กินเปล่า | (-เปฺล่า) ว. ได้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว เช่น เตะกินเปล่า. | เกาะกิน | ก. อาศัยกินอยู่กับคนอื่นโดยเอาแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียว ไม่ช่วยทำงานหรือช่วยเหลือจุนเจือผู้นั้น, ทำตัวดุจกาฝาก. | ตบมือข้างเดียวไม่ดัง | ก. ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล. | ถ่ายเดียว | ว. ฝ่ายเดียว เช่น เอาแต่ได้ถ่ายเดียว เห็นแต่ประโยชน์ถ่ายเดียว. | ฟังความข้างเดียว | ก. เชื่อถือแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง. | ลำพัง | ว. เฉพาะตน, ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น, เช่น อยู่กันตามลำพัง, ฝ่ายเดียว เช่น ต้องต่อสู้กับข้าศึกแต่ลำพัง. | เอกภาคี | (เอกะ-, เอกกะ-) น. ฝ่ายเดียว หมายถึงประเทศที่ปลีกตัวปฏิบัติการทางการเมืองเป็นต้นโดยลำพัง ไม่มีประเทศอื่นร่วมหรือรับรู้ด้วย. |
|
| | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | declaration | ปฏิญญา มีความหมาย 3 อย่าง คือ (1) ความตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะผูกพัน (2) ปฏิญญาฝ่ายเดียว ซึ่งก่อสิทธิและหน้าที่ให้แก่ประเทศอื่น และ (3) ปฏิญญาซึ่งรัฐหนึ่งแถลงให้รัฐอื่นทราบความเห็นและเจตนาของตนในเรื่องบาง เรื่อง [การทูต] | High Seas | ทะเลหลวง คือทุกส่วนของทะเลที่มิได้อยู่ในทะเลอาณาเขต (Territorial Sea) ของประเทศใด โดยที่ถือว่าทะเลหลวงเป็นทรัพย์สินร่วมกันของทุกชาติ รัฐจะยึดเอาไปทำประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียวไม่ได้ และจะถือว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของทะเลหลวงอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของตนไม่ได้เช่นกัน [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | South-South Cooperation | ความร่วมมือใต้-ใต้ หรือ ความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา " เป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการที่ประเทศกำลังพัฒนา/ ด้อยพัฒนา ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายหลังจากที่ความ ช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและวิชาการที่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ให้แก่ประเทศกำลัง พัฒนา/ด้อยพัฒนามีแนวโน้มลดลงและมีการนำเงื่อนไขอื่น ๆ มาผูกกับการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น อาทิ ประเด็นสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการระหว่างประเทศกำลังพัฒนา/ด้อยพัฒนานี้ จะเป็นทั้งในลักษณะของการให้ (อาทิ ทุนการศึกษา/ทุนฝึกอบรม/ทุนดูงาน/ผู้เชี่ยวชาญ/วัสดุอุปกรณ์) ของประเทศใดประเทศหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว อาทิ การให้ความร่วมมือด้านทุนฝึกอบรมระยะสั้นในสาขาการเกษตรของไทยแก่ประเทศใน แอฟริกา และในลักษณะของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกัน " [การทูต] | unilateralism | การกระทำฝ่ายเดียว [การทูต] | one-sided market | ตลาดฝ่ายเดียว, Example: ตลาดที่มีเฉพาะผู้ซื้อที่มีศักยภาพหรือผุ้ขายที่มีศักยภาพฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น มีลักษณะที่สำคัญคือ จะไร้สภาพคล่อง (illiquidity) ไม่สามารถจะนำเอาสินทรัพย์ที่มีอยู่ (เช่น คาร์บอนเครดิต) ไปแปลงเป็นเงินได้โดยง่าย ปกติจะเกิดขึ้นได้ยากเนื่องจากจะเกิดตัวกลางในตลาด เช่น นายหน้า ที่ไม่สามารถจะทำให้ตลาดฝ่ายเดียวเกิดได้ การจะเกิดตลาดฝ่ายเดียวได้นั้นจะต้องมีการกำหนดเป็นกฎหมาย [เศรษฐศาสตร์] |
| But man is resilient. | ไม่ใช่ว่าคนเรา จะยอมอยู่ฝ่ายเดียว Night and Fog (1956) | The loser ran off alone, but the winner followed those footprints toward Guilder. | ผู้แพ้หนีไปฝ่ายเดียว... ขณะที่ผู้ชนะ... ตามรอยเท้าพวกนั้น มุ่งไปกิลเดอร์ The Princess Bride (1987) | You think you have the last word, but you don't! | คิดว่าพูดได้ฝ่ายเดียวรึไง! Seven Years in Tibet (1997) | While we were watching her caboose the lieutenant and the dentist were riding the train! | หมอฟันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย ดูเหมือนทหารจะได้ปั่มปั๊มอยู่ฝ่ายเดียว Malèna (2000) | But your bet includes all the dice, not just your own. | แต่ใช้ลูกเต๋าทุกคน พนันด้วย .. ไม่ได้ใช้ของเราฝ่ายเดียว Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006) | Hey, listen, I'm with you guys. My cousin's a cop in Milwaukee. | นี่ ฟังนะฮะ ผมอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกคุณนะ ลูกพี่ลูกน้องของผมเป็นตำรวจอยู่ที่มิลวอกี้ Monster House (2006) | I thought we all are on the same side. | ฉันคิดว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกันเสียอีก Flyboys (2006) | Now, as for all of us being on the same side, until you actually do something, you're not even in this war, let alone in this room. | เอาละ เรื่องเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน จนกว่าคุณจะทำอะไรสักอย่าง คุณไม่ได้เข้าสงคราม อย่าว่าแต่ห้องนี้ Flyboys (2006) | We're all on the same side here. -What side is that? | อย่าคิดสั้น เราอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว Chuck Versus the Nemesis (2007) | Because I know you're with us. | - เพราะคุณอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา Chuck Versus the Wookiee (2007) | We're on the same side. | เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน No Such Thing as Vampires (2007) | But that's one of the benefits of being on the right side. | แต่นั่นเป็นข้อยกเว้น ของการที่อยู่ฝ่ายเดียวกับกฏหมาย The Brave One (2007) | No, that's one of the benefits of being on the right side. | ไม่ นั่นเป็นข้อยกเว้น ของการที่อยู่ฝ่ายเดียวกับกฏหมาย The Brave One (2007) | Was it a one- way thing or a two- way thing? | มันเป็นเรื่องฝ่ายเดียวหรือสองฝ่ายล่ะ? Ending Happy (2007) | They're good undead guys, right? | กองทัพฝ่ายเดียวกับเรา ใช่ไหม? The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (2008) | I hate that I'm the only one feeling this. | ฉันเกลียดที่ฉันเป็นเพียงฉันฝ่ายเดียวเท่านั้น ที่มีความรุ้สึกแบบนี้ Cyborg Girl (2008) | I don't know, because you're in my side. | ไม่รู้เหมือนกัน คงเพราะเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน Gamer (2009) | And maybe that's just 'cause I'm not used to taking and not giving, but something inside me says, "This is weird, Tara. | อาจเป็นเพราะฉันไม่ชินกับการรับอยู่ฝ่ายเดียว แต่บางอย่างในใจฉันบอกว่า "นี่มันแปลกๆนะ ทาร่า Keep This Party Going (2009) | Clearly the pleasure was one-sided. | เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความยินดีฝ่ายเดียว Scratches (2009) | ! He's on our side, larry, just like he said. | เขาอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา อย่างที่เขาพูด Day 7: 3:00 p.m.-4:00 p.m. (2009) | Sorry, my hands are really cold. | เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่มียอมเสีย The Girlfriend Experience (2009) | This is ex parte? | นี่เป็นคำขอฝ่ายเดียว Burn It, Shred It, I Don't Care. (2009) | Meaning you're not just targeting her now. | หมายความว่าคุณไม่ได้ เพ่งเล็งเธอฝ่ายเดียว You Got Your Prom Date Pregnant (2009) | - You're talking out of your ass. | - เป็นคำพูดของนายฝ่ายเดียวไม่มีมูล The Culling (2009) | I just received today as well... | วันนี้ฉันเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียวอีกแล้ว Episode #1.19 (2009) | After all, we are on the same side. | ยังไงซะเราก็อยู่ฝ่ายเดียวกัน Episode #3.1 (2009) | They were on the same side. | เขาเป็นฝ่ายเดียวกันนะ The Bond in the Boot (2009) | Jun Se is the one who likes Eun Sung. | จุนเซเป็นคนชอบอึนซองฝ่ายเดียว. Shining Inheritance (2009) | There's only one side to this story- ours. | ฟังนะ เรื่องนี้มีแค่ฝ่ายเดียวคือฝ่ายเรา You Don't Know Jack (2010) | You don't get to unilaterally decide to let a teenager and her infant | คุณอย่าตัดสินใจฝ่ายเดียวสิ ที่จะพาเด็กวันรุ่นคนนึงกับลูกน้อย Blink (2010) | I thought we were on the same page here. | ฉันคิดว่าพวกเรา อยู่ฝ่ายเดียวกันเสียอีก Lochan Mor (2010) | There is someone besides Michael strong enough to take on Lucifer. | มีอีกคนนึงที่อยู่ฝ่ายเดียวกับไมเคิล แข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับลูซิเฟอร์ Dark Side of the Moon (2010) | Nao's mother danced around the subject of the incident itself, and just kept blaming Miss Moriguchi. | แม่ของนาโอะพูดวนเวียนอยู่แต่เรื่องคดี และโทษอาจารย์โมรุกิจฝ่ายเดียว Confessions (2010) | We put almost that much into the renovations alone. | เราตบแต่งซ่อมแซมทั้งหมด อยู่ฝ่ายเดียวนะ Caballo sin Nombre (2010) | I'll go in ex parte and get a restraining order from the court today. | ฉันจะยื่นฟ้องหย่าจากฝ่ายเดียว และขอคำสั่งศาลห้ามเข้าใกล้ในวันนี้เลย I.F.T. (2010) | Yeah, except for the fact that stalker implies one-sided. | ใช่ ยกเว้นความจริงที่ว่าคนชอบเดินตามนี้อ้างถึงได้แค่ฝ่ายเดียว The Townie (2010) | Actually, it's pretty one-sided. | ที่จริงมันมีผลกับฝ่ายเดียวน่ะ Cooperative Calligraphy (2010) | Weren't we on the same side? | เราอยู่ฝ่ายเดียวกันไม่ใช่หรือ The Fugitive: Plan B (2010) | And the man who doled out that money works on the same side as the people who killed my family. | และคนที่ให้เงินสงเคราะห์นั้น อยู่ฝ่ายเดียวกับ พวกที่ฆ่าคนในครอบครัวฉัน The Fugitive: Plan B (2010) | You're on the same team, so why are you cutting him? ! | นายอยู่ฝ่ายเดียวกับเขา , นายจะฟันเขาทำไม? Episode #1.10 (2010) | Now, is that any way to convince me That you and I are on the same side? | ตอนนี้ นั่นเป็นวิธีจะทำให้ผมเชื่อว่า คุณกับผมอยู่ฝ่ายเดียวกันรึเปล่า? Daddy Issues (2011) | Where Elena's concerned, You and I are on the same side. | ที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเอเลน่า คุณกับผมอยู่ฝ่ายเดียวกัน Daddy Issues (2011) | Usually it's a one-way street. | ปกติมันควรจะรู้สึกฝ่ายเดียว Scream a Little Dream (2011) | I thought we had someone on our side. | ฉันคิดว่าเรามี คนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเรา For Whom the Bell Tolls (2011) | But I am on your side. | แต่ฉันอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ For Whom the Bell Tolls (2011) | We're on the same team, but that doesn't mean we speak about it in here. | ฉันรู้ว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะพูดเรื่องนั้นในนี้ได้ทุกเมื่อ Girl's Best Friend (2011) | We're all on the same side. | เราอยู่ฝ่ายเดียวกันทั้งนั้น For a Few Paintballs More (2011) | Excuse me, I thought we were on the same team. | ขอโทษนะ ผมนึกว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน Pilot (2011) | 20 youths from South Korea were shot dead by friendly fire, right in front of my eyes. | คนหนุ่มของเกาหลี 20 คน ถูกฝ่ายเดียวกันยิงตาย ต่อหน้าต่อตาของผม City Hunter (2011) | And, once... Once we do, we can turn him on our side. | และเมื่อเราทำเช่นนั้นแล้ว เราจะได้เขามาอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา Clawback (2011) |
| | |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |