ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พอน, -พอน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ พอน | (n) ivory, See also: creamy yellow, creamed-colour, Syn. พูพอน, Example: พืชในป่าพรุมีการพัฒนาระบบรากแตกต่างไปจากระบบรากของพืชในป่าประเภทอื่นๆ เช่น พัฒนาเป็นพอน รากค้ำยัน และรากหายใจ เป็นต้น, Thai Definition: รากหรือโคนต้นไม้ที่ขึ้นเป็นปีก เป็นสัน เป็นพู หรือเป็นปมที่โคนต้น ซึ่งแผ่ขยายออกไปรอบๆ เพื่อพยุงลำต้น | พังพอน | (n) mongoose, See also: Herpestes javanicus, Example: เมื่อผ่านเข้าไปในดงไม้ เขาพบพังพอนกับงูเห่ากำลังต่อสู้กันบนเนินดินข้างจอมปลวก, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสกุล Herpestes วงศ์ Viverridae ขนหนาสีน้ำตาลหรือเทา หัวแหลม หางยาวเป็นพวง เคลื่อนไหวเร็วมาก กินสัตว์ | สุขภาพอนามัย | (n) health and sanitation, Syn. พลานามัย |
|
| ชันพอน | น. ชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว มีสีเหลืองนวล สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น, ลาพอน ก็ว่า. | พอน ๑ | น. โคนต้นไม้ที่แผ่ขยายออกเป็นปีก เป็นพู หรือเป็นปม เพื่อพยุงลำต้น เช่น พอนตะเคียน พอนมะค่า, พูพอน ก็เรียก. | พอน ๒ | ว. สีเหลืองนวล, เรียกชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว ที่มีสีอย่างนั้น สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น ว่า ชันพอน หรือ ลาพอน. | พอน ๒ | ก. ยาด้วยชันเป็นต้นให้เรียบ เช่น พอนครุ พอนกะโล่. | พอนเรือ | ก. เอานํ้ามันยางชโลมเรือหลังจากตอกหมันแล้ว. | พังพอน | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในสกุล <i> Herpestes</i> วงศ์ Viverridae ขนลำตัวหนาสีนํ้าตาลหรือเทา หัวแหลม หางยาวเป็นพวง เคลื่อนไหวเร็วมาก กินสัตว์ ในประเทศไทยมี ๒ ชนิด คือ พังพอนธรรมดา [ <i> H. javanicus</i> (Geoffroy) ] ตัวเล็ก สีนํ้าตาล และพังพอนกินปูหรือพังพอนยักษ์ [ <i> H. urva</i> (Hodgson) ] ตัวใหญ่สีเทา มีแต้มขาวที่ด้านข้างลำคอ. | พูพอน | <i>ดู พอน ๑</i>. | ลาพอน | น. ชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว มีสีเหลืองนวล สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น, ชันพอน ก็ว่า. | เสลดพังพอน | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด <i>Barleria lupulina</i>Lindl. ในวงศ์ Acanthaceae มีหนามแหลมสีแดงตามข้อ เส้นกลางใบสีแดง ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง. | กลัมพร | (กะลำพอน) น. โทษใหญ่, ความฉิบหาย, เช่น มาทำกลัมพรภัย (เสือโค), อันจ่อมกลัมพรภัย (สมุทรโฆษ), ในบทกลอนโดยมากใช้แผลงเป็น กะลำพร กระลำพร หรือ กระลำ ก็มี. | เกาทุมพร | (-ทุมพอน) น. ผ้าทอด้วยขนสัตว์เนื้อละเอียด เช่น เกาทุมพรแพงค่าควรแสน (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). | คคนัมพร | (คะคะนำพอน) น. ฟ้า. | คัคนัมพร | (คักคะนำพอน) น. ฟ้า. | จตุรพิธพร | (-พิดทะพอน) น. พร ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ใช้ในการให้พร ขอให้มีอายุยืน มีผิวพรรณผ่องใส มีความสุขกายสุขใจ และมีกำลังแข็งแรง. | ตัวผู้ | น. เพศผู้ (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวผู้ เสลดพังพอนตัวผู้ | ตัวเมีย | น. เพศเมีย (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวเมีย เสลดพังพอนตัวเมีย | ทิคัมพร | (-พอน) น. ชื่อนิกายในศาสนาเชน นักบวชนิกายนี้ประพฤติตนเป็นคนเปลือยกาย, คู่กับ นิกายเศวตัมพรหรือเศวตามพร. [ ป., ส. ทิคฺ (ทิศ, ฟ้า) + อมฺพร (เครื่องนุ่งห่ม) = ผู้มีฟ้าเป็นเครื่องนุ่งห่ม หมายความว่า ไม่นุ่งผ้า ]. | ทิฆัมพร | (-พอน) น. ท้องฟ้า. [ ป. ทีฆ + อมฺพร (อากาศ, กลางหาว) ]. | นกุล | (นะกุน) น. พังพอน. | น้ำนอง ๑ | น. ชื่อปลวกหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ ในอันดับ Isoptera ลำตัวสีดำหรือนํ้าตาลแก่ อาศัยอยู่ใต้ดิน เมื่อมีนํ้านองเกิดตะไคร่ขึ้น พอนํ้าลดจะเดินเป็นขบวนเพื่อมากินตะไคร่และคาบไปเลี้ยงตัวอ่อน จึงเห็นตัวเฉพาะในเวลานํ้านอง เช่น ชนิด <i>Hospitalitermes</i> <i>medioflavus</i>Holmgren, <i>H</i>. <i>asahinai</i>Morimoto, <i>H</i>. <i>birmanicus</i> Snyder ในวงศ์ Termitidae. | พร | (พอน) น. คำแสดงความปรารถนาให้ประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น ให้พร ถวายพระพร, สิ่งที่ขอเลือกเอาตามประสงค์ เช่น ขอพร. | โรงพยาบาล | น. สถานที่ให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย คือทั้งตรวจ รักษา และป้องกันโรคให้แก่ประชาชน และมีเตียงสำหรับรับคนไข้เข้าพักรักษาตัวด้วย. | ลูกคู่ | น. คนร้องรับต้นเสียง เช่น ลูกคู่ละครร้อง ลูกคู่ละครรำ, คนร้องรับพ่อเพลงแม่เพลง เช่น ลูกคู่เพลงฉ่อย ลูกคู่ระบำชาวไร่, โดยปริยายหมายถึงผู้สนับสนุน เช่น พอนายพูด ลูกน้องก็รับเป็นลูกคู่. | เศวตัมพร, เศวตามพร | (สะเหฺวตำพอน, -ตามพอน) น. ชื่อนิกายในศาสนาเชนหรือเดียรถีย์นิครนถ์ นักบวชนิกายนี้ประพฤติตนเป็นผู้นุ่งห่มผ้าขาว, คู่กับ นิกายทิคัมพร. | สถาพร, สถาวร | (สะถาพอน, -วอน) ว. ยืนยง, มั่นคง, เช่น ขอให้มีความสุขสถาพร สถิตสถาพร. | สมพง | น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด <i>Tetrameles nudiflora</i> R.Br. ในวงศ์ Datiscaceae ชอบขึ้นริมนํ้า โคนต้นเป็นพอนแผ่กว้าง เปลือกสีเทาหรือเทาแกมนํ้าตาลเลื่อมเป็นมัน ใบมน ทิ้งใบหมดต้นในฤดูร้อน เนื้อไม้อ่อนเบา ใช้ทำก้านไม้ขีดไฟ เรือขุด และฝ้าเพดานได้, กะพง ก็เรียก. | สยมพร | (สะหฺยมพอน) น. พิธีเลือกคู่ของกษัตริย์สมัยโบราณ | สยัมพร | (สะหฺยำพอน) น. สยมพร, สยุมพร หรือ สวยมพร ก็ใช้. | สยุมพร ๑ | (สะหฺยุมพอน) น. สยมพร, สยัมพร หรือ สวยมพร ก็ใช้. | สลุมพร | (สะหฺลุมพอน) น. ปลาเนื้ออ่อน, บางทีเขียนเป็น สลุมพอน ก็มี เช่น ไอ้บ้าปลาสลุมพอน ผักพร้าเบี้ยแลหนวดพราม (ประพาสธารทองแดง). | สุภร | (-พอน) ว. เลี้ยงง่าย. | หมาหริ่ง | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด <i>Melogale personata</i> Geoffroy ในวงศ์ Mustelidae ขนาดไล่เลี่ยกับพังพอนแต่หางสั้นกว่า ขนลำตัวหยาบแข็ง สีน้ำตาลอมเทาถึงดำ หน้าสั้นค่อนข้างแหลม หัวสีดำมีแถบขาวระหว่างตา กลางหัวมีแถบขาวพาดไปจนถึงกลางหลัง ส่วนคิ้วใต้ตา คอ และหูด้านในสีขาว ขาสั้น ฝ่าตีนกว้าง เล็บยาว โค้งปลายแหลมเหมาะสำหรับขุดดินและป่นต้นไม้ ออกหากินในเวลากลางคืน กินสัตว์ขนาดเล็ก. | อัมพร ๑ | (-พอน) น. ฟ้า, ท้องฟ้า, อากาศ | อาภรณ์ | (-พอน) น. เครื่องประดับ, บางทีก็ใช้เป็นส่วนท้ายของคำสมาส เช่น พัสตราภรณ์ = เครื่องประดับคือเสื้อผ้า สิราภรณ์ = เครื่องประดับศีรษะ คชาภรณ์ = เครื่องประดับช้าง พิมพาภรณ์ = เครื่องประดับร่างกาย ในคำว่า ถนิมพิมพาภรณ์ ธรรมาภรณ์ = มีธรรมะเป็นเครื่องประดับ. | อุทุมพร | (-พอน) น. ชื่อมะเดื่อชนิดหนึ่ง. <i> (ดู มะเดื่อ)</i>. | แอ่ง | น. ที่ซึ่งลาดลึกลงไปพอนํ้าขังได้. |
| | Hydroponics | ไฮโดรพอนิกส์ หรือการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน, Example: <p>ไฮโดรพอนิกส์ (hydroponics) คือ การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยให้รากแช่อยู่ในน้ำที่มีธาตุอาหารพืชละลายอยู่ และส่วนลำต้นและส่วนอื่นๆ จะอยู่เหนือระดับสารละลาย โดยมีวัสดุพยุงไว้อย่างเหมาะสม <p> <p>เทคนิคการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์มีการพัฒนาขึ้นหลายรูปแบบโดยแต่ละรูปแบบมีวิธีปลูก วัสดุปลูก และการให้สารละลายธาตุอาหารพืช และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน เทคนิคที่นำมาใช้ในเชิงการค้ามีเพียง 6 รูปแบบดังนี้ <p> <p>1. เทคนิคการให้อากาศ เป็นเทคนิคเก่า มีการให้อากาศโดยใช้เครื่องเป่าลมหรืออากาศ การให้ออกซิเจนลงในน้ำจะคล้ายกับการให้อากาศในตู้เลี้ยงปลา เทคนิคนี้ไม่มีการหมุนเวียนของน้ำหรือสารละลาย <p>2. เทคนิคน้ำหมุนเวียน เทคนิคนี้มีหลักการคล้ายเทคนิคการให้อากาศแต่จะต่างกันคือ การให้ออกซิเจนลงในน้ำอาศัยการไหลเวียนของน้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืช <p>3. เทคนิคเอ็นเอฟที (Nutrient Flow Technique, NFT) เป็นเทคนิคที่มีน้ำหรือสารละลายไหลเวียน มีหลักการว่ารากพืชจะต้องแช่อยู่ในรางแบนๆ ที่มีความลาดเอียงร้อยละ 1 - 3 และมีน้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืชไหลผ่านเป็นชั้นแผ่นผิวบางๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อรากจะได้รับความชื้นและออกซิเจนที่เหมาะสม <p>4. เทคนิคฉีดพ่นราก เป็นเทคนิคที่มีน้ำหมุนเวียน รากพืชไม่ได้แช่ในน้ำหรือสารละลายแต่ยกลอยขึ้นในตู้ปลูกที่เป็นห้องมืดและรักษาความชื้นด้วยละอองน้ำจากหัวฉีดที่วางเป็นระยะๆ <p>5. เทคนิคปลูกพืชเพื่อเลี้ยงสัตว์ เป็นเทคนิคการปลูกพืชเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง จะปลูกในตู้ปลูกที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อม ให้น้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืชด้วยน้ำหมุนเวียนโดยการฉีดเป็นละอองฝอยให้ทั่วกระบะหรือใช้วิธีน้ำหยด <p>6. เทคนิควัสดุปลูก เป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมาก มีการลงทุนต่ำกว่า ดูแลง่ายกว่า และสามารถปลูกพืชที่มีอายุยาวได้ดีกว่าการปลูกด้วยเทคนิคที่ใช้น้ำหรือสารละลาย วัสดุปลูก ได้แก่ วัตถุต่างๆ ที่เลือกมาใช้ปลูกพืชแทนการใช้ดินและสามารถทำให้พืชเจริญเติบโตได้เป็นปกติ วัตถุดังกล่าวอาจเป็นอินทรียวัตถุคือ วัตถุที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต เช่น กาบมะพร้าว ชานอ้อย แกลบ หรือเป็นอนินทรียวัตถุคือ วัตถุที่ได้มาจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กรวด ทราย <p> <p>ข้อดีของการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์คือ <p> <p>1. สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ เช่น พื้นที่ที่มีภูเขาสูงชัน เป็นทะเลทราย หรือในพื้นที่ที่มีสภาพดินที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เช่น ดินเปรี้ยวจัด เค็มจัด <p>2. ใช้น้ำและปุ๋ยได้อย่างประหยัด ไม่สูญเสียน้ำและปุ๋ยจากการไหลทิ้ง และยังสามารถนำปุ๋ยกลับมาใช้ได้อีก <p>3. ใช้แรงงานในทุกขั้นตอนน้อยกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา <p>4. สามารถปลูกพืชให้หนาแน่นได้มากกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา เพราะมีระบบการให้สารละลายธาตุอาหารที่เพียงพอ นอกจากนี้การปลูกพืชสามารถทำได้ทันทีหลังเก็บผลผลิตโดยไม่ต้องรอการเตรียมแปลงปลูก <p>5. สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมต่างๆ ของรากได้ดีกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้ได้พืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง <p> <p>ข้อเสียของการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์คือ <p> <p>1. มีการลงทุนสูงกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดามาก เช่น ต้องใช้เทคโนโลยีสูง ต้องใช้น้ำที่สะอาด รวมทั้งต้องใช้โรงเรือนที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ <p>2. ต้องใช้ประสบการณ์และการดูแลเอาใจใส่มากกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา <p>3. หากแก้ไขการขัดข้องของกระแสไฟฟ้าหรือการชำรุดของเครื่องมือไม่ทันจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตรวมถึงการตายของพืช <p>4. มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในน้ำสูงเพราะโรคพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดกับรากสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในน้ำ <p>5. ไม่สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้และยังทำให้พืชขาดจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืชบางชนิดในดิน <br> <br>แหล่งข้อมูล<br> วัฒนา เสถียรสวัสดิ์. (2553). ไฮโดรพอนิกส์. ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (เล่มที่ 27, หน้า 132-163). กรุงเทพฯ : โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Orthosiphon | อรโทสิพอน [TU Subject Heading] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Anemia, Pernicious | โรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง, โรคโลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, โรคเลือดจางอย่างร้าย, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางแบบร้าย, โลหิตจางร้ายแรง, โรคโลหิตจาง, โลหิตจางชนิดเพอนิเซียส, โรคโลหิตจางเพอร์นีเชียส, โรคโลหิตจางอย่างร้ายแรง, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางอย่างร้าย, เปอร์นิเซียสอะนีเมีย, โลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, เลือดจางเปอร์นิเชียส [การแพทย์] | Barleria Lupulna | เสลดพังพอน [การแพทย์] | Basfapon | บาสฟาพอน [การแพทย์] | Cerebellopontine Angle | ซีรีเบลโลพอนไตน์แองเกิล, สมองเซเรเบลโลพอนไตแองเกิลแอ่งระหว่างสมองเล็กกับพอนส์ [การแพทย์] | Cerebellopontine Angle, Tumors of | ทูเมอร์ของแอ่งระหว่างสมองเล็กและพอนส์ [การแพทย์] | Concentration, Maximum Allowable | ขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์] | Dalapon | ดาลาพอน [การแพทย์] | Dowpon | ดาวพอน [การแพทย์] | Limit Value, Threshold | ขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์] | Mental Health Indicators | ตัวชี้บ่งสุขภาพอนามัยทางจิต [การแพทย์] | Myelinolysis, Central Pontine | โรคเซนตราลพอนตีนไมอีลิโนไลซีส, การสลายตัวของเยื่อหุ้มประสาทส่วนพอนตีน [การแพทย์] |
| That should be enough. | นั่นน่าจะพอนะ Junior (1994) | You finally do it, and what do you get? Attitude and insults. | พอนายเป็นแล้วผลออกมาเป็นยังไงล่ะ โมโหกับมาว่าเรา Junior (1994) | Ouda, don't just stand there. Throw me a spear! | และความว่องไวของพังพอน Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | I have been advised by my department that I can take a train from here to Pontypridd. | ผมได้คำแนะนำ จากแผนกของผมว่าผมขึ้นรถไฟจากนี่ ไปพอนไทพิดได้ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Well, could we possibly then have 2 first-class second-class tickets to Pontypridd? | ถ้างั้นเราขอซื้อตั๋วชั้นหนึ่งสองใบ ชั้นสองสองใบไปพอนไทพิดด้วย The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | I сhased a рoleсat uр a tree Way out uрon a limb | ฉันไล่พังพอนขึ้นต้นไม้ วิธีการออกบนกิ่งไม้ Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | I've had enough of this. | ฉันเคยพอนี้ Pinocchio (1940) | -Jerry, this is Mr, Fernando Ponce. | นี่คุณเฟอนานโด้ พอนเซค่ะ Oh, God! (1977) | Mr, Ponce, as I said, is an expert at eyewitness sketches for the LA Police Department. | คุณพอนเซเป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่แผนกสเก๊ตช์ภาพพยาน จากกรมตร.แอลเอค่ะ Oh, God! (1977) | We've bred an army of anarchists but not one group that can fight the British anywhere. | เรามีกองทัพอนาธิปไตย แต่ไม่มีกลุ่มไหนเลย ที่จะต่อสู้พวกอังกฤษได้จริงๆ Gandhi (1982) | You're smart enough. | นายก็ฉลาดพอนี่ Stand by Me (1986) | If you're lucky, sure | ก็ถ้าลูกโชคดีพอนะ My Neighbor Totoro (1988) | I want to pay him a visit. I understand you can show me the way. | งั้นผมคงต้องไปเยี่ยมเขาหน่อย และผมคิดว่า คุณคงจะพอนำทางไปได้ Gattaca (1997) | I mean...well.... 40... 40 grand. | แต่สัก 4 หมื่นก็น่าจะพอนะ 4 หมื่นแล้วกัน The Jackal (1997) | Convinced him we need a new security system. | ชวนเขาติดระบบเตือนภัยใหม่ พอนึกออกมั้ย Nothing to Lose (1997) | Yeah, I guess, but, I mean, I thought you'd be happy. | เข้าใจ ฉันพอนึกออก แต่ ฉันหมายถึง / ฉันคิดว่านายน่าจะมีความสุข American History X (1998) | My mother scared him off and she married a Du Pont. | แม่ฉันไล่เขาไปไกลๆ เขาเลยไปแต่งงานกับพวกดู พอนท์ Dark Harbor (1998) | What's a " Du Pont"? | อะไรคือพวกดู พอนท์ Dark Harbor (1998) | -From Spawn Ranch. | - จาก สพอน เรนช์ The Story of Us (1999) | Mine. 1970 Pontiac Firebird, the car I've always wanted, and now I have it. | รถผมไง 1970 พอนเทียค ไฟร์เบิร์ด รถที่ผมฝันถึงมาตลอด ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของมันแล้ว American Beauty (1999) | Then we're not very good lawyers. | ก็แปลว่าเราไม่เก่งพอน่ะสิ Legally Blonde (2001) | Because even when I think you're whacked, I show up ready to rumble. | ก็เพราะฉันคิดว่านายคงบ้าๆ บอๆ พอนะสิ X-Ray (2001) | He's just trying to weasel his way out of the crime. | เขาก็พยายามที่จะพังพอนทางของเขาออกมาจากความผิดทางอาญา Showtime (2002) | This is not just the fault of the professional | ก้อมันยังไม่ดีพอน่ะสิ Sex Is Zero (2002) | (Pointer Sisters: | (วงพอน์ยเทอร์ ซิสเตอร์ : Love Actually (2003) | (Portuguese) This stuff better be good. | หวังว่างานพวกนี้คงจะดีพอนะ Love Actually (2003) | But yesterday, something popped into my head | แต่เมื่อวาน ดูเหมือนฉันจะพอนึกอะไรออกบ้าง Uninvited (2003) | - I hope I have enough places. | - แม่หวังว่าเก้าอี้น่าจะพอนะ. Toy Story (1995) | Yeah, I think that's gonna be enough. | - สี่. เย้, แม่คิดว่าน่าจะพอนะ. Toy Story (1995) | I guess, uh, this is it. | ผมว่า ส่งแค่นี้ก็พอนะ Wicker Park (2004) | Dad, the damn mongoose got in the garbage again! | พ่อ ไอ้พังพอนเวรนี่มาอยู่ในถังขยะอีกแล้ว 50 First Dates (2004) | This is Polly Perkins. She'll be coming with us. | นี่คุณ พอลลี่ เพอน์กิ้นส์ เธอมากับเราด้วย Sky Captain and the World of Tomorrow (2004) | We're in the suburbs. | สภาพอนันต์มีอยู่ทุกที่ I Heart Huckabees (2004) | - Right. | บอกแล้วเขายังไม่พร้อม สำหรับสภาพอนันต์ I Heart Huckabees (2004) | And that means you are the source instead of part of the infinite. | ซึ่งหมายถึงคุณเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสภาพอนันต์ I Heart Huckabees (2004) | You go running to Gwen, Marc comes running to me. | พอนายได้เกวน มาร์คก็เป็นของฉัน เริ่ดจริงๆ Eating Out (2004) | But once the water's gone, then you'll be all muscle. | แต่พอน้ำหายไปหมด ก็จะมีแต่กล้ามเนื้อ. Mean Girls (2004) | When it finally exits on the B end... it's traveled an odd number of forward and backward trips. | จนในที่สุดมันก็มาโผล่ที่ปลาย B พอนับจำนวนที่มันเคลื่อนที่ระหว่างสองจุด ก็ได้เป็นเลขคี่แน่ๆ Primer (2004) | I had to take a taxi home. But when we go, we'll be able to use your truck. | ทุกทีฉันต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้าน แต่พอนายมาด้วยก็เลยใช้รถนายแทนได้ Primer (2004) | Hours aren't gonna be enough. | เป็น ชม. คงไม่พอน่ะครับ Love So Divine (2004) | Well, it's not a very strong drink. | ก็มันไม่แรงพอน่ะ Pilot: Part 1 (2004) | - Robot City? You're just a kid. | - โรบ็อทซิตี้ ลูกยังไม่โตพอนะ Robots (2005) | You mean, Prince Pondicherry? | เจ้าชายพอนดิเชอรี่เหรอ? Charlie and the Chocolate Factory (2005) | Well, Prince Pondicherry wrote a letter to Mr. Wonka and asked him to come all the way out to India and build him a colossal palace entirely out of chocolate. | เจ้าชายพอนดิเชอรี่ได้เขียนจดหมายถึงวิลลี่วองก้า ขอร้องให้เขาเดินทางไปที่อินเดีย ช่วยสร้างปราสาทและพระราชวังที่ทำจากช็อกโกแลตทั้งหมด Charlie and the Chocolate Factory (2005) | You make the first team. Santi. Next season... | พอนายติดทีมชุดใหญ่ฤดูกาลหน้า Goal! The Dream Begins (2005) | Yeah, it's a 1980 Pontiac Trans Am two-door hardtop. | นี่พอนทิแอค ทรานส์แอมปี 1980 สองประตู หลังคาแข็ง The Perfect Man (2005) | Fellows, we're not a sports bar, but one free beer on the house... but that's it. | หนุ่มๆ นี่ไม่ใช่บาร์กีฬานะ แต่เราเลี้ยงเบียร์ฟรีหนึ่งแก้ว - แต่แค่นั้นพอนะ The Perfect Man (2005) | You'd always know how each story was going to end half way through every book. | ทุกเรื่องพอนายอ่านไปได้ครึ่งเรื่อง นายก็เดาได้หมดแล้ว Lonesome Jim (2005) | But that's hardly... | ของแค่นั้นไม่น่าจะพอนะ Always - Sunset on Third Street (2005) | Look, Matt, I really don't have time for this right now. | ฟังนะ แมตต์ ฉันไม่มีเวลาพอนะ American Pie Presents: Band Camp (2005) |
| พังพอน | [phangphøn] (n) EN: mongoose FR: mangouste [ f ] | พังพอนกินปู | [phangphøn kin pū] (n, exp) EN: Crab-eating Mongoose | พังพอนเล็ก | [phangphøn lek] (n, exp) EN: Small Asian Mongoose | พังพอนธรรมดา | [phangphøn thammadā] (n, exp) EN: Small Asian Mongoose | เพียงพอน | [phīengphøn] (n) EN: weasel FR: belette [ f ] | เพียงพอนเล็กสีน้ำตาล | [phīengphøn lek sī nāmtān] (n, exp) EN: Malayan Weasel | เพียงพอนเหลือง | [phīengphøn leūang] (n, exp) EN: Siberian Weasel | เพียงพอนเส้นหลังขาว | [phīengphøn sen lang khāo] (n, exp) EN: Back-striped Weasel | สุขภาพอนามัย | [sukkhaphāp anāmai] (n, exp) EN: health and sanitation FR: santé et hygiène [ f ] |
| meerkat | (n) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งอยู่ตระกูลเดียวกับพังพอน มีหางยาว และอยู่เป็นฝูงตามแถบทะเลทรายในแอฟริกาใต้, See also: mongoose |
| | capon | (เค'พอน) n. ไก่ตอน | correspond | (คอรีสฺพอนดฺ') { corresponded, corresponding, corresponds } vi. ตรงกัน, ลงรอยกัน, เหมือนกับ, มีลักษณะเช่นเดียวกัน, ติดต่อกันทางจดหมาย, Syn. agree, Ant. differ | correspondence | (คอริสพอน'เดินซฺ) n. การติดต่อกันทางจดหมาย, ความตรงกัน, ความลงรอยกัน, ความสอดคล้องกัน, ความเหมือนกัน, Syn. agreement, conformity | correspondent | (คอริสพอน'เดินทฺ) n. ผู้ติดต่อกันทางจดหมาย, ผู้ส่งจดหมาย, นักข่าว, สิ่งที่เป็นคู่กัน, สิ่งตรงกัน, บุคคลหรือบริษัทที่ติดต่อกัน, ลูกค้า adj. ซึ่งตรงกัน, ซึ่งลงรอยกัน, ซึ่งเหมือนกัน, Syn. corresponding | corresponding | (คอริสพอน'ดิง) adj. ตรงกัน, เหมือนกัน, สอดคล้องกัน, ลงรอยกัน, เกี่ยวกับการติดต่อทางไปรษณีย์, เกี่ยวกับการส่งจดหมาย | coupon | (คู'พอน) n. บัตร, บัตรควบ, ตั๋ว, ตั๋วที่ฉีกได้, ใบแนบโฆษณา, บัตรปันส่วน บัตรแลกสินค้า, บัตรลดราคา | despond | (ดิสพอนดฺ') vt. เศร้าโศกเนื่องจากความหมดหวังหรือหมดกำลังใจ, See also: desponder n., Syn. despair | despondence | (ดิสพอน'เดินซี, -เดินซฺ) n. ความหดหู่ใจ, ความท้อแท้, Syn. dejection, Ant. cheedrfulness | despondency | (ดิสพอน'เดินซี, -เดินซฺ) n. ความหดหู่ใจ, ความท้อแท้, Syn. dejection, Ant. cheedrfulness | despondent | (ดิสพอน'เดินทฺ) adj. หมดหวัง, ท้อแท้ใจ, หดหู่ใจ, Syn. depressed | ferret | (เฟอ'ริท) n. สัตว์คล้ายพังพอน มีสีขาว-ตาแดง-ใช้ไล่กระต่ายและหนูออกจากรู vt. ขับออก, ไล่ออก, ล่าสัตว์โดยใช้ferret, ค้นหา, สืบหา., See also: ferreter n. ferrety adj. | irresponsible | (เออริสพอน'ซะเบิล) adj. ไม่รับผิดชอบ, ขาดความรับผิดชอบ., See also: irresponsibility, irresponsibleness n. irresponsibly adv., Syn. irresolute | marten | (มาร์'เทิน) n. สัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายพังพอน | mongoose | (มอง'กูส, มอน'กูส) n. พังพอน | nippon | (นีพอน', นิพ'พอน) n. คำญี่ปุ่นที่หมายถึงญี่ปุ่น | nipponese | (นิพ'พอนีซ, นิพอนนีส') n., adj. เกี่ยวกับญี่ปุ่น, ชาวญี่ปุ่น pl. Nipponese | outlook | (เอาทฺ'ลุค) n. ภาพ, ทัศนียภาพ, ช่องหรือหอสังเกตการณ์, ทัศนะ, การภายหน้า, ภาพอนาคต, ท่าทาง, การมอง, การสังเกต | paunch | (พอนชฺ) n. ท้อง, พุง, ท้องน้อย | paunchy | (พอน'ชี) adj. พุงโต, พุงพลุ้ย, See also: paunchiness n. | pawn | (พอน) vt. จำนำ, จำนอง. n. เจ้าของโรงรับจำนำ, เบี้ยหมากรุก, ม้ารับใช้, เครื่องมือ, ลูกมือ | pawnbroker | (พอน'โบรคเคอะ) n. เจ้าของโรงรับจำนำ, See also: pawnbroking, pawnbrokage, pawnbrokery n. | pawnshop | (พอน'ชอพ) n. โรงรับจำนำ | pernicious | (เพอนิซ'เชิส) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย, ถึงตาย, ร้ายแรง, ร้ายกาจ, See also: perniciousness n. | pernickety | (เพอนิค'คิที) adj. จู้จี้, ชอบฟื้นฝอยหาตะเข็บ, ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง, See also: perniciousness n., Syn. deadly | pond | (พอนดฺ) n. บ่อน้ำ, สระน้ำ, หนองน้ำ | ponder | (พอน'เดอะ) vi., vt. ครุ่นคิด, คำนึง, ไตร่ตรอง, พิจารณา. | ponderable | (พอน'เดอระเบิล) adj. น่าพิจาร-ณา, ไตร่ตรองได้., See also: ponderability n. | ponderance | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง | ponderancy | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง | ponderous | (พอน'ดะเริส) adj. หนัก, อุ้ยอ้าย เทอะทะ, งุ่มง่าม, ยืดยาด, ทื่อ., See also: ponderousness n. ponderosity n., Syn. heavy, dull | pongee | (พอนจี', พอน'จี) n. ผ้าไหมที่ทอด้วยเส้นใยไหมป่าและมีสีธรรมชาติ | poniard | (พอน'เยิร์ด) n., v. (แทงด้วย) ดาบสันสองคม, กริช | pontiff | (พอน'ทิฟ) n. สังฆราช, บิชอพ, สันตะปาปา, Syn. bishop, Pope | pontifical | (พอนทิฟ'ฟิเคิล) adj. เกี่ยวกับองค์สันตะปาปา, หยิ่งยโส, คุยโว, ทะนง, พลการ, See also: pontificals เสื้อและสัญลักษณ์อื่นของpontiff | pontificate | (พอนทิฟ'ฟะคิท) n. ตำแหน่งสังฆราช. vi. พูดจาหยิ่งยโส, พูดแบบวางท่าวางทาง, ทำหน้าที่สังฆราช | pontoon | (พอนทูน') n. เรือท้องแบน, ทุ่นลอย, ทุ่นท่าเรือ, โป๊ะ, แพ, เรือปั้นจั่น | preponderance | (พรีพอน'เดอะเรินซฺ) n. ความเหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ), Syn. preponderancy | preponderant | (พรีพอน'ดะเรินทฺ) adj. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, จำนวนหรืออื่น ๆ) | preponderate | (พรีพอน'ดะเรท) vi. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ) ., See also: preponderation n., Syn. prevail | respond | (รีสพอนดฺ') vi. ตอบ, พูดตอบ, ตอบสนอง, โต้ตอบ, ขานรับ, รับ, vt. พูดตอบ n. ผลตอบ, การตอบ, ฝาผนังที่ต่อกัน, Syn. reply, Ant. ignore | respondence | (รีสพอน'เดินซฺ) n. การตอบ, การตอบสนอง, การขานรับ, Syn. respondency | respondent | (รีสพอน'เดินทฺ) adj. เกี่ยวกับการตอบ, เกี่ยวกับการขานรับ n. ผู้ตอบ, ผู้โต้ตอบ, ผู้ตอบสนอง, จำเลย, ผู้แก้คำถาม | responder | (รีสพอน'เดอะ) n. ผู้ตอบ, ผู้โต้ตอบ, ผู้ตอบสนอง | response | (รีสพอนซฺ') n. คำตอบ, การตอบ, คำรับ, ผลตอบ, ความรู้สึกตอบ, การโต้ตอบ, การขานรับ, Syn. answer, reply | responsibility | (ริสพอนซะบิล'ลิที) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ, ภาระหน้าที่, สิ่งที่รับผิดชอบ, สิ่งที่เป็นภาระหน้าที่, Syn. accountability | responsible | (รีสพอน'ซะเบิล) adj. รับผิดชอบ, เป็นภาระ, เป็นภาระหน้าที่, เชื่อถือได้, See also: responsibleness n., Syn. accountable | responsive | (รีสพอน'ซิฟว) adj. เป็นคำตอบ, เป็นการตอบ, เป็นการตอบสนอง, See also: responsiveness n., Syn. reactive | saponify | (ซะพอน'นิไฟ) vt. ทำให้ไขมัน (fat) เป็นสบู่โดยใส่กับด่าง, กลายเป็นสบู่., See also: saponification n. saponifier n. | spawn | (สพอน) n. กลุ่มไข่ปลา, ลูกหลาน, แหล่งกำเนิด, vi., vt. วางไข่, คลอดลูก, ให้กำเนิด, สร้างเป็นจำนวนมาก, See also: spawner n., Syn. produce, generate | sponsor | (สพอน'เซอะ) n. ผู้ประกัน, ผู้อุปถัมภ์, ผู้ส่งเสริม vt. ประกัน, ค้ำประกัน, อุปถัมภ์, ส่งเสริม., See also: sponsorial adj. sponsorship n. |
| | vorstellbar | (adj) ที่จินตนาการได้, ที่เห็นภาพได้, ที่พอนึกออก เช่น Es ist vorstellbar, daß er sich nur ein einziges Mal gemeldet hat., See also: A. unvorstellbar |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |