ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ยุติ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ยุติ, -ยุติ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
เจ้าพนักงานศาลยุติธรรมclerk to the juristic 6

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ยุติ(v) end, See also: terminate, cease, finish, stop, come to an end, wind up, culminate, Syn. ตกลง, จบ, เลิก, Ant. เริ่มต้น, Example: สภาตำบลลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุติการปลูกยูคาลิปตัส, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
การยุติ(n) end, See also: termination, stop, close, finish, halt, Syn. การหยุด, การจบ, การเลิก, การสิ้นสุด, การเสร็จสิ้น, การลงเอย, การอวสาน, Example: การยุติของสงครามเย็นทำให้เกิดสันติภาพไปทั่วโลก
ข้อยุติ(n) conclusion, See also: resolution, settlement, Syn. ข้อสรุป, บทสรุป, Ant. ข้อโต้แย้ง, ข้อถกเถียง, Example: รัฐบาลพยายามหาข้อยุติที่ดีที่สุด เพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ, Thai Definition: ผลสรุปที่เป็นข้อตกลงอย่างแน่นอน, ผลสรุปที่เป็นสิ่งชี้การสิ้นสุดของการโต้แย้ง
ยุติธรรม(adv) fairly, See also: impartially, honestly, neutrally, Syn. เป็นธรรม, เป็นกลาง, Ant. อยุติธรรม, อคติ, เข้าข้าง, ลำเอียง, Example: เจ้าหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีการซื้อเสียง, Thai Definition: อย่างเที่ยงธรรม, อย่างชอบธรรม, อย่างชอบด้วยเหตุผล
ยุติธรรม(adj) neutral, See also: impartial, fair, unprejudiced, unbiased, equitable, Syn. เป็นธรรม, เป็นกลาง, Ant. อยุติธรรม, อคติ, เข้าข้าง, ลำเอียง, Example: ทุกฝ่ายพอใจกับคำตัดสินที่ยุติธรรมของผู้พิพากษา, Thai Definition: ที่มีความเที่ยงธรรม, ที่ชอบธรรม, ที่ชอบด้วยเหตุผล
ยุติปัญหา(v) cease the problem, See also: end the problem, Syn. จบปัญหา, Ant. สร้างปัญหา, Example: ถ้าประธานาธิบดีถูกฆ่าตายหรือถูกโค่นอำนาจก็คงจะช่วยยุติปัญหาต่างๆ ได้ทันที
ยุติธรรม(v) be unjust, See also: be unfair, be partial, Syn. ไม่เป็นธรรม, ไม่เที่ยงตรง, ไม่เป็นกลาง, Ant. ยุติธรรม
ยุติธรรม(adj) unjust, See also: unfair, partial, Syn. ไม่เป็นธรรม, ไม่เที่ยงตรง, ไม่เป็นกลาง, Ant. ยุติธรรม, Example: เจ้านายของเธอเป็นคนอยุติธรรมมากๆ ใครจะยอมเคารพนับถือ
ยุติธรรม(n) injustice, See also: partiality, Syn. ความอยุติธรรม, Ant. ยุติธรรม, Example: เขามีอยุติธรรมในตัวเองอย่างมาก, Thai Definition: ความไม่เป็นธรรม, ความไม่เป็นกลาง
ศาลยุติธรรม(n) Court of justice, Syn. ศาล, Count Unit: ศาล
ศาลยุติธรรม(n) Court of Justice, Example: เจ้าพนักงานจะจับกุมพระมหากษัตริย์มิได้ เพราะศาลยุติธรรมจะไม่รับฟ้อง, Count Unit: ศาล, Thai Definition: องค์การฝ่ายตุลาการที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม, Notes: (กฎหมาย)
ความยุติธรรม(n) justice, See also: fairness, Syn. ความเที่ยงธรรม, ความชอบธรรม, ความชอบด้วยเหตุผล, ความถูกต้อง, Ant. ความอยุติธรรม, Example: สัจจะและความยุติธรรมเป็นสิ่งมีค่าสูงสุดที่ชาวอเมริกันทุกคนแสวงหา
ความอยุติธรรม(n) injustice, See also: iniquity, partiality, unfairness, Example: นักศึกษาเป็นคนหนุ่มคนสาวมีความคิดเร่าร้อน รักความเป็นธรรม และเกลียดชังความอยุติธรรม
อย่างยุติธรรม(adv) fairly, See also: justly, reasonably, Syn. โดยยุติธรรม, Example: รัฐบาลสร้างตลาดของสินค้าเกษตรเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงไปสู่เกษตรกรอย่างยุติธรรม
วิทยุติดตามตัว(n) pager, Syn. เพจเจอร์, เพจ, Example: คุณหมอมีทั้งโทรศัพท์มือถือและวิทยุติดตามตัวตั้ง 2-3 เครื่องเพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อเลย, Count Unit: เครื่อง, Thai Definition: เครื่องรับวิทยุขนาดเล็กซึ่งติดตั้งชุดส่งสัญญาณเตือน
วิทยุติดตามตัว(n) pager, Thai Definition: เครื่องรับวิทยุขนาดเล็กซึ่งติดตั้งชุดส่งสัญญาณเตือน
กระทรวงยุติธรรม(n) Ministry of Justice, Count Unit: กระทรวง
ศาลสถิตยุติธรรม(n) court of justice, Syn. ศาลยุติธรรม, Example: ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และศาลสถิตยุติธรรม, Thai Definition: สถานที่ที่พิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้ความเที่ยงธรรมแก่คู่ความ
กระบวนการยุติธรรม(n) process of judgement, See also: process of equity, Example: คุณภาพงานสอบสวนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น, Thai Definition: วิธีดำเนินการให้ความคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และให้ความเป็นธรรมในทางกฎหมายแก่บุคคลโดยบุคลากรและองค์กรหรือสถาบันต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่บริหารงานยุติธรรม
ความยุติธรรมทางสังคม(n) social justice
เครื่องวิทยุติดตามตัว(n) pager, Syn. วิทยุติดตามตัว, เพจเจอร์

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
กระบวนการยุติธรรมน. ขั้นตอนและวิธีดำเนินการในการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรม คุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล.
ยุติ(จะยุดติ) ก. จุติ.
ดะโต๊ะยุติธรรมน. ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่ในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลาม.
ยุติ(ตะยุติ) ก. เคลื่อน, ตาย, (โดยมากใช้แก่เทวดา) เช่น ก็จะจยรตยุติลงเกอด (ม. คำหลวง ทศพร).
ธรรมยุติกนิกายน. ชื่อคณะสงฆ์นิกายหนึ่ง, คู่กับมหานิกาย, เรียกสั้น ๆ ว่า ธรรมยุต.
พระธรรมนูญศาลยุติธรรมน. กฎหมายที่จัดระเบียบองค์กรศาลยุติธรรม และกำหนดอำนาจศาล ตลอดจนเขตอำนาจของศาลยุติธรรมต่าง ๆ.
ยุติ- ๑(ยุดติ-) ก. ชอบ, ถูกต้อง.
ยุติธรรมน. ความเที่ยงธรรม, ความชอบธรรม, ความชอบด้วยเหตุผล, เช่น ศาลย่อมทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม
ยุติธรรมชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการศาลยุติธรรม แต่ไม่รวมถึงการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี.
ยุติธรรมว. เที่ยงธรรม, ไม่เอนเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง, ชอบด้วยเหตุผล, เช่น ราคายุติธรรม กรรมการตัดสินอย่างยุติธรรม.
ยุติ(ยุดติ) ก. ตกลง, จบ, เลิก, เช่น เรื่องนี้ยุติแล้ว ไม่ต้องพิจารณาอีกต่อไป.
วิทยุติดตามตัวน. การกระตุ้นเตือนผู้พกพาเครื่องรับวิทยุที่ใช้ติดตัวโดยทางคลื่นวิทยุ ซึ่งกระทำผ่านข่ายโทรศัพท์สาธารณะ การกระตุ้นเตือนอาจประกอบด้วยเสียงพูดหรือรหัสที่มองเห็นได้ ซึ่งส่งมาจากผู้กระตุ้นเตือนหรือจากข่ายโทรศัพท์สาธารณะ.
ศาลยุติธรรมน. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง ที่ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และศาลทหาร.
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศน. องค์กรใหญ่ฝ่ายตุลาการขององค์การสหประชาชาติ ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีอำนาจจำกัดเฉพาะการพิจารณาตัดสินคดีแพ่งที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติด้วยกัน ซึ่งประเทศคู่กรณียินยอมให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินเท่านั้น.
ศาลสถิตยุติธรรมน. เป็นคำรวมที่ใช้เรียกศาลยุติธรรมทั้งปวง.
กรม ๓แผนกใหญ่ในราชการ ตามลักษณะปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน เรียกว่า กระทรวง เช่น กรมพระกลาโหม คือ กรมฝ่ายทหาร เป็นกระทรวงกลาโหม, กรมมหาดไทย คือ กรมฝ่ายพลเรือน เป็นกระทรวงมหาดไทย, กรมเมือง หรือ กรมนครบาล รวมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย, กรมวัง แยกเป็นกระทรวงวัง และกระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันกระทรวงวังไม่มีแล้ว), กรมพระคลัง แยกเป็นกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ, กรมนา เป็นกระทรวงเกษตราธิการ (ปัจจุบัน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์).
ข้อเนื้อความตอนหนึ่ง ๆ, ใจความสั้น ๆ ของเรื่อง, ข้อความ ก็ว่า, เรื่อง เช่น ข้อพิพาท ข้อยุติ, หัวข้อ เช่น ข้ออ้าง ข้อข้องใจ
ข้อกฎหมายน. เรื่องหรือประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมาย เช่น ความหมายของบทบัญญัติของกฎหมาย ผลบังคับของกฎหมาย หรือการปรับใช้ข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเข้ากับบทบัญญัติของกฎหมาย.
ขึ้นโรงขึ้นศาลก. ฟ้องเป็นคดีความที่ศาลยุติธรรม.
ขุนโรงน. ข้าราชการฝ่ายยุติธรรมผู้เป็นหัวหน้าในศาลหัวเมืองต่าง ๆ, ใช้เป็นสำนวนว่า ขุนโรงขุนศาล.
ขุนศาลน. ข้าราชการฝ่ายยุติธรรมตำแหน่งปลัดนั่งศาลหรือราชปลัดนั่งศาลต่าง ๆ ในราชธานี อาทิ กรมกลาโหมมีขุนประชาเสพราชปลัดนั่งศาลอาชญานอก กรมวังมีขุนอินอาญาปลัดนั่งศาลอาชญาวัง, ใช้เป็นสำนวนว่า ขุนโรงขุนศาล เช่น กฎให้แก่ขุนโรงขุนศาลผู้พิจารณาเนื้อความทุกหมู่ทุกกรมในกรุงนอกกรุงจงทั่ว (สามดวง), ขุนสาน หรือ ขุนสาร ก็ว่า.
คู่โคน. นาที่ต้องเสียค่านาตามหน้าโฉนดทุก ๆ ปี ผิดกับนาฟางลอย ซึ่งต้องเสียค่านาแต่เฉพาะในปีที่ปลูกข้าว. [ “ที่เรียกว่า นาคู่โค เพราะวิธีเก็บหางข้าวนาชนิดนี้นับจำนวนโค (กระบือ) ที่ใช้ทำนาในที่นั้น ๆ ด้วยถือเป็นยุติว่า โคคู่หนึ่งคงจะทำนาในที่เช่นนั้นได้ผลประมาณปีละเท่านั้น เอาเกณฑ์จำนวนโคขึ้นตั้งเป็นอัตราหางข้าวที่จะต้องเสีย เพราะฉะนั้น นาคู่โค ถึงจะทำหรือมิทำจึงต้องเสียหางข้าว” พงศ. ร. ๒ ].
จบเห่ยุติ.
จำหน่ายคดีก. ยุติการดำเนินคดี ซึ่งอาจเป็นการยุติชั่วคราวหรือยุติไปเลยก็ได้.
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์น. บุคคลซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งโดยเฉพาะตัว หรือโดยตำแหน่งหน้าที่ ให้ปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์สิน และจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย.
เจ้าสังกัดน. ส่วนราชการที่หน่วยงานย่อยหรือหน่วยงานอื่นสังกัดอยู่ เช่น กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าสังกัดของกรมราชทัณฑ์ สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.
เชื่อมั่นก. เชื่อโดยไม่เปลี่ยนแปลง เช่น เขาเชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาล.
ซึ่งบ. คำสำหรับนำหน้านามที่เป็นผู้ถูกกระทำ เช่น รักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม.
ฎีกาชื่อศาลยุติธรรมสูงสุดของประเทศไทย ซึ่งเรียกว่า ศาลฎีกา
ตัดบทก. พูดให้ยุติเรื่องกัน
ตีนโรงตีนศาลว. เรียกผู้ที่หารายได้โดยรับจ้างเขียนคำร้อง กรอกเอกสารบางอย่าง เป็นต้น ตามศาลยุติธรรม ว่า พวกตีนโรงตีนศาล.
ทัฬหีกรรม(ทันฮีกำ) น. การกระทำให้มั่นคงขึ้น ได้แก่การที่ทำซํ้าลงไปเพื่อให้มั่นคงในกรณีที่การกระทำครั้งแรกไม่สมบูรณ์ มักใช้ในพิธีสงฆ์ เช่น พระภิกษุที่บวชในฝ่ายมหานิกาย เมื่อไปอยู่ในวัดที่เป็นธรรมยุติกนิกายบางวัดก็ต้องให้ทำทัฬหีกรรม.
เที่ยงตรงว. ตั้งตรงไม่เอนเอียง, ยุติธรรม.
ธรรม ๑, ธรรม-, ธรรมะความยุติธรรม, ความถูกต้อง, เช่น ความเป็นธรรมในสังคม
ธรรมนูญน. กฎหมายที่จัดระเบียบองค์กร เช่น ธรรมนูญศาลทหาร พระธรรมนูญศาลยุติธรรม.
ธรรมาธรรม(ทำมา-) น. ธรรมและอธรรม, ความถูกและความผิด, ยุติธรรมและอยุติธรรม.
ธรรมานุสาร(ทำมา-) น. ความถูกตามธรรม, ทางหรือวิธีแห่งความยุติธรรม, ความระลึกตามธรรม.
ธรรมาภิมุข(ทำมา-) ว. หันหน้าเฉพาะธรรม, มุ่งแต่ยุติธรรม.
นิกายน. หมู่, พวก, หมวด, ใช้เกี่ยวกับศาสนา ในกรณีเช่นคณะนักบวชในศาสนาเดียวกัน ที่แยกออกไปเป็นพวก ๆ เช่น มหานิกาย ธรรมยุติกนิกาย นิกายโรมันคาทอลิก นิกายโปรเตสแตนต์
เนติบัณฑิตน. ผู้ได้รับประกาศนียบัตรทางวิชากฎหมายของโรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม, ผู้สอบได้ตามหลักสูตรของสำนักศึกษาอบรมกฎหมายของเนติบัณฑิตยสภา.
ประชาทัณฑ์น. การที่ฝูงชนกลุ้มรุมทำร้าย เป็นการลงโทษบุคคลที่ตนเข้าใจหรือนึกว่ามีความผิด โดยไม่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม.
ปลุกผีรื้อฟื้นเรื่องที่ยุติไปแล้วขึ้นมาใหม่ เช่น ปลุกผีคอมมิวนิสต์.
ปัญหาโลกแตกน. ปัญหาที่หาข้อยุติไม่ได้.
ปิดฉากก. เลิก, หยุด, ยุติ, เช่น เรื่องนี้ปิดฉากแล้ว.
ปิดสำนวนก. ยุติการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี.
เป็นอันก. รวมความว่า, แสดงว่า, เช่น เป็นอันยุติ, เป็นอันว่า ก็ใช้
เป็นอันว่าก. รวมความว่า, แสดงว่า, เช่น เป็นอันว่ายุติ, เป็นอัน ก็ใช้.
พอกันทีก. บอกเลิกกัน, ยุติกัน, ไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป.
มหานิกายน. ชื่อคณะสงฆ์นิกายหนึ่ง, คู่กับ ธรรมยุติกนิกาย.
ยุกติธรรมน. ยุติธรรม.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
procedural rightสิทธิตามกระบวนการยุติธรรม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
poetic justiceยุติธรรมแบบกวี [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
Law for the Organization of Courts of Justiceกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลยุติธรรม (ไทย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
retributive justiceความยุติธรรมเพื่อสนองตอบ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
retributive justiceความยุติธรรมในการลงโทษ, การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
right, proceduralสิทธิตามกระบวนการยุติธรรม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Supreme Court of Judicatureศาลยุติธรรมสูงสุด (อังกฤษ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
social justiceความยุติธรรมทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
obstructing justiceการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
offences relating to the justiceความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Attorney-General๑. อธิบดีกรมอัยการ (อังกฤษ)๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (อเมริกัน)๓. ที่ปรึกษากฎหมายแห่งมลรัฐ (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Attorney-General๑. อัยการแผ่นดิน (อังกฤษ)๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (อเมริกัน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
administration of justiceการบริหารงานยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
abortive๑. -แท้ง๒. -คลอดก่อนกำหนด๓. -ยุติก่อนกำหนด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
justice, correctiveความยุติธรรมเพื่อแก้ไขความประพฤติ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
justice, distributiveความยุติธรรมในการจัดสรร [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
justice, retributiveความยุติธรรมเพื่อสนองตอบ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
justice, retributiveความยุติธรรมในการลงโทษ, การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
justice, utilitarianความยุติธรรมทางประโยชน์นิยม [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
justiceความยุติธรรม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
justiceความยุติธรรม [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
justiceความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
miscarriage of justiceการทำให้เสื่อมเสียความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
court of justice; court of lawศาลยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Court of Justice of the European Communities (European Court)ศาลยุติธรรมแห่งประชาคมยุโรป (ศาลประชาคมยุโรป) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Court of Justice, Internationalศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
court of law; court of justiceศาลยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Cassation, Cour de (Fr.); Cour de Cassation (Fr.)ศาลยุติธรรมสูงสุดฝรั่งเศส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
conclusive presumptionข้อสันนิษฐานอันเป็นที่ยุติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Cour de Cassation (Fr.); Cassation, Cour de (Fr.)ศาลยุติธรรมสูงสุดฝรั่งเศส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
corrective justiceความยุติธรรมเพื่อแก้ไขความประพฤติ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
conclusionข้อยุติ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
conclusive evidenceพยานหลักฐานอันเป็นที่ยุติ, พยานหลักฐานชัดแจ้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
distributive justiceความยุติธรรมในการจัดสรร [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
denial of justiceการไม่ให้ความยุติธรรม, การปฏิเสธความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
fait accompli (Fr.)เรื่องที่ยุติแล้ว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
fiat justitia (L.)ให้เป็นไปตามความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
extrajudicialนอกกระบวนการยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
European Court (Court of Justice of the European Communities)ศาลยุติธรรมแห่งประชาคมยุโรป (ศาลประชาคมยุโรป) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
European Communities (European Court), Court of Justice of theศาลยุติธรรมแห่งประชาคมยุโรป (ศาลประชาคมยุโรป) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ [ ดู world court ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
notice of discontinuanceคำบอกกล่าวขอยุติคดี [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
no-action clauseข้อกำหนดไม่ให้ฟ้องผู้รับประกันภัย (จนกว่าจะมีข้อยุติในค่าเสียหาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
nisiยังไม่เป็นที่ยุติ, ยังไม่ถึงที่สุด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
natural justiceความยุติธรรมตามธรรมชาติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
utilitarian justiceความยุติธรรมทางประโยชน์นิยม [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
world courtศาลโลก, ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ [ ดู International Court of Justice ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Convention on Access to Information, Public Participation in Decision-making, and Access to Justice in Environmental Mattersอนุสัญญาว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูล การมีส่วนร่วมของสาธารณะชนในการตัดสินใจ และการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมในเรื่องสิ่งแวดล้อม (ค.ศ. 1, อนุสัญญาว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูล การมีส่วนร่วมของสาธารณะชนในการตัดสินใจ และการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมในเรื่องสิ่งแวดล้อม (ค.ศ. 1998) [TU Subject Heading]
Criminal justice personnelบุคลากรทางกระบวนการยุติธรรมทางอาญา [TU Subject Heading]
Criminal justice, Administration ofการบริหารงานยุติธรรมทางอาญา [TU Subject Heading]
International courtsศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ [TU Subject Heading]
Judges (Islamic law)ดะโต๊ะยุติธรรม [TU Subject Heading]
Justiceความยุติธรรม [TU Subject Heading]
Justice, Administration ofการบริหารงานยุติธรรม [TU Subject Heading]
Juvenile justice, Administration ofการบริหารงานยุติธรรมด้านเยาวชน [TU Subject Heading]
Organizational justiceความยุติธรรมในองค์การ [TU Subject Heading]
Radio pagingวิทยุติดตามตัว [TU Subject Heading]
Radio paging equipment industryอุตสาหกรรมอุปกรณ์วิทยุติดตามตัว [TU Subject Heading]
Reparation (Criminal justice)การชดใช้ค่าเสียหาย ((งานยุติธรรมทางอาญา) [TU Subject Heading]
Restorative justiceการบริหารงานยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ [TU Subject Heading]
Retributionการลงโทษเพื่อความยุติธรรม [TU Subject Heading]
Volunteer workers in criminal justice administrationอาสาสมัครในงานบริหารงานยุติธรรมทางอาญา [TU Subject Heading]
Amnesty Internationalองค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต]
Australia-New Zealand-USสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันระหว่างออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์-สหรัฐอเมริกา " โดยตกลงให้มีการช่วยเหลือประเทศสมาชิกเมื่อถูกคุกคามจากประเทศนอกภาคี ปัจจุบัน ANZUS ยังคงสถานะอยู่แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ (non-operational) เนื่องจากความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐอเมริกากับนิวซีแลนด์ยุติลง โดยนิวซีแลนด์ยังไม่ละทิ้งสนธิสัญญา ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าอาจจะมีการรื้อฟื้นขึ้นอีก " [การทูต]
Diplomatic Languageภาษาการทูต ในสมัยโบราณจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 รัฐทั้งหลายในสมัยนั้นได้นิยมใช้ภาษาละตินเป็นภาษาการทูตและก็เป็นภาษาเดียว ที่ใช้กันในยุโรปภาคกลางและภาคตะวันตก ต่อมาในราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทนภาษาละตินเป็นภาษาการทูต และใช้กันตลอดมาจนถึงสมัยสงครามโลกครั้งแรก หลังจากเสร็จสงครามโลกครั้งแรกจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐต่างๆ เริ่มนิยมใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังไม่มีการรับรองเป็นทางการกันว่าให้ใช้ภาษาใดเป็นภาษาทางการทูตใน องค์กรทั้งหมดของสหประชาชาติยกเว้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ใช้ 5 ภาษาเป็นภาษาราชการ คือ ภาษาจีน รัสเซีย สเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส ดังนั้น ในการประชุมใด ๆ ณ องค์การสหประชาชาติ หากมีการแถลงเป็นภาษาหนึ่ง ก็จะมีการแปลเป็นอีก 4 ภาษาเกือบพร้อมกันในทันที (Simultaneous Translation) สำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เพียงสองภาษา [การทูต]
Diplomatic Pouchถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต]
Duration of Diplomatic Privileges and Immunitiesระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต]
Extraditionการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต]
Freedom of Communicationเสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต]
Geneva Conference on the Problem of Restoring Peace in Indo-Chinaการประชุม ณ นครเจนีวา ว่าด้วยปัญหาการนำสันติภาพกลับคืนสู่อินโดจีน ในการประชุมนี้ มีการทำความตกลงกันเกี่ยวกับการหยุดสู้รบระหว่างกำลังทหารในประเทศเวียดนาม กัมพูชา และลาว กับกำลังทหารฝรั่งเศส ความตกลงดังกล่าวได้กระทำกันในนครเจนีวา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1954 มีผู้แทนจากประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ฝรั่งเศส ลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐเวียดนาม (เวียดนามใต้) สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการประชุมตามข้อตกลงนี้ให้มีการยุติการสู้รบในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม และการปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติในความตกลงดังกล่าว ให้อยู่ใต้ความควบคุมและดูแลระหว่างประเทศ ที่ประชุมเจนีวาได้แสดงความมั่นใจว่า ในการปฏิบัติตามข้อตกลงจะปล่อยให้กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้แสดงบทบาทภายใต้ความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของตนอย่างสมบูรณ์ภายใน ประชาคมนานาชาติ สำหรับความตกลงเกี่ยวกับเวียดนามใด้ห้ามมิให้นำกองทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่าย ทหารของต่างชาติ รวมทั้งอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารทุกชนิดเข้าไปในประเทศนั้น ที่ประชุมยังได้รับรองว่า วัตถุประสงค์สำคัญยิ่งของความตกลงเกี่ยวกับเวียดนามคือ ต้องการระงับปัญหาต่าง ๆ ทางทหาร เพื่อยุติการสู้รบ และการปักปันเส้นเขตแดนทางทหารนั้น ให้ถือเป็นการชั่วคราว มิได้หมายความว่าเป็นแนวแบ่งเขตทางการเมืองหรือทางดินแดนแต่ประการใดทั้งสิ้น [การทูต]
Hugo Grotius (1583-1645)บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต]
Humanitarian Interventionการแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม " เป็นแนวคิดที่นายโคฟี อันนาน เลขาธิการสหประชาชาติเสนออย่างเป็น ทางการครั้งแรกต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 54 เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมุ่งจะให้สหประชาชาติสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภาย ในประเทศต่าง ๆ ได้โดย คำนึงถึงประเด็นเรื่องมนุษยธรรมเป็นหลัก ขณะนี้ แนวคิดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่ยุติ โดยบางประเทศเห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตยของรัฐ บางประเทศเห็นว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาของมนุษยชาติ ส่วนบางประเทศเห็นว่าการแทรกแซงดังกล่าวจะต้องอยู่ใต้กรอบหลักเกณฑ์ หรือกรอบกฎหมายบางประการ เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ " [การทูต]
International Campaign to Ban Landminesองค์กรสากลรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิด [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ [การทูต]
Inter-Governmental Maritime Consultative Organizationองค์การที่ปรึกษาทางทะเลระหว่างรัฐบาล หมายถึงองค์การที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างรัฐบาล องค์การนี้มีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษแห่งหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ ประเทศทั้งหมดรวม 35 ประเทศ ได้ประชุมร่วมกันจัดทำอนุสัญญาขององค์การนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ในการประชุมขององค์การที่ปรึกษาการเดินเรือทางทะเล ณ กรุงเจนีวา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญามีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1958 เมื่อมีประเทศต่าง ๆ รวม 21 ประเทศได้ให้สัตยาบัน ซึ่งในจำนวนนี้ 7 ประเทศเป็นอย่างน้อยจะต้องมีเรือเดินทะเลของตนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน (Gross tons) วัตถุประสงค์ขององค์การ IMCO คือ1. จัดวางกลไกเพื่อความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิก ในด้านการวางระเบียบข้อบังคับของราชการ และการปฏิบัติซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องทางวิชาการหรือเทคนิค รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล2. สนับสนุนให้มีการยกเลิกการกระทำที่เลือกที่รักมักที่ชัง และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นของรัฐบาล3. รับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติในทำนองตั้งข้อจำกัดอย่างไม่ยุติธรรมของบริษัท หรือองค์การเดินเรือทั้งหลาย4. รับพิจารณาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ ที่องค์การหนึ่งใดหรือองค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติส่งมาให้พิจารณา 5. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อสนเทศใด ๆ ระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องที่องค์การ IMCO กำลังพิจารณาอยู่องค์การนี้ยังจัดให้มีการร่างอนุสัญญาและความตกลงต่าง ๆ รวมทั้งส่งข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปให้รัฐบาล และองค์การระหว่างรัฐบาลทั้งหลาย รวมทั้งจัดการประชุมเท่าที่พิจารณาเห็นว่าจำเป็นองค์การนี้ประชุมกันทุกสอง ปี มีหน้าที่วางนโยบายเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างสมัยประชุมจะมีคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ทำหน้าที่บริหารงานในองค์การ คณะมนตรีประกอบด้วยสมาชิก 16 คน ในจำนวนนี้ 8 คน เป็นผู้แทนจากประเทศที่สนใจให้การบริการเกี่ยวกับการเดินเรือระหว่างประเทศ และอีก 8 คนเป็นตัวแทนจากประเทศที่สนใจการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ องค์การมีสำนักเลขาธิการ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ เลขานุการคณะกรรมการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล และเจ้าหน้าที่ประจำตามจำนวนที่องค์การต้องการแล้วแต่กรณี สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
International Labor Organizationคือองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปีค.ศ.1919 วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ การมีส่วนเกื้อกูลให้มีสันติภาพอันถาวร ด้วยการส่งเสริมให้มีความยุติธรรมในสังคม โดยต้องการให้ทุกประเทศปฏิบัติการปรับปรุงสภาวะแรงงาน ส่งเสริมมาตรฐานการครองชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมให้ดีขึ้นการที่จะให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์เหล่านี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศจะจัดให้มีการประชุมเป็นประจำ ระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายแรงงาน และฝ่ายจัดการ เพื่อเสนอแนะและจัดให้มีมาตรฐานระหว่างประเทศ ร่วมกันจัดร่างสัญญาแรงงานระหว่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เช่น ค่าแรง ชั่วโมงทำงาน อายุการทำงาน เงื่อนไขการทำงานสำหรับคนงานในระดับต่าง ๆ ค่าชดเชยสำหรับคนงาน การประกันสังคม การหยุดพักร้อนโดยให้รับเงินเดือน ความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม บริการต่าง ๆ ในหน้าที่การงาน การตรวจแรงงาน เสรีภาพในการคบหาสมาคมกัน และอื่น ๆ นอกจากนั้น องค์การยังได้ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการอย่างกว้างขวางแก่รัฐบาลของประเทศ สมาชิก รวมทั้งจัดพิมพ์เผยแพร่สิ่งพิมพ์หรือเอกสารรายคาบ เรื่องค้นคว้าและรายงานต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาสังคม อุตสาหกรรม และแรงงานILO ปฏิบัติงานผ่านองค์กรต่าง ๆ โดยองค์กรสำคัญที่สุดภายในองค์การแรงงานระหว่างประเทศได้แก่ ที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ซึ่งประชุมกันเป็นประจำทุกปี ประกอบด้วยคณะผู้แทนแห่งชาติ ในจำนวนนี้มีผู้แทนจากฝ่ายรัฐบาล 2 คน ผู้แทนฝ่ายจัดการ 1 คน และผู้แทนฝ่ายแรงงานอีก 1 คน หน้าที่สำคัญคือจัดวางมาตรฐานทางสังคมระหว่างประเทศขึ้นในรูปของอนุสัญญา องค์กรภายในองค์การอีกส่วนหนึ่งคือคณะผู้ว่าการ (Governing Body) จะประกอบด้วย สมาชิก 40 คน ในจำนวนนี้ 20 คน จะเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 คน จากจำนวนนี้จะได้แก่ ตัวแทนจากประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ส่วนตัวแทนของฝ่ายจัดการ (หรือนายจ้าง) จะมีจำนวน 10 คน และอีก 10 คนเป็นตัวแทนของฝ่ายแรงงาน คณะผู้ว่าการนี้จะทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานของคณะกรรมาธิการ และคณะกรรมการขององค์การ คือสำนักแรงงานระหว่างประเทศจะมีหน้าที่รวบรวมเผยแพร่ข้อสนเทศ ช่วยเหลือรัฐบาลของประเทศสมาชิกที่ขอร้องให้ช่วยร่างกฎหมายตามที่ได้มีมติ ตกลงในที่ประชุมใหญ่ นอกจากนี้ ยังรับดำเนินการสอบสวนเรื่องต่าง ๆ เป็นพิเศษ รวมทั้งออกสิ่งพิมพ์เผยแพร่องค์การแรงงานระหว่างประเทศมีสำนักงานใหญ่ตั้ง อยู่ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ [การทูต]
International Trade Organizationองค์การการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับความตกลงทั้วไปว่าด้วยภาษี ศุลกากรและการค้าระหว่างประเทศ วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ ต้องการขยายการค้าของโลกให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยให้มีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น ขจัดการกีดกันการค้า หรือพยายามลดให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การตั้งข้อจำกัดโควต้า เป็นต้น ตัดทอนภาษีศุลกากรทั่วโลกให้ต่ำลง ดูแลตลาดวัตถุดิบให้เป็นไปอย่างยุติธรรม และพยายามควบคุมด้านการค้าของการร่วมมือกันทางธุรกิจ (Cartels) จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดคือ ป้องกันมิให้กลับไปสู่การดำเนินการทางการค้าที่ตัดราคากันอย่างหั่นแหลก เหมือนเมื่อระยะปี ค.ศ. 1930 ถึง 1939 นั่นเองอย่างไรก็ดี ตั้งแต่มีการปฏิบัติใช้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้ามาจนบัด นี้ ก็ได้รับผลสำเร็จตามแนววัตถุประสงค์อย่างมากมาย เช่น มีประเทศสมาชิกหลายสิบประเทศลดภาษีศุลกากรและรักษาระดับภาษีอย่างมีเสรีภาพ แต่ละปี ประเทศสมาชิกจะได้ยินได้ฟังเสียงร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้า ละเมิดกฎเกณฑ์ของความตกลงทั่วไป แล้วเสียงร้องเรียนดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงและดัดแปลงข้อกำหนดของความตกลงทั่วไป ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา [การทูต]
Judicial Settlementการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยศาลตุลาการ ก่อนที่จะเกิดองค์การสหประชาชาติ รัฐทั้งหลายที่มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศจะฟ้องร้องต่อศาลระวห่างประเทศแห่ง หนึ่ง มีชื่อว่าศาลประจำยุติธรรมระหว่าประเทศ (Permanent Court of International Justice) ซึ่งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1920 ได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1922 หลังจากนั้นเป็นเวลา 23 ปี ผู้พิพากษาของศาลก็ได้ลาออกในปีค.ศ. 1946 และสันนิบาตชาติได้ยุบศาลนี้ในปีเดียวกันเมื่อมีการสถาปนาองค์การสหประชา ชาติขึ้น ได้มีการจัดตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นใหม่ เรียกว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรนี้ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 92 ว่า ?ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจักเป็นองค์กรทางตุลาการอันสำคัญของสหประชาชาติ ศาลจักดำเนินหน้าที่ตามธรรมนูญผนวกท้าย ซึ่งยึดถือธรรมนูญของศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นมูลฐาน และซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับกฎบัตรฉบับปัจจุบัน?ศาลยุติธรรมระหว่าง ประเทศนี้ ประชุมกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1946 [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Nuclear Test Banหมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต]
peace enforcementการบังคับให้เกิดสันติภาพ " เป็นมาตรการใช้กำลังบังคับผู้ที่กำลังดำเนินการที่เป็นการละเมิด สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศให้ยุติการกระทำดังกล่าว " [การทูต]
peace makingการทำให้เกิดสันติภาพ เป็นการดำเนินการทางการทูตโดยมักใช้วิธีไกล่เกลี่ย และเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
Treaty of Amity and Cooperationสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาที่จัดทำขึ้นโดยอาเซียนเมี่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อกำหนด หลักการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยมีหลักการที่สำคัญได้แก่ การเคารพในอำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน การแก้ไขปัญหาโดยสันติ การไม่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้กำลัง และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งมีมาตราเกี่ยวกับแนวทางยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี (High Council) ปัจจุบันประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ เป็นภาคีสนธิสัญญาฯ " [การทูต]
Termination of Consular Officeการยุติลงของการหน้าที่ทางการกงสุล กล่าวคือ หน้าที่ของหัวหน้าคณะในสถานที่ทำการทางกงสุลจะยุติลงเนื่องจาก 1. วายชนม์2. รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับ3. รัฐผู้รับเพิกถอนอนุมัติบัตร (Exequatur)4. การหน้าที่ของผู้นั้นได้ถึงกำหนดครบวาระหรือยุติลง5. เกิดสงครามระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับไม่เหมือนกับกรณีคณะผู้แทนทางการทูต สถานที่ทำการทางกงสุลนั้น ภาระหน้าที่จะไม่ยุติลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนกษัตริย์หรือประธานาธิบดีของ รัฐผู้ส่งหรือรัฐผู้รับ ข้อ 25 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาบัญญัติไว้ว่า ?การหน้าที่ของบุคคลในสถานที่ทำการกงสุลจะยุติลงก) เมื่อรัฐผู้ส่งได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้รับว่า การหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวได้ยุติลงแล้วข) เมื่อมีการเพิกถอนอนุมัติบัตรค) เมื่อรัฐผู้รับได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้ส่งว่า รัฐผู้รับได้เลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล [การทูต]
The Hague Peace Conferencesการประชุมสันติภาพ ณ กรุงเฮก ในประเทศเนเธอร์แลนด์ การประชุมนี้ได้กระทำกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1899 โดย พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่สอง ของประเทศรัสเซียเป็นผู้จัดให้มีขึ้น ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1899 ที่ประชุมได้รับรองอนุสัญญาว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติ วิธี ได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินประเทศโดยสันติวิธี พร้อมทั้งได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการเป็นการถาวร และเสนอแนะให้วางประมวลพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการ ทั้งยังได้ตกลงรับรองอนุสัญญาและปฏิญญาต่าง ๆ หลายฉบับ ในจำนวนนี้ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ อนุสัญญาควบคุมกฎหมายและขนบประเพณีว่าด้วยการทำสงครามภาคพื้นดินการประชุม สันติภาพ ณ กรุงเฮกครั้งที่สอง หรือการประชุม ณ กรุงเฮกปี ค.ศ.1907 ตามคำขอร้องของรัฐบาลรัสเซีย ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ.1907 วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมคือต้องการปรับปรุงและขยายข้อความในอนุสัญญา ต่าง ๆ ที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ. 1899 ว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี รวมทั้งกฎหมายและขนบประเพณีเกี่ยวกับสงครามภาคพื้นดิน ตลอดจนรับรองอนุสัญญาเกี่ยวกับกฎหมายและขนมประเพณีของการทำสงครามทางทะเล การประชุม ณ กรุงเฮกครั้งที่สองนี้ยังได้เสนอแนะให้ที่ประชุมกำหนดให้ประเทศผู้ลงนาม รับรองและนำออกใช้ซึ่งร่างอนุสัญญาว่าด้วยการก่อตั้งศาลสถิตยุติธรรม เพื่อพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการอีกด้วย [การทูต]
United Nations Emergency Forceกองกำลังฉุกเฉินของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1956 สมัชชาแห่งสหประชาชาติได้ขอรัองให้เลขาธิการสหประชาชาติเสนอแผนการภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติของสหประชาชาติ โดยได้รับอนุมัติจากชาติที่เกี่ยวข้อง ให้ทำหน้าที่ยุติและควบคุมดูแลการหยุดรบในประเทศอียิปต์ วันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 5 พฤศจิกายน สมัชชาก็ได้ลงมติให้จัดตั้งกองบัญชาการแห่งสหประชาชาติขึ้นปรากฏว่า ผู้แทนของสหภาพโซเวียตได้กล่าวอ้างว่า การจัดตั้งกองกำลังดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ โดยยกบทที่ 7 ของกฎบัตรขึ้นมาอ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงองค์กรเดียวเท่านั้น ที่กฎบัตรให้อำนาจจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติได้ ด้วยเหตุนี้ สหภาพโซเวียตและอีกบางประเทศจึงแถลงว่า จะไม่ยอมมีส่วนร่วมในการออกเงินค่าใช้จ่ายสำหรับกองกำลังดังกล่าวโดยเด็ดขาด พึงสังเกตว่า การที่สหภาพโซเวียตอ้างยืนยันว่า คณะมนตรีความมั่นคงเท่านั้นที่กฎบัตรสหประชาชาติให้อำนาจตั้งกองกำลังสห ประชาชาติได้ ก็เพราะหากยินยอมตามข้ออ้างของสหภาพโซเวียตดังกล่าว จะไม่มีทางจัดตั้งกองกำลังขึ้นได้เลย เพราะสหภาพโซเวียตจะใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย [การทูต]
Voting Procedure in the United Nationsวิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
Fair market valueราคาตลาดยุติธรรม [การบัญชี]
Fair priceราคายุติธรรม [การบัญชี]
Fair valueมูลค่ายุติธรรม [การบัญชี]
Devices, End Pointเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินจุดยุติ [การแพทย์]
End Pointจุดหยุดปฏิกิริยา, จุดยุติ, จุดสมมูลย์, จุดสิ้นสุด, จุดสุดท้าย [การแพทย์]
End Point, Prematureจุดยุติก่อนจุดสมมูลย์ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Abu says that- -that's not fair.อาบูบอกว่า มันไม่ยุติธรรม Aladdin (1992)
Fair deal. So, three wishes.ยุติธรรมดีนี่ เอาล่ะ พร 3 ข้อของข้า ข้าต้องการให้มันเยี่ยม Aladdin (1992)
Oh, that stupid law. This isn't fair--I love you.โอ้ กฏหมายโง่ๆ นั่น นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ฉันรักเธอ Aladdin (1992)
"Fair" means you haven't the courage to attack him."ยุติธรรม" หมายถึงคุณไม่กล้า พอจะจู่โจมเขา Wuthering Heights (1992)
It's not fair to leave it all up to her.คงไม่ยุติธรรมถ้าจะยกภาระทั้งหมดให้เธอ The Cement Garden (1993)
That's a fair question.คำถามยุติธรรมดี Cool Runnings (1993)
With liberty and justice for Jamaica and Haile Selassie.ด้วยสิทธิและความยุติธรรม แก่จาไมก้าและ เฮล เซลาสซี่ Cool Runnings (1993)
In the name of justiceในนามของความยุติธรรม In the Name of the Father (1993)
It's not fair. Their skirts are covering the cracks.มันไม่ยุติธรรม กระโปรงจะครอบคลุมรอยแตกของพวกเขา In the Name of the Father (1993)
All right. If you think I'm being unfair, we'll both pay for the fleas.ก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าผมไม่ยุติธรรม เราก็จ่ายเงินค่ากำจัดเห็บทั้งคู่ก็แล้วกัน The Joy Luck Club (1993)
That's justice.ความยุติธรรม... Schindler's List (1993)
[ Schindler ] The unconditional surrender of Germany has just been announced.เที่ยงคืนคืนนี้... สงครามยุติ Schindler's List (1993)
It's not gonna get out. I know this is unfair to you.มันจะไม่เกิดขึ้น ฉันรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับนาย Junior (1994)
Just ain't fair.มันไม่ยุติธรรมเลย Junior (1994)
It's so unfair what you've done. This is t- - Monumentally unfair.สิ่งที่คุณทำมันไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมอย่างมากเลย Junior (1994)
I promise you. Fair enough. Now, I drive real fuckin' fast, so keep up.ยุติธรรมเพียงพอ ตอนนี้ผมขับรถ fuckin จริง 'อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทัน Pulp Fiction (1994)
Nature was unfair to you."'ธรรมชาติไม่ยุติธรรมกับเจ้า' Wild Reeds (1994)
Fair enough.ยุติธรรมเพียงพอ The Shawshank Redemption (1994)
Yeah. I think it would be fair to say...ใช่ ฉันคิดว่ามันจะยุติธรรมที่จะบอกว่า ... The Shawshank Redemption (1994)
Arrest him.ผมเกรงว่าจะมีการสืบสวนเกิดขึ้น หลังจากสงครามยุติ Ace Ventura: When Nature Calls (1995)
Fair is fair.ยุติธรรมดีแล้ว The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
Revolution had broken out, her diplomats sued for peace while Tomainia's army fought on, confident its war machine would smash the enemy's lines.และสงครามกำลังยุติ ขณะที่กองทัพ โทไมเนีย กำลังรบกันอยู่ พวกเค้ามีความมุ่งมั่นในการรบ โดยไม่รู้ว่ากำลังแพ้ The Great Dictator (1940)
I only want to see justice done, Colonel.ผมเเค่อยากจะเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้น Rebecca (1940)
That sounds fair. Everyone agreed?ที่ฟังดูยุติธรรม ทุกคนเห็นพ้องกัน? 12 Angry Men (1957)
You all come in here with your hearts bleeding' about slum kids and injustice.คุณทุกคนมาที่นี่ด้วยหัวใจของคุณ bleedin 'เกี่ยวกับเด็กสลัมและความอยุติธรรม 12 Angry Men (1957)
So the police are extended giving the famous protection, for which we are justly proud in this country, for a finger, eh?การป้องกันที่เรามีความยุติธรรม ความภาคภูมิใจในประเทศนี้สำหรับ นิ้วใช่มั้ย? Help! (1965)
If there's Justice that money will go to the undertakers!ถ้าโลกนี้ยังมีความยุติธรรม สัปเหร่อจะได้เงินนั่นไป The Good, the Bad and the Ugly (1966)
Stop! Stop! Stop the war!ยุติสงคราม เราต้องการเสรีภาพ Beneath the Planet of the Apes (1970)
It's time it was finished.ยุติธรรมบ้าเเล้ว Beneath the Planet of the Apes (1970)
Finished.ยุติมันซะ Beneath the Planet of the Apes (1970)
Then I said to my wife, "For justice, we must go to Don Corleone. "แล้วผมพูดกับภรรยาของฉัน "สำหรับความยุติธรรมที่เราจะต้องไป Don Corleone". The Godfather (1972)
"Don Corleone, give me justice. ""Don Corleone ให้ฉันยุติธรรม". The Godfather (1972)
I ask you for justice.ฉันขอให้คุณเพื่อความยุติธรรม The Godfather (1972)
That is not justice. Your daughter is alive.ที่ไม่ยุติธรรม ลูกสาวของคุณยังมีชีวิตอยู่ The Godfather (1972)
But until that day accept this justice as a gift on my daughter's wedding day.แต่จนถึงวันที่ ยอมรับความยุติธรรมนี้เป็นของขวัญในวันแต่งงานของลูกสาวของฉัน The Godfather (1972)
Man, that's no contest. You're a mile away.ไม่ยุติธรรมนี่ นายอยู่ห่างเป็นไมล์ Blazing Saddles (1974)
Wherever people cry out for justice.ที่ที่ผู้คนร่ำไห้หาความยุติธรรม Blazing Saddles (1974)
This way we'll be impartial, not knowing whose bottom we are viewingทางนี้ที่เรา'จะได้ยุติธรรม, ไม่ สิ่งที่สร้างพื้นฐานเราดู Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
We have decided, however, out of a sense of fairness and ecclesiastical curiosity to allow you to present us with certain evidence.เราตัดสินใจว่า เราควรจะยุติธรรมกับคุณ และด้วยเพราะความสงสัยของเรา เรายอมให้คุณนำหลักฐานมาแสดงกับเรา Oh, God! (1977)
- Start all over. - No pushing. Fair game, okay?เริ่มต้นอีกครั้ง ไม่มีการผลักดัน เกมที่ยุติธรรมนะ I Spit on Your Grave (1978)
Captain Macaffee in convoy from the courthouse to the Halls of Justice.กัปตัน มคแอฟี ในขบวน จากศาลไปยังห้องโถงแห่ง ความยุติธรรม Mad Max (1979)
Just walk away and there will be an end to the horror.เดินออกมาซะ... จะได้ยุติความกลัวเสียที The Road Warrior (1981)
The offer is closed. Too late for deals.ข้อเสนอยุติแล้ว ช้าเกินไปแล้ว The Road Warrior (1981)
Just you and me. We'll work this out together. Is that fair enough?เพียงแค่คุณและผม เราจะแก้ไขนี้ ยุติธรรมเพียงพอไหม First Blood (1982)
But we are determined that justice will be done.เราเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น Gandhi (1982)
It's taken time, but it needed to be done fairly.มันใช้เวลา แต่ต้องทำอย่างยุติธรรม Gandhi (1982)
We didn't want to create an injustice simply because Mr. Gandhi was abusing our existing legislation.เราไม่ต้องการสร้างความไม่ยุติธรรม เพียงเพราะคานธี ละเมิดกฎหมายของเรา Gandhi (1982)
There are unjust laws as there are unjust men.มีกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม พอๆ กับมีคนที่ไม่ยุติธรรม Gandhi (1982)
And through our pain we will make them see their injustice.ความเจ็บปวดของเรา จะทำให้เขาเห็น ความอยุติธรรมของตัวเอง Gandhi (1982)
How do we treat men who defy an unjust law who will not fight but will not comply?เราจะปฏิบัติต่อชายที่ฝ่าฝืน กฎหมายอยุติธรรม โดยไม่ต่อสู้ แต่ไม่ยอมรับอย่างไร Gandhi (1982)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ยุติธรรม[ayuttitham] (n) EN: injustice ; partiality  FR: injustice [ f ] ; partialité [ f ]
ยุติธรรม[ayuttitham] (adj) EN: unjust ; unfair ; partial ; prejudicial  FR: injuste ; partial
โดยยุติธรรม[dōi yutitham] (adv) EN: fairly
ให้ความยุติธรรม[hai khwām yuttitham] (v, exp) EN: administer justice
การแข่งขันที่ยุติธรรม[kān khaengkhan thī yuttitham] (n, exp) EN: fair competition
การแข่งขันอย่างยุติธรรม[kān khaengkhan yāng yuttitham] (n, exp) EN: fair competition ; heavy competition
การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม[kān khatkhwāng krabūankān yutitham] (n, exp) EN: obstruction of justice  FR: obstruction à la justice [ f ]
การยุติ[kān yuti] (n) EN: end ; termination ; stop ; close ; finish ; halt ; abandonment
ข้อยุติ[khøyuti] (n) EN: conclusion ; final agreement
ความอยุติธรรม[khwām ayuttitham] (n) EN: injustice
ความไม่ยุติธรรม[khwām mai yutitham] (n, exp) EN: inequity ; unfairness
ความยุติธรรม[khwām yuttitham] (n) EN: justice ; fairness  FR: justice [ f ]
ความยุติธรรมทางสังคม[khwām yuttitham thāng sangkhom] (n, exp) EN: social justice  FR: justice sociale [ f ]
กฎหมายไม่ยุติธรรม[kotmāi mai yuttitham] (n, exp) FR: loi injuste [ f ]
กระบวนการยุติธรรม[krabūankān yutitham] (n, exp) EN: judicial administration
กระทรวงยุติธรรม[Krasūang Yuttitham] (org) EN: Ministry of Justice  FR: ministère de la Justice [ m ]
ไม่ยุติธรรม[mai yuttitham] (adj) EN: unfair ; injust ; inequitable ; injustified  FR: inéquitable ; injuste
เพื่อความยุติธรรม[pheūa khwām yuttitham] (xp) EN: for the sake of justice
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม[phrathammanūn sān yuttitham] (n, exp) EN: law on court oranization ; basic law on the judiciary
ราคาตลาดยุติธรรม[rākhā talāt yutitham] (n, exp) EN: fair market price ; fair market value
ศาลยุติธรรม[sān yuttitham] (n, exp) EN: Court of justice ; law court  FR: cour de justice [ f ]
ศาลยุติธรรมแห่งยุโรป[Sān Yuttitham Haeng Yurōp] (org) EN: European Court of Justice (ECJ)  FR: Cour de justice européenne [ f ] ; Cour de justice de l'Union européenne (CJUE) [ f ]
อย่างยุติธรรม[yāng yutitham] (adj) EN: fairly
ยุติ[yuti] (v) EN: end ; close ; come to an end ; stop ; cease ; finish ; terminate ; stamp out ; abandon ; wind up ; culminate  FR: clôturer
ยุติปัญหา[yuti panhā] (v, exp) EN: cease the problem ; end the problem
ยุติธรรม[yutitham] (n) EN: justice ; fair play ; fairness ; impartiality  FR: fair-play [ m ]
ยุติธรรม[yutitham] (adj) EN: just ; fair ; impartial ; neutral  FR: impartial
ยุติธรรม[yutitham] (adv) EN: fairly ; impartially ; honestly ; neutrally
ยุติ[yutti] (v) EN: end ; close ; come to an end ; stop ; terminate ; finish ; cease ; wind up ; culminate  FR: cesser ; clore ; mettre un terme ; terminer ; achever
ยุติการจ่ายน้ำ[yutti kān jāi nām] (v, exp) EN: cut off the water
ยุติการกระจายเสียง[yutti kān krajāisīeng] (v, exp) EN: stop broadcasting ; go off air
ยุติการทำงาน[yutti kān thamngān] (v, exp) EN: stop working
ยุติคำปราศรัย[yutti khamprāsai] (v, exp) EN: wind up a speech
ยุติลง[yutti long] (v, exp) FR: cesser ; prendre fin
ยุติปัญหา[yutti panhā] (v, exp) EN: cease the problem ; end the problem
ยุติสงคราม[yutti songkhrām] (v, exp) EN: terminate the state of war
ยุติธรรม[yuttitham] (n) EN: justice ; fair play ; fairness ; impartiality  FR: justice [ f ] ; fair-play [ m ] ; impartialité [ f ] ; équité [ f ]
ยุติธรรม[yuttitham] (adj) EN: just ; fair ; impartial ; neutral ; unprejudiced ; unbiased; equitable  FR: juste ; impartial ; équitable
ยุติธรรม[yuttitham] (adv) EN: fairly ; impartially ; honestly ; neutrally

English-Thai: Longdo Dictionary
CIFS(org) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (Central Institute of Forensic Science)
Attorney General(n) รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม (ของสหรัฐฯ)
Central Bankruptcy Court(n, name, org, uniq) ศาลล้มละลายกลาง เป็นศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ - อ้างอิงจากhttp://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html
administration of justice(n) การบริหารงานยุติธรรม, กระบวนการยุติธรรม เช่น It aims to render accessible, fair, speedy and cost-effective administration of justice in the interest of a safer and more secure country.

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
arbitrate(vt) ตัดสิน, See also: ชี้ขาด, ยุติการโต้แย้ง
arbitrate(vi) เป็นผู้ตัดสิน, See also: ชี้ขาด, ยุติการโต้แย้ง, Syn. settle peacefully, smooth out
above-board(idm) โปร่งใส, See also: ยุติธรรม, เปิดเผย, เชื่อถือได้
all over(idm) เสร็จสิ้น, See also: ยุติ, จบ
beep(vt) เรียกโดยใช้วิทยุติดตามตัว
beeper(n) เครื่องวิทยุติดตามตัว, See also: เครื่องเพจเจอร์, Syn. bleeper, pager
break-up(n) การยุติความสัมพันธ์หรือการร่วมมือ
be at an end(idm) หมด, See also: ยุติ, สิ้นสุด, Syn. bring to, put to
bleed for(phrv) ทำให้จ่ายเงินอย่างไม่ยุติธรรมหรือโดนโกง (คำไม่เป็นทางการ)
blow over(phrv) หยุด, See also: ยุติ, สิ้นสุด
blow the whistle on(idm) ยุติ, See also: สิ้นสุด
bow out(phrv) ออกจาก (บางสิ่งเช่น การแข่งขันฯลฯ), See also: หยุด, ยุติ, ละทิ้ง, เลิก
break off(phrv) ยุติ, See also: สิ้นสุด, พังทลาย, Syn. declare off, declare on
break short(phrv) ยุติกะทันหัน, See also: เลิกกลางคัน, จบทันที, Syn. cut short
break up(phrv) ยุติ, See also: เลิก, หยุด, ระงับ
break with(phrv) หยุดการติดต่อกับ, See also: เลิกคบ, ยุติการคบหากับ
bring an end to(idm) ยุติ, See also: สิ้นสุด, Syn. be at, put to
bring something to a dead end(idm) ยุติ, See also: เลิก, หยุด, Syn. be at, come to
cardinal virtue(n) คุณสมบัติของคนที่น่าเคารพอย่างมาก (ฉลาดรอบคอบ, ยุติธรรม, การควบคุมอารมณ์, ความอดทน)
cease(n) การสิ้นสุด, See also: การยุติ, การจบ, การหยุด, Syn. cessation
cease(vi) จบ, See also: ยุติ, สิ้นสุด, Syn. end
cease-fire(n) การหยุดรบ, See also: การยุติการสู้รบ, การตกลงหยุดสู้รบเพื่อการเจรจาหาสันติ, Syn. truce, armistece, cease-fire
clean(adj) ยุติธรรม, Syn. fair
closure(n) การจบ, See also: การยุติ, การสิ้นสุด, Syn. end, finish
court(n) ศาล, See also: ศาลยุติธรรม, ที่ตัดสินความ, Syn. courthouse, justice building
call a halt to(idm) หยุด, See also: ยุติ
call off(phrv) ยุติ, See also: หยุด, ยกเลิก, ล้มเลิก
come to an end(idm) สิ้นสุด, See also: จบ, ยุติ
cut off(phrv) ยกเลิก, See also: ยุติ
differentiate between(phrv) ปฏิบัติต่อ (บางคน) อย่างไม่ยุติธรรม, Syn. discriminate between
do down(phrv) ทำให้พ่ายแพ้ (โดยวิธีที่ไม่ยุติธรรม)
do justice to(phrv) ปฏิบัติกับ...อย่างยุติธรรม, See also: ยุติธรรมกับ
fair do's(idm) ยุติธรรม (คำไม่เป็นทางการ)
fight through(phrv) ต่อสู้กันจนรู้ผล, See also: ต่อสู้จนยุติ, Syn. fight out, slug out
finish up(phrv) ยุติ (การกระทำ), Syn. end up
death(n) การสิ้นสุด, See also: การยุติ, การจบสิ้น, การถูกทำลาย, การดับ, Syn. destruction, end, extinction
deselect(vt) ยุติการฝึกงานก่อนกำหนด, See also: คัดออก
desist(vi) หยุดการกระทำ, See also: ระงับ, ยุติ, เลิก, งดเว้น, Syn. cease, refrain, hold, stop
desistance(n) การหยุดการกระทำ, See also: การระงับ, การยุติ, การเลิก, การงดเว้น, Syn. astinenee
determine(vt) สิ้นสุด, See also: ยุติ, Syn. end, terminate
determine(vi) สิ้นสุด, See also: ยุติ, Syn. end, terminate
equitable(adj) ยุติธรรม, See also: เที่ยงตรง, ถูกต้อง, Syn. fair, impartial, just
equity(n) ความถูกต้อง, See also: ความยุติธรรม, ความเที่ยงตรง, Syn. fairness, impartiality, justice
even-handed(adj) ยุติธรรม, See also: ไม่เอนเอียง, เที่ยงตรง, Syn. equal, impartial, unbiased
fair(adj) ยุติธรรม, See also: เป็นธรรม, เที่ยงตรง, ถูกต้อง, ซื่อสัตย์, สมเหตุสมผล, Syn. reasonable, equal
fair(adv) อย่างยุติธรรม, See also: อย่างเที่ยงธรรม, ถูกต้องตามกฎ
fairly(adv) อย่างยุติธรรม, See also: อย่างเท่าเทียม, อย่างสมเหตุสมผล, Syn. equitably, dispassionately, justly
fair-minded(adj) เที่ยงตรง, See also: ยุติธรรม, ไม่ลำเอียง, ไม่มีอคติ, Syn. unbiased, unprejudiced
fairness(n) ความยุติธรรม, See also: ความไม่ลำเอียง, ความตรงไปตรงมา, Syn. impartiality, justice, Ant. injustice, unfairness
finish(vt) จบ, See also: ยุติ, สำเร็จ, Syn. end, terminate, Ant. start, begin

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
astraea(แอสทรี'อะ) n. เทพเจ้าแห่งความยุติธรรม (goddess of justice)
candor(แคน'เดอะ) n. ภาวะเปิดเผย, ภาวะตรงไปตรงมา, ความยุติธรรม, สีขาว, ความบริสุทธิ์, ความใจดี, Syn. openness, Ant. bias
candour(แคน'เดอะ) n. ภาวะเปิดเผย, ภาวะตรงไปตรงมา, ความยุติธรรม, สีขาว, ความบริสุทธิ์, ความใจดี, Syn. openness, Ant. bias
cease(ซีส) vi. หยุด, ยุติ, เลิก, เว้น, ตาย vt. หยุด, เลิก, Syn. quit -Conf. seize
ceasing(ซีส'ซิง) n. การหยุด, การยุติ
closingn. การสิ้นสุด, การปิด adj. สิ้นสุด, ยุติ, หมดเวลา
closure(โคลส'เชอะ) n. การปิด, การยุติ, สิ่งที่ปิด, กำแพงล้อมรอบ, ฝาปิด, สิ่งปกคลุม. vt., vi. ทำให้ยุติ, ยุติ
cricket(คริค'คิท) n. จิ้งหรีด, กีฬาคริคเก็ต, การเล่นที่ยุติธรรม, ความประพฤติของสุภาพของสุภาพบุรุษ vi.
determination(ดิเทอร์มิเน'เชิน) n. การกำหนดความแน่นอน, การตกลงใจ, ความตั้งใจ, การยุติ, การสิ้นสุด -S.decision, Ant. uncertainty
determine(ดิเทอร์'มิน) vt. กำหนด, ตัดสินใจ, ตกลงใจ, ตั้งใจ, ยุติ, ทำให้สิ้นสุด vi. ตกลงใจ., See also: determinable adj. determinability n., Syn. decide
dissolve(ดิซอลว') vi., vt. ละลาย, กระจายตัว, หลอมเหลว, กลายเป็นของเหลว, แตกตัว, ยุติ, สิ้นสุด, See also: dissolvability n. ดูdissolve dissolvable adj. ดูdissolve, Syn. divide, melt, disappear, fade, Ant. solidify, thicken, unite
drop(ดรอพ) { dropped, dropping, drops } n. หยด, หยาด, จำนวนเล็กน้อย, หยดยา, ลูกตุ้ม, การตกลง vi., vt. (ทำให้) หยดลง, หย่อนลง, ตก, จมลง, สิ้นสุด, ถอน, ยุติ, หายไป, หมอบ, ตกต่ำลง, ถอยหลัง, เคลื่อนต่ำลง -Phr. (drop behind ล้าหลัง, ไม่ครบ, ไม่ถึง)
due(ดิว) adj. เหมาะสม, สมควร, พอเพียง, พอควร, ครบกำหนด, ถึงกำหนด, ถูกต้อง, ถูกทำนองคลองธรรม, ตรง, หลีกเลี่ยงไม่ได้. n. สิทธิที่ควรได้รับ, หนี้, เงินที่พึงชำระ, ค่าธรรมเนียม, ความยุติธรรม. -adv. โดยตรง, แน่นอน. -Phr. (due to เนื่องจาก, เนื่องด้วย, เพราะ) ., See also: d
emancipate(อิแมน'ซะเพท) vt. ปลดเปลื้อง, ปล่อยให้อิสระ, ปล่อยทาส, เลิกทาส, ยุติการควบคุม, See also: emancipation n. ดูemancipate emancipative adj. ดูemancipate emancipator n. ดูemancipate emancipatory adj. ดูemancipate emanipated adj. ดูemancipate
end(เอนดฺ) n. ปลาย, ท้าย, ตอนจบ, จุดจบ, ชั้นสุดท้าย, มรณกรรม, ความพินาศ, ความหายนะ, ผลเบื้องปลาย, ผลประสงค์, วัตถุที่ประสงค์, การลงเอย, สภาพสุดท้าย vt. ยุติ, ยกเลิก, ฆ่า, ทำลาย, ขจัดสิ้น. vi. สิ้นสุด, ยุติ, ตาย, ถึงขั้นสุดท้าย -Phr. (make both ends meet หาเงินให้พอกับความต้องก
ending(เอน'ดิง) n. การยุติ, ตอนจบ, เบื้องปลาย, ความตาย, ท้ายคำศัพท์
even(อี'เวิน) adj. เรียบ, ราบ, สม่ำเสมอ, ซึ่งหารด้วยเลข2ได้ลงตัว, ได้สมดุล, ยุติธรรม, พอดี, ไม่ขาดไม่เกิน, เงียบสงบ -adv. อย่างราบเรียบ, ยังคง, ยิ่งกว่านั้น, แม้ว่า n. ตอนเย็น vt. ทำให้ราบ, ทำให้เรียบ, ทำให้สมดุล, ทำให้เท่ากัน. vt. กลายเป็นเท่ากัน. -Id. (be (get) even wi
even-handed(อี'เวินแฮน'ดิด) adj. ไม่เอนเอียง, ยุติธรรม, See also: even-handedly adv. even-handedness n. ดูeven-handed, Syn. fair
expiration(เอคซฺพิเร'เชิน) n. การหายใจออก, การสิ้นสุด, การยุติ, การหมดอายุ, การตาย
expire(เอคซไพ'เออะ) { expired, expiring, expires } v. หายใจออก, ยุติ, หมดอายุ, ตาย., See also: expirer n., Syn. perish
expiry(เอคซฺไพ'รี) n. การหายใจออก, การหมดอายุ, การยุติ, การตาย
extinguish(อิคซฺทิง'กวิช) vt. ดับ, ทำให้สิ้น, ยกเลิก, ยุติ, ชำระหนี้., See also: extinguishable adj. extinguishment n., Syn. douse
fair(แฟรฺ) adj. ยุติธรรม, ถูกต้อง, ซื่อสัตย์, ใหญ่พอสมควร, มาก, ปานกลาง, ดีพอใช้, สภาพ, สวยงาม, ไม่มีจุดด่างพร้อย, สะอาด, ชัดเจน, มีผิวพรรณดี, มีเสน่ห์., See also: fairness n. -adv. สุภาพ, ยุติธรรม. -Phr. fair and square ซื่อสัตย์, ตรงไปตรงมา . -Phr. see fair ตัด
fair and squaren. ตรงไปตรงมา, ยุติธรรม, ซื่อสัตย์
fair playn. การตัดสินอย่างยุติธรรม, การเล่นอย่างยุติธรรม, พฤติกรรมที่เที่ยงธรรม
fair-minded(แฟรฺ'ไม ดิด) adj. ซึ่งมีใจยุติธรรม, เที่ยงธรรม., See also: fair-mindedness n.
fairly(แฟร'ลี) adj. อย่างตรงไปตรงมา, อย่างยุติธรรม, อย่างปานกลาง, โดยความเป็นจริง, โดยสิ้นเชิง, Syn. justly
finish(ฟิน'นิช) { finished.finishing, finishes } v. ทำให้เสร็จ, ทำให้หมด, ทำจบ, เสร็จ, จบ, สิ้นสุด, ยุติ, เอาชนะได้สิ้นเชิง, ทำลาย, ฆ่า. n. สุดท้าย, วาระสุดท้าย, ความตาย, ความเกลี้ยงเกลา, ยาขัดเงา, ผิวหน้าที่เกลี้ยงเกลา, ความมันเป็นเงา, ลาย, พื้นหน้าเคลือบเงา, See also: fi
finished(ฟิน'นิชทฺ) adj. ปลาย, สิ้นสุด, เสร็จ, ยุติ, สมบูรณ์, ดีเยี่ยม, ประณีตงดงาม
forensic(ฟอเรน'ซิค) adj. (เกี่ยวกับ) กฎหมาย, ศาลยุติธรรม, การเล่นสำนวนโวหาร, See also: forensics n. วิชาเกี่ยวกับศิลปะแห่งการพูดหรือเขียนเพื่อจูงใจคน forensicality n. forensicsally adv.
game(เกม) { gamed, gaming, games } n. กีฬา, เกม, เนื้อสัตว์ที่ล่ามา, สิ่งที่ตามล่า -Phr. (play the game เล่นอย่างยุติธรรม, เล่นตามกติกา) . adj. เกี่ยวกับสัตว์ที่ล่า, อย่างนักกีฬา, กล้าได้กล้าเสีย, เต็มใจเล่น. vi. เล่นพนัน, พนัน, ขันต่อ. vt. พนันหมด, เสียพนัน คำศัพท์ย่อย
gerrymandervt., vi., n. (การ) แบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไม่ยุติธรรม, ทำตบตา
impartial(อิมพาร์'เชิล) adj. ยุติธรรม, ไม่เอนเอียง, ไม่มีคติ., See also: impartiality, impartialness n., Syn. just, fair
inequality(อินอิควอล'ลิที) n. ความไม่เท่ากัน, ความไม่ยุติธรรม, ความลำเอียง, ความไม่เสมอภาค
inequitable(อินเอค'ควิทะเบิล) adj. ไม่เสมอภาค, ไม่ยุติธรรม., See also: inequitableness n . inequitably adv., Syn. unfair, unjust
inequity(อินเอค'ควิที) n. ความไม่เสมอภาค, ความไม่ยุติธรรม, Syn. unfairness, injustice
iniquitous(อินิค'ควิทัส) adj. ไม่ยุติธรรม, ไม่ซื่อตรง, ไร้ศีลธรรม, ชั่วช้า., See also: iniquitously adv. adv. iniquitousness n., Syn. unjust, immoral, wicked
iniquity(อนิค'ควิที) n. ความอยุติธรรม, การไร้ศีลธรรม, ความชั่วช้า, Syn. wickedness
injury(อิน'จะรี) n. อันตราย, ภัย, ความเสียหาย, ความอยุติธรรมที่ได้รับ, การล่วงละเมิด, การก้าวร้าว, Syn. harm, hurt
injustice(อินจัส'ทิส) n. ความอยุติธรรม, ความไม่เป็นธรรม, การล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น, การกระทำที่ไม่ยุติธรรม, ความผิด, Syn. grievance
judicature(จู'ดะเคเชอะ) n. การพิจารณาอรรถคดีตามกฎหมาย, ผู้พิพากษาทั้งหลาย, อำนาจในการพิพากศาอรรถคดี, ศาลยุติธรรม, กฎหมาย
judicial(จูดิช'เชิล) adj. เกี่ยวกับการตัดสินอรรถคดีตามกฎหมาย, เกี่ยวกับศาลยุติธรรม, เกี่ยวกับผู้พิพากษา, เกี่ยวกับกฎหมาย, ซึ่งเกิดจากพระผู้เป็นเจ้า, Syn. legal, juridical
judiciary(จูดิช'ชีเออรี) adj. เกี่ยวกับการตัดสินอรรถคดีของศาลยุติธรรม, เกี่ยวกับกฎหมาย, เกี่ยวกับผู้พิพากษา n. การพิจารณาคดีตามกฎหมาย, ศาลยุติธรรม, ระบบศาล, การะทรวงยุติธรรม, ผู้พิพากษาทั้ง, หลาย, Syn. legal, discerning
juristic(จูริส'ทิค) adj. เกี่ยวกับนักกฎหมาย, เกี่ยวกับกฎหมาย, เกี่ยวกับศาลยุติ, ธรรม
juristic actn. นิติกรรม, การกระทำของบุคคลเพื่อเปลี่ยนแปลงยุติหรือมีผลต่อนิติ, สัมพันธ์
just(จัสทฺ) adj. ยุติธรรม, เที่ยงธรรม, เป็นธรรม, พอดี, สมควร, พอเหมาะ, สมเหตุสมผล, ถูกต้องแม่นยำ, เล็กน้อย, เท่านั้น, จริง ๆ
justice(จัส'ทิส) n. ความยุติธรรม, ความถูกต้อง, ความสมควร -Phr. (bring tojustice นำขึ้นศาล) -Phr. (dojustice to ให้ความยุติธรรมแก่), Syn. impartiality, equity
justiciable(จัสทิช'เชียเบิล) adj. ซึ่งตัดสินใจโดยกฎหมายหรือโดยศาลยุติ, ธรรม., See also: justiciability n. ดูjusticiable, Syn. defensible, right
justiciary(จัสทิช'ชีเออรี) adj. เกี่ยวกับการพิจารณาอรรถคดีโดยศาลยุติธรรม n. ที่ทำการหรืออำนาจหน้าที่ของตุลาการ
justly(จัสทฺ'ลี) adv. อย่างยุติธรรม, อย่างซื่อสัตย์, โดยความเป็นธรรม, ตามข้อเท็จจริง, แม่นยำ, แน่ชัด, Syn. honestly, fairly

English-Thai: Nontri Dictionary
cease(vi, vt) ยุติ, เลิก, หยุด, สิ้นสุด, เว้น
cessation(n) การสิ้นสุด, การหยุด, การยุติ, การเลิก, การเว้น
close(n) การปิด, การจบ, การยุติ, การสิ้นสุด, การเลิก, การลงเอย
close(vt) ปิด, จบ, อวสาน, สิ้น, เลิก, ยุติ, ลงเอย
closure(n) การปิด, การจบ, การยุติ, ฝาปิด
conclusion(n) การจบ, การตัดสินใจ, ข้อยุติ
deservedly(adv) อย่างเหมาะสม, สมควรแล้ว, สมน้ำหน้า, โดยยุติธรรมแล้ว
dissolve(vt) ทำให้ละลาย, ลบล้าง, เลิกล้ม, ทำลาย, ยุบ(สภา), ยุติ
drop(vi) หยด, ตก, หย่อนลง, เคลื่อนต่ำลง, จมลง, ยุติ, สิ้นสุด
due(n) หนี้, เงินที่ต้องชำระ, ความยุติธรรม, ค่าธรรมเนียม
end(vt) ทำให้จบ, ลงเอย, ลงท้าย, ยุติ, ทำลาย, ฆ่า
equitable(adj) เสมอภาค, ยุติธรรม, เที่ยงธรรม, เป็นธรรม
equity(n) ความเสมอภาค, ความยุติธรรม, ความเที่ยงธรรม
expire(vi) สิ้นสุด, ยุติ, ตาย, หมดลม, สิ้นใจ, สิ้นลม
extinguish(vt) ดับ, ทำให้สิ้น, ยุติ, ระงับ, เลิก
finish(vt) ทำให้เสร็จ, สิ้นสุด, ลงท้าย, หมด, ยุติ
foul(adj) เปรอะเปื้อน, สกปรก, เน่า, ไม่ยุติธรรม, เลว, ร้ายกาจ, ชั่ว, ยุ่ง
imparity(n) ความไม่เสมอภาค, ความไม่ยุติธรรม, การขาดดุล
impartial(adj) ไม่ลำเอียง, ยุติธรรม, เสมอภาค, เป็นธรรม
impartiality(n) ความไม่ลำเอียง, ความยุติธรรม, ความเป็นธรรม
inequitable(adj) ไม่สมดุล, ไม่เสมอภาค, ไม่เท่ากัน, ไม่ยุติธรรม
inimitable(adj) อยุติธรรม, เลียนแบบไม่ได้, เลิศล้ำ
iniquity(n) ความอยุติธรรม, ความไม่มีศีลธรรม, ความชั่วช้า
invidious(adj) ขัดเคือง, น่าริษยา, ไม่ยุติธรรม, ไม่เสมอหน้า, แสลงหู
just(adj) เที่ยงตรง, เป็นธรรม, ยุติธรรม, ถูกต้อง, สมควร, สมเหตุผล
justice(n) ความยุติธรรม, ความเที่ยงตรง, ความถูกต้อง
ONE-one-sided(adj) มีด้านเดียว, เข้าข้าง, ไม่ยุติธรรม, ลำเอียง
outstanding(adj) มีชื่อ, เด่น, สำคัญ, ยังไม่ยุติ, ยังไม่เสร็จ
partial(adj) เป็นบางส่วน, ลำเอียง, อคติ, ไม่ยุติธรรม
partiality(n) ความลำเอียง, ความอคติ, ความไม่ยุติธรรม
quietus(n) การดับสูญ, ความยุติ, ความสงบ, การออกจากงาน
quit(vt) ปล่อยไป, เลิก, ลบล้าง, ทิ้ง, ออกจาก, ปลดเปลื้อง, ยุติ
rectitude(n) ความยุติธรรม, ความเที่ยงธรรม, ความถูกต้อง, ความมีศีลธรรม
right(n) ความยุติธรรม, สิทธิ, ความถูกต้อง, ข้อเท็จจริง, ฝ่ายขวา
rightful(adj) โดยชอบธรรม, ถูกกฎหมาย, ยุติธรรม
rightly(adv) อย่างยุติธรรม, อย่างถูกต้อง, อย่างเป็นธรรม
stop(n) เครื่องกั้น, การหยุด, การยุติ, การเลิก, อุปสรรค, การยับยั้ง, การจอด
stop(vi) ยุติ, หยุด, เลิก, พักไว้
stoppage(n) เครื่องกีดขวาง, การหยุด, การยุติ, การห้าม, การเลิก, การอุด
surcease(n) การสิ้นสุด, การหยุด, การยุติ, การเลิก
surcease(vt) สิ้นสุด, หยุด, ยุติ, เลิก
terminable(adj) สิ้นสุดลงได้, หมดอายุ, ยุติลงได้
terminate(vi, vt) สุดสิ้นลง, จบลง, ลงท้าย, ลงเอย, ยุติ
unequal(adj) ไม่เท่ากัน, ไม่ยุติธรรม, ไม่สม่ำเสมอ
unfair(adj) ไม่ยุติธรรม, ไม่ถูกต้อง
unjust(adj) ไม่ยุติธรรม, ไม่เที่ยงธรรม
upright(adj) ตรง, เที่ยงตรง, ยุติธรรม, ซื่อตรง
uprightness(n) ความซื่อตรง, ความเที่ยงตรง, ความยุติธรรม, ความเที่ยงธรรม
wrong(n) ความผิด, ความชั่ว, ความอยุติธรรม, การใส่ร้ายผู้อื่น
wrongful(adj) ผิดพลาด, ไม่ยุติธรรม, ผิดกฎหมาย, ไม่ถูกต้อง, ผิดศีลธรรม

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Court Officerเจ้าพนักงานศาลยุติธรรม
European Court of Justice(name) ศาลยุติธรรมยุโรป
extrajudicial killings(n, jargon) การสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม
obstruction of justice(n) การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
retributive justiceกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
retributive justice(n) (ก่อนหน้านี้ที่เสนอไปผิดค่ะ) ขอแก้ไขเป็น "กระบวนการยุติธรรมเชิงแก้แค้นทดแทน", See also: A. restorative justice
ศาลล้มละลายกลาง(n, org, uniq) ศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ http://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html
ศาลล้มละลายกลาง(n, org, uniq) ศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ http://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
結論[けつろん, ketsuron] (n) การจบ, การตัดสินใจ, ข้อยุติ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
法務省[ほうむしょう, houmushou] (n) กระทรวงยุติธรรม
正義[せいぎ, seigi] (n) ความยุติธรรม ความถูกต้อง
ministry of justice[houmushou, houmushou] (n, vi, vt, modal, ver) กระทรวงยุติธรรม
公明正大[こうめいせいだい, koumeiseidai] (n, adj) บริสุทธิ์ยุติธรรม

German-Thai: Longdo Dictionary
ausgehen(vi) |geht aus, ging aus, ist ausgegangen| ดับ, ทำให้สิ้น, ยกเลิก, ยุติ เช่น Nachdem er mich viel geschumpfen hatte, ging mir die Geduld aus. หลังจากที่เขาด่าฉันซะมากมาย ความอดทนของฉันก็มลายหายไป

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Gerechtigkeit { f }(n) ความยุติธรรม

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top