มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ มีความรู้สึก | (v) have feelings, See also: be emotive, Ant. หมดความรู้สึก, ไร้ความรู้สึก, Example: มนุษย์คือสิ่งมีชีวิต มีความคิด มีความรู้สึก | ไม่มีความรู้ | (adj) not educated, See also: not knowledgeable, Syn. ไม่มีการศึกษา, Ant. มีการศึกษา, มีความรู้, Example: ชาวชนบทส่วนใหญ่เป็นคนไม่มีความรู้ | ไม่มีความรู้ | (v) lack knowledge/skill, See also: be unskilled, be uneducated, Ant. มีความรู้, Example: ลุงย้อยต้องมาเป็นกรรมกรในโรงงาน เพราะเขาไม่มีทางเลือกและไม่มีความรู้ |
|
| กบในกะลาครอบ | น. ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อยแต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก. | กลัดมัน | ว. มีความรู้สึกในทางกามารมณ์อย่างรุนแรง. | กวดวิชา | ก. เรียนเสริมหรือเพิ่มเติมเพื่อให้ทันหรือมีความรู้ดียิ่งขึ้น. | เกจิอาจารย์ | น. “อาจารย์บางพวก”, อาจารย์ที่เชื่อกันว่ามีความรู้ความสามารถในด้านคาถาอาคมและการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง. | คมในฝัก ๑ | ว. มีความรู้ความสามารถแต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ไม่แสดงออกมาให้ปรากฏ. | คร้าน | (คฺร้าน) ว. มีความรู้สึกไม่อยากจะทำหรือคิดหรือไม่อยากแสดงอาการใด ๆ, ตามปรกติเมื่อใช้พูดมักมีคำ ขี้ ประกอบหน้า เช่น ขี้คร้าน และมักใช้เข้าคู่กับคำ เกียจ เป็น เกียจคร้าน ขี้เกียจขี้คร้าน หมายความว่า ไม่อยากทำงาน. | ความรู้ | ความเข้าใจหรือสารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ เช่น ผู้ชายคนนี้เก่ง แต่ไม่มีความรู้เรื่องผู้หญิง. | ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด | ว. มีความรู้มากแต่ไม่รู้จักใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์. | ความรู้สึกช้า | น. ลักษณะอาการที่รับอารมณ์ต่าง ๆ ได้ช้า เช่น เขาเป็นคนมีความรู้สึกช้า ต้องใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจ. | ความรู้สึกไว | น. ลักษณะอาการที่รับอารมณ์ต่าง ๆ ได้รวดเร็ว เช่น ผู้ที่ศึกษาวรรณคดีควรจะมีความรู้สึกไวจึงจะรับรสวรรณคดีได้. | โครงการพระดาบส | น. โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้มีสถานที่สอนความรู้วิชาชีพต่าง ๆ เช่น วิชาช่างไฟฟ้า วิชาช่างเครื่องยนต์ วิชาช่างวิทยุโทรทัศน์ ให้แก่บุคคลทั่วไป โดยไม่จำกัด เพศ วัย และวุฒิการศึกษา โดยครูที่มีความรู้และยินดีอาสาสมัครสอนให้เป็นวิทยาทาน เปรียบเสมือนพระดาบสในสมัยโบราณที่มีกุศลศรัทธาที่จะถ่ายทอดศิลปศาสตร์ให้แก่ลูกศิษย์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ เริ่มดำเนินการโครงการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ต่อมาได้จดทะเบียนเป็นโรงเรียนผู้ใหญ่พระดาบส และจัดตั้งเป็นมูลนิธิพระดาบสเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของโครงการพระดาบส และกิจการของโรงเรียนผู้ใหญ่พระดาบส. | งู ๆ ปลา ๆ | ว. มีความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ, ไม่รู้จริง, ในคำว่า รู้งู ๆ ปลา ๆ. | เงี่ยน | ก. อยากจัด, กระหายจัด, มีความรู้สึกอยากหรือกระหายเป็นกำลัง, (โดยมากใช้เฉพาะของเสพติดและกามคุณ). | ใจเดียวกัน | ว. มีความรู้สึกนึกคิดตรงกัน. | ช่างฝีมือ | น. ผู้มีความรู้ความสามารถในงานวิชาชีพโดยเฉพาะด้านหัตถกรรม จิตรกรรม และประติมากรรม. | ชาติ ๒, ชาติ- ๒ | กลุ่มชนที่มีความรู้สึกในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอย่างเดียวกัน หรืออยู่ในปกครองรัฐบาลเดียวกัน. | ชุบตัว | โดยปริยายหมายถึง ไปศึกษาอบรมเพิ่มเติมจากต่างประเทศเพื่อให้มีความรู้สูงขึ้น ดีขึ้น เช่น ไปชุบตัวมาจากเมืองนอก. | ซึมเศร้า | อาการที่มีอารมณ์เศร้า หดหู่ ว้าเหว่ ซึม มีความรู้สึกท้อถอย สิ้นหวัง เป็นต้น. | เด็กเมื่อวานซืน | น. คำกล่าวเชิงดูหมิ่นหรือเชิงสั่งสอนว่า มีความรู้หรือมีประสบการณ์น้อย. | ตายด้าน | ก. หมดความรู้สึกทางสัมผัส, ไม่มีความรู้สึกเหมือนอย่างที่เคยมี | ตีหน้าตาย | ก. ทำหน้าเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึกหรือไม่รู้เรื่อง. | แตกฉาน ๑ | ว. ชำนิชำนาญ, เชี่ยวชาญ, เช่น มีความรู้แตกฉาน. | โต๊ะครู | น. ผู้อาวุโสที่มีความรู้ทางศาสนาอิสลาม. | ถึง ๑ | บรรลุระดับที่กำหนด เช่น มีความรู้ไม่ถึง ฝีมือไม่ถึง. | ถือเขาถือเรา | ก. มีความรู้สึกว่าเป็นคนละพวก, แบ่งพรรคแบ่งพวก, ถือเราถือเขา ก็ว่า. | ถือผิว | ก. รังเกียจผู้ที่มีสีผิวต่างกับตน (มักใช้แก่พวกผิวขาวที่มีความรู้สึกรังเกียจพวกที่มีผิวสีอื่น). | ถือเราถือเขา | ก. มีความรู้สึกว่าเป็นคนละพวก, แบ่งพรรคแบ่งพวก, ถือเขาถือเรา ก็ว่า. | ทาบ | ก. วางวัตถุสิ่งหนึ่งแนบกับอีกสิ่งหนึ่ง เช่น เอาผ้าทาบตัว เอามือทาบอก, (ปาก) เปรียบ, เทียบ, เช่น เรามีความรู้น้อยจะไปทาบท่านผู้รู้ได้อย่างไร | ทิศาปาโมกข์ | น. “ผู้เป็นใหญ่เป็นประธานในทิศ”, อาจารย์ผู้มีความรู้และชื่อเสียงโด่งดัง. | ทุน | น. ของเดิมหรือเงินเดิมที่มีไว้ ลงไว้ กำหนดไว้ จัดตั้งไว้ เพื่อประโยชน์ให้งอกงาม เช่น มีความรู้เป็นทุน มีเงินเป็นทุน | ปลาบปลื้ม | (-ปฺลื้ม) ก. มีความรู้สึกยินดีแล่นวาบเข้าในใจ. | ปัญญาแค่หางอึ่ง | ว. มีความรู้น้อย, โง่. | ปัญญาชน | น. คนที่มีความรู้หรือความฉลาดอันเกิดแต่การเรียนมามาก. | เป็ดขันประชันไก่ | น. ผู้ที่มีความรู้ความสามารถน้อยแต่อวดแสดงแข่งกับผู้ที่มีความรู้ความสามารถสูง. | ผู้รู้ | น. ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องนั้น ๆ เช่น เรื่องนี้ต้องให้ผู้รู้เป็นคนชี้แจง. | พระ | ส. คำใช้แทนผู้เป็นใหญ่ เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๒ เช่น เมียเห็นว่าเงาะนี้มีความรู้ พระอย่าได้ลบหลู่ว่าชั่วช้า (สังข์ทอง), หรือเป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓ เช่น พระเสด็จโดยแดนชล (กาพย์เห่เรือ). | พหูสูต | น. ผู้มีความรู้เพราะได้สดับตรับฟังหรือศึกษาเล่าเรียนมามาก. | พอสถานประมาณ | ว. เพียงระดับปานกลาง เช่น เขามีความรู้พอสถานประมาณ, พอสัณฐานประมาณ ก็ว่า. | พัดยศ | น. พัดพิเศษที่พระมหากษัตริย์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานแก่ภิกษุสามเณรที่สอบเปรียญธรรมได้ตั้งแต่ ๓ ประโยคขึ้นไป หรือแก่พระภิกษุที่มีความรู้ ความสามารถในการศึกษา การบริหาร หรือการเผยแผ่พระศาสนา เป็นต้น เป็นเครื่องหมายแสดงลำดับชั้นแห่งสมณศักดิ์ มีรูปและชื่อต่าง ๆ กัน คือ พัดหน้านาง พัดพุดตาน พัดแฉกทรงพุ่มข้าวบิณฑ์. | พิชญ์ | น. นักปราชญ์, คนมีความรู้สูง. | โภชนากร | (โพชะนา-, โพดชะนา-) น. ผู้ที่มีความรู้เรื่องโภชนาการแล้วสามารถให้ความรู้และคำแนะนำในเรื่องอาหารแก่บุคคลอื่นต่อไปได้. | ยโส | ก. เย่อหยิ่งเพราะถือตัวว่ามียศ มีปัญญา มีความรู้ มีกำลัง มีทรัพย์ ฯลฯ. | เย็น ๒ | ว. มีความรู้สึกตามผิวหนังเหมือนถูกน้ำแข็งเป็นต้น, หนาว, หายร้อน, ตรงข้ามกับ ร้อน | ร้อน | ว. มีความรู้สึกตามผิวหนังเหมือนถูกไฟเป็นต้น, ตรงข้ามกับ เย็น | รัฐบุรุษ | (รัดถะบุหฺรุด) น. ผู้ที่ได้รับยกย่องอย่างสูงว่ามีความรู้ความสามารถในการบริหารบ้านเมือง. | ราชบัณฑิต | (-บันดิด) น. นักปราชญ์หลวงมีความรู้ทางภาษาบาลี | วัตถุประสงค์ | น. ผลที่ประสงค์ให้บรรลุ เช่น วัตถุประสงค์ของมัธยมศึกษาก็เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ คิดเป็น ทำเป็น และมีคุณธรรม, จุดประสงค์ ก็ว่า. | วิจาร, วิจารณ-, วิจารณ์ | (วิจาน, วิจาระนะ-, วิจาน) ก. ให้คำตัดสินสิ่งที่เป็นศิลปกรรมหรือวรรณกรรมเป็นต้น โดยผู้มีความรู้ควรเชื่อถือได้ ว่ามีค่าความงามความไพเราะดีอย่างไร หรือมีข้อขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง เช่น เขาวิจารณ์ว่า หนังสือเล่มนี้แสดงปัญหาสังคมในปัจจุบันได้ดีมากสมควรได้รับรางวัล, ติชม, มักใช้เต็มคำว่า วิพากษ์วิจารณ์ เช่น คนดูหนังวิพากษ์วิจารณ์ว่า หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องช้าทำให้คนดูเบื่อ. | ไว้ท่า | ก. ทำท่าทางเสมือนว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถหรือมีเกียรติสูง. | ไว้ภูมิ | ก. ทำท่าเสมือนว่าเป็นผู้มีความรู้สูง. |
| Radiation safety officer | เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี, เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความสามารถด้านการป้องกันรังสีที่เกี่ยวข้องกับงานที่ได้รับมอบหมาย และได้รับการแต่งตั้งจากผู้รับใบอนุญาตให้ดูแลด้านความปลอดภัยทางรังสีตามข้อกำหนด [นิวเคลียร์] | Radiation protection officer | เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี, เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความสามารถด้านการป้องกันรังสีที่เกี่ยวข้องกับงานที่ได้รับมอบหมาย และได้รับการแต่งตั้งจากผู้รับใบอนุญาตให้ดูแลด้านความปลอดภัยทางรังสีตามข้อกำหนด [นิวเคลียร์] | emeritus professor | ศาสตราจารย์กิตติคุณ, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ, ตำแหน่งที่แต่งตั้งจากอาจารย์ประจำ ผู้เคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความรู้ ความสามารถและความชำนาญเป็นพิเศษ และพ้นจากตำแหน่งไปโดยไม่มีความผิด สภามหาวิทยาลัยอาจแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิชาที่ศาสตราจารย์นั้นมีความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นเกียรติยศได้ <p>ศาสตราจารย์ผู้นี้อาจสอนในมหาวิทยาลัยต่อไปก็ได้ แต่ไม่ใช่ศาสตราจารย์ที่ต่ออายุราชการ บางมหาวิทยาลัยจะปรากฏชื่อศาสตราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณแยก จากศาสตราจารย์ธรรมดาในคู่มือการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา <p>การเรียกชื่อศาสตาราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณนั้นขึ้นอยู่กับ พระราชบัญญัติของแต่ละมหาวิทยาลัย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกว่า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | clinical professor | ศาสตราจารย์คลินิก, ตำแหน่งทางวิชาการที่สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งบุคลากรฝ่ายเวชกรรมที่มีความรู้ ความชำนาญในด้านการสอน การวิจัย การค้นคว้าทดลอง และวิธีบำบัดรักษาในภาคเวชปฏิบัติ ซึ่งมีคุณค่าทางวิชาการ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Young Ambassador of Virtue | ยุวทูตความดี " เป็นโครงการของกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงศึกษา- ธิการ เริ่มโครงการตั้งวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม จริยธรรมและคุณธรรมในบรรดาเยาวชนไทย อันเป็นการเสริมคุณภาพของเยาวชนไทยให้มีครบทั้งความเก่ง ความดี และมีความสุข โดยหวังผลในที่สุดว่าคุณภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ของไทยจะเป็นการเสริมสร้างพื้น ฐานความแข็งแกร่งแก่สังคมไทยและส่งเสริมให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยใน โลกอนาคตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในยุคโลกา- ภิวัฒน์ นอกจากการส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรู้คู่คุณธรรมแล้ว โครงการยุวทูตความดียังส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนไทยและเยาวชนของ ประเทศต่าง ๆ โดยผ่านทางโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง (Sister schools - โรงเรียนในประเทศที่ต่างกันที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน) " [การทูต] | Diplomatist หรือ Diplomat | ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Anesthesia | การระงับความรู้สึก, ระงับความรู้สึก, การไม่รู้สึก, การไม่รู้สึกปวด, การสูญเสียความรู้สึก, การใช้ยาระงับความรู้สึก, ชา, ยาระงับความรู้สึก, ยาสลบ, ไม่มีความรู้สึก, อาการชา [การแพทย์] | Cognition | การจดจำวัตถุด้วยการเรียนรู้, การรู้, พุทธิปัญญาความรู้, ความรู้ความเข้าใจสิ่งต่างๆ, การมีความรู้ความเข้าใจ, สติปัญญาความรู้ [การแพทย์] | จิตประสาท (โรคประสาท) | จิตประสาท (โรคประสาท), เป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่งที่ไม่รุนแรง ไม่ใช่โรคทางระบบประสาท แต่แสดงอาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้จิตใจแปรปรวน อ่อนไหวง่าย มักมีความรู้สึกสบายใจ วิตกกังวลอยู่เสมอ ไม่สามารถควบคุมความรู้สึก อารมณ์ หรือพฤติกรรมให้เหมือนเดิมได้ อาการทางกายมักแสดงออกไ, Example: ที่มา: กรมสุขภาพจิต. 2554. โรคประสาทต่างจากโรคจิตอย่างไร. http://203.157.56.1/1667view.asp?id=3016, อภิญญา ปัญญาพร. 2554. โรคจิตต่างจากโรคประสาทอย่างไร. โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์, http://www.nph.go.th/knowledge/nph4/nph4.html, www.wikipedia.org [สุขภาพจิต] | number | จำนวน, ปริมาณที่ทำให้มีความรู้สึกว่ามากหรือน้อย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | wiki | วิกิ, รูปแบบการเผยแพร่ข้อมูลที่บุคคลต่างๆ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะเรื่อง สามารถมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ให้ข้อมูลใหม่ หรือเป็นผู้ปรับปรุงข้อมูลที่มีอยู่เดิมให้ถู่มกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รายละเอียดของข้อมูลที่เผยแพร่ก่อให้เกิดประโยชน์กับบุคคลทั่วไป หรือก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Myocardial Infarction, Painful | กล้ามเนื้อหัวใจตายโดยมีความรู้สึกเจ็บหน้าอก [การแพทย์] |
| We're experiencing a high reading on one of our indicators. | คนที่มีความรู้แน่นปึ้กไปทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม ปรัชญา ปัญหาชีวิตผู้หญิง นา กา ยอน Hero (1992) | That he could bejealous. | ว่าเขาสามารถมีความรู้สึกอิจฉา In the Name of the Father (1993) | It's just this baby thing has got me a little, you know-- l'm having some feelings, you know. | เพราะตอนนี้มีเรื่องลูก มันเลยทำให้ฉันรู้สึก มีความรู้สึก เท่านั้นแหละ Junior (1994) | That's his fuckin' wife, man. This ain't a man with a sense of humor about this shit. | นั่นคือไอ้ภรรยาของเขามนุษย์ นี้ไม่ได้คนที่มีความรู้สึกของอารมณ์ขันเกี่ยวกับอึนี้ Pulp Fiction (1994) | I ain't eating' nothin' ain't got sense enough to disregard its own feces. | ฉันไม่ได้ eatin 'ไม่มีอะไรที่ไม่ได้มีความรู้สึกมากพอที่จะไม่สนใจอุจจาระของตัวเอง Pulp Fiction (1994) | That doesn't bother me. | ฉันไม่มีความรู้สึกทางเพศกับเธอ Wild Reeds (1994) | No hard feelings. Brooks." | ไม่มีความรู้สึกยาก บรูคส์ ". The Shawshank Redemption (1994) | The fingertips have the same feelings as their feet. | ปลายนิ้วมือมีความรู้สึกเดียวกับเท้า Don Juan DeMarco (1994) | - Well, it's like that. With feelings. | - มันเหมือนอย่างนั้น แต่มีความรู้สึก The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | I know. I've seen you making eyes. | ฉันรู้ ฉันเคยมีความรู้สึกแบบนั้น The Great Dictator (1940) | - Are you my conscience? | คุณเห็น? คุณมีความรู้สึกผิด ชอบชั่วของฉันได้อย่างไร Pinocchio (1940) | OK. Here's what I think. And I have no personal feelings about this. | ตกลง นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่า และผมไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ 12 Angry Men (1957) | Twice he had felt faint and dizzy... ... and that had worried him. | สองครั้งที่เขามีความรู้สึกและ ลมวิงเวียน และที่เป็นห่วงเขา The Old Man and the Sea (1958) | Mr. Landers, it is the consensus of this group that you are a person of little or no theological knowledge. | คุณแลนเดอร์ส เราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า คุณเป็นคนที่มีความรู้ ด้านศาสนศาสตร์น้อย ไม่ก็ไม่มีเลย Oh, God! (1977) | You've got one fantastic sense of humor. | คุณเคย มีความรู้สึก อย่างใดอย่าง หนึ่ง ที่ยอดเยี่ยม ของอารมณ์ขัน I Spit on Your Grave (1978) | You've not got a sense of humor. | คุณไม่ได้มีความรู้สึกของ อารมณ์ขัน Mad Max (1979) | felt too much inside. | มีความรู้สึกในใจมากเกินไป Airplane! (1980) | We are going to get there first yet you have the knowledge to make the trip work. | เราจะได้รับมีครั้งแรก แต่คุณมีความรู้ เพื่อให้การทำงานการเดินทาง 2010: The Year We Make Contact (1984) | I have a feeling the answers are bigger than the questions. | ฉันมีความรู้สึกตอบ มีขนาดใหญ่กว่าคำถาม 2010: The Year We Make Contact (1984) | I do know a little bit about psychological medicine, yes. | ฉันพอจะมีความรู้ด้านจิตวิทยาบ้าง ใช่แล้วครับ Clue (1985) | No, I'm not on duty, but I have a feeling that I'm in danger. | ไม่ ผมออกเวรแล้ว แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมอยู่ในอันตราย Clue (1985) | I believe this creature would be benign even if it had its eyesight and its other senses. | ผมเชื่อว่าไอ้พวกนี้ เป็นแค่ก้อนเนื้อที่มีตาและมีความรู้สึก Day of the Dead (1985) | no feeling at all. dead. | - ตายด้าน ไม่มีความรู้สึก Spies Like Us (1985) | But he didn't know anything about aristocrats. | แต่เขาไม่มีความรู้เรื่อง ราชวงศ์รัตติกาล Vampire Hunter D (1985) | Maybe I shouldn't have such feelings | บางทีผมไม่ควรจะมีความรู้สึกเช่นนั้น 1999 - Nen no natsu yasumi (1988) | I'm happy you feel this way | ผมมีความสุขที่นายมีความรู้สึกเช่นนี้ 1999 - Nen no natsu yasumi (1988) | When Niki couldn't find you in London, he had the sense to bring them to us. | เมื่อ Niki ไม่สามารถหาคุณในลอนดอนที่เขามีความรู้สึกที่จะนำมาให้เรา The Russia House (1990) | Naturally, if you are not so intelligent, you will be jealous. | ธรรมชาติถ้าคุณไม่ได้ฉลาดเช่นนั้นคุณจะมีความรู้สึกอิจฉา The Russia House (1990) | - You know what the real bitch of it is? | มีความรู้เรื่องนี้รึเปล่า เขาลงสีไปเลย Good Will Hunting (1997) | No feeling, nothing. | ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย The Jackal (1997) | someone with some sense. | อามันเป็น Okkoto ในที่สุดคนที่มีความรู้สึกบางอย่าง Princess Mononoke (1997) | And the fact that I get it makes me feel good about me. | เพราะผมเห็นเนื้อแท้ของคุณ ทำผมมีความรู้สึกดี... ...ต่อตัวเอง As Good as It Gets (1997) | Yeah, you know, I got this funny feeling. | เอ่อ นายรู้มั้ย / ฉันมีความรู้สึกตลกๆ บางอย่าง American History X (1998) | And after all this time, and after all this work I suddenly have this feeling that none of this is in my hands. | และหลังจากเวลานั้น / และหลังจากงานนี้... ... ฉันเริ่มมีความรู้สึกนี้... ... ไม่มีอะไรอยู่ในกำมือฉัน / ไม่มีอะไรเลย City of Angels (1998) | I have no sense of touch. You feel that? | ผมไม่มีความรู้สึกในการสัมผัส City of Angels (1998) | So maybe, even though we're not aware of it, there is a pattern, an order underlying every Go game. | ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่มีความรู้มากพอที่จะพบ มันมี "รูปแบบ" ที่แน่นอน อยู่ภายในทุกเกมหมากล้อม Pi (1998) | A monarch who fails to keep his word is uncivilized, unenlightened and ungrateful. | พระราชาธิบดีที่ไม่รักษาคำพูดของเขาจะไม่พัฒนา ไม่มีความรู้ และน่าสะอิดสะเอียน. Anna and the King (1999) | What I want to know is, do many of your other robots have feelings like this? | ผมอยากจะรู้ว่า... หุ่นยนต์ตัวอื่นของคุณ... มีความรู้สึกอย่างนี้รึเปล่า Bicentennial Man (1999) | Lt Cadei was received by my client and she makes no secret about having had for him certain feelings. | ลูกความของผมต้อนรับร้อยโทคาเดที่บ้าน เธอไม่ได้ปิดบังว่ามีความรู้สึกดีๆให้เขา Malèna (2000) | I feel like I'm being ambushed by memories I'd rather forget. | ผมมีความรู้สึกเหมือนถูกบุกรุก โดยความทรงจำที่ผมควรจะลืม Il Mare (2000) | Sister then you have no feelings? | รึพี่สาวไม่มีความรู้สึก Sex Is Zero (2002) | As I watch it, I feel that I somehow feel an emotional connection. | ผมรู้สึกว่า... . ผมรู้สึกเหมือนมีความรู้สึกเกี่ยวข้องด้วย Yomigaeri (2002) | They have feelings they have politics they have belief systems they really only have one thing the bottom line | พวกนั้นมีความรู้สึก มีการเมือง มีระบบความเชื่อ จริง ๆ แล้ว บรรษัทมีอยู่อย่างเดียว The Corporation (2003) | And I help corporations share the point of view about how they feel about things. | และผมช่วยให้บรรษัทได้แสดงจุดยืน ว่าพวกเขามีความรู้สึกอย่างไรต่อสิ่งต่าง ๆ The Corporation (2003) | It was not because he thought it was immoral or not but because Watson with a very keen sense of public relations thought it was risky. | แต่เพราะวัตสัน เป็นคนที่มีความรู้สึกไวมากเกี่ยวกับภาพพจน์บริษัท เขาจึงคิดว่ามันเสี่ยง The Corporation (2003) | It's a portable inkwell for scholars | เงินตลับหมึกที่คนมีความรู้เอาไว้พกติดตัวหนะลูก The Great Jang-Geum (2003) | I have a good feeling about you people. | ฉันมีความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับคนที่คุณ The Birdcage (1996) | I may not be as vulnerable as Mrs. Coleman... but I still have feelings. | ผมอาจจะไม่เป็นช่องโหว่ขณะที่นางโคลแมน ... แต่ผมยังมีความรู้สึก The Birdcage (1996) | I have no feelings whatsoever. | ข้าไม่มีความรู้สึกใดๆ Anastasia (1997) |
| คนที่มีความรู้ | [khon thī mī khwāmrū] (n, exp) EN: man of letters ; learned man ; lettered man FR: homme de lettres [ m ] ; lettré [ m ] | ไม่มีความรู้ | [mai mī khwāmrū] (xp) EN: lack knowledge/skill ; be unskilled ; be uneducated FR: manquer de connaissances ; manquer de compétences | ไม่มีความรู้ | [mai mī khwāmrū] (adj) EN: not educated ; not knowledgeable | ไม่มีความรู้พอ | [mai mī khwāmrū phø] (n, exp) FR: ne pas avoir les connaissances nécessaires ; manquer de compétences | มีความรู้ | [mī khwāmrū] (adj) EN: cultivated | ผู้มีความรู้ | [phū mī khwāmrū] (n, exp) EN: learned person ; expert ; someone who knows |
| Central Bankruptcy Court | (n, name, org, uniq) ศาลล้มละลายกลาง เป็นศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ - อ้างอิงจากhttp://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html | mansplaining | (n, slang) การกระทำที่ผู้พูด (มักเป็นผู้ชาย) อธิบายหรือแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆ ให้แก่ผู้ฟัง (มักเป็นผู้หญิง) ในลักษณะที่ทำตัวเหนือกว่า, คิดว่าฝ่ายผู้ฟังไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ หรือ ใช้คำอธิบายในลักษณะที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายจนเกินสมควรเช่นเหมือนอธิบายเด็ก ดูคำอธิบายเพิ่มเติม https://dict.longdo.com/blog/word-of-the-day-mansplaining/ |
| asleep | (adj) ชา, See also: ไม่มีความรู้สึกเนื่องจากมีเลือดไปเลี้ยงไม่พอ | be beyond one's ken | (idm) ยากเกินกว่าจะเข้าใจหรือมีความรู้ในเรื่อง | be hip to | (phrv) มีความรู้ในเรื่อง (คำไม่เป็นทางการ), See also: รอบรู้ในเรื่อง, Syn. get hip to | be well up in | (idm) มีความรู้ดีเกี่ยวกับ | cosmopolitan | (adj) ซึ่งมีความรู้และได้รับการขัดเกลา | cultivated | (adj) ซึ่งมีความรู้ดี, See also: ซึ่งได้รับการปลูกฝัง, Syn. knowledgeable, well-educated | cultivation | (n) ลักษณะที่มีการศึกษา, See also: การมีความรู้, Syn. sophistication | feel up | (phrv) มีความรู้สึกต่อ, Syn. touch up | educated | (adj) ซึ่งได้รับการศึกษา, See also: ซึ่งมีความรู้, ซึ่งมีการศึกษา, ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาแล้ว, ซึ่งมีการศึกษา, Syn. learned, schooled, well-schooled | empty-headed | (adj) โง่เง่า, See also: ไม่มีความรู้, Syn. brainless, silly, unintelligent | erudite | (adj) ซึ่งมีความรู้ดี, Syn. learned, scholarly, studious | get hip to | (phrv) มีความรู้เกี่ยวกับ, Syn. be hip to | ground in | (phrv) มีความรู้ดีในเรื่อง, See also: รอบรู้ในเรื่อง | generalist | (n) ผู้มีความรู้ความสามารถหลากหลาย, See also: ผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน, Syn. nonspecialist, Ant. specialist | generalist | (n) ผู้มีความรู้หลากหลายสาขา | hardened | (adj) ซึ่งไม่มีความรู้สึก, See also: ซึ่งไร้ความรู้สึกสงสาร, Syn. callous, hardhearted, insensitive, Ant. sensitive | have a good command of | (idm) เชี่ยวชาญในบางสิ่ง, See also: มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับบางสิ่งเป็นอย่างดี | in the know | (idm) มีความรู้ดี (คำไม่เป็นทางการ), See also: รู้ดี, รู้เรื่อง | not born yesterday | (idm) มีประสบการณ์, See also: มีความรู้ | sixth sense | (idm) สัมผัสที่ 6, See also: มีความรู้สึกพิเศษในการลับรู้สิ่งลี้ลับ | smell a rat | (idm) มีความรู้สึกถึงสิ่งผิกปกติ | well up in | (idm) มีความรู้มากในเรื่องบางอย่าง | illiterate | (adj) ซึ่งไม่รู้หนังสือ, See also: ซึ่งไม่ออกเขียนไม่ได้, ซึ่งไม่มีความรู้, ซึ่งไม่มีการศึกษา, Syn. ignorant, uneducated, unlettered, Ant. educated, lettered | indurate | (adj) ซึ่งไม่มีความรู้สึก (ทางวรรณคดี), See also: ซึ่งไม่มีความสงสาร, ซึ่งไม่เห็นใจ, Syn. hardened, Ant. softened | infuse | (vt) ทำให้มีความรู้สึกบางอย่าง, See also: มีผลต่อ, บันดาลให้เกิด, Syn. inspire, introduce | insensible | (adj) ซึ่งไม่มีความรู้สึก, See also: เฉย, ตายด้าน, หน้าหนา, ไม่ยินดียินร้าย, Syn. impervious, unfeeling | insentient | (adj) ไม่มีความรู้สึก, See also: ไม่มีชีวิตชีวา, หมดสติ, Syn. callous, numb | intellectual | (n) ผู้มีสติปัญญาสูง, See also: ผู้รอบรู้, ผู้มีความรู้, ปัญญาชน, Syn. guru, sage, pundit, Ant. idiot | jurisprudent | (adj) ที่มีความรู้ความชำนาญด้านกฎหมาย | jurisprudent | (n) ผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมาย | lay | (adj) ไม่เชี่ยวชาญพิเศษ, See also: ไม่มีความรู้พิเศษ, Syn. not trained, untrained | learned | (adj) ซึ่งคงแก่เรียน, See also: ซึ่งมีความรู้มาก, Syn. highly-educated | liable | (adj) ซึ่งมีความรู้สึกไวต่อ | literate | (adj) มีการศึกษา, See also: มีความรู้, Syn. well-educated | literati | (n) ผู้มีปัญญา, See also: ผู้มีความรู้ | longhair | (n) ผู้มีความรู้, See also: บัณฑิต | own to | (phrv) ยอมรับ (ความรู้สึกหรือมีความรู้สึก) กับ | nerveless | (adj) ซึ่งไม่มีกำลัง, See also: ซึ่งไม่มีความรู้สึก, Syn. feeble, spineless | numb | (adj) ชา, See also: หมดความรู้สึก, ไม่มีความรู้สึก | orderly | (n) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล (ที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ เช่น คนขนส่งผู้ป่วย), Syn. medical orderly | qualify as | (phrv) มีคุณสมบัติเป็น, See also: มีความรู้เป็น | read | (adj) ซึ่งมีความรู้จากการอ่าน, See also: ซึ่งอ่านหนังสือมามาก | repository | (n) ผู้มีความรู้กว้างขวาง | egghead | (sl) คนมีความรู้, See also: คนเก่ง | clever-clogs | (sl) คนที่มีความรู้มาก | senseless | (adj) ซึ่งไม่มีความรู้สึก, See also: ไร้ความรู้สึก, ซึ่งสิ้นสติ, ซึ่งหมดความรู้สึก | sentient | (adj) ซึ่งมีความรู้สึก, See also: ซึ่งรับความรู้สึก, Syn. aware, alert, conscious, perceptive | sentimentalization | (n) การมีอารมณ์อ่อนไหว, See also: การมีความรู้สึกมากกว่าปกติ | sentimentalize | (vi) มีอารมณ์อ่อนไหว, See also: มีความรู้สึกมากกว่าปกติ | sexless | (adj) ไม่มีเพศ, See also: ไม่มีความต้องการทางเพศ, ไม่มีความรู้สึกทางเพศ, Syn. neuter |
| antipathetic | (al) (แอนทีพาเธท' ทิค, -เคิล) adj. เป็นปรปักษ์ต่อ, ไม่ชอบ, ไม่ลงรอยต่อ, เกลียด, ไม่พอใจกับ, ทำให้มีความรู้สึกดังกล่าว (averse) | authoring system | ระบบการเขียนโปรแกรมหมายถึง ระบบการเขียนโปรแกรมโดยที่ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านโปรแกรมเลย ผู้เขียนเพียงแต่ใช้ภาษาง่าย ๆ ในรูปแบบเชิงโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์เท่านั้น | bank switching | การสลับชิปไปมาหมายถึง การสลับไปมาของการใช้ชิปในหน่วยความจำเดิมที่ติดมากับเครื่อง กับหน่วยความจำที่เพิ่มภายหลัง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้รู้สึกเสมือนว่า หน่วยความจำทั้งสองนั้นเป็นหน่วยความจำเดียวกัน เช่น บริษัทไอบีเอ็มผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาขายในตลาดโดยมีหน่วยความจำติดมาภายในตัวเครื่องเพียง 640 เคไบต์ แต่เรานำไปเพิ่มหน่วยความจำเป็นถึง 16 เมกกะไบต์ การที่จะทำให้หน่วยความจำเดิมกับหน่วยความจำที่เพิ่มมาใหม่ทำงานสลับกันไปมาได้ ก็จะต้องอาศัยการสลับชิปไปมานี้ อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ใช้เครื่อง (user) ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นหน้าที่ของช่างฝ่ายเทคนิคที่จะต้องติดตั้งหรือจัดการทำให้ | bear | (แบร์) { bore, borne/born, bearing, bears } vt., vi. ค้ำ, รับ, พยุง, หนุน, แบก, รับภาระ, พบ, ทรงไว้, อดทน, ทาน, ทน, มี, ออกลูก, มีลูก, มีความรู้สึก, ถือ, พัด, พา, กด, ดัน, ให้, แสดง, ไปทาง, วางท่าทาง n. หมี, คนหยาบคาย, คนงุ่มง่าม, ชื่อดาวที่อยู่ทางทิศเหนือ (Great Bear ดาวจระเข้, Little B | brahmin | (บรา'มิน) n., พราหมณ์, ผู้ที่มีความรู้และวัฒนธรรมสูง, ผู้มีความรู้ที่ชอบอยู่ห่าง ๆ -Brahminism n. ศาสนาพราหมณ์ | clerkly | (เคลิค'ลี) adj., adv. เกี่ยวกับเสมียน, มีความรู้, See also: clerkliness n. | computer specialist | ผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์หมายถึง ผู้ที่มีความรู้พิเศษในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ อาจหมายถึง ระบบตัวเครื่อง การเขียนโปรแกรม หรือการวิเคระห์ระบบ ก็ได้ | dead | (เดด) adj.ตาย, สิ้นลมหายใจ, ไม่มีชีวิต, ไม่มีความรู้สึก, ทื่อ, จืดชืด, โดยสิ้นเชิง, แม่นยำ, กะทันหัน, ตรง, จริง ๆ , ไม่มีกระแสไฟฟ้า adv. โดยสิ้นเชิง, เต็มที่, อย่างกะทันหัน n. คนตาย, Syn. deceased | educated | (เอด'จุเคทิด) adj. ซึ่งได้รับการศึกษา, มีการศึกษา, มีความรู้ | elevated | (เอล'ละเวทิด) adj. สูงขึ้น, เลื่อนขึ้น, มีฐานะ ตำแหน่งหรือยศที่สูงขึ้น, สูงส่ง, มีความรู้สูงขึ้น, ปีติยินดี, ลิงโลด, Syn. lofty, exalted | erudition | (เออรูดิช'เชิน) n. ความรู้, การเล่าเรียน, ความแก่เรียน, การมีความรู้สูง | geek | (กีค) n. นักเล่นปาหี่, บุคคล, เจ้าหมอนี่, บุคคลที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์สูงมาก แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะมักจะเป็นประเภทไม่ชอบให้ความช่วยเหลือใคร | hardened | adj. แข็งขึ้น, ด้านขึ้น, ไม่มีความรู้สึก, ด้านขึ้น, มั่งคง, แข็งกล้า | heartless | adj. ไม่มีหัวใจ, ไม่มีความรู้สึก, เหี้ยมโหด, ขาดความกล้าหาญ, ไร้ความกระตือรือรั้น, See also: ness n., Syn. pitiless, cold | high level language | ภาษาระดับสูงหมายถึง ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องรู้ถึงโครงสร้างภายในของเครื่องแต่อย่างใด ภาษาระดับสูงมีอยู่ด้วยกันหลายภาษา เช่น ภาษาซี (C) ภาษาเบสิก (BASIC) และภาษาปาสกาล (PASCAL) เป็นต้น ตรงข้ามกับภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ซึ่งเรียกกันว่าเป็นภาษาระดับต่ำ ผู้เขียนจะต้องรู้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เสียก่อน จึงจะเขียนโปรแกรมเป็นภาษานั้นได้ อย่างไรก็ตาม คอมพิวเตอร์จะยังไม่สามารถเข้าใจภาษาระดับสูงนี้ได้ แต่จะต้องใช้ตัวแปล (compiler) จัดการแปลเสียก่อน จึงจะปฏิบัติตามคำสั่งได้ดู computer language ประกอบ | hold | (โฮลดฺ) { held, held, holding, holds } vt., vi., n. (การ) ถือ, จับ, กุม, คว้า, เกาะกำ, อดทน, อดกลั้น, ยึด, ยึดครอง, ครอบงำ, จับใจ, ทำให้หยุด, ถือว่า, เข้าใจว่ามีความรู้สึก, อ้าง, ยก, หยิบยก, คุก, ที่รองรับ, ป้อม, ห้องเก็บสินค้า, Syn. grasp, persist, Ant. relea | hot | (ฮอท) n. ร้อน, เร่าร้อน, ใจร้อน, เผ็ดร้อน, มีความรู้สึกรุนแรง, เต็มไปด้วยราคะ, ใหม่สุด, ใหม่เอี่ยม, ใกล้ชิด, ซึ่งติดตามอย่างใกล้ชิด, เป็นที่นิยมมาก, ตลก, แปลกประหลาด, น่าตื่นเต้นที่สุด, น่าสนใจที่สุด, เร้าอารมณ์มาก (ดนตรี), Syn. burning, torrid, p | hot stuff | ผู้เชี่ยวชาญ, คนที่มีความรู้สึกทางเพศได้ง่าย, สิ่งที่นิยมกัน | hypersensitive | adj. ซึ่งมีความรู้สึกไวเกินไป, ไวผิดธรรมดาที่มีต่อสิ่งกระตุ้นใด ๆ, See also: hypersensitivity n. | illiteracy | (อิลิท'เทอระซี) n. การไม่สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้, การไร้การศึกษา, การไม่รู้หนังสือ, การไม่มีความรู้ในสาขาหนึ่ง | impassive | (อิมแพส'ซิฟว) adj. ไม่มีอารมณ์, ใจเย็น, เมินเฉย, สงบใจ, ไม่มีความรู้สึก, ไม่รู้สึกทุกข์ร้อน., See also: impassiveness, impassivity n., Syn. insensitive | insensible | (อินเซน'ซะเบิล) adj. ไม่มีความรู้สึก, ไม่รู้สึกตัว, สลบ, ตายด้าน., See also: insensibly adv., Syn. unconscious | knowledgeable | (นอล'ลิดจะเบิล) adj. มีความรู้, เฉลียวฉลาด -S., knowledgable. | learned | (เลิร์น'นิด) adj. มีความรู้มาก, คงแก่เรียน, เกี่ยวกับการเรียนรู้., See also: learnedness n. ดูlearned, Syn. erudite, scholarly | literate | (ลิท'เทอเรท) adj. สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้, มีการศึกษา, ให้ความรู้ดี, มีความรู้ดีทางด้านวรรณคดี, เข้าใจง่าย, แจ่มแจ้ง. n. ผู้สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้, ผู้มีความรู้ดี., Syn. schooled, educated | numb | (นัมบฺ) adj., v. (ทำให้) ชา, ไม่มีความรู้สึก, มึนงง, งงงวย., See also: numbness n., Syn. torpid | passible | adj. รู้สึกได้, มีความรู้สึกได้, ประทับใจได้ | pundit | (พัน'ดิท) n. บัณฑิต, ผู้เชี่ยวชาญ, ผู้มีความรู้มาก., See also: punditic adj. punditically adv., Syn. expert, sage, prophet | renaissance man | n. ผู้มีความรู้กว้างขวาง | resolution | (เรซซะลู'เชิน) n. ความแน่วแน่, ความเด็ดเดี่ยว, การยืนหยัด, การตัดสินใจแล้ว, มิติ, การลงมติ, การแก้ปัญหา, การยุบลงของส่วนที่บวมหรืออักเสบ , ความคมชัดหมายถึง ความละเอียดของภาพ โดยจะนับจุดเล็ก ๆ ในภาพนั้น ยิ่งมีมากจุดต่อนิ้วก็ยิ่งแสดงว่าภาพนั้นมีความคมชัด เช่น อาจใช้วัดประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) ว่า สามารถพิมพ์ได้ 300 - 600 จุดต่อนิ้ว เป็นต้น ถ้าเป็นชนิดดีมากควรจะพิมพ์ได้ถึง 2, 400 จุดต่อนิ้ว ส่วนความละเอียดของจอภาพ มักจะวัดทั้งความกว้างและยาว เช่น 320 X 200 แสดงว่าจุดมีขนาดใหญ่ แต่ถ้าเป็น 1240 X 800 แสดงว่าจุดมีขนาดเล็ก หมายความว่า ภาพคมชัดกว่า เมื่อใช้อธิบายถึงภาพสี คำ resolution ใช้บอกจำนวนสีที่สามารถแสดงได้ในแต่ละครั้ง ถ้าความคมชัดต่ำ จะแสดงสีได้ครั้งละมาก ๆ ซึ่งทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ภาพนั้นมีความคมชัดมาก ภาพที่มีความคมชัดมากจริง ๆ จะแสดงสีได้น้อยสีในคราวเดียวกัน โดยปกติ มักใช้คำ high res และ low res เป็นคำย่อว่า ความคมชัดมากหรือน้อยดู high resolutution และ low resolution ประกอบ, Syn. resolve, determination | savant | (เซวานทฺ'แซฟ'เวินทฺ) n. ชายที่มีความรู้มากและลึกซึ้ง, นักปราชญ์, เมธี, ผู้คงแก่เรียน | soft-boiled | (ซอฟทฺ'บอลดฺ) adj. (ไข่) ต้มไม่ให้แข็ง, คิดมาก, มีความรู้สึกไว, soft coal, =bituminous coal (ดู) | studied | (สทัด'ดิด) adj. มีการศึกษา, มีความรู้, ระมัดระวัง, คิดไว้ก่อน, รอบคอบ, มีสติปัญญา., See also: studiedly adv. studiedness n. | stupefactive | (สทูพะแฟค'ทิฟว) adj. ทำให้มึนงง, ทำให้ไม่มีความรู้สึก, ทำให้กึ่งสลบ, ทำให้ประหลาดใจเป็นที่สุด | stupefy | (สทู'พะไฟ) vt. ทำให้มึนงง, ทำให้ไม่มีความรู้สึก, ทำให้กึ่งสลบ, ทำให้ประหลาดใจที่สุด, ทำให้ตะลึงงัน., See also: stupefyingly adv., Syn. stun | temperamental | (เทมเพอระเมน'เทิล) adj. เจ้าอารมณ์, มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย, มีความรู้สึกไว, เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ. | thin-skinned | (ธิน'สคินดฺ) adj. หน้าบาง, โกรธง่าย, มีความรู้สึกไวต่อการวิจารณ์หรือนินทา | unfeeling | (อันฟีล'ลิง) adj. ไม่รู้สึก, ไม่มีความรู้สึก, โหดเหี้ยม, ไร้ความปรานี, ไร้ความเห็นอกเห็นใจ. | universality | (ยูนิเวอแซล'ลิที) n. ลักษณะแพร่หลาย, ลักษณะที่มีอยู่อยู่ทั่วไป, การใช้ได้ทั่วไป, การมีความรู้กว้างขวาง, การมีความสนใจทั่วไป, Syn. all-inclusiveness, comprehension | unlettered | (อันเลท'เทิร์ด) adj. ไม่ได้รับการศึกษา, ไม่ได้เรียนหนังสือ, ไม่สนใจ, ไม่มีตัวหนังสือ, ไม่มีความรู้., Syn. uneducated, illiterate | unmeaning | (อันมีน'นิง) adj. ไม่มีความหมาย, ไม่มีความรู้สึก, หน้าตาเฉย, ตีหน้าตาย., See also: unmeaningly adv. unmeaningness n., Syn. cool, unfeeling | virtuoso | (เวอชุโอ'โซ) n. ผู้มีความรู้หรือความสามารถพิเศษ (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับดนตรี) , ผู้มีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับศิลปกรรม adj. เกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว pl. virtuosos, virtuosi, Syn. artist, master, artiste | well-informed | (เวล'อินฟอร์มดฺ') adj. รู้ข่าวดี, มีความรู้กว้างขวาง, พหูสูตร | witty | (วิท'ที) adj. มีสติปัญญา, เฉลียวฉลาด, มีไหวพริบ, มีความรู้, รอบรู้, See also: wittingly adv. wittiness n., Syn. facetious, humorous |
| COLD-cold-blooded | (adj) เย็นชา, เฉยเมย, เลือดเย็น, ดุร้าย, ไม่มีความรู้สึก, อำมหิต | COLD-cold-hearted | (adj) ไม่สงสาร, ไม่ปรานี, ไม่มีความรู้สึก, ไร้ความเมตตา | heartless | (adj) ดุร้าย, ใจร้าย, ไม่มีหัวใจ, โหดเหี้ยม, ไม่มีความรู้สึก | impassible | (adj) ไม่มีความรู้สึก, ไม่สะดุ้งสะเทือน, เฉย, เย็นชา | insensate | (adj) ไม่มีความรู้สึก, อำมหิต, โหดเหี้ยม, ไม่ปรานี, ขาดสติ | intellectual | (adj) มีเชาวน์, มีความรู้ | intellectual | (n) คนมีความรู้, ผู้มีปัญญา | learned | (adj) มีความรู้สูง, มีความรู้มาก, คงแก่เรียน | literate | (adj) รู้หนังสือ, มีการศึกษา, มีความรู้ | sentient | (adj) ตื่นเต้น, มีความรู้สึก, เกรียวกราว, อื้อฉาว | unfeeling | (adj) โหดร้าย, ทารุณ, ไม่มีความรู้สึก |
| conciously | (adv) อย่างมีสติ, อย่างมีความรู้สึก | insensitivity | ความรู้สึกช้า, ไม่มีความรู้สึกต่อ | lifesaver | [ชีพ-พะ-รัก-สิก] (n) ชีพรักษิก = ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการช่วยชีวิตทางน้ำ การปฐมพยาบาล การนวดหัวใจผายปอด แต่มิได้เป็นที่ประกอบวิชาชีพ ชีพบาล โดยตรง | mansplaining | การกระทำที่ผู้พูด อธิบายหรือแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆ ให้แก่ผู้ฟังในลักษณะที่ทำตัวเหนือกว่า, คิดว่าฝ่ายผู้ฟังไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ หรือ ใช้คำอธิบายในลักษณะที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายจนเกินสมควรเช่นเหมือนอธิบายเด็ก ดูคำอธิบายเพิ่มเติม | polymath | [โพลีแม็ธ] (n) คือผู้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ ในการใช้อย่างเป็นทางการเท่าใดนักจะหมายถึงผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญสูง นักวิทยาศาสตร์สมัยโบราณมักจะเป็น “ผู้รู้รอบด้าน” โดยมาตรฐานที่ใช้กันในปัจจุบัน ผู้รู้รอบด้านมีความหมายต่างจากคำว่าอัจฉริยบุคคล (ข้อมูลแปลจาก wikipedia.org) | ศาลล้มละลายกลาง | (n, org, uniq) ศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ http://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html | ศาลล้มละลายกลาง | (n, org, uniq) ศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ http://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html |
| kaltbleiben | (vi) |blieb kalt, ist kalt geblieben| ไม่มีความรู้สึกร่วม, มีแต่ความเย็นชา |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |