ล่วงละเมิด | (v) violate, See also: infringe, encroach, Example: ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทหารญี่ปุ่นได้ล่วงละเมิดเอกราชอธิปไตยของชาติไทย, Thai Definition: ละเมิดสิทธิผู้อื่น |
| ล่วงละเมิด | ก. ละเมิด. | ไก่ | ผู้หญิงที่ถูกล่อลวงมาเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ. | ขอขมา, ขอขมาลาโทษ | ก. ขอไม่ให้เอาโทษในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิดหรือล่วงเกิน เช่น เขามาขอขมาญาติผู้ใหญ่เพื่อลาบวช, ขอษมา หรือ ขอษมาลาโทษ ก็ว่า. | เคารพ | ไม่ล่วงเกิน, ไม่ล่วงละเมิด, เช่น เคารพสิทธิของผู้อื่น. | ทุศีล | ว. ล่วงละเมิดศีลหรือวินัย (มักใช้แก่นักบวชนักพรต). | ปาราชิก | น. ชื่ออาบัติหนักที่สุดในพระวินัย เมื่อภิกษุล่วงละเมิดแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่งต้องขาดจากความเป็นภิกษุทันที บวชเป็นภิกษุอีกไม่ได้ มี ๔ ข้อ คือ ๑. เสพเมถุน ๒. ลักทรัพย์ ๓. ฆ่ามนุษย์ ๔. อวดอุตริมนุสธรรม. | ผิดศีล | ก. ล่วงละเมิดศีล. | ราคจริต | (ราคะจะหฺริด) น. ความประพฤติที่หนักไปทางความใคร่ในกามคุณ เช่น เขามีราคจริตมากจึงก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ, ความประพฤติที่มีพื้นนิสัยหนักไปในทางรักสวยรักงาม, เป็นจริต ๑ ในจริต ๖. (ป.) (ดู จริต). | เสียพรหมจรรย์ | ก. ขาดจากความเป็นนักบวชเพราะล่วงละเมิดการประพฤติพรหมจรรย์. | อาบัติ | น. โทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทหรือข้อห้ามแห่งภิกษุ มี ๗ อย่าง คือ ปาราชิก สังฆาทิเสส ถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฎ ทุพภาษิต มีโทษ ๓ สถาน คือ ๑. โทษสถานหนัก เรียกว่า ครุโทษ หรือ มหันตโทษ ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัติขาดจากความเป็นภิกษุ ได้แก่ อาบัติปาราชิก ซึ่งเรียกว่า ครุกาบัติ ๒. โทษสถานกลาง เรียกว่า มัชฌิมโทษ ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัติต้องอยู่กรรมก่อนจึงจะพ้นโทษ ได้แก่ อาบัติสังฆาทิเสส และ ๓. โทษสถานเบา เรียกว่า ลหุโทษ ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัติที่ตํ่ากว่าอาบัติสังฆาทิเสสต้องปลงอาบัติ คือ บอกอาบัติของตนแก่ภิกษุด้วยกัน ได้แก่ อาบัติถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฏ และทุพภาษิต ซึ่งเรียกว่า ลหุกาบัติ. | อุกอาจ | ก. กล้าทำความผิดโดยไม่เกรงกลัว, กล้าละเมิดโดยไม่กลัวความผิด, บังอาจล่วงละเมิด. |
| |
| Infringe | การล่วงละเมิด ด้วยการผลิต ใช้ เลียนแบบกระบวนการ หรือ ขายการประดิษฐ์ที่ได้รับการคุ้มครองจากสิทธิบัตรในประเทศที่มีการยื่นขอ , การล่วงละเมิด ด้วยการผลิต ใช้ เลียนแบบกระบวนการ หรือ ขายการประดิษฐ์ที่ได้รับการคุ้มครองจากสิทธิบัตรในประเทศที่มีการยื่นขอ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธินั้น [ทรัพย์สินทางปัญญา] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | Conduct of Diplomatic Mission Towards the Receiving State | ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง [การทูต] | Diplomatic Pouch | ถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
| All of the defendants claim... that they were subjected to physical and mental abuse while in police custody. | ว่าพวกเขาโดยนำมาทางกายภาพและ การล่วงละเมิดทางจิตใน? In the Name of the Father (1993) | King's commitment to noble families must not be compromised. | ความมุ่งมั่นของพระราชา ต่อครอบครัวชั้นสูงจะต้องไม่ถูกล่วงละเมิด Anna and the King (1999) | What I need is a husband who will not just stand there while I am being molested! | ฉันต้องการสามีที่่ ไม่แค่ยืนเฉยระหว่างที่ฉันถูกล่วงละเมิด! Crash (2004) | You be sure to let me know next time you wanna finger-fuck my wife. | อย่าลืมบอกผมว่าเมื่อคุณ อยากจะล่วงละเมิดเมียผมอีก Crash (2004) | First, licentiousness between us is not permitted. | ข้อแรกไม่อนุญาต ให้ล่วงละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลซึ่งกันและกัน Full House (2004) | Well, I feel weird being here... like I'm trespassing. | อ้อ ฉันรู้สึกแปลกที่ต้องอยู่ที่นี่... เหมือนกับฉันถูกล่วงละเมิด Mr. Monk and the Girl Who Cried Wolf (2004) | Evolution is an imperfect and often violent process. | บ่อยครั้งวิวัฒนาการที่ไม่สมบุรณ์ ก็ทำให้เกิดการล่วงละเมิดอย่างรุนแรง Chapter Six 'Better Halves' (2006) | Did they violate you? | ถ้าพวกนั้นล่วงละเมิดเธอล่ะก็ Go Go G-Boys (2006) | And Accused Him Of Sexual Assault. | แล้วกล่าวหาเขา ว่าล่วงละเมิดทางเพศ Something's Coming (2007) | Call me an office crazy, but your humbling interest in my personal life could be misinterpreted as harassment in some circles. | จะว่าผมบ้าก็ไม่ว่านะ แต่ที่คุณมายุ่มย่ามชีวิตส่วนตัวผม อาจเป็นคดีล่วงละเมิดได้ทางใดก็ทางนึงนะ It's Alive! (2007) | With her bruising, the wound to the back of her head, we may be looking at a case of sexual assault. | กับรอยช้ำที่ด้านหลังศรีษะเธอ เราอาจมีคดีล่วงละเมิดทางเพศอยู่ Left Turn Ahead (2007) | A woman named Lila Tournay has filed sexual-assault charges against him. | ผู้หญิงชื่อไลล่า ทัวร์เน่ย์ ฟ้องเขาข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ Left Turn Ahead (2007) | If Angel molested me, as the evidence seems to indicate, then he should face the consequences. | ถ้าแองเจิ้ลล่วงละเมิดฉันตามที่หลักฐานมันฟ้อง เขาก็ควรยอมรับผลที่ตามมา คุณคิดว่างั้นมั้ย Left Turn Ahead (2007) | A woman named Lila Tournay has filled sexual assault charges | หญิงชื่อไลล่า ทัวร์เน่ย์ฟ้องข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ The British Invasion (2007) | I am arresting you for violating the special sex trade law. | คุณถูกจับกุมแล้ว ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ Sex Is Zero 2 (2007) | SOMEONE ON THE INSIDE. I SUPPOSE YOU'RE GONNA TELL ME THERE'S A COTTAGE INDUSTRY FOR THAT, TOO. | ฆาตกรล่วงละเมิดเด็ก วาดตัวตลก และคนก็ซื้อไปแขวนในบ้าน The Angel Maker (2008) | If the current sexual allegations are true and he thinks we know it, he's not coming out of there. | ถ้าการสืบสวนเรื่องล่วงละเมิดเป็นจริง และเขาคิดว่าเรารู้ เขาไม่ออกมาแน่ Minimal Loss (2008) | J. J., I need you to release a press statement saying that we have absolutely no evidence of sexual allegations. | เจเจ คุณแถลงข่าวต่อสื่อว่า เราไม่มี หลักฐานใดๆ ในคดีล่วงละเมิดทางเพศ Minimal Loss (2008) | I can't tell you the number of times i've investigated abuse charges against small religious groups. | ผมบอกไม่ถูกเลยว่า กี่ครั้งที่ผมเข้าสอบสวน การล่วงละเมิดในกลุ่มเล็กๆ ที่มีความเชื่อ Minimal Loss (2008) | There's a good chance a serial sex offender | ก็เป็นไปได้ว่าผู้ที่ล่วงละเมิดอย่างต่อเนื่อง Paradise (2008) | Molestation and attempted rape. | ล่วงละเมิด และ ข่มขืน Paradise (2008) | Coaxes riley into the basement where he sexually assaults him. | เขาหลอกพาไรลีย์ไปที่ห้องใต้ดิน แล้วล่วงละเมิดทางเพศเด็ก Memoriam (2008) | Three of Darby's guys have done time for sex crimes. | คนของดาร์บี้สามคนได้ เคยก่อคดีล่วงละเมิดเพศมาหกคดี Fun Town (2008) | - I was sexually abused. | - ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศ Giving Back (2008) | Now, in these circumstances, unless the state has obtained some new information relating to my involvement in the matter, then I find it highly prejudical, even constitutionally offensive, to keep me detained without bail. | ในสถานการณ์เช่นนี้ เว้นซะแต่ว่ารัฐมีข้อมูลเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผมในเรื่องนี้ และผมก็พบว่าเป็นผลร้ายอย่างมาก แม้กระทั่งการล่วงละเมิดสิทธิ Law Abiding Citizen (2009) | Haven't we seen the result of such violations both internationally and domestically, case in point, would be Dave v McDonough doc #0413825 | เรายังไม่เคยเห็นการล่วงละเมิดดังกล่าว ทั้งในระดับนานาชาติและระดับประเทศ ยกตัวอย่างคดี เดฟ กับ แมคโดนัลด์ คดีหมายเลข #0413825 Law Abiding Citizen (2009) | Is money that tight? | บวกกับเขาแต่งงานไปแล้ว เขาคงไม่ต้องการถูกฟ้องคดีล่วงละเมิดทางเพศหรอกน่า Negro Y Azul (2009) | What does that mean? | ปี 2003 คุณแจ้งความว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ Conflicted (2009) | And those Peeping Toms go from sexual assault to murder easily. | การเรียกครั้งนั้น ทอมถูกเรียกไปทำคดีล่วงละเมิดทางเพศ Out of Time (2009) | They were definitely inflicted postmortem. | เขาล่วงละเมิดเธอ หลังจากที่เธอตายแล้ว Out of Time (2009) | "without willful disobedience, nor transgressing due limits, then is he guiltless." | "โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืน หรือไปล่วงละเมิด เนื่องจากมีข้อจำกัดใด ให้ถือเขาผู้นั้นบริสุทธิ์" The Beautiful Day in the Neighborhood (2009) | -if you keep ogling her like that. | เธอฟ้องคุณด้วยข้อหา ใช้สายตาล่วงละเมิดทางเพศได้ Iron Man 2 (2010) | Unless you want a sexual harassment suit crammed down your throat, you will listen to what I have to say. | ถ้าคุณต้องการให้เหมาะกับการล่วงละเมิดทางเพศ crammed ลงลำคอของคุณ คุณจะได้ฟังสิ่งที่ฉันได้กล่าว Death Race 2 (2010) | They take precautions to avoid prurient surveillance. | พวกเขาได้คิดเรื่องการป้องกันการล่วงละเมิดแบบนั้นไว้แล้ว Smoke and Steel (2010) | I come in here to have a mole removed; look what they did. | ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศ ดูสิ่งที่พวกมันทำสิ Oiled (2010) | It applies unto time and all eternal. Anything in the evidence safe is sacrosanct. | มันถูกคนนำมาประยุกต์ใช้จนตราบเท่าทุกวันนี้และตลอดกาล หลักฐานอะไรที่อยู่ในห้องนิรภัยมันจะถูกล่วงละเมิดไม่ได้ Episode #1.5 (2010) | - He's a sex offender. - I know. | เขาเป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ / ผมรู้ First Blood (2010) | If he's prepubescent, it would also explain why there's no sexual experimentation on the victims. | หากเขาอยู่ในวัยก่อนวัยรุ่น มันยังอธิบายได้ว่า ทำไมไม่มีการล่วงละเมิด ทางเพศกับเหยื่อ Safe Haven (2010) | Dr. Hecht, did you find any signs of sexual abuse? | ดร. เฮชท์ คุณพบสัญญาณของการล่วงละเมิดทางเพศมั้ย Reflection of Desire (2010) | Although there were no sexual interactions ante or postmortem, the removal of the lips is in itself a sexual act. | แม้จะไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งก่อนและหลังตาย แต่การเอาปากออก เป็นการกระทำทางเพศ Reflection of Desire (2010) | No. I don't relieve my stress through sexual harassment. | ไม่, ผมไม่ระบายความเครียดของผม ผ่านทางการล่วงละเมิดทางเพศ Episode #1.2 (2010) | You're saying if sexual harassment relieves your stress, I should just accept it? | ถ้าคุณบอกว่าการล่วงละเมิดทางเพศเป็นการระบายความเครียด ของคุณ, ฉันควรจะยอมรับมันไหม? Episode #1.2 (2010) | I told you I don't relieve my stress through sexual harassment. | ผมบอกเธอผมไม่ ระบายความเครียดผ่านทางการล่วงละเมิดทางเพศ Episode #1.2 (2010) | This is way overboard for a prank, not fun, and it's total sexual harassment. | นี้ไม่ใช่การล้อเล่นนะค่ะ มันไม่สนุกเลย และมันถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย Episode #1.16 (2010) | What is it? How do they classify it? Sex offender. | มันโดนข้อหาอะไร ล่วงละเมิดทางเพศ Horrible Bosses (2011) | I'm on the registered sex offender list, yes. | ฉันติดบัญชีผู้ทำผิดล่วงละเมิดทางเพศ Horrible Bosses (2011) | - A registered sex offender. | - ที่ติดคดีล่วงละเมิดทางเพศ Horrible Bosses (2011) | He was sodomized with a tire iron. | เขาถูกล่วงละเมิดด้วยไขควง สำหรับไขล้อรถยนต์ The Thirteenth Step (2011) | Overkill on the store clerk and sodomy--object penetration. | เสมียนของร้านถูกฆ่าเกินจำเป็น และถูกล่วงละเมิด... ด้วยสิ่งของ The Thirteenth Step (2011) | As long as my client leaves uncharged and unmolested! | ตราบใดที่ลูกค้าของผมไม่ถูกตั้งข้อหา และไม่ถูกล่วงละเมิด Taking Account (2011) |
| การล่วงละเมิด | [kān lūanglamoēt] (n) EN: harassment FR: harcèlement [ m ] | ล่วงละเมิด | [lūanglamoēt] (v) EN: violate ; infringe ; encroach |
| break | (vt) ละเมิด, See also: ฝ่า, ฝ่าฝืน, ขัดขืน, ล่วงละเมิด, Syn. disobey | infringe on | (phrv) ฝ่าฝืน, See also: ล่วงละเมิด, ละเมิด, Syn. encroach on, impinge on, trench on | infringe upon | (phrv) ฝ่าฝืน, See also: ล่วงละเมิด, ละเมิด, Syn. encroach on, impinge on, trench on | interlope | (vi) บุกรุก, See also: ล่วงละเมิด, ล่วงล้ำ, รุกล้ำ, เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต, Syn. intrude | inviolable | (adj) ซึ่งไม่อาจรุกล้ำได้ (เขตแดน), See also: ซึ่งไม่สามารถล่วงละเมิดได้ | pass | (n) การล่วงเกิน (ทางเพศ), See also: การฉวยโอกาส, การล่วงละเมิด | tort | (n) การละเมิด, See also: การล่วงละเมิดสิทธิของคนอื่น | tort-feasor | (n) ผู้ล่วงละเมิด, See also: ผู้ละเมิด | tortious | (adj) เกี่ยวกับการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น, See also: เกี่ยวกับการละเมิด | violative | (adj) ซึ่งฝ่าฝืน, See also: ซึ่งละเมิด, ซึ่งกระทำล่วงละเมิด | violently | (adv) อย่างรุนแรง, See also: อย่างฝ่าฝืน, อย่างล่วงละเมิด, Syn. forcibly, forcefully, combatively |
| aggression | (อะเกรส' เชิน) n. การรุกราน, การบุกรุก, การล่วงละเมิด, Syn. attack | cow | (คาว) n. วัวตัวเมีย, แม่วัว, สัตว์ตัวเมียจำพวก Bos, สัตว์ตัวเมียขนาดใหญ่ (เช่นช้าง ปลาวาฬ แรด แม่น้ำ) , หญิงอ้วนพุงพลุ้ย -Phr. (a sacred cow วัวในอินเดีย (ถือเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์) , บุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาอาจล่วงละเมิดได้.) -Phr. (till the cows come home นาน | encroach | (เอนโครช') vt. ล่วงล้ำ, บุกรุก, ล่วงละเมิด, กัดกร่อน, See also: encroachment n. ดูencroach encroachr n. ดูencroach, Syn. intrude | injury | (อิน'จะรี) n. อันตราย, ภัย, ความเสียหาย, ความอยุติธรรมที่ได้รับ, การล่วงละเมิด, การก้าวร้าว, Syn. harm, hurt | injustice | (อินจัส'ทิส) n. ความอยุติธรรม, ความไม่เป็นธรรม, การล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น, การกระทำที่ไม่ยุติธรรม, ความผิด, Syn. grievance | inviolable | (อินไว'อะละเบิล) adj. ล่วงละเมิดไม่ได้, ฝ่าฝืนไม่ได้, ขัดขืนไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ทำให้เสียหายไม่ได้., See also: inviolableness n. inviolably adv., Syn. intact, unbroken | inviolate | (อินไว'อะลิท, -ทิด) adj. ไม่ถูกล่วงละเมิด, ไม่เสียหาย, ไม่ถูกทำลาย, ไม่เสื่อม., See also: inviolacy, inviolateness n. | inviolated | (อินไว'อะลิท, -ทิด) adj. ไม่ถูกล่วงละเมิด, ไม่เสียหาย, ไม่ถูกทำลาย, ไม่เสื่อม., See also: inviolacy, inviolateness n. | offensive | (อะเฟน'ซิฟว) adj. ซึ่งทำให้ไม่พอใจ, ซึ่งทำให้ขุ่นเคือง, ก้าวร้าว, ไม่พอใจ, ล่วงละเมิด, น่ารังเกียจ, เกี่ยวกับการละเมิด, เกี่ยวกับการละเมิด, เกี่ยวกับการกระทำผิด., See also: offensiveness n. | sacred | (เซ'คริด) adj. ศักดิ์สิทธิ์, เกี่ยวกับการบูชาในทางศาสนา, เกี่ยวกับศาสนา, เป็นที่สักการบูชา, ล่วงละเมิดไม่ได้, ล่วงเกินไม่ได้, See also: sacredness n., Syn. hallow | sacrosanct | (แซค'โรแซงทฺ) adj. ศักดิ์สิทธิ์, ล่วงเกินไม่ได้, ล่วงละเมิดไม่ได้., See also: sacrosanctity n. sacrosanctness n. | violence | (ไว'อะเลินซฺ) n. ความรุนแรง, ความดุเดือด, การใช้กำลัง, ความพลการ, การทำลาย, การล่วงละเมิด, การสบประมาท, การทำให้บาดเจ็บ | violent | (ไว'อะเลินทฺ) adj. รุนแรง, ดุเดือด, ใช้กำลัง, พลการ, ทำลาย, ล่วงละเมิด, สบประมาท, ซึ่งทำให้บาดเจ็บ., See also: violently adv. |
| aggression | (n) การรุกราน, การบุกรุก, การก้าวร้าว, การล่วงละเมิด | aggressive | (adj) รุกราน, ล่วงละเมิด, ก้าวร้าว, แข็งขัน | injustice | (n) ความไม่เป็นธรรม, ความผิด, การล่วงละเมิด | offensive | (n) การรุกราน, การบุกรุก, การล่วงละเมิด | piratical | (adj) ที่ลักลอบ, เถื่อนเป็นโจรสลัด, ที่ล่วงละเมิด | violation | (n) การใช้อำนาจ, การประทุษร้าย, การล่วงละเมิด | violence | (n) ความรุนแรง, การล่วงละเมิด, การหักโหม | violent | (adj) รุนแรง, หักโหม, ใช้กำลัง, ล่วงละเมิด |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |