ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พรมแดน, -พรมแดน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ พรมแดน | (n) frontier, See also: border, boundary line, Syn. เขตแดน, ชายแดน, แนวพรมแดน, แนวเขตแดน, แนวเขต, Example: ทิวเขาที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายเป็นพรมแดนทางธรรมชาติระหว่างไทยกับพม่าเรียกนามว่าทิวเขาแดนลาว, Thai Definition: ขีดขั้นเขตแดน, แดนต่อแดน, Notes: (เขมร) | เขตพรมแดน | (n) borderland, See also: frontier, Syn. เขตแดน, อาณาเขต, Example: ถึงแม้จะมีการแบ่งเขตพรมแดนตามกฎหมาย แต่ทั้งสองประเทศก็ยังคงมีข้อพิพาทกันเนืองๆ, Thai Definition: พื้นที่ที่กำหนดขีดคั่นไว้, เส้นแบ่งพื้นที่ระหว่าง 2 ประเทศ | แนวพรมแดน | (n) boundary, See also: border, borderline, frontier, Syn. แนวเขตแดน, เส้นเขตแดน, เขตแดน, Example: ปลัดบัญชาการทัพบกของปากีสถานออกตรวจแนวพรมแดนและส่งกำลังเสริมไปยังแคชเมียร์ | ไร้พรมแดน | (adj) limitless, See also: boundless, Example: สื่อในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนต้องทำงานแข่งขันกันชนิดเอาเป็นเอาตาย, Thai Definition: ไม่มีขอบเขต, ไม่มีขีดจำกัด, ไม่มีอาณาเขตกำหนด | ไร้พรมแดน | (adj) limitless, See also: boundless, Example: สื่อในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนต้องทำงานแข่งขันกันชนิดเอาเป็นเอาตาย, Thai Definition: ไม่มีขอบเขต, ไม่มีขีดจำกัด, ไม่มีอาณาเขตกำหนด | ข้ามพรมแดน | (adj) crossing borders, See also: crossing frontiers, Syn. ข้ามแดน, Example: ยุโรปตะวันตกเริ่มเติบโต เมื่อมีการค้าเสรีข้ามพรมแดน, Thai Definition: ผ่านจากแดนหนึ่งไปยังอีกแดนหนี่ง | พรมแดนการเมือง | (n) political boundary, Example: ผู้นำของประเทศไทยเจรจาเรื่องพรมแดนการเมืองกับผู้นำประเทศอื่นๆ |
| พรมแดน | (พฺรม-) น. ขีดขั้นเขตแดน, แดนต่อแดน. | กะเหรี่ยง | น. ชื่อชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ปรกติอาศัยอยู่ทางพรมแดนทิศตะวันตกของประเทศไทย, โซ่ หรือ ยาง ก็เรียก, (โบ) เรียกว่า กั้ง ก็มี. | เขมร ๑ | (ขะเหฺมน) น. ชื่อประเทศและชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดต่อกับไทย ลาว และเวียดนาม มีภาษาพูดอยู่ในตระกูลมอญ–เขมร และมีอักษรของตนเองใช้ เรียกว่า อักษรขอม. | จีน ๑ | น. ชื่อประเทศและชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออก มีพรมแดนติดต่อกับมองโกเลีย รัสเซีย เวียดนาม ลาว พม่า ภูฏาน เนปาล อินเดีย คีร์กีซ และคาซัคสถาน มีภาษาพูดและอักษรของตนเองใช้. | ด่าน | ทางผ่าน เช่น ด่านช้าง, ทางผ่านพรมแดนระหว่างประเทศ เช่น ด่านเจดีย์สามองค์ ด่านสิงขร. | ไทย ๑ | (ไท) น. ชื่อประเทศที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดต่อกับลาว เขมร มาเลเซีย และพม่า | ปักปันเขตแดน | ก. กำหนดเขตแดนระหว่างประเทศเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับพรมแดนเป็นต้น. | ลาว ๑ | น. ชื่อประเทศและชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดต่อกับไทย เขมร เวียดนาม พม่า และจีน, เรียกเต็มว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. | เวียดนาม | น. ชื่อประเทศและชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดต่อกับเขมร ลาว และจีน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อชาติเวียด, เรียกเต็มว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม. |
|
| boundary line | ๑. เส้นพรมแดน (ก. ระหว่างประเทศ)๒. เส้นแบ่งเขต (ก. ที่ดิน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | boundary | แนวพรมแดน, แนวแบ่งเขต [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | frontier | แนวพรมแดน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| กะเหรี่ยง | ชื่อชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ปกติอาศัยอยู่ทางพรมแดนทิศตะวันตกของประเทศไทย, Example: คำที่มักเขียนผิด กระเหรี่ยง [คำที่มักเขียนผิด] | General Border Committee | คณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] | Shanghai Cooperation Organization | พัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต] | wetlands | พื้นที่ชุ่มน้ำ หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต] | Interspecies Barriers | พรมแดนของสปีชี่ส์ [การแพทย์] |
| I hope I can make it across the border. | ฉันหวังว่าฉันสามารถทำให้มันข้ามพรมแดน The Shawshank Redemption (1994) | Well, if this isn't a mountain, then Anson might just as well redraw the border and put us all in England, God forbid. | คือถ้าที่นี่ไม่ใช่ภูเขา แอนสันก็อาจจะขีดเส้นพรมแดนใหม่ และเอาเรารวมไปกับอังกฤษ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | they only allow us here because we're helping with the wounded. | เราเป็นแพทย์อาสาไร้พรมแดน Spies Like Us (1985) | But you are about to cross an invisible border into mainland China. | แต่คุณกำลังจะข้ามพรมแดนที่มองไม่เห็นเข้ามาในจีนแผ่นดินใหญ่ Bloodsport (1988) | Your father is being held in the Castle of Brunwald, on the Austrian-German border. | พ่อของคุณถูกจับไปไว้ที่ปราสาทบรูนวอลด์, อยู่ตรงพรมแดนระหว่างออสเตรียกับเยอรมัน Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | Everything. All boundaries, all time. | จากทุกอย่าง ไร้พรมแดน ไร้เวลา Bicentennial Man (1999) | The frontiers of the future are not on any map. | พรมแดนของอนาคตไม่ได้อยู่บนแผนที่ The Corporation (2003) | There are no new frontiers within our borders. | ไม่มีเขตแดนหรือพรมแดนใหม่เหลืออยู่อีกในประเทศนี้ The Corporation (2003) | Breaking news from the U.S.-Mexico border. | ข่าวด่วนจากพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก The Day After Tomorrow (2004) | Just half an hour ago, Mexican officials closed the border... | เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว รัฐบาลเม็กซิกันสั่งปิดพรมแดน... The Day After Tomorrow (2004) | These people came in anticipation of crossing into Mexico. | ผู้คนซึ่งหวังข้ามพรมแดนเข้าไปยังเม็กซิโก The Day After Tomorrow (2004) | Instead, they've been met with closed gates. | แต่ต้องมาพบกับการปิดพรมแดน The Day After Tomorrow (2004) | This is only possible because the president was able to negotiate a deal to forgive all Latin American debt in exchange for opening the border. | ที่เป็นแบบนี้เพราะท่าน ปธน. ยอมตกลง... ... ล้างหนี้ทั้งหมดให้ลาตินอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเปิดพรมแดน The Day After Tomorrow (2004) | I'll cross the border through Tecate... that will get us to San Diego super fast. | ผมจะข้ามพรมแดนผ่านทีเคท จะได้ไปถึงซานดิเอโกเร็วขึ้น Babel (2006) | This is the border between Haiti and the Dominican republic. | นี่คือพรมแดนระหว่างไฮติกับสาธารณรัฐโดมินิกัน An Inconvenient Truth (2006) | Canadian and mexican border patrols have all the mug shots. | ด่านพรมแดนแคนาดากับเม็กซิโก เตรียมพร้อมแล้วครับ Otis (2006) | Bortac's on high alert. | เจ้าหน้าที่พรมแดน เตรียมพร้อมระดับสูงสุด Otis (2006) | See if we can get the mexican border patrol to set up checkpoints 50 miles in. | บอกให้เจ้าหน้าที่พรมแดนเม็กซิโก ตั้งด่านตรวจระยะ 50 ไมล์ Otis (2006) | And not... south of the border. | และไม่ใช่... พรมแดนทางใต้ Map 1213 (2006) | I just hoped you crossed the border by now. | ฉันหวังว่าคุณจะข้ามพรมแดนไปได้ Scan (2006) | No more sneaking people over the border in the middle of the night? | ไม่มีคนทำลับๆ ล่อๆ แถวพรมแดน ตอนกลางคืนแล้วด้วย Resistance Is Futile (2007) | We make a trade with you at the border and if you walk away, well you walk away | เราจะสร้างอาชีพให้แกตอนไปที่พรมแดน และถ้าแกเดินจากไป แกเดินจากไป Bobby Z (2007) | You take your chances on the border pretending to be Bobby Z or we leave you here at the Hotel California | แกควรใช้โอกาสนี้ในการไปที่พรมแดน เพื่อเป็นบ๊อบบี้ ซี หรือจะให้เราจากแกไปที่นี่ กลับไปยังโรงแรมแคลิฟอร์เนีย Bobby Z (2007) | It's a dangerous place, the border | มันเป็นสถานที่อันตราย แถวพรมแดนน่ะ Bobby Z (2007) | Well my mom was always going back back and forth across the border | ก็แม่ข้ามไปมาอยู่เสมอระหว่างพรมแดน Bobby Z (2007) | I heard about your young partner getting his head blown off at the border | ฉันได้ยินว่าคู่หูหนุ่มของแก โดนยิงหัวที่แถวพรมแดน Bobby Z (2007) | All you had to do was kill Keamey at the border like we planned. | - ใช่ แล้วนายได้ฆ่าเคอร์นี่ที่พรมแดน ตามที่วางแผนไว้ล่ะ Bobby Z (2007) | near the border of Afghanistan. | ใกล้กับพรมแดน อัฟกานิสถาน Eagle Eye (2008) | Deal always was outlaws live in Charming, shit beyond the borders. | แลกผลประโยชน์คือ โจรผู้ร้ายอาศัยอยู่ในชาร์มมิ่ง ผลเสียขยายไปสู่พรมแดน Hell Followed (2008) | perhaps, finally, by using the flesh of human beings to replicate the flesh of human beings this madman who moves silently among us has crossed art's final frontier | บางที ในที่สุด ก็มีการใช้เนื้อมนุษย์กลับมาทำเนื้อมนุษย์... ชายบ้าผู้นี้ซึ่งเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบท่ามกลางพวกเรา ได้ก้าวข้ามพรมแดนสุดท้ายของศิลปะ Art Imitates Life (2008) | They will soon cross the border. | พวกเขาจะข้ามพรมแดนมาเร็วนี้ๆ The Kingdom of the Winds (2008) | Inject it in your neck when you pass the official border. | ฉีดเข้าที่คอหลังจากที่นายผ่านข้ามพรมแดนได้แล้ว Babylon A.D. (2008) | Girls, we made it across the border. | สาวน้อย พวกเราข้ามพรมแดนสำเร็จแล้ว Babylon A.D. (2008) | Your Highness, they've crossed the Canadian border. | ท่านประมุขพวกเขาข้ามพรมแดนคานาดาแล้ว Babylon A.D. (2008) | It was destroyed right after we crossed the border. | มันถูกทำลาย หลังจากที่.. พวกเราข้ามพรมแดนไปแล้ว Babylon A.D. (2008) | It is near the border. Highway 15. | ใกล้ๆ พรมแดน ทางหลวงสาย 15 Body of Lies (2008) | Just help me get the kids to the city. You can head to the border from there. | แค่ช่วยผมพาเด็กๆเข้าไปในเมือง แล้วนายก็ตรงไปยังพรมแดนจากที่นั่นได้ 24: Redemption (2008) | He is not here today. He's across the border. | วันนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ เขาข้ามไปพรมแดน The No. 1 Ladies' Detective Agency (2008) | He's moved more heroin across the border than anybody did in ten years | ไอ้หมอนี้ส่งผงขาวข้ามพรมแดน มากกว่าเอสโคบาเคยส่งมามากกว่าสิบปี Fast & Furious (2009) | Why don't we drive up to Canada, because we're close to the border. | ทำไมเราไม่ขับรถไป แคนาดา เพราะเราอยู่ใกล้พรมแดนแล้ว Chapter Five 'Exposed' (2009) | Which, between you and me, is just the way I want it. | - ภารกิจด้านติดกับพรมแดน - ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นดีนะ Negro Y Azul (2009) | - Has anyone given you anything to bring across the border. - No, sir. | มีใครฝากสิ่งของให้คุณเอาข้ามพรมแดนไปหรือเปล่า ไม่ครับ To Hell... And Back (2009) | I've watched the tape of you at the border cross over and over again. | ผมดูเทปคุณที่ด่านข้ามพรมแดน ซ้ำแล้วซ้ำอีก To Hell... And Back (2009) | Tell me what happened the night before the border cross. | บอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนก่อน ที่ด่านข้ามพรมแดน To Hell... And Back (2009) | I've got I.D. s on multiple border crosses for the dates in question. | ฉันพบเลขประจำตัวประชาชน ผู้ข้ามพรมแดนในวันที่คุณขอ To Hell... And Back (2009) | She's right. Busiest cross in north america. | เธอพูดถูก ที่ๆคนข้ามพรมแดนเยอะที่สุดคือทางอเมริกาเหนือ To Hell... And Back (2009) | And once he crosses, there's nothing but woods to hide whatever he's doing. | และเมื่อเค้าข้ามพรมแดนได้แล้ว ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรป่าก็ช่วยปิดบังไว้หมด To Hell... And Back (2009) | I think his border crossings would be consistent. | ผมคิดว่าเขาข้ามพรมแดนเป็นประจำ To Hell... And Back (2009) | None of them happened across state lines. | ไม่มีสักรายเดียวที่หายตัว ข้ามพรมแดนรัฐ Night of Desirable Objects (2009) | Establishing relations would grant the visitors full freedom of movement within our nation's borders. | การสร้างความสัมพันธ์ด้วยนี้ จะทำให้เป็นครั้งแรก ที่ผู้มาเยือน มีอิสระเต็มที่ในการเดินทาง ภายในพรมแดนประเทศของเรา There Is No Normal Anymore (2009) |
| ขโมยข้ามพรมแดน | [khamōi khām phromdaēn] (xp) EN: cross the border illegally FR: franchir la frontière illégalement | ข้ามพรมแดน | [khām phromdaēn] (adj) EN: crossing borders | เขตพรมแดน | [khēt phromdaēn] (n, exp) EN: borderland ; frontier FR: zone frontalière [ f ] | แนวพรมแดน | [naēo phromdaēn] (n, exp) EN: boundary FR: ligne frontière [ f ] | องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน | [Ongkøn Nakkhāo Rai Phromdaēn] (org) EN: Reporters Without Borders (RWB) FR: Reporters sans frontières (RSF) | พรมแดน | [phromdaēn] (n) EN: border ; boundary line FR: frontière [ f ] ; limite territoriale [ f ] | ปิดพรมแดน | [pit phromdaēn] (v, exp) EN: close the border FR: fermer la frontière | ไร้พรมแดน | [rai phromdaēn] (x) EN: without borders FR: sans frontières |
| across | (prep) ข้าม, See also: ข้ามพรมแดน, Syn. over | border | (n) เขตแดน, See also: พรมแดน, ชายแดน, Syn. frontier | borderland | (n) พรมแดน | frontier | (n) ชายแดน, See also: พรมแดน, เขตแดน, แนวพรมแดน, แนวเขตแดน, Syn. border, borderline, boundary | illimitable | (adj) ไร้พรมแดน (คำทางการ), See also: ไร้เขตแดน, ไร้ขอบเขต, Syn. boundless, limitless, Ant. limitable | marginal | (adj) ซึ่งอยู่ในขอบของหน้ากระดาษ, See also: เกี่ยวกับขอบ, เกี่ยวกับขอบเขต, เกี่ยวกับพรมแดน, Syn. limited, peripheral | no-man's-land | (n) พรมแดนระหว่าง2ประเทศหรือ2กองทัพที่ยังไม่มีผู้ครอบครอง | Wild West | (n) พรมแดนด้านตะวันตกของอเมริกาเมื่อศตวรรษที่ 19 |
| border line | n. เส้นพรมแดน, เส้นเขตแดน | borderland | n. พรมแดน, ภาวะที่ไม่แน่นอน, เขตแดนที่คลุมเครือ, ความก้ำกึ่ง, Syn. border | borderline | adj. ตามพรมแดนตามชายแดน, ก้ำกึ่ง, Syn. indeterminate | cadastral | adj. แสดงขอบเขตหรือเส้นพรมแดนหรือที่ดินหรือภูมิภาค | conterminous | adj. มีพรมแดนร่วมกัน, ซึ่งบรรจบกันตรงปลาย., See also: conterminousness n. ด | continent | (คอน'ทะเนินทฺ) n. ทวีป, ผืนแผ่นดินใหญ่ (ซึ่งต่างจากเกาะหรือคาบสมุทร) , ส่วนที่ต่อเนื่องกัน, สิ่งที่เป็นที่บรรจุหรือพรมแดน -Phr. (the Continent ผืนแผ่นดินใหญ่ของยุโรป (ซึ่งต่างจากเกาะอังกฤษ) , adj. ซึ่งควบคุมตัวเอง, Syn. abstinent, Ant. le | frontier | (ฟรันเทียร์') n., adj. ชายแดน, พรมแดน, แนวใหม่, Syn. boundary | hot pursuit | การไล่ติดตามอาชญากรหรือข้าศึกอย่างกระชั้นชิด เช่นการข้ามพรมแดน | mark | (มาร์ค) n. คะแนน, เครื่องหมาย, หมาย, แกงได, รอย, จุด, แต้ม, เป้า, เป้าหมาย, สัญลักษณ์, มาตรฐาน, ความสำคัญ, ชื่อเสียง, เส้นเริ่มออกวิ่ง, พรมแดน, หน่วยเงินตราของเยอรมน vt. ทำเครื่องหมาย, ทำรอย, ทำให้เป็นแผลเป็น, เป็นมลทิน, ทำให้เป็นจุด, ชัด, กะ, แสดงให้ปรากฎชัด, เพ่งเล็ง, มุ่งหมาย, บันทึก, ระวัง, สังเกต | wild west | n. พรมแดนด้านตะวันตกของอเมริการะหว่างศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะมีรัฐบาลที่มั่นคงในเวลาต่อมา |
| border | (n) ริม, ขอบ, เขตแดน, ชายแดน, พรมแดน, อาณาเขต | borderland | (n) เขตแดน, ชายแดน, พรมแดน | borderline | (n) เส้นเขตแดน, เส้นพรมแดน, เส้นแบ่งเขต, เส้นกั้นอาณาเขต | coast | (n) ชายฝั่ง, ฝั่งทะเล, เขตแดน, พรมแดน | frontier | (n) พรมแดน, ชายแดน, เขตแดน, ขอบเขต |
| cross-border | (adj) เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ข้ามพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ, ระหว่างประเทศ, ที่ข้ามประเทศ, ที่ข้ามพรมแดน (ใช้นำหน้านามเท่านั้น) | frontier post | (n) ที่ทำการพรมแดน |
| ohne | (prep) ปราศจาก, ไร้ เช่น Kannst du es ohne mich schaffen? เธอทำได้ไหมโดยไม่มีฉัน, Ärzte ohne Grenze แพทย์ไร้พรมแดน |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |