ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ระทา, -ระทา- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ escargot | [เอ็สคาร์โกท์] (n) เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer) โดยการนำหอยทากชนิด รับประทานได้มายัดใส่เปลือกหอยประเภทหอยโข่งขนาดมะนาว ผลเล็ก แล้วยัดตามด้วยเนยที่มีส่วนผสมของกระเทียมสับและเครื่อง เทศอื่นๆ นำอบในเตาอบความร้อนสูงบนถาดหลุมโลหะ (Convection Oven) จนสุกหอมจึงนำมารับประทานด้วยคีมหนีบ กับส้อมที่ทำขึ้นเฉพาะอาหารจานนี้ |
|
| 吃 | [chī, ㄔ, 吃] (vt) กิน, รับประทาน, |
| กระทา | (n) partridge, See also: Chinese francolin, Syn. นกกระทา, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Phasianidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับไก่ฟ้า ตัวกลม ขนลายเป็นจุดกระๆ ปีกและหางสั้น วิ่งหากินเมล็ดพืชและแมลงอยู่ตามพื้นดิน บินได้ในระยะทางสั้นๆ มีหลายชนิด | กระทาย | (n) small basket, See also: small cylindrical basket having a wide mouth, Example: แม่หิ้วกระทายไปตลาด, Thai Definition: กระบุงเล็ก ปากผาย | ประทาน | (v) grant, See also: give, offer, confer, bestow, Syn. ให้, แจก, มอบให้, ยื่นให้, Example: เจ้าชายทรงประทานถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันหมากรุกในครั้งนี้, Notes: (ราชา) | ขอประทาน | (v) request, See also: beg, ask for, Syn. ขออนุญาต, Example: ผมขอประทานอนุญาตตั้งข้อสังเกตเบื้องต้น 3 ประการนะครับ | ขอประทาน | (v) beg for one's grant, Syn. ขอสิ่งของ, Example: คุณหญิงของรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าขอประทานของบริจาคจากท่านหญิง | ชลประทาน | (n) irrigation, Thai Definition: การจัดสรรการใช้แหล่งน้ำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด | ประทานโทษ | (v) apologize, See also: excuse me, beg your pardon, pardon me, Syn. ขอโทษ, Example: ขอประทานโทษที่กล่าวออกนอกเรื่อง, Thai Definition: ขอให้ยกเว้นโทษ | รับประทาน | (v) eat, Syn. กิน, ฉัน, แดก, เสวย, ฟาด, เขมือบ, ทาน, บริโภค, ยัด, เจี๊ยะ, สวาปาม, Example: คาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายรับประทานเข้าไปได้มาจากแป้ง, Thai Definition: ทำให้อาหารเข้าปากผ่านลำคอลงไปสู่กระเพาะอาหาร | ประทานบัตร | (n) patent permit, See also: concession, Syn. สัมปทาน, ใบอนุญาต, Example: บริษัทได้ยื่นเรื่องของประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่, Count Unit: ฉบับ, Thai Definition: หนังสือสำคัญที่ออกให้ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ เพื่อทำเหมืองแร่ภายในเขตที่กำหนดในหนังสือสำคัญนั้น | กรมชลประทาน | (n) Royal Irrigation Department, See also: Department of Irrigation, Count Unit: กรม | การชลประทาน | (n) irrigation, Example: รัฐบาลกำลังวางแผนเรื่องการชลประทานเพื่อจะช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยแล้งในอีสาน, Thai Definition: การทดน้ำและระบายน้ำเพื่อการเพาะปลูกเป็นต้น | ขอประทานโทษ | (v) apologize, See also: excuse, pardon, make an apology, Syn. ขอโทษ, ขออภัย, Example: กระผมต้องขอประทานโทษที่กล่าวออกนอกเรื่องมาไกล, Thai Definition: ขอให้ยกเว้นโทษ, ใช้เป็นคำสุภาพเมื่อรู้สึกว่าจะเป็นการล่วงเกินหรือต่ำสูงต่อผู้อื่น | น่ารับประทาน | (v) be appetizing, See also: look delicious, look tasty, Syn. น่ากิน, น่าอร่อย, Example: การแกะสลักผักและผลไม้ทำให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้น | ทักษิณานุประทาน | (n) the making of merits for the dead people, See also: offering alms as a spiritual act of merit for the benefit or the dead, Example: เขาไปทำพิธีทักษิณานุประทานให้ญาติผู้ล่วงลับ, Thai Definition: การทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพิ่มให้แก่ผู้ตาย, Notes: (สันสกฤต) | พื้นที่ชลประทาน | (n) irrigable area, Example: พื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชลประทาน |
| กระทา | น. ชื่อนกขนาดเล็กหลายชนิด ในวงศ์ Phasianidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับไก่และไก่ฟ้า ลำตัวกลม ขนลายเป็นกระ ปีกและหางสั้น บินได้ในระยะทางสั้น ๆ คุ้ยเขี่ยหาอาหารบนพื้นดิน กินเมล็ดพืชและแมลง เช่น กระทาทุ่ง [ Francolinus pintadeanus (Scopoli) ] กระทาดงคอสีแสด [ Arborophila rufoyularis (Blyth) ] กระทาป่าไผ่ ( Bambusicola fytchii Anderson) กระทาดงปักษ์ใต้ [ A. chaltionii (Eyton) ]. | กระทาชาย | น. คนผู้ชาย, กระไทชาย ก็ว่า. | กระทาย | น. กระบุงเล็ก ปากผาย | กระทาย | เครื่องตวง ใช้ตวงข้าวสมัยโบราณ ๒ กระทาย เป็น ๑ กระบุง มีอัตราเท่ากับครึ่งถัง หรือ ๑๐ ลิตร. ก. กระทกของเอากากออก. | กระทายเหิน | ดู มหาหงส์. | กระทาสี | น. ทาส เช่น เหมือนไพร่ชาติชั่วช้ากระทาสี (นิ. สุรสีห). | กระทาหอง | ดู จงโคร่ง, โจงโคร่ง. | ขอโทษ, ขอประทานโทษ | ก. ขอให้ยกเว้นโทษ, ใช้เป็นคำสุภาพเมื่อรู้สึกว่าจะเป็นการล่วงเกินผู้อื่น. | ขอประทาน | ก. ขอสิ่งของ, ขออนุญาต, (มักใช้นำหน้าคำที่พูดกับผู้ใหญ่). | ขี้กระทาเกลือ, ขี้ทา | น. ขี้เกลืออันตกกระฉาบทาไปตามพื้นดิน หรือพื้นที่มีเกลือแห้งเกรอะอยู่เป็นกระ. | ชลประทาน | (ชนละ-, ชน-) น. การทดนํ้าและระบายนํ้าเพื่อการเพาะปลูกเป็นต้น. | ทองประทากล้อง | น. ทองคำที่ตีแผ่เป็นแผ่น สำหรับบุพระพุทธรูปเป็นต้น. | ทองประทาศี | น. ทองคำเปลว. | ทักษิณานุปทาน, ทักษิณานุประทาน | น. การที่พระมหากษัตริย์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระราชอุทิศถวายเจ้านายที่มีศักดิ์สูงซึ่งเสด็จล่วงลับไปแล้ว. | ทักษิณานุปทาน, ทักษิณานุประทาน | ดู ทักษิณ. | ประทากล้อง | (ปฺระทากฺล้อง) น. ทองคำที่ตีแผ่เป็นแผ่น สำหรับบุพระพุทธรูปเป็นต้น, เรียกเต็มว่า ทองประทากล้อง. | ประทาน | ก. ให้ (ใช้แก่เจ้านาย). | ประทานบัตร | (ปฺระทานนะบัด, ปฺระทานบัด) น. หนังสือสำคัญที่ออกให้ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ เพื่อให้มีสิทธิทำเหมืองแร่ภายในเขตที่กำหนดในหนังสือสำคัญนั้น | ประทานบัตร | ใบอนุญาตซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดออกให้แก่บุคคลผู้ประมูลได้ ให้มีสิทธิทำการประมงในที่ว่าประมูล. | ประทาย | น. ค่าย, ป้อม. | ประทาศี | น. ทองคำเปลว, เรียกเต็มว่า ทองประทาศี. | ระทา | น. หอสูงรูปสี่เหลี่ยมหลังคาทรงยอดเกี้ยว ประดับดอกไม้ไฟนานาชนิด เช่น พลุ ตะไล จรวด ใช้จุดในงานพระราชพิธี. | รับประทาน | ก. กิน เช่น รับประทานอาหาร. | กระดิ่งทอง | น. ชื่อแมลงพวกด้วงชนิด Martianus dermestoides Chevrolat ในวงศ์ Tenebrionidae ลำตัวยาว ๖-๗ มิลลิเมตร กว้าง ๒-๓ มิลลิเมตร สีน้ำตาลเกือบดำตลอดทั้งลำตัว ขา และปีก กินของแห้งทั้งพืชและสัตว์โดยเฉพาะเมล็ดบัว นิยมนำมาเลี้ยงด้วยเมล็ดบัวแห้ง หัวข้าวเย็นเหนือ หัวข้าวเย็นใต้ โดยเชื่อว่าเมื่อนำมารับประทานจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ, ม่าเหมี่ยว ก็เรียก. | กระไทชาย | น. กระทาชาย, คนผู้ชาย, เช่น อันว่ากระไทชายผู้หนึ่ง (ม. คำหลวง กุมาร; มหาราช). | กังหันน้ำชัยพัฒนา | น. ชื่อเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอยแบบหนึ่ง เป็นอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียชนิดหนึ่ง มีลักษณะการทำงานคล้ายกังหันวิดน้ำขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อเติมอากาศหรือออกซิเจนในแหล่งน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาและประดิษฐ์อุปกรณ์เติมอากาศขึ้นแล้วทรงมอบหมายมูลนิธิชัยพัฒนา ศึกษาวิจัยเพื่อทำต้นแบบพร้อมสนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทานสร้าง นำไปใช้งานตามแหล่งน้ำเสียทั่วประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๓๑๒๗ และองค์กรนักประดิษฐ์โลกจากประเทศเบลเยียมได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในฐานะที่ทรงสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม. | กินูน | น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Scarabaeidae ลำตัวมีขนาดและสีแตกต่างกันแล้วแต่ชนิด ตัวอ่อนอาศัยอยู่ในดินกินรากพืช ตัวเต็มวัยอาศัยอยู่บนต้นไม้กินใบไม้ มักบินเข้าหาแสงไฟ ชาวบ้านในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมนำมารับประทาน ที่พบบ่อย เช่น ชนิด Anomala antiqueGyllenhal ลำตัวสีดำเหลือบน้ำเงิน ยาว ๑๘-๒๐ มิลลิเมตร ชนิด Sophrops foveatus Moser ลำตัวสีน้ำตาลแดง ยาวประมาณ ๑๕ มิลลิเมตร, แมลงนูน ก็เรียก. | เกษตรและสหกรณ์ | น. ชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเกษตร การเศรษฐกิจการเกษตร การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร การชลประทาน การประมง การปศุสัตว์ การป่าไม้ การพัฒนาที่ดิน และการสหกรณ์. | แกล้งดิน | ก. กระบวนการแก้ปัญหาสภาพดินเปรี้ยวตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้กรรมวิธีเร่งปฏิกิริยาเคมีในดิน ทำให้ดินเปรี้ยวอย่างรุนแรงแล้วใช้ระบบชลประทานนำน้ำมาเจือจางดินเปรี้ยวทำสลับไปมา จนเปลี่ยนสภาพดินให้สามารถเพาะปลูกได้. | เขี้ยว | น. ฟันแหลมคมสำหรับฉีกเนื้อและอาหาร อยู่ระหว่างฟันหน้ากับกราม, ราชาศัพท์ว่า พระทาฐะ หรือ พระทาฒะ, (ถิ่น–พายัพ) ฟัน. | เขื่อน | น. เครื่องป้องกันไม่ให้ดินริมนํ้าพัง, สิ่งที่สร้างขึ้นขวางกั้นลำนํ้า เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในทางชลประทานเป็นต้น เช่น เขื่อนเจ้าพระยา, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น กำแพงดินหรืออิฐที่ล้อมรอบต้นโพ | คลองส่งน้ำ | น. ลำนํ้าที่ขุดขึ้นเพื่อใช้ในการชลประทาน. | เครา | (เคฺรา) น. ขนที่ขึ้นตามแก้มหรือขากรรไกร, ราชาศัพท์ว่า พระทาฐิกะ. | จงโคร่ง, โจงโคร่ง | (-โคฺร่ง) น. ชื่อสัตว์สะเทินนํ้าสะเทินบกชนิด Bufo asper Gravenhorst ในวงศ์ Bufonidae เป็นคางคกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผิวหนังเป็นตุ่มขรุขระทั่วตัว ตุ่มที่หลังมีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ลำตัวสีน้ำตาลดำและน้ำตาลเหลือง ท้องสีขาวหม่นบางตัวมีจุดสีแดงเล็ก ๆ ยางขาวมีฤทธิ์ทำให้มึนเมา อาศัยในป่าบริเวณริมลำธารหรือน้ำตก, กระทาหอง กระหอง หรือ กง ก็เรียก. | ช้อนคาว | น. ช้อนที่มีขนาดเล็กกว่าช้อนโต๊ะ มีด้ามยาว ใช้คู่กับส้อม สำหรับรับประทานอาหารคาว. | ช้อนชา | น. ช้อนด้ามยาวขนาดเล็กใช้สำหรับคนชากาแฟ, มาตราตวงมีขนาดจุ ๕ มิลลิลิตร เช่น ยานี้เด็กรับประทานครั้งละครึ่งช้อนชา. | ช้อนส้อม | น. ช้อนและส้อมคู่กันทำด้วยโลหะ เช่น เงิน เงินชุบทอง สัมฤทธิ์หรืออะลูมิเนียม ช้อนมีรูปรี ส้อมมีลักษณะเป็นซี่ ๆ มีด้ามยาวสำหรับจับได้ถนัด ใช้มือขวาจับช้อนมือซ้ายจับส้อมตักอาหารรับประทาน. | ช้อนหวาน | น. ช้อนด้ามยาวขนาดกลาง ใหญ่กว่าช้อนชาแต่เล็กกว่าช้อนโต๊ะ เป็นช้อนสำหรับรับประทานของหวานในการรับประทานอาหารแบบยุโรป ไทยใช้คู่กับส้อมขนาดเดียวกันสำหรับรับประทานอาหารคาว. | ชักพระ | น. ชื่อประเพณีอย่างหนึ่งทางภาคใต้ ถือว่าเป็นประเพณีสำคัญ นิยมมีในวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๑๑ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับจากโปรดพระพุทธมารดา คล้ายวันตักบาตรเทโวของภาคกลาง, การชักพระมี ๒ อย่าง คือ ชักพระทางบกกับทางน้ำ, ถ้าชักพระทางบก ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานไว้บนบุษบกซึ่งตั้งอยู่บนยานพาหนะแล้วช่วยกันชักลากไป, ถ้าชักพระทางน้ำ ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนบุษบกในเรือ แล้วใช้เชือกผูกเรือพระช่วยกันลากไปยังสถานที่ที่กำหนด แล้วจึงถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ มักจะมีการโยนข้าวต้มรูปสามเหลี่ยมห่อด้วยใบกะพ้อเป็นต้นใส่กัน บางทีก็มีแข่งเรือและอื่น ๆ ด้วย. | ดรธาน | (ดอระทาน) ก. หายไป, ลับไป, เช่น ความขำเขาซับซี่ในวัดที่ดรธานปล่ยวน้นน (ม. คำหลวง ชูชก). | ตรีเพชรทัณฑี | (ตฺรีเพ็ดทันที) น. ชื่อโคลงชนิดหนึ่งที่เลื่อนคำรับสัมผัสในบาทที่ ๒ จากคำที่ ๕ มาเป็นคำที่ ๓ ส่วนข้อบังคับอื่น ๆ เหมือนโคลงสี่สุภาพทุกประการ เช่น ปางนั้นสองราชไท้ ดาบศ สาพิมตไปมา กล่าวแก้ว ประทานราชเอารส สองราช เวนแต่ชูชกแล้ว จึ่งไท้ชมทาน (จินดามณี). | ตะพาย | เรียกลายที่เป็นทางจากจมูกขึ้นไปทั้ง ๒ ข้างของนกกระทา. | ติตติระ | (ติด-) น. นกกระทา. | ทะทา | น. นกกระทา. | ทาฐ-, ทาฐะ, ทาฒะ | น. เขี้ยว เช่น พระทาฐธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว. | ทำนบ | น. สิ่งก่อสร้างที่ปิดกั้นลำน้ำไม่ให้น้ำไหลผ่าน, ที่กั้นน้ำเพื่อการชลประทาน. | บ้าระบุ่น | น. นกปรอด เช่น เค้าโมงขมิ้นบ่าวขุน บ้าระบุ่นโกญจากระทาขัน (รามเกียรติ์ ร. ๑), โบราณเขียนเป็น บารบุน ก็มี เช่น จินโจ้กระจาบเวียน บารบุนและเบญจวรรณ (บุณโณวาท). | บึ้ง ๑ | น. ชื่อแมงมุมขนาดใหญ่หลายชนิด หลายสกุล ในวงศ์ Theraphosidae ลำตัวยาวมากกว่า ๓ เซนติเมตรขึ้นไป สีดำหรือน้ำตาลแก่ ไม่ชักใยดักสัตว์ มีขนดกหนาสีเดียวกัน ขุดรูอยู่ตามพื้นดิน คอยจับสัตว์เล็ก ๆ กิน ชนิดที่พบบ่อยและนิยมนำมารับประทาน เช่น ชนิด Haplopelma albostriatum (Simon) พบมากที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ชนิด H. minax (Thorell) พบมากที่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้, ก่ำบึ้ง หรือ อีบึ้ง ก็เรียก. | ประธานาธิบดี | (ปฺระทานาทิบอดี, ปฺระทานาทิบบอดี) น. ประมุขของประเทศที่ปกครองโดยระบอบสาธารณรัฐ. | ปลิงทะเล | น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Holothuroidea ลำตัวรูปทรงกระบอกยืดหดได้ หัวท้ายมนกลม อาศัยอยู่ในทะเล บางชนิดรับประทานได้ เช่น ปลิงขาว ( Holothuria scabra Jaeger) ปลิงดำ ( H. atra Jaeger) ในวงศ์ Holothuriidae. |
| | ทักษิณานุประทาน | การทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพิ่มให้แก่ผู้ตาย [ศัพท์พระราชพิธี] | ระทา | หอสูงรูปสี่เหลี่ยมหลังคาทรงยอดเกี้ยว ประดับดอกไม้ไฟนานาชนิดเช่น พลุ ตะไล จรวดใช้จุดในงานพระราชพิธี [ศัพท์พระราชพิธี] | Irrigation charge | ค่าธรรมเนียมชลประทาน [เศรษฐศาสตร์] | Irrigation farming | เกษตรชลประทาน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Radiotherapy | รังสีรักษา, การบำบัดด้วยรังสี, การใช้รังสีชนิดก่อไอออนบำบัดรักษาโรค มี 4 วิธี คือ <br> 1. การฉายรังสีไปยังอวัยวะเป้าหมาย (Teletherapy) เช่น ต่อมน้ำเหลือง กล่องเสียง ปอด โดยใช้รังสีเอกซ์จากเครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น หรือใช้รังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60</br> <br> 2. การฝังสารกัมมันตรังสี ในเนื้อเยื่อหรือโพรงอวัยวะ (Brachy therapy) เช่น ปากมดลูก และช่องปาก โดยใช้ซีเซียม-137, อิริเดียม-192 หรือ ทอง-198</br> <br> 3. การให้สารกัมมันตรังสีทางปาก เช่น การรับประทานสารประกอบไอโอดีน-131 (Na<sup>131I</sup>) เพื่อรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์</br> <br> 4. การฉีดสารกัมมันตรังสีทางเส้นเลือด เช่น สารประกอบไอโอดีน-131 (Lipiodol-<sup>131</sup>I) ใช้รักษามะเร็งตับ</br> [นิวเคลียร์] | Radiation therapy | รังสีรักษา, การบำบัดด้วยรังสี, การใช้รังสีชนิดก่อไอออนบำบัดรักษาโรค มี 4 วิธี คือ <br> 1. การฉายรังสีไปยังอวัยวะเป้าหมาย (Teletherapy) เช่น ต่อมน้ำเหลือง กล่องเสียง ปอด โดยใช้รังสีเอกซ์จากเครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น หรือใช้รังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60</br> <br> 2. การฝังสารกัมมันตรังสี ในเนื้อเยื่อหรือโพรงอวัยวะ (Brachy therapy) เช่น ปากมดลูก และช่องปาก โดยใช้ซีเซียม-137, อิริเดียม-192 หรือ ทอง-198</br> <br> 3. การให้สารกัมมันตรังสีทางปาก เช่น การรับประทานสารประกอบไอโอดีน-131 (Na<sup>131I</sup>) เพื่อรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์</br> <br> 4. การฉีดสารกัมมันตรังสีทางเส้นเลือด เช่น สารประกอบไอโอดีน-131 (Lipiodol-<sup>131</sup>I) ใช้รักษามะเร็งตับ</br> [นิวเคลียร์] | Contraceptives, Oral | ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน [TU Subject Heading] | Diet | อาหารและการรับประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation | ชลประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation canals and flumes | คลองชลประทานและสะพานน้ำ [TU Subject Heading] | Irrigation engineering | วิศวกรรมชลประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation farming | เกษตรชลประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation laws | กฎหมายชลประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation projects | โครงการชลประทาน [TU Subject Heading] | Irrigation water | น้ำชลประทาน [TU Subject Heading] | Japanese quail | นกกระทาญี่ปุ่น [TU Subject Heading] | Microirrigation | ชลประทานระบบน้ำน้อย [TU Subject Heading] | Quail culture | การเลี้ยงนกกระทา [TU Subject Heading] | Quails | นกกระทา [TU Subject Heading] | Sweating, Gustatory | ภาวะเหงื่อออกขณะรับประทานอาหาร [TU Subject Heading] | Table etiquette | มารยาทในการรับประทานอาหาร [TU Subject Heading] | Tax incidence | ภาระทางภาษีอากร [TU Subject Heading] | Wastewater Irrigation | ชลประทานน้ำเสีย, Example: การชลประทานเพื่อการเพาะปลูกโดยใช้น้ำเสีย [สิ่งแวดล้อม] | Consular Fees and Charges | ค่าธรรมเนียมและค่าภาระทางกงสุล ตามข้อ 39 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ได้กำหนดไว้ว่า1. สถานที่ทำการทางกงสุล อาจเรียกเก็บในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สำหรับการปฏิบัติงานทางกงสุลซึ่งค่าธรรมเนียม ค่าภาระตามที่ได้บัญญัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง2. จำนวนเงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียมและค่าภาระตามที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ ใบรับสำหรับค่าธรรมเนียมหรือค่าภาระเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากค่าติดพันและภาษีทั้งปวงในรัฐผู้รับ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Wives of Diplomats | ภรรยาของนักการทูต ในประเทศที่มีกษัตริย์ และเอกอัครราชทูตจัดถวายพระราชสาส์นตราตั้งต่อกษัตริย์หรือราชินีในฐานะ ประมุขของรัฐนั้น มักจะให้ภรรยาเข้าเฝ้าด้วยต่างหาก แต่การเข้าเฝ้านั้นจะมีพิธีรีตองน้อยกว่าของเอกอัครราชทูตในอดีตกาล ภรรยาของเอกอัครราชทูตมักจะไม่ได้รับการพิจารณารับรองและยกย่องเหมือนกับที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น ที่กรุงเวนิส ตามกฎหมายปี ค.ศ. 1268 ไม่อนุญาตให้ภรรยาของเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะไปประจำแห่งไหน เพราะเกรงว่าภรรยาอาจจะปากโป้งเกี่ยวกับการงานของสามี แต่กฎหมายได้กำหนดให้เอกอัครราชทูตนำพ่อครัวของตนเองติดตามไปด้วย เพื่อกันมิให้เอกอัครราชทูตต้องถูกวางยาพิษในอาหารที่รับประทานกล่าวโดยทั่ว ไปแล้ว ทุกวันนี้ภรรยาของเอกอัครราชทูตได้อุปโภคเอกสิทธิ เกียรติ ลำดับอาวุโส และความคุ้มกันต่าง ๆ เหมือนกับสามี ถึงแม้ในบางกรณีเอกอัครราชทูตกับภรรยาอาจแยกกันอยู่ก็ตาม ภรรยาของเอกอัครราชทูตที่เพิ่งยื่นสารตราตั้ง มักจะหาโอกาสไปเยี่ยมคารวะภรรยาของเอกอัครราชทูตอื่น ๆ ด้วย แม้ว่าในทุกวันนี้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวอาจจะไม่เคร่งครัดเหมือนกับสมัย ก่อน อนึ่ง ในบางประเทศได้มีระเบียบข้อบังคับ ห้ามมิให้ผู้แทนทางการทูตและทางการกงสุลที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ แต่งงานกับคนต่างชาติโดยมิได้รับอนุมัติจากรัฐบาลของตนก่อน [การทูต] | Allergens, Ingestant | สารก่อภูมิแพ้โดยการรับประทาน [การแพทย์] | Amenorrhea, Post Pill | ไม่มีประจำเดือนหลังหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด [การแพทย์] | Amenorrhea, Post Pills | ขาดประจำเดือนหลังได้รับยาคุมกำเนิด, ไม่มีประจำเดือนหลังหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด, การขาดระดู [การแพทย์] | Anticoagulants, Oral | ยาต้านการกลายเป็นลิ่มของเลือดชนิดรับประทาน [การแพทย์] | Antidiabetics, Oral | ยารักษาเบาหวานชนิดรับประทาน [การแพทย์] | Appetite | ความอยาก, ความอยากอาหาร, อยากรับประทานอาหาร, ความรู้สึกอยากอาหาร [การแพทย์] | Appetite Control Center | ศูนย์รับความรู้สึกต่อการรับประทานในสมอง [การแพทย์] | Appetite Stimulants | กระตุ้นให้อยากรับประทานอาหาร [การแพทย์] | Appetite, Excessive | รับประทานอาหารจุ [การแพทย์] | Aqueous Non-Oral Preparations | ยาน้ำที่ไม่ใช้รับประทาน [การแพทย์] | Aqueous Oral Preparations | ยาน้ำสำหรับรับประทาน [การแพทย์] | Cholera Vaccine, Oral | วัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคชนิดรับประทาน [การแพทย์] | Colostomy | คอลโลสโตมีย์;ลำไส้ใหญ่, การผ่าตัดเปิด;การผ่าตัดสำไส้ใหญ่เพื่อการถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง [การแพทย์] | Diet Avoidance | การหลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารที่สงสัยว่าเป็นสาเหตุ [การแพทย์] | Diet Diary | บันทึกรายการอาหารแต่ละวัน, การบันทึกรายการอาหารที่รับประทานแต่ละวัน [การแพทย์] | Diet Elimination | การหลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารที่สงสัยว่าเป็นสา [การแพทย์] | Dietary Allowance, Recommended | ปริมาณที่แนะให้รับประทาน, ปริมาณไวตามินที่ควรได้รับประจำวัน, ปริมาณที่แนะนำให้รับประทาน [การแพทย์] | Dietary History | ประวัติอาหารที่ผู้ป่วยรับประทาน [การแพทย์] | Dietary Surveys | อาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ, สำรวจปริมาณอาหาร, สำรวจอาหารที่รับประทาน, การสำรวจอาหารที่รับประทานและบริโภคนิสัย, การสำรวจอาหารที่บริโภค [การแพทย์] | Dietary, Conventional | การสำรวจอาหารที่รับประทานโดยการชั่งอาหาร [การแพทย์] | Dietetic Albuminuria | รับประทานอาหารโปรตีนมากเกินไป [การแพทย์] | Dosage Regimen | รับประทานยาให้ถูกวิธี, หลักการให้ยา [การแพทย์] | Dose, Massive Oral, Single | รับประทานเพียงครั้งเดียว [การแพทย์] |
| Excuse me? Are you lookin' at me? | ข้อประทานโทษ ท่านมองข้าอยู่รึไม่ Aladdin (1992) | Please? My most abject and humblest apologies to you as well, princess. -At least some good will come of my being forced to marry. | ด้วยความสงสารอย่างที่สุดและเคารพนบน้อม ข้าขอประทานอภัยจากท่าน องค์หญิง อย่างน้อยก็มีบางอย่างที่เป็นข้อดีจากการได้แต่งงาน Aladdin (1992) | Excuse me, monkey boy! | ขอประทานโทษ เจ้าลิงน้อย มาทางนี้หน่อย Aladdin (1992) | Lunch break. | รับประทานอาหารกลางวัน In the Name of the Father (1993) | Excuse me. There's nothing in there. | ขอประทานโทษ ไม่มีอะไรในนั่น Squeeze (1993) | Pardon me, but to work this... | ประทานโทษ ครับท่าน มันใช้ยังไงเหรอ... The Great Dictator (1940) | One night, a long time-- Pardon me. | คืนหนึ่งเป็นเวลานานประทาน โทษ Pinocchio (1940) | Uh, pardon me, pearl, are you acquainted with Monstro the whale? | เอ่อประทานโทษมุก คุณจะคุ้นเคยกับ โมนสทโร ปลาวาฬ? Pinocchio (1940) | I mean, the late Mrs. De Winter always did her correspondence and telephoning in the morning room, after breakfast. | ผมหมายถึงคุณนายเดอ วินเทอร์คนก่อน มักจะติดต่อธุระทางโทรศัพท์ ที่ห้องนั่งเล่นเช้าหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว Rebecca (1940) | - Pardon me, sir. You forgot this. | ขอประทานอภัยครับ ท่านลืมนี่ Rebecca (1940) | Pardon me. | ประทานโทษ 12 Angry Men (1957) | Pardon me. | ประทานโทษ ผมได้ทำบันทึกบางที่นี่ 12 Angry Men (1957) | - Pardon me, but... don't you ever sweat? | - ประทานโทษ แต่ ... คุณไม่เคยเหงื่อ? 12 Angry Men (1957) | For a long time now, eating had bored him, and he never carried a lunch. | เป็นเวลานานตอนนี้การ รับประทานอาหารได้เบื่อเขา และเขาไม่เคยดำเนินการ รับประทานอาหารกลางวัน เขามีขวดน้ำ The Old Man and the Sea (1958) | Are you eating, too, Paul? | คุณกำลังรับประทานอาหารมากด้วย พอล ? Help! (1965) | Pardon me, sir. | ประทานโทษครับ นั่นคือที่น่าสนใจ มาก Help! (1965) | Yeah, that's right, you was there. | หลังจากรับประทานอาหารเช้า ในแพดดิงตัน How I Won the War (1967) | The heavens declare the glory of the Bomb and the firmament showeth His handiwork. | สวรรค์เเซ่ซ้องความเกรียงไกรของหัวรบ เเละการประทานจากหัตถ์พระผู้เป็นเจ้า Beneath the Planet of the Apes (1970) | Tell me, schatzie is it, ah, twu what they say about the way you people are gifted? | บอกฉันซิว่าจริงไหม ที่คนพูดกันว่า พวกคุณมีของที่ฟ้าประทาน Blazing Saddles (1974) | God gave people hands to lend Mine are free | พระเจ้าประทานมือให้ช่วยกัน มือของฉันนั้นยังว่าง The Little Prince (1974) | He attended prayer breakfasts and asked for God's blessing with the Joint Chiefs of Staff right in the war room of the Pentagon. | เขาสวดตอนอาหารเช้า และขอให้พระเจ้าประทานพร กับจนท.ชั้นสูงที่ร่วมงานกับเขา ในวอร์รูมที่เพนตาก้อน Oh, God! (1977) | I beg your pardon. | ประทานโทษ คุณพูดอะไรนะ The Blues Brothers (1980) | No, sir. Mayor Daley no longer dines here. He's dead, sir. | ไม่ครับ คุณ แดยลี ไม่มารับประทานที่นี่อีกต่อไป เขาตายแล้ว The Blues Brothers (1980) | Private dining rooms are available. | ห้องรับประทานอาหารส่วนยังมีว่างอยู่ The Blues Brothers (1980) | Excuse me, Your Excellency. Mr. Kinnoch. | ประทานโทษครับ คุณคินน็อค Gandhi (1982) | I'm supposed to go in and have lunch in half an hour. | ฉันควรจะไปในนั้น และมีการรับประทานอาหาร กลางวันในครึ่งชั่วโมง 2010: The Year We Make Contact (1984) | No health foods. The last one we didn't lunch, we grazed. | คนสุดท้ายที่เราไม่ได้ รับประทานอาหารกลางวันเรากินหญ้า 2010: The Year We Make Contact (1984) | They've already eaten dinner. You haven't. | มันได้รับประทานอาหารเย็น แล้ว ท่านยังไม่ได้ 2010: The Year We Make Contact (1984) | Oh, I sure hope this means dinner. | โอ้ฉันหวังว่านี้หมายถึงการรับประทานอาหารค่ำ Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | I had bugs for lunch. | ผมมีข้อบกพร่องเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | The butler is head of the kitchen and dining room. | พ่อบ้านคอยดูแลห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร Clue (1985) | Eating dinner. | รับประทานอาหารเย็นครับ Clue (1985) | Yes. You can show him the dining room, the kitchen, the ballroom. | ใช่ คุณพาเขาไปดูที่ห้องรับประทานอาหาร Clue (1985) | Officer, come with me. | คุณตำรวจครับ มากับผม ผมจะพาไปดูห้องรับประทานอาหาร Clue (1985) | So, this is the dining room. | เอ้อ นี่เป็นห้องรับประทานอาหาร Clue (1985) | And we went into the dining room. | และเราเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร Clue (1985) | You told us at dinner that we were eating one of your favorite recipes, and monkey's brains, though popular in Cantonese cuisine, are not often to be found in Washington, D.C. | คุณบอกกับเราว่างานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่เรากำลังรับประทานนั้น เป็นหนึ่งในสูตรที่คุณชื่นชอบ และสมองของลิง เป็นอาหารที่นิยมแต่ในกวางตุ้ง Clue (1985) | Sitting here at dinner, Mrs. Peacock told us she was eating one of her favorite recipes, and monkey's brains, though popular in Cantonese cuisine, are not often to be found in Washington, D.C. | ตอนที่นั่งรับประทานอาหารเย็น คุณนายพีคอร์คบอกว่าเธอกิน เป็นหนึ่งในสูตรที่คุณชื่นชอบ และสมองของลิง เป็นอาหารที่นิยมแต่ในกวางตุ้ง Clue (1985) | God wouldn't have given you maracas if he didn't want you to shake them! | พระเจ้าคงไม่ประทานหน้าอกมาให้หรอก ถ้าคุณไม่รู้จักส่ายมัน! Dirty Dancing (1987) | Excuse me, sir. The pirate number's next. | ประทานโทษครับ บนเวทีถึงคิวท่านขึ้นซ้อมแล้วครับ Dirty Dancing (1987) | I'm sorry, Mr. Pressman... but I'm booked up for the whole weekend with the show. | ประทานโทษครับ คุณเพรซแมน... ผมต้องเตรียมการแสดงตลอดเวลาเลย Dirty Dancing (1987) | - Do you ever escape for lunch? | - คุณเคยหลบหนีออกมาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน? The Russia House (1990) | Have dinner with me. | รับประทานอาหารเย็นกับฉัน The Russia House (1990) | Your Majesty, I'm sorry, I can't... | ฝ่าบาท ขอประทานอภัย หม่อมฉันไม่ค่อยจะได้ยิน.. Mannequin: On the Move (1991) | Father in heaven... in thy mercy I pray... grant me a son. | ท่านบนสวงสวรรค์ โปรดประทานความแข็งแรง ให้กับลูกชายที่กำลังจะเกิดของข้าด้วย Snow White: A Tale of Terror (1997) | We risked our lives for the rice you're eating. | เราเสี่ยงชีวิตชีวิตของเราสำหรับข้าวคุณกำลังรับประทานอาหาร Princess Mononoke (1997) | Excuse me. is there a problem here? | ประทานโทษ มีเรื่องรึเปล่าคะ Nothing to Lose (1997) | Of course. Forgive me. | เข้าใจแล้วพระองค์ ขอประทานอภัย Seven Years in Tibet (1997) | - Excuse me? | - ขอประทานอภัย Seven Years in Tibet (1997) | I'm sorry, but we can't possibly rescue all the worms... not if you want a theater finished in this lifetime. | ขอประทานอภัย แต่เราไม่สามารถ เว้นชีวิตไส้เดือนทุกตัวได้ หากพระองค์ประสงค์จะให้ โรงหนังสร้างเสร็จในชาตินี้ Seven Years in Tibet (1997) |
| ชลประทาน | [chonlaprathān = chonprathān] (n) EN: irrigation ; irrigation works ; water conservancy FR: irrigation [ f ] | ห้องรับประทานอาหาร | [hǿng rapprathān āhān] (n, exp) EN: dining room FR: salle à manger [ m ] | ไก่ฟ้า นกกระทา และนกคุ่ม | [kaifā nok krathā lae nok khum] (n, exp) EN: Phasianidae FR: phasianidés [ mpl ] | การชลประทาน | [kān chonlaprathān = kān chonprathān] (n) EN: irrigation FR: irrigation [ f ] | การรับประทานอาหารเย็น | [kān rapprathān āhān yen] (v, exp) EN: dinner FR: dîner [ m ] | คลองชลประทาน | [khløng chonlaprathān = khløng chonprathān] (n, exp) EN: irrigation canal FR: canal d'irrigation [ m ] | กระทา | [krathā] (n) EN: partridge ; francolin ; Chinese francolin FR: perdrix [ f ] ; francolin [ m ] ; perdrix [ f ] | กระทาชาย | [krathā chāi] (n) FR: homme [ m ] | กระทาย | [krathāi] (x) EN: small basket ; small cylindrical basket having a wide mouth FR: petite corbeille en bambou tressé [ m ] | กรมชลประทาน | [Krom Chonprathān = Krom Chonlaprathān] (org) EN: Irrigation Department | นกกระทา | [nok krathā] (n) EN: partridge FR: perdrix [ f ] | นกกระทา | [nok krathā] (n, exp) EN: Aluminum plant ; Watermelon pilea | นกกระทาดงจันทบูรณ์, นกกระทาดงจันทบูร ? | [nok krathā dong janthabun] (n, exp) EN: Chestnut-headed Partridge FR: Torquéole du Cambodge ; Perdrix du Cambodge | นกกระทาดงแข้งเขียว | [nok krathā dong khaeng khīo] (n, exp) EN: Scaly-breasted Partridge FR: Torquéole des bois ; Perdrix à ventre cannelle [ f ] | นกกระทาดงคอสีแสด | [nok krathā dong khø sī saēt] (n, exp) EN: Rufous-throated Partridge FR: Torquéole à gorge rousse ; Perdrix à gorge rouge | นกกระทาดงอกสีน้ำตาล | [nok krathā dong ok sī nāmtān] (n, exp) EN: Bar-backed Partridge FR: Torquéole à poitrine brune ; Perdrix à poitrine brune | นกกระทาดงอกเทา | [nok krathā dong ok thao] (n, exp) EN: Grey-breasted Partridge FR: Torquéole de Sumatra ; Perdrix à poitrine grise [ f ] | นกกระทาดงปักษ์ใต้ | [nok krathā dong pak tāi] (n, exp) EN: Chestnut-necklaced Partridge FR: Torquéole à poitrine châtaine ; Perdrix de Charlton [ f ] | นกกระทาป่าไผ่ | [nok krathā pā phai] (n, exp) EN: Mountain Bamboo Partridge FR: Bambusicole de Fytch ; Bambusicole des Indes ; Perdrix des bambous [ f ] | นกกระทาสองเดือย | [nok krathā søng deūay] (n, exp) EN: Ferruginous Partridge, Ferruginous Wood-Partridge (?) FR: Rouloul ocellé [ m ] ; Perdrix oculée [ f ] | นกกระทาทุ่ง | [nok krathā thung] (n, exp) EN: Chinese Francolin FR: Francolin perlé [ m ] ; Francolin chinois [ m ] ; Francolin de Chine [ m ] | พื้นที่ชลประทาน | [pheūnthī chonprathān] (n, exp) EN: irrigable area | ผู้รับประทาน | [phūrapprathān] (n) FR: mangeur [ m ] ; mangeuse [ f ] | ประทาน | [prathān] (v) EN: give ; confer ; bestow FR: donner ; accorder ; octroyer | ระบบการชลประทาน | [rabop kān chonlaprathān = rabop kān chonprathān] (n, exp) EN: irrigation system FR: système d'irrigation [ m ] | รับประทาน | [rapprathān] (v) EN: eat ; dine ; sup ; have a meal FR: manger ; prendre un repas | รับประทานอาหาร | [rapprathān āhān] (v, exp) EN: eat FR: manger ; prendre un repas | รับประทานอาหารกลางวัน | [rapprathān āhān klāng wan] (v, exp) FR: déjeuner ; dîner (belg.) | รับประทานอาหารเย็น | [rapprathān āhān yen] (v, exp) EN: have dinner ; eat dinner | รับประทานข้าว | [rapprathān khāo] (v, exp) EN: eat ; have a meal | รับประทานน้ำชา | [rapprathān nāmchā] (v, exp) FR: prendre le thé | ร่วมรับประทานอาหาร | [ruam rapprathān āhān] (n) FR: banquet [ m ] ; repas collectif [ m ] ; repas en commun [ m ] | ร่วมรับประทานเย็น | [ruam rapprathān yen] (n, exp) FR: repas du soir en commun [ f ] | โต๊ะรับประทานอาหาร | [to rapprathān āhān] (n, exp) EN: dining table FR: table de salle à manger [ f ] |
| dill | (n) ผักชีลาว (สามารถใช้รับประทานหรือใช้ประดับก็ได้ เมื่อแก่ออกดอกสีเหลืองเล็กๆ ลักษณะใบเป็นท่อนเล็กๆแหลมๆมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว) | plantain | (n) กล้วยกล้าย, กล้าย พบและใช้รับประทานมากในทวีปแอฟริกา เช่น How to cook plantain is a matter of choice. You can cook plantain fried, boiled or baked. | tabehodai | (n) รูปแบบการรับประทานอาหารแบบสั่งได้ไม่จำกัด แต่มักมีกำหนดเวลา เช่น ภายใน 2 ชั่วโมง มาจากภาษาญี่ปุ่น 食べ放題 (tabehoudai) |
| anorexia | (n) ภาวะไร้ความอยากอาหารหรือไม่สามารถรับประทานอาหารได้ | apologise | (vt) ขอโทษ, See also: ขอขมา, ขอรับผิด, ขออภัย, ขอประทานโทษ, แสดงความเสียใจ, Syn. apologize | apologize | (vt) ขอโทษ, See also: ขอขมา, ขอรับผิด, ขออภัย, ขอประทานโทษ, แสดงความเสียใจ, Syn. apologise | brunch | (vi) รับประทานอาหารที่รวมมื้อเช้าและกลางวันเข้าด้วยกัน | be on | (phrv) รับประทานยาเป็นประจำ, See also: รับประทานยาสม่ำเสมอ, Syn. keep on | be upon | (phrv) รับประทานยาเป็นประจำหรือสม่ำเสมอ, Syn. keep on | carryout | (adj) ที่พร้อมรับประทานเมื่อซื้อ | carryout | (n) อาหารที่พร้อมรับประทานเมื่อซื้อ, Syn. takeaway | cereal | (n) อาหารเช้าที่ทำจากธัญพืช (มักจะรับประทานโดยใส่นม), Syn. breakfast cereal | cutlery | (n) เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, See also: มีด, ช้อนและส้อมที่ใช้ในการรับประทานอาหาร, Syn. flatware, silverware | dig in | (phrv) เริ่มกิน (คำไม่เป็นทางการ), See also: เริ่มรับประทานได้แล้ว, Syn. tuck in | dig into | (phrv) เริ่มกินอย่างหิวกระหาย (คำไม่เป็นทางการ), See also: เริ่มรับประทานได้แล้ว, Syn. tuck into | eat off2 | (phrv) กินอาหารจาก (ภาชนะเช่น จาน), See also: รับประทานอาหารจาก, Syn. dine off, eat out of, feed off | eat out | (phrv) กินอาหารนอกบ้าน, See also: รับประทานอาหารนอกบ้าน | eat out of | (phrv) กินอาหารจาก (ภาชนะเช่น จาน), See also: รับประทานอาหารจาก, Syn. dine off, eat out of, feed off | eat through | (phrv) กินหมด (อาหาร), See also: รับประทานหมด | eat up | (phrv) กินให้หมด, See also: รับประทานให้หมด | delectable | (n) อาหารน่ารับประทาน, See also: อาหารน่าอร่อย, Ant. bad-tasting | delicious | (adj) อร่อย, See also: โอชะ, โอชา, น่ารับประทาน, ถูกปาก, น่าทาน, มีรสกลมกล่อม, Syn. tasty, appetizing, yummy, Ant. disqusting, tasteless | dine | (vi) รับประทาน, See also: ทาน, กิน, Syn. have, eat, ingest, Ant. tast | dine | (vi) รับประทานอาหารเย็น, Syn. have, eat, ingest, Ant. tast | diner | (n) คนที่มารับประทานอาหารในร้านอาหาร | dining room | (n) ห้องอาหาร, See also: ห้องทานข้าว, ห้องรับประทานอาหาร, Syn. breakfast nook, dinette | eat | (vt) กิน, See also: ทาน, รับประทาน, Syn. feed, devour, consume | eat | (vi) กิน, See also: ทาน, รับประทาน, Syn. feed, devour, consume | eating | (n) อาหาร, See also: การรับประทานอาหาร, การกิน, Syn. food | edible | (n) อาหาร, See also: ของกิน, ของรับประทานได้, Syn. eatable, foodstuff, victual | fare | (vi) รับประทาน, See also: กิน, ทาน | francolin | (n) นกกระทา | get down | (phrv) ลุกจากโต๊ะ (หลังรับประทานอาหาร) (เป็นคำพูดของเด็กๆ) | godsend | (n) สิ่งประเสริฐซึ่งพระเจ้าประทานให้, See also: สมบัติล้ำค่าซึ่งสวรรค์ให้มา, Syn. delight, treasure | grant | (vt) ยินยอม, See also: ยอมให้, ประทาน, ให้รางวัล, Syn. allow, bestow, award, Ant. disallow | grub | (vi) กิน, See also: รับประทาน | has | (vt) กิน, See also: รับประทาน | have | (vt) รับประทาน, See also: กิน, ทาน | High Mass | (n) พิธีฉลองการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู มีการเผาเครื่องหอม บรรเลงดนตรี และขับร้อง | have a sweet tooth | (idm) อยากรับประทานขนมหวาน | tuck into something | (idm) รับประทานด้วยความหิว, See also: รับประทานด้วยความอยากรับประทานมาก | ingest | (vt) นำเข้าสู่ร่างกายทางปาก, See also: รับประทาน, กิน, Syn. take in, absorb, dine, eat, Ant. fast | irrigation | (n) การชลประทาน, See also: การทดน้ำ | irrigative | (adj) เกี่ยวกับการชลประทาน | keep down | (phrv) เก็บอาหารไว้ในกระเพาะ, See also: รับประทานอาหารได้, Syn. hold down | live off | (phrv) รับประทานอาหาร, See also: กิน, ทาน, Syn. dine off, eat off, feed off, feed on, live on | lunch off | (phrv) รับประทาน (บางอย่าง) เป็นอาหารกลางวัน | lunch | (vi) รับประทานอาหารกลางวัน, See also: ทานอาหารกลางวัน, ทานข้าวเที่ยง | macrobiotic | (n) เกี่ยวกับการรับประทานอาหารธรรมชาติ | macrobiotics | (n) การรับประทานอาหารธรรมชาติ | marrowbone | (n) กระดูกที่มีไขกระดูก (รับประทานได้) | mealtime | (n) เวลารับประทานอาหาร | meat | (n) เนื้อผลไม้, See also: ส่วนที่รับประทานได้, อาหาร, Syn. foodstuff, eatables |
| anorexia | (แอนนะเรค' เซีย) n. ภาวะไร้ความอยากอาหารหรือไม่สามารถรับประทานอาหารได้ -anorectic adj. (lack of appetite) | artichoke | (อาร์'ทิโชค) n. พืชมีใบเป็นหนามจำพวกหนึ่งชึ่งหัวและดอกใช้รับประทานได้ | banquet | (แบง'เควท) n. การรับประทานอาหารอย่างฟุ่มเฟือย, งานเลี้ยง vt. จัดงานเลี้ยงต้อนรับ, ไปรับประทานอาหารในงานเลี้ยง, See also: banqueter n. ดูbanquet, Syn. lavish meal -Conf. banquet | cafe | (คะเฟ', แคฟ'เฟ) n. ภัตตาคารเล็ก ๆ , ร้านกาแฟ, โรงอาหาร, ไนท์คลับ, โรงอาหารที่ผู้รับประทานช่วยตัวเอง, กาแฟ, Syn. restaurant | cafeteria | (แคฟ'ฟิเทียเรีย) n. ภัตตาคารหรือโรงอาหารที่ผู้รับประทานอาหารต้องช่วยตัวเอง | dine | (ไดนฺ) vi. รับประทานอาหาร vt. เชิญรับประทานอาหาร -Phr. (dine out กินข้าวข้างนอก), Syn. eat | diner | (ได'เนอะ) n. ผู้ที่รับประทานอาหาร, ตู้เสบียงของขบวนรถโดยสาร (รถไฟ) , ร้านอาหารข้างทาง | dinner pail | n. กล่องใส่อาหารรับประทานนอกบ้าน | dinning room | n. ห้องรับประทานอาหาร | eat | (อีท) vt. กิน, รับประทาน, กัดกร่อน, กัดกิน, ทำลาย vi. กิน, รับประทาน, กัดกร่อน n. อาหาร -Phr. (eat one's words ถอนคำพูด, ยอมรับว่าผิด), Syn. consume | gastrology | n. รับประทานวิทยา | godsend | n. สิ่งหรือเหตุการณ์ที่ได้มาอย่างเหมาะเจาะ (ยังกับพระเจ้าประทานให้), Syn. blessing, boon | grace | (เกรส) n. ความงดงาม, ความนิ่มนวล, ความกลมกล่อม, ความสุภาพ, ความสง่า, ความเมตตา, ความกรุณา, คุณธรรม, การสวดมนต์สั้น ๆ ก่อนรับประทานอาหาร, Syn. elegance, beauty | hall | (ฮอล) n. ห้องโถง, ห้องประชุม, ห้องรับประทานอาหาร, ศาล, หอ, ห้องนันทนาการ, คฤหาสน์, ทางเดินจากประตูหน้าไปยังห้องโถง, | high mass | พิธีฉลองการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู มีการเผาเครื่องหอม บรรเลงดนตรีและขับร้อง | ingestant | (อินเจส'เทินทฺ) n. สิ่งที่ถูกนำเข้าไปในร่างกาย, สารที่รับประทาน | irrigation | (เออระเก'เชิน) n. การชลประทาน, การทดน้ำ, การปล่อยให้น้ำ หรือของเหลวไหลผ่าน, การชำระล้าง., See also: irrigatioanl adj. | lunch | (ลันชฺ) { lunched, lunching, lunches } n. อาหารเที่ยง, อาหารกลางวัน, มื้ออาหารเบา ๆ , ห้องอาหารมื้อเที่ยง, ห้องอาหารกลางวัน. vi. รับประทานอาหารมื้อเที่ยง. vt. จัดอาหารมื้อเที่ยงให้., See also: luncher n. ดูlunch, Syn. luncheon, bite | macaroni | (แมคคะโร'นี) n. มะกะโรนีเป็นหลอดกลวงสั้น ๆ ของอิตาลีมักรับประทานกับน้ำซอสมะเขือ, Syn. maccaroni | meal | (มีล) n. มื้ออาหาร, อาหารที่กินในมื้อหนึ่ง ๆ , เวลารับประทานอาหาร, ผงหยาบของข้าวบด, ข้าวป่น, สารป่น | mess | (เมส) n. ภาวะที่ยุ่งเหยิง, ความสับสน, สถานการณ์ที่ลำบากใจ, บุคคลที่กำลังมีเรื่องยุ่ง. vt. ทำยุ่ง, ทำให้สกปรกหรือไม่เป็นระเบียบ. vi. ร่วมรับประทานอาหาร, ทำสกปรกหรือทำยุ่ง. -Phr. (mess around (about) เที่ยวยุ่ง ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์) | missal | (มิส'เซิล) n. หนังสือสวดมนต์และการปฏิบัติต่าง ๆ ของพิธีฉลองการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ | partridge | (พาร์'ทริดจ) n. นกกระทา | picnic | (พิค'นิค) n. vi., n. (การ) ไปเที่ยวนอกบ้านและนำอาหารไปรับประทานกลางแจ้ง., See also: picnicker n. | pretzel | (เพรท'เซิล) n. ขนมปังกรอบรสเค็ม (มักใช้รับประทานกับเบียร์) | quail | (เควล) n. นกกระทา vi. หมดกำลังใจ, กลัว, หัวหด, หดตัว | refectory | (รีเฟค'ทะรี) n. โรงรับประทานอาหารในสถานที่ศาสนา | repast | (รีพาสทฺ') n. ปริมาณอาหารต่อมื้อ, มื้ออาหาร, เวลารับประทานอาหาร, การรับประทานอาหาร vi. รับประทานอาหาร, เลี้ยงอาหาร | service | (เซอ'วิส) n. การรับใช้, การบริการ, การปรนนิบัติ, การบริการอาหาร, การต้อนรับแขก, การช่วยเหลือ, การอำนวยประโยชน์, ทหารบก, การบำรุงรักษา, ชุดเครื่องมือรับประทานอาหาร, การเสิร์ฟลูก, การออกลูก, การส่งหมายศาล, การยื่นหมายศาล, พิธีศาสนา adj. ใช้เป็นประโยชน์, เป็นการบริการ, ลักษ | show | (โช) vt., vi. แสดง, นำออกแสดง, เผยให้เห็น, นำออกฉาย, แสดงตัว, พิสูจน์ให้เห็น, บอก, อธิบาย, นำไปดู, บอกให้รู้, ชี้, อวด, อวดฝีมือ, ให้, ประทานให้, ให้ดู -Phr. (show off อวดโอ้อวด) n. การแสดง, เรื่องราว, ร่องรอย, แร่ที่ปรากฎให้เห็น. -Phr. (run the show ควบคุมกิจการหรือสถานการณ์) | sideboard | (ไซดฺ'บอร์ด) n. ตู้ถ้วยชามในห้องรับประทานอาหาร | snack | (สแนค) n., vi. (รับประทาน) อาหารเบา ๆ , อาหารว่าง, อาหารที่รับประทานได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีพิ-ธีรีตอง, หุ้น, หุ้นส่วน, Syn. refreshment | snackbar | n. ห้องรับประทานอาหารเบา ๆ หรืออาหารว่าง | surfeit | (เซอ'ฟีท) n. ส่วนเกิน, จำนวนเกิน, ความมากมายเกินไป, ความล้น, การรับประทานหรือดื่มมากเกินไป, ความรู้สึกไม่สบาย ที่เกิดจากการรับประทานหรือดื่มมากเกินไป. vt. ทำให้เกิน, ทำให้อิ่มไป. vi. ทำมากไป, มั่วสุมมากไป, รับประทานหรือดื่มมากเกินไป | table set | n. ชุดรับประทานอาหาร | tableware | n. ภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในการรับประทานอาหารบนโต๊ะ | tuck | (ทิค) vt., vi. จับผ้า, พับผ้า, พับ, พับแขนเสื้อ, รด, ดื่ม, หดสั้น n. สิ่งที่พับสั้น, ผ้าที่พับ, รอยจีบ, ขนม, ของรับประทาน., Syn. cover, wrap, swathe | wardroom | (วอร์ด'รูม) n. ห้องพวกนายทหารในเรือรบ , ห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นของนายทหารดังกล่าว, นายทหารดังกล่าว | watercontrol | (วอ'เทอะคอนโทรล) n. การชลประทาน |
| appetizing | (adj) กระตุ้นความต้องการ, เจริญอาหาร, น่ารับประทาน | dine | (vi) กินเลี้ยง, รับประทานอาหารเย็น | DINING dining room | (n) ห้องรับประทานอาหาร, ห้องกินข้าว | eat | (vt) กิน, รับประทาน, ทาน, แดก, ยัด | eatable | (adj) น่ากิน, น่ารับประทาน, กินได้, รับประทานได้ | edible | (adj) กินได้, รับประทานได้ | grillroom | (n) ห้องรับประทานอาหารในภัตตาคาร | have | (vt) มี, ได้, เป็น, รับประทาน, ดื่ม, กล่าว, ยืนยัน, ใช้ | irrigation | (n) การทดน้ำ, การชลประทาน | partridge | (n) นกกระทา | quail | (n) นกคุ่ม, นกกระทา | refectory | (n) โรงอาหาร, ห้องรับประทานอาหาร | repast | (n) มื้ออาหาร, อาหาร, เวลารับประทานอาหาร |
| *dress code* | [ดฺ แร็ดสฺ โขดฺ - เน้นเสียงที่คำแรก] dress code คือ กฎระเบียบการแต่งกายตามจารึตประเพณีนิมยมของสังคมหนึ่งๆ เช่น การใส่ชุดฟอร์มนักเรียนนักศึกษาไทย ชุดข้าราชการไทย การแต่งกายเวลาเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ไทย การแต่งกายไปร่วมพระราชพิธีต่างๆ การแต่งกายแบบสากลนิยมตามงานราตรีสโมสร หรือตามที่เจ้าภาพได้กำหนดไว้ เป็นต้น ตัวอย่าง 1. To attend a gala dinner at the Oriental Hotel, the dress code is strict - black tie only. การไปรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมโอแรนเต็ลนั้น กฎระเบียบการแต่งตัวนั้นเข้มงวดมาก คือ ต้องชุดราตรีสโมสรเท่านั้น 2. Thai students have a very strict dress code when they go to school. นักเรียนไทยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการแต่งกายตอนไปเรียนอย่างเคร่งครัด | buffet | [บุเฟต์ (อังกฤษ) , เบอเฟต์ (อเมริกัน)] (n) บุฟเฟต์ (อาหารในงานเลี้ยงที่หรือโอกาสอื่นที่ผู้รับประทานบริการตนเอง), ร้านอาหารอย่างง่าย (ที่สถานที่รถไฟ, ชุมทางรถประจำทาง, หรือสนามบินที่สามารถซื้ออาหารและทานได้โดยใช้เวลสั้น ๆ) | Halloweenorexia | (n, slang) ภาวะการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ โดยมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ยอมอดอาหารเพื่อที่จะใส่ชุดสวย ๆ สำหรับเทศกาลฮัลโลวีน, See also: halloween | leaseback | [ลิซแบ็ค] (n) นิติกรรมซึ่งคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อได้นำทรัพย์สินออกให้ผู้ขายเช่าทันที นิติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์เต็มที่ในทรัพย์สิน แต่ไม่ต้องมีภาระทางการเงิน ส่วนใหญ่มักทำนิติกรรมนี้กันเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี บางทีก็เรียกว่า sale and leaseback | mineral mine concession certificate | ประทานบัตรทำเหมืองแร่ | palatability | (n) ความน่ากิน, ความน่ารับประทาน, ความอร่อย, ความหวาน, ความไพเราะ, ความถูกรสนิยม, See also: palatable, acceptable, delectable, pleasant, Syn. deliciousness | Patmose | [พัท มอส] (n) Patmos เป็นชื่อเกาะขนาดเล็กใน(เป็นภาษากริก) Aegean ทะเลและสามารถพบได้ระหว่างเกาะ Leros และ Ikaria. ... ประมงประวัติของพิพิธภัณฑ์เป็นนักท่องเที่ยว Philoproodos กล่าวกันว่านักบุญจอห์นอีแวนเจลลิสเป็นคนคนเดียวกับ “นักบุญอัครสาวก” ... (ดูเพิ่ม นักบุญจอห์นเพรสไบเตอร์ (John the Presbyter) และ นักบุญจอห์นแห่งพัทโมส (John of Patmos) ...ได้เห็นนิมิตที่พระเจ้าททรงประทานให้พ่านทูตสวรรค์ และยอห์นเขียนขึ้นมาเป็นเล่มเรียกชื่อว่า "พระธรรมวิวรณ์" | pepperoni | [pĕp'ə-rō'nē] (n) อาหารประเภทไส้กรอกมีรสจัดของอิตาลี มักทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว ปนกับเครื่องเทศ เวลารับประทานอาจหั่นเป็นชิ้นบางๆ หรือใช้เป็นหน้าของพิซซ่าได้ | pescadarian | (n) คนไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แต่รับประทานปลา |
| 食べる | [たべる, taberu] (vt) รับประทาน, กิน | 食事 | [しょくじ, shokuji] (n) การรับประทานอาหาร |
| アノレクシア | [あのれくしあ, anorekushia] (n) ภาวะไร้ความอยากอาหารหรือไม่สามารถรับประทานอาหารได | 天の与え | [てんのあたえ, tennoatae] (n, colloq) ของขวัญที่ได้รับประทานมาจากสวรรค์ | 食べます | [たべます, tabemasu, tabemasu , tabemasu] (vt) กิน, รับประทาน | 舌鼓を打つ | [したつづみをうつ, shitatsuzumiwoutsu] (vt) รับประทานอย่างเอร็ดอร่อย |
| 食器 | [しょっき, shokki] TH: ภาชนะที่ใช้ในการรับประทานอาหาร EN: tableware | 召し上がる | [めしあがる, meshiagaru] TH: รับประทาน(รูปสุภาพใช้กับประธานที่เป็นผู้อื่น ไม่ใช่ผู้พูด) EN: to eat (pol) | 食べる | [たべる, taberu] TH: รับประทาน หรือ กิน EN: to eat | 外食 | [がいしょく, gaishoku] TH: การรับประทานอาหารนอกบ้าน EN: eating out |
| aufessen | (vt) |ißt auf, aß auf, hat aufgegessen| กินจนหมด กินหมด รับประทานจนหมด เช่น Er kann es aufessen obwohl das Essen nicht schmeckt. | Kost | (n) |die, nur Sg.| อาหาร (ภาษาค่อนข้างทางการ) เช่น Der Patient darf nur leichte Kost zu sich nehmen. คนไข้คนนี้ได้รับอนุญาตให้รับประทานอาหารอ่อนเท่านั้น, See also: Nahrung, Syn. Essen | Imbiss | (n) |der, pl. Imbisse| ร้านขายอาหารที่รับประทานได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีพิธีรีตอง บางร้านมีที่นั่งให้ บางร้านมีโต๊ะสำหรับยืนทาน ราคาถูกกว่าร้านอาหาร (Restaurant) | Ordination | (n) |die, pl. Ordinationen| การบวชเป็นพระทางศาสนาพุทธ เช่น Er konnte erst mit zwanzig Jahren die volle Ordination empfangen., See also: die Priesterweihe, die Primiz |
| bon appétit | (phrase) ขอให้เจริญอาหาร ขอให้อร่อย (ใช้พูดก่อนรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นธรรมเนียมในฝรั่งเศส) |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |