ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ป้า, -ป้า- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ มนุษย์ป้า | คำที่ใช้เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมที่มีลักษณะที่เห็นแก่ตัว ทำสิ่งต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การแย่งที่นั่งว่างในรถโดยสาธารณะ, การแซงคิวไม่ยอมต่อแถวคอยเวลาขึ้นรถไฟฟ้า, โดยส่วนมากจะเป็นสุภาพสตรีในวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ จึงเป็นที่มาถึงคำว่า "ป้า" เริ่มเป็นที่ใช้กันแพร่หลายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในช่วงปี 2557 โดยล่าสุดมีลือกันถึงกรณีมีผู้เปิดประตูรถแท็กซี่มีผู้โดยสารอยู่ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง ขอขึ้นไปนั่งด้วยหน้าตาเฉยโดยอ้างว่าขอติดรถไปด้วยตามเส้นทางที่ผ่าน |
| hangout | [แฮ๊งเอ๊าท์] (n, vt) ใช้เวลาว่างกับเพื่อนๆโดยไม่ได้มีเป้าหมายอะไรพิเศษ |
|
| | ป้ายไฟวิ่ง | (n) moving sign display, electronic/neon sign with running text |
| 袓 | [袓] (n, adj, pron) บรรพบุรุษ, วงศ์ตระกูล, ป้ายสุสานประจำตระกูล, สืบทอด, ผู้ที่ตายไปแล้ว, เทพประจำท้องถิ่น, โบราณกาล, ประวัติศาสตร์ | 裤裆 | [kù dāng, ㄎㄨˋ ㄉㄤ, 裤 裆] (n) เป้ากางเกง |
| ป้า | (n) aunt, Example: เมื่อถึงคราวที่แม่ต้องไปต่างจังหวัดนานๆ แม่จะให้ป้ามาคอยดูแลหนูนาเสมอ, Count Unit: คน, Thai Definition: พี่สาวของพ่อหรือแม่ หรือหญิงที่มีวัยไล่เลี่ยแต่แก่กว่าพ่อหรือแม่ | ป้าย | (n) bus stop, Syn. ป้ายรถเมล์, ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง, Example: พอดีเห็นรถเมล์ปรับอากาศแล่นมาจอดที่ป้าย ผมจึงไม่ยืนรีรออีกต่อไปสำหรับการเดินทางให้ถึงจุดหมาย, Count Unit: ป้าย, Thai Definition: จุดรับส่งผู้โดยสารของรถโดยสารประจำทาง | ป้าย | (v) paint, See also: coat, smear, Syn. ทา, Example: เมื่อเกิดแผลให้ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำและสบู่ จากนั้นป้ายด้วยขี้ผึ้งทาแผล, Thai Definition: ทาอย่างหยาบๆ ไม่ต้องการประณีตบรรจง, ทำให้เปรอะเปื้อนด้วยอาการคล้ายเช่นนั้น | ป้าย | (n) plate, See also: signboard, poster, notice board, Syn. แผ่นป้าย, Example: เมื่อเดินผ่านหัวรถจักรไปทางขวามือเล็กน้อยผมแลเห็นป้ายภาษาอังกฤษเขียนว่า JAPAN ห้อยแขวนแตะตาลงมาจากชั้น 2, Count Unit: แผ่น, Thai Definition: แผ่นหนังสือหรือแผ่นเครื่องหมายที่บอกให้รู้ | ป้าย | (n) label, See also: sticker, Syn. ฉลาก, Example: ผู้ผลิตหรือผู้ขายจะต้องระบุรายละเอียดในป้ายของผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วนและเป็นจริง, Count Unit: แผ่น, Thai Definition: รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใดๆ ที่แสดงไว้ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยา อาหาร หรือผลิตภัณฑ์อื่น, Notes: (กฎหมาย) | ป้าน | (n) teapot, Syn. ปั้น, ปั้นน้ำชา, ป้านน้ำชา, Example: ประโยชน์ของป้านใช้ชงชาร้อนๆ เพื่อใช้จิบน้ำชาร้อนๆ ตามประเพณีของจีน, Count Unit: ใบ, Thai Definition: ภาชนะสำหรับชงชา | ป้าน | (adj) obtuse, Syn. ทู่, Example: องค์พระมีวงพระพักตร์เป็นสี่เหลี่ยม มีพระหนุป้านเป็นรูปคางคน พระนาสิกเป็นสันคม, Thai Definition: ไม่แหลม | เป้า | (n) aim, See also: purpose, objective, target, goal, quota, Syn. จุดหมาย, จุดประสงค์, วัตถุประสงค์, เป้าหมาย, จุดมุ่งหมาย, ที่หมาย, เป้าประสงค์, Example: ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะทำยอดขายให้ได้ร้อยล้านบาท, Thai Definition: สิ่งที่กำหนดไว้เป็นจุดหมาย | เป้า | (n) target, See also: mark, spot, sign, Syn. จุดเล็ง, จุดกำหนด, เป้านิ่ง, Example: เขายิงธนูถูกเป้าทุกครั้ง, Count Unit: อัน, แผ่นฯลฯ, Thai Definition: สิ่งที่กำหนดไว้เป็นจุดหมาย | เป้า | (n) target, See also: mark, spot, sign, Syn. จุดเล็ง, จุดกำหนด, Example: เขายิงธนูถูกเป้าทุกครั้ง, Thai Definition: สิ่งที่กำหนดไว้เป็นจุดหมาย | เป้า | (n) aim, See also: purpose, objective, target, goal, Syn. จุดหมาย, จุดประสงค์, วัตถุประสงค์, เป้าหมาย, จุดมุ่งหมาย, ที่หมาย, Example: ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะทำยอดขายให้ได้ร้อยล้านบาท, Thai Definition: สิ่งที่กำหนดไว้เป็นจุดหมาย | เป้า | (n) crotch (of trousers), Syn. เป้ากางเกง, Example: กางเกงตัวนี้เป้าตึงแล้ว ต้องนำไปแก้ | เป้า | (n) crotch, Syn. เป้ากางเกง, Example: นักร้องเต้นจนเป้าขาด, Thai Definition: ชิ้นผ้าที่ประกอบตรงกับรอยที่ตึงเพื่อให้หย่อนได้ | เป้า | (n) Treron curviro-stra, See also: Treron phoenicoptera, Syn. เปล้า, นกเปล้า, Example: นกบางชนิดเช่น เป้า ส่วนใหญ่ตัวผู้จะสวยกว่าตัวเมีย, Thai Definition: ชื่อนกในวงศ์ Columbidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับนกเขาและนกพิราบ ลำตัวสีเขียวเห็นได้ชัด แต่ละชนิดแตกต่างกันตรงสีที่หน้าอกและไหล่ซึ่งอาจมีสีม่วงหรือน้ำตาล กินผลไม้ ชอบหากินเป็นฝูงๆ มีหลายชนิด | คุณป้า | (n) aunt, See also: auntie, Syn. ป้า, Ant. คุณลุง, Example: หมู่นี้คุณป้าไม่ค่อยแข็งแรง, Count Unit: คน, Thai Definition: พี่สาวของพ่อหรือแม่ | ป้านลม | (n) gable, See also: shaped board, ornamental gable-end of Thai houses, Syn. ปั้นลม, Example: วัดถ้ำเขาวงใช้หลังคาที่นำมาจากลำพูน ช่างที่เข้าตัวเรือน รวมทั้งทำส่วนตัวเหงา ป้านลม และจั่ว มาจากอยุธยา, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อไม้แผ่นที่พาดบนหัวแป ใช้ปิดริมหลังคาด้านหัวและท้ายเรือนกันลมตี | ป้ายสี | (v) slander, See also: defame, malign, traduce, incriminate, Syn. ใส่ร้าย, ให้ร้ายป้ายสี, ใส่ร้ายป้ายสี, Example: ถ้าทำงานมากกว่าที่จำเป็นมักจะถูกอิจฉาริษยาให้ร้ายป้ายสีหรือกล่าวหาว่าคิดการใหญ่, Thai Definition: ใส่ความผู้อื่นโดยไม่มีมูลความจริง | อีเป้า | (n) diamond-shaped kite, Syn. ปักเป้า, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อว่าวชนิดหนึ่งมีหางยาว | ติดป้าย | (v) label, See also: put up a sign or a nameplate, set up a bill-board or sign, set up a sign-board, hang out o, Syn. ขึ้นป้าย, ปิดป้าย, Example: เราควรติดป้ายประกาศรายละเอียดต่างๆ ของการสมัครงานให้คนที่สนใจได้รับทราบ, Thai Definition: ติดข้อความที่ต้องการแจ้งรายละเอียดให้ทราบ | ปักเป้า | (n) diamond-shaped kite, See also: female kite, Syn. อีเป้า, Example: ทางสมาคมว่าวไทยจะจัดให้มีการแข่งขันการเล่นว่าว โดยมีการเล่นปักเป้ารวมอยู่ในนั้นด้วย, Thai Definition: ชื่อว่าวชนิดหนึ่งมีหางยาว คู่กับว่าวจุฬา | ปักเป้า | (n) globefish, See also: blowfish, puffer, Syn. ปลาปักเป้า, Example: ปลาปักเป้าจะทำการพองตัวขึ้นเมื่อมีศัตรูเข้ามาทำร้าย โดยจะใช้หนามแหลมคมรอบตัวเป็นอาวุธ, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในวงศ์ Tetraodontidae, Diodontidae และ Triodontidae ลำตัวป้อมหรือกลมมากน้อยแล้วแต่ชนิด สามารถพองตัวได้ ผิวหนังมีหนาม ฟันมีลักษณะเป็นกระดูกแข็ง ไม่มีครีบท้อง | มุมป้าน | (n) obtuse angle, See also: angle between 90 and 180 part of circle, Count Unit: มุม, Thai Definition: มุมที่มีขนาดอยู่ระหว่าง 90 องศา กับ 180 องศา | ตั้งเป้า | (v) aim at, See also: intend, mean, plan, endeavor, attempt, strive, try, Syn. วางเป้า, ตั้งเป้าหมาย, Example: ผู้จัดการทีมตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้, Thai Definition: กำหนดเกณฑ์หรือจุดมุ่งหมายไว้ในใจ | ทะลุเป้า | (v) top, See also: break, surpass, Example: ยอดเทปทะลุเป้าอยู่ที่ล้านกว่าตลับในเวลาอันรวดเร็ว, Thai Definition: เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ | ป้ายชื่อ | (n) label, Example: ทุกคนที่เข้า-ออกศูนย์ต้องติดป้ายชื่อและมียามรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกทำลาย, Count Unit: อัน, แผ่น, Thai Definition: แผ่นป้ายที่บอกชื่อเพื่อเป็นการแสดงตน | ป้ายราคา | (n) price card | เข้าเป้า | (v) be able to achieve one's aim, See also: be accurate, Syn. ตรงเป้า, Ant. พลาดเป้า, Example: เราควรจะวางแผนการขายอย่างไรให้ผลงานเข้าเป้าตามนโยบายของห้าง, Thai Definition: สำเร็จตามที่มุ่งหมายตั้งใจไว้ | เดินป้าย | (v) deliver a document, See also: send messages, Syn. ส่งหนังสือ, Example: เจ้าคุณกลาโหมให้คนเดินป้ายไปหาหลวงเทพฯ | เปิดป้าย | (v) unveil, See also: inaugurate, Example: ผู้ว่าฯ จังหวัดบุรีรัมย์เปิดป้ายอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลบ้านใหม่ | เป้านิ่ง | (n) fixed target, Syn. เป้า, Example: เธอใช้ขาลากตัวเองไปๆ มาๆ บ้างดีกว่านั่งเป็นเป้านิ่งให้เสี่ยจ้องเอา ๆ, Thai Definition: เป้าคนหรือสัตว์หรือสิ่งของที่ไม่เคลื่อนไหว | เป้าหมาย | (n) aim, See also: purpose, goal, objective, target, Syn. จุดหมาย, จุดมุ่งหมาย, วัตถุประสงค์, Example: รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมาย | เป้าหมาย | (n) target, See also: objective, bull's eye, Syn. เป้า, จุดเล็ง, จุดกำหนด, Example: เครื่องบินทิ้งระเบิดได้ตรงเป้าหมายตามจุดยุทธศาสตร์, Thai Definition: บุคคลหรือสิ่งที่ใช้เป็นเป้าแห่งการโจมตี หรือเป็นศูนย์กลางแห่งความใส่ใจหรือสังเกต | เป้าหมาย | (n) target, See also: butt, Syn. เป้า, จุดเล็ง, จุดกำหนด, Example: เครื่องบินทิ้งระเบิดได้ตรงเป้าหมายตามจุดยุทธศาสตร์ | เป้าหมาย | (n) aim, See also: purpose, goal, objective, target, Syn. จุดหมาย, จุดมุ่งหมาย, วัตถุประสงค์, เป้า, เป้าประสงค์, Example: รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมาย, Thai Definition: ศูนย์กลางแห่งความใส่ใจหรือสังเกต | เป้าสายตา | (n) something that is eye catching, See also: something that is attractive, Example: การแต่งตัวของเธอแบบนี้เดินไปที่ไหนก็เป็นเป้าสายตาของคนที่นั่น, Thai Definition: เป็นที่เพ่งเล็ง | ป้ายบอกทาง | (n) guide post | ป้ายประกาศ | (n) sign board, See also: notice board, Example: ผมจะเป็นคนแรกที่เขียนป้ายประกาศให้นักศึกษารู้ว่าอาจารย์คนไหนไม่ควรเข้าเรียน, Count Unit: ป้าย, แผ่น, Thai Definition: แผ่นหนังสือมีแจ้งความไว้ให้คนดู | ป้ายรถเมล์ | (n) bus stop, Syn. ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง, ป้าย, Example: ป้ายรถเมล์ เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุตีกันมากที่สุด, Count Unit: ป้าย, Thai Definition: จุดรับส่งผู้โดยสารของรถโดยสารประจำทาง | เป้ากางเกง | (n) crotch, See also: gore, Syn. เป้า, Example: สายตาของผมอดที่จะแลมองไปที่เป้ากางเกงตึงเปรี๊ยะนั่นไม่ได้, Thai Definition: ชิ้นผ้าที่ประกอบตรงกับรอยที่ตึงเพื่อให้หย่อนได้ | ป้ายชื่อถนน | (n) street sign showing the name of the street | ป้ายหาเสียง | (n) (political) campaign poster, See also: (political) campaign banner, Syn. แผ่นป้ายหาเสียง, Example: มีการกล่าวหาว่า กรมทางหลวงแผ่นดินยอมให้มีการติดป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง กลางถนนที่สิงห์บุรี, Count Unit: ป้าย, แผ่น, Thai Definition: วัตถุที่แสดงหรือโฆษณาด้วยอักษร ภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น เพื่อแสวงหาคะแนนเสียง | ป้ายห้ามจอด | (n) no-parking sign, Example: ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอแต่ป้ายห้ามจอดทั้งนั้น คราวหลังฉันจะไม่ขับรถมาแถวนี้อีกแล้ว, Count Unit: ป้าย, Thai Definition: แผ่นสัญลักษณ์ที่มีเครื่องหมายสื่อความว่าห้ามจอดรถ | เป้าประสงค์ | (n) aim, See also: goal, purpose, objective, target, Syn. เป้าหมาย, จุดมุ่งหมาย, จุดประสงค์, วัตถุประสงค์, Example: รัฐมนตรีคลังมีเป้าประสงค์จะปฏิรูประบบธนาคารให้พ้นจากสภาพธุรกิจครอบครัว, Thai Definition: วัตถุประสงค์หรือจุดหมายปลายทางที่บุคคลพยายามบรรลุถึง | ตั้งเป้าหมาย | (v) aim, See also: intend to, Syn. ตั้งเข็ม, ตั้งความหวัง, ตั้งความมุ่งหมาย, Example: เธอตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องสอบเข้าเรียนต่อปริญญาโทภายในปีนี้ให้ได้ | ป้ายเตือนภัย | (n) warning sign | กลุ่มเป้าหมาย | (n) target group, Example: เจ้าของค่ายจะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากกว่าคนในวัยทำงาน, Count Unit: กลุ่ม, Thai Definition: กลุ่มบุคคลซึ่งใช้เป็นศูนย์กลางให้ได้รับผลนั้น | บรรลุเป้าหมาย | (v) achieve, See also: succeed, accomplish, attain, fulfill, Syn. สำเร็จ, Ant. ล้มเหลว, Example: ครูต้องการให้นักเรียนทั้งชั้นบรรลุเป้าหมายของวิชานั้นๆ, Thai Definition: สำเร็จตามที่กำหนดไว้ | ป้ายรถประจำทาง | (n) bus stop, Syn. ป้าย, ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง, Example: ถ้ามาโดยเส้นทางนี้ต้องลงก่อนถึงหัวลำโพง 1ป้ายรถประจำทาง, Count Unit: ป้าย, Thai Definition: จุดรับส่งผู้โดยสารของรถโดยสารประจำทาง | ป้ายโฆษณาสินค้า | (n) advertisement | การบรรลุเป้าหมาย | (n) achievement, See also: accomplishment, fulfillment, attainment, Syn. การประสบผลสำเร็จ, การประสบความสำเร็จ, การสำเร็จ, Example: การบรรลุเป้าหมายของงานเป็นสิ่งยืนยันถึงความพยายามของพวกเรา, Thai Definition: การสำเร็จดังเป้าหมายที่ตั้งไว้ |
| กรวยป่า | ดู กรวย ๒ (๒). | กระทงป่า | น. ไม้พาดปากมาดเรือโกลนชั่วคราว. | กระเป๋า ๑ | น. เครื่องใช้รูปคล้ายถุงหรือกระเพาะ ทำด้วยหนังบ้าง ผ้าบ้าง สำหรับใส่เงินหรือของต่าง ๆ ใช้คาดเอวก็มี ติดอยู่ในตัวเสื้อหรือกางเกงก็มี ใช้หิ้วก็มี | กระเป๋า ๑ | กลีบดอกกล้วยไม้คล้ายรูปกรวยหรือหลอดที่อยู่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของเกสร, ปาก ก็เรียก | กระเป๋า ๑ | เรียกถุงหน้าท้องสำหรับใส่ลูกของสัตว์บางชนิดเช่นจิงโจ้ ม้าน้ำ. | กระเป๋าฉีก | ว. หมดเงินในกระเป๋าเพราะใช้จ่ายมาก เช่น วันนี้จ่ายเงินเสียกระเป๋าฉีกเลย. | กระเป๋าตุง | ว. มีเงินในกระเป๋ามาก เช่น ไปทำอะไรจึงกระเป๋าตุงกลับมา. | กระเป๋าเบา | ว. มีเงินในกระเป๋าน้อยลง เช่น ไปเที่ยวเสียกระเป๋าเบาเลย. | กระเป๋าแฟบ | ว. มีเงินในกระเป๋าลดน้อยลงมาก เช่น ไปจ่ายของเสียกระเป๋าแฟบเลย. | กระเป๋าหนัก | ว. มีเงินมาก, ร่ำรวย, เช่น วันนี้ยอมเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าว สงสัยจะกระเป๋าหนัก. | กระเป๋าแห้ง | ว. ไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย เช่น วันนี้เขากระเป๋าแห้ง. | กระเป๋า ๒ | น. พนักงานเก็บค่าโดยสารรถหรือเรือประจำทาง. | กวางป่า | น. ชื่อกวางชนิด Cervus unicolor Kerr ในวงศ์ Cervidae เป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในหมู่กวางในประเทศไทย ขนยาวหยาบสีน้ำตาล ตัวผู้มีเขาเป็นแขนงข้างละ ๓ กิ่ง ผลัดเขาปีละครั้ง มักแยกอยู่ตามลำพังยกเว้นฤดูผสมพันธุ์จึงจะรวมกลุ่ม กินใบไม้อ่อน หญ้าอ่อน, กวางม้า ก็เรียก. | กะเปิ๊บกะป๊าบ | ว. พูดเสียงดังเอะอะและไม่ระมัดระวังวาจาหรือท่าทาง, มีกิริยาท่าทางหรือแต่งตัวรุงรังไม่เรียบร้อย. | กะหลาป๋า ๑ | น. ชื่อเมืองในเกาะชวาสมัยโบราณ ต่อมาเรียก ปัตตาเวีย, ปัจจุบันคือ จาการ์ตา | กะหลาป๋า ๑ | บางทีเขียนเป็น กาหลาป๋า เช่น มีพระคลังพิมานอากาษไว้กระจกเทศพรมเทศ เครื่องแก้วมาแต่เทศกาหลาป๋า ๑ (คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม) | กะหลาป๋า ๑ | เรียกหมวกชนิดหนึ่งสานด้วยไม้ไผ่อย่างละเอียด รูปทรงสูง ผู้หญิงนิยมใช้ในเวลาแข่งเรือ มีดอกไม้จีนเสียบ เป็นของเก่าในสมัยต้นรัชกาลที่ ๕ ขึ้นไป ว่า หมวกกะหลาป๋า | กะหลาป๋า ๑ | เรียกขวดแก้วสำหรับใช้ใส่น้ำอบ ทรงกระบอกแปดเหลี่ยม มีสีต่าง ๆ มีจุกแก้ว เถาหนึ่งมี ๓ ใบ ว่า ขวดกะหลาป๋า. | กะหลาป๋า ๒ | น. ชื่อชมพู่พันธุ์หนึ่งของชนิด Syzygium samarangense (Blume) Merr. et L. M. Perry ผลสีเขียว รสหวาน เรียกว่า ชมพู่กะหลาป๋า เป็นพรรณไม้ชวา. | กัดป่า | ดู กริม. | การบูรป่า | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Adenosma indiana (Lour.) Merr. ในวงศ์ Scrophulariaceae ขึ้นตามป่าเต็งรัง ต้นสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ขอบใบจักถี่ ใบมีกลิ่นคล้ายกลิ่นใบกะเพรา โหระพา แต่อ่อนกว่า ดอกเล็กสีม่วง ออกเป็นช่อเรียวยาวตามง่ามใบและที่ปลายยอด, กระต่ายจาม ข้าวคำ หรือ พริกกระต่าย ก็เรียก. | เกี่ยวแฝกมุงป่า | ก. ทำอะไรเกินกำลังความสามารถของตัว. | แกงป่า | น. แกงเผ็ดที่ไม่ใส่กะทิ. | ไก่ป่า | น. ชื่อไก่ชนิด Gallus gallus (Linn.) ในวงศ์ Phasianidae ตัวผู้สีเข้มสดใสและหลากสีกว่าตัวเมีย เช่น สีเขียว ดำ แดง ตัวเมียสีน้ำตาลอมเหลือง ทั้งตัวผู้และตัวเมียขาสีเทาเข้ม โคนหางสีขาว อาศัยในป่าโปร่ง เช่น ป่าไผ่ ในประเทศไทยมี ๒ ชนิดย่อย คือ ไก่ป่าติ่งหูขาว [ G. g. gallus (Linn.) ] และไก่ป่าติ่งหูแดง [ G. g. spadiceus (Bonaterre) ] ไก่ชนิดนี้เป็นต้นตระกูลของไก่บ้าน. | ขนุนป่า | น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่หลายชนิด เช่น Artocarpus lanceifolius Roxb. ในวงศ์ Moraceae เกิดในป่าดิบ. | ขวดกระเป๋า | น. ขวดแก้วสำหรับใส่น้ำอบ ทรงกระบอกแปดเหลี่ยม มีสีต่าง ๆ มีจุกแก้ว เถาหนึ่งมี ๓ ใบ. | ของป่า | น. บรรดาของที่เกิดหรือมีขึ้นในป่าตามธรรมชาติ เช่น ไม้ ยางไม้ พืช รังนก รวงผึ้ง มูลค้างคาว ซากสัตว์ หิน ดิน กรวด ทราย. | ข้าวป่า | น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในสกุล Oryza วงศ์ Gramineae เช่น ข้าวละมาน (O. minutaJ. Presl et C. Presl). | ไข้ป่า | น. ไข้ที่รับจากป่าหรือดงดิบ เกิดเพราะถูกอายพิษดิน พิษแร่ หรือว่านยา หรือเชื้อไข้มาลาเรีย. | ควักกระเป๋า | ก. จ่ายเงินหรือออกเงิน เช่น ควักกระเป๋าเลี้ยงเพื่อน. | คุณลุงคุณป้า | น. ชื่อเพลงไทย อัตรา ๒ ชั้น หน้าทับสองไม้ เมื่อทำเป็นเพลงเถา ชื่อว่า อะแซหวุ่นกี้ เถา. | เงาะป่า | ดู กะทกรก (๒). | เงียบเป็นเป่าสาก | ว. ลักษณะที่เงียบสนิท. | ฉบับกระเป๋า | ว. ที่มีขนาดเล็กสามารถพกพาไปได้สะดวก เช่น พจนานุกรมฉบับกระเป๋า คอมพิวเตอร์ฉบับกระเป๋า. | ซีป่าย | น. ชื่อกองทหารแบบอังกฤษกองหนึ่งในรัชกาลที่ ๔ เอาแบบมาจากทหารซีปอยของกองทัพอังกฤษในอินเดีย. | เดินป่า | ก. เดินทางไปในป่า เช่น ทหารเดินป่า. | เดินป้าย | ก. ส่งหนังสือ. | ตั้งเข็ม, ตั้งเป้าหมาย | ก. กำหนดจุดมุ่งหมาย เช่น ล้าต้าต้นหนก็มุ่งมอง ตั้งเข็มส่องกล้องสลัด (ม. ร่ายยาว กุมาร). | ตายประชดป่าช้า | ก. แกล้งทำหรือพูดแดกดันประชดอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียหายจากการทำหรือพูดนั้น. | ตีป่า | ก. ตีดะ, ตีไม่เลือก. | ตีป่าให้เสือกลัว | ก. ขู่ให้กลัว. | ตี่ป้าบ | น. ชื่อการเล่นตี่ชนิดหนึ่งใช้มือตบหลังเมื่อไล่ทัน. | ทอดผ้าป่า | ก. เอาผ้าถวายพระภิกษุโดยวางไว้บนกิ่งไม้เพื่อให้พระภิกษุชักเอาเอง, โดยปริยายหมายถึงอาการที่วางไว้อย่างนั้น เช่น ทอดผ้าป่าเรียงวางไว้กลางสนาม (อภัย). | เทกระเป๋า | ก. จ่ายเงินจนหมดกระเป๋าหรือเท่าที่ติดตัวไป. | น้ำป่า | น. นํ้าที่เกิดท่วมในที่ตํ่าโดยฉับพลันทันทีและไหลลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดจากฝนตกชุกในที่สูงบริเวณเทือกเขาหรือในป่า เมื่อสะสมไว้มีปริมาณมากขึ้นก็จะไหลบ่าสู่ที่ต่ำ. | น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า | น. การพึ่งพาอาศัยกัน. | แนวป่า | น. ชายป่าที่เห็นเป็นทิวยาวไป. | บุกป่าฝ่าดง | ก. พยายามต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ. | ประตูป่า | น. ปากทางที่จะเข้าสู่ป่า, ประตูที่สะด้วยใบไม้กิ่งไม้สำหรับพิธีเทศน์มหาชาติ, ประตูเรือนที่ปักกิ่งไม้ไว้เวลานำศพออกจากบ้าน. | ปล่อยเสือเข้าป่า | ก. ปล่อยศัตรูไปอาจกลับมาทำร้ายภายหลังอีก, มักใช้เข้าคู่กับ ปล่อยปลาลงนํ้า เป็น ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงนํ้า. |
| picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | picketing | ๑. การถือป้ายประท้วง๒. การขัดขวางไม่ให้เข้าทำงาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | paste | ยาป้าย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pigment | ๑. สารสี๒. ยาป้ายผิว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | label | ป้าย [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | label | ป้าย [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | labels | ติดป้าย, ชูป้าย (ชื่อ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | swab | ๑. สิ่งป้ายกวาด๒. ป้ายกวาด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | smear | ๑. เกลี่ยป้าย๒. สิ่งป้าย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | obtuse | ป้าน, มน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | obtuse angle | มุมป้าน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | obtuse bisectrix | แนวแบ่งมุมป้าน [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | obtuse triangle | รูปสามเหลี่ยมมุมป้าน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | ophthalmic ointment; oculentum; ointment, eye | ขี้ผึ้งป้ายตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ointment, eye; oculentum; ointment, ophthalmic | ขี้ผึ้งป้ายตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ointment, ophthalmic; oculentum; ointment, eye | ขี้ผึ้งป้ายตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | oculentum; ointment, eye; ointment, ophthalmic | ขี้ผึ้งป้ายตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | beginning of file label | ป้ายเริ่มแฟ้ม [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | beginning of file section label | ป้ายเริ่มส่วนแฟ้ม [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | butte | เนินยอดป้าน [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | mudslinging | การให้ร้ายป้ายสี, การสาดโคลน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | campaign, whispering | การณรงค์แบบให้ร้ายป้ายสี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | file label | ป้ายแสดงชื่อแฟ้ม [ มีความหมายเหมือนกับ file identification ] [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | eye ointment; oculentum; ointment, ophthalmic | ขี้ผึ้งป้ายตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | volume label | ป้ายหมวด [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | tag | ป้ายระบุ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | tagged image file format (TIFF) | รูปแบบแฟ้มภาพพร้อมป้ายระบุ (ทิฟฟ์) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | tagged image file format (TIFF) | รูปแบบแฟ้มภาพพร้อมป้ายระบุ (ทิฟฟ์) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | trailer label | ป้ายชื่อท้ายแฟ้ม [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | TIFF (tagged image file format) | ทิฟฟ์ (รูปแบบแฟ้มภาพพร้อมป้ายระบุ) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | TIFF (tagged image file format) | ทิฟฟ์ (รูปแบบแฟ้มภาพพร้อมป้ายระบุ) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | tag | ป้ายระบุ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | target language | ภาษาเป้าหมาย [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | target population | ประชากรเป้าหมาย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | target risk | ภัยเป้าหมาย [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | header label | ป้ายหัวเรื่อง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | number plate | ป้ายทะเบียนรถ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | nameplate | ป้ายประจำเครื่อง [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] | number-plate light | ไฟส่องป้าย [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | whispering campaign | การณรงค์แบบให้ร้ายป้ายสี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Bookplate | บรรณสิทธิ์ (หมายถึง ป้ายหรือตราประจำตัวของเจ้าของหนังสือ), Example: Bookplates เป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์บอกประวัติการครอบครองหนังสือ คำว่า Bookplates นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ส่วนประเทศอื่นๆ ในยุโรปจะเรียกว่า เอ็กซ์ ลิบรีส์ (ex libris) ในภาษาละติน แปลว่า "จากห้องสมุดของ..." แล้วต่อด้วยอักษรย่อชื่อ ตราประจำตัว หรือตราประจำตระกูลของผู้เป็นเจ้าของหนังสือ <p> <p>ห้องสมุดในประเทศไทยนิยมการประทับตราเพื่อแสดงกรรมสิทธิ์ในหน้ารหัส (secret page) ของหนังสือเป็นส่วนมาก กลุ่มผู้ที่เริ่มใช้ bookplate ในประเทศไทย ได้แก่ พระบรมวงศานุวงศ์ <p>ตัวอย่างภาพ การแสดงกรรมสิทธิ์ของห้องสมุดหรือเจ้าของหนังสือ <p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20120901-Book-Plate.jpg" width="300" higth="100" alt="Book-Plate"> <p>กรมพระจันทบุรีนฤนาท ทรงใช้พระนาม "กิติยากรวรลักษณ์" เขียนแล้วซับให้เป็นรูปตะขาบ ด้านบนมีข้อความว่า "สุวิชาโน ภวํ โหติ" <p>ตัวอย่าง ภาพ Book plate ในกรมพระจันทบุรีนฤนาท <p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20120901-Book-Plate2.JPG" width="300" higth="100" alt="Book-Plate2"> <p> <p> รายการอ้างอิง <p>อัมพร ทีขะระ. 2523. ห้องสมุดหนังสือหายาก. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. <p>Make your own book plate. 2010. http://sew-thrifty.blogspot.com [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Equity-loan target ratio | เป้าหมายอัตราส่วนของทุนต่อเงินกู้ [เศรษฐศาสตร์] | Shipping mark | ป้ายกำกับสิ้นค้าที่ส่ง [เศรษฐศาสตร์] | Cyclotron | ไซโคลทรอน, เครื่องเร่งอนุภาคที่อนุภาคถูกเร่งด้วยสนามไฟฟ้าและถูกควบคุมด้วยสนามแม่เหล็ก ให้วิ่งวนเป็นวงออกไปคล้ายก้นหอย เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการ อนุภาคจะถูกปล่อยให้ชนกับวัสดุที่ใช้เป็นเป้า เครื่องเร่งอนุภาคชนิดนี้ใช้ในการวิจัยฟิสิกส์มูลฐาน และการผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ประดิษฐ์ คือ เออร์เนสต์ โอ. ลอว์เรนซ์ (Earnest O. Lawrence) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2482 [นิวเคลียร์] | Label | ป้าย [คอมพิวเตอร์] | X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Waste storage | การเก็บรักษากากกัมมันตรังสี, การเก็บรักษากากกัมมันตรังสีไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยจัดเก็บอย่างเป็นหมวดหมู่และเป็นระเบียบ มีการจำกัดเขต ติดป้ายแสดงสถานที่และระดับรังสีอย่างชัดเจน ผนังของสถานที่จัดเก็บมีความหนาเพียงพอต่อการกำบังรังสีให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และอากาศถ่ายเทสะดวก [นิวเคลียร์] | Storage, waste | การเก็บรักษากากกัมมันตรังสี, การเก็บรักษากากกัมมันตรังสีไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยจัดเก็บอย่างเป็นหมวดหมู่และเป็นระเบียบ มีการจำกัดเขต ติดป้ายแสดงสถานที่และระดับรังสีอย่างชัดเจน ผนังของสถานที่จัดเก็บมีความหนาเพียงพอต่อการกำบังรังสีให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และอากาศถ่ายเทสะดวก, Example: [นิวเคลียร์] | Spallation Neutron Source | ต้นกำเนิดนิวตรอนแบบสปอลเลชัน, เครื่องผลิตนิวตรอนชนิดหนึ่ง โดยการเร่งโปรตอนพลังงานสูงกว่า 100 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ เข้าชนเป้าซึ่งเป็นธาตุหนัก เช่น แทนทาลัม ทังสเตน หรือ ยูเรเนียม ทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่มีการปลดปล่อยนิวตรอนพลังงานเฉลี่ย 1 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ ต้นกำเนิดนิวตรอนแบบสปอลเลชันเครื่องแรกมีชื่อว่า KENS ตั้งอยู่ที่สถาบัน KEK (Ko Enerugi Kenkyujo) ประเทศญี่ปุ่น เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี พ.ศ. 2523 [นิวเคลียร์] | Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Radiotherapy | รังสีรักษา, การบำบัดด้วยรังสี, การใช้รังสีชนิดก่อไอออนบำบัดรักษาโรค มี 4 วิธี คือ <br> 1. การฉายรังสีไปยังอวัยวะเป้าหมาย (Teletherapy) เช่น ต่อมน้ำเหลือง กล่องเสียง ปอด โดยใช้รังสีเอกซ์จากเครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น หรือใช้รังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60</br> <br> 2. การฝังสารกัมมันตรังสี ในเนื้อเยื่อหรือโพรงอวัยวะ (Brachy therapy) เช่น ปากมดลูก และช่องปาก โดยใช้ซีเซียม-137, อิริเดียม-192 หรือ ทอง-198</br> <br> 3. การให้สารกัมมันตรังสีทางปาก เช่น การรับประทานสารประกอบไอโอดีน-131 (Na<sup>131I</sup>) เพื่อรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์</br> <br> 4. การฉีดสารกัมมันตรังสีทางเส้นเลือด เช่น สารประกอบไอโอดีน-131 (Lipiodol-<sup>131</sup>I) ใช้รักษามะเร็งตับ</br> [นิวเคลียร์] | Radiation therapy | รังสีรักษา, การบำบัดด้วยรังสี, การใช้รังสีชนิดก่อไอออนบำบัดรักษาโรค มี 4 วิธี คือ <br> 1. การฉายรังสีไปยังอวัยวะเป้าหมาย (Teletherapy) เช่น ต่อมน้ำเหลือง กล่องเสียง ปอด โดยใช้รังสีเอกซ์จากเครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น หรือใช้รังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60</br> <br> 2. การฝังสารกัมมันตรังสี ในเนื้อเยื่อหรือโพรงอวัยวะ (Brachy therapy) เช่น ปากมดลูก และช่องปาก โดยใช้ซีเซียม-137, อิริเดียม-192 หรือ ทอง-198</br> <br> 3. การให้สารกัมมันตรังสีทางปาก เช่น การรับประทานสารประกอบไอโอดีน-131 (Na<sup>131I</sup>) เพื่อรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์</br> <br> 4. การฉีดสารกัมมันตรังสีทางเส้นเลือด เช่น สารประกอบไอโอดีน-131 (Lipiodol-<sup>131</sup>I) ใช้รักษามะเร็งตับ</br> [นิวเคลียร์] | Neutron generator | เครื่องกำเนิดนิวตรอน, เครื่องเร่งอนุภาคชนิดหนึ่งที่ใช้ในการผลิตนิวตรอน โดยการเร่งอนุภาคที่มีประจุ เช่น ดิวเทอรอน ให้มีพลังงานระหว่าง 150-500 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ แล้วปล่อยให้ชนกับเป้าบางๆ ที่เหมาะสม ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจะให้นิวตรอนที่มีพลังงานได้ถึง 17.59 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์, Example: [นิวเคลียร์] | Digital Accessible Information System Book | หนังสือเสียงอิเล็กทรอนิกส์ระบบเดซี, สื่อข้อมูลดิจิทัล เช่น แผ่นซีดี หรือ หน่วยความจำ ที่สามารถนำมาเล่นด้วยเครื่อเล่นหรือคอมพิวเตอร์แล้วได้เป็นเสียงอ่านที่เคยบันทึกเอาไว้ก่อน ทั้งนี้ โดยใช้วิธีการกำหนดตำแหน่ง (mark up) ระหว่างเสียง กับข้อความ (ป้ายกำกับข้อมูลเสียง) ตามมาตรฐานเปิด ของสมาคมเดซี (Daisy Consortium) [Assistive Technology] | Remote sensing | การสำรวจระยะทางไกล, การบันทึกหรือการได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุ พื้นที่เป้าหมายด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูล (sensor) จากระยะไกล โดยทั่วไปมักจะหมายถึงดาวเทียมถ่ายภาพวัตถุบนพื้นโลกซึ่งจะสามารถวัดสี ความร้อน ความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ บนพื้นผิวโลกได้ [Assistive Technology] | Aims and objectives | เป้าหมายและวัตถุประสงค์ [TU Subject Heading] | Bill-posting | ป้าย [TU Subject Heading] | Billboards | ป้ายโฆษณากลางแจ้ง [TU Subject Heading] | Computer bulletin boards | ป้ายนิเทศคอมพิวเตอร์ [TU Subject Heading] | Display boards | ป้ายนิเทศ [TU Subject Heading] | Displays in education | ป้ายนิเทศทางการศึกษา [TU Subject Heading] | Goal (Psychology) | เป้าหมาย (จิตวิทยา) [TU Subject Heading] | Goal setting in personnel management | การตั้งเป้าหมายในการบริหารงานบุคคล [TU Subject Heading] | Signs and signboards | เครื่องหมายและป้าย [TU Subject Heading] | Target marketing | การตลาดเป้าหมาย [TU Subject Heading] | Vaginal smears | การป้ายตรวจหาเชื้อจากช่องคลอด [TU Subject Heading] | Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] | Asia Pacific Economic Cooperation | ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก " เป็นกระบวนการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2532 มีเป้าหมายในการเปิดการค้าเสรีและการลงทุน ภายในปี พ.ศ. 2553 สำหรับสมาชิกพัฒนาแล้ว และปี พ.ศ. 2563 สำหรับสมาชิกกำลังพัฒนา ขณะนี้มีสมาชิกประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน ดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกีนี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม โดยประเทศไทยเป็นสมาชิกก่อตั้ง " [การทูต] | ASEAN Charter | กฎบัตรอาเซียน เป็นความตกลงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จะให้สถานะทางกฎหมายหรือนิติฐานะแก่อาเซียน และวางกรอบโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อทำให้อาเซียนเป็นหน่วยงานที่ยึดมั่นมาก ยิ่งขึ้นต่อกติกาและกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิกร่วมกันกำหนดขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กฎบัตรอาเซียนยังมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประชาชน เป็นศูนย์กลางของความร่วมมือมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดตั้งองค์กรใหม่ๆ เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของประชาชนอาเซียน เช่น องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้ร่วมลงนามกฎบัตรฯ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 [การทูต] | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Inju | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Injurious or to Have Indiscriminate Effects = อนุสัญญาห้ามอาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้เกิดการบาด เจ็บร้ายแรงเกินความจำเป็นหรือก่อให้เกิดลโดยไม่จำกัดเป้าหมาย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามหรือหารจำกัดการใช้อาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้ เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านมนุษยธรรม โดยสาระสำคัญของการ คอบคุมอาวุธตามแบบแต่ละชนิดจะถูกกำหนดไว้ในพิธีสารแต่ละฉบับต่างหาก ซึ่งในชั้นนี้ มีพิธีสาร 5 ฉบับ และรัฐต่างๆ สามารถเลือกยอมรับพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาฯ ฉบับใดก็ได้อย่างน้อยจำนวน 2 ฉบับ [การทูต] | Cluster munitions | ระเบิดพวง เป็นลูกระเบิดชนิดที่ปล่อยจากเครื่องบินหรือลูกกระสุน ปืนใหญ่ที่ภายในบรรจุลูกระเบิดขนาดเล็ก (submunition) ไว้จำนวนมาก อาจมีจำนวนถึงหลายร้อยลูก ซึ่งจะระเบิดกลางอากาศและปล่อยลูกระเบิดขนาดเล็ก และสะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง มีอัตราความคลาดเคลื่อนผิดพลาดจากเป้าหมายสูงและบางครั้งอาจไม่ระเบิดใน ทันที และตกค้างบนพื้นดิน ซึ่งมีผลทำลายล้างเหมือนกับทุ่นระเบิด [การทูต] | Convention on Cluster Munitions | อนุสัญญาว่าด้วยระเบิดพวง มีสาระสำคัญคือ การห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอนรวมทั้งต้องทำลายระเบิดพวง โดยมีการยกเว้นระเบิดพวงบางประเภทที่มีความแม่นยำต่อเป้าหมายและมีอัตรา ความเสี่ยงต่ำ โดยเปิดให้ลงนามอนุสัญญาฯ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์เป็นต้นไป และจะมีผลบังคับใช้วันแรก ของเดือนที่หกหลังจากที่ 30 ประเทศ ได้ให้สัตยาบัน [การทูต] | Drug-Free ASEAN | อาเซียนที่ปลอดจากยาเสพติด เป็นคำประกาศของอาเซียนในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยที่ 31 ที่กรุงมะนิลา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการตั้งเป้าหมาย ที่จะทำให้ภูมิภาคนี้ปลอดจากยาเสพติดในปี พ.ศ. 2563 และต่อมา ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยที่ 33 ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 ได้ประกาศร่นกำหนดเวลาดังกล่าวให้เร็วขึ้น 5 ปี จากเดิมในปี พ.ศ. 2563 เป็นปี พ.ศ. 2558 [การทูต] | European Union | สหภาพยุโรป สหภาพยุโรปได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ นับแต่การก่อตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้า (European Coal and Steal Community) ในปี พ.ศ. 2494 ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดทำสนธิสัญญากรุงโรม (Treaty of Rome) ได้มีการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Community : EEC) และประชาคมพลังงานปรมาณู (Euratom) ในช่วงเวลานั้นจึงเรียกชื่อกันว่าประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (EEC) ต่อมาได้มีการรวม 3 ประชาคมเข้าด้วยกันและได้มีกฎหมายยุโรปตลาดเดียว (Single European Act) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2530 เพื่อให้ประชาคมเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นตลาดร่วมและตลาดเดียวที่ สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2535 ดังนั้นในทางปฏิบัติจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อเป็นประชาคมยุโรป (European Communities : EC) ตั้งแต่ พ.ศ. 2530 ต่อมาเมื่อสนธิสัญญามาสทริชท์ (Maastricht Treaty) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2536 ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายและขั้นตอนให้ประชาคมยุโรปพัฒนาไปสู่การเป็นสหภาพยุโรป จึงได้เปลี่ยนมาเรียกชื่อในทางปฏิบัติว่า สหภาพยุโรป (European Union : EU) ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก สวีเดน ไอร์แลนด์ กรีซ ฟินแลนด์ ออสเตรีย [การทูต] | Forum for East Asia - Latin America Cooperation | เวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเม ริกา สมาชิก 32 ประเทศ จากภูมิภาคเอเชียและลาตินอเมริกา โดยมีสมาชิก จากฝ่ายเอเชีย 15 ประเทศ คือ กลุ่ม ASEAN (10 ประเทศ) จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และจากฝ่ายลาตินอเมริกา 17 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา นิการากัว คิวบา ปานามา เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา บราซิล โบลิเวีย เอกวาดอร์ ปารากวัย อุรุกวัย อาร์เจนตินา และชิลี วัตถุประสงค์ จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 มีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่าง -ประเทศทุก 2 ปี ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ปีละ 2 ครั้ง และคณะทำงาน 3 คณะ ปีละ 2 ครั้ง (คณะทำงานด้านการเมือง วัฒนธรรม และการศึกษา / ด้านเศรษฐกิจและสังคม / และด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเวทีปรึกษาหารือและร่วมมือกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศเอเชียและ ลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายไปที่การดำเนินโครงการความร่วมมือในทุกสาขาที่ประเทศสมาชิกมี ความสนใจร่วมกัน [การทูต] | food security | ความมั่นคงทางด้านอาหาร หมายถึง การที่ประชากรโลกมีอาหารเพียงพอกับความต้องการ (availibility) มีเสถียรภาพ (stability) และสามารถเข้าถึงได้ (accessibility) แนวความคิดเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรองปฏิญญากรุงโรม ของที่ประชุมสุดยอด อาหารโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะขจัดความหิวโหย และลดปัญหาทุโภชนาการของประชากรโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนประชากรที่ขาดอาหารให้เหลือครึ่งหนึ่งจากที่มี อยู่ในปัจจุบัน ภายในปี พ.ศ. 2558 [การทูต] | Forward Engagement | การทูตเชิงรุก ยุทธศาสตร์กรอบใหญ่ในนโยบายต่างประเทศของไทย ที่มีเป้าหมายที่จะขยายกรอบความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกมิติความร่วมมือกับ ต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์กับทุกประเทศทั่วโลก เพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนและความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจสำหรับประชาคมโลก [การทูต] | Free Trade Area | เขตการค้าเสรี การรวมกลุ่มเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาษีศุลกากร ระหว่างกันภายในกลุ่มลงให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็น 0% และใช้อัตราภาษีปกติที่สูงกว่ากับประเทศนอกกลุ่ม [การทูต] | Free Trade Area of the Americas | เขตการค้าเสรีแห่งทวีปอเมริกา " ประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมดขององค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States หรือ OAS) ยกเว้นประเทศคิวบา มีเป้าหมายที่จะจัดตั้งให้สำเร็จในปี พ.ศ. 2548 (OAS มีสมาชิกทั้งหมด 35 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก อาร์เจนตินา โบลิเวีย บราซิล ชิลี โคลัมเบีย คอสตาริกา คิวบา โดมินิกัน เอกวาดอร์ เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา เฮติ ฮอนดูรัส นิการากัว ปานามา ปารากวัย อุรุกวัย เวเนซุเอลา แอนติกัวและบาร์บูดา เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ จาเมกา บาร์เบโดส เกรนาดา สุรินาเม โดมินิกา เซนต์ลูเซีย บาฮามาส เซนต์คิดตส์และเนวิส เบลิซ กายอานา ตรินิแดดและโตบาโก) " [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | India-Brazil-South Africa | เวทีเจรจาสามฝ่าย ระหว่างอินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสิมความร่วมมือในกรอบใต้-ใต้ใน วงกว้าง เป้าหมายหลัก IBSA คือการส่งเสริมและขยายโอกาส ด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาสังคม และการเลแกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน [การทูต] | United Nations International Research and Training Institute for the Advancement of Women | สถาบันวิจัยและฝึกอบรมระหว่างประเทศเพื่อความก้าวหน้าของสตรีแห่งสหประชา ชาติ เป็นสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินบริจาคโดยสมัครใจจากประเทศสมาชิก มีเป้าหมายที่จะเร่งรัดและช่วยเหลือให้สตรีสามารถมีบทบาทอย่างแข็งขันและ อย่างเท่าเทียมกันในกระบวนการพัฒนา [การทูต] | Leaque of Arab States หรือ Arab Leaque | ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2488 มีเป้าหมายทางการเมืองเป็นเป้าหมายหลัก คือ สร้างเอกภาพ รักษาและส่งเสริมผลประโยชน์อาหรับ รวมทั้งเป็นกลไก [การทูต] | Look West Policy | นโยบายมองตะวันตก (ของไทย) เป็นแนวความคิดที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในทางการ เมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยสอดคล้องกับความเป็นจริงของยุคหลังสงครามเย็น ประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา [การทูต] | Madagascar Action Plan | แผนปฏิบัติการมาดากัสการ์ เป็นแผนพัฒนาประเทศมาดากัสการ์ที่เป็นรูปธรรมฉบับแรก นับตั้งแต่มาดากัสการ์ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2503 รัฐบาลมาดากัสการ์ ได้รับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ (ประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มาจากแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ เป้าหมายหลักของ MAP ได้แก่ การพัฒนาระบบคมนาคม การพัฒนาชนบท การปรับปรุงระบบสาธารณสุข และการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนาเศรษฐกิจ [การทูต] | Millennium Development Goals | เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ [การทูต] | New Diplomacy | การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] | New Zealand's International Aid & Development Agencies | หน่วยงานความช่วยเหลือด้านการพัฒนาของนิวซีแลนด์ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่แทน NZODA (New Zealand?s Official Development Assistance Program) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2545 โดยเป็นหน่วยงานด้านนโนยายและปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้าน การพัฒนา ลักษณะการดำเนินงานเป็นอิสระ แต่ยังขึ้นตรงต่อกระทรวงการต่างประเทศและการค้า นิวซีแลนด์ มีวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อขจัดความยากจน การพัฒนาการศึกษาขั้นมูลฐาน และเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกเป็นลำดับแรก [การทูต] | Public Diplomacy | การทูตสาธารณะ หมายถึง การดำเนินการทางการทูตแบบหนึ่งเพื่อโน้มน้าวชักจูงให้สาธารณชนและกลุ่มเป้า หมายและกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ในต่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของรัฐให้มีความชื่นชมและเข้าใจ ถึงแนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของประเทศใคประเทศหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชนให้มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้น และประสบผลสำเร็จอน่างแนบเนียน โดยจะมี ความแตกต่างจากการดำเนินการทางการทูตแบบดั้งเดิม ที่เน้นการสื่อสารระหว่างรัฐต่อรัฐ(Government to Government)แต่การทูตสาธารณะจะเน้นวิธีการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับ ประชาชน( Government to People) ภาคเอกชน ประชาสังคม หรือสื่อมวลชนในต่างประเทศหรือระหว่าประชาชนด้วยกันเอง อนึ่ง การทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) ที่ใช้วัฒนธรรมเป็นสื่อเชื่อมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนนั้น ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของการดำเนินการทางการทูตสู่สาธารณชนนี้ [การทูต] | Team Thailand | ทีมประเทศไทย หมายถึง รูปแบบของการทำงานที่เป็นเอกภาพของหน่วยราชการไทยในการปกป้อง รักษา และส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อช่วยประหยัดงบประมาณ ขจัดความซ้ำซ้อน ลดการทำงานที่ไม่จำเป็นให้หมดไป และช่วยให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานมากยิ่งขึ้น อันจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพ และเพิ่มประสิทธิผลของการทำงาน แนวคิดเรื่องทีมประเทศไทยเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงานของหน่วยงานไทย ในต่างประเทศ โดยเน้นให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีภารกิจในต่างประเทศทำงานร่วมกัน อย่างมีเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน มีทิศทางเดียวกันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายร่วมกันบนพื้นฐานของแผน งานรวมที่เป็นเอกภาพ (unified work plan) มีสำนักงานที่เป็นเอกภาพ (unified structure) และมีกรอบการประสานงานที่เป็นเอกภาพ (unified command) โดยมีกระทรวงการต่างประเทศซึ่งรับผิดชอบภาพรวมของการดำเนินความสัมพันธ์กับ ต่างประเทศทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมในการประสานงาน ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการปฏิรูประบบราชการในต่างประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541 [การทูต] |
| Is it the man who killed Nicki? | คุณกลัวคนที่ฆ่าป้านิคกี้ The Bodyguard (1992) | A reward for this wallet he found. | อ๊ะ คุณป้าที่ทำคุ้กกี้ไม่อร่อยหนิ Hero (1992) | -He's a fake. -You know him? He's a goddamn fake. | ใครจะเป็นรายต่อไปที่จะถูกคุณป้ายสี Hero (1992) | Virtual reality holds a key to the evolution of the mind... and that's my focus. | ระบบโลกเสมือนนั่น กุมกุญแจแห่งวิวัฒนาการเอาไว้ นั่นคือเป้าหมายของฉัน The Lawnmower Man (1992) | Precisely why we feel it's time for you to guide his efforts... in a specific direction. | ไม่คิดว่าถึงเวลาที่เรา จะให้เขาดำเนินงานวิจัย.. ..ในเป้าหมายใหม่หรือ? The Lawnmower Man (1992) | Which direction is that? | เป้าหมายอะไรครับ? The Lawnmower Man (1992) | For Christ's sake, don't let some juvenile ethics problem... get in your way. | ให้ตายเถอะ อย่าให้เรื่องพวกนี้ ทำให้นายไปไม่ถึงเป้าหมาย The Lawnmower Man (1992) | The Project 5 abstracts that you were exposed to... were never meant for the human mind. | โปรเจคที่ห้าซึ่งเธอได้ไปเกี่ยวข้อง ไม่เคยมีเป้าหมายพัฒนามนุษยชาติ The Lawnmower Man (1992) | That's your Aunt Clara. She stopped giving 'em to you. | ป้าคลาร่าไง เธอไม่ให้หนูนายแล้ว Of Mice and Men (1992) | Aunt Clara don't like it. | ป้าคลาร่า ไม่ชอบ Of Mice and Men (1992) | Jesus Christ, your Aunt Clara wouldn't like you running off by yourself. | ให้ตายสิ ป้าคลาร่าคงไม่อยาก ให้นายวิ่งหนีไปคนเดียวแน่ ๆ Of Mice and Men (1992) | - They got nothin' to look ahead to. | - และพวกเขาไม่มีเป้าหมายในชีวิต Of Mice and Men (1992) | Well, I knew his Aunt Clara. | ฉันรู้จักป้าคลาร่าของเขา Of Mice and Men (1992) | - Sausages for your Aunt Annie. | - - ไส้กรอกสำหรับป้าแอนนี่ของคุณ In the Name of the Father (1993) | My mother had given me the address of my Aunt Annie... but I had an invitation to a hippie commune from my old friend... | แม่ฉันก็มีให้ฉัน ที่อยู่ของป้าแอนของฉัน ... แต่ฉันมีคำเชิญให้ฮิปปี้ ชุมชนจากเพื่อนเก่าของฉัน ... In the Name of the Father (1993) | I was just taking them sausages to me Auntie Annie's. | ผมเพียงแค่การพาไส้กรอก ฉันคุณป้าแอนนี่ของ In the Name of the Father (1993) | I was a couple of nights at my Auntie Annie's... and one night at the hotel after I robbed the money. | ผมสองสามคืน ที่แอนนี่คุณป้าของฉัน ... และคืนหนึ่งที่โรงแรม หลังจากที่ฉันปล้นเงิน In the Name of the Father (1993) | My Aunt Annie? | แอนนี่ป้าของฉัน In the Name of the Father (1993) | I come over to your Aunt Annie's to get you a lawyer. | ฉันมาที่ป้าแอนนี่ของคุณ เพื่อให้ได้ทนายความ In the Name of the Father (1993) | - The aunt, Aggie... | - - ป้า, Aggie ... In the Name of the Father (1993) | That confession led the police to the ringleader, Conlon... and his terrorist family... his aunt, Annie Maguire, the experienced bomb maker... who wore rubber gloves when handling explosives... in the kitchen of her home in Harlesden. | คำสารภาพที่ทำให้ตำรวจ เพื่อหัวโจก, Conlon ... การก่อการร้ายและครอบครัวของเขา ... ป้า, แอนนี่ Maguire ของเขา ผู้ผลิตระเบิดประสบการณ์ ... In the Name of the Father (1993) | It was a military target, a soldier's pub. | มันเป็นเป้าหมายทางทหาร ผับของทหาร In the Name of the Father (1993) | Auntie An Mei, | คุณป้าอันเมย์ The Joy Luck Club (1993) | Auntie Lindo, | คุณป้าลินโด The Joy Luck Club (1993) | Auntie Ying Ying. | คุณป้าหยิงหยิง The Joy Luck Club (1993) | - Huh? - How do I know you're not cheating? | - แล้วหนูจะรู้ได้ยังไงว่าพวกป้าไม่ได้โกงหนู The Joy Luck Club (1993) | You don't know, but we are your auntie and we are very honest people. | เธอไม่รู้แต่ว่าเราเป็นป้าของเธอนะ แล้วเราก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์มากๆด้วย The Joy Luck Club (1993) | When I was young, Auntie Lindo was my mother's best friend and arch enemy. | ตอนที่ฉันยังเด็ก คุณป้าลินโดเป็นทั้งเพื่อนสนิท... และศัตรูตัวฉกาจของแม่ฉัน The Joy Luck Club (1993) | Mom was sick of hearing Auntie Lindo brag about her daughter Waverly, who was Chinatown's chess champion. | แม่เบื่อกับการต้องได้ยินป้าลินโด คุยโม้เรื่องเวฟเวอรี่ลูกสาวของเธอ... ที่ได้เป็นแชมป์หมากรุกของย่านไชน่าเทาน์ The Joy Luck Club (1993) | What are you saying? | คุณป้าพูดอะไรกัน พวกเขายังมีชีวิตอยู่เหรอคะ The Joy Luck Club (1993) | How sad they must've been when you told them Mom died. | พวกเขาจะเศร้าขนาดไหน เมื่อตอนที่พวกป้าบอกเขาว่าแม่เสียแล้ว The Joy Luck Club (1993) | Look, look, look, look, Ma, Ma, Auntie Ying, Auntie Ying. | ดู ดู ดู ดูสิครับ แม่ แม่ คุณป้าหยิง คุณป้าหยิง The Joy Luck Club (1993) | Too skinny! I thought you said I was getting fat. | ฉันนึกว่าป้าบอกว่าฉันเริ่มอ้วนเกินไปแล้ว The Joy Luck Club (1993) | Auntie An Mei said that. Why you always confusing us? | - ป้าอันเมย์ต่างหากที่พูดแบบนั้น ทำไมชอบจำสลับกันจัง The Joy Luck Club (1993) | Her Auntie June is putting her down for a nap. | - คุณป้าจูนของเธอพาไปนอนหลับนะ The Joy Luck Club (1993) | Respect your uncle and your aunties. | เชื่อฟังคุณลุงกับคุณป้าดีๆนะ The Joy Luck Club (1993) | I don't know, baby. It's my mama's story. | ป้าก็ไม่รู้เหมือนจ้ะ มันเป็นนิทานของคุณแม่ของป้า The Joy Luck Club (1993) | Auntie Lindo wrote them. | คุณป้าลินโดเขียนไปบอกพวกเขาแล้วนี่คะ The Joy Luck Club (1993) | My grandmother, my uncle and my aunties, they taught me to hate her. | คุณยาย คุณลุงกับคุณป้าของฉัน พวกเขาสอนให้ฉันเกลียดแม่ The Joy Luck Club (1993) | - It's Auntie June's piece. | - จานนี้ของคุณป้าจูนเขา The Joy Luck Club (1993) | Last Chinese New Year, we had Auntie Lindo's family to dinner. | เมื่อวันตรุษจีนครั้งที่แล้ว เราชวน ครอบครัวของคุณป้าลินโดมาทานอาหารที่บ้าน The Joy Luck Club (1993) | Auntie Lindo, Auntie Ying Ying, | คุณป้าลินโด, คุณป้าหยิงหยิง, The Joy Luck Club (1993) | - Well, she spilled on my hair. - Shhh, shhh, shhh. | ป้าทำหกใส่ผมหนู The Joy Luck Club (1993) | Auntie An Mei, longtime friends of my mother, you are like second mothers to me Truly. | คุณป้าอันเมย์ เพื่อนรักที่ยาวนานของแม่ของฉัน พวกป้าก็เป็นเหมือนกับแม่คนที่สองของฉัน... The Joy Luck Club (1993) | I mean, you gave her back to me by finding my sisters. | ฉันหมายถึง พวกป้าคืนแม่มาให้ฉัน ด้วยการตามหาเหล่าพี่สาวของฉันให้ The Joy Luck Club (1993) | Auntie Lindo? | คุณป้าลินโด The Joy Luck Club (1993) | I have something I must tell you. | ป้ามีอะไรจะต้องบอกเธอ The Joy Luck Club (1993) | One little thing I forget tell you. | เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ป้าลืมบอกไป The Joy Luck Club (1993) | You know I write letter to your sisters telling them how happy you are to find them, how happy you are you go to China to see them... | เธอรู้ว่าป้าเขียนจดหมายไปหาพวกพี่สาวเธอ... บอกว่าเธอดีใจแค่ไหนที่หาพวกเขาเจอ เธอดีใจขนาดไหน ที่จะได้ไปเมืองจีนเพื่อพบพวกเขา... The Joy Luck Club (1993) | Yes, Auntie Lindo, you've already told me this. | ค่ะ ป้าลินโด ป้าก็บอกหนูไปแล้ว The Joy Luck Club (1993) |
| อาหารป่า | [āhān pā] (n, exp) EN: wild food ; jungle food FR: gibier [ m ] ; spécialité culinaire de la forêt [ f ] | อนุรักษ์ป่า | [anurak pā] (n, exp) EN: forestry preservation ; protect forest FR: conservation de la forêt [ f ] | บรรลุเป้าหมาย | [banlu paomāi] (v, exp) EN: achieve ; succeed ; accomplish ; attain ; fulfill FR: réussir ; atteindre un objectif | บ้านป่า | [bānpā] (n) EN: farmhouse | บุกรุกป่า | [bukruk pā] (v, exp) EN: encroach on forests | ฉบับกระเป๋า | [chabap krapao] (n, exp) EN: pocket edition ; pocket book FR: édition de poche [ f ] ; livre de poche [ m ] | ฉบับประจำกระเป๋า | [chabap prajam krapao] (n, exp) EN: pocket edition FR: édition de poche [ f ] | ชายป่า | [chāi pā] (n, exp) EN: edge of forest FR: lisière d'un bois [ f ] | ช้างป่า | [chāng pā] (n, exp) EN: wild elephant FR: éléphant sauvage [ m ] | ชาวป่า | [chāo pā] (n, exp) EN: backwoodsmen ; bushmen ; woodcutters | ชาวป่าชาวดอย | [chāo pā chāo døi] (n, exp) EN: hillfolk ; hill dwellers ; hill people FR: montagnards [ mpl ] | เดินป่า | [doēn pā] (v, exp) EN: roam about the forest ; travel through a forest FR: faire une randonnée en forêt | เดินป้าย | [doēnpāi] (v) EN: deliver a document ; send messages | ดอกไม้ป่า | [døkmāi pā] (n, exp) EN: wild flower FR: fleur sauvage [ f ] | เอื้องกุหลาบกระเป๋าเปิด | [eūang kulāp krapao poēt] (n, exp) EN: Aerides falcata Lindl. | เอื้องกุหลาบป่า | [eūang kulāp pā] (n, exp) EN: Aerides falcata Lindl. | ไฟป่า | [fai pā] (n, exp) EN: forest fire FR: feu de forêt [ m ] | ฮาป่า | [hāpā] (v) EN: boo ; jeer ; heckle FR: conspuer ; huer ; chahuter | เห็ดเป๋าฮื้อ | [het paoheū] (n, exp) EN: Abalone Mushroom | หีบเพลงเป่า | [hīpphlēng pao] (n, exp) EN: harmonica FR: harmonica [ m ] | หิ้วกระเป๋า | [hiu krapao] (v, exp) EN: carry a basket in one's hand FR: porter un sac à la main | หอยเป๋าฮื้อ | [høi pao heū] (n) EN: abalone FR: ormeau (moll.) [ m ] | ห้องรับฝากกระเป๋า | [hǿng rap fāk krapao] (n, exp) EN: left-luggage office FR: consigne [ f ] | หูป่าตาเถื่อน | [hūpātātheūoen] (adj) EN: uninformed | อีเป้า | [īpao] (n) EN: diamond-shaped kite ; female kite FR: cerf-volant à longue queue [ m ] | จำปาป่า | [jampā pā] (n, exp) EN: ? FR: ? | ไก่ป่า | [kai pā] (n, exp) EN: Red Junglefowl FR: Coq bankiva [ m ] ; Coq sauvage [ m ] ; Coq rouge [ m ] | กำนันเป๊าะ | [kamnan pǿ] (n, exp) FR: chef de la mafia [ m ] | การบรรลุเป้าหมาย | [kān banlu paomāi] (n, exp) EN: achievement | การบรรลุเป้าหมายสูงสุดของตนเอง | [kān banlu paomāi sūngsut khøng ton-ēng] (n, exp) EN: self-actualization | การป่าไม้ | [kān pāmāi] (n) EN: forestry | การป่าไม้ในเมือง | [kān pāmāi nai meūang] (n, exp) EN: urban forestry | การป่าวประกาศ | [kān pāoprakāt] (n) FR: annonciation [ f ] (vx) ; annoncement [ m ] (vx) | การรับรองทางป่าไม้ | [kān raprøng thāng pāmāi] (n, exp) EN: forest certification | การถือป้ายประท้วง | [kān theū pāi prathūang] (n, exp) EN: picketing | การทอดผ้าป่า | [kān thøtphāpā] (n) EN: offering robes to Buddhist priests at monastery | การยิงเป้า | [kān ying pao] (n, exp) FR: tir [ m ] ; fusillade [ f ] | กะเปิ๊บกะป๊าบ | [kapoēpkapāp] (adj) EN: rough ; uncouth ; uncultured | กะเปิ๊บกะป๊าบ | [kapoēpkapāp] (adv) EN: in a messy manner ; like a ragamuffin ; like a bum | กัดป่า | [kat pā] (n, exp) EN: striped croaking gourami | ไข้ป่า | [khaipā] (n) EN: malaria ; jungle fever FR: malaria [ f ] ; paludisme [ m ] ; fièvre paludéenne [ f ] | เขตป่า | [khēt pā] (n, exp) EN: forest area ; forest zone FR: domaine forestier [ m ] | เขตป่าสงวน | [khēt pā sa-ngūan] (n, exp) EN: sanctuary FR: réserve foretière [ f ] ; forêt protégée [ f ] | เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ | [Kheūoen Pāsak Chonlasit] (n, prop) EN: Pasak Chonlasit Dam ; Pasak Jolasid Dam | คลำหาลูกกุญแจในกระเป๋า | [khlam hā lūk kunjaē nai krapao] (xp) EN: fumble in one's pocket for the key FR: chercher les clés dans sa poche | คนป่า | [khon pā] (n, exp) EN: savage ; wild man FR: sauvage [ m ] | คนป่า | [khon pā] (n, exp) EN: forest dweller | คนเป่าแตร | [khon pao traē] (n) EN: trumpeter ; trumpet player FR: trompettiste [ m ] | คนป่าเถื่อน | [khon pā theūoen] (n) EN: savage FR: sauvage [ m ] | ขอบป่า | [khøppā] (n) FR: orée [ f ] ; lisière [ f ] |
| burning time | ช่วงเวลาสำหรับเหล่าแม่มดที่โชคร้ายที่ถูกกดขี่ข่มเหงในยุคกลาง ซึ่งเหล่าแม่มดถูกใส่ร้าย ป้ายคำโป้ปดต่างๆ, เหล่าแม่มดถูกจับเผาทั้งเป็นในสก็อตแลนด์และภาคพื้นทวีปยุโรป ส่วนในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา พวกเธอถูกจับแขวนคอ(ทั้งเป็น) | picket sign | (n) ป้ายประท้วง เช่น The strikers carried picket signs prepared by the Unions. | cutout | (n) แผ่นป้าย ที่ตัดจากไม้หรือวัสดุอื่นตัดเป็นชิ้นขนาดใหญ่ มักมีรูปภาพหรือข้อความโฆษณาบนแผ่นป้ายนั้น เช่น Cardboard cutouts, lifesize standups of movie stars at wholesale prices., See also: board |
| accomplishment | (n) การบรรลุเป้าหมาย, See also: ความสำเร็จ, ผลสัมฤทธิ์, ผลสำเร็จ, Syn. completion | aim | (n) ความตั้งใจ, See also: จุดหมาย, จุดประสงค์, วัตถุประสงค์, เป้าหมาย, จุดมุ่งหมาย, Syn. object, plan, purpose | aim | (vt) ตั้งเป้า, See also: มุ่งเป้า | aim | (vi) ตั้งเป้า, See also: เล็งเป้าหมาย, มุ่งเป้า | aim | (n) เป้า, See also: เป้าหมาย, ที่หมาย, Syn. target, point | aimlessly | (adv) อย่างไม่มีจุดหมาย, See also: อย่างไม่มีเป้าหมาย, อย่างเลื่อนลอย | ambition | (n) จุดมุ่งหมาย, See also: เป้าหมาย, Syn. gold, end | apply | (vt) ทา, See also: ไล้, ฉาบ, ป้าย | attain | (vt) บรรลุเป้าหมาย, See also: สำเร็จ, Syn. reach, achieve | billboard | (n) ป้ายหรือกระดานใช้สำหรับโฆษณา, Syn. hoarding | bookplate | (n) ป้ายชื่อในหนังสือ (ระบุผู้เป็นเจ้าของหนังสือ) | bullseye | (n) จุดกลางเป้า, Syn. bull | bull's-eye | (n) ใจกลางเป้า | be at | (phrv) มุ่งหมายที่จะ, See also: ตั้งเป้าเพื่อ, มุ่งมั่นที่จะ, Syn. drive at, get at | bedaub with | (phrv) ทำให้เปื้อนด้วย, See also: ทำให้สกปรกไปด้วย, ป้ายด้วย, Syn. besmear with, smear with | besmear with | (phrv) ทำให้เปื้อนด้วย, See also: ป้ายด้วย, ทำให้สกปรกไปด้วย, Syn. edaub with, smear with | campaign | (n) การรณรงค์, See also: การกระทำการหรือวางแผนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย | care label | (n) ป้ายบอกวิธีการซักที่ติดไว้ที่เสื้อผ้า | clout | (n) เป้าที่ใช้ในการยิงธนู | connect | (vi) บรรลุเป้าหมาย | crotch | (n) เป้ากางเกง | daub up | (phrv) ป้าย, See also: แต้ม | daub with | (phrv) ป้ายด้วย, See also: แต้มด้วย | drift along | (phrv) ไร้เป้าหมาย (ในการดำเนินชีวิต), See also: ล่องลอย | frame up | (phrv) ใส่ความ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ป้ายความผิดให้, ใส่ร้าย | dab | (n) การป้าย, See also: การทาบางๆ, การซับ, การดุนเบาๆ, รอยแต้ม | dab | (vt) ป้าย, See also: ทาเบาๆ, ซับ, ดุนเบาๆ, Syn. tap, pat, daub | dartboard | (n) เป้าสำหรับปาลูกดอก, See also: กระดานสำหรับปาลูกดอก | decoy | (n) สิ่งล่อ, See also: เป้าหลอก, เหยื่อ, นกต่อ, Syn. allurement, bait, enticement, inducement | design | (n) จุดประสงค์, See also: ความตั้งใจ, ความมุ่งมั่น, เป้าหมาย, Syn. object, intention | destination | (n) จุดหมายปลายทาง, See also: หลักชัย, จุดหมาย, เป้าหมาย, ที่หมาย, Syn. final intention, end objective, goal, end, target, mission | doorplate | (n) แผ่นป้ายสำหรับไว้เขียนชื่อใช้ติดบ้านหรืออาคาร | end | (n) เป้าหมาย, See also: วัตถุประสงค์, Syn. aim, object, purpose | escutcheon | (n) ป้ายโลหะบอกชื่อเรือที่ติดอยู่ท้ายเรือ | fair | (adv) ตรงเป้าหมาย | fascia | (n) แผ่นป้ายชื่อร้านที่อยู่เหนือประตูเข้า, Syn. facia | finger post | (n) ป้ายบอกทางที่เป็นรูปนิ้วมือ | fulfillment | (n) การบรรลุเป้าหมาย, See also: ความสมหวัง, ความสมประสงค์, Syn. contentment, gratification, satisfaction | home in on | (phrv) มุ่งไปที่, See also: เล็งไปที่, พุ่งเป้าไปที่, Syn. range in, zero in on | home onto | (phrv) มุ่งไปที่, See also: เล็งไปที่, พุ่งเป้าไปยัง, Syn. range in, zero in on | globefish | (n) ปลาปักเป้า | globefish | (n) ปักเป้า | guide | (n) ป้ายชี้ทาง, See also: สิ่งบอกทาง, เครื่องนำทาง, Syn. sign, pointer | guidepost | (n) ป้ายบอกทาง, See also: สัญลักษณ์บอกทางตามข้างทาง | high profile | (n) การเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน | hoarding2 | (n) แผ่นไม้ปิดประกาศ, See also: กระดาน, ป้ายติดประกาศ, Syn. billboard | hit the bull's-eye | (idm) พุ่งเข้ากลางเป้า | off-centre | (idm) ไม่อยู่กึ่งกลาง, See also: ไม่ตรงเป้า | on target | (idm) ตามเป้าหมาย, See also: ตามที่คาดไว้ | raise one's sights | (idm) ตั้งเป้าหมายไว้สูง |
| aam | abbr. air-to-air missile (ขีปนาวุธจากฐานบนอากาศไปสู่เป้าหมายบนอากาศ) | aim | (เอม) vt., vi., n. เล็ง, เข้าหา, มุ่งหมาย, จุดประสงค์, ความมุ่งหมาย, การเล็งเป้า. -aimer n. -aimful adj -aimless adj. -aimlessness n., Syn. mark, goal, aspiration | ambition | (แอมบิช' เชิน) n. ความทะเยอทะยาน, ความมักใหญ่ใฝ่สูง, ความปรารถนาอันแรงกล้า, เป้าหมายของความปรารถนาดังกล่าว . -vt. ปรารถนา อย่างแรงกล้า. -ambitionless adj., Syn. longing, goal, Ant. aimlessness | asperse | (อัสเพิร์ส') vt. ใส่ร้าย, ป้ายร้าย, พรมน้ำ -asperser n. -aspersive adj. | aspersion | (อัสเพอ'เชิน, -เชิน) n. ข้อกล่าวหา, การใส่ร้าย, การป้ายร้าย, การพรมน้ำมนต์ | assail | (อะเซล') vt. โจมตี, ป้ายร้าย, รุกราน, กล่าวหา, ทำร้าย-assailer, assailment n. | assailant | (อะเซ'เลินทฺ) n. ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย | atom smasher | เครื่องมือไฟฟ้าสถิตหรือแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตอนุภาคที่มีพลังงานสูงแล้วยิงเข้าที่เป้าหนึ่ง (accelerator) | aunt | (อานทฺ) n. ป้า, น้าผู้หญิง, อาผู้หญิง | base | (เบส) n. พื้นฐาน, รากฐาน, หลัก, ที่มั่น, ฐาน, ด่าง, น้ำยารักษาสี, สีฟัน, พื้น, จุดเริ่ม, เป้า (เบสบอล) adj. ต่ำช้า, เลวทราม, ชั่ว, ชั้นต่ำ, วิบัติ (ภาษา), See also: baseness n., Syn. mean, Ant. noble -Conf. basis | bedaub | (บิดอบ') { bedaubed, bedaubing, bedaubs } vt. ป้าย, ทำให้สกปรกด้วย, เปื้อน, ตกแต่งมากเกินไป, Syn. daub | besmirch | (บิสเมิร์ช') { besmirched, besmirching, besmirches } vt. ทำให้เปื้อน, ชโลม, ป้าย, ทำลาย (ชื่อเสียง เกียรติยศ), Syn. corrupt, taint | billboard | (บิล'บอร์ด) n. กระดานป้าย | blank | (แบลงคฺ) { blanked, blanking, blanks } adj. ว่าง, ว่างเปล่า, ปราศจากเรื่องราว, ยังไม่ได้เขียนหรือพิมพ์อะไร, จืดชืด, ไม่น่าสนใจ, โดยสิ้นเชิง, ทั้งสิ้น, ซีด, ไร้สี n. สถานที่ว่างเปล่า, ช่องว่างสำหรับเติม, แบบฟอร์มที่ว่างเปล่า, จุดขาวตรงกลางของเป้า, เป้า, กระสุนเปล่า, เครื่องห | bombsight | n. เครื่องเล็งเป้าการยิงหรือทิ้งระเบิด | bookplate | n. ป้ายชื่อเจ้าของหนังสือหรือห้องสมุดที่ติดกับหนังสือ | bourn | (เบิร์น) n. ลำธารสายเล็ก, ขอบเขต, เป้าหมาย | bourne | (เบิร์น) n. ลำธารสายเล็ก, ขอบเขต, เป้าหมาย | brand | (แบรนดฺ) { branded, branding, brands } n. ตราประทับ, เหล็กตีตรา, ตราไฟนาบ, ชนิด, ตรา, เครื่องหมายผิดกฎหมาย, มลทิน, ยี่ห้อ, เครื่องหมายการค้า, ป้าย, ดาบ vt. ประทับตรา, นาบ, จารึก, ฝัง, ตราตรึง, ใส่ร้าย, ป้ายสี, See also: brander n., Syn. trad | brayer | (เบร'เออะ) n. ลูกกลิ้งเล็ก ๆ สำหรับป้ายหมึก | bull's eye | (บูล'ซอาย) n. ใจกลางเป้า, ขีปนาวุธที่ยิงถูกกลางเป้า., See also: bull's-eyed adj. ดูbull's eye | butt | (บัท) { butted, butting, butts } n. ปลาย, ส่วนปลาย, ส่วนก้น, ตะโพก, บุหรี่, ตอไม้ , คนที่ถูกดูถูก, เป้ายิง, สนามยิงปืน, เป้าหมาย, การเอาหัวชน, ถังขนาด ใหญ่ -v. ประชิดใกล้กับ, พุ่งออกชน, ขวิด -Id. (butt in เสือก, ยุ่ง), Syn. end | calumniate | (คะลัม'นิเอท) { calumniated, calumniating, calumniates } vt. กล่าวร้าย, ให้ร้าย, ป้ายสี, See also: caluminator n. ดูcalumniate, Syn. slander | calumniation | (คะลัมนิเอ'ชัน) n. การกล่าวร้าย, การป้ายสี, Syn. slander | calumnious | (คะลัม'เนียส) adj. ซึ่งกล่าวร้าย, ซึ่งป้ายสี, Syn. calumnitory | calumny | (แคล'ลัมนี) n. การกล่าวร้าย, การป้ายสี, การทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง, Syn. defamation | carton | (คาร์'เทิน) n. กล่องกระดาษ, กระดาษแข็ง, สิ่งที่บรรจุในกล่องกระดาษ, จุดขาวในกลางเป้า, Syn. box -Conf. cartoon | centre | (เซน'เทอะ) n. ศูนย์กลาง, ใจกลาง, จุดสำคัญ, หัวใจ, เป้า -v. รวมศูนย์, อยู่ตรงกลาง, | clay pigeon | n. จานเป้าใชัเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ, คนที่อยู่ในภาวะที่คนอื่นเอาเปรียบได้ | clout | (เคลาทฺ) { clouted, clouting, clouts } n. การตี, การต่อย, การตบ, การตีลูกไกล, อิทธิพลของความคิด, ปาฏิหาริย์, เป้า, ลูกกระสุนที่ถูกเป้า, เศษผ้าปะ, เศษของที่ใช้ซ่อมแซม, เศษผ้า, ผ้าขี้ริ้ว. vt. พันผ้า, ปะ, ซ่อมแซม, ตอกตะปูเสริม, ตี, ต่อย, Syn. blow, wal | cockshy | n. การขว้างอาวุธเข้าเป้า | cousin | (คัซ'เซิน) n. ลูกพี่ลูกน้อง, ญาติห่าง ๆ , บุคคลที่เกี่ยวพันกัน (โดยมีลักษณะธรรมชาติภาษา แหล่งกำเนิด) ที่คล้ายกัน -Conf. (a first cousin ลูกพี่ลูกน้อง (ทางพ่อและแม่)) -Conf. (a second cousin ลูกของลุงป้าน้าอา (ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อแม่)), See also: c | cross hairs | n. เส้นไขว้กล้องสำหรับหมายวัตถุที่ส่องดู, เส้นกากบาทในกล้องปืนเล็งเป้า + <เครื่องหมาย>เป็นรูปลักษณ์ของตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) แบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันออกไปในบางโปรแกรม เช่น ในโปรแกรมการวาดภาพในระบบวินโดว์ มักมีลักษณะเป็นเส้นตัดกัน (+) แทนที่จะเห็นเป็นลูกศรตามปกติ | curling stone | ลูกกลิ้งหินหรือ เหล็กที่มีจับจ้างบน ใช้เล่นโยนไถลบนน้ำแข็งไปที่เป้า | dab | (แดบ) vt.ป้าย, แต้ม, ตบเบา ๆ n. รอยป้าย, รอยแต้ม, จำนวนเล็กน้อย, ผู้ชำนาญ, See also: dabber n. ที่ดุน, สิ่งที่ใช้แตะเบา ๆ | dart | (ดาร์ท) { darted, darting, darts } n. หลาว, ลูกดอก, การพุ่งเข้าไปอย่างฉับพลัน, เกมขว้างลูกดอกเข้าเป้า, เหล็กต่อยของแมลง v. พุ่งเข้าอย่างฉับพลัน, โผ, โถม, ขว้าง, See also: dartingly adv. ดูdart dartingness n. ดูdart, Syn. spurt | dartboard | (ดาร์ท'บอด) n. กระดานเป้าลูกดอกในเกมขว้างลูกดอกเข้าเป้า, กระดานปาเป้า | daub | (ดอบ) { daubed, daubing, daubs } v., n. (การ) แต้ม, ทำเปรอะ, ทำเปื้อน, ทำอย่างไม่ชำนาญ, สิ่งที่ใช้ทาหรือป้าย ดูdaub, See also: daubingly adv. ดูdaub dauby adj. ดูdaub, Syn. smear | decoy | (ดิคอย') { decoyed, decoying, decoys } n. นกต่อ, สิ่งล่อ, ผู้ล่อลวง, เป้าหลอก, สิ่งที่สามารถสะท้อนคลื่นเรดาร์. vt. ล่อด้วยนกต่อ vi. กลายเป็นนกต่อ, Syn. lure | defame | (ดิเฟม') vt. ทำลายชื่อเสียง, ใส่ร้ายป้ายสี., See also: defamation n. ดูdefame defamatory adj. ดูdefame | denigrate | (เดน'นิเกรท) vt. ใส่ร้าย, ป้ายสี, ทำให้เสียชื่อเสียง, ทำให้ดำ, See also: denigration n. ดูdenigrate denigrator n. ดูdenigrate | directory | (ดิเรค'ทะรี) n. หนังสือรวบรวมชื่อและที่อยู่ของบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ , แผ่นป้ายแสดงชื่อหน่วยงานและชั้นที่อยู่ของอาคารธุรกิจหลังใหญ่, คณะกรรมการ. adj. เกี่ยวกับการชี้ทาง, เกี่ยวกับการแนะแนว, Syn. list สารบบหมายถึง การแบ่งจานบันทึก โดยเฉพาะจานบันทึกที่มีความจุมาก ๆ ที่สามารถบรรจุแฟ้มข้อมูลได้หลายร้อยแฟ้ม ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อใช้เก็บแฟ้มข้อมูลเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อสะดวกในการค้นหา จานบันทึกทุก ๆ จานจะมีสารบบอย่างน้อยหนึ่งสารบบ เป็นสารบบเริ่มต้นเรียกว่า " สารบบราก " root directory เราอาจใช้คำสั่งสร้างสารบบ หรือสารบบย่อยเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เก็บแฟ้มประเภทเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันเอาไว้ด้วยกัน ก็ได้ การเก็บแฟ้มข้อมูลด้วยวิธีนี้ทำให้หาง่ายขึ้น | doorplate | (ดอร์'เพลท) n. ป้ายเลขที่บ้าน | downplay | vt. สบประมาท, ดูหมิ่น, ป้ายร้าย, Syn. play down, make little of | electuary | n. ยาป้ายลิ้นผสมน้ำตาล | file identification | สัญลักษณ์แสดงชื่อแฟ้มหมายถึงป้ายหรือที่ ๆ จะทำเครื่องหมายบ่งบอกว่า แฟ้มข้อมูลนั้นชื่ออะไรเก็บไว้ในสื่อชนิดใด เช่น แฟ้มข้อมูลชื่อ CHULA เก็บไว้ในสื่อที่เป็นแถบบันทึกมีจำนวนทั้งสิ้นสี่ม้วน เป็นต้นมีความหมายเหมือน file label | file label | ป้ายแสดงชื่อแฟ้มหมายถึง ป้ายหรือที่ที่จะทำเครื่องหมายบ่งบอกว่า แฟ้มข้อมูลนั้นชื่ออะไร เก็บไว้ในสื่อชนิดใด เช่น แฟ้มข้อมูลชื่อ CHULA เก็บไว้ในสื่อที่เป็นแถบบันทึกมีจำนวนทั้งสิ้นสี่ม้วน เป็นต้นมีความหมายเหมือน file identification | finger post | n. ป้ายชี้ทางที่มีเครื่องหมายชี้เป็นนิ้วมือ | first cousin | n. ลูกของลุงหรือป้า. | fix | (ฟิคซฺ) { fixed, fixing, fixes } vt. ทำให้แน่น, ติด, ติดแน่น, กำหนดแน่นอน, เพ่งมอง, เพ่งความสนใจ, ป้ายความผิด, ซ่อมแซม, จัดให้เรียบร้อย, จัดให้เป็นระเบียบ, เตรียมอาหาร, แก้แค้น, ลงโทษ, จัดการ, เปลี่ยนไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบที่มีประโยชน์ (เช่นปุ๋ย) , ทำให้ภาพเกาะแน่นโด |
| asperse | (vt) กล่าวหา, ใส่ร้ายป้ายสี, แพร่ข่าวเท็จ | assailant | (n) ผู้ทำร้าย, ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย | aunt | (n) ป้า, น้าผู้หญิง, อาผู้หญิง | besmirch | (vt) ทา, ป้าย, ชโลม | blacken | (vi, vt) กลายเป็นสีดำ, ใส่ร้ายป้ายสี | bourn | (n) ลำธารเล็กๆ, ขอบข่ายงาน, วัตถุประสงค์, จุดหมาย, เป้าหมาย | bourne | (n) ลำธารเล็กๆ, ขอบข่ายงาน, วัตถุประสงค์, จุดหมาย, เป้าหมาย | brand | (n) เหล็กไฟ, ตรา, ยี่ห้อ, เครื่องหมายการค้า, ป้าย, ชนิด, ดาบ | butt | (n) ด้าม, ก้นบุหรี่, ตอไม้, เป้า, ไหสุรา, ถังเหล้า | center | (n) ศูนย์กลาง, ใจกลาง, เป้า, หัวใจ, จุดสำคัญ | centre | (n) ศูนย์กลาง, ใจกลาง, เป้า, หัวใจ, จุดสำคัญ | dab | (n) รอยแต้ม, รอยป้าย, การตบเบาๆ | dab | (vt) ตบเบาๆ, แตะเบาๆ, ป้าย, แต้ม, ซับ | decoy | (n) สิ่งล่อ, นกต่อ, เหยื่อ, เป้าหลอก, ผู้ล่อลวง | defame | (vt) ใส่ร้ายป้ายสี, ทำให้เสียชื่อเสียง, หมิ่นประมาท, สบประมาท | destination | (n) จุดหมายปลายทาง, จุดมุ่งหมาย, เป้าหมาย | destine | (vt) วางจุดหมาย, กำหนดเป้าหมาย, เป็นเคราะห์กรรม | flag | (n) ธง, ป้ายชื่อ | goal | (n) จุดหมายปลายทาง, หลักชัย, ประตูฟุตบอล, เป้าหมาย | guidepost | (n) ป้ายบอกทาง | incriminate | (vt) ใส่ความ, ปรักปรำ, ใส่ร้ายป้ายสี | label | (n) ป้าย, สัญลักษณ์, เครื่องหมาย, ฉลาก, ฉายา, คำนิยาม | label | (vt) ปิดฉลาก, ติดป้าย, ติดฉลาก | limelight | (n) ไฟฉายตัวละครให้เห็นชัด, เป้าสายตา, จุดสนใจ | malaria | (n) ไข้จับสั่น, ไข้มาลาเรีย, ไข้ป่า, ไข้ป้าง | meaning | (n) ความหมาย, นัย, คำแปล, เป้าหมาย, ความสำคัญ | motive | (n) สาเหตุ, ใจความสำคัญ, เหตุผล, แรงดลใจ, เป้าหมาย, เจตนา | object | (n) วัตถุ, สิ่งของ, กรรม, วัตถุประสงค์, เป้าหมาย | objective | (n) วัตถุประสงค์, จุดมุ่งหมาย, เป้าหมาย, ที่หมาย | obtuse | (adj) ป้าน(มุม), โง่, ทื่อ, ทู่, ทึ่ม | placard | (n) ใบปลิว, ใบประกาศ, ป้ายประกาศ | plate | (n) จาน, แผ่นพิมพ์, ป้ายชื่อ, โล่รางวัล | poster | (n) ป้ายประกาศ, ใบโฆษณา, ป้ายโฆษณา, ประกาศแจ้งความ, ภาพโปสเตอร์ | purpose | (n) จุดประสงค์, ความประสงค์, เจตนา, ผลประโยชน์, เป้าหมาย | purposely | (adv) โดยเจตนา, โดยมีจุดมุ่งหมาย, โดยมีเป้าหมาย | quarry | (n) เหมืองหิน, เป้าหมาย, เหยื่อ | sake | (n) ประโยชน์, เหตุ, เป้าหมาย, ความเห็นแก่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง | scoreboard | (n) กระดานคะแนน, ป้ายบอกคะแนน | shingle | (n) กรวด, ไม้บาง, ป้ายเล็กๆ | signboard | (n) แผ่นป้ายโฆษณา, ป้ายประกาศ | signpost | (n) เสาป้ายบอกทาง | slander | (vt) หมิ่นประมาท, ใส่ร้าย, ใส่ร้ายป้ายสี | smear | (n) รอยเปื้อน, รอยป้าย, รอยเลอะ, มลทิน | smear | (vt) ละเลง, ทา, ป้าย, ทำให้เปื้อน, ทำเลอะ | staff | (n) คณะคนงาน, ไม้ถือ, ไม้เท้า, เสาธง, คทา, ป้ายบอกทาง | suffuse | (vt) กระจาย, แผ่, ระบาย, ป้าย | suffusion | (n) การกระจาย, การแผ่, การระบาย, การป้าย | tab | (n) แผ่นเหล็ก, ป้าย, เศษผ้า, เศษกระดาษ, ปุ่ม, แถบ, ชาย | tablet | (n) แผ่นจารึก, ยาเม็ด, ป้าย, สมุดฉีก, สมุดแฟ้ม, สมุดบันทึก | tag | (n) แผ่นกระดาษ, ป้ายติดของ, การเล่นเอาเถิด |
| biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | biosecurity | ความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ | boxing pads | (n) เป้าล่อมวยสั้น | double park | (vi) จอดรถซ้อนคัน เช่น ป้ายเขียว่า "No double parking" ห้ามจอดรถซ้อนคัน | Home altar | (n) ป้ายชื่อบรรพบุรุษ | sign-writing | การเขียนป้าย | subject | (n) เป้าหมาย |
| 対象 | [たいしょう, taishou] (n) หัวข้อ, เป้าหมาย | 射程 | [しゃてい, shatei] (n) ระยะเป้ายิง | 方針 | [ほうしん, houshin] (n) นโยบาย, เป้าหมาย, Syn. 指針 | 目標 | [もくひょう, mokuhyou] (n) เป้าหมาย | 鈍角 | [どんかく, donkaku] (n) มุมป้าน |
| 目安 | [めやく, meyaku] (n) เป้าหมาย, จุดมุ่งหมาย | ป้า | [めやく] (n) ป้า | エフ | [えふ, efu] (n) ป้ายที่ใช้ติดกับชิ้นงานที่มีปัญหาทางด้านคุณภาพ | 立て札 | [たてふだ, tatefuda] (n) ป้ายประกาศ | 火気 | [かき, kaki] 1. ไฟ (ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้) 2. ความอุ่นจากไฟ 3. ประกายไฟ (ในป้ายเตือน) | 進行方向 | [しんこうほうこう, shinkouhoukou] เป้าหมายที่จะก้าวไป จุดหมายที่เราจะก้าวไป ทิศทางที่จะต้องเดินหน้าไป | 用 | [you, you] เป้าหมาย |
| 掲示板 | [けいじばん, keijiban] TH: ป้ายติดประกาศ EN: bulletin board | 目指す | [めざす, mezasu] TH: ตั้งเป้าไว้ | 旅先 | [たびさき, tabisaki] TH: เป้าหมายหรือแหล่งที่ตั้งใจจะไปท่องเที่ยว EN: destination | 対象 | [たいしょう, taishou] TH: กลุ่มเป้าหมาย EN: target | 的中 | [てきちゅう, tekichuu] TH: เข้าเป้า EN: strike home (vs) |
| Ziel | (n) |das, pl. Ziele| เป้าหมาย | halten | (vi) |hält, hielt, hat gehalten| หยุด เช่น Die Buslinie 40 hält nicht an diese Haltestelle. รถเมล์สายที่ 40 ไม่หยุดที่ป้ายนี้, Syn. stoppen | Kennzeichen | (n) |das| ป้ายทะเบียน(รถ), See also: Fahrzeugkennzeichen | Tante | (n) |die, pl. Tanten| ป้า | Haltestelle | (n) |die, pl. Haltestellen| ป้ายรถประจำทาง, See also: die Station | Preisschild | (n) |das, pl. Preisschilder| ป้ายราคา, ป้ายบอกราคา | Plakat | (n) |das, pl. Plakate| ใบประกาศ, ป้ายโฆษณา, ป้ายประกาศ, โปสเตอร์ | Aufwand | (n) |der, nur Sg.| ทุกอย่างที่ถูกนำมาใช้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือแผนงาน, See also: aufwenden | Nummernschild | (n) |der, pl. Nummernschilder| ป้ายหมายเลขรถยนต์, ป้ายทะเบียนรถยนต์ | erzielen | (vt) |erzielte, hat erzielt, etw.(A)| บรรลุเป้าหมาย, ประสบผลสำเร็จ, ไปถึง เช่น Mit dieser Methode erzielen Sie Fortschritte rasch. ด้วยวิธีนี้ คุณจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว, See also: erreichen, Syn. erfüllen | zu | (prep) |+ D| ไปสู่, ยังที่, ไปยัง (ใช้บอกเป้าหมายของการเดินทางหรือการเคลื่อนที่) เช่น zur Post gehen, zur Arbeit fahren, zu einem Konzert | Namenschild | (n) |das, pl. Namenschilder| ป้ายชื่อ, ป้ายประจำตัว, Syn. Ausweis |
| fin, -s | (n) la, = ตอนจบ, ตอนสุดท้าย , (but)จุดมุ่งหมาย, ความตั้งใจ, เป้าหมาย เช่น à la fin mai = ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม , sans fin = ไม่มีที่สิ้นสุด, ไม่จบสิ้น, Ant. début, commencement |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |