ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*พึ่ง*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พึ่ง, -พึ่ง-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ฌาณ(n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย

Longdo Dictionary ภาษา มอญ (MNW) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
[kha] (vt, adj) พึ่งพา ไม่เป็นอิสระ

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
พึ่ง(v) depend on, Syn. อาศัย, พึ่งพาอาศัย, Example: ก่อนที่จะพึ่งใคร เราจะต้องช่วยตัวเองก่อน, Thai Definition: อาศัยพักพิง, ขอความช่วยเหลือ
พึ่ง(aux) just now, See also: just, Syn. เพิ่ง, เพิ่งจะ, พึ่งจะ, Example: เขาพึ่งโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้เขาไม่ว่างไปกับพวกเราแล้ว, Thai Definition: คำช่วยกริยาหมายถึงเวลาที่ล่วงไปหยกๆ ในขณะที่พูดนั้น
พึ่งพา(v) depend on, See also: rely on, Syn. พึ่ง, พึ่งพิง, พึ่งพาอาศัย, Example: คนสำคัญในท้องถิ่นที่มีบริวารมาก ผู้คนมักเข้าไปพึ่งพาขอความช่วยเหลือ, Thai Definition: อาศัยพักพิง, ขอความช่วยเหลือ
ที่พึ่ง(n) supporter, See also: protection, sanctuary, shelter, Syn. ที่พึ่งพิง, ร่มโพธิ์ร่มไทร
พึ่งพิง(v) depend on, See also: rely on, Syn. พึ่ง, พึ่งพา, พึ่งพาอาศัย, Example: เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เห็นจะพึ่งพิงได้, Thai Definition: อาศัยพักพิง, ขอความช่วยเหลือ
พึ่งตนเอง(v) rely on oneself, See also: be self-reliance, support oneself, Example: สมัยก่อนชาวนาต้องพึ่งตนเอง โดยทำนา และผลิตสิ่งของที่ครอบครัวต้องกินต้องใช้เอง, Thai Definition: อาศัยตนเอง, ช่วยตนเอง
พึ่งใบบุญ(v) depend on, See also: rely on, count on, Example: ผมก็ได้พึ่งใบบุญของหลวงพ่อที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก, Thai Definition: มาอาศัยขอความช่วยเหลืออยู่ใต้อำนาจหรือบารมี
พึ่งตัวเอง(v) rely on oneself, See also: be self-reliant, Ant. พึ่งคนอื่น, พึ่งผู้อื่น, Example: หากประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว ก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้างประเทศชาติในส่วนรวมได้, Thai Definition: ทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
พึ่งพาอาศัย(v) depend on, See also: rely on, lean on, count on, Syn. พึ่งพากัน, Example: ประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วนั้นต้องพึ่งพาอาศัยทรัพยากรจากประเทศอื่นๆ ด้วย, Thai Definition: ช่วยซึ่งกันและกัน, เป็นที่พึ่งให้กัน
ที่พึ่งสุดท้าย(n) last resort, Ant. ที่พึ่งแรก, Example: เกษตรกรอยากจะมีธ.ก.ส. เป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
ไวยากรณ์พึ่งพา(n) generative grammar
การพึ่งพาอาศัยกัน(n) dependence, See also: reliance, being based on, complementing, Example: การพึ่งพาอาศัยกันเป็นนิสัยของคนไทย

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ที่พึ่งน. ผู้คุ้มครองช่วยเหลือ เช่น พ่อแม่เป็นที่พึ่งของลูก, สิ่งที่อาศัยยึดเป็นหลัก เช่น ได้ตำราเป็นที่พึ่ง, เครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ เช่น ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง.
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าน. การพึ่งพาอาศัยกัน.
พึ่งก. อาศัย เช่น พึ่งบารมีคนอื่น, พักพิง เช่น ไปพึ่งเขาอยู่, ขอความช่วยเหลือ เช่น หนีร้อนมาพึ่งเย็น.
พึ่งจมูกคนอื่นหายใจก. อาศัยผู้อื่นมักไม่สะดวก, ยืมจมูกคนอื่นหายใจ หรือ เอาจมูกผู้อื่นมาหายใจ ก็ว่า.
พึ่งพาก. อาศัยกัน, ช่วยเหลือกัน.
พึ่งพิงก. พักพิงอาศัย.
พึ่งลำแข้งตัวเองก. ช่วยตนเอง, อาศัยลำแข้งตัวเอง ก็ว่า.
พึ่งว. คำช่วยกริยาหมายถึงเวลาที่ล่วงไปหยก ๆ ในขณะที่พูดนั้น เช่น เขาพึ่งไป, เพิ่ง ก็ว่า
พึ่งใช้ประกอบหลังคำ อย่า เป็น อย่าพึ่ง หมายความว่า ห้ามไม่ให้กระทำในขณะนั้น เช่น อย่าพึ่งไป อย่าพึ่งกิน, เพิ่ง เพิก หรือ เพ่อ ก็ว่า.
หนีร้อนมาพึ่งเย็นก. หนีจากที่ที่มีความเดือดร้อนมาอาศัยอยู่ในที่ที่มีความสงบสุข.
กลิ้งเกลือกก. พยายามช่วยตัวเองเท่าที่จะทำได้ เช่น ยากจนก็กลิ้งเกลือกไปตามบุญตามกรรมไม่ขอพึ่งใคร, เกลือกกลิ้ง ก็ว่า.
กลืนเลือดก. กล้ำกลืนความเจ็บแค้นอย่างแสนสาหัส เช่น แม้จะแค้นหัวหน้าพวกเขาก็ยอมกลืนเลือด เพราะยังต้องพึ่งพาหัวหน้าคนนี้อยู่.
การ์ตูน ๒น. ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กทุกชนิดในสกุล <i> Amphiprion</i> วงศ์ Pomacentridae ลำตัวสั้นและแบนข้าง สีเหลือง แสด หรือแดง บางชนิดมีส่วนบนรวมทั้งครีบหลังดำคลํ้า มักมีแถบสีขาวเด่นพาดขวางบนหัวและลำตัว ๑-๒ แนว แล้วแต่ชนิดหรือขนาดบ้างมีสีส้ม พบอาศัยตามแนวปะการัง โดยเฉพาะอยู่กับดอกไม้ทะเลซึ่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทหนึ่งในลักษณะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ขนาดยาวได้ถึง ๑๖ เซนติเมตร.
เกาะชายผ้าเหลืองก. พึ่งพาผลบุญจากผู้ที่บวชเป็นพระภิกษุสามเณร เช่น ถ้ามีลูกชายก็จะได้บวชให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลือง.
ขอเฝ้าน. ข้าพึ่งบุญเจ้า เป็นผู้ชายสำหรับเจ้านายฝ่ายในใช้สอย
โครงการหลวงน. โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานอาชีพทางเลือกใหม่แก่ชาวไทยภูเขาในภาคเหนือ ซึ่งเดิมปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ให้หันมาปลูกไม้ดอก ไม้ผล พืชผักเมืองหนาว และเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อบริโภคและจำหน่าย สร้างรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น ทำให้ลดปัญหายาเสพติด ช่วยพิทักษ์รักษาป่าต้นน้ำ และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน.
ใคร ๒, ใคร ๆ(ไคฺร) ส. ผู้ใดผู้หนึ่ง, คนใดคนหนึ่ง, (ซึ่งมิได้กำหนดแน่นอนลงไป) เช่น ฉันไม่อยากพึ่งใคร ใคร ๆ ก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้.
ง้อก. ขอคืนดีด้วย, ขอพึ่งพาอาศัย.
ชีวาลัยก. ตาย เช่น เพียงศรีอนุชาชีวาลัย จะผินพักตรพึ่งใครก็ขัดสน (ประชุมเพลงยาว ภาคที่ ๗ เพลงยาวความเก่า).
ซมซานก. ไปหาที่พึ่งหรือที่พักพิง เพราะความบอบช้ำ หมดแรงหรือหมดหนทาง เช่น ในที่สุดเขาก็ซมซานกลับบ้านเกิด, ซาน หรือ ซานซม ก็ว่า.
ซานก. ไปหาที่พึ่งหรือที่พักพิง เพราะความบอบช้ำ หมดแรงหรือหมดหนทาง, ซมซาน หรือ ซานซม ก็ว่า.
ซานซมก. ไปหาที่พึ่งหรือที่พักพิง เพราะความบอบช้ำ หมดแรงหรือหมดหนทาง เช่น ในที่สุดเขาก็ซานซมกลับบ้านเกิด, ซาน หรือ ซมซาน ก็ว่า.
เซซังก. เดินซวนเซไปไม่ตรงเหมือนคนเจ็บหรือคนไร้ที่พึ่ง เช่น เขาถูกไล่ออกจากบ้าน ต้องเซซังไปอาศัยวัดนอน
เซซังเที่ยวไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมายไร้ที่พึ่ง เช่น นางจันทร์เทวีอุ้มพระสังข์เที่ยวเซซังไปในป่า.
ดำนาณน. เครื่องห้าม, เครื่องป้องกัน, เครื่องต้านทาน, ที่พึ่ง, ที่อาศัย.
ตนน. ตัว (ตัวคน) เช่น ตนเป็นที่พึ่งของตน
ตรีภพนาถน. ที่พึ่งแห่งภพ ๓, พระพุทธเจ้า, พระอินทร์, ใช้ทั่วไปถึงผู้อื่นด้วย เช่น กษัตริย์ ก็มี.
ตรีโลกนาถ(-โลกกะนาด) น. ที่พึ่งของโลกทั้ง ๓ ทางพระพุทธศาสนาหมายถึง พระพุทธเจ้า.
ตาดำ ๆว. ที่น่าสงสาร, ที่ขาดที่พึ่ง, เช่น เด็กตาดำ ๆ ชาวบ้านตาดำ ๆ.
ตาดำ ๆน. ผู้น่าสงสาร, ผู้ขาดที่พึ่ง, เช่น ขอให้เห็นแก่ตาดำ ๆ เถอะ.
ติดยาเสพติดให้โทษน. เสพเป็นประจำติดต่อกันและตกอยู่ในสภาพที่จำเป็นต้องพึ่งยาเสพติดให้โทษนั้น โดยสามารถตรวจพบสภาพเช่นว่านั้นได้ตามหลักวิชาการ.
ไต่ไม้ลำเดียวก. กระทำการใด ๆ ตามลำพังตัวคนเดียวโดยไม่พึ่งพาอาศัยผู้อื่น อาจพลั้งพลาดได้.
ไตรสรณคมน์, ไตรสรณาคมน์(-สะระนะคม, -สะระนาคม) น. การยึดถือพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกโดยการน้อมนำเอาพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มาเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติ.
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันว. ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน.
ถึง ๑รับนับถือ, ยึดถือ, เช่น ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทฤษฎีใหม่น. หลักวิชาการจัดการเกษตรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดค้นขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง มี ๓ ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นต้น คือ ครอบครัวเกษตรกรรายย่อยบริหารจัดการพื้นที่ทำกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ ส่วน คือ พื้นที่ขุดสระ พื้นที่ปลูกข้าว พื้นที่ปลูกพืชไร่พืชสวน และพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกิดการผลิตที่พออยู่พอกิน ขั้นกลาง คือ รวมเป็นกลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมเพิ่มผลผลิตและจำหน่ายอย่างมีพลังต่อรอง และขั้นก้าวหน้า คือ สร้างเครือข่ายนอกชุมชนเพื่อหาแหล่งทุนมาร่วมลงทุนและพัฒนา ทุกขั้นตอนเน้นความมัธยัสถ์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง.
ที่ไหนคำใช้ในข้อความคาดคะเนว่าคงจะไม่เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ มีความหมายว่า ไฉน, ฉันใด, อย่างไร, เช่น แล้วว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา (อิเหนา).
ทุรนก. เดือดร้อน, ดิ้นรน, เช่น ราชาธิราชอาณา ทั่วสีมามณฑล จะทุรนเดือดแด แปรบเห็นที่พึ่ง (นิทราชาคริต).
เทววาจิกสรณคมน์(ทะเววาจิกะสะระนะคม) น. การเปล่งวาจาถึงรัตนะ ๒ คือ พระพุทธเจ้าและพระธรรมว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก เพราะเวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์ เป็นสรณคมน์ที่ตปุสสะและภัลลิกะกล่าวหลังจากที่ได้ถวายข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงแด่พระพุทธเจ้าในสัปดาห์ที่ ๔ หลังจากตรัสรู้.
ธรรมนาถน. ผู้เป็นที่พึ่งทางธรรม, ผู้รักษากฎหมาย.
นาถ(นาด) น. ที่พึ่ง, ผู้เป็นที่พึ่ง, เช่น โลกนาถ.
นิสัยที่พึ่ง, ที่พักพิง, ที่อาศัย, เช่น ขอนิสัยในการอุปสมบท.
เนรนาถ(เนระนาด) ก. ไม่มีที่พึ่ง, ซัดเซพเนจร, เช่น ก็เนรนาถประพาสพรตยังเขาสิงขรบวรวงกต (ม. ร่ายยาว ชูชก).
ใบบุญน. อำนาจหรือบุญบารมีของผู้อื่นที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง เช่น พึ่งใบบุญผู้ใหญ่.
ปีกกล้าขาแข็งก. พึ่งตัวเองได้, เป็นคำที่ผู้ใหญ่มักใช้กล่าวเชิงตำหนิติเตียนผู้น้อย.
ฝากผีฝากไข้ก. ขอยึดเป็นที่พึ่งจนวันตาย.
เพ่อว. ใช้ประกอบหลังคำ อย่า เป็น อย่าเพ่อ หมายความว่า ห้ามไม่ให้กระทำในขณะนั้น เช่น อย่าเพ่อกิน, พึ่ง เพิก หรือ เพิ่ง ก็ว่า.
เพิก ๑ว. ใช้ประกอบหลังคำ อย่า เป็น อย่าเพิก หมายความว่า ห้ามไม่ให้กระทำในขณะนั้น เช่น อย่าเพิกไป, เพ่อ เพิ่ง หรือ พึ่ง ก็ว่า.
เพิ่งว. พึ่ง. <i> (ดู พึ่ง ๒)</i>.
ไม้ร่มนกจับน. ผู้มีวาสนาย่อมมีคนมาพึ่งบารมี.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
population dependent on agricultureประชากรที่พึ่งเกษตรกรรม [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
patron-client relationshipสัมพันธภาพแบบผู้อุปถัมภ์กับผู้พึ่งพา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
relationship, patron-clientสัมพันธภาพแบบผู้อุปถัมภ์กับผู้พึ่งพา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
rugged individualismปัจเจกนิยมตกขอบ, ปัจเจกนิยมแบบไม่พึ่งใคร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
self-sufficiencyการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจ [ ดู autarky ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
self-supporting personผู้พึ่งตนเอง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
symbiosisภาวะพึ่งพิงซึ่งกันและกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
oxybiontic-ชีวิตพึ่งอากาศ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
autarkyการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจ [ ดู self-sufficiency ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
age dependency ratioอัตราส่วนการพึ่งพิงตามวัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
mutualismภาวะพึ่งพากัน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
context-free grammarไวยากรณ์ไม่พึ่งบริบท [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
context-sensitive grammarไวยากรณ์พึ่งบริบท [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
dependencyภาวะต้องพึ่งพิง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
dependency period incomeเงินได้ระยะพึ่งพิง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
dependency, emotionalภาวะพึ่งพิงทางอารมณ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
dependent๑. ที่ต้องพึ่งพิง๒. ผู้อยู่ในอุปการะ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
dependentผู้พึ่งพิง, ผู้อยู่ในอุปการะ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
dependent stateรัฐในภาวะพึ่งพิง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
dependable computingการคำนวณที่พึ่งได้ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
dependency๑. ภาวะพึ่งพิง๒. เขตสังกัด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
data independenceความไม่พึ่งพิงข้อมูล [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
dependent territoryดินแดนในภาวะพึ่งพิง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
economic dependency ratioอัตราส่วนการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
emotional dependencyภาวะพึ่งพิงทางอารมณ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
independenceความไม่พึ่งพิง, ความไม่ขึ้นกับ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
individualism, ruggedปัจเจกนิยมตกขอบ, ปัจเจกนิยมแบบไม่พึ่งใคร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Dependenceการพึ่งพา [เศรษฐศาสตร์]
Interdependenceการพึ่งพากัน [เศรษฐศาสตร์]
Deinstitutionalizationการลดการพึ่งพิงบริการของรัฐ [TU Subject Heading]
Dependencyทฤษฎีพึ่งพา [TU Subject Heading]
Dependency (Psychology)การพึ่งตนเอง (จิตวิทยา) [TU Subject Heading]
Dependency on foreign countriesการพึ่งพาต่างประเทศ [TU Subject Heading]
Diabetes mellitus, Insulin-dependentเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน [TU Subject Heading]
Diabetes mellitus, Non-insulin-dependentเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน [TU Subject Heading]
Dependencyภาวะพึ่งพิง หรืออัตราส่วนการพึ่งพิง (dependency ratio), Example: ภาวะที่บุคคลต้องพึ่งพิงหรืออยู่ในอุปการะของ ผู้อื่น บุคคลเหล่านั้นเป็นประชากรที่ไม่ทำงานในเชิงเศรษฐกิจ และไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นผู้ที่ได้รับการอุปการะจากผู้ทำงานหาเงิน ได้แก่ แม่บ้าน เด็กในอุปการะ คนชรา รวมทั้งบุคคลผู้รับการสงเคราะห์ หรือรับสวัสดิการสังคมจากรัฐเพื่อการดำรงชีพ อัตราส่วนของผู้อยู่ในอุปการะ (dependent or dependant) ต่อผู้ทำงานหาเงินหรือผู้หาเลี้ยง (earner) คืออัตราส่วนการพึ่งพิง [สิ่งแวดล้อม]
Self-Sufficiency Economyระบบเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้, Example: ความสามารถของเมือง รัฐ ประเทศหรือภูมิภาคหนึ่งๆ ในการผลิตสินค้าและบริการทุกชนิดเพื่อเลี้ยงสังคมนั้นๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้า ข้อได้เปรียบสำคัญของ ระบบเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้คือ ไม่ต้องพึ่งพาสินค้าจำเป็นขั้นพื้นฐานจากประเทศอื่นที่อาจมีราคาแพงเกินไป เมื่อเกิดวิกฤตน้ำมันขึ้นราคาครั้งใหญ่ใน พ.ศ. 2516 ได้กระตุ้นให้มีการค้นหาและผลิตน้ำมันปิโตรเลียมในสหรัฐอเมิรกาและประเทศ ต่างๆ เพื่อให้พึ่งพาตนเองในด้านพลังงานและเชื้อเพลิงได้ ข้อเสียสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบนี้ คือ กระตุ้นให้มีการปกป้องผู้ผลิตในประเทศที่ด้อยประสิทธิภาพ [สิ่งแวดล้อม]
Economic Dependency Ratioอัตราส่วนการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจ, Example: อัตราส่วนของประชากรที่ไม่ทำงานในเชิงเศรษฐกิจ ต่อประชากรที่ทำงานในเชิงเศรษฐกิจ [สิ่งแวดล้อม]
Age Dependency Ratioอัตราส่วนของการพึ่งพิงทางอายุ, Example: อัตราส่วนของประชากรวัยเด็ก และวัยสูงอายุต่อประชากรวัยทำงานทั้งหมด [สิ่งแวดล้อม]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
marginalisation (marginalization)การถูกเบียดตกขอบ สภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่ออนาคตการพัฒนาและเศรษฐกิจของประเทศใด ประเทศหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่มีบูรณาการ (integration) เพิ่มขึ้น สภาพการณ์ดังกล่าวมักถูกมองว่าเกิดขึ้นควบคู่ไปกับโลกาภิวัตน์ และประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีโอกาสเสี่ยงที่จะตกอยู่ใน สภาวการณ์นี้ เนื่องจากประสบความยากลำบากในการปฏิบัติตามพันธกรณีการเปิดเสรีทางการค้า กอปรกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประเทศเหล่านี้พึ่งพาตกต่ำลง [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Aerobic, Obligateต้องพึ่งออกซิเจน [การแพทย์]
Anaerobesแบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจน, บัคเตรีที่เจริญโดยไม่พึ่งออกซิเจน, จุลชีพไม่พึ่งออกซิเจน [การแพทย์]
Anaerobicการพร่องออกซิเจน, ที่ไม่มีออกซิเจน, ที่ไม่มีอากาศ, แอนแอโรบิค, ไม่ต้องการออกซิเจน, ไม่ได้ใช้ออกซิเจน, ไม่พึ่งออกซิเจน, ไม่ใช้ออกซิเจน [การแพทย์]
Antibodies, Cellularแอนติบอดีย์พึ่งเซลล์ [การแพทย์]
Antibodies, Mediatedแอนติบอดีย์พึ่งเซลล์ [การแพทย์]
Dependenceการพึ่งยา, การพึ่งยามากยิ่งขึ้น, การเสพติด, การติดยา [การแพทย์]
Dependence Indicatorตัวชี้บ่งการพึ่งพาอาศัยผู้อื่น [การแพทย์]
Dependence, Physicalการติดทางกาย, การเสพติดยาทางด้านร่างกาย, อาการทางกายเมื่อขาดยา, การพึ่งยาทางร่างกาย [การแพทย์]
Dependency (Psychology)วัยที่ต้องพึ่งพิง, อาการช่วยตัวเองไม่ได้, การพึ่งพาคนอื่น, การติด, การช่วยตัวเองไม่ได้ [การแพทย์]
Dependentพึ่งพาอาศัยผู้อื่น, ชอบพึ่งพาผู้อื่น, ต้องพึ่งพาผู้อื่น [การแพทย์]
Dependent Relationshipความสัมพันธ์แบบพึ่งพาผู้อื่น [การแพทย์]
Dependent Systemระบบพึ่งพิง [การแพทย์]
Dependent, Passiveบุคลิกไปทางแบบต้องพึ่งคนอื่น, คนที่ไม่มั่นใจในตนเองและชอบพึ่งคนอื่น [การแพทย์]
Diabetes Mellitus, Insulin-Dependentเบาหวานชนิดพึ่งอินสุลิน [การแพทย์]
Diabetics, Insulin Dependentเบาหวานที่ต้องพึ่งอินสุลิน [การแพทย์]
Drug-Dependenceการพึ่งยา [การแพทย์]
mutualismภาวะพึ่งพากัน, สภาพความสัมพันธ์แบบหนึ่งของการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์จากการดำรงชีวิตร่วมกัน ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น ไลเคน ซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกันของสาหร่ายและรา เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
lichenไลเคน, สิ่งมีชีวิตสองชนิด ประกอบด้วยสาหร่ายและราอยู่ร่วมกันและมีความสัมพันธ์แบบภาวะที่ต้องพึ่งพา [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Gram-Negative Aerobic Bacteriaแบคทีเรียแกรมลบที่พึ่งออกซิเจน [การแพทย์]
Gram-Negative Anaerobic Bacteriaแบคทีเรียแกรมลบที่ไม่พึ่งออกซิเจน [การแพทย์]
Immune Response, Cell-Mediatedการตอบสนองแบบการพึ่งเซลล์ [การแพทย์]
Immunity, Cell-Mediatedภูมิคุ้มกันชนิดอาศัยเซลล์, ภูมิคุ้มกันที่อาศัยเซลล์, ระบบภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์, ภูมิคุ้มกันที่อาศัยเซลล์เป็นสื่อ, ภูมิคุ้มกันผ่านเซลล์, กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์, ภูมิต้านทานพึ่งเซลล์ [การแพทย์]
Insulin Dependentต้องพึ่งอินสุลินต่อไป, แบบต้องพึ่งอินสุลิน [การแพทย์]
Microaerophillicไม่พึ่งอากาศมาก [การแพทย์]
Motive, Dependencyแรงจูงใจใฝ่พึ่งพา [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
But take care... not to smile at any part of it.แต่พึ่งระวัง จงอย่าได้ยิ้มเยาะกับตอนใดของเรื่อง Wuthering Heights (1992)
I love Edgar and he's dependent on me.ฉันรักเอ็ดการ์ และเขาพึ่งพาฉันอยู่ Wuthering Heights (1992)
But you said no, and that's all right because I don't need ya.แต่นายบอกไม่เอาก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องพึ่งนายก็ได้ Cool Runnings (1993)
Hey, hey, cupcake, don't I get your phone number?เฮ้, เฮ้, คัพเค้ก, อย่าพึ่งไปสิ เบอร์โทรศัพท์คุณล่ะ? Hocus Pocus (1993)
And then last year, when we finally decided to get married, we agreed, love, yes, false dependencies, no.แล้วเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เราตัดสินใจแต่งงานกัน เราตกลงกัน ความรัก... ใช่ การพึ่งพาที่ผิด... The Joy Luck Club (1993)
Sally, I need your help more than anyone's.แซลลี่ ฉันต้องพึ่งความสามารถเธอมากกว่าคนอื่น ๆ เลย The Nightmare Before Christmas (1993)
I thought I could count on you.ผมนึกว่าจะพึ่งครูได้ซะอีก Wild Reeds (1994)
You can't live off your parents your whole life.เร็วสิ เธอพึ่งพ่อแม่ตลอดชีวิตไม่ได้นะ The One Where Monica Gets a Roommate (1994)
You're independent and you always have been.ลูกเป็นคนพึ่งตัวเอง เป็นมาตลอดด้วย The One with the Sonogram at the End (1994)
We're counting on you!เราพึ่งฝีมือคุณ Ace Ventura: When Nature Calls (1995)
I'm not sure that I can rely on Mr. Garrad.ผมไม่แน่ใจว่าผมจะพึ่งคุณการาดได้ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
I know I can count on you.พ่อรู้ว่าพ่อพึ่งคุณได้ พ่อต้องการ... The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
You're right. Things have been quiet in the ghetto lately.คุณพูดถูก ความสงบพึ่งเกิดขึ้น ในชุมชนยิวไม่นานมานี้ The Great Dictator (1940)
We've just discovered the most wonderful poison gas.เราพึ่งค้นพบ แก๊ซพิษที่ดีที่สุดครับท่าน The Great Dictator (1940)
What else can you expect from Hynky?เฮนเคิล พึ่งพาอะไรได้ The Great Dictator (1940)
In a short time, she would have been under morphia.อีกไม่ช้า หล่อนก็ต้องพึ่งมอร์ฟีน Rebecca (1940)
They turn their thoughts to God.พวกเขาหันไปพึ่งพระเจ้า Night and Fog (1956)
-Now, I'm relying on you both.ตอนนี้ฉันต้องพึ่งเธอ 2 คน Beneath the Planet of the Apes (1970)
You going to need an army to beat him!แกต้องพึ่งกองทัพ Blazing Saddles (1974)
And when the beast fails, it's time to call in beauty.เมื่ออสูรล้มเหลว ก็ต้องพึ่งโฉมงาม Blazing Saddles (1974)
Look, we depend on the summer people for our very lives...ฟังนะ เราต้องพึ่งนักท่องเที่ยวหน้าร้อน เพื่อประทังชีวิต... Jaws (1975)
However hopeless, helpless, mixed-up and scary it all gets it can work.อย่างไรก็ตามความหมดหวังไร้ที่พึ่ง ความสับสน ความกลัวอะไรเหล่านั้น Oh, God! (1977)
I told you not to be premature in your communiqué to Berlin.ผมห้ามคุณว่า อย่าพึ่งติดต่อกับ เบอร์ลินก่อนกำหนด. Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981)
Don't fall. I've got an idea.อย่าพึ่งตกนะ. ผมมีความคิดอย่างหนึ่ง. Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981)
#We're friends, and that's what friends are for #เราเป็นเพื่อนกัน และเพื่อนต้องพึ่งพากันได้ An American Tail (1986)
I've been seeing her for over a month now, and all she'll let me do is feel her tits.ฉันคบเธอมาได้เดือนนึงแล้ว แต่พึ่งได้แค่จับนมเธอเอง Stand by Me (1986)
You better pace yourself, if you want to hold out, boy.เธอต้องพึ่งตังเอง ถ้าเธอจะไม่ยอมแพ้ เจ้าหนู Stand by Me (1986)
Harry, this is supposed to be romanticพึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกใช่ไหม Full House (1987)
He began to rely on me. It made me really happyเขาเริ่มที่จะพึ่งพาผม ผมมีความสุขจริงๆ 1999 - Nen no natsu yasumi (1988)
Damn, and my motor coils were just getting warmed up...แย่ล่ะ รถกู พึ่งเริ่มอุ่นเครื่องเอง Akira (1988)
Please don't go.โปรดอย่าพึ่งไป Rambo III (1988)
You must not judge us, before you understand why we are not directed to help.คุณอย่าพึ่งด่วนสรุปเรา ก่อนที่คุณจะเข้าใจว่าNทำไมเราไม่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือ Rambo III (1988)
I know this place. You need me!ผมรู้สถานที่นี่ คุณต้องพึ่งผม Rambo III (1988)
I just halted the spread of neo-fascism in America ...เรย์ ฉันพึ่งสกัดกั้นระบบเผด็จการยุคใหม่ ในอเมริกา คุณกลับพูดเรื่อง... Field of Dreams (1989)
This guy doesn't need us.แต่ชายคนนี้ไม่ต้องพึ่งเรา Field of Dreams (1989)
Just finished reading it myself.พึ่งจะอ่านเสร็จ เมื่อสักครู่ Indiana Jones and the Last Crusade (1989)
Citizens faced with the collapse of local police have taken the law into their own hands.'พลเมืองที่หวังพึ่งตำรวจไม่ได้' 'ทำตัวเป็นมือกฎหมายซะเอง'. Night of the Living Dead (1990)
- I got to go. - We just got here.ฉันต้องไปแล้ว เราพึ่งถึงเอง Goodfellas (1990)
We just got here. What are you doing?เราพึ่งมาถึง นายทำอะไรวะ Goodfellas (1990)
But the first time I realized how different... was when Mickey had a hostess party.แต่ฉันพึ่งรู้ว่ามีอะไรต่างไป ตอนมิคกี้จัดปาร์ตี้สมาคมแม่บ้าน Goodfellas (1990)
It reminds me, I need this knife. I'm taking this, okay?เออพึ่งนึกได้, ฉันขอมีดนี้นะ เอาไปนะ, โอเค? Goodfellas (1990)
They just sold the property to make condominiums.พวกเขาพึ่งขายที่ไป สร้างคอนโด Goodfellas (1990)
I'm gonna tell her you'll go back to her... and it'll be just the way it was when you were first married... your romance, it's gonna be beautiful.จะบอกเธอว่านายจะกลับไป แล้วจะเป็นเหมือนตอน พึ่งแต่งงานกันใหม่ๆ โรแมนติคกับเธอ แล้วมันจะดีขึ้น Goodfellas (1990)
I told you that we're on our own. Forget everybody else. Forget Paulie.เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ลืมทุกคนซะ พอลลี่ก็ด้วย Goodfellas (1990)
- We won't need anybody. - I'm afraid.เราไม่ต้องพึ่งใครทั้งนั้น ฉันกลัว Goodfellas (1990)
- I just got married. - Are you nuts?ฉันพึ่งแต่งงาน นายบ้ารึเปล่า Goodfellas (1990)
It's under her name. I just got married.ใช้นามแม่ฉัน ฉันพึ่งแต่งเมียมา Goodfellas (1990)
Don't do what Frankie and Johnny did. Don't be a moron with the money.อย่าทำเหมือนที่แฟรงค์กี้กับจอห์นี่ทำนะ อย่าพึ่งตื่นเต้นกับเงินนี่ Goodfellas (1990)
What's with you? He ain't ready. I knew you wouldn't be ready.ทำบ้าไรอยู่ พึ่งตื่นนอนสิท่า ฉันว่าแล้ว Goodfellas (1990)
Brings back a lot of memories. Pike's Peak was a pimple then, wasn't it?เหมือนได้ย้อนวันวาน สมัยสิวพึ่งขึ้นเลย ใช่ไหม Goodfellas (1990)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ภาวะพึ่งพา[phāwa pheung phā] (n) EN: mutualism  FR: mutualisme [ m ]
ภาวะที่ต้องพึ่งพา[phāwa thī tǿng pheungphā] (n, exp) EN: mutualism   FR: mutualisme [ m ]
พึ่ง[pheung] (x) EN: just  FR: juste ; à peine
พึ่ง[pheung] (v) EN: rely on ; depend on  FR: compter sur ; dépendre de
พึ่งงาน[pheung ngān] (n, exp) FR: ouvrière [ f ]
พึ่งพา[pheungphā] (v) EN: depend on ; lean on ; rely on ; count on  FR: dépendre de ; compter sur
พึ่งพาอาศัย[pheungphā āsai] (v, exp) EN: depend on ; rely on ; lean on ; count on  FR: avoir recours à
พึ่งพาอาศัยกัน[pheungphā āsai kan] (v, exp) EN: mutually depend on each other
พึ่งพากัน[pheungphā kan] (v, exp) EN: depend on
ทฤษฎีพึ่งพา[thritsadī pheungphā] (n, exp) EN: dependency theory
ไวยากรณ์พึ่งพา[waiyākøn pheungphā] (n, exp) EN: generative grammar

English-Thai: Longdo Dictionary
helpless(adj) ไร้ที่พึ่ง, ขาดที่พึ่งพา
hatchling(n) ตัวอ่อนที่พึ่งฟักออกจากไข่ เช่น นก, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, ปลา และสัตว์เลื้อยคลาน, ลูกเจี๊ยบ
stonefly(n, name) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: plecoptera

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
anchor(n) ผู้ที่สามารถไว้ใจได้, See also: ผู้ที่พึ่งพิงได้
autonomous(adj) ซึ่งอยู่ได้ด้วยตนเอง, See also: ซึ่งพึ่งตนเองได้
bank on(phrv) พึ่งพา, See also: เชื่อถือใน, เชื่อใจใน, Syn. depend on
bargain on(phrv) พึ่งพา, See also: ไว้วางใจใน, เชื่อถือใน, Syn. depend on
build on(phrv) มั่นใจในการทำบางสิ่ง, See also: อาศัย, พึ่งพา บางสิ่งหรือบางคน, Syn. depend on
build upon(phrv) มั่นใจในการทำบางสิ่ง, See also: อาศัย, พึ่งพา, Syn. depend on
commensal(adj) ที่อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน
count on(phrv) พึ่งพา, See also: ไว้วางใจใน, พึ่ง, Syn. depend on
count upon(phrv) พึ่งพา, See also: ไว้วางใจใน, พึ่ง, Syn. depend on
depend on(phrv) ขึ้นอยู่กับ, See also: พึ่งพา
depend upon(phrv) ขึ้นอยู่กับ, See also: พึ่งพา
depend(vi) ขึ้นอยู่กับ, See also: พึ่งพิง, อาศัย, พึ่งพา, Syn. to be contingent on hang upon, centeron
dependence(n) การพึ่งพาอาศัย, See also: การไว้เนื้อเชื่อใจ
dependency(n) การพึ่งพาอาศัย, See also: การไว้เนื้อเชื่อใจ
incipient(adj) ซึ่งพึ่งจะเริ่ม, See also: ซึ่งกำลังตั้งเค้า, ที่กำลังเริ่ม, Syn. beginning, inchoate
independent(n) คนที่พึ่งตนเอง, See also: ผู้เป็นอิสระ, ผู้เป็นเอกราช, ผู้ไม่อยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร, Ant. dependent
interdependence(n) การพึ่งพาอาศัยกัน, See also: การอาศัยซึ่งกันและกัน
interdependent(adj) ซึ่งพึ่งพากัน, See also: ซึ่งถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
interdependently(adv) อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย, See also: อย่างพึ่งพาอาศัยกัน
lean on(phrv) พึ่งพา, See also: ขอความช่วยเหลือจาก
look to(phrv) พึ่งพา, See also: อาศัย, พึ่ง
lean(vi) พึ่งพา, See also: พึ่งพิง, Syn. lean on, depend on
look to(phrv) หวังพึ่ง (ความช่วยเหลือ, คำแนะนำ), See also: คาดหวัง, Syn. rely on, expect, hope
nascent(adj) พึ่งเริ่มใหม่, See also: ยังใหม่อยู่, พึ่งเริ่ม, Syn. beginning, initial, initiatory, Ant. ending, final, terminal
reciprocity(n) การพึ่งพาอาศัยกัน, See also: การแลกเปลี่ยนกัน, Syn. interchange, exchange
recourse(n) การขอความช่วยเหลือ, See also: การพึ่งพาอาศัย, Syn. resort
rely(vi) อาศัย, See also: พึ่งพาอาศัย, Syn. count upon, depend
resort(n) แหล่งพึ่งพิง, Syn. source of help
resort(n) การหันไปพึ่ง, See also: การหันไปอาศัย, การหันไปใช้, Syn. recourse
resort(vt) หันไปพึ่ง, See also: หันไปอาศัย, หันไปใช้, Syn. turn to, utilze
self-contained(adj) ซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับใคร, See also: ซึ่งไม่พึ่งพาใคร, ซึ่งทำเองได้, ซึ่งมีทุกสิ่งที่จำเป็น, Syn. complete, independent, self-sufficient
self-help(n) การรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือตนเอง, See also: การพึ่งพาตนเอง, การกระอิสระ, การแก้ปัญหาด้วยตนเอง, Syn. independence
self-sufficiency(n) ความพึ่งพาตนเองได้
self-sufficient(adj) พอเลี้ยงตัวเองได้, See also: พึ่งพาตัวเองได้, แบบพอเพียง, ซึ่งไม่พึ่งพาใคร, Syn. autonomous, efficient, independent, self-suporting
sponge on(phrv) อาศัย, See also: พึ่งพิง, ยังชีพด้วยค่าใช้จ่ายของคนอื่นโดยไม่ได้รับเชิญ, Syn. spatter on, spatter with, splash over, splash with
stand up for(phrv) พึ่งตัวเอง, See also: เป็นตัวของตัวเอง
undependable(adj) ซึ่งเชื่อถือไม่ได้, See also: ซึ่งพึ่งพาไม่ได้, Syn. unreliable, Ant. reliable, dependable
voluntarism(n) ระบบการบริจาคที่ไม่พึ่งเงินทุนจากรัฐบาล, Syn. voluntraryism

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
autarky(ออ'ทาร์คี) n. ความสามารถพึ่งพาตัวเองได้ของชาติในทางเศรษฐกิจ, นโยบายในการพึ่งตนเองในทางเศรษฐกิจของชาติ., Syn. autarchy -autarkic al adj. -autarkist n.
client(ไคล'เอินทฺ) n. ลูกความ, คนไข้, ลูกค้า, คนซื้อของ, ผู้พึ่งคนอื่น, บุคคลหรือบริษัทที่จ่ายเงินสำหรับสินค้าหรือการบริการ adj. เป็นลูกค้าประจำ, See also: cliental adj. ดูclient ผู้รับบริการ1. ใช้ในเรื่องของข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ LAN หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่สามารถเรียกข้อมูลข่าวสารหรือโปรแกรมจากเครื่องบริการแฟ้ม file server มาใช้ได้ หรืออาจหมายถึงเครื่องที่ทำงานอย่างอิสระ โดยใช้โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องนั้นเองก็ได้ ดู file server ประกอบ2. หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ข้อมูลร่วมกับเครื่องอื่นได้ โดยใช้ระบบ DDE หรือ dynamic data exchange ดู dynamic data exchange ประกอบ
depend(ดีเพนดฺ') { depended, depending, depends } vi. ขึ้นอยู่กับ, อาศัย, อยู่ที่, สุดแล้วแต่, พึ่งพา, แขวนหรือห้อยอยู่, เชื่อถือ
dependable(ดีเพน'ดะเบิล) adj. เชื่อถือได้, พึ่งพาได้, ไว้วางใจได้., See also: dependabilityn., Syn. reliable, Ant. changeable
dependence(ดีเพน'เดินซฺ) n. การพึ่งพา, เมืองขึ้น, สิ่งที่วางใจ., Syn. dependance
dependency n.การพึ่งพา, ผู้อยู่ในความอุปถัมภ์, ส่วนต่อ, ส่วนเสริม, เมืองขึ้น -S.dependancy, dependence
encumbrance(เอนคัม'บรันซฺ) n. สิ่งกีดขวาง, เครื่องถ่วงความเจริญ, ผู้ที่ต้องพึ่งพาคนอื่น , การเรียกร้องสิทธิในทรัพย์ สิน, การติดพัน, Syn. incumbrance
hinge(ฮินจฺ) n., vt. (ใส่) บานพับ, สายยู, หลักการ, จุดสำคัญ, ส่วนที่ปิดพับได้, ทำให้พึ่งพา, ทำให้ขึ้นอยู่กับ, Syn. depend, rest
lean(ลีน) { leaned/leant, leaned/leant, leaning, leans } vi. เอียง, เอน, ลาด, โน้มเอียง, พาดพิง, พึ่งพา. vt. เอียง, เอน, ทำให้เอียง, ทำให้เอน n. การเอียง, การเอน, ส่วนของเนื้อที่มีเนื้อมากกว่ามัน, ส่วนที่ผอม, ส่วนที่ไม่ค่อยมีเนื้อ adj. ผอม, ไม่ค่อยมีเนื้อ, ไม่ค่อยเต็ม, ไม่อุดมสมบูรณ์, ขาดแคลน, ซึ่งมีสารมีสีมากกว่าน้ำมัน
momism(มอม'มิสซึม) n. การพึ่งพาความรักหรือการดูแลของแม่มากเกิน
nascent(แนส'เซินทฺ, เน'เซินทฺ) adj. พึ่งเริ่ม, กำลังเริ่ม, ยังใหม่, See also: nascence, nascency n., Syn. commencing
recourse(รีคอร์ส', รี'คอร์ส) n. การขอความช่วยเหลือ, การหันไปพึ่งพาอาศัยหรือขอความช่วยเหลือ, สิทธิไล่เบี้ย, สิ่งที่หันไปขอความช่วยเหลือ, Syn. resource, resort
refuge(เรฟ'ฟิวจฺ) n. ที่หลบภัย, ที่ปลอดภัย, ที่พึ่ง, ร่มโพธิ์ร่มไทร vt. ให้ที่หลบภัยแก่. vi. หลบภัย, ลี้ภัย
rely(รีไล') vi. ไว้วางใจ, เชื่อใจ, วางใจ, เชื่อมั่น, อาศัย, พึ่งพาอาศัย, Syn. depend confidently
resort(รีซอร์ท') vt. อาศัย, พึ่ง, ใช้, ใช้วิธี, ใช้มาตรการ, ไป, มักไป n. สถานที่ที่ผู้คนไปกันบ่อย, ที่มั่วสุม, ที่มีชื่อเสียง, การไปอยู่เสมอ, การอาศัย, การใช้มาตรการอันใดอันหนึ่ง, สิ่งที่ขอความช่วยเหลือ, ผู้ที่ถูกขอความช่วยเหลือ, Syn. go, use, employ

English-Thai: Nontri Dictionary
defenceless(adj) ไม่มีเครื่องป้องกัน, ไม่มีที่พึ่ง, ไม่สามารถป้องกันตัวเอง
defenseless(adj) ไม่มีเครื่องป้องกัน, ไม่มีที่พึ่ง, ไม่สามารถป้องกันตัวเอง
depend(vi) เชื่อถือ, ไว้ใจ, พึ่งพิง, อาศัย, ขึ้นอยู่กับ
dependable(adj) เชื่อถือได้, ไว้ใจได้, วางใจได้, พึ่งพาได้
dependence(n) ความเชื่อใจ, ความไว้ใจ, การพึ่งพาอาศัย, เมืองขึ้น
dependency(n) ประเทศราช, เมืองขึ้น, การอาศัย, การพึ่งพา
dependent(adj) เป็นผลมาแต่, ขึ้นอยู่กับ, ต้องอาศัย, ต้องพึ่งพา
dependent(n) คนที่คอยพึ่งผู้อื่น, ผู้อาศัย, คนรับใช้
interdependence(n) การพึ่งพาอาศัยกัน
interdependent(adj) พึ่งพาอาศัยกัน
recourse(n) การพึ่งพา, การขอความช่วยเหลือ
refuge(n) ที่พักอาศัย, ที่พำนัก, ที่พึ่ง, ร่มโพธิ์ร่มไทร
resort(vt) ใช้วิธี, พึ่ง, อาศัย, พึ่ง
SELF-self-sufficient(adj) พึ่งตัวเอง, อิสระ, เลี้ยงตัวเอง

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
aquaponicเกษตรผสมผสานพึ่งพากัน ปลูกพืช เลี้ยงปลา แบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน
aquaponic(n) เกษตรผสมผสานแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน เช่น ปลูกพืช ให้เป็นอาหารปลา ปลาขี้ใส่ลงในน้ำกลายเป็นปุ๋ยให้กับพืช
community enterpriseกิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพัน มีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการดังกล่าว เพื่อสร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน
eusociality(n) ระบบสังคมแบบพึ่งพาอาศัย
Stoneflies(n) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: Stonefly, Plecoptera, Stonefly, Syn. Plecoptera
terrarium(n) ธรรมชาติจำลองขนาดเล็กที่สร้างขึ้น ในพื้นที่สิ่งแวดล้อมจำลอง ที่สามารถพึ่งพากันในระบบนั้นๆได้

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
[はしら, hashira] เสา , คนที่เป็นที่พึ่งพิง

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
頼る[たよる, tayoru] TH: พึ่งพิง  EN: to rely
仰ぐ[あおぐ, aogu] TH: หวังพึ่ง

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top