรงดึง การดัดโค้ง และการใช้โปรแกรมทางสถิติ กระแสไฟเชื่อม 112A ความเร็วเชื่อ 2 m/s แก๊สปกคลุมแนวเชื่อม Ar 80% + CO2 20 % การทดสอบตามมาตรฐาน ASME BPVC IX ผลการทดสอบค่าความแข็งเฉลี่ย 166.23 HV ความแข็งแรงดึงเฉลี่ย 262.25 MPa การดัดโค้งพบว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นแตกหัก (Broken) ทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นไม่สามารถรับแรงดัดโค้งได้ การวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมทางสถิติ เมื่อกำหนดค่า α มีค่าเท่ากับ 0.05 พิจารณาอันตรกิริยาจากค่า P-Value Strength เท่ากับ 0.884 และค่าความแข็ง Hardness เท่ากับ 0.227 การทดลองทั้งหมดมีระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% ทำให้การทดลองครั้งนี้ไม่มีอิทธิพลต่อผลการทดลองอย่างนี้นัยสำคัญ คำสำคัญ: เหล็กคาร์บอน SS400 , เหล็กกล้าไร้สนิม SUS304 , การเชื่อมมิก , โปรแกรมทางสถิติ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
影響力[えいきょうりょく, eikyouryoku] อิทธิพล

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
三昧[さんまい, sanmai] (n) สมาธิ (คำว่า สัมไม เป็นคำศัพท์ทางศาสนาที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาลีสันสกฤตของอินเดียอย่างเดียวกับที่ภาษาไทยใช้ ที่อินเดียจะออกเสียงว่า สะ-มา-ดิ๊)
反映[はんえい, han'ei] (n) (อิน'ฟลูเอินซฺ) n. อิทธิพล, อำนาจชักจูง, สิ่งชักจูง, ผู้มีอิทธิพลโน้มน้าว. vt. มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจโน้มน้าว., S. . influenceable adj. influencer n., S. control, power

German-Thai: Longdo Dictionary
prägen(vt) |prägte, hat geprägt| มีอิทธิพลอย่างมาก เช่น Die Menschen und das Leben in Thailand sind stark vom Bhuddismus geprägt. ผู้คนและชีวิตในเมืองไทยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสนาพุทธ, Syn. beeinflussen
übernatürliche Kräfte|pl.| อิทธิฤทธิ์
Äußere(n) |das, nur Sg.| ภาพลักษณ์ภายนอก, รูปโฉมภายนอก เช่น Das Äußere spielt heute bei Bewerbungsgesprächen eine größere Rolle. ภาพลักษณ์ภายนอกมีอิทธิพลมากต่อการสัมภาษณ์งานในปัจจุบัน

French-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
eminence grise(jargon) ผู้มีอำนาจ อิทธิพล โดยไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top