ประโยคใช้บ่อยตอนสัมภาษณ์งาน ปกติการสัมภาษณ์งานเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้ผู้ที่กำลังหางานหลาย ๆ คน โดยเฉพาะน้องๆ ที่พึ่งเรียนจบใหม่และยังไม่มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งาน ยิ่งต้องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก็ยิ่งเพิ่มความกดดันเข้าไปอีก แต่ในยุคปัจจุบันโอกาสที่คุณจะต้องถูกสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษคงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีความสนใจอยากร่วมงานกับบริษัทขนาดใหญ่ หรือ บริษัทต่างชาติ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ เราควรฝึกซ้อมสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ ลองฝึกตอบคำถามต่างๆ เรียนรู้คำศัพท์และประโยคที่จะช่วยให้คำตอบของคุณดู professional ขึ้น ลองมาดูตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆ กันเลย When you...
ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ภาระ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ภาระ, -ภาระ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
trade terms[เทรด เทอมส] (n) "ข้อตกลงในการส่งมอบสินค้า" ยังไม่เจาะจงลงไปว่าเป็นแหล่งอ้างอิงจากชื่อใด เข่น AFTD: American Foreign Trade Definition หรือ RWO: Rules of Warsaw and Oxford หรือ GCDM: General Conditions for Delivery of Merchandise หรือ Combiterms หรือ Incoterms ซึ่งในแต่ละแหล่งอ้างอิงมี Terms ให้ใช้คล้ายกัน เช่น Ex Works, FOB หรือ CIF เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แหล่งอ้างอิงที่เสถียรในเรื่องค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการส่งมอบ คือแหล่ง Incoterms ทำให้หลายแหล่ง เช่น ล่าสุดทางอเมริกา ประกาศยกเลิก ธรรมนูญการค้าหรือ UCC บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินค้าของตน ซึ่ง UCC นี้เองได้เป็นฐานในการกำหนดงเป็น AFTD ล่าสุดอเมริกาและแทบทั้งโลกมาขอใช้ร่วมกับ Incoterms ของ ICC International Chamber of Commerce, Paris, France นี้ เป็นมีการกำหนดจุดรับภาระที่แน่นอนกว่า
โบ้ย[โบ้ย] (vt, slang) การโยนงานหรือภาระหน้าที่ให้ผู้อื่นทำ ตัวอย่าง จู่ๆเขาก็โบ้ยงานมาให้ฉันทำ ทั้งๆที่มันไม่ใช่หน้าที่เลย

Longdo Dictionary ภาษา ญี่ปุ่น (JP) - ญี่ปุ่น (JP) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
พันธกิจ[ミッション] (n, org) กิจการหรืองานที่มีภาระรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติให้บรรลุผล

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ภาระ(n) burden, See also: responsibility, charge, duty, task, obligation, Syn. ภารกิจ, หน้าที่, ภาระหน้าที่, Example: เขาอยากจะปลดเปลื้องภาระของเขาให้น้องชายทำแทนเสียที, Thai Definition: หน้าที่การงานหรือธุระที่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
รับภาระ(v) shoulder, See also: undertake, assume, take on, bear, Syn. แบกรับ, แบกภาระ, Example: นกคุ่มอืดตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ดังนั้นตัวผู้จึงต้องรับภาระในการเลี้ยงและดูแลลูกแทนตัวเมีย
สัมภาระ(n) luggage, See also: baggage, bags, gear, cases, impedimenta, paraphernalia, suitcases, Example: เขาต้องใช้เวลาถึง 2 วัน ในการย้ายบ้าน เพราะมีสัมภาระมากมาย, Thai Definition: สิ่งของต่างๆ ซึ่งสะสมรวบรวม หรือจัดเตรียมไว้ เพื่อภาระต่างๆ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
หมดภาระ(v) be free from obligation, See also: be free from one's duty, Syn. พ้นภาระ, Ant. มีภาระ, รับภาระ, Example: ตอนนี้แม่หมดภาระในการเลี้ยงดูลูกๆ แล้ว เพราะต่างก็มีเหย้ามีเรือนกันไปหมด, Thai Definition: ไม่มีหน้าที่ที่ต้องทำอีกแล้ว
ภาระจำยอม(n) servitude, Example: ทางเดินภายในตลาดปีนังคือภาระจำยอมซึ่งชาวบ้านใช้ร่วมกันมากกว่า 20 ปีแล้ว, Thai Definition: ข้อผูกพันอันเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น, Notes: (กฎหมาย)
ทัพสัมภาระ(n) timber or wood for building a house or vehicle, See also: wooden materials necessary as supporting or building a vehicle or house, Thai Definition: วัสดุสำหรับก่อสร้าง, ส่วนประกอบที่อาจประกอบเป็นยวดยานหรือบ้านเรือน
ผู้รับภาระ(n) one carrying a burden, See also: one who shoulders a burden, responsibility, burden bearer, Syn. คนรับภาระ, ผู้แบกภาระ, คนแบกภาระ, Ant. ผู้โยนภาระ, Example: รัฐบาลเป็นผู้รับภาระในเรื่องอาหาร เรื่องเครื่องนุ่งห่มแก่นักโทษที่อยู่ในความคุ้มครองดูแล, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ที่รับงานหนักตามหน้าที่ที่ผู้อื่นมอบให้
ภาระติดพัน(n) obligation, See also: responsibility, Example: กองมรดกมีภาระติดพันที่จะต้องบำรุงมูลนิธิหลายแห่ง, Thai Definition: ความผูกพันที่จะต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ภาระผูกพัน(n) obligation, See also: charge, Example: ในปีนี้ฐานะเงินคงคลังของประเทศเหลือเพียง 103, 635 ล้านบาท และในจำนวนนี้มีภาระผูกพันที่จะต้องใช้อีกประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท, Thai Definition: เรื่องที่ต้องรับผิดชอบต่อเนื่องไป
ภาระหน้าที่(n) duty, See also: obligation, Example: อาจารย์หนุ่มหนักใจต่อภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับแต่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา, Thai Definition: กิจที่ต้องทำที่รับเอาไว้
แบ่งเบาภาระ(v) lighten the load, See also: share the work, Example: รัฐบาลน่าจะหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาปล่อยกู้ให้เกษตรกร เพื่อแบ่งเบาภาระให้ชาวไร่ที่ต้องลงทุนเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป, Thai Definition: ช่วยทำให้ภาระหนักที่รับไว้เบาลง
แบ่งเบาภาระ(v) lighten the load, See also: share the work, Example: รัฐบาลน่าจะหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาปล่อยกู้ให้เกษตรกร เพื่อแบ่งเบาภาระให้ชาวไร่ที่ต้องลงทุนเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป, Thai Definition: ช่วยทำให้ภาระหนักที่รับไว้เบาลง
แบ่งเบาภาระ(v) lighten the load, See also: share the work, Example: รัฐบาลน่าจะหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาปล่อยกู้ให้เกษตรกร เพื่อแบ่งเบาภาระให้ชาวไร่ที่ต้องลงทุนเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป, Thai Definition: ช่วยทำให้ภาระหนักที่รับไว้เบาลง
ข้าวของสัมภาระ(n) belongings, See also: stuff, materials, Syn. ข้าวของเครื่องใช้, Example: รถสองแถวสีแดงวันนี้บรรทุกผู้โดยสารและข้าวของสัมภาระอื่นๆ เนืองแน่น
ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์(n) charge on immovable property, Thai Definition: ข้อผูกพันที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับการชำระหนี้เป็นคราวๆ จากอสังหาริมทรัพย์ที่ตกอยู่ในภาระติดพัน หรือได้ใช้และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สินตามที่ระบุไว้, Notes: (กฎหมาย)

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ทัพสัมภาระ(ทับพะ-) น. สิ่งหรือเครื่องอันเป็นส่วนประกอบที่จะคุมกันเข้าเป็นเรือน เรือ รถ หรือเกวียน เป็นต้น.
ปัพภาระน. เงื้อมเขา.
ผลักภาระก. ทำให้พ้นตัวไป.
ภาร, ภาร-, ภาระ(พาน, พาระ-) น. ของหนัก, นํ้าหนัก
ภาร, ภาร-, ภาระธุระที่หนัก, การงานที่หนัก
ภาร, ภาร-, ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่มีภาระในการเลี้ยงดูลูก ครูมีภาระในการอบรมสั่งสอนศิษย์, ความรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่ตายหมด พี่ต้องรับภาระส่งเสียเลี้ยงดูน้อง.
ภาร, ภาร-, ภาระ(พาน, พาระ-) ว. หนัก.
ภาระจำยอมน. ข้อผูกพันอันเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น เช่น ทางภาระจำยอม.
ภาระติดพันน. ความผูกพันที่จะต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง.
ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์น. ข้อผูกพันที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับการชำระหนี้เป็นคราว ๆ จากอสังหาริมทรัพย์ที่ตกอยู่ในภาระติดพัน หรือได้ใช้และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สินตามที่ระบุไว้.
ภาระ<i>ดู ภาร, ภาร-</i>.
ภาระ ๒, ภารา ๑น. ชื่อมาตราชั่งนํ้าหนักมคธ ๒๐ ตุลา เป็น ๑ ภาระ.
สกฏภาระ(-พาระ) น. ของบรรทุกเกวียน.
สัมภาระ(สำพาระ) น. สิ่งของต่าง ๆ เช่น เครื่องมือเครื่องใช้และเสบียงซึ่งสะสมรวบรวมหรือจัดเตรียมไว้เพื่อภาระต่าง ๆ เช่น เตรียมสัมภาระสำหรับไปต่างจังหวัด
สัมภาระการเกื้อหนุน, การเลี้ยงดู.
อังสภาระน. ของแบก.
กระโถนท้องพระโรงน. ผู้ที่ต้องรองรับภาระงานหรืออารมณ์ของผู้อื่นอยู่คนเดียว.
กลฉ้อฉล(กน-) น. การใช้อุบายหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือการจงใจปิดบังซ่อนเร้นข้อความจริงเพื่อให้ผู้อื่นหลงผิดจนเข้าทำนิติกรรม หรือจนคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกำหนดอันเป็นภาระอันหนักขึ้นกว่าที่คู่กรณีฝ่ายนั้นจะยอมรับโดยปรกติ.
การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่น. การดำเนินการพัฒนาที่ดินหลายแปลงโดยการวางผังจัดรูปที่ดินใหม่ ปรับปรุงหรือจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการร่วมรับภาระและกระจายผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ โดยความร่วมมือระหว่างเอกชนกับเอกชนหรือเอกชนกับรัฐ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในด้านต่าง ๆ.
เครื่องหลังน. สัมภาระที่ทหารหรือนักเดินทางเป็นต้นนำติดตัวไป โดยผูกรัดไว้ข้างหลัง.
ช่วยแบ่งเบาภาระ เช่น ช่วยเลี้ยงน้อง
เดือดร้อนก. เป็นทุกข์กังวลไม่เป็นสุข เช่น พอพ่อป่วยครอบครัวก็เลยเดือดร้อน, เป็นภาระ เช่น งานนี้ฉันเลยเดือดร้อนต้องทำแทนเขา.
ตกหนักก. รับทุกข์, รับเคราะห์, รับภาระหรือหน้าที่หนัก.
ตัดช่องน้อยแต่พอตัวก. ด่วนตายไปก่อนโดยทิ้งภาระไว้ภายหลัง
ทรัพยสิทธิ(ซับพะยะสิด) น. สิทธิเหนือทรัพย์สินที่จะก่อตั้งขึ้นได้แต่ด้วยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เช่น กรรมสิทธิ์ สิทธิอาศัย ภาระจำยอม.
ทำงนน. ภาระ.
บรรทุกโดยปริยายหมายความว่า รับภาระ เช่น บรรทุกงานไว้มาก.
บัลน. ชื่อมาตรานํ้าหนักมคธ ๑๐ บัล เป็น ๑ ตุลา, ๒๐ ตุลา เป็น ๑ ภาระ.
เบญจคีรีนครน. ชื่อหนึ่งของเมืองราชคฤห์ มีภูเขา ๕ ลูกล้อมรอบ คือ ๑. ภูเขาปัณฑวะ ๒. ภูเขาคิชฌกูฏ ๓. ภูเขาเวภาระ ๔. ภูเขาอิสิคิลิ ๕. ภูเขาเวปุลละ.
เบาแรงก. ออกแรงหรือมีภาระงานน้อยลง เช่น ตอนนี้ฉันเบาแรงไปบ้าง เพราะมีคนมาช่วย.
แบกก. วางของที่มีนํ้าหนักบนบ่าหรือบนหลัง เช่น แบกกระสอบข้าวสาร แบกปืน, โดยปริยายหมายความว่า รับภาระหนัก, มีความรับผิดชอบมาก, เช่น แบกค่าใช้จ่ายในบ้านคนเดียว แบกงานไว้มาก.
แบ่งเบาก. แบ่งภาระหนักให้เบาลง.
ปละ ๑(ปะละ) น. ชื่อมาตรานํ้าหนักมคธ ๑๐๐ ปละ เป็น ๑ ตุลา, ๒๐ ตุลา เป็น ๑ ภาระ.
เปะก. เอาสิ่งที่มีลักษณะข้นเหลวเป็นต้นซัดลงไป เช่น เอาโคลนมาเปะที่กำแพง, โดยปริยายหมายถึง ทิ้งไว้ให้เป็นภาระของผู้อื่น เช่น เอาลูกมาเปะให้พี่สาวเลี้ยง.
ภารยทรัพย์(พาระยะซับ) น. อสังหาริมทรัพย์ที่ตกอยู่ในภาระจำยอม, คู่กับ สามยทรัพย์.
ยกภูเขาออกจากอกก. โล่งอก, หมดวิตกกังวล, ปลดเปลื้องภาระที่หนักอกหนักใจให้หมดไป.
โยนกลองก. ปัดภาระหรือความรับผิดชอบไปให้คนอื่น.
ฤณภาระ.
ลอยตัวก. หมดภาระ, หมดปัญหายุ่งยาก, เช่น เมื่อปลดเปลื้องหนี้สินได้หมดแล้ว เขาก็ลอยตัว
ลูกหาบน. ลูกจ้างสำหรับหาบหามสัมภาระเดินทางในที่ทุรกันดาร.
โล่งอกก. รู้สึกปลอดโปร่งใจเพราะปลดเปลื้องภาระหนักได้แล้ว.
ว่างไม่มีภาระผูกพัน เช่น วันนี้ว่างทั้งวัน เย็นนี้หมอว่างไม่มีคนไข้.
ว่าง ๆว. ไม่มีอะไรจะทำ, ไม่มีภาระ, เช่น อยู่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร.
สามยทรัพย์(สามะยะ-) น. อสังหาริมทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากภาระจำยอม, คู่กับ ภารยทรัพย์.
สิ้นกรรม, สิ้นกรรมสิ้นเวร, สิ้นเวร, สิ้นเวรสิ้นกรรมก. สิ้นสุดในการที่ต้องรับทุกข์อีกต่อไป เช่น เมื่อเขามีชีวิตอยู่ มีภาระมากหรือเจ็บป่วยทรมาน ตายไปก็ถือว่าสิ้นเวรสิ้นกรรม, หมดกรรม หมดกรรมหมดเวร หมดเวร หรือ หมดเวรหมดกรรม ก็ว่า
หนักกบาล, หนักกบาลหัวว. เป็นภาระของ, เป็นเรื่องของ, เช่น ถึงจะแก่คาบ้าน ก็ไม่หนักกบาลหัวใคร (เพลงพื้นบ้าน), หนักกะลาหัว หนักหัว หรือ หนักหัวกบาล ก็ว่า.
หนักกะลาหัวว. เป็นภาระของ, เป็นเรื่องของ, เช่น ฉันจะทำอย่างนี้ แล้วมันหนักกะลาหัวใคร, หนักกบาล หนักกบาลหัว หนักหัว หรือ หนักหัวกบาล ก็ว่า.
หนักหน้าก. มีภาระต้องรับผิดชอบทั้งหมด เช่น เรื่องนี้หัวหน้าคณะหนักหน้าอยู่คนเดียว.
หนักหัวเป็นภาระของ, เป็นเรื่องของ, เช่น ถึงจะสุกคาขั้ว ก็ไม่หนักหัวใคร (เพลงพื้นบ้าน), หนักกบาล หนักกบาลหัว หนักกะลาหัว หรือ หนักหัวกบาล ก็ว่า.
หนักหัวกบาลว. เป็นภาระของ, เป็นเรื่องของ, เช่น ฉันจะไปที่ไหน ก็ไม่เห็นจะหนักหัวกบาลใคร, หนักกบาล หนักกบาลหัว หนักกะลาหัว หรือ หนักหัว ก็ว่า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
proof, burden ofหน้าที่นำสืบ, ภาระการพิสูจน์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
preloadingการให้ภาระก่อน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
predial servitudeหน้าที่ตามภาระจำยอม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
legal easementภาระจำยอมโดยกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
load deviceอุปกรณ์เพิ่มภาระ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
load profileโพรไฟล์ภาระ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
load๑. บรรจุ๒. ภาระ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
loadภาระ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
load๑. บรรจุ๒. ภาระ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
local land chargesภาระติดพันที่ดินส่วนท้องถิ่น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
land chargesภาระติดพันที่ดิน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
res sua nemini servit (L.)ภาระจำยอมย่อมไม่มีในที่ดินของตนเอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
servitudeภาระจำยอม [ ดู easement ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
servitudeภาระจำยอม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
servitude, involuntaryการจำยอมรับภาระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
standard of proofภาระการพิสูจน์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
onerousมีภาระผูกพันเกินควร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
onerous contractสัญญาที่มีภาระผูกพันเกินควร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
overloadภาระเกิน [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
overload protectionการกันภาระเกิน [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
overload relayรีเลย์กันภาระเกิน [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
onus probandi (L.)ภาระการพิสูจน์, หน้าที่นำสืบ [ ดู burden of proof ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
onerous termข้อกำหนดที่มีภาระผูกพันเกินควร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
obligorผู้มีภาระผูกพัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
accountabilityภาระรับผิดชอบ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
accountabilityภาระความรับผิด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
quasi-easementคล้ายภาระจำยอม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
building load profileโพรไฟล์ภาระอาคาร [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
burden of obligationภาระแห่งหนี้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
burden of proofหน้าที่นำสืบ, ภาระการพิสูจน์ [ ดู onus probandi ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
mission๑. ภาระหน้าที่, ภารกิจพิเศษ๒. คณะทูต, คณะผู้แทน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
mission๑. ภาระหน้าที่, ภารกิจพิเศษ (ก. ทั่วไป)๒. คณะทูต, คณะผู้แทน (ก. ระหว่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
charge on immovable propertyภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
chargesค่าภาระติดพัน [ ดู encumbered charge และ value of the charge ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
cooling loadภาระการทำให้เย็น [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
cooling loadภาระการทำความเย็น [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
cooling load factorแฟกเตอร์ภาระการทำความเย็น [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
cooling tower loadingภาระของหอทำความเย็น [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
clean cut basisหลักการตัดภาระผูกพัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
claims sharing agreementข้อตกลงการแบ่งภาระค่าสินไหมทดแทน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
charge๑. ข้อกล่าวหา๒. ภาระติดพัน๓. ภาระหน้าที่ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
charge๑. ข้อกล่าวหา (ป. วิ. อาญา)๒. ภาระติดพัน (ก. แพ่ง)๓. ภาระหน้าที่ (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
dual compression compressorเครื่องอัดแก๊สทำความเย็นแบบทวิภาวะ, คอมเพรสเซอร์แบบทวิภาระ [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
fixed chargesค่าภาระติดพันตามที่กำหนด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
encumbered chargeค่าภาระติดพัน [ ดู charges และ value of the charge ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
encumbranceภาระติดพัน [ ดู incumbrance ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
easementสิทธิใช้ภาระจำยอม, สิทธิเหนือภารยทรัพย์ [ ดู servitude ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
incumbranceภาระติดพัน [ ดู encumbrance ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
impost๑. เก็บภาษี๒. ภาระตั้งบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
incidence of taxationการผลักภาระภาษี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Import charge and surchargeค่าภาระและค่าธรรมเนียมพิเศษสินค้าเข้า [เศรษฐศาสตร์]
Investment commitmentภาระผูกพันในการลงทุน [เศรษฐศาสตร์]
Load๑. บรรจุ ๒. ภาระ, ๑. บรรจุ ๒. ภาระ [คอมพิวเตอร์]
BOD loadingภาระบีโอดี, Example: ปริมาณของน้ำเสียที่เข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียหรือลงสู่แหล่งน้ำค่ากำหนดในการออกแบบระบบบำบัด มีหน่วยเป็นกก. บีโอดี/ม3 - วัน หรือ กก. บีโอดี/ม2 - วัน [สิ่งแวดล้อม]
Baggage handlingการขนถ่ายสัมภาระ [TU Subject Heading]
Educational accountabilityภาระรับผิดชอบทางการศึกษา [TU Subject Heading]
Load factor designการออกแบบตัวประกอบภาระ [TU Subject Heading]
Public servitudesภาระจำยอม [TU Subject Heading]
Task analysisการวิเคราะห์ภาระกิจ [TU Subject Heading]
Tax incidenceภาระทางภาษีอากร [TU Subject Heading]
Loadingภาระ (บรรทุก), Example: อัตราการรับหรืออัตราการป้อนสารมลพิษต่อหนึ่ง หน่วยพื้นที่ หรือปริมาตรของถังบำบัด [สิ่งแวดล้อม]
Activated Sludge Loadingภาระแอกทิเวเต็ดสลัดจ์, ภาระเอเอส, ภาระสลัดจ์ไวงาน, Example: ปริมาณบีโอดีต่อวันต่อน้ำหนักจุลินทรีย์ มีหน่วยเป็น กก.บีโอดี/วัน-กก. จุลินทรีย์ หรือ วัน -1 [สิ่งแวดล้อม]
BOD Loadingภาระบีโอดี, Example: ค่ากำหนดในการออกแบบระบบบำบัด มีหน่วยเป็น กก.บีโอดี/ม3-วัน หรือ กก. บีโอดี/ม2-วัน [สิ่งแวดล้อม]
Incidence of Taxภาระภาษี, Example: ผลกระทบของการจัดเก็บภาษีที่มีต่อบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบุคคลที่จ่ายภาษีหรือไม่ก็ได้ เช่น พ่อค้าเป็นผู้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ภาระสุดท้ายของภาษีนั้นตกอยู่กับผู้บริโภคสินค้านั้น หรือบริษัทที่จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลต่างๆ โดยการขึ้นราคาสินค้าที่ตนผลิตออกจำหน่าย หรือลดค่าจ้างที่ควรจ่ายให้แก่พนักงาน [สิ่งแวดล้อม]
Loading Factorสัดส่วนภาระ, Example: อัตราส่วนระหว่างค่าเฉลี่ยของภาระกับภาระสูง สุดในช่วงเวลาหนึ่ง [สิ่งแวดล้อม]
Loading Rateอัตราภาระ, Example: อัตราการป้อนปริมาณสารมลพิษเข้าระบบ [สิ่งแวดล้อม]
Organic Loading Rateอัตราภาระอินทรีย์, Example: อัตราการป้อนสารอินทรีย์ต่อขนาดระบบบำบัด มีหน่วยเป็น กก./ม3-วัน หรือ กก./ม2-วัน [สิ่งแวดล้อม]
comprehensive plan of actionแผนปฏิบัติการที่สมบูรณ์แบบ เป็นแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยอย่างสมบูรณ์ โดยความร่วมมือระหว่างประเทศต้นเหตุ ประเทศที่ต้องแบกรับภาระ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และประเทศที่ให้ความช่วยเหลือ แผนปฏิบัติการที่สมบูรณ์แบบนี้เป็นการแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการป้องกันปัญหา การให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัย โดยจัดที่พักพิงชั่วคราวตามหลักมนุษยธรรม การส่งตัวกลับเมื่อสถานการณ์ในประเทศต้นเหตุกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว และการหาที่พักพิงให้แก่ผู้หนีภัยในประทศที่สาม [การทูต]
Congress of Viennaเป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในยุโรป ได้จัดให้มีขึ้นหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน (กันยายน ค.ศ. 1814 ? มิถุนายน ค.ศ. 1815) ประเทศที่ร่วมการประชุมมี ออสเตรีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัฐสันตะปาปา ปรัสเซีย และรัสเซีย ภาระหน้าที่สำคัญของการประชุม คือ การปักปันเขตแดนกันใหม่ และจัดให้ราชวงศ์เก่าแก่กลับฟื้นคืนมาใหม่ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเยอรมนี สหภาพแห่งนอร์เวย์ และสวีเดน สหภาพแห่งเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ พร้อมทั้งกำหนดให้สวิตเซอร์แลนด์ มีฐานะเป็นประเทศเป็นกลางถ้ามองในแง่การทูต ผลสำเร็จสำคัญที่สุดจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาคือ ข้อมติกำหนดลำดับอาวุโสของคณะผู้แทนทางการทูต โดยถือหลักอาวุโสไม่ว่าในตำแหน่งใด แทนที่จะถือตามสถานภาพและความสำคัญของกษัตริย์อย่างแต่ก่อน รวมทั้งจัดประเภทของนักการทูต ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท (ตามระเบียบที่วางขึ้นใหม่ต่อมาในการประชุม ณ Aix-la-Chapelle ได้แก่1) เอกอัครราชทูต (Ambassadors) ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal legates) และหัวหน้าคณะทูตของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncios)2) ผู้แทนทางการทูตผู้มีอำนาจพิเศษ (Envoys Extra-ordinary) และเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม (Ministers Plenipotentiary) อินเตอร์นันสิโอของสมเด็จพระสันตะปาปา3) อัครราชทูตผู้มีถิ่นประจำ (Ministers Resident)4) อุปทูต (Chargé d?affaires)คองเกรสแห่งเวียนนายังวางระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการจัดลำดับ อาวุโสของบุคคลในคณะทูต ซึ่งชาติต่าง ๆ ได้ลงนามรับรองในสนธิสัญญาพาหุภาคีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว [การทูต]
Consulข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต]
Consular Fees and Chargesค่าธรรมเนียมและค่าภาระทางกงสุล ตามข้อ 39 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ได้กำหนดไว้ว่า1. สถานที่ทำการทางกงสุล อาจเรียกเก็บในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สำหรับการปฏิบัติงานทางกงสุลซึ่งค่าธรรมเนียม ค่าภาระตามที่ได้บัญญัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง2. จำนวนเงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียมและค่าภาระตามที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ ใบรับสำหรับค่าธรรมเนียมหรือค่าภาระเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากค่าติดพันและภาษีทั้งปวงในรัฐผู้รับ [การทูต]
Consular Officeบุคคลรวมทั้งหัวหน้าของที่ทำการทางกงสุล ซี่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในฐานะกงสุลโดยได้รับ ภาระหน้าที่ทางกงสุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลมีอยู่ 2 ประเภทคือ 1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลอาชีพ (Career Consular Office)2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consular Office) [การทูต]
Diplomatic Privilege of Accommodationมาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต]
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articlesการยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต]
Exemption from Taxation of Diplomatic Agentการยกเว้นภาษีอากรให้แก่ตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ข้อ 34 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ให้ตัวแทนทางการทูตได้รับยกเว้นจากภาระผูกพันและภาษีทั้ง ปวงของชาติท้องถิ่นหรือเทศบาล ในส่วนบุคคลหรือในทรัพย์สิน เว้นแต่ก. ภาษีทางอ้อม ชนิดที่ตามปกติรวมอยู่ในราคาของสินค้าหรือบริการแล้วข. ภาระผูกพันและภาษีจากอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับ นอกจากว่า ตัวแทนทางการทูตครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นไว้ในนามของรัฐผู้ส่ง เพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนค. อากรกองมรดก การสืบมรดก หรือการรับมรดก ซึ่งรัฐผู้รับเรียกเก็บภายในบังคับแห่งบทของวรรค 4 ข้อ 39 ง. ภาระผูกพันและภาษีจากเงินได้ส่วนตัว ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในรัฐผู้รับ และภาษีเก็บจากเงินทุนซึ่งได้ลงทุนในการประกอบการพาณิชย์ในรัฐผู้รับจ. ค่าภาระซึ่งเรียกเก็บสำหรับบริการจำเพาะที่ได้ให้ฉ. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ค่าธรรมเนียมศาล หรือสำนวนความ ภาระผูกพันในการจำนอง และอากรแสตมป์ในส่วนที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ภายในบังคับแห่งบทของข้อ 23?นอกจากนี้ ข้อ 35 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติไว้ด้วยว่า ?ให้รัฐผู้รับให้ตัวแทนทางการทูตได้รับการยกเว้นจากการบริการส่วนบุคคลทั้ง มวล จากบริการส่วนสาธารณะทั้งมวล และจากข้อผูกพันทางทหาร เช่น ส่วนที่เกี่ยวกับการเรียกเกณฑ์ ส่วนบำรุง หรือเรียกคืนที่พักอาศัยเพื่อปฏิบัติการทางทหาร? [การทูต]
exactionsข้อเรียกบังคับ หรือภาระเรียกบังคับ ใช้ในเรื่องของการเรียกเก็บภาษี [การทูต]
Exercise by Diplomatic Missions of Consular functionsการปฏิบัติหน้าที่กงสุลโดยคณะผู้แทนทางการทูต ตามข้อ 70 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ได้บัญญัติไว้ว่า1. บทของอนุสัญญานี้ใช้แก่ปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลโดยคณะผู้แทนทางการทูตด้วย เท่าที่บริบทจะอำนวยให้2. ชื่อของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในแผนกกงสุล หรือมิฉะนั้นได้รับภาระให้ปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลของคณะผู้แทนนั้น จะต้องแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงนั้นที่แต่งตั้งไว้3. ในการปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุล คณะผู้แทนทางการทูตอาจติดต่อกับก. เจ้าหน้าที่ท้องที่ของเขตกงสุลนั้นข. เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของรัฐผู้รับ ถ้าหากกระทำได้ตามกฎหมาย ข้อบังคับ และจารีตประเพณีของรัฐผู้รับ หรือตามความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง4. เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูตที่อ้างถึงในวรรค 2 ของข้อนี้ จะยังคงอยู่ในบังคับแห่งกฎเกณฑ์ของกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ทางการทูต [การทูต]
Functions of Diplomatic Missionภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของคณะผู้แทนทางการทูต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หน้าที่ที่ปฏิบัติเป็นประจำของผู้แทนทางการทูตนั้น ได้แก่ หน้าที่การเจรจา การสังเกต และการคุ้มครอง อย่างไรก็ดี มีบางประเทศได้มอบอำนาจให้ผู้แทนทางการทูตของตนปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล และกิจกรรมเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญใด ๆ กับการทูตเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 3 ว่า1. นอกจากประการอื่นแล้ว การหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูตประกอบด้วยก. ทำหน้าที่แทนรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับข. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่งและของคนชาติของรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดอันกฎหมายระหว่างประเทศได้อนุญาตให้ค. เจรจากับรัฐบาลของรัฐผู้รับง. สืบเสาะให้แน่ด้วยวิถีทางทั้งมวลอันชอบด้วยกฎหมายถึงสถาวะและพัฒนาการในรัฐ ผู้รับ แล้วรายงานไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่งจ. ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ2. ไม่มีข้อความในอนุสัญญานี้ ที่จะหมายความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้คณะผู้แทนทางการทูตปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Marshall Planแผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Persons Entitled to Diplomatic Privileges and Immunitiesบุคคลทีมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้ม ครองกันทางการทูต มาตรา 37 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ว่า ?1. คนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ระบุไวในข้อ 29 ถึง 36 2. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการของคณะผู้แทน รวมทั้งคนในครอบครัวของตน ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตน ตามลำดับ ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ระบุไว้ในข้อ 29 ถึง 35 เว้นแต่ว่าความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่งและทางปกครองของรัฐผู้รับ ที่ได้ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อ 31 นั้น ไม่ให้ขยายไปถึงการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปเกินภารกิจหน้าที่ของตน ให้บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการได้อุปโภคเอกสิทธิ์ ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 36 วรรค 1 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งของที่ได้นำเข้าเมื่อเข้ารับหน้าที่ครั้งแรกด้วย 3. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้ รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับให้ได้อุปโภคความคุ้มกัน ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ตน การยกเว้นจากค่าภาระผูกพันรวมทั้งภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่ตนได้รับโดยเหตุผล จากการรับจ้างของตน และการยกเว้นที่ได้บรรจุไว้ในข้อ 33 4. คนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลในคณะผู้แทน ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในรัฐผู้รับ ให้ได้รับการยกเว้นจากค่าภาระผูกพัน หรือภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่เขาได้รับโดยเหตุผลจากการรับจ้างของตนในส่วน อื่น คนรับใช้ส่วนตัวเช่นว่านี้ อาจได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเท่าที่รัฐผู้รับยอมให้เท่านั้น อย่างไรก็ดี รัฐผู้รับต้องใช้อำนาจของตนเหนือบุคคลเช่นว่านี้ ในการที่จะไม่แทรกสอดโดยไม่สมควรในการปฏิบัติการหน้าที่ของคณะผู้แทน [การทูต]
Termination of Consular Officeการยุติลงของการหน้าที่ทางการกงสุล กล่าวคือ หน้าที่ของหัวหน้าคณะในสถานที่ทำการทางกงสุลจะยุติลงเนื่องจาก 1. วายชนม์2. รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับ3. รัฐผู้รับเพิกถอนอนุมัติบัตร (Exequatur)4. การหน้าที่ของผู้นั้นได้ถึงกำหนดครบวาระหรือยุติลง5. เกิดสงครามระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับไม่เหมือนกับกรณีคณะผู้แทนทางการทูต สถานที่ทำการทางกงสุลนั้น ภาระหน้าที่จะไม่ยุติลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนกษัตริย์หรือประธานาธิบดีของ รัฐผู้ส่งหรือรัฐผู้รับ ข้อ 25 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาบัญญัติไว้ว่า ?การหน้าที่ของบุคคลในสถานที่ทำการกงสุลจะยุติลงก) เมื่อรัฐผู้ส่งได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้รับว่า การหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวได้ยุติลงแล้วข) เมื่อมีการเพิกถอนอนุมัติบัตรค) เมื่อรัฐผู้รับได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้ส่งว่า รัฐผู้รับได้เลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล [การทูต]
Loadน้ำหนักบรรทุก, โหลด ปริมาณ น้ำหนักบรรทุก บรรจุ ภาระ [พลังงาน]
ออกเทนค่าออกเทนเป็นตัวเลขที่บอกถึงคุณภาพการต้านทานการน็อค หรือความสามารถของน้ำมันเบนซินที่จะเผาไหม้โดยปราศจากการน็อคในเครื่องยนต์ ทดสอบได้หลายวิธี อาทิ <br>Research Octane Number (RON) เป็นการวัดโดยใช้เครื่องยนต์มาตรฐาน CFR F-1 วัดที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ 600 รอบต่อนาที และอุณหภูมิไอน้ำมันผสมต่ำประมาณ 125 องศาฟาเรนไฮต์ <br>Motor Octane Number (MON) เป็นการวัดโดยใช้เครื่องยนต์มาตรฐาน CFR F-2 วัดที่รอบเครื่องยนต์รอบสูง 900 รอบต่อนาทีและอุณหภูมิไอน้ำมันผสม 300 องศาฟาเรนไฮต์ <br>Road Octane Number ทำการวัดโดยใช้รถยนต์จริงๆ วิ่งบนถนนซึ่งความเร็วและภาระเปลี่ยแนปลงไปต่างๆ กัน เพือ่ให้ได้ใกล้เคียงกับควาเมป็นจริงมากที่สุด วิธีนี้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก [ปิโตรเลี่ยม]
Cost and Freightเงื่อนไขการส่งมอบ, เงื่อนไขการส่งมอบนี้ ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้าตามสัญญาก็ต่อเมื่อ ผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าข้ามกาบเรือขึ้นไปบนเรือสินค้า [การค้าระหว่างประเทศ]
Cost Insurance and Freightเงื่อนไขการส่งมอบ, เงื่อนไขการส่งมอบนี้ ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการส่งมอบสินค้าตามสัญญาก็ต่อเมื่อ ผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าข้ามกาบเรือขึ้นไปบนเรือสินค้า [การค้าระหว่างประเทศ]
Letter of comfortหนังสือรับทราบภาระหนี้สิน [การบัญชี]
Dependency Ratioอัตราส่วนผู้เป็นภาระต่อผู้รับภาระ, อัตราส่วนผู้เป็นภาระ, อัตราภาวะที่ต้องรับเลี้ยงดู [การแพทย์]
duty of waterduty of water, ชลภาระ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
water dutywater duty, ชลภาระ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
graphic processing unit( GPU)ชิปประมวลผลกราฟิก, อุปกรณ์พิเศษที่สามารถเพิ่มความเร็วในการแสดงผลโดยลดภาระซีพียูในการคำนวณข้อมูลที่จะส่งไปที่จอภาพ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
You want to ruin my practice?คุณต้องการจะทำลายภาระกิจผมใช่ไหม? Basic Instinct (1992)
Your practice?ภาระกิจคุณ? Basic Instinct (1992)
Julie has enough to do as it is and all of her homework.จูลี่มีภาระเยอะแล้ว รวมถึงการบ้านที่ต้องทำด้วย The Cement Garden (1993)
It's not fair to leave it all up to her.คงไม่ยุติธรรมถ้าจะยกภาระทั้งหมดให้เธอ The Cement Garden (1993)
It's illegal to carry it, but-but that doesn't matter, 'cause get a load of this.มันผิดกฎหมายที่จะดำเนินการ แต่ แต่ที่ไม่ได้เรื่องเพราะได้รับภาระนี้ Pulp Fiction (1994)
I don't want to be a burden or a nuisance. It's-ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นภาระหรือรำคาญ It's- Pulp Fiction (1994)
I hate being young. It's a huge burden.ฉันเกลียดการเป็นเด็ก มันเป็นภาระที่หนักหนา Wild Reeds (1994)
I understood the obligation the Lord spoke of to share one's blessings with those less fortunate.ผมเข้าในภาระพระวาจาของพระเป็นเจ้า ในการแบ่งปันความรักให้ผู้ที่ด้อยกว่า Don Juan DeMarco (1994)
Yeah, uh-huh.ใช่ อะ-ฮะ รับภาระ Pinocchio (1940)
Your valet has unpacked for you, I suppose?ฉันว่าเด็กรับใช้ของคุณคงยังไม่ได้ เเกะสัมภาระให้คุณเลยสิท่า Rebecca (1940)
But our luggage. Go down and tell the porter to take everything out of the car.เเต่สัมภาระของเราล่ะ ลงไปบอกเด็กให้เอาของลงจากรถ Rebecca (1940)
Dear, I'll go down and see that your luggage is brought back.ที่รัก ผมจะลงไปข้างล่าง เเละเอาสัมภาระคุณกลับขึ้นมานะ Rebecca (1940)
Nobody has to prove otherwise. The burden of proof's on the prosecution.ไม่มีใครมีที่จะพิสูจน์เป็นอย่างอื่น ภาระการพิสูจน์อยู่ในการดำเนินคดี 12 Angry Men (1957)
Get a load of this guy.- Hey, Deong รับภาระของผู้ชายคนนี้ The Ugly American (1963)
It is therefore our holy duty to put our feet upon it, to enter it, to put the marks of our guns and our wheels and our flags upon it!เพราะฉะนั้นจึงเป็นภาระอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เราจะขจัดความกลัว ที่มีมานาน Beneath the Planet of the Apes (1970)
They got enough to do, just being themselves.เขามีภาระกับตัวเองมากพออยู่แล้ว Oh, God! (1977)
Get a load of that!รับภาระของว่า! Mad Max (1979)
Even if His Majesty could waive all other considerations he has a duty to the millions of his Muslim subjects who are a minority in this realm.แม้ว่าพระองค์จะยกเลิกข้อพิจารณาอื่นได้ แต่ก็ยังมีภาระกิจกับชาวมุสลิมนับล้าน ซึ่งเป็นส่วนน้อยของประเทศนี้ Gandhi (1982)
-From the looks of the luggage, yes.- ดูจากสัมภาระก็น่าจะใช่ Gandhi (1982)
And I would emphasize that I think our first duty is to recognize that there is not one India but several.และข้าพเจ้าขอเน้นว่า ภาระกิจแรกของเราคือ ต้องตระหนักว่ามิใช่มีเพียงอินเดียเดียว แต่หลากหลาย Gandhi (1982)
We have no other obligation.เราไม่มีภาระผูกพันอื่น ๆ 2010: The Year We Make Contact (1984)
what did he mean by that?- ภาระที่ต้องรับ โดยไม่เต็มใจ เริ่มต้นการทดสอบ ผลกระทบจากการปะทะแนวตั้ง เข้ามา Spies Like Us (1985)
when we commissioned the schmectel corporation to research this precise event sequence scenario, it was determined that the continual stockpiling and development of our nuclear arsenal was becoming self-defeating.เราได้จ้าง Schmectel Corp. ทำการวิจัยสถานการณ์โลก สรุปได้ว่า การแข่งกันสะสมอาวุธ และการเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ กลายเป็นภาระอันหนักอึ้ง Spies Like Us (1985)
A covert operation.ภาระกิจแอบแฝง! Mannequin (1987)
I would be happy and proud to lead this mission, sir!ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แบกรับภาระกิจนี้ ครับผม! Mannequin (1987)
Don't worry, Mr. Richards, I'm an expert at surveillance.ไม่ต้องเป็นห่วง, คุณริชาร์ด, ผมเป็นเลิศด้านภาระกิจสะกดรอยตามอยู่แล้ว Mannequin (1987)
If it looks like it's too much for us to handle, terminate him at once!ถ้ามันดูแล้วเป็นภาระมากสำหรับเรา ให้ยับยั้งเขาทันที! Akira (1988)
Ray, I'm unattached. You have a family.- ผมไม่มีภาระ คุณมีครอบครัว Field of Dreams (1989)
How can a face so young wear so many burdens?วิธีใบหน้าหนุ่มเพื่อให้สามารถสวมใส่ภาระมากมาย? Teenage Mutant Ninja Turtles (1990)
When I leave my house, before I get to the car I look over both shoulders.เวลาออกจากบ้าน ก่อนขึ้นรถ ผมมองดูภาระตัวเอง Goodfellas (1990)
I came home and I want what I got to get. I got mouths to feed.ฉันกลับมาและจะเอาสิ่งที่อยากได้ ภาระฉันเยอะ Goodfellas (1990)
Your child doesn't need any additional burdens. Keep in mind, this child is still you.ลูกของคุณไม่ควรมาแบกรับภาระอะไรอีก แล้วก็จำไว้นะ, ลูกของคุณก็คือคุณนั่นแหละ Gattaca (1997)
I'm sorry. He's ill. A little nausea.เสียใจด้วยค่ะ เขาป่วย เวียนหัวนิดหน่อย มันเป็นเรื่องปรกติก่อนภาระกิจเริ่ม Gattaca (1997)
It's a long way to travel with such a heavy load.เดินทางไกลเลยนะ สัมภาระขนาดนั้น Seven Years in Tibet (1997)
You're taking one thing and calling it something else... and just alleviating the responsibility... these people have for their own actions.นายเอาสิ่งหนึ่งไป / แล้วก็ไปเรียกเป็นอีกอย่าง... และเพื่อการแบ่งเบา/ภาระ... ที่พวกเขาแบกกันอยู่ American History X (1998)
We're so hung up on this notion that we have some obligation... to help this struggling black man.เรายึดติดกับความคิด / ที่ว่าเราต่างก็มีภาระ... ในการช่วยเหลือ /เพื่อไอมืดนั่น American History X (1998)
That must keep you busy.ภาระคงท่วมท้น The Man in the Iron Mask (1998)
- Sorry? - l make and I sell soap.ทางสายการบินมีกฏ สำหรับสัมภาระที่เคลื่อนไหวได้-- Fight Club (1999)
Like my plan was to burden the kids with our problems.อย่างที่ว่าไว้ ลูกไม่ควรแบกภาระ ของเรา The Story of Us (1999)
Your Excellency, I'm fully prepared to obey His Majesty's commands within the obligation of my duties.ท่านเพคะ, ฉันเตรียมการอย่างเต็มที่ที่จะเชื่อฟังคำสั่งของพระราชา ภายในภาระหน้าที่ของฉัน Anna and the King (1999)
Not everyone can marry you, Your Majesty.เจ้าจะ ต้องรับภาระเรื่องระเบียบพิธีการทั้งหมด Anna and the King (1999)
But I must borrow it for one last mission.แต่ฉันต้องขอยืมมันไปใช้ ในภาระกิจสุดท้าย Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
It is a burden he should never have had to bear.มันเป็นภาระที่เขา ไม่สมควรที่จะได้รับ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
I will help you bear this burden, Frodo Baggins as long as it is yours to bear.ข้าจะช่วยแบกภาระนี้ โฟรโด แบกกินส์... ...ตราบเท่าที่มันเป็นภาระของเจ้า The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
I'm sorry that you must carry this burden.ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องรับภาระหนักนี้ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
You carry a heavy burden, Frodo.เจ้าแบกภาระที่หนักมากอยู่แล้ว โฟรโด The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
Not while we have strength left. Leave all that can be spared behind.จนกว่าจะไม่มีแรงเหลือ ทิ้งสัมภาระไว้ที่นี่ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
-I had to protect our mission.- เราต้องปกป้องภาระกิจ Frailty (2001)
There is no mission!นี่ไม่ใช่ภาระกิจ Frailty (2001)
It's too load, it disturbs the whole neighborhood. Your mother hates it.เป็นภาระ เสียงดัง รบกวนชาวบ้าน/ แม่แกเกลียดมัน Ken Park (2002)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
แบกภาระ[baēk phāra] (v, exp) EN: shoulder a burden ; shoulder the responsibility
แบ่งเบาภาระ[baengbao phāra] (v, exp) EN: lighten the load ; share the work
การผลักภาระ[kān phlakphāra] (n) EN: incidence
การผลักภาระภาษี[kān phlakphāra phāsī] (n, exp) EN: incidence of taxation
ข้าวของสัมภาระ[khāokhøng sampāra] (n, exp) EN: belongings ; stuff ; materials
ภาระ[phāra] (n) EN: load ; charge ; burden  FR: charge [ f ] ; contenu [ m ]
ภาระ[phāra] (n) EN: responsibility ; duty ; burden ; task  FR: charge [ f ] ; responsabilité [ f ] ; attribution [ f ]
ภาระจำยอม[phārājamyøm] (n) EN: servitude
ภาระการพิสูจน์[phāra kān phisūt] (n, exp) EN: burden of proof
ภาระหนัก[phāra nak] (n, exp) FR: accablement [ m ]
ภาระหน้าที่[phāranāthī] (n) EN: duty ; charge
ภาระผูกพัน[phāra phūkphan] (n, exp) EN: obligation
ภาระรับผิดชอบ[phāra rapphitchøp] (n, exp) EN: accountability
ภาระติดพัน[phāratitphan] (n) EN: responsibility ; obligation  FR: responsabilité [ f ]
ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์[phāratitphan nai asanghārimsap] (n, exp) EN: charge on immovable property
ผู้รับภาระ[phūrapphāra] (n) EN: one carrying a burden ; one who shoulders a burden ; responsibility ; burden bearer
รับภาระ[rap phāra] (v, exp) EN: assume the responsibility ; shoulder
ที่รับสำภาระ[thī rap samphāra] (n, exp) EN: baggage claim  FR: livraison des bagages [ f ]

English-Thai: Longdo Dictionary
travel light(vt) พกของมาน้อย, ไม่เป็นภาระ, ไม่คิดมาก, See also: be relatively free of responsibilities or deep thoughts, Syn. take little baggage

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
accept(vi) รับภาระ, See also: รับช่วง, รับเอา
accept(vt) รับภาระ, See also: รับช่วง, รับเอา
acquit(vt) ทำให้ปราศจากข้อผูกพัน, See also: ทำให้ปราศจากภาระ
beast of burden(n) สัตว์ที่ใช้บรรทุกสัมภาระ, Syn. bearer, donkey, laborer
bounden(adj) ซึ่งผู้มัดหรือเป็นภาระรับผิดชอบ
boxcar(n) รถไฟบรรทุกสัมภาระ
burden(n) ภาระ, Syn. strain
burden(vt) เป็นภาระ
burdensome(adj) ที่เป็นภาระ, Syn. onerous
ball and chain(idm) ภาระสำคัญ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ภาระหน้าที่ในการงาน
be off one's hands(idm) เลิกรับผิดชอบ, See also: หมดภาระ, หยุดรับภาระ, Syn. be on
be on(phrv) รับหน้าที่, See also: รับภาระ, รับผิดชอบ
be upon(phrv) รับหน้าที่, See also: รับภาระ, รับผิดชอบ
bear down on(phrv) ตกเป็นภาระของ, See also: เป็นหน้าที่ของ, ตกอยู่กับ
bear down upon(phrv) ตกเป็นภาระของ, See also: เป็นหน้าที่ของ, ตกอยู่กับ
burden with(phrv) รับภาระ
charge(vt) ทำให้รับหน้าที่, See also: ทำให้แบกรับภาระหน้าที่, มอบหมายให้
charge(n) ภาระ, See also: ความรับผิดชอบ, Syn. burden
charge(vt) รับภาระ
commit to(phrv) มอบ (ภาระหน้าที่, ความไว้วางใจ, คน) ให้อยู่ในอำนาจของ, See also: มอบให้, มอบหมายให้, ส่งให้, Syn. confide to, consign to
disburden of(phrv) ปลดออกจากหน้าที่, See also: เป็นอิสระจากภาระหน้าที่
ease someone out(idm) หมดภาระ, See also: หมดหน้าที่, ปลดออก
encumber with(phrv) กีดขวาง, See also: กั้นขวางด้วย, ถ่วงด้วย, ทำให้เป็นภาระด้วย
fall on(phrv) เป็นหน้าที่ของ, See also: เป็นภาระของ
fall upon(phrv) เป็นหน้าที่ของ, See also: เป็นภาระของ
fling off(phrv) หนีรอดจาก, See also: หลุดพ้น, หมดภาระ, เป็นอิสระจาก สิ่งที่ไม่ต้องการ, Syn. chuck off, shake off, throw off
debark(vi) ยกสัมภาระที่บรรทุกลง (คำทางการ), See also: ปลง, ยกลง, Syn. disembark, unload
disburden(vt) ทำให้ภาระหมดไป, See also: เปลื้องภาระ, Syn. unburden
encumbrance(n) สิ่งกีดขวาง, See also: สิ่งที่เป็นภาระ, Syn. burden, hindrance, impediment
get out(phrv) ปฏิบัติหน้าที่, See also: รับภาระ, Syn. call out
give to(phrv) ยอมรับภาระ (ที่ทำให้ยากจะเป็นอิสระในอนาคต)
go through(phrv) (บางสิ่ง) ผ่านมือ (เพราะภาระหน้าที่)
millstone about one's neck(idm) ภาระ, See also: อุปสรรค
immunity(n) การพ้นจากภาระรับผิดชอบ, See also: การรอดพ้นจากการลงโทษ, Syn. examption, freedom
lade with(phrv) แบกรับ (สิ่งที่หนัก, ภาระหนัก), Syn. load down
load down(phrv) แบกภาระหนัก, Syn. bow down, lade with, load with, weigh down, weight down
load with(phrv) ทำให้รับภาระหนักด้วย, Syn. load down
labor(n) ภาระ, See also: งาน, หน้าที่, Syn. task
labour(n) ภาระ, See also: งาน, หน้าที่, Syn. task
laden(adj) มีภาระหนัก, Syn. burdened, afflicted
lightness(n) การไม่มีภาระหนัก
load(vt) ทำให้หนักใจ, See also: เป็นภาระหนัก, Syn. weight, encumber, Ant. disburden
load(n) ภาระ, See also: หน้าที่, ความรับผิดชอบ, Syn. weight, encumbrance
mission(n) งานที่ได้รับมอบหมาย, See also: ภาระหน้าที่, ภารกิจ, Syn. charge, commission
obligation(n) หน้าที่, See also: ภาระหน้าที่, ความรับผิดชอบ, Syn. duty, responsibility
office(n) หน้าที่, See also: ภาระหน้าที่, Syn. work, duty
onerously(adv) อย่างเป็นภาระ, See also: อย่างยุ่งยาก
overladen(adj) ซึ่งแบกภาระหนักเกินไป
pack horse(n) ม้าซึ่งใช้บรรทุกสัมภาระ
package(n) หีบห่อ, See also: สัมภาระ, Syn. container, pack, packet

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
absorb(แอบซอร์บ, -ซอร์บ') vt. ดูด, รับเอา, ซึม, ทำให้หมกมุ่น, ทำให้สนใจ, กลืน, รับภาระ
accoutrements(อะคู' เทอเมืนทฺ) n. สัมภาระของทหาร (ไม่รวมเสื้อผ้าและอาวุธ)
assignation(แอสซิกเน'เชิน) n. การนัดพบ, การมอบหมาย, ภาระหน้าที่, การบ้านจากโรงเรียน, การโอน (สิทธิ์, ทรัพย์สิน, ดอกเบี้ย, ฯลฯ) , การบรรยาย, Syn. rendezvous, engagement
atlas(แอท'เลิส) n., (pl. atlases, atlantes) สมุดแผนที่, ชุดรวมแผนภาพและตาราง, กระดูกสันหลังส่วนคอที่ค้ำศีรษะ, ชื่อเทพเจ้ากรีกที่ค้ำฟ้าอยู่, คนที่แบกภาระหนักมาก, ชื่อขีปนาวุธขนาดยักษ์ของอเมริกา (book of maps)
bear(แบร์) { bore, borne/born, bearing, bears } vt., vi. ค้ำ, รับ, พยุง, หนุน, แบก, รับภาระ, พบ, ทรงไว้, อดทน, ทาน, ทน, มี, ออกลูก, มีลูก, มีความรู้สึก, ถือ, พัด, พา, กด, ดัน, ให้, แสดง, ไปทาง, วางท่าทาง n. หมี, คนหยาบคาย, คนงุ่มง่าม, ชื่อดาวที่อยู่ทางทิศเหนือ (Great Bear ดาวจระเข้, Little B
blame(เบลม) { blamed, blaming, blames } vt. กล่าวโทษ, ตำหนิ, ประณาม, นินทา, กล่าวร้าย, โยนความผิดให้ -Phr. (be to blame ควรถูกตำหนิ, ควรรับผิดชอบ) n. การตำหนิ, ความรับผิดชอบ, ภาระ, See also: blamer n. blameful adj. ดูblame blameless adj. ดูblame -Conf. put
bounden(เบา'เดิน) adj. จำต้อง, มีภาระหน้าที่, Syn. bound
burden(เบอร์'เดิน) n. ภาระ, น้ำหนักที่แบก vt. บรรจุอย่างหนัก, ทำให้ยุ่งยาก
burdensome(เบอ'เดินเซิม) adj. ยากลำบาก, ยุ่งยาก, เป็นภาระ, Syn. arduous
business(บิซ'ซิเนส) n. ธุรกิจ, การค้า, เรื่องที่ยากลำบาก, เรื่องที่ถือว่าสำคัญและเอาจริงเอาจัง, ธุระ, สถานการณ์, ภาระหน้าที่, การงาน -Id. (mean business) เอาจริง adj. เกี่ยวกับธุรกิจการค้า
carry(แค'รี) { carries, carrying, carries } vt. ขนส่ง, แบก, ลำเลียง, หอบ, หาบ, อุ้ม, ยก, ถือติดตัว, นำติดตัว, นำไปสู่, สะพาย, บรรทุก, ส่ง, แพร่กระจาย, ออกข่าว, ประกอบด้วย, สนับสนุน, ค้ำจุน, ผลักดัน, ยืดได้, รับภาระ, วางตัว, ปฏิบัติ, ยกยอด, โอน, มีไว้ในร้าน. vi. ถือติดตัว, มีกำลังดัน, ดัน, ถู เลขทดตัวทดหมายถึง ค่าที่เกิดจากการบวกตัวเลขตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปในหลักเดียวกัน แล้วได้ผลมากกว่าหรือเท่ากับเลขฐาน ซึ่งจะนำไปบวกกับเลขในหลักถัดไป
charge(ชาร์ดจฺ) vt. บรรจุ, ประจุ, อัดไฟ, ทำให้เต็ม, วางเงื่อนไข, สั่ง, ตักเตือน, แนะนำ, กล่าวหา, ฟ้องร้อง, เรียกเก็บเงิน, โจมตี, เป็นภาระ บันทึกเป็นหนี้ -vi. พุ่งเข้าไป, พุ่งไปข้างหน้า, โจมตี, เรียกเก็บ, หมอบลง (ตามคำสั่ง) -n. การอัดประจุไฟฟ้า, กระแสไฟที่อัด, ปริมาณดินระเบิด, ภาระ
commissariat(คอมมิแซ'เรียท) n. กองตรวจงานในรัสเซีย, วิธีการส่งอาหาร/อุปกรณ์/สัมภาระและอื่น ๆ ไปยังกองทัพ, กองเสบียง, กองเกียกกาย, กรมตำรวจ
cumbersome(คัม'เบอเซิม) adj. ยุ่งยาก, ทำให้ลำบาก, เป็นภาระ, อุ้ยอ้าย, หนัก, ไม่สะดวก, Syn. clumsy
cumbrance(คัม'บรันซ) n. ความลำบาก, ความยุ่งยาก, การรบกวน, ภาระ
disavow(ดิสอะเวา') vt. บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ (การรับภาระ) ., See also: disavowal n. ดูdisavow
disburdenvt. ปลดเปลื้องภาระ vi.เอาของบรรทุกลง, See also: disburdenment, n.
discharge(ดิสชาร์จ') vi., vt., n. (การ) ปล่อย, เอาลง, ขับออก, ทำให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบหรืออื่น ๆ , ปลดจากประจำการ, ปลดจากงาน, ปล่อยกระแสไฟฟ้า, หนังสือหลักฐานการปลดจากภาระหน้าที่, การชำระสะสาง, See also: discharger n. ดูdischarge, Syn. unl
duty(ดิว'ที) n. ภาษี, อากร, หน้าที่, ภาระหน้าที่, ประสิทธิภาพของเครื่อง
easy(อี'ซี) adj., adv. ง่าย, ง่ายดาย, ไม่ลำบาก, สะดวกสบาย, ไม่เข้มงวด, ผ่อนผัน, ไม่เป็นภาระ, สบายอกสบายใจ, ไม่แน่น, ไม่รัด, ไม่เร่งรีบ n. การหยุดพักชั่วคราว. -Phr. (take it easy, go easy ตามสบาย, ไม่ต้องทำงานหนัก), Syn. light, Ant. difficult
efficient(อิฟิช'เชินทฺ) adj. ซึ่งมีประสิทธิภาพ, มีความสามารถ, มีผลต่อ, ซึ่งรับภาระได้อย่างสบาย
exonerate(อิคซอน'เนอเรท) vt. ทำให้ฟื้นจากความผิด, ปลดเปลื้องภาระ, See also: exoneration n. exonerative adj., Syn. acquit
function(ฟังคฺ'เชิน) หน้าที่, การปฏิบัติงาน, ภาระกิจ, งาน, พิธี, บทบาท, ประสิทธิภาพ, การชุมนุมใหญ่, (คณิตศาสตร์) จำนวนที่ขึ้นอยู่กับจำนวนอื่น, ฟังค์ชัน. vi. ปฏิบัติหน้าที่, กระทำ, ใช้ตำแหน่งหน้าที่, Syn. perform, work, do
gear(เกียร์) n., vt. (ใส่) ล้อฟันเฟือง, เฟือง, เกียร์, เครื่องสวม, เครื่องขี่ม้า, เครื่องมือ, อุปกรณ์, เสื้อผ้า, ยุทธสัมภาระ, เสื้อเกราะ vi. สวมใส่พอดี, ใส่ได้พอดี. adj. อัศจรรย์, ดีเยี่ยม
heavy(เฮฟ'วี) adj. หนัก, ขนาดหนัก, ใหญ่มาก, เพียบ, หนา, ดก, อุ้ยอ้าย, จำนวนมาก, มาก, สำคัญมาก, ลึกซึ้ง, รุนแรง (พายุ) , เป็นภาระมาก, ดีมาก
heavy-laden(เฮฟ'วีเลเดิน) adj. บรรทุกหนัก, เพียบ, เหนื่อยมาก, มีภาระมาก, ทุกข์มาก
incubus(อิน' คิวบัส) n., (pl. -bi, -buses) ผีที่เข้ามานอนทับคนที่กำลังหลับ (โดยเฉพาะผีผู้ชายที่เข้าร่วมประเวณีกับผู้หญิงที่กำลังหลับ) , สิ่งที่ครอบงำจิตใจ, ภาระที่หนัก
job(จอบ) { jobbed, jobbing, jobs } n. งาน, ชิ้นงาน, งานจ้าง, งานเหมา, งานปลีกย่อย, ภาระหน้าที่, ตำแหน่งงาน, เรื่องราว, ขบวนการทำงาน, รถยนต์ (แสลง) adj. เกี่ยวกับ, งานหรือธุรกิจเฉพาะอย่าง, ซื้อ ขายหรือจัดการด้วยกัน -Phr. (on thejob ตื่นเต้น, เฝ้าสังเกต) vi. ทำงานเป็นชิ้น ๆ , ทำง
job descriptionn. ลักษณะงาน, ภาระหน้าที่ของงานที่ทำ
laden(เลด'เดิน) adj. มีภาระหนัก, บรรจุของไว้มาก vt. บรรทุก, แบกภาระ
liability(ไลอะบิล'ลิที) n. หนี้, หนี้เงิน, หนี้สิน, ความรับผิดชอบ, ภาระหน้าที่, ด้านลูกหนี้ของบัญชี, ข้อเสียเปรียบ, ความโน้มเอียง, Syn. accountability
lightness(ไลทฺ'นิส) n. ความสว่าง, การมีสีอ่อน, การมีสีซีด, ความเบา, ความแคล่วคล่อง, การไม่มีภาระ, ความเบิกบานใจ, ความอ่อนช้อย, ความเก๋, ความเลินเล่อ,
load(โลด) { loaded, loading, loads } n. ของบรรทุก, น้ำหนักบรรทุก, ระวางน้ำหนักบรรทุก, ภาระ, สิ่งที่เป็นภาระ, น้ำหนักถ่วง, ปริมาณงาน, ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้, อุปกรณ์รับไฟฟ้า, ปริมาณเหล้าที่ทำให้มึนเมา v. บรรทุก, ใส่, ถ่วง, บรรจุ, มอบให้อย่างมากมาย, ลำเอียง, เพิ่มกำลังไฟฟ้า, เพิ่ม adv. มาก, มากมาย
militarise(มิล'ลิทะไรซ) vt. จัดให้มีกำลังทางทหาร อาวุธและสัมภาระต่าง ๆ
militarize(มิล'ลิทะไรซ) vt. จัดให้มีกำลังทางทหาร อาวุธและสัมภาระต่าง ๆ
mission(มิช'เชิน) n. คณะผู้แทน, ภาระหน้าที่ของคณะผู้แทน, คณะทูต, สถานทูต, งานปฏิบัติงานทางทหาร (มักได้รับมอบหมายจากสำนักงานใหญ่) , การเคลื่อนที่หรือการวิ่งสู่เป้าหมายของจรวดขีปนาวุธ, โบสถ์ที่ไม่มีพระอยู่ประจำ, งานมอบหมาย
obligate(ออบ'บลิเกท) vt. เป็นภาระหน้าที่, ให้คำมั่น, ทำให้มีพันธะ, ทำบุญคุณให้, เป็นเกณฑ์, บังคับ, กำหนด, ตกลง. adj. จำเป็น, สำคัญ, See also: obligable adj. obligator n.
obligatory(อะบลิก'กะโทรี, -ทอ'รี, ออบ'ละกะโทรี) adj. เป็นพันธะ, เป็นภาระหน้าที่, จำเป็น, จำต้อง, เป็นข้อผูกพัน., See also: obligatorily adv.
obligor(ออบ'ละกอร์) n. ผู้มีภาระหน้าที่, ผู้ให้กู้ยืม
office(ออฟ'ฟิซฺ) n. สำนักงาน, ที่ทำการ, สถาบัน, ร้านค้า, กระทรวง, กรม, กอง, ตำแหน่ง, การทำงาน, หน้าที่, ภาระหน้าที่, สมรรถนะ, งาน, การบริการ, See also: offices n., pl. ที่ทำงานบ้านในบ้าน เช่นครัวหรือที่ซักหรือรีดผ้า, Syn. function, position
onerous(ออน'เนอรัส, โอ'เนอรัส) adj. เป็นภาระ, ลำบาก, ยากยิ่ง, หนักหน่วง, See also: onerousness n.
onus(โอ'นิส) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ
oppress(อะเพรส') vi. กดขี่, กด, บีบ, บังคับ, เป็นภาระหนัก, ทำให้หนักใจ, ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์, See also: oppressor n., Syn. crush, afflict
ordnance(ออร์'เนินซฺ) ปืนใหญ่, อาวุธยุทโธปกรณ์, สรรพาวุธทางทหาร, กรมสรรพาวุธ, หน่วยงานยุธสัมภาระ, Syn. arms, armaments
ought(ออท) auxv. ควรจะ, ควร n. หน้าที่, ภาระหน้าที่, =aught
outfit(เอาทฺ'ฟิท) n. เครื่องมือทั้งชุด, เสื้อผ้าทั้งชุด, เครื่องแต่งกาย, เครื่องสัมภาระ, หน่วยปฏิบัติการ, บริษัทห้างร้าน, สติปัญญา, การติดตั้งเครื่องมือ. vt., vi. ติดตั้งเครื่องมือ, ติดตั้งสัมภาระ, Syn. gear, rig
outweigh(เอาทฺเว') vt. มีค่าเกิน, มีความสำคัญเกินไป, มีภาระมากเกิน, มีน้ำหนักเกิน, Syn. overshadow
packhorsen. ม้าบรรทุกสัมภาระ
packsaddlen. อานม้าสำหรับใส่สัมภาระบนหลังม้า
prevaricate(พริแว'ริเคท) vi. โกหก, พูดกลับกลอก, พูดหลบหลีก, พูดปัดภาระ, See also: prevarication n. prevaricative adj. prevaricatory adj. prevaricator n.

English-Thai: Nontri Dictionary
absorb(vt) ดึงดูด, ซึมซับ, ดูดกลืน, หมกมุ่น, รับภาระ
bounden(adj) มีภาระ, มีพันธะ, จำเป็น, จำต้อง
burden(n) เครื่องบรรทุก, ภาระ, ใจความ, ส่วนสำคัญ
burden(vt) บรรทุก, เป็นภาระ, สุม(งาน)
burdensome(adj) ยุ่งยาก, ลำบาก, เป็นภาระ, หนักมาก
charge(n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ, ภาระ, ค่าธรรมเนียม, มูลค่า, การฟ้องร้อง
cumbersome(adj) เป็นภาระ, ยุ่งยาก
duty(n) หน้าที่, ภาระหน้าที่, อากร, ภาษี, ความรับผิดชอบ
encumber(vt) เป็นภาระ, กีดขวาง, ทำให้หนักใจ, ทำให้กังวล
encumbrance(n) เครื่องถ่วง, น้ำหนักถ่วง, สิ่งที่เป็นภาระ, เครื่องกีดขวาง
exonerate(vt) ทำให้พ้นจากข้อครหา, ทำให้พ้นจากข้อกล่าวหา, ปลดเปลื้องภาระ
heaviness(n) ความหนัก, ความทึบ, ความดก, ความลำบาก, ภาระ, น้ำหนัก
impediment(n) อุปสรรค, สิ่งกีดขวาง, สัมภาระ
incumbent(adj) เป็นหน้าที่, เป็นภาระ, ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่
incumber(vt) เป็นภาระ, ทำให้เต็มแน่น, ทำให้หนักใจ, ถ่วง
incumbrance(n) ความลำบาก, เครื่องถ่วงความเจริญ, ภาระ, สิ่งกีดขวาง
job(n) การงาน, งานเหมา, งานชิ้น, ภาระหน้าที่
lade(vt) บรรทุก, แบก, รับภาระ
lien(n) ข้อผูกมัด, ภาระ
load(n) ของบรรทุก, เครื่องบรรทุก, ภาระ, การบรรจุกระสุนปืน, น้ำหนักบรรทุก
load(vt) บรรทุกของ, เป็นภาระ, บรรจุกระสุน, ใส่, ถ่วง, ยัด
mission(n) ภาระ, ธุระ, คณะผู้แทน, คณะผู้สอนศาสนา, คณะทูต
obligate(vt) บังคับ, เป็นหนี้บุญคุณ, ผูกมัด, เป็นภาระ
obligatory(adj) เป็นพันธะ, เป็นภาระ
onerous(adj) เป็นภาระ, หนัก, ลำบาก, ยากยิ่ง
oppress(vt) กดขี่, บีบบังคับ, ทำให้เป็นภาระ, ทำให้หนักใจ
oppressive(adj) กดขี่, เป็นภาระ, หนักใจ, อึดอัดใจ, ลำบากใจ
outfit(n) เครื่องมือ, เครื่องใช้, สัมภาระ
outfit(vt) ติดตั้งเครื่องมือ, จัดสัมภาระ
outweigh(vt) มีน้ำหนักเกิน, มีภาระมากเกินไป
overburden(vt) ทำให้เป็นภาระหนัก, บรรทุกหนักเกินไป
purveyance(n) การป้อนเหยื่อ, การจัดหาให้, สัมภาระ, เสบียง
rebuff(n) การปัดภาระ, การขัดขวาง, การปฏิเสธ, การหยุดยั้ง, การขับออก
responsibility(n) ภาระหน้าที่, ความรับผิดชอบ
responsible(adj) รู้จักหน้าที่, รับผิดชอบ, เป็นภาระ
shirk(vt) ปัดภาระ, เลี่ยงหน้าที่, หนีงาน
shoulder(vt) แบก, กระทบไหล่, รับภาระ
surcharge(n) ภาระที่เพิ่มขึ้น, การฟ้องเพิ่ม, การเก็บเพิ่ม, น้ำหนักเกิน
surcharge(vt) เพิ่มภาระขึ้น, ฟ้องเพิ่ม, บรรทุกเกิน, เก็บเพิ่ม
task(n) งาน, ภาระหน้าที่, เรื่องที่ยาก, งานหนัก
tax(n) ภาษี, ภาระหน้าที่
undertaking(n) ภาระ, ธุระ, การจัดงานศพ, งาน, กิจการ
waterproof(n) สัมภาระที่น้ำเข้าไม่ได้, เสื้อกันฝน, ผ้าน้ำมัน
weigh(vt) ชั่งน้ำหนัก, ถ่วง, เป็นภาระหนัก, ลบล้าง, เทียบ
weight(n) น้ำหนัก, การชั่ง, ของหนัก, ภาระ, ความสำคัญ, ลูกตุ้ม, วัตถุ
weight(vt) เพิ่มน้ำหนัก, ถ่วง, เป็นภาระ, เข้าข้าง
weighty(adj) หนัก, สำคัญ, เป็นภาระ, ลำบาก, มีอิทธิพล

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
debt service ratioสัดส่วนภาระหนี้ต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ
encumbranceภาระติดพัน
encumbranceภาระผูกพัน
financial distress(n) (การเงิน) ภาวะที่ประสบความยากลำบาก, หรือไม่สามารถทำตามภาระผูกพันได้ เช่น ไม่สามารถชำระหนี้ที่กู้ไปได้, ความตกต่ำทางการเงิน (จากการมีเงินไม่เพียงพอ), ปัญหาทางการเงิน, ปัญหาที่อาจนำไปสู่การล้มละลาย (กรณีบริษัท) e.g. Member countries face acute financial distress., See also: bankruptcy, recession, depression
Free Carrier ( FCA )การเสนอราคา ที่ผู้ขายจะสิ้นสุดภาระการมอบสินค้าตามสัญญาก็ต่อเมื่อผู้ขายได้จัดสินค้าส่งมอบให้กับผู้รับขนส่ง ณ สถานที่ของผู้รับขนส่ง(เช่น บรรดาบริษัท shipping ต่างๆ) ตามที่ผู้ซื้อระบุไว้เพราะฉะนั้นในการเสนอราคา ผู้ขายก็จะเสนอราคาขาย ที่บวกค่าส่งมอบสินค้าในเบื้องต้นลงไปด้วย
in the weeds(adj, slang) งาน หรือ ภาระต่างๆ ท่วมท้นมากจนทำไม่ทัน ทำให้เครียด, วิตกกังวล
leaseback[ลิซแบ็ค] (n) นิติกรรมซึ่งคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อได้นำทรัพย์สินออกให้ผู้ขายเช่าทันที นิติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์เต็มที่ในทรัพย์สิน แต่ไม่ต้องมีภาระทางการเงิน ส่วนใหญ่มักทำนิติกรรมนี้กันเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี บางทีก็เรียกว่า sale and leaseback

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
負荷過剰[ふかかじょう, fukakajou] (n) การแบกรับภาระมากเกินไป

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
解放[かいほう, kaihou] การปลดเปลืองจากภาระหน้าที่
負う[おう, ou] (adv) แบก(ภาระ เด็ก), รับ(หน้าที่), ได้รับ(บาดเจ็บ), เป็นหนี้

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
業務[ぎょうむ, gyoumu] TH: ภาระหน้าที่  EN: duties
担う[になう, ninau] TH: แบกภาระ  EN: to bear burden

German-Thai: Longdo Dictionary
freihaben(vi) |hatte frei, hat freigehabt| ว่างจากการทำงานหรือการเรียน ว่างจากภาระกิจต่างๆ เช่น Heute hat sie frei, um die Stadt ihren ausländischen Freunden zu zeigen. วันนี้เธอหยุดงานเพื่อที่จะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปชมเมือง
Dienst(n) |der, pl. Dienste| เวรภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ, ช่วงเวลาการทำงาน เช่น Ich bin heute nicht im Dienst. วันนี้ฉันไม่มีเวรทำงาน
auf(prep) |+A เมื่อกริยาบ่งอาการเคลื่อนไหว| บน, ข้างบน เช่น Die Fahrgäste legen ihr Gepäck auf die Gepäckablage. ผู้โดยสารวางสัมภาระบนที่วางกระเป๋า

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top