ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*รัศมี*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: รัศมี, -รัศมี-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
รัศมี(n) halo, See also: ring of light, aura, nimbus, radiance, corona, Syn. แสงสว่าง, Example: พระพุทธรูปองค์นี้มีรัศมีเป็นรูปเปลวไฟ, Thai Definition: แสงสว่างที่พวยพุ่งออกจากจุดกลาง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
รัศมี(n) radius, Example: เราส่งสัญญาณไปได้ในรัศมีเพียง 200-300 เมตร, Thai Definition: เส้นที่ลากจากจุดศูนย์กลางของวงกลมไปถึงเส้นรอบวง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
ทาบรัศมี(v) scramble for superiority, See also: vie for superiority, Example: ผู้สมัครส.ส.ฉายแววว่าจะเป็นดาวรุ่งที่มีสิทธิ์จะทาบรัศมีเจ้าของพื้นที่เดิม, Thai Definition: ยกตัวขึ้นเทียบ, Notes: (ปาก)
แผ่รัศมี(v) radiate, See also: emit, diffuse, give out, shine, Syn. เปล่งรัศมี, Example: ทุกคนในที่นั้นมองเห็นพระพุทธรูปแผ่รัศมีออกมาจากทางด้านหลังเป็นแฉกๆ, Thai Definition: เปล่งแสงสว่างพวยพุ่งออกจากจุดกลาง
ส่องรัศมี(v) glitter, See also: glow, shine, gleam, radiate, Syn. เปล่งรัศมี, แผ่รัศมี, Example: รูปปั้นส่องรัศมีเป็นแสงสีทองออกมาอย่างน่าประหลาดใจ, Thai Definition: ส่องแสงสว่างพวยพุ่งออกมาจากจุดกลาง
เส้นรัศมี(n) radius, Syn. รัศมี, Example: ระยะห่างระหว่างจุดติดต่อจะต้องอยู่ในระยะเส้นรัศมีไม่เกิน 500 ฟุต, Count Unit: เส้น, Thai Definition: เส้นตรงที่เชื่อมจุดศูนย์กลางของวงกลมกับจุดใดๆ บนเส้นรอบวง, Notes: (คณิตศาสตร์)
เปล่งรัศมี(v) glow, See also: shine, gleam, glimmer, brighten, Example: สร้อยทองเปล่งรัศมีเหลืองอร่ามอยู่ที่ลำคอของชายคนนั้น

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
จาตุรนต์รัศมีน. ผู้มีรัศมีแผ่ไปในทิศทั้ง ๔ คือ พระอาทิตย์.
รัศมีน. แสงสว่างที่พวยพุ่งออกจากจุดกลาง, แสงสว่าง
รัศมีเส้นที่ลากจากจุดศูนย์กลางของวงกลมไปถึงเส้นรอบวง.
สีตลรัศมีว. มีรัศมีเย็น หมายถึง พระจันทร์ คู่กับ อุษณรัศมี มีรัศมีร้อน หมายถึง พระอาทิตย์.
เส้นรัศมีน. เส้นตรงที่เชื่อมจุดศูนย์กลางของวงกลมกับจุดใด ๆ บนเส้นรอบวง.
หิรัณยรัศมี(หิรันยะรัดสะหฺมี) ว. มีสีผ่องดั่งเงินอย่างสีช้างเผือก.
อุษณรัศมีว. มีรัศมีร้อน หมายถึง พระอาทิตย์, คู่กับ สีตลรัศมี มีรัศมีเย็น หมายถึง พระจันทร์.
กระกรก. ฉายรัศมี เช่น ทินกรกระกรจามี- กรกรรัศมี ดุรงครัตน์พรรณราย (สมุทรโฆษ).
กระแสง ๒น. แสง, รัศมี
กระอุร้อนรน เช่น กระอุอุระประปราณ (สมุทรโฆษ; สรรพสิทธิ์), หนึ่งรัศมีพระสุริยเย็น รัศมีพระจันทร์เป็น กระอุแลกลับร้อนรน (อภิไธยโพธิบาทว์), ใช้เป็น กระอุก หรือ ประอุก ก็มี.
กลม ๒(กฺลม) ว. มีสัณฐานโดยรอบไม่เป็นเหลี่ยม, ถ้าเหมือนลูกหิน เรียกว่า ลูกกลม, ถ้าเหมือนเส้นที่ลากเป็นวงมาจดกัน โดยมีเส้นรัศมียาวเท่ากัน เรียกว่า วงกลม, ถ้าเหมือนสตางค์ เรียกว่า กลมแบน, ถ้าเหมือนกระบอกไม้ไผ่ เรียกว่า กลมยาว, ถ้าเหมือนไข่ไก่ แต่หัวและท้ายเท่ากัน เรียกว่า กลมรี
เกตุมาลาน. พระรัศมีซึ่งเปล่งอยู่เหนือพระเศียรของพระพุทธเจ้า.
ฉัพพรรณรังสี(ฉับพันนะ-) น. รัศมี ๖ ประการ คือ ๑. นีล เขียวเหมือนดอกอัญชัน ๒. ปีต เหลืองเหมือนหรดาลทอง ๓. โลหิต แดงเหมือนตะวันอ่อน ๔. โอทาต ขาวเหมือนแผ่นเงิน ๕. มัญเชฐ สีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ ๖. ประภัสสร เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก. (ปฐมสมโพธิ).
ชวาลาน. เครื่องตามไฟชนิดหนึ่ง ทำด้วยทองเหลือง มีรูปอย่างหม้อขนาดย่อม ๆ สำหรับใส่น้ำมัน มีพวยต่อออกมาข้าง ๆ ๒ พวยบ้าง ๓ พวยบ้าง ใส่ด้ายดิบเป็นไส้ ใช้จุดไฟ และประกอบกับแกนรับหม้อใส่น้ำมันตั้งบนถาด ใช้ได้ทั้งตั้งและแขวน เช่น ถับถึงคฤหาสน์หอทอง ชวาลาเรืองรองรยับด้วยรัตนรัศมี (สรรพสิทธิ์).
โชติรส(โชติ-) น. แก้ววิเศษชนิดหนึ่งมีรัศมีรุ่งเรือง.
ดาราเครื่องประกอบราชอิสริยาภรณ์ตั้งแต่ชั้นทวีติยาภรณ์ขึ้นไป มีลักษณะเป็นดาวรัศมี ๘ แฉกบ้าง ๑๖ แฉกบ้าง, ถ้าเป็นดาราจักรี ก็ทำเป็นรูปจักร ๑๐ กลีบ.
ทางมะพร้าวน. ชื่องูขนาดกลางชนิด Elaphe radiata (Schlegel) ในวงศ์ Colubridae หัวสีน้ำตาลอมแดงด้านข้างมีลายสีดำจากตามาถึงปาก จากหัวถึงครึ่งลำตัวมีลายตามยาวหรือเป็นดวงสีดำสลับขาว เป็นรัศมีคล้ายแสงอาทิตย์ ส่วนที่เหลือถึงหางสีแดงอมน้ำตาล น้ำตาลอมแดง หรือน้ำตาลอมเหลือง ไม่มีพิษ, ก้านมะพร้าว ก็เรียก.
นาราน. รัศมี.
บดบังก. บังแสง, บังรัศมี.
บริราช(บอริราด) ก. ส่องแสงทุกด้าน, ฉายรัศมีโดยรอบ.
ประภามณฑลน. รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป.
เปล่ง(เปฺล่ง) ก. ฉายออก, แผ่ออก, เช่น เปล่งรัศมี, ออกเสียง เช่น เปล่งเสียง.
พวยพุ่งว. ช่วงโชติ, พุ่งเป็นลำออกไปโดยเร็ว เช่น แสงพวยพุ่ง รัศมีพวยพุ่ง.
ภัสสร(พัดสอน) น. แสงสว่าง, รัศมี.
ภาน. แสงสว่าง, รัศมี.
มนทกานติน. “ผู้มีรัศมีอ่อน” คือ ดวงเดือน.
มยูขะน. รัศมี.
ระยับว. พราวแพรว, วับวาบ, (ใช้แก่แสงหรือรัศมี) เช่น ผ้ามันระยับ, นิยมใช้เข้าคู่กับคำ ระยิบ เป็น ระยิบระยับ เช่น ดาวส่องแสงระยิบระยับ.
รัศมิมัตว. มีรัศมี, ใช้ รัศมิมาน ก็ได้.
รัศมิมานว. มีรัศมี.
วงกลมน. รูปวงที่กลมรอบมีรัศมีจากจุดศูนย์กลางไปถึงขอบมีขนาดเท่ากันหมด
วิภาน. รัศมี, แสงสว่าง, ความแจ่มแจ้ง, ความสุกใส, ความงดงาม.
ศิรประภาน. รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป.
สัมโภคกาย(สำโพกคะ-) น. พระกายของพระพุทธเจ้าอันเป็นทิพยภาวะ มีรัศมีรุ่งเรืองแผ่ซ่านทั่วไป และจะปรากฏแก่พระโพธิสัตว์ มหาสัตว์ แม้จนบัดนี้.
อรรธกรรณ(อัดทะกัน) น. “ครึ่งเส้นผ่าศูนย์กลาง” คือ รัศมีของวงกลม.
อังคีรส(-คีรด) ว. มีรัศมีซ่านออกจากพระกาย, เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง.
อังศุแสง, รัศมี.
อาภาน. แสง, รัศมี, ความสว่าง.
อาภาส(-พาด) น. รัศมี, แสงสว่าง.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
phloem rayเนื้อเยื่อแนวรัศมีของโฟลเอ็ม [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
pith rays; medullary raysรัศมีเนื้อไม้ [ มีความหมายเหมือนกับ interfascicular region ] [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
root radiusรัศมีฐาน, รัศมีราก [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔]
regular flower; actinomorphic flower; radially symmetrical flowerดอกสมมาตรตามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radial๑. -รัศมี๒. -แผ่รัศมี [ มีความหมายเหมือนกับ radiant ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
radial drainage patternแบบรูปทางน้ำรัศมี [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
radial parenchyma; ray parenchymaพาเรงคิมาแนวรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radial runoutความส่ายจากแนวรัศมี, ความเบี้ยวจากแนวรัศมี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
radial sectionภาคตัดแนวรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radial symmetryสมมาตรตามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
rolling radiusรัศมีการกลิ้ง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
raypathแนวรัศมี [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ray parenchyma; radial parenchymaพาเรงคิมาแนวรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
ray tracheidเทรคีดแนวรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radius๑. รัศมี๒. กระดูกปลายแขนท่อนนอก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
radiusรัศมี [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
radius of curvatureรัศมีความโค้ง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
radius of gyrationรัศมีไจเรชัน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
radius rideการปีนตามแนวรัศมี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
radius vectorเวกเตอร์รัศมี [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
radially symmetrical flower; actinomorphic flower; regular flowerดอกสมมาตรตามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radiant๑. -แผ่รัศมี [ มีความหมายเหมือนกับ radial ๒ ]๒. -แผ่รังสี, -แผ่ความร้อน๓. -ส่งผ่านโดยรังสี [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
radiate๑. แผ่รอบจุด, เรียงเป็นรัศมี๒. ฉายรังสี [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
radiateแผ่ตามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
radiation๑. การแผ่รัศมี, การแผ่รังสี๒. การฉายรังสี, การอาบรังสี [ มีความหมายเหมือนกับ irradiation ]๓. รังสี [ มีความหมายเหมือนกับ ray ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
actinomorphic flower; radially symmetrical flower; regular flowerดอกสมมาตรตามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
aureoleรัศมี [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
multiseriate rayเนื้อเยื่อแนวรัศมีซ้อน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
medullary rays; pith raysรัศมีเนื้อไม้ [ มีความหมายเหมือนกับ interfascicular region ] [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
circumradiusรัศมีวงล้อม [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
xylem rayเนื้อเยื่อแนวรัศมีของไซเล็ม [พฤกษศาสตร์ ๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
focal radiusรัศมีโฟกัส [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
in-radiusรัศมีใน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
transcalentรัศมีความร้อนผ่านได้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
turning radiusรัศมีเลี้ยว [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
triradiateมีสามรัศมี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
uniseriate rayเนื้อเยื่อแนวรัศมีเดียว [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
upright ray cellเซลล์รัศมีแนวตั้ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Betatronบีตาทรอน, เครื่องเร่งอิเล็กตรอน ที่มีลักษณะเป็นรูปโดนัต อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งเป็นวงกลมรัศมีคงที่โดยการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก เครื่องที่มีรัศมีประมาณ 0.75-1.00 เมตร สามารถเร่งอิเล็กตรอนให้มีพลังงานสูงถึง 340 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ บีตาทรอนเครื่องแรกสร้างโดย Donald W. Kerst ในปี พ.ศ. 2483 ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถเร่งอิเล็กตรอนให้มีพลังงาน 2.5 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ [นิวเคลียร์]
Synchrotronซิงโครทรอน, เครื่องเร่งอนุภาค ที่อนุภาคถูกเร่งโดยสนามไฟฟ้าซึ่งเปลี่ยนแปลงด้วยความถี่ในย่านความถี่ของคลื่นวิทยุ และถูกบังคับให้วิ่งเป็นวงกลมรัศมีคงที่โดยการควบคุมของสนามแม่เหล็กที่เพิ่มขึ้น พร้อมสัมพันธ์กับความเร็วของอนุภาคที่เพิ่มขึ้น ซิงโครทรอนเครื่องแรก ชื่อ คอสโมทรอน (Cosmotron) สร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2495 ตั้งอยู่ที่ Brookhaven National Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถเร่งโปรตอนให้มีพลังงานสูงถึง 2, 300 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์, Example: [นิวเคลียร์]
Neutron bombลูกระเบิดนิวตรอน, ลูกระเบิดไฮโดรเจนขนาดเล็ก ออกแบบเป็นพิเศษให้มีผลทำลายน้อยที่สุดจากแรงระเบิดและความร้อนในวงจำกัดรัศมีสองร้อยถึงสามร้อยเมตร แต่มีผลในวงกว้างทำให้สิ่งมีชีวิตถึงตายได้จากอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมมา ลูกระเบิดนิวตรอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายรถถังและกองทหารในสนามรบโดยไม่เป็นอันตรายต่อตัวเมืองและย่านชุมชนที่อยู่ห่างออกไป <br>(ดู H-bomb ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
betatronเครื่องบีตาตรอน, เป็นเครื่องเร่งอิเล็กตรอนแบบหนึ่ง โดยที่อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งเป็นวงกลมที่มีรัศมีคงที่ โดยใช้แรงกระทำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก เครื่องเร่งที่มีลักษณะเป็นรูปโดนัท รัศมีวงจรประมาณ 0.75-1.00 เมตร เครื่องนี้สามารถเร่งอิเล็กตรอนให้มีพลังงานสูงถึง 340 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ บีตาตรอนเครื่องแรกสร้างโดย Donald W. Kerst ในปี พ.ศ.2483 ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ (University of Illinois) ประเทศสหรัฐอเมริกา เร่งอิเล็กตรอนให้มีพลังงาน 2.5 ล้านอิเล็กตรอน [พลังงาน]
synchrotronเครื่องซินโครตรอน, เป็นเครื่องเร่งอนุภาคชนิดหนึ่ง อนุภาคถูกเร่งภายใต้สนามไฟฟ้าซึ่งเปลี่ยนแปลงด้วยความถี่ ในย่านความถี่ของคลื่นวิทยุ ในขณะเดียวกันกับที่อนุภาคถูกบังคับให้วิ่งเป็นวงกลมรัศมีคงที่ โดยการควบคุมของสนามแม่เหล็กที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมสัมพันธ์กับความเร็วของอนุภาคที่เพิ่มขึ้น ซินโครตรอนเครื่องแรกชื่อ คอสโมตรอน (cosmotron) ตั้งอยู่ที่ห้องปฏิบัติการบรูคเฮเวน (Brookhaven National Laboratory) มลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2495 เครื่องมือนี้ใช้แม่เหล็กมีน้ำหนักถึง 2, 200 ตัน สามารถเร่งโปรตรอนให้มีพลังงานสูงถึง 2, 300 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ [พลังงาน]
Interlocking or Intermeshingลักษณะของโรเตอร์ในเครื่องผสมยางระบบปิดที่มีรัศมีการหมุนของโรเตอร์ ทั้งสองคาบเกี่ยวกัน [เทคโนโลยียาง]
Non-interlocking or Non-intermeshingลักษณะของโรเตอร์ในเครื่องผสมยางระบบปิดที่มีรัศมีการหมุนของโรเตอร์ ทั้งสองไม่คาบเกี่ยวกัน [เทคโนโลยียาง]
Atomic Radiusรัศมีของอะตอม [การแพทย์]
Fold, Radiatingรอยจีบย่นในแนวรัศมี [การแพทย์]
Radiation pointจุดแผ่รัศมี [อุตุนิยมวิทยา]
hydraulic radiushydraulic radius, รัศมีชลศาสตร์ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
unit circleวงกลมหนึ่งหน่วย, วงกลมที่มีรัศมียาว 1 หน่วย  จุดศูนย์กลางอยู่ที่จุด (0, 0) [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
atomic radiusรัศมีอะตอม, ความยาวครึ่งหนึ่งของระยะทางระหว่างนิวเคลียสของอะตอมหนึ่งไปยังนิวเคลียสของอีกอะตอมหนึ่ง โดยการวัดแบบรัศมีโคเวเลนต์ รัศมีวันเดอวาลส์หรือรัศมีโลหะ ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของพันธะระหว่างอะตอมนั้น ๆ ดังนั้นรัศมีอะตอมของธาตุหนึ่งอาจมีค่าต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเป็ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
radianเรเดียน, หน่วยวัดมุม 1 เรเดียน หมายถึงมุมที่ศูนย์กลางของวงกลมซึ่งรองรับส่วนโค้งของวงกลมที่มีความยาวเท่ากับรัศมีของวงกลมนั้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
radiusรัศมี, ส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดศูนย์กลางของวงกลมกับจุดใดจุดหนึ่งบนเส้นรอบวง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
mobile phone communicationการสื่อสารโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่, ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงส่งสัญญาณสื่อสารกันระหว่างเครื่องโทรศัพท์และเสารับส่งสัญญาณ ที่อยู่ในรัศมีการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเรียกบริเวณที่แต่ละเสาสัญญาณครอบคลุมว่าเซล สัญญาณการสื่อสารระหว่างโทรศัพท์ในแต่ละเซล จะถูกส่งต่อจากเสารับส่งสัญญาณเข้าสู่เครือข่ายระบบโทร [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
angular speedอัตราเร็วเชิงมุม, มุมที่รัศมีของการเคลื่อนที่กวาดได้ในหนึ่งหน่วยเวลา อัตราเร็วเชิงมุม มีหน่วย เรเดียนต่อวินาที [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Iridescent Sheenรัศมีเหลือง, เงาประกายรอบๆ [การแพทย์]
Mediators, Short Rangeรัศมีการทำงานในระยะใกล้ [การแพทย์]
Metallic Radiusรัศมีโลหะ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
It was pretty obvious who the star in our family was.ใครจะกล้าทาบรัศมีดาราล่ะ The Bodyguard (1992)
Let us brighten this firmament.รัศมีดาราจะพุ่งขึ้นจับท้องฟ้า The Bodyguard (1992)
If I ever see him within a mile of this school again, I'll have him put to death!ถ้าฉันเห็นมันอีกในรัศมีหนึ่งไมล์ จาก ร.ร., จะฆ่ามันทิ้งซะ! Suspiria (1977)
Not yet. You'll be in radar range any second now.ยังก่อน คุณใกล้จะอยู่ในรัศมีเรดาร์แล้ว Airplane! (1980)
They should have been in range 10 minutes ago.พวกเขาน่าจะอยู่ในรัศมีตั้ง 10 นาทีมาแล้ว Airplane! (1980)
Gunderson, check the radar range. Anything yet?กันเดอร์สัน ตรวจสอบรัศมีเรดาร์ซิ พบอะไรหรือยัง Airplane! (1980)
We used to talk to Washington all the time.และไม่มีใครเหลือแล้ว ในรัศมีวิทยุสงครามโลกเนี่ย เราเคยติดต่อกับวอชิงตันนี่นา เขาน่าจะได้ยินเรานะ Day of the Dead (1985)
Must be within three or four miles.มันต้องอยู่ภายในรัศมี 3-4ไมล์ Indiana Jones and the Last Crusade (1989)
He can't get within five feet of Lana Lang without turning into a freak show.คล้ากเคนท์ ไม่เคยเข้าใกล้ ลาน่า ในรัศมี 5 ก้าว โดยไม่โชว์อะไรตลกๆ ออกมา Pilot (2001)
The width of the arms of the star must be one centimeter.รัศมีของดวงดาวแต่ละแฉก มีความยาว 1 เซนติเมตร The Pianist (2002)
The Mojave area will sustain significant nuclear fallout.เขตโมฮาวีอยู่ในรัศมีของละอองปรมาณู Terminator 3: Rise of the Machines (2003)
- They're just out of EMP range.-พวกมันอยู่ไม่เข้ามาในรัศมีของ อีเอ็มพี The Matrix Reloaded (2003)
In 100 years, no ship has been within 100 kilometers of it.ในรอบร้อยปี ไม่มียานลำไหนเข้าใกล้เกินรัศมี 100 กิโลเมตรได้เลย The Matrix Revolutions (2003)
Seven law schools within 45 minutes of Philadelphia.7 โรงเรียนกฎหมาย ในรัศมี 45 นาทีจากฟิลาเดลเฟีย Mona Lisa Smile (2003)
15 tunnels, all converging in a 5-block radius. Here.ถ้าเราลงไป 3 ชั้น จะเจออุโมงค์ 15 อุโมงค์ ซึ่งทั้งหมดจะมาบรรจบกันในรัศมี 5 บล็อก The Bourne Supremacy (2004)
Do you know you have a special aura?แกรู้หรือป่าว ว่าแกมีรัศมีแรงกล้า Kung Fu Hustle (2004)
somewhere within the vicinity of Appleton Lake.ที่อยู่ในรัศมี ชานเมืองของ ทะเลสาบแอปเปิลตัน Pilot (2004)
I define any rescuable within a million miles to miss this baby!ฉันจะหาคนมาช่วยเราในรัศมี หนึงล้านไมล์ด้วยสิ่งนี้ ! Madagascar (2005)
Don't eat the radial!อย่ากินรัศมี! Cars (2006)
- I mean- - You just need to stay out of sight.ต้องอยู่ห่าง ๆรัศมีไวันะ Big Momma's House 2 (2006)
This extremely powerful and effective system, once activated, completely annihilates all biological agents, within a radius of dozens of kilometers.ซึ่งมีพลังมหาศาล และมีระบบที่มีประสิทธิภาพ เมื่อถูกใช้งาน จะทำการกวาดล้าง สารพิษต่างๆ ในรัศมี กว่าหลายกิโลเมตร The Host (2006)
That means she's within 200 meters of a transmitter.ซึ่งก็หมายความว่า เธออยู่ในรัศมี200เมตรจากเครื่องส่งสัญญาณ The Host (2006)
Please immediately evacuate out of the 500 meter range of the release point.โปรดอพยพผู้คน ออกจากบริเวณรัศมี 500เมตรจากจุดนี้ The Host (2006)
Please immediately evacuate out of the 500 meter range of the release point.โปรดอพยพผู้คน ออกจากบริเวณรัศมี 500เมตรจากจุดนี้ The Host (2006)
We have a lead.เขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง รัศมี 20 ไมล์ห่างจากจุดที่พวกคุณอยู่ L.D.S.K. (2005)
The crime-scene photos show blood radiating outward around the victim's body.รูปจากที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นว่า จากรัศมีการกระจายออกของเลือด รอบตัวเหยื่อ That Night, a Forest Grew (2007)
We're currently inspecting all vehicles within a 1 -kilometer radius of the area.เรากำลังตรวจค้นรถยนต์ทุกคัน ที่อยู่ในรัศมี 1 กิโลนี้ Appleseed Ex Machina (2007)
What's weird is that my guess on the jaw radius was actually spot on.มันแปลกอะไรที่ฉันเดาในรัศมีกราม ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องสนใจ 65 Million Years Off (2007)
You can even spot them in a crowd of people because they have an aura.คุณสามารถที่จะเจอพวกเค้าท่ามกลางกลุ่มคนจำนวนมาก เพราะพวกเค้ามีรัศมีที่เปล่งประกาย Attack on the Pin-Up Boys (2007)
Check on the rep Yep, second to noneเช็ครัศมี อยู่ขั้นที่ 2 Transformers (2007)
I'm only gonna get 20 or 30 miles out of these things.รัศมีไกลสุด 20 - 30 ไมล์ส Transformers (2007)
This pen contains enough cyanide to kill everyone within 100-yard radius.ปากกานี้มีเพียงพอ ไซยาไนด์ฆ่าทุกคน ภายในรัศมี 100 หลา Balls of Fury (2007)
call the local police in flagstaff. have them patrol the outside perimeterบอกตำรวจพื้นที่ ให้คอย ดูอยู่นอกรัศมี เราด้วย Next (2007)
I want a two mile radius. All the telephones, short waves, ฉันขอให้ภายในรัศมีสองไมล์ โทรศัพท์ คลื่นวิทยุ Next (2007)
The stars of Real Madrid are being eclipsed by North Londoners.ดาราดังๆ ในรีลมาดริด กำลังถูกบดบังรัศมีโดยนักเตะจากลอนดอน Goal II: Living the Dream (2007)
Now, green means you're good, you're in the safe zone, which covers about a 100-foot radius from this guy.ไฟสีเขียวแบบนี้ถือว่าโอเค เธออยู่ในเขตปลอดภัย ซึ่งครอบคลุมรัศมีประมาณ 100 ฟุตจากไอ้นี่ Disturbia (2007)
Gotta be very careful with these. It's got a 15-foot kill radius.ต้องระวังเป็นพิเศษ มันมีรัศมีทำลาย 15 ฟุต Shooter (2007)
You are the sun, radiate lightเธอคือดวงตะวัน ฉายรัศมี Like Stars on Earth (2007)
You are the sun, radiate lightเธอคือดวงตะวัน ฉายรัศมี Like Stars on Earth (2007)
You are the sun, radiate lightเธอคือดวงตะวัน ฉายรัศมี Like Stars on Earth (2007)
You are the sun, radiate lightเธอคือดวงตะวัน ฉายรัศมี Like Stars on Earth (2007)
All roads within two miles of Sona are closed.ถนนทุกสายในรัศมี สองไมล์/Nจากโซน่าถูกปิดแล้ว Interference (2007)
FROM NOW ON, YOU ARE INVISIBLE. AND WE'RE GONNA MAKE SURE EVERY WOMAN IN A 5-MILE RADIUSแต่นี้ต่อไป เธอล่องหนในสายตาเรา และผู้หญิงทุกคนในรัศมี5ไมล์จากนี้ Mother Said (2008)
And the next thing you know, this whole goddamn street... sorry... turns into a carnival with every holy-roller freak within a 100-mile radius lined up around the block to touch or catch a glimpse of my stucco job.และเผลอแป๊บเดียวถนนบ้านเราทั้งถนน คงกลายเป็นละครสัตว์ มีพวกเชื่องมงายในเรื่องนี้ จากรัศมีเป็นร้อยๆ ไมล์มาเข้าคิวยาว Henry Poole Is Here (2008)
They're slowly increasing the diameter, and keeping it just ahead of their troops.พวกมันกำลังค่อยๆ ขยายเส้นศูนย์กลางออก ให้มีรัศมีช่วยกำบังกองทหาร Star Wars: The Clone Wars (2008)
Hospital gave her pain meds.ไปทำอะไรมา รัศมีจับเชียว You'll Be the Death of Me (2008)
I mean basically any bar within a ten-Mile radius.ก็แบบว่า แทบจะทุกบาร์ในรัศมี 10 ไมล์ Do You Take Dexter Morgan? (2008)
What, 40 miles away?หรือที่ไหนในรัศมี 40 ไมล์? Turning Biminese (2008)
It's highly likely they live within a one-mile radius.เป็นไปได้สูงที่บ้านของ พวกเขาจะอยู่ในรัศมี 1 ไมล์ Brothers of Nablus (2008)
Repeat. Adams and Fifth.ลองมาดูว่าดาดฟ้าตรงไหนที่อยู่ในระยะสายตาบ้าง ภายในรัศมีควบคุม Wrecking Crew (2008)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
รัศมี[ratsamī] (n) EN: ray ; beam of light ; halo  FR: auréole [ f ] ; halo [ m ]
รัศมี[ratsamī] (n) EN: radius  FR: rayon [ m ]
รัศมีอะตอม[ratsamī atøm] (n, exp) EN: atomic radius  FR: rayon atomique [ m ]
รัศมีอิออน[ratsamī iøn] (n, exp) EN: ionic radius  FR: rayon ionique [ m ]
รัศมีทำการ[ratsamī thamkān] (n, exp) FR: rayon d'action [ m ]

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
aura(n) พลังหรือรัศมีที่ออกมาจากคนหรือสิ่งของ
ecliptic(adj) เกี่ยวกับจันทรคราสหรือสุริยคราส, See also: เกี่ยวกับการบดบังรัศมี, เกี่ยวกับการกินเป็นวง, Syn. orbital
get within(phrv) อยู่ภายในรัศมีของ, See also: อยู่ใกล้พอที่จะยิ่ง, Syn. come within
halo(vi) ทรงกลด, See also: มีรัศมี, ล้อมรอบด้วยรัศมี
halo(n) รัศมี, See also: ฉัพพรรณรังสี, Syn. glory, nimbus
nimbus(n) วงแหวนเรืองแสงรอบศีรษะของนักบุญหรือผู้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์, See also: ทรงกลด, รัศมี, Syn. aura, glory, halo
outshine(vt) บดบังรัศมี, Syn. overshadow, outclass
radio(prf) แท่ง, See also: รัศมี, รังสี
radial(adj) ซึ่งเป็นรัศมีของวงกลม, See also: ที่มีลักษณะเป็นเส้นออกจากจุดศูนย์กลางของวงกลม
radian(n) มุมที่เกิดระหว่างเส้นรัศมี 2 เส้นของวงกลม, See also: ความยาวของเส้นรอบวงที่อยู่ตรงข้ามกับมุมนี้มีค่าเท่ากับความยาวของเส้นรัศมี 1 เส้น
radii(n) รัศมี (คำพหูพจน์ของคำว่า radius)
radius(n) รัศมี, See also: ความยาวจากจุดศูนย์กลางถึงเส้นรอบวงของวงกลม
ray(n) รังสี, See also: รัศมี, ลำแสง, Syn. beam, flash, light, gleam
ray(vi) ปล่อยรังสี, See also: ปล่อยรัศมี
sector(n) ส่วนของวงกลม (ทางเรขาคณิต), See also: รูปตัดที่อยู่ระหว่างเส้นรัศมี 2 เส้นกับส่วนของเส้นรอบวง, เซ็กเตอร์

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
actinomorphic(แอคทิโนมอร์' ฟิค) fadj. ซึ่งเกี่ยวกับรัศมีสมมาตรหรือสัดส่วน, แบ่งออกได้ในแนวตั้งตรงเป็นครึ่งเล็ก ๆ ที่เหมือนกัน. -actinomorpous adj. actinomorphy n.
aura(ออ'ระ) n., (pl. auras, aurae) กลิ่นไอ, รัศมี, กลด, กระแสลม, ไฟฟ้า, แสงสว่าง, ความรู้สึกสังหรณ์-aural adj., Syn. air, atmosphere
aureole(ออ'รีโอล, -ละ) n. กลด, รัศมีคล้ายแสงเรืองรอบศีรษะของภาพเทพเจ้า, แสงหรือสีที่มีลักษณะดังกล่าว
blip(บลิพ) n. ตำแหน่งแสงบนจอเรดาร์ที่แสดงตำแหน่งวัตถุในรัศมีเรดาร์, เสียงสั้นที่ดังชัด, สัญลักษณ์, เสียงขาดหายไประหว่างรายการโทรทัศน์, การหยุดในระยะเวลาสั้น -v. สับสวิตช์ออกและเข้าอย่างรวดเร็ว, ลบคำหรือข้อความหรือเสียงที่ไม่ต้องการออก -S...
cannonshotn. ลูกปืนใหญ่, รัศมีกระสุนปืนใหญ่
eclipse(อิคลิพซฺ') n. จันทรคราส (eclipse of the moon) สุริยคราส (eclipse of the sun) , อุปราคา, ความมัวหมอง, ความมืดมนลง, การบดบังรัศมี. vt. ทำให้เกิดการบดบังรัศมี, Syn. darken
ecliptic(อิคลิพ'ทิค) adj. เกี่ยวกับจันทรคราสหรือสุริยคราส n. วงกลมที่บดบังรัศมี, See also: ecliptically adv. ดูecliptic
eyeshotn. รัศมีสายตา, การมอง, การชำเลืองมอง, ภาพ
gloriolen. รัศมีที่แผ่ออกรอบศีรษะของผู้วิเศษ, ทรงกลด
halo(เฮ'โล) n. รัศมี, ทรงกลด, บารมี, บุญวาสนา, ความรุ่งโรจน์, วงแหวนรอบหัวนม. vt. ล้อมรอบด้วยทรงกลด. vi. กลายเป็นทรงกลด, Syn. nimbus
radial(เร'เดียล) adj. แผ่ออกจากศูนย์กลาง, แผ่รัศมี, เกี่ยวกับรัศมี, เกี่ยวกับกระดูกแขนท่อนนอก, เกี่ยวกับลูกสูบที่เคลื่อนเข้าออกจากจุดกลางหรือเพลา, See also: radially adv. radiality n.
radian(เร'เดียน) n. เส้นโค้งของวงกลมที่มีความยาวเท่ากับรัศมีของความโค้งของมัน/เป็นส่วนโค้ง (arc) ที่เท่ากับ 57.2958องศา/ใช้อักษรย่อว่า.rad.
radiance(เร'เดียนซฺ) n. ความสว่างหรือแสงที่แผ่รัศมี, ความร่าเริงแจ่มใส., Syn. radiancy
radius(เร'เดียส) n. รัศมี, เส้นรัศมี, ความยาวของรัศมี, ส่วนที่รัศมี, อิทธิพล, ขอบเขต, กระดูกแขนท่อนนอก, เส้นเลือดดำตามยาวที่สำคัญในส่วนหน้าของปีกแมลง pl. radii, radiuses
ray(เร) n. รังสี, ส่วนหรือเส้นที่ออกเป็นรัศมีจากโครงร่างหนึ่ง, แฉก, แววแสง, แววแห่งความหวัง, ปลากระเบน, เสียงหนึ่งในจำนวนเสียงดนตรีทั้ง7 vi. ปล่อยรังสี vt. ปล่อยรังสี, ทำให้ถูกรังสี, ทำให้มีเส้นรัศมี, ทำให้เป็นแฉก, Syn. beam, spark
secant(ซี'แคนทฺ, -เคินทฺ) n. (เรขาคณิต) เส้นตัด (โดยเฉพาะเส้นตัดเส้นโค้งที่สองจุดหรือมากกว่าสองจุด) , (สามเหลี่ยมมุมฉาก) อัตราส่วนของด้านตรงข้ามมุมฉากกับด้านที่ติดกับมุมที่กำหนดให้, เส้นที่ลากจากจุดศูนย์กลางของวงกลมผ่านเส้นรอบวงไปจดกับเส้นสัมผัสวงกลมเดียวกัน, อัตราส่วนของความยาวเส้นลากดังกล่าวกับเส้นรัศมีของวงกลมนั้น
sector(เซค'เทอะ) n. รูปตัด, รูปตัดที่อยู่ระหว่างเส้นรัศมี2เส้นกับส่วนของเส้นรอบวง, อุปกรณ์คณิตศาสตร์ที่ประกอบด้วยไม้บรรทัด2อันที่ติดกันที่ปลายหนึ่งและมีขีดแบ่งมาตราส่วน vt. แบ่งออกเป็นส่วน ๆ เซ็กเตอร์วิธีการจัดรูปแบบการบันทึกข้อมูลลงบนจานบันทึกนั้น จะต้องมีการกำหนดให้เป็นวง เรียกว่า แทร็ก (track) ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับลู่วิ่งวนเป็นวงกลม แล้วแบ่งแต่ละแทร็กนี้ออกเป็นส่วน ๆ เรียกว่า "ส่วนวง" หรือที่ยังนิยมเรียกทับศัพท์กันว่า "เซ็กเตอร์" ก็มีมาก แต่ละส่วนวงนี้จะเก็บข้อมูลได้ 1 ระเบียน (record) ไม่ว่าส่วนวงจะกว้างหรือแคบ (ด้านในที่ติดกับจุดศูนย์กลางจะแคบกว่าด้านนอก), See also: sectoral adj., Syn. class, ca
swath(สวอธ) n. รัศมีการตัดหญ้า หรือข้าวด้วยเคียว, ส่วนที่ถูกตัดออกโดยเคียว, หญ้าหรือต้นข้าวที่ถูกตัดออก, การตวัดรอบหนึ่ง, แถบ, แถว, แนว, cut a swath ดึงดูดความสนใจมาก., Syn. swathe

English-Thai: Nontri Dictionary
aura(n) กลิ่นอาย, รัศมี, กระแสลม
aureole(n) รัศมี, กลด
eclipse(n) สุริยุปราคา, จันทรุปราคา, ความมืด, อุปราคา, การบดบังรัศมี
eclipse(vt) ทำให้เกิดสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคา, ทำให้มืด, บดบังรัศมี
ecliptic(adj) เกี่ยวกับสุริยุปราคา, เกี่ยวกับจันทรุปราคา, เกี่ยวกับการบดบังรัศมี
glorious(adj) มีชื่อเสียง, น่าสรรเสริญ, น่ายกย่อง, สว่างจ้า, รุ่งโรจน์, เปล่งรัศมี
glory(n) ชื่อเสียง, บารมี, ความสว่างจ้า, รัศมี, ความรุ่งโรจน์, ความรุ่งเรือง
glow(vi) คุแดง, ส่องรัศมี, เรืองแสง, เปล่งแสง
halo(n) แสงเป็นวงกลม, รัศมี, บารมี, บุญบารมี, วาสนา
halo(vt) ล้อมวง, แผ่รัศมี, ทรงกลด
overshadow(vt) บดบังรัศมี, สำคัญกว่า, ป้องกัน, ทอดเงาเหนือ
prestige(n) ชื่อเสียง, อิทธิพล, ศักดิ์ศรี, บารมี, รัศมี, เกียรติยศ
radial(adj) เป็นแฉก, เป็นรัศมี, เป็นดาว
radiance(n) ความร่าเริง, ความแจ่มใส, ความสว่าง, การแผ่รัศมี
radius(n) รังสี, รัศมี, ขอบเขต
ray(vi) ปล่อยแสง, ปล่อยรังสี, ปล่อยรัศมี

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
effulgence(n) แสงรัศมี

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
半径[はんけい, hankei] (n) รัศมี

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top